ขอเชิญภิกษุสามเณรผู้มีศีลทุกท่าน รับปัจจัย 4 ฟรีเดือนละ 2,000 บาท/รูป พระปาฏิโมกข์รับปักษ์ละ 1,000

โครงการสงเคราะห์ภิกษุสามเณรผู้มีศีลทั่วสังฆมณฑลด้วยปัจจัย 4​

(ประกาศ 12/11/2561 ขณะนี้งดรับสมาชิกใหม่เป็นการชั่วคราว)​

กองทุนนี้เป็นส่วนขยายของโครงการถวายยารักษาโรค/ค่ารักษาพยาบาลแก่ภิกษุสามเณรอาพาธ ​

จุดประสงค์การจัดตั้งกองทุนฯ​

เพื่อให้ความสงเคราะห์ช่วยเหลือบรรดาภิกษุสามเณร ผู้ศีลาจารวัตร เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่ให้ต้องลำบากขัดสนในการดำรงชีวิต ตัดความวุ่นวายใจของพวกท่านในการต้องไปตีสนิทคลุกคลีกับญาติโยม เพื่อหวังความช่วยเหลือ ตัดความวุ่นวายใจในการคิดเรื่องการรับกิจนิมนต์ เพื่อรวมรวบปัจจัยไว้ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็น

ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเจริญสมณธรรมไม่ให้ก้าวหน้าทั้งสิ้น นอกจากนี้ท่านทั้งหลายไม่จำเป็นต้องรบกวนโยมบิดามารดาของท่านผู้ซึ่งลำบากเพื่อท่านมาทั้งชีวิตแล้ว

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อหวังให้ท่านทำให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ยังพรหมจรรย์ให้จบโดยเร็วพลัน

โดยกองทุนฯจะให้ความสงเคราะห์แก่ภิกษุสามเณรผู้มีศีลงดงามทุกรูป ความช่วยเหลือจะครอบคลุมในปัจจัย 4 ได้แก่ ค่าภัตตาหาร ค่ายารักษาโรค/ค่ารักษาพยาบาล ค่าจีวรเครื่องนุ่งห่ม ค่าที่อยู่อาศัย ค่ายานพาหนะ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าตั๋วรถ ค่าทำพาสปอร์ต ค่าแท็กซี่ ค่าข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงสมณเพศทุกชนิด เดือนละ 2,000 บาท ต่อรูป

นอกจากนี้กองทุนจะถวายปัจจัยแก่ภิกษุองค์สวดปาฏิโมกข์ 1,000 บาท ในทุกปักษ์ที่ขึ้นสวด

คุณสมบัติของภิกษุสามเณรผู้มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ (ต้องมีครบทุกข้อ)​

1.เป็นภิกษุสามเณรผู้ประกอบด้วยลัชชีธรรม เป็นผู้มีหิริโอตตัปปะ คือความละอายต่อบาป และความเกรงกลัวต่อผลของบาป

2.เป็นผู้ไม่มีที่ลับและที่แจ้งในการทำบาปผิดพุทธบัญญัติ

3.รักษาสิกขาบทได้บริสุทธิ์ตามฐานะของตน ภิกษุรักษา 227 สิกขาบท และอภิสมาจาร สามเณรรักษา 10 สิกขาบท และเสขิยวัตรอีก 75 สิกขาบท**

**ท่านที่รักษาสิกขาบทได้เคร่งครัดตามแนวคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุง ถือว่ามีคุณสมบัติตามข้อ 3

4. เป็นปกตัตตะภิกษุ ไม่เป็นอุกขิตตโก คือ ถูกสงฆ์ยกออกจากสมโภค ห้ามร่วมกินร่วมอยู่

5. ไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส หรืออยู่ระหว่างประพฤติวุฏฐานวิธี(ยังไม่ได้สวดอัพภาน เพื่อออกจากอาบัติสังฆาทิเสส)

6. เคารพต่อกฎ มส. และมติ มส.

7. จะรับเงินทองเองก็ดี หรือใช้ให้ผู้อื่นรับก็ดีซึ่งเงินทองเพื่อตนไม่สำคัญ สำคัญที่ต้องไม่คิดว่าเงินทองนั้นเป็นสมบัติส่วนตัว แต่พึงคิดว่าเป็นสมบัติของพระศาสนา จะพึงใช้ให้เหมาะสมกับสมณสารูปเท่านั้น ส่วนเกินต้องผลักเข้ากองบุญกองกุศล**/***

**วิธีตรวจสอบ ให้ลองคิดว่าท่านลาสิกขาแล้ว และถ้าท่านมีความเห็นว่าท่านยังมีสิทธิ์ในการใช้จ่ายเงินทองส่วนนี้อยู่ ไม่จำเป็นต้องคืนให้สงฆ์ แสดงว่าท่านเป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามข้อนี้
*** ยกเว้นแต่ทรัพย์มรดก

8.ไม่เป็นนักบวชที่ประกอบไปด้วยคุณลักษณะไม่พึงประสงค์ 4 ประการ (ข้อใดข้อหนึ่งหรือมากกว่า) ได้แก่

8.1 อุปชีวิกา

บวชมาเพื่ออาศัยพระพุทธศาสนา มาเลี้ยงชีวิต เล็งเห็นว่า ตนเองที่เป็นคฤหัสถ์นั้น ไม่มีปัญญาคิดทำมาหากิน เกียจคร้าน สึกออกไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไร ความเป็นอยู่ย่อมลำบาก แล้วก็เห็นว่า พระนี้สบาย เช้าขึ้นมาออกบิณฑบาต กลับมาได้ฉัน เสร็จแล้วก็นอนเฉย ๆ ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรทั้งสิ้น อาหารการกินก็ดี ๆ ทั้งนั้น ก็เลยคิดอยากจะบวชเข้ามา เพื่ออาศัยพระศาสนาเลี้ยงชีวิต

8.2 อุปกีฬิกา

บวชมาเพื่อหาของเล่น เพลิดเพลินไปวันๆหนึ่ง วันๆมัวเมาอยู่กับการเล่นเกม เล่นหมากฮอส หมากรุก ดูมวย ดูฟุตบอล ดูทีวี ดูหนังดูละคร ฟังเพลง ละทางโลกมาแล้ว แต่มัวติดใจอยู่แต่ดูข่าวสารบ้านเมือง เล่นอินเตอร์เนต**

**ยกเว้นใช้งานเพื่อการศึกษาในพระศาสนา หรือใช้ในสิ่งอื่นๆที่จำเป็นต่อการดำรงสมณเพศ

8.3 อุปทูสิกา

บวชมาเพื่อทำชั่วเสียหาย คือ บวชเข้ามาแล้วก็แสวงหาญาติโยม ประจบชาวบ้าน เอาอกเอาใจชาวบ้าน ยอมตนให้ชาวบ้านใช้งาน เป็นผู้ประทุษร้ายสกุล เลี้ยงชีพโดยไม่ชอบธรรม เล่นหวย เล่นลอตเตอรี่ เล่นการพนัน ประทุษร้ายเบียดเบียนตน เบียดเบียนวัด ทำให้พระศาสนาเสื่อมเสีย

8.4 อุปมุยหิกา

ผู้ที่บวชโดยหลงงมงาย สักแต่ว่าบวชตามเขาไป ไม่มีความศรัทธาที่จะบวชโดยแท้จริง ไม่รู้ว่าบวชไปทำไม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของตนเองก็หารู้จักไม่ มัวเมาไปเอากิเลสตัณหา และโลกธรรม 8 เข้ามาเป็นที่พึ่งแทน

9. ต้องบวชเข้ามาเป็นเถร แปลว่าผู้มั่นคง มาจากคำว่า ถิร หมายถึง ผู้มั่นคงในคุณธรรม ไม่มีลักษณะของความเป็นเถน (หัวขโมย ) 3 ประการ (ข้อใดข้อหนึ่งหรือมากกว่า) ได้แก่

9.1 ไหลเถน บวชเข้ามาแล้วประพฤติตนเหลวไหล

9.2 งมเถน บวชเข้ามาแล้วประพฤติตนงมงาย ไม่รู้จักสำเหนียกว่าผิดหรือถูก

9.3 ระยำเถน บวชเข้ามาแล้วประพฤติชั่วย่ำยีสิกขาบทตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงใหญ่

10. ต้องเป็นอุปนิสสรณิกา คือบวชมาเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น แต่จะหลุดพ้นช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับบารมีธรรมที่สั่งสมมา โดยจะเป็นสาวกภูมิหรือพุทธภูมิก็ได้

11. ไม่ฉันวิกาลโภชน์ โดยตีความพระวินัยเข้าข้างกิเลสตัณหาตนเอง อ้างว่าพระวัดนี้ก็ฉันได้ ครูบาอาจารย์องค์นี้ก็พาฉัน ได้แก่ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง สาหร่ายทะเล รังนก น้ำมะพร้าว เยลลี่ เครื่องดื่มผสมหัวบุก เมล็ดทานตะวัน มะขามแก้ว เป็นต้น

12. ไม่เป็นผู้ศึกษาพระวินัยแบบอลคัททูปมปริยัติ ปริยัติเปรียบด้วยอสรพิษ คือ เรียนพระวินัยเพื่อการโต้เถียง เที่ยวโจมตีสำนักโน่นสำนักนี้ เหมือนการจับงูพิษข้างหาง

13. สังกัดมหานิกายหรือธรรมยุติกนิกาย

14. มีหนังสือสุทธิถูกต้อง

ข้อแนะนำเรื่องคุณสมบัติ
​

การล่วงละเมิดสิกขาบทบ้างด้วยความพลั้งเผลอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอภิสมาจารนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา ให้ท่านตั้งใจรวมรวมกำลังใจขึ้นมาใหม่ว่าท่านจะไม่คิดแบบนี้อีก ไม่พูดแบบนี้อีก ไม่ทำแบบนี้อีก

สำหรับท่านภิกษุสามเณรที่ขาดคุณสมบัติบางข้อ หรือไม่แน่ใจในคุณสมบัติของตนเอง แต่มีความประสงค์อยากเข้าร่วมโครงการ ขอให้ท่านตั้งใจปฏิญาณตนว่าจะประพฤติตนให้ได้ตามคุณสมบัติตั้งแต่บัดนี้ไป

วิธีสมัครเข้าร่วมโครงการสำหรับท่านที่มีคุณสมบัติครบถ้วน (ครั้งเดียว)​

1. ส่งคำขอสมัครถึงประธานโครงการผ่านทางข้อความส่วนตัว/อีเมล์/ไลน์ แจ้งชื่อ-สกุล ฉายา อายุ พรรษา วัดที่พำนัก เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เลขที่บัญชีธนาคาร

2. แนบรูปถ่ายหนังสือสุทธิ (ชัดเจน) ทุกหน้าตั้งแต่ปกหน้าถึงปกหลัง

3. รอการอนุมัติจากประธานโครงการ

วิธีขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ สำหรับสมาชิก
​

1. ส่งคำร้องถึงประธานโครงการ แจ้งรายละเอียดว่าท่านต้องการได้รับความช่วยเหลือในด้านใด

หมวดค่าโดยสาร
​

(เช่น ต้องการตั๋วเครื่องบิน กทม.-เชียงใหม่ เพื่อออกวิเวกเปลี่ยนบรรยากาศ
สายการบินบางกอกแอร์ วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 10 นาฬิกา)

หรือ
(ต้องการเดินทางจากวัด...ไปเยี่ยมญาติที่อำเภอ... จังหวัด.... ในวันที่..........เวลา..... ได้ติดต่อเหมารถไว้แล้ว เจ้าของคิดราคา 1,500 บาท ขอให้กองทุนฯ ช่วยชำระให้)

หมวดค่าสวดปาฏิโมกข์
​

( เช่น ปักษ์ที่ 1 เหมันตฤดู 2561ได้ขึ้นเป็นองค์สวดพระปาฏิโมกข์ ที่วัดบวรฯ มีพระเข้าประชุมฟัง 50 รูป ขอรับเป็นเงินสด โดยโอนเงินเข้าบัญชี ไวยาวัจกร เลขที่ บัญชี....)

หมวดค่าอาหาร
​

(เช่น โรงครัวของวัดกานกร้อง ขาดข้าวสาร ขอข้าวหอมมะลิหงส์ทอง 30 กิโลกรัม )

หรือ
(อยากฉันพิซซ่า ขอให้กองทุนช่วยชำระค่าพิซซ่า จากร้านเดอะพิซซ่า หน้าต้มยำกุ้ง ขอบชีสถาดกลาง ส่งที่วัดเลียบ ภายใน 11.00 น. มะรืนนี้)

หมวดจีวรและบริขาร
​

(เช่น ได้สั่งซื้อฝาบาตรไม้มะค่าจากร้านบริขารธุดงค์หน้าวัด...... ราคา 3,000 บาท จะขอให้กองทุนชำระให้ 2,000 บาท และจะชำระเองในส่วนที่เหลือ)

หรือ
(ขอให้กองทุนช่วยชำระค่าจีวรผ้ามัสลิน สีราชนิยม ขนาด 2.1เมตร ราคา 1,500 บาท สั่งซื้อจากร้าน.......)

หมวดเครื่องใช้
​

(เช่น บัตรเติมเงินทรูมูฟ 500 บาท เติมเข้าเบอร์ 0894664xxx)
หรือ
( ไฟฉายแรงสูง Fenix ราคา 1,800 บาท )

หมวดเสนาสนะ
​

(เช่น จะทำการต่อเติมเสนาสนะที่วัด...... โดยจะเทปูนรอบๆกุฏิ ขอให้โครงการช่วยชำระค่าปูนซีเมนต์ เป็นเงิน 2,000 บาท)

หรือ
(จะเปลี่ยนคอห่านเป็นแบบชักโครก รวมค่าติดตั้ง 4,000 บาท ขอให้กองทุนช่วยชำระให้ 2,000 บาท จะจ่ายเองส่วนที่เหลือ)

2. รอการอนุมัติ ถ้าคำขอสมเหตุสมผล ไม่ขัดต่อหลักพระธรรมวินัย และมีมูลค่าไม่เกินที่กำหนด จะได้รับการอนุมัติในเวลาอันสั้น

ที่มาแห่งทุนทรัพย์

กองทุนฯนี้ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวของประธานโครงการและญาติธรรมที่ต้องการสนับสนุนกองทุนฯ ​

โดยไม่เปิดให้มีการเรี่ยไรเป็นการสาธารณะ เพราะขัดต่อ พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 และการขออนุญาตเรี่ยไรทำได้เฉพาะกรณีที่ผู้ขอเป็นนิติบุคคลเท่านั้น​

บทลงโทษสมาชิก
​

1. สมาชิกผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส จะถูกตัดยอดเงินทั้งหมด และถูกระงับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ เป็นระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่สวดอัพภานแล้ว

2. สมาชิกผู้หมดความเพียรในการประพฤติตนตามคุณสมบัติ(หันไปประพฤติตนเป็นอลัชชี) จะถูกระงับความช่วยเหลือชั่วคราว

3. สมาชิกที่เป็นสามเณรและถูกให้นาสนะ จะถูกยกเลิกความช่วยเหลือทั้งหมด

ข้อควรระวัง
​

1.ภิกษุผู้ขาดคุณสมบัติแล้วจงใจสมัครเข้าโครงการ จะต้องทุติยปาราชิกในทันทีที่การสมัครได้รับการอนุมัติและได้เครดิตเงินสด 2,000 บาท สำหรับการใช้จ่าย

2.สมาชิกผู้ละเมิดคุณสมบัติและได้รับบทลงโทษ แล้วจงใจปิดบังความเป็นจริง ขอใช้บริการจากกองทุนฯโดยไม่แจ้งให้ประธานโครงการทราบ จะต้องทุติยปาราชิกในทันทีที่ได้รับการอนุมัติ

3.ภิกษุสามเณรผู้ขาดคุณสมบัติ/สมาชิกที่ภายหลังตนขาดคุณสมบัติ แต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เผลอเรอ ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ จะติดหนี้สงฆ์ตามจำนวนที่ท่านได้รับไป

แผนงานโครงการในอนาคต
​

1.ประชาสัมพันธ์โครงการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

2.เพิ่มงบต่อหัวให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปบูชาสังเวชนียสถาน 4 ตำบล รวมไปถึงเครื่องใช้ที่มีราคาแพง เช่น การปรับปรุงห้องน้ำ ปูกระเบื้องใหม่ เป็นต้น

3.พัฒนาเว็บไซต์ของโครงการและมีระบบการจัดการสมาชิก

ระยะเวลาดำเนินการโครงการ​

28 กันยายน 2561 เป็นต้นไป จนกว่าจะหมดทุนทรัพย์​

ประธานโครงการ

Jt Odyssey3​

ท่านสามารถติดต่อสอบถาม/ส่งข้อเสนอแนะ
ถึงประธานโครงการได้ที่​

ข้อความส่วนตัว Jt Odyssey3
อีเมล์ jedsadaphol@gmail.com
ไลน์ไอดี jedsadaphol​

หมายเหตุ
​

1.ไม่สามารถสะสมยอดเงินข้ามเดือนได้

2.รับเป็นเงินสดได้เฉพาะค่าสวดปาฏิโมกข์เท่านั้น

3. ท่านผู้ประสงค์จะรับถวายค่าสวดปาฏิโมกข์ ในครั้งแรก ต้องส่งไฟล์เสียง/ไฟล์วีดีโอซ้อมสวดปาฏิโมกข์ ที่ถูกต้องตามอักขระฐานกรณ์ เวลาประมาณ 40-55 นาที (ห้ามปั่น) โดยก่อนสวดให้แจ้ง ชื่อ ฉายา วันและเวลาที่ทำการซ้อมสวดด้วย เพื่อรอการอนุมัติจากประธานโครงการ

4.ในกรณีที่กองทุนฯหมดทุนทรัพย์ จะระงับความช่วยเหลือสมาชิกชั่วคราว เมื่อได้ทุนทรัพย์เพิ่ม ท่านจะสามารถได้รับความช่วยเหลือต่อเนื่องทันที

5.การตัดสินใจอนุมัติให้ถือเป็นดุลยนิพิจของประธานโครงการ

6.โครงการอาจเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

7.เงินทุกบาทของกองทุนฯถวายอุทิศให้สงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั่วทั้งสังฆมณฑล มิใช่การอุทิศให้ผู้หนึ่งผู้ใด จึงถือเป็นสังฆทานโดยสมบูรณ์

 

กราบเรียน/เรียน ภิกษุสามเณรผู้ทรงศีลทุกท่านทราบ

แผนต่อยอดโครงการ

กระผมมีความตั้งใจที่จะขยายขอบเขตของโครงการนี้ ให้ครอบคลุมปัจจัย ทั้ง 4 หมวด ได้แก่ ภัตตาหาร คิลานเภสัช จีวรเครื่องนุ่งห่ม เสนาสนะที่อยู่อาศัย ค่าโดยสารยวดยานพาหนะต่างๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการไปกราบไหว้บูชาสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ตลอดการเดินทาง

จะมีการจัดตั้งเว็บไซต์เพื่อเปิดให้ลงทะเบียน มีการมอบเครดิตให้สมาชิกบริหารจัดการด้วยตัวเอง สามารถใช้แลกเปลี่ยนกับปัจจัย 4 ที่ต้องการแทนการใช้เงินสด

และให้มีการเพิ่มงบช่วยเหลือต่อหัวให้มากพอต่อการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เพื่ออุปภัมภ์ความเป็นอยู่ของพวกท่าน ด้วยหวังว่าพวกท่านจะสามารถปฏิบัติให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้โดยเร็ว

ซึ่งจะมีโอกาสต่อยอดได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์ของโครงการในอนาคต​

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ
การเลือกให้ทานพระสุคตเจ้าทรงสรรเสริญ​

 

กราบเรียน/เรียน ภิกษุสามเณรผู้ทรงศีลทุกท่านทราบ

ปฐมเหตุแห่งการจัดตั้งและขยายขอบเขตโครงการ

กระผมมีโอกาสได้รับทราบเรื่องราวของภิกษุผู้มีศีล ตั้งใจอุปสมบทเข้ามาเพื่อแสวงหาความหลุดพ้นรูปหนึ่ง ท่านประสบเคราะห์กรรมอาพาธด้วยโรคภัยหลายโรค ต้องประสบทุกขเวทนาทางกายเป็นอันมาก

ความเป็นอยู่ของท่านนั้นค่อนข้างลำบาก เมื่ออาพาธจนไม่สามารถออกภิกขาจารได้ ท่านก็จำเป็นต้องสั่งซื้อภัตตาหารมาเพื่อฉัน ยังอัตภาพให้เป็นไป

และท่านยังจำเป็นต้องรวบรวมทุนทรัพย์เพื่อสร้างเสนาสนะที่อยู่อาศัยด้วยตนเอง

ท่ามกลางสายตาของผู้พบเห็นมากมายทั้งเพื่อนภิกษุด้วยกันและบรรดาอุบาสกอุบาสิกาที่ได้รับทราบเรื่องราวของท่าน

มีน้อยรายเหลือเกินที่ยินดีให้ความช่วยเหลือ ท่านต้องดิ้นรนเอาด้วยตนเองทั้งนั้น

มาถึงตรงจุดนี้กระผมเองรู้สึกสังเวชใจ ไม่นึกเลยว่าภิกษุผู้มีศีล ประพฤติธรรม ไม่ว่างเว้นจากการเจริญกรรมฐาน เป็นเนื้อนาบุญผืนหนึ่งของโลก ต้องดำรงอัตภาพด้วยความลำบากเช่นนี้


กระผมจึงได้ตั้งใจที่จะก่อตั้งกองทุนช่วยเหลือสงเคราะห์ภิกษุสามเณรผู้มีศีลบริสุทธิ์ และปฏิบัติสมณธรรมตามควร ด้วยปัจจัย 4 ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต

ท่านเหล่านี้เป็นเพียงภิกษุสามเณรเพียงกลุ่มเดียวที่มีโอกาสเจริญงอกงามในพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และเป็นกำลังหลักในการช่วยให้พระพุทธศาสนาประดิษฐานได้อย่างมั่นคงตลอดระยะเวลาที่เหลืออยู่อีก 2,439 ปี

พระเสขะบุคคลไม่อิ่มด้วยการหมดเปลืองในการให้ทาน ฉันใด

กระผมเองแม้มิใช่ทั้งพระเสขะและพระอเสขะ ก็ไม่มีความอิ่มด้วยการหมดเปลืองในการสงเคราะห์หมู่สงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ฉันนั้น

ด้วยเดชะแห่งบารมี 10 ประการ ที่กระผมได้บำเพ็ญมาตั้งแต่ปฐมชาติจนถึงชาติปัจจุบัน

จงเป็นพลวปัจจัยให้กระผมมีกำลังทรัพย์ ในการขยายขอบเขตโครงการนี้ไปให้ไพศาล สามารถให้ความช่วยเหลือภิกษุสามเณรผู้มีศีลงดงามได้ทั่วทั้งสังฆมณฑล

และไม่ว่าท่านผู้นั้นจะอยู่ในเมือง ในป่า ในถ้ำ บนภูเขา แห่งหนตำบลใดก็ตามที ไม่ว่าท่านจะหลบซ่อนตนเองอยู่อย่างธรรมดาในท่ามกลางเหล่าภิกษุชั่ว ผู้ทุศีลทั้งหลาย ขอให้กระผมมีกำลังปัญญาหาวิธีนำข่าวสารจากโครงการนี้ไปแจ้งให้ท่านได้ทราบโดยเร็วพลันด้วยเทอญ


​

 

แจ้งขยายขอบเขตโครงการตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2561 เป็นต้นไป

 

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นคนทั้งหลายเอาแก่นจันทน์ มีราคาตั้งแสนกษาปณ์ ขายแลกกับเปรียงเน่า

นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๑ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้เล่าพระเจ้าข้า ?


มหาบพิตรแม้ผลแห่งสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคต ในเมื่อศาสนาของตถาคตเสื่อมโทรมนั่นแล

ด้วยว่าในกาลภายหน้า พวกภิกษุอลัชชีเห็นแก่ปัจจัย จักมีมาก พวกเหล่านั้น จักพากันแสดงธรรมเทศนาที่ตถาคต กล่าวติเตียนความละโมภในปัจจัยไว้แก่ชนเหล่าอื่น เพราะเหตุแห่งปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้น

จักไม่สามารถแสดงให้พ้นจากปัจจัยทั้งหลาย แล้วตั้งอยู่ในฝ่ายธรรมนำสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ มุ่งตรงสู่พระนิพพาน

ชนทั้งหลายก็จะฟังความสมบูรณ์แห่งบทละพยัญชนะ และสำเนียงอันไพเราะอย่างเดียว เท่านั้น แล้วจักถวายเอง และยังชนเหล่าอื่นให้ถวาย ซึ่งปัจจัยทั้งหลายมีจีวรเป็นต้น อันมีค่ามาก

ภิกษุทั้งหลายอีกบางพวก จักพากันนั่งในที่ต่าง ๆ มีท้องถนน สี่แยก และประตูวังเป็นต้น แล้วแสดงธรรมแลกรูปิยะ มีเหรียญกษาปณ์ ครึ่งกษาปณ์ เหรียญบาท เหรียญมาสก เป็นต้น โดยประการฉะนี้

ก็เป็นเอาธรรมที่ตถาคตแสดงไว้ มีมูลค่าควรแก่พระนิพพาน
ไปแสดงแลกปัจจัย ๔ และรูปิยะมีเหรียญกษาปณ์และเหรียญ
ครึ่งกษาปณ์เป็นต้น

จักเป็นเหมือนฝูงคนเอาแก่นจันทน์มีราคาตั้งแสน ไปขายแลกเปรียงเน่าฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒

แล้วก็พากันขุนมันให้อ้วนเข้าไว้ น่าอนาจใจ​

 

ภิกษุใด ประกาศตนอันมีอยู่โดยอาการอื่น ด้วยอาการอย่างอื่น

โภชนะนั้น อันภิกษุนั้น ฉันแล้ว ด้วยอาการแห่งคนขโมย ดุจพรานนกลวงจับนก ฉะนั้น

ภิกษุผู้เลวทรามเป็นอันมาก มีผ้ากาสาวะพันคอ มีธรรมทรามไม่สำรวมแล้ว

ภิกษุผู้เลวทรามเหล่านั้นย่อมเข้าถึงซึ่งนรก เพราะกรรมทั้งหลายที่เลวทราม

ภิกษุผู้ทุศีลผู้ไม่สำรวมแล้ว บริโภคก้อนเหล็กแดงดังเปลวไฟ ประเสริฐกว่า การฉันก้อนข้าวของชาวรัฏฐะ จะประเสริฐอะไร.


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๒​