ขอนอบน้อมแด่ฆราวาสผู้เข้าถึงธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 19 ตุลาคม 2018.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,422
    ค่าพลัง:
    +3,197
    มีค่ะ ฆาราวาสบรรลุธรรมในยุคกึ่งพุทธกาลนี้จะมีมาก เนื่องจากการเห็นพระนิพพานในยุคนี้ ที่คนจะเข้าถึงกันได้ง่ายกว่าเดิม

    และฆาราวาสที่บรรลุธรรม ตั้งแต่ระดับโสดาปัติมรรค สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรค และ อรหันตมรรค ท่านเหล่านี้ที่เป็นฆาราวาสนั้นมีอยู่ค่ะ ซึ่งถ้าส่วนใหญ่แล้วยังไม่ได้ผล ก็เพราะท่านบำเพ็ญบารมีสายพุทธภูมิกันอยู่

    ส่วนพระโสดาบัน....ในบทสวดพระปริต บทรัตนะปริตต์ ที่ขึ้นต้นด้วย ยานีธะ ภูตานิ มะมาคะตานิ ฯ จะนำบทแปลมาว่าอย่างไร?

    ตรงบทสวด เย สุปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะฯ

    แปลว่า พระอริยบุคคลเหล่าใด ในศาสนาของพระสมณโคดมประกอบดีแล้ว [ด้วยความเพียรทางกายและวาจาอันบริสุทธิ์] มีใจมั่นคง เป็นผู้ไม่มีความห่วงใย [ในกายและชีวิต] พระอริยบุคคลเหล่านั้น บรรลุอรหัตตผลที่ควรบรรลุ หยั่งลงสู่ พระนิพพาน อันเป็นสิ่งไม่ตาย ได้ซึ่งความดับกิเลสโดยเปล่า เสวยผลอยู่ สังฆรัตนะอันประณีตแม้นี้ เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

    ต่อมาบทสวด ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยาฯ

    ได้แปลว่า เสาเขื่อนที่ฝังลงดินแล้ว ไม่หวั่นไหวเพราะลมทั้งสี่ทิศ ฉันใด ผู้ใดพิจารณาเห็นอริยสัจทั้งหลาย เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นสัตตบุรุษ ผู้ไม่หวั่นไหวเพราะโลกธรรม มีอุปมาฉันนั้น สังฆรัตนะนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจะวาจานี้ฯ

    ต่อมาเป็นบทที่กล่าวเกี่ยวกับพระโสดาบัน

    บทสวดที่ว่า เย อริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ อิทัมปิ สังเฆ ระตะนีตัง ฯ

    แปลว่า พระโสดาบันเหล่าใด ทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจทั้งหลายอันพระศาสดาผู้มีปัญญาอันลึกซึ้ง ทรงแสดงดีแล้ว พระโสดาบันเหล่านั้น ยังเป็นผู้ประมาทอยู่ก็จริง ถึงกระนั้น ท่านย่อมไม่ยึดถือเอาภพที่ 8 ฯ

    ต่อมาบทสวด สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปทายะ ตะยัสสุ ฯ

    แปลว่า สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา หรือ แม้สีลัพพตปรามาส อันใดอันหนึ่งยังมีอยู่ ธรรมเหล่านั้น อันพระโสดาบันละได้แล้ว พร้อมด้วยความถึงพร้อมแห่งการเห็น [นิพพาน] ทีเดียว อนึ่ง พระโสดาบันนั้นเป็นผู้พ้นจากอบายทั้ง 4 ทั้งไม่อาจกระทำอฐานะทั้ง 6 [คือ อนันตริยกรรม 5 และการเข้ารีต ] สังฆรัตนะนี้ เป็นรัตนอันประณีต ด้วยสัจจะวาจานี้ฯ

    ต่อมาบทสวด กิจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง ฯ

    แปลว่า พระโสดาบันนั้นยังทำบาปกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา หรือใจ ได้บ้าง (เพราะความพลาดพลั้ง) ถึงกระนั้นท่านไม่ควรเพื่อจะปกปิดบาปกรมนั้นความที่บุคคลผู้มีธรรมเครื่องพึงนิพพานอันตนเห็นแล้วเป็นผู้ไม่ควรเพื่อปกปิดบาปกรรมนั้น อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ฯ

    แล้วบทสวด ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวังฯ

    แปลว่า พระอริยะบุคคลเหล่าใด มีกรรมสิ้นแล้วไม่มีกรรมใหม่ที่จะทำให้เกิดภพใหม่อีก

    พระอริยบุคคลเหล่าใด มีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป


    พระอริยบุคคลเหล่านั้นละได้แล้วซึ่งฉันทะราคะที่ทำให้เกิดอีก เป็นผู้มีปัญญา ย่อมนิพพาน เหมือนประทีอันดับไปฉะนั้น สังฆรัตนะแม้นี้ เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจะวาจานี้

    และ...อีกบทสวดอีกบทหนึ่ง กะระณียะเมตตะสูตรฯ

    ใจความในเบื้องต้นแปลว่า กิจใด อันพระอริยเจ้าผู้สงบระงับได้กระทำแล้วกิจนั้นอันกุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์พึงกระทำตาม (คือ) กุลบุตรนั้น พึงเป็นผู้อาจหาญ และซื่อตรงดี เป็นผู้ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่ควรถือตัวว่าดีกว่าเขา ดูหมิ่นเขา เป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย เป็นผู้มีกิจธุระน้อย ประพฤติเบากายเบาจิต มีอินทรีย์อันสงบระงับแล้ว มีปัญญา เป็นผู้ไม่คะนองไม่พัวพันในสกุลทั้งหลาย ท่านผู้รู้ติเตียนชนทั้งหลายอื่นได้ ด้วยกรรมอันใด ไม่พึงประพฤติกรรมอันนั้นเลย ฯ

    คำแปลบทสวดพระปริตค่ะ ที่ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน

    สำหรับฆาราวาสบรรลุธรรม หากผู้ใดเห็นกระสนิพพานในบทสวดได้กล่าวไว้ค่ะ คือ ผู้ถึงพระโสดาบัน ค่ะ

    แต่เท่าที่ทราบมา ผู้บำเพ็ญบารมีญาณมรรคสายพระโพธิสัตว์ ที่เห็นกระแสนิพพานแล้ว แต่ยังไม่สามารถละสังโยชน์ 3 ที่เด่นชัดคือ สักกายะทิฏฐิ คือ เป็นผู้ถึงโสดาปฏิมรรค แต่ยังไม่ได้ผล จนกระทั่งบำเพ็ญบารมี สกิทาคามีมรรคคอนาคามีมรรค และอรหัตตมรรค ยังมีอยู่มากในยุคนี้ค่ะ ถือว่าเป็นสังฆรัตนะหนึ่ง (ในบทสวดมีกล่าวไว้ค่ะ ผู้เห็นพระนิพพานก็เป็นโสดาปฏิมรรค พยายามหาบทสวดและคำแปลนั้นไม่เจอ แต่เคยผ่านตามาและจำได้ค่ะ)

    และผู้ที่เห็นพระนิพพาน เข้าถึงกระแสแห่งนิพพานแล้ว สามารถตรวจสอบตนเองได้ และรู้ได้เฉพาะตน ในยุคนี้จะมีกันมากมายค่ะ ในยุคกึ่งพุทธกาลและเป็นฆาราวาสด้วยค่ะ

    ส่วนอรหันตผล ต้องลองตรวจสอบกับคำตรัสของพระพุทธองค์เพื่อเปรียบคุณลักษณะดูก็ได้ค่ะ น่าจะบ่งชี้ชัดอะไรได้บางประการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2018
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    พูดไรเลอะเทอะจริงเฮ้ย
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,422
    ค่าพลัง:
    +3,197
    ที่จริงแล้วเราต้องให้เกียรติกับบุคคลที่มีภูมิรู้และภูมิปัญญาระดับพระอรหันต์นะคะ นั่นก็ถือว่าเป็นผู้มีบุญบารมีสูงส่งคนหนึ่งก็ว่าได้ค่ะ ถ้าเราเข้าใจผิดกันไปเอง หรือ เป็นความจริง เพียงแค่ท่านมีกำลังใจในการตัด ก็สามารถจะบรรลุพระอรหันต์ได้เลย สิ่งนี้เราควรเคารพภูมิธรรมของแต่ละคนค่ะ จิตยิ้มว่านะ...
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    หง่ะ!!
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    เขาด่ากันจนล้าแล้วฮับเดียรถีปัง
    ศิษย์เอกแท้ๆ
    ยังทนปังไม่ไหว ด่าปังเช่ด
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    รอผู้โปรดอย่างเดียว
    ไม่ตรวจสอบผู้ใดฮับ
     
  7. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    พุทธองค์บอก ธรรมะนั่นแหละคือตัวแทนท่าน
    ยังจะรอสัตว์หน้าขนมัธยมหน้าไหนมาโปรดอีกเหรอลุง
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    บอกตอนไหนใครเป็นพยานได้
    บ้างฮับ
     
  9. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ เรื่องง่ายที่สุด และ "เป็นโอกาสดีที่สุด" ของคนที่อยู่แถว ๆ อิสานใต้
    +++ "หลวงตาเยื้อน" ยังมีชีวิตอยู่ ก็ลองไปถามท่านดู ในเรื่องเหล่านี้

    +++ และที่สำคัญที่สุด "ขอท่าน ชม อัฏฐิที่กลายเป็น พระธาตุด้วย ตาของคุณเอง"
    +++ และถ้าจะให้ดี "ช่วยถ่ายรูป อัฏฐิพระธาตุ มาแบ่งกันอนุโมทนาด้วย"
    +++ จะได้ "ชัดเจน" ประจักษ์แก่สายตา เพราะตรงนี้ "เป็นหลักฐาน สัจจธรรม"
    +++ จะได้เลิก "มโนมั่ว" ไปเรื่อย ๆ เอาง่าย ๆ แค่ "รูปถ่ายที่ อัฏฐิ เป็นพระธาตุ" จริง ๆ เท่านั้น

    +++ การปล่อย "เวลาให้ล่วงเลย โดย เอาหัวมุดอยู่แต่ในตำรา" พอเงยหน้าขึ้นมา "สัจจธรรม" ก็จากไปแล้ว
    +++ ทั้ง ๆ ที่อยากเจอ "ฆราวาสบรรลุธรรม" แต่ ไม่ยอมค้นคว้า จนท่านเหล่านั้น "จากไปแล้ว" ก็หมดโอกาส

    +++ ใครอยู่แถว ๆ อุดร ก็ไปที่ "วัดป่าบ้านตาด" ไปลองคุยถามเรื่องราว มารดาของ หลวงตามหาบัว เอานะ
    +++ ใครอยู่แถว ๆ สุรินทร์ ก็ไปที่ "หลวงตาเยื้อน" ไปลองคุยถามเรื่องราว มารดาของ หลวงตาเยื้อน เอานะ

    +++ ประจักษ์หลักฐาน ที่เป็นของจริง ยังมีอยู่
    +++ หรือ จะจัด "ทัวร์" ลงขันธ์ ไปถ่ายทำในนามของ "เวปพลังจิต" ก็น่าจะได้นะ
    +++ ลอง "ขออนุญาตคุณ Web Snow" ให้เรียบร้อย และ "อย่างเป็นทางการ" น่าจะดี

    +++ หากจะทำในระดับ "Documentary" อย่างง่าย ๆ ก็ชวนพรรคพวกไปเป็นคณะ
    +++ มีมือถือ คนละตัวที่สามารถถ่ายคลิป ในระดับ 1080P 30 fps ได้ และ Notebook สัก 1-2 ตัว
    +++ มี Card Reader หรือ อุปกรณ์ถ่าย file จากมือถือลง Notebook ได้
    +++ ใน Notebook ให้มี Software ที่สามารถ Edit Clip และ Transcode ให้เป็น H265 ได้
    +++ จะใช้ HandBreake หรือ XmedisRecode ก็ได้ (Free Licent) สามารถแปลงเป็น H265 ได้ทั้งหมด

    +++ H265 = 2 X H264
    +++ H264 = 2 X Mpeg2
    +++ Mpeg2 = 2 X Mpeg1

    +++ โดยคร่าว ๆ ดังนั้น 8 GB Mpeg1 หรือ 4 GB Mpeg2 จะ = 1 GB ของ H265 เท่านั้น
    +++ มือถือปัจจุบัน ราคาปานกลาง น่าจะมี Memory (HDD) Card ระหว่าง 16-64 GB อยู่แล้ว
    +++ ใครอยู่ในละแวกเดียวกัน ลองรวมตัวรวมกลุ่มกันดู แล้วลองปรึกษาคุณ Web Snow ดู

    +++ เวปพลังจิต เป็น เวปเพื่อพระพุทธศาสนา ดังนั้น ไม่ควรที่จะเป็น เวปเพื่อความงมงาย แต่ประการใด
    +++ ลองปรึกษารวมตัวกันดู เพื่อแสวงหา "ข้อเท็จจริง ในเรื่อง พระธาตุ ที่ แปรเป็น พระธาตุจริง ๆ"
    +++ ลอง "ร่วมมือ ร่วมใจ" กันสักครั้ง ดีกว่าที่จะมา "เถียงกัน" จนหาข้อเท็จจริง ไม่ได้
    +++ เรื่องในระดับ "บุคคลที่เป็นพระธาตุ" ให้ระวัง "กฏแห่งกรรม" ให้ดี ๆ อย่าเถียงกันจน "ไปนรก" ก็แล้วกัน นะครับ
     
  10. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    เชยชะมัดเลยลุง
    ใกล้เกลือกินด่างซะงั้น

    ปล.เคยได้ยินว่า (จำไม่ได้ว่าจากพระไตรปิฏกรึเปล่า) ชาวพุทธเนี่ย เคยพบพระพุทธเจ้ามาแล้วทั้งนั้น

    ปล2. ถ้าปรารพเอาลูกฮึด ไม่ใช่ลูกอ้อนก็ไม่ว่ากัน

    จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2018
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    โยคีแมวคือโยคีแมว
    ไม่ใช่ลุง ไม่ใช่เฒ่า
    กะมู้นี้ใครโชว์โง่
    กล่าวสังขารธรรมบิดเบือน
    ธรรมยากให้ดูว่าเป็นหญ้าปากคอก
    หรือ
    กล่าวธรรมง่ายให้ดูลี้ลับสับสน
    มันต้องเจอดี555
     
  12. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    ธรรมะไม่มีง่าย ไม่มียาก
    ไม่มี ไม่ง่ายไม่ยาก

    หมดก๊อกละ ฮิ้วว
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    พูดจาวกวนอีกแย้ว ขาเป๋
     
  14. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    ล่วงหน้าไปก่อน ฝั่งนู้นมีอะไร มาเล่ากันด้วย
    อย่ารอกันเลย
     
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    เลอะอีกปัง
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ถึง คุณ deejaimark ส่วนที่เป็นตัวหนังสือ สีเขียว
    คือ ต้องการคำตอบนะครับ ส่วนอื่นๆถือ
    ว่าเป็นการอธิบายนะครับ


    แสดงว่า ไปอ่านที่ส่วนตัวเขียนกับลุงแมวมา
    แต่ว่าคงเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปมาก
    ไม่เป็นไรครับ...เด่วจะอธิบายให้ฟังอีกรอบหนึ่งนะครับ
    ส่วนที่ ข้าพเจ้าคุยกับลุงแมว เข้าใจว่า ลุงแมว คงอ่าน
    ภาษาไทยที่ข้าพเจ้าเขียนรู้เรื่องแล้ว....


    ประเด็นหลักๆ คือ ๑.กรณีถ้าบรรลุอรหันต์(ย้ำว่าเป็นอรหันต์จริงๆ)
    คือ จิตไม่เกิดแล้ว ไม่มีอะไรมาทำให้จิตเกิดได้เลย หรือ จิตคลายตัว
    ได้ตามธรรมชาติตลอดทั้งวัน ส่วนจิตจะขยายมากก็แล้วแต่บารมีท่านนั้นๆ
    การขยายก็จะส่งผลต่อความสามารถต่างๆของท่านนั้นๆที่ได้เคยสะสมมา
    เป็นไปตามเนื้อหาเดิมแท้ของจิตท่านนั้นๆ เช่น บางท่านไปทางปัญญา
    บางท่าน อาจเด่นไปทางฤิทธิ์ ฯลฯ คือ อยู่ในรูปแบบพระสงฆ์ได้ นี่คือกรณี ที่ ๑.

    ประเด็นต่อมา ๒.ในกรณีที่ถ้าเป็นฆารวาส บรรลุอรหันต์ ย้ำว่า บรรลุจนเป็นอรหันต์
    ส่วนตัวเชื่อว่า ถ้ากรณีเป็นฆารวาส เนื่องจาก ได้เขียนไปแล้วว่า
    เคยเจอฆารวาส ที่มีกำลังจิตสูง แล้วฆารวาสท่านนี้
    ไปเจอระดับท่านที่โปรซีรย์จริงๆ พาเข้าสภาวะ
    แบบที่พระอรหันต์ ท่านเป็นกัน แค่เพียงไม่กี่นาที
    พบว่า พอออกมาสู่สภาวะปกติ บุคคลนั้น
    ถึงกลับต้องพักผ่อน คือ หลับเป็นตาย
    ที่พูด คือ จะให้เห็นว่า มันประมาณไหน
    ถ้าอยู่ในสภาวะนั้นๆ


    ขอโทษนะ พวกสายพลังงานจักรวาล ที่เอามาเล่าให้ฟังนั้น
    สำหรับส่วนตัวมองว่า ถ้าเทียบความสามารถ
    กับท่านที่ผมบอกว่า กำลังจิตสูง พวกจักรวาลกิ๊กก๊อก
    หลงตัวเองเหล่านั้น จะกลายเป็นเด็กๆไปเลยครับ
    ประมาณความสามารถอนุบาลรัศมีน้อย

    แค่นั้นเองครับ ที่พูดไม่ได้ดูถูกนะ

    ที่คุณเล่ามาออกแนวโม้มากกว่า
    ถ้าทำได้ ก็คงบังเอิญ
    เรียกฝน ตอนหน้าฝนหรือเปล่าครับ
    อันผมไม่รู้นะ แต่เชื่อเหอะ
    มันมีอีกหลายวิธีมากกว่านั้น
    พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก
    อีกอย่างเรื่องแบบนี้

    คนทำได้จริงๆ เค้าไม่เอามาโม้ มาเที่ยวคุยหรอกครับ
    ที่พูดไม่ใช่ข้าพเจ้านะ บอกไว้ก่อน..
    เด่ว จะเจอ ให้ไปเรียกฝนโชว์ ตอนหน้าแล้ง
    ถ้าทำไม่ได้จริง จะหน้าแหกหมอไม่รับแย๊บนะครับ
    และการมาโม้ มาคุยแบบนี้ มันบอกว่า ไม่ใช่ วิสัยทางพุทธศาสนา
    แต่เชื่อว่า พวกนี้ ชอบเอาศาสนาพุทธมาอ้าง
    ซักพัก ก็บอกว่า ตัวเอง วิเศษวิโส อย่างโน้นอย่างนี้
    เป็นระดับวิเศษยิ่งใหญ่ อย่างโน้นอย่างนี้
    เหมือนคนจิตไม่ปกติ



    ถ้าทำได้แค่นี้ แล้วคิดว่า วิเศษมาก ก็แสดงว่า
    ไม่ได้อยู่ในวงการ พวกที่มีความสามารถทางจิตจริงๆ
    เหมือนพวกเด็กๆเห่อของเล่นครับ

    ทั้งๆที่ สายพลังงานจักรวาล ผู้ที่คิดว่าตัวเองวิเศษบาทาอะไรพวกนี้
    มันไม่ใช่ พุทธศาสนานะครับ ย้ำว่า ไม่ใช่พุทธศาสนา
    แต่ทำไมต้องเอามา ปนกับเรื่องของฆารวาสบรรลุธรรม
    บางคน มันเพี้ยน ถึงขั้น บอกว่า พระพุทธเจ้า ตรัสรู้
    เพราะวิชาพลังงานจักรวาล ส่วนตัวมองว่า ตรรกะแมร่งเพี้ยน
    ขนาดนี้ ยังมีคน ซื้อบื้อ ไปเชื่อได้ไงวะ งงจริงๆ...
    เด่วเอาไว้แค่นี้ก่อน เด่วไปต่อ ช่วงต่อไป


    ส่วนนี้คือ เล่าสู่กันฟังเนาะ ขอบใจมากนะ...
    แต่บอกเลยว่า พูดแบบนี้ใครๆก็พูดได้หรอกครับ

    ถามหน่อยเถอะครับ คุณรู้ได้อย่างไรว่า
    ท่านโน้น ท่านนี้ ท่านสำเร็จอย่างไร ?
    ช่วยตอบได้ไหมครับ.....ช่วยตอบแบบ
    ทางกิริยาทางจิตหน่อยครับ ไม่ใช่อ้างว่า
    มีท่านโน้น ท่านนี้คอยชี้แนะนำครับ

    ช่วยตอบด้วยครับ ^_^

    ส่วนนี้เล่าให้ฟังนะครับ
    ถ้างั้นผมก็อ้างได้ ผมจะหาครูบาร์อาจารย์ที่เก่งๆมาซักท่าน
    แล้วบอกว่า ผมมีท่านโน้นท่านนี้คอยชี้แนะ
    ถามว่า มันหมายถึง ผมสำเร็จจริงๆหรือครับ

    หรือ ถามหน่อยนะครับว่า ถ้าต่อให้คุุณหรือผมหรือใคร
    มีระดับพระพุทธเจ้า มาคอยชี้แนะอยู่ตรงหน้า
    คุณหรือผมหรือใคร สามารถประกันได้ไหมว่า
    จะสำเร็จจริงๆ เล่าให้ฟัง ไปคิดเล่นๆนะครับ

    แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ฆารวาสที่คุณยกมาอ้างนะครับ
    เพราะส่วนตัวก็ไม่เคยเจอเช่นกันครับ




    ส่วนนี้คือ บอกใครหรือครับ สมมุติถ้าพูดอย่างนี้
    แสดงว่า เข้าใจว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนมาทั้งหมดนั้น
    ข้าพเจ้าอ่านมา เป็นพวกนักตำราใช่ไหมครับ

    จะถามว่า เอาสมองส่วน ไหนคิด ?
    หรือว่า ใช้หัวแม่โป้งเท้า คิดแทนสมองหรือเปล่าครับ ^_^
    ส่วนนี้คือ คำถามนะครับ

    [/QUOTE]



    ครับผม ก็จะตอบจริงๆนั่นหละครับ ^_^ แต่กรุณาอ่านดีๆด้วยนะครับ
    เอาส่วนที่ขีดเส้นใต้สีแดงก่อน

    ที่คุณถามว่า ทั้ง ๓ ท่านเหาะเหิร เดินอากาศ ได้ไหมคะ เคยเห็นไหม
    ตอบว่า ไม่เคยเห็นทั้ง ๓ ท่านเหาะเหิรเดินอากาศเลยครับ
    เพราะไม่เคยพบเจอตัวจริงทั้ง ๓ ท่านเลยครับ
    พูดง่ายๆว่า เกิดมายังไม่เคยพบตัวจริงทั้ง ๓ ท่านมาก่อนเลยครับ
    มีสองท่าน ที่ต้องไปพิมพ์ Google เพื่อความแน่ใจในใบหน้าท่าน
    แต่เคยอ่าน คำสอนของหลวงตามหาบัว ที่ท่านเทศน์สอน
    พระเมื่อ ปี ๒๕๐๕ ทำให้พออนุมานได้ว่า
    ท่านประมาณไหนครับ ซึ่งส่วนตัวก็เคารพในคำสอนท่าน
    แต่อีกสอนท่าน ไม่เคยฟัง แต่ไม่แน่ใจว่า เคยอ่านผ่านๆ
    ทางสื่อ บางไหม..จำไม่ได้นะครับ...

    หลังจากคำว่า หรือ ตัวหนังสือขีดเส้นใต้สีน้ำเงิน
    จะบอกว่า (ยังไงย้อนกลับไปอ่านข้างบนก่อนนะครับ)
    ส่วนตัวคุยกับ ลุงแมว ว่า ถ้าเป็นฆารวาสที่บรรลุอรหันต์(ย้ำว่าบรรลุอรหันต์)
    ถ้าจะอยู่มีชีวิตได้ ต้องประมาณว่า สามารถเหาะเหิรเดินอากาศได้แบบสิวๆ
    คือ จะเปรียบประมาณว่า ต้องความสามารถทางจิตสูงมากๆๆ
    พอจะเก๊ทไหมครับ


    จบในส่วน อ้างอิงแรกนะครับ



    จร้าาาา แม่นาง มาตอบแล๊ววววว พอดี เมื่อวาน มีไอ้ขี้โม้ มันบอกว่า จะทำโน้นทำนี่ใส่
    ตั้งแต่เมื่อวาน นอนเล่นรอจนถึงเช้า พอดีว่างเลยออกไป ซ๊อบปิ้งหน่อย
    เดินเล่น ชิวๆหน่อย.....แห๋มๆ รอหน่อยไม่ได้หรือ...ใจร้อนจัง
    ขอบคุณที่ถาม ปกติถ้าไม่มีใครถามจะไม่พูด ยกเว้นเอาฮา
    เคยเห็นด้วยตาตัวเองครับ ไม่อ้าง ไม่ได้ฟังใครมาครับ เห็นแบบลืมตา
    และใช้ชีวิตปกติ ไม่ใช่ฝัน หรือนั่งหลับตาทำสมาธิ หรือ นอนอยู่แล้วเห็น
    คือ อยู่ในเหตุการณ์ เคยคุยกันมา พูดง่าย พอรู้จักหนังหน้ากัน

    แยกเป็น ระดับฆารวาส นะครับ
    ถ้าเป็นระดับฆารวาส ยังไม่เคยเห็นว่าใคร เหาะได้ ดำดินได้
    มีแต่เค้าเล่าว่า หรือ สาวกที่ศรัทธาซื้อบื้อบอกว่า สร้างภาพให้ว่า
    ประเภทเค้าเล่าว่า สาวกศรัทธาแบบซื้อบื้อบอกว่า หรือสาวกสาย
    สร้างภาพเล่าว่า ส่วนตัวไม่สนใจหรอกครับ ร้อยละร้อย คือ กระจอก + โม้

    แต่เล่นแร่แปรธาตุได้เคยเห็น(ไม่ใช่มายากลนะ) เป็นทางสายวิชาเดินธาตุโบราณ
    ไม่ใช่ที่ กทม นะ หรือ ยกกายทิพย์มาหาได้
    นี่เคยเห็นครับ เป็นระดับอาจารย์ท่านหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ
    คือ มันน่าจะเกือบสิบปีแล้วมั่ง.....


    ส่วนถ้าเป็นเป็นพระสงฆ์ ก็เคยเห็นด้วยตา
    ไม่นับท่านที่ล่วงลับไปแล้วนะครับ.......
    เอาว่า เป็นท่านที่ข้าพเจ้าเคยเจอตอนมีชีวิต
    เคยเห็นกับตา ว่าบางท่านหายตัวได้เห็นๆ
    ส่วนนี้บังเอิญไปเห็น ท่านไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เห็นนะครับ
    และเคยเห็นกับตาว่า บางท่านแหวกอากาศ
    มาหากับตาตัวเองแบบเห็นๆประมาณ ๒ ครั้ง
    เอาแค่เรื่อง เหาะเหริเดินอากาศและหายตัวเนาะ
    จริงๆ ยังมีความสามารถอื่นๆ ที่ไม่ควรเล่าอีกเยอะ
    เด่ว พูดไป คนจะไปศรัทธาที่บุคคล แทนที่จะ
    ไปสนใจศีกษาธรรมะคำสอนของท่าน.....





    ย้ำว่า วิชาพลังงาน จักรวาล ไม่ใช่พุทธศาสนา เข้าใจนะ...
    และก็เชื่อว่า พวกสายพลังงานจักรวาลขี้โม้ทั้งหลายนั้น(ไม่ได้ว่าคุณนะ)
    ไม่มีใครเรียนกสิณสำเร็จจนใช้งานได้จริงหรอกครับ แม้แต่ตัวคุณเองก็ตาม
    ไม่ต้องบอก ผมก็รู้ว่า คุณถึงเรียนมาก็ไม่สำเร็จ (เล่าให้ฟังเฉยๆนะ)
    มันคนละแบบ คนละวิถีจิตกัน กับสายวิชานี้ แม้ว่า มีบางส่วนเกี่ยวข้องกันบ้างก็ตาม


    ๕๕๕ มีติด # กลัวว่า จะดูไม่เข็มแข๊ง น่าเชื่อถือหรือครับ
    ถึงเห็นด้วยตาข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อหรอกครับ เพราะว่า สายพลังงาน
    ที่ดีใช้ในทางที่ดีก็มีนะครับแต่ยอมรับว่าน้อยครับ
    เอาว่านับคนได้ ณ ปัจจุบันนี้

    แต่พวกประเภทเป็นสำนัก มีระดับขั้นๆต่างๆ ตั้งตัวเป็นครูบาร์อาจารย์
    มีแต่
    พวกถูกภูมิอสูรกายมีฤิทธิ์แทรกทั้งนั้นหละครับ
    คุยโม้ ถึงระดับ ๑๘ ๑๙ ๒๐ อะไรโน้น ทำโน้นนี่นั้นได้สารพัด
    พอให้ออกงานจริง เจอของจริงเงียบกริ๊บ
    ไม่ต้องเอาอะไรหรอก เจอหมอผี หมอธรรม เจ๊งๆ เอาตัวเอง
    ให้รอดก่อนเหอะ ก่อนจะโม้ว่า สามารถช่วยเค้าได้อะไรนะ..
    และคือว่า ถ้าน้ำยังท่วมบ้านตัวเองอยู่
    หรือ ประเทศไทย ฝนยังแล้งอยู่
    ขอความกรุณา อย่าออกมาโม้เลยครับ
    ยกเว้นว่า จะเป็น วิญญานมนุษย์ต่างดาว มาจากดาวนาแม๊ก
    ดางอังคาร ดาวศุกร์ ดาวโน้นนี่นั้นมาเกิดบนโลก
    ก็ไม่ว่ากัน...แต่ก็อย่าอ้างตัวทำเป็นหล่อ อวดชาวโลกมาก



    คือว่า ความสามารถ กระจอกเกิ๊น แต่โม้เยอะ ไม่ได้ดูถูกนะ
    บางเรื่อง ง่ายๆ แต่ชอบพูดให้ดูว่า วิเศษวิโสยิ่งใหญ่ ประหลาดมาก
    ไม่รู้ว่า มันจะเวอร์ อลังการงานสร้าง ไปหาพระแสงอะไร งง แทน

    เรียกฝนได้ ที่เป็นรูปธรรมจริงๆ ก็คือ โครงการฝนหลวงครับ
    ตรงนี้ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกครับ....


    แต่ขอโทษนะครับ ไอ้พลังงานจักรวาล พลังงานกิ๊กก๊อก หลงตัวเอง
    ที่ชอบพูดอะไรๆให้ดูวิเศษ เวอร์วังอลังการงานสร้าง
    ยึดติดแต่ นามธรรม ด้วยก็เทพโน้น เด่วก็เทพนี้ สุดท้ายตัวเอง
    ยิ่งใหญ่กว่า เทพ กว่าพรหม เก่งกว่าเค้าไปหมดทุกระดับ
    ทำไปทำมา เด่วก็ได้เสียสตางค์ เสียทรัพย์กัน

    แล้วก็กลายเป็น เทพโน้นนี่นั้น ผู้พิทักษ์รองเท้าดาวเทียมโน้นนั่นนี่
    เอาว่า ที่เป็นแต่ละอย่างคือประมาณว่า ยศถาฯ หล่อสุดๆ ป่านเทพบุตร..
    สุดท้าย มะแร่ง กลายเป็นพระพุทธเจ้า องค์ใดองค์หนึ่งเองนั่นหรือครับ
    ที่สำคัญอย่าลืมว่า วิชานี้ มันไม่ใช่พุทธศาสนา แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ
    คือรู้ได้ ข้องเกี่ยวได้ แต่อย่าไปยึด
    แต่ส่วนมากแล้ว ถ้าไปฝึกกัน จะถูกพวกภูมิจิตอสรูกาย มีฤิทธิ์เข้ามาแทรก


    เชื่อเหอะ เรื่องสร้างสติ เดินปัญญาไม่มีสนใจหรอก
    สนใจแต่เรื่องนามธรรม เรื่องพิเศษ เรื่องพลังวิเศษต่างๆ เห้ยยยยย

    กลายเป็นคนสองบุคคลิก เช่น ถ้าเราเห็นเค้า เตะหมา ผ่านไป ๕ นาที
    ถ้าเราไปบอกว่ ไปเตะหมาทำไม พวกนี้จะบอกว่า เค้าหรือตรูไม่ได้ทำ ยกตัวอย่าง
    และจะกลายเป็นพวก ผู้วิเศษ มีหน้าที่ปกป้องโลก
    ปกป้องจักรวาล ๕ เหวอะไรนั่นหละ
    และจะเก่งไปทุกเรื่องทกุกรรมฐาน
    แต่ถ้าให้มาแนะมาสอน จะสอนไม่ได้
    ลองได้มาสอน ประกันว่า ออกนอกโลกไปเลย
    เพราะสัมผัสและสิ่งที่พวกนั้นทำได้
    มันไม่ได้มาจากความสามารถของตนเอง เกทไหม...กินแบรนด์ จะได้ฉลาด




    ถ้าเก่งจริงอย่างที่ว่า ช่วยไปทำตอนหน้าร้อนได้ไหมครับ
    อย่าทำตอนที่ ไปดูพยากรณ์อากาศมาแล้ว ถึงมาทำ
    หรือทำตอนหน้าฝนได้ไหมครับ

    เวลาที่น้ำแล้ง ระดับน้ำในเขื่อนมันแล้ง
    ช่วยไปเรียกฝนอยู่บริเวณต้นน้ำ
    เพื่อให้ฝนตก
    ให้น้ำไหลเข้าเขื่อนหน่อยได้ไหมครับ



    จำไว้ ต่อให้เห็นด้วยตาตัวเอง ก็ไม่ควรมาถาม เอามาเล่า
    และไม่ควรเอามาถาม เพียงเพื่อ ที่ต้องการจะแย้งความเห็นคนอื่นๆ
    เพื่อที่จะเอาชนะด้วยทิฐิแห่งตนเอง ......

    เพราะถ้าคุณ ไม่ได้ถ่ายวีดีโอเอาไว้
    ชนิดที่ว่า คนเห็นได้ทั่วไป จะมีคนไม่เชื่อได้เสมอ
    และต่อให้คุณ ถ่ายวีดีโอไว้
    ก็จะมีชาวโลกหาเรื่องติเตียนได้เสมอนั่นหละครับ
    เพราะฉนั้น เรื่องแบบนี้ ปกติเค้าถึงไม่พูดกัน

    มีแต่พวก เปรตที่หวังหาผลประโยชน์ข้างวัด
    หาผลประโยชน์จากท่านล่วงลับไปแล้วนั่นหละครับ
    ที่มันชอบเน้นสร้างเรื่องราวปาฎิหารย์ สุดท้าย
    สุดท้าย เป็นค่าวิชาพิเศษ ค่าวัตถุมงคล
    โดยเฉาะรุ่นที่มันได้สร้างและเก็บเอาไว้เยอะๆ


    เค้าถึงเรียกว่าเป็น ปัจจัตตัง คือ รู้เห็นได้ด้วยตนเอง
    ไม่ใช่ รู้เองเห็นเองกับตาตัวเอง แล้วเอามาเล่า
    เอามาโม้ มันจะกลายเป็น เรื่อง ขนมปังปิ้ง นะแม่นาง...

    และอย่าลืมว่า พุทธศาสนา เน้นเรื่องปัญญาาเป็นหลัก
    ยกเว้นว่า ถ้าคุณ ศรัทธา ทางสายพลังงานก๊กก๊อก
    ที่ไม่ใช่ พุทธศาสนา เป็นการส่วนตัว ก็ไม่มีใครว่า
    อะไรหรอกครับ เป็นเรื่อง ส่วนบุคคล


    ปล.หวังว่า จะพอเข้าใจนะครับ
    ย้ำว่า ที่เขียน ภาษาไทยนะครับ
    และก็อ่านให้จบด้วยนะ
    กรณีอ้างอิง ข้อความข้าพเจ้ามา
    ก็ควรอ่านดีๆด้วยเด้อ...^_^
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035

    โอ้ยยยย บักหำน้อย เอาไว้ขู่
    หมาชิวาว่า แถวบ้านเหอะมุขนี้ ๕๕๕
    ต่อให้ เก่งเท่าพวกหมอผี หมอธรรม
    ก็ทำอะไรข้าพเจ้าไม่ได้หรอก
    ไม่ใช่ว่า ข้าพเจ้าเก่งหรอก...
    เพราะว่า ตัว
    ช่างเถอะ มันมีแค่คำ โม้ ๕๕๕๕๕๕

    ไอ้นี่ แสดงว่าโง่จริงๆ หรือเพี้ยนแบบไม่รู้ตัว
    เขียนกติกาไป ๕ รอบแล้วนะ ยังอ่านไม่เข้าใจ
    ป่านนั้นคุยว่า พยายามอ่านจนจบ และโม้อีก แต่มันก็ไม่เข้าใจ ๕๕๕
    ดันมาคุยมาท้าแบบนี้อีก
    แสดงว่า เพี้ยนและอ่านไม่รู้เรื่อง ๕๕๕๕๕๕


    ไหนขู่ว่า
    จะทำอะไรข้าพเจ้า
    ตั้งแต่เมื่อคืน
    ตอนนี้ยังปกติอยู่เลย ^_^
    ชิวๆขำอยู่ ๕๕๕


    ขี้โม้ช่างแถ เห้ย!!! ช่างเถอะ
    เรื่อง กรรมฐานก็แถ เรื่องสอน ก็แถ บรรลุ ก็แถ สมาธิ ก็แถ
    แสดงความสามารถก็แถ สารพัดแถ สรุป เป็น อีช่างแถ ๕๕๕
    ไปซะ ซิวๆ บักหำน้อย ไปฝึกมาใหม่เด้อ ที่สำคัญ
    ไปลงเรียน ภาษาไทย มาใหม่ด้วย....
    เปลี่ยนชื่อ ต่อไป ใช้ชื่อ
    นาย
    ช่างแถ นามสกุล โม้ปรามาสไม่เจียมตัว
    ๕๕๕๕๕
     
  18. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ส่วนตัวมองว่า พวกที่บอกว่า ตนเองเป็นฆารวาสที่บรรลุธรรม
    หรือประกาศว่า ตนเองบรรลุระดับโน้นนี่นั้น
    มีแต่พวกหลงตัวเอง หลงความคิด หรือไม่ก็พวกเนียนๆ
    เพื่อหวังในลาภ ยศ สุข สรรเสริญอย่างใดอย่างหนึ่ง
    เท่านั้นหละครับ.....

    แต่ถ้าเป็นฆารวาส ที่บอกว่า ตัวเอง ประกาศตัวเองให้คนอื่นๆ
    ให้ได้รับรู้ ว่าตนนั้น บรรลุอรหันต์แล้ว
    ประกันได้ว่า
    ๑.เป็นพวกวิกลจริตทางจิต
    ๒.หรือเริ่มมีปัญหาทางจิต จากการติดนามธรรม ติดตำรา อย่างใดอย่างหนึ่ง
    ๓..บ้าไปแล้ว.....จริงๆ
    ๔.หรือหลงตัวเอง แบบโตรตๆ.......แต่บอกว่า ตนเองเป็นระดับพระพุทธฯ เป็น
    ผู้ยิ่งใหญ่ หรือระดับอะไรที่เท่ห์ๆ พวกนี้จะบ้าและหลงตัวเองด้วยครับ


    ยังงงๆอยู่ว่า ยังมี ฆารวาสบางพวกที่ซื้อบื้อ
    ไปเชื่อคนพวกนี้ได้อย่างไร
    พุทธศาสนาแท้ๆ...เน้นเรื่องปัญญา
    บทจะศรัทธา ก็ดันเบาปัญญาซะสุดโต้ง....

    คน(ฆารวาส)ปกติ ที่ไหน จะเที่ยวไปบอกว่า ตนเองเป็นคนดี
    ตนเองบรรลุโน้นนี่นั้น...ตนเองเป็นอรหันต์
    ตนเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่โน้นนั่นนี่
    ตรรกะระดับเด็กประถมยังอ่านแล้วรู้เรื่อง
    มีแต่พวกหลงตัวเอง จิตไม่ปกติ กับเริ่มบ้า
    ทั้งบ้าฤิทธิ บ้าพลัง บ้าผี บ้าวิญญาน บ้าเทพ
    บ้านามธรรมต่างๆบ้าบอคอแตก
    หรือบ้าแล้วนั่นหละ ที่จะไม่เข้าใจ....


    เล่าให้ฟังเฉยๆ.....
     
  19. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    ถอดก๊อกไปขายหมดอ่ะดิ่
     
  20. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    มโน ปุพพัง คมา ธรรมา..

    มโน เสฏฐา มโน มยา..


    มีเท่านี้ ทางปฏิบัติ มีเท่านี้..



    ไม่ได้สำเร็จมรรคผล อะไร..

    ไม่มีการไป การมา อะไร..

    เพราะแท้จริงแล้ว ทุกสรรพสิ่ง ไม่เคยเกิด ไม่เคยตาย..

    เพียงแต่ ยังไม่ตื่น จากหลับไหล เท่านั้นเอง..

    ปล. หลงเข้ามาทู้นี้ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ. โอกาสนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...