การฝึกอภิญญาด้วยการเพ่งรูปพระ

อ่านดูแล้ว พิจารณาแล้ว เชื่อทางคุณ&เมฆาค่ะ

 

อิอิ
ลงทุนสมัครใช้อีกชื่อ
มาตอบเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ^_^ หรือครับ
แต่เหมือนอยู่ในเหตุการณ์มานาน
แลจะรู้ดีเนาะ อิอิ มีแค่ ๒ โพส
น้อยไปไหม อิอิ

เรื่องความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ
ตามอัธยาศัย ไม่ขอก้าวล่วง



ว่าแต่ ไอ้ เมฆา ขี้โม้
เมื่อไรจะเข้ามาตอบซักที

และแนะนำเกี่ยวกับกรรมฐาน
เรื่องภาพซักที จะได้รู้กัน
ไม่ต้องอ้างพระป่านะ
ที่เข้า ฌาน ๔ แล้ว ถอยมา ๓ อะไรนะ
จำมาพูด ไม่เอานะ

จบจากที่ เมฆา ขี้โม้ แนะนำนี้
จะขอเจอตัว
ให้แสดงความสามารถหน่อย
ว่าทำให้คนอื่นๆรับรู้ได้
เหมือนตัวเองไหม

การที่เที่ยวกล่าวว่าคนอื่นมโน
การกล่าวว่าตั้งหัวข้อผิด
แสดงว่าต้องเก่งพอตัว
อิอิ จะคอยชม. บอกตามตรง
ว่าเจอ. จะเก่งเหมือนที่ปากดีไหม

อ้อ เชิญ คุณ อนัตตา เห้ย ไม่ใช่
เชิญคุณ ที่ สมัครมาใหม่ไปพิสูจน์
ด้วยนะครับ. ^_^


เมฆา ขี้โม้ เอาตัวเอง วิธีตัวเองว่ามาเลย
แนะทริคมาเลย วิธีที่ คุณ อนัตตา เล่ามา
ใช้ไม่ได้ผลหรอก มันคือการมโน
ไร้ความสามารถ หลงในนิมิต
อย่าเรียกว่าอภิญญาเลยครับ
เรียกว่าฝันเอาดีกว่าครับ
ถ้ากำลังระดับนั้น อายแทน ^_^


ว่าแต่ คุณ อนัตตา
ไม่แย้ง ข้าพเจ้า หน่อยหรือครับ ^_^

 

การฝึกอภิญญาเพ่งรูปพระอันนี้ผมไม่ทราบนะว่าทำยังไง เพราะความสามารถผมไม่มีอะไร

หากแต่การฝึกวิชาสร้างภาพให้ตัวเองดูดี อันนี้ผมพอจะรู้ว่าต้องทำยังไง
มันเป็นการใช้ มายา เล่ห์กล อย่างหนึ่ง

ทำง่ายๆครับสร้างไอดีขึ้นมาเอออวยอีกไอดีหนึ่งให้ดูเหมือนว่ามีผู้สนใจให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
แล้วก็กล่าวอะไรที่มันทำให้ดูอวยกันเอง สนับสนุนกันเองนั้นหละครับ

 

เหงาหรอคุณนพ ขำอ่ะ เชิญฟาดหัวฟาดหางต่อไปเถอะ เราวางแล้ว 555

 

ผมถามอะไรคุณอย่างสิครับ รู้จักกับคนที่ใช้ชื่อ ธีรชัช ใหมครับ

 

คนแถวนี้แปลกจัง ชอบถามว่ารู้จักคนโน้นมั้ยคนนี้มั้ย เรารู้จักทุกคนที่ออนไลน์ เห็นในออนไลน์นี่แหละค่ะ.

ไม่มีตัวตนมีแต่ชื่อ ถ้าบอกว่าไม่รู้จักก็มุสาซิ คนที่ออนที่เวปพลังจิตเรารู้จักหมดนั้นแหละ.แต่ไม่รู้หรอกว่าเป็นใครมาจากไหน ทำอะไร มีประวัติชีวิตเป็นยังไง เพราะไม่สนใจอยากรู้ค่ะ เจอกันก็ทักทาย

 

ก็ขอบคุณที่ช้วยตอบละกันครับ

 

หากท่านอาจารย์นพจะกรุณา ช้วยตอบให้ผมหายสงสัยทีครับ

เรื่อง (ธีรชัช / เมฆา) หนะครับ

 

....eeen. วางแล้ว
หรือ ไม่มีอะไรจะเถียง ๕๕
ได้นิสัยขี้โม้มาจากเมฆา
หรือเปล่า ๕๕๕
อย่างคุณทำไม่ได้หรอกครับ
เชื่อเหอะ ถ้าผมถามกิริยาพื้นๆ
ที่นำไปสู่การวางคุณไม่มีทาง
ตอบได้หรอกครับ ล้านเปอร์เซ็นต์
อย่าโม้มาก อิอิ


คิดว่าดูไม่ออกหรือครับ
บอกว่าเหงาหรือ เปล่าครับ
พอดีมี เมฆาขี้โม้มาพาดพิง เลยตอบ
ว่าแต่คุณเข้ามา แส่เองตั้งแต่แรก
ไม่ใช่หรือครับ ?

เหงา อิอิ
ว่าแต่คุณมีครอบครัวหรือสามีแล้วหรือครับ
ถ้ามีแล้วใช้คำนี้กับผมพอจะฟังขึ้นนะครับ
๕๕๕

อิอิ สงสัยคุณจะว่าตัวเอง ๕๕๕
ปกติคนเหงามักจะแส่เรื่องคนอื่นก่อนนะครับ
เช่น การเข้ามาตอบ ในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้
ในตอนแรกและไม่ใช่เรื่องของตนเอง
แบบนี้เรียกเหงาไหม.
หรือการที่มีการสมัครใหม่มาตอบ
คือไม่เหงาเนาะ

สุดท้ายพอผมพูดด้วยเหตุผล
กับบอกว่าไม่ชอบคิด อิอิ
ทำไมอ่านมากปวดหัวหรือครับ
และทำไมหรือครับ รับไม่ได้หรือครับ
เป็นอะไรกันหรือเปล่าครับ อิอิ

เวลาคนที่คุณอ้างถึง คุยโม้ ทับถมคนอื่นๆ
กลับบอกให้ผมรู้จักอภัย
ตรรกะคุณแปลกๆนะครับ

สุดท้าย ตัวเองมาแนะการปฏิบัติ
อ้างอิงถึงคู่กรณีผมด้วย
แต่พอตัวเองเล่ามา ยิ่งกลายเป็นโครต
มโน ๕๕ ความจริงเหตุและผล
ส่วนตัวก็เขียนไปแล้วนะครับ
อะไรบังตาหรือเปล่าครับ อิอิ

ฟังนะ ประเด็นคือ ผมแย้งเรื่องแนวทางปฎิบัตินะครับ
และพูดเกี่ยวกับการปฎิบัติเท่านั้น
รวมทั้งการมโนวิธีการปฎิบัติ
ของคุณด้วยครับ.

คุณควรตอบและพิสูจน์มา ว่า
ผมพูดผิดตรงไหนว่ามา
ส่วนเมฆาขี้โม้
ส่วนตัวรออยู่.


คุณอนัตตา เข้าใจคำว่าฟาดงวงฟาดหาง
ดีหรือเปล่าครับ ตอนนี้

อย่าเบี่ยงประเด็นซิครับ

ย้ำอีกรอบ
ผมบอกว่า วิธีการคุณคือการมโน
และคุณไม่มีความสามารถพิสูจน์ให้คนอื่นๆ
รับรู้ได้เหมือนที่คุณมโนด้วย. ชัดนะมีแค่นี้


ภาษาไทยนะครับ ที่ผมเขียน ^_^
ต้องหาคนมาช่วยแปลไหมครับ

 

ส่วนตัวไม่เคยรู้จักชื่อนี้มาก่อนครับ
พึ่งเคยได้ยิน ชื่อแรกนะ
ปล เรียกพี่ก็พอครับ

 

สังเวชใจจริงๆ

 

หนึ่งจิต หรือเปล่าขอรับที่หมายถึง ถามเฉยๆอะครับ เห็นว่า มีชิวาว่า แต่ถ้าไม่ใช่ที่ ท่านนพกล่าว ขออภัยขอรับ

 

หนักกว่าครับ

ไอดีนึงขายพระ ก็ไม่เป็นไรครับ
ไอดีนึงดูดวง ก้ปกติเนาะ
แต่ไอดีนึงมากลายเป็น ขายค่ะ สนใจหลังไมค์ กระผมล่ะงง จริงไรจริง เพราะไอดีเดียวกัน

กระผมนี้หลังไมค์ไป เขาคงสับสนมั้งประมูลพระอยู่สลับไอดีไม่ทันกับขายตัว ดันตอบว่า
ชื่อที่อยู่ด้วยครับ เริ่มประมูลเท่านี้เท่านั้น โป้ะแตกเลย จะแจกทุนการศึกษานักศึกษา ไปเจอ เซียนพระเครื่องปลอมตัวมา....

รู้แล้ว วางครับ อิอิ

 

ภาพประกอบครับ

 

ประมานนั้นตามความหมาย ^_^

 

ประมานนิสัยแบบนี้ ใช้หลายชื่อ
เด่วก็ความแตก เพราะตอนตอบลืม
มีทั้ง ช และ ญ ที่เป็น

สมัครใหม่มาอวยกันเอง
ตามแบบนิสัยพวกมีปมด้อย
แต่อยากได้รับการยอมรับ
โดยที่ขาดตรรกะในการอ่านทำความเข้าใจ
และจะสมัครมาเพื่อด่า
ไม่กล้าใช้ชื่อเดิม
เวลามีเรื่องกับใครหรอก

พวกนี้นิสัยเหมือนกันคือ
เก่งแต่ปาก ชอบพูดยกตนข่มท่าน
แต่ไม่มีอะไรแนะนำ
ตัวเองนะดีสุด
ได้แต่โม้ แต่อ้าง สร้างภาพ

พอเจอคนท้า มันจะเงียบ อวตาร
นิสัยแบบ ตัวเป็นชาย
หน้าเป็นหญิง

ถ้าเป็น หญิง ไปไหนก็มีแต่
คนไม่ไคร่ที่จะคบหา
เพราะสังคมจะรังเกียจ


เรียกว่า ธีม รูปแบบชีวิตเป็นแบบนี้

ใจจริงอยากให้ พวกกายเป็นชาย
หน้าคล้ายหญิงพวกนี้
มันมีความสามารถจริงๆ
เก่งเท่าพวกหมอผีหรือ
หมอธรรมซักหน่อย เหทือนที่ปากมันเก่ง
จะได้จัดให้แบบเป็นทางการ

ตอนนี้ ได้แต่ดูนิสัยคล้ายตุ๊ดของมันไป
และก็วางๆไป อิอิ

ปล พวกนี้มันสำคัญตัวเองผิด
การสมัครใหม่มาอวย มาด่า
ไม่ต่างอะไร กับพวกปากหาเรื่อง
แต่เวลามีเรื่องจริงๆ
ยืนอยู่ข้างหลังผู้หญิงนั่นหละ ^_^

 

คนในเว็บนี้บางคนทำให้ผมเป็นคนไม่ไว้วางใจคนขึ้นเยอะเลย นี้ผมอ่านไปๆมาๆ
ดูเหมือนๆว่า (ยศวดี/อนัตตา/มณฑาทิพย์/%รามา) นี้น่าจะเป็นพวงเดียวกันนี้หละครับ

ส่วน ธีรชัช / เมฆา ที่ผมสงสัย หากเป็นยังที่ผมสงสัยนี้คงมีเจตนาที่แอบแฝงแน่ๆ

เพราะ ธีรชัช จะเล่าเรื่องทางที่เป็นทิพย์ ส่วนเมฆา จะกล่าวเป็นนัยๆว่า
ธีรชัชนี้มีภูมิธรรมสูงกว่าเขา คนที่รู้เห็นเรื่องทิพย์ได้ตามความเป็นจริงนั้นเป็นปรมัตถธรรม
แต่พอเมฆามาสนทนาธรรมกับบุคคลอื่นๆ
ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมทำตัวเองให้ดูดีแต่ทำให้ผู้อื่นดูผิดทาง ในขณะที่พบ ธีรชัช
นี้ไม่เห็นจะไปพูดขัดแข้งขัดขาอะไรๆเลยทั้งๆที่เรื่องที่ธีรชัชเล่านี้ ผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อมีพฤติกรรมที่ย้อนแย้งกันเองอยู่ในตัว ความสงสัยของผมจึงบังเกิดด้วยประการนี้ครับ อิอิ

จนเกิดข้อสันนิษฐานในใจผมขึ้นมา 2 กรณี

1. ธีรชัชกับเมฆานี้อาจจะมีบุญร่วมกันมา ถึงมีไม่ถูกในบ้างแต่ยังไงๆก็ลงลอยกัน
ด้วยเพราะอาจมีความเป็นมิตรในอดีตเก่ากันมานาน

2. ไอดี ธีรชัช นี้มีมาเพื่อโชให้ดูภูมิธรรมสูงเอาไว้โชหญิง

ผมไม่ได้ไปตั้งข้อจับผิด เอาไว้ตั้งแต่แรกๆ แต่เรื่องต่างๆเหล่านี้มันเหมือนฝังชิพเอาไว้
ให้ผมจำได้ ผมจะแกล้งลืมก็แกล้งไม่ได้ ผมเพิ่งมาทำความเข้าใจตัวผมเองในเมื่อคืน

ตัวสงสัยของผมที่ผมเรียกใช้อยู่ทุกวันนี้ ก็คือ ตัวที่มันผิดสังเกตนี้เอง
เวลามีอะไรที่ผิดสังเกตจากความจำผมปุ๊บนี้มันจะเกิดอาการสงสัยที่หนักขึ้นทันที

ก็ขอบคุณที่มาเตือนสติครับ ผมจะค่อยๆวางครับผม อิอิ

 

ถามเพื่มเติมคับ เมื่อไหร่ควรจะเริ่มขั้นปฏิภาคนิมิต แล้วการหมุน ปฏิภาคนิมิตองค์พระไปทางซ้ายคือให้องค์พระหมุนรอบตัวใช่ไหมคับ

 

การปั่นหรือย่อ
ให้เข้าใจก่อนว่า
เป็นการสร้างให้จิต
มีกำลังจิตนะครับ

ไม่ใช่ทางเครื่องรู้พิเศษ(อฐิษฐานจิต)
หรือสมาธิสะสมใช้งาน
ในเวลาปกตินะครับ(อรูปฌาน๑ ถึง ๓)
๔ ฝึกเอาไม่ได้ ต้องทิ้ง ๑ ถึง ๓ และมาทางปัญญาก่อน
แล้วค่อยว่ากันทีหลังว่า
จะเข้าได้หรือไม่

การปั่นนิมิตระดับปฎิภาคนั้น
จะเริ่มต้นได้ หลังจากที่สามารถ
เลิกสนใจและข้ามระดับอุคหนิมิตไปแล้ว
(เข้าๆออกๆอุคหนิมิต อย่าไปรักษา
ให้เห็นนาน
อย่าไปค้าง จะหลงตัวเอง
และมันจะแป๊ก)

กรณีที่เราจะปั่นปฎิภาคนิมิตนั้น
เราจะใช้ในกรณีที่ขึ้นด้วยกสิณ
และต้องปั่นวนด้านซ้ายเท่านั้น
ในเวลาลืมตาปกติถึงจะส่งผล
ต่อตัวจิตได้ในเรื่องพลังงาน

แต่ถ้าเป็นกรณีเป็นภาพพระฯ
เราจะใช้การย่อภาพครับ.
เพราะจะพบภาพขนาดใหญ่
ในกำลังระดับนี้
ซึ่งต้องย่อจากด้านซ้าย
ลงมาอีกเช่นกัน
ถ้าเริ่มจากขวาก็จะไม่มีประโยชน์
เหมือนปั่นปฎิภาคนิมิตกสิณวนขวาเช่นกัน


ข้อควรระวังถ้าเป็นกสิณ
ถ้าเข้าใกล้ไปจะถูกดูดทะลุมิติ
จะกลายเป็นท่องเที่ยวแทน
ยกเว้นจะไประลึกตัวแล้ว
ไปปั่นปฏิภาคนิมิต
ณ ที่ๆถูกดูดไปโผล่
แค่นิมิตที่จะปั่นนั้น
มันจะคล้ายนิมิต
กสิณกองนั้นตอนลืมตา
แต่ถ้าไกลไปจะจะทำอะไรไม่ได้
ได้แต่มอง พอฮาๆอย่างเดียว


ข้อควรระวังถ้าเป็นภาพพระ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นระดับ
ปฏิภาค ไม่ใช่อุปจาร
จะต่างกันที่ภาพจะสามารถดูดเราเข้าไปอยู่
ภายในได้ ถ้าเราเข้าใกล้มากเกินไป
และเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่ได้ท่องเที่ยวเหมือนโดนนิมิต
กสิณดูด.


มุมที่จะเล่นกับปฏิภาคได้
ถ้ากสิณ เหมือนเรามอง
จากระเบียงชั้นสองลงมาพื้น
เมื่อก่อนอาจบอกผิดสลับมุมกัน
ขอโทษอย่างแรง

ถ้าภาพพระ จะอยู่ในมุม
ระดับเดียวกับองค์พระ



ส่วนการลืมตาเห็นได้
เข่นเวลาเข้าห้องน้ำตอนเช้า
เวลาลืมตาตื่นกลางดึก
หรือเวลาพึ่งตื่นตอนเช้า
การเล่นกับภาพได้ ในเวลาปกติแบบนี้
นั่นเป็น กำลังระดับอุปจารสมาธิ
สามารถเอาไว้ซ้อม เหมือนรอบทดสอบ
สนามแข่ง มอโตจีพี เอาไว้ปรับแต่งเครื่องยนต์ เปลี่ยนแฟริ่งรถ
แต่ไม่ถือว่ามีประโยชน์ต่อการสร้างกำลังจิต
ใดๆ เพราะไม่มีการสะสมแต้ม
เหมือนแข่งรอบจริง

 

ถามคุณนพเพิ่มคับ ตอนนี้ผมเริ่มย่อภาพแล้วแต่ทำได้ตอนลืมตาและต้องมีแสงสว่างจะง่ายกว่า แต่จะทำได้แปบเดียว มันจะเหนื่อยคับ พอหลับตา หรือทำในที่มืดจะเห็นองค์พระขนาดเล็กคับ ย่อภาพก็ยากกว่า บางทีตอนหลับตาไม่เห็นองค์ แล้วการฝึกระดับปฏิภาคนี้ต้องทำจนถึงขนาดไหนจึงจะเริ่มฝึกขั้นต่อไปได้