ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 9 ธันวาคม 2018.

  1. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    ปัญญาในพุทธศาสนา ไม่ก่อภพ ก่อชาติ

    สิ่งที่ก่อภพ ก่อชาติ อันนั้น มันเปน สัญญขันธ์
    สังขารขันธ์ ซึ่งมันพร่องเปนนิยต์

    สิ่งที่ พระพุทธองค์ ตรัสสอน อย่ามองตื้นๆ
    เปน สัญญา สังขาร รับฟังเข้าหู เข้าใจ อธิบาย
    กี่ที คนก้เข้าใจ

    สิ่งที่ พระพุทธศาสนา พยายาม สื่อ ไม่เกี่ยว
    อะไรเลย กับ สิ่งที่ฟังแล้วพยกหน้า เข้าใจ

    นะ

    ต้องเอาไป ตีลังกากำหนดรู้ ให้ดีๆ

    อะไรที่ พระพุทธองค์ชี้ ให้เหน ตรงๆ ไม่ได้

    สอนให้พยักหน้า รับธรรม นี่...ไม่ใช่

    ถ้าเหน สิ่งที่ลึกซึ้งนั้นได้ ค่อย ปรารภว่า
    รู้จัก หนทางเบื้องต้น ....เน้น นะว่า เบื้อง
    ต้น .....ของพุทธศาสนา

    หากเปนอะไรที่ พยกหน้า ก้มหน้า ก้มตา รับ
    ได้ นั่นจะกลายเปน ศาสนาอื่น...ไปทันที

    ยกตัวอย่าง ทาน การทำทาน การบริจาค

    หากเปน พุทธ จะต้องเปนเรื่อง "ละ"

    หากเปนแก๊งค์ มุงแมวเมาหมง จะเปนเรื่องเขา
    ไปกอด รัด หมกมุ่นในทาน .....เปนดนดีไหม
    ก้เปน โคตะระดี แต่เปนพุทธไหม หางอึ่งยังไม่มี

    ภัยพิบัติเกิด ปรมณูลง มุงแมวเมาหมง แกสละทาน
    เอามือไปต้อง รังษี ปัดไปลง ฮิโรขิม่า

    ภัยพิบัติเกิดไม่เกิด คนพุทธสละออกบาทเดียว
    สามารถ ระลึกการสละออก เพื่อเหนนิพพานได้
    ไม่มีคำว่า หมดสิ้น แถมยังเปน นาบุญให้ผู้อื่น
    ได้ชั่วกาลนาน ไม่มีคำว่า หมด ท้อ ขอนอน
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    จขกท ทนไหวเป่าฮัย

    อย่าลืมว่า พุทธศาสนา จะเปนเรืองที่

    "ไม่ไหลตามกระแสโลก"

    ดังนั้น

    มันจะ ฝืนหน่อยๆ ในการ สดับ เพ่ง พิสูจน์ สัทธรรม

    ถ้า ออกแนว ต้องไหลตามโลก สิ ถึงจะถูก

    ขวางโลกไม่ได้นะ ( ดูดีๆ อย่าให้ ใครหยอด
    พาไป กลุ่ม อรหันต์ฆราวาส แบบ มุงแมวเมาหมง)
     
  3. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    เรื่องการทำทานเพื่อการละนี่ ผมเข้าใจครับ

    ศาสนาพุทธสอนนิพพาน แต่ให้ทำทานเอาบุญ? หืมมม?
    ขัดกั๊นขัดกัน
    แต่ ถ้าไม่ใช่การเข้าใจศาสนาพุทธไม่ตรงก็คงเป็นพาให้คนขึ้นสุคติภูมิ รอพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปมาตรัส ล่ะมั้งครับ กรณีที่คนที่ทำทานมีใจเป็นกุศลในการทำทานมาก ๆ อยู่เนือง ๆ น่ะนะครับ
    ส่วนตัวผมเข้าใจก็คือ เบื้องต้น ทำความดี และ ทำทานเพื่อการละและมีประโยชน์อีกอย่างคือทำให้ใจเบิกบาน เป็น กุศลด้วย

    คนศาสนาพุทธ

    เห็นกระแสเพราะไม่อยู่ในกระแส

    คนที่อยู่ในกระแสจะไม่เห็นการไหล
    คนที่อยู่นอกกระแสจะเห็นการไหล

    คนศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการสังเกต เพราะสังเกต(จากการปฏิบัติ)จึงรู้
    (บางทีคำว่าสังเกตมันก็ดู จดจ้องไปยังไงก็ไม่รู้แฮะ)
    ผมเข้าใจอย่างนี้ มีความผิดถูกประการใดครับ

    ผมเองก็ไม่เชื่อฆราวาสอรหันต์หรอก

    ปรินิพพานที่เกิดได้อีก ผมก็ไม่เชื่อ

    ส่วนการนิพพานของพวกฆราวาสบรรลุธรรม น่าจะเป็นการใช้อำนาจฌาณกดกิเลศไว้มากกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2018
  4. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เคยได้ยิน โพธิสัตว์เขาเล่าประสบการณ์
    ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆให้ประจักษ์

    น้ำเหยี่ยว ใช้เวลาศึกษาหนึ่งอสงไขย!!!

    นั้นฟังสิ เรียนรู้จริง!!
     
  5. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    มาหลบภัยกันที่นี่เอง กระทู้ดีตรงที่ไม่มีสาระ
     
  6. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    สงสัยผมต้องพยายามเกิดเป็นนักวิทยาศาสตร์มาก ๆ ซะแล้ว

    เมื่อไม่มีศาสนาพุทธ โพธิสัตว์สอนสัมมาทิษฐิ
    เมื่อมีศาสนาพุทธ โพธิ์สัตว์สอนอะไรผมก็ไม่รู้หรอกนะครับ
    ส่วนใหญ่ผมเห็นแต่ช่วยคนมากกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2018
  7. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ธรรมในศาสนาพุทธ เป็นไปเพื่อสัมมาทิษฐิ และการละ
    ธรรมบางธรรมก็สอนเพื่อการทำใจให้เป็นกลาง ให้เห็นธรรมดาของสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่รบกวนจิตใจอยู่ เพื่อให้ปล่อยวางได้เฉพาะหน้า จะได้ไม่ขัดขวางการปฏิบัติธรรม ผิดถูกยังไงช่วยชี้แนะด้วยครับ
     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    พวกเรียนวิทยาศาสตร์
    เป็นศาสตร์ที่ใกล้เคียงกับนักเรียนรู้โพธินะ

    ต่างกันที่พวกโพธิเรียนรู้สิ่งที่ผิดเพื่อหาสิ่งที่ถูก
    หาความพอดีไม่เจอ
    ขาดๆเกินๆตลอด

    มันขึ้นอยู่ว่าเราตั้งโจทย์อย่างไร
    ในการทำข้อสอบ
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ในหมู่โพธิ มีความคิดวิปลาสอย่างหนึ่ง
    ต้องเรียนรู้เองอย่าถามใคร
    และอย่าช่วยเหลือกัน

    เป็นเหตุต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้
     
  10. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    การที่ศาสนาอุบัติขึ้นมา
    มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกนี้

    สิ่งที่ต้องการของเหล่าโพธิสัตว์
    ก็คือโพธิญาณของพระศาสดานั้นเอง

    เพราะโพธิญาณเป็นญาณหยั่งรู้ไม่มีประมาณ
    โพธิสัตว์ต้องพึ่งญาณชนิดนี้
     
  11. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เปลี่ยนเรื่องดีกว่า
    เรื่องการฝันเห็นงูนี้

    ผมก็เคยได้นิมิต
    พอจิตสงบปรากฏภาพขึ้นมา..

    เห็นงูหลายตัวพุ่งเข้ามาหาเรา
    เราวิ่งขึ้นต้นไม้ มันเลื้อยผ่านไป
    ต่อมาก็มีตัวอื่นเลื้อยมาอีก ตัวใหญ่มากขึ้น
    มาเป็นแถวเลย บางตัวใหญ่เท่าต้นมะพร้าวก็มี..
     
  12. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ผมฝันเห็นงูทีไร เลื้อยหนีผมทุกที
    บางที วิ่งไล่จับก็ไม่ทันด้วยเออ

    ครั้งหนึ่งฝันเห็นงูตัวเท่าต้นมะพร้าวแหละครับ
    ลายสวยมาก ไม่เหมือนงูทั่วไป

    ผมวิ่งไล่จับครับ เลื้อยเร็วผิดกับขนาดตัว ผิดวิสัยงูทั่วไปมาก
    เลื้อยซะผมวิ่งไม่ทันไม่พอ นางเลื้อยลงคลองชลประทานครับ

    แล้วก็ว่ายน้ำลับสายตาผมไปเลย ผมหอบรับประทานอยู่บนถนนข้างคลอง

    ฝันเห็นงูกี่ทีกี่ที งูก็เลื้อยหนีตลอด

    แต่ตอนนี้ก็พอเข้าใจละว่าทำไม
    เพราะผมอินดี้เกินไป เลยไม่มีสาวไหนชอบ

    คุณดาราแฟพยายามดึงผมไปช่วยศาสนา
    แกก็บอกว่าผมอาจจะมีเชื้อครุฑ

    ไปแบบหลง ๆ ผมก็ไม่อยากไปหรอกนะ ผมอยากไปแบบรู้ ๆ มากกว่า

    เฮฮากันไป
     
  13. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    wZJLyZSBT9C3.jpg
     
  14. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ยังไงซะผมก็คงจะได้รบต่อไปแหละมั้ง
    เพราะผมมีความเชื่อว่า
    พระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านคงจะไม่มาเวียนว่ายตายเกิดอยู่
    และนิพพานคือการสิ้นตัณหาจึงไม่กลับมาเกิดอีก

    เพราะถ้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านยังอยู่จริง ๆ โลกนี้คงจะไม่ว่างเว้นจากพระอรหันต์แน่ ๆ ครับ เพราะ ถ้าบารมีระดับพระพุทธเจ้ามาสอนคนในดวงจิตได้นี่
    มันจะไม่มีคนบรรลุอรหันต์บ้างเลยเหรอ?

    อีกอย่าง การระรึกชาติก็น่าจะพอที่จะทำให้เหล่าพระโพธิ์สัตว์ระรึกได้อยู่แล้วว่าเคยเรียนศาสนาพุทธมา

    ดังนั้นการที่จะบอกว่า ภาคจิตของพระพุทธเจ้าทั้งหลายยังอยู่ นั้น ออกจะฟังดูไม่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไรเมื่อเทียบกับจำนวน พระอริยะในโลกในแต่ละยุคสมัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2018
  15. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ เอกนิบาตปฐมวรรค โทสสูตร



    อรรถกถาโทสสูตร สูตรที่ ๒ มีบทเริ่มต้นว่า วุตฺตํ เหตํ ฯปฯ โทสํ ดังนี้.
    ในสูตรที่ ๒ นั้นมีการพรรณนาบทตามลำดับดังนี้.
    เราจักพรรณนาบทไปตามลำดับในสูตรทั้งปวง แม้อื่นจากสูตรนี้อย่างเดียวกับสูตรนี้ เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูอัธยาศัยของบุคคลผู้มากด้วยโทสะ จึงทรงแสดงพระสูตรนี้ เพื่อระงับโทสะ ฉะนั้นจึงตรัสว่าโทสํ ภิกฺขเว เอกธมฺมํ ปชหถ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอละธรรมอย่างหนึ่ง คือโทสะได้ ดังนี้.
    ในบทเหล่านั้น บทว่า โทสํ ได้แก่ ความอาฆาตอันเกิดจากอาฆาตวัตถุ ๑๘ อย่าง คือ ๙ อย่างท่านกล่าวไว้ในพระสูตรโดยนัยเป็นต้นว่า อนตฺถํ เม อจรีติ อาฆาโต ชายติ ความอาฆาตย่อมเกิดขึ้นว่า เขาได้ประพฤติความพินาศแก่เรา ดังนี้ และ ๙ อย่างอันตรงกันข้ามกับข้างต้นเป็นต้นว่า อตฺถํ เม นาจริ เขาไม่ประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่เราดังนี้ กับสิ่งที่ไม่ใช่ฐานะมีตอและหนามเป็นต้น รวมเป็น ๑๙ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ความอาฆาตนั้นท่านกล่าวว่า เป็นโทสะ เพราะอรรถว่าเป็นเหตุประทุษร้าย หรือลงมือประทุษร้ายเอง หรือเพียงคิดประทุษร้ายเท่านั้น โทสะนั้นพึงเห็นว่ามีลักษณะดุร้าย ดุจอสรพิษที่ถูกทุบ พึงเห็นว่ามีความซ่านไปดุจถูกวางยาพิษ พึงเห็นว่ามีลักษณะเผานิสัยของตนดุจไฟไหม้ป่า พึงเห็นว่าเป็นการบำรุงความโหดเหี้ยมดุจศัตรูได้โอกาสแล้ว พึงเห็นว่าเป็นปทัฏฐานแห่งอาฆาตวัตถุตามที่กล่าวแล้ว ดุจของบูดและน้ำมูตรที่เขาทิ้งแล้ว.
    ____________________________
    ๑- อภิ. วิ. เล่ม ๓๕/ข้อ ๑๐๒๐

    บทว่า ปชหถ ได้แก่ พวกเธอจงตัดขาด.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอาฆาตปฏิวินัย (การปลดเปลื้องความอาฆาต) ไว้ ๕ อย่าง อย่างนี้ว่า๒-
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความอาฆาตเกิดขึ้นแก่ภิกษุควรปลดเปลื้องในอาฆาตปฏิวินัย ๕ เหล่านี้ อาฆาตปฏิวินัย ๕ เป็นไฉน
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความอาฆาตเกิดขึ้นในบุคคลใดพึงเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในบุคคลนั้น หรือพึงปลดเปลื้องความอาฆาตในบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า ความเป็นผู้มีกรรมเป็นของตน พึงตั้งอาฆาตปฏิวินัยในบุคคลนั้นว่า ท่านผู้นี้เป็นผู้มีกรรมเป็นของตน จักเป็นทายาทของกรรมดังนี้.
    ท่านกล่าวอาฆาตปฏิวินัย ๕ โดยนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า๓-
    ดูก่อนอาวุโส ความอาฆาตเกิดแก่ภิกษุควรปลดเปลื้องให้หมดไปในอาฆาตปฏิวินัย ๕ เหล่านี้ อาฆาตปฏิวินัย ๕ เป็นไฉน
    ดูก่อนอาวุโส บุคคลบางคนในโลกนี้ มีกายสมาจารไม่บริสุทธิ์ มีวจีสมาจารไม่บริสุทธิ์
    ดูก่อนอาวุโส พึงปลดเปลื้องความอาฆาตในบุคคลเห็นปานนั้น
    อนึ่ง พระศาสดาทรงสอนไว้ว่า๔- ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากว่าผู้ที่พิจารณาโดยกฏแห่งอาฆาตปฏิวินัยอย่างใดอย่างหนึ่งใน ๕ อย่างนั้น แล้วยังมีใจประทุษร้าย แม้ในโจรผู้ต่ำช้าที่เอาเลื่อย เลื่อยอวัยวะน้อยใหญ่จนขาดเป็นสองท่อน ก็ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ทำตามคำสอนของเราดังนี้.
    ____________________________
    ๒- องฺ. ปญฺจก. เล่ม ๒๒/ข้อ ๑๖๑
    ๓- องฺ. ปญฺจก. เล่ม ๒๒/ข้อ ๑๖๒
    ๔- ม. มู. เล่ม ๑๒/ข้อ ๒๗๒

    คนลามกเท่านั้น โกรธตอบผู้ที่โกรธ
    ผู้ไม่โกรธตอบผู้ที่โกรธ ย่อมชนะสงครามที่
    ชนะได้ยาก ผู้ที่รู้ผู้อื่นโกรธ เป็นผู้มีสติสงบ
    ระงับได้ ชื่อว่า ประพฤติประโยชน์สองฝ่าย
    คือทั้งของตนและทั้งของคนอื่น๕-
    ____________________________
    ๕- สํ. ส. เล่ม ๑๕/ข้อ ๖๓๓

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๗ ประการเหล่านี้ก่อศัตรู ทำให้เกิดศัตรู ย่อมมาสู่ทั้งสตรีหรือบุรุษผู้มักโกรธ
    ธรรม ๗ ประการเป็นไฉน
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ศัตรูในโลกนี้ย่อมปรารถนาต่อศัตรูอย่างนี้ว่า กระไรหนอผู้นี้จะพึงมีผิวพรรณเศร้าหมอง ข้อนั้นเพราะเหตุไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ศัตรูย่อมไม่พอใจ เพราะเห็นศัตรูมีผิวพรรณงาม
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนมักโกรธนี้ถูกความโกรธครอบงำ ถูกความโกรธชักนำไป แม้เขาอาบน้ำเป็นอย่างดี ลูบไล้เป็นอย่างดี โกนผมและหนวด นุ่งผ้าขาว ก็ยังมีผิวพรรณเศร้าหมองอยู่นั่นเอง
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่หนึ่งที่ก่อศัตรูทำให้เกิดศัตรูย่อมมาสู่ทั้งสตรีหรือบุรุษผู้มักโกรธ
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ยังมีอีก ศัตรูย่อมปรารถนาต่อศัตรูอย่างนี้ว่า กระไรหนอ ผู้นี้พึงอยู่อย่างลำบาก ไม่พึงมีประโยชน์มากมาย ไม่พึงมีสมบัติ ไม่พึงมียศ ไม่พึงมีมิตร เมื่อตายไปแล้วพึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ข้อนั้นเพราะเหตุไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ศัตรูย่อมไม่พอใจในการที่ศัตรูไปสวรรค์
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนมักโกรธนี้ ถูกความโกรธครอบงำ ถูกความโกรธนำไป ย่อมประพฤติทุจริตทางกาย วาจา ใจ เขาประพฤติทุจริตทางกาย วาจา ใจ เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก.๖-
    คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ คนโกรธ
    ย่อมไม่เห็นธรรม ฯลฯ๖-
    พึงละความโกรธ พึงละมานะ พึง
    ก้าวล่วงสังโยชน์ทั้งปวง ฯลฯ๗-
    ความโกรธทำให้เกิดความพินาศ
    ความโกรธทำให้จิตกำเริบ ฯลฯ
    บุคคลฆ่าความโกรธเสียได้ ย่อมอยู่
    เป็นสุข บุคคลฆ่าความโกรธเสียได้ ย่อม
    ไม่เศร้าโศก ดูก่อนพราหมณ์ ความโกรธ
    มีรากเป็นพิษ มียอดหวาน.๘-
    ท่านผู้มีปัญญาดุจแผ่นดิน ท่านจง
    งดโทษเสียเถิด บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่มี
    ความโกรธเป็นกำลัง.๙-
    ____________________________
    ๖- องฺ. สตฺตก. เล่ม ๒๓/ข้อ ๖๑
    ๗- ขุ. ธ. เล่ม ๒๕/ข้อ ๒๗
    ๘- สํ. ส. เล่ม ๑๕/ข้อ ๑๙๙
    ๙- ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๑๙๓๙

    การแนะนำภิกษุเหล่านั้นในข้อนั้นว่า เธอทั้งหลายจงพิจารณาถึงโทษในโทสะและอานิสงส์ในการละโทสะโดยตรงกันข้าม ดังกล่าวแล้วโดยนัยเป็นต้นอย่างนี้ด้วยประการฉะนี้แล้ว จงละโทสะในส่วนเบื้องต้นด้วยตทังคปหานเป็นต้น แล้วพึงขวนขวายวิปัสสนาให้เกิด จงตัดขาด จงละโทสะด้วยตติยมรรคให้หมดสิ้นไป
    ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า โทสํ ภิกฺขเว เอกธมฺมํ ปชหถ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงละธรรมอย่างหนึ่ง คือโทสะเสียดังนี้.
    บทว่า ทุฏฺฐาเส ได้แก่ ประทุษร้าย เพราะมีจิตประทุษร้ายด้วยความอาฆาต.
    บทที่เหลืออันควรกล่าวในสูตรที่ ๒ นี้ มีนัยดังได้กล่าวแล้วในอรรถกถาสูตรที่ ๑ นั่นแล.
    จบอรรถกถาโทสสูตรที่ ๒

    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=180

    .
    .
    .
    .
    ผมยังเป็นผู้ลามกอยู่.. เพราะยังโกรธตอบอยู่
     
  16. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    [๑๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่อย่างไรเล่า? ภิกษุในธรรมวินัยนี้
    จิตมีราคะ ก็รู้ชัดว่า จิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะ ก็รู้ชัดว่า จิตปราศจากราคะ จิตมีโทสะ ก็รู้ชัด
    ว่า จิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะ ก็รู้ชัดว่า จิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะ หรือจิตมีโมหะ ก็รู้ชัดว่า จิตมี
    โมหะ หรือจิตปราศจากโมหะ ก็รู้ชัดว่า จิตปราศจากโมหะ จิตหดหู่ ก็รู้ชัดว่า จิตหดหู่ หรือ
    จิตฟุ้งซ่าน ก็รู้ชัดว่า จิตฟุ้งซ่าน จิตเป็นมหรคต ก็รู้ชัดว่า จิตเป็นมหรคต จิตไม่เป็นมหรคต
    ก็รู้ชัดว่า จิตไม่เป็นมหรคต จิตมีธรรมอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ชัดว่า จิตมีธรรมอื่นยิ่งกว่า หรือจิตไม่มี
    ธรรมอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ชัดว่า จิตไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า จิตตั้งมั่น ก็รู้ชัดว่า จิตตั้งมั่น หรือจิตไม่ตั้งมั่น
    ก็รู้ชัดว่า จิตไม่ตั้งมั่น จิตหลุดพ้น ก็รู้ชัดว่า จิตหลุดพ้น หรือจิตยังไม่หลุดพ้น ก็รู้ชัดว่า จิตยังไม่
    หลุดพ้น ดังพรรณนามาฉะนี้
    ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตภายในบ้าง พิจารณาเห็นจิตในจิตภาย
    นอกบ้าง พิจารณาเห็นจิตในจิตทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในจิต
    บ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในจิตบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อม
    ในจิตบ้าง ย่อมอยู่
    อนึ่ง สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่า จิตมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่.



    http://84000.org/tipitaka/read/?12/140
    .
    .
    .
    .
    จิตตานุปัสนา

    เมื่อโกรธให้รู้ว่าโกรธ เมื่อไม่โกรธให้รู้ว่าไม่โกรธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2018
  17. pleแบม

    pleแบม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    602
    ค่าพลัง:
    +1,427
    นี่แล เห็นจิตในจิต สาธุ สาธุ
     
  18. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ผมยังเข้าไม่ถึงครับ ปัญญาเกิดในผม ช้า
     
  19. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
     
  20. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...