พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษในมุมมองของผมในฐานะช่างผู้สร้างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย glassbuddha2009, 15 ธันวาคม 2018.

  1. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    แต่ทำไมโรงงานแก้วในไทยจึงไม่สร้าง ข้อนี้คงเป็นเพราะนายทุนของเราไม่เหมือนกับนายทุนในต่างประเทศ นายทุนของเรามองว่า หากสร้างแม่พิมพ์เหล็กชุดใดชุดหนึ่ง ก็เล็งผลแบบเดียวกับการสร้างพระแก้ว คือสร้างได้จำนวนมากมายมหาศาล และสร้างได้นานหลายสิบปีหรือนับร้อยปี ซึ่งความจริงก็คือ ด้วยความบังเอิญที่พระแก้วมรกตหรือพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษทุกรุ่นทุกขนาดนั้น เป็นสิ่งที่ไทยสร้างมานานกว่า 60 ปีอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยขาดเลย และแต่ละครั้งที่ยกแม่พิมพ์ออกมาสร้างนั้น ก็สร้างได้นับพันองค์ต่อวัน หรืออย่างน้อยก็หลายร้อยองค์ต่อวัน ที่สร้างเยอะขนาดนั้นก็เพราะว่า เจ้าของโครงการฯหรือเจ้าของงานนั่นเอง เขาต้องคัดโหดมาก พระแก้วกว่าจะเข้ามือเจ้าของโครงการฯ ต้องถูกคัดโหดมาก ดังนั้น พระแก้วส่วนที่เหลือก็ต้องมีทางไปของเขา
     
  2. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ประเทศไทยเริ่มมีโรงงานแก้วครั้งแรกอย่างเป็นทางการคือเมื่อปี พ.ศ. 2498 เรียกชื่อว่า " องค์การแก้ว " ( อ.ก. ) เงินทุนแรกจัดตั้งโครงการคือ 50 ล้านบาท เพื่อให้มีสินค้าพวกแก้วให้พอใช้ทั้งในยามปกติและยามสงคราม ต่อมายุบเลิกกิจการตามพระราชกฤษฎีกายุบเลิกองค์การแก้ว พ.ศ. 2543
     
  3. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ก่อนปี พ.ศ. 2498 ไม่แน่ใจว่า ประเทศไทยเคยมีโรงงานหลอมแก้วอยู่ก่อนหรือไม่ ? และถ้ามีอยู่ก่อนเป็นโรงงานของใคร ? สร้างชิ้นงานแก้วประเภทใด ?

    ที่แน่ๆ ผมเกิดปี พ.ศ. 2498 แต่มาแจ้งเกิดปี พ.ศ. 2499 เมื่อผมมีอายุได้ประมาณ 5 - 6 ขวบ คุณพ่อผมมักพาผมไปเยี่ยมเยือนเพื่อนฝูงของคุณพ่อ ซึ่งส่วนหนึ่งของเพื่อนท่านก็คือสำนักที่สร้างพระแก้วต่างๆ รุ่นและปางต่างๆ ขนาดต่างๆ สีแก้วต่างๆ รวมเรียกว่าพระแก้วมรกตหรือพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษนั่นเอง ท่านและเพื่อนๆมักนิยมไปกินอาหารค่ำนอกบ้านกัน และมีการไปมาหาสู่กันเป็นประจำ เจ้าของสำนักฯเหล่านี้ มีประมาณหลายสิบสำนักก็จริง แต่คุณพ่อจะรู้จักสนิทสนมประมาณ 7 - 8 สำนักเท่านั้น บางสำนักฯก็เปิดสำนักมากกว่า 1 สำนัก ทั้งนี้เพราะกิจการการสร้างพระแก้วขายนั้นกำลังทำเงินเป็นอย่างมาก
     
  4. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    หลายต่อหลายครั้งที่ผมไปกับคุณพ่อผม และนั่งฟังผู้ใหญ่เขาพูดคุยกัน มักมีเรื่องที่เจ้าของสำนักฯพูดระบายความในใจของเขาเหล่านั้น หนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือ การที่โรงงานแก้วที่สร้างพระแก้วเหล่านั้น ( ส่วนหนึ่งจะเป็นส่วนใหญ่หรือส่วนน้อยปานกลางหรือเกือบทั้งหมด ผมไม่ทราบเพราะยังเด็กอยู่ ปัญหาคือโรงงานแก้วมีการลักลอบขายพระแก้ว ) จนเจ้าของสำนักฯต่างๆฟ้องศาล นี่ขนาดว่าสำนักฯต่างๆเขาก็ได้ป้องกันไว้แล้ว คือการมีชื่อสำนักฯของเขาอยู่บนองค์พระแก้วที่ฐานพระ
     
  5. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ตัดมาถึงเรื่องข่าวการมีโรงงานหลอมแก้วของรัฐบาลไทย คือองค์การแก้วนั้น ได้ดังกระฉ่อนไปถึงประเทศจีน ขณะนั้นที่ประเทศจีนมีความวุ่นวายที่เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสังคมนิยมอยู่ เจ้าของโรงงานแก้วที่มีความสามารถและมีทุนที่ต้องการออกนอกประเทศนั้นมีอยู่จำนวนมาก บางโรงงานก็ออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว บางโรงงานตั้งรากฐานใหม่อยู่ในมาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน หรืออินโดนีเซีย และบางแห่งอาจจะตั้งรากฐานอยู่ในประเทศไทยก่อนหน้าองค์การแก้วหรือไม่ โปรดพิจารณาครับ พอข่าวกระฉ่อนมากยิ่งขึ้น จึงเป็นการดึงดูดให้เจ้าของโรงงานแก้วที่อยู่ในประเทศต่างๆรอบประเทศไทย หันกลับมาดูประเทศไทย และมีบางส่วนได้เข้ามาตั้งรากฐานเพิ่มมากยิ่งขึ้นหลังปี พ.ศ. 2498
     
  6. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    เจ้าของโรงงานแก้วในไทยที่อาจมีอยู่ก่อนองค์การแก้วนั้น ขอเรียกว่า สายอาจารย์ ท.ย. ซึ่งถือว่าเป็นสายหนึ่งที่มีความสำคัญของไทย เพราะต่อมามีทายาทที่มีความสามารถและรักในวิชาการสร้างพระแก้วต่อมาจนหลังปี พ.ศ. 2540 ได้ฝากฝีมือการสร้างพระแก้วไว้ในแผ่นดินไทยและในพระพุทธศาสนาก่อนที่จะเลิกกิจการไปเมื่อปี พ.ศ. 2561 นับเป็นตำนานพ่อลูกที่เก่งไม่แพ้กัน มีแต่เก่งขึ้น เก่งขึ้นและเก่งยิ่งขึ้น ประวัติสายนี้จึงเป็นประวัติสายอาจารย์สายหนึ่งที่สำคัญอันยาวนานกว่า 63 - 64 ปี
     
  7. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    คู่ขนานกับสายอาจารย์ ท.ย. อาจจะมีอีกสายหนึ่ง ซึ่งผมไม่จำไม่ค่อยได้ว่า เป็นสายไหน อย่างไร เพราะความโดดเด่นของอีกสายมาแรงกว่ามาก สายอาจารย์อื่นๆจึงไม่ค่อยได้รับความสนใจ อย่างใดก็ดี สมัยนั้นคงมีสายอาจารย์วิชาแก้วเพียง 3 สาย คือสายองค์การแก้วซึ่งเราไม่เข้าไปแตะต้อง สายอาจารย์ ท.ย. ซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันมาพร้อมๆกับองค์การแก้ว และอีกสายที่ไม่โดดเด่น

    ส่วนสายองค์การแก้วนั้น ถือว่ามีประโยชน์ต่อโรงงานแก้วอื่นๆเพราะคนงานทั่วไปหรือช่างแก้วที่หลุดจากองค์การแก้วมาสู่โรงงานเอกชนนั้นเริ่มมีมากขึ้น รวมทั้งที่โรงงานหลอมแก้วของคุณพ่อผมด้วย ซึ่งเราได้ช่างที่เป็นอดีตทหารเรือที่มีความอดทนสูง มีความสามารถมากและว่านอนสอนง่าย มีระเบียบวินัยสูงมาก จึงทำให้งานแก้วของโรงงานคุณพ่อผมเป็นไปอย่างก้าวหน้า
     
  8. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2500 ข่าวการสร้างพระแก้วมรกตก็ดี พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษก็ดี ที่โรงงานแก้วในไทยสมัยนั้นมีการสร้างจำนวนมาก ได้ดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาตั้งโรงงานหลอมแก้วในไทยอีกเป็นจำนวนมาก โดยส่วนมากมักเป็นคนเชื้อชาติจีนที่มีความสามารถอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว บางแห่งอาจมีญาติอยู่ทางมาเล หรือบางแห่งมีญาติในอินโดนีเซีย หรือบางแห่งเป็นการก้าวเข้ามาไทยจากจีนโดยตรงก็มี ส่วนมากเป็นนายช่างที่เก่งมาแล้วในระดับหนึ่ง สามารถสร้างชิ้นงานประเภท จาน ชาม แจกัน โถ เหยือกน้ำ ที่ทับกระดาษ ได้เป็นอย่างดี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่พบอุปสรรค์ใดๆเลย เพราะยังต้องพบกับอุปสรรค์ต่างๆเช่น การหลอมทรายในไทย กับเคมีภัณฑ์ที่มีขายในไทย รวมกันเป็นสูตรหลอมเหลวแก้วนั้น ไม่เหมือนกับที่เคยผ่านมาในจีน หรือในประเทศอื่นๆ ทำให้แก้วสีที่โรงงานแก้วในสมัยนั้นหลอมนำมาสร้างชิ้นงานโดยเฉพาะพระแก้วนั้น มีสีที่ค่อนข้างเข้มเป็นส่วนมาก ยกเว้นสีใส ทั้งนี้เพื่อปกปิดความด้อยของสีแก้วที่ถ้าหากสีใสหรือจาง จะง่ายต่อการตรวจสอบ จึงต้องทำให้ไม่ง่ายต่อการตรวจสอบ ดังนั้นพระแก้วที่สร้างตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2500 ถึงประมาณปี พ.ศ. 2540 นั้น ส่วนใหญ่มักเป็นสีเข้มมาก เช่น เขียวก็ต้องเขียวสไปร้ซ เขียวเซเว่นอัพ ถ้าเหลืองก็เหลืองขวดเบียร์อะไรทำนองนั้น ยกเว้นสีใส และค่าอัลฟ่าของแก้วส่วนมากก็จะสูงกว่า 100 ค่าอัลฟ่าที่สูงกว่า 100 นี่เองที่ทำให้พระแก้วมีการแตก ร้าว เกิดจุดใน จุดเส้น เส้นปริ ปริใน หรืออื่นๆ และในที่สุดก็อาจแตกร้าว แตกวิ่งและขาดออกจากกันได้ ไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ? นานกี่สิบหรือกี่ร้อยปีจึงจะเป็นเช่นนั้น แต่จากที่ผ่านมา พระแก้วมีการแตก ร้าว บิ่น กระเทาะ ขาดจำนวนมาก เกิดขึ้นเองหลังจากการสร้างเพียงไม่กี่เดือนก็มี หรือปานกลางไม่กี่ปีก็มี หรือนานมาก มาเกิดหลังสร้างเสร็จแล้ว 20 - 50 ปีก็มี
     
  9. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    การขยายตัวของโรงงานหลอมแก้วขนาดเล็กในไทยเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อาจนับได้ถึงร้อยหรือเกินกว่าร้อยโรงหลอม บางโรงงานหลอมแก้วก็จดทะเบียนโรงงานหลายโรงงานแต่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน หรือบางแห่งก็ใช้เตาหลอมเตาเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร เหตุการณ์แบบนี้มีเกิดขึ้นทั้งในไทยและในต่างประเทศ

    โรงงานหลอมแก้วส่วนหนึ่ง ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นส่วนมากที่เป็นโรงงานหลอมแก้วขนาดเล็ก* โรงงานเหล่านี้มีส่วนน้อยที่ไม่ยอมรับงานนอกเลย กล่าวคือ โรงงานที่ไม่รับงานนอกคืออะไร คือถ้าฉันถนัดสร้างจาน ชาม ถ้วยน้ำ แก้วแชมเปญ ฉันก็จะไม่รับงานอื่นใดเลยคือเรียกว่าไม่รับงานอื่นเลย ส่วนหนึ่งซึ่งผมคิดว่าเป็นส่วนมากด้วยซ้ำไปที่เป็นโรงงานขนาดเล็ก* ยินดีรับงานอื่นๆ เช่น ปกติสร้างจาน ชาม ถ้วย แจกัน แต่ถ้ามีงานโถปั่นน้ำผลไม้ก็รับ มีงานสร้างพระแก้วเข้ามาก็รับ ผมคิดว่าเป็นแบบหลังนี้จำนวนมากกว่าแบบแรกครับ

    หมายเหตุ
    * = โรงงานหลอมแก้วขนาดเล็กคือโรงงานที่ไม่ใช่โรงงานสร้างกระจกแผ่น, ไม่ใช่โรงงานทำอิฐบล๊อกแก้ว หรืออื่นๆที่แค่เขาทำงานของเขาก็ไม่มีพื้นที่พอสร้างชิ้นงานแก้วอย่างอื่นแล้ว และเครื่องจักรของเขาก็เฉพาะด้านด้วย
     
  10. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    สถานการณ์การสร้างพระแก้วมีจำนวนมากขึ้น ทั้งจากวัด จากสำนักสงฆ์ จากพระภิกษุหรือเจ้าของโครงการฯซึ่งมีทั้งเจ้าของโครงการที่ไม่มีชื่อ ไม่ออกชื่อ และไม่พิมพ์ชื่อสำนักฯใดบนองค์พระแก้วที่ฐานเลย จำนวนการสร้างที่ถ้าหากทางวัดหรือสำนักสงฆ์สร้างมักจะไม่ค่อยเกิน 5,000 องค์ต่อรุ่นต่อขนาด และอย่างที่ทราบกันว่า เมื่อเจ้าของโรงหลอมแก้วเขารับงานมาให้สร้าง 5,000 องค์ เขาต้องสร้างขึ้นมาเป็นหมื่นองค์ ทั้งนี้เพราะส่วนมากมักมีการคัดโหด มีฟองนิดเดียวก็ไม่เอา พระเศียรเอียงนิดเดียวก็ไม่เอา มีรอยเส้นขาดนิดเดียวก็ไม่เอา หรืออื่นๆ ทั้งหมดนี้เรียกว่า คัดโหด จึงทำให้ทางโรงงานต้องสร้างเผื่อไว้ ไม่เช่นนั้นพอถึงวันนัดก็จะไม่มีพอให้คัด หลังการคัดโหดแล้ว โรงงานแก้วส่วนหนึ่งมักจะบอกว่า เขานำไปหลอมใหม่ได้ แต่ความจริงโรงงานส่วนหนึ่งไม่ได้ทำเช่นนั้น ( ผมเรียนให้ทราบว่า ส่วนหนึ่งนะครับ ไม่ใช่ทั้งหมด ) เขานำไปขายให้ตลาดมืดกัน เพราะอย่าลืมว่าสมัยนั้นพระแก้วทุกรุ่นทุกขนาดเป็นที่นิยมกันมาก มีเท่าไรไม่มีทางพอขายเลย ราคาออกโรงงานหน้าตัก 5 นิ้วสมัยนั้นองค์ละ 25.- บาท ถ้านาคปรกหรือที่มีหลายถอดก็มักจะ 48.- บาท ( ราคาก่อนปี พ.ศ. 252X ) ขณะนั้นค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 28.- บาทต่อวัน ทางตลาดมืดให้ราคา 2 เท่าของราคาออกโรงงาน เพราะเขาไม่ต้องออกค่าแม่พิมพ์เลย และเขานำไปขายได้ราคาถึง 100.- บาท ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ จนกระทั่งพ่อค้าตลาดมืดมีมากมายก่ายกองหลายสิบเจ้าหรืออาจนับเป็นร้อยเจ้าได้

    หมายเหตุ
    ค่าแรงขั้นต่ำเมื่อปี พ.ศ. 2516 วันละ 28.- บาท หรือยังไม่ได้ออกค่าแรงขั้นต่ำ แต่มาออกกฏหมายค่าแรงขั้นต่ำประมาณปี พ.ศ. 2517 วันละ 28.- บาทและขึ้นเป็น 30.- บาทในปีต่อมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2019
  11. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ราคาพระแก้วขยับขึ้นเรื่อยๆจากการที่สำนักฯสร้างพระแก้วหลายแห่งเริ่มประกาศการหยุดสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2514 โดยมีบันทึกในตำนานหรือหนังสือตำราของบางสำนักฯ บอกว่า พระแก้วมรกตก็ดี พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษก็ดี ทุกรุ่นทุกขนาดมีการหยุดสร้างโดยสิ้นเชิง ซึ่งนั่นอาจจะเป็นความจริงเพียงบางส่วนหรือไม่ ? โปรดพิจารณา เพราะคุณพ่อผมเพิ่งให้ผมเข้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตของโรงงานหลอมแก้วขนาดเล็กแห่งหนึ่งในปี พ.ศ. 2516 - 2520 และผมได้เรียนวิธีสร้างพระแก้วจากปรมาจารย์ผม และจากการที่ผมเป็นคนที่มีการไปมาหาสู่อาจารย์ช่างแก้วบางแห่ง ต่างโรงงานก็ดี ต่างสายอาจารย์ก็ดี ผมยังได้รับทราบถึงเรื่องราวเหล่านี้ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านมืดหรือด้านสว่าง

    ราคาพระแก้วค่อยๆขยับหลังจากประมาณปี พ.ศ. 2521 ค่อยๆขึ้นมาเรื่อยๆ ราคาออกโรงงานขยับมาสูงสุดดูเหมือนจะประมาณ 200.- บาทถึง 300.- บาทในรุ่นหน้าตัก 5 นิ้วและ 480.- บาทในรุ่นนาคปรกบล๊อคดี ถ้านาคปรกบล๊อคไม่ดีราคาองค์ละ 300.- บาทถึง 350.- บาท รุ่นที่มีหลายถอดก็ขยับไปใกล้ๆนาคปรกนั่นเอง ขึ้นอยู่กับบล๊อคหรือแม่พิมพ์เหล็กเป็นรุ่นที่ดี ต้องการการสร้างที่ค่อนข้างพิถีพิถันหรือไม่ ? ชนิดเห็นรอยเส้นผมไม่ได้กันเลยทีเดียว แต่กว่าจะถึงจุดนั้นก็คือประมาณปี พ.ศ. 2540 ที่เศรษฐกิจพุ่งสูงสุดแล้วก็แตก ทุกอย่างร่วงลงพื้นอย่างกับพุแตกจากวิกฤตต้มยำกุ้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2019
  12. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ขออภัยครับ ผมไปเปิดดูข่าวประชาไท พบว่าปี พ.ศ. 2516 อัตราค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 12.- บาท คือผมจำได้ว่าที่โรงงานแก้วของคุณพ่อผมใช้อัตรานี้เป็นขั้นต่ำคือ 28.- บาท ผมก็จำว่า 28.- บาท ขออภัยที่ความจริงเป็น 12.- บาทนะครับ

    https://prachatai.com/journal/2018/01/74872
     
  13. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ต่อมาต้นปี พ.ศ. 2548 ผมต้องการสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วด้วยเทคนิคการสร้างหลายๆอย่าง เช่นการเป่าแก้วด้วยปอด การกดปั๊มและอื่นๆหากสร้างได้ และด้วยเนื้อแก้วหลายชนิดมากเท่าที่จะมากได้ ผมก็ต้องการสร้างให้ครบทุกเทคนิควิธีเพื่อเป็นการฝากฝีไม้ลายมือของช่างแก้วไทยอย่างผมไว้บนแผ่นดินไทยเป็นคนแรก

    ผมได้ติดต่อเพื่อนๆและอดีตลูกน้องเก่าหลายโรงงานหลอมแก้ว สมัยนั้นคือปี 48 ทราบจากเพื่อนๆและลูกน้องเก่าว่า ในปี 48 นั้น สายสร้างพระแก้วน่าจะเหลือไม่เกิน 4 สาย จากสายสร้างพระแก้วที่กระจัดกระจายนับสิบๆสายอาจารย์ โดยไม่มีองค์การแก้วแล้ว สายที่น่าสนใจที่สุดคือสาย ท.ย. โดยมีทายาทของปรมาจารย์ ท.ย. คือโรงงานแก้วเจษฏานั่นเอง และในที่สุด ผมก็ได้ร่วมกับโรงงานแก้วเจษฏาสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่เคยมีช่างแก้วคนไทยคนใดเคยสร้างมาก่อน เพราะเราสร้างแค่หน้าตัก 5 นิ้วและเล็กกว่า
     
  14. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    นอกจากต้องการฝากฝีไม้ลายมือไว้บนแผ่นดินและไว้ในพระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นการขอขมาต่อพระรัตนตรัย ที่ผ่านมาของผม คุณพ่อคุณแม่ผม ปรามาจารย์ อาจารย์แก้ว และเหล่าทีมช่างแก้วที่เคยพลาดพลั้งไปแล้วในอดีตในการสร้างพระแก้วมรกต และ พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษทุกรุ่นทุกปางทุกขนาด โดยมีทั้งส่วนด้านมืดด้านสว่าง และที่บางครั้งอาจมีการก้าวล่วงพระรัตนตรัย ด้วยการสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วให้สมพระพุทธลักษณะ เป็นการขอขมาที่ผ่านมาของพวกผมทั้งปวง

    และเพื่อท่านที่เห็นว่าผมสร้างได้ ทุกคนก็สร้างได้ดี จะได้สร้างพระแก้วที่ไม่ใช่สุกเอาเผากินเหมือนที่ผ่านมาในอดีต คือมีทั้งตั้งใจให้พลาดก็ได้ เพราะมีตลาดมืดรองรับ และที่สร้างแบบสุกเอาเผากินที่ประมาทในพระรัตนตรัย ต่อจากนี้เป็นต้นไป ท่านที่ได้รับทราบข่าวนี้ จะได้ตั้งใจสร้างพระแก้วให้ดี ให้ทน ไม่แตก ร้าว บิ่น กระเทาะ หรืออื่นๆเหมือนในอดีตที่ผ่านมาครับ เรียกว่า ขอให้เปลี่ยนพฤติกรรมของช่างแก้วรุ่นเก่าให้เป็นคนรุ่นใหม่ สร้างพระแก้วใหม่กันดีกว่า
     
  15. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    140217103505.jpg
    ขอขอบคุณและขออนุโมทนาทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งที่ปรึกษาโครงการทั้งจากในและต่างประเทศครับ
     
  16. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    สถานการณ์หลังปี พ.ศ. 2540 ตลาดมืดอ่อนแรงลงมาก ราคาที่ตลาดมืดรับซื้อลดจากเดิมที่เคยให้ 2 เท่าของราคาออกโรงงาน มาเป็นอย่างมากที่สุดก็เท่ากับราคาออกโรงงาน เพราะตลาดพระแก้วมรกตก็ดี ตลาดพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษก็ดี มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางลดจำนวนการสร้างจากสำนักต่างๆเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะมีการสร้างอยู่ในอัตรา 1 นาทีต่อ 1 แท่นการผลิตก็ตาม โรงงานหลอมแก้วที่มีแท่นการผลิตมากที่สุดเป็นสิบแท่นการผลิต ลดแท่นการผลิตลงมาเหลือไม่กี่แท่นก็มี ขอยกตัวอย่างที่นครปฐมและใกล้เคียง ลดแท่นการผลิตมาเหลือ 1 - 2 แท่นการผลิตพระแก้วต่อโรงงานหลอมแก้ว ซึ่งผมได้ไปดูมากับตาผมเองเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2559 และยังทราบว่า ยังมีการผลิตโดยลูกน้องช่างแก้วผมคนหนึ่งที่เป็นคนไทยที่เคยทำงานที่โรงงานแก้วของคุณพ่อผมในอดีต มาเป็นหัวหน้าช่างแก้วที่นั่น

    การสร้างพระแก้วโดยโรงงานแก้วต่างๆยังไม่มีท่าทีที่จะฉีกประวัติศาสตร์เก่าๆให้หายไป คือ เปลี่ยนปางให้ใหม่ ให้ทันสมัย และการสร้างที่ต้องยังใช้ลิ่มเดือยแทงเข้าไปในองค์พระเพื่อให้เกิดโพรงอากาศ ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก มีแต่โรงงานแก้วเจษฏาเท่านั้นที่กล้าสร้างใหม่ทั้งปางและวิธีให้ดีขึ้น แต่ก็มาเลิกกิจการเสียก่อนในปี พ.ศ. 2561
     
  17. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ราคาพระแก้วหน้าตัก 5 นิ้วรุ่นหลังสุดของโรงงานแก้วเจษฏาเมื่อปี พ.ศ. 2561 นั้น ทางเจษฏาได้สร้าพระแก้วปางใหม่ หน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อแก้วโซดาไลม์ซิลิก้าที่มีค่าอัลฟ่าต่ำกว่าร้อย เนื้อแก้วตันๆกดปั๊มด้วยเทคนิค Pressed Glass และอบความร้อนด้วยเตาอุโมงค์ ไม่ใช้เตาสายพานเหล็ก ซึ่งเตาอุโมงค์นี้โดยปกติดีกว่าเตาสายพานเหล็กอยู่แล้ว และประกอบกับความตั้งใจควบคุมอุณหภูมิอย่างดี จึงน่าที่พระแก้วรุ่นนั้นจะถือได้ว่ามีคุณภาพดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนๆ ราคาออกโรงงานองค์ละ 300.- บาท
     
  18. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    ส่วนลูกน้องช่างแก้วชาวพม่าผมคนหนึ่ง มีประสบการณ์ในงานแก้วไม่ต่ำกว่า 30 ปี ได้สร้างหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หน้าตัก 5 นิ้ว ด้วยก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีการซื้อปลีกมากิโลกรัมละ 5 หยวนเพื่อมาสร้างชิ้นงานทดลอง เป็นพระยืนสูง 60 cm. 2 องค์ และในเตาเดียวกันนั่นเองก็สร้าง ลป. ทิม 10 องค์ เมื่อเฉลี่ยต้นทุนแล้ว ลป. ทิมจะตกค่าเฉลี่ยทุนองค์ละ 317.- บาท ( ปูนปลาสเตอร์ทนความร้อนกิโลกรัมละ 2 - 3 บาทจากจีนถุงละ 25 ก.ก. ) และผลออกมามีฟองอากาศที่คอหลวงปู่บ้าง ผมนำภาพมาลงให้เห็นว่า ขนาดเทคนิคที่ใช้แม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์องค์ละแม่พิมพ์ แต่เนื่องจากค่าปูนจีนแดงนั่นถูกมาก ค่าก้อนแก้วก็ถูก องค์หนึ่งๆจึงต้นทุนเพียง 317.- บาท
    003.jpg
    013.jpg
    008.jpg
    จุดฟองอากาศที่คอเกิดจากภายในทะลุออกผิวที่คอ นับว่าพอรับได้หากราคาไม่สูงนัก ผมเห็นว่านี่ก็อาจเป็นอีกมิติหนึ่ง ที่จะพลิกประวัติศาสตร์การสร้างพระแก้วให้พ้นจากยุคเก่าๆที่มีทั้งความมืดและความสว่าง ให้เหลือแต่ยุคใหม่ที่มีแต่ด้านสว่างเพียงด้านเดียวครับ
     
  19. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    1525778011250.jpg 1525778313016.jpg 1525778120722.jpg
    ผมให้ดูได้เฉพาะในส่วนที่ลูกน้องช่างแก้วชาวพม่าผมทำนะครับ ส่วนของคนอื่นคงเปิดเผยของเขาไม่ได้ แต่บอกได้ว่าไม่สำเร็จครับ ทั้งนี้ ผมไม่ก้าวล่วงการกระทำของลูกน้องช่างแก้วชาวพม่าท่านนี้ครับ ส่วน ลป. ทิมนั้นผมเคยนำมาแจกในเวปพลังจิตโดยบอกตรงๆว่ามีจุดฟองอากาศทะลุผิว ไม่มีคนรับเลย ผมจึงแจกไปในกลุ่มคนรู้จักแล้วครับ ทุกคนที่ได้รับบอกว่า ฟองอากาศที่ทะลุคอเป็นที่ยอมรับได้ครับ
     
  20. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,102
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,807
    a13.png
    ถึงแม้ลูกน้องช่างแก้วชาวพม่าคนนี้จะมีประสบการณ์นานถึงกว่า 30 ปีมาก่อน แต่เรายังต้องมีความรอบรู้ และรู้ให้ลึกถึงวิชาที่ที่เรากำลังจะสร้างพระแก้วซึ่งเป็นของสูงสุด พระแก้วไม่ใช่สินค้า แต่อดีตที่ผ่านมา กลายเป็นสินค้า ผมขอให้พวกเราหันกลับมาเห็นแก่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พวกเราเคารพบูชาเต็มที่ สร้างและทำในสิ่งที่ดีถึงที่สุดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...