อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 14 มกราคม 2019.

  1. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    รอติดตามอยู่นะคับ อัพเดทด้วยนะคับ
     
  2. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ต้องระวัง "ผู้แปลกประหลาด กับ ผู้วิปลาศพิเศษ" เอาไว้ด้วยเน้อ .....
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ แล้วเมื่อไร จึงจะมี "สติรู้ การระลึก ถูกรู้" ละ

    +++ วิธีทำ

    +++ ให้ "ระลึกรู้ แล้วในขณะที่ รู้อยู่ ก็ให้ ระลึกรู้ซ้ำอีกที"
    +++ ตรงนี้ "การระลึก จะถูกรู้ เพราะ มันรู้อยู่แล้ว นั่นเอง"

    +++ ทำให้ได้ "นิสัย" แล้ว "การระลึก ทุกชนิด จะถูกรู้"
    +++ จากนั้น "เจตนา/เจตสิก ทุกชนิด จะถูกรู้ ไปเอง (เจโตปริยะญาณ)"
    +++ จากนั้น "กิริยาจิต ทุกชนิด จะถูกรู้ อยู่ดี (จิตตา+ธัมมา นุปัสสนาสติปัฏฐาน)"

    +++ แล้วจะ "เป็นรู้/สภาวะรู้" ได้ด้วยตนเอง
    +++ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นั่นหมายถึง "ตนที่แท้"
    +++ ตนที่แท้ คือ "สภาวะรู้" ทำได้เมื่อไร ก็รู้ได้เมื่อนั้น นะครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 4
    • อนุโมทนา อนุโมทนา x 3
    • โกรธ โกรธ x 2
    • ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย x 1
    • ดูรายการ
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ท่าน Fallenz ตรวจทานให้ด้วยจิฮับ
     
  5. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    อุ่ย! ไม่กล้าหรอกคับ อินทรีย์อ่อนอย่างผมคงไม่กล้าชี้แนะอะไร อีกอย่างไม่มีพระสงฆ์องค์เจ้าท่านกำกับ เกรงว่าจะเคลื่อนจากหลักปฏิบัติที่ควรคับ

    ยากจังคับ รู้ในรู้ เนี่ย ...
     
  6. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ สันทิฏฐิโก "ทำเอา ก็จะรู้ได้ด้วย ตนเอง" "คนที่ไม่ได้ทำ ไม่มีทางรู้"
    +++ อกาลิโก "ทำเมื่อไร ก็ ได้เมื่อนั้น"
    +++ เอหิปัสสิโก "มาพิสูจน์ ได้เลย"
    +++ โอปะนะยิโก "เดินจิต ให้ได้"
    +++ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ "คนไหนทำ คนนั้นรู้ มโนเอาเองไม่ได้"

    +++ ลุงแมว "ชำเลืองรู้ได้" แล้ว "ชำเลืองทับซ้อนมันเข้าไป" ก็จะ รู้ ได้เอง
    +++ ถามจริง ๆ มันยากนักเหรอ "ตรวจเอง (สันทิฏฐิโก/เอหิปัสสิโก/โอปะนะยิโก)" ไม่เป็นเหรอ ...
    +++ ภาษาบาลีมันรู้เรื่องยาก ภาษาอังกฤษ เรียกว่า "Take action" ไปเลย
    +++ ภาษาไทยก็ง่าย ๆ คือ "ลุยส์โลด ..." มันยากส์ตงหนัย เหรอ...
     
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ไม่ยากร๊อก ไปให้ลุงแมวสอน "ชำเลืองรู้" แปปเดียว ก็เป็นแล้ว ไม่ยากส์... ร๊อก
     
  8. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ขอบคุณคับที่กรุณาผู้น้อยคับผม
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ท่านธรรมชาติกะท่านนพกาญจน์
    คือผู้โปรด ตัวจริงที่ทนทานต่อการพิสูจน์ฮับ
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    สมองเละ1
    สมองเพี้ยน1
    2 อาการนี้ก็จัดเป็นภัยพิบัติของมนุษย์ชาติเช่นกันฮับ
    แต่มันจะวุ่นวายมากกว่าโลกแตก
    มากมายนัก
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    กะมูว้นี้ไทยไม่มุงเ
    พราะคนเพี้ยนไม่มาแจมฮับ
     
  12. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    เราๆ ก็เพี้ยนกันเองได้นี่คับ เดียวก็มาตรึม

    เอิ้กๆ
     
  13. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C1.jpg
     
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ไม่ได้ต้องเพี้ยนของแท้ เพราะไทยมุงจะ
    มองออก ฮับ
    ต้มไทยมุงไม่ได้หรอกฮับ
     
  15. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +920
    สวัสดี...เจ้าของกระทู้คุณ Neoworld ครับ...

    ผมก็คิดเช่นกันว่า อย่างที่หัวข้อกระทู้บอกเลยอะครับ

    "อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง" นั่นแหละครับดีที่สุดแล้วล่ะ

    ซึ่งนอกจาก อยู่กับตัวเองเเล้ว ก็ต้องพิจารณาตัวเองไปพร้อมกันด้วยอะครับ และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นไปด้วย ที่ผู้อื่นคอยเตือน,คอยแนะแนวทางให้เรา จะได้รู้ว่าเรามีข้อผิดพลาดตรงไหน สำหรับตัวผมก็รับฟังนะครับ ไม่ใช่เฉพาะโลกโซเชียลอย่างเดียว โลกแห่งความเป็นจริงผมก็รับฟังอะครับ อย่างที่ใครหลายคน ตามกระทู้ต่างๆ ของเว็บพลังจิตนี้พิมพ์ ผมก็พยายามอ่านทุกประโยค ทุกข้อความที่เป็นคำสอนเตือนสติ ต่างๆ อะครับ แม้กระทั่ง
    "คุณสงบ" ผมก็รับฟังเค้าเหมือนกันอะนะ แต่ผมคิดว่า "คุณสงบ" เค้าก็ยังไม่สงบเหมือนชื่อเค้า เท่าไหร่อะนะ ยังมีลักษณะของอาการกระวนกระวายใจ,สับสน,คิดมาก,โมโห อยู่เหมือนกันอะนะ ผมจึงรับฟังบางอย่างของเค้าที่เค้าพูด แต่บางอย่างก็ปล่อยผ่านไม่ค่อยสนใจอ่านเท่าไหร่อะครับ
     
  16. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ความเคยชินกับการอยู่มายาจิต
    คือจิตระดับ
    สามัญสำนึกเราจะใช้ข้อมูลและเหตุผล
    ในการตัดสินว่าสิ่งใดพอใจ
    สิ่งใดไม่พอใจ
    ต่อเมื่ิิอสติจะมา ถึงจะรู้สึกตัวว่า
    สิ่งทั้งหลายที่สัมผัสทางตาหูจมูก
    ลิ้นกายใจ ล้วนเป็นสิ่งสมมุติฮับ
     
  17. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    +++ ให้ "ระลึกรู้ แล้วในขณะที่ รู้อยู่ ก็ให้ ระลึกรู้ซ้ำอีกที"
    +++ ตรงนี้ "การระลึก จะถูกรู้ เพราะ มันรู้อยู่แล้ว นั่นเอง"
    สอบถามท่าน ธรรมชาติครับ ในข้อนี้ ตัวที่ 1 เห็นว่ามีการปรุงแต่ง ตัวที่ 2 รู้ว่ามีการปรุงแต่ง ตัวที่ 3 เห็น 1 กับ 2 แบบนี้หรือเปล่าครับ รู้สึกว่ามันอยู่คนละจุดกันด้วย(หรือผมมโนไปเอง) แล้วต้องดึงเข้ากฏไตรลักษณ์ หรือเปล่าครับ
    แต่พอดึงเข้ากฎไตรลักษณ์มันก็เป็นไปตามนั้นเป็นของมันอย่างนั้น มันก็เย้เหย่ ไม่ดูต่อแล้ว

    สำหรับผมมองว่านอบน้อมในความจริง ปฏิบัติให้เห็นจริง แล้วมันจะอยู่อย่างเบิกบานโดยตัวของมันเองครับท่านนีโอ แต่ตอนนี้ผมงงกับตัวเองอยู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2019
  18. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ใช่ฮับ.... ถ้าจมอยู่กับความหลงที่เข้าใจว่า
    ผัสสะต่างๆ ที่มาจากตาหูจมูก ลิ้น กายใจ
    เป็นสิ่งที่น่าพอใจบ้าง ไม่น่าพอใจบ้าง
    ไปไปมามา เข้าเข้าออกออกป่วนจิตใจ
    ตลอดเวลามันก็เบิกบานจริงๆ
    ไม่ได้หรอกฮับ
    ปัญญาจากจิตว่างเท่านั้น จึงจะเห็น
    ความจริง
    คือธรรมะจากสิ่งสมมุติปรุงแต่งเหล่านี้ฮับ
     
  19. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    จิตไม่ว่างเห็นอะไรก็เป็นทุกข์ไปหมด ความคิดมารอีกคอยแต่จะสกัดความสุขเราเราคิดดีมันจะคิดลบแทรกสอดอยู่เรื่อย ทำไงจะหยุดคิดได้ซะที
     
  20. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ สำหรับคุณ คนโง่โง่

    +++ ให้เดินจิตตามให้ทันนะ 1. "ระลึกรู้" แล้วสังเกตุผลลัพธ์ (ลงมือทำเลย แล้วค่อย ๆ อ่านไปนะ)

    +++ อธิบายขั้นตอน เทียบกับ "การปฏิบัติ" ณ ปัจจุบัณขณะของ "ผู้ที่ลงมือทำ"
    ========================================
    +++ ในการ กำหนดจิต/เดินจิต ในวาระจิตแรก "ระลึกรู้" เมื่อกำหนดแล้ว ย่อมได้อาการ "รู้ตัว/รู้สึกตัว" เป็นผลลัพธ์

    +++ โดยธรรมชาติของ การเดินจิต หลังจาก เดินจิตในวาระแรก (มโนกรรม) แล้ว วาระที่ 2 คือ "วิบากกรรม" จะตามมา
    +++ แต่เนื่องด้วย การเดินจิตแรก "เป็นมรรค (สติปัฏญาน 4)" วิบากที่ตามมาจึง "เป็นผล (วิบาก)" เรียกสั้น ๆ ว่า "มรรค/ผล"

    +++ ผลลัพธ์ ตรงนี้จะได้ "สติ เป็น วิหารธรรม" เป็น "อาการรู้ ที่เป็น สภาวะเบื้องต้น" เรียกว่า "อยู่กับรู้ ในขั้นแรก"
    ========================================
    +++ อ่านถึงตรงนี้ "ให้ระลึกรู้" อีกครั้งหนึ่ง
    +++ ให้เดินจิตตามให้ทันนะ 2. ระลึกรู้ซ้ำอีกที ณ ขณะที่ยัง "รู้ตัว/รู้สึกตัว" อยู่

    +++ อธิบายขั้นตอน ที่เกิดขึ้นกับ "ผู้ที่ลงมือทำ" ณ ขณะนี้นะ
    ========================================
    +++ ครั้งนี้ จะมีข้อแตกต่างทันทีที่ "ระลึก" มันจะกลายเป็น "การระลึกนั้น ๆ จะถูกรู้" ในทันที
    +++ และจะ "รู้อาการ" ของกิริยาที่เรียกว่า "วาระจิต/เจตสิก ณ ขณะที่ ระลึกซ้ำ ตรงนั้น" ทำ ณ ตอนนี้นะ

    +++ ตรงนี้จะ "เห็น" อาการของ "สัญญาขันธ์ (ตัวระลึก/อาการระลึก)" ตรงนี้ "ขันธ์ จะเป็น รูปธรรม" ในทันที
    +++ คนที่ "ลงมือทำ ตามที่กล่าวมาเท่านั้น จะเห็น ขันธ์ ตรงนี้ได้" มันเป็น "อาการที่ รับรู้ได้" ณ ขณะปฏิบัติ เท่านั้น
    ========================================
    +++ ให้ลงมือ "ทำซ้ำ อีกสัก 2-3 รอบ" มันไม่เกิน 1 นาทีไปได้หรอกนะ "ทำเลย"
    ========================================

    +++ ตอบคำถาม ตามอาการที่ "เกิดขึ้นจริง ณ ปัจจุบัณขณะ"

    +++ คำถามนี้ "ยังไม่ ตรง กับปัจจุบัณขณะ"
    +++ ปัจจุบัณขณะ ก่อนการ "ระลึกรู้" นั้น "มันยังไม่รู้/ไม่เห็น อาการใดทั้งสิ้น"

    +++ ให้ "ระลึกรู้" อีกครั้ง ก็จะ รู้ ได้เองว่า...

    +++ จะรู้ได้ ก็ต่อเมื่อ "ทำการ ระลึกรู้ ไปแล้ว" จากนั้น "การปรุงทั้งหลาย จึงหยุดไป"
    +++ ดังนั้น ณ ขณะจิตที่ 1 "จะยังไม่เห็น การปรุงแต่ง"
    +++ ณ ขณะจิตที่ 2 "การปรุงแต่ง ดันดับไป ณ ขณะจิตที่ รู้/รู้สึก ตัว"
    +++ ดังนั้น ณ ขณะจิตที่ 2 "ก็จะยังไม่เห็น การปรุงแต่ง (อยู่ดี เพราะมัน ดับไปแล้ว)"

    +++ การทำให้ "เห็น" ณ ตรงนี้ จะเกิดขึ้นหลังจาก "อยู่กับรู้" ไปแล้วเท่านั้น นอกนั้น "ไม่รู้"
    +++ ตรงนี้จึงเป็น ณ ขณะที่ 2

    +++ ให้ "ระลึกรู้" อีกครั้ง
    +++ พยายาม "อย่าใช้คำศัพท์ว่า ตัว ในกรณีที่มัน ไม่มีอาการของ ตัว เกิดขึ้น"
    +++ การใช้ภาษาที่ผิด จะทำให้ การเดินจิต ผิดไปหมด ถ้าจะใช้ "ควรใช้ภาษา ดังนี้"

    +++ เปลี่ยนจาก "ตัวที่ 2 รู้ว่ามีการปรุงแต่ง" มาเป็น
    +++ ขณะที่ 2 รู้ว่ามี "ตัวปรุงแต่ง"
    +++ เพราะขั้นตอนนี้ การปรุงแต่งกลายเป็น "รูปธรรม (กิริยาจิต)" ที่จับต้อง ได้แล้ว

    +++ ทำ "ระลึกรู้" อีกครั้ง

    +++ ณ ขณะที่ "อยู่กับ รู้" สัญญาขันธ์ แห่ง "การระลึก ถูกรู้" จะเป็น "กิริยาอาการ ตัว/ตน สัมผัสได้ ในทันที"
    +++ และ ณ ขณะนี้ จึงใช้คำศัพท์ว่า "ตัวปรุงแต่ง" ได้ตามความเป็นจริง เพราะมัน "เป็นตัว จริง ๆ"

    +++ ทำ "ระลึกรู้" อีกครั้ง ว่า "ตัว ระลึก ถูกรู้" "มีตัว" หรือไม่ นะ...

    +++ คำศัพท์ตรงนี้คือ "ขณะที่ 2 รู้ว่า มีตัวปรุงแต่ง"
    +++ ตรงนี้จึงเป็น "ภาษาที่ ตรงตามอาการ" จริง ๆ
    +++ นี่แหละ "พิษ" ของการใช้ภาษาที่ "ไม่ตรง" กับอาการ

    +++ การที่จะ "เห็น" 1/2 ได้นั้น มันจะ "เลยขั้นตอนนี้ ไปไกลมากแล้ว"

    +++ องค์ประกอบของ "ขณะ/วาระ ที่ 3" นั้น นอกจาก 1. ระลึกถูกรู้ (ตัวระลึก) แล้ว
    +++ ยังมี "ตัวดู ที่คอยเข้าเชื่อมต่อ กับตัวระลึก (ตัวสัญญาขันธ์)"
    +++ ก่อนที่มันจะ "ปรุงแต่งอุตลุด กลายมาเป็น สังขารขันธ์"
    +++ ตรงนี้ เป็นขั้นตอนของ "อัตตา ถูกรู้" ซึ่งผมจะ ยังไม่กล่าวในที่นี้

    +++ ทำ "ระลึกรู้" อีกครั้ง
    +++ จนคุ้นเคยกับ "ตัวระลึก ถูกรู้" ให้ได้ก่อน

    +++ หากผมโพสท์ เกินขั้นตอนนี้ออกไป มันจะ "ย้อนกลับมา เป็นภัย ต่อการปฏิบัติ ในขั้นตอนนี้ได้"

    +++ ให้ "ทำการระลึกถูกรู้" จนกว่าจะ "สำเหนียก ถึง การเชื่อมต่อ กับ ตัวระลึก"
    +++ โดย "รู้ที่ กิริยาเชื่อม" เท่านั้น ก่อนที่จะ ทำการ "เดินจิต เข้าถึง ผู้/ตัวเชื่อม"
    +++ ตรงนี้เรียก "อุปาทานขันธ์" แต่ ขอให้วางเอาไว้ก่อน ณ ที่ "ตัวระลึก ถูกรู้" นะ
    +++ อย่าดึง เป็นอันขาด "ตัวดึง นั่นแหละ ตัวสัญญาขันธ์" ต้องระวังให้ดี ๆ
    +++ พอ "ดึงปุ๊บ กฏไตรลักษณ์ ก็ หายปั๊บ ทันที" ก็เลย กลายเป็น "ไม่รู้" ต่อไป
    +++ หากยัง "อยู่กับรู้" ไม่ชำนาญ ก็ อย่าไป "ดึง (ที่เป็น การเชื่อมของ อุปาทานขันธ์)" เข้ามา
    +++ เพราะมันจะ "บดบัง การ อยู่กับรู้" ไปโดยอัตโนมัติ ใน "วาระจิตเดียว" นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...