‘หนิง’เล่านาทีวูบคาบ้าน ใช้ธรรมะบำบัดจนดีขึ้น

ในห้อง 'บันเทิงและศิลปวัฒนธรรม' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 15 มีนาคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    ก่อนหน้านี้สาว หนิง–ปณิตา เครียดจัดจนเป็นลมล้มลงไปที่บ้าน จนสามีหนุ่ม จิน ต้องรีบหามสาวหนิงส่งโรงพยาบาลทันที ทำเอาเพื่อนๆหลายคนรวมทั้งแฟนคลับเป็นห่วงกันมากๆ ส่งกำลังใจไปเชียร์ยกใหญ่ ล่าสุดสาวหนิงมีอาการดีขึ้นและกลับไปรักษาตัวที่บ้านแล้ว ซึ่งสาวหนิงก็ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวผ่านทางรายการคุยแซ่บ show ด้วยว่า

    e0b8a5e0b988e0b8b2e0b899e0b8b2e0b897e0b8b5e0b8a7e0b8b9e0b89ae0b884e0b8b2e0b89ae0b989e0b8b2e0b899.jpg

    “จริงๆหนิงต้องยอมรับว่าทำงานเยอะคือวันก่อนหน้าที่จะล้มหมดสติไป ไม่ได้นอนมาประมาณ 2 คืน ตอนกลางวันนั่งคุยกับคนเขียนบท พอตกกลางคืนก็ต้องนั่งตรวจบท ก็ดูไปดูมาเรื่อยๆ ซึ่งเวลากลางคืนจะเป็นเวลาที่ทำงานได้ดีที่สุดเพราะกลางวันเราต้องอัดรายการ ดูแลบ้านและลูก ไหนจะต้องเอาลูกเข้านอนด้วยฉะนั้นจึงเลือกทำงานกลางคืน แล้วตอนเช้าเราก็ต้องมาทำงานอีก ก็เกิดจากการที่เราพักผ่อนน้อย แล้วก็เครียดเรื่องงานด้วย ซึ่งตอนนั้นมันวูบแล้วก็ลงไปเลย แต่เกิดอาการน็อคแล้วหัวฟาดเบาะ โชคดีที่มันยังมีเบาะนิ่มๆรองรับอยู่ แล้วพอลงไปเสร็จปุ๊บ เราก็ไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนมารู้สึกตัวอีกทีก็คือเหมือนนอนอยู่บนอะไรสักอย่าง แล้วจะขยับตัว มันเหมือนสัญชาตญาณของคนที่ตื่นนอนแล้วต้องขยับตัวขึ้นมา เราก็เอ๊ะทำไมร่างกายซีกขวาของเราขยับไม่ได้ก็เลยตะโกนบอกคุณจินว่า “ขยับไม่ได้ ขยับไม่ได้จริงๆไม่ได้แกล้งนะ” มันรู้สึกเจ็บที่ท้ายทอยเหมือนมีอะไรทิ่มอยู่ จะว่าชาก็ไม่เชิงนะเหมือนไม่มีแรง หลังจากนั้นก็นำส่งโรงพยาบาล คุณหมอก็ให้ทำ MRI 2 รอบ รอบละวันแล้วก็ทำ CT Scan และก็มีเอกซเรย์ต่างๆ ซึ่งเราก็ยังไม่รู้รายละเอียด แต่คุณหมอบอกว่าก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”

    b8a5e0b988e0b8b2e0b899e0b8b2e0b897e0b8b5e0b8a7e0b8b9e0b89ae0b884e0b8b2e0b89ae0b989e0b8b2e0b899-1.jpg


    “ตอนนี้ก็คิดว่าตัวเองดีขึ้นนะ หลังจากวันที่เราล้มลงไป แล้วก็เกิดอาการจำไม่ได้ด้วยว่าใครมาเยี่ยมบ้าง จะรู้ก็เพราะเห็นภาพการแท็กจาก IG หรือ Social ต่างๆ แล้วที่ดีขึ้นก็เพราะว่ายายเอาหนังสือธรรมะมาให้อ่าน แล้วหนิงก็พยายามที่จะอ่านและก็อยู่กับตัวเอง กำหนดลมหายใจเอง ทำในสิ่งที่ตอนที่เราบวชเราได้ฝึกปฏิบัติมาแล้วก็บอกกับตัวเองว่า ใจเป็นคนสั่งกาย ถ้าใจสั่งกายไม่ได้ กายจะแย่ แล้วถ้ากายเราแย่เมื่อไหร่ ลูกเราแย่แน่ๆ ตอนนั้นห่วงที่สุดคือลูก ห่วงณิรินที่สุดในโลก ซึ่งเขาก็มาเยี่ยมตลอดเข็นรถเข็น ป้อนข้าวป้อนน้ำ ทำทุกอย่างเหมือนนางพยาบาลเลย จากนั้นอยู่ๆมันก็ค่อยๆดีขึ้นเอง จริงๆสิ่งที่หนิงได้จากเรื่องนี้ก็คือความพอดีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ต้องประมาณตัวเองคืออย่าทำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่ามันโหลดหรือหนักเกินไป พอถึงเวลาที่เรารู้สึกว่ามันตึงไป เราก็ต้องผ่อนบ้าง ที่สำคัญจิตสั่งกายอันนี้คือเรื่องจริง ใจเราจะเป็นตัวที่กำหนดเลยว่าเราจะเดินไปในทิศทางไหน ถ้าใจเราแข็งแรงเมื่อไหร่นะ ร่างกายต่อให้เราป่วยก็ยังไงก็ไหว ตอนนี้ถามว่าป่วยไหม ก็ป่วยแต่ว่ายังไหว คือไหวที่จะมาทำงานค่ะ”

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.dailynews.co.th/entertainment/698644
     

แชร์หน้านี้

Loading...