กรรมเก่าของผมเมื่อสมัยเป็นเทวทัต กำลังจะหมดไป

555 ผมเอาจริงๆ หน่ะฮับเข้าถึงความเย็นสบายยยย

 

มันต้องเปิดใจคุยกันครับ
แอบลักแอบขโมยแอบฟัง มันก็เข้าไม่ถึง หรอกครับ
ธรรม เขาสอนกันแบบ ใจถึงใจครับ

หมอจะรักษาคนป่วยได้ไง ถ้าอยู่คนละที่
จะให้หมอบอกสูตรยา แล้วเอาไปปรุงเอง รักษากันเองที่บ้านหรือครับ

โอ้ววว..แม่สาวน้อย..

 

อะโฮลนิวเวิลด์...อยู่เคียงข้างเธอ ไม่สนใจใคร..จะไปทุกหนทุกแห่ง สุดแรงของใจ..เพียงฉันได้...อยู่ในโลกเดียวกับเธอ..

 

ง่ายๆเลยนะ

เอาจิตดูกายให้ทั่วกายอยู่ตลอดวัน...กายตยคติ
การเอาสติอยู่กับกาย ก็คือ เอาสติดูกายใจตลอดทั้งวัน..นี่แหล่ะ
ง่ายที่สุดละ ดู..รู้ตาม..

ดูกายใจ รู้ตามกายใจ

ดังนั้น การที่สติอยู่กับกายใจ มันอยู่ของมันอยู่แล้ว
แต่การดูกายใจ ดูการทำงานของผัสสะกายใจ นี่แหล่ะ ต้องทำให้เป็น

 

ไม่ไช่นั่งดูลมนะ ...ไม่ไช่นั่งสมาธิ

แต่ เป็นการเอาสติ ดูกายใจทำงาน..ถ้าดูเป็น..ทำปุ๊บจะสงบปั๊บเลย...
ทำได้ทั้งวัน ทั้ง ยืนเดินนั่งนอน..ต่อเนื่อง..ให้ได้

 

บางคนเรียก เอาสติอยู่กับตัว
บางคนบอก รู้ตัวตลอดเวลา
อาจสับสน ไม่เข้าใจ

แต่ถ้าบอกว่า เอาสติตามดูตามรู้ กายทั้งกาย นี่แหล่ะ ต้องแบบนี้
มันต้องเหมือน ตามดู...ให้เป็น

ถ้าตามดูเป็น มันจะสงบเลย ทั้งกายใจ...ไม่ต้องสนว่า จะรู้หรือไม่รู้ อะไร

ตามดูทั้งกาย ให้เป็น...ก่อน
ถ้าทำได้จริง ดูกายเป็นจริงๆ นี่ นิวรณ์ทั้งหลาย หมดเลยนะ

จะเหมือน นั่งสมาธิไปถึง มี วิตกวิจารปีติสุข...ครบเลยนะ เข้าสภาวะนี้เลยนะ

 

สติปัฏฐานสี่ กายตยคติ นี่นะ

คือ สติดูทั้งกายได้ทั่วกาย...ครบสี่ฐานเลยในคราวเดียวเลยนะ
การที่ทำได้ สติดูกายได้ ถึงจะเรียกว่า สติดูครบทั้งสี่ฐาน

ลักษณะที่เรียกว่า ดูได้ครบทั้งสี่ฐาน แปลเป็นนัยยะว่า..สติแยกออกมาจาก การทำงานของกายใจแล้ว คือ แยกออกมาแล้ว ไม่ร่วม ไม่รวมกันอยู่นั่นเอง แยกเพราะ ดูกายเป็น

 

ส่วนเรื่องขันธ์5 เป็นสภาวะอรูป...
1.มีอากาศ เป็นอารมณ์ คือ รู้ว่าว่างแบบไร้ขอบเขต
2.มีวิญญาณเป็นอารมณ์ คือ ยังรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่ ไม่หยุดรู้
3.มีความไม่มีอะไรเป็นอารมณ์ คือรู้ว่าไม่มีอะไรให้อยากรู้อีกแล้ว แต่ก็ยังมีรู้อยู่
(วิญญาณรู้ สะท้อนให้เห็นว่ามีตัวรู้ และสิ่งที่ถูกรู้)
(ไม่มีอะไร ก็สะท้อนให้เห็นว่ามีตัวที่รู้อยู่)
4. มีความขาดๆหายๆของการรู้อยู่ ไม่แน่ใจว่า เป็น รู้ที่สัญญา หรือ รู้มาจากไหน)

สุดท้าย ก็ต้องหาวิธี ดับสัญญา หรือดับที่ตัวรู้ (อภิสัญญานิโรธ)

มันจะต้องิไล่เรียง มาตามลำดับนะ เรื่อง ขันธ์ห้านี่
เพื่อ หา ที่มาของตัวรู้ ..ว่า มันมาจากไหน..

แต่ก็อย่างที่ว่า คือ มันต้องผ่านการดูกายให้เป็นก่อน..เห็นการทำงานของผัสสะก่อน
รู้การทำงานของผัสสะกายใจ ให้ได้ก่อน..ถึงจะเรียกว่า เข้าสู่สภาวะอรูปได้จริงๆ

ผัสสะกายใจ จะได้ไม่มารบกวน ...ได้

 

ง่ายมั้ย นี่ง่ายสุดแล้วนะ
ทำให้ได้ ทำให้เป็น ทำให้ถูก ดูกายให้เป็น สติปัฏฐานสี่ให้เป็น

ได้คำตอบที่สั้นๆแล้วนะ

จบนะ ถ้าไม่ทำนี่ ไม่จบนะ ไม่รู้นะ

 

555 ง่ายพอพอกะถอดเสื้อเลยฮับ

 

บางคนอาจเข้าใจผิดว่า...อากิญจัญ..คือ ความไม่มีอะไร คือ สุญตา คือความว่าง ..(ว่าง ไม่ว่าง คือ ว่าง...)

บางคนอาจเข้าใจว่า เนวาเนวะ คือ ..ไม่มีคือมี ..มีคือไม่มี...ก็ได้นะ หรือบางคนจะคิดว่า เห็นขันธ์ห้ามันเกิดๆดับๆ ว่าวงจรสมุปกิจบาทมัน ขาดๆต่อๆ ก็ได้นะ
บางคนเห็น สัญญามันเกิดๆดับๆ มีหริอไม่มี ก็ได้นะ

ตกลงเรารู้อะไรนะ..?
ตกลงเรารู้หรือเราไม่รู้กันแน่นะ.?

ตกลง นิพพานคือ อะไร ตรงไหนกันแน่นะ.?

 

ส่วนลุงแมวไม่สงสัยฮับ
เพราะยังไม่ฮู้เฮื่อง 555

 

เนวาเนวะ คือ สัญญาเกิดๆดับๆ คือ รู้ว่ามีสัญญาบ้างรู้ว่าไม่มีสัญญาบ้าง คือ รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง คือ มีอัตตาบ้าง ไม่มีอัตตาบ้าง (เข้าใจว่า ว่าง ไม่ว่างนั่นแหล่ะคือ ว่าง)

เอ๊ะ..
แล้วมันรู้มาจากไหน.?
สัญญามาจากไหน.?
อัตตามาจากไหน.?

ธรรมคู่ตรงข้ามของความมีอัตตา คือ ..ความอนัตตา

 

รอวันเธอว่าง...

ขอเวลา สามนาที บอกกับพี่ตรงไปตรงมา น้องรักใครอยู่ เปิดใจให้รู้ เสียเลยดีกว่า ..น้องรู้มั้ยหนอ พี่รอเวลา รอวันขวัญตา ว่างรัก จะขอสมัคร เป็นแฟนขวัญตา จะขอสมัครเป็นแฟนขวัญตา มีเวลาให้พี่บ้างใหม จะมีเวลาให้พี่บ้างไหม

โถทำไม น้องทำเมิน หลอกพี่เดิน เทียวมาเทียวไป...หรือมีงานหนัก อ่านจดหมายรัก เสียจนเป็นไข้ ถ้ากวนใจน้อง ต้องขออภัย รอวันขวัญใจ ว่างจริงจริง วันนี้จะนิ่งไม่กวนขวัญตา วันนี้จะนิ่งไม่กวนขวัญตา มีเวลาให้พี่ปีไหน จะมีเวลาให้พี่ปีไหน

 

วันนี้ แปลกๆ เนอะลุง

เศร้าๆ นิดนึง

เหมือนบางท่านกำลังจะลาลับไป อย่างเงียบๆ

 

ตรงนี้ ข้าผู้น้อย ก็ไม่ทราบขอรับ...
ท่านMEN1 กราบสวัสดีครับ

 

สวัสดีครับ

ไม่ทราบไม่เป็นไรครับลุง

แต่ลุงแมวน่าจะพอทราบนะครับ

จิตเป็นเนื้อเดียวกับจักรวาลแล้ว ในสัพพัญญูนี้

ย่อมน่าจะสัมผัสการมอดของชีวิตได้บ้างแล้ว

อิอิ

 

อืม มีเหตุมีผล ครับ ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ
ลุงแมวนี่ ผู้มีอิทธิพล มีบารมี ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ

 

พอท่าน MEN1 พูดถึง การลับลา หัวใจผม มันรู้สึก แน่นๆครับ อึดอัด
ต่อ สภาวะ ดังกล่าว ที่ต้องสูญเสีย..ข้าผู้น้อยน้อมส่งครับ

 

วันนี้ถ้านอน ถอยออกมาจากฝัน สักนิดนึงนะครับ

ประมานระดับนึง ได้แบบนั้นจะดีทีเดียวเน้อ....

อิอิ

^_^