ติดตามสถานะการณ์

เกิด #พายุฤดูร้อน ถล่มหาดทรายท้ายเขื่อน ที่ด่านช้าง สุพรรณบุรี หนีกันวุ่น ชุ้มพังราบเป็นหน้ากอง รถยนต์เสียหายไปหลายคัน.

 

นานมากเคสนี้ ที่มาที่ไปโคตรยาว มันเริ่มจากสิบห้าปีก่อน นักปีนเขากลุ่มนึง ไปปีนเขาที่ เขาสามยอด ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของยอร์กเชียร์ แล้วนักปีนเขากลุ่มนี้ก็ไปเจอ ศพเปลือยครึ่งท่อนของ ญ คนนึงหลังโขดหินในลำธาร สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย เพราะเสียชีวิตประมาณหนึ่งถึงสามสัปดาห์ก่อนคนพบศพ จนท นิติเวชที่นั่นไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ อวัยวะภายในเน่าเปื่อยจนชันสูตรหาสาเหตุไม่ได้ ที่ จนท รู้คือ เป็นหญฺงเอเชีย อายุราวๆ 25-35 สูงราวๆ 149 หนักประมาณ 63 รู้แค่นั้น จนท ในพื้นที่เรียกเคสนี้ว่า "สตรีแห่งขุนเขา" แล้วชาวบ้านในพื้นที่ ก็ทำพิธีศพให้เธอ ส่วน จนท ก็เก็บตัวอย่างไว้ เพื่อวันนึงอาจหาเบาะแสได้ว่าเธอคือใคร หรือพิสูจน์ตัวตนของเธอแล้วพาร่างของเธอกลับบ้านไปหาครอบครัวของเธอ

แล้วเคสนี้ก็ถูกรื้อคดีมาทำอีกครั้งตอนปี 2016 ในฐานะคดีที่ยังปิดไม่ลง จนท สอบสวนชุดใหม่มาสืบสวนและตั้งสมมุติฐานว่า เคสนี้น่าจะเป็นสาวชาวไทย ที่แต่งงานกับชาวอังกฤษ แล้วย้ายมาอยู่ที่อังกฤษในช่วงที่เกิดเหตุ

จนท เลยรื้อเคสนี้มาทำใหม่อีกรอบ โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ที่สิบห้าปีก่อนไม่มี คือการวิเคราะห์ไอโซโทปของธาตุต่างๆ เช่น คาร์บอน ไนโตรเจน ในร่างของผู้ตายว่าก่อนตายเธอเคยอยู่อาศัยที่ไหน (อันนี้ตรวจย้อนหลังได้สองปี) จนได้ข้อมูลว่าเธอน่าจะอยู่อาศัยในอังกฤษแถวๆไหน แล้วการสอบสวนก็ขยายผลมาเรื่อยๆ มีการไปเก็บข้อมูลจากครอบครัวชาวไทย ที่ลูกสาวไปแต่งงานกับชาวอังกฤษ และหายสาบสูญไปเมื่อสิบห้าปีก่อน จนในที่สุด วันนี้ตำรวจอังกฤษก็สามารถยืนยันได้ว่า เธอคือ ลำดวน สีกันยา ชาวไทยจากอุดรธานี ที่แต่งงานกับแฟนหนุ่มชาวอังกฤษ ก่อนจะหายสาบสูญไปเมื่อสิบห้าปีก่อน โดยยืนยันจากลายนิ้วมือ และหลักฐานยืนยันอื่นๆ เช่น รอยตำหนิบนฟันของผู้ตายซึ่งตรงกับของลำดวนตามที่พ่อแม่เขาเล่าเด๊ะๆว่ามีรอยบิ่นบนฟันหน้าซี่ไหน และการพิสูจน์ DNA ก็ยืนยันว่าเป็นเธอจริงๆ

สื่ออังกฤษก็ตามมาสัมภาษณ์สามีของเธอถึงบ้านของเขาในไทย และเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการตายของลำดวนทั้งสิ้น ส่วนตำรวจที่ทำเคสนี้ เมื่อรู้แล้วว่าเธอคือใคร ก็ประกาศขอเบาะแสจากปชช ทั้งชาวอังกฤษ ชาวไทย ใครที่มีข้อมูลของเธอช่วงเกิดเหตุ ให้ติดต่อไปทาง จนท ด้วย เพราะเขาจะหาหลักฐานมาสอบสวนหาสาเหตุการตายของเธอต่อจากนี้ไป

https://northyorkshire.police.uk/ne...nt-body-cold-case-investigation-can-you-help/

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 19) ผู้ผลิตอะลูมิเนียมใหญ่นอร์เวย์ถูกโจมตีไซเบอร์กระทบการผลิต: นอร์สก์ไฮโดร ผู้ผลิตอะลูมิเนียมใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนอร์เวย์กำลังรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เย็นวันจันทร์ กระทบต่อการผลิตและส่งผลให้ราคาหุ้นตก


การโจมตีที่รุนแรงขึ้นในช่วงกลางดึกกระทบต่อระบบไอทีของบริษัท มีผลต่อการทำงานเกือบทั้งหมด โรงถลุงของบริษัทในนอร์เวย์ กาตาร์ และบราซิลต้องเปลี่ยนมาควบคุมด้วยมือ บริษัทแถลงว่า กำลังควบคุมและแก้ไขการโจมตี แต่ยังไม่รู้ขอบเขตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ด้านสำนักงานความปลอดภัยแห่งชาตินอร์เวย์ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์เผยว่า ได้รับแจ้งจากบริษัทในเช้าวันนี้ ขณะนี้กำลังให้ความช่วยเหลือด้วยการประสานกับหน่วยงานอื่น ๆ ในประเทศและหุ้นส่วนในต่างประเทศ

นอร์สก์ไฮโดรมีพนักงาน 36,000 คนใน 40 ประเทศ ปีที่แล้วรายได้อยู่ที่ 159,400 ล้านโครน (ราว 592,165 ล้านบาท) กำไรสุทธิ 4,300 ล้านโครน (ราว 15,972 ล้านบาท) รอยเตอร์ระบุว่า ปกติแล้วนอร์เวย์แทบไม่เคยถูกโจมตีภาคธุรกิจ กรณีหลังสุดเกิดขึ้นกับวิสมา บริษัทซอฟทต์แวร์เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน แฮกเกอร์ที่ทำงานให้หน่วยข่าวกรองจีนเจาะระบบเข้ามาขโมยความลับของลูกค้าบริษัท

Source: สำนักข่าวไทย


https://www.bbc.com/news/technology-47624207

 

เมื่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง กระทบการส่งออกของกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
11 มีนาคม 2019
รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ


นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ที่มาภาพ : https://www.theepochtimes.com/stimu...a-at-chinas-two-sessions-meeting_2825716.html
เมื่อวันอังคารที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ในที่ประชุมประจำปีของสมัชชาแห่งชาติจีน นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ได้กล่าวรายงานต่อที่ประชุมว่า รัฐบาลจีนกำหนดการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2019 ไว้ที่ 6-6.5% โดยจีนจะดำเนินการไปสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงขึ้น ท่ามกลางสภาพความไม่แน่นอนมากขึ้นของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แต่นับจากปี 2015 เป็นต้นมา เศรษฐกิจจีนมีอัตราเติบโตที่ต่ำกว่า 7% แต่ในปี 2019 จีนจะยังคงสร้างงานในเขตตัวเมืองให้มากกว่า 11 ล้านงาน

การที่รัฐบาลจีนกำหนดให้การเติบโตทางเศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำลง สอดคล้องกับการคาดการณ์ของธนาคารโลกที่ระบุว่า ในปี 2019 การเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงเหลือ 6.3% ส่วนในปี 2020 จะอยู่ที่อัตรา 6.2% เพราะการผลิตด้านอุตสาหกรรมและการส่งออกของจีนเริ่มขยายลดตัวลง

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ New York Times ก็รายงานข่าวว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมากกว่าที่รัฐบาลจีนได้กล่าวไว้ เช่น ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 เศรษฐกิจจีนขยายตัวที่ 6.4% โดยทั้งปี 2018 ตัวเลขของรัฐบาลจีนระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัว 6.6% ซึ่งเป็นอัตราต่ำที่สุดนับจากปี 1990 เป็นต้นมา

บทบาทจีนต่อเศรษฐกิจโลก
จีนเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีบูรณาการอย่างมากกับห่วงโซ่อุปทานการผลิตของโลก ที่มากกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป Nicholas R. Lardy ผู้เชี่ยวชาญจีนของ Peterson Institute for International Economics กล่าวว่า จีนเป็นตลาดนำเข้ารายใหญ่อันดับ 1-10 ของการส่งออกกว่า 100 ประเทศในโลก เช่น จีนเป็นตลาดการส่งออกแร่เหล็กรายใหญ่สุดของออสเตรเลีย หรือชิลีส่งออกทองแดงมากสุดมาที่จีน

เพราะเหตุนี้ เมื่อเศรษฐกิจจีนเกิดชะลอตัวลง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกว่า 100 ประเทศ เพราะการนำเข้าจากจีนจะลดลง จีนเป็นประเทศที่มีมูลค่าการนำเข้ามากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ แต่การนำเข้าของจีนกระจายสู่ประเทศต่างๆ มากกว่าการนำเข้าของสหรัฐฯ ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund – IMF) ประเมินว่า หากเศรษฐกิจจีนเติบโตลดลง 1% การเติบโตของเศรษฐกิจโลกก็จะลดลง 0.25% หากเศรษฐกิจจีนเติบโตในระดับเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว คือปีละ 2% การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะลดลงถึง 1%

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ก็รายงานผลการวิจัยของบริษัท Capital Economics ว่า ในทศวรรษข้างหน้านี้ การเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวมาอยู่ที่ 2% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของสถาบันเศรษฐกิจอื่นๆ โดย Capital Economics กล่าวว่า เพราะจีนเข้าสู่การเป็นประเทศ “เศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ธรรมดาทั่วไปอีกประเทศหนึ่ง”

Capital Economics กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราที่ลดลงครึ่งหนึ่ง ในอีก 10 ปีข้างหน้า หากจีนยังเติบโต ท่ามกลางปัญหาโครงสร้าง การเติบโตจะลดลงมาครึ่งหนึ่งเช่นกัน ปัญหาเศรษฐกิจโครงสร้างของจีนคือ การใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีประสิทธิภาพ รัฐวิสาหกิจยังมีฐานะนำ บริษัทเอกชนขาดแคลนแหล่งเงินลงทุน ปัญหาหนี้สินที่พอกพูนขึ้น และนับจากปี 2012 เป็นต้นมา ประชากรในวัยทำงาน ช่วงอายุ 16-59 ปี มีจำนวนลดลงมาตลอด ปี 2018 ลดลงถึง 4.7 ล้านคน

เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเทศในเอเชีย เพราะมีเศรษฐกิจเอเชียมีการเชื่อมโยงกับจีน ผ่านการผลิตห่วงโซ่อุปทานโลก (global supply chain) ในปี 2017 การศึกษาของธนาคารโลกกล่าวว่า 60-70% ของการค้าโลกเกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายการผลิตของโลก การผลิตชิ้นส่วน และการผลิตสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ที่มีการค้าข้ามพรมแดน ก่อนที่จะถูกนำมาประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปแล้ว จีนจึงเป็นตัวอย่างของประเทศกำลังพัฒนาเพียงไม่กี่ประเทศ ที่มีบูรณาการอย่างลุ่มลึกกับห่วงโซ่คุณค่าการผลิตของโลก


ที่มาภาพ : https://sg.news.yahoo.com/hong-kong-macau-develop-thrive-024523237.html
ปัจจัยความสำเร็จในอดีต
การจะเข้าใจอนาคตการเติบโตของเศรษฐกิจจีน จำเป็นต้องเข้าใจปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวสูงมากในอดีต 40 ปีที่ผ่านมา จากประเทศที่ยากจนในปี 1978 กลายเป็นมาประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ในบทความชื่อCan China’s High Growth Continue? ของ Rischard N. Cooper ที่พิมพ์อยู่ในหนังสือชื่อ The China Questions (2018) กล่าวถึงปัจจัย 7 ประการที่ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราที่สูงปีละกว่า 10% ต่อเนื่องกันนานถึง 30 ปี

ปัจจัยแรกคือ การเปลี่ยนแปลงระบบการจัดสรรทรัพยากร จากการวางแผนของรัฐในระบบสังคมนิยมมาสู่การอาศัยกลไกตลาด หมายความว่า ครัวเรือนและบริษัทธุรกิจตัดสินใจเองในเรื่อง การบริโภคและการลงทุน โดยพิจารณาจากราคาของสินค้าต่างๆ ที่ขึ้นกับกฎอุปสงค์และอุปทาน รวมทั้งราคาสินค้าในประเทศ ยึดโยงกับราคาสินค้าในเศรษฐกิจโลก

ปัจจัยที่ 2 การเปลี่ยนแปลงนโยบายของจีน จากการอยู่โดดเดี่ยวมาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก เริ่มต้นด้วยการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อส่งเสริมการผลิตเพื่อส่งออก นอกจากนี้ จีนยังส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งในแบบการร่วมลงทุน และที่ต่างประเทศเป็นเจ้าของกิจการทั้งหมด เป้าหมายในตอนแรกคือการได้เงินตราต่างประเทศ ต่อมาเป็นเรื่องการนำเข้าเทคโนโลยี ทักษะการตลาด และการจัดการ มายังจีน

ปัจจัยที่ 3 ที่ผลักดันการเติบโตเศรษฐกิจของจีน มาจากการอาศัยประโยชน์จากคนจีนโพ้นทะเล ที่มีทักษะความชำนาญด้านการค้า ต่อมากลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับตลาดโลก นักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลรู้ดีว่าสินค้าแบบไหนที่ขายได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป และยังรู้ช่องทางตลาด ทำให้การค้าต่างประเทศจีนประสบความสำเร็จ ดังนั้น ในระยะแรกๆ การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจึงมาจากคนจีนในฮ่องกง ไต้หวัน และจากที่อื่นๆ


ที่มาภาพ : amazon.com
ปัจจัยที่ 4 คือสิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า ดอกผลจากประชากร (demographic dividend) คือสัดส่วนประชากรในวัยทำงานของจีน (อายุระหว่าง 16-64 ปี) เมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด ในปี 1990 มีสัดส่วน 66% และเพิ่มถึงจุดสูงสุด 74% ในปี 2012 เมื่อสัดส่วนประชากรวัยทำงานดังกล่าว เข้าสู่การผลิตมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเติบโตเพิ่มเป็นอย่างมาก ทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมและรายได้ประชากรต่อคน

ปัจจัยที่ 5 ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน คือการเคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคเกษตรมาสู่ภาคเศรษฐกิจ ที่มีผลิตภาพมากกว่า ปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไปกับประเทศยากจน ที่เดิมแรงงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตร มีผลิตภาพต่ำ ยกเว้นในช่วงเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว ในปี 1980 แรงงานจีน 70% อยู่ในภาคเกษตร ในปี 2016 ลดลงมาต่ำกว่า 30% มีรายงานการศึกษาที่ระบุว่า การเคลื่อนย้ายแรงงานนี้มีส่วนทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตถึง 1.1-1.3% ต่อปี

ปัจจัยที่ 6 คือการออมและลงทุนที่สูงของจีน บางส่วนของการลงทุนมาจากรัฐวิสาหกิจและรัฐบาลท้องถิ่น แต่การลงทุนจำนวนมากมาจากบริษัทใหม่ๆ ที่ตั้งขึ้นมาตามเมืองต่างๆ ตัวอย่างเช่น การลงทุนสร้างที่พักอาศัยสำหรับแรงงานในเมืองที่มีรายได้สูงขึ้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องการบริการที่จำเป็นของเมือง เช่น ระบบประปา ถนน ไฟฟ้า และการขนส่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นระบบขนส่งระหว่างเมือง เช่น การสร้างท่าเรือ สนามบิน ทางหลวง และรถไฟ

และปัจจัยสุดท้าย คือ การศึกษา นับจากทศวรรษ 1950 จีนมีนโยบายจัดการศึกษาฟรีระดับประถมศึกษา ทำให้ชาวนาสามารถอ่านออกเขียนได้ในระดับขั้นต่ำ ในกลางทศวรรษ 1980 จีนขยายการศึกษาฟรีจนถึงระดับมัธยม ส่วนระดับอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยก็รับนักศึกษาจำนวนมากขึ้น ในปี 2016 ประมาณ 30% ของเยาวชนจีน มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เทียบกับในต้นทศวรรษ 1980 มีเพียง 2%

ภาวะติดลบของปัจจัยที่เคยเป็นบวก
ปัจจัย 7 ประการดังกล่าว ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว แล้วปัจจัยเหล่านี้จะยังมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในอนาคตหรือไม่ บทความเรื่อง Can China’s High Growth Continue? กล่าวว่า ยกเว้นปัจจัยเรื่องการศึกษา ปัจจัยอื่นๆ ที่เหลือจะมีบทบาทน้อยลงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน ทุกวันนี้ จีนประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่เศรษฐกิจแบบกลไกตลาด จะมียกเว้นก็ในเรื่องธนาคาร พลังงาน และโทรคมนาคม เพราะฉะนั้น การปฏิรูปเศรษฐกิจ คงจะมีส่วนน้อยลงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา

การค้าต่างประเทศของจีนก็จะมีส่วนลดน้อยลงไปต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ช่วงทศวรรษ 1980 ถึงปี 2010 การส่งออกของจีนที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์ เพิ่มขึ้นปีละ 17% ทำให้จีนกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก ในอนาคต การเติบโตด้านการส่งออกของจีน จะปรับตัวลดลงมาเหลือ 5-7% ต่อปี โดยสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

ส่วนดอกผลจากประชากรในวัยทำงาน ก็มาถึงจุดสูงสุดในปี 2012 เมื่อจำนวนประชากรวัยทำงานเทียบกับประชากรทั้งหมดมีสัดส่วนสูงสุด หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีสัดส่วนลดลง แสดงถึงประชากรจีนที่สูงอายุมีมากขึ้น ส่วนแรงงานภาคเกษตรของจีนมีสัดส่วนต่ำกว่า 30% ของแรงงานทั้งหมด ในอนาคต การอพยพแรงงานจากภาคเกษตรจะยังมีส่วนทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ก็จะไม่มากเท่าในอดีต

รัฐบาลจีนเองก็มองเห็นการอ่อนตัวของปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ จึงกล่าวถึงอัตราการเติบโตแบบ “ปกติใหม่” (new normal) โดยแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ครั้งที่ 13 (สำหรับปี 2016-2020) ก็กำหนดให้การเติบโตเฉลี่ยที่ 6.5% ต่อปี โดยมาเน้นเรื่องการสร้างนวัตกรรมให้เป็นปัจจัยที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต และการสร้างดุลยภาพใหม่ให้เศรษฐกิจ จากการพึ่งพิงการส่งออกและการลงทุน มาเป็นการอาศัยการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น

บทความเรื่อง Can China’s High Growth Continue? กล่าวว่า หากเศรษฐกิจจีนจะเติบโตต่ำกว่า 6.5% ใน 10 ปีหน้าหน้า หรือจะต่ำกว่า 5% ในอนาคตต่อๆ ไป สิ่งนี้ก็ไม่ถือเป็นความล้มเหลว เพราะเศรษฐกิจที่เติบโตลดลงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับพื้นฐานของภาวะเศรษฐกิจ ไม่ใช่เกิดจากนโยบาย

เอกสารประกอบ
Can China’s High Growth Continue? Richard N. Cooper, in The China Questions: Critical Insights into a Rising Power, edited by Jennifer Rudolph and Michael Szonyi, Harvard University Press, 2018.
The State Strikes Back, Nicholas R. Lardy, Peterson Institute for International Economics, 2019.
China growth to slow to 2 per cent over next decade, South China Morning Post, March 8, 2019.


https://thaipublica.org/2019/03/pridi135/

 

ข่าวฮ่องกง

ตัดสินจำคุกพ่อข่มขืนและลวนลามลูกสาว 9 ปี 3 เดือน


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาศาลได้ตัดสินจำคุกพ่อผู้ข่มขืนและลวนลามลูกสาว 9 ปี 3 เดือน โดยผู้เป็นพ่อไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิดหลังต่อการล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวถึง 6 ครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อครั้งที่ลูกสาวยังเรียนอยู่ในโรงเรียนประถม


ผู้เป็นแม่ได้ทราบเรื่องเมื่อลูกสาวของเธอเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเมื่อปี 2014 เมื่อครั้งที่พ่อของเธอกำลังติดคุก 10 เดือน เนื่องจากคดีทำร้ายลูกสะใภ้ที่พิการทางสมอง โดยลูกสาวเล่าว่าพ่อที่มีอายุ 63 ปีได้ข่มขืนเธอ (ช่วงอายุ 9-11 ปี) โดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัยในขณะที่เธอกำลังนอนอยู่บนเตียงที่แบ่งกันนอนกับน้องชาย หลังจากนั้นเธอพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีกด้วยการไปนอนที่โซฟาแทนแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เธอกลับมานอนเตียงที่แบ่งกันนอนกับน้องชายอีก แต่ช่วงกลางดึกผู้เป็นพ่อก็มาอุ้มน้องชายออกไปนอนที่โซฟาก่อนจะข่มขืนเธอ


เธอไม่กล้าที่จะแจ้งตำรวจในเวลานั้น แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจในปี 2017 หลังได้พูดคุยกับคุณครู


ทั้งนี้ผู้เป็นพ่อไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิดหลังถูกถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้นกับลูกในไส้ เขาตอบกลับตำรวจว่า “มันก็เหมือนการกินข้าว ถ้ามันอร่อยคุณจะกินมันแค่ครั้งเดียวเหรอ?”


Source :


#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน


FAO ร้องเวียดนามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดไม่หยุด

.

รอยเตอร์ 20 มี.ค.- องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) แนะนำให้เวียดนามประกาศให้การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน

.

ไวรัสชนิดนี้พบครั้งแรกในเวียดนามเมื่อเดือนก่อนที่ฟาร์ม 3 แห่ง ใน 2 จังหวัดทางภาคเหนือ และได้แพร่กระจายไปยัง 17 จังหวัดในภาคเหนือของประเทศ โดยมีการยืนยันการระบาดแล้ว 239 จุด ตามคำแถลงของ FAO

.

การบริโภคเนื้อหมูมีสัดส่วนถึง 3 ใน 4 ของการบริโภคเนื้อสัตว์ทั้งหมดในเวียดนาม ประเทศที่มีประชากรราว 95 ล้านคน โดยหมูเลี้ยงในฟาร์มส่วนใหญ่ซึ่งมีมากกว่า 30 ล้านตัว ถูกใช้บริโภคภายในประเทศ

.

“หมูที่สูญเสียไปเนื่องจากการติดเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรและมาตรการการควบคุม ก่อให้เกิดภาระทางเศรษฐศาสตร์อย่างหนักต่อชาวชนบทหลายครอบครัว” ผู้แทน FAO ในเวียดนาม กล่าว หลังประชุมกับเจ้าหน้าที่เวียดนามเมื่อสัปดาห์ก่อน

.

เวียดนามดำเนินการควบคุมความเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวดกับหมูและผลิตภัณฑ์จากหมู และกำจัดหมูไปมากกว่า 25,000 ตัว แต่ FAO กล่าวว่า ฟาร์มขนาดเล็กที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพต่ำจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้

.

โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรที่ไม่สามารถรักษาได้ในหมู แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์นี้ ยังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศจีน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนได้ประกาศห้ามนำเข้าหมู หมูป่า และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องจากเวียดนาม.

 

กรมอุทยานฯ เตรียมอุทธรณ์คดีเสือดำ หลังเจ้าสัวเปรมชัย พ้นข้อหาครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง #เสือดำ แต่มีความผิดแค่ครอบครองซากไก่ฟ้า ด้านหัวหน้าทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ระบุวัตถุพยาน-ซากสัตว์ป่า เสือดำ ไก่ฟ้า รอยกระสุนปืนเชื่อมโยงถึงพฤติการณ์ล่า #ThaiPBSnews

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว ตลาดของก๊อปสะเทือนหนักมาก!!! เมื่อล่าสุด ทางการจีนประกาศใช้มาตรการหนักปราบปรามผู้ผลิตสินค้าเลียนแบบ สินค้าปลอม โดยจะสั่งปรับหนักขึ้นจนกว่าจะล้มละลายไป ไม่เพียงเท่านั้น หัวหน้าคณะกรรมาธิการกำกับดูแลกฎระเบียบในตลาดสินค้า ประกาศซ้ำ กลุ่มละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา-ค้าของปลอมจะถูกเปิดโปงต่อสาธารณชนและจะไม่มีที่จะหลบซ่อนตัวภายใต้แสงตะวันได้อีก!!


ในการแถลงรายงานประจำปีของศาลประชาชนสูงสุดแห่งจีนต่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน หรือสภานิติบัญญัติ (NPC) ระบุว่า ในช่วงปีที่แล้ว (ค.ศ.2018) มีคดีฟ้องร้องละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถสรุปได้จำนวนมากถึง 288,000 คดี คิดเป็นอัตราเพิ่ม 42% ต่อปี


Source : thaiquote - https://bit.ly/2TfZr4H


โดยเรื่องนี้ จาง เหมา หัวหน้าคณะกรรมาธิการกำกับดูแลกฎระเบียบในตลาดสินค้าของจีน เผยว่า สาเหตุที่จำนวนคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทวีจำนวนมากขึ้นเพราะศาลสูงสุดให้ความสำคัญกับการคุ้มครองทรัพย์ทางปัญญา ขณะที่ประชาชนก็ตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น โดยศาลสูงสุดได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ เป็นศาลระดับชาติในปักกิ่ง เพื่อรับเรื่องฟ้องร้องคดีละเมิดลิขสิทธิ์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังจัดตั้งศาลพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญา 19 แห่งทั่วประเทศในปีที่แล้วอีกด้วย


อนึ่ง จีนวางแผนผลักดันการรักษาวินัยในตัวเองของกลุ่มบริษัทและรักษาระบบเครดิตสังคม โดยมีเป้าหมายลดจำนวนสินค้าปลอมและบรรเทาความวิตกกังวลของประชาชน.

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง


หลายฝ่ายสงสัยพี่จีนอาจสร้างฐานทัพอากาศในกำพูชาหรือไม่(แค่สงสัยอาจไม่จริงก็ได้):ภาพถ่ายดาวเทียมเปิดเผยว่ากลุ่มบริษัทพัฒนาร่วมจากประเทศจีน ได้สร้างสนามบินใน"จังหวัดเกาะกง"ในประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามมีการตั้งคำถามว่าทำไมสนามบินจึงมีทางวิ่งยาว รันเวย์มีความยาวประมาณ3,400เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าสนามบินนานาชาติในกรุงพนมเปญ และสามารถรองรับเครื่องบินทุกลำในกองทัพอากาศจีนได้ จากรายงานของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอนิ่งโพสที่ได้หยิบยกคำพูดของนายGregory Polingซึ่งเป็นผู้อำนวยการริเริ่มความโปร่งใสทางทะเล ที่เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ:


http://alert5.com/2019/03/17/is-china-constructing-an-air-base-in-cambodia/

 

Clima Extremo 24

MEXICO

เม็กซิโกลงทะเบียนเกือบ แผ่นดินไหว 60 ครั้ง ใน 12 ชั่วโมงหลังจากการระเบิดที่รุนแรงของภูเขาไฟ Popocatépetl

จำนวนมากที่สุดของการเคลื่อนไหว telluric รู้สึกได้ในภาคใต้ของประเทศ

รายงานแผ่นดินไหวอย่างน้อย 58 ครั้ง ขนาดระหว่าง 2.5 และ 4.4 ใน 8 ภูมิภาคของเม็กซิโกใน 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จำนวนมากที่สุดของการเคลื่อนไหว telluric (37) เกิดขึ้นในรัฐทางใต้ของโออาซากา นอกจากนี้ยังมี 11 ครั้งในเชียปัส; 3 ครั้ง ในมิโชอากัง; 2 ครั้ง ในฮาลิสโกและเกร์เรโร และอีก 1 ครั้ง ในโคลิมาบายา แคลิฟอร์เนีย และเวราครูซ

ไม่ทราบว่ามีการบาดเจ็บ ล้มตาย หรือเกิดความเสียหาย รวมถึงสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ Popocatépetl ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ในตอนกลางของประเทศได้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง เมื่อเวลา 21:38 น. (เวลาท้องถิ่น) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยขว้างวัสดุ ยองเหนือกรวยและปล่อยเถ้าออกมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ การประสานงานแห่งชาติของการคุ้มครองพลเรือนของรัฐปวยบลา

การระเบิดเกิดขึ้นพร้อมกับคอลัมน์ของก๊าซและเถ้าสูง 1.2 กิโลเมตร

นอกจากนี้ในเดือนกันยายน 2560 ประเทศได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวสองครั้ง เมื่อวันที่ 7 กันยายนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่รุนแรง มีผู้เสียชีวิต 102 รายในโออาซากา เชียปัส และทาบาสโก

เมื่อวันที่ 19 กันยายนเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิต 369 ราย รวมถึง 228 คนในเม็กซิโกซิตี้ บ้านเรือนกว่า 180,000 หลังได้รับความเสียหายในภาคใต้ และศูนย์กลางของประเทศ และอีก 2 ล้านคนได้รับความเสียหายทางทรัพย์สิน

 

อีก5ปีถึงที'เทศกิจ'... #ถ่ายโอนภารกิจ #เทศกิจเขียนใบสั่งแทนตำรวจ #อีก5ปี #เดลินิวส์

 

Clima Extremo 24

อินโดนีเซีย



ภูเขาไฟโบรโมแห่งใหม่ในชวา อินโดนีเซีย ส่งเสียงดังเอี้ยด ด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟจำนวนมากที่ตกลงมาในหมู่บ้านใกล้เคียง

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



หลังจากการระเบิดของภูเขาไฟโบรโมทิ้งเถ้าถ่านไว้รอบ ๆ หลังจากที่มีเถ้าถ่านภูเขาไฟจำนวนมากไหลลงสู่เมืองใกล้เคียง

 

La nueva era de la tierra - respaldo

ไม่กี่วันหลังจากผลกระทบของพายุไซโคลน idai ในโมซัมบิก ชาวบ้านยังคงต้องหลบภัยอยู่ด้านบนของบ้าน (หลังคาบ้าน) เจ้าหน้าที่กังวลว่าผู้เสียชีวิตจะเกิน 1,000 คน ในอีกไม่กี่วันถัดไป

2019/03/19

 

La nueva era de la tierra - respaldo

Beira โมซัมบิก เมืองที่ถูกทำลาย 90% โดย ไซโคลน idai

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าผู้เสียชีวิตอาจเกิน 1,000

 

John Traczyk

19 มีนาคม 2019 ลูกเห็บที่กระทบในเขตทางตอนใต้ของประเทศจีนในวันนี้ โดยลูกเห็บดังกล่าวว่ามีขนาดใหญ่เท่ากับไข่

ชาว Jinping ในมณฑลยูนนานทางตอนใต้ของจีน ตื่นขึ้นมา พบว่ารถยนต์ของเขาถูกทำลาย หน้าต่างรถยนต์ถูกทุบ และถนนถูกปกคลุมด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่

ลูกเห็บขนาดใหญ่ทุบเขตพื้นที่ซึ่งอยู่ติดกับเวียดนามเป็นเวลาประมาณ 20 นาทีในตอนเช้า ทำให้การจราจรติดขัดในพื้นที่ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต



March 19, 2019. A freak hailstorm hit a county in southern China today with hailstones said to be as big as eggs.


Residents of Jinping in southern China's Yunnan Province woke up to find their cars destroyed, windows smashed and streets covered by massive lumps of ice.


Huge hailstones hammered the county, which borders Vietnam, for about 20 minutes early in the morning, leaving the local traffic in chaos. No casualties have been reported.


https://www.dailymail.co.uk/news/ar...ze-eggs-batter-Chinese-county-20-minutes.html

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง


พนักงานสถานทูตสหรัฐพยายามลักลอบชิ้นส่วนระเบิดออกจากรัสเซีย: โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย"มาเรีย ซาคาโรวา"ชี้ว่า มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าอังกฤษมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังความพยายามของพนักงานสถานทูตสหรัฐ ที่จะลักลอบชิ้นส่วนระเบิดออกจากรัสเซียผ่านสนามบินSheremetievoเส้นทางการบินกลับสหรัฐของพลเมืองชาวสหรัฐผู้นี้นัันต้องผ่าน"อังกฤษ"ก่อน แม้ว่าจะมีเส้นทางบินตรงรัสเซีย-สหรัฐ และจำนวนเที่ยวบินที่เหลือเฟือ: จะเกิดอะไรขึ้นหากชาวสหรัฐผู้นี้สามารถ"ลักลอบชิ้นส่วนระเบิด"รัสเซียออกนอกประเทศได้ และไปปรากฏในดินแดน"อังกฤษ"คงไม่ต่างอะไรจากกรณี"สารพิษโนวิช็อค"ที่อังกฤษกล่าวหาว่ารัสเซียใช้ลอบทำร้าย"อดีตสายลับและลูกสาว"โฆษกซาราโรวากล่าว: เธอคาดการณ์ว่าหากชิ้นส่วนระเบิดนี้ถูกลักลอบออกจากรัสเซียไปได้และไปปรากฏที่อังกฤษ รัสเซียจะโดนกล่าวหาโดนใส่ร้ายหาว่า"มุ่งโจมตีพลเมืองอังกฤษ"และระเบิดดังกล่าวจะกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ/เจ้าหน้าที่สหรัฐคนดังกล่าวถูกตรวจสอบพบวัตถุระเบิดที่สนามบิน โดยเขาได้กล่าวอ้างว่านำกลับไปเพื่อการสะสม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัสเซียได้ยึดระเบิดดังกล่าวไว้ และเจ้าหน้าที่สหรัฐได้เดินทางกลับนิวยอร์กสหรัฐด้วยเที่ยวบินอื่น:://///

http://tass.com/politics/1048891

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 20) นาง Theresa May ร่างจดหมายถึงสหภาพยุโรปเพื่อขอเลื่อนกำหนดการ Brexit ออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2019 : นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร อยู่ระหว่างร่างจดหมายถึงสหภาพยุโรปเพื่อขอเลื่อนกำหนดการ Brexit ออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2019 เพื่อให้สหราชอาณาจักรมีเวลามากเพียงพอสำหรับการผ่านกฎหมายที่จำเป็นในกรณีที่สภามีมติรับรองข้อตกลง Brexit ของรัฐบาล พร้อมทั้งได้ระบุถึงทางเลือกอื่นคือ การเลื่อน Brexit ออกไปแบบ Long delay


นาย Julian Smith หัวหน้าวิปของพรรค Conservative ได้นำเสนอข้อเรียกร้องหรือเงื่อนไขของกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักร (ส.ส.) จากพรรค Conservative ที่มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป ต่อ นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ว่า หากต้องการให้ ส.ส. กลุ่มดังกล่าวเปลี่ยนท่าทีและหันมาให้การสนับสนุนต่อข้อตกลง Brexit ของรัฐบาล นาง May จะต้องประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณจักรก่อนการเริ่มต้นเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงด้านความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปในอนาคต โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ นายกรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ดูแลการเจรจาข้อตกลงความสัมพันธ์ในอนาคตกับสหภาพยุโรปเป็นผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปอย่างแท้จริง


Source: BoTSS


-

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 20) หวั่นเจรจาการค้าไม่คืบฉุดดาวโจนส์ปิดลบ: ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (19มี.ค.)ปรับตัวลง เพราะถูกกดดันจากหุ้นแอ๊ปเปิ้ลที่ปรับตัวลง และความกังวลของบรรดานักลงทุนที่เริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 26.72 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 25,887.38 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลง 0.37 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 2,832.57 จุด และดัชนีแนสแด็กบวก 9.47 จุดหรือ 0.12% ปิดที่ 7,723.95 จุด

ทั้งนี้ ดาวโจนส์เริ่มปรับตัวลงหลังจากบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รัฐบาลสหรัฐกังวลว่าจีนอาจจะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเจรจาการค้าร่วมกัน โดยเฉพาะคณะผู้แทนเจรจาการค้าของจีน ที่อาจไม่มั่นใจว่าสหรัฐจะยกเลิกไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทันทีที่ทั้ง2ฝ่ายบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้าร่วมกัน

ขณะที่ผลสำรวจของซีเอ็นบีซี เฟด เซอร์เวย์ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้และปีหน้า โดยได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 2.3% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.44% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. หลังจากขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตต่ำกว่า 2% ในปีหน้า และคาดการณ์ว่า การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงภายในปีนี้ และผู้ถูกสำรวจจำนวน 60% คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ 14% คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง

ผลสำรวจดังกล่าวสวนทางกับที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงทศวรรษหน้า โดยได้แรงหนุนจากมาตรการปรับลดอัตราภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ


นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในสัปดาห์นี้ แต่นักลงทุนก็รอการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จากการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดครั้งนี้


Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

https://www.cnbc.com/2019/03/19/sto...vestors-focus-on-federal-reserve-meeting.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 20) รัฐบาลทรัมป์ได้รับชัยชนะจากศาลสูงให้อำนาจกักกันผู้อพยพ: วันนี้ ศาลสูงสุดสหรัฐฯ พิพากษาตัดสินด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ให้รัฐบาลมีอำนาจในการกักกันผู้อพยพภายหลังจากที่สิ้นสุดการรับโทษ ได้ในทุกช่วงเวลาก่อนที่จะถูกส่งกลับประเทศ


ทั้งนี้ ผู้พิพากษา Samuel Alito จากฝ่าย Conservative ระบุว่า ไม่ใช่หน้าที่ของศาลที่จะกำหนดระยะเวลาในการกักกันผู้อพยพภายหลังพ้นโทษ


อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่ผู้อพยพบางส่วนสามารถที่จะร้องต่อศาลได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ละเมิดสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ


อนึ่ง กฎหมายระบุแต่เพียงว่ารัฐบาลสามารถที่จะกักกันผู้อพยพที่ถูกตัดสินโทษได้เมื่อถูกปล่อยตัว อย่างไรก็ดี นักกฎหมายด้านสิทธิพลเรือนแย้งว่า ข้อความในกฎหมายดังกล่าวมีผลเฉพาะในช่วงที่ผู้อพยพถูกปล่อยตัว “โดยทันที” เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากความเห็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่ารัฐบาลมีอำนาจที่จะกักกันกลุ่มผู้อพยพดังกล่าวได้ในภายหลังหรือเมื่อไรก็ได้ก่อนที่จะส่งผู้อพยพกลับสู่ประเทศของตน


Source: BoTSS

- https://www.reuters.com/article/us-...ictory-on-immigration-detention-idUSKCN1R01TF