กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,194
    ค่าพลัง:
    +10,070
    สาธุครับอ.นพสำหรับคำอวยพร เดินทางปลอดภัยนะครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    จิตของคนเรามันจะค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆ จากเด็กพัฒนาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ จะให้รู้แจ้งเห็นจริงๆนั้น.มันก็ต้องพยายามมีความเพียรให้ต่อเนื่อง และก็ต้องมีความขยันหมั่นเพียรกันจริงๆ.จะให้รู้ปุ๊บปั๊บ มันเป็นไปไม่ได้หรอก


    เหมือนกับเราปลูกต้นไม้สักต้น เราจะไปเร่งให้เขาออกดอก ออกผล วันนี้ก็ไม่ได้ ก็ต้องอาศัยกาล อาศัยเวลา อาศัยรดน้ำ หมั่นพรวนดิน ถ้าถึงกาลถึงเวลา เขาก็จะออกดอกออกผลให้เรา การประพฤติปฏิบัติทางจิตก็เหมือนกัน เราจะไปรีบไปเร่งก็ไม่ได้ เราก็ไปเรื่อยๆ การสำรวจทำความเข้าใจของเรามีไหม วันนี้จิตเรารู้ระดับนี้ วันพรุ้งนี้จิตของเรารู้ระดับนี้ บางทีจิตของเราอาจจะไปแวะ เที่ยวเล่นที่โน้นที่นี้บ้าง เราก็ต้องพยายามหมั่นขัดเกลา หมั่นประคับประคอง ให้เดินให้ถึงจุดหมายปลายทาง สักวันหนึ่งก็คงจะไปถึงจุดหมายปลายทาง


    อย่าไปโทษตัวเองว่าเพราะเรื่องโน้นเพราะเรื่องนี้ อย่าไปคอยเพ่งโทษคนอื่นว่าเค้าเป็นโน้นเป็นนี้

    มันจะปิดกั้นตัวเราเอง และอย่าไปเหมาว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม

    ถ้าใครยังไม่เชือเรื่องกรรม ถือว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลของเค้า


    ในหลักพุทธศาสนานั้น ท่านให้ละทิฏฐิ ละมานะ ละความคิดเห็นเก่าๆ ของเราออกให้หมด แล้วเจริญรอยตามที่ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพท่านได้ชี้แนวทางไว้ ให้เรารู้ด้วย เห็นด้วย เข้าถึงด้วย แล้วค่อยเชื่อ ตราบใดที่เรายังเดินไม่ถึงตรงนี้ เราอย่าเอาทิฏฐิมานะของเราผุดขึ้นมาโต้แย้ง ให้เราพยายามดับ พยายามควบคุม แล้วเดินตามทางที่ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพท่านชี้ไว้ ถ้าเราเข้าถึง....ความไม่เชื่อก็จะหายไปเอง ความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจก็จะตามมา


    เรื่องดวงกับพระพุทธศาสนามันเกี่ยวเนื่องกันอยู่.ถ้าเราไม่เคารพสมมุติ.

    สมมุติก็วุ่นวาย.แต่มันยังดับทุกข์ไม่ได้.เราก็ต้องเลือกเอาส่วนที่จะดับทุกข์ได้

    .เหมือนต้นไม้มีเปลือกมีกระพี้เอาเปลือกออกต้นไม้จะอยู่ได้ไหม.

    เพราะเค้าอาศัยกันอยู่.ดังธรรมกับโลกก็อาศัยกันอยู่.จิตกับกายก็อาศัยกันอยู่

    ต้องทำความเข้าใจต้องรู้ทั้งสมมุติและรู้ทั้งวิมุติ คือรู้เรื่องจิต เรื่องหลุดพ้น เข้าไปแยกรูปนามแยกนามหรือแยกจิตแยกความคิดให้ได้.เพื่อให้ความ

    เข้าใจไม่อยู่ในระดับของสมมุติ.เราต้องพิจารณาหาเหตุผล ด้วยสติปัญญาในทางที่ถูก ถึงจะมองเห็นทางอันประเสริฐ..


    และไม่ต้องไปสนใจเรื่องชาติแรก ชาติก่อน เราเป็นอะไร เอาสติอยู่กับปัจจุบัน รู้ตัวอยู่ปัจจุบัน ทำให้ได้ต่อเนื่องก่อน ทำจิตของเราให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ก่อน อยู่กับปัจจุบัน สร้างจิตเราให้มีกำลัง อะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความกลัว ความกังวล หรือทำให้ตกใจ ต้องรู้จักฝืน รู้จักดับตรงนี้.. รู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเอง เราจะมองเห็นทาง ที่เหลือก็ทำความเข้าใจเรื่องการเกิด การดับของจิตซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมซึ่งเป็นเรื่องละเอียด

    ต้องพยายามไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงปลายทาง


    อยากจะรู้ปัจจุบันของเรา ก็มองอดีตว่าสร้างมาอย่างไร อยากรู้อนาคตก็ดูเราอยู่กับปัจจุบันนี่หละ

    ว่าเราได้สร้างคุณงามความดีอะไร..

    จิตของเราสะอาดบริสุทธิ์อยู่ปัจจุบันอย่างไร

    อนาคตก็จะออกมาดีเอง..


    ยำรวมวันโลกร้อน
    ฟังมาจากหลายท่านครับ
    เอาเท่าที่ตรง
    กับสภาวะเราพอครับ
    ปล ข้อความเดิมปี ๕๗
     
  3. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    ขอขอบพระคุณอาจารย์ที่สุดๆๆๆๆเลยค่ะ
    อย่างน้อย เก็บบทความนี้ ไว้อ่านตอนที่สติไปเกินครึ่ง
    เอาว่ะ หมูอวกาศ ซะอย่าง
    ผ่านที่ท้อๆ มาก็มากมายละ
    ยึดหลักคำสอน เพื่อจิตตน ไม่ให้บ้า

    ขอบคุณๆๆๆๆ มากค่ะอาจารย์
     
  4. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,194
    ค่าพลัง:
    +10,070
    สาธุในบทธรรมคำสอนอ.นพครับ
     
  5. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    แวะมา สถานสวดมนต์สาขาพุทธพรหมปัญโญ บางเขน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674

    อ่านแล้วก้อแปลกใจเหมือนกันเนอะ
    ขนาดหมอยัง"งง" เลย

    คงไม่เกี่ยวกับวันนั่น...
    ขณะที่เจนตั้งท้องอ่อนๆ
    นั่งขูดลิ้นหมูเพื่อเอาเยื่อขาวๆออก
    แต่...อาจเป็นช่วงจังหวะเวลาเดียวกัน...
    ...ที่มีเยื่อเนื้อคล้ายถั่วหลุดออกมาจากถุงน้ำคร่ำ
    จากการสันนิฐานของหมอบอกว่า...
    ...โอกาสเป็นตัวอ่อนของทารกมีมาก
    ...แต่หมอก็ไม่ถึงกับชี้ชัด

    อย่างที่เจนกับสามีคิดว่าอาจท้องลูกแฝด
    ...ซึ่งตรงกับหมอที่ว่าไว้(คล้ายๆ)


    555 วันนี้...เลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว
    3-4วันก่อนที่ทักไปเรื่องแท้งลูก
    เพื่อเชื่อมโยงกับความฝันที่เจนเล่า
    ก็ทักไปอย่างนั่น...ไม่มีแก่นสารอะไร

    ...ป่านนี้หนูน้อยสตังก็โตอยู่ในวัยซน
    กำลังน่ารัก พูดเก่ง อ้อนน่าหยิก

    ...ที่สำคัญลืมตามองโลก
    ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา
    *วันมาฆะบูชา*

    เลี้ยงดูฟูมฟักให้ดีๆนะครับ
    เด็กคนนี้มีจิตสำนึกที่ดีเยี่ยม
    โดยเฉพาะเรื่องความกตัญญู...
    จะสูงมาก


     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674


    ".....อยากจะรู้ปัจจุบันของเรา
    ก็มองอดีตว่าสร้างมาอย่างไร
    อยากรู้อนาคตก็ดูเราอยู่กับปัจจุบันนี่หละ
    ...ว่าเราได้สร้างคุณงามความดีอะไร
    จิตของเราสะอาดบริสุทธิ์อยู่ปัจจุบันอย่างไร
    อนาคตก็จะออกมาดีเอง....."



    วรรคทองก่อนไปกราบพระครูปลัด
    เนื่องในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย

    ขอให้ท่านอจ.นพ มีความสุข
    เดินทางปลอดภัยตลอดทริป นะครับ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    รายสด ช่องนบภวันนิว
    อยากไปเดินร่วมอยู่ครับ
    เกิดมาพึ่งเคยเห็นแบบนี้
    บรรยายกาศสนุกมาก

    แต่ส่วนตัวเกรง
    กลัวว่าเดินเสร็จจะกลายพันธ์เปลี่ยนเขื้อชาติ
    จากสายพันธ์ไทย
    เป็นแอฟริกา ๕๕๕

    22FE8AC2-346E-4AB8-8856-48872E5DEBD9.jpeg F61C04D4-1F87-4690-94B4-75A012F101FA.jpeg AFFB51A9-30EF-463D-A2A8-91AF6E4D5911.jpeg
     
  9. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    ขอบคุณมากค่ะอาจารย์9
    รักไอ้เจ้าสองคนนี้มากกก
    เอาจริงๆ รักและห่วงสตังมากค่ะ
    เพราะเขาเกิดมาช่วงเวลาที่ชีวิตเจนย่ำแย่มาก ถึงมากที่สุดก็ว่าได้
    แต่สตังร่าเริงมาก
    เพราะเวลาที่เจนท้อเศร้า เขาจะถีบๆท้องเจนตลอด
    เหมือนให้รู้ตัวว่า เขาอยู่ด้วยอยู่นะ
    ถีบแรงมากด้วยค่ะ 5555
     
  10. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    เมื่อวานนี้ มีคนมาซื้อหมูยอ
    เลยคุยสนุกถามพี่เขาไป เที่ยวที่ไหนน้อ~~~
    เขาบอกไปชัยภูมิ
    หูอิหมูนี้ผึ่งเลย (ในใจขอเขาไปด้วยแล้ว5555)
    แต่เขารีบเลยไม่ได้ถามว่าไปที่ไหนของชัยภูมิ
    อิอิ สงกรานต์นี้ รับจ๊อบยาวววจ้า
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 116 ลำดับที่ # 2311

    สืบเนื่องจากอาจารย์นพเคยเล่าให้ฟังว่า
    ...หลวงปู่ทวี ท่านเคยพยากรณ์ย้อนอดีตให้สิบปี
    แถมอดีตชาติ หลังจากนั้นท่านทายอนาคต
    ...ให้แบบปีต่อปี อีก ๑๐ เรื่อง ณ ปัจจุบันเกิดหมดแล้ว

    9 เกิดความศรัทธา จึงอยากทราบประวัติของท่านเพิ่ม

    และสนใจบทคาถาบทหนึ่ง ???

    [QUOTE="nopphakan, post:

    อ.ทวี อยู่วัดธาตุ บังพวน หรือ พังควนนี่หละ
    เส้นที่จะไป มีป้ายทางหลวงบอกชัดเจน
    อดีตนายกเคยไปหาท่านหมดแระ
    อดีตอธิบดีกรมตำรวจก็ไป
    ทางไปวัดหลวงตามหาบัวครับ
    ทางเข้าจะก่อนถึง จังหวัดหนองคายประมาน ๑๐ กม.
    กุฎิท่านจะมีรายชื่อ คนดังระดับประเทศบริจาคเงินสร้างอยู่ ความจริงข้าราชผู้ใหญ่ที่นั่นก็ไปหาท่านปกติครับ

    ล่าสุดไปตอนก่อนจะบวช
    ก่อนที่จะทำงาน จะไปขอให้ท่านบวชให้
    แต่พอดีลุงคนดังที่บุรีรัมย์เจ้าของสโมสรฟุตบอล
    ปาดหน้าฝากเด็กไว้แล้วก่อนหน้าเพียงแค่วันสองวัน๕๕

    ท่านเลยถามว่าจะไปอยู่กับใคร...เลยบอกไป
    ท่านบอกว่าอยู่ที่นั่นดีแล้ว
    ท่านเลยสอนการปฎิบัติตนแทนตั้งแต่ตนจนจบ
    (ตอนนั้นเข้าไปนั่งอยู่ไกลๆ
    เพราะมีข้าราชการผู้ใหญ่นั่งอยู่เยอะ
    แต่ท่านตะโกนถามมาแต่ไกล ก็เลยโชคดีไป)

    ส่วนบทคาถา นั้นท่านให้ ญ ท่านหนึ่งไป
    ปัจจุบันเป็น อ.มหาลัยรัฐฯมีชื่อ
    เป็นเด็กทุนกาญจนา(ทุนในหลวง)ด้วย
    เป็นคาถาทำให้เรียนหนังสือเก่ง
    ความจำดีนั่นเองท่านบอกอย่างนี้

    แล้วก็ให้ส่วนตัวเป็นคนที่สอง
    เป็นเด็กทุนเหมือนกัน คือทุน
    มารดาซาว่า(ทุนแม่ตรูเอง ๕๕๕)
    ...ก็คือบทข้างล่าง ให้ต่อได้ไม่หวงครับ

    ขอแค่เพียงให้จดใส่กระดาษ
    และให้ท่องจำให้ได้ก่อน
    พอท่องจำได้แล้ว
    ให้นำกระดาษนั้นไปเผาเทียนทิ้งด้วย
    ไม่งั้นจะลืม เทวดาที่ให้ท่านบอกมาอย่างนี้
    เวลาจะบอกใครต่อ ต้องเน้นเรื่องนี้ด้วยครับ

    “พุทธะ จิตตะ
    ธรรมจิตตะ
    สังฆะจิตตะ

    สาธุข้าพเจ้าขอยกมือไหว้พระอรหันต์ตาเจ้าทั้ง ๘
    ขอจงย้ายธรรมเข้ามาในอก
    ยกธรรมเข้ามาในใจข้าพเจ้า

    นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเถิด
    อม สะ หม ติด”
    (สี่คำท้ายอ่านออกเสียงคำละพยางค์นะครับ
    เช่น อม อ่านว่า อม ไม่ใช่ อะมะ)

    เรื่องพยากรณ์ตามเรื่องราวที่นำมาลงครับ

    พระสารีบุตร เป็นเอกลักษณ์นักปฎิบัติที่บรรลุธรรมได้ครับ
    ท่านไม่ได้บรรลุธรรมจากการนั่งสมาธินะครับ
    การนั่งสมาธิไม่ได้ทำให้บรรลุธรรม
    เหมือนที่หลงเชื่อกันมานะครับ
    มีแต่ถูกสภาวะในสมาธิมันหลอกเอาครับ
    ถ้าเผลอไปยึดกิริยาที่เกิดในสมาธิครับ

    ท่านบรรลุจากการที่ฟัง
    พระพุทธฯท่านตรัสเพียงแค่ ๔ คำ
    ให้พระสารีบุตรฟัง ตอนที่ท่านบรรลุ
    ท่านมาพร้อม ความสามารถทางวิชชา ๓
    และปฎิสัมภิทาญาน ๔ ครับ
    นี่ครับ ลักษณะของคนบรรลุธรรมจริงๆ
    คือจะมีความสามารถที่จิตเคยสะสมมา
    ขึ้นมาใข้งานได้เลยครับ ไม่ว่าด้านไหน
    จะทางความสามารถหรือทางปัญญา
    ก็แล้วแต่คนครับ จำไว้เลยว่า
    คนบรรลุธรรมจริงๆต้องแบบนี้ครับ

    สมัยนี้มีแบบค่อยๆ(ทั่วไป)
    กับเข้าใจไปเองครับ
    แต่เข้าใจไปเองมากกว่า ทั้งๆที่ไม่มี
    ความสามารถอะไรเลย เยอะแยะครับ
    ยิ่งสายยึดตำราต่างๆ
    ...หรือยึดครูบาร์อาจารย์ตนเองท่านเดียวครับ

    ปล. หลวงพ่อมีชื่อในอดีต ไม่ต้องห่วง
    ถ้าเรามีวาระ ถึงเวลาเราจะได้พบเจอท่านเอง
    ในว่ารูปแบบใดๆและถ้ามีวาระทางปฎิบัติเด่วจะพบ
    ท่านมาแนะทริคการปฏิบัติให้เอง
    โดยไม่ต้องไปแสวงหา
    แต่เหตุแห่งการที่ท่านจะเข้ามา
    ...เราต้องสร้างเองครับ
    ซึ่งก็บอกไม่ได้เหมือนกัน

    ไม่งั้นถ้าไม่ได้ท่านแนะ บางกรรมฐาน
    ที่ไม่ใช่วิชาที่รู้ๆกันหรือรู้ทั่วประเทศ
    ให้ฝึกทั้งชีวิตก็ยากจะสำเร็จได้ครับ
    ตรงนี้จะรู้กันแบบลึกๆ จำนวนไม่มากครับ
    ส่วนมากที่เฝื่อกันร้อยละ ๙๐ นั้น
    เพราะ หลงตัวเอง ชอบเอาท่านมาอ้างเสริมตน
    สร้างชื่อเสียง ข่มคนอื่นๆเอา
    หากินกัน หรือใช้ในทางที่ท่านไม่ให้ทำ
    เช่นไปเป็นหมอดู ทำนายทายทักครับ
    พวกนี้ถือว่า นอกคอกครับ มีเยอะแยะครับ
    พวกนี้จะฝึกกรรมฐานที่สร้างให้จิต
    เกิดกำลังจิตไม่มีทางสำเร็จในชาตินี้ครับ
    แต่จะคิดว่าตนเองดีกว่า เก่งกว่าใครครับ
    ...ส่วนนี้เล่าให้ฟังเฉยๆ
    ไม่ใช่แบบพระสงฆ์ที่ท่านทำนายนะครับ
    คือท่านเกิดเอง อย่าเอามาเปรียบกัน
    และเจตนาในการใช้งานก็คนละแบบครับ

    ในส่วนกลุ่มที่ใช้ทางจิตได้
    ส่วนตัวเคยได้สนทนามาหลายท่าน
    พบว่า บทคาถาคำว่า
    “นะ โม พุท ธา ยะ”
    จะครอบคลุมกว่า ใช้งานได้หลากหลาย
    แล้วแต่จะใช้ด้านไหน
    ...แล้วก็เป่าตัด

    (เคยเห็นที่ท่านเป่าลมแล้วต้อง ทำปาก ผุดๆ พ่วงๆ
    นั้นหละเค้าเรียกเป่าตัด คือตัดจากต้นกระแสที่ไปเชื่อม)

    นอกจากในเรื่องวิชาเฉพาะอื่นๆ
    เชื่อไหมว่า กลุ่มคนใช้งานทางจิตได้
    เวลาต้องมีคาถากำกับ
    จะท่องไม่กี่คำหรอกครับ แบบรู้ๆกัน
    ถ้ากำลังใช้งานมันถึงยังไงก็ได้ผลครับ

    ไม่เหมือน หมอผี หมอธรรม
    ร่างทรง หมอทำคุณไสย
    พวกทำไสยศาสตร์หรือสายดำต่างๆ
    (ไม่นับที่สืบเชื้อกันมานะครับ
    เพราะกลุ่มนี้เค้าเป็นสายเลือดคนละแบบ
    กับที่บอก ซึ่งหลายคนเค้าสร้างประโยชน์
    ในชุมชนเค้าอยู่ครับ)
    ที่ต้องท่องจนหน้านิ้วคิ้วขมวดครับ
    ซึ่งมันเป็นคนละวิถีจิต คนและแนวทาง
    คนละกำลังสนับสนุน
    และที่สำคัญคือยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
    แต่ก็ให้ผลดีกับบางกลุ่มได้อยู่ครับ

    ปล1 แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง ปนนิทาน
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674

    เด็กน้อยคนนี้ช่วงยังอยู่ในครรภ์
    ก็เริ่มทดแทนบุญคุณแม่ผู้ซึ่งอุ้มท้องเค้ามา
    ตามที่เจนเล่าว่า...
    ".....จนผ่านช่วงเวลาอุ้มท้อง
    ผ่านเวลาเศร้า ผ่านเวลาทุกข์
    จนคลอดเจ้าสตังในวันมาฆะบูชา
    เจนรู้เลยว่า เขาคือสิ่งมีค่าความโชคดี....."


    นี่คือสิ่งดีๆแรกเริ่มเสมือนความกตัญญูที่มีส่วนทำให้...
    ครอบครัวเจนค่อยๆเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีขึ้น


    *ความกตัญญูของลูกหลานมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด*
    ผู้ซึ่งมีความกตัญญูต่อพ่อแม่
    ชีวิตภายภาคหน้าจะมีความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน
    ...ฟูมฟักเลี้ยงดูให้ดีๆเนอะ
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674
    การสร้างโรงพยาบาล
    หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ตอบปัญหาธรรม


    ผู้ถาม :- “การทำบุญสร้างโรงพยาบาล กับ การทำบุญถวายสังฆทาน อย่างไหนจะช่วยในการเจ็บไข้ได้ป่วยได้มากกว่ากันครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ช่วยให้เจ็บป่วยมาก คือไม่ได้สองอย่าง ทั้งสองอย่างช่วยไม่ได้ทั้งคู่ ถ้าช่วยได้ฉันไม่ป่วยกับเขาหรอก โรงพยาบาลก็สร้างแล้ว สร้างจิปาถะ สังฆทานว่ามาดะ อาการเจ็บป่วยมันมาจากโทษปาณาติบาตในชาติก่อน มาแก้อะไรในชาตินี้เล่า

    วิธีแก้ คือ เว้นปาณาติบาตในชาตินี้ ชาติหน้าจะได้ป่วยน้อย มีเท่านี้ละนะ ขึ้นชื่อว่ากฎของกรรมไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ตัวอย่างพระ ๖๐ องค์ที่ฆ่าตัวเองตายบ้าง จ้างเขาฆ่าบ้าง ก็เพราะเป็นพรานป่ามาในชาติก่อน”

    ผู้ถาม :- “ในการแก้เจ็บป่วยโดยการทำบุญปล่อยสัตว์มาก ๆ ที่จะถึงฆาต โดยซื้อจากตลาด อย่างนี้จะได้ไหมครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “สุดแล้วแต่สตางค์ ความจริงการแก้เจ็บป่วยนี่มันอานิสงส์ปัจจุบันไม่ได้ ปล่อยสัตว์ให้พ้นจากความตายนะมันตัดอุปฆาตกรรม คือ การตายมี ๒ อย่าง ตายด้วยอายุขัย คือหมดชีวิตจริงๆอย่างหนึ่ง ตายในระหว่างท่ามกลางชีวิตอย่างหนึ่ง คือยังไม่หมดอายุขัยแล้วตาย เพราะอาศัยโทษปาณาติบาตชาติก่อนรุนแรงมากเข้ามาตัด นี่ถ้าเกิดปล่อยสัตว์ก็ช่วยตัดอันนี้ไว้ได้ถึงอายุขัย

    แต่การสร้างโรงพยาบาลนี่ไม่เกี่ยวกัน ช่วยได้ในเรื่องความทุกข์ของบุคคลอื่น แต่จะตัดอุปฆาตไม่ได้ เอาอย่างไหนเลือกเอาก็แล้วกัน”

    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
    ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๗๙-๘๐
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    โรคภัยไข้เจ็บจะน้อยในปัจจุบันมาจาก
    การละเว้นศีลเรื่องฆ่าสัตว์
    ตาม ลพ. ท่านกล่าวใช่เลยครับ

    โรคเรื้อรังรักษาไม่หายส่วนมาก
    เหตุมาจากสัตว์ตัวเล็กๆ
    ถ้าหมอดู ไม่ละเอียดทางด้านภายในพอ
    จะเข้าไม่ถึง เพราะมักจะซ่อนอยู่ลึกๆด้านใน


    เจ็บหนักๆ มาจากสัตว์ตัวใหญ่
    เช่น แขน ขาหัก


    ปล่อยสัตว์ที่จะถูกฆ่าช่วยตัด
    ได้เกี่ยวกับผลของการฆ่าสัตว์
    ที่จะทำให้อายุไขเราสั้นลงได้
    คืออายุไม่ยืน

    ปล. ทำบุญให้ดูที่ต้นบุญเป็นหลัก
    ถ้าหวังผลอยู่ก็ให้ทำบุญให้ถูกทาง
    เป็นเรื่องปกติทั่วไป


    แต่ถ้าทำในลักษณะสร้างบารมี
    ที่จะไหลย้อนเวียนมาไม่มีหมด
    ซึ่งจะต่างจากทำแบบหวังผล
    ซึ่งจะเกิดเป็นบารมีขึ้นมา
    แต่ถ้าใช้แล้วมันจะหมดไป
    (เป็นเรื่องปกติและส่วนมากทำกัน)
    ให้อ่านข้อความข้างล่างนี้
    เขียนไว้เมื่อ ๔ ปีก่อน



    "การให้แบบไม่กระมิดกระเมี้ยน
    แบบหมดใจ คือให้ก็ให้หมดใจ ไม่มีเชื้ออุปทานหลงไว้ให้กั๊กให้เก๊ก
    โสโล่งไป ว่างไป โพร่งทิ้ง ว่างทิ้ง โล่งทิ้ง
    แบบทิ้งๆ แล้วมันถึงจะไม่มีตัวเอาซ้อนลงไป ในผลของการให้แม้แต่การคาดหวัง
    ว่าได้หรือเปล่า บารมีเค้าได้ไหม
    ถึงหรือเปล่า ออกไปหรือเปล่าบารมี
    เอ่อมันได้หรือเปล่า

    เราทิ้ง..เค้าก็ทิ้งตาม
    เราโพล่ง..เค้าก็โพล่งตาม
    เราโพล่งแบบไม่อะไรกับไม่อะไรตาม
    เค้าก็ได้รับแบบไม่อะไรกับอะไรตาม
    เค้าก็พลอยไม่อะไรกับอะไรตามไปด้วย


    ต่างจากรู้ตาม เข้าใจตาม
    มันยังมีตัวไปรู้ มีตัวไปคอยเข้าใจ
    เป็นตัณหาซ้อนปัญญา
    ตัณหาซ้อนวิญญาน
    ไม่อะไรกับอะไรเลย...

    ท่านผู้ไรร่องรอยกล่าวไว้อย่างนี้ครับ...."
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    สำหรับ Avenger เนี่ย
    โดยเฉพาะบุคคลที่ฝึกกรรมฐานแบบพิเศษต่างๆ
    ยิ่งต้องระวังแบบ โครตๆหรือสุดๆ เลยนะ
    ยิ่งไปไปสัมผัสกิริยาทางด้านนามธรรมต่างๆ
    มีโอกาสจะหลงตัวเองสูงมากกกกกกกกกกก
    แต่เชื่อไหม ในสภาวะที่หลงตัวเองอยู่นั้น
    แม้ว่าจะยังไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรได้ต่อสาธารณชนนะ


    เวลาพูดบรรยาย เกี่ยวกับประสบการณ์ สิ่งที่ตนทำได้
    ในสมาธิจะสูงอลังการงานสร้างมาก
    แต่มักจะมาตายด้วย ภาษา คำถามแบบพื้นๆ ที่ย้อนแย้งใน
    ตัวเองทางด้านการปฏิบัติ ยกตัวเอง
    คุยว่า เบนส์รุ่นนี้ ขับมาเป็นสิบปีแล้ว
    แต่พอมีคนถามว่า มันสตารท์ยังไง ตอบไม่ได้
    หรือ ตัวเองก็ตอบไม่ได้ ว่าเติมน้ำมันอะไร ประมาณนี้ คำว่า ย้อนแย้ง


    แต่ถ้ามาทางด้านตำราอย่างเดียว นี่ก็ต้องยิ่งระวัง
    เคยได้ยินคำว่า ตรรกะระดับล่างไหม นั่นหละเราจะเจอ
    ตรรกะแบบนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ


    เช่น เรายืนดูเห็นคนกำลังยิงกระรอกตาย เห็นว่า ตายไปหนึ่งตัว
    แต่เค้าสามารถ ที่จะบอกทุกคนได้ว่า เราเป็นฆ่ากระรอก
    ทั้งๆที่ในมือเค้าถือว่าวุธที่ใช้ฆ่ากระรอกอยู่
    นี่เค้าเรียกว่า ตรรกะระดับล่าง
    ส่วนเรื่องที่เค้าใจว่า ตนเองบรรลุโน้นนี่นั้น
    มีอะไรดีกว่าใคร
    เป็นธีมพื้นฐานเบสิก


    ใจความทั้ง ฝ่ายมาทางกรรมฐานพิเศษ
    และทางตำรา เรียกว่า ยึดตัวตนมีอัตตาสุดๆแต่ไม่รู้ตัว
    ที่เราเรียกว่า เห็นผิดนั่นหละ


    พูดง่ายๆว่า สติ ทิฐิ สัญญาวิปลาส(เห็นต่าง คลาดเคลื่อน)
    มักจะเกิดได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่(ไม่ว่าจะปฏิบัติได้หรือไม่ได้)
    ที่มีการเอาคำสอนครูบาร์อาจารย์ พระพุทธ ตำรา
    ต่างๆ มา อ้างอิงเพื่อเสริมอัตตัวตน ยกตนเอง ข่มท่าน
    แล้วไป ถ่ายทอดธรรมะออกสู่สาธารณะชนนั่นหละ
    พวกนี้ มันเป็นวิบากหนักมากๆ
    ทุกวันนี้ ไปที่วัดก็ยังเจออยู่เรื่อยๆนั่นหละ





    อย่างกรณี เคสที่ถูกแทรกทั้งหลายเนี่ย ล่าสุดเลยเมื่อวานนี้เอง
    เจอเคสหนึงที่ถามพระอาจารย์นะ
    ท่านบอกว่าแก้ยังไม่ได้ ก็เลยแอบฟัง ท่านบอก
    ต้องไปร่วมบุญสร้างพระพุทธรูป
    มาก่อนซักสามสี่องค์ค่อยมาถาม
    เพราะมันไม่ใช่แบบโดน ณ ปัจจุบันชาตินี้


    เข้าใจไหม คือ เค้าไปได้ยินมาว่า คนนั้นโดนแบบนี้
    แล้วไปอาบไปกินโน้นนี่นั้นแล้วหาย
    ก็เลยมาถามเผื่อความมั่นใจว่า ถ้าผมทำแบบนั้นจะได้ไหม ประมาณนี้



    จะสื่อว่า ถ้ากรณีที่เป็นวิบากเฉพาะ
    มันก็ยากที่ใครจะไปช่วยได้นะ
    และปกติคนที่จะช่วยได้
    ก็จะรู้ๆแบบอัตโนมัติเอง




    ที่หนักๆทั้งหลายที่มาที่วัดแล้วช่วยได้
    คือท่าน ให้ไปทำบุญแบบบุญใหญ่ก่อน
    แล้วก็มีการทานอาหารตามที่ท่านสั่ง
    เพื่อแก้เป็นกรณีๆไป
    มีการอาบน้ำมนต์ร่วมด้วยก็หลายครั้ง
    เพื่อเอาอานิสงค์ตรงนี้มาหนุน
    บางคนเค้าก็ทำบุญต่อเนื่องมานาน
    มันก็เลยดูง่ายไม่มีอะไร
    บางคน บอกให้สวดมนต์ไหว้พระ
    เหมือนกับว่า บอกให้ไปตายก็มี ๕๕๕



    พอดีมีอีกคนถามแทรกมาว่า แล้วพวกที่ถูกแทรกมา
    เป็นสิบๆปีหละครับ? จะช่วยอย่างไร
    ท่านบอกว่า บ่ มีใครช่วยได้หรอก
    เคสแบบนี้ ปล่อยให้ตายแล้วไปลุ้นเอา
    ชาติต่อไปจะง่ายกว่า


    ก็คล้ายๆกับที่ส่วนตัวคิดนะ
    คือ ปล่อยเค้าไปเหอะ เรื่องของเค้า
    ไม่ไปมีเรื่องมีราวอะไรด้วยดีที่สุดนั่นหละ......


    ประเภทเป็น ผู้วิเศษ เป็นบุคคลสำคัญทั้งหลาย
    แล้วคิดว่าตนเอง มีหน้าที่อันใหญ่ยิ่ง
    ประมาณว่า ถ้าผมไม่ทำแล้วใครจะทำนั้น(จำมาจากหนัง ไอ้แมลงมุม)
    ส่วนมาก เราอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลยดีที่สุด
    ถ้าไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีเลี่ยงๆ อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
    แต่ไม่ข้องเกี่ยวได้เลย จะดีมากๆ


    จบเคส Avenger เด่วต่อเคส
    ที่วิบากเก่าเยอะ บอกให้สวดมนต์ทำบุญ
    เหมือนบอกให้ไปตาย ๕๕๕
    เด่วบรรยายใน Rep ต่อไป
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    กรณีต่อมา คือ เคสวิบากเก่าเยอะ
    ซึ่งถ้า ไม่ได้เคยทำบุญต่อเนื่องมา
    หรือไม่มีใจ ในทางพระรัตนตรัยมาบ้าง
    เวลาเจออะไร มันก็แก้ไขได้ยากกว่าทั่วไปหน่อย
    แต่ไม่ใช่แก้ไม่ได้นะ แก้ได้แต่ยาก


    การช่วยคน บางทีมันก็ต้องดูให้ดีๆด้วยนะ
    ต้องระวังมากๆในเรื่อง การไปทักการเตือนอะไร
    ล่าสุดเมื่อวานนี้เอง ที่กุฏิพระอาจารย์เลย....
    ถือว่า เป็นเคส วิทยาทานแล้วกัน


    ก็มี สามีภรรยาหรือเป็นแฟนกันนี่หละ มานั่งรอพบ พระอาจารย์
    ข้างหน้าท่านก็มี กลุ่มคนสนทนากับพระอาจารย์อยู่
    เกี่ยวกับเรื่อง อจิณไตย เหนือโลกหน่อย


    ส่วนตัวนั่งอยู่ริมๆ ก็ฟังบ้างไม่ได้ฟังบ้าง
    ก็เลยถามว่า ที่เค้าเป็นแฟนกันว่า มีอะไรจะคุยกับท่านหรือเปล่าครับ ?
    เห็นมานั่งรอนานแล้ว ถ้ามีอะไรก็เค้าไป
    ถามท่านได้เลยนะครับ เค้าก็บอก ว่าจะมาหาพระอาจารย์เฉยๆ
    แต่ก็บอกอีกว่า ไม่มีอะไรจะคุย(ส่วนตัวเข้าใจว่า คงจะอายเรื่อง
    ที่จะถามท่าน) แล้วก็นั่งรอต่อไป อยู่อย่างนั้นนั่นหละ...ไม่เข้าไปไหว้
    ไปกราบท่านซักที งง ไหม....


    ซักพักมีเหตุที่ บุคคลที่ คู่แฟนนี้เค้านับถือมาบอกว่า
    ให้ช่วยดูน้องคนนี้ให้หน่อย....เราก็ดูร่างกายภายใน
    หมายถึงพวกพวก ปอด หัวใจ ตับ ไต ไส้ ม้าน ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนิ
    ก็เลยบอกไป ว่าร่างกายภายในไม่เห็นเป็นอะไรนิครับ


    แต่ทาง ฝ่าย ญ ก็เล่าให้ฟังว่า เค้าเป็นโรคปวดศรีษะประจำ?
    และมักจะปวดท้องคล้ายๆท้องประจำเดือนด้วย ??
    แฟน เค้าก็พูดแทรกมาว่า ผมบอกให้เค้าสวดมนต์
    แต่เค้าไม่เคยสวดเลยครับพี่....


    ส่วนตัวก็เลยบอกไปว่า ก็คงมีแต่การสวดมนต์นะ
    ที่จะช่วยได้ เพราะว่า เค้าเป็นคนที่ชอบเก็บเอาเรื่องราวในอดีต
    ที่ผ่านมาแล้ว เอามาคิดปรุงแต่ง จนกลายเป็นสาเหตุ
    ของอาการปวดศรีษะ เค้าบอกว่า ยิ่งอาการร้อนมันยิ่งปวด

    (ส่วนตัวมองว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา ขนาดไม่ได้มีเรื่องคิดอะไร
    ถ้าเจออากาศร้อน ส่วนตัวแทบจะเอาตับออกมา แช่เย็นแล้ว ๕๕๕)



    แต่ว่า อุทาหรณ์สอนใจ อยู่ตรงที่สาเหตุในการปวดท้องนี่หละครับ ท่านผู้ฟัง !!!!
    พอลองเช๊คดู
    โอ้!!! แม่เจ้า น้องสาวเค้ามีปัญหา เป็นเหตุที่ทำให้ปวดท้องนี่หละ
    และ เค้ามาบอกเพิ่มเติมว่า จะปวดไปทางด้านข้างของร่างกายด้วย
    ตรงประมาณเอวด้านข้าง !!!!!



    ส่วนตัว: ถามว่า น้องสาวมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ?
    ญ : ตอบว่า ไม่มีอะไร นะไม่ได้เป็นอะไร
    ส่วนตัว: เอ่อ มันไม่น่าใช่นะครับ มันมีปัญหาที่ปลีกมดลูกทางด้านนี้
    (คือมันเหมือนว่า มันไม่มีแล้ว) !!
    ญ : ทำหน้านิ่งๆ ไปซักพัก แล้วบอกมาว่า อ้อ เคยตัดปลีกมดลูกไปข้างหนึ่ง
    แต่ น้องสาวไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่มีบุตรไม่ได้ (งงไหม ไม่มีปัญหาอะไร
    แต่ว่า เคยผ่าตัดออกไปแล้ว )
    ส่วนตัว: เลยบอกว่า ข้างนี่ใช่ไหมครับ ที่ตัดออกไป


    ญ: หันไปมองหน้า แฟนทันทีว่า ตัดข้างไหนนะ
    ช: หันสบัดหน้าหนี อย่างไว แล้วก็ตอบเสียงแน่นๆ กลับมาว่า ไม่รู้! ไม่เคยตัด ไม่มีมดลูก !!!!!



    ทุกคนเห็นอะไร จากเหตุการณ์นี้หรือไม่
    ตรงนี้ อาจจะเป็นประเด็นหนึ่ง ที่เค้ารอถามพระอาจารย์ก็ได้


    ซักพักหนึ่ง อีกไม่นาน พอดู ญ คนนี้ไปแล้วและช่วยไปแล้ว
    บุคคลที่ ทั้งคู่นับถือ ก็พอ ญ คนนี้กลับบ้านไปก่อน........


    เห็นอะไร จากตรงนี้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป !!!!!!!


    คือ ๑. เราไม่รู้มาก่อนเลยว่า แฟน เค้า ผู้ ช เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไหม
    ๒. ญ คนนี้เคยได้คุยกับแฟน เค้าเรื่องนี้ไหม ถึงได้บอกในครั้งแรกว่า น้องสาวไม่มีปัญหา



    นี่หละ กรณีที่เจอบุคคล มาเป็น คู่ ต้องระมัดระวังอย่างมากในการที่จะพูดอะไร
    หรือ ควรที่จะต้องรู้ว่า จะพูดอย่างไร...... บางคนเค้าไม่ยอมรับ
    แต่เราไม่เข้าใจเหตุผลที่เค้าไม่ยอมรับตั้งแต่แรก
    ไอ้เรา ก็อเมริกัน ลูกทุ่ง พูดไปเลย แบบลืมดูสภาพแวดล้อม



    กรณีแบบนี้ ถ้าส่วนตัว
    มีละเอียดกว่านี้หน่อย รู้จักกลั่นกรองความคิด
    รู้จัก สังเกตุพฤติกรรม แฟน ผู้ชาย เค้ามากกว่านี้หน่อย
    ก่อนที่จะพูด


    ก็ควรจะบอกเลี่ยงๆไปว่า
    ส่วนตัวไม่ค่อยรู้อะไรมากครับ กรณีเรื่องแบบนี้
    ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับร่างกายในเคสนี้(แต่ต้องไม่พูดนะว่าเค้ามีปัญอะไรด้วย)
    ให้ลองถามพระอาจารย์ท่านดูดีกว่าครับ


    เผื่อว่า ท่านจะมีวิธีอะไรที่แก้ปัญหาได้ดี และคลอบคลุมครับ
    หรือไม่ ก็รอ จังหวะ ที่แฟนเค้า ไปทำธุระก่อน แล้วค่อยพูด



    นี่หละ เอามา ให้อ่านเป็น อุทาหรณ์ สอนใจว่า
    เรื่องบางเรื่อง เรารู้ของเราคนเดียวก็พอ
    ไม่จำเป็นที่จะต้องให้คนอื่นๆรู้


    เรื่อง บางเรื่องเค้าก็ไม่อยากให้ใครรู้
    เราก็ควรที่จะต้องระมัดระวังตรงนี้ให้ดี
    ว่ามันจะจบแค่ที่เรา......


    เพราะแม้ว่า เราจะอ้างว่าเจตนาเราดี
    เราพูดไปไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร


    แต่การที่พูดไป แล้วทำให้ เค้าต้องเดือดร้อน
    ต้องทะเลาะกัน


    คำว่า เจนตาดีและไม่ดีมีเจตนาไม่ดีอะไร
    มันจะกลายเป็นเพียง ข้ออ้างและข้อแก้ตัวเท่านั้น......



    หลักการพูด

    ๑. คำพูดที่ไม่จริง ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์
    ไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น พระองค์ไม่กล่าว


    ๒. คำพูดที่จริง ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รัก
    ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น พระองค์ไม่กล่าว


    ๓. คำพูดที่จริง ถูกต้อง เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รัก
    ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น พระองค์เลือกกาลกล่าว


    ๔. คำพูดที่ไม่จริง ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์
    ถึงเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น พระองค์ไม่กล่าว


    ๕. คำพูดที่จริง ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเป็นที่รัก
    เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น พระองค์ไม่กล่าว


    ๖. คำพูดที่จริง ถูกต้อง เป็นประโยชน์ เป็นที่รัก
    เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น พระองค์เลือกกาลกล่าว


    แหล่งข้อมูลจากอินเตอร์เนท ยังไม่ควรเชื่อถือ ใช้อ้างอิง
    ควรดูแหล่งข้อมูลอื่นๆประกอบ แต่ใจความ
    ประมาณที่ได้นำมาให้อ่าน
     
  17. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    ตูมมมมมมมม เราคงไปด้วยกันไม่ได้แล้วล่ะ
     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 116 ลำดับที่ #2314

    เป็นคำถามรวมมิตรจากเจน
    เห็นว่าเป็นประโยชน์และมีสาระที่น่าสนใจ

    [QUOTE="nopphakan, post:

    ไม่นะ ไม่ต้องไปคิด และวิตกอะไรหรอก..
    ไม่ใช่สืบเชื้อ และ ปกติพวกที่ถูกแทรก หรือ โดนแทรก
    หรือว่าจะเป็น
    ร่างทรง(ไม่ใช่หมอธรรม สืบเชื้อ)
    ถ้าจะมาคุยกับส่วนตัวไม่ค่อยได้หรอก
    จะถูกแหย่ ให้ไม่อยากคุย หรือ หาเรื่อง
    หรือไม่ชอบขึ้หน้าเป็นปกติ
    เค้าจะแหย่ให้มองเห็นว่าเป็นศัตรู....

    ส่วนทางบรรพบุรุษเจนเป็นแบบ ที่ปฏิบัติเอาเองปกติทั่วไปนะ
    ส่วนเรื่อง ญาติพี่น้อง ที่เหมือนไม่สนใจกัน
    ...มันมีได้ทั่วไปนั่นหละ
    ถ้าเป็นฝรั่งเรื่องทำนองจะปกติมาก
    เช่น ลูกฟ้องแม่ทำประตูหนีบมือ ฯลฯ
    แต่สังคมไทยจะไม่คุ้นเคย แต่ไม่ใช่ว่า จะไม่มีเกิดขึ้น
    แต่โดยมาก เราจะเชื่อว่า...

    ถ้าเราดูแลบิดามารดาเราดี ชีวิตเราจะเจริญ
    ซึ่งถ้านับทางสถิติก็ถือว่า มีค่าความเชื่อมั่นสูง
    คือส่วนมากบุคคลที่ทำจะเป็นเช่นที่ตั้งสมมุติฐาน
    ...ไว้ว่าจะเจริญทุกคน

    และอีกอย่าง ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของสังคมไทย
    ที่ควรจะรักษาเอาไว้สืบไป.....

    ในสภาพสังคมปัจจุบันที่
    ต่างๆคนก็ต่างก็ต้อง รับผิดชอบ
    ในส่วนที่ตนข้องเกี่ยวกับคนอื่นๆ
    โอกาศยากที่จะดูแลพี่น้องด้วยกัน...
    ...มันไม่ใช่แบบคนไทยสมัยก่อน
    ที่ว่า เลือดข้นกว่าน้ำ....

    ส่วนผลที่ได้จากการปฏิบัติของบรรพบุรุษเจน
    ปัจจุบันก็ยังส่งผลในเรื่องพลังงาน
    ...ที่ยังคอยตามคุ้มครองลูกหลานได้อยู่
    ทางปฏิบัติ เค้าถือว่าดีนะ....

    ต้องเข้าใจเนาะ สมัยนี้ แม้แต่น้ำยังต้องซื้อกิน
    ปลาก็ต้องซื้อกิน จะสร้างบ้านก็ต้องจ้าง...
    ไม่เหมือนสมัยก่อนนะ มีน้ำหน้าบ้านทุกหลัง
    ปลา ปู ฯลฯ มีเยอะเป็นกระสอบ...
    สร้างบ้านที ก็มาช่วยกันทั้งหมู่บ้าน
    สมัยนี้ทำได้ดีที่สุด มีเพียงแค่ รอยยิ้ม......


    ส่วนกรณีสืบเชื้อ หมอผี หมอธรรม ร่างทรงดูไม่ยากหรอก

    (บอกไว้ก่อน ไม่ได้บอกเค้าไม่ดีนะ..)
    มีหลักในการดูง่ายๆ ถ้าเข้าใจเรื่องพลังงานบ้าง
    และรู้หลักในการสังเกตุบ้าง จะดูง่ายมากๆ

    วิธีดู ภายนอก หมอผี หมอธรรม ชอบเลี้ยงผี
    มีอะไรเกี่ยวข้องกับการต้องใช้ผี.....
    แต่ปกติกลุ่มนี้จะไม่ค่อยมาสุงสิงกับใคร...

    ส่วนร่างทรงนี่ เค้าเลือกของเค้าเอง.....
    บางคนก็ถูกหลอก บางคนก็เต็มใจ
    บางคนก็ไม่เต็มใจ ก็แล้วแต่ว่า
    ที่มาแฝงจะระดับไหน
    ส่วนมากแล้ว มักจะมาทำให้เห็น
    ในแบบที่ลึกๆในใจบุคคลนั้น
    ...นับถือ เคารพอยู่แล้วเป็นทุน
    พอคนนั้นน้อมจิตรับเข้ามาก็จะกลายเป็นฝังในจิต
    จริงๆอาจจะไม่ใช่ กระแสของท่านนั้นๆหรอก
    แต่จะเป็นวิญญานมีฤิทธิ์ที่ต้องการอาศัยกาย
    คนอื่นๆในสร้างบารมีมากกว่า(ส่วนมากไม่ใช่)
    บางครั้งก็กลายเป็นประเพณีไปแล้วก็มี....

    ส่วนมีอีกกรณีจะคล้ายๆร่างทรง
    ส่วนนี้เป็นวิบากเฉพาะ
    กรณีแบบนี้ช่วยเลยไม่ได้
    ต้องรอให้วิบากคลาย

    เพราะช่วยเลยทันที โอกาสตายสูงมาก...
    กลุ่มนี้จะมีอาการคล้ายๆคนสองบุคคลิก
    ถ้าได้คิดหรือยึดอะไรจะยึดแบบไม่สนใจใคร
    เช่น วันนี้คุยกับเราปกติ อีกสามวันเดินผ่านเรา
    จะเป็นแบบคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อะไรประมาณนี้...

    ส่วนสืบเชื้อ เค้าไม่ได้มายุ่งกับใคร
    ...เกิดมาก่อนพุทธกาล

    และมีจำนวนประชากรมากกว่า
    เค้าก็สร้างบารมีรุ่นต่อรุ่นมา
    คอยช่วยเหลือคนในกลุ่มประชากรของเค้านั่นหละ
    บางคนรักษาคนได้ ให้ยาได้ ฯลฯ
    และเค้าจะเลือกทายาทของเค้าเอง
    เช่น ผีฟ้า หมอทรงประจำบ้าน ฯลฯ
    บางทีก็ข้ามมา ๓ ถึง ๔ รุ่นค่อยเลือกก็มี
    คนถูกเลือกก็มักไม่รู้ตัวหรอก
    ...แต่อยู่ดีๆจะเจ็บหนัก ปวดศรีษะมาก
    เดินไม่ได้ นอนติดเตียง พอไปหาหมอก็ปกติ
    กรณีนี้ต้องทำพิธีตัดขันธ์
    ซึ่งห้ามให้พระ ให้คนมีวิชา ต้องให้ที่ร่างทรงตัดขันธ์ให้เท่านั้น
    เพราะเค้าจะยอมเฉพาะที่เป็นร่างทรง ถ้าทำเอง ตัดเอง
    เค้ามีความสามารถในการหักคอร่างนั้นให้ตายได้ทันที
    แต่ไม่ใช่ไปหักคอคนอื่นๆเล่นได้นะ..บอกไว้ก่อน

    กับอีกกรณีที่ถูกหลอกให้ภายนอกมาแทรกจะเป็นกรณี
    ที่เค้าจะใช้เครื่องหล่อ เป็นความสามารถพิเศษ
    เป็นคนพิเศษ มีแล้วจะไม่ใช่คนธรรมดา หลายๆส่วนเหล่านี้
    มารวมกัน โดยจะไม่พูดเรื่องเจริญสติและเดินปัญญาเลย
    และแรกๆจะพูดทางแนวพุทธฯ แต่พฤติกรรม
    จะมีแต่สร้างให้มี ต่างกับพุทธฯสร้างให้ละ......
    จะมาทางด้าน สายฝึกทางด้านพลังงานโน้นนี่นั้นนั่นหละ...
    กลุ่มนี้ เป็นสายอสูรกายบำเพ็ญ คือเน้นเพื่อให้ตนเอง
    มีความสามารถมีฤทธิ์ ซึ่งก็มีมานานแล้วเช่นกัน...

    ที่เล่ามาทั้งหมดถือว่าเป็นนิทาน

     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674
    หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ตอบปัญหาธรรม

    "...คนเราถ้าตายไปแล้ว ขณะเราจะตาย ขณะนั้นถ้าจิตจับในสิ่งที่เป็นกุศล ...ถึงแม้จะมีบาปมาในกาลก่อนจะมีมากสักเท่าไรก็ตาม แต่ว่าก่อนจะตายจิตจับบุญอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ลมหายใจเข้าออก อันนี้ก็เป็นบุญใหญ่ หรือว่าภาวนาว่า "พุทโธ" หรือ "นะมะพะธะ" ก็ตาม "สัมมาอรหัง"
    ก็ตามเหมือนกันหมด อะไรก็ได้หรือว่าไม่คิดถึงกรรมฐานคิดว่าเราเคยใส่บาตร เราเคยบูชาพระ เราเคยให้ทาน เราเคยฟังเทศน์ อย่างใดอย่างหนึ่ง อารมณ์มันจับอย่างนี้อย่างใดอย่างหนึ่งเวลานั้นบาปจะเข้าแทรกจิตไม่ได้เลย บุญเข้าขวาง เมื่อบุญเข้าขวางแล้วเวลานั้น ตายแล้วจิตออกจากร่างก็ไปสวรรค์ก่อนเห็นไหม และก็อย่าลืมนะถ้าบุญหมดไปนรกใหม่..."

    "...คำว่า ชาตินี้ไม่ลงนรก ก็หมายความว่า เราจะไปสวรรค์เป็นอย่างต่ำและเราต้องไปได้ด้วย วิธีไปไม่ยาก มีหลายๆ ท่านอาจจะคิดว่า ทุกคนเกิดมาแล้วมีบาป ขึ้นชื่อว่าคนมีบาปก็ต้องลงอบายภูมิ เป็นของธรรมดา แต่ว่าคนที่มีบาปเยอะ ๆ ไม่ลงอบายภูมิก็มีอย่าง องคุลีมาล เป็นต้น ฆ่าคนพันกว่าคนเศษ เมื่อพบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์คือพระพุทธเจ้าฟังเทศน์จบเดียวมีความ
    เลื่อมใสขอบวชในพระพุทธศาสนา และก็ปฏิบัติเป็นพระอรหันต์ ฆ่าคนตั้งพันคนนะ .."

    "....วิธีหนีนรก ก็คือว่า หนึ่ง ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า ยอมรับนับถือพระธรรม ยอมรับนับถือพระอริยสงฆ์ ด้วยความจริงใจ จงอย่าทำใจให้พลาดจากการยอมรับนับถือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ คิดว่าเราจะยอมรับนับถือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยความจริงใจ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะไม่ยอมให้ภาพนี้คลายไปจากใจของเรา ...เราจะนึกเห็นพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ นึกเห็นพระธรรม นึกเห็นพระอริยสงฆ์ เป็นปกติ...

    ....และประการที่สอง ขอท่านทั้งหมดจงพากันมีศีลบริสุทธิ์ จะเป็นศีล ๕ ก็ตาม ศีล ๘ ก็ตาม ศีล ๑๐ ก็ตาม กรรมบถ ๑๐ ก็ตาม ศีล ๒๒๗ ก็ตามทำได้...อย่างเทวดาชั้นยามา ชั้นดุสิต หรือพรหม สามารถรักษาศีล ๒๒๗ ได้เหมือนพระ เทวดาชั้นยามาถึงแม้ว่าจะเป็นกามาวจรสวรรค์ ก็ไม่สนใจกับโลกภายนอก...

    ....แล้ว ตั้งใจสวดมนต์บ้าง เจริญภาวนาบ้างเป็นปกติ อย่างนี้ ถือว่าทุกท่านมีขอบข่ายพระนิพพานเป็นขอบเขต..."



    (หนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๑๔)
    ...โดย หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,815
    ค่าพลัง:
    +4,674


    affb51a9-30ef-463d-a2a8-91af6e4d5911-jpeg.jpg


    ...ว่าจะถามหลายครั้งแล้ว

    ไม่ทราบว่าหลวงพ่อที่นั่งอยู่บนรถ
    เป็นท่านพระครูปลัดสุริยัณหรือไม่ครับ

    และชายคุ้นๆหน้าใส่แว่นดำคืออจ.นพ ใช่เปล่าครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...