*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. MK2508

    MK2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,916
    ค่าพลัง:
    +4,248
    รายการที่870 รูปกระดาษหนังไก่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลังยันต์เกาะเพชร

    จัดสร้างโดยครูบาอาจารย์ท่านใด
     
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ยุคหลังหลวงพ่อปานครับ...ทางวัดบางนมโคจัดสร้าง...แต่ไม่ทราบหลวงพ่อ...ที่เป็นเจ้าอาวาสในการจัดสร้างแน่ชัดครับ...ขอบคุณครับ
     
  3. MK2508

    MK2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,916
    ค่าพลัง:
    +4,248
    จองบูชา
    รายการที่870 รูปกระดาษหนังไก่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลังยันต์เกาะเพชร
     
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่877 พระเนื้อผง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงปลา รุ่นสู่มาตุภูมิ พระเครื่อง เมืองกรุงศรีฯ ปี 2533
    หลวงพ่อปาน ถือกำเนิดที่ย่านวัดบางนมโค เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2418 ท่านเป็นบุตรชายคนเล็กของ คุณพ่ออาจ และคุณแม่อิ่ม สุทธาวงศ์ อาชีพของครอบครัว คือการทำนา
    สาเหตุที่โยมบิดาขนานนามท่านว่า ปาน เนื่องจากท่านมีสัญญลักษณ์ประจำตัวที่นิ้วก้อยมือซ้ายเป็นปานแดง ตั้งแต่โคนนิ้วถึงปลายนิ้ว ซึ่งนับว่าแปลกและไม่ค่อยจะมีกัน

    หลวงพ่อปาน อุปสมบทเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2438 โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.อยุธยา

    พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอาจารย์จ้อย วัดบ้านแพน ต.สามกอ อ.เสนา จ.อยุธยา
    พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระอาจารย์อุ่ม วัดสุธาโภชน์ ต.บางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา ท่านได้ ฉายาว่า โสนันโท

    เมื่อหลวงพ่อปาน อุปสมบทแล้ว ได้มาอยู่ที่วัดบางปลาหมอ โดยมีหลวงพ่อสุ่น เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานวิปัสสนาพุทธาคมต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนผู้คนที่ถูกคุณไสยฯ หลวงพ่อปานได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆจนหมดสิ้น

    เรียนพระปริยัติธรรมและภาษาบาลีกับอาจารย์จีน วัดเจ้าเจ็ด ๒ ปี, และไปเรียนต่อที่วัดสระเกศ กรุงเทพฯ อีก จนจบอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ใช้เวลาอยู่กรุงเทพฯ ๕ ปี

    ขณะที่อยู่กรุงเทพฯ เรียนเพิ่มเติมที่วัดสังเวชด้านแพทย์แผนโบราณ ได้หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี เป็นอาจารย์สอนด้านกรรมฐานเพิ่มเติม เป็นเวลารวมประมาณ ๓ เดือน

    ศึกษาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี ประมาณ ๑ เดือน

    เรียนวิชาจากชีปะขาว ในการสร้างพระเครื่อง มีรูปแบบ ๖ พิมพ์ เรียนวิชาจากอาจารย์แจง ซึ่งเป็นฆราวาสชาวสวรรคโลก ได้สอน "ยันต์เกราะเพชร" เป็นยันต์ที่ยอดเยี่ยมมาก

    เมื่อเรียนจบแล้วก็มาตั้งสำนักสอนภาษาบาลี และนักธรรมที่วัดบางนมโค และได้เริ่มก่อสร้างวัดบางนมโค จนเจริญรุ่งเรือง ตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ นอกจากวัดบางนมโคแล้ว ท่านยังได้สร้างวัดต่างๆ อีกประมาณ ๔๑ วัด และยังมีการสร้างโบสถ์อีกมากมายหลายแห่ง นับว่าเป็นพระที่มีบารมีสูงมาก จึงสามารถสร้างสิ่งถาวรวัตถุ เพื่อสืบศาสนาได้มากขนาดนี้

    เมื่อท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อสุ่นแล้ว ก็ออกธุดงค์เพียงองค์เดียวในป่าลึก และเมื่อท่านได้ลูกศิษย์ (ซึ่งมีพระมหาวีระ ถาวโร รวมอยู่ด้วย) ก็พาออกธุดงค์จนถึงเขตแดนพม่า ซึ่งระหว่างธุดงค์ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งนับว่าล้วนแปลกมหัศจรรย์ บางท่านเมื่อได้อ่านพบ หรือได้ฟังแล้วต่างพูดกันว่าเป็นไปได้หรือ

    ส่วนการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกทั้งผู้ที่ถูกของหรือถูกคุณไสยทุกชนิด ถ้าพาคนเจ็บมาถึงวัดบางนมโค และได้รับการรักษาจากหลวงพ่อปานแล้ว ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ผิดหวัง รอดตายหายดีทุกราย

    หลวงพ่อปานท่านมีลักษณะของมหาบุรุษ มีผิวพรรณขาวสะอาด เสียงกังวานไพเราะ มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ลักษณะ รูป กาย สมส่วน มีเมตตาปราณีแก่สัตว์โลกทั้งหลาย ไม่ถือชั้นวรรณะ ต้อนรับผู้คนที่มาหาโดยไม่เลือกว่าเป็นเศรษฐี ผู้ดี ไพร่, ว่ากันว่าบุคคลที่มีจิตใจชั่วช้ามัวเมา หากได้สนทนากับหลวงพ่อแล้ว จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    กิจวัตรประจำวันของท่านฯ ยามที่ท่านอยู่วัด ส่วนใหญ่หลังจากที่ท่านฉันเรียบร้อยแล้ว ท่านฯ จะพักผ่อนจนถึงเวลาฉันเพล นั่นคือเวลาที่ท่านได้พักผ่อนจริงๆ หลังจากนั้นแล้ว ท่านก็จะออกมานั่งรับแขก และทำน้ำมนต์เตรียมไว้เพื่อรักษาคนไข้ คนป่วยต่างๆ ที่มาหาท่าน วันหนึ่งๆ มีคนมาหาท่าน เพื่อขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก สารพัดโรค ถูกทำของหรือถูกคุณไสยก็มีเยอะ รักษากันตั้งแต่เพลเรื่อยไป บางวันถึงดึกดื่นก็มี แม้ท่านฯ จะเหนื่อยยากเพียงไร ท่านก็สงเคราะห์ชาวบ้านเช่นนี้เสมอไป

    ถึงแม้หลวงพ่อปานท่านจะจากไปแล้ว แต่ท่านก็ได้ทิ้งมรดกอันล้ำค่า ไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน หรือบุคคลที่นับถือเลื่อมใสท่าน มรดกอันมีค่าควรเมืองได้แก่

    ๑. พระหลวงพ่อปาน
    ๒. ผ้ายันต์, ยันต์เกราะเพชร
    ๓. พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์

    ยันต์เราะเพชร
    การเป่ายันต์เกราะเพชรนี้ ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านได้เรียนมาจากอาจารย์แจง ซึ่งเป็นฆราวาส ชาวสวรรคโลก จากตำราของอาจารย์พระร่วง แต่ผู้ที่จะทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้ ต้องมีศีลบริสุทธิ์ และมีฌานแก่กล้า จึงจะทำให้ยันต์นั้นเข้าไปสถิตย์อยู่ในตัวของผู้ที่ต้องการได้

    ยันต์เกราะเพชรนี้ มาจากการเขียนบทพระพุทธคุณห้องต้น คือ พระอิติปิโสภควา จนถึง พุทโธภควาติ เรียกว่า พระอิติปิโสแปดทิศนี้ รูปแบบและพระคาถาแบบนี้

    ๑. อิระชาคะตะระสา
    ๒. ติหังจะโตโรถินัง
    ๓. ปิสัมระโลปุสัตพุท
    ๔. โสมานะกะริถาโธ
    ๕. ภะสัมสัมวิสะเทภะ
    ๖. คะพุทปันทู ทัมวะคะ
    ๗. วาโธโนอะมะมะวา
    ๘. อะวิสุนุสานุสติ

    พระคาถานี้ มีอุปเท่ห์การใช้แต่ละบทอย่างพิศดาร ทั้งแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี คุ้มกันอันตราย เรียกว่าฝอยท่วมหลังช้าง แล้วแต่จะใช้คุ้มกันตัว เวลากลางคืนก่อนนอนให้ท่องพระคาถานี้ตามกำลังวัน แล้วตั้งจิตให้นิ่งและให้เป็นวงรอบเขตบ้าน หรือสถานที่พักแรม จะป้องกันภัยได้ทุกสารทิศ ศัตรู โจรจู่โจมก็ให้รู้สึกตัวก่อน ป้องกันได้ทันแล

    ยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปานนี้ ก็ใช้บทพระพุทธคุณห้องต้น มาเรียงกันตามตำรา กำหนดแล้วขีดเส้นโยงเป็นตารางสานกันไปมา ระหว่างตัวอักขระพระอิติปิโสนี้ บังเกิดเป็นเกราะแก้ว ประสานกันรอบตัวยันต์ โดยเพิ่มตัวอุณาโลมและตัวโมลงไปด้วย ดังนั้น ยันต์เกราะเพชรของท่าน จึงสามารถคุ้มกันอันตราย ดุจมีเกราะแก้วกำบังตัว และมีกำแพงแก้วแปดชั้นมากั้นมารร้ายแล

    (ผ้ายันต์ของหลวงพ่อปานก็มียันต์เกราะเพชร ตกถึงสมัยยุคนี้ยังพอมีให้เห็น แต่ผู้เป็นเจ้าของก็หวงแหนมาก)


    พระเนื้อผง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงปลา รุ่นสู่มาตุภูมิ จัดสร้างขึ้นและพุทธาภิเษกปี 2533 รุ่นนี้หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสกครับ ตัวเนื้อผงผสมชนวนมวลสารเก่าของหลวงพ่อ ด้านหน้าองค์พระเป็นพิมพ์ทรงปลาครับ ส่วนด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชรที่เป็นยันต์อันเลื่องลือระบือนามว่าศักดิ์สิทธิ์มากของหลวงพ่อ
    ปิดครับ
    IMG_20181010_223145.jpg IMG_20181010_223137.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2019
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่878 พระหลวงพ่อปานพิมพ์ทรงไก่ รุ่นสู่พุทธภูมิ วัดบางนมโค เสาร์ห้า ปี2536 ผงอุดอยู่ครบสภาพเดิม กล่องเดิมครับ
    รุ่นนี้ปลุกเสกพิธีใหญ่ (เสาร์ห้า) วันที่ 27 มีนาคม 2536 โดยมีพระเกจิดังสายอยุธยา ร่วมปลุกเสกมากมาย อาทิเช่น
    1.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา
    2.หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
    3.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
    4.หลวงพ่อพูล วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    5.หลวงพ่ออุไร กิตติสาร เจ้าอาวาสวัดบางนมโค จ.อยุธยา
    6.หลวงพ่อมี เขมธัมโม วัดมารวิชัย จ.อยุธยา
    7.พระครูกิตติธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดเจ้าแปดทรงไตรย์ จ.อยุธยา
    8.หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา จ.อยุธยา

    มวลสารสำคัญมากมายที่นำมาสร้าง ได้แก่
    1.พระเนื้อดินที่หักชำรุดของหลวงพ่อปาน
    2.พระเนื้อดินที่หักชำรุด รุ่นสู่มาตุภูมิ วัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสก ปี2533
    3.พระที่หักชำรุดของหลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค
    4.พระเนื้อดินที่หักชำรุดของ หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด
    5.พระกรุอยุธยาที่หักชำรุด
    6.ผงวิเศษของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    7.ผงพุทธคุณของหลวงปู่ ทิมวัดพระขาว

    ปิดครับ
    IMG_20181010_223212.jpg IMG_20181010_223203.jpg IMG_20181010_223155.jpg IMG_20181010_223221.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2019
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่879 พระขุนแผนฝังตะกรุด 2 ดอก พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว หลังติดทรายเสก ลป. สรวง เทวดาเล่นดิน เนื้อหินปราสาทขอมพันปี ปี39
    จัดสร้างโดย อาจารย์เสริฐ มหาวีโรเพื่อหาปัจจัยสร้างศาลาสำนักสงฆ์บ้านตาโคลปี2539
    หลวงปู่สรวง ท่าน สั่งให้ อเสริฐ ไปเก็บ ซากปราสาทหินขอมพันปี มาบดผสมทำเนื้อพระ เพื่อถือเอาเคล็ดว่าเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ายิ่งใหญ่ดุจปราสาทยุคอาณาขอมรุ่งเรือง อีกทั้งยังมีมวลสาร เช่น แร่ดูดทรัพย์ ซึ่งเป็นผง เหล็กไหลประเภทหนึ่งจาก เขาพนมกุเลน และ ผงอาถรรพณ์มงคล อาจารย์เสริฐนำหินปราสาทมาบดเป็นผงและนำไปผสมมวลสารอื่นๆ อีกมากมาย
    • พิธีใหญ่ปลุกเสก 3วัน 3คืน ระหว่างวันที่12-14เมษายน 2539
    • มีพระเกจิอาจารย์สายอีสานใต้ไปร่วมพิธีมากมาย (เกือบ 300 รูป) เช่น หลวงปู่เครื่อง/วัดสระกำแพงใหญ่, หลวงปู่หงส์/สุสานทุ่งมน, หลวงปู่เจียม/วัดกะมอล, หลวงปู่เจียม/วัดหนองยาว, หลวงปู่เกลี้ยง/วัดโนนแกด , หลวงปู่สาย/วัดตะเคียนราม, หลวงปู่ชื่น/วัดตาอี, หลวงปู่ฤทธิ์/วัดชลประทานดำริ, หลวงพ่อสร้อย/วัดเลียบราษฏร์บำรุง เป็นต้น
    • หลวงปู่สรวงท่านบอกว่าว่า ขุนแผนรุ่นนี้เป็น"เมตตามหานิยมชั้นสูง"
    • หลายๆ คนสมัยก่อนก็ได้ดีเพราะบูชาพระรุ่นนี้ ปัจจุบันก็เจริญในการงานเป็นใหญ่กันหมด

    • ขุนแผนรุ่นนี้มีประสบการณ์ด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม เจริญในหน้าที่การงานและแคล้วคลาด
    คุณJS1213 ปิดครับ
    IMG_25620422_113657.JPG IMG_25620422_113547.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2019
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่880 พระสิบชาติตัดเดี่ยว กรุวัดกระชาย อยุธยา
    ประสบการณ์ หายห่วงครับ ตามตํานานของอยุธยา เล่าสืบต่อกันมาว่า “สมเด็จพระเอกาทศรถ” ท่านได้สร้างวัดประจําพระองค์วัดหนึ่ง อยู่ใต้วัดวรเชษฐ์นอกเกาะ วัดแห่งนี้ชื่อว่า “วัดเจ้าชายธรรมราชา” เรียกสั้น ๆ ว่า “วัดเจ้าชาย” และเพี้ยนเสียงมาเป็น “วัดกระชาย” มีชาวบ้านแถบวัดกลางทุ่งปากกราน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก ของวัดเจ้าชาย เคยเข้ามาขุดกรุที่องค์เจดีย์ได้โบราณวัตถุเป็นพระพิมพ์ดินเผา ลักษณะของพระพิมพ์เป็นพระพุทธรูป “ปางสมาธิ” และ “ปางมารวิชัย” พระพิมพ์วัดกระชายนี้ชาวบ้านแถบนั้นมีความเคารพนับถือว่า มีความศักดิ์สิทธิ์มาก และมักจะเรียกพระพิมพ์ลักษณะนี้ว่า "พระเจ้าสิบชาติ" ซึ่งหมายถึง “ชาติทั้งสิบของพระพุทธเจ้า” สมเด็จพระเอกาทศรถ ท่านมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ท่านได้สร้างพระและสร้างวัดมากมาย จึงไม่แปลกใจที่แต่ละวัดที่ท่านสร้างจะมีพระดีบรรจุไว้ในเจดีย์แทบทุกวัด สาเหตุที่พระองค์ทรงสร้างพระกรุวัดกระชาย สันนิษฐานได้ว่า พระองค์ท่านอาจปรารถนาพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตต่อไป จึงได้สร้างพระพิมพ์นี้ไว้

    เคยมีคนนำไปทดลองยิง “พระกรุวัดกระชาย” โดยเอาไปวางไว้ที่โค่นต้นกล้วยแล้วเหนี่ยวไกปืนยิงในระยะใกล้ๆ ผลปรากฏออกมาว่า ลูกกระสุนไม่เคยโดนพระกรุวัดกระชายเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้เป็นที่ฮือฮากันอย่างมาก ข่าวดังกล่าวได้บอกต่อๆ กันไป และไปถึงค่ายทหารแห่งหนึ่งในเมืองลพบุรี ทหารจึงพากันเดินทางมาขอแบ่งบูชากันไปเป็นจำนวนพอสมควรทีเดียว และได้ยิงทดสอบกันตรงนั้นเลย ผลปรากฏออกมาเหมือนเดิมคือ ไม่โดนองค์พระใดเลย แม้จะนั่งยองๆเข้ามาใกล้มากถึงแค่หนึ่งคืบ ลูกกระสุนก็ยังเบี่ยงไปไม่เคยโดนพระกรุวัดกระชายเลยแม้แต่นิดเดียว

    และยังมีประสบการณ์จริง แบบโคตรเหนียวหนึบ ที่เล่ากันแบบไม่รู้จบ ต่อมาก็คือ นักเรียนเทคนิคอยุธยาคนหนึ่ง ถูกคู่อริจ่อยิงซึ่งๆหน้า (ไม่เกินหนึ่งวา) 3 นัดซ้อน ปรากฏว่าไม่มีดังซักนัด มีเพียงแต่เสียงสับไกปืนดังแชะๆๆ 3 นัดซ้อน คนถูกยิงยืนตะลึง อ้าปาก ตาค้าง สติแตก แต่พอได้สติ ก็วิ่งโกยหน้าตั้งแบบวิ่ง 100 เมตร เสียงปืนดังตามหลังปังๆๆๆมาอีก 3 นัดไม่มีโดนซักนัด (ผู้เล่าคือ นักเรียนเทคนิคอยุธยาผู้ที่ถูกยิง ยังมีชีวิตอยู่ เล่าให้ฟังแบบสยองขวัญ รอดตายเพราะพระกรุวัดกระชาย ที่เลี่ยมคล้องคออยูเพียงองค์เดียวแท้ๆ เหนียวจริงๆ เหนียวที่สุด แถมแคล้วคลาดที่สุดอีกด้วย

    และมีความเชื่อสืบทอดกันมาว่า “พระกรุวัดกระชาย” มีพระพุทธคุณโดดเด่นด้านทางด้านรับราชการทุกประเภท เมตตาแรงมากๆๆๆ ปากวาจาสิต เสริมธุรกิจพันล้าน เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง มหาอำนาจ เสริมบารมี เสริมอำนาจวาสนาชั้นสูง เพิ่มฤทธิ์เดช เพิ่มบารมี คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุตฆ์ เรียกเงินทองขั้นสูง เดินทางต่างประเทศ และป้องกันภัยพิบัติทั้งปวง นักเลงโบราณรุ่นคุณปู่ คุณตา จะพกพา “พระกรุวัดกระชาย” ติดตัวเป็นประจำ ปัจจุบันนับว่าเป็นพระกรุที่ค่อนข้างหายาก เนื่องจากพระเก่าพระโบราณที่แตกกรุออกมานานแล้ว นับวันจะหายากขึ้นทุกที

    พุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก เหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการเมือง นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหยอดลูกค้า) นักเดินทางรอบโลก นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง เด็กเสี่ย ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกอาชีพ มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม ผู้มีอิทธิพล ผู้ที่มีศัตรูมากคอยจ้องคิดจะทำร้ายเราอยู่เสมอๆๆๆ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

    พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อเพศตรงข้าม การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น
    ปิดครับ
    IMG_20181005_225002.jpg IMG_20181005_225013.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2019
  9. JS1213

    JS1213 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +5,349
    จองรายการนี้ค่ะ
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่881 พระอุปคต พิมพ์นั่งบัวสลับฟันปลาศิลปะเขมร ลป. สรวง เทวดาเล่นดิน เนื้อเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์ (เหล็กไหลจากเขาพนมกิเลน,เหล็กน้ำพี้,เหล็กไหลเพลิง) ปี39
    พระอุปคต ผู้ปราบพญามาร หลวงปู่สรวงกล่าวว่า "กำจัดมาร คุ้มครองป้องกัน ให้โชคให้ลาภดี"

    พระอุปคต เป็นพระอรหันตสาวกผู้ยังมีชีวิติอยู่ ณ ท้องมหาสมุทร
    บูชา พระอุปคต ผู้มีบุญฤทธิ์และอิทธิฤิทธิ์ ค้าขายดี มีโชคลาภ การงานก้าวหน้า แคล้วคลาดอุบัติเหตุ โรคภัย และช่วยชี่ทางให้ตรงจริตให้ผู้ปฎิบัติธรรม


    •จัดสร้างโดย อาจารย์เสริฐ มหาวีโรเพื่อหาปัจจัยสร้างศาลาสำนักสงฆ์บ้านตาโคลปี2539
    • พิธีใหญ่ปลุกเสก 3วัน 3คืน ระหว่างวันที่12-14เมษายน 2539
    • มีพระเกจิอาจารย์สายอีสานใต้ไปร่วมพิธีมากมาย (เกือบ 300 รูป) เช่น หลวงปู่เครื่อง/วัดสระกำแพงใหญ่, หลวงปู่หงส์/สุสานทุ่งมน, หลวงปู่เจียม/วัดกะมอล, หลวงปู่เจียม/วัดหนองยาว, หลวงปู่เกลี้ยง/วัดโนนแกด , หลวงปู่สาย/วัดตะเคียนราม, หลวงปู่ชื่น/วัดตาอี, หลวงปู่ฤทธิ์/วัดชลประทานดำริ, หลวงพ่อสร้อย/วัดเลียบราษฏร์บำรุง เป็นต้น

    ปิดครับ
    IMG_25620425_144855.JPG IMG_25620425_144655.JPG IMG_25620425_144738.JPG IMG_25620425_144612.JPG IMG_25620425_144502.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2019
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่882 ผ้ายันต์เมตตามหานิยมตำหรับล้านนา สร้างตามตำราของ พระครูมงคลรังษี (หลวงปู่ครูบาก๋ง) วัดศรีมงคล อ.ท่าวังผา จ.น่าน
    ผ้ายันต์เมตตามหานิยม - ม้าชมนาง - พญาควายเขาคำ - จิ้งจกสองหาง - ทิพพญาธร - แม่นางกวัก - หนูกินน้ำนมแมว เป็นตำหรับยัต์ของล้านนาที่เก่าแก่สืบทอดมาแต่โบราณ ท่านได้กล่าวไว้ว่าอานุภาพมากมาย เด่นทางเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ เป็นมงคลโชคลาภทุกประการ
    ครูบาก๋ง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีมงคล จ.น่าน ท่านเชี่ยวชาญวิชาทางล้านนาอย่างรู้ลึกรู้จริง แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว (ไม่เน่า) แต่ตำหรับตำราของท่านยังอยู่ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้สืบตำราต่อและได้จัดสร้างผ้ายันต์ตามแบบฉบับท่านสืบมาจนถึงปัจจุบัน
    ปิดครับ
    IMG_20180911_220752.jpg Untitled-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2019
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่883 ขุนแผน หลังปิดตา จินดามณี องค์ครูฝังตะกรุด หลวงพ่อเขียว วัดระเว จ.นครราชสีมา
    “หลวงพ่อเขียว” ท่านมีนามเต็มๆ ว่า “หลวงพ่อเขียว อินทโชโต” ซึ่งบางคนก็เรียกท่านว่า “หลวงปู่เขียว” ส่วนบางคนก็เรียกท่านว่า “หลวงพ่อเขียว” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ “สายเสน่ห์” ที่หาตัวจับได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะท่านเก่งมากในเรื่องการลง “นะ หน้าทอง มหาเสน่ห์” ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อใหญ่ วัดระเว ซึ่งหลวงพ่อใหญ่นี้ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ จอมขมังเวทย์ แห่งเมืองโคราชในอดีต ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อหมา แห่งวัดระเว เจ้าตำนานของพระปิดตามหาเสน่ห์ และเมตตามหานิยม “พระปิดตาคลุกรัก พิมพ์หูกระต่าย” อันเลื่องชื่อระบือนาม อีกทีหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อหมานี้ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับ “หลวงพ่อแก้ว” แห่งวัดเครือวัลย์ เจ้าของฉายา “ผู้หยุดรถไฟ” ผู้โด่งดังในอดีต

    พระองค์นี้ (ซึ่งบางคนก็จะเรียกติดปากว่า "ขุนแผน" แต่จริงๆ แล้วเป็น "พระ" ไม่ใช่ ่"ขุนแผน" อย่างที่เข้าใจกัน แต่เนื่องจากพุทธคุณได้เน้นหนักไปในทางด้านมหาเสน่ห์ขั้นสูง มหานิยม มหาเมตตา มหาหลง และทางมหาโชค มหาลาภขั้นสูง บางคนเลยเรียกเหมารวมๆ ไปว่า "ขุนแผน") โดยเป็นพระพิมพ์ปางมารวิชัย ในวุ้มเรือนแก้วอันมีความหมายแฝงเป็นนัยยะที่สำคัญถึง การมีอำนาจบารมีเด่นเหนือผู้อื่น การเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การหนุนดวง การเสริมดวง และการเรียกโชคเรียกลาภเข้ามาหาตัว ตลอดจนยังเป็นมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอีกด้วย

    ส่วนในเรื่องเนื้อหามวลสารของขุนแผนนี้ เนื้อหามวลสารนั้นจัดมากๆๆๆ และแรงมากๆๆๆ กล่าวคือ ได้จัดสร้างขึ้นด้วย “ผงมวลสารวิเศษ” ต่างๆ มากมายหลายชนิด หลายประเภทด้วยกัน อาทิเช่น จัดสร้างขึ้นด้วย “ผงวิเศษที่ได้มาจากเขียนยันต์ และลบยันต์ จำนวนอย่างละ 108ครั้ง” ซึ่งได้แก่ –ผงพุทธคุณ –ผงธรรมคุณ –ผงสังฆคุณ –ผงปถมัง –ผงมหาราช –ผงอิทธิเจ –ผงตรีนิสิงเห –ผงยอดพระคาถาอิติโสรัตนมาลา ผงอันได้มาจาก “มหาว่าน” ทางด้านต่างๆ อันได้แก่ -ผงว่านอาถรรพ์ 108ชนิด -ผงว่านทางด้านคงกะพัน 108ชนิด -ผงว่านทางด้านเมตตา 108ชนิด -ผงว่านทางด้านกามคุณต่างๆ และ -ผงว่านทางด้านเรียกโชค เรียกลาภต่างๆ อีกอย่างละ 108ชนิด เช่น ว่านมหาเศรษฐี ว่านเรียกทรัพย์ ว่านดูดทรัพย์ เป็นต้น ผงอันได้มาจาก “มหาว่านทางด้านเสน่ห์” ต่างๆ อันได้แก่ - ว่านสาลิกาลิ้นทอง 18แฉก – ว่านสาวรุมล้อมรัก – ว่านการะเวกหลงรัง - ว่านร่านสวาท - ว่านเสน่ห์เดือนเสน่ห์ปี - ว่านอุดมสตรี – ว่านพญาขุนแผนออกศึก – ว่านหลงไม่รู้ลืม - ว่าน 80แม่หม้ายตีกันเอง – ว่านยั่วเสน่ห์ - ว่านกระทืบใจนาง – ว่านกลืนหัวใจสาว – ว่านขุนแผนเคียงนาง – ว่านนางพ่าย – ว่านห้าแสนนางพัลวัน - ว่านมหาหลง 600ชนิด - ว่านโคตรดอกทอง 28ชนิด – ว่านนางล้อมเมือง – ว่านเจ้าครองเมือง - ว่านนะหน้าสังข์ทอง ฯลฯ เป็นต้น และนำ “ผงมวลสารวิเศษ” ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น มากดพิมพ์เป็น “ขุนแผน” ขึ้น โดยมี “น้ำมันระเว” ซึ่งจัดสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ สูตรตำรับของ หลวงพ่อเขียว โดยเฉพาะ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นตัวประสาน

    จากการเรียนถาม “หลวงพ่อเขียว” ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า “ขุนแผน” รุ่นนี้ของท่านนั้น ท่านได้ตั้งใจจัดสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ และอย่างเข้มขลังโดยเฉพาะ ด้วย “ผงมวลสารวิเศษ” ต่างๆ มากมาย หลายชนิด หลายประเภท และท่านได้เมตตาปลุกเสกเดี่ยว แบบอัดยัดประจุ “อำนาจพลังจิต” (ด้านเสน่ห์) เข้าไปเป็นพิเศษเป็นการเฉพาะ

    และท่านยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า วิชา “ขุนแผนวัดระเว” เป็นวิชาของโบราณาจารย์ที่ตกทอดสืบกันมานานแล้ว ซึ่งได้บันทึกไว้ใน “คัมภีร์” ใบลานเก่าแก่ เป็นวิชาหาผู้ที่ทำได้ยากมาก เพราะเป็นวิชาโบราณ มีขั้นตอนในการทำที่ยุ่งยากมากๆๆๆ

    เคยมีคนถามท่านว่า ถ้าผู้ชายใช้ “ขุนแผน” ของท่านแล้วจะเป็นอย่างไร ท่านตอบเพียงว่า “ก็มีเมียเยอะ น่ะสิ ขอให้เลี้ยงดูกันให้ดีๆๆ จัดสรรปันส่วนเงินทองให้เท่าๆ กันน่ะ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง แล้วจะมาโทษฉันทีหลังไม่ได้น่ะ ฉันเตือนแล้วน่ะ!!!” (ส่วนผู้หญิงใช้ ท่านบอกว่า ใช้แล้ว ผัวจะเยอะ ก็จะมีหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ มาจีบติดพันเยอะมาก) โดยท่านบอกว่า “ขุนแผน” ของท่านนั้นแรงมากๆๆๆ ปลุกเสกให้เน้นหนักไปทางด้านมหาเสน่ห์ และด้านเรียกโชคลาภเงินทอง ทำมาค้าขาย โดยเฉพาะ เพราะเรื่องเสน่ห์ และเงินทองนั้น ท่านบอกว่า ต้องใช้ “วิชาสายวัดระเว” เท่านั้น ถึงจะเร็ว และแรง เห็นผลแบบทันตา เพราะวิชาของท่านนั้นแรงมากจริงๆๆ ประสบการณ์สูงมากจริงๆๆ

    พระองค์นี้มีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการเมือง นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเดินทางรอบโลก นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง เด็กเสี่ย ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกอาชีพ มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม ผู้มีอิทธิพล ผู้ที่มีศัตรูมากคอยจ้องคิดจะทำร้ายเราอยู่เสมอๆๆๆ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

    พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อเพศตรงข้าม การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น เมื่อเทียบกับเงินเพียงน้อยนิดที่ท่านเสียไปแต่ก็ยังสามารถหาใหม่ได้ แต่ความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อเพศตรงข้าม การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย นี้สิครับที่หาได้ยากยิ่งกว่า โอกาสมาถึงแล้วน่ะครับ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปน่ะครับ เสียดายแทนและยังเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นมากกว่าเดิมที่เคยเป็น อยู่ด้วย

    ปิดครับ

    IMG_20180915_120525.jpg IMG_20180915_120514.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2019
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    IMG_25620427_172637.JPG
    ย่ามโภคทรัพย์
    จารหมึกสีทองสี่แถว หน้า-หลัง ลป. สรวง เทวดาเล่นดิน ปี39 ขนาด 13*25 นิ้ว
    ***ค้าขายเอาเงินใส่ย่ามปู่สรวง เหมือนได้ถวายท่าน ย่อมได้เงินเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว สาธุครับ...***
    IMG_25620427_172637.JPG IMG_25620427_172411.JPG IMG_25620427_172519.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2019
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่884 พระผงพิมพ์หลวงพ่อปาน ทรงนกคุ้ม รุ่นแรก ฝังพระธาตุ หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี
    เอ่ยถึงพระหลวงปู่บุดดา คนเล่นพระอาจมองข้ามไปอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยเหตุผล พระท่านไม่ดัง พระท่านไม่แพง หรือห้อยแล้วไม่เท่ โชว์ไม่ได้ หรือไม่มีข่าวคราวปาฏิหาริย์อะไร อย่างฟันไม่เข้าหรือยิงไม่เข้าตามหน้าหนังสือพิมพ์ อันนี้ ขอท่านได้พิจารณาให้รอบคอบ อันศักดิ์ศรีของหลวงปู่บุดดานั้น แม้จะดูธรรมดาในสายตาชาวโลก แต่สายของเหล่ากองทัพธรรมนั้นสูงสุดจะบรรยาย ครั้งหนึ่งท่านได้เดินทางไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่บุดดาได้เทแป้งเสกลงในมือหลวงปู่ดู่ และทันทีทันใดเหมือนกัน หลวงปู่ดู่รีบเทแป้งเหล่านั้นลงบนศรีษะท่านจนขาวโพลนไปหมด ท่ามกลางความ ตกตะลึง ของเหล่าลูกศิษย์ท่านมากๆ เพราะปกติหลวงปู่ดู่ท่านมีกิริยาที่เรียบร้อยเอามากๆ จนเมื่อหลวงปู่บุดดากลับไป ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ถามหลวงปู่ทันที หลวงปู่ทำไมเทแป้งอย่างนั้นล่ะครับ ท่านตอบทันที ก็ผง พระอรหันต์ ท่านให้ จะให้เอาไว้ตรงไหนนอกจากบนศรีษะของเรา ไม่งั้นจะเป็นการไม่เคารพ และที่สำคัญในพิธีเปิดโลกที่แสนสะโด่งดังนั้น หลวงปู่ดู่ท่านยังเชิญบารมีขององค์หลวงปุ่บุดดามาร่วมเสกด้วย (ทางญาณนะครับ) แม้แต่องค์หลวงปุ่ชา วัดหนองป่าพง พระเถระที่ปกติไม่สรรเสริฐพระองค์ไหนง่ายๆ ในวันหนึ่ง เมื่อท่านทราบว่าหลวงปุ่บุดดา นั่งอยุ่บนรถบัส ท่านถึงพูดกับลูกศิษย์ว่า ไม่ให้ท่านลงมานะ เราจะขึ้นไปกราบหลวงปุ่บุดดาบนรถเอง แล้วท่านก็ขึ้นไปทั้ง กราบ ทั้ง ไหว้ อย่างเคารพและเรียบร้อยที่สุด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงท่านเคยบอกให้ลูกศิษย์ไปกราบ หลวงปู่บุดดา ตั้งแต่ที่ท่านยังอยุ่ที่วัดอาวุธ ฝั่งธน กทม. โดยให้เหตุผลว่า รีบไปกราบท่านนะ หลวงปู่องค์นี้ ท่านเป็นพระทองคำ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ และยกย่องหลวงปุ่บุดดาอีกหลายครั้ง และหากท่านสงสัยในกัปกริยาที่ค่อนข้างจะแหวกแนว และ ล่อแหลมขององค์หลวงปู่ ที่มักทำอะไรที่คนทั่วไปมองว่าผิดปกติ ขอให้คิดเอาเสียใหม่ นี่คือเนื้อนาบุญของแท้ ซึ่งแม้แต่หลวงปู่สิม แห่งสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่อง ยังขอถวายสังฆทานและจีวร เป็นการเฉพาะ และบอกว่า หลวงปู่บุดดา ยอดเยี่ยมที่หนึ่ง แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา และแก่ทั้งมรรคผลนิพพาน หากท่านสงสัยในพุทธคุณที่หลวงปู่บรรจุไว้ในองค์พระแล้ว โปรดอ่าน ครั้งหนึ่งมีคนนำพระไปให้ท่านเสก ส่งไปแล้วท่านก้อส่งกลับ ทำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่แสดงอาการ เสก แต่อย่างใด ท่ามกลางความงุนงงของผุ้นั้นมาก จนหลวงพ่อองค์หนึ่งที่นั่งอยุ่ที่นั้นบอก พระองค์นี้ออกรบได้แล้วล่ะโยม เต็ม ตั้งแต่ที่ส่งมาให้แล้ว ........ตกใจไหม...... และเมื่อมีคนนำพระไปให้ครูบาสร้อย วัดมงคงคีรีเขต จ.ตาก พระอาคมขลัง ที่ผู้อ่านศักดิ์สิทธิ์คงรุ้จักกันดี ช่วยเสกซ้ำอีกที ท่านได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า เต็มแล้ว เสกไม่ได้แล้ว แม้แต่องค์หลวงพ่อพุธ ยังปฏิเสธเหมือนกัน และบอก จะให้เสกทับไปได้อย่างไร หลวงปู่บุดดาก็เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งของเราเหมือนกัน
    คุณeximbizcode ปิดครับ
    IMG_20180919_232211.jpg IMG_20180919_232200.jpg IMG_20180919_232149.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2019
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่885 พระปิดตารุ่นแรก หลวงพ่อนิยม กันตจาโร วัดตะเคียนเตี้ย
    "หลวงพ่อนิยม กันตจาโร" หรือ พระครูเมตตาธิการี วัดนาลิกวนาราม (ตะเคียนเตี้ย) อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี มีเมตตาธรรมสูง พลังจิตที่เข้มขลังอาคมที่แก่กล้า นามของท่านขจรขจายไปไกลทั่วภาคตะวันออก

    พระครูเมตตาธิการี มีนามเดิมชื่อ แกะ ประกอบธรรม เกิดเมื่อวันพุธ ปีขาล เดือนหก ตรงกับปีพุทธศักราช 2481 ที่บ้านตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายโด๊ด และนางสังวาลย์ ประ กอบธรรม มีพี่น้องฝาแฝด 2 คน หลวงพ่อเป็นแฝดผู้น้อง แฝดผู้พี่เสียชีวิตตั้งแต่มีอายุได้เพียง 15 วัน ครอบครัวมีอาชีพทำนา

    ในช่วงวัยเยาว์ ได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนตะเคียนเตี้ย สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จนอายุ 17 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อศึกษาเล่าเรียน จนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2501

    แต่ปรากฏว่าท่านบวชได้เพียงพรรษาเดียว ต้องมีเหตุต้องให้ลาสิกขา เนื่องจากไปคัดเลือกเกณฑ์ทหารจับได้ใบแดง

    หลังพ้นเกณฑ์ทหาร ท่านได้ใช้ชีวิตทางโลก กระทั่งเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส เข้าพิธีอุปสมบทเป็นครั้งที่สอง เมื่อปี พ.ศ.2517 ณ พัทธสีมาวัดประชุมคงคา (โรงโป๊ะ) โดยมีพระครูพิพัฒนธรรมคุณ (หลวงเตี่ยจรินทร์) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระใบฎีกาถมยา วัดประชุมคงคา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระใบฎีกาประยงค์ เจ้าอาวาสวัด นาลิกวนาราม เป็นพระกรรมวาจารย์ ได้รับฉายาว่า กันตจาโร แปลว่า ผู้มีมารยาทน่ารัก

    หลังจากนั้นได้ย้ายมาอยู่จำพรรษา ณ วัด นาลิกวนาราม (ตะเคียนเตี้ย) ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดชลบุรี

    ต่อมา ท่านเป็นพระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียง มีสำเนียงเสียงที่ไพเราะจับจิตจับใจผู้ฟัง และสนับสนุนด้านการศึกษาให้พระภิกษุ-สามเณรอย่างจริงจัง

    พ.ศ.2530 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนาลิกวนาราม (ตะเคียนเตี้ย) ได้รับแต่งตั้งเป็นฐานานุกรมในตำแหน่งพระใบฎีกาแกะ กันตจาโร

    วันที่ 5 ธันวาคม 2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูเมตตาธิการี

    ท่านได้พัฒนาและสร้างความเจริญให้วัดนาลิกวนาราม ด้วยการสร้างศาลาการเปรียญต่อจากพระใบฎีกาประยงค์ อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ สร้างศาลาทรงไทย ศาลาฌาปนกิจ สร้างเมรุ ซื้อที่ดินขยายพื้นที่วัดเพิ่มอีกประมาณ 12 ไร่ เป็นต้น

    หลวงพ่อนิยมมีความสนใจและเริ่มศึกษาเรื่องวิทยาคมตั้งแต่มีอายุได้เพียง 10 ขวบ กับโยมตาสืบ เปลี่ยนสี อาจารย์ฆราวาสจอมขมังเวทและหมอยาเลื่องชื่อ อีกทั้งท่านยังได้รับการสักยันต์และร่ำเรียนวิชาจากพระเกจิอาจารย์แห่งภาคตะวันออกหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อหิน วัดหนองสนม, หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว, หลวงพ่อทัด วัดช่องแสมสาร และหลวงพ่อสงฆ์ วัดหนองสนม เป็นต้น

    ครั้งหนึ่ง ท่านได้เดินทางไปเรียนวิชาลงตะกรุดโทนกับหลวงพ่อเขียน วัดตะพุนทอง พ.ศ.2528 ศึกษาวิทยาคมจากหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ ทั้งยังศึกษาจากอาจารย์ฆราวาสอีกหลายท่าน

    ด้วยความที่หลวงพ่อนิยมเป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อนิยมจึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น ทั้งเหรียญพระ พระผง รูปหล่อ

    แต่ที่ท่านจัดสร้างท่านเน้นจัดสร้างเพื่อแจกเสียเป็นส่วนใหญ่ หรือหารายได้เพื่อนำมาก่อสร้างหรือบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ ท่านถึงจะให้บูชา

    หลวงพ่อนิยมนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างต่อเนื่องมิได้ขาด จนกลายเป็นวัตรปฏิบัติของท่านอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดีในหมู่คณะศิษยานุศิษย์

    ท่านเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เคยดุด่าหรือว่าใครให้เจ็บช้ำน้ำใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งที่ท่านจะมีให้ลูกศิษย์อยู่เสมอ คือ ความรัก ความห่วงใย ความเมตตาที่เท่าเทียมและเสมอภาคกันโดยมิมีลำเอียง

    หลวงพ่อนิยมได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2552 ในขณะที่ท่านนั่งสมาธิวิปัสสนากัมมัฏฐาน (โดยท่านนั่งสมาธิมรณภาพ)

    การจากไปของท่านได้สร้างความเศร้าสลดแก่คณะศิษย์และผู้ที่ศรัทธาในตัวหลวงปู่เป็นอย่างมาก

    ปัจจุบัน สังขารหลวงพ่อนิยม ทางวัด นาลิกวนาราม ได้เก็บไว้เพื่อขอรับพระราชทานเพลิงศพต่อไป

    ที่มาข้อมูล : วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7177 ข่าวสดรายวัน
    คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
    ชำนาญ ใจเอื้อ

    ปิดครับ
    IMG_20180924_205834.jpg IMG_20180924_205823.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2019
  17. JS1213

    JS1213 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +5,349
    จองรายการนี้ค่ะ
     
  18. JS1213

    JS1213 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +5,349
    จองรายการนี้ค่ะ
     
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจอง...รายการ642 และ643 ครับ...
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***ผ้ายันต์รอยมือ จารหมึก หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ปี39 ขนาด 11*12 นิ้ว
    สร้างโดยพระอาจารย์เสริฐมหาวีโร ได้นำผ้าขาวที่หลวงปู่สรวงท่านใช้แล้ว มาตัดเป็นผืนๆแล้วให้หลวงปู่สรวงท่านเอาหมึกประทับฝ่ามือท่านลงบนผ้าทีละชิ้น ต่อจากนั้นก็ให้หลวงปู่สรวงท่านจารเมจิก ใช้เวลาพอสมควร แล้วอาจารย์เสริฐท่านก็นำไปเข้าพิธีปลุกเสกใหญ่ที่บ้านละลมเมื่อวันที่ 12,13,14 เมษายน 2539 เสก 3 วัน 3 คืน มีเกจิอีสานใต้ไปร่วมมากมายเพื่อนำรายได้สร้างศาลาบ้านตาโคล เช่น หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่,หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนเกตุ, หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบฯ ฯลฯ

    พกติดตัวหรือบูชาใส่กรอบที่บ้าน เปิดร้านค้า ให้มือหลวงปู่สรวง กวักทรัพย์ กวักเงินสด กวักลูกค้าให้หลั่งไหล เข้าร้าน เข้าบ้าน คุ้มครองบ้าน คนรักและครอบครัวภายในบ้าน พ้นภัยนาๆ
    กราบไหว้ รอยมือ หลวงปู่ทุกวัน ชีวิตไม่ตกต่ำ ไม่อับจน ไม่ลำบาก
    บูชาแล้วครับ

    IMG_25620427_173037.JPG IMG_25620427_173141.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...