เรื่องเด่น พระพุทธองค์ทรงค้นพบโลกและจักรวาล (จูฬนีสูตร)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 20 พฤศจิกายน 2018.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    33-0101-001.jpg
    พระพุทธองค์ทรงค้นพบโลกและจักรวาล

    จูฬนีสูตร

    [๕๒๐] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้น แล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับฟังมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่า
    ดูกรอานนท์
    สาวกของพระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีนามว่า อภิภู ยืนอยู่ในพรหมโลก ให้พันแห่งโลกธาตุ รู้แจ้งได้ด้วยเสียง พระเจ้าข้า ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ทรงสามารถ
    ที่จะทำโลกธาตุเท่าไรให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า

    ดูกรอานนท์ นั้นสาวก ส่วนพระตถาคตนับไม่ถ้วน ฯ

    ท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเป็นครั้งที่ ๒ ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับฟังมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่าดูกรอานนท์

    สาวกของพระสิขี สัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีนามว่า อภิภู ยืนอยู่ในพรหมโลก ทำให้พ้นแห่งโลกธาตุรู้แจ้งได้ด้วยเสียง
    พระเจ้าข้า ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ทรงสามารถที่จะทำโลกธาตุเท่าไรให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง ฯ

    พ. ดูกรอานนท์ นั้นเป็นสาวก ส่วนพระตถาคตนับไม่ถ้วน

    ท่านพระอานนท์ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคแม้เป็นครั้งที่ ๓ ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับฟังมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่าดูกรอานนท์ สาวกของพระสิขี
    สัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีนามว่า อภิภู สถิตอยู่ในพรหมโลก ทำให้พันแห่งโลกธาตุรู้แจ้งได้ ด้วยเสียง พระเจ้าข้า ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ทรงสามารถที่จะทำ
    โลกธาตุเท่าไรให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง ฯ

    พ. ดูกรอานนท์ เธอได้ฟังเรื่องพันโลกธาตุ เพียงเล็กน้อย ฯ
    อา. ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าแต่พระสุคต บัดนี้เป็นกาลเวลาแห่งเทศนาที่พระองค์ จะพึงตรัส ภิกษุทั้งหลายได้สดับธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคแล้ว จักทรงจำไว้ ฯ

    พ. ดูกรอานนท์ ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าวท่านพระอานนท์
    ทูลรับสนองพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

    ดูกรอานนท์ จักรวาลหนึ่ง มีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์พระอาทิตย์โคจร ทั่วทิศสว่างไสวรุ่งโรจน์ โลกมีอยู่พันจักรวาลก่อน ในโลกพันจักรวาลนั้น มีพระจันทร์พันดวง มีอาทิตย์พันดวง มีขุนเขาสิเนรุพันหนึ่ง มีชมพูทวีปพันหนึ่ง มีอปรโคยานทวีปพันหนึ่ง มีอุตตรกุรุทวีปพันหนึ่งมีปุพพวิเทหทวีปพันหนึ่ง มีมหาสมุทรสี่พัน มีท้าวมหาราชสี่พัน มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นดาวดึงส์พันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นยามาพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นดุสิตพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นนิมมานรดีพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัสตีพันหนึ่ง
    มีพรหมโลกพันหนึ่ง ดูกรอานนท์ นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างเล็กมีพันจักรวาล โลกคูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุ อย่างกลางมีล้านจักรวาลนั้น นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล ดูกรอานนท์ตถาคตมุ่งหมายอยู่ พึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาลให้รู้แจ้งได้ด้วยเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่มุ่งหมาย ฯ

    อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาคพึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล ให้รู้แจ้งด้วยพระสุรเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่พระองค์ทรงมุ่งหมายอย่างไร ฯ

    พ. ดูกรอานนท์ พระตถาคตในโลกนี้ พึงแผ่รัศมีไปทั่วโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล เมื่อใด หมู่สัตว์พึงจำแสงสว่างนั้นได้ เมื่อนั้นพระตถาคตพึงเปล่งพระสุรเสียงให้สัตว์เหล่านั้นได้ยิน พระตถาคตพึงทำให้โลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาลให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง หรือพึงทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่พระองค์ทรงมุ่งหมาย ด้วยอาการเช่นนี้แล ฯ

    เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้แล้ว ท่านพระอานนท์ ได้กราบทูลว่า เป็นลาภของข้าพระองค์หนอ ข้าพระองค์ได้ดีแล้วหนอที่ข้าพระองค์มีพระศาสดาผู้มีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้
    เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลอย่างนี้แล้ว ท่านพระอุทายีได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์
    ในข้อนี้ท่านจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าศาสดาของท่านมีฤทธิ์ มีอานุภาพมากอย่างนี้ เมื่อท่านพระอุทายีกล่าวอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านพระอุทายีว่า ดูกรอุทายี เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้ ถ้าอานนท์ยังไม่หมดราคะเช่นนี้ พึงทำกาละไป เธอพึงเป็นเจ้าแห่งเทวดาในหมู่เทวดา ๗ ครั้งพึงเป็นเจ้าจักพรรดิในชมพูทวีปนี้แหละ ๗ ครั้ง เพราะจิตที่เลื่อมใสนั้น ดูกรอุทายีก็แต่ว่าอานนท์จักปรินิพพานในอัตภาพนี้เอง ฯ

    จบอานันทวรรค

    พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต หน้าที่ ๒๑๕ ข้อที่ ๕๒๐


    ขอบคุณที่มา
     
  2. somkid

    somkid สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +38
    ช่วยแปลเป็นภาษาปัจจุบันประกอบด้วยได้ไหมครับ เอาเป็นแบบอ่านแล้วเข้าใจง่าย เพราะผมขาดปัญญาในทางธรรม อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ให้แปลดังนี้

    +++ 1. โลกธาตุ = Galaxy (Big = ล้านXล้าน, Medium = ล้าน, Small = พัน)(Star Systems)
    +++ 2. จักรวาลหนึ่ง ๆ = ระบบสุริยะ (Star system)

    +++ จักรวาลหนึ่ง มีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์พระอาทิตย์โคจร = 1 Star system มี ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ฯลฯ

    +++ โลกมีอยู่นับพันจักรวาล (คำว่าโลก ในที่นี้ คือ โลกธาตุ = Galaxy)(ขนาดเล็ก นับเป็น พัน Star systems)
    +++ Galaxy ขนาดเล็ก นับเป็น Star system นั้น มีพระจันทร์นับพัน มีอาทิตย์นับพัน
    +++ มีขุนเขาสิเนรุ นับพัน มีชมพูทวีป นับพัน มีอปรโคยานทวีป นับพัน มีอุตตรกุรุทวีป นับพัน มีปุพพวิเทหทวีป นับพัน
    +++ มีมหาสมุทร 4000 (เนื้ออวกาศ 4 ทิศ) มีท้าวมหาราช 4000 มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา นับพัน มีเทวโลกชั้นดาวดึงส์ นับพัน ฯลฯ
    +++ มีพรหมโลก นับพัน

    +++ ดูกรอานนท์ นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างเล็กมี นับพัน Star system โลกคูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุ อย่างกลางมี นับล้าน Star systems โลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณ ล้านล้าน Star systems

    +++ ดูกรอานนท์ตถาคตมุ่งหมายอยู่ พึงทำ Galaxy อย่างใหญ่ประมาณ ล้านล้าน Star systems ให้รู้แจ้งได้ด้วยเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่มุ่งหมาย ฯ

    +++ หมายเหตุ โพสท์นี้ เป็นการแปลความหมายแบบ "ตรง ๆ ตัว" ตามตำราเท่านั้น ไม่มีความหมายอื่น นะครับ
     
  4. Norawon

    Norawon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +208
    สาธุครับ
     
  5. Pattarakorn2010

    Pattarakorn2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2014
    โพสต์:
    461
    ค่าพลัง:
    +1,725
    บางคนอาจคิดเล่นๆว่า หากวันนึงโลกแตกดับสลายไปเราจะไปเกิดที่ไหน โลกเรามันไม่ได้แตกดับสลายไปไหน มีแต่เปลี่ยนสภาพ เช่น อีกสักแสนล้านปี อาจจะมีกลุ่มดาวโคจรมาพุ่งเข้ามาชนโลก จนโลกนี้มีแต่ไฟ กลายเป็นดาวที่มีแต่ความร้อนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่ได้ หลังจากนั้นอีกล้านๆปี ก็มีกลุ่มดาวที่มีน้ำแข็งพุ่งเข้ามาชน จนโลกเริ่มเย็นตัวลงในระยะเวลาเป็นหลายล้านปี สภาพแวดล้อมก็ค่อยๆเอื้ออำนวยให้มีสิ่งมีชีวิตได้ ก็ค่อยเกิดวิวัฒนาการขึ้นมาใหม่ วนไปแบบนี้
    .......แต่หากโลกนี้ถึงกาลดับสลายจริงๆจากการถูกชนจนแหลกเป็นจุล ก็ยังมีจักรวารอื่นที่มี โลก มีดวงจันทร์ พระอาทิตย์ และ ระบบดาว มีอีกเป็นพันจักรวาลหรือนับไม่ได้ ......
     

แชร์หน้านี้

Loading...