แค่มีสติสักกะว่ารู้สิ้นทุกข์ได้ไหม?

ยาว ไม่อ่าน

ประเด็นตัวเอง
ไม่ตอบซักข้อ

เขียนมาเถอะ
ผมอนุญาตให้ด่าจนกว่าคุณจะตายเลย

อย่าลืมเข้ามาด่าทุกวันนะ

อีกคนก็เหมือนกัน
โพสเรียกร้องความสนใจ
โพสไรก็โพสไปเถอะ

เบื่อ
ไม่เล่นด้วยละ ดูงาน
รสิบดีกว่า จัดได้อลัง
ตรงตามคัมภีร์พระเวทมากครั้งนี้

 

ชิหายละไง พระเทวทัตแม้ทำผิดก็ไม่ใช่ตุ้ดนะเห้ยอย่างแมนเลยเชียว ไอ้ตุ้ดนี่ลากไปโยงกันได้ไงวะ เข้าใจละเพราะเป็นตุ้ดนี่เองเลยโยงมั่วทั้งพระทุศีล พระเทวทัต นี่จะลากอวนไปจับปลาช่อนแปซิฟิกเรอะ มโนมากนะพวกเธอว์ อย่าเปลี่ยนเรื่องจิ

 

บัณเฑาะ เปนชื่อ เครื่อง ดนตรี
ของพราหม์เปนลักษณกลองสองหน้า

บัณเฑาะในเค้ารางเดิม ที่เปน
ลักษณะบุคคลกลองสองหน้า
มีการ บัญญัติใหม่เข้าไปว่า อุภโต
พยัญชนก แล้วอธิบายควบกับ
ท้องได้ ทำให้ท้องได้

ซึ่ง บุคคลที่ เดี๋ยวเปนชาย เดี๋ยว
เปนหญิงท้องได้ด้วย ก้มีอยู่
หนึ่งคนในพระไตรปิฏก ซึ่งทำ
กรรมคือ อริยูปวาโทกับพระ
อรหันต์ ( พระมกากัจจานะ ถ้า
จำไม่ผิด)

นะ

บัณเฑาะ คนห้ามบวช อาจหมายถึง
คนลักษณะนี้

ส่วน การมองว่า ผู้ชายมีพฤติ
กรรมเปนหญิง ..... แล้วระบุ
ด้วยว่า ผู้หญิงเข้าฌาณไม่ได้ ...
อันนี้ชัดว่า เปนความเห็นผิด
ปลอมปนเข้ามา

เพราะ ผู้หญิงแท้ๆ เปนเอทัคะ
ทางฌาณสมาบัติ มีเยอะแยะ
ตาแปะไก่ อันฆราวาดราดเปล้า
มีแต่ คลี่บาน

 

เอิ่มละของผมสั้นได้อ่านไหมฮับ พวกเธอว์ทั้งสองตน

อ่อละก็ใช่เลย โพสท์เรียกร้องความสนใจให้เปลี่ยนเรื่องจากตุ้ดนี่เอง ลากอวนไปจากปลาช่อนเป็นโลมาท่อน้ำเสียละเรอะพวกเธอว์

 

ฮะละฮ่วย บอกห้ามบวชหากบวชให้สึก ลากไปยันเข้าฌานไม่ได้ เอาเข้าไป นี่มีอวนกี่อันจะลากไปยาวกี่สายพันธ์ปลาเนี่ย เลิกลากออกทะเลจากเรื่อง ตุ้ดจะดีกว่าไหมฮับ

 

ขอเขียนเรื่องตุ๊ดบวช

มันแค่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม
ห้ามบวช แต่ไม่ใช่หมดสิทธิ บรรลุ
บรรลุได้ แต่อย่ามาห่มจีวร
เพราะเด๋วพวกไม่สนประพฤติธรรมเข้ามาห่ม
เรื่องมันจะยุ่ง เมี้ยว !!!


อนึ่ง มีหลายเรื่องที่ห้ามบวช
ประเภท พิการ ก็มี (จำไม่ได้ว่าพิการอะไร)
ประเภทติดหนี้ ประเภทพ่อแม่ห้าม

พวกนี้บัญญัติไว้ เพื่อความเรียบร้อย
เพราะพระราหุล ก็ยังบวชได้ ก่อนจะมีต้นบัญญัติ

แถมบรรลุอีกต่างหาก


จบปิ๊ง!!!

 

ถึงสิดโง่
ขนาดพระเทวทัต
ท่านยังไปเปนพระปัจเจกในชาติสุดท้ายได้

ดังนั้น
พระแม้นบวชตามประเพณี แก้บน ทุศีล
ก็ไม่ควรประมาทท่าน

มีหลายท่าน ตั้งแต่พุทธกาล ยันปัจจุบัน
ที่ไม่ได้บวชเพราะอยากบรรลุ
แต่ด้วยอำนาจธรรมฤทธิ์...

วันดีคืนดี
ท่านอาจครึ้มอกครึ้มใจ
ไปถึงฝั่งก่อนเราก็ได้

ไม่ควรประมาณในบุคคลในธรรม
ไม่ประมาท

 

ฮันแน่จับปลาร้ามาได้แล้วก็ตีเรือวนกลับเลยเชียว บรรลุไม่บรรลุไม่รู้แต่ห้ามบวชเพราะแพ้ตั้งแต่เป็นฆราวาสแล้ว สรุปนี่ข้ามไปแอนแลนติคแล้วใช่ไหมนี่ มันเกี่ยวอะไรกับบวชได้บวชไม่ได้อะตัวเธอว์

 

ฮันแน่บวชมันมาเพราะเหตุปัจจัยใครเจออีเว้นท์อะไรมาตะหากละค่อยบวช รีบๆกลับจากแอตแลนติกได้แล้วนะ ปลาทองเต็มตู้แล้วนะพวกเธอว์ อย่าเอาสันดานตุ้ดซี่มาใช้ในนี้เลยนาจา

 

อย่าปนกันดิ

พระทุศีล ก็ไม่ควรใส่บาตร
จุดยืนต้องแม่น

แต่ถ้าท่านจะบรรลุ หลังสึก ก่อนสึก
มันเรื่องของท่าน


ถ้าเห็นท่านทำไม่งาม
ให้วิ่งไปฟ้องพระพุทธ แบบ นางวิสาขา
มันต้องมีมาตราการ มาจัดนะ
หนักเบา ตามอาบัติ

ไม่ใช่ไปกราบไหว้ ไม่ใช่ละ

นะ

พุทธบริษัทมหาชน 4 ไม่ใช่นิ่งเฉย

 

ฮ่วย นี่จะลากเรือไปไหนกลับมาก่อนอย่าพึ่งออกจากทะเลแดง ทุศีลควรใส่ไม่ควรใส่มันเกี่ยวไรกะตุ้ดอะพวกเธอว์ อะรอบนี้ไม่ต้องถืออวนนะ(ลากวน)เดี๋ยวขายปิรันย่าให้ ควรใส่ไม่ควรใส่หากไม่ฉาวมันไม่รู้หรอก แต่ตุ้ดกำลังพาออกจากทะเลแดงอันนี้รู้แน่

 

คับผม

 

ส่วนคุณณุ ยังไงผมก็รู้สึกขำกับถ้อยคำ สำนวน ที่นำมาใช้อยู่ดี ตรงกับที่ลุงแมวว่า มันคือๆกัน แต่จะเป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่ ก็แล้วแต่ แต่ผมขำทุกคำที่หามากลบเกลื่อน นั่นแหละ

 

มีปิติเป็นเครื่องอยู่ย่อมด่าตุ้ดได้แบบสนุกสนานและได้บุญด้วยนะฮับคุณเคน ได้ทำให้ตุ้ดได้รู้ว่าการชักมหาสมุทรมันบ่ได้ผลแล้วฮับ

 

เพิ่งรู้
เคนนี่กะซาตาน
เปนคู่แข้งกันเหรอเนี่ย
ไปดีกว่า

 

เขากำลังวินิจฉัยว่าทำไมพวกคนกลุ่มนั้นควรอยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่ควรสาธยายมนต์อะไรที่เกี่ยวกับธรรมชั้นสูง ไม่เกี่ยวกับฤทธิ์หรือฌานหรือแม้แต่อภิญญาห้า หมายเหตุ ถ้าทำได้นะ ละไว้ดีกว่าเพราะว่าด้วยอภิญญาก็เป็นของสูงการมองไม่เห็นสัจธรรมบางประการก็ไม่อาจมีหรือคิดว่าจะมีได้นะ พอเถอะปัง

 

ผม ว เรียกมาหลายท่าน เอาท่านอื่นอีกไหม เดี่ยว ว เรียกมากันจะได้จบๆ ไปเป็นเรื่องๆ

 

เหวยกลายเป็นคู่แข่งเฉย นี่ยังไม่เลิกลากอวนอีกนะ ไหงกลายเป็นคู่แข่งกันได้เฉย อย่าลากตูข้ากับคุณเคนนี่ทู ไปเข้าแกงค์ ตุ้ดดัดจริต ด้วยจิฮับ ไม่เอาๆกลับไปแปซิฟิคไปตัวเธอว์

 

เอ...

เขียนไปแล้วเป่าหว่า

ว่า สิ่งแปลกๆที พระเทวทัตประกอบ

ล้วนเปน ปัจจัยในการเปน พระปัจเจก
พุทธเจ้า

พระพุทธองค์ ทรงอาสัย หลัก
ประโยชน์ของ แต่ละ สรรพสัตว์
ในการ หมุนธรรมจักร

คุง ศิษย์ ไม่เข้าใจ ดอก หมดฐานะ
จะเล็งเห็น

แล้ว..ใครไปถาม องค์ปราโถม
จะไปถาม ทำเฮีย!อะไร

สีล วินัย แต่ละข้อ พระพุทธองค์ทรง
รอให้เกิด อธิกรณ ก่อน

แล้ว พิจารณา ประโยชน์ของ
หมู่ชนเปนใหญ่ ไม่ใช่ เพื่อพระ
ศาสนา

การบวชคนลักเพศ สังเกตดีๆ
จะทราบว่า มีการบวชมาก่อนแล้ว ....

แต่ ถ้าเริ่มมี พวกอุปทานหนา
ดัดจริตยกเหตุ ตัดประโยชน์ตน
ขุดตนออกจากศาสนา พระองค์
จึงจะ บัญญัติ

ไม่ใช่เพื่อมุ่งรักษาพระศาสนา

แต่ มุ่งให้พวก อุปทาน หนา ได้
บรรเทากรรมเวร ของมัน ขุดตน
ออกจาก ศาสนา

พระวินัยส่วนใหญ่ ใช้หลักประ
โยชน์นี้เพื่อการบัญญัต

จะเหนว่า องค์ประถม ไม่ได้เกี่ยว
เฮียไรเลยในการบัญญัติ วินัย

แล้ว จะไป ถามหรือ ไปคำนึง
ทำเฮียอะไรว่า องค์ปราโถม
เกี่ยวอะไร ยังไง

ฮิวววววส์

 

บัณเฑาะก์มี ๕ ชนิด(องค์โคดมทรงห้ามกระเทยบวชจริงหรือ?!?)

บัณเฑาะก์ใดเอาปากอมองคชาตของชายเหล่าอื่น ถูกน้ำอสุจิรดเอาแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ชื่อ อาสิตตบัณเฑาะก์



บัณเฑาะก์ใดเห็นอัชฌาจารของชนเหล่าอื่น เมื่อความริษยาเกิดขึ้นแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ชื่อ อุสุยยบัณเฑาะก์



บัณเฑาะก์ใดมีอวัยวะดังพืชทั้งหลาย ถูกนำไปปราศแล้วคือ ถูกเขาตอนเสียแล้ว ด้วยความพยายาม๑-บัณเฑาะก์นี้ชื่อ โอปักกมิยบัณเฑาะก์



บางคนข้างแรมเป็นบัณเฑาะก์ ด้วยอานุภาพแห่งอกุศลวิบาก แต่ข้างขึ้น ความเร่าร้อนของเขาย่อมสงบไป นี้ชื่อว่า ปักขบัณเฑาะก์



บัณเฑาะก์ใดเกิดไม่มีเพศ ไม่มีภาวรูป ในปฏิสนธิทีเดียว คือไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิงมาแต่กำเนิด บัณเฑาะก์นี้ชื่อ นปุงสกบัณเฑาะก์





ในบัณเฑาะก์ ๕ ชนิดนั้น อาสิตตบัณเฑาะก์และอุสุยยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามบรรพชา



๓ ชนิดนอกนี้ห้าม แม้ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนั้น สำหรับปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบรรพชาแก่เขาเฉพาะปักข์ที่เป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น



[เรื่องเพศชายกลับเป็นเพศหญิง](ปักขบัณเฑาะก์) จาก อรรถกถา ปฐมปาราชิกสิกขาบท



ในเรื่องที่ ๑๔ มีวินิจฉัยดังนี้ :-



สองบทว่า อิตฺถีลิงฺคํ ปาตุภูตํ ความว่า เมื่อภิกษุนั้นหยั่งลงสู่ความหลับในเวลากลางคืน อวัยวะทั้งปวงมีหนวดและเคราเป็นต้น ซึ่งเป็นทรวดทรงของบุรุษหายไป ทรวดทรงของสตรีเกิดขึ้นแทนที่.

หลายบทว่า ตญฺเญว อุปชฺฌํ ตํ อุปสมฺปทํ ความว่า เราอนุญาตอุปัชฌายะที่เธอเคยถือมาแล้วในกาลก่อนนั่นเอง (และ) การอุปสมบทที่สงฆ์ทำไว้ในกาลก่อนเช่นกัน.


อธิบายว่า ไม่ต้องถืออุปัชฌายะใหม่ ไม่ต้องให้อุปสมบทใหม่.


สองบทว่า ตานิ วสฺสานิ ความว่า เราอนุญาตให้นับพรรษา จำเดิมแต่อุปสมบทเป็นภิกษุมานั้นนั่นแล.


อธิบายว่า ไม่ต้องทำการนับพรรษา ตั้งแต่เพศกลับนี้ไปใหม่.


สองบทว่า ภิกฺขุนีหิสงฺกมิตุ ํ ความว่า ทั้งเราอนุญาตให้ภิกษุณีนั้นไปด้วยกัน คือสมาคมกัน พร้อมเพรียงกันกับภิกษุณีทั้งหลาย.



มีคำอธิบายตรัสไว้ดังนี้ว่า



บัดนี้ นางภิกษุณีนั้นไม่ควรอยู่ในท่ามกลางภิกษุทั้งหลาย จงไปยังสำนักนางภิกษุณี แล้วอยู่ร่วมกับนางภิกษุณีเถิด.



หลายบทว่า ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขูนีหิ สาธารณา ความว่า อาบัติเหล่าใดเป็นเทสนาคามินีก็ตาม เป็นวุฏฐานคามินีก็ตาม ที่ทั่วไปแก่ภิกษุกับนางภิกษุณีทั้งหลาย.



หลายบทว่า ตา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเกวุฏฺฐาตุ ํ ความว่า เราอนุญาตให้ทำวินัยกรรมซึ่งเหล่าภิกษุณีพึงทำแล้วออกจากอาบัติเหล่านั้นแม้ทั้งหมด ในสำนักของนางภิกษุณีทั้งหลาย.



หลายบทว่า ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ ความว่า ส่วนอาบัติเหล่าใดมีสุกกวิสัฏฐิเป็นต้นของพวกภิกษุ ซึ่งไม่ทั่วไปด้วยนางภิกษุณีทั้งหลาย, ไม่เป็นอาบัติด้วยอาบัติเหล่านั้น คืออาบัติเหล่านั้นเป็นอันเธอออกเสร็จแล้วแล เพราะเพศกลับ. ถึงเมื่อเพศเดิมกลับเกิดขึ้นอีก คงเป็นอนาบัติแก่เธอด้วยอาบัติเหล่านั้นเหมือนกัน.


วินิจฉัยบาลีในเรื่องที่ ๑๔ นี้ มีเท่านี้ก่อน.

(หมายความว่า หากอยู่ในปักษ์ที่ภิกษุนั้นกลับเพศเป็นหญิง ตามบัญญัติพระวินัยต้องแจ้งให้ภิกษุอื่นทราบก่อนแล้วจึงพากันนำตัวไปส่งที่สำนักภิกษุณี เมื่อคืนสู่บุรุษเพศจึงกลับสู่สำนักภิกษุได้ตามปรกติ)






ส่วนวินิจฉัยท้องเรื่องนอกจากบาลี มีดังต่อไปนี้ :-



เริ่มแรกในสองเพศนี้ เพศชายเป็นอุดมเพศ เพศหญิงเป็นหีนเพศ เพราะเหตุนั้น เพศชายจึงชื่อว่าอันตรธานไป เพราะอกุศลมีกำลังรุนแรง, เพศหญิงปรากฏขึ้นแทน เพราะกุศลมีกำลังเพลาลง. ส่วนเพศหญิงจะอันตรธานไป ชื่อว่าอันตรธานไป เพราะอกุศลมีกำลังเพลาลง, เพศชายปรากฏขึ้นแทน เพราะกุศลมีกำลังรุนแรง. เพศทั้งสองอันตรธานไปเพราะอกุศล, กลับได้คืนเพราะกุศล ด้วยประการฉะนี้.




ก็ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนี้ บัณเฑาะก์ใดทรงห้ามบรรพชา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอาบัณเฑาะก์นั้น ตรัสคำนี้ว่า อนุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ



บัณเฑาะก์แม้นั้น ภิกษุพึงให้ฉิบหายด้วยลิงคนาสนาทีเดียว



เบื้องหน้าแต่นี้ แม้ในคำที่กล่าวว่า พึงให้ฉิบหาย ก็มีนัยนี้เหมือนกัน



เพิ่มเติมได้ที่



[ต้องอาบัติเพราะนอนร่วมกับภิกษุผู้มีเพศกลับ]

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=01&i=48#ต้องอาบัติเพราะนอนร่วมกับภิกษุผู้มีเพศกลับ



[วิธีปฏิบัติกับภิกษุณีผู้มีเพศกลับ]

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=01&i=48#วิธีปฏิบัติกับภิกษุณีผู้มีเพศกลับ

ที่มา https://www.google.com/search?client=firefox-b-d&q=ในบัณเฑาะก์+๕+ชนิดนั้น+อาสิตตบัณ-เฑาะก์+และอุสุยยบัณเฑาะก์+ไม่ห้ามบรรพชา