เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    174 หลัง.jpg

    อนาคตังสญาณ

    ผู้ถาม : อนาคตังสญาณ การรู้เหตุการณ์ในอนาคตและเห็นภาพได้ ผมอยากทราบว่าภาพนั้นมันลอยอยู่ตรงไหนครับ

    หลวงพ่อ : ไม่มี

    ผู้ถาม : แล้วทำไมเห็นได้ล่ะครับ

    หลวงพ่อ : วันหน้ามันจะเกิด เขาเรียกว่าญาณ รู้จักคำว่าญาณไหม ทิพจักขุญาณ เขาไม่เรียกว่าดู ถ้ามันมีแล้ว ถ้าใช้ตาดูเห็น ถ้ามันยังไม่มี ท่านบอกว่า ข้างหน้ามันจะเป็นอย่างนั้นนะ เหมือนหมอดู อนาคตังสญาณรู้เหตุการณ์ข้างหน้า ไมใช่มันมีอยู่ มีอยู่ก็เป็นปัจจุปันนังสญาณซิ ไอ้นี่เป็นของทำได้ยาก ไม่ใช่จะทำได้ทุกคนเราต้องคิดว่าคนเท่าไร มีใครบ้าง มีกี่คน คนในประเทศไทย 50 ล้านเศษ ทำได้กี่คน พระในประเทศไทย 3 แสนเศษ ทำได้กี่องค์ แต่เราอย่าไปคิดว่าเราดีกว่าเขานะ

    มันน่าจะภูมิใจว่าเขาทำไม่ได้แต่เราทำได้ เป็นการวัดกำลังวาสนาบารมีที่สั่งสมมา ของเก่ามีมาก มีความดีมาก เราก็ทำความดีใหม่รับของเก่า ไอ้นี่ควรจะดีใจ

    แต่ความจริงการปฏิบัติได้จริง ดีกว่าเรียนรู้จากตำรา แต่ต้องอาศัยความฉลาดเข้าร่วมด้วย ถ้าเรามีข้อข้องใจ ให้ถามตรงพระพุทธเจ้า อย่าไปนั่งฟังชาวบ้านเปะปะๆได้ที่เขาว่าได้จริงๆ บางทีไม่ได้จริงหรอก เอาความโง่ของตัวมาแจกให้บุคลลอื่นโง่ต่อไป

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระนี่มีความสำคัญมาก พระหลงตัวเองว่าห่มผ้าเหลืองเป็นพระ แต่ความจริงสู้ชาวบ้านไม่ได้ดีกว่าเยอะแยะ


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ มิถุนายน 2530)



    ว่าคาถาเงินล้านมือสั่น


    ผู้ถาม : ถ้าบูชาพระ นั่งเจริญกรรมฐานเสร็จแล้วก็ต่อด้วยคาถาเงินล้านของหลวงพ่อ ว่าไปสักครู่หนึ่งปรากฏว่ากายสั่น มือสั่น ใจสั่น เหมือนกับอาการจะปลุกพระอย่างนั้นแหละ จึงเรียนถามหลวงพ่อว่าเป็นเพราะเหตุใด ต่อไปจะทำต่อไปได้หรือไม่ครับ ?

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) พระพุทธเจ้าสั่นต่อ อย่าลืมนะถ้าใจสั่นนี่มันผิดปกติ แต่ใจสั่นนี่พอมันภาวนาเร็วเกินไปหรือไม่เข้าใจ ถ้าตัวสั่นนี่เป็นอุพเพงคาปิติ ดีนะ แต่ควรจะคุมอย่าให้ใจสั่น ถ้าใจสั่นหรือไม่สั่น ถ้าจิตมีกำลังสมาธิถึงนั่นมันก็สั่น ถ้าเลยไปแล้วเป็นผรณาปิติ มันก็ไม่สั่น ถ้าต่ำลงมามันก็ไม่สั่นและเวลาที่ว่าคาถานี่ ไม่ควรคิดว่าจะสั่นหรือไม่สั่น


    เอาแค่จิตเป็นสุขค่อยๆว่าสบายๆ ดีกว่าจึงจะถูกต้องนะ


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2536)

    ภาวนาคาถาเงินล้านถูกหวย

    ผู้ถาม : ภาวนาคาถาเงินล้าน แล้วขอบารมีทุกๆพระองค์ที่เป็นเจ้าของคาถาหยิบหวยรัฐบาล ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 5 สองใบ แล้วก็ถามเป็นประเด็นว่าการที่เราจะอาราธนาเจ้าของคาถามาซื้อหวยรัฐบาลนี้จะ เป็นบาปหรือไม่ เพราะเป็นการพนันนิดๆ

    หลวงพ่อ : ไม่เป็นบาป เขาไม่ถือว่าเป็นการพนันอย่างที่เขาจับกันนี่ การพนันประเภทนี้ ตำรวจเขาไม่ได้จับ ไม่ผิดกฏหมาย ไม่มีอะไรเป็นบาปนะ และก็เราไม่ได้บังคับว่าเลขที่ฉันซื้อมาจะต้องออก เราเขียนเองออกเองนะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เพราะคนหมุนกับเราคนละคนกัน ถือเป็นโชคดีดีกว่า

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2536)

     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    1a2ac0d2149e461a36b9a9db70378f63.jpg 2a874527bc2e35cf53046ebf5be2dccb.jpg 1047640.jpg 9cfdacaadc6c11b6cb29a96d99cd7e9f.jpg

    เทวดาชวนขุดทอง

    เมื่อแผ่นดินสะเทือน แผ่นดินสั่นเกิดขึ้น ดร.ปริญญา ก็บอกว่าเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติบ้าง แต่ทว่าเจ้าลิงนี่สิ ฤาษีลิงดำหัวหน้าทัศนาจรมันไม่ว่าอย่างนั้น

    พอแผ่นดินสะเทือน ก็กำหนดจิตคิดว่านี่มันเรื่องอะไร พอมีความดำริเท่านั้น ก็ปรากฎว่า บรรดาปิยสหาย คราวนี้ไม่ใช่หมาแล้ว กลายเป็นผี มีศีกดิ์ศรีใหญ่ แต่งตัวสีแดงพรืดไปหมด ประมาณ ๗๐ - ๘๐ คน แล้วก็ประมาณสีเขียวสีดำอีกหลายร้อยคน เห็นบริเวณนั้นเกลื่อนกล่นไปหมด

    จึงถามว่า “นี่…พ่อเทวดา แกมาทำอะไรกันอยู่ที่นี่ และทำไมแผ่นดินมันถึงสะเทือน”

    เขาก็ชี้ไปที่ ท่านเจ้าพระยาโกษาป่อง คราวนี้ การไปคราวนี้ ท่านเจ้าพระยาโกษาป่อง น้องชาย เจ้าพระยาโกษาปาน ท่านไปด้วย (ความจริงชื่อนี้สมมติขึ้นมา อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงๆ…ล้อกัน และ เจ้าพระยาโกษาป่อง เป็นใครก็อย่าคิด อย่าถาม ถามก็ไม่บอก)

    แกก็เลยบอกว่า “เจ้าพระยาโกษาป่อง มันคิดจะขุดทรัพย์ มันคิดว่าที่นี่มีทรัพย์มาก มันอยากจะได้ทรัพย์ใต้แผ่นดิน ในเมื่อมันคิดอย่างนั้นก็เลยทำให้มันรู้ว่ามีจริง”

    ก็เลยถามเขาว่ามีมากไหม เขาบอกว่า เฉพาะทองคำประมาณ ๑๕ ตัน เห็นจะได้ แล้วยังมีแก้วที่มีค่ามาก

    ทีนี้ถามเขาว่า “มันอยู่ลึกไหมวะ จะขุดได้ไหม ?”

    แกก็เลยบอกขุดไม่ยากหรอก มันไม่ลึกเท่าไหร่ ประมาณ ๑ กิโลเท่านั้นก็ถึง

    ก็เสร็จ ก็เลยบอกว่า “นี่…แกไม่น่าจะบอกอย่างนี้นี่ เป็นของที่เกินวิสัยที่คนจะขุดได้ ทำไมถึงบอกอย่างนั้น”

    เขาก็หัวเราะ ยังได้ถามว่าทรัพยากรทั้งหลายเหล่านี้ จะปรากฎเป็นผลดีแก่ประเทศชาติในสมัยไหน

    เขาก็เลยบอกว่า

    “อานุภาพของทรัพยากรทั้งหลาย จะปรากฎขึ้นในตอนกลางสมัยรัชกาลที่ ๑๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    สมัยนั้นจะปรากฎว่า ประเทศจะมีความมั่งคั่งสมบูรณ์เป็นกรณีพิเศษ ทุกสิ่งทุกอย่างจะพร้อมมูลบริบูรณ์ จะกลายเป็นประเทศมหาเศรษฐีเขตหนึ่ง

    อย่าว่าแต่เฉพาะในเอเซียเลย แม้แต่ยุโรปก็ต้องเอาใจ”


    ทั้งนี้เพราะอะไร “เพราะว่าอำนาจบุญบารมีของกษัตริย์ทั้ง ๒ พระองค์ คือกษัตริย์รัชกาลที่ ๙ เป็นผู้มีบุญบารมีใหญ่ ปูพื้นฐานเอาไว้

    แล้วก็พระโอรสาธิราชที่จะเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ก็เป็นพระราชาที่มีบุญบารมีใหญ่


    ที่คนทั้งหลายคิดว่า จะทำลายประเทศไทยให้เป็นคอมมิวนิสต์ มีจิตหยาบปรารถนาจะให้คนไทยทั้งชาติที่มีความเคารพในพระพุทธศาสนาเป็นทาสของบุคคลกลุ่มเดียว ไม่มีความหมาย

    เพราะความหวังตั้งใจของบุคคลทั้งหลายเหล่านี้ เขาจะพาตัวเขาพินาศไปเอง เพราะอำนาจบุญบารมีของพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีสมรรถภาพเป็นพิเศษ”



    เขาว่าอย่างนั้น ก็เลยบอกว่า “โมทนาด้วยน่ะ แล้วก็ในฐานะที่ท่านทั้งหลายเป็นเทวดา ก็ต้องช่วยกันนะ”

    เขาก็เลยบอกว่า ช่วยกัน

    ก็เลยถามต่อไปว่า การที่ทำแผ่นดินสะเทือนนี่น่ะ เป็นปัจจัยเพราะ เจ้าพระยาโกษาป่อง แกมีความละโมบโลภมาก อยากจะได้ในทรัพย์ในแผ่นดินนั้นใช่ไหม ก็มีท่านหนึ่งบอกว่า ไม่ใช่ ไอ้เจ้าพระยาโกษาป่องนี่มันเพื่อนกัน เคยเป็นเพื่อนร่วมกันมา แต่ว่าตอนนี้ตามันยังไม่ดี แต่ทว่านิสัยเขาก็ดี ก็คือว่า ชอบสร้างตัวเป็นคนสุจริต ไม่ทุจริตโกงเงินโกงทองของรัฐบาล รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แล้วก็มีจิตประกอบไปด้วยกุศล อย่างนี้จึงแสดงอาการให้ปรากฎ


    และอีกประการหนึ่ง คนที่มาทั้งหมดนี่ เป็นอันว่า ๙๙.๙๙ % จัดว่าเป็นคนที่มีบุญใหญ่ มีศักดิ์ศรีใหญ่ ก็เลยถามว่า คนที่มีบุญใหญ่ มีศักดิ์ศรีใหญ่น่ะ มันใหญ่กันตรงไหน เขาก็บอกว่า ใหญ่ตรงที่มีความดีน่ะซิ เพราะการมาคราวนี้นี่ ตั้งใจจะมานมัสการพระดี ที่เรียกกันว่า สุปฏิปันโน และพระทั้งหลายเหล่านั้น คณะเขาเอง เขาก็มีความเคารพ ก็เลยถามว่า

    “เออ…ดีแล้ว เมื่อพูดถึงพระทั้งหลายเหล่านั้น เราอยากจะถามว่า มีพระองค์ไหนเป็นพระอรหันต์ มีบ้างหรือไม่”

    เขาก็ยกมือขึ้นแตะปาก บอกว่ามี แต่ว่าพูดไม่ได้ ก็เลยบอกว่า ปากของแกมีนี่ ทำไมแกพูดไม่ได้ แกก็เลยชี้มือมาที่ปากของคนพูด…ของลิงน่ะ ชี้มือมาที่ปากของจอมลิง เขาบอกว่า “แกก็รู้นี่” อ้าว…นั่น เทวดานี่ใช้วาจาหยาบเหมือนกัน บอกแกก็รู้นี่ แกทำไมจะมาถามข้าล่ะ ก็เลยถามเขาว่า “นี่…แกมาเรียกฉันว่า แกข้านี่มันเรื่องอะไร”

    ตาเทวดาคนนี้แกเป็นเทวดาใหญ่ ประดับกายไปด้วยเพชรนิลจินดาแพรวพราวเต็มไปทั้งตัว แกก็เลยบอกว่า “นี่…จำกันไม่ได้ นี่เรามันเพื่อนกันนี่” (เอาแล้ว…นี่เป็นเพื่อนกับหมาไม่พอ ดันมาเป็นเพื่อนกับผีเข้าอีก) ก็เลยบอกว่า “นี่…อย่าพูดไปซีน่ะ รู้แล้วอย่าพูดไปนะ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ใช่ไม๊ รู้รึเปล่า” เขาบอกเขารู้ เขาก็เลยบอกว่า “ก็ไอ้ท่านล่ะ ท่านรู้แล้วท่านพูดไปทำไม”

    บอกว่า “ข้าพูดกับแก แกมันเป็นผีนะ แล้วแกจะเสือกจับใครเขาพูดเรื่องราวของข้าไม่ได้นะ ข้ามันเป็นลิงจัญไรอยู่แล้ว ให้เขาทราบแต่เพียงว่า ในฐานะลิงจัญไรเท่านั้นก็พอ” เขาว่า “เวลานี้พระเจ้าที่เขาบวชในพระพุทธศาสนา ไม่มีใครเขาอยากคบข้านักหรอก ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าข้าปฏิบัติตนไม่เหมือนเขา บางสำนักเขาตั้งเป็นสำนักวิปัสสนา หัวขาวตาขาวเป็นน้ำข้าว มีตำแหน่งหน้าที่เป็นพระราชาคณะ มีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมพระ เขาหาว่าข้าเลวกว่าหมาเสียอีก”

    ตาพวกนั้นหัวเราะชอบใจใหญ่ ก็เลยบอกว่า “ท่านไม่ต้องบอกหรอก ผมรู้ ดูบัญชีผมซี่” แล้วก็เกิดเปิดบัญชีให้ดู ถามว่า “ไอ้นี้บัญชีทองหรือยังไง หรือว่าบัญชีเพชรที่มันฝังอยู่ใต้ดิน จะได้รวบรวมกำลังบรรดาท่านที่มาด้วยกันหาทุนหารอนมาขุดให้มันรวย”

    เขาก็หัวเราะชอบใจ แล้วกล่าวต่อไปว่า “ไอ้ฤาษี อย่างท่านนี่มันชอบโกหกแม้กระทั่งผี ก็ทรัพย์สินส่วนตัวของท่านมีนี่ ที่ท่านบิดาบอกให้ ทำไมไม่ไปขุดเล่า” ก็เลยบอกเขาว่า “ข้าจะไปขุดทำไม เวลานี้ข้าสบายนี่ นี่ข้ามานี่ ข้าก็ไม่ได้เสียสตางค์ค่ารถนะ แล้วก็ไอ้ค่าอาหารการบริโภค ข้าก็ไม่เสีย บรรดาคนดีเขามีจิตเป็นกุศล เขาสงเคราะห์เจ้าฤาษีลิงดำตัวจน ๆ เขาหาให้กิน เขาหาให้ใช้ เขาจัดพาหนะให้ แล้วข้าจะไปขุดทำไม ขุดมาเมื่อไรข้าก็ตายเมื่อนั้น”…

    (จากหนังสือฤาษีท่องสวรรค์ เล่ม 1 ตอนเทวดาชวนขุดทอง)

    อ่านบทอื่นๆของหนังสือฤาษีท่องสวรรค์ได้ที่


    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=841#seventeenth

    a09d948990da7d93180d9614a0d1c224--king-thailand.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2020
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337

    พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
    และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จวัดท่าซุงในงานฝังลูกนิมิต 24 เมษายน พ.ศ. 2520

    12 (1).jpg
    1.jpg 3.jpg 2.jpg 21.1.jpg 15135820.jpg 7.jpg 31.jpg 32.jpg
    291003-1.jpg 1502786.jpg
    24.1.jpg 1584093.jpg 27.jpg lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UOAZHqXRcCuEVOjtjOmzb9mPe40sc89V6pMRBhK0SUSr.jpg ฟ้าชายปิดทอง.jpg 30.jpg 22.jpg
    15.jpg 14.jpg 16.jpg 17.1.jpg
    13.jpg
    18.1.jpg 19.jpg



    171124_120345.jpg















     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    2350278.jpg

    หลวงพ่อใย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ใย) สมัยอยุธยาทำนายเอาไว้ 10 รัชกาล อ่านได้จากด้านล่างนี้ครับ
    IMG_20190505_115804.jpg IMG_20190505_115946.jpg
    (จากหนังสือพระเมตตา เล่ม 1 หน้า 52-53)


    หลวงปู่ดาบส สุมโน ท่านทำนายอีก 2 รัชกาล คือ ร.11 ไทยมหารัฐ และ ร.12 จักรพรรดิราช ตามที่หลวงพ่อชัยวัฒน์นำมาเล่าไว้ในคอลัมภ์ตามรอยพระพุทธบาทไว้ดังนี้ครับ

    1.jpg 2.jpg (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 19 ฉบับที่ 201 ธันวาคม 2540 คอลัมภ์ "ตามรอยพระพุทธบาท" หน้า 100)

    2350283.jpg 2350286.jpg
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    พระเครื่องซุ้มปราสาท 0.jpg

    พระเครื่องซุ้มปราสาททางวัดยังไม่นำออกจำหน่ายในขณะนี้แต่ส่วนหนึ่งจะแจกแก่ผู้ร่วมทำบุญในงานฉลองและยกฉัตรวิหารหลวงพ่อ 5 พระองค์วันอาทิตย์และจันทร์นี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2019
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    42126.jpg
    1012299.jpg 1012372.jpg 1012434.jpg 1012298.jpg

    หลวงพ่อ 5 พระองค์ในวิหารหลวงพ่อ 5 พระองค์

    IMG_20180123_125610.jpg
    IMG_20180123_130257.jpg IMG_20180123_130336.jpg IMG_20180123_130425.jpg

    หลวงพ่อ 5 พระองค์ เมื่อครั้งยังอยู่ในศาลาพระพินิจอักษร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2019
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    1012356.jpg 1012357.jpg
    ทำบุญ 100 บาทรับพระซุ้มปราสาทพิมพ์ใหญ่เนื้อผง มวลสารหลักผงดินสอพองหลวงพ่อปลุกเสก 1 ไตรมาสปี 2517

    1012361.jpg 1012362.jpg
    ทำบุญ 500 บาทรับพระซุ้มปราสาทพิมพ์เล็กพร้อมกรอบ + แหนบ
    1013434.jpg

    ทำบุญ 1,000 บาทรับพระซุ้มปราสาทพิมพ์ใหญ่เนื้อโลหะชุบทอง, เงิน พร้อมกรอบ + แหนบ
    S__94486534.jpg
    ทำบุญ 2,000 บาทรับพระซุ้มปราสาทพิมพ์เล็กเนื้อโลหะชุบทองพร้อมตลับพระชุบทองฝังเพชร + แหนบ


    1012583.jpg
    1012807.jpg
    ถ่ายเทียบให้ดูขนาดพิมพ์ใหญ่เนื้อผงและพิมพ์เล็กเนื้อโลหะ

    1013433.jpg
    ถ่ายเทียบขนาดพระซุ้มปราสาทพิมพ์ใหญ่เนื้อผงและเนื้อโลหะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2019
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    สัมปจิตฉามิ.jpg
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    พระซุ้มปราสาท

    IMG_20190520_134903.jpg IMG_20190520_134939.jpg IMG_20190520_135036.jpg IMG_20190520_135111.jpg IMG_20190520_135219.jpg IMG_20190520_135309.jpg IMG_20190520_135516.jpg IMG_20190520_135643.jpg IMG_20190520_135801.jpg IMG_20190520_135936.jpg IMG_20190520_140057.jpg
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    9-3.jpg
    บูชา ร. 5 มีลาภมาก

    มีคนหนึ่งมันเล่าให้ฟังว่าในโลกนี้ไม่นับถือใครเลย เราก็ตกใจ เอ้า แล้วมึงห้อยอะไรละนี่ มันก็บอกนี่รัชกาลที่ 5 พระเจ้าไม่เอาพระช่วยผมไม่ได้ ไม่ไวเท่ากับรัชกาลที่ 5

    ถามว่าช่วยได้ยังไง มีอยู่วันแกก็ไปไหว้ที่เขาไปไหว้กันน่ะ แกก็ไปอธิษฐาน เจ้าประคู๊ณขอให้รัชกาลที่ 5 โปรดสงเคราะห์ ไอ้ผมนี่เป็นลูกจ้างขับแท็กซี่จนกระทั่งเถ้าแก่รวยมามาก ขอให้ผมมีรถเป็นของตัวเองสักคันหนึ่งเถอะ


    พออธิษฐานเสร็จมาประมาณไม่ถึงปีน่ะ แกมีโอกาสผ่อนแล้วได้ 1 คัน แกก็นับถือ ยังไม่พอใจก็ยังกะลิ้มกะเหลี่ยไปอีก แหมถ้าเป็นไปได้เอาอีกซักคันหนึ่งนะครับ จะให้เขาเช่าจะได้มีรายได้ได้ครับ ได้ 2 คันแกก็เลยนับถือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    "ปัญหาก็มีอยู่ว่าถ้าสมมติว่าองค์เดียวกันนะ ทำไมถึงได้เมตตาขนาดนั้น หลวงพ่อที่ไปนิพพานจะช่วยคนได้หรือไม่ เพราะไปนิพพานอยู่เย็นเป็นสุขแล้วนี่ จะเป็นไปได้หรือไม่"

    อ๋อ...หมายความว่ายังไง (หัวเราะ) หมายความว่าหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม เขาไปขอที่พระรูปทรงม้านั่น ทำไมถึงมีผล ใช่ไหม

    ก็จริงๆแล้วนี่ หลวงพ่อบอกว่า อย่างอ่านหนังสือของพลตรีมนูญแล้วมีหลักฐานเอาวัตถุกัน เห็นง่ายๆพลตรีมนูญอยู่ที่เมรุกับหลวงพ่อนี่ หลวงพ่อครับแขกมารอที่กุฏิ หลวงพ่อบอกมนูญแกไปก่อนไป ไปรับหน้าก่อนไป มนูญก็รับตาลีตาเหลือกมา หลวงพ่อยังอยู่ที่เมรุอยู่นี่ ก็รีบมารับแขก ไปถึงหลวงพ่อไปอยู่ที่นั่นเสียแล้ว ก็เรามาไวกว่าหลวงพ่อ ทำไมหลวงพ่ออยู่ที่กุฏิเสียแล้ว

    แต่จริงๆท่านบอกว่าเทวดาที่เป็นองค์แทน ก็เรียกว่าเทวดาที่รับหน้าที่ตรงนี้ที่คุมพระรูปอยู่นี่ อย่างกับพระพุทธรูปบางองค์ก็ศักดิ์สิทธิ์ ใช่ไหม หลวงพ่อโสธรนี่ อู้หู...คนไปปิดทองจนตัวนิ่มหมดแล้วนี่ จับอย่างกับจับผู้หญิงเลย เขาว่าอย่างนั้น ความหนาของทอง


    ทำไมท่านถึงศักดิ์สิทธิ์ เทวดาที่รักษาองค์พระนี่ ที่มีฤทธิ์ ใช่ไหม ที่หลวงพ่อบอกเทวดาที่มีฤทธิ์ก็มี ไม่มีฤทธิ์ก็มี ทีมีฝ่ามือแดงก็มีฤทธิ์อะไรอย่างนี้ เทวดารักษาพระ

    แต่พูดตามหลักพุทธศาสนาจริงๆแล้วนี่ การบูชาต้องได้รับการบูชาตอบ หลวงพ่อท่านปราถนาพุทธภูมิวิริยาธิกะ คือบูชา ร.5 ทำไมมีลาภ เขาว่าไวกว่าสมัยก่อนอีก ไวกว่าหนึ่งท่านวิริยาธิกะ สมบัติของประเทศไทยของท่านจะมีมากกว่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทองเป็นกี่ร้อยตัน นี่ท่านใช้มา 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่สร้างวัดสร้างวา เราทำบุญมานี่ใช้สมบัติไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

    ที่เหลือก็ให้ไอ้ขวัญ สาธุ (หัวเราะ)

    ให้ทุกคนแหละ ให้ทุกคน

    มีอยู่จุดหนึ่ง เคยถามปัญหาที่ซอยสายลม หลวงพ่อครับ หลวงพ่อมีลูกมีหลานมีลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง ในขณะเวลาเดียวกัน คนนั้นก็จุดธูป คนนี้ก็จุดธูป แล้วก็เรียกแล้วหลวงพ่อจะทำยังไง จะไปช่วยใครก่อน

    หลวงพ่อก็ตอบว่า ในขณะเดียวกันท่านสามารถแบ่งได้ถึงจำนวนเป็นหมื่นเป็นแสน รู้เรื่องทุกอย่าง ได้ด้วยทุกอย่างแล้วก็บอกว่า ถ้ามันเกินไปกว่านั้นทำยังไง ฉันฝากเทวดาทุกเขตในประเทศไทย ทุกหนทุกแห่งว่าถ้าฉันไปไม่ทัน ฝากลูกฝากหลานฝากไอ้ขวัญ มันด้วย (หัวเราะ) เข้าล๊อกกันดี ท่านฝากจริง

    ท่านบอกความเป็นทิพย์ไปได้ ท่านว่าอย่างนั้น

    (คุณขวัญถามว่า "อยากจะให้เทวดาที่บ้านมีฤทธิ์มีเดช มีบุญญาธิการมากๆ จะทำอย่างไร")

    เฮี้ยนๆใช่ไหม คือตามหลักที่ว่าทำบุญแล้วมีอานุภาพยังไงบ้าง มีรัศมีบ้าง ถ้าอานุภาพมากก็ถวายพระพุทธรูป ให้เทวดาโมทนาใช่ไหม สร้างพระพุทธรูปมีเดชมีอำนาจมาก ที่บ้านอยู่ตรงไหนล่ะ จะไปสู้กับใครเขาล่ะ

    (จากธัมมวิโมกข์ ตุลาคม 2537 หน้า 89-90)
     
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    พระพุทธชินราช.jpg

    พระพุทธชินราช

    “ที่นี้เกี่ยวกับเรื่องพระพุทธชินราชนี่ พุทธลักษณะสวยสดงดงามนี่หมายถึงว่า พระพุทธชินราชนี่เป็นพุทธลักษณะคล้ายๆ สมเด็จฯ องค์ปฐมหรือพระพุทธกัสสปครับ...?”

    ความจริงเรือนแก้วนี่เขาสมมุติขึ้นมาน่ะ แทนรัศมี ต้องไปถามพระเจ้าพรหมฯ

    “พระเจ้าพรหมมหาราชหรือครับ...”

    ใช่ ความจริงพระพุทธชินราชที่พิษณุโลกนี่พระเจ้าพรหมมหาราชสร้าง พระเจ้าลือไทมาซ่อมทีหลัง

    “สมัยโน้นหรือครับ...”

    ใช่ๆๆๆ คือว่าเวลานั้นท่านชื่อ พระเจ้าศรีธรรมปิฎก เราเรียกพระเจ้าพรหมฯ นั่นเป็นชื่อเดิม ชื่อที่เป็นพระราชาชื่อพระเจ้าศรีธรรมปิฎกสร้าง และต่อมาสมัยสุโขทัยนี่ซ่อม ไม่ใช่สร้างนะ แต่เวลานั้นประวัติศาสตร์ไม่ได้เขียนไว้นี่ มันรุ่นก่อนประวัติศาสตร์

    ที่คณะพิษณุโลกชุดที่เขานำพระบรมธาตุมาให้น่ะ ของเก่าเยอะ พระเก่าๆ เยอะ เขาลือกันว่าเจดีย์องค์นั้นที่พังไปแล้ว พระเจ้าพรหมฯ เอาของไปฝังไว้ที่นั่น พระบรมธาตุ เขาลือกันนะ มิใช่เขาลือ เขารู้ข่าวลือ ฟังต่อๆ มา และแกก็จะไปขุด พอเริ่มจะขุดเจ้าเสียงครึ่กครั่กๆ ตูมตามๆๆ เสียงในแผ่นดินนะ พอเขาจุดธูปบอกว่าจะขุดไปถวายหลวงพ่อ เสียงทั้งหมดเงียบและขุดได้ ได้พระเก่ามาตั้งเยอะ

    “พระที่ขุดได้หมายถึงพระพุทธรูปหรือว่า...”

    พระพุทธรูป พระพุทธรูปด้วยและก็พระบรมธาตุด้วย

    “ทีนี้ถ้าจะคิดถึงอายุองค์พระพุทธชินราชที่ว่าสร้างสมัยพระเจ้าพรหมฯ ก็เท่าไหร่ล่ะนี่ครับ”

    ก็ไม่กี่ปี

    “พระเจ้าพรหมฯ ก่อนประวัติศาสตร์นี่นะครับ”

    นั่นแหละไม่กี่ปี ไม่เกิน 1,200 ปี

    “ทีนี้มีปัญหาอยู่ว่าพุทธลักษณะ องค์ที่หล่อองค์ไหนก็แล้วแต่ พุทธลักษณะสู้องค์นี้ไม่ได้เลย พระพักตร์สวยมาก สาเหตุนี่มาจากอะไรครับ...?”

    พระพักความจริงเรามองไม่เห็นหรอกนะ เห็นแต่พระหน้า พระพักอยู่ที่ก้น (หัวเราะ) เวลาเขาพักกันน่ะนั่งพัก เขาบอกว่าเทวดาร่วมสร้าง เทเท่าไหร่ๆ สร้างก็ไม่มีการทรงตัว ไม่เป็นที่พอใจหุ่น เรียกว่าไม่เป็นที่พอใจของผู้สั่งให้สร้าง

    ผลที่สุดก็พระอินทร์ใช้ วิษณุกรรมเทพบุตร ให้ลงมานุ่งขาวห่มขาว เป็นคนเดินมาไม่มีข้าวจะกิน ก็ถามว่าที่นี่มีข้าวไหม เขาบอก มี ถาม ทำอะไรกัน กำลังจะสร้างพระสักองค์หนึ่ง รูปร่างลักษณะแบบนั้นๆพระราชาสั่ง บอก ไม่เป็นไรหรอก ผมเป็นช่างปั้นครับ เป็นช่างปั้นด้วยช่างหล่อเสร็จ

    ทีนี้ถึงเวลากินข้าวเขาก็เลยเอาข้าวมาเลี้ยงก่อน ก่อนเวลากลุ่มเดิมกินนี่นะ ก็กินข้าวก่อน ทีนี้ถึงเวลาพวกช่างกินข้าว ปรากฎกลับมาแล้วอีตาคนนั้นหายไป พระเสร็จเรียบร้อย

    “แค่กินข้าวหรือครับ...”

    ใช่ แค่อิ่ม เห็นไหมอำนาจเทวดา แค่นึกเท่านั้นก็เสร็จแล้ว

    “แสดงว่าท้าววิษณุกรรมนี่มีฤทธิ์มีเดชเก่งเฉพาะเรื่องหล่อเรื่องสร้าง หรือเก่งทุกอย่างครับ...?”

    หลายอย่าง เมื่อสมัยเป็นมนุษย์นะมีลูกก็เยอะ

    “เดี๋ยวครับตอนสมัยเป็นมนุษย์พอจะมีชื่อเสียงเรียงนาม...”

    จำไม่ได้ เป็นมนุษย์หลายชาติ

    “แต่ละชาติเป็นช่างหรือเปล่าครับ...?”

    วิษณุกรรมก็ช่างสร้างศาลาใช่ไหมเล่า นัฏฐ ก็คือนายช่างผู้สร้างศาลาของ มาฆมานพ


    “สมัยโน้นที่ว่ามีพระพุทธชินสีห์ และก็พระศากยมุนี รุ่นเดียวกันหรือเปล่าครับ...?”

    ทีหลัง พระพุทธชินสีห์ พระศากยมุนี นี่สมัยสุโขทัย เอาไปซ่อมพระพุทธชินราชแล้ว ไปซ่อมแล้วก็สร้างให้เป็นเพื่อนกัน แทนองค์นั้นองค์นี้

    “ที่หล่อนี่หมายถึงอยู่ทางเหนือหรือหล่อที่พิษณุโลกครับ...?”

    ที่พิษณุโลก สมัยพระเจ้าพรหมฯ นั่นครองแผ่นดินถึงลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานี่นะ

    “เลิกจากรบทัพจับศึกแล้วก็สร้างวัดจำนวนไม่ใช่น้อย”

    วัดเดียว

    “ก็ไหนบอกใจบุญใจกุศลอย่างไรล่ะครับ...?”

    อ้าว...ก็สร้างทีละวัดๆ ไม่ใช่จับมาเรียงได้นี่ ไปที่ไหนก็สร้างวัดเป็นเรื่องธรรมดา ชาวบ้านกับวัดแยกกันไม่ได้ พระราชากับวัดก็แยกกันไม่ได้เหมือนกัน เพราะอะไรรู้ไหม ถ้าประกาศอะไรขึ้นมาก็อาศัยวัด วัดเวลานั้นก็คือมหาวิทยาลัย สอนหนังสือสอนวิชาการต่างๆ มันมีความจำเป็น

    “โรงเรียนเพิ่งจะมีสมัย ร.5”

    ใช่ๆๆๆ บรรดาพวกขุนนางต่างๆ เมื่อออกมาแล้วก็บวชพระ เป็นคณาจารย์ไปเอง

    “พูดถึงว่าสมัยข้าราชการในยุคนั้นมีใจเป็นบุญเป็นกุศล”

    ใช่ๆๆๆ มากกว่า แต่ทิ้งไม่ได้มีอย่างหนึ่งคือ คอรัปชั่น

    “นี่ถือเป็นประเพณีเลยนะครับ”

    ใช่ ไม่งั้นโลกตั้งอยู่ไม่ได้ ความเลวเหมือนผ้าดำ ความดีเหมือนผ้าขาว ถ้ามีเฉพาะผ้าขาวผืนเดียวสีขาวไม่เห็น ถ้าดำแปะไปด้วยสีขาวจะเด่น เห็นไหม โลกจะต้องมีทั้งความดีและความชั่ว

    “ดีทั้งหมดก็ไม่ใช่โลก”

    ไม่ใช่โลก เป็น โลกุตระ คือพ้นโลกไป


    “นี่ก็แสดงว่าอารมณ์ของผู้สร้างพระพุทธชินราชสมัยพระเจ้าพรหมฯ และก็อารมณ์สมัยกรุงเทพฯ วัดเบญจมบพิตร และอารมณ์ไปถึงว่าท่าซุงนี่เป็นอารมณ์เดียวกันหรือเปล่าครับ...?”

    ก็อารมณ์เดียวกันแต่คนละคน พระพุทธชินราชโน้นอารมณ์พระเจ้าพรหมฯ วัดเบญจฯ ร.5 วัดท่าซุงคือฉันแน่

    “นี่ไม่เหมือนกันนะครับ”

    ชื่อก็ไม่เหมือนกัน ตัวก็ไม่เหมือนกัน

    “แต่พุทธลักษณะของพระพุทธรูป”

    นั่นเรื่องพระพุทธรูปท่าน

    “3 องค์นี่ท้าววิษณุกรรมก็คงวิ่งวุ่นมาตลอด”

    คงจะมีหุ้นมั้ง เพราะเรื่องบุญ เทวดาย่อมสั่งสมบุญให้มากขึ้นเป็นของธรรมดา เทวดามี 2 อย่าง เทวดาที่เป็นบัณฑิตกับเทวดาที่เป็นพาล ที่เป็นบัณฑิตหมายถึงความฉลาดสั่งสมบุญบารมีให้มากขึ้น ที่เป็นพาล พาลแปลว่าโง่ มัวเมาในทิพยสมบัติ ถ้าตายแล้วบาปเก่าก็ดีพุ่งหลาวลงนรกไป

    “ที่เป็นบัณฑิตก็ไปตีตั๋วต่อ...”

    ใช่ๆๆๆ ไปนิพพานกันเยอะแยะ

    (จากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม 16 หน้า 3-8)

    พระพุทธ.jpg วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร_กรุงเทพมหานคร_(13).jpg
     
  12. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,599
    สอบถามครับ
    ในวันเสาร์ขึ้น5ค่ำ เดือนกรกฎาคม 2562 ที่จะถึงนี้ทางวัดท่าซุงมีพิธีพุทธาภิเษกไหมครับ ??
    ถ้ามีจะเริ่มพิธีประมาณกี่โมงครับ ??
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337

    กำหนดการไม่มีครับแต่ใกล้วันแล้วอาจมีการเปลี่ยนแปลง
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    35481881_1636565289731799_983934427207827456_o.jpg
    เอาของไหว้เจ้ามาทำบุญ


    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าขา ขอถามปัญหานิดหนึ่งว่า ของที่ไหว้เจ้าแล้วมีมากเหลือเกิน ถ้าลูกจะนำไปถวายพระใส่บาตรพระ จะมีโทษมีบุญมีกุศลหรือไม่เจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : เดี๋ยวก่อน ! บูดหรือไม่บูด ถ้าไม่บูดได้นะ จริงๆนะ

    ผู้ถาม : ที่เขาว่าของเหลือเดนผี ของเหลือเดนเจ้า

    หลวงพ่อ : โอ๊ย ! เดนคนพระพุทธเจ้ายังไม่ถือเลย นี่เป็นความจริงนะ

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 311 หน้า 70)
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    20882081_1365539770167687_6661552938908498547_n.jpg

    หลวงพ่อได้อภิญญา


    หลวงพ่อท่านเก็บเยอะนี่ ท่านเก็บไม่ออกมาเยอะ ใช้นิดๆหน่อยๆเท่านั้น ท่านบอกถ้าเขาไล่เราเมื่อไหร่ละก็ไปกินข้าวกลางแม่น้ำสะแกกรังนะ เอาเราไปด้วยรึเปล่าไม่รู้ (หัวเราะ) ท่านก็บอกไปกินข้าวกลางแม่น้ำสะแกกรังสัก 2 วันละไอ้นันต์เอ๊ย วัดนี่แตกวัดท่าซุงนี่แตก มันจะลือกันไปใช่ไหม ทีนี้ละท่านห่มผ้าสีตองอ่อน สียังไงไม่รู้ตองอ่อนจะเปลี่ยนสี

    อภิญญานี่ทำได้ไม่ใช่ท่านพูดแล้วทำไม่ได้นะ ของท่านทำได้จริง พูดแล้วไม่ใช่ว่าให้ลูกศิษย์ลูกหาบอกว่าท่านนี่เก่งนะ อย่าให้อาจารย์ทำนะอย่างสมัยโบราณใช่ไหม อย่างพราหมณ์หรือไง พวกเดียรถีย์นะกูจะเหาะมึงอย่าให้กูเหาะเชียวนะ มึงรั้งไว้นะ อย่านะอาจารย์อย่า แต่ของท่านทำได้ ท่านลองของ ลองแล้วก็ไม่ได้ใช้ หลวงพ่อส่วนมากจะใช้เจโตฯ ใช้มากเจโตฯ

    ท่านบอกก็ไม่ได้ใช้อะไร บอกพระมาบอกใช่ไหม พระมาบอกวันนี้มีใครมาบ้าง คนมีมาระดับไหน มาแล้วจะได้มรรคได้ผลไหม ต้องพูดอย่างไรถึงจะรู้เรื่อง สังเกตที่เราลากท่านมา (ลากรถเข็นที่หลวงพ่อท่านนั่ง) ท่านจะมองหาคนแล้ว เอ้อไอ้คนที่ท่านรู้มามันมารึยัง ท่านจะบอกการแต่งตัวมาเลย คนกำลังใจขนาดไหน คนนี้พูดยังไงถึงจะรู้เรื่อง ทักยังไงถึงจะรู้อะไรอย่างนี้

    “ก็แสดงว่าที่หลวงพ่อพูดแล้วมันถูกจุดคนโน้นถูกใจคนนี้ ก็แสดงว่ารู้ล่วงหน้ามาแล้วใช่ไหมครับ”

    ส่วนมากพระท่านคุมทั้งวันทั้งคืน ไอ้เราพระท่านไม่ยอมให้คุมด้วย (หัวเราะ)

    ไอ้คนที่ประตูน้ำมันกินเหล้าเมาจัด มันนั่งอยู่ข้างนอก แล้วหลวงพ่อก็เทศน์ออกทีวี เสียงมันก็ออกมาข้างนอกนะ ท่านพูดฉลาด ท่านไม่ได้ว่าคนโน้นคนนี้ บอกบางคนบางทีกินเหล้าเมาเสียจนเป๋ไปเป๋มาแล้วก็บอกค้าขายไม่ดี มันจะดีได้อย่างไรก็ไปมัวเมาซะ

    แค่นั้นแหละไอ้คนนั้นกลับบ้าน พอกลับบ้านไปถึงปุ๊บมันอธิษฐานเลยนะ ไอ้ดอกไม้พวงมาลัยที่วางอยู่นะ ถ้าหากหลวงพ่อแน่จริงนะ พรุ่งนี้ให้ขายให้ได้ภายในเวลาเท่านั้นๆๆ แล้วมันจะมาทำบุญก็ปรากฏว่าขายได้จริงๆน่ะ

    พอเข้ามาจะทำบุญปุ๊บ ท่านเทศน์ต่อไปเลยว่าไอ้บางคนน่ะ พอขายไม่ดีมันก็ท้ากับพระ บอกว่าถ้าพระแน่จริงต้องช่วยให้ขายไอ้โน้นไอ้นี่ แล้วมันจะมาทำบุญ

    บางทีวันนี้ก็มีมาเหมือนกันนะ ไอ้นั่นตั้งแต่วันนั้นนับถือชั่วชีวิตเลย แล้วมันขายของดีด้วย เลิกกินเหล้าไปเลย

    เอ้า จริงๆ ลูกหลวงพ่อมักเป็นโจรกลับใจเสียเยอะ พวกเขี้ยวลากดินมาทั้งนั้น (หัวเราะ)

    เมื่อสมัย 10 ปีก่อนโน้นน่ะนี่ เขาเล่ามาเราไม่รู้ หลวงพ่อยังนั่งสอนอยู่ตรงนี้ใช่ไหม ไอ้คนนั้นน่ะมันเตรียมปืนผาหน้าไม้แล้ว คือจะไปฆ่าเขานะ

    แล้วเพื่อนอีกคนบอก เฮ้ย..ก่อนจะไปฆ่าเขานะ ไปที่ซอยสายลมหลวงพ่อฤๅษีท่านดังนะ เหรียญท่านเหนียว เผื่อเขาจะยิงเรามันจะได้ยิงเราไม่ออก

    ก็มาซอยสายลมพอนั่งปุ๊บ หลวงพ่อฉลาดอยู่แล้วนี่ เวลาท่านเทศน์ท่านเทศน์รวมไปเลย แต่ว่าเทศน์เรื่องนั้นน่ะไปจี้ไอ้คนนั้นคนเดียว บางคนอาฆาตพยาบาท เตรียมปืนผาหน้าไม้จะไปฆ่าเขา แล้วเขาลืมนึกไปว่าคนที่เป็นญาติของเขาจะต้องล้างแค้นล้างกันไปล้างกันมา

    เทศน์ไปเทศน์มาปุ๊บ ก็สะกิดเพื่อนบอก เฮ้ย..สงสัยไม่ต้องไปก็ได้ว่ะ (หัวเราะ) เหรียญเหริญกูไม่เอาแล้ว แล้วก็เลยไม่ต้องฆ่าเขา ทุกวันนี้ก็อยู่รอดปลอดภัยสบายดี


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 162 เดือนตุลาคม 2537 หน้า 87-88)



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2024
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    (11).jpg

    ความแค้นเกิดขึ้นเมื่อจิตสงัด

    ผู้ถาม : เวลาปฏิบัติพระกรรมฐาน พอจิตเริ่มสงบสงัดความแค้นก็เกิดขึ้นทันที แล้วก็แก้ไม่ตกสักที ขอหลวงพ่อแก้แค้นให้หน่อยเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : อ้อ...นี่ไปแค้นใคร เอาชื่อมาให้ฉัน ฉันจะฝังดินให้

    ผู้ถาม : (หัวเราะ) พอจิตไม่สงบก็ไม่แค้น พอสมาธิสงบ แหม...มันก็แค้น

    หลวงพ่อ : เรื่องนี้ดีมาก ที่ญาติโยมและที่ถาม ถามดีการเจริญพระกรรมฐานนี่ต้องพิจารณาถึง "มาร 4 อย่าง" ให้มาก

    ผู้ถาม : เป็นไงครับหลวงพ่อ มาร 4 อย่าง

    หลวงพ่อ : มาร แปลว่า ผู้ฆ่า ใช่ไหม มาร 4 อย่างคือ 1. กิเลสมาร 2. มัจจุมาร 3. เทวปุตตมาร 4. ขันธมาร

    มารแปลว่า ผู้ฆ่าความดี พระพุทธเจ้าท่านบอกมี 4 อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีความสำคัญๆก็คือ กิเลสมาร กับ ขันธมาร รบกวนเราเรื่อย

    ขันธมาร หมายความว่าเวลาจะทำความดี ปฏิบัติกรรมฐานทำสมาธิจิตหรือทำบุญทำทาน ไอ้ความป่วยไข้ไม่สบายมันเข้ามาขวาง อย่างนี้เรียกว่า "ขันธมาร"

    อย่างที่โยมถามมาเมื่อกี้นี้เป็น "กิเลสมาร" ตัวนี้สำคัญ ต้องถือว่าคนนี้เป็นคนที่น่าชมมาก คนดีนะคนนี้เพราะอะไร เพราะยามปรกติไม่โกรธใช่ไหม แสดงว่าอารมณ์หยาบหมดไป ไอ้กิเลสหยาบที่โกรธหมดไป

    ทีนี้เวลาที่จะทำจิตละเอียดเกิดความแค้นขึ้นมา กระตุ้นขึ้นมา ตัวนี้ไอ้กิเลสที่เป็น "อนุสัย" ตัวละเอียด อย่างนี้ถือว่าเขาชนะมากแล้วนะคนนี้นะ อย่างนี้ถือว่าชนะหยาบต่อสู้กันละเอียดแล้ว ถ้าต่อสู้กับละเอียดชนะก็จะชนะเด็ดขาดเลย วิธีทำแบบนี้ก็เคยมีมาด้วยกันทุกคนนะ ฉันก็เคยเจอมา

    ผู้ถาม : หลวงพ่อก็เคยมีเหมือนกันเหรอครับ

    หลวงพ่อ : มี ทุกอย่างที่ถามมามีทุกอย่าง

    ผู้ถาม : อ้อ มีครบเลยนะ

    หลวงพ่อ : มีครบถ้วน เพราะเลวมีครบถ้วน

    ผู้ถาม : เอ้อ...เป็นพระมีเลวเหมือนกันหรือครับ ?

    หลวงพ่อ : เลว...ถ้าพระไม่เลว บวชอยู่ไม่ได้

    ผู้ถาม : เอ๊ะ....เป็นยังไงครับหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : ถ้าพระดีเขาไม่ต้องบวช ไปนิพพานเลย

    ผู้ถาม : อ้อ !

    หลวงพ่อ : อรหันต์ใช่ไหม

    ผู้ถาม : ครับ

    หลวงพ่อ : ฉันมันเป็นกังหันนี่ หมุนดะ แต่ว่าเมื่อกี้ถามว่ายังไงนะ วิธีแก้ใช่ไหม ?

    ผู้ถาม : ครับวิธีแก้

    หลวงพ่อ : ถ้ารู้สึกตัวมา ถ้าอารมณ์ระงับ ก็ถอยหลังคิดว่า อารมณ์จิตอย่างนี้ไม่น่าจะมีกับเรา เพราะว่าตามปรกติเราก็ให้อภัยอยู่แล้ว ทำไมเวลาจิตสงบสงัดจะต้องมาคิดอย่างนี้ ให้คิดว่าอันนี้ไม่ควร อารมณ์อย่างนี้ ให้คิดแค่นี้ว่าอันนี้ไม่ควร อารมณ์อย่างนี้มันจะมีไม่นานนัก ถ้าเวลาเลิกจิตสบายแล้วก็คิดว่า อันนี้มันผิดไปแล้วไม่ควรจะทำให้เศร้าหมองแบบนี้ ความดีที่มีอยู่จะคุ้มครองไม่ได้เมื่อเวลาตาย ถ้าเวลาตายจิตเศร้าหมองแบบนี้เราต้องลงอบายภูมิ

    2-3 ครั้งมันจะหายค่อยๆเรื่อยๆ ไปไม่ช้ามันจะหาย

    อันนี้ดีมากต้องขอชม คนนี้กิเลสหยาบเฉพาะ โทสะ ผ่านไปแล้ว อันนี้ต้องน่าคิด

    ผู้ถาม : ควรแก่การอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

    หลวงพ่อ : ใช่ ควรแก่การรับ "ทาน"

    ผู้ถาม : เอ๊ะ

    หลวงพ่อ : อ้าว....พระ "ให้" ไม่มี มีแต่ "ขอ" อย่างเดียว

    ผู้ถาม : อ๋อ.....

    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 45 หน้า 87-89)
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337


    เทปบวงสรวงของหลวงพ่อ

    "นมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงสุด ลูกได้ฟังการบวงสรวงเทพยดาของหลวงพ่อรู้สึกไพเราะจับใจ ไม่มีเสียงใดในโลกเสมอเหมือน ถ้าหากว่าลูกจะนำคำบวงสรวงของหลวงพ่อไปใช้ในการทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็นและก่อนออกจากบ้าน จะเป็นการสมควรหรือไม่ และวิธีตั้งอารมณ์ก่อนบวงสรวง ได้โปรดแนะนำแก่ลูกหลานด้วยเถิดเจ้าค่ะ"

    ไม่ขัดข้องนะคือว่าตอนนั้น ตอนแรกนึกถึงท้าวธตรฏ ท้าวมหาราชทิศตะวันออกกับอินทกะ อินทกะนี่มีพันองค์นะ

    ครั้งที่ 2 นึกถึงท่านวิรุฬก ท้าวมหาราชทิศใต้พร้อมอินทกะและบริวาร

    ครั้งที่ 3 ทิศตะวันตกท้าววิรูปักษ์พร้อมอินทกะและบริวาร

    ครั้งที่ 4 นึกถึงท้าวเวสสุวัณพร้อมอินทกะและบริวาร

    ครั้งที่ 5 นึกถึงทั้ง 4 องค์ 4 ทิศ และขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์อะไรก็ว่าไปนะ แต่ขอหวยท่านไม่ให้นะ

    "รีบกันท่าเลย"

    ไม่ใช่กันท่าหรอก ฉันขอหลายครั้งแล้วไม่ได้สักที เราขอให้ท่านคุ้มครองซิ พวกผีเข้าเจ้าสิง ถูกกระทำต่างๆคุ้มครองได้แน่นอน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันเคยใช้นะ เมื่อสมัยหนุ่มๆ หนุ่มมากนะ ไม่ใช่หนุ่มน้อยแบบเดี๋ยวนี้นะ ตอนนั้นบวชใหม่ๆ พรรษาแรก ทุกอย่างยังครบถ้วนบริบูรณ์ ยังอีเหละเขะขะสมัยเป็นฆราวาสยังเหลืออยู่ ที่วัดหลวงพ่อปานท่านก่อสร้าง เขาจอดซุงไว้ ท่านไม่ได้ใช้แต่เราก็ต้องตั้งเวรรักษา ความจริงไม่ต้องรอผู้ใหญ่ใช้นะ จะรอให้ท่านใช้ยังไง งานท่านมาก อยู่เวรกลางคืนช่วงเวลาละ 2 องค์ 1 ทุ่มถึง 6 ทุ่ม ช่วงสอง 6 ทุ่มถึงสว่าง

    ทีนี้วิธีอยู่ยามฉันไม่ไปนอนยามหรอก ขี้เกียจ ฉันก็เลยใช้ท้าวมหาราชนี่แหละ ขอให้ท่านสงเคราะห์บอกว่าถ้าอันตรายจะบังเกิดขึ้นกับวัดก็ดี ของสงฆ์ก็ตามนะ ขอให้ปลุกให้ตื่นก่อน ถ้าหลับอยู่ปลุกให้ตื่นก่อนประมาณสักครึ่งชั่วโมง แล้วก็บอกทิศทางด้วย ถ้าหากกำลังตื่นอยู่ขอให้บอกให้รู้สึกก่อนครึ่งชั่วโมง

    มาคืนนั้นก็เป็นเวรอยู่ยามตอนดึก นอนๆไปประมาณตีสอง หน้าต่างฉันปิดนะ แต่ได้ยินเสียงหน้าต่างเปิด เสียงดังแรงมาก ลืมตาขึ้นดูเห็นหน้าต่างเปิดเสียงดังแรงมาก ลืมตาขึ้นดูเห็นยืนดำทื่อ ลูกน้องท้าวเวสสุวัณ พอเห็นท่านเข้าท่านบอก "คุณ ขโมยจะลักซุง มันนั่งที่ต้นสะตือฝั่งโน้น สังเกตุดูประเดี๋ยวจะมีผักชวาลอยมา มันจะมุดใต้ผักชวา แล้วมันจะผลักเข้ามามุดตัดใต้ซุงให้ลอยไปกับน้ำไหล พรรคพวกของมันจะรออยู่ทิศใต้แง่มุมโน้น" ชี้ให้เสร็จนะ

    ฉันก็ไปเรียกพวกอีก 2 องค์ เขาลุกขึ้นถาม ทำไม บอก เฮ้ย ท้าวมหาราชมาบอกว่าขโมยจะลักซุง ก็ย่องแอบดู เดือนมืดใกล้จะตกพอดี ก็เห็นคนนั่งดำๆ ประเดี๋ยวผักชวามามันก็มุดเข้าผักชวา ปรกติผักชวาไหลไปตามน้ำ แต่ไอ้ผักชวากองนั้นมันไม่ตามน้ำ มันไหลเฉียงๆเข้ามาหาซุงน่ะซิ ฉันก็คลำหาลูกระเบิด

    "เอ๊ะ หลวงพ่อบวชแล้ว ยังมีอีกหรือครับ"

    อ้าว ระเบิดด้าน อิฐหัก

    "อ๋อ....ใช้อิฐเหรอ"

    พอได้อิฐ ก็ขว้างตุ๋มไปข้างๆหวังให้แกถอย แกก็ถอยจริงๆ ดำผลุบไปโผล่ฝั่งโน้น พอแกขึ้นไปนั่งอยู่ประมาณสักพักมั๊ง แกหันมาด่าไอ้.....ขว้างได้ แกพูดผิดจังหวะ ถ้าพระแก่ๆพูดได้ แต่สมัยนั้นเราพระหนุ่มๆขว้างมีดเก่ง เอาสันก็ได้เอาข้างก็ได้เอาคมก็ได้ ก็ต้องอิฐหักระเบิดพระใช่ไหม ล่อปั๋งเข้ากลางหลังฟุบเลย ก็ใช้เรือข้ามไป เอามามัดติดกับศาลามัด 5 เปราะยืน หน้าหนาวด้วย แล้วเราก็มานอนสบาย เวลานั้นหนาวไอออกปากเลยนะ

    พอตอนเช้าลงมาตัวซีด พอดีตอนเช้าหลวงพ่อปานท่านก็มา บอกขอฉันได้ไหม บอกขอไม่ได้ครับ หลวงพ่อไม่ได้ขว้าง ผมขว้าง หลวงพ่อไม่ได้จับ ผมจับ บอกไม่ได้ครับหลวงพ่อ ไม่งั้นมันไม่เข็ด ท่านบอกก็ตามใจเอ็ง ขอแล้วก็แล้วกันไป ฉันก็เลยไปบอกกำนัน กำนันถามเอาโทษไหม บอกไม่เอาแต่ต้องบอกตำรวจให้สั่งสอนก่อน กว่าตำรวจจะมาบ่าย 5 โมงเย็น เพราะอะไรรู้ไหม บอกกำนันอย่าให้ตำรวจมาเร็วนะ สงสารมันประเดี๋ยวตำรวจเอาไปขัง ตั้งแต่วันนั้นขโมยไม่เข้าวัดอีกเลย ไอ้หน้าวัดมันมีทางเดินผ่าน กลางคืนชาวบ้านก็ไม่ผ่าน เดินอ้อมหลังวัดหมด บอกถ้าพระ 3 องค์ยังอยู่ไม่เดินผ่านวัดหรอก เห็นไหมศักดิ์สิทธิ์

    "นี่แหละการบวงสรวงมีประโยชน์อย่างนี้"

    บอกท่านก็แล้วกัน ถ้าจะมีอันตรายกับเราก็ดีกับบ้านก็ดี ขอให้บอกก่อนครึ่งชั่วโมง ถ้าเป็นเวลากลางวันวิธีบอกของท่านแบบนี้นะ นั่งๆคุยๆดีๆมันจะเกิดอาการง่วงทนไม่ไหว พอนอนปุ๊บหัวถึงหมอน หายง่วง ต้องเชื่อความรู้สึกอันนี้นะ

    (ใครที่กลัวอันตรายต่างๆ หรือกลัวของหาย กลัวไฟไหม้ ก็ลองปฏิบัติตามที่หลวงพ่อแนะนำมานี้ คงจะมีประโยชน์มาก)

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 102 เดือนสิงหาคม 2532 หน้า 81- 83)
     
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    300706_106649456197271_710117772_n.jpg

    อยากปฏิบัติแบบพระ

    ผู้ถาม : ในเวลาเข้าพรรษา พระสงฆ์ต้องปฏิบัติธรรมะอย่างดียิ่ง ในฐานะเราเป็นฆราวาส อยากจะปฏิบัติอย่างพระบ้างจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : เอาอย่างนี้ซิ ตอนเย็นกินข้าวครึ่งจาน ถ้าให้เหมือนพระก็ไม่กินซักจาน

    แต่ความจริงการปฏิบัติทำง่ายนี่นะ เช้าไหว้พระว่านะโม 3 จบ หรือไม่ก็ว่า "นะมะพะธะ" ก็ได้ คือทำให้เป็นประจำอย่างน้อยทรงศีล 5 ให้บริสุทธิ์ และเจริญภาวนาตามสบาย

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 79 เดือนกันยายน 2530 หน้า 90)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2020
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    eac54d2f.jpg

    เอาเครื่องช่วยหายใจออกบาปไหม

    ผู้ถาม : ลูกอยากถามหลวงพ่อเจ้าคะ คือผู้ป่วยที่อาการต้องตายแน่มีเครื่องช่วยหายใจอยู่ แพทย์เขาสั่งให้เอาเครื่องช่วยหายใจออก เมื่อเอาออกแล้วเขาตาย จะบาปไหมคะ

    หลวงพ่อ : คนจะตายจะบาปยังไง ไม่ได้ฆ่าให้ตาย นั่นเครื่องช่วยหายใจถึงขืนช่วยไปก็ไม่ไหวแล้ว เขาก็ต้องตายก็ไม่มีความสำคัญ คำว่าบาปก็ไม่มี ไม่ใช่ถ้ายังช่วยอยู่มีหวังจะฟื้น เราแกล้งเอาออกไอ้นั่นจึงจะบาป เพราะมีเจตนานะ และไอ้การที่จะบาปนี่ต้องมีการตั้งใจกลั่นแกล้งหรือทำให้ตาย

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ ถ้าอย่างนี้ถ้าเกิดเป็นลูกกระทำถือว่าเป็นอนันตริยกรรมไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : เขาไม่บาป คุณฟังให้ดี อย่าโง่ เรื่องไม่บาปก็ไม่เป็นอนันตริยกรรม ตัดคำว่าบาปนั้นไม่มีเสียแล้ว เวลาฟังคำพูดต้องติดตามเขาพูดเรื่องไหน จำหัวข้อคำพูดไว้

    หลวงพ่อ : เอ้าหมวดมีอะไรคุยไหมเล่า เดี๋ยวต้องถามตำรวจ ยิงผู้ร้ายตายบาปไหม บาปไม่บาป

    (บาปครับ)

    ฉันถามว่าตำรวจยิงผู้ร้ายตาย ฉันไม่ได้ถามว่าตำรวจยิงผู้ร้ายเฉยๆ (หัวเราะ) สอบตกแล้ว ผู้ร้ายมันตายแล้ว ไอ้นี่งานก็งานการปราบปรามผู้ร้าย ถ้าเป็นผู้ร้ายจริงเขาจำเป็นต้องยิง ยิงให้ตายใช่ไหม ถ้าถามว่ามีโทษไหม ต้องตอบว่ามีโทษ ถ้าถามว่าโทษทำบาปหนักไหม ต้องตอบว่าไม่หนัก มันมีนิดเดียว เพราะกำลังจะบาปนี่ไม่เท่ากัน

    ถ้าคนที่มีคุณมากเราฆ่ามีโทษมาก คนที่มีคุณน้อยเราฆ่ามีโทษน้อย ไอ้คนจัญไรประเภทนั้นมันไม่มีคุณเลย แต่ว่าดับคนประเภทนั้นไปได้คนหนึ่ง คนอีกกี่คนที่มีความสุข ถ้าถามบาปมากไหม คนเหมือนกันมันบาปไม่เท่ากัน

    หมวดนะ อย่าฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ นี่ไม่ต้องห่วงหรอกลงอเวจีดิ่งเลย ใช่ไหม ถ้าฆ่าคนที่มีคุณน้อยไปกว่านั้น ยังไม่ถึงขั้นอเวจี และฆ่าคนที่มีคุณน้อยไปกว่านั้นอีกก็เบากว่านั้นอีก ถ้าฆ่าคนจัญไรแบบนั้น มันมีบ้างเหมือนกัน มันแค่มีบ้างนะโยมนะ แต่ว่าทีนี้ถ้าตำรวจทำด้วยเจตนาดีคิดว่าถ้าทำลายคนประเภทนี้เสีย คนอีกหลายแสนคนจะมีความสุขเพราะไอ้คนคนนี้ ถ้าคนคนนี้อยู่คนเดียวมีความทุกข์ใช่ไหม บุญส่วนนี้เขามีบาปส่วนนั้นมีนิดเดียว นี่พูดกันตรงไปตรงมานะ จะคิดว่ายิงคนเหมือนกันมีโทษเท่ากันนั้นไม่เท่า ก็ว่าตามธรรมะนะ

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับเดือนมกราคม 2534 หน้า 32)


     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    ภายในวิหาร 100 เมตรจะมีมณฑปและเจดีย์ทองเล็กอยู่ด้านข้างพระพุทธชินราช

    1299862447.jpg S__1892437.jpg S__1892433.jpg

    ภายในบรรจุสิ่งมีค่าอะไรบ้างและประวัติความเป็นมาอ่านได้จากธัมมวิโมกข์ด้านล่างนี้ครับ
    DSC_0010_1.jpg DSC_0014.jpg DSC_0015_1.jpg

    (จากธัมมวิโมกข์ เมษายน 2532 หน้า 7-9)


    และจากธัมมวิโมกข์ฉบับนี้ทำให้ทราบเป็นว่า พระปัจเจกพระพุทธเจ้าบูชาขนาดหน้าตัก 5 นิ้วรุ่นแรกมีจำนวนสร้างทั้งหมด 2,000 องค์ จากเมื่อแรกหลวงพ่อสั่งหล่อเพียง 500 องค์แต่เนื่องจากมีคนสั่งจองมากเกินจำนวน หลวงพ่อจึงสั่งสร้างเพิ่มเป็น 2,000 องค์

    พระปัจเจกพระพุทธเจ้าขนาดหน้าตัก 5 นิ้วรุ่น 1.jpg พระปัจเจกพระพุทธเจ้ารุ่นแรก สร้างปีพ.ศ. 2532.jpg
    พระปัจเจกพระพุทธเจ้าหน้าตัก 5 นิ้วรุ่นแรก(สร้างเพียงขนาดเดียว) สร้างปีพ.ศ. 2532 ฐานด้านหลังจะไม่มีตัวหนังสือบอกว่าเป็นรุ่นที่เท่าไหร่



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2019

แชร์หน้านี้

Loading...