กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    ใช่ค่ะอาจารย์
    ร้อนมากกก
    อุดร 40 องศา ขึ้นๆ อย่างเดียว
    เจนป่วยติดต่อหลายวัน
    เพราะขับมอเตอร์ไซค์ต่างแดดที่อุณหภูมิ 43 องศา
    ไปห้าง ซื้อเสื้อผ้า ให้ 2 สอ
    เข้าแอร์ ออกมาเจอแดด
    กลับบ้านมาอาบน้ำ เปิดแอร์
    สุดท้าย ป่วยเลยค่ะ

    อาจารย์ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เปื่อยเหมือนกัน เจออยู่ห้องแอร์ ๒๔ องศา
    ออกมาเจอ ๓๘ องศา เปื่อยเลย หลายวัน
    แพ้อากาศ รอดได้เพราะ คอเฟนิลามิล


    ช่วงนี้เลย ดูโปรแกรมพยากรณ์อากาศแบบ
    ต่อเนื่อง เรียกว่าดูเป็นชั่วโมงที่เดียว
    เอาไว้วางแผนการเดินทาง เรียกว่าถ้าออก
    จากบ้านช้า หมดสิทธิ์แว๊น ร้อนมากจริงๆ
    ถึงขั้นได้แวะซื้อผ้า ปั๊บกันเลยระหว่างทาง
    เพราะร้อนคอมาก ถ้าไม่ใช้

    จังหวัดที่มีสันเขารอบ อุณหภูมิต่ำกว่า
    ที่ไม่มี ๒ องศา

    อ้อ วันที่ ๑๘ อาจจะได้ไปงาน
    หล่อ เจ้าแม่กวนอิมที่ปักธงชัย
    พระครูปลัดท่านไปด้วย ก่อนจะไปอยุธยาต่อ
    ช่วงบ่ายครับ

    จริงๆ แล้ววัดนี้ ห่างจากที่เคยทำงานเก่า
    ไม่กี่กิโลเอง(เคยทำงาน ๖ เดือนก่อนออกมาเรียน โท) ที่ๆเคยซื้ออาหาร
    เลี้ยงน้องหมาแถวนั้นไว้ แล้วมีเพื่อนต่างสาขา วางยา น้องหมาตายหมด เพราะได้รับคำสั่งมา ส่วนตนเองเคยแนะนำว่า
    เอาไปปล่อยที่อื่นได้ แต่นายคนนี้ไม่ฟัง
    ทำงานเอาหน้าอย่างเดียว

    วันนั้นยังจำแววตา ที่นาย A (ชื่อสมมุติ)
    ยืนมองข้าพเจ้า ด้วยแววตาแบบ
    ประมานนี้ว่า สะใจ มีปัญหาอะไรได้หรือเปล่า
    ส่วนตัวได้แต่ปลง หลังจากนั้น ๓ เดือนเลยลาออก

    และเหมือนกรรมตามทันเร็วมาก
    ผ่านมาไม่เกิน ๕ ปี เส้นเลือดสมองแตก
    กลายเป็นเจ้าชาย นิทรา อายุ พึ่ง ๓๐ นะ

    ตอนรู้ข่าว ไม่ได้นึกสมน้ำหน้า
    นายคนนี้นะครับ
    แต่คิดเลยว่า เพราะกรรมที่วางยาเบื่อน้องหมาแน่เลย ในนั้นที่เค้าวางยา
    มีน้องหมาแม่ลูกอ่อนด้วย และลูกๆ
    ของมันด้วย

    กรรมเจตนาฆ่า มันส่งผลแรงครับ
    แถมยังทำให้อายุสั้นอีก

    ดังนั้น เลี่ยงได้เลี่ยงซะ
    อยากกินซื้อที่ตายแล้วเอาเด้อ


    4AECB269-464D-4978-BDB7-F25EC61FB870.jpeg


     
  3. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะอาจารย์
    ที่แน่ๆ อาจารย์ แว๊น~~บ่อย เจอแดดที
    ยิ่งกว่ายืนหน้าเตาอบ
    ( รถอาจารย์เท่ห์ มากกก หลบแดดใต้ต้นไม้ด้วย)

     
  4. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    สาธุๆๆๆๆ อยากไปๆ
    ได้แต่ส่งแรงใจไป
    เข้าไปดูที่กลุ่มทางวัดบ่อย แทบทุกวัน
    กดถูกใจรั่วๆ อยากไปมากค่ะ
    แต่กลุ่มก็เยอะพอสมควร
    แอบ พยายามหาเฟสอาจารย์นพ เผื่อฟลุ๊คเจอ
    จะได้แอ๊ดไป อิอิ แต่หาจนตาเปียก
    เพราะสมาชิกในกลุ่มทางวัด เยอะ มากกกก
     
  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    ใกล้แล้ว gold-313346_960_720.png
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    องค์ที่ ๔ พระพักษ์ท่านแบบนี้
    ต่างที่จีวรท่านจะออกสีดำ
    พระปัจเจกจีวรท่านสีจะเหมือนของ
    พระป่าฯ

    องค์ที่ ๑ ๒ และ ๓ กายท่าน
    เป็นพระพุทธรูปไปแล้ว(ไม่เคยเจอตอน
    เป็นมนุษย์และ ต่างที่ความสูง
    องค์ที่ ๓ สูงประมาน ๑๕ เมตร เรียงความ
    สูงบวกย้อนถอยหลังไปอีกองค์ละ ๕ เมตร

    ที่ยังวนเวียนเสด็จลงมา ณ ปัจจุบันนี้
    จะเป็นองค์ที่ ๓ และ ๔ ส่วน องค์ที่
    ๑ และ ๒ จะพบได้อีกสถานที่
    พิเศษแห่งหนึ่ง

    องค์ที่ ๕ ยังไม่ลงมาตอนนี้
    องค์ที่ ๖ ๘ ๑๐ ไม่มีเปลี่ยน
    องค์ที่ ๗ และ ๙ เค้ายังไม่ให้
    โลกรู้ ณ เวลานี้
    ๔ องค์ที่โลกรู้
    เป็นอดีตพระสงฆ์ ที่มีชื่อในอดีต
    บ้านเราทั้งนั้น แต่มีองค์เดียว
    ที่จะตรัสรู้ที่ภาคเหนือของประเทศไทย

    ท่านทางเหนือที่ดังๆ ที่เกี่ยวข้อง
    กับถ้ำที่ตามหาเด็ก ตอนนี้เก็บตัวปิดวาจา
    ๓ ปี ชาติต่อไป คือพระพุทธเจ้าอีกพระองค์
    เช่นกัน แต่ไม่ใช่ยุคนี้ครับ

    ปล.นิทาน พระยาธรรมิกราชาฯลฯ
    หรือพระธรรมราชาฯลฯ เป็นการอุปโลกน์
    แยกมาจาก ต้นเรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ์
    แล้วแต่งเติมมาถึงปัจจุบัน

    พระเจ้าจักรพรรดิ์ ก็คือบุคคลหนึ่ง
    ที่เปรียบได้เป็นพระพุทธเจ้า
    เพียงแต่ตอนนั้นท่านเลือกเป็น
    พระมหากษัตริย์ครับ

    นิทานเสริมความรู้
    รู้ไว้ ไม่เสียหลาย

    จบนิทาน


     
  7. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    สาธุครับอ.นพ หายไปนานเลย
     
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    สบายดีไหมท่าน
     
  9. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    เท่าที่เดา ก็มี ท่าน ด. ท่าน ป. ท่าน ศ.
     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    ...เช่นกันครับหมูเจนดูแลสุขภาพด้วย
    ...รวมทั้งทุกท่านด้วย
    ...เด๋วเจอแดดตับแตก 40 องศา
    ...เด๋วเจอแอร์ 24 (ทั้งที่บ้านและห้าง)
    ...เด๋วออกจากห้างเจอ 40

    สลับไปมา...ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
    ยิ่งต้องทำงานกลางแดดเปรี้ยงๆ
    ยิ่งต้องระวัง...โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก
    *อันตรายที่คาดไม่ถึง*
    ...เป็นห่วงครับ
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    **คอเฟนิลามิล**
    ระวังครับท่านอจ.นพ
    ยานี้จะทำให้ง่วงนอนหลับในได้ง่ายๆ
    ระหว่างแว๊นมอไซด์คันงาม
    ..ยิ่งขับรถยนต์...ยิ่งอ.ต.ร.
    (สงสัยอจ.มีรถ...แต่ไม่ขับเพราะเหตุนี้)
    เพราะมอไซด์เจอแดดเปรี้ยง
    อาจทำให้หายง่วงได้
    ส่วนคนที่ขับขี่รถยนต์
    บางครั้งมันเหมือนอยู่ในห้องนอน
    ทำให้เผลอง่วงได้ง่ายๆ

    ส่วนตัวผมโดนมาล่าสุด
    ไม่กี่วันที่ผ่านมา
    อดนอน..ง่วงจัดไม่ยอมจอด
    เพราะเหลือแค่ 5-6 กม.จะถึงที่พัก
    ทำไมและมีเหตุผลใดต้องจอดพัก ???
    ***อันนี่ต้องระวังเป็นพิเศษ***
    เพราะความง่วงจัด
    ...มันไม่รู้หรอกว่าอีก 5-6 กม.จะถึง
    ...แม้จะขับไปอย่างช้าๆ 70-80 กม.มั่ง
    ...แล้วพยายามฮึดสู้ขับต่อ

    //ชั่วพริบตา//ช่วงเลี้ยวทางโค้ง
    เข้าสู่ถนนแยกย่อย(อีก 2-3กม.จะถึงที่พัก)
    รถเสยไปอีกฝั่งถนนโดยไม่รู้สึกตัว
    คือหลับใน...เป็นอะไรที่เกิดขึ้นเร็วมาก
    ประมาณเสี้ยวของเสี้ยววินาที
    รถหยุดหน้าต้นไม้ใหญ่
    เฮ้ย ! เฮ้ย !
    ขาเราไปเหยียบเบรกเอง...ตั้งแต่เมื่อใด
    เปิดตาดูไปรอบๆด้วยอาการสะลึมสะลือ
    รถท่อนหลังขวางอยู่กลางถนน
    ...หน้ารถเป็นต้นไม้ใหญ่และบ้าน3-4 ม.
    ไหว้ ไหว้...ยกมือไหว้ต้นไม้ใหญ่
    ...พอตั้งสติได้...หายง่วงปลิดทิ้ง

    ที่เขียนให้อ่านอย่างละเอียด
    เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้พึงระวัง
    เรื่องหลับในไม่เข้าใครออกใคร
    อย่านึกว่าหรือมั่นใจว่าอย่างไงๆก็ไม่หลับ
    ...ส่วนตัวผมเคยหลับในรอดมาแล้วถึง 3-4 ครั้ง
    ทั้งที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว...และไม่นาน
    ขับอยู่ถนนหลัก 6-8เลน
    แค่เริ่มเซซ้าย-เซขวา แล้วตื่นทันที

    "ง่วงจัด...จอดหลับข้างทางดีกว่า"
    ...ดีกว่าหลับสนิท แล้วไม่ตื่น

    ***************************************


    ".....อ้อ วันที่ ๑๘ อาจจะได้ไปงาน
    หล่อ เจ้าแม่กวนอิมที่ปักธงชัย
    พระครูปลัดท่านไปด้วย ก่อนจะไปอยุธยาต่อ
    ช่วงบ่ายครับ....."

    โมทนาสาธุครับ...ท่านอจ.นพ
    ผมจะพยายามหาเวลาไปร่วมงานครั้งนี้
    จะได้ไปกราบไหว้พระครูปลัด
    และได้พบอจ.นพ ด้วย

    ไว้ผมเช็ควันเวลากับเจ๊ว่าช่วงนั่นสะดวกไหม
    อาจจะชวนเจ๊และญาติบางคนไปร่วมบุญด้วยกัน

    ไว้ใกล้ๆจะแจ้งให้ทราบอีกที
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    สบายดีครับ

    ห่างเหินห้างไปร่วม 10 วัน
    คิดถึงห้าง...หลบร้อนด้วย 555
    เมื่อวานว่าจะอยู่บ้านเคลียรโน่นนี่
    แต่ใจชนะความคิดถึงไม่ได้
    จึงเผ่นไปเดินห้าง
    ...หลบร้อน คลายเครียดได้ระดับนึง
    พอดีที่ฮอลมีแข่งคัดเลือกแบตมินตัน
    บุคคลทั่วไป เป็นระดับเล็กๆ แต่หลายคอร์ต
    มีคนดูแค่หยิบมือเดียว...50คนไม่เกิน
    นั่งดู...นั่งหลับสัปหงกเป็นครั้งคราว
    ...โดยไม่สนใจสายตาใคร
    ก้อคงเป็นอาการง่วงจัดตกค้าง
    ทั้งที่ช่วงก่อนออกจากบ้านรู้สึกคึกคัก...อยากไป(มาก)
    ...แต่ไฉนหลังอาหารเที่ยง กลับง่วงสุดๆ

    ***************************

    อนุโมทนา การสร้างองค์พระพุทธรูป
    ...จนใกล้สำเร็จลุล่วง(ตามรูป)

    (อยากถามหลายครั้งแล้วว่า...)
    การสร้างเหมือนเป็นการสร้างส่วนตัวๆ
    ไม่ทราบสร้างเพื่อแก้เคล็ค แก้อะไรบางประการ
    การที่บุคคลอื่นจะร่วมทำบุญเล็กน้อยด้วย
    จะผิดโน่น ผิดนี่ หรือไม่
    อันนี่ไม่รู้ ไม่แน่ใจจริงๆครับ

    รบกวนถามท่านอจ.นพด้วยครับ
    ขอบคุณครับ
     
  13. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    ดูแลรักษาสุขภาพด้้วยครับ
    เรือ่งการสร้างพระทำเพราะ อยากให้คนได้กราบไหว้ และระลึกถึงคุณงามความดีและคำสอนของพระองค์ และอาจเป็นคำอธิษฐานที่เคยลั่นไว้ เมื่อในอดีตชาติก็ได้ จึงทำให้อยากทำอยากสร้างตรงนี้ครับ ก็มีคนร่วมนะครับ เหมือนเราสร้างพระใหญ่แหละครับ ร่วมๆๆกันก็สำเร็จ
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    สร้างพระพุทธรูปร่วมกับคนอื่นๆ
    แม้บาทสองบาท ก็ได้บุญใหญ่เหมือนกัน
    สำคัญที่ใจที่น้อมร่วมโมทนา
    ในการสร้างครับ(ต้องฝึกนะครับ)

    ส่วนอานิสงค์สร้างเพื่อแก้อะไร
    ตรงนี้เป็นเรื่องรองครับ

    ร่วมสร้างไม่ผิดหรอก
    เราสร้างเพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้า
    ถึงคุณความดีต่างๆ คนมาไหว้สบายใจ
    บุญก็จะได้จากตรงนี้หละครับ

    เราเรียนรู้อัตตาเพื่อเข้าใจอนัตตา
    เรียนรู้สมมุติเพื่อเข้าใจวิมุติ
    เค้าอาศัยกันอยู่

    ยกเว้นว่า เราเกิดมาจะไม่มีกายเนื้อ
    ถึงไม่ต้องมีเครื่องระลึก เพราะนึกเอาได้
    เป็นอีกประเด็นครับ ^_^
     
  15. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    ผมเคยคุยกับคนที่ฝึกมโนยิทธิ ท่านนึง เขาบอกว่าเขาอฐิษฐาน ขอเห็นพระพักตร์ผู้เป็นเลิศ 3 ภพ องค์ปัจจุบัน แกบอกว่า พระพักตร์ ท่านคล้าย คงทางจีน-ทิเบต ไม่ใช่แบบ อินโด อารยันตามที่เห็นๆกัน แล้วก็เชื่ออย่างนั้นจริงๆเสียด้วย (ตัวแกเป็นคนเสื้อสายจีน ต.) จริงเท็จอย่างไรมิิทราบ เพียงแต่อยากเล่าให้ฟัง
     
  16. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    อนุโมทนาสาธุด้วยครับอ.นพ
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672


    ".....เรื่องการสร้างพระทำเพราะ
    อยากให้คนได้กราบไหว้
    และระลึกถึงคุณงามความดี
    และคำสอนของพระองค์....."



    อนุโมทนา สาธุ ในจิตกุศลครั้งนี้
    ขอให้บุญรักษา

    เด๋วหลังไมค์นะครับ


     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 131 ลำดับที่ #2619

    อาจารย์นพมีทริคในการสวดมนต์มาฝาก

    [QUOTE="nopphakan, post,

    มาแระ มีทริคมาบอกเกี่ยวกับ บทสวดมนต์
    เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    ๑.ควรเลือกบทสวดมนต์ที่เราชอบ ไม่ยาว และ
    เราสามารถท่องได้ในใจแบบไม่ต้องเปิดตำรา...

    ๒.เวลาท่องคาถา ให้ท่องไปเลยอย่าสนใจวรรคตอน
    เพียงแต่เวลาที่ท่อง ลิ้นกับปากห้ามขยับ
    (เผื่อเป็นอุบายในการดึงให้จิตมีความเป็นทิพย์
    หรือเข้าสภาวะอุปจาระสมาธิแบบชั่วคราว)

    ๓.ถ้าท่องในท่านอน ก็ให้หลับไปเลยเด่วเห็นผลเอง

    ๔.คนอื่นๆจะไม่รำคาญ เพราะเราไม่ได้ออกเสียง ๕๕

    ๕.ออกเสียงได้ แต่กำลังจะไม่เกินปฐมฌาน ถือว่าดี
    แต่ทริคที่บอก เน้นเพื่อให้ได้เข้าถึงผลของคาถา....

    ๖.ถ้านั่งสวด ให้มองเหนือนิ้วกลางที่พนมมือประมาณ ๕ ถึง ๑๐ ซม. ทำตาให้นิ่งๆ ห้ามขยับไปข้างซ้ายและขวาเป็นอันขาด
    (เพราะถ้าขยับซ้าย จะสร้างความคิดใหม่ และถ้าขยับขวา
    มันจะดึงความคิดในอดีตขึ้นมาทันที และถ้าล้า ให้หลับตาได้
    อย่าอเมริกัน ลูกทุ่ง ทนตาเปียกตาแฉะ ๕๕)

    จบเรื่อง คาถา บทสวดมนต์ก่อน
    เด่วถ้าทำได้ดี จิตเริ่มทำงาน จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง
    ของอากาศรอบๆตัวได้ ด้วยตาเปล่านั้นหละ
    จำไว้ว่า ไม่ว่าจะเห็นอย่างไร ห้ามสนใจ
    ปลายทาง จำไว้คำเดียวว่าต้อง '' ใส ''
     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 132 ลำดับที่ #2622

    เป็นข้อสงสัยตกค้างของ 9 ในเรื่องโทรจิต

    [QUOTE="nopphakan, post:
    กิริยาอะไรก็ตาม
    ที่มีจิตเป็นผู้แสดงหรือผู้กระทำร่วม
    ...กับแรงที่มาภายนอกต่างๆนั้น
    ไม่ว่าจะมาจากต้นกำเนิดระดับใด แหล่งใดก็ตาม
    ในที่นี้สามารถเหมารวมว่า โทรจิต ได้หมดครับ....
    พอจะแยก ตามกิริยาที่เกิดได้
    ตามประมาณที่จะโม้ข้างล่างต่อไปนี้...

    ๑. กิริยาที่จิตสามารถรับรู้ รู้สึก สื่อสารเข้าใจได้
    หรือแม้กระทั้งสื่อสารไม่ได้
    หรือไม่รู้ว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้
    ในเหตุที่เหนือวิสัยทางโลกต่างๆ
    ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์
    เรื่องราวต่างๆ เกินกว่าจะอธิบาย
    ...บางครั้งเราเรียกลางสังหรณ์
    คอมมอนเซนต์ เทพสังหรณ์ ลางสังหรณ์
    ซึ่งยังไม่มีทฤษฎีใดๆมารองรับให้เป็นสากลได้
    และพูดออกมาเป็นคำพูดที่เป็นกลางได้นั้น...
    หากเราได้สังเกตุเหตุข้างบนนั้น
    สามารถเกิดได้ทั้งที่แบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว
    แม้ว่าเราจะเป็นใคร อะไรอย่างไร
    แม้ไม่เคยฝึกเคยทำมา
    ก็สามารถเกิดได้
    ทำให้เรื่องร้ายๆ กลายเป็นเบา
    และบางครั้งก็ทำให้
    รอดพ้นจากเรื่องร้ายๆต่างๆนามาได้
    แบบนับไม่ถ้วนนั้น....


    ๒.กิริยา ที่จิตเกิดแบบข้อที่ ๑
    แต่รู้ตัวว่าเป็นผลระหว่างทางของกรรมฐาน
    โดยที่ผู้นั้น สามารถเข้าใจได้เอง
    เพียงแต่ไม่อยู่ในระดับที่จะใช้งานได้ ในชีวิตประจำวัน...
    เหมือนกับการหายใจนั่นเอง...

    ๓. กิริยาที่จิตเกิดคล้ายข้อ ๑ แต่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
    และใช้งานตามปกติ แต่ดันเกิดก่อนที่จิตจะแยกรูปแยกนาม
    และเดินปัญญาได้ นั้นอย่างนี้ ปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน
    เพราะว่า ภายนอกจะมองว่า บุคคลนั้นเพี้ยน
    ในอนาคต ต้องมาเริ่มต้นด้วยการเจริญสติ เดินปัญญา
    สร้างสมาธิสะสมใหม่เลย อาการจะดีขึ้น
    และความสามารถใดที่ไม่จำเป็นมันจะถูกปิดและหายไป
    กลุ่มนี้ เราจะเรียกว่า พวกญานวิถี หรือ วิถีญาน
    คือ พวกที่พกบารมีลงมาเกิด มักจะเป็นกลุ่มผู้โปรด
    เน้นไปทางด้านปัญญา ไม่ใช่สายฮาๆแบบเราๆแน่นอน ๕๕
    กลุ่มนี้ ร้อยละ ๙๙ % จะผ่านประสบการณ์ในการพบหมอ
    จิตเวช หรือ มีประสบการณ์ในการผ่านโรงพยาบาลจิตเวชมา
    ที่ไม่ใช่แวะไปหาเพื่อน หรือแวะไปเข้าห้องน้ำมาแนะ..๕๕

    ๔.การที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ
    (โดยไม่มีกระแสภายนอกต่างๆ คอยบอก คอยแนะ)
    หมายถึง เกิดจากธรรมชาติของตัวจิตเลย....
    และใช้งานได้แบบตามธรรมชาติ โดยที่ยังดูเป็นคนปกติทั่วไป
    ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ในทางพุทธศาสนาอยู่
    มักจะเป็นกลุ่ม โปรซีรีย์ทั่วไป พบเห็นได้ใน ห่มเหลือง
    ผู้ปฏิบัติดีทั้งหลาย หรือในฆารวาสบางคน.......

    แต่เราจะไม่พูดถึงกลุ่มที่ ๓ หรอกเพราะว่า มีน้อย
    และไม่น่าไปห่วงอะไร แต่เราจะพูดถึงวิธีการฝึก
    จากผลในข้อ ที่ ๒ เพื่อให้ไปเฉียดๆ ในข้อที่ ๔
    อย่างน้อยได้เข้าใกล้ๆบ้างก็ดี เพื่อความฮาของเราเอง.....

    เพราะข้อที่ ๑ นั้นทุกคนล้วนเคยมีประสบการณ์มา
    แล้วทุกคนนั้นหละครับ...
    ส่วนข้อที่ ๓ ส่วนตัวได้เจอบุคคลเหล่านี้พอสมควร
    แต่ว่าไม่ได้อยู่วงการเค้า
    มีทักทาย เฮฮา กันบ้าง เพราะว่าจะเป็นกลุ่มในระบบ
    ของภาคทิพย์ ซึ่งเป็นระบบที่ ยังอยู่ในมิติที่ ๕ อยู่
    ซึ่งส่วนตัว ยังถือว่า อยู่ในระดับง๋องแง๋ง คงไม่พูดอะไร
    แม้ว่าจะถูกมองแบบคาดหวังจากตัวเองมากไปก็ตาม
    แต่ขอฮาๆตามแบบตนเองดีกว่า สบายใจ
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 132 ลำดับที่ #2626

    เป็นความกังวลใจของnan nori ที่ถามขึ้นมา
    ...เรื่องความกลัวระหว่างการสวดมนต์

    [QUOTE="nopphakan, post:
    อ้าว เจอแบบนี้ ต้องโม้เรื่องคาถาก่อนดีกว่า ๕๕๕
    หลานๆมาพูดอย่างนี้ เข้าทางพอดี
    ...ได้โอกาสโม้เลย
    เด่วของ คุณ ๙ ไว้ทีหลัง เพราะต่อไปเป็นแค่
    ในเชิงเทคนิค ไม่มีอะไรมาก ไว้เล่าทีหลัง...
    โม้ ให้รุ่นหลาน ฟังก่อนนะครับ ๕๕๕

    การกลัวสิ่งที่มองไม่เห็น แก้ด้วยการฝืน ๓ ถึง ๔ ครั้ง
    ไม่ว่ากิริยาใดๆก็ตาม กำลังของการฝืนจะเพียงพอ
    ที่จะทำให้ไม่กลัวในกิริยานั้นๆได้เอง....เรื่องสิวๆ..

    และเคยสังเกตุอะไรไหม ในบทคาถา....
    ถ้าแปลเป็นภาษาไทย....เราจะพบว่า
    มักจะเป็นการสรรเสริญคุณความดีของท่าน เพื่ออะไร ?

    ตอบ เพราะเป็นอุบายในการให้จิต เข้าถึงต้นกะแสที่ดีๆนั่นหละ
    จิตเป็นต้นกำเนิดพลังงานได้ ดังนั้นการจะเข้าถึงแหล่ง
    พลังงานที่ดีได้ ก็ต้องหาอุบายในการเข้าถึงนั่นหละ.....

    ชื่อไหมว่า เหล่าเทพเทวดานั้น
    ท่าน..ก็สวดแต่บทสรรเสริญคุณพระพุทธฯนั่นหละ.
    ส่วนตัวมีช่วงหนึ่ง นึกครื้มอย่างไรก็ไม่ทราบ
    อยู่ดีๆ สงสัยนึกว่า ตัวเองเป็น ดารา
    เลยเอากล้องมาตั้งถ่ายรูป เปิดโหมดวีดีโอ ไว้ถ่ายตัวเอง
    ตอนที่นั่งสมาธิในห้องพระ...ช่วงนั้นเหมือนบ้าพลังอยู่
    น่าจะ ๒ ถึง ๓ ปีแล้วมั่ง
    ถูกพระฯมากความสามารถ มากบารมี
    ความสามารถสูงท่านหนึ่ง
    ท่านย้ำและพูดว่า ฟังนะ...
    และกล่าวห้ามถึง ๓ ครั้งว่า
    ว่าห้ามไปเล่นเรื่องปรอทธาตุธาตุเป็นอันขาด
    ไม่งั้นจะกลายพันธ์ ๕๕๕
    นึกออกไหม ที่สีขาวๆ เป็นก้อนๆ ไม่ใช่แบบที่เค้าหุงนะ
    เล่นในที่นี้ คือ การเล่นแบบเรียกปรอท...

    ความจริงตอนนั้น ในนิมิต มาแล้วหละปรอทนะ
    แต่ว่า ยังแยกกันเป็น ๒ ส่วนอยู่ยังไม่ได้รวมกัน..
    ด้วยที่ท่านเตือนแล้ว เลิกก็เลิก ๕๕๕.....
    เลยเปลี่ยนแนว ขอได้ลองซักครั้งเหอะนะ ๕๕๕
    เลยเปลี่ยนมาลองใช้ ในการเรียก. พระธาตุดูบ้าง
    พระธาตุ สายพระป่า อย่างท่านที่ชัยภูมิ
    ท่านเรียกว่า ภูตอากาศ นะ...
    หลังจากที่ลองที่นั่งเกร็งกล้ามและทำได้แล้ว
    ในเวลา ๑๕ นาทีแล้ว ก็หายสงสัย
    แต่อย่างว่า วันนั้น เกิดห้าว นึกครึ้มอยากลองอีก
    เป็นที่มาของการตั้งกล้อง. ประมาณว่า เวลานั่งสมาธิ
    อาจจะได้เห็นอะไรแปลกๆ จะเหมือนอย่างที่ เจ้ ใบเต้ย
    ข้างบ้าน ที่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็น นางตานี
    ที่อายุ ๑๙๐ ปีนางได้บอกไว้หรือเปล่า ๕๕๕
    จึงเป็นที่มา ของการได้ยินเสียงสวดมนต์เป็นกลุ่มนั่นแล

    คือ เสียงจะมาทันทีหลังจากที่เริ่มนั่งสมาธิ
    หรือสวดมนต์ในใจเสร็จ
    เพราะไปเปิดฟัง ตอนที่ส่วนตัวสวดมนต์
    ...จะไม่มีเสียงสวดมนต์มาแทรกเลย
    มันจะมีแต่เสียงคลื่นเฉยๆ ถือว่าไม่มีอะไร..
    และเสียงจะเริ่มขึ้น ทันที ตอนที่เริ่มนั่งนั้น
    เสียงดังกล่าวจะสวดดังต่อไปนี้
    เคยลองหา ไฟล์เสียงชุดนี้แล้ว ยังหาไม่เจอ
    และไม่แน่ใจว่า ได้ลบทิ้งไปหรือยัง
    เคยเอาไปให้ พวกน้องๆลองฟังมาแล้ว
    บางคนก็ได้ยิน บางคำก็กลัว บางคนก็ไม่ได้ยิน....

    หมายเหตุ ( สัญลักษณ์ _ แทนครึ่งจังหวะ และ __แทนหนึ่งจังหวะ และ การ พิมพ์ต่อกันแสดงว่า ท่องเร็วต่อกัน และ
    การเว้นวรรคแทนการเงียบ)

    นะ_โม__ตัส สะ_ภะ_คะ_วะ_โต__อะ_ระ_หะ_โต สัม__มา สัม__พุท ตัสสะ_ภะ_คะ_วะ_โต__อะ_ระ_หะ_โต สัม__มา
    สัม__พุท ตัสสะ_ภะ_คะ_วะ_โต__อะ_ระ_หะ_โต สัม__มา
    สัม__พุท ตัสสะ
    ประมาณนี้ ทำนองแบบนี้ หละ วนไปเรื่อย....
    เสียงท่านที่นำสวดแบบที่เหมือนแป๊ะ บนโลกใบนี้นั้น
    ลองไปหา เสียงของหลวงพ่อมีชื่อ ในอดีตที่ จ.อุทัยธานี
    ท่านนำสวดได้เลย จะเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ....
    คือส่วนตัวมีโอกาส ได้มายิน ท่านนี้นำสวดภายหลัง
    น่าจะผ่านมาได้ซักปีกว่าๆ หลังจากที่ส่วนตัวได้ยินมา
    ตอนที่ไปเปิดไฟล์วีดีโอดู
    เลยเห้ย !!! ประหลาดใจมาก
    ทำไมเหมือนที่ตนเองได้ยินเสียงภพภูมิต่างๆ
    ที่ท่านมาสวดกันเป็นกลุ่มแบบแป๊ะๆเลย.
    ส่วนนี้โม้จบแระ

    และเคยสงสัยไหมว่า คาถามบทนั้น บทนี้
    มักจะมีคำบรรยายว่า สวดแล้วเพื่อการนั้น
    เพื่องานนี้ จริงไหม ?

    ตอบว่า ไม่จริงทั้งหมด
    เพราะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างเช่น
    เช่น กำลังสมาธิใช้งานจริง , การเข้าถึงต้นกระแสนั้นๆ
    หรือ ทริคและเทคนิคต่างๆที่ปนไว้ในบทคาถานั้นๆ....
    ตลอดจนปลายทางของคาถาบทนั้น หรือ การไปใช้งาน
    ในทางด้านต่างๆนั้นเอง.........

    แต่โดยส่วนมากแล้วถ้าเป็น บทคาถาของพระเกจิต
    มีชื่อในอดีตแล้ว ปลายทางของคาถาจะเป็นไปดัง
    บทคาถาที่ท่านได้แต่งไว้นั้นเอง เพราะอะไร ??

    ตอบ เพราะการวาง วิถีของแรง หรือ ต้นกำเนิดของวิถีของ
    แรงหรือพลังงานนั้น ท่านได้วางไว้ให้จิตสร้าง ต้นกำเนิด
    ของแรงให้ส่งผลไปทางด้าน ที่ท่านได้บอกกล่าวไว้นั้นเอง
    ซึ่งตรงนี้ เราไม่มีความจำเป็นจะต้องไปรู้อะไร
    แต่ถ้า พอรู้ได้ เราจะทราบได้เอง เพียงแค่ได้ยิน
    เสียงของคาถา เราจะรู้ได้ว่า คาถาบทนี้ใช้เพื่อส่ง
    ผลทางด้านอะไร เพราะเรื่องของพลังงานนั้น
    วิถีของแรงในด้านต่างๆ จะเป็นเอกลักษณ์ของมันเอง.......

    ปล. พระคาถาจักรพรรดิ นะดีแล้ว...
    เพราะเป็นพระคาถาบทเดียวบนโลกใบนี้
    ที่สามารถสร้างให้จิตไปถึงวิถีทางด้าน บารมีได้
    เพราะอาศัยการสร้างสะสมด้วยการเชื่อมโยงเข้าถึง
    สิ่งๆต่างๆที่มองไม่เห็น ไม่ว่าภพภูมิใดๆก็ตาม
    เป็นเหตุหรืออุบายให้ ตัวจิตเข้าถึงเนื้อหาเดิมแท้ของจิต
    ดวงนั้นๆได้ด้วยตัวจิตดวงนั้นๆเอง....
    ผลที่ได้คือ พวกความสามารถต่างๆไม่ว่าอะไรก็ตาม
    ที่จิตดวงนั้นๆเคยสร้างสะสมมา
    มันก็จะค่อยๆขึ้นมาได้ของมันเอง

    โดยที่ไม่ต้องมานั่งเกร๊งกล้ามตรูดฝึกให้เมื่อยตุ้ม
    จนกว่าจะถึงในระดับที่ใช้งานทางจิตได้
    แล้วพอใช้งานได้แล้ว ก็ต้องมาใช้งานทางจิต
    จนกระทั่งอยู่ในระดับจิตเหนือจิต
    เพื่อให้การใช้งานเป็นอัตโนมัติแล้ว
    และก็ต้องมาทิ้งพวกความสามารถต่างๆเหล่านั้นอีก
    และมาเดินปัญญาต่ออีกรอบ
    เพื่อให้จิตกลับคืนสู่เนื้อหาเดิมแท้ของจิต และความสามารถ
    ที่จิตเคยสร้างเคยสะสมมา ถึงจะค่อยๆกลับขึ้นมา
    เหมือนพวกที่ใช้งานได้ทางจิตทั่วไป....

    ลองย้อนสังเกตุดูว่า คาถาบทเดียว
    สามารถข้ามขั้นตอนปกติ
    ที่พวกใช้งานทางจิตได้ กี่ขั้นตอน....

    นี่หละ เค้าถึงเรียกว่า คาถาสายบารมี
    หรือ สายบุญฤทธิ์นั่นหละ
    คำว่า บุญฤทธิ์ ก็มาจากกิริยาที่ส่วนตัว
    เล่าเทียบกิริยาต่างๆให้ฟังนั่นหละ.....
    เชื่อว่า หลายๆคนแม้แต่ที่เคารพนับถือ
    ท่านหรือแม้แต่สายตรงบางท่านก็อาจจะยังไม่เข้าใจ
    เรื่อง วิถีของแรงส่วนนี้......

    แต่มันมีทริค ในการให้เข้าถึงได้.......
    ซึ่งบังเอิญๆว่า มันจะไปตรงกับทริค
    ที่จะแนะนำ คุณ ๙ ต่อไป พอดี๊ๆ...
    อะไรจะบังเอิญปานนั้น.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...