แชร์มา แชร์ต่อ ( ยังไม่ตรวจสอบ )

ขออนุญาตเวปพลังจิตครับ

กระทู้นี้ผมคิดอยู่หลายวันกว่าจะตั้งเป็นกระทู้ แชร์มา แชร์ต่อ
( ยังไม่ตรวจสอบ )

หากท่านพบว่ามีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือมีความไม่ชอบมาพากล ช่วยทักท้วงผมในกระทู้นี้เลยนะครับ ผมจะได้นำแชร์นั้นออกไปจากกระทู้ครับ

กระทู้นี้จะเป็นการแชร์ข่าวต่อๆกันไปเท่านั้นครับ ผมเป็นแค่แชร์ต่ออีกหนึ่งคนเท่านั้น

 

สำรองพื้นที่
สำรองพื้นที่

 

สำรองพื้นที่
สำรองพื้นที่

 

สำรองพื้นที่
สำรองพื้นที่

 

สำรองพื้นที่
สำรองพื้นที่

 

#ชาวกาญจนบุรี หรือท่านที่มีจิตศรัทธา ช่วยๆกัน คนล่ะ20บาท 50บาท ก็ได้ นาย จิรพงษ์ ยินดี นักศึกษาแผนช่างไฟฟ้าวิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี ปวส.2 ได้ออกทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาเรียน ที่โรงงานพลุวังด้ง ได้รับอุบัติเหตุ พลุระเบิด ขณะนี้ โดนตัดขา 2 ข้างและมือ 1 ข้างนอนห้องICUท่านใดอยากช่วยเหลือบริจาคได้ตามเลขบัญชีด้านล่างครับ

ธนาคาร ธกส. สาขา ลาดหญ้าเลขบัญชี 010442513366
นางสุกฟ้า เซี่ยงว่อง (ยาย) อายุ80กว่า นอนเฝ้าอยู่คนเดียว ที่ รพ.พหล กาญจนบุรี คนวังด้ง



https://www.facebook.com/KANCHANABURITECHNICALCOLLEGE

 

ฮีโร่ที่ถูกลืม! วอนช่วยอาสาเสี่ยงช่วยเหตุแก๊สรั่ว จนโดนระเบิดใส่

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก กนกวรรณ เครือพิมน โพสต์ข้อความวอนช่วยอาสาสมัคร จ.ระยอง ที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยประชาชนในห้องแถวที่เกิดเหตุแก๊สรั่ว แต่ตนเองถูกแก๊สระเบิดใส่ โดยระบุว่า วอนผู้ใจบุญช่วยครอบครัว คุณพ่อ สมยศ จันทร์ทอง ซึ่งในอดีตเป็น เป็น อปพร. ช่วงปลายปี 2559 ก่อนปีไหม่

คุณพ่อสมยศได้รับแจ้งว่าเกิดแก๊สรั่วไหลในห้องแถวของชาวบ้าน ที่มีผู้สูงอายุและเด็กอาศัยอยู่ ที่ คุณพ่อ สมยศ พร้อม เจ้าหน้าที่ อปพร อีก 2 คน เข้าไประงับเหตุเบื้องต้น แต่เกิดแก๊สระเบิดขึ้น ความรุนแรงของแก๊สระเบิดทำให้ทุกๆ คนกระเด็น ไปคนละทิศละทาง และคลานออกมา ในสภาพที่ไฟลุกท่วมทั้งตัว

โดยเจ้าหน้าที่ อปพร อีก2นายได้ส่งรักษาตัวต่อที่รพ.ระยอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาวันที่1มกราคม2560 เจ้าหน้าที่2 ท่านนั้นได้เสียชีวิตลง แต่คุนพ่อสมยศ ได้อยู่ไนห้องICU ต่อมาได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.ศิริราช เพื่อรักษาดวงตา ที่บอดและรักษาบาดแผลตามร่างกาย ….. ณ ปัจจุบัน คุณพ่อตาบอดไปแล้ว 1 ข้าง เหลืออีก 1 ข้าง ที่ต้องรักษาด้วยการหยอดยา ทุกๆ 1 ชั่วโมง

ซึ่งทางครอบครัวก็ยากจน และต้องกูหนี้ยืมสินมาซื้อยา ที่รักษาดวงตาและแผลตามร่างกาย ซึ่งยาราคาสูงเพราะเป็นยาที่ไม่สามารถเบิกได้ โดยทุกวันนี้มีเพียง คุณแม่วรรณา จันทอง คอยดูแล ทั้งๆที่ตนเองก็เป็นโรคความดันสูง หน้ามืดและเป็นลมบ่อยๆ ซึ่ง คุณแม่วรรณา ก็จะต้องดูแล ลูกชาย คือนายธเนศจันทร์ทอง อายุ27ปี ที่พิการตาบอด จากจากเชื้อราขึ้นสมอง ทำให้ ไม่สามารถ ออกไปทำงานได้ อาสาสมัครที่ยอมพิการยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาชีวิตประชาชน พวกเขาน่าสงสารมากๆ ช่วยกันแชร์นะคะ

ยาของคุณพ่อที่ต้องใช้

1.สกาเจล

2.ซอฟทินเนอร์

3.น้ำเกลือและแอลกอล์ฮอ

4.ไม้พันสำลีเบอร์ M

6.ถุงมือยาง

7.สบู่เหลวสำหรับเด็ก+น้ำยาซักผ้าสำหรับเด็ก+ยาสระผมสำหรับเด็ก

8.ข้าวสารอาหารแห้ง

ผู้ใจบุญช่วยเหลือได้ที่ ธนาคารกรุงไทย เลขที่ 985-7-26167-1 นางวรรณา จันทร์ทอง ที่อยู่ 102 /3 หมู่2 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง 21120 โทร 092-4796047 แม่วรรณากลุ่มสะพานบุญเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะติดต่อกับทีมสะพานบุญ เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือ ท่านสามารถกดเข้ากลุ่มของสะพานบุญตามลิงค์ข้างล่างนี่ได้เลยค่ะ #ทุกข์ของท่านถ้าเราแบ่งเบาได้เราก็สุขใจแล้ว

ทั้งนี้หลังจากที่ได้เผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว มีผู้ช่วยเหลือบริจาคสิ่งของ และเงินจำนวนมาก


https://www.springnews.co.th/social/497231

 

สะพานบุญ
Published on Mar 14, 2019

Subscribe 240
วันที่ 14 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านไม่มีเลขที่ตั้งอยู่ภายในซอยติวานนท์ 38 ซอยย่อยซอยทานสัมฤทธิ์ 10/5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี หลังจากได้รับแจ้งมาว่ามีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุเพียง 14 ปีได้เกิดประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัสและเข้ารักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.นานกว่า 2 เดือนซึ่งอาการนั้นต้องผ่าตัดสมองแขน-ขาหักและกรามแตก โดยครอบครัวมีฐานะยากจนขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับของใช้สำหรับผู้ป่วยติดเตียง ทางทีมข่าวจึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ

เมื่อทีมข่าวไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นลักษณะเพิงพักปลูกสร้างด้วยไม้ไม่มีเลขที่ภายในบ้านพบ ด.ญ.สิริพร เสือคำร้อง หรือน้องปิ่น อายุ 14 ปีนักเรียนชั้น ม.2 สภาพนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยสวมใส่แพมเพิส มีสายยางที่ให้อาหารทางจมูกเสียบติดอยู่ไว้อย่างถาวร ที่หัวไหล่และแขนซ้ายมีการพันผ้าและดามแขนไว้ ส่วนต้นขาขวามีร่องรอยการถูกผ่าตัดใส่เหล็กดามขา แต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือใบหน้าเปลี่ยนไปศรีษะมีบาดแผลการผ่าตัดและกรามทั้ง 2 ข้างซ้ายและขวาแตกใบหน้าจึงเปลี่ยนจากเดิมไปมาก

น.ส.นิตยา เรณูกลิ่น อายุ 32 ปีมารดาของน้องปิ่นเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ตนเองทำงานอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยมียายเป็นผู้ดูแลน้องปิ่นมาตลอด ซึ่งตนเองก็ส่งเสียค่าใช้จ่ายมาให้ยายเป็นประจำ กระทั่งล่าสุดหลังจากน้องปิ่นเกิดอุบัติเหตุเลยต้องกลับมายึดอาชีพค้าขายที่ จ.นนทบุรี พร้อมกับมาดูแลน้องปิ่นไปด้วยสลับกับยายกัน 2 คน

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนเองรับรู้มาจากเพื่อนชายของน้องปิ่นที่เป็นคนขับขี่รถ จยย. และน้องปิ่นเป็นคนซ้อนท้ายในวันที่เกิดเหตุบอกว่า รถ จยย.ของน้องปิ่นขับมาในช่องเลนซ้ายตามปกติแต่จู่ๆมีรถ จยย.แบบบิ๊กไบค์ที่ขับขี่อยู่ด้านหน้าพยามเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอย่างกระทันหันจึงทำให้รถ จยย.ของน้องปิ่นพุ่งชนเข้าที่ช่วงหน้าของรถ จยย.บิ๊กไบค์ คันดังกล่าว เป็นเหตุให้เพื่อนชายซึ่งเป็นคนขับขี่และตัวน้องปิ่นเป็นคนซ้อนท้ายกระเด็นไปไกลหลายเมตร หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็นำตัวส่งไปรักษาที่ ร.พ.ชลประทานปากเกร็ด

โดยมีการผ่าตัดสมอง เนื่องจากวันเกิดเหตุมีเลือดคลั่งในสมองและกรามแตก ต้นขาขวาหัก หัวไหล่ซ้ายกระดูกแตกรวมถึงข้อต่อของข้อศอกซ้ายกระดูกนั้นแตกหักจะต้องตัดออกไปถึง 2 เซนติเมตร โดยล่าสุดเพิ่งจะออกมาจาก ร.พ.และมารักษาตัวต่อที่บ้านเมื่อวัน 10 มี.ค.62 ที่ผ่านมาซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ปากซอยติวานนท์ 48 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ม.ค.62 จนถึงปัจจุบันรวม 2 เดือนเศษ ส่วนทางด้านคดีความตนเองมองว่ากลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

เนื่องจากตั้งแต่วันเกิดเหตุยังไม่มีการเรียกสอบปากคำและเท่าที่รู้รถ จยย.บิ๊กไบค์คันดังกล่าวเจ้าของก็นำออกไปใช้งานได้ตามปกติแล้วส่วนรถ จยย.ของฝ่ายน้องปิ่นยังอยู่ที่สถานีตำรวจโดยล่าสุดตนเองได้ติดต่อไปทาง ร.ต.อ.นิพนธ์ พลสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อข้อความคืบหน้าแต่ทางเจ้าหน้าที่พูดออกในเชิงว่ารถ จยย.ของน้องปิ่นนั้นเป็นฝ่ายผิดเนื่องจากขับเลาะมาในช่องทางซ้าย และปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตามตนเองอยากจะขอความอนุเคราะห์ จากผู้ใจบุญช่วยบริจาค แพมเพิสของผู้หญิงไซร์ M และแผ่นรองซับรวมถึงอาหารเหลว ให้กับน้องปิ่นด้วยเนื่องจากตนเองมีรายได้น้อยฐานะยากจน หรือบริจาคช่วยเหลือได้ที่ บัญชี ของนางนิตยา เรณูกลิ่น (มารดา) 40599911943 ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งอาการล่าสุดของน้องปิ่นตอนนี้ยังไม่สามารถพูดและเดินได้อีกทั่งยังไม่รับรู้กับการสื่อสารทั้งพูดและฟังได้เลย

 

สะพานบุญ
5 ชม. ·
สงสารจับใจ เด็กชาย นัทวิน พรมฤทธิ์ (น้องออกัส) อายุ 10 เดือน น้องป่วยโรครุมเร้า เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรงไทลอย และอีกหลายโรค ตอนนี้น้องอาการแย่ลง มีไข้ หายใจเหนื่อยมากขึ้น ปอดแย่ลง

น้องต้องใส่เครื่องออกซิเจนแรงดันสูงหรือเครื่องไคโฟ ไม่งั้นน้องก้อต้องลง icu เลยใส่เครื่องนี้ก่อนถ้าไม่ไหวจริงๆค่อยว่ากัน ตอนนี้ก้อพ่นยาทุก 2 ชั่วโมง และได้เจาะเลือดไปตรวจอีกครั้งค่ะ เก็บปัสสาวะไปตรวจค่ะ น้องโดนงดนม ต้องให้น้ำเกลือไปอีกนานเลย

เครื่องนี้ ค่าใช้จ่าย3000กว่าบาท จากเมื่อก่อนแค่2000บาท แม่จะหาจากไหน เพราะต้องดูแลน้องที่โรงพยาบาลตลอด พ่อน้องก็ต้องดูแลลูกอีกคน รับจ้างขับวินบ้างเป็นบางครั้ง แม่เหนื่อยและท้อจริงๆ

แม่วิงวอนขอให้ มีหน่วยงานไหนก็ได้ ยื่นมือเข้ามาช่วย สามารถเข้ามา ตรวจสอบได้ค่ะ น้องนอนอยุ่ รพ. พระมงกุฎเกล้า ตึก พัชรกิติยาภา ชั้น 4 เตียง 13 ค่ะ น้องมานอนวันที่16 ค่ะ มาด้วยอาการ ไอ อ้วก เหนื่อยมากขึ้น เสมหะเยอะมากขึ้น

แม่ดูดเสมหะให้แต่ก้อเอาไม่อยุ่ค่ะ จึงได้ไปขอใบส่งตัวน้องมาที่ รพ.ค่ะ ตอนนี้น้องแย่ลง แม่ไม่มีรายได้อะไรค่ะ ทุกวันนี้แม่ทำได้แค่เอาเสื้อผ้าไปขาย ในยามที่พ่อมาดูแลน้องแทน ก้อพอได้ค่ากับข้าว เป็นเสื้อผ้ามือสองของแม่เองค่ะ

ที่อยู่ บ้านเลขที่ 8 ซอยสีหบุรานุกิจ 17 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. 10510 เบอร์โทรติต่อ 099-258-4140

เลขบัญชี ธ.กสิกร เลขบัญชี 037-128-1029 ชื่อบัญชี นางสาว วรรณวิศา อยู่นา (เลขบัญชีแม่น้อง)

ที่มาและขอบคุณ FB.Wanwisa Yoona

กลุ่มสะพานบุญเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะติดต่อกับทีมสะพานบุญ เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือ ท่านสามารถกดเข้ากลุ่มของสะพานบุญตามลิงค์ข้างล่างนี่ได้เลยค่ะ
#ทุกข์ของท่านถ้าเราแบ่งเบาได้เราก็สุขใจแล้ว

https://www.facebook.com/groups/saphanboonteam

ติดตามทุกความเคลื่อนไหว "สะพานบุญ" ได้ที่
Twitter : https://twitter.com/saphanboon
Instagram : https://www.instagram.com/saphanboonteam/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UC9jtJSCUiLgdcRxZHlJjS1w

 

ในภาพคือหลวงตาจรินทร์ จะรักษ์รัมย์ ฉายา (ฐานะกโร) พรรษา 20 กว่าๆ พระลูกวัดของวัดห้วยใหญ่ ต. ห้วยใหญ่ อ. บางละมุง จ. ชลบุรี อาพาธด้วยกระดูกทับเส้น ( ขาลีบเล็กลงเรื่อยๆ ปัจจุบันยังพอนั่งได้บ้าง แต่ยืนไม่ได้เลย ) จึงออกบิณฑบาตรไม่ได้

หลวงตาอาพาธมานาน 1 ปีเศษร่วม 2 ปีมาแล้ว ที่วัดที่ท่านอยู่ไม่ฉันร่วมกันนอกจากวันพระเท่านั้น และไม่มีการแบ่งอาหารกัน ดังนั้นคุณหนุ่ม ลูกชายจะไปอยู่ดูแลโดยไม่ยอมห่างองค์ท่านเลย คุณหนุ่มเป็นลูกชายยอมทิ้งงานทั้งหมดเพื่อตอบแทนพระคุณพ่อบังเกิดเกล้า

ด้านหลังคือหลวงตาจรินทร์ จะรักษ์รมย์ (ฐานะกโร)
ด้านหน้าคือคุณหนุ่ม กิตตินันท์ จะรักษ์รัมย์ ลูกชายที่ว่าเป็นช่างปูกระเบื้อง โดยรับงานจากใครก็ได้ที่มีงานให้ปูกระเบื้องในราคาไม่แพง ซึ่งหาเงินส่งหลวงพ่อไปให้คนไปซื้ออาหารให้หลวงพ่อฉันทุกวันมาเป็นเวลาปีเศษแล้ว ค่าใช้จ่ายค่าอาหารของหลวงพ่อจะตกประมาณเดือนละ 3,000.- บาท + - ( แต่หลวงตาบอกว่า ไม่ถึงร้อยบาทต่อวันก็มีบ่อยไป ถ้าซื้อกับข้าวอย่างเดียว ถ้ากับข้าวสองอย่างก็จะถึง 100.- บาท ก็จะถึงเดือนละ 3,000.- บาท )

ดังนั้นหากท่านใดอยู่ในเขตจังหวัดชลบุรี มีงานปูกระเบื้อง สามารถเรียกคุณหนุ่มใช้งานได้นะครับ เขตพัทยา ชลบุรี ( ช่วงเข้าพรรษาปี 2562 ) โทรมือถือคุณหนุ่ม ช่างปูกระเบื้องพื้น ผนัง 089-0589239
ร่วมบุญหลวงตาจรินทร์ จะรักษ์รัมย์ (ฐานะกโร)
ธ. ไทยพาณิชย์ สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ
เลขบัญชีออมทรัพย์ 160-281938-0
ชื่อบัญชี นายกิตตินันท์ จะรักษ์รัมย์

 

ผู้ไม่ออกนามให้มารับเงินที่นนทบุรี ร่วมบุญสังฆทานภิกษุอาพาธ ล.ต. จรินทร์ 1,000.- บาท

ขออนุโมทนาครับ

 

หลวงตาจรินทร์ท่านยังอยู่กรุงเทพฯจนกว่าจะเข้าพรรษานะครับ ก่อนเข้าพรรษาสัก 1 สัปดาห์จึงไปอยู่ชลบุรีที่วัดครับ

 

#โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า #กรมแพทย์ทหารเรือ #ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ในวันอาทิตย์ ที่ 23 มิถุนายน 2562 ณ อาคารผู้ป่วยนอก รพ.ฯ
ร่วมบุญได้ที่ ธ.ทหารไทย 040 253 8250 เงินบริจาคเพื่อ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า

 

ร่วมกัน "สร้างและเป็นสะพานบุญ พลังอันยิ่งใหญ่"
เรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมสมทบทุนสร้างอาคารหอผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลพล
"สุขภาพดีถ้วนหน้า ด้วยศรัทธาแห่งประชารัฐ"
เพื่อโรงพยาบาลบ้านเกิด
เนื่องด้วยอาคารหลังเก่า ทรุดโทรม พื้นที่คับแคบมาก จำนวนผู้ป่วยหรือผู้มารับบริการมีจำนวนมากขึ้น จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้มารับบริการ
//สามารถบริจาคได้หลายช่องทาง
1.บริจาคผ่าน QR code
2. บริจาคผ่านบัญชีเงินฝาก ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย
3.กล่องรับบริจาคในส่วนของภาครัฐและเอกชน เช่น Top plaza ,Lotus,ภูมิสุข
4.มาบริจาคด้วยตนเองที่งานการเงินและบัญชี ตึกผูป่วยฉุกเฉินใหม่ชั้น2 โรงพยาบาลพล หรือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพลทุกท่าน
***หมายเหตุ เงินบริจาคออกใบเสร็จให้ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้2เท่า ถ้าบริจาคมากกว่า1000บาท จะออกใบอนุโมทนาบุญให้ด้วยค่ะ***///***
ร่วมกันแชร์บอกบุญกันเยอะๆนะคะ
ระยะโครงการ มกราคม2562-ธันวาคม2563เป็นต้นไป

 

ประชาสัมพันธ์
ร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนงานวิจัยในการวางรากฐาน
การรักษามะเร็งอย่างแม่นยำ
ร่วมบริจาคได้ที่
ธ.กรุงเทพ 901 705 9990 ศิริราชมูลนิธิ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02 4194471-4

 

มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส – ทุกชีวิตที่เกิดมาต้องได้รับการศึกษาและมีโอกาสทางการศึกษาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งในระบบและนอกระบบ เพราะการศึกษาเท่านั้นจะเป็นหนทางที่นำไปสู่การพัฒนาโดยประการทั้งปวง เป็นการพัฒนาทั้งทางกายทางวาจาและทางใจ

ทุกชีวิตที่เกิดมาต้องเรียนรู้และต้องเข้าใจทั้งตนเองและสิ่งที่อยู่รอบข้างเพื่อให้เกิดการปรับตัวอยู่ในสังคมและสิ่งแวดล้อมนั้นได้อย่างปกติสุข คนที่เข้าใจตนเอง รู้จักปรับปรุงตนเอง ย่อมกลายเป็นคนที่เอาตัวรอดได้

พระมหาสมัย จินตโฆสโก

การให้การศึกษาและการพัฒนาเด็กจำเป็นต้องควบคู่กันไปทั้งสองด้านคือ ด้านความรู้ความเข้าใจตามหลักวิชาการและด้านความประพฤติข้อวัตรปฏิบัติที่ดีงาม

พระมหาสมัย จินตโฆสโก เจ้าอาวาสวัดบางไส้ไก่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ และประธานมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน กล่าวว่า “มูลนิธิกลุ่มแสงเทียนได้มีความตระหนักและให้ความสำคัญด้านการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในสังคม ไม่ว่าเด็กจะมีชีวิตอยู่ในสังคมเมืองหรือในสังคมชนบทก็ตาม พวกเขาคือทรัพยากรอันสำคัญของสังคมและประเทศชาติ พวกเขาควรได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีและเพียงพอแก่วัย”

จึงได้จัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือการศึกษาควบคู่กับการฝึกอบรมบ่มนิสัย พัฒนาจิตใจเด็กด้อยโอกาสเหล่านั้นตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปัจจุบัน โดยมีโครงการเพื่อช่วยเหลือด้านอาหารและการศึกษาเด็กอยู่ในขณะนี้ 14 โครงการ เป็นการให้ความช่วยเหลือทั้งเด็กในชุมชนแออัดซึ่งถือว่าเป็นคนจน ในเมืองและเด็กในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ มีทั้งเด็กอยู่ประจำ มีทั้งมาเช้าเย็นกลับ มีทั้งอุปการะส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือในชั้นสูงขึ้นไป จนกว่าเด็กจะเรียนจบปริญญาตรีเป็นที่สุด

รวมถึงคาดหวังว่าเด็กจะต้องเติบโตขึ้นมาเป็นเยาวชนและเป็นพลเมืองที่ดีให้กับครอบครัว ชุมชนและสังคมโดยมีธรรมะครองใจตลอดเวลา เป็นเยาวชนที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่น พร้อมที่จะสร้างสังคมที่เขามีชีวิตอยู่นั้นให้เจริญก้าวหน้าและมีสันติสุข แต่ละวันท่านสามารถมาสัมผัสวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ การเรียนรู้และความสุขที่พวกเขาได้รับภายใต้ไออุ่นของร่มเงาวัดในพระพุทธศาสนาจาก “ข้าวก้นบาตร” ของพระวัดบางไส้ไก่ (วัดลาว) ฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ ได้ทุกวันตลอดทั้งปี ไม่มีวันหยุด

แต่ละวันเสียงเด็กวิ่งเล่นภายในวัด เสียงเด็กไหว้พระสวดมนต์ทุกวันภายในวัด เสียงเด็กกล่าวคำปฏิญาณก่อนรับประทานอาหารภายในวัด เสียงเด็กท่องหนังสือ เรียนหนังสือภายในวัด

นี่คือใบบุญของวัดวาและพระพุทธศาสนาที่ได้กลายเป็นใบบุญชุบชีวิตเด็กด้อยโอกาสในสังคมมาแล้ว 35 ปีเต็ม

การศึกษาเท่านั้นที่จะเป็นหัวใจอันสำคัญของการพัฒนาเด็ก ซึ่งเป็นลูกหลานของเรา ให้พวกเขาได้มีชีวิตที่มีความสุข เจริญ ก้าวหน้า เติบโตขึ้นมาเป็นอนาคตที่ดีให้กับสังคมและประเทศชาติไปในที่สุด มูลนิธิกลุ่มแสงเทียนก็ยังจะเดินหน้าต่อไปเพื่อช่วยเหลืออาหารและการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในสังคมตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาต่อไป ให้พวกเขาได้กลายเป็นคนดีและมีศีลธรรมกับสังคมไทยตลอดไป

ลูกหลานไทยจะได้กลายเป็นหัวใจอันสำคัญของการพัฒนาเพราะเราให้การศึกษาแก่พวกเขาอย่างเพียงพอและทั่วถึง

ผู้มีจิตศรัทธาแจ้งบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง นม ขนม เครื่องเขียน เครื่องกีฬา อุปกรณ์การศึกษาหรือปัจจัยเป็นค่าอาหารกลางวันเด็กและทุนการศึกษาเด็กได้ที่มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ ซอยมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ถนนอิสรภาพ ซอย 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 โทร.0-2465-6165 โทรสาร 0-2472-4212 ได้ทุกวันไม่มีวันหยุด

บริจาคทรัพย์โอนเข้าบัญชี “มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน” ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาเจริญพาศน์ เลขที่บัญชี 126-0-36151-2 ประเภทสะสมทรัพย์ ใบอนุโมทนาบัตรของมูลนิธิกลุ่มแสงเทียนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ตามประกาศของกระทรวงการคลังลำดับที่ 788

อนึ่ง มูลนิธิกลุ่มแสงเทียนไม่มีการมอบหมายให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งไปเชิญชวนหรือเรี่ยไรให้ร่วมบริจาคแต่ประการใด ต้องการให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสติดต่อได้ที่ “มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน” โดยตรง

ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/amulets/news_2513998

 

งานวิสัญญีเป็นงานของแพทย์พยาบาลผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการให้ยาชาและยาสลบ ทำงานเป็นทีมร่วมกับแพทย์ผ่าตัดในการดูแลผู้ป่วยขณะได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคต่างๆ “เครื่องตรวจและติดตามคลื่นหัวใจและสัญญาณชีพสำหรับงานวิสัญญี” เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ตรวจวัดค่าจำเป็นต่างๆ ของผู้ป่วยที่ได้รับการระงับความรู้สึกทั้งในและนอกห้องผ่าตัด เช่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันโลหิตภายนนอก-ภายในหลอดเลือด ปริมาณความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด อุณหภูมิร่างกาย ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในลมหายใจออกปริมาตรเลือดที่ส่งออกจากหัวใจ เป็นต้น ที่สำคัญ เครื่องนี้ต้องมีระบบสัญญาณการแจ้งเตือนหากเกิดการผิดปกติทุกกรณีทั้งเสียง และสัญญาณที่มองเห็นได้ชัดเจน เพื่อให้การผ่าตัดรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพสูงสุด

เครื่องนี้เป็นเพียงหนึ่งในอุปกรณ์การแพทย์ในหน่วยงานการพยาบาลวิสัญญี ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ที่คาดว่าจะสามารถทำการรักษาผู้ป่วยได้ไม่น้อยกว่า 500 รายต่อปี

เพราะเครื่องมือแพทย์ทุกชิ้นคือส่วนหนึ่งของการรักษาชีวิตผู้ป่วย มูลนิธิรามาธิบดีฯ ขอเชิญชวนทุกคนร่วมบริจาคเงินซื้อครุภัณฑ์การแพทย์เพื่อสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์

ช่องทางการบริจาค ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดีฯ
ธ.ไทยพาณิชย์ 026-4-26671-5
ธ.กสิกรไทย 879-2-00448-3
ธ.กรุงเทพ 090-7-00123-4
หรือ กดบริจาคทางมือถือ *948*1111*100# แล้วกดโทรออก เพื่อบริจาคเงิน 100 บาท (ได้ทุกเครือข่าย ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บริจาคออนไลน์ทาง www.ramafoundation.or.th

#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด
#ramafoundation

 

ขอเชิญบริจาคสมทบทุนสร้าง อาคารผู้ป่วยนอกใหม่
23 ชั้นและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
โรงพยาบาล ตากสิน กทม.
กำลังเริ่มก่อสร้างปี 61 แล้วเสร็จปี 64

บริจาคได้ที่ มูลนิธิ รพ.ตากสิน โดยตรง หรือ

โอนผ่านบัญชี ธ.ทหารไทย
ชื่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลตากสิน
เลขที่บัญชี 033-201-0719

สอถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02-437-0123 ต่อ 1673 ,1674