แบ่งปัน ให้บูชาเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์พลครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ธัญญ์นิธิ, 26 พฤษภาคม 2017.

  1. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    สวัสดีครับ

    วันนี้มีลงรายการเพิ่มนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระอนันตชินราชผงวิชาพิมพ์ปั้น(สำเร็จเบิกบุญก่อลาภพลิกฟ้ากลับธรณี)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190520_183504.jpg IMG_20190520_183535.jpg

    อ้างอิงจาก

    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-พี่สุดหล่อจอมปาฏิหาริย์-พ่อเนื้อทอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-23#post-10882224

    "คนบางคนทำบุญมามากแต่ก็ยังนำมาใช้ไม่ได้"

    ด้วยสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไป ทั้งคนมีความทุกข์มากขึ้น พ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณานำพระรุ่นเก่าที่มีอานุภาพตัดกรรม หรือช่วยผู้บูชาให้พ้นจน พ้นทุกข์ไปได้ ซึ่งท่านเพียรสร้างไว้ตามวาระโอกาสซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำ โดยพ่ออาจารย์ท่านว่าพระสำเร็จรุ่นนี้เสด็จพระใหญ่ท่านคุมงานเองทั้งหมดนะ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันที่จริงหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นั้นเป็นหลักใหญ่เป็นกฎแข็งที่ไม่มีใครมาเปลี่ยนได้ หากเราไม่เคยทำบุญทำทานไว้เมื่อชาติปางก่อนเลย ไม่เคยสนใจเรื่องศีล สมาธิ หรือสัมมาทิฐิเลย ผลที่ตามมาก็คือ เราต้องเป็นคนยากจนแน่ๆ อันว่าคนยากจนก็มีหลายประเภท ประเภทที่แย่ที่สุดคือ เมื่อเกิดมาเป็นคนยากจนแล้วยังไม่พอ ยังดื้อดึงไม่เคารพพระศาสนา ผลของการไม่ได้ทำบุญกุศลสั่งสมไว้ในชาติที่ผ่านมาก็จะทำให้ไม่สนใจ ไม่ขวนขวายทำมาหากินไม่มุ่งในการทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ แต่หากในชาติก่อนเราเคยสนใจในเรื่องไตรสิกขาหรือตัวศีลสมาธิปัญญานี่แหละมาบ้าง เรียกว่าเคยทำบุญในพระศาสนาอยู่บ้างสิ่งเหล่านี้ก็จะตามรักษาตัวเรา แม้ว่าจะเกิดมายากจนอย่างไรก็จะพยายามขวนขวายหากินสร้างตนเองจนมั่งมีขึ้นมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ก็เป็นสัจธรรมที่กำหนดความยากดีมีจนและอุปนิสัยต่างๆของสัตว์โดยทั่วไป

    แต่กาลปัจจุบันนั้นกลับมีคนที่ทำบุญมามากทั้งในชาติก่อนและชาติปัจจุบันแต่กลับยังติด ยังนำออกมาใช้ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เสด็จพระใหญ่ท่านก็เลยให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระขึ้นไว้ใช้เฉพาะกาล เรียกว่าทำไว้แก้ทุกข์ซักหน เพราะคนที่วาสนาปิดกั้นนิ่งเฉยดังกล่าวมานี้จำเป็นจำต้องใช้กระแสแห่งศีลและอภิญญาของผู้สำเร็จเป็นสื่อชักนำ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็อธิบายเอาไว้ว่าในโลกนี้ไม่มีอำนาจใดๆที่สมควรจะใช้และฝากเอาไว้ให้ท่านช่วยได้เสมอกับเสด็จพระใหญ่อีกแล้ว ด้วยธรรมวินัยทั้งหลายที่พระองค์บัญญัติขึ้นในไตรสิกขานั้นจะช่วยผู้เคารพเลื่อมใสที่ติดอยู่ในห้วงทุกข์ได้ถ้วนทุกประการ ไม่ว่าจะช่วยตัดกรรมเก่าที่ไม่หนักให้ขาดได้ หรือทำกรรมหนักให้เบาบางลงมาก็ยังได้ ด้วยเพราะพระองค์นั้นได้บำเพ็ญทศบารมีมายาวนาน หากใครขัดข้องเรื่องปากท้องการทำมาหากินผลของทานบารมีก็จะช่วยให้เราผู้เลื่อมใสทำมาหากินเจริญก้าวหน้าไม่ฝืดเคืองเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อชนใดได้พึ่งพระพุทธานุภาพนั้นแลสามารถตั้งตัวขึ้นมาได้ได้ด้วยกระแสอภิญญากระแสบารมีขององค์ปฐม(เสด็จพระใหญ่)ที่เราเข้าไปอาศัยอยู่ในร่มเงาของท่าน เราก็จะทำบุญทำทานรักษาศีลสั่งสมไปตามการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยของเราโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นทุนเอาไว้ใช้ในภายภาคหน้าอย่างไม่รู้จบ

    ดังนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้พ่ออาจารย์ลบผงวิชาเบิกบุญไว้เสียครั้งหนึ่ง เพื่อให้ท่านได้สร้างพระที่ฝืนดวงได้ แหวกทุกข์ แหวกโศก และแหวกอุปสรรคทั้งปวง ท่านเปรียบว่าชีวิตคนบูชาจะได้สูงขึ้นดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง เพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้ผู้มีไว้บูชาศรัทธาและนับถืออย่างจริงใจล้วนจะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกประการทั้งสิ้น ท่านทำให้เน้นไปทางด้านเบิกบุญเพื่อใช้ดับทุกข์ ดับโศก ดับโรคภัย ข้ามพ้นอุปสรรคอันตราย ให้เปลี่ยนวิถีความเป็นอยู่ดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง นอกจากจะเบิกบุญแล้วท่านยังลงทางฝืนดวง ค้ำดวงเสริมไว้ ด้วยตั้งใจจะทำให้ผู้บูชามีดวงดี ไม่ตกไม่ต่ำ ถึงคราวจนก็จนไม่นาน ถึงคราวดวงตกก็ไม่ตกจนถึงต่ำ จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าเขาดังนี้ พระอนันตชินราชนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ดีไม่แพ้ของเก่า ทั้งเบิกบุญแหวกออกจากทุกข์โศกโรคภัย ขจัดออกจากอุปสรรค เสกให้ครบทั้งทางเจริญก้าวหน้า ป้องกันและคุ้มครอง เสริมชะตาบารมี โชคลาภค้าขายดี ให้เอาไปใช้ดูแล้วชีวิตจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้น

    เก็บๆกันเอาไว้บ้างนะ
    พ่ออาจารย์ท่านนำ
    ผงเบิกบุญที่ลบไว้ตั้งเป็นผงหลัก ผสมด้วยผงที่ท่านหวงแหนที่เรียกว่าผงเทพเนรมิตนั่นก็คือผงอิทธิเจพันปีซึ่งท่านได้จากในถ้ำ
    ผงอิทธิเจพันปีนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าก้อนผงนี้เขามีนางฟ้ารักษาชื่อจันทร์ฉายเป็นผงที่ดีครบทางเสน่ห์เมตตาโชคลาภครบถ้วนทุกประการถึงขั้นแม้โกรธกันแทบตายเจอกันจะฆ่ากันก็เป็นมิตรกันได้ ผูกมิตร รักเมตตาต่อกันได้ แม้ผงนี้ซักอณูหนึ่งก็มีอานุภาพมีตัวมีตนมีอาการสามสิบสอง มีความรู้สึกนึกคิดตอบรับความปรารถนาคำอธิษฐานได้ สมัยก่อนท่านว่าแค่เอาอณูผงนี้ผสมกับปูนปั้นเป็นเม็ดกลมๆให้คนห้อย เขาว่าเอาไปใช้ได้ภรรยาถึงสามคน พ่ออาจารย์ท่านเห็นคุณทางด้านเสน่ห์เมตตาของผงอทธิเจจันทร์ฉายนี้มามาก ท่านจึงนำก้อนผงทั้งหมดน้อมถวายเป็นพุทธบูชาหวังให้คนเอาไว้ใช้เป็นเมตตาแก่ชนทั่วไป ท่านว่าผงนี้แม้ได้ไปใช้แล้วให้ติดตัวไว้จะรักใครจะผูกมิตรกับใครให้อธิษฐานเอาถ้าสำเร็จแล้วต้องรับผิดชอบทุกอย่าง(ห้ามใช้ในทางไม่ดี ใช้ผิดศีลธรรม) ท่านจึงเอาบารมีของนางฟ้าหรือแม่จันทร์ฉายนี้ให้ออกไปสร้างบารมีเกื้อหนุนวาสนาคน ท่านว่าบารมีของนางฟ้าเขา ขอได้ทุกทางนะ ขอแค่เธอเป็นคนดีจะขออะไรก็ได้
    ท่านนำผงสองอย่างนี้เป็นมวลสารตั้งต้นผสมกับผงต่างๆที่มี
    คนรวบรวมส่งมาให้อันเป็นมวลสารที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาที่เก็บสะสมมาเพื่อให้พ่ออาจารย์ท่านใช้ผสมสร้างเครื่องมงคลประจำตัว ได้แก่ ผงพระแหวกม่านของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงชันเพชรจากพระมหาบุษบกพระแก้วมรกต ผงว่านห้าร้อยชนิดของหลวงปู่พรหมมา ผงจากวัดพระแก้ว ผงแร่บางไผ่ ผงบางขุนพรหมที่แตกหักพ่ออาจารย์ท่านว่ามีค่อนกระป๋องท่านจึงถือบารมีสมเด็จโตโดยนำผงชิ้นกรุบางขุนพรหมนั้นมาตำบดใช้แทนปูนทีเดียว...และยังมีผงสำคัญที่มีความพิศดารอันไม่สามารถกล่าวได้อีกมากที่ชนทั้งหลายรวบรวมมาไม่ว่าจะเกษาหลวงปู่เทพโลกอุดร เกษาสำเร็จลุน ผงหลวงปู่เดินหน...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าผงและของมงคลต่างๆล้วนแต่ถูกสร้างและได้มาด้วยอภินิหาริย์ทั้งสิ้นท่านได้นำผงอันไม่สามารถเปิดเผยได้เหล่านี้มาผสมผงนะปัดตลอดแดง ผงนะปัดตลอดลอดกระดานชนวน ผงว่านมหามงคล 108 ผงผลิกแผ่นดิน ผงพระธาตุ ผงพระธาตุพระสีวลี ผงหัวปลีแฝด ผงดอกบัวแฝด ผงอิทธิเจนวหรคุณ ผงอิทธิเจหัวช้าง ผงตะไบพระกริ่งสังฆราชแพ ผงปัถวีธาตุ ผงมหาอาคม ผงว่านชนะคน ผงมหายันต์ ผงมหาอุตม์ และผงมหาราช ผงจินดามณี ผงนางอกแตก ผงผูกจิต ผงมหาปัทมึนทั้งห้า ผงมหากันทั้งเก้า ผงเกสรดอกไม้บูชาพระคู่บ้านคู่เมือง ดินรอยเท้าลูกอ่อนที่ร้องไห้ตามแม่เก้าคน ผงแต่ละอย่างพ่ออาจารย์ท่านว่าล้วนมีอานุภาพและสิริมงคลมากท่านจึงนำมาเทรวมกันและเสกด้วยมนต์ดับทุกข์นาน 3 เดือน ด้วยผงเหล่านี้ท่านตั้งใจนำมาสร้างพระเบิกบุญพิมพ์ปั้นท่านว่าต่อไปพระนี่ใครได้ไปให้เขาเอาไว้ใช้ทำกรรมฐาน เพิ่มบุญ เบิกบุญ ด้วยรุ่นนี้เสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เองทุกขั้นตอนจึงดีทุกทางดีทุกอย่างเกินกว่าที่มนุษย์จะทำ เธอเก็บกันให้ดีนะต่อไปจะหาไม่ได้

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านปั้นองค์พระแล้วท่านได้เชิญพระบรมธาตุอันเสด็จทอแสงไปมาระหว่างอากาศซึ่งเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีฤทธานุภาพมาก มีอานุภาพมาก เข้ามาประดิษฐานไว้บริเวณเศียรองค์พระซี่งปกติแล้วพระธาตุอันแสดงฤทธิ์ที่ท่านไปเชิญมาเหล่านี้ท่านจะหวงแหนอย่างมาก พร้อมกับฝังแร่เหล็กไหลหัวใจธรณีและพลอยเสกจินดามณี นอกจากนั้นท่านยังนำผงแก้วสารพัดนึกที่ท่านตั้งใจจะใส่ตอนปั้นองค์พระมาปั้นเป็นดวงแก้วติดไว้ ท่านว่าผงนี้หากเราใส่แต่แรกคงแสดงอานุภาพได้ไม่เต็มที่นัก เพราะมีผงอย่างอื่นอยู่มากแล้วก็แรงๆทั้งนั้น เสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้นำผงนี้มาปั้นเป็นดวงแก้วถือไว้เพื่อจะได้เป็นแก้วสารพัดนึกจริงๆ ท่านจึงนำผงแก้วสารพัดนึกมาเข้ากับผงพรายกุมารขึ้นหนึ่งครกพอทำสำเร็จแยกกันปลุกเสกเสร็จแล้วท่านได้นำผงพรายกุมารผสมกับผงแก้วสารพัดนึกปั้นเป็นลูกเล็กๆด้วยผงล้วนๆแล้วจึงปลุกเสกอีกคำรบหนึ่งโดยอาราธนาเสด็จพระใหญ่ท่านลงวิชาไปในทางสารพัดนึกหรือสำเร็จตามความปรารถนา สำเร็จตามใจทันใจเช่นนั้น ส่วนผงพรายกุมารที่ใส่ไว้ท่านว่าทำเพื่อเร่งให้ผงแก้วสารพัดนึกส่งผลเร็วขึ้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าผู้ที่มีลูกแก้วสารพัดนึกนี้อยู่กับตัวจะคิดจะนึกอะไรในทางที่ถูกอยู่ภายในศีลในธรรมจะสำเร็จสมความมุ่งมาตรปรารถนาอย่างรวดเร็ว ลูกแก้วนี้จะส่งผลชัดเจนตอนที่ถึงเวลาคับขัน หรือยามที่หมดที่พึ่งแล้วจะเห็นผลชัดมาก พ่ออาจารย์ท่านปั้นองค์พระอนันตชินราชนี้เป็นพระพิมพ์เพชรกลับถือดวงแก้วนั่งบัลลังค์ดอกบัวตามที่เสด็จพระใหญ่กำหนด ด้วยถือคติว่าจะได้กลับร้ายกลายเป็นดีได้ทุกสิ่ง ทั้งยังพร้อมที่จะพ้น พร้อมที่จะเบิกบานบนหนทางแห่งแสงสว่างเช่นดอกบัวนั้น แม้จะปรารถนาสิ่งใดก็จะได้อธิษฐานกับดวงแก้วสารพัดนึกนั่นเช่นกัน

    ตะกรุดโชคปาฏิหาริย์ เป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์เลือกลงฝังไว้ด้านหลังองค์พระ ท่านว่าอันปาฏิหาริย์นั้นคือสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ โชคปาฏิหาริย์นี้ก็เช่นกันกล่าวคือคนที่ปกติไม่มีโชคเกิดขึ้นก็จะเกิดได้นั่นเอง ท่านว่าให้ใช้เดินไปบนหนทางที่จะเป็นเศรษฐี ใช้ทางร่ำรวยเงินทอง ทางมั่งมีทรัพย์ต่อยอดเข้าไป พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีนิมิตตอนเสกว่าเป็นแสงเงินแสงทองเต็มไปหมด ท่านจึงบอกว่าคนเอาไปใช้ท่านให้เอาไปให้รวยนะ เพราะเป็นตะกรุดที่จะแสดงอภินิหาริย์และปาฏิหาริย์ทางโชคลาภทางร่ำรวยเป็นเศรษฐีมั่งมีทรัพย์เช่นนั้น ท่านว่าอธิษฐานได้เลยตามใจเรา อธิษฐานให้รวยก็รวยไม่ยาก อธิษฐานให้มีก็ไม่ยาก อธิษฐานดูนะอย่าไปขอสิ่งที่เหลือวิสัยก็พอแล้วจะสำเร็จ เพราะวิชานี้องค์ปฐมท่านนำมาให้

    “ห้อยพระเบิกบุญ เคราะห์ต้องหนีไกล” ด้วยองค์ปฐมนั้นท่านรับอาราธนาให้มาไล่ตัวทุกข์ ขับความชั่วร้ายเลวทราม แม้ทุกข์ภัยหนักต้องเดือดร้อนถึงท่านให้มาแก้เคราะห์กรรมให้ ท่านว่าให้จับอาการตัวเองให้ดีดูสิว่าในช่วงนี้มีทุกข์เข้ามาหาเราหรือยัง ที่บ้านมีความสุขความอบอุ่นไหม ทำมาหากินสะดวกสบายเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า ครอบครัวทะเลาะกันบ่อยมั๊ย...ปัญหาต่างๆเหล่านี้แหละคือตัวทุกข์ ทุกข์เพราะบุญนั้นไม่จับ ทุกข์เพราแรงบุญนั้นมาไม่ถึง เมื่อไม่มีความสุขเหมือนชีวิตแต่ก่อน การงานก็มีปัญหาจุกจิกมากมายทั้งเจ้านายลูกน้องไม่เกื้อกูลไม่อุปถัมภ์ไม่เชื่อฟังเราซะเลย เอาว่าแม้ทำมาค้าขายทำธุรกิจการงานก็เงียบเหงาซบเซา เรื่องเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นปัญหาใหญ่เพราะตัวเคราะห์ตัวทุกข์มันทำเอา วิธีแก้ง่ายที่สุดคือให้บูชาพระเบิกบุญ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นหากไม่เคยเกิดมาเกื้อกูลกันมาก่อน แม้ชาตินี้พบเจอกัน ก็จะไม่เลื่อมใสศรัทธา พบเห็นพระอยู่ตรงหน้าก็จะไม่เห็นความสำคัญถือว่าไม่ใช่ของของเขา พระเบิกบุญนี้ก็เช่นกัน หากเขาพอมีวาสนากับเสด็จพระใหญ่อยู่บ้างเรียกว่าเคยมีความผูกพันกัน เดี๋ยวเขาก็มาเอาของของเขาไป องค์พระนี้ท่านว่าแม้เอาไว้ที่บ้านเงินทองก็เข้าบ้าน ทั้งค้าขายดีมีกำไร นำโชคลาภการเงินไม่ขาดกระเป๋า กระตุ้นการเงิน เรียกเงิน เรียกลาภ รับทรัพย์อย่างเดียว เพราเสด็จพระใหญ่ท่านสงเคราะห์เหมาะแก่ยุคสมัย

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระเบิกบุญนี้ท่านเก่ง ฤทธิ์ท่านมาก พระพิมพ์ปั้นนี้เสด็จพระใหญ่จะเน้นฤทธิ์คืออะไรที่เกิดขึ้นไม่ได้ก็เกิดขึ้นได้ อะไรที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้เสกเน้นให้ทุกอย่างครบหมดแต่จะเด่นอีกอย่างคือเสด็จพระใหญ่ท่านลงวิชา"ชุบตัว"ของท่านไว้ ด้วยวิชาเฉพาะของท่านวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาที่ช่วยให้ทำอะไรก็ดีไปหมด ทำอะไรก็สำเร็จไปหมด เหมือนการชุบตัว ชุบให้มี ชุบให้ได้ ชุบจากดำเป็นขาว ชุบลงบ่อเงินบ่อทองเช่นนี้ ด้วยคนเรานั้นวัฏจักรต้องวนเวียนอยู่กับไอ้ตัวทุกข์ไอ้ตัวเคราะห์ที่ชอบเข้าไปเสวยหรือไปกินไปทับดวงชะตาทำให้ดวงดาวเปลี่ยนผันไปมีผลร้ายมากกว่าดี เขาก็จะตกต่ำย่ำแย่ไปตามๆกันทุกๆเรื่องเช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงเสกชุบมนต์ ชุบวิชา ชุบตัวขึ้น เพื่อดับความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งเคราะห์ร้ายต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านพูดเป็นนัยน์ๆว่าวิชาชุบตัวแบบเสด็จพระใหญ่นั้นเป็นวิชาเฉพาะ แม้คนก็ทำไม่ได้ แม้พระอรหันต์สาวกก็ยังทำไม่ได้ ดังนั้นคนที่ทุกข์หนักจึงต้องหาพระเบิกบุญชุบตัวนี้บูชาไว้ก่อน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นตราบใดที่ยังเหยียบดินก็ยังมีทุกข์ ท่านจึงเสกมนต์ปราบธรณีเพื่อให้ผู้บูชาชนะทุกข์และชนะทั้งแผ่นดิน ท่านว่าเสกมานานปีจนเต็มจนเสกไม่เข้าแล้ว เอาว่าให้ติดตัวบูชาไว้จะป็นต่อเขาตลอด จะมีคนนำของดีๆมาให้ จะต่อเงินต่อทองต่อวาสนาไม่ให้หมดให้มียืดยาวอยู่เสมอ เรียกว่าตราบใดที่ยังเหยียบดินอยู่ก็มีแต่เรื่องดีๆ ถ้าจะบูชาไว้ในบ้านก็ให้วางองค์พระไว้ที่ฐานพระประธานของบ้านโดยให้พระพิงฐานพระประธานของบ้านให้พระเบิกบุญหันหน้าออกท่านว่านี้เหละเสริมอานุภาพให้คลุมได้ทั้งบ้าน หรือจะใช้พกติดตัวได้นี่ก็จะแน่นอนกว่า ท่านว่าแล้วแต่กำลังบุญและวาสนานะ เพราะเราทำให้ดีที่สุดแล้ว ถ้าเขาไม่รู้ปัญหาของตัวเอง ตายังมืดบอดหรือมองไม่เห็นนั้นมันก็เรื่องของเขาไม่ต้องไปพูดเยอะ

    คาถาบูชา
    อรหังกันโตอิติปิโสภควา กุมภัณยักษาพระโมคคัลลาปาระยันติ นะโมพุทธัง นะกันตังอรหังพุทโธนะโมพุทธายะ เย อริยะสัจจะพุทโธอรหัง ธรรมโมอรหัง สังโฆอรหัง พุทธังกัน ธัมมังกัน สังฆังกัน ท้อท้อกันกันสารพัดกัน พุทธังร้อยโยช ธัมมังร้อยโยช สังฆังร้อยโยชอิติปิโสภควา พระพุทธเจ้าสั่งมา พระโมคคัลลาปาระยันติ นะเยปะลังยุธเต พุทธสังมินะชาลิติ สัพพะลาภะภวันตุเม เอหิเมมาคะนะชาลิติ ข้าขออัญเชิญเสด็จพระอนันตชินราชมาล้อมรอบครอบตัว ขออาราธนาพระสัทธรรมเจ้าและพระพุทธคุณเข้ามาในตัว ขอเบิกบุญรับบุญให้สิ่งไม่ดีห่างหายไหลไปดั่งกระแสพระคงคา สาธุๆๆ


    ****พระอนันตชินราชพิมพ์ปั้นหรือพระเบิกบุญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำครั้งนี้เป็นหนสุดท้าย ด้วยว่ามวลสารหายากและจะกวนเสด็จพระใหญ่ท่านบ่อยๆก็ไม่สมควร ดังนั้นใครมีวาสนาก็มาเอาไปท่านทำไว้ทั้งหมดแปดองค์แต่ท่านอาราธนาบูชาเององค์หนึ่งและให้ผู้มีวาสนาสูงไปองค์หนึ่ง จึงเหลือให้ร่วมสั่งจองทั้งหมดหกองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนหล่อพระใหญ่ประดิษฐานตามวัดที่ขาดแคลนต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2019
  3. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    เทวีบุญฤทธิ์สมปรารถนากามเธนุคาวี(แร่โควรรธผงกฤษณะยันตรา)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการครับโดยคุณ powernext

    IMG_20190511_143902.jpg IMG_20190511_143928.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-พี่สุดหล่อจอมปาฏิหาริย์-พ่อเนื้อทอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-17#post-10692443

    " ถึงขนาดที่แม้แต่พรหมฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ในญาณอุเปกขา ยังเกิดความโลภครอบงำเมื่อเห็นโควิเศษนี้ แม้แต่พรหมฤาษียังก่อสงครามอันน่าสยดสยองเพื่อแย่งชิงแม่โค เหตุด้วยเพราะแม่โคนี้มีอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์เกินอำนาจของพรหมนั่นเอง "

    อันสุรภีคาวีหรือกามเธนุนั้น ถือเป็นวัวต้นกำเนิดที่พ่ออาจารย์กล่าวว่านอกจากเราจะยกย่องแล้ว แม้เหล่าเทพพรหมทั้งหลายก็ดียังให้การบูชา ด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และสิริมงคล นอกจากนั้นในทุกส่วนของร่างกายแม่โคนี้ ยังเป็นที่สถิตย์ของเหล่าเทพเจ้าสำคัญทั้งหลายไม่ได้ว่างเว้น มีพละกำลังมากด้วยกำลังพระเจ้าทุกพระองค์สถิตย์อยู่....

    พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริที่จะสร้างแก้วสารพัดนึกวิเศษขึ้นมาในรูปแม่โคกามเธนุ เทวีผู้มีแต่ให้ ให้ทุกอย่างแก่ผู้ครอบครองตามคำร้องขอ ให้โดยปราศจากการโต้แย้งหรือปฏิเสธ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าศาสตร์แห่งการสร้างโคนี้มีมาเนิ่นนานนับพันปีแล้ว และพราหมณ์ยังยกย่องวัวให้เป็นหนึ่งในมารดาทั้งเจ็ดอีกด้วย

    ท่านว่าเมื่อจะสร้างโคกามเธนุนี้ผู้บูชาต้องรู้ไว้ก่อนว่าเราไม่ได้สร้างขึ้นมาในฐานะเครื่องรางเหมือนวัวธนูและควายธนูนั้น แต่กามเธนุเป็นหนึ่งในเทพมารดาที่แม้แต่เทพ พรหม ฤาษียังต้องยกมือไหว้และให้การสักการะบูชา เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นวัวต้นกำเนิด เป็นเทพที่เป็นมารดาของวัวทั้งหมด...

    " ด้วยคุณวิเศษของโคแก้วสารพัดนึกนั้น เป็นคุณวิเศษอันเกิดขึ้นได้จากบุญฤทธิ์ จากการเนรมิตของแม่โคเอง เป็นอานุภาพเฉพาะตนของเขา ซึ่งหาผู้ใดเสมอเหมือนไม่ได้ และสิ่งที่แม่โคเนรมิตขึ้นมานั้นก็นับด้วยว่าย่อมเป็นสิ่งอันเป็นเลิศที่สุด "

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโคกามเธนุนี้อยู่ที่ไหน ตรงนั้นจะอุดมสมบูรณ์ เต็มเปรี่ยมไปด้วยวิวัฒนาการและความเจริญก้าวหน้าของผู้ครอบครอง ทั้งยังดลสิริมงคลให้บังเกิดแก่ร่างกาย ให้สิริสถิตย์อยู่ในตำแหน่งอันเป็นมหาอุดมที่จะดลบันดาลความสุขความสมหวังทุกสิ่งบรรดามี ทั้งยังตอบสนองให้พรแก่ผู้บูชาได้ทุกสิ่งไม่ว่าจะม้า รถ คช พล ทรัพย์สมบัติ แลความปรารถนานานัปการ

    การมีอยู่ของแม่โคกามเธนุหรือสุรภีคาวีนี้ ด้วยว่าเป็นโคแก้วสารพัดนึก หากแต่ผู้กระทำการบูชา ไม่ใช่ต้องคอยบูชาดั่งเทพเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะว่าเทวีกามเธนุนั้นมีหน้าที่ของเค้าอยู่ หากเราเป็นผู้ครอบครองเขาแล้ว เขาก็ย่อมมีหน้าที่อันจะตอบสนองเราเช่นกันนั่นคือการคอยปรนนิบัติเราในทุกวิถีทาง ไม่ให้เราได้ทุกข์ รำคาญใจ หรือเดือดเนื้อร้อนใจเช่นนั้น

    ดังนั้นเครื่องมงคลอันแปลกตายากจะพบเห็นจึงได้อุบัติขึ้นมา พ่ออาจารย์ท่านหล่อด้วยธาตุกายสิทธิ์และอธิษฐานจิตเป็นอย่างดี ท่านว่าเสกอะไรก็ไม่ยากดุจเสกเทวีกามเธนุนี้ ด้วยว่าเป็นรูปอาถรรพ์แห่งสิริมงคลและความอุดมสมบูรณ์ "เทพเจ้าเขาก็ไม่อยากให้เราทำมากด้วยว่ามันจะไปขัดกับกระแสกรรมและทุกข์เภทตลอดจนภัยพิบัติต่างๆอันจะเกิดแก่มนุษย์ ด้วยกรรมนั้นลิขิตทุกสิ่งไว้เป็นอันดี แต่หากมนุษย์หมู่ใดได้ครอบครองแม่โคกามเธนุนั้นแล้ว สิ่งเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นไม่ได้เลย ด้วยโคนี้จะดลแต่ความอุดมสมบูรณ์และสิริมงคลให้บังเกิดทั้งยังคอยปรนนิบัติช่วยเหลือสุดแต่การเอ่ยปากขอของผู้ครอบครอง"

    เมื่อจะสร้างจะเสกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าความยากก็อยู่ที่การเชิญเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายไปสถิตย์อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างแม่โค อันแม่โคนี้ด้วยว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแต่เดิม ด้วยตรีมูรตินั้นเสด็จลงมาเป็นหน้าโค ดวงตาทั้งสองก็คือสุริยันจันทรา พระอัคนีเป็นบ่าโคทั้งสองข้าง ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ พระวรุณ พระยม พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ พระอุมา พระลักษมี พระสรัสวดี และเหล่าพรหมฤาษีตลอดจนถึงนารัทมุนีแยกเป็นอวัยวะน้อยใหญ่ เท้าทั้งสี่ข้างก็สถิตย์ด้วยสัญลักษณ์แทนพระเวทย์ทั้งสี่แต่ปางบรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากเพราะต้องนั่งวาดยันต์ศรีจักราแต่ละมณฑลต้องอัญเชิญเทวดาทีละพระองค์ก่อนจะเป่ายันต์ไปตามตัวแม่โคสุรภี

    ดังนั้นแม่โคนี้จึงมีอำนาจยิ่งใหญ่ด้วยการให้กำเนิดทุกสรรพสิ่งตามแต่บุญฤทธิ์จะดลให้เป็นไปในคำขอของผู้ถือครอง ท่านว่าเขาจะจำเจ้าของ และแม่โคนี้เป็นของวิเศษอย่างยิ่งเฉพาะเจ้าของ ถ้าเป็นเจ้าของขอหรือใช้งานย่อมเกิดผลทันที แต่หากเป็นผู้อื่นปรารถนาอธิษฐานอย่างใดก็ไม่นำพาความปรารถนาทั้งหลาย

    เมื่อปลุกเสกอัญเชิญพระเวทย์พระธรรมตลอดจนเทพเจ้าสำคัญเข้าดำรงค์อยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเรากระทำสักการะแม่โคนี้ ในเวลาเดียวกันย่อมไปถึงเทพเจ้าทั้งหลายด้วยเช่นกัน ด้วยแม่โคนี้เป็นตัวแทนแห่งความเมตตากรุณาเมื่อสำเร็จเป็นเครื่องมงคลจึงมีผลให้ผู้ครอบครองเป็นที่รักและเอ็นดูแก่สรรพสิ่งต่างๆอย่างน่าประหลาดใจ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้แต่ตัวโคสุรภีเอง เทพเจ้าทั้งหลายยังเมตตาเข้ารักษาในทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นรูปกายมงคลนี้ จึงเป็นกระแสแห่งพลังด้านเมตตา มหาชิด มหาหลง อยากอยู่ใกล้ อยากปกปักรักษา เป็นมงคลแก่ผู้บูชาอาราธนาอย่างถึงที่สุด

    เมื่อสร้างแม่โคแล้ว ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านยังฝังเครื่องมงคลตลอดจนผงวิเศษสำคัญไว้ให้อีกด้วย มงคลวัตถุอันท่านพิจารณาสร้างเพื่อฝังแม่โคกามเธนุนั้นประกอบด้วย

    - ผงกฤษณะยันตรา ด้วยว่าพระกฤษณะนั้นนับถือว่าเป็นองค์อวตารของพระวิษณุผู้ปกปักรักษาสรรพสิ่งซึ่งคนนิยมนับถือท่านว่าเป็นคนเลี้ยงวัว เป็นผู้อภิบาลโคทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกทำวิชาลงผงวิเศษขึ้นเพื่อเสริมอาถรรพ์หนุนรูปโคสุรภีนี้อีกคราหนึ่ง ท่านได้เขียนยันต์อักกะตัชชารี เป็นเลขยันตร์คาถาอาคมที่ถอดจากคำพูดแต่ละคำกลายเป็นตัวอักษรและสัญลักษณ์อันถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบและนำตัวเลขแทนสัญลักษณ์ดวงดาว มหาธาตุ และเทพเจ้าต่างๆจัดเรียงอยู่ในผังสมมุติของจักวาลทำการจัดเรียงตัวเลขเหล่านั้นในทิศทางที่ดีที่สุด


    ด้วยว่าอำนาจจากตัวเลขที่ถูกสมมุติแทนดาวดวงทั้งหลายจะส่งพลังงานจากดาวดวงจริงหรือพลังจักรวาลมาสู่ตัวผู้บูชาเพื่อให้สำเร็จในเหตุการณ์และความปรารถนาต่างๆ

    ผงนี้จะแผ่พลังงานจากมหาธาตุ ดวงดาว ตลอดจนถึงเทวราช เป็นพลังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงสำคัญนี้อันที่จริงเราก็ไม่อยากทำเท่าไหร่ ด้วยอานุภาพของมันนั้นจะส่งผลไปถึงการบิดเบือนมิติต่างๆรอบด้าน เป็นสื่อของพลังงานจักรวาล พลังงานกาลเวลาตลอดจนนำพาอำนาจพระกฤษณะมาสู่ผู้ศรัทธา

    ด้วยวิถีของการกระจายพลังงานที่แผ่ออกมาดุจคลื่นกระทบฝั่งไม่มีวันหยุดพัก ทั้งตัวผงเองยังดึงดูดพลังจักรวาลเข้ามาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนพลังงานอันจะแผ่นี้ตลอดเวลา ดังนั้นผงกฤษณะยันตราก็เป็นผงที่มีอานุภาพการปรับเปลี่ยนสมดุลย์ให้ร่างกายผู้อาราธนาโดยอัตโนมัติ ด้วยจะควบคุมพลังงานเข้าออกทั้งดึงทั้งแผ่ไปในทิศต่างๆ

    พ่ออาจารย์ท่านลบ " ยันตรากฤษณะมณฑล" ให้มีอานุภาพเฉพาะทาง ท่านว่าหากใครถามว่าทำไมต้องเจาะจงลงยันต์กฤษณะมณฑล ทำไมไม่ใช้ศิวะมณฑล หรือวิษณุ อัคนีแลเทพเจ้าทั้งหลาย ทำไมเราถึงเจาะจงกฤษณะมณฑลนี้ ก็ให้บอกเขาไปว่า เพราะยันตราแต่ละรูปแบบนั้นมีอานุภาพต่างๆกันไปและเราพิจารณาแล้วว่ากฤษณะมณฑลนั้นมีอานุภาพควรกันกับแม่โคกามเธนุ ซ้ำยังเหมาะแก่ยุคสมัย ด้วยมีอานุภาพดึงดูดความรัก ดึงดูดน้ำจิตน้ำใจสัตว์ทั้งหลายอันมีน้อยและหาได้ยากในยุคนี้ให้เข้าหา ซ้ำผงยันต์กฤษณะมณฑลนี้ก็เป็นเสน่ห์อย่างเหลือล้น ทั้งยังเป็นผงเดียวที่มีอานุภาพทำให้ผู้พกผู้บูชาหลุดพ้นจากความทุกข์ ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่าผงยันต์ตัวอื่นก็ไม่วิเศษเช่นนี้ ก็สมัยนี้ตัวทุกข์มันมาก สืบไปเบื้องหน้าคนก็จะยิ่งทุกข์หนักมาก เมื่อจะมีผู้ใดบูชาโคกามเธนุก็ด้วยปรารถนาการอภิบาลให้พ้นจากทุกข์ เช่นนั้นจึต้องอาราธนากระแสพลังงานของกฤษณะยันตราให้ดึงดูดธาตุและพลังจักรวาลขับออกซึ่งภัยพิบัติ ดลให้เจอแต่สิ่งดีงามพ้นห้วงทุกข์ทั้งหลาย

    - รูปหล่อกฤษณะยื่นแก้ว พ่ออาจารย์ท่านนอกจากเมตตาลงผงกฤษณะยันตราแล้ว ยังนำรูปหล่อกฤษณะยื่นแก้วฝังกำกับไว้ด้วย ท่านว่าดุจพลังงานของภควันกฤษณะนี้ยื่นเพชรน้ำเอกเกาสตุภะให้กับเรา อันเพชรนี้จะดลบันดาลทรัพย์ทั้งยังคุ้มกันภัยพิบัติและอันตรายทั้งปวงด้วย ท่านว่าเป็นการจัดรูปแบบพลังงานให้สอดคล้องกัน เมื่อผงกฤษณะยันตรามีหน้าที่ในการดึงดูดและขับออก รูปหล่อนี้ก็มีหน้าที่ในการรวบรวมและยื่นเข้ามาป้อนถึงปากถึงมือ ให้สำเร็จไวและทันเหตุการณ์ จะเรียกว่าทันใจก็ไม่ผิด เวลาขอและอธิษฐานสิ่งใดจะได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว


    - แร่โควรรธ ท่านว่าแร่สำคัญนี้ครูบาอาจารย์ที่สืบสายเลือดจากพราหมณ์ที่เดินทางเข้าสู่สุวรรณภูมิได้มอบไว้ให้ ส่วนตัวท่านนั้นท่านไม่รู้ว่าแร่นี้คืออะไร เอามาจากไหน รู้จักแต่เพียงว่าเขาโควรรธนั้นเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยได้รับการสัมผัสกับพระกฤษณะเป็นเจ้ายกขึ้นท้าทายอำนาจของพระอินทร์ เมื่อสืบทอดต่อกันมาก็บอกสืบๆกันมา พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนดั่งเป็นเจตนาฟ้า ย่อมไม่ใช่เพียงเรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ในเมื่อแร่นี้มีชื่อพ้องกับเขาโควรรธ มีพลังงานของพระกฤษณะสถิตย์อยู่แต่ปางบรรพ์ ท่านจึงนำแร่วิเศษนี้มาฝังไว้ให้ผู้บูชาอาราธนาด้วย ท่านว่าเขาโควรรธต้านภัยพิบัติอันพระอินทร์บันดาลให้เกิดขึ้นอย่างร้ายแรงได้ฉันใด แร่นี้ก็ย่อมต้านทานภัยพิบัติและสิ่งไม่ดีของผู้ทรงอำนาจ ผู้มากด้วยบารมี ไม่ว่าจะกระทำทางตรง หรือกระทำด้วยฤทธิ์และไสยเวทย์ทั้งหลาย แร่นี้ย่อมป้องกันได้เช่นนั้น


    - ตะกรุดเมตตาพรหมวิหาร พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดสำคัญฝังไว้ ท่านว่าเมตตาตัวนี้เป็นตัวเมตตาของพรหม เป็นเมตตาที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ดุจเมตตาของบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ท่านลงตะกรุดตัวนี้เพื่อหวังอานุภาพสองด้าน หนึ่งก็คือให้คนทั้งหลาย อันเราแวดล้อมหรือสมาคมด้วยเขาเมตตาเรา เกลียดเราไม่ลง สองก็คือให้โควิเศษนี้เสน่หาเรา เมตตาเรา เอาใจผูกพันธ์กับเราเพื่อจะได้ช่วยเราให้สำเร็จการณ์ต่างๆได้สมดั่งใจ


    พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกกำกับแม่โคสำคัญนี้ไว้เป็นอย่างดี ท่านว่าอย่าไปมองว่ามันเป็นของแปลก แต่ของแปลกนี้ย่อมช่วยคนได้มาก มิเช่นนั้นนับพันปีก่อนคนเขาจะสักการะกันสืบมาเพื่ออะไร เพราะนี่คือรูปอาถรรพ์ รูปที่จะล้างอาถรรพ์ลดทอนวิบากกรรม ด้วยทุกสิ่งนั้นสำเร็จด้วยบารมีครูบาอาจารย์และเทพเจ้าทั้งหลาย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราสร้างแม่โควิเศษนี้ไว้ให้ติดตัวเพราะถือคติว่าการได้ถือครองแล้ว ได้เข้าครอบครองสิ่งที่แม้แต่เหล่าพรหมฤาษียังปรารถนาแล้ว ย่อมได้รับการอภิบาลบำรุงรักษาจากโคแก้วเช่นนั้น


    นอกจากนี้การทำรูปโควิเศษนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปโคยังเป็นสัญลักษณ์ของเทวีลักษมี เป็นสื่อนำโชค หากใครครอบครองรูปโคอันอุดมด้วยมหามงคลเช่นกามเธนุนี้ย่อมได้พรด้านโชคลาภจากมหาเทวีลักษมี ด้วยเชื่อว่ารูปโคนั้นจะนำความโชคดีมาสู่ผู้บูชารายการนี้ท่านว่าเป้นรูปอาถรรพ์เหมือนพ่องั่ง ถ้าฟ้าดินไม่เปิด ครูบาอาจารย์ไม่อนุญาติย่อมกระทำไม่ได้ โคที่จะดลทุกสิ่งไปตามความปรารถนาผู้ครอบครองนั้น นับจากนี้ไปสำหรับชีวิตเจ้าของถือได้ว่าเป็นการเดินทางสู่คำว่าตำนาน


    คาถาบูชา

    เย เย กามเธนุ สรเว เทวาหะ สะถิตา เทเห สรวา เทวะมะยีหิ เคา

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างโคแก้วนี้ไว้ได้เพียงห้าองค์ ด้วยเหตุว่าผงกฤษณะยันตรานั้นลบยากและมีปริมาณน้อย สำหรับผู้บูชาให้สั่งจองไว้เฉพาะทาง PM พร้อมกับแจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด พ่ออาจารย์ท่านจะตรวจดวงและจารอธิษฐานกำกับเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ดวงชะตายังขาดหรือบกพร่องอยู่ พร้อมทั้งเจิมประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือ ถืออานิสงค์ต่อชีวิตด้วยการให้ชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2019
  4. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    คุณ surasakkarun PM มาขอยกเลิกการจองนะครับ
    ดังนั้น ทุกรายการตอนนี้ที่ยังไม่ปิดรายการ จองได้ตามปกติครับ
    ขอบคุณครับ
     
  5. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    วันนี้มีลงรายการตะกรุดเพิ่มนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดมันตราตันตระมหาสังวาส (คาสโนว่ายอดสวาท)

    ให้บูชา 3000 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @UN

    IMG_20190522_185951.jpg IMG_20190522_190023.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-พี่สุดหล่อจอมปาฏิหาริย์-พ่อเนื้อทอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-4#post-9756256


    พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่า วิชานี้แต่เดิมท่านไม่เคยลงหรือทำให้ใครเต็มวิชาเช่นนี้มาก่อน ด้วยว่าวิชานี้หาผู้รู้และสืบทอดยากนัก ท่านเลยประสงค์จะทำไว้เสียซักครั้งหนึ่ง

    สืบเนื่องจากวิชานี้ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเป็นวิชาด้านมหาเสน่ห์ที่รุนแรงสูงสุดในสายของพระศิวะเทพ ซึ่งแน่นอนว่าพระองค์นั้นเปรียบประดุจดั่งมหาเทพที่มีบทบาทสำคัญสูงสุดของนิกายตันตระทางเรื่องกามารมณ์เลยก็ไม่ผิด วิชานี้จึงเป็นที่สุดของที่สุด และถูกถ่ายทอดผ่านมาทางอารยธรรมเขมรโบราณ ยาวนานนับพันปี สงวนไว้ รักษาไว้ สืบทอดไว้ ให้มีใช้กันเฉพาะกลุ่ม คนนอกไม่มีสิทธิ์ได้รู้หรือได้ครอบครองแม้เศษเสี้ยวของวิชานี้

    วิชานี้ได้ชื่อว่าเป็นวิชามหาเสน่ห์ที่รุนแรงสูงสุดของพระผู้เป็นเจ้า ที่ได้ประทานให้ไว้แก่ศิษย์ผู้ศรัทธา พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้แปลกเป็นมาทุกยุคทุกสมัย "คนทำจะไม่ได้ใช้ คนใช้จะไม่ได้ทำ" ความแรงนั้นไม่มีจำกัดไม่มีลดลงเลย มีศรัทธาต่อองค์พระศิวะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงมากขึ้นเท่านั้น

    ท่านได้ลงจารบีบอักขระในแผ่นตะกั่วลงถมที่ซึมซับวิชาได้ดีที่สุด โดยด้านหน้าท่านลงวิชาตันตระมหาสังวาสสายองค์พ่อพระสยมเต็มสูตร ด้านหลังท่านถึงลงพระเวทย์ผูกพยนต์ตัณหาเหยียบฟ้า ซึ่งท่านว่าวิชาพยนต์นี้จะเป็นเจตสิกภูติคอยตามช่วยเหลือเรา ไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่น ยิ่งใช้ยิ่งแรงยิ่งมีกำลัง ท่านว่าแม้ผู้ที่หมายปองสูงเสียดฟ้าก็ไม่พ้นมือเรา

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลงจารตะกรุดมันตราตันตระมหาสังวาส (ยอดสวาท)ในทลิทโทฤกษ์ เพื่อเสริมอานุภาพแก่ผู้ใช้แม้ขออะไรปรารถนาผู้ใด ต้องได้สมใจปรารถนาไม่เคลื่อนคล้อย จากนั้นจึงเสกเก็บในเทวีฤกษ์และเทศาตรีฤกษ์หรือเรียกว่าเวสิยาฤกษ์ก็เรียก เพื่อเสริมอานุภาพให้ผู้ใช้ แม้เที่ยวไปแห่งหนใดถูกใจใครต้องได้กลับมา ซ้ำยังเป็นเสน่ห์เสริมเรื่องความรักคู่ครองโดยตรงอีกด้วย

    ตะกรุดนี้ท่านว่าแรงที่สุดด้านเสน่ห์ ตั้งเเต่ทำมานี่รู้เลย เวลาเรียกสูตรลงจารเเต่ละตัวคาถาอักขระนั้นเรียกยากมาก บางตัวเขียนเหมือนกันแต่เรียกสูตรต่างกันทำได้ดอกสองดอกก็หมดฤกษ์ ต้องเพียรทำเพียรเก็บเมื่อรวบรวมได้จึงเสกโดยเชิญองค์พระสยม(พระศิวะ) ซึ่งเป็นองค์ประมุขแห่งลัทธิตันตระลงมาสำเร็จให้ด้วยวิชากาลึงคะกามสูตร

    เมื่อเสกสำเร็จทีละแผ่นแล้วก่อนม้วน พ่ออาจารย์ท่านได้ไหว้บรมครูใหญ่ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ นำสีผึ้งก้อนสีดำคล้ำ ซึ่งได้รับถวายมาพร้อมกับผงสำเร็จ เป็นสีผึ้งยอดมหาเสน่ห์ มหารัก มหาหลง มหาสวาทของหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ ซึ่งมีอยู่เพียงประมาณครึ่งตลับ ท่านได้เกลี่ยมาใส่ไว้ในตะกรุดดอกละก้อนๆก่อนจะม้วนกลืนทับถมลงไป ท่านว่าแบ่งๆกันไปจะได้มีใช้เสมอกัน เรื่องแรงนี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ท่านว่าใครได้ใช้นี่มีบุญนัก ถ้ายังไม่พบอย่าเพิ่งรีบตายไปเสีย แล้วท่านจึงนำมาเสกอีกคำรบหนึ่งตอนม้วนเสร็จนี่ ท่านว่าเรารู้ทันทีว่ามันมีกลวิชาเกิดขึ้นทับซ้อนขึ้นมาอีก ด้วยว่าพยนต์ตัณหาในตะกรุดนี้ได้กลืนวิชาของสีผึ้งนี้ กลืนสวาท กลืนเสน่ห์ กลืนรัก กลืนหลง เป็นที่สุดของที่สุด ท่านว่าคนพกไว้มีแต่อิ่ม ไม่มีที่ต้องอดอยากโหยหาความสุขทางด้านนี้เลย

    วิชานี้ท่านว่าพกไว้กับตัวเฉยๆแม้ไม่อยากได้ก็จะวิ่งเข้ามาหาเราเอง ท่านว่าหากอาราธนาประจำเป็นเสน่ห์หนักหนา แม้ตายไปเกิดชาติภพหน้าต่อไปอีกถึง 3 ชาติ 7 ชาติ ก็ยังเป็นที่เสน่หาติดตราต้องใจ ใครๆก็ปรารถนาในรสสังวาสจากเรา ท่านว่าให้คนใช้รู้จักเลือกก็พอ อย่าสนุกไปทั่ว ใช้วิจารณญาณเลือกเอา รักใครชอบใครจริงใจกับใครก็เลือกคนนั้น อย่าปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอานุภาพของวิชาเพราะจะหลงเพลิดเพลินติดอยู่ในห่วงกามเอาได้ ถึงท่านจะทำให้เต็มสูตรแต่ท่านเพียงทำไว้สืบวิชาเท่านั้น

    เมื่อจะพกท่านว่าพกได้ตามอัธยาศัยเลย แต่ให้โดนเนื้อโดนตัวจะดีที่สุด วิชานี้แม้ซ่อนไว้ในของลับได้จะยิ่งแรงนัก(ควรจะเลี่ยมให้ดีอย่ามีเหลี่ยมมีคม) เมื่อได้ใช้แล้วแม้จะท่องเที่ยวไปในมหาทิศทั้ง 4 ก็ย่อมเป็นที่ถูกเนื้อพึงใจ ชีวิตไม่เหี่ยวเฉาตายรึไร้คู่ครอง

    ท่านว่าไม่ต้องอธิบายยาว ถ้าเขาศรัทธา ให้บอกเขาสั้นๆแค่เพียงว่า นี่คือวิชาทางสายเสน่ห์ที่รุนแรงที่สุดแล้วในส่วนของพระศิวะเจ้า

    วิธีใช้
    ท่านว่าทำยาก แต่ใช้นั้นแสนง่าย จะคาดเอว ทำพวงกุญแจ หรือพกในที่ลับก็ตาม ก่อนใช้ยกตะกรุดขึ้นไหว้นึกถึงองค์พระสยม(ศิวะเจ้า) สร้างพลังแรงศรัทธาขึ้นมาในใจก่อนยิ่งมากเท่าไหร่วันนั้นก็ยิ่งแรงเท่านั้น จากนั้น จึงภาวนาคำว่า"สังวาสัง" ก็คือสังวาสภาวนาไปเรื่อยๆ เจอหน้าใครเดินไปไหนก็ภาวนาไว้ เดี๋ยวจะมีเหตุการณ์ดีๆให้เจอกับตัวอย่างแน่นอน


    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เพียง 16 ดอกเท่านั้น ท่านว่าทำยากมาก เพราะจริงๆต้องจารใส่แผ่นโลหะตก 6 นิ้ว ขึ้นไป แต่ท่านเกรงว่าจะหนักและจะมีปัญหาในการใช้งานท่านจึงบีบอักขระให้ย่นย่อที่สุด ตก 2.5 - 3 นิ้ว เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดในการใช้งานแก่ผู้บูชาและราคาร่วมทำบุญจะได้ไม่สูงมากเกินไปเช่นตะกรุดดอกโตๆ

    พ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่า ให้ร่วมทำบุญรับไปบูชา เฉพาะคนที่มีศรัทธาต่อองค์ครูพระสยม(ศิวะเจ้า)เท่านั้น ท่านอยากจำกัดไว้ให้ตกอยู่กับศิษย์ที่รักองค์พ่อและศรัทธาพระศิวะจริงๆเท่านั้น ก็จะเปิดให้จองทั้งหมด 16 ดอก ถ้ารักองค์พ่อและศรัทธาท่านให้ PM มาจองเล่าความลำบากทางด้านคู่ครองเเละความรักกันมา ปัจจัยที่ได้ท่านจะนำไปทำบุญ ส่งให้บำรุงเทวสถานตามต่างจังหวัดและในถิ่นทุรกันดารต่างๆ

    * รูปไม่สามารถถ่ายด้านหน้าได้ เพราะเป็นวิชาที่ห้ามสืบทอดหรือเผยแพร่แก่ผู้ใดเป็นสาธารณะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2019
  7. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดพ่อสมหวัง (ขอทรัพย์พระปัจเจก)

    ให้บูชา 1000 บาท

    ปิดรายการทาง PM ครับ

    IMG_20190522_192435.jpg IMG_20190522_192514.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-พี่สุดหล่อจอมปาฏิหาริย์-พ่อเนื้อทอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-7#post-9962220


    วิชาพระปัจเจกโพธิเจ้านั้น หลวงพ่อปานท่านได้เรียนมาจากครูผึ้ง ซึ่งเคล็ดจริงๆของคนที่จะใช้ขึ้นเลย พ่ออาจารย์บอกว่าขึ้นอยู่กับการทำทาน ถ้าขยันทำทานมาก ชอบใส่บาตร ให้เงินขอทาน หรืออะไรที่เรายกจิตตั้งไว้ว่ามันเป็นทานบารมี ถ้าทำได้เพียงนี้ก็ถือวิชาขึ้นและจะให้ผลมาก

    ซึ่งวิชานี้คือวิชาทำคนให้รวย ทำให้ทรัพย์สินเพิ่มพูนนั่นเอง ซึ่งในส่วนของพระคาถาหลายๆท่านก็มักจะภาวนากันติดปากอยู่แล้ว แต่ว่าในตำรับการทำวิชานั้น เพียงแค่การลงคาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ทั่วไป ท่านว่ายังไม่พอ ยังใช้ไม่ได้

    ทั้งนี้เพราะว่าโดยแท้จริงแล้ว ในส่วนของพระยันต์นั้นก็มียันต์เฉพาะอยู่ คาถานั้นเป็นเพียงบทเสกเท่านั้น หรือมีไว้เพื่อให้คนภาวนา เมื่อจะทำวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์หรือที่ท่านเรียกว่าตะกรุดพ่อสมหวัง(ขอทรัพย์พระปัจเจก)ให้สำเร็จบริบูรณ์ขึ้นนั้น ท่านว่าทั้งสองต้องสอดคล้องกันทั้งยันต์และพระคาถา

    พ่ออาจารย์ท่านได้เชิญครูผึ้ง ครูผู้สอนวิชานี้ถวายแด่หลวงพ่อปานมาถามเคล็ดวิชาและสิ่งที่ท่านสงสัยว่ามันจะยังขาดไปในการลงวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ ซึ่งท่านได้รับการแนะนำต่างๆ รวมไปถึงตัวอักขระยันต์ที่ต้องลงจารเป็นหัวใจของตะกรุดขอทรัพย์พระปัจเจกนี้ด้วย

    ซึ่งท่านว่ามันเต็มแล้ว นั่นคือส่วนที่ขาดที่พร่องไปที่มันมากกว่าเรื่องของการบริกรรมแต่ต้องใช้พระยันต์ที่เป็นหัวใจจริงๆของวิชาที่ท่านไม่รู้ ท่านจึงได้รู้และรู้ว่าต้องทำเช่นไร นั่นจึงเป็นสิ่งที่ท่านกล่าวว่ามันเต็มแล้วคือครบถ้วนบริบูรณ์แล้วนั่นเอง

    เมื่อท่านเรียนได้ ท่านก็ลงตะกรุดขอทรัพย์พระปัจเจกไว้ โดยเอาไปให้ขอทานบ้าง ให้แม่ค้าขายอาหารบ้าง ให้ร้านขายวัสดุก่อสร้างบ้าง ให้โรงงานทำน้ำแข็งบ้าง ท่านว่าที่สังเกตุได้เลยที่ให้ไปนี้ต่างอาชีพกันทั้งสิ้น แต่ปรากฏว่าทุกคนมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหมด คือดีขึ้น เจริญจนถึงขั้นมั่งคั่ง แม้แต่ขอทานก็ยังได้รับแบงค์ห้าร้อยและแบงค์พันจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ยิ่งกว่านั้นที่ได้ปลื้มคือแม่ค้าขายอาหารก็เสี่ยงโชคถูกเป็นว่าเล่น อีกเจ้าของธุรกิจทั้งสองไม่ว่าจะเป็นขายวัสดุหรือโรงน้ำแข็ง จากเสี่ยโรงงานกลับกลายเป็นเจ้าสัวในไม่นาน ทุกคนดีใจและเอาเงินมาตอบแทนท่าน แต่ท่านก็ปฏิเสธที่จะรับไว้ ได้แต่แนะนำไปเพียงว่าถ้าอยากจะมีมากกว่านี้อีก ให้นำปัจจัยไปตักบาตร ทำทานต่างๆตามวาระและโอกาส แผ่เมตตานึกถึงคุณพระปัจเจกโพธิเจ้า คุณครูผึ้ง คุณหลวงพ่อปาน

    เมื่อกาลเวลาผ่านไป ท่านก็ไม่ได้ทำตะกรุดขอทรัพย์พระปัจเจกอีกเลย โดยตัวท่านเองบอกแต่เพียงว่าต้องระงับไว้ก่อน ข้างบนนั้นเค้าให้ชั้นรอของบางอย่างอยู่ จวบจนกระทั่งเช้าวันหนึ่งที่ท่านได้รับนิมิตรว่ามีพระปัจเจกโพธิธาตุ ขององค์พระปัจเจกพุทธเจ้าพระนามว่าปิยทัสสี ได้เสด็จมาอยู่ในถาดแก้วของท่าน เมื่อไปสำรวจดูจึงพบพระธาตุขนาดเล็กต่างลักษณะ ที่ใสก็มี ขุ่นมัวก็มี สีดุจน้ำผึ้งก็มี ท่านได้แต่อุทานว่าดีมาก ดีมากๆ ของครบแล้ว ผู้บูชานอกจากจะมีทรัพย์มาก ยังจะมีทุนรอนเป็นของเค้า แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าพระธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้าอันทรงพระนามว่าปิยทัสสีนี้ประดิษฐานอยู่กับผู้ใด ผู้นั้นจะมีทุนรอนมากแม้ได้ทำทาน ด้วยปัจเจกพุทธานุภาพก็ไม่ต่างจากทำกับพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย

    หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงตะกรุดพ่อสมหวัง(ขอทรัพย์พระปัจเจก)ขึ้น โดยแต่เดิมนั้นท่านได้เพียรจารลงในแผ่นตะกั่ว แต่เมื่ออธิษฐานจิตแล้ว ท่านว่าพระเบื้องบนท่านไม่โปรด ท่านให้ใช้โลหะสีทองจะเหมาะสมกว่า ท่านว่าจุดนี้ไม่อยากจะพูดเลย เอาเป็นว่าท่านต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยแผ่นตะกั่วนั้นท่านได้นำมาเก็บไว้เป็นชนวนหล่อหลอมเครื่องมงคลต่อไป ซึ่งก็เท่ากับว่าท่านทำตะกรุดนี้สองวาระจึงสำเร็จนั่นเอง

    เมื่อจะลงในแผ่นทองเหลืองนั้น ท่านได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อปานให้ลงบทเสริมสิริกับตัวบทคาถาที่ช่วยให้ความหวัง ความปรารถนาของคนอธิษฐานเป็นจริงด้วย ท่านจึงเสริมพระคาถาบทเต็มลงไปอีกสองบทรวมกับคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์เป็นสาม ล้อมรอบหัวใจพระยันต์ตะกรุดขอทรัพย์พระปัจเจกโพธิเจ้าตามตำรับเดิมที่ท่านได้จากนิมิตร

    ตะกรุดขอทรัพย์พระปัจเจกนี้ท่านว่าพิเศษกว่าครั้งที่แล้วเพราะครูท่านเมตตาเจาะจงให้เพิ่มในส่วนของตัวสิริและตัวสมหวังลงไป ที่ว่าพิเศษนั้นเพราะหากร่างของผู้ใดมีสิริสถิตย์อยู่ผู้นั้นทำอะไรก็สำเร็จง่าย เห็นทรัพย์ง่าย ร่ำรวยไว อย่างอนาถปิณฑิกะเศรษฐีนั่นอย่างไร มหาเศรษฐีทั้งหลายล้วนแต่มีสิริสถิตย์อยู่ในร่างกายตนเองทั้งสิ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าสิรินั้นเป็นที่มาแห่งโภคทรัพย์โภคสมบัติและความเจริญทั้งหลาย

    ในส่วนของความสมหวังนั้นก็เป็นเรื่องของอธิษฐานบารมีที่เราจะขอกับตะกรุดกับองค์พระปัจเจกพุทธเจ้าท่าน แต่ตัวนี้คือเสริมไว้ด้วยอาคมอีกวาระหนึ่ง เพราะคาถานี้จะช่วยให้ขออะไรก็สมปรารถนาทั้งสิ้น ท่านว่ากล่าวแต่เพียงเท่านี้ พูดมากไม่ได้ ให้เป็นเรื่องของปัจเจกพุทธองค์ท่านจะสงเคราะห์สัตว์โลกดีกว่า

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงจารและเสกกรึงตะกรุดแล้ว ท่านได้นำพระปัจเจกธาตุลงมาบรรจุในตะกรุดทุกดอก ซึ่งธาตุแก้วพระปัจเจกนี้มีขนาดเล็กนัก ท่านจึงได้นำสีผึ้งมนต์เศรษฐีเรือนนอกเศรษฐีเรือนในมาอุดไว้ที่หัวท้ายตะกรุด เพื่อให้ธาตุพระปัจเจกนั้น ติดยึดอยู่กับสีผึ้งไม่คลอนหรือหลุดร่วงแต่อย่างใด

    โดยการทำเช่นนี้ท่านว่าเสริมอานุภาพมากขึ้นกว่าของเก่าที่เคยทำยิ่งนัก เพราะต้องรอวาระทำได้เฉพาะกาลและโอกาส เมื่อได้เเล้วท่านต้องลงวิชาเลือกเสกเก็บแต่ในฤกษ์เศรษฐีฤกษ์ที่ดีมีมงคล หลังจากนั้นจึงเชิญเสด็จพระใหญ่และครูบาอาจารย์ทั้งหลายมาร่วมกันลงวิชาอีกหนหนึ่ง

    ตะกรุดพ่อสมหวัง (ขอทรัพย์พระปัจเจก)นี้ เป็นตะกรุดที่ทำได้ยากเพราะต้องทำในวาระที่สมควร ท่านทำไว้ทั้งหมด 16 ดอก โดยได้อธิษฐานจิตมาร่วมสามปีจนเห็นว่าช่วงนี้คนเดือดร้อนกันมาก จึงได้นำออกมาให้บูชา ต้องกล่าวได้ว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ท่านได้ทำตะกรุดที่บรรจุพระธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้า โดยพุทธคุณนั้นท่านว่าก็ตรงตามชื่อเลยไม่เกินเลยมากกว่านั้น ก็คือพ่อสมหวังนั่นเอง ตะกรุดนี้ท่านว่าใครบูชาไปให้ไว้เป็นทุนรอนของชีวิต ใช้เรื่องทุนทรัพย์ความมั่นคง จะดีมากขึ้นเพียงไหนก็อยู่ที่อุปนิสัยเราด้วย ถ้าขยันตักบาตร เป็นคนชอบทำทานเช่นนี้ยิ่งเจริญเร็วกว่าคนปกตินัก

    คาถาบูชา(ท่านให้ใช้คาถาเงินล้านได้เลย)
    (ตั้งนโม 3 จบ) สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ(คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม(คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม(คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ(คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม(คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ(คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็งๆพาๆหาๆฤาๆ

    * ตะกรุดพ่อสมหวัง (ขอทรัพย์พระปัจเจก)มีทั้งหมด 16 ดอก ท่านที่ต้องการบูชา ให้ขอบูชาเข้ามาใน PM เท่านั้น ปัจจัยที่ได้ท่านจะเข้าโรงทานและบริจาคข้าวสารให้กับพระเถระที่อยู่ในชนบทต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2019
  8. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    ตะกรุดมันตราตันตระมหาสังวาส (คาสโนว่ายอดสวาท) ปิดครับ
     
  9. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  10. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    สวัสดีครับ

    วันนี้ผมจะลงรายการเพิ่ม 2 รายการนะครับ
    ตามรูป เดี๋ยวจะมาลงรายละเอียดให้ครับ พร้อมสรุปยอด รายการที่เหลืออยู่ในกระทู้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พยนต์รับกรรมมหายักษาผจญมาร (ตายแทนตัว เจ็บ ช้ำ ชั่ว รับแทน )

    ให้บูชา 2500 บาท


    ปิดรายการนี้ครับโดยคุณ powernext

    IMG_20190527_190405.jpg IMG_20190527_190441.jpg

    อ้างอิงจาก

    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิดับย่อยวัฏจักร-คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำ-พ่ออาจารย์พล.548127/page-23#post-10898222

    เมื่อจะกล่าวถึงวิชาหุ่นพยนต์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการผูกหุ่นนั้นก็มีขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์หรือนำไว้ใช้งานในหลายกรณี ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเจตนาการผูกหุ่นแต่ละครั้งนั้นแตกต่างกันออกไปเช่นอาจจะผูกขึ้นเพื่อดูแลรักษาสถานที่ได้แก้บ้าน วัด เจดีย์เหล่านี้ หรืออาจจะผูกขึ้นเพื่อปกป้องคนอาราธนาจากปืนจากศาสตราวุธต่างๆ แม้จะผูกหุ่นเพื่อใช้ทำลายคน ทำร้ายคน ภูติผีร้าย วัวธนู ควายธนู กุมารผี หรือจะผูกเพื่อเฝ้าสมบัติแผ่นดินเฝ้าทรัพย์สินก็ยังได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปเท่ห์ของการผูกหุ่นนั้นมีมากมาย จะผูกเป็นหุ่นไปดลจิตดลใจให้ทำมาค้าขึ้นผู้คนเข้าหารักใคร่เช่นนี้ก็มี แต่สิ่งทำได้ยากที่สุดและถือว่าเป็นขั้นสูงสุดในสายการผูกหุ่นพยนต์ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือการผูกหุ่นเพื่อใช้เป็นตัวตายตัวแทน เรียกว่าเจ็บ ช้ำ ชั่วให้หุ่นรับกรรมแทนเราทั้งหมด เป็นหุ่นที่จะรักษาคนใช้แม้มีโรคภัยอาการเจ็บป่วยก็ต้องรับไว้เอง ท่านว่าหุ่นประเภทนี้ผูกได้ยากที่สุดและต้องใช้อำนาจจิต อำนาจของกรรมฐานมาผูกเขา ไม่ใช่หุ่นผีหุ่นพรายอาฆาต เพราะถ้าเป็นหุ่นผีเขาจะรับกรรมแทนเราไม่ได้ด้วยกรรมเดิมของเขาก็มีมากอยู่แล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านสรรเสริญวิชาผูกหุ่นพยนต์ที่มีอานุภาพอย่างแท้จริงอยู่สองตำรับ นั่นก็คือวิชาผูกหุ่นของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า กับวิชาผูกหุ่นของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม แห่งวัดหนองบัวผู้โด่งดัง ซึ่งท่านบอกว่าสองปรมาจารย์นี้หุ่นที่ผูกกินกันไม่ลงเลย อันที่จริงวิชาผูกหุ่นเป็นวิชาเก่าแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยการสร้างหุ่นพยนต์นั้นสามารถสร้างได้จากวัตถุอาถรรพณ์หลายอย่างไม่ว่าจะโลหะอาถรรพ์,ดินอาถรรพ์ ,ไม้อาถรรพ์ ,ขี้ผึ้งอาถรรพ์ เพราะของอาถรรพ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าวัสดุที่นำมาผูกหุ่นนั้นคล้ายกับการสร้างวัวธนูและควายธนู โดยคนสมัยก่อนมักจะนิยมสร้างหรือผูกหุ่นพยนต์เอาไว้เพื่อใช้เฝ้าบ้านเรือนทรัพย์สิน แม้แต่เจดีย์เก่าที่มีกรุสมบัติก็ยังผูกพยนต์เฝ้าพิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติแผ่นดินนั้นไว้ เรียกว่าที่ใดที่มีหุ่นพยนต์รักษาหากมีผู้คิดจะไปลองดีผู้ไปขุดหาสมบัติต้องเกิดอาเพศมากมายดั่งที่เคยมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานยืนยันมาแล้วในการขุดพบสมบัติของโบราณตามเจดีย์เก่าทั้งหลาย

    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะผูกหุ่นที่ใช้เป็นตัวตายตัวแทนทั้งเจ็บ ช้ำ ชั่วให้หุ่นรับกรรมแทนตัวคนใช้ทั้งหมดเป็นหุ่นที่จะรักษาคนใช้แม้มีโรคภัยอาการเจ็บป่วยก็ต้องรับไว้เองตำรับที่ผูกยากที่สุดนี้ โดยจะใช้วิชาและมวลสารต่างๆสองสาย คือสายหลวงปู่ศุขกับสายหลวงปู่เฒ่ายิ้มมาสร้างหุ่นพยนต์ และท่านยังกำชับว่า ฉันจะขอบารมีทั้งสองท่านรวมไปถึงองค์พระมหากัสสปะเถระเจ้าผู้เป็นต้นตำรับวิชาหุ่นพยนต์ให้มาสำเร็จหุ่นพยนต์ให้ฉันด้วย (ท่านว่าพยนต์ขององค์พระมหากัสสปะนั้นมีอานุภาพมากถึงขนาดพระอินทร์ต้องยกกองทัพเทพลงมาปราบทีเดียว)

    โดยการวบรวมมวลสารต่างๆได้แก่ตะปูที่ใช้ตรึงโลงศพที่ถูกเผาไหม้เป็นขี้เถ้าแล้วจากเตาเผาท่านว่าสิ่งนี้เป็นของที่มีกฤติยาคมแฝดเพราะใช้ตรึงอาถรรพ์ตรึงวิญญาณร้ายไม่ให้อาละวาดได้ดีนัก คนโบราณจะตีดาบกำราบผีทำมีดหมอก็จะใช้ตะปูตรึงโรงนี่แหละ ท่านจึงนำมาบดโขลกตำให้ละเอียดแล้วนำมาเข้ากับผงลบยันต์โสฬสมงคล,ผงยันต์อิติปิโสแปดทิศ ,ผงยันต์เกราะเพชร,ผงยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์,ผงยันต์บารมีสามสิบทัศน์,ผงยันต์อาวุธเทพทั้งสี่,ผงวิชาธาตุทั้งสี่,ผงพยนต์ดำ,ผงพยนต์แดง,ผงวิชาเทพพยนต์,ผงยันต์เทพนิมิต,ผงยันต์จตุโรบังเกิดทรัพพย์,ผงนะมหาลาภ,ผงนะมหาเศรษฐี จากนั้นจึงนำผงมาบูชาไฟซัดด้วยใบไม้อีกเจ็ดชนิดอันได้แก่ใบตาล,ใบลาน,ใบขนุน,ใบคูณ,ใบพยุง,ใบรัก,ใบจันทร์ แล้วจึงนำผงทำหุ่นมาเผาเข้ากับหญ้ามหาปราบหรือหญ้ากลางทุ่งที่รอดไฟไม่โดนไฟไหม้ทั้งๆที่หญ้าในบริเวณเดียวกันโดนไฟไหม้หมดจัดเป็นของอาถรรพ์มีเทวดารักษาอยู่ เมื่อได้ผงทำหุ่นแล้วท่านจึงนำผงมานวดกับมวลสารทำหุ่นพยนต์ที่ท่านเตรียมไว้เพื่อเสริมอิทธิคุณให้หุ่นพยนต์ ได้แก่ดินกลางถ้ำ,ดินยอดจอมปลวก,ตะใคร่เจดีย์เก่า,ดินโป่ง,ดินทางสามแพร่ง,ตะใคร่เสมาเจ็ดวัด,ว่านสาวหลง,ว่านศรนารายณ์,ว่านเพชรแดง,ว่านเพชรใหญ่,ว่านเพชรน้อย,ว่านสิงหโมรา,ว่านกระจาย,ว่านครอบจักรวาล,ว่านกล่อมนางนอน,ว่านพระตะบะ,เชือกผูกหัวเกวียน,เชือกประกำ,รกช้าง,ไคลเสาตะลุงช้าง,เถาวัลย์หลง,หญ้าคาโบสถ์ร้าง,ฟางข้าว,ปอ,ป่าน,ชันโรง,ผงไม้พญงิ้วดำ,ผงไพรดำ,ผงไม้มะขามโปร่งฟ้า,ผงไม้กาหลง,ผงไม้รัก,ผงไม้มะยม,ผงไม้ยอ,ผงไม้ขนุน,ผงแร่เกาะล้าน,ผงแร่เขาอึมครึม,ผงแร่เหล็กไหลเพลิง,ผงแร่เหล็กไหลตาน้ำ,ผงแร่เหล็กไหลนาคา,ผงแร่ดูดทรัพย์

    เมื่อได้ผงทำหุ่นแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงทั้งหมดไปคลุกน้ำรักและนำมาปั้นเป็นรูปหุ่นพยนต์ด้วยมือขึ้นทีละตนในฤกษ์ยามมงคลคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยท่านกำหนดเรียกหนุนธาตุเปิดอาการทั้งสามสิบสอง กำหนดจิตให้เกิดนิมิต เห็นหุ่นพยนต์นี้เคลื่อนไหวมีชีวิตแล้วนำมาลงเหล็กจารสดลงในเนื้อหุ่นพยนต์ทีละตน ท่านว่าจารไปปลุกเสกรอไป โดยหุ่นพยนต์ชุดรับกรรมนี้พ่ออาจารย์ท่านจะฝังสิ่งมงคลอาถรรพ์ต่างๆ ดังนี้
    - ตะกรุดรับทุกข์เป็นตายแทนตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้เราพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นวิชาจากองค์ธรรมท่านให้มา เอาว่ามันก็ใช้ตรงตามชื่อของตะกรุดนั่นเลย พ่ออาจารย์ท่านลงจารฝังไว้เป็นแกนกลางให้หุ่นพยนต์ ดุจเป็นจุดประสงค์หลัก เป็นหน้าที่ เป็นแก่นพลังงานที่ไม่มีวันเหือดแห้งให้หุ่นนั้นรับชั่ว รับเคราะห์ รับโรคภัย สิ่งใดเจ็บช้ำท่านว่าให้เข้าหาตะกรุดนี้พยนต์รับแทนไปทั้งหมด
    - แร่ปัญจะมหาคีรี ถ้าจะทำหุ่นพยนต์ให้แข็งต้องใช้แรงเทวดาห้าองค์เข้าพิทักษ์รักษาตามส่วนต่างๆเป็นฤทธิ์เป็นเดชให้พ่อยักษ์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าขุนเขาที่ท่านรวบรวมไว้นำมาฝังตามจุดต่างๆของหุ่นพยนต์นั้น เป็นแร่กายสิทธิ์ธาตุที่มีเทวดาเจ้าป่ารักษา เป็นแร่ที่เกิดขึ้นในแต่ละขุนเขาดุจของวิเศษที่ให้คุณนานัปการ เป็นดั่งแก้วสารพัดนึกที่จะค้ำคูนช่วยเหลือผู้เป็นเจ้าของให้มั่นคงจีรังได้ดั่งยอดเขา ช่วยค้ำคูนให้เจริญรุ่งเรืองเปรียบดั่งขุนเขาที่เป็นบ่อเกิดแห่งความอุดมสมบูรณ์เป็นที่พักพิงของสรรพชีวิตน้อยใหญ่ เมื่อนำมาฝังแล้วก็ดุจว่าหุ่นนั้นมีฤทธิ์เยอะขึ้นด้วยกำลังของเทวดาที่เข้ารักษาจุดต่างๆทั้งห้าองค์ เป็นการเสริมอาถรรพ์หุ่นด้วยเทวานุภาพ
    - ก้อนกายสิทธิ์ธาตุ เป็นก้อนแร่ที่พ่ออาจารย์ท่านนำปรอทที่ท่านดักมาหุงเข้ากับแร่พลวง แร่ตะกั่วขอมพันปี แร่ดีบุก และชินเงินเก่าสมัยต่างๆเทออกมาเป็นก้อนกายสิทธิ์ธาตุ ท่านว่ามีอานุภาพแรงดุจปรอทสำเร็จ ท่านจึงนำมาฝังไว้เป็นใจหรือจุดหัวใจหุ่นพยนต์ หุ่นนั้นจะได้สำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีอานุภาพมากจะเหาะเหินรุ่งเรืองด้วยตนเองนั้นเป็นกายสิทธิ์

    ท่านนำมามาปลุกเสกเรียกธาตุสี่คือดิน น้ำ ไฟ ลม หนุนธาตุ ตั้งธาตุ เรียกอาการสามสิบสองปลุกเสกพระคาถาย่อส่วน ขยายส่วน ปลุกเสกพระคาถาดำดิน ล่องหนหายตัว กำบังตัว แล้วจึงนำหุ่นวางบนฝ่ามือทีละตัว ท่านว่าต้องเสกจนหุ่นลุกขึ้นมาได้เองจึงจะสำเร็จ จากนั้นจึงขอบารมีครูพระมหากัสสปะเถระเจ้าตำรับตลอดจนหลวงปู่ศุข หลวงปู่เฒ่ายิ้มมาสำเร็จหุ่นพยนต์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรากำหนดจิตตามไปดูว่าครูท่านทำอย่างไร ท่านว่าครูท่านปลุกเสกเดินกระแสจิตทั้งด้านอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ให้แบบดึงพลังจักรวาลจากทั้งสิบทิศผูกหุ่นกันแบบเต็มกำลัง ซ้ำยังผูกเป็นหุ่นมหายักษ์ผูกเป็นหุ่นจักรพรรดิ์ก็เลยกลายเป็นหุ่นยักษาจักรพรรดิ์แล้วจึงนำมาครอบวิมานแก้ว ครอบฉัพพรรณรังสีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้เป็นราชาแห่งพยนต์ จนพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเสกจนล้นไม่มีอะไรให้เราทำอีกแล้ว

    อิทธิคุณของหุ่นพยนต์นั้น กล่าวคือเป็นพรายกระซิบ บอกเหตุ เตือนภัยที่กำลังจะมาถึง รับเคราะห์แทนเจ้าของได้ เสริมดวงบารมีด้านบริวาร บอกโชคให้ลาภ บอกหวย เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์ ไปค้าไปขายมีโชคลาภเป็นเมตตามหานิยม เข้าหาสาวมหาเสน่ห์ ทั้งเสี่ยงดวงพนัน กันคุณไสยไล่อัปมงคล ไล่ผีเร่ร่อนได้ ช่วยทำมาค้าขาย เรียกคนเข้าร้าน ธุรกิจการงาน เฝ้าบ้าน เฝ้าของ เฝ้ารถ ทรัพย์สินเงินทอง กันขโมยใช้ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง(ไม่ว่าทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ) กันรังสี กันโรคระบาด ทั้งภูติผีปีศาจ อีกทั้งคุณไสยล้างอาถรรพณ์สิ่งที่ไม่ดีไม่บริสุทธิ์ทั้งคุณผี คุณคน คุณมนต์ คุณคาถา คุณหนัง และสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ กันพวกเขี้ยวงาใต้น้ำ คนโบราณเชื่อว่าใครมีหุ่นพยนต์มาครอบครองก็จะเปรียบเสมือนมีเงาคอยตามตัวปกป้องคุ้มครองยามเดินทางไปที่ต่างๆ หากวางบูชาไว้หน้ารถก็เปรียบเสมือนมีตัวเราเองอยู่ในรถคันนั้นเฝ้าดูแลแทนตัวเรา อธิษฐานใช้ได้ท่านบอกถึงเวลาเอาไปใช้เถิดเดียวรู้เอง มีทุกข์ มีภัยมาไม่ต้องกลัวปล่อยให้มันมา เดี๋ยวหุ่นเขาจะรับเอาไว้เอง แต่อย่าได้ลำพองใจว่ามีของดี ไม่ใช่มีหุ่นแล้วจะเที่ยวเกเร สร้างปัญหา รังแกใครก็ได้ หากทำบ่อยๆระวังครูท่านจะตำหนิให้เกิดโทษ ท่านว่าของดีก็ต้องอยู่คู่กับคนดีด้วย ท่านว่าปกติหุ่นพยนต์รุ่นนี้จะให้ใช้เฉพาะเป็นรายบุคคลไป แต่สถานการณ์บ้านเมืองปากท้องและชีวิตในปัจจุบันของหลายๆคนนั้นไม่ค่อยจะดี ท่านว่ายิ่งนานก็ยิ่งหนัก ท่านจึงอนุโลมให้นำออกมาให้ใช้บูชากัน โดยมีข้อแม้แค่ว่า ขอให้คนที่เอาไปเป็นคนดี ขอแค่เป็นคนดีเรื่องอะไรมันก็ดีไม่ต้องไปกลัว

    ในยุคสมัยนี้ยากแก่การที่จะหาพระเกจิอาจารย์ใดที่ผูกและกำกับหุ่นพยนต์ได้ดั่งอดีตเช่นหลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่ศุข พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นๆกันได้ทั่วว่าจะใช้น้ำมันพราย ใช้กระดูกผี ใช้ชิ้นส่วนศพเช่นผมผีตายโหง ผ้าห่อศพต่างๆ เอาของที่มีอาถรรพ์ของผีของวิญญาณที่ตายไม่ดีมาทำหุ่นพยนต์ เพราะอยากได้อาถรรพ์ อยากได้ของแรงๆไม่ได้สนชีวิตคนใช้ว่าจะเป็นอย่างไร ท่านว่าหุ่นที่แรงอย่างนี้นับว่าแรงเสียเปล่าเพราะเขาใช้งานช่วยเราไม่ได้มากซ้ำยังเป็นโทษมากกว่าคุณเราจึงไม่ใช้ของที่เกี่ยวกับศพมาทำหุ่นเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นเราสำเร็จด้วยอานุภาพผงวิเศษกับคุณว่านยาและวิชาผูกหุ่น นี่ถ้าเราไม่ขอบารมีท่าน(หลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่ศุข)ไม่เชิญครูพระมหากัสปะมาช่วยผูกหุ่นรุ่นนี้ก็ยากจะสำเร็จหุ่นรับกรรมได้เพราะตั้งใจทำไว้ให้เป็นที่สุดในสายวิชาพยนต์นั่นคือใช้รับเคราะห์กรรมแทน แม้ผูกขึ้นมาแล้วก็ต้องเรืองฤทธิ์ดั่งเทพยดา

    หุ่นพ่อยักษ์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆต้องเรียกพ่อยักษ์จักรพรรดิ์ ท่านว่าเราทำให้เต็มที่แล้ว มีตัว มีญาณบารมีครูบาอาจารย์ มีอิทธิฤทธิ์ มีธาตุทั้งสี่ มีวิญญาณขันธ์ห้าครบสูตรตามตำรา จะใช้อธิษฐานอะไรก็ตามแต่จะใช้เถิด ใครที่บูชาปรารถนาจะเสี่ยงโชคหากมีโชคมีลาภหุ่นพยนต์หรือพ่อยักษ์ของฉันก็จะมาปรากฏตัวในความฝันให้เห็น เป็นยักษ์บ้าง เป็นฤาษีบ้าง เป็นพระจักรพรรดิ์บ้าง เป็นคนแก่บ้าง คนหนุ่มบ้าง หรือเด็กบ้าง บอกโชคบอกลาภให้เห็นเป็นประจำ

    คาถาบูชา
    โอมปลุกปลุก กูจะปลุกพ่อหุ่นด้วยอะหังนุกา อยู่แล้วรักษาอย่าไปอื่น ขอให้อายุมั่นขวัญยืน ทำมาค้าได้มีโชคมีชัย ลาภมา เงินมา ทองมา นะนะนะนะ อะถันโธโมสิตังวะคะลึงคะลัง นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ อิสวาสุ สุสวาอิ จิเจรุนิ จิตตัง เจตสิกัง รูปัง นิมิตตัง อิติภูตะ เอหิจิตตัง มานิมามา นะมะพะทะ ยังกิญจิ ระตะนังโลเก วิชชะติวิวิธัง ปุถุระตะนัง พุทธะสะมัง นัตถิตัสสะมา โสตถี ภะวันตุเม แก้วแหวนเงินทองทรัพย์สินใดในโลกนี้ มนุษย์หรือปุถุชนจะไขว่คว้าหามาได้โดยไม่ยากแต่ของวิเศษดีเลิศประเสริฐยิ่งกว่าพระพุทธคุณนั้นไม่มีอีกแล้วที่ดีกว่านี้ ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยขอพ่อยักษ์จงมาโปรดลูกคนนี้ให้ลูกกินอิ่มนอนหลับ จะเอาอะไรก็ขอให้ช่วยให้ลูกสมปรารถนา


    *** หุ่นพ่อยักษ์นี้พ่ออาจารย์ว่าควรพกไว้ติดตัวทำพวงกุญแจได้ คาดเอวได้ ใส่กระเป่ากางเกงได้ แต่ใครที่มีเคราะห์หนักมาก ดวงชะตาเกิดมาร้ายมากกว่าดี หรือใครที่จะทำงานใหญ่มีคู่แข่งมาก ให้อาราธนาพ่อหุ่นเป็นคู่สองตน และอธิษฐานบอกพ่อยักษ์ว่าตนนึงใช้รับโชคร้ายวิบากกรรมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตามชะตาราศี อีกตนนึงใช้รับกรรมปัจจุบันและใช้กรรมปัจจุบันแทนตัวเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2019
  12. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระตรีเนตรปุราลีมวลสารหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์(มหากาลเงินมาเก้าพันล้าน)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @un

    IMG_20190518_055116.jpg IMG_20190518_055156.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิดับย่อยวัฏจักร-คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำ-พ่ออาจารย์พล.548127/page-3#post-9746795


    สืบเนื่องจากผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ กระปุกหนึ่งซึ่งพ่ออาจารย์ได้รับถวายมาอันเป็นผงสำเร็จที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุดและทรงอานุภาพรุนแรงที่สุดนั้น ท่านได้ใคร่ครวญอย่างหนักว่าจะนำมาสร้างสิ่งใดดี เพื่อที่จะได้มีอิทธิคุณแฝงเป็นกฤติยาคมแฝด ท่านว่าจะได้ไม่เสียไปเปล่าๆ หากทำรูปพระเกรงว่ายุคนี้จะไม่แรงและเร็ว จะต้องทำเทพแต่ต้องเป็นเทพที่มีใจอันประกอบด้วยมหากรุณาสูงสุดเช่นกัน ก่อนจะมีนิมิตรให้ท่านสร้างพระสยมขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับประทานชื่อเฉพาะให้เหมาะแก่สายวิชา

    เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วพ่ออาจารย์ได้นำไม้อาถรรพ์ฟ้าผ่ามาแกะแม่พิมพ์เป็นศิวลึงค์มีองค์พระศิวะบรมครูประทับอยู่ภายในนั้น พร้อมกับได้เสกแม่พิมพ์ก่อนเสียคำรบหนึ่ง ท่านว่าทำไว้เป็นศิลป์บ้านๆงานแบบโบราณนี้แหละดี

    ซึ่งความรุนแรงและอาถรรพ์ของวิชาที่พ่ออาจารย์ได้กระทำลงไปในครั้งนี้ มีอุปเท่ห์และพิธีกรรมที่สลับซับซ้อนนัก พอจะกล่าวเปิดเผยคร่าวๆได้ดังนี้

    - เมื่อจะสร้างให้ได้ตามโองการซึ่งจะกระทำให้ได้มาถึงเครื่องมงคลที่ได้ชื่อว่ามีพลานุภาพสูงสุด เสด็จพระศิวะท่านได้มีโองการแก่พ่ออาจารย์ เมื่อจะทำพระรูปของพระองค์ต้องทำพิธีไสยเวทย์ดุจดั่งว่าในองค์พระนั้นมีเลือดเนื้อของพระองค์จริงๆผสมลงไปให้ได้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้นำไม้ศิวลึงค์โบราณที่สืบทอดมาแต่อารยธรรมเขมรมาประกอบพิธีพราหมณ์อีกคำรบหนึ่ง ก่อนจะลงจารพระเวทย์สายพระศิวะทั้งหมด ลงมนต์มหากำเนิดก่อเกิดสรรพสิ่ง ในองค์ศิวลึงค์ไม้โบราณนั้น เรียกได้ว่าพระศิวะท่านแฝงพระรูปลงมาเต็มพระญาณ ถือได้ว่าศิวลึงค์นี้คือเลือดเนื้อและชีวิตของท่านก็ไม่ปาน เมื่อสำเร็จเเล้วจึงนำมาบูชาไฟด้วนมันตราพระศดาศิวะเทพ ตามหลักกฏแห่งธรรมชาติจนแปรเป็นเถ้าจุณมหาวิจุณ กลับคืนสู่พระรูปเดิม เถ้านี่แหละสำคัญนัก ถือคติแห่งมายาศาสตร์ที่ว่าพระศิวะท่านพลีพระรูปของท่านให้แก่มนุษย์แล้วด้วยมหากรุณา เมื่อเป็นศิวลึงค์ขลังเยี่ยงไร ตอนเป็นเถ้าขลังเสียยิ่งกว่านั้น เพราะผ่านไฟแห่งพิธีกรรมอันได้ชื่อว่าจะชำระเสียให้ได้มาซึ่งความบริสุทธิ์สูงสุดแล้วนั่นเอง

    - พ่ออาจารย์ท่านได้นำเถ้าศิวรูปทั้งหมด มาผสมลงไปกับผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ หลังจากนั้นท่านว่ายากเกินกว่าใครจะคิดไหว นั่นคือการเสกผงตั้งธาตุให้ผสมกลืนรูปกับผงเถ้าศิวรูปนั้น ให้พลังเกื้อหนุนกันไปด้วยกันไม่ขัดกัน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านทำเองไม่ได้ ต้องเชิญเจ้าของผงคือองค์หลวงปู่แก้วมากระทำให้ด้วยเมตตา ท่านว่าหลวงปู่แก้วนั่งอธิษฐานผงนี้อีกวาระหนึ่ง สุดท้ายก็มาบรรจบลงที่องค์พระศิวะพอดีเหมือนท่านจะรู้เจตนาเรา มีนิมิตรปรากฏผงนี้ได้จับตัวเป็นอักษรโอมและโปรยปรายลงมา เทพเทวดาทั้งหลายถ้วนทุกห้องจักรวาลต่างพากันออกมาสาธุการ

    - เมื่อจะเสกนั้น ท่านว่าต้องเสกใส่วิชาตาไฟประลัยกัลป์ให้ได้เหมือนพระกริ่งองค์ครูของท่านที่ท่านหล่อจากเงินบบริสุทธิ์มาห้อยคอเอง พระกริ่งองค์นี้มีอานุภาพมากนักกล่าวคือมีพระเกจิหลายรูปไม่สามารถวัดพลังงานใดๆได้เลย แต่จะเห็นแสงไฟกะพริบที่ตาขององค์พระทำให้ตาพร่าตามัวไปตามๆกัน แม้เมื่อพ่ออาจารย์อาราธนาอยู่ก็ดีหากมีสิ่งไม่ดี อวิชชาทั้งหลายมากระทบ หรือแม้แต่มีจิตที่ตกไปในฝ่ายต่ำตลอดจนเครื่องรางของขลังทั้งหลายที่มีผู้ส่งมาลองดีกับท่าน ท่านว่าท่านจะเห็นแสงสว่างกะพริบออกมาจากตาพระกริ่งองค์นี้ทันที ไฟนั้นจะเผารูปเผาญาณฝ่ายตรงข้ามจนมอดไหม้หายไปในที่สุด ไม่เคยเห็นมีสิ่งใดต้านทานได้ซักที ท่านว่าวิชานี้หาคนรับยากนักทำให้ใครเล่นๆไม่ได้ พอดีกับได้ทำพระตรีเนตรปุราลี อันได้ชื่อว่าตาที่สามอันยิ่งใหญ่เหนือกว่าพลังธรรมชาติ เราเลยจะลงตาไฟประลัยกัลป์นี้ไว้ด้วย จะได้เป็นโฉลกแก่ชื่อเป็นมงคลแก่ผู้ครอบครองต่อไป(เป็นครั้งแรกจริงๆที่ท่านลงวิชานี้ในเครื่องมงคล คงเพราะมีจิตขององค์พระศิวะกำกับอยู่ภายในด้วยกระมังท่านถึงเมตตาลงไว้ให้) วิชานี้แม้ใครที่มีวาสนามีวิชาดีมาจากที่ไหน เมื่อได้ชื่อว่ายังอยู่ในกฏแห่งพลังธรรมชาติ เขาแพ้เราทั้งสิ้น เพราะเราข่มเราชนะคนทั้งหลายเหล่านั้นด้วยสิ่งที่อยู่เหนือกว่าพลังธรรมชาติ

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เเค่ขึ้นรูปขึ้นพิมพ์เวลาจะกดด้วยมนต์มหากำเนิดนี่ก็ยอดขลังแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้หากปรารถนาให้ขอแก่องค์พระศิวะนี่ได้เลย ท่านว่าท่านเทให้แล้วหมดหน้าตักเลย ใช้มวลสารเป็นผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ล้วนๆในส่วนของผงสำเร็จมาผสมกับผงเถ้าศิวรูป ไม่ต้องเอาเศษผงเศษวิชาอะไรมาเพิ่มอีก เพราะว่านี่คือที่สุดแห่งวิชามหาเสน่ห์ในแผ่นดินสยามแล้ว ผงที่มีอานุภาพทำให้สาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกันในตำนาน ผงที่ใครได้ครอบครองก็จะเจริญมิตกต่ำเป็นเศรษฐีเป็นเจ้าสัวมีชีวิตที่มั่นคง หาพระหลวงพ่อแก้วแท้ๆที่ไม่เขียนนิยายขายองค์ละ 20 - 30 ล้านบาทไม่ได้ ท่านว่าเอานี่ไปใช้ นึกถึงหลวงพ่อแก้วก็แทนกันได้เลย ไม่ได้วัดรอยเท้าครูบาอาจารย์พูดให้เลิศเลอเสมอท่าน ก็ด้วยเอาผงอันได้ชื่อว่าเป็นอนุสรณ์ที่ท่านกระทำไว้ดีแล้วมาทำให้ดุจท่านทำเองเสียเท่านั้น

    สำหรับพระผงมวลสารหลวงพ่อแก้วนี้ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าสำคัญนัก เพราะอยู่ในรูปของเทพเจ้าที่ได้ชื่อว่าแรงเเละไวต่อการรับกระแสจิตและคำอธิษฐานของผู้บูชามากที่สุด ซ้ำยังเป็นเทพที่ได้รับการยกย่องว่าน้ำพระทัยนั้นเปี่ยมไปด้วยมหากรุณาธิคุณสูงสุดในบรรดามหาเทพทั้งสาม พระนามเฉพาะที่ท่านประทานให้กับพระรูปรุ่นนี้ยิ่งมีความหมายลึกซึ้ง พระผงตรีเนตรปุราลีนี้ มหายถึงตาที่สามอันมีพลังยิ่งใหญ่เหนือพลังธรรมชาติใดๆ ด้วยว่าพระศิวะนั้นเป็นผู้ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนได้พระนามเฉพาะว่าพระมหากาล(คนละกาฬกับบริวารพญายม) กาลในที่นี้คืออดีตกาล ปัจจุบันกาล อนาคตกาล พระองค์ทรงรอบรู้ในกาลทั้งสามเหล่านั้นจนได้ยกย่องว่าเป็นมหากาล รู้กรรมรู้วาระของสรรพสิ่ง แม้ทรงโปรดในคุณงามความดีของผู้ใดก็จะช่วยเหลือเต็มที่ประสาทพระพรให้ในสารพัดสิ่งที่เค้าขอ เมื่อเสกเสร็จนั้นเป็นนิมิตรหมายอันดีที่พ่ออาจารย์ท่านเห็นเหรียญทองมากมายตกหล่นลงมาเกลื่อนฟ้า พร้อมกับได้ยินเสียงดังลั่นว่ามหากาลเงินมาเก้าพันล้านซึ่งพ่ออาจารย์เองท่านก็มั่นใจสุดๆว่ารุ่นนี้ได้ทั้งเสน่ห์ มหาละลวย รัญจวนจิตพิศดาร ซ้ำยังมีอานุภาพทางโชคลาภ วาสนา การเงินเต็มที่อีกด้วย

    ด้านหลังนั้นจะมีเครื่องมงคลอันประกอบด้วยวิชาต่างๆฝังอยู่ ตามลำดับที่จะกล่าวต่อไปคือ
    - เหรียญหล่อพระนารายณ์แปลงรูป พระสี่กรรูปงามทรงเเปลงกายเป็นหญิงสาวร่ายรำหลอกล่อให้ลืมตัวไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ท่านว่าอันวิชานารายณ์แปลงรูปนั้นหากทำได้ถึงขั้นมหาประสิทธิแล้วจะลุ่มหลงจนตาย ด้วยอำนาจไสยเวทย์ฝ่ายสูงมหาเสน่ห์แห่งองค์นารายณ์ มหาบุรุษที่ได้ชื่อว่าเพียบพร้อมในทุกสิ่งแม้รูปร่างหน้าตาก็วิไลวิลาศงามเลิศกว่าเทพเจ้าทั้งปวง ยิ่งพระนารายณ์พระองค์นั้นถึงขนาดต้องแปลงรูปให้สวยงามขึ้นไปอีกเพื่อสำเร็จภารกิจ ผู้บูชาก็เช่นกันหากมีกิจใดที่ต้องใช้เสน่ห์เล่ห์กลก็จะสำเร็จทุกครั้งไป ห้อยคอเอาไว้พ่ออจารย์ท่านกล่าวว่าดีนักหนา คนอื่นจะเห็นเรางามสง่าโสภาติดตาต้องใจ หลงเรา รักเรา ลืมตัว ลืมตาย ลืมแม้กระทั่งชีวิตตนเองนี่เเหละคือวิชาพระนารายณ์แปลงรูปที่แท้จริง
    - เหรียญหล่อมหาฤาษีนารทมุนี(นารัท - นารอด) มานสาบุตร(บุตรอันมีกำเนิดจากฤทธิ์ทางใจ)แห่งพระพรหมา สาวกเอกแห่งพระนารายณ์และพระศดาศิวะ มหาฤาษีผู้ได้ชื่อว่าเป็นปฐมฤาษีอันมีกำเนิดเป็นฤาษีองค์แรกในจักรวาล เป็นพรหมฤาษีอันเป็นอาจารย์ของเหล่าฤาษีทั้งปวงซึ่งมีฤทธิ์สูงสุดและได้ชื่อว่ามีอภิสิทธิ์สูงสุด ในธรรมเนียมเหล่าพระพุทธเจ้าเคารพพระพุทธเจ้าองค์ปฐมฉันใด แม้เหล่าฤาษีก็ถวายเกียรติยศสูงสุดแแก่ฤาษีองค์ปฐมฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ให้ด้วยคติที่ว่าเมื่อมีรูปพระนารายณ์แล้วก็ควรมีพระนารทมุนีด้วย ผู้ที่เพียรขอพรต่อองค์นารายณ์หรือองค์พระศิวะจะได้สำเร็จโดยง่ายเพราะพระนารทมุนีนี้คือกระบอกเสียงแห่งสวรรค์ เป็นผู้นำสารส่งสารของพระเป็นเจ้าเมื่อจะอธิษฐานอะไร ให้อธิษฐานผ่านท่าน ฝากท่านบอกไปยังพระศิวะหรือพระนารายณ์ จะถึงไวและสำเร็จได้ง่ายกว่าปกตินัก ซ้ำพระนารทมุนี(นารอด)ยังเป็นประธานของครูฤาษีทั้ง108ที่เราเรียกว่าพ่อแก่ด้วย ท่านว่าเวลาอาราธนาห้อยคอนี้ให้ตั้งจิตดีๆก่อนจะสวมลงไป เหมือนศรีษะเรานั้นครอบหัวพ่อแก่นารอดไว้ตลอดเวลา มีครูเหนือหัวแล้วจะต้องไปกลัวผู้ใด พ่ออาจารย์กล่าวว่าตอนเสกเหรียญนี้ครูพระนารทท่านกระทำดุริยางค์ดนตรีร้องเพลงเป็นที่สนุกสนานวนอยู่รอบๆกายท่าน เศียรรุ่นนี้เฮี้ยนและแรงแน่ๆ
    - ตะกรุดอาถรรพ์ศิวะซ่อนรูป วิชานี้แต่เดิมแทบจะไม่มีการถ่ายทอดให้ผู้ใดเพราะเป็นวิชาสืบทอดในสายพระเวทย์ชั้นสูง แต่เดิมนั้นกษัตริย์ขอมเปรียบดั่งร่างอวตารของพระศิวะเจ้า เมื่อจะขึ้นครองราชย์นั้นต้องให้ผู้เรืองวิชามาประจุอาถรรพ์ตัวนี้ไว้กับร่างกาย เรียกว่าอาถรรพ์แห่งราชาหรือพระมหากษัตริย์ก็ได้ เป็นวิชาที่จะทำให้ญาณบารมีขององค์พระศิวะนั้น แฝงซ่อนอยู่ในร่างผู้บูชาโดยตรง เป็นทั้งมหาอำนาจ มหาเมตตา มหาเสน่ห์ มหาปราบ มหากำราบ ครบถ้วนทุกประการ ปลุกดีในตัวสร้างขุมพลังในจิตวิญญาณอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านเมตตาลงไว้ให้เพื่อที่ผู้บูชาจะได้มีพลังมีจิตที่ดีภายในก่อนค่อยไปอาราธนาของดีภายนอกใดๆ
    - ตะกรุดมหากัน ตะกรุดดอกนี้มีฤทธิ์มาก กันได้ทุกอย่างที่ไม่ดีอันจะเกิดแก่ชีวิตผู้บูชาทั้งคนอันจะกระทำย่ำยีคุณผีคุณไสยนานาประการ สารพัดกันทั้งภัยอันตราย ซ้ำยังเป็นแคล้วคลาดเพชรหลีกหลบเลี่ยงไม่ให้มากระทบตัวเรา พวกศัตรูล้วนแต่หนีไกลไม่เข้าใกล้ ท่านว่าใส่เพิ่มให้ไว้ ชีวิตจะได้สบายไม่มีภัยใดๆมารบกวนเบียดเบียน
    - ตะกรุดศิวลึงค์คลึงนาง วิชาเสน่ห์สายพระผู้เป็นเจ้าศิวะ ซึ่งเป็นวิชาที่พ่ออาจารย์ไม่ค่อยกระทำให้ผู้ใด ท่านว่าเหมาะที่จใส่ไว้นัก ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าดีอย่างไร เปรียบตัวเขานี้เป็นศิวลึงค์พระศิวะก้อยู่ในตัวเขา ต่อไปจะคลึงอะไรก็คิดกันเอาเอง
    - โรยแร่เทวาประสิทธิ์สีเหลืองทองทุกองค์


    พระผงรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะทำให้แก่ลูกศิษย์ที่มีกรรมหนัก ยังไม่ลืมตาอ้าปาก ยังโดนใครเขารังแกโดยเฉพาะ ให้พ้นกรรมพ้นวาระนั้นไปด้วยมหากรุณาแห่งบรมครูพระศิวะเจ้า ซ้ำยังเป็นมหาเมตตามหาเสน่ห์และมหาลาภอย่างที่สุด ให้เอาไว้ตั้งตัว จะได้เสพย์สุขเพรียบพร้อมในทุกๆด้าน

    คาถาบูชา
    โอม นะโมศิวะ สิทธิกาลังสวาหุม อิติปิโส วิเสเสอิ อิโสตังพุทธนามิอิ อิโสตังพุทธะอิ อิโสตังพุนากุ โสอะสังทิสุเล อะปุสะพุอะ อะกุสาปุอะ โสสุวิสังอะ สาธุ


    พระผงพระตรีเนตรปุราลีพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ 16 องค์ มีคนถามถึงผงนี้เข้ามาเยอะมาก พ่ออาจารย์ท่านจึงตัดสินใจนำมาทำทั้งหมด เพราะผงนี้มีประสบการณ์แล้วท่านได้ลองให้คนขับวินมอเอร์ไซด์โรยหัวไว้จากชายขับวินผิวดำวัยกลางคนกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ได้ภรรยาเป็นแม่ม่ายมีฐานะมั่นคง ท่านกลัวคนจะขอผงไปใช้ผิดทำนองคลองธรรม จึงเอามาทำพระเสียทีเดียว ท่านว่านี่แหละผงเสน่ห์ที่ดีที่สุดอยู่ในรูปของเทพที่ประกอบด้วยมหากรุณาสูงสุด ซึ่งท่านก็ได้เสกเก็บไว้นานเเล้วจนแน่ใจว่าอัดไม่เข้าอีกจึงให้นำมาบอกบุญ

    ปัจจัยร่วมทำบุญบูชาพระตรีเนตรปุราลีมวลสารหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์(มหากาลเงินมาเก้าพันล้าน)ท่านจะนำมาสมทบเพื่อนำไปบริจาคในโครงการสร้างโบสถ์ตลอดจนวิหารทานในวัดต่างๆตามต่างจังหวัดต่อไป เมื่อตั้งใจจะร่วมบุญแล้วก็จงอนุโมทนาหมายมั่นเอามรรคผล สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติอันจะเกิดในอนาคตกาลของตนเถิด

    * รายการนี้ท่านให้เฉพาะคนเพราะพระมีน้อยเพียงแค่ 16 องค์เนื่องจากประกอบด้วยมวลสารล้วนๆท่านว่าพระมีเจ้าของหมดแล้วทุกองค์ ใครจะบูชาจริงๆให้จองทาง PM เท่านั้น จะได้ไม่ต้องแย่งกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2019
  13. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    พระตรีเนตรปุราลีมวลสารหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์(มหากาลเงินมาเก้าพันล้าน)

    ปิดครับ
     
  14. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  15. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    หลายๆ รายการสร้างน้อยมากและหมดไปนานแล้ว หลายๆรายการมีประสบการณ์มาก หลายๆรายการท่านที่มีจิตสัมผัสพิเศษมีครูบาอาจารย์ตามให้มาบูชา หลายรายการผมก็เสียดายน่าจะได้ใช้ก่อนมีครอบครัว แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะมารู้จักพ่ออาจารย์พลก็หลังแต่งงานแล้ว นับเป็นโอกาสอันดี ผมได้อธิษฐานต่อเครื่องมงคลทั้งหลายเหล่านี้ ให้ครูบาอาจารย์เลือกคนที่ท่านอยากไปอยู่ด้วย มีบุญบารมีที่จะได้ครอบครอง กระจายออกไปดีกว่าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ศรัทธา ถ้าสะสมอยู่ที่ผมคนเดียว ก็แขวนไม่หมด และลูกหลานคนในครอบครัวก็ไม่ได้มีความสนใจทางนี้เลย ถ้าหมดรุ่นผมไปก็คงจะไม่มีคนเห็นคุณค่า ผมขอนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปทำบุญต่อ ทั้งการปล่อยปลาหน้าเขียง และร่วมสร้างถาวรวัตถุในพุทธศาสนา ถวายครูบาอาจารย์ ซึ่งได้ทำไปแล้วบ้างตามสมควร

    สรุปรายการที่เหลืออยู่สามารถจองบูชาได้ครับ


    1. พระเจ้าอวตารปราบโลกปราบแผ่นดินสี่ทวีป (มหาทัณฟาดมารล้มยักษ์) จองแล้ว
    แบ่งให้บูชา 2,500 บาท

    3. พระเจ้าไร้หัวใจเสกเงินตรารัตนโกศ,มหาภูติล่าสมบัติทันใจ (ได้ก่อนเจ็บ)
    ให้บูชา 4100 บาท

    4. เหรียญหล่อพระเจ้าสัวนวะโกฏิลิขิตวาสนามหาจักรพรรดิมังกร (แม่นางกวักโกยทรัพย์แม่นางรับนั่งนับเงิน)
    แบ่งให้บูชา 4100 บาท

    5. มงคลสาปสวรรค์เหรียญครูเปิดพลังจักรวาลอิสีทุรวาสะ(ฝังเงินปากผี)
    ให้บูชา 4100 บาท

    6. มงคลเจริญทรัพย์ประสิทธิเวทย์มหาคุรุศุกรจารยะ(นางสุพรรณมัจฉา)
    ให้บูชา 4100 บาท

    7. เหรียญหล่อมหาศักติพระเจ้าเงินตราสืบชะตารุกฆาต(ประสิทธิพรชัย)
    ให้บูชา 4100 บาท

    8. พ่องั่งลอยเคราะห์คลายปมปลดพันธนาการ รุ่น เทพกะซิบ(ปะคำเทพวิชามหาสูบ)
    ให้บูชา 800 บาท

    9. พ่อขุนจักรพรรดิท้าวพันตาวาสนาครองฟ้าดิน(ผงเศรษฐีพันวิมานสหัสโยนี)
    ให้บูชา 2600 บาท

    10. พญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร{(ภาคหากิน)ฝังประคำโทนแทนครู ธิดาสรวง}
    ให้บูชา 4100 บาท

    11. มงคลพรายเสน่หาเพชรสยมภู (จอมครุฑจับนาง)
    ให้บูชา 4100 บาท

    12. องค์กำเนิดบรรพกาลวราหาคลี่แผ่นดิน(หมูกินเสือตรีกาลมหาสะเดาะ)
    ให้บูชา 4100 บาท

    13. พระขุนแผนแสนนางล้อมรักผงทวิมหาภูติทองคำ(พระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์)
    ให้บูชา 4100 บาท

    14. พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)
    ให้บูชา 2600 บาท

    15. จิ้งจกเก้าหางมงคลโสฬสเก้าโกฏิพญาฟันดะ(ปลดหนี้กรรม ฟันลูกเดียว)
    ให้บูชา 4000 บาท

    16. เหรียญหล่อมหาพรหมแปลงรูปวิชาคาดสังวาลย์(พ่อฟ้าฟื้น)
    ให้บูชา 4100 บาท

    17. ตะกรุดพิชัยสมบัติ จักพรรดินาคา (เคลือบเหล็กไหลบาดาลแก้วอำพัน)
    ให้บูชา 4100 บาท

    18. มงคลโคตรเสน่ห์น้ำมันใจขาด(มหาพฤกษาวิญญาณ)
    ให้บูชา 4000 บาท

    19. คันฉ่องดูดพลังจักรวาลแว่นฟ้าบาปวิบัติ(พระสิขีพุทธเจ้าส่องประทีบ)
    ให้บูชา 800 บาท

    20. พญาโจรมุสิกราชกระชากทรัพย์ (ลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง)
    ให้บูชา 900 บาท

    21. พระอนันตชินราชผงวิชาพิมพ์ปั้น(สำเร็จเบิกบุญก่อลาภพลิกฟ้ากลับธรณี)
    ให้บูชา 4100 บาท

    22. เทวีบุญฤทธิ์สมปรารถนากามเธนุคาวี(แร่โควรรธผงกฤษณะยันตรา)
    ให้บูชา 4100 บาท

    23. พยนต์รับกรรมมหายักษาผจญมาร (ตายแทนตัว เจ็บ ช้ำ ชั่ว รับแทน )
    ให้บูชา 2500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2019
  16. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    แจ้งหมายเลข EMS ครับ
    EF128708931TH
     
  17. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    สวัสดีครับ
    สนใจรายการไหนสอบถามได้นะครับ
     
  18. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    สวัสดีครับ

    วันนี้มีรายการใหม่ เป็นองค์ที่พิเศษมีสีสันสวยสง่างามมากๆ ครับ สำหรับในรุ่นนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    เหรียญตรีกาลพรหมฤาษีนารท(บรรจุผงเสน่ห์หน้าทัพ)

    ให้บูชา 4000 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @un

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดล้างหนี้เวรซ้อนธาตุซ้อนขันธ์-ผงมหานาวาพุทธรักษา-พ่ออาจารย์พล.548127/page-8#post-10012452

    สืบเนื่องจากหลายๆท่านสอบถามขอให้นำเครื่องมงคลยุคเก่า ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้และเสกยาวนานมานับเนื่องหลายปีนำมาออกให้ได้ร่วมทำบุญกันบ้าง ซึ่งก็ได้ขออนุญาติท่านนำเหรียญตรีกาลพรหมฤาษีนารทออกมาให้ร่วมทำบุญกัน โดยพรหมฤาษีนารทนั้นเป็นหนึ่งในบรมครูสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านให้ความเคารพอย่างสูง และมักจะเชื่อมต่อกระแสญาณ ตลอดจนเชิญครูลงแฝงอยู่เสมอๆ

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพรหมฤาษีนารทนั้น บางครั้งก็เรียกว่าพระนารทมุนีบ้าง ฤาษีนารอดบ้าง พระประคนธรรพบ้าง พระภรตมุนีบ้าง พระนารทดุริยางค์บ้างก็สุดแล้วแต่คนจะเรียก โดยพ่ออาจารย์ท่านได้เฉลยว่าแท้จริงแล้วทั้งพุทธและไสยนั้นได้สืบทอดความเชื่อของฤทธิ์อำนาจและแรงครูแห่งบรมครูฤาษีสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และในความเป็นจริงนั้น พรหมฤาษีนารทคือประธานของเหล่าฤาษีทั้งหมื่นโลกธาตุในแสนโกฏิจักรวาล เป็นศูนย์รวมอำนาจแห่งฤทธิ์แรงครูทั้งหมดทั้งมวล บางครั้งที่เราครอบหัวครูหรือที่เรียกว่าพ่อแก่นั้น พ่อแก่หรือพระภรตมุนีก็คือปางหนึ่งของพรหมฤาษีนารทนั่นเอง

    ย้อนเวลากลับไปเมื่อแรกเริ่มนั้น พ่ออาจารย์ท่านฉงนสนเท่ห์เป็นอย่างมากด้วยว่าท่านเคลือบแคลงสงสัยว่าจะมีบรมครูลงมาสถิตย์ร่างกายเพื่อร่วมสร้างบารมีกับท่าน แต่ท่านก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นพระองค์ใด จนท่านสามารถสื่อกับครูได้และองค์พรหมฤาษีนารทนั้น ได้เมตตามีเทวราชบรรหารประทานกรับหิน คือเครื่องใช้ตีให้เกิดจังหวะ อันเป็นสื่อตัวแทนดุจสัญลักษณ์ของพระองค์ท่านให้พ่ออาจารย์ไปอัญเชิญมารักษาไว้ โดยกรับนี้ได้ปรากฏขึ้นตรงตามนิมิตรใต้ต้นไม้หนึ่ง หลังจากพ่ออาจารย์ท่านอัญเชิญมา ก็ได้นำมาถวายเป็นเครื่องบริโภคไว้สำหรับเทวรูปพระนารทมุนี และต่อจากนั้นก็ได้เกิดอภินิหาริย์เป็นอันมาก โดยเฉพาะแรงครูอันน่ามหัศจรรย์หลากหลายประการที่คอยเกื้อหนุนช่วยเหลือศิษย์ แต่พ่ออาจารย์ท่านเองก็ยังไม่ได้ยกย่องบอกกล่าวให้ชื่อท่านเป็นที่ประจักษ์ ด้วยเหตุผลสั้นๆว่ายังไม่ถึงเวลา ในระหว่างนั้นท่านก็มีดำรินึกคิดว่า แต่โบราณกาลจำเนียรกาลผ่านมาหลายร้อยปี คนมักจะประดิษฐ์หัวครูเป็นศรีษะพ่อแก่เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระมุนีนารท ท่านจึงเรียนปรึกษาพรหมฤาษีนารท ด้วยหวังจะกระทำพระรูปที่แท้จริงให้ปรากฏสืบทอดต่อไปเสียคราวหนึ่ง เพื่อจะได้เข้าถึงขุมพลังแห่งครูอย่างแท้จริง โดยท่านได้รับการอนุญาติและอำนวยความสะดวกอย่างดี


    พระมุนีนารทหรือพรหมนารอดนี้มีความสำคัญอย่างไร พ่ออาจารย์ว่าท่านมีกำเนิดที่สูงส่งคือเป็นจิตที่ไม่ได้ถือกำเนิดจากครรภ์ จากไข่ จากการถือกำเนิดแบบวัฏสงสาร ท่านจึงอยู่เหนือกฏแห่งกรรมมีฐานะพิเศษที่วัฏจักรหรือสังสารวัฏไม่สามารถทำอะไรท่านได้ ด้วยท่านถือกำเนิดมาแต่พระประสงค์ของพระพรหม(พระเป็นเจ้า) มีฐานะเป็นมานสาบุตรแห่งพระพรหมมา ด้วยเหตุนี้องค์พระะนารทจึงเป็นปฐมฤาษีและมีฐานะพิเศษสูงสุดด้วยว่าเป็นยอดและเป็นผู้นำของเหล่ามหาฤาษีทั้งมวล ซ้ำยังถูกยกย่องจากบรรดาฤาษีต่างๆให้มีระดับขั้นเป็นทั้งเทวะฤาษี พรหมฤาษี และมหาฤาษีอยู่ในองค์เดียวกัน ด้วยว่าคุณธรรมของท่านนั้นสูงส่งและถึงซึ่งฐานะและทิพยสภาวะทุกระดับนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านเมตตาเล่าว่า แท้จริงแล้วครูพระนารทนั้นท่านรักมนุษย์มาก ด้วยว่าท่านผูกพันธ์อยู่กับมนุษย์ ดังนั้นเวลาศิษย์เดือดร้อนหรือขอสิ่งใดท่านจึงรีบช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งอานุภาพของพระนารทมุนีนั้นจะไม่มีเส้นแบ่งหรือคำว่าทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด ต่างจากพุทธานุภาพหรืออำนาจของพระเหล่าใด ด้วยว่าพระนั้นยังมีข้อห้ามผิดศีลผิดธรรม แต่ครูนารทนั้นไม่มีข้อห้ามเช่นพระ ก็จะไม่ให้ท่านรักมนุษย์ได้อย่างไร ในเมื่อพระองค์ท่านมีฐานะเป็นพระผู้สร้าง เป็นหนึ่งในผู้ที่สร้างมนุษย์ มนุษย์แต่โบราณจึงยกย่องท่านไว้สูงสุดในฐานะพระมหาประชาบดีนารท คือเป็นเจ้า เป็นใหญ่เหนือประชากรทั้งปวง

    และที่สูงเสียยิ่งกว่านั้น พระนารทมุนีท่านมีฐานะพิเศษอยู่คือเป็นหนึ่งในเจ็ดยอดมหาฤาษีที่เรียกกันว่าสัตปะฤาษี พ่ออาจารย์ท่านเคยถามสมเด็จองค์ปัจจุบันเกี่ยวกับสัตปะฤาษีนี้ แม้ในหมู่พระพุทธเจ้าทั้งปวงก็ยังรู้และยืนยันว่ามีอยู่จริงซ้ำพระองค์ยังยกเอาไว้ในกลุ่มผู้มีฐานะพิเศษที่จะไม่ก้าวล่วงกัน สัตปะมหาฤาษีหรือผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดนี้มีฐานะดุจว่าเป็นแบบอย่างของเหล่าฤาษีและผู้ถือบวชถือพรตทั้งปวง ด้วยว่าจะมีชีวิตยืนยาวอยู่เฉกเช่นเดียวกับพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้อยู่ใกล้คำว่าอมตะที่สุด

    ดังนั้น ครูพระนารมุนี พ่ออาจารย์ท่านจึงให้ความสำคัญมาก ด้วยว่าแม้ในฐานะที่ท่านดำรงค์อยู่ ทั่วทั้งตรีโลกนี้จะหาครูผู้มีฐานะสูงสุดทั้งเป็นประธานในเหล่าฤาษีดุจว่าเป็นครูที่อยู่เหนือครูทั้งมวลและยังทรงคุณธรรมสถานะของเทวะฤาษี พรหมฤาษี และมหาฤาษีไว้อย่างครบถ้วน ซ้ำยังเป็นมหาประชาบดีมีฐานะเป็นใหญ่ปกครองฝูงชนและเป็นหนึ่งในเจ็ดยอดผู้ยิ่งใหญ่สัตปะมหาฤาษี ท่านว่าตรีโลกนี้จะหาผู้มีฐานะพิเศษเช่นครูพระนารท หาอย่างไรเสียก็ไม่มีวันเจอ

    กอปรกับอานุภาพที่เป็นเอก ที่พระนารทมุนีนั้นเป็นผู้เดียวที่สามารถเดินทางไปในหมื่นโลกธาตุทั้งแสนโกฏจักรวาลได้อย่างอิสระปราศจากความขัดข้องสามารถสอดส่องไปได้ทั่วจึงเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่ามีความรู้มาก รู้ในทุกสิ่ง รู้ในกาลทั้งสามคืออดีต ปัจจุบัน และอนาคต รู้ความเป็นไปของโลกธาตุทั้งหมดอย่างละเอียด ด้วยความรู้นี้แม้ทางพระพุทธศาสนาครูบาอาจารย์แต่โบราณก็ยังยกย่องพระนารทเอาไว้ว่า องค์พระฤาษีนารอด อันเธอทรงยอดพระปิฏกกัณไตร หรือจะกล่าวอย่างง่ายก็คือแม้ธรรมของพระผู้มีพระภาคท่านก็รู้อย่างละเอียด ไม่เฉพาะของสมเด็จองค์ปัจจุบัน แม้จะเป็นธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันเสด็จออกประกาศศาสนาอยู่ในโลกธาตุอื่นๆท่านก็รู้เสียทั้งหมด เช่นนี้ท่านจึงเป็นมหาฤาษีผู้ถูกยกไว้ในฐานบรมครูผู้มีฐานะพิเศษ ซ้ำพระองค์ท่านยังเป็นดุจฑูตสวรรค์ที่คอยบอกกล่าวตักเตือนเหล่ามนุษย์ ซ้ำยังประทานกฏหมายเอาไว้ให้มนุษย์ปกครองกัน โดยเรียกกฏหมายนั้นว่านารทิยธรรมศาสตร์ แล้วก็พระมหามุนีนารทผู้นี้อีกนั่นเองที่เป็นผู้เล่าเรื่องมหากาพย์รามายณะให้ฤาษีวาลมิกิฟังจนภายหลัง พระพรหมเทพจึงมีโองการให้ฤาษีวาลมิกิรจนาพระคัมภีร์ขึ้นเป็นที่มาแห่งเรื่องราวรามเกียรติ์อันจะประกาศเกียรติยศของพระรามให้สถาพรคู่โลกสืบไป

    ด้วยว่าพระนารทมุนีนั้นท่านมีความรู้มาก ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังบอกว่าท่านถนัดนัก คือมีความชอบส่วนพระองค์ มีความสามารถส่วนพระองค์ถนัดในทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงสุด เรียกว่าแรงและเหนือกว่าอย่างที่สุดในวิชาทั้งปวง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างมงคลแทนครูเพื่อจะให้มีประโยชน์สืบไปแก่ผู้ครอบครองนั้น ท่านจึงได้ขอนิมิตรลักษณะจะทำครูในพระรูปใด ซึ่งพรหมฤาษีนารทเองก็ได้แสดงนิมิตรแก่พ่ออาจารย์ ให้สร้างพระรูปท่านโดยสัญลักษณ์ที่ท่านถือวีณาหรือพิณน้ำเต้าและกรับ อันเป็นมายาภาพที่ท่านใช้ประจำดุจว่าเป็นกายสังขารที่แท้จริง และให้เพิ่มสิ่งสำคัญเข้าไปสองสิ่ง เป็นเครื่องบริโภคที่ท่านถือไว้ พ่ออาจารย์จึงได้ทำให้มีสี่พระกรตรงตามนิมิตร
    - สังข์ ท่านว่าเป็นของมงคล อยู่ที่ใดย่อมดึงเอาสิ่งที่ดีงามมาตกต้องผู้บูชา ด้วยสังข์นั้นเคยเป็นเครื่องบรรจุพระเวทย์ของมหาพรหม เป็นที่กักเก็บความรู้แลสรรพวิทยาทั้งหมด ท่านว่าความรู้นี้จะเป็นแสงสว่าง แม้ชีวิตใครยังมืดมัวไม่เห็นทางครูท่านก็จะนำไป เป็นเครื่องหมายดุจสัญญาใจที่ให้กันไว้ว่าเมื่อศิษย์ระลึกถึงครูฉันใด เราก็จะไม่ทิ้งกันฉันนั้น
    - บ่วงพรหมบาศก์ เป็นเครื่องบริโภคแห่งพระบรมบิดาพรหมเทพที่ได้มอบไว้แก่พระนารทมุนี ด้วยว่าบ่วงนี้จะฉุดชักนำศิษย์ให้เจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดด้วยปกาศิตแห่งพรหม หรือจะผูกมัดคู่มิตร คู่ครองไว้ให้เป็นคู่กัน ไม่แยกออกจากกัน ซ้ำบ่วงนี้ยังเป็นเทพอาวุธอันมีอานุภาพมาก ท่านสามารถใช้ผูกมัดดวงวิญญาณสัตว์อันมืดบอดและมีอกุศลจิตเป็นมนุษย์ผู้ใจบาปลงนรกภูมิได้ และยังใช้ลงทัณฑ์กรรมแก่ผู้มีจิตคิดชั่วไม่วาจะเป็นเทพ ฤาษีหรือภูติผีจอมมารเหล่าใด บ่วงพรหมบาศก์นี้จึงเป็นเทพอาวุธอันมีอานุภาพมากที่สรรพชีวิตหวาดเกรงด้วยว่าสามารถพรากภพพรากภูมิได้ จะฉุดให้ลงต่ำหรือขึ้นสูงก็ได้ ท่านว่าครูท่านต้องการจะฉุดชักให้ผู้บูชาเจริญรุ่งเรือง ซ้ำยังป้องกันคนคิดร้ายและสิ่งไม่ดีตลอดจนภูติผีปีศาจหรือการกลั่นแกล้งจากเหล่าเทวดามิจฉาทิฏฐิและจอมมารทั้งหลาย ซ้ำยังเป็นอุปเท่ห์ทางเสน่ห์เมตตามหานิยมดึงดูดคู่ครองผูกมัดด้วยอำนาจแห่งพรหมลิขิต ท่านว่าถ้าใครยังไร้คู่หรือยังสนุกกับกามคุณทางโลก ก็ให้อธิษฐานบอกครูท่านเลย

    * พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าครูฤาษีนี้จะเฮี้ยนและแรงกว่าอาราธนาพระหรือเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ

    เหรียญตรีกาลพรหมฤาษีนารทนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ขอชื่อจากครูโดยตรง โดยชื่อนี้มีความหมายลึกซึ้งดุจว่าจะสื่ออะไรกับคนใช้ ด้วยว่าท่านอธิบายให้พ่ออาจารย์เข้าใจว่าตรีกาลนี้คือรู้ในกาลทั้งสาม ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต รู้แจ้งในหมื่นโลกธาตุ อันความรู้นั้นเปรียบดุจแสงสว่าง แม้มีแสงสว่างปรากฏที่ใดก็ย่อมทำลายความมืดคืออวิชชาความไม่รู้เสียหมดสิ้น เมื่อมีตัวรู้แล้วทำสิ่งใดก็ไม่มีวันแพ้ไม่มีวันตกอับ ท่านว่าต่อไปนี้ในทุกเรื่อง จะมีแต่คำว่าชนะ แพ้ไม่เป็น

    พ่ออาจารย์ท่านได้หลอมหล่อเหรียญตรีกาลขึ้นจากเนื้อธาตุกายสิทธิ์ล้วนๆอันประกอบด้วยเหล็กไหลขาวหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี วัชรธาตุ ปรอทหลวงปู่ละมัย แล้วนำมาแช่น้ำมนต์ธรณีสารและอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันรักษาธาตุกายสิทธิ์ออกไป ทั้งนี้เพราะเมื่อสำเร็จเป็นองค์แล้วท่านจึงเชิญพระมุนีนารทลงมาสถิตย์ท่านว่า นี่แหละคือที่สุดแล้ว เพียงพอแล้ว มีพระมุนีนารทอยู่ไม่จำเป็นต้องมีจิตดวงใดอีก ครูองค์นี้องค์เดียว เกินพอ

    ด้วยว่าครูพระนารทนั้นมีวิชาทางเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นเอก ท่านว่ามีความสามารถทางวาทะและการเจรจาที่เป็นเลิศไม่ว่าจะทำให้คนเชื่อ คนปรองดองหรือแตกหัก เอาว่าพูดอะไรไปใครเค้าก็เชื่อ เชื่อหมดเลยก้มหน้าก้มตาเชื่อแบบไม่มีสิ่งใดสงสัย ดียิ่งกว่าพกสาริกาเสียพันตัวล้านตัวก็ยังไม่เท่า เมื่อทำแล้วพ่ออาจารย์ท่านได้จารตะกรุดฝังด้านหลังไว้เรียกว่าตะกรุดนางกลับ ซ้ำยังได้นำมวลสารสำคัญบรรจุปลอดผนึกไว้ภายในด้วย
    - ตะกรุดนางกลับ หรือจะเรียกว่านางกลับใจก็เรียก ที่ว่าไม่รักก็เปลี่ยนกลับมารักมายินดี เอาว่าเปลี่ยนใจคนได้ท่านว่ารู้ไว้แค่นี้พอเพราะอานุภาพมันใหญ่มาก ที่ท่านลงตะกรุดนี้เพราะว่าครูพรหมนารทนั้นท่านสามารถเปลี่ยนใจคนได้ให้เค้าฟังเค้าเชื่อ ถึงขนาดที่ว่าแม้เป็นศัตรูไม่ชอบหน้ากันก็ยังต้องเชื่อฟังกัน ท่านว่าวิชานี้ทั้งสัมพันธ์และเสริมส่งกัน อะไรที่ร้ายจะได้กลับเป็นดี เอาว่าต้องดีและดีมากขึ้นกว่าเดิมด้วยปกาศิตแห่งครู ไม่ดีไม่เอา ไม่ดีไม่ได้ ตรงนี้ชีวิตใครมีเรื่องร้ายๆท่านว่าเป็นเรื่องง่ายๆไปเลย ถ้าจะใช้ทางเสน่ห์เมตตาเวลาพก ก็ให้อาราธนาบอกครูท่านเสียหน่อย เพราะถ้าไม่บอกอาราธนาพกเฉยๆอานุภาพจะเป็นไปในทางกลับร้ายกลายเป็นดี กลับสภาพปัจจุบันให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ในฐานะพ่อผู้เป็นมหาประชาบดีอันจะเป็นฐานเสริมส่งผลักดันลูกสืบไป
    - หลอดบรรจุผงเสน่ห์หน้าทัพ ในตะกรุดนางกลับทุกดอกจะมีผงเสน่ห์บรรจุอยู่ดุจว่าเป็นทัพหน้า เป็นแม่ทัพแห่งครูเสน่ห์ทั้งปวง ซึ่งหลอดบรรจุผงนี้พ่ออาจารย์ท่านจะม้วนทับด้วยตะกรุดนางกลับและผนึกเอาไว้ภายใน เนื่องด้วยเป็นมวลสารที่มีอาถรรพ์รุนแรง ท่านจึงเกรงว่าจะนำไปใช้กันไม่ถูกที่ถูกทางเป็นบาปกรรมแต่ตัวเอง จึงเพียงแต่ผนึกไว้เพ่อให้เอาไว้พกพาอาราธนาพอ ท่านว่าแค่พกก็แรงสุดๆแล้ว ซึ่งในหลอดนั้นจะบรรจุไปด้วยมวลสารสามสิ่ง คือ
    1. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ แต่เริ่มเดิมทีสมัยพ่ออาจารย์ท่านได้รับมอบผงพรายกุมารมาจากพระอาจารย์สาครนั้น ตอนนั้นท่านยังไม่ได้สร้างขุนแผนหรืออะไร ยังไม่ได้นำผงพรายกุมารไปใช้ทำอะไร ทำให้มีผงอยู่ในปริมาณหนึ่ง เมื่อท่านทำเหรียญตรีกาลจึงได้นำผงพรายกุมารชนิดหัวเชื้อมวลสารเข้มข้นมาบรรจุหลอดเรียกว่าในปริมาณมากพอตัว สามารถนำไปผสมสร้างพระได้นับร้อยนับพันองค์ ท่านบรรจุไว้ให้ทุกหลอดท่านว่าเอาเถอะ รู้เองเห็นเอง เมตตามหานิยม ทำมาหากินเจริญรุ่งเรื่อง เสน่ห์หลงรักปักใจ ของปลวงปู่ทิมท่านทำมาดีคุมมาดีแล้ว ใช้ได้
    2. กรับหินบรมครู แต่เดิมนั้นสายอ่างทองมักจะทำตะโพน ให้บูชาตะโพน โดยจะเรียกว่าครูตะโพน ซ้ำเวลาจะสร้างพระยังนิยมเอาดินหน้าตะโพนมาผสมเพื่อเป็นมวลสารที่ว่าแรงด้วยเสน่ห์เมตตามหานิยมสูงสุด ทั้งนี้เพราะเค้าไปเชื่อและยกย่องว่าครูตะโพนนั้นเป็นครูพระฤาษีนารอดนั่นเอง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำพรหมฤาษีนารทนั้น ท่านไม่ได้ใช้ตะโพน แต่ท่านใช้กรับหินบรมครู อันบรมพรหมนารทมุนีท่านชี้นิมิตรประทานให้ ท่านได้นำกรับหินนั้นมาตะไบเอาผงเพื่อบรรจุลงไปในหลอดมวลสาร ท่านว่าจะทำแล้วทั้งที ก็ใช้สัญลักษณ์ของท่านมาเป็นสื่อถึงองค์ท่านเสียเลย ท่านว่าแรงและเฮี้ยนด้วยฤทธิ์แรงครูเนื่องจากเกิดจากการสร้างสรรค์ของพระองค์ท่านโดยเฉพาะ เป็นของทิพย์ของครูอย่างแท้จริง ท่านว่าจะได้เป็นสื่อให้ทุกคนเข้าถึงครูอย่างสะดวกรวดเร็ว เอาแค่นี้พอ ให้บอกเขาว่าเมื่อเข้าถึงแล้วอยู่ด้วยกันแล้ว มันคือทุกอย่างจริงๆ ไม่ต้องไปอ้อนวอนอะไรอีกแล้ว เพราะท่านอยู่กับเราแล้วนั่นเอง
    3. สีผึ้งนางครวญ เป็นสีผึ้งที่ครูหมอแขกในอดีตอันได้หุงน้ำมันภูติพระเจ้า ซึ่งท่านได้แสวงหามวลสารว่านยาทางมหาเสน่ห์ล้วนๆแรงๆประกอบกับน้ำมันอันมีพรรรณคุณวิเศษมากมายมาหุงสร้างไว้ พ่ออาจารย์บอกว่าวิชาที่ท่านลงนี้แรงขนาด หลายๆวิชาล้วนแต่หายสาบสูญไปแล้วทั้งสิ้น เป็นสีผึ้งหัวเชื้อท่านว่าแม้เท่าปลายเข็มได้พกติดตัวไว้ก็มีอานุภาพมาก ใช้ทางเสน่ห์เมตตาได้สูงสุด เอาว่าวิชาเสน่ห์ครูแขกนั้นแรงหายห่วง แก้ยากเหลือใจ ท่านจึงจำเป็นต้องผนึกเอาไว้ เมื่อจะนำมาใช้ท่านได้บอกกล่าวครูบาอาจารย์นำสีผึ้งไปผึ่งแดดก่อนขอไฟสุริยะหลอมอีกครั้ง เนื่องจากเป็นของเก่าดั้งเดิมทำให้สีผึ้งแข็งดุจหิน

    คาถาบูชา
    โอม ฤฤา มหาฤฤา มหานาโร โธฮิโร กาเรฮิเร บันยังโดว์ เนวาตูซู ซูกาเดียงร์ ฮัม ฮัม โก โก


    * เหรียญตรีกาลพรหมฤาษีนารท(บรรจุผงเสน่ห์หน้าทัพ) พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ 14 องค์เท่านั้น ได้ปลุกเสกเชิญครู ทำวิชามาตก 4-5 ปีด้วยกัน เมื่อมีคนฝันถามเห็นครูนารทไปโปรด และให้มาบูชาครูกับพ่ออาจารย์พล ท่านจึงจะนำออกมาให้บูชากันเสียองค์หนึ่ง ทำให้มีพระเหลือเพียง 6 องค์เท่านั้น สำหรับท่านที่จะบูชาก็ให้ PM จองเอาไว้ได้เลย รายได้ร่วมสมทบทุนบูรณะพระเจดีย์ตามชนบทต่อไป

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2019
  20. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    เหรียญตรีกาลพรหมฤาษีนารท(บรรจุผงเสน่ห์หน้าทัพ)

    ปิดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...