ภูมิธรรมของมนุษย์..?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วรณ์นิ, 20 มิถุนายน 2019.

  1. แสน1

    แสน1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +160
    ยังยึดถือโลกธรรมแปด
    ย่อมไม่พ้นความเป็นมนุษย์
    ภพภูมิมนุษย์ มีทั้งสุขทั้งทุกข์
    ภพภูมิเทวดา มีแต่สุข
    สมมุติกับวิมุตติ
    ตัองแยกให้ออก
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ก็เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วจะต้องไปทำตนให้พ้นไปจากความเป็นมนุษย์ เพื่ออะไรครับ?
    แล้วที่ว่า พ้นจากความเป็นมนุษย์ได้ พ้นแล้วไปเป็นอะไรครับ.?
    เราเป็นมนุษย์แล้วอยากไปเป็นเทวดาเพื่อความสุข แค่นั้นหรือครับ.?
    ในความเป็นมนุษย์มันไม่มีความสุขเลย อย่างงั้นหรือครับ.?
    ถ้าได้ไปเป็นเทวดาแล้ว มันยังสามารถเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้อีกมั้ยครับ.?
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ประเตสไตยเรา นับเอาศาสนาพุทธยกขึ้นมาเป็น หนึ่งในสามสถาบันของชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของประเทศชาติ ก็น่าจะ กระทำการ อันเหมาะสม สมควร ให้การยกย่องนับถือ เข้มงวดกรวดขัน ในความเป็นสถาบันหนึ่งของชาติ ให้สมกับ ที่เป็นสถาบันของประเทศชาตินะครับ
    เช่น...
    มีวิชาพุทธศาสนาหรือชุมนุมพุทธศาสนาในทุกชั้นของ การเรียนชั้นประถมถึงมัธยม.(จนจบปริญญา เอาเป็นว่า มีวิชาพุทธศาสนาทุกระดับการศึกษา แม้ป.เอก).และ อย่างน้อย เด็กต้องผ่านการบวชเป็นสามเณร อย่างน้อย 1พรรษา ก่อนจบมัธยม.
    พอต่อจากมัธยมถึง ปริญญาตรี โท เอก ..ผู้ชายก็ต้องผ่านการบวชเป็นพระ อย่างน้อย 1พรรษา เช่นกัน.
    การที่ต้องมีวิชาพุทธศาสนาก็เพื่อ เรียนรู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ
    ส่วนใครที่นับถือศาสนาอื่น ก็ ให้ ไปทำกิจกรรมของศาสนาของตน

    ในคุก...ให้นักโทษ ที่ต้องขัง ต้องบวช อย่างน้อย ทุกปี ปีละพรรษา ใครติด ห้าปี ก็บวช ห้าพรรษา แต่ วัดต้องแยกเป็นส่วนราชทัณฑ์
    ..
    ทีนี้ ..ก็ต้องมีการเข้มงวด พระทั่วประเทศ โดยเฉพาะ เรื่อง การอัดถั่วดำกัน ต้องดูแลเป็นพิเศษ ทุกระดับเลย เพราะ ..มันฉาวโฉ่กันมากเรื่องแบบนี้

    คนที่บวชพระครั้งแรก ต้องอยู่ในวัดส่วนกลางของรัฐ ..จะยังออกรับงานไม่ได้

    คือว่า...ต้อง สแกน ให้พระเป็นพระจริงๆ..น่ากราบไหว้นับถือ..ไม่ไข่พระหนีคดี พระหาเงิน พระหากินในเตรื่องแบบ
    เราควร เคร่งครัด เพื่อความ เป็น หนึ่งในสามของสถาบันของประเทศชาติ
    ใครที่ไม่ผ่านการบวชเณร บวชพระ ก็แต่งงานไม่ได้ ทำงานราชการไม่ได้ อะไรแบบนี้

    ทีทหารยังต้องเกณฑ์เลย..

    ผมว่า ถ้า ประเทศชาติเรา มีสถาบันพุทธศาสนาที่เจ้มแข็ง..
    ก็คงจะเป็น ผู้นำโลกได้แน่ๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2019
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ทำไม ถึงมีการห้ามพระ อยู่ในที่รโหฐาน ในที่ปิดมิดชิด
    ก็เพื่อเป็นการป้องกัน การแอบอัดถั่วดำ เสพยาบ้า แอบทำการลับต่างๆนั่นเอง
    ในเมื่อพระคือผู้สละทางโลก ก็ไม่ควรสะสม ทรัพย์
    และจะต้อง มี ยาม ทหารตำรวจ เฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัย ให้

    ได้ยินเรื่อง สามเณรอัดถั่วดำ พระอัดถั่วดำ .แล้ว มันเศร้าใจ
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แทบไม่อยากจะกราบพระ กลัวเจอพระปลอมๆ พวก พระตุ๊ด พระแต๋ว พระเกย์ พระหนีคดี พระเสพยาเสพติด พระหาเงิน

    ไหนๆก็เป็นถึงสถาบันของประเทศชาติ ดูแล้ว ไม่น่าเชื่อถือเลยเนาะ
     
  6. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    พื้นฐานมนุษย์ ก็ศีล 5

    เครื่องตรวจสอบความดีความชั่วของผู้อื่นได้ ผมมองว่าก็อญิญญานี้หละ
    มันเลยเรื่องความเป็นปรกติของมนุษย์ธรรมดาไปแล้ว ไปเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ

    การรู้อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด นั้นเพียงแต่รู้ จิตขณะนี้เป็นกุศลหรืออกุศล
    ก็เพียงแต่อยู่ในความเชื่อเรื่อง บาปบุญคุณโทษ
    แต่ก็ยังพิสูจน์ด้วยตนเองไม่ได้เลยว่า นรก สวรรค์ ที่เชื่ออยู่นั้น ความจริงนั้นเป็นอย่างไร

    ความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญาต้องอาศัยการพิสูจน์ให้เห็นจริง
    ไม่ใช่ว่าใช้แต่ความเชื่อสืบต่อกันมาจากท่านต่างๆที่เราเคารพ

    การจะให้มนุษย์ใช้ชีวิตแบบเหมาะสมถูกต้องตามธรรมกันหมด
    นั้นมันเป็นอุดมการณ์ เพราะในแง่ความเป็นจริง ไม่มีใครเดินไปหน้าร้านเหล้าแล้วบอกให้ทุกคน
    เลิกดื่มเหล้าซะนะ แล้วคนที่ดื่มอยู่นั้นจะเลิกแยกย้ายทำตามคำสั่งกันหมด
    ไม่ใช่ว่าอะไรๆก็จะให้มาอยู่ภายใต้บังคับบัญชา

    แม้จะปราถนาดีแต่ก็ไม่ควรให้ถึงขนาดไปเป็น เผด็จการซะเองครับ

    DKn7Hx0UMAAE0vF.jpg
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ก็มันพากันทำไม่ถูกต้องนี่ไงครับ

    จะห้ามคนไม่ให้ดื่มเหล้า แต่ดันมีร้านขายเหล้า มีโรงงานผลิตเหล้า
    มันทำถูกตรงไหนล่ะ..?

    ทุกสังคม ล้วนมีกฏระเบียบข้อบังคับ..วินัย ศีล..ล้วนเป็นเผด็จการทั้งนั้น
    ...
    ทุกวันนี้คนไม่เกรงกลัวกฏหมาย...ไม่เกรงกลัวนรกสวรรค์...ทั้งที่รู้ว่า กฏแห่งกรรมมีจริง..แต่มันพากันปฏิบัติตาม ..เพราะคนหมู่มากยังไม่กลัว แม้พระ ยังทำผิด...แล้วประชาชนตาดำๆ ..จะรอใครมาให้ความยุติธรรมล่ะ

    ที่ทุกคนกล้าทำผิด ก็เพราะ...คนส่วนมาก มันเห็นแก่ตัวมาก่อนไง
    ปากท้อง ความพอใจมาก่อนความถูกต้อง

    แก้ปัญหาไม่ถูก มีชีวิตพากันอยู่แบบสร้างแต่ปัญหา
    ชีวิต สังคม บ้านเมือง มันก็เลย..ผิดธรรมชาติกันไปหมด
     
  8. Old-123

    Old-123 ลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอโทษด้วยผมโง่เกินกว่าที่จะเข้าใจภาษาของคุณ
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    อืม พูดตรงดี..ไม่เข้าใจ ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษหรอก
    แค่คุณเข้ามาอ่าน ก็ดีแล้วครับ..

    ที่จริงที่คุณไม่เข้าใจไม่ไช่ที่ภาษาหรอก แต่ ไม่เข้าใจในเจตนาของผม มากกว่า....

    เจตนาของผมมันกว้างเกินไป...ต้องไม่คิดตาม แต่ให้คิด แค่ที่ตัวเองพอ
    คือ มองรอบข้าง เพื่อ ส่องดูตัวเองให้ชัดเจน ว่า ตนเอง จะเป็นแบบไหน
    จะเป็นตนเอง หรือเป็นตามคนรอบข้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2019
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    คุยยาวเลย ถ้าคิดต่อ
    ไม่ต้องคิดหรอก
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    ===========================================
    +++ ภูมิ = ดินแดน, สถานที่, มิติ, หยาบ/ละเอียด
    +++ ธรรม = phenomenon = รู้ด้วยอาการ "รู้สึกรู้" ที่ไม่ได้ อ้างด้วยเหตุผล หรือ สังหรณ์ (Any state or process known through the senses rather than by intuition or reasoning)
    +++ มนุษย์ = เป็นสัตว์ เดินด้วย 2 ขา ในยามเคลื่อนตัว "หัวกับลำตัว จะไปพร้อม ๆ กัน" จำกัดที่ "คุณลักษณะ" แต่ ไม่จำกัด "เผ่าพันธ์"
    ===========================================
    +++ น้าจรพูดได้ดี ตรงนี้เป็นสิ่ง "ควรทำ" แต่คนที่จะทำกลับ หาได้ยาก

    +++ ภูมิธรรม คือ อาการ "รู้สึกรู้" สภานะแห่ง "เครื่องอยู่" ของจิต เรียกว่า "ภูมิจิต" ก็ได้
    +++ อีกนัยหนึ่ง ก็คือสิ่งที่ทางพระปฏิบัติเรียกกันว่า "วิหารธรรม" นั่นเอง (ธัมมานุปัสสนา สติปัฏฐาน)
    +++ ผู้ที่จะทำตรงนี้ได้ "ขั้นต่ำ ต้องเป็นมนุษย์ ขึ้นไป"
    +++ ใช่เลย มนุษย์ที่ "ทำ" ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ได้ ย่อมเข้าใจใน "ภูมิธรรมของมนุษย์"
    +++ น้าจร น่าจะผ่านตรงนี้มาแล้วด้วยซ้ำ จริง ๆ นะ
    +++ ภูมิจิต/ภูมิธรม ที่อิงอยู่กับ "ตัวมนุษย์" (สติปัฏฐาน กาย/เวทนากาย) เป็น "ภูมิธรรมของมนุษย์"
    +++ ภูมิจิต/ภูมิธรม ที่อิงอยู่กับ "ความเป็นตน" (สติปัฏฐาน จิต/เวทนาจิต) เป็น "ภูมิธรรมที่ ไม่จำกัด ที่มนุษย์เพียงอย่างเดียว"
    +++ ผมว่า "น้าจร น่าจะผ่านมานานแล้วนะ" ตรง "รู้สึกรู้ ทั้ง กาย+จิต" (phenomenon of body and soul)

    +++ ไม่ต้องไปวุ่นวายกับ ภาษาอังกฤษนะ ผมแค่เผื่อให้กับ ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ เท่านั้น
     
  12. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ "สงฆ์" คือ ผู้ที่ "ใส่เครื่องแบบพระสงฆ์" จำกัดโดย "รูปแบบ" เท่านั้น
    +++ ดังนั้น ตรงนี้จึงเป็น "เพียงแค่ รูปแบบสมมุติ"
    +++ ผู้ที่ "ใส่เครื่องแบบพระสงฆ์" คือ ผู้ที่ถือครอง "บทสิกขา 227"

    +++ ส่วนสงฆ์สาวกของ พระพุทธเจ้า คือ "บุรุษคู่ 4 บุคคล 8" เท่านั้น นอกนั้น "ไม่ใช่"
    +++ ผู้ที่ "ใส่เครื่องแบบพระสงฆ์เฉย ๆ" ที่ไม่ใช่ "บุรุษคู่ 4 บุคคล 8" จึงเป็น "เพียงแค่ รูปแบบสมมุติ"

    +++ ส่วนสงฆ์สาวกของ พระพุทธเจ้า คือ "บุรุษคู่ 4 บุคคล 8" นั้น
    +++ จะใส่ "เครื่องแบบ" หรือไม่ก็ตาม ก็คงเป็น สงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า อยู่ดี

    +++ เนื้อหาของ "สมมุติ/สัจจะ สงฆ์" ขอวางไว้เพียงแค่นี้
    ===========================================
    ปาราชิก เป็นชื่ออาบัติหนักที่ภิกษุต้องเข้าแล้วขาดจากความเป็นภิกษุ,
    เป็นชื่อบุคคลผู้ที่พ่ายแพ้ คือ ต้องอาบัติปาราชิกที่ทำให้ขาดจากความเป็นภิกษุ,
    เป็นชื่อสิกขาบท ที่ปรับอาบัติหนักขั้นขาดจากความเป็นภิกษุ
    มี ๔ อย่าง คือ เสพเมถุน ลักของเขา ฆ่ามนุษย์ อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน

    อุตตริมนุสสธรรม ธรรมยวดยิ่งของมนุษย์, ธรรมของมนุษย์ผู้ยอดยิ่ง,
    ธรรมล้ำมนุษย์ ได้แก่ ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรคผล,
    บางทีเรียกให้ง่ายว่า ธรรมวิเศษ บ้าง คุณวิเศษ หรือ คุณพิเศษ บ้าง
    (พจนานุกรมเขียน อุตริมนุสธรรม)

    ต้นฉบับที่มา
    http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CD%D8%B5%C3%D4%C1%B9%D8%CA%B8%C3%C3%C1&detail=on
    ===========================================
    +++ ในเรื่อง "อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน" นั้น อาบัติหนัก
    +++ ผู้ที่ "ใส่เครื่องแบบพระสงฆ์" จะเป็น "ปาราชิก" ทันที
    +++ ผู้ที่แสดง "อุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน" นั้น ย่อม "รู้ชัด" อยู่แล้วว่า "ตนโกหก"
    +++ และ การโกหกนั้น เป็นการ "โกหกขนาดหนัก" ในระดับขาดออกจาก "เครื่องแบบสงฆ์"
    +++ เรียกว่า "สมมุติว่าเป็นสงฆ์ยังไง ก็สมมุติไม่ออก" นั่นแล....

    +++ หาก "สงฆ์" มานั่งโกหกพกลม แบบ นักการเมือง เมื่อไรก็เมื่อนั้น "ศาสนา" ย่อม "พัง" แน่นอน
    +++ และนี่คือ "การทำลายศาสนา" ที่แท้จริง กรรม/วิบาก ของการทำลายศาสนา ให้ไปค้นคว้าเอา
    +++ เรื่อง ผู้ที่ "ใส่เครื่องแบบพระสงฆ์" แล้วมานั่ง "อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน" นั้น คงวางไว้แค่นี้

    +++ ครูบาอาจารย์ท่านจึง "บอกมรรค วิธีทำ" ไว้เป็นหลัก แต่จะ "ไม่บอกผล" ออกมา
    +++ ท่านให้ศิษย์ หาทางทำ "โอปนยิโก" เอาด้วยตนเอง ผู้ที่ทำได้ ก็จะได้ "พยานธรรม" ด้วยตนเอง


    +++ ส่วนผู้ที่เน้นย้ำว่า "ให้ดูที่ผลลัพธ์ จะดีกว่าอย่าไปดูที่ วิธีการ" นั้น
    +++ คือผู้ที่ "กำลัง บ่อนทำลาย พระพุทธศาสนา" อย่างเต็มตัว

    +++ และการ "โฆษณาผลลัพธ์" โดยไม่เคยบอก "วิธีการ" นั้น
    +++ จัดเป็น "อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน" เต็มตัว ไม่เป็นอย่างอื่น
    +++ วิสัชชนา ไปพอสมควรแล้ว แค่นี้ก่อนนะ
    +++ น้าจร ปรับปรุงทัศนคติ ได้รวดเร็วดีจริง ๆ นะ
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    อืม..ประโยคสุดท้ายที่ชมผม ว่าปรับปรุงทัศนคติได้รวดเร็ว...
    ก็ จะพยายามไม่.ต่อว่าใครตรงๆละ กลัวเขาจะรับไม่ได้
     
  14. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ยิ่งอ้อม ยิ่ง "ไม่รู้เรื่อง" กลายเป็น "สภากะลาวน" วัฏฏะไม่รู้จบ
    +++ เส้นตั้งฉาก คือ เส้นที่สั้นที่สุด
    +++ อือ... แต่บางที มันกลายเป็น "ขวานผ่าซาก" เอาได้เหมือนกันเนาะ
    +++ แล้วแต่ "สถานการณ์" ก็แล้วกันนะ น้าจร
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    เมื่อคืน.นอนวิจัยเรื่อง...นามรูป..ของจักรวาลของวัฏะสงสารทั้งหมด
    วิจัยเล่นๆน่ะ
    ได้ว่า....รูปทั้งหมด ที่ อายตนะรับรู้ ถ้าไม่มีนามเป็นเครื่องรับรู้ รูปทั้งหมดก็ไม่มีอยู่จริง.....พอมาวิจัยลงที่นาม..ที่เป็นเครื่องรู้ ถ้านาม ในตอนที่ผมวูบ มันหดเล็กลง หลุดจากร่างกาย หดวูบตกไปที่ภวังค์...ตรงนั้น..เป็นจุดเล็กๆ อันนิดเดียว..ทีนี้ถ้านามตรงจุดนี้ มันถูก..ทำลายได้ (แต่ตอนนี้ผมเข้าใจว่าทำลายไม่ได้) ที่ทำลายไม่ได้เพราะ นามนี้ มันถูกสร้างมาจาก การระเบิดธาตุ เกิดจากแสง..เราทำได้แค่ ..ปล่อยวางมันไป พ้นจากมันได้ด้วยเพราะ หมดอวิชชา หมดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวเป็นตนมีตัวมีตน

    ทีนี้ ..ถ้าตัวผมเอง ..รูปไม่มี นามไม่มี...มโนธาตุรู้ มันย่อมต้องกลับคืนสู่ต้นกำเหนิดแห่งแสงของมัน นั่นคือ ภายในดวงอาทิตย์..ผมวิจัยมาได้แบบนี้
     
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ทีนี้ ในตอนที่ผมวูบไป นามรู้ มันปล่อยกาย หดวูบเล็กลง ไปตกที่ภวังค์นั้น

    นั่นเพราะว่า ผมยังไม่ตาย ยังไม่หมดอายุขัย..นามตัวนั้นจึง หดวูบไปตกที่ถวังค์ แทน....สมมุติว่าถ้าผมตายจริง ..นามตัวรู้ตัวนี้ ก็น่าจะหดวูบดับลง ..แวบเข้าไปในใจกลางของดวงอาทิตย์...หมดแสงในตัว

    แสงคือ เครื่องรู้ คือนาม ผู้สร้างรูป....การดับนามก็น่าจะเป็นการดับแสงในตัว แปลว่า ดับรู้ในตัวเอง...ผมวิจัยได้แบบนี้
     
  17. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    เช่นในสมัยเด็กที่ผมเคยนั่งสมาธิ
    ดูลมเข้าออก ..จนลมหาย..จนกายระเบิดหาย...เหลือเพียง ความสว่าง ที่ไร้ตัวตน มีแต่รู้...รู้ท่ามกลางแสงสว่าง..รู้ที่เบาบางสบาย

    ทีนี้ มาเปรียบเทียบว่า จิตรู้ จริงๆ ตัวตนของมันคือแสง...
    ถ้าจะดับจิตรู้ตัวนี้ ก็คือ ต้องดับแสง เหมือน ...ปิดสวิทไฟ มืดตึ๊บ..
    แปลว่า นี่คือ การพ้นจากการรู้ ...พ้นจากวัฏะสงสาร..
     
  19. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    คุกตะรางมันเป็นเรื่องของภพมนุษย์ เมื่อหมดแล้วในภพนี้ ก็มีแต่เรื่องของมโนจิต นรก สวรรค์ พรหม นิพพาน บางคนคิดว่าก่อนตายถ้าทำฌานได้จะพ้นนรก บอกเลย ฌานที่พ้นนรกเป็นโลกุตรฌาน เป็นฌานของพระอริยะเจ้า ฌานธรรมดาที่คิดกันไม่พ้นนรก เพราะว่า ที่คิดว่าเป็นฌานมันไม่ใช่ และไม่มีวันสำหรับผู้ไม่เข้าถึง
     
  20. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    บนโลกนี้เขาวัดดีชั่วยังไง ก็เท่าที่เห็น ใครสร้างภาพสวยปกปิดได้ดี เห็นแต่ด้านดี ยอมรับว่าดี มโนจิตจะไม่มีวันหลอกกันได้ มันจะแสดงออกมาเอง มันวัดแบบเดียวกันแต่มันปกปิดไม่ได้ จึงต้องวัดกันที่ ดีกับชั่วที่มีอันไหนทำให้ทุกข์ที่ตนและผู้อื่นกว่ากัน บ้างว่าทำบุญมากจะพ้นทุกข์ แต่บุญนั้นสนองแต่ตนเอง บาปกรรมที่กระทำ ทำต่อบุคคลมากหลายนับไม่ได้ ดังเช่นนักการเมืองบางคน เป็นอาทิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...