*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1023 ชานหมาก หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
    หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ย่นย่อแผ่นดิน ได้อย่างน่า อัศจรรย์
    เรื่องราวอภินิหารของ หลวงปู่สรวง มีมากมาย แต่ท่านหนึ่งซึ่งได้พบเห็นและสัมผัสมากับตัวเองคือ อาจารย์ จำเริญ ดวงใจ อดีตข้าราชการครู ผู้เดินตาม หลวงปู่สรวง มานานหลายปี ได้พบเห็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่มากมาย และบางส่วนได้บันทึกไว้ใน หนังสือ หลวงปู่สรวง ฉบับรวมเล่ม ครั้งที่ 1 จนเป็นที่ฮือฮามาแล้ว อีกหลายเรื่องได้เขียนขึ้นหลังจาก รวมเล่ม ครั้งที่ 1 ออกไปแล้ว จึงได้นำมารวมไว้ใน ฉบับรวมเล่ม ครั้งที่ 2 อีกมากมายหลายเรื่อง เรื่อง หลวงปู่สรวง ย่นย่อแผ่นดิน เป็นหนึ่งในหลายเรื่อง ที่เพิ่มไว้ใน ฉบับรวมเล่ม ครั้งที่ 2 ซึ่งขณะนี้วางตลาดแล้ว จึงนำมาเสนอเป็นตัวอย่างไว้ ณ โอกาสนี้

    ย่นระยะทาง หรือ ย่นย่อแผ่นดิน
    การทำมาหากินของชาวบ้านในสมัยก่อนนั้น อาชีพหลักคือ ทำนา ส่วนทำไร่ก็จะเป็นไร่ข้าว การทำนาก็ทำกันเพียงแค่ใช้บริโภคกันในครอบครัว ไม่ได้ทำเพื่อขายเหมือนในปัจจุบัน ที่ทำกินก็มีน้อย ที่นาก็เฉพาะที่ลุ่มรอบหมู่บ้าน ถึงแม้จะมีที่ดินที่เป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีใครจับจองเป็นเจ้าของ ก็ไม่ค่อยมีใครไปถากถางเป็นเจ้าของกัน เพราะเห็นว่าที่ดินตรงนั้นมันสูงไป ไม่เหมาะในการทำนาปลูกข้าว ที่ไปถางปลูกข้าวก็เพื่อช่วยให้มีข้าวกินในช่วงก่อนที่ข้าวนาปีจะออกรวงเท่านั้น
    918p6.2.jpg บริเวณที่ถางทำไร่ก็ไม่ได้ถากถางมีขนาดกว้างขวางหรือใหญ่โตอะไรกันมากนัก ส่วนมากแล้วก็พอใช้ข้าวพันธุ์ปลูกหมดประมาณ 1 กะเพาะ (1/2 กะเฌอ) ถ้าปลูกข้าวพันธุ์หมด 1 กะเฌอ ถือว่าเป็นไร่ที่ใหญ่ได้ข้าวมาก การปลูกข้าวไร่นี่ ชาวบ้านจะปลูกข้าวโพดและแตงโมพันธุ์พื้นเมืองสลับ กลางไร่ก็จะปลูกกระท่อมไว้เป็นที่พักหุงหาอาหารกินกันในตอนกลางวัน พอตกเย็นก็จะเก็บผักหักฟืนแบกกลับบ้าน เป็นอยู่อย่างนี้ชั่วนาตาปี
    ชาวบ้านโคกสูง ตำบลกันทรารมย์ ก็เหมือนกัน ที่ทำนาก็เป็นที่ลุ่มข้างหมู่บ้านติดกับห้วยสำราญ การทำนาต้องอาศัยธรรมชาติ ปีไหนฝนตกดี มีฝนตกตลอดฤดูกาลก็จะได้ผลผลิตดี ถ้าฝนตกน้อยก็ถือเป็นกรรมของชาวบ้าน เพราะไม่มีที่กักกันน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกได้เลย น้ำที่ไหลบ่ามาจากภูเขาท่วมทุ่งนาอยู่ 2-3 วัน ก็ไหลผ่านเลยไปทางทิศเหนือลงห้วยสำราญ ผ่านจังหวัดศรีสะเกษลงแม่น้ำมูล พัดไปทางด้านทิศตะวันออกเชื่อมแม่น้ำโขงที่จังหวัดอุบลราชธานี แล้วก็ไหลผ่านประเทศลาว ประเทศเขมร ลงสู่ทะเลไป
    พระสงฆ์ตามวัดในชนบทเป็นที่เคารพนับถือพึ่งพาของชาวบ้านในด้าน ศาสนา การศึกษา ความรู้เรื่องยา ประเพณีและวัฒนธรรม เจ้าอาวาสจะเป็นผู้ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือยำเกรง เป็นผู้เก่งกล้าในการปฏิบัติธรรม รวมทั้งโหราศาสตร์และวิชาอาคม ใครเดือดร้อนอะไรก็จะวิ่งไปหาท่าน ให้ช่วยบำบัดปัดเป่าให้ ต่างก็พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน พระภิกษุเป็นผู้สละความสุขทางโลกไปศึกษาพระธรรมวินัยและสืบทอดศาสนาอยู่ที่วัด ไม่ได้ทำไร่ไถนา ชาวบ้านก็ตอบแทนพระคุณท่านโดยการถวายข้าวปลาอาหาร และบริจาคปัจจัยบำรุงพระพุทธศาสนา เมื่อชาวบ้านเดือดร้อน ฝนไม่ตกข้าวปลาอาหารไม่บริบูรณ์ การขบฉันของพระสงฆ์ในวัดก็พลอยฝืดเคืองตามไปด้วย
    ปีนั้นฝนตกน้อย ชาวบ้านไม่มีน้ำทำนา จึงได้ไปปรึกษาหารือกับเจ้าอาวาสวัดโคกสูง เล่าถึงความเดือดร้อน จากการที่ไม่มีน้ำทำนา คงจะเดือดร้อนกันแน่ๆ เพราะฝนไม่ตกติดต่อกันมาหลายปี ท่านเจ้าอาวาสวัดโคกสูงได้พิจารณาแล้วเห็นว่า มีทางเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือ ช่วยกันกั้นทำนบดิน ในห้วยสำราญ แต่เนื่องจากน้ำลึกและกว้างคงต้องใช้แรงงานมาก และจะต้องเร่งเวลาให้เสร็จก่อนที่จะมีน้ำหลากมา ลำพังใช้แรงงานบ้านโคกสูงคงไม่ทันแน่นอน จะต้องหาแรงงานข้างนอกมาช่วย ท่านเจ้าอาวาสเห็นว่ามีทางหนึ่งที่จะช่วยตอบแทนข้าวปลาอาหารชาวบ้านได้คือ ใช้แรงงานของพระสงฆ์ในวัด แต่ลำพังวัดโคกสูงก็มีพระไม่กี่รูป จึงได้ขอไปทางเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์ ขอแรงพระจากวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงไปช่วย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากวัดต่างๆ เป็นอย่างดี
    ในการกั้นทำนบหรือเขื่อนดินขนาดเล็กของบ้านโคกสูงในครั้งนี้ วัดตะเคียนราม ก็ได้รับการขอกำลังพระ-เณรให้มาช่วยด้วย หลวงพ่อสาย ตอนนั้นยังเป็นเณรก็ได้มาช่วยกับเขาด้วย ในครั้งนั้นมีพระและสามเณรรวมทั้งชาวบ้านได้มาช่วยกันเป็นจำนวนมาก ระดมกำลังกันทำงานทั้งกลางวัน-กลางคืน หยุดพักบ้างเฉพาะเวลานอนเท่านั้น นอกจากพระภิกษุ-สามเณรแล้ว ผู้ใหญ่บ้านใกล้เคียงก็ได้ส่งลูกบ้านเข้ามาช่วยด้วย โดยการจัดหาอุปกรณ์และอาหารการกินมาพร้อม พระ-เณร ส่วนหนึ่งมีหน้าที่หาบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งตามหมู่บ้านต่างๆ มาเป็นเสบียง พอสายหน่อยใกล้จะเที่ยงชาวบ้านที่ทำงานแบ่งกำลังออกทอดแหหาปลาในห้วยมาประกอบอาหารกลางวัน เป็นงานที่ชาวบ้านมีความสามัคคีทำงานกันด้วยความสนุกสนาน ไม่ต้องมีค่าแรงงาน แต่ก็เต็มใจมาทำงานกันอย่างเต็มที่โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย กำลังหลักในการควบคุมงานในครั้งนี้ได้แก่ เจ้าอาวาสจากวัดต่างๆ และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการกั้นทำนบหรือเขื่อนดินนี้ ก็ใช้จอบและปุ้งกี๋ ปุ้งกี๋นี้สานด้วยไม้ไผ่ใช้หิ้วหรือหาบด้วยไม้คาน ขุดดินใส่แล้วถ้าจุดที่ขุดดินอยู่ไกลก็ใช้วิธีหาบเอา ผลัดกันขุดและผลัดกันหาบ เอาดินไปเทลงตรงที่กั้นเขื่อน จุดที่กั้นเขื่อนก็เลือกเอาตรงที่เมื่อกั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นที่ที่กระจายน้ำออกไปใช้ประโยชน์ทั้งสองฟากห้วยได้เป็นอย่างดี ตัวเขื่อนหรือตัวทำนบนี้ ก็จะหาไม้แก่นขนาดยาวใหญ่พอสมควร ประมาณเท่าเสาบ้าน ความยาวมากกว่าความลึกของห้วย เมื่อฝังปักแน่นลงไปในห้วยแล้วสูงเกินกว่าฝั่งห้วยนิดหน่อย โดยปักเป็นแนวเส้นตรงทั้งสองด้านสองแถว เมื่อเทดินลงตรงกลางไปแล้วสามารถกั้นดินอยู่ได้ด้วย การเทดินก็จะเริ่มต้นจากฝั่ง เทติดต่อกันไปเรื่อยๆ เมื่อเทดินลงแต่ละครั้งก็จะหยียบดินอัดแน่นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแล้วเสร็จ 918p6-4.jpg ในการกั้นทำนบหรือเขื่อนดินขนาดเล็กของบ้านโคกสูงในครั้งนี้ วัดตะเคียนราม ก็ได้รับการขอกำลังพระ-เณรให้มาช่วยด้วย หลวงพ่อสาย ตอนนั้นยังเป็นเณรก็ได้มาช่วยกับเขาด้วย ในครั้งนั้นมีพระและสามเณรรวมทั้งชาวบ้านได้มาช่วยกันเป็นจำนวนมาก ระดมกำลังกันทำงานทั้งกลางวัน-กลางคืน หยุดพักบ้างเฉพาะเวลานอนเท่านั้น นอกจากพระภิกษุ-สามเณรแล้ว ผู้ใหญ่บ้านใกล้เคียงก็ได้ส่งลูกบ้านเข้ามาช่วยด้วย โดยการจัดหาอุปกรณ์และอาหารการกินมาพร้อม พระ-เณร ส่วนหนึ่งมีหน้าที่หาบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งตามหมู่บ้านต่างๆ มาเป็นเสบียง พอสายหน่อยใกล้จะเที่ยงชาวบ้านที่ทำงานแบ่งกำลังออกทอดแหหาปลาในห้วยมาประกอบอาหารกลางวัน เป็นงานที่ชาวบ้านมีความสามัคคีทำงานกันด้วยความสนุกสนาน ไม่ต้องมีค่าแรงงาน แต่ก็เต็มใจมาทำงานกันอย่างเต็มที่โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย กำลังหลักในการควบคุมงานในครั้งนี้ได้แก่ เจ้าอาวาสจากวัดต่างๆ และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านด้วย

    อาหารการขบฉันของพระภิกษุ-สามเณรในครั้งนี้ได้จากชาวบ้านและจากการไปบิณฑบาต แต่เนื่องจากมีพระมาจากหลายวัด จึงต้องหาอาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในทุ่งนาและป่าข้างหมู่บ้าน เช่น ผักติ้ว ผักสะเดา ผักกระโดน ผักแว่น ผักกระเฉด ผักอีฮิน ผักกะแยง ผักเม็ก แพงพวยน้ำ รวมทั้งที่ใช้ใบแกงได้ เช่น ขี้เหล็ก เพื่อนำมาทำอาหารเสริมให้ได้ฉันเพียงพอกับจำนวนพระ-เณรที่มาช่วยกั้นทำนบ
    แกงขี้เหล็ก เป็นอาหารที่จัดทำเป็นประจำ เพราะหาง่าย ใบขี้เหล็กอ่อนเก็บเอาจากต้นข้างๆ ห้วย เอามาต้มรินเอาน้ำออก 2-3 ครั้งให้หมดรสขม โขลกในครกให้ละเอียด แช่ข้าวสารตำใส่ใบย่านาง หัวกระชาย ใส่ปลาจ่อม (เตร็ยปรัย ปลาคลุกเกลือ หมักใส่ข้าวคั่วเก็บใส่ไหไว้รับประทานได้นาน) ปลาร้า (ประฮก) แกงใส่กะทิมะพร้าว ปรุงรสด้วยเกลือและพริกแกง ผู้รับภาระในการแกงนี้ส่วนมากเป็นหน้าที่ของพระ-เณรและคนแก่ ที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงพอจะช่วยงานหนักได้ เมื่อปรุงอาหารสุกเรียบร้อยแล้วก็จะจัดอาหารออกเป็นสองกลุ่ม จัดถวายพระภิกษุกลุ่มหนึ่งและสามเณรกลุ่มหนึ่ง เมื่อพระฉันเสร็จแล้วอาหารที่เหลือก็เป็นชาวบ้านและศิษย์วัดมาล้อมวงรับประทานกัน

    1125p3-4.jpg วันหนึ่งในขณะที่บรรดาชาวบ้านและสามเณรที่มีหน้าที่ปรุงอาหาร กำลังสาละวนอยู่กับการแกงขี้เหล็กอยู่ ตั้งหม้อแกงแล้วก็จัดการหาเครื่องปรุงใส่ แต่วันนี้เครื่องปรุงไม่ครบ ขาดปลาร้าที่จะช่วยชูรส มีแต่เกลือและปลาจ่อมใส่บ้างเล็กน้อยเท่านั้น

    " ได้อะไรแกง พระคุณเจ้า " เสียง หลวงปู่สรวง ถามมาจากข้างหลัง ท่านเดินเข้ามาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เพราะมัวแต่สาละวนกับการแกงขี้เหล็กอยู่
    " แกงขี้เหล็ก หลวงปู่ " (สะลอ อังกัญ ลูกตา คำว่า ลูกตา ใช้เรียกยกย่องพระอาวุโส มีความหมายเท่ากับ หลวงปู่ หรือ หลวงตา ในภาษาไทย)
    " มีอะไรใส่ด้วยล่ะ " หลวงปู่สรวง ท่านถามอีก

    " ไม่มีอะไรใส่หรอกหลวงปู่ วันนี้แกงใส่เกลือเฉยๆ " เสียงตอบจากพระ-เณรที่ยืนอยู่รอบหม้อแกง คอยกวนหม้อแกงขี้เหล็ก กลัวจะติดหม้อและมีกลิ่นไหม้ รับประทานไม่อร่อย
    " จำ บานเต็ก เยิงนึง เต็อวยัว ประฮก เตร็ยกรีม มัวออยดัก " หลวงปู่สรวง บอกให้คอยเดี๋ยวจะไปเอา ปลาร้า ปลาย่าง มาให้ใส่
    หลวงปู่สรวง เดินออกไป พอเดินเลยจอมปลวกที่มีต้นสาบเสือบัง พวกที่มองตามไปนิดหนึ่ง ท่านก็หายไป พวกที่ยืนอยู่ชะเง้อมองตามหาหลวงปู่ หายไปไหนรวดเร็วแท้ สักครู่หนึ่ง หลวงปู่สรวง ท่านก็กลับมา พร้อมกับหาบสัมภาระบนบ่ามาด้วยพะรุงพะรัง เอามาวางต่อหน้าพระ-เณรที่อยู่ข้างหม้อแกง ในตะกร้าที่หาบมานั้นเป็นปลาร้าและปลาแห้งบรรจุอยู่เต็ม ทำให้ผู้อยู่ในที่นั้นซึ่งมี หลวงพ่อสาย รวมอยู่ด้วยแปลกอัศจรรย์ใจไปตามๆ กัน
    " เอานี่! ปลาร้ากับปลาเค็ม เอาใส่แกงซะ จะได้มีรสชาติดีขึ้น " เสียง หลวงปู่สรวง ดังขึ้น ทำให้ผู้คนพระ-เณร หายจากอาการตกตะลึง และถามหลวงปู่ว่าเอาของเหล่านี้มาจากไหน ได้ความว่าท่านเอามาจากประเทศเขมร เอามาจากทะเลสาบ (ทะเลสาบ ในประเทศเขมร มีปลาชุกชุมมาก ชาวประมงเขมร นิยมทำประฮกและปลากรอบ ไว้รับประทานได้นาน) ปลาร้าและปลาแห้งที่ หลวงปู่สรวง เอามาครั้งนี้ใช้รับประทานได้ถึงเกือบหนึ่งเดือน
    เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาในหมู่ผู้ที่ไปร่วมทำงานกันนานทีเดียว อัศจรรย์ ในคุณวิเศษว่า หลวงปู่สรวง ไปประเทศเขมรและกลับมาได้อย่างไร ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
    เกี่ยวกับ การย่นระยะทาง หรือ ย่นย่อแผ่นดิน นี้ หลวงปู่สรวง เคยทำให้ดูหลายครั้ง ถ้าเดินตามหลวงปู่แล้วจะหยุดปัสสาวะหรือบังต้นไม้ไม่ได้ หลวงปู่ จะทิ้งไปไกล หรือไม่ก็หายไปเลย

    หลวงปู่สรวง ได้แสดงปรากฏให้เห็นอีกในราวปี พ.ศ.2518-2519 เป็นปีที่พบ รอยพระบาท ภูสิงห์ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาติดกับบ้านศาลา ใกล้กับเขื่อนห้วยศาลา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้านทั่วทุกสารทิศได้แตกตื่นเดินทางมาชมกราบไหว้ รอยพระบาททุกวัน รอยพระบาท นี้ช่วงค้นพบใหม่ๆ จะมีรูปกงจักรอยู่ตรงกลาง ลักษณะรอยเป็นรอยเท้าขนาดใหญ่ เหมือนมีคนเหยียบตรงดินที่เป็นโคลน มองดูชัดเจนเหมือนรอยเท้าธรรมดาที่คนเดินทั่วไป แต่รอยนี้อยู่บนก้อนหินบนภูเขาสูง จึงเป็นที่ อัศจรรย์ แก่คนทั่วไป
    มีคนมาชม รอยพระบาท นี้วันหนึ่งหลายคันรถทีเดียว จนแทบจะไม่มีที่จอดรถ ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านและพระภิกษุ-สามเณร ในจำนวนนี้ก็มีพระภิกษุจากประเทศเขมรที่ได้มาจำพรรษาอยู่ในวัดไทยที่อำเภอสังขะรูปหนึ่ง ได้มาชมพร้อมกับพระในวัดและชาวบ้านกับเขาด้วย มาพบ หลวงปู่สรวง กับ หลวงพ่อสาย ที่มาดู รอยพระบาท ด้วยความศรัทธาจึงได้นิมนต์หลวงปู่ไปที่วัดในอำเภอสังขะ ที่วัดนี้ได้มีผู้คนเข้ามากราบหลวงปู่เป็นจำนวนมาก

    จากเสียงที่ร่ำลือว่า หลวงปู่สรวง เป็นผู้มีฤทธิ์อภิญญาเหนือกว่าผู้ใด จึงมีคนมาเฝ้าขอของดีกัน แต่หลวงปู่ก็ไม่ได้ให้อะไรแก่ใคร พระรูปนั้นจึงขอชานหมากที่ หลวงปู่สรวง กำลังเคี้ยวอยู่ในปาก พอได้ชานหมากจากหลวงปู่ ก็ได้เดินออกไปข้างนอกกุฏิ นำไปทดลองให้ลูกศิษย์ยิงดู ปรากฏว่ายิงเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ออก จึงได้กลับมาในกุฏิที่หลวงปู่นั่งอยู่ ตอนที่นำชานหมากออกไปยิง คนที่นั่งอยู่ในที่นั่นก็ออกไปดูด้วย เมื่อทั้งหมดเข้ามาปรากฏว่าไม่พบ หลวงปู่สรวง ไม่รู้ว่าท่านไปไหน ได้เดินหาดูจนทั่ว ถามผู้คนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็ไม่มีใครพบเห็น จนปัญญาไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน ก็ได้ให้ศิษย์วัดรีบขับรถพามาหา หลวงพ่อสาย ที่ วัดตะเคียนราม ทันที

    ระหว่างที่นั่งรถมาก็สอดส่ายสายตามองหา หลวงปู่สรวง ดูตลอดข้างทาง โดยคิดว่าถ้าหลวงปู่กลับก็คงเดินเก้ๆ กังๆ อยู่ข้างทาง คงไปไม่ถึงไหนเพราะแก่แล้ว พอมาถึง วัดตะเคียนราม ก็ได้เล่ารายละเอียดให้ หลวงพ่อสาย ฟังบอกว่า ได้หาท่านจนทั่วแล้วไม่พบ เป็นห่วงท่านที่แก่แล้วกลัวจะเดินงกๆ เงิ่นๆ ถูกรถยนต์ชนเอา ไม่รู้ว่าท่านหลงทางเดินไปที่ใด ไม่รู้จะกลับมาถูกหรือเปล่า หลวงพ่อสาย บอกให้ไปหาท่านดูที่ กระท่อมต้นโพธิ์ บ้านขยอง ถ้าท่านกลับมาก็คงจะเห็น พอไปดูที่บ้านขยองก็เห็น หลวงปู่สรวง นั่งอยู่ในกระท่อมจริงๆ ถามชาวบ้านแถบนั้นเขาบอกว่า หลวงปู่ มาอยู่ที่นั่นนานแล้ว และไม่มีรถใครที่ไหนขับมาแถวนี้หลายวันแล้ว
    พระเขมร รูปนั้นได้กลับมาหา หลวงปู่สรวง อีกครั้งบอกว่า เห็นหลวงปู่แล้ว และย้ำว่าพอหา หลวงปู่สรวง ไม่เห็นเท่านั้นก็รีบขับตามมาทันที ทำไมท่านถึงเดินมาถึงกระท่อมเร็วนัก ทั้งๆ ที่ไม่มีใครขับรถมาส่งเลย
    อยากอ่านเต็มอิ่ม ก็ต้องซื้อ ฉบับรวมเล่ม หนังสือ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
    ( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1125 เดือนกันยายน 2556 หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ย่นย่อแผ่นดิน ได้อย่างน่า อัศจรรย์ ภาพและเรื่องโดย แฉ่ง บางกระเบา )

    คุณnaiburit ปิดครับ
    IMG_25620623_085910.JPG IMG_25620623_085848.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2019
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1024 นางกวักหลังยันต์ ข้าวเสก หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ปี39
    หลวงปู่สรวง !!!เทวดาเล่นดิน!!! ความเป็นมาของแม่นางกวัก (โดยย่อ) แม่นางกวัก เดิมทีมีชื่อจริงว่า สุภาวดี บิดาชื่อ สุจิตตพราหมณ์ มารดาชื่อ สุมณฑา เกิดที่เมือง มัจฉิกาสัณฑนคร ครอบครัวมีอาชีพทำมาค้าขายต่อมานางได้เป็นศิษย์ของพระกัสสปะ และพระสิวลี นางได้รับพรว่า “ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่าง ๆ สมความปรารถนาเถิด” ภายหลังจึงทำให้ครอบครัวร่ำรวยมหาศาลมีผู้นับถือมากมายเมื่อสิ้นชีวิตแล้ว ชาวบ้านจึงปั้นรูปแม่นางสุภาวดีไว้บูชา ขอให้การค้ารุ่งเรือง ความเชื่อดังกล่าวนี้ก็แพร่หลายเข้ามายังสุวรรณภูมิจากการเผยแพร่ของพราหมณ์ นางกวักของวัดตาโคล สร้างปี 39 โดยอาจารย์เสริฐสำนักสงฆ์ตาโคลสร้างสมโภชน์ศาลาบ้านละลม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ปลุกเสกโดยหลวงปู่สรวงและลูกศิษย์สายเขมร 100 รูป 3 วัน 3 คืน ที่กระท่อมบ้านละลม เสร็จพิธีเอามาเก็บไว้ที่วัดตาโคลประมาณ 1 ปี ปี 40 อาจารย์เสริฐนำมาฝากไว้ที่อาจารย์จ่อย ที่วัดสุทัศน์ปลุกเสกเรื่อยมาตั้งแต่ปี 40-50 ประมาณ 200 พิธี (พิธีและเกจิที่ร่วมปลุกเสกสุดยอดทั้งนั้น) ท่านใดมีอาชีพค้าขาย อยากให้สินค้าขายดี กิจการเจริญรุ่งเรือง มีคนนับหน้าถือตามากมาย ก็ลองอัญเชิญแม่นางสุภาวดีหรือแม่นางกวักของหลวงปู่สรวงมาบูชา จะทำให้ร่ำรวยขึ้นได้นะครับ วิธีบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่สรวงที่ได้ผลดีที่สุดให้จุดธูป 9 ดอก บูชาด้วยดอกว่านมหาหงส์ 5 คู่ ด้วยยิ่งดี หรือถ้าไม่มีก็ดอกไม่ขาวทั่วไป ผ้าขาววาหนึ่ง เงิน 6 บาท เทียนหนักเล่มบาท 1 คู่ เทียนเล็ก 5 คู่ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วบอกกล่าวท่านเป็นภาษาเขมรว่า “หลวงปู่สรวง ออยเตียนสะลูน ออยเพิ่มพูน บายตึกเจีย ข้าพเจ้า (……บอกชื่อตัวเอง…….) ขอให้หลวงปู่สรวงได้รับรู้ด้วยเครื่องสักการบูชานี้ และช่วยเหลือให้ข้าพเจ้า……(ขอในสิ่งที่ต้องการ)…… ด้วยบารมีของหลวงปู่สรวงด้วยเทอญ” ว่ากี่จบก็ได้ หลายจบยิ่งดี ถ้าจะให้เห็นผลสำเร็จภายในเร็ววันให้ภาวนาคาถานี้ทุกวัน ให้ทำด้วยความตั้งใจและความศรัทธาเชื่อมั่นจึงจะสัมฤทธิ์ผล
    วัตถุมงคลชุดนี้ เก็บในโบสถ์วัดสุทัศน์ร่วม 10 ปี จัดสร้างเนื่องจากหาเงินในการสร้างศาลา วัดบ้านละลม
    พิธีสมโภชศาลาวัดบ้านละลม ปี 2539 อาจารย์เสริฐ และคณะศิษย์ข้าราชการสร้างถวายมีดังนี้
    1. ขุนแผนปราสาทขอมพันปี มีหลายพิมพ์ พิมพ์ฝังตะกรุดเดี่ยว ตะกรุดคู่ พิมพ์ธรรมดา ที่มีจารลายมือหลวงปู่สรวง ก็มีแต่น้อยมาก
    2. พระสมเด็จข้าวเสก ปิดตาข้าวเสก สังกัจจายย์ข้าวเสก พระสีวลีข้าวเสก นางกวักข้าวเสก พิศคเณศข้าวเสก ขุนแผนข้าวเสก ที่มีจารลายมือหลวงปู่สรวง ก็มีแต่น้อยมาก
    3. ย่ามโภคทรัพย์ ผ้ายันต์โภคทรัพย์ ผ้ายันต์ลายมือ ผ้ายันต์พระพรหม ผ้ายันต์พิศคเณศ ผ้ายันต์นางกวัก
    4.ตะกรุดตัวครูเลี่ยมเงินจารมือหลวงปู่สรวง
    5.ตะกรุดมหาเศรษฐีคู่จารมือหลวงปู่สรวง
    6.ตะกรุดเงินทำหวย
    พระชุดนี้ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ สำนักสงฆ์ตาโคล และเมื่อครั้งหลวงปู่สรวงมาเยี่ยมอาจารย์เสริฐ
    หลวงปู่สรวงได้เมตตาอธิฐานจิตให้อีกหลายครั้ง(หลวงปู่สรวงไม่เสกให้ใครง่ายๆ)
    และทางสำนักสงฆ์วัดตาโคลได้จัดงานพุทธาภิเษกใหญ่ตลอด 3 วัน 3 คืน โดยได้นิมนต์พระอาจารย์สายอีสานใต้
    ซึ้งเป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาปลุกเสกให้อีกเมื่อปี 2540 ท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิขาบท จึงได้นำพระชุดนี้ไปให้พระอาจารย์จ่อย วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว
    เมื่อคราวอาจารย์จ่อย ท่านจำพรรษาที่วัดสุทัศน์ ทางพระอาจารย์จ่อยจึงได้นำพระชุดนี้
    เข้าเก็บไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์ตั้งแต่ปี 2540-2550 ตลอดเกือบ 10 ปี ทางวัดสุทัศน์ได้มีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่างๆ
    หลายครั้ง รวมแล้วประมาณ 200 กว่าพิธี โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ปี มีพิธี พุทธาภิเษกใหญ่ประมาณ 12 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะมีสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังองค์สำคัญของประเทศมาร่วมด้วย


    รายชื่อพระเกจิอาจารย์ทั่วทุกภาคที่มาร่วมพิธีที่พอจะนับได้มีดังนี้ (เฉพาะที่มีชื่อเสียงที่พอจะรวมรวบได้)
    พระเกจิอาจารย์สายอีสาน-เหนือ-ออก-ตก-ใต้
    1. หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ 2. หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ 3. หลวงปู่นิล
    4. หลวงปู่เกลี้ยง 5. หลวงปู่เครื่อง 6. หลวงปู่เจียม
    7. หลวงปู่หงส์ 8. หลวงปู่คีย์ 9. หลวงปู่ชื่น
    10. หลวงปู่อิง 11. หลวงปู่สาย 12. หลวงปู่ฤทธิ์
    13. หลวงปู่ผาด 14. หลวงปู่สิงห์ 15. หลวงปู่มา
    16. หลวงปู่พวง 17. หลวงปู่หมุน 18. หลวงปู่ ญาท่านสวน
    19. หลวงปู่พุธ 20. หลวงปู่เหรียญ 21. หลวงปู่หลวง
    22. หลวงปู่ไพบูลย์ 23. หลวงปู่ทิม 24. หลวงพ่อรวย
    25. หลวงพ่ออั๊บ 26. หลวงพูล วัดไผ่ล้อม27. หลวงพ่อตัด
    28. หลวงปู่ทอง 29.หลวงปู่ละมัย 30. หลวงปู่เมฆ
    31. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน32. หลวงปู่นอง 33. หลวงพ่อกลั่น
    34. หลวงพ่อเขียว 35. หลวงพ่อฉิ้น 36. หลวงพ่อดำ
    37. หลวงพ่อกาหลง 38. หลวงพ่อเปิ่น 39. หลวงพ่อไสว
    40. หลวงพ่อจืด 41. หลวงพ่อโกย 42. หลวงพ่อรอด
    43. หลวงพ่อเงิน 44. หลวงพ่อประสิทธิ์ 45. หลวงปู่ดี
    46. หลวงพ่ออวยพร 47. ครูบาน้อย 48. ครูบาชัยวงศา
    49. ครูบาคำตัน 50. ครูบาคำเขื่อนแก้ว 51. หลวงปู่มี
    52. หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย53. หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ54. หลวงพ่อหลวง
    55. หลวงพ่อชำนาญ 56. หลวงพ่อสุพจน์ 57. หลวงปู่พิมพา
    58. ครูบา กฤษณะ
    59. หลวงพ่อหล่ำ
    60. หลวงพ่ออ้น
    61. หลวงปู่โถม
    62. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    63. หลวงพ่ออั้น จ.อุทัย
    64. หลวงปู่กาหลง
    และยังพระเกจิอาจารย์อีกจำนวนมาก ฯลฯ

    บูชา 750 บาท
    IMG_25620623_085953.JPG
    IMG_25620623_085932.JPG
     
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1025 ตะกรุดโทนม้าเสพนาง จารในตะกรุด เนื้อฝาบาตร หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ยาว 3 นิ้ว ***เด่นมากเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โภคทรัพย์ โชคลาภค้าขาย
    สมัยก่อนในการทำตะกรุดขนาดเล็กเพื่อเป็นตะกรุดเมตตา ค้าขาย เพื่อพูดจาไพเราะ มีเสน่ห์หรือเรียกว่าตะกรุดสาริกา และครูบาวังมีวิชาโด่ดเด่นเรื่องม้าเสพนาง จึงมีคนเรียกตะกรุดสาริกาว่า ตะกรุดสาริกาม้าเสพนาง และต่อมาภายหลังเรียกตะกรุดโทนม้าเสพนาง ที่จริงแล้วตะกรุดโทนม้าเสพนางก็คือตะกรุดสาริกานั่นเอง

    การจารอักขระส่านใหญ่ในตะกรุดจะมีคำว่า นะ ชา ลิ ติ คือคาถาหัวใจเศรษฐี และ นะ มะ พะ ทะ คือธาตุทั้ง 4 ดิน นำ ลม ไฟ

    คาถาบูชาตะกรุดม้าเสพนาง "โอม กามะตัณหา ภะวะตัณหา วิภะวะตัณหา กามะราคะ ตัณหา มะโน รัมมา ปิยา สวาโหม" 3 จบ

    ในการเขียนจารพร้อมทั้งบริกรรมคาถากำกับ ซึ่งฤกษ์ยามในการเขียนผ้ายันต์และทำตะกรุดจะต้องสัมพันธ์กับตำราโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อหวังผลเด่น 3 ทาง
    1. เป็นเมตตามหานิยมอย่างสูง
    2.มีเทพชั้นสูงเฝ้าพิทักษ์รักษา เทวดาปกป้อง
    3.เป็นมหาอำนาจศัตรูที่คิดร้ายจะแพ้ภัยตัวเอง อุปเท่ห์การใช้ให้ ตั้งความปรารถนาไว้ในทางเมตตามหานิยม และทางมหาเสน่ห์ และเป็นโภคทรัพย์ ก็จะสำเร็จดังประสงค์ทุกประการ ท่านว่าไว้อย่างนั้น...ครับ

    มีผู้บูชาแล้วครับ...ปิดครับ
    IMG_25620623_210746.JPG IMG_25620623_210601.JPG IMG_25620623_210628.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2019
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1026 ลูกอมหลวงพ่อโอด (พระครูนิสัยจริยคุณ) วัดจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ยุคปลาย ประมาณปี252...กว่าครับ
    สุดยอดความขลัง พุทธคุณครอบจักรวาล ปลอดภัย แคล้วคลาด ประสบการณ์เล่าขานมากมายจากรุ่นสู่รุ่น ลูกอมหลวงพ่อโอด (พระครูนิสัยจริยคุณ) วัดจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์


    ลักษณะมวลสารในการสร้างลูกอม ของหลวงพ่อโอดนั้นไม่ใช่ของหาง่าย ท่านต้องจัดหาตามตำราของท่านที่ได้รับการสืบทอดมาจาก หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ซึ่งเป็นสูตรที่พระเกจิยุคเก่าๆ ต่างก็ต้องหาเพื่อใช้ในการสร้างลูกอมเช่นกัน อันประกอบไปด้วย :

    1.ดินเจ็ดเมือง
    2.ขี้ตะไคร่เรือจ้างเจ็ดท่า
    3.ขี้ตะไคร่ตะลุงข้างเจ็ดเสา
    4.รังนกหัวหงอก
    5.ดินอุดโพรงนกเงือก
    6.เทียนวิปัสนา
    7.ส่วนผสมลูกอมหลวงพ่อรุ่ง
    8.สีผึ้งหลวงพ่อเดิม
    9.ผงวิเศษต่างๆที่ท่านได้แสวงหาได้มา
    10.ผงพุทธคุณทั้งที่ท่านได้รับมาและท่านลบเขียนเอง
    11.สีผึ้ง
    12.ขนหน้าผากเสือ
    13.ขนเสือ(บางครั้งอาจพบเจอเป็นหนังชิ้นเล็กๆ โดยหลวงพ่อจะใช้กรรไกรเล็มตัด อาจมีขนเสือให้เห็น บางลูกก็ไม่มีให้เห็น)
    14.และอื่นๆ
    Pic_524425_1.jpg

    สุดยอดความขลัง พุทธคุณครอบจักรวาล สุดยอดมวลสาร สุดยอดพิธีกรรม ประสบการณ์เล่าขานมากมายจากรุ่นสู่รุ่น

    ลูกอมสีผึ้งหลวงพ่อโอด พระครูนิสัยจริยคุณ จากรูปภาพลูกอมหลวงพ่อโอดยุคไหนยุคต้น ยุคกลาง ยุคปลาย ดูอย่างไร การแยกความเก่า จริงหรือที่ใครๆ ที่นักเล่นต่างก็บอกว่าลูกอมของหลวงพ่อโอดนั้นดูยาก เล่นยากเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้นเรามาติดตามกันดีกว่านะครับ

    ลูกอมสีผึ้งของหลวงพ่อโอดวัดจันเสน เป็นวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมานานในยุคแรกๆ ก่อน พ.ศ 2500 ประมาณ24..ปลาย เป็นวัตถุมงคลที่มีประสบการณ์มากมาย(มากจริงๆ) ใครๆก็อยากมากราบมาหาหลวงพ่อเพื่อขอลูกอมสีผึ้งจากท่าน สมัยแรกๆนั้น ท่านสร้างแจกให้ศิษย์ใกล้ชิดและผู้คนในระแวกบ้านจันเสน และใกล้เคียง ในช่วงนั้นโจรผู้ร้าย ความอันตรายในการดำเนินชีวิตมีมากมายต่างๆนานาน เป็นแบบบ้านป่า บ้านดงกันทั้งนั้น การเดินทางสัญจรก็แสนลำบากยิ่งนัก โรงหมอ โรงเรียนช่างอยู่ห่างไกล ....มีพยันอันตรายอยู่ทุกๆที่ สิ่งที่เป็นที่ยึดเหนี่ยว และสร้างกำลังใจในยุคนั้นคงไม่พ้นวัตถุมงคลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง แต่สิ่งที่ทุกคนต้องนึกถึงอยู่ในจิตใจเสมอนั้นก็คือ..หลวงพ่อโอด จากวัตถุมงคลลูกกลมๆดำๆ มีขนาดไล่เรี่ยกันเล็กบ้าง ใหญ่บ้างในตอนนั้น คือลูกอะไรก็ไม่รู้ ในช่วงเริ่มแรก หลวงพ่อโอดจะมอบให้เวลาไปกราบนมัสการท่านใครมาก็ได้คนละลูก ผู้หญิงคนไหนมีลูก หรือตั้งครรภ์ก็จะได้เพิ่มอีก ในเมื่อหลวงพ่อฯท่านมอบให้ทุกคนก็ต่างเก็บไว้ติดตัวอย่างดี(ลูกอะไรนี่บางคนงง) หลวงพ่อไม่ได้บอกไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ แต่ครั้นเมื่อเกิดคราวเคราะห์หามยามร้าย เจ้าลูกกลมๆดำๆ นี่แหละสามารถปกป้องคุ้มครองภัยต่างๆได้อย่างชะงัก ปลอดภัย แคล้วคลาด มาได้อย่างเหลือเชื่อ เหตุการณ์ร้ายแรงก็ไม่เสียเลือดเนื้อเลย เมื่อปากต่อปาก ประสบการณ์ต่อประสบการณ์กระจายไปเรื่อยๆ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีไลน์ เฟสบุ๊คอะไรทั้งนั้น ไม่มีแม้การโฆษณา มีแต่ประสบการณ์จริงล้วนๆ จนใครๆจากในพื้นที่เองขยายไปเรื่อยๆ ทั่วทุกสารทิศ ก็ต้องมากราบเพื่อหวังจะได้ลูกอมจากท่าน ตอนนั้นก็ไม่มีราคาแม้แต่ตั้งค์เดียว หายก็ไปกราบขอหลวงพ่อกันใหม่ก็หลวงพ่อท่านยังอยู่นี่ครับ ซึ่งนับว่าเป็นของดีอันดับต้นๆของท่านเลย คือ ลูกอมนั่นเอง ในการปลุกเสกท่านต้องดูฤกษ์ยามตามตำรา มวลสารพร้อม ท่านก็กำหนดจิตใช้มือคลุกเคล้าท่องคาถากำกับอยู่ไม่กี่คำ(ผมจำไม่ถนัดเดี๋ยวจะมาลงให้ภายหลัง)ในยุคแรกๆ ส่วนใหญ่จะปั้นไม่สวย ทรงไม่ค่อยกลมเนื้อไม่ค่อยกินตัวในบางเม็ด งานจะไม่ปราณีต ไม่มีQC ,มีแต่พุทธคุณที่หลวงพ่อบรรจงสร้างให้ลูกศิษย์ลูกหาไว้ใช้ล้วนๆ เพราะหลวงพ่อท่านปั้นเองทีละเม็ด ทีละเม็ด ..... ก่อนอื่นขอกล่าวถึงลักษณะมวลสารในการสร้างลูกอม ของหลวงพ่อโอดนั้นไม่ใช่ของหาง่าย ท่านต้องจัดหาตามตำราของท่านที่ได้รับการสืบทอดมาจาก หลวงพ่อรุ่งวัดหนองสีนวล ซึ่งเป็นสูตรที่พระเกจิยุคเก่าๆต่างก็ต้องหาเพือใช้ในการสร้างลูกอมเช่นกัน อันประกอบไปด้วย ดินเจ็ดเมือง ขี้ตะไคร่เรือจ้างเจ็ดท่า ขี้ตะไคร่ตะลุงข้างเจ็ดเสา รังนกหัวหงอก ดินอุดโพรงนกเงือก เทียนวิปัสนา ส่วนผสมลูกอมหลวงพ่อรุ่ง สีผึ้งหลวงพ่อเดิม ผงวิเศษต่างๆที่ท่านได้แสวงหาได้มา ผงพุทธคุณทั้งที่ท่านได้รับมาและท่านลบเขียนเอง สีผึ้ง ขนหน้าผากเสือ ขนเสือ(บางครั้งอาจพบเจือเป็นหนังชิ้นเล็กๆ โดยหลวงพ่อจะใช้กรรไกรเล็มตัด อาจมีขนเสือให้เห็น บางลูกก็ไม่มีให้เห็น) และอื่นๆ โดยมีลูกศิษย์ใกล้ชิดช่วยหามวลสาร มาถึงรูปภาพ ในกลุ่มลูกอมที่ลงมาให้ท่านดูกันนี้ มีแปดลูก ในแปดลูกนี้ มีอยู่ 1 ซึ่ง เป็นยุคท้ายๆ ที่หลวงพ่อโอดสร้าง ลองทายซิครับ คือลูกที่เท่าไหร่ นอกนั้นจะเป็นยุคต้นๆ ไล่มา ลูกที่ 1 เป็นลูกเล็กที่สุดในกลุ่มนี้ ขนาดประมาณปลายนิ้วก้อย ซึ่งเป็นขนาดที่พกพาสะดวก จะมีลักษณะแก่มวลสาร ที่หลวงพ่อฯ จัดหาตามตำราของท่าน จะแข็งแต่น้ำหนักเบา ลูกที่ 2 แก่เทียน และสีผึ้งซึ่งเป็นยุคต่อๆ มาจากยุคแรก ลูกที่3ลูกนี้สุดยอดเพราะแก่มวลสาร ลักษณะเนื้อหยาบ มีคราบฟ้าจับขาวทั่วองค์ จะเห็นว่ามีชิ้นมวลสารขนาดใหญ่ฝังตัวโผล่ออกมาจากเนื้อลูกอม คล้ายๆ ใบลาน มีขนหน้าผากเสือกระจายทั่วไป หาชมยาก นี่ครับยุคต้นตัวจริง จะมีสีผึ้งกับเทียนผสมอยู่ไม่มาก แต่บางลูกมีมากแต่ต้องแห้งครับ(อย่างลูกที่ 7 และ 8) ส่วนลูกที่ 4 เม็ดนี้ก็เป็นเนื้อนิยม จะออกเหมือนดินเหนียวปั้นตากแห้ง ผิวจะขรุขระ ไม่เรียบ เนื้อหลวมๆ แต่จะมีมวลสารเป็นฝ้าเหลืองๆ ขาวๆ ในร่องผิวอยู่ทั่ว บางเห็นบอกว่าไม่ใช่ของหลวงพ่อโอด เพราะประสบการณ์น้อย พลาดของดีไป มาดูลูกที่5 นี่ครับแก่สีผึ้ง ยุคปลายแล้ว ผมแกะกระดาษห่อออก เห็นหรือยังครับว่า ลูกอมที่มีกระดาษห่อนั้น สีสันจะสดกว่าทุกเม็ด อย่างลูกที่ 7 และ 8 ก็มวลสารแบบเดียวกันแต่ก็ยังมีความแห้งตามกาลเวลา และสังเกตุให้ดีจะมีมวลสารชวนส่องกว่าลูกที่ 5 เยอะเลย สรุบ ลูกอมสีผึ้งที่มีกระดาษห่อและกระดาษยังดูชื้นๆ หรือเหนอะๆ อยู่คือยังไม่แห้งนั้นเป็นช่วงปลายที่หลวงพ่อโอดได้สร้างสร้างแล้วครับประมาณปี 252กว่าๆ (และสนนราคาก็ต่างกันมากๆ แต่หากเป็นลูกอมที่มีกระดาษห่อละลายติดกับลูกอมจนกระดาษห่อเปื่อยจนแห้งกรอบจะเป็นยุคลึกๆ คือสร้างหลังปี2500ลงมาครับ จะมีความแห้งมาก) ลูกอมของหลวงพ่อโอด ผมคิดว่าเป็นของดี คือเป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธานุภาพ ครอบคลุม ทุกด้านเลยก็ว่าได้ ทางด้านคลาดแคล้ว ประสบการณ์เฉียดๆ นี่เพียบ ลองถามคนพื้นที่ดู(ว่างๆ ผมจะนำประสบการณ์มาเสนอ) พุทธคุณ ที่เด่นๆ อีกคือ เมตตามหานิยม มหาอุตต์คงกระพัน กันคุณไสยสิ่งไม่ดี ในส่วนตัวผม คิดว่าใช้แทนเบี้ยแก้ได้เลยครับ
    เครดิต : ลูกอมหลวงพ่อโอด วัดจันเสน

    บูชา 950 บาท
    41186.jpg 41187.jpg 2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2019
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1027 พระปิดตาคำข้าวพิมพ์เล็ก ลป สรวง ปี39
    “หลวงปู่สรวง” จะเป็นอะไรไม่มีใครรู้ได้ แต่ที่รู้และประจักษ์แจ้งในบรรดาสายตาของชาวบ้านแถบเทือกเขาพนมดงรัก ท่านเป็น “ผู้วิเศษ” ชนิดไม่มีใครเคยพบเคยเห็นว่าจะมีใครเหมือน หรือเหมือนใครทั้งสิ้น ท่านมีเอกลักษณ์พิเศษ ที่อาจเรียกได้ว่า “เอกลักษณ์แห่งผู้อยู่เหนือธรรมชาติ” เพราะชีวิตของท่านเป็นไปแบบไม่ธรรมดา เป็นความไม่ธรรมดาที่อยู่เหนือคำบรรยายจริงๆ

    สุดยอดปิดตาที่ ลป ตั้งใจสร้าง คายข้าวจากการฉันผสมผงพุทธคุณต่างๆ ปลุกเสกเพ่งกสิน ให้เกิดอภินิหาร ผู้ใดมีบุญหากได้ไว้บูชา จักพบพานเจริญก้าวหน้าทุกสรรพสิ่ง จักหยิบจับกิจการอันใดใด ก็ให้ลาภผลมั่งมีทวีทรัพย์มาก ร่ำรวยอย่างรวดเร็ว บันดาลความสมบูรณ์พูนผล ดลความสุขสวัสดิ์อันโชคชัย ได้อย่างน่าประหลาดใจนัก เพิ่มด้วยเมตตามหาเสน่ห์ ห้อยผงที่เกิดจากน้ำลายปู่สรวง ใครได้ยินก้อเชื่อฟังชวนหลงใหล และยังคุ้มครองป้องภัยให้แก่ตัวเองและคนในครอบครัวอีกด้วย
    ปล.มีพระเกจิเคยท่านหนึ่งจับดูเเล้วบอกว่า พระองค์นี้สุดยอดมากๆข้าวทิพย์จากเทวดา ห้อยไว้เฉยๆเด้วเงินก้อเข้ามาเอง

    พระคาถาต่ออายุ
    (ฉบับหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน)
    อิติปิ โส ภะคะวา พระอาทิตย์เทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา พระจันทร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา พระอังคารเทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา พระพุธเทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา พระพฤหัสเทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา พระศุกร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา พระเสาร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา พระเกตุเทวา วิญญาณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง
    อิติปิ โส ภะคะวา สัมมา สัมพุทโธ
    อิติปิ โส ภะคะวา วิชาจะระณะสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต
    อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู
    อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
    อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง
    อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ
    อิติปิ โส ภะคะวา ภะคะวา ภะคะวาติ

    บูชา 500 บาท
    IMG_25620623_090050.JPG IMG_25620623_090024.JPG
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ปิดครับ
     
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1028 ชูชก เนื้อชนวน หลวงปู่สรวง ออกวัดเลียบ ปี 2532 มีโค๊ต
    รุ่นนี้เสกจนพระแตก พระร้าวกันเลยทีเดียว เสกจนมีเสียงบอกว่า พอแล้วๆเราอยากออกไปช่วยคนแล้ว

    ชนวนที่ใส่ได้แก่
    ชนวนพระกริ่งต่างๆตั้งแต่ปี 2519
    ชนวนแผ่นยันต์ด้านโชคลาภ 108 แผ่น
    ชนวนรูปหล่อปู่สรวง
    ตะกรุดอริยทรัพย์
    พระกริ่งจักรพรรดิ์ 2 องค์


    ชูชกนี้เมื่อผู้ใดได้บูชาไว้กับตัว เมื่อจะไปติดต่อต่อเจรจาสิ่งใด หรือเจรจาซื้อขายใดๆก็มีแต่สำเร็จด้วยดี เรื่องค้าขายไม่ว่าจะขายสิ่งใดก็แล้วแต่ บูชาชูชกแล้วมีแต่ขายดี เพิ่มความร่ำรวย โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภนั้นจะมีมาไม่ขาดสาย ขออะไรไปต้องให้ เพราะต้านทานพลังการขอของชูชกไม่ได้ ไม่ให้ก้อจะร้อนลุ่มเเทบอกแตกตาย

    บูชา 1500 บาท
    IMG_20181208_191431.jpg
    IMG_20181208_191442.jpg IMG_20181208_191455.jpg IMG_20181208_191408.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2019
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ปิดครับ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1029 พระปิดตาผงกระดูกผี วัดโพธิ์ท่าเตียน ยุคต้น
    พระอาจารย์หนู เป็นพระเกจิอาจารย์จาก จ.สุรินทร์ มีเชื้อสายเป็นชาวเขมร ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้า และเชี่ยวชาญทางไสยศาสตร์มาก แม้อายุจะไม่มากนัก แต่ความรู้ความสามารถทางคาถาอาคมมีสูง จนมีผู้คนเคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง ท่านชอบเลี้ยง ว่าน ไว้ที่กุฎิของท่านหลายชนิด นอกจากนี้ท่านยังมีความรู้ทางแพทย์แผนโบราณ จึงมีชาวบ้านไปขอความอนุเคราะห์ให้ท่านรักษาโรคภัยไข้เจ็บอยู่เสมอ บ้างก็ไปขอวัตถุมงคล หรือให้ท่านรดน้ำมนต์ เนื่องจากพระอาจารย์หนู มีความชำนาญในวิชาอาคม และไสยศาสตร์มาก การสร้างพระเครื่องของท่าน จึงทำแบบพิสดาร ผิดไปจากการสร้างพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ทั่วๆ ไป

    เป็นพระดีที่มีประสพการณ์เชื่อถือได้เป็นที่ประจักษ์แก่ทั้งทหารไทยและทหารญี่ปุ่นเมื่อสมัยสงคราม เรื่อง"ทหารผี" ในสงครามเป็นที่กล่าวขาน ว่าทหารไทยโดนยิงล้มแล้วลุกขึ้นมาสู้ใหม่เพราะหนังเหนียว อาจารย์หนู เกจิชาวเขมรสร้างขึ้นในราวปี 2485 จากกระดูกผี 7 ป่าช้า, ผงพระพุทธคุณ, ผงอิทธิเจและว่านอาถรรพ์ต่างๆ


    พระปิดตาผงกระดูกผี นี้เมื่อบูชาแล้วจะเด่นมากในด้านความปลอดภัย ป้องกันภัยดี เวลาเดินทางไปไหน มาไหน ทั้งๆ ที่ไปคนเดียว
    พุทธคุณเด่นชัดเร็วๆ ต้องบูชาพระปิดตาสำนักนี้ รับรองว่า แขวนเดี่ยวจะปรากฏประสบการณ์อย่างชัดเจนมาก มีครบสูตร ไม่ว่าจะคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
    บูชา 1000 บาท
    IMG_25620626_195609.JPG
    IMG_25620626_195548.JPG IMG_25620626_195457.JPG IMG_25620626_195525.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2019
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1030 ***สุดยอดพระพุทธ สายใต้ พระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคล รุ่นมหาจักรพรรดิ วัดชะเมา จ.นครศรีธรรมราช ปี2548
    พระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคล
    รุ่นมหาจักรพรรดิ
    วัดชะเมา จ.นครศรีธรรมราช

    พิธีมหาจักรพรรดิพุทธาภิเษก ครั้งแรกของเมืองนครศรีธรรมราช
    มีพระสงฆ์ร่วมพิธีมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ กว่าพันองค์
    พระพุทธรูปสิริมงคลคู่กาย เพื่อคุ้มครองดวงชะตาชีวิต
    ออกแบบด้วยหลักโหราศาสตร์ชั้นสูง ครบถ้วนตามศาสตร์ งดงามด้วยศิลป์
    เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ มหาพิธียิ่งใหญ่ ของเมืองนครฯ


    พระพุทธสิหิงห์นามปีศรีธรรมราช
    จำลองจากองค์ศาลากลางจังหวัด

    เนื้อผงสี่เหลี่ยม ด้านหลัง 12 นักษัตร ขนาดกว้าง 2.5 ซ.ม. สูง 3.8 ซ.ม.
    เนื้อสีดำ ดินกากยายักษ์
    เนื้อสีน้ำตาล ว่าน 108
    เนื้อสีแดง ว่านสบู่เลือด
    มีโค้ดภาษาไทย บอกชื่อ ปีนักษัตร

    พระพิมพ์นี้ ออกแบบโดยใช้เคล็ดความรู้ด้านโหราศาสตร์ที่ดวงชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคนจะต้องพบกับจุดคราสจากพระราหู เช่น ทับลัคน์ เล็งลัคน์ ฯลฯ อันอาจส่งผลร้ายต่อเจ้าชะตาซึ่งทุกคนไม่อาจหลีกพ้น ที่เรียกว่า ราหูเข้า ดังคนโบราณว่า การสยบอำนาจแห่งพระราหูนั้นตามคัมภีร์โบราณกล่าวไว้ว่า พระราหูมิอาจแสดงฤทธิ์อำนาจทางร้ายต่อเบื้องพระพักตร์แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า หรือพระนารายณ์และท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ดังนั้นจึงได้น้อมนำคติความหมายนี้ มาจำลองสู่วัตถุมงคลองค์น้อย เพื่อเป็นเครื่องบูชา ในทางแก้เคล็ดดวงชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคนตามคุณลักษณะแห่งปีนักษัตรชะตา ชีวิตของมนุษย์มีดีมีร้ายหมุนเวียนเปลี่ยมสลับเป็น วัฏจักรไปตลอด จึงควรที่ทุกคนจะได้ระมัดระวังแก้ไข ป้องกัน ทั้งยังเป็นการสร้างกำลังใจให้เข้มแข็ง
    แต่สิ่งสำคัญ คือ ธรรมะ การมีสติและการให้ทานสร้างกุศล จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่สยบความมัวเมาลุ่มหลงแห่งพระราหูได้อย่างดีเลิศ
    นอกจากนั้น พระราหูยังให้คุณทางด้านโชคลาภ ทรัพย์สิน อีกด้วยมิใช่จะมีแต่ทางร้ายอย่างเดียว

    เป็นพระพุทธสิหิงค์รุ่นเดียว ที่มีครบทั้งองค์พระบรมธาตุ จตุคามรามเทพ และพญาราหู

    ด้านหลัง
    1. รูปองค์พระบรมธาตุ
    2. สุริยัน-จันทรา อุฉาโลม
    3. รูปท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ เทวดารักษาพระบรมธาตุ
    4. หัวธาตุ 4 นะ มะ พะ ทะ (ดิน น้ำ ลม ไฟ)
    5. สัญลักษณ์นักษัตรปีเกิด ซึ่งเมืองนครฯ ได้รับขนานนามว่า เมืองสิบสองนักษัตร

    มี2 กล่อง บูชากล่องละ 250 บาท
    spd_2015022610620_b.jpg spd_2015022610645_b.jpg spd_2015022610702_b.jpg spd_2015022610723_b.jpg spd_2015022610740_b.jpg
    ปีจอ
    IMG_25620627_205439.JPG IMG_25620627_205417.JPG IMG_25620627_205339.JPG IMG_25620627_205500.JPG
    ปีมะเมีย
    IMG_25620627_205308.JPG IMG_25620627_205244.JPG IMG_25620627_205220.JPG IMG_25620627_205152.JPG
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1031 พระกริ่งคำข้าว จอมเศรษฐี หลวงปู่สรวง ปี 39
    จัดสร้างโดย อ.เสริฐ เกจิชาวเขมรศิษย์ ปู่สรวง แล้วถวายวัดสุดทัศน์สร้างน้อยมาก
    ที่สุดแห่งบารมีโภคทรัพย์ หลวงปู่สรวงและเกจิมากมายร่วมร่ายมนต์เรียกเงิน เรียกทอง มหาลาภ มหาเศรษฐี เพื่อช่วยเร่งลาภผลให้ต่อเนื่อง ไม่อดไม่ยาก ลำบากไม่นาน ชีวิตต้องดีขึ้น พลิกชีวิตได้ฉับพลัน รวยๆ

    นำเข้าพิธี มากมายตั้งแต่ศรีษะเกษจนถึงวัดสุทัศน์ เริ่มแจกที่ พิธีสุคโต ที่มีเกจิปลุกเสกมากมาย ก่อนจะนำมาแจกลูกศิษย์ที่วัดป่าหนองล่มอีกครั้ง
    รายนามคร่าวๆครับ พระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก เฉพาะ พิธีสุคโตจ้า (ลป หมุน เป็นเจ้าพิธี)

    - ลป.กอง วัดสระมณฑล(ศิษย์สายลปเทพโลกอุดร)อายุ102ปี อยุธยา
    - พระวิสุทธาธิปดีเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์
    - ลป.สรวง เทวดาเล่นดินเทพเจ้าแห่งบ้านละลมผู้วิเศษแห่งภูตะแบง
    - ลป.หงษ์วัดเพชรบุรี
    - ลป.ธี วัดมิ่งเมือง
    - ลป.ทิม วัดพระขาว
    - ลพ.ไสว วัดปรีดาราม
    - ลพ.พูลวัดไผ่ล้อม
    - ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    - ลพ.สิริ วัดตาล
    - ลพ.ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
    - ลพ.เฮ็น วัดดอนทอง
    - ลพ.สมควร วัดถือน้ำ
    - ลพ.สง่า วัดบ้านหม้อ
    - ลพ.หวล วัดพุทไธสวรรค์
    - ลพ.เฉลิม วัดพระญาติ
    - ลพ.จ้อย วัดหนองน้ำเขียว
    - ลพ.ไพรินทร์ วัดสาวชะโงก

    บูชา 1000 บาท
    IMG_20181125_234002.jpg
    IMG_20181125_233951.jpg IMG_20181125_233939.jpg
     
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1032 พ่อปู่ฤาษี(พ่อแก่)...ปู่สรวง , พ่อสร้อย, หลวงปู่เจียม ตอกโค้ต พิธีไหว้ครูวัดเลียบ ปี2532
    ***หลวงพ่อสร้อย ท่านเทหล่อหลอมเองในวัดแบบโบราณด้วยเนื้อสัมฤทธิ์(ทองแดงเถื่อน) ขอมพันปีเก่าจัดๆ สร้างเพื่อออกในงาน ไหว้ครูที่วัดเลียบปี2532 ใช้อธิษฐานสมปรารถนา กันแก้คุณคน คุณไสย และป้องกันภัยลมเพลมพัด รวมถึงเหมาะกับผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับศิลปะวิชาทุกแขนง จัดสร้างแบบเทหล่อโบราณ
    บูชา 1500 บาท
    IMG_20181202_171450.jpg
    IMG_20181202_171441.jpg IMG_20181202_171432.jpg IMG_20181202_171422.jpg IMG_20181202_171347.jpg
     
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1033 พระขุนแผนอุ้มไก่ หลังจารดินสอ หลวงปู่สรวง บ้านละลม เนื้อดินดำปราสาทขอมพันปี แช่น้ำมนต์ ปลุกเสกปี ๑๙
    หลวงปู่ได้จัดสร้างพระเนื้อดินไว้ 1 ชุด มีดังนี้ พระผงพิมพ์เจ้าสัว, ลีลา, สมเด็จ, ขุนแผน, ซุ้มกอ, พระพิฆเนศวร, พระปิดตา, พระสิวลี, นางพญา, ท้าวกุเวร, นางกวัก พิมพ์ต่างๆ เป็นพระเนื้อดิน พระชุดนี้ลูกศิษย์นำมาถวาย และสร้างถวายให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกไว้เมื่อปี 2519 เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างสำนักสงฆ์ถ้ำภูดิน จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมโภชน์ 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาร่วมปลุกเสกมากมายรวม 200 องค์ ทั้งพระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลแถบนั้น มาร่วมงานนี้รวมแล้วนับพันองค์ หลวงปู่สรวงท่านมาเสกให้ในงานทั้ง 3 วัน 3 คืน พระที่เหลือจากการแจกจ่ายในหมู่ศิษย์ ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ ทุกพิมพ์ หลังจากท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาบท เพื่อเดินทางไปร่ำเรียนวิชาอาคมต่อที่เขมรในปี 2540 พระชุดนี้ทุกพิมพ์ได้มอบให้อาจารย์ฉ่อยดูแล โดยนำมาฝากไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์นานถึง 9 ปี บางพิมพ์นานถึง 11 ปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของทางวัดสุทัศน์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จากพระเถราจารย์ พระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศมากมายร่วมประมาณแสนรูป
    วัตถุมงคลของหลวงปู่สรวงทุกชนิดบูชาเหมือนมีแก้ว 3 ประการ

    โดดเด่นหลายทางตามคำอธิฐานดังนี้
    1. บูชา 1 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ทางเมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่อการงานดี
    2. บูชา 2 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านโชคลาภ ค้าขาย ขายของดี ขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสาย
    3. บูชา 3 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนัน เสี่ยงดวง หวยล็อตเตอรี่ เห็นผลแน่นอน หากผู้นั้นบูชาด้วยความศรัทธาแน่วแน่
    4. เรื่องความปลอดภัยทางรถยนต์ แคล้วคลาด ไม่มีตายโหง
    5. ขอได้ดังใจนึกทางด้านค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรืองเวลาเดือดร้อนทางการเงินให้ทำพิธีบอกกล่าวจุดธูปบอกท่านและอาราธนาขอพรเช้าเย็น 9 จบท่านจะช่วยให้เห็นผลได้รับความสำเร็จสมหวังมามากแล้วไม่เชื่อทดลองเถิด
    6. คงกระพันชาตรี ไว้ใจได้เห็นอภินิหารบ่อยๆ
    7. ป้องกันคุณไสย์ แก้อาถรรพณ์ ป้องกัน ผีสางนางไม้ เจ้าที่เจ้าทางได้
    8. เสริมดวง หนุนดวงชะตา
    9. ป้องฟ้าผ่า ไฟไหม้ ได้

    บูชา 750 บาท
    IMG_20181202_171544.jpg
    IMG_20181202_171531.jpg IMG_20181202_171516.jpg
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***พระกริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค ๒๕๓๒***
    พระกริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน จ.ศรีสะเกษ พระกริ่งหนึ่งเดียวในจักรวาล พระกริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน หลวงพ่อสร้อยท่านกล่าวไว้เป็นประจำว่า ท่านได้เห็นนิมิตแสงสว่างจากพระกริ่งรุ่นนี้ พระกริ่งรุ่นนี้ทรงพระนามว่า "กริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค"

    พระกริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน จ.ศรีสะเกษ พระกริ่งหนึ่งเดียวในจักรวาล พระกริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน หลวงพ่อสร้อยท่านกล่าวไว้เป็นประจำว่า ท่านได้เห็นนิมิตแสงสว่างจากพระกริ่งรุ่นนี้พระกริ่งรุ่นนี้ทรงพระนามว่า "กริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค"
    เด่นทางสัมฤทธิ์เดชโชคลาภ เดชอำนาจวาสนา พระกริ่งผสมเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เทวรูปขอมพันปี รุ่นนี้สร้างจำนวน ๙๙๙ องค์ เพื่อออกในวันไหว้ครูประจำปีที่วัดเลียบราษฎร์บำรุง และสนองต่อความต้องการของบรรดาลูกศิษย์ที่ยังไม่มีพระกริ่งเหล็กไหลเพลิง (รุ่นนี้องค์จะใหญ่กว่ากริ่งเหล็กไหลเพลิง) ซึ่งหมดไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการโฆษณา หลวงพ่อสร้อยท่านเอาโลหะจากเทวรูปขอมพันปีอันศักดิ์สิทธิ์ และชนวนโลหะขอมพันปีที่เหลือมาหล่อพระกริ่งรุ่นนี้ โดยเฉพาะเทวรูปขอมศักดิ์สิทธิ์พันปีคนธรรมดาๆ จะเอามาหลอมซี้ซั้วไม่ได้เด็ดขาด หลังจากหลวงปู่สรวงท่านเดินทางมาจำวัตรที่วัดเลียบราษฎร์บำรุงตลอดการสร้าง ในฤกษ์และมาเสกให้โดยรู้หมายกันในวาระจิตของผู้ทรงอภิญญาระหว่างศิษย์ อาจารย์ (หลวงพ่อสร้อย,หลวงปู่สรวง) หลวงพ่อสร้อยท่านก็ได้นิมนต์พระเกจิที่ท่านรู้จักกันที่มาพุทธาภิเษกพระ กริ่งเหล็กไหลเพลิงในปี ๒๕๓๐ มาอีก
    พระชุดนี้หลวงพ่อสร้อยท่านเสกกับหลวงปู่สรวงอีกหลายสิบครั้งจนหลวงพ่อสร้อย ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า ท่านเห็นนิมิตแสงสว่างโชติช่วงจากพระกริ่งรุ่นนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ใกล้ชิดและที่อยู่ในเหตุการณ์ที่หลวงพ่อสร้อย กับหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินท่านเสกกริ่งมังกรทองปี ๒๕๑๙ จนไฟลุกส่องว่างเต็มกุฏิหลังจากเสร็จพิธี และกริ่งเหล็กไหลเพลิงที่เสกจนน้ำมนต์เดือดพล่าน ทั้งบาตร ๙ ใบและโอ่ง ๔ ใบ
    พระกริ่งไหว้ครูปี ๒๕๓๒ (กริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชค) ผสมเนื้อโลหะเทวรูปขอมพันปีรุ่นนี้ ดีนอกดีในครบเครื่องครับเฉพาะกระแสเนื้อโลหะก็จัดแล้วๆ นอกจากหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินและหลวงพ่อสร้อยแล้วยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อ ดังร่วมงานอีกดังนี้
    1. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    2. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
    3. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
    4. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    5. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    6. หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
    7. หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคีรีขันธ์
    8. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม
    9. หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา

    หลังจากพิธีไหว้ครูแล้วหลวงปู่สรวงท่านกล่าวเป็นภาษาเขมร และหลวงพ่อสร้อยท่านแปลเป็นไทยให้ฟังกล่าวว่า \"พระกริ่งรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ใดมีไว้บูชาจักไม่มีคำว่าตกต่ำ\" นี้เป็นคำพูดยืนยันของหลวงปู่สรวงและหลวงพ่อสร้อยครับ หมายเลขไทยซึ่งเป็นเลขฤกษ์ยามซึ่งกริ่งเหล็กไหลเพลิงนั้นมีเวลาในการเทหล่อ น้อยมากฤกษ์ม้วนเดียวจบวันเดียว
    พระอาจารย์สร้อยเป็นพระเกจิทรงอภิญญา ที่มรณภาพแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย ท่านเป็นศิษย์เอกและเป็นหลานของหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน และท่านมักจะมาปลุกเสกพระเครื่องต่างๆ ให้กับพระอาจารย์สร้อยอยู่เสมอ
    ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ทุกวันจะมีประชาชนเดินทางไปหาท่านจำนวนมากเพื่อขอให้ท่านสงเคราะห์ในเรื่องต่างๆ เช่น แก้ดวงไม่ดี ถอดถอนคุณไสย ทำนายทายทัก เป็นต้น พระอาจารย์สร้อยเป็นพระที่มีวิชาอาคมขลัง พระเครื่องที่ท่านสร้างมีผู้นำไปบูชาล้วนมีประสบการณ์ดีทุกรุ่น

    พระกริ่งจักรพรรดิ์ชัยวรมันสัมฤทธิ์โชคนี้ งานจึงออกมาปราณีตกว่าซึ่งมีหลายฤกษ์ ฤกษ์สร้างทั้งหมดเพียงแค่ ๗ วัน หมายเลขใต้ฐานคือเลขฤกษ์ยามของแต่ละเวลาของการสร้าง ๙๙๙ องค์ ใน ๗ วันหลวงพ่อสร้อยเทเองในวัด หลวงปู่สรวงเสก หลวงพ่อสร้อยสร้างและเสกพร้อม นานๆหลายครั้ง และที่สำคัญหลวงปู่สรวงท่านยังเมตตาจารหมึกด้านหลังองค์พระ และจารเหล็กใต้ฐานองค์พระให้ด้วย ซึ่งหายากยิ่งนักที่หลวงปู่สรวงท่านจะจารวัตถุมงคลให้กับใครง่ายๆ หาก บูชาให้ดีเจริญก้าวหน้าตามคำประกาศิตของท่าน บรรดาพระคุณเจ้าท่านรู้ดีจึงเก็บไว้ ๒๐ กว่าปีเลยทีเดียว พระกริ่งรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ใดมีไว้บูชาจักไม่มีคำว่าตกต่ำ ดวงตก ทำมาค้าไม่ขึ้น ให้รีบหามาใช้ นี่เป็นคำพูดยืนยันของหลวงปู่สรวงและหลวงพ่อสร้อย สำหรับองค์นี้เลขฤกษ์ คือ ๖๕๓ เลขสวย

    ปิดครับ
    IMG_25620623_085830.JPG
    IMG_25620623_085807.JPG IMG_25620623_085741.JPG IMG_25620623_085712.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2019
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    มีผู้บูชาแล้วครับ...ปิดครับ
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1034 รูปถ่าย ลป. สรวง เทวดาเล่นดิน ขนาด1 นิ้ว ติดจีวร ปี39
    •จัดสร้างโดย อาจารย์เสริฐ มหาวีโรเพื่อหาปัจจัยสร้างศาลาสำนักสงฆ์บ้านตาโคลปี2539
    พิธีใหญ่ปลุกเสก 3วัน 3คืน ระหว่างวันที่12-14เมษายน 2539

    • มีพระเกจิอาจารย์สายอีสานใต้ไปร่วมพิธีมากมาย (เกือบ 300 รูป) เช่น หลวงปู่เครื่อง/วัดสระกำแพงใหญ่, หลวงปู่หงส์/สุสานทุ่งมน, หลวงปู่เจียม/วัดกะมอล, หลวงปู่เจียม/วัดหนองยาว, หลวงปู่เกลี้ยง/วัดโนนแกด , หลวงปู่สาย/วัดตะเคียนราม, หลวงปู่ชื่น/วัดตาอี, หลวงปู่ฤทธิ์/วัดชลประทานดำริ, หลวงพ่อสร้อย/วัดเลียบราษฏร์บำรุง เป็นต้น
    บูชา 850 บาท
    IMG_25620630_104020.JPG
    IMG_25620630_103957.JPG
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***เหรียญพระพุทธเจ้าปางห้ามสมุทร หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ออกวัดเลียบราษฎร์บำรุง ปี 2526***
    เหรียญพระพุทธเจ้าห้ามสมุทร ด้านหลังพระนารายณ์ประทับหนุมาน ปี 2526 วัดเลียบราษฎร์บำรุง เหรียญรุ่นนี้สนับสนุนและจัดสร้างโดยรัฐบาลเขมร ซึ่งมาขอบารมีหลวงพ่อสร้อยและหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ในปี พ.ศ.2526 เพื่อแจกให้กับทหารของรัฐบาลเขมร เหรียญรุ่นนี้ออกแบบเองโดยหลวงพ่อสร้อย จะเห็นได้หลวงพ่อสร้อยท่านไม่ได้มีฤทธิ์อย่างเดียว ท่านยังเก่งในเรื่องสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ด้วย ด้านหน้าเป็นพระพุทธเจ้าปางห้ามสมุทร ด้านหลังเป็นนารายณ์แสดงฤทธิ์ทรงหนุมาน เหรียญนี้สร้างเป็นจำนวนมาก หลวงปู่สรวงกับหลวงพ่อสร้อยอธิฐานจิตเกิน 20 ครั้ง เป็นอย่างน้อย พอแล้วเสร็จในช่วงเสกเสร็จใหม่ๆช่วงเวลานั้น รัฐบาลเขมรมีความไม่สงบเกิดขึ้น เกี่ยวกับปัญหาเขมรแดง เหรียญรุ่นนี้ได้ถูกส่งไปให้ที่ทางรัฐบาลเขมรได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น เพราะนำเข้าประเทศเขาไม่ได้ ของจึงอยู่ที่บ้านเราอีกจำนวนหนึ่ง ทหารของรัฐบาลเขมรที่มีเหรียญรุ่นนี้ไม่มีใครเป็นอะไรเลย และต่อมารัฐบาลเขมรก็เป็นฝ่ายชนะสงคราม ทั้งแคล้วคลาด คงกะพัน มหาอุด มหาบัง นารายณ์แปลงรูป นอกจากนี้เหรียญรุ่นนี้ก็ยังมีประสบการณ์กับทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วยเช่นกัน แม้แต่เรื่องระเบิดด้านก็ปรากฏมาแล้ว ผู้ใดได้ไปบูชาทำมาหากิน รวมไปถึงผู้ที่เป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชานำไปใช้บูชาก็ดีเพราะเป็นเหรียญเมตตามหานิยม เดชะตบะ มหาอำนาจ แก้อาถรรพ์ ซึ่งนำไปสวมคนถูกผีเข้า ผีก็ร้องแล้วออกมาจนคนที่ถูกผีสิงสลบลงไป แม้แต่ประสบการณ์ ในเรื่อง นารายณ์แปลงรูป ก็มีด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีด้านมหาสะท้อน ผู้ใดคิดร้ายโดยที่ผู้บูชาเป็นคนดี ผลร้ายจะสะท้อนกลับไปสู่ผู้คิดร้าย เหรียญนี้องค์จริงสวยมากๆครับ รมมันปู เป็นเหรียญรุ่นที่ ปู่สรวงและพ่อสร้อยท่านอธิฐานจิตให้เป็นอย่างดี และผ่านพิธีไหว้ครูวัดเลียบราษฎร์บำรุงอีกหลาย ๆ พิธีด้วย ขณะนี้เริ่มหายากแล้ว เพราะศิษย์สายหลวงปู่สรวงเสาะแสวงหาและตามเก็บกันหมด
    IMG_25620630_103347.JPG
    IMG_25620630_103651.JPG
     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ***ผ้ายันต์ รอยมือรอยเท้าหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน หมึกสีแดง ปั๊มยันต์ ขนาด 13*20 นิ้ว***
    IMG_25620630_164934.JPG
    IMG_25620630_165018.JPG IMG_25620630_165127.JPG IMG_25620630_165054.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2019
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1035 ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม แบบติดธงชาติไทย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    ผ้ามงคลที่นำมาแจกนี้ได้จากตำราหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามตำราท่านให้ชื่อว่า ธงมหาพิชัยสงคราม เป็นตำรา ที่หลวงพ่อปานท่านเรียนและได้รับตำรานี้จากท่านอาจารย์แจง เมืองสวรรคโลก (อำเภอสวรรคโลก ปัจจุบัน) ตามตำราแจ้งว่าเป็นตำราที่พระร่วงใช้ในสมัยกู้ชาติ ท่านอธิบายผลไว้มากมาย ขอแจ้งแต่เพียงสรรพคุณโดยย่อว่า ท่านใช้เป็นธงนำทัพ

    วิธีใช้ผ้ายันต์ฯ ก่อนใช้ให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์อื่นๆ สืบๆกันมา มีหลวงพ่อปานเป็นที่สุด แล้วปลุกด้วยคาถา " พุท ธะ สัง มิ. "

    ผ้ามงคล(ธงมหาพิชัยสงครามนี้) จะมีผลประการใดบ้าง ก็ขอให้ท่านผู้ใช้ได้ทราบเอง เมื่อถึงวาระที่จำเป็น ทุกวันท่านให้อาราธนาเป็นปรกติ ตอนเช้าเมื่อตื่นนอนใหม่ๆ และเวลาเย็นก่อนอาราธนาขอให้ระลึกถึงบารมีพระ พุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเป็นที่สุด แล้วอาราธนาว่าดังนี้

    " อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึงแก่มะอะอุนี้เถิด."

    คาถาอาราธนานี้ หลวงพ่อปานบอกว่าเป็นคาถาอาราธนาของพระร่วง...

    ( ข้อมูล : จากหนังสือสมบัติพ่อให้. )

    ความรู้เรื่องธงมหาพิชัยสงคราม เเละความหมายของยันต์บนผืนธง

    ภายในธง ประกอบด้วย พระบารมี แห่ง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์เป็นหลัก..........

    ........... ดังในยอดธง มี พุทธะสังมิ ซึ่งเป็น คำย่อของ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง คัจฉามิ เป็นการสรางความมั่นคงต่อ พระรัตนะตรัย เป็นการประกาศขอยึดเป็นสรณะที่พึ่งอันสูงสุด ...........
    ............ถัดมา คือ อะ สัง วิ สุ โล พุ สะ พุ ภะ ซึ่งเป็นคำย่อ ของพุทธคุณ อันมี ตั้งแต่ อะระหัง จนถึงภควาติ...........

    ............ เป็นการนำใจที่เคารพแล้ว เข้าถึงความเป็นพุทธะ คือความสะอาด สว่าง สงบ ตามที่องค์สมเด็จพระจอมไตรได้ตรัสสั่งและสอน............
    ............ ถัดมาอีกในวงกลมแต่ล่ะวง นับได้ 10 วง เปรียบถึง บารมี 10 ประการ ภายในวงใหญ่ ได้อัญเชิญรูปภาพเปรียบแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ตรงการภายในวงกลม คือองค์สมเด็จองค์ปฐมต้นสุด รอบมีรูปองค์พระทั้ง 28 พระองค์ตามปรากฏในพระคัมภีร์ต่างๆ เช่น คัมภีร์พระไตรปิฎก เป็นต้น รอบกลับบัวมี คาถาบารมี 30 ทัศ ซึ่งกลับบัวเทียบเสมือนรัศมีแห่ง พระพุทธคุณ พระบารมี ที่แผ่กระจาย ปกคลุมผู่ที่ได้ครอบครอง และทั่วไปโดยรอบด้าน..........

    ...........กล่าว โดยสรุป ธงมหาพิชัยสงครามนี้ มีคุณทั้งทางโลกและทางธรรม ในทางโลกเป็นไปตามโลกธรรมต่างๆ ส่วนในทางธรรมแล้ว เปรียบประมาณค่ามิได้ คือ การเข้าถึงไตรสรณะคมส์ การบำเพ็ญบารมี 10 ให้สมบูรณ์บริบูรณ์ เพื่อละสังโยชน์ 10 ประการ เป็นทางแห่ง มรรคผล พระนิพพานในที่สุด...........

    ........... ภายในดอกบัวใหญ่ที่ปรากฏภาพพระพุทธเจ้านั้น เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ กลีบบัวใหญ่บรรจุด้วยพระคาถาอาวุธพระพุทธเจ้านั่นคือ บารมี 10 ประหนึ่งว่าวงกลมทั้ง 10 วงบนยันต์ ก็คือบารมี 10 นั่นเอง ที่ยอดพุ่มของธง เป็นคำย่อของบท อิติปิโสฯ และบนยอดธงบรรจุคาถา พุท ธะ สัง มิ คือคำย่อของไตรสรณาคม ในวงย่อยแต่ละวง มีคำว่า พุท ธะ มะ อะ อุ นะ โม พุท ธา ยะ อยู่ด้วย ที่บัวดอกเล็กเป็นคาถา บารมี 30 ทัศ บทว่า อิ ติ ปา ระ มิต ตา ติง สาฯ ...........

    ............ ยันต์นี้ไม่เพียงแต่มีชัยในทางโลกธรรม หากแต่เป็นเครื่องหมายเตือนพระโยคาวจรทั้งหลายว่า หัวใจของการชนะกิเลสทั้งปวงอาศัยบารมี 10 เป็นเครื่องประหาร เมื่อสามารถทรงบารมีทั้ง 10 ประการครบถ้วน ท่านก็ชนะหมดโลก คือ ชนะกิเลสในใจของท่านทั้งหลายนั่นเอง ............

    .............จึงถือได้ว่าพุทธานุภาพของยันต์พิชัยสงครามนี้ เป็นคุณแก่ท่านที่มีไว้ครอบครองแท้จริง ............

    .............สงครามที่เหลืออยู่คือสงครามที่ท่านรบกับใจตัว ขอท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ชนะสมดังปรารถนาเถิด. .............
    ขนาด กว้าง 8.5 x 10.5 นิ้ว ครับ

    บูชา 1000 บาท
    IMG_25620630_164851.JPG
    IMG_25620630_164745.JPG IMG_25620630_164836.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2019
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1036 พระซุ้มกอ...แช่น้ำมันต์ เนื้อเขียวผงเก่าของสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ ปี19 หลวงปู่สรวง...
    ประวัติหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดินตอนที่34พระซุ้มกอ
    เรื่องหลวงปู่สรวงตอนไม่มีอะไรจะให้นอกจาก.....
    นายเลียดและนางมาลัยสองผัวเมียได้ชวนนางนางทองคำเพื่อนบ้าน ไปถวายจังหันเพล

    ช่วยกันเตรียมอาหารอย่างดี
    นางทองคำแกงปลาช่อนตัวใหญ่ มีกล้วยน้ำว้าสุกไปด้วย
    นางมาลัยหุงข้าวสุกอย่างดี งาตำกับพริกป่นไปถวาย
    พอไปถวายท่าน ท่านฉันแต่งาดำกับพริกคั่ว ไม่ฉันแกงปลา
    ฉันเสร็จหลวงปู่ยกไก่ให้นางมาลัย2ตัวไปเลี้ยง
    โดยบอกว่าไก่ทั้งสองตัวหลวงปู่ซื้อมา
    ตัวแรก4บาท อีกตัวราคา9บาท
    ท่านหันไปทางนางทองคำ บอกว่าไม่มีอะไรจะให้
    นอกจากอันนี้
    ท่านยื่นมือไปจับรังมดแดงที่อยู่ข้างๆแล้วใช้มือรูด
    กลับเป็นเงินเหรียญบรรจุในซองพลาสติก
    จึงพากันมานับดู
    จำนวนทั้งหมด14เหรียญ
    ปรากฎว่างวดนั้นออก 249
    แน่ไหมละครับท่านผู้อ่าน
    ขอแนะนำพระซุ้มกอเขียวหลวงปูสรวง ปี 19 วัดตาโคลน
    พระชุดนี้หลวงปู่สรวง ท่านได้เมตตาอธิฐานจิตเสกพระชุดนี้หลายครั้ง ๆ และในงานพุทธาภิเษกใหญ่ที่สำนักสงฆ์วัดตาโคลอีกตลอด ๓ วัน ๓ คืน และได้นิมนต์พระอาจารย์สายอีสานใต้ ซึ่งเป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาปลุกเสกให้อีกมากมาย พระชุดนี้เก็บอยู่ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์ตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ - ๒๕๕๐ ตลอดเกือบ ๑๐ ปี ทางวัดสุทัศน์ได้มีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่าง ๆ รวม ๒๐๐ กว่าพิธี และมีพิธีพุทธาเษกใหญ่ประมาณ ๑๒ ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะมีสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังองค์สำคัญของประเทศ มาร่วมด้วย
    มีเนื้อแดงกับดำ 3สี3เนื้อ
    1เนื้อสีแดงดินหินปราสาทขอมโบราณ
    2เนื้อดำผงกสินไฟใบลานเผา
    3เนื้อเขียวผงเก่าของสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์

    บูชา 750 บาท
    IMG_25620630_103931.JPG
    IMG_25620630_103905.JPG
     

แชร์หน้านี้

Loading...