ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ครูบาเฒ่ามีหลายวิชชา

    “ปีหนึ่งขึ้นไปภาวนาอยู่แม่เจดีย์ ตำบล
    แม่ขะจาน อำเภอเวียงป่าเป้า เชียงราย
    พระธาตุแม่เจดีย์ เพิ่นครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) เคยไปพักอยู่มาก่อน เจดีย์ยังมีพระธาตุอยู่
    ถามชาวบ้านเขาว่าเก่าแก่มาก” “มีครูบาเฒ่าองค์หนึ่งอยู่อำเภอเวียงป่าเป้า เชียงราย เขาว่าอายุมากแล้วได้เก้าสิบปีปลาย เป็นพระเมืองเหนือโบราณมหานิกาย บวชแล้วบำเพ็ญเนก
    ขัมมะ รักษาศีล ภาวนาของตนอยู่วัด ครูบาศรีวิชัยยังไปเรียนวิชชาอยู่ด้วยแต่ไม่ได้สอน
    อะไรให้ ให้ตั้งใจเจริญในอิติปิโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโน”

    “ครูบาเฒ่าองค์นี้ได้วิชชาหลายอย่าง เช่นว่า
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง มดง่ามหมู่มากพากันหามแมงแสนตีนเลาะมาข้างอุโบสถ ท่านก็ร้องบอก
    ให้เณรไปดูว่า…“เสียงอะไรใครแห่หามอะไร เสียงอึกทึกสนุกสนานมาข้างอุโบสถไปดูทีเต๊อะ” สามเณรตลอดคนวัดพากันไปดูก็..!
    ไม่เห็นว่ามีใครมาทำอะไร สองรอบ สามรอบเทียวไปมาไม่เห็นว่ามีใครมาทำอะไร ..!
    ครูบาเฒ่าก็เลยบอกว่า…“พวกสูไปดูใหม่
    เต๊อะ มดง่ามมันได้แมงแสนตีน มันพากัน
    หามแห่ไปบ้านเรือนรังของมัน มันร้องบอกกันว่า ได้แล้วของอยู่ของกินเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน พวกสูอยากได้บุญก็เอาข้าวไปแบ่งให้มัน
    หน่อยเต๊อะ ทานให้เดรัจฉาน

    พระเจ้า(พระพุทธเจ้า) ก็ยังว่าได้บุญได้กุศล”
    สามเณรพระภิกษุคนวัดพากันไปดูก็ปรากฏว่าเป็นเช่นนั้นจริง
    อีกครั้งหนึ่ง ชาวบ้านเขาจะเอาควายไปฆ่า
    จูงมาผ่านวัดของครูบาเฒ่า ควายมันก็ร้องขอชีวิต…

    “ครูบาเจ้า ช่วยผมหน่อยเถอะ”
    “ครูบาเจ้า ช่วยผมหน่อยเถอะ ผมยังไม่อยากตาย”
    ครูบาเฒ่าก็ลงจากกุฎิไปดักรอข้างหน้าอยู่
    ข้างวัด หมู่คนที่จะเอาควายไปฆ่าก็มาพอดี ครูบาเฒ่าก็สะพายบาตร ยืนดักหน้าอยู่

    “โอ๊ะ… ครูบาเจ้าจะเยียะอะหยังหือ”
    “บิณฑบาตจะเอาอะหยัง เที่ยงบ่ายแล้วหนา”
    “เอาพวกสู และควายของสู”

    ในขณะนั้นก็ถกเถียงหักล้างกันอยู่พักใหญ่ๆ ที่สุดชาวบ้านพ่อค้าเนื้อควายก็จนมุม ยอม
    ถวายควายถึกตัวผู้ใหญ่ลักษณะงดงาม ตัวนั้นถวายไว้ให้แก่วัดได้ใช้งานสำหรับลากฟืน หมู่พวกพ่อค้าควายก็กลับบ้านไป จนเป็นที่โจษขานกันว่า หากใครจะค้าวัวค้าควาย หรือ ค้าสัตว์ใดๆ อย่าได้ผ่านไปทางวัดครูบาเฒ่าเด็ดขาด..

    “ควายถึกตัวนั้นก็อยู่วัดจนแก่ชราแล้วก็ตาย
    พอตายแล้วเขาก็เอาเขาอันยาวพร้อมหัวนั้นมาทำเป็นราวจุดเทียนในอุโบสถ
    มีคนเขามาเล่าให้ฟังว่า ควายตัวนั้น ตายก่อนครูบาเฒ่า แล้วชาวบ้านเขาก็เอาเชิงเทียนหัวเขาควายนั้นมาตั้งจุดเทียนบูชาหน้าหิ้งหน้าโลงศพของครูบาเฒ่าเป็นอนุสรณ์”

    ครูบาเฒ่าเล่าว่า…

    “ควายตัวนี้เป็นควายโพธิสัตว์ มาแต่สวรรค์
    มาเกิด ตายจากควายตัวนี้ก็จะไปเกิดอยู่สวรรค์ แล้วมาเกิดเป็นคนได้บวชแต่น้อย แล้วก็ตายไปอีก เวียนว่ายตายเกิดต่อไปเมื่อหน้าจะได้เป็นพระเจ้าองค์หนึ่ง (พระพุทธเจ้า)”

    “ครูบาเฒ่าตนนี้ ข้าฯ ก็ไม่ได้ไปพบปะ แต่โยมเขามาเล่าให้ฟัง เขาว่า เดี๋ยวนี้เขาควายเชิงเทียนนั้นยังอยู่ ถ้าจะไปดูก็จะพาไป กู่เจดีย์ครูบาเฒ่าก็ยังอยู่ ครูบาเฒ่าตนนี้ฉันแต่ผักลวกกับน้ำพริก ถ้าเป็นปลาก็ต้องเป็นปลาแห้งมาตำมาป่นเป็นน้ำพริกจิ้มกินกับผักลวก อายุมากขนาดนั้นฟันไม่หลุดไม่หล่น ผมขาวทุกเส้น”

    ธรรมะประวัติ
    (หลวงปู่จาม มหาปุญโญ) ผู้มากมีบุญ”

    ขออนุโมทนาบุญท่านผู้มีส่วนเผยแพร่โอวาท
    ธรรมและภาพพ่อแม่ครูบาอาจารย์ขอจงเจริญ
    รุ่งเรืองในธรรมพบสุขอันเกษม
    สาธุ อนุโมทามิ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ.
    *ขออนุญาตนำมาเผยแผ่ เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่
    มีความศรัทธา..

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ของดีมีอยู่กับตัว ก็พากันปฏิบัติเอา

    “ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติ
    เอา ทำเอา เมื่อเวลาตายแล้วจึงวุ่นวายหานิมนต์พระมากุสลามาติกา ไม่ใช่เกาถูกที่คัน ต้องรีบแก้เสียบัดนี้ คือ เร่งทำความดีแต่บัดนี้ จะได้หายห่วง อะไรๆ ที่เป็นสมบัติของโลก มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล สมบัติในโลกเราแสวงหามา หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริงๆ ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดและความโง่เขลาของผู้แสวงหาแต่ละราย”

    “ท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้าง
    ความดีใส่ตนจนกลายเป็นสรณะของพวกเรา ท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทองเครื่องหวงแหน เป็นคนร่ำรวย สวยงามเฉพาะสมัย จึงพากัน
    รัก พากันห่วง จนไม่รู้จักเป็น รู้จักตาย สำคัญตนว่าจะไม่ตายและพากันประมาทจนลืมตัว เพลิดเพลินตักตวงเอาแต่สิ่งไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว”

    “อย่าสำคัญว่าตนเอง เก่งกาจสามารถฉลาด
    รู้กว่าเขาเลย ถึงกับสร้างความมืดมิดปิดตาทับถมตัวเอง จนไม่มีวันสร่างซา เมื่อถึงเวลา
    จนตรอกอาจจนยิ่งกว่าสัตว์”

    “ถ้าไม่เตรียมทราบไว้เสียแต่บัดนี้ ซึ่งอยู่ใน
    ฐานะอันควร อาตมาขออภัยด้วย ถ้าพูดหยาบคายไป แต่คำพูดที่สั่งสอนคนให้ละชั่ว ทำ
    ความดี จัดเป็นหยาบคายอยู่แล้ว โลกเราก็จะถึงคราวหมดสิ้นศาสนา เพราะไม่มีผู้ยอมรับความจริง การทำบาปหยาบคายมีมาประจำ
    แทบทุกคน ทั้งให้ผลเป็นทุกข์ ตนยังไม่อาจรู้ได้ และตำหนิมันบ้าง พอมีทางคิดแก้ไข แต่กลับตำหนิคำสั่งสอนหยาบคาย ก็นับเป็นโรค
    ที่หมดหวัง”

    “เมื่อมีผู้เตือนสติ ควรยึดมาเป็นธรรมคำสอน
    จะเป็นคนมีขอบเขตมีเหตุผล ไม่ทำตามความอยาก เมื่อพยายามฝ่าฝืนให้เป็นไปตามทางของนักปราชญ์ได้จะประสบผล คือความสุขในปัจจุบันทันตา แม้จะมิได้เป็นเจ้าของเงินล้าน แต่มีทางได้รับความสุขจากสมบัติและความประพฤติดีของตน”

    “คนฉลาดปกครองตนให้มีความสุขและปลอดภัย ไม่จำต้องเที่ยวแสวงหาทรัพย์มากมาย หรือเที่ยวกอบโกยเงินเป็นล้านๆ
    มาเป็นเครื่องบำรุงจึงมีความสุข ผู้มีสมบัติ
    พอประมาณในทางที่ชอบ มีความสุขมาก
    กว่าผู้ได้มาในทางมิชอบเสียอีก เพราะนั่น
    ไม่ใช่สมบัติของตนอย่างแท้จริง ทั้งๆ ที่อยู่
    ในกรรมสิทธิ์ แต่กฎความจริง คือ กรรมสาปแช่งไม่เห็นด้วยและให้ผลเป็นทุกข์ไม่สิ้นสุด นักปราชญ์ท่านจึงกลัวกันหนักหนา”

    “แต่คนโง่อย่างพวกเราผู้ชอบสุกเอาเผากิน
    และชอบเห็นแก่ตัว ไม่มีวันอิ่มพอ ไม่ประสบ
    ผล คือ ความสุขดังใจหมาย”

    “คนหิวอยู่เป็นปกติสุขไม่ได้ จึงวิ่งหาโน่น
    หานี่ เจออะไรก็คว้าติดมือมาโดยไม่สำนึก
    ว่าผิดหรือถูก ครั้นแล้วสิ่งที่คว้ามาก็มาเผาตัวเองให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ คนที่หลงจึงต้องแสวงหาถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา จะหาไปให้ลำบากทำไม อะไรๆ ก็มีอยู่กับตัวเองอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว จะตื่นเงาตะครุบเงาไปทำไม เพราะรู้แล้วว่า เงาไม่ใช่ตัวจริง ตัวจริงคือ สัจจะทั้งสี่ที่มีอยู่ภายในใจอย่างสมบูรณ์แล้ว”

    “ความมั่งมีศรีสุขจะไม่บังเกิดแก่ผู้ทุจริต
    สร้างกรรมชั่วมีมากเท่าไรย่อมหมดไป พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายที่สร้างบาปกรรมไว้ ผลกรรมนั้นย่อมตกอยู่กับลูกหลานรุ่นหลังให้มีอันเป็นไป
    ผู้ทุจริตเบียดเบียน รังแกผู้อื่น จะหาความสุขความเจริญไม่ได้เลย”

    จากหนังสือประวัติ
    ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดย..
    ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    (เทิดไว้ด้วยเกล้า เหนือเศียรเกล้า สาธุ.)

    -ก็พา.jpg
    -ก็พา.jpg
    -ก็พา.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    1f4e3.png 1f4e3.png 1f4e3.png ยอดปัจจัยสมทบค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 จำนวน 3,678.00 บาท ( ปิดยอดรับบริจาควันที่ 3 สิงหาคม 2562 เวลา 15.30 น. 1f4e3.png 1f4e3.png 1f4e3.png

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคปัจจัยตามกำลังศรัทธา เพื่อถวายเป็นค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ในโครงการตักบาตรพระกรรมฐาน จำนวน 20 รูป ในวันอาทิตย์ ที่ 4 สิงหาคม 2562 ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    1f490.png 1f490.png 1f490.png รายนามพ่อแม่ครูอาจารย์ที่กราบอาราธนามาร่วมงานในครั้งนี้ 1f33a.png 1f33a.png 1f33a.png

    1. พระราชภาวนาวิกรม (หลวงปู่เลี่ยม ฐิตธัมโม) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    2. พระครูสุชีพภาวนาภิวัตร (หลวงปู่เข็ม สุชีโว) วัดป่าโนนนิเวศน์ (ห้วยซันเหนือ) อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
    3. พระครูสุวรรณโพธิเขต (หลวงปู่คูณ อัคคธัมโม) วัดป่าโพธิ์สุวรรณ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    4. หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต วัดป่าเวฬุวันอรัญญวาสี อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
    5. พระวิบูลธรรมาภรณ์ (หลวงเตี่ย/ชาย ชาคโร) วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    6. พระวิชัยมุนี (หลวงพ่อไพฑูรย์ เมตตจิตโต) วัดสำราญนิเวศ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    7. หลวงปู่สวัสดิ์ ปิยธัมโม วัดป่าคูขาด อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
    8. พระครูบรรหารอุบลคุณ (หลวงพ่อกิตติ ติสโร) วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    9. พระครูทิพยธรรมาภรณ์ (พระอาจารย์ไสว สุธีโร) วัดผาพยอม อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
    10. พระครูสมุห์มงคล เตชธโร วัดสระประสานสุข อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    ( รวมพ่อแม่ครูอาจารย์และพระติดตามเป็นทั้งหมด 20 รูป)

    ➡️➡️➡️ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญค่าภัตตาหาร และ ค่าพาหนะถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ได้ที่ : ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขายิ่งเจริญปาร์ค (อุบลราชธานี) เลขที่บัญชี 452-0-65586-2 ชื่อบัญชี น.ส.นันทวรรณ นารักษ์

    จัดโดย : ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png

    ➥ กำหนดการจัดงาน : https://www.facebook.com/1376384156019597/photos/a.1376385866019426/2372273256430677/?type=3&theater

    .jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    นักศึกษา ปี 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ที่เรียนวิชาจรรยาบรรณและหลักวิชาชีพนักกฎหมาย section 01 จำนวน 50 คน ฝึกภาคปฏิบัติส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม 30 นาที
    นักกฎหมายมีความเกี่ยวข้องกับการตรากฎหมาย การใช้กฎหมาย การตีความกฎหมาย ถ้าไม่มีคุณธรรมจริยธรรมกำกับแล้ว จะส่งผลกระทบต่อวิกฤติศรัทธาวงการกฎหมาย การเรียนเฉพาะกฎหมายอย่างเดียวแต่ไม่ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้แก่ผู้เรียนกฎหมาย จึงมิอาจกล่าวได้ว่านักกฎหมายที่ผลิตออกไปเป็นนักกฎหมายที่สมบูรณ์พร้อม

    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg
    -ปี-1-คณะนิติศาสต.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” จิตใจที่เต็มไปด้วยความอิจฉาพยาบาทนั้น เป็นจิตใจที่แตกร้าว จิตใจที่หมายมั่นว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น สูงกว่าคนอื่น คือจิตใจที่กำลังมืดบอด จิตใจที่มองเห็นคุณค่าของทุกๆ ชีวิต คือจิตใจที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ”

    พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทโธ
    วัดสามัคคีบุญญาราม อ.เมือง จ.ลำปาง

    .jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “….โยมรู้จักน้ำที่มันไหลไหม เคยเห็นไหม
    น้ำนิ่งโยมเคยเห็นไหม
    ถ้าใจเราสงบแล้ว มันจะเป็นคล้ายๆ กับ น้ำมันไหลนิ่ง

    โยมเคยเห็นน้ำไหลนิ่งไหม
    แน่ะ ก็โยมเคยเห็นแต่น้ำนิ่ง กับน้ำไหล
    น้ำไหลนิ่งโยมไม่เคยเห็น….

    ตรงนั้นแหละ ตรงที่โยมคิดยังไม่ถึงหรอกว่า
    มันเฉยมันก็เกิดปัญญาได้
    เรียกว่าดูใจของโยมมันจะคล้ายน้ำไหล แต่ว่านิ่ง
    ดูเหมือนนิ่ง ดูเหมือนไหล เลยเรียกว่า น้ำไหลนิ่ง
    มันจะเป็นอย่างนั้น ปัญญาเกิดได้….”

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    1f4e3.png 1f4e3.png 1f4e3.png ยอดปัจจัยสมทบค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 จำนวน 6,430.00 บาท ( ปิดยอดรับบริจาควันที่ 3 สิงหาคม 2562 เวลา 15.30 น. 1f4e3.png 1f4e3.png 1f4e3.png

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคปัจจัยตามกำลังศรัทธา เพื่อถวายเป็นค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ในโครงการตักบาตรพระกรรมฐาน จำนวน 20 รูป ในวันอาทิตย์ ที่ 4 สิงหาคม 2562 ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    1f490.png 1f490.png 1f490.png รายนามพ่อแม่ครูอาจารย์ที่กราบอาราธนามาร่วมงานในครั้งนี้ 1f33a.png 1f33a.png 1f33a.png

    1. พระราชภาวนาวิกรม (หลวงปู่เลี่ยม ฐิตธัมโม) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    2. พระครูสุชีพภาวนาภิวัตร (หลวงปู่เข็ม สุชีโว) วัดป่าโนนนิเวศน์ (ห้วยซันเหนือ) อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
    3. พระครูสุวรรณโพธิเขต (หลวงปู่คูณ อัคคธัมโม) วัดป่าโพธิ์สุวรรณ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    4. หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต วัดป่าเวฬุวันอรัญญวาสี อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
    5. พระวิบูลธรรมาภรณ์ (หลวงเตี่ย/ชาย ชาคโร) วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    6. พระวิชัยมุนี (หลวงพ่อไพฑูรย์ เมตตจิตโต) วัดสำราญนิเวศ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    7. หลวงปู่สวัสดิ์ ปิยธัมโม วัดป่าคูขาด อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
    8. พระครูบรรหารอุบลคุณ (หลวงพ่อกิตติ ติสโร) วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    9. พระครูทิพยธรรมาภรณ์ (พระอาจารย์ไสว สุธีโร) วัดผาพยอม อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
    10. พระครูสมุห์มงคล เตชธโร วัดสระประสานสุข อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    ( รวมพ่อแม่ครูอาจารย์และพระติดตามเป็นทั้งหมด 20 รูป)

    ➡️➡️➡️ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญค่าภัตตาหาร และ ค่าพาหนะถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ได้ที่ : ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขายิ่งเจริญปาร์ค (อุบลราชธานี) เลขที่บัญชี 452-0-65586-2 ชื่อบัญชี น.ส.นันทวรรณ นารักษ์

    จัดโดย : ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png

    ➥ กำหนดการจัดงาน : https://www.facebook.com/1376384156019597/photos/a.1376385866019426/2372273256430677/?type=3&theater

    .jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ทำความดีให้เป็นที่อยู่ของจิต

    “ความดีนั้นเราต้องทำอยู่เสมอให้เป็นที่อยู่
    ของจิต เป็นอารมณ์ของจิต ให้เป็นมรรค คือ ทางดำเนินไปของจิต มันจึงจะเห็นผลของความดี ไม่ใช่เวลาใกล้จะตาย จึงนิมนต์พระ
    ไปให้ศีล ให้ไปบอกพุทโธ หรือตายไปแล้ว
    ให้ไปรับศีล เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดทั้งหมด เหตุว่าคนเจ็บ จิตมัวติดอยู่กับเวทนา ไฉนจะมาสนใจไยดีกับศีลได้ เว้นไว้แต่ผู้ที่รักษาศีลมาเป็นปกติเท่านั้น จึงจะระลึกได้ เพราะตนเองเคยทำมาจนเป็นอารมณ์ของจิตแล้ว แต่ส่วนมากใกล้ตายแล้วจึงเตือนให้รักษาศีล ส่วนคนตายแล้วไม่ต้องพูดถึง”..!

    “เพราะคนตายนั้นร่างกายจิตใจจะไม่รับ
    รู้ใดๆ แล้ว แต่ก็ดีไปอย่างเหมือนพระเทวทัต ทำกรรมจนถูกแผ่นดินสูบ เมื่อลงไปถึงคางจึงระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้า ขอถวายคางเป็นพุทธบูชา พระเทวทัตยังมีสติระลึกถึงได้ จึงมีผลดีในภายภาคหน้า”

    “ความดีต้องทำในปัจจุบัน สิ่งใดที่มันล่วง
    มาแล้ว เลยมาแล้ว เราไม่สามารถไปตัด ไปปลงมันได้อีกแล้ว สิ่งที่เราทำไปนั้น ถ้ามันดี
    มัน ก็ดีไปแล้ว ผ่านไปแล้ว พ้นไปแล้ว ถ้ามัน
    ชั่วมันก็ชั่วไปแล้ว ผ่านไปแล้วเช่นกัน อนาคตยังมาไม่ถึง สิ่งที่ยังไม่มาถึง เราก็ยังไม่รู้เห็น
    ว่ามันจะเป็นอย่างไร อย่างมากก็เป็นแต่เพียงการคาดคะเนเอาเอง ว่าควรเป็นยังงั้น เป็น
    ยังงี้ ซึ่งมันอาจจะเป็น ไม่เป็นไปอย่างที่เรา
    คาดคะเนก็ได้ ปัจจุบัน คือ สิ่งที่เกิดขึ้นจริง
    เราได้เห็นจริง ได้สัมผัสจริง เพราะฉะนั้น
    ความดีต้องทำในปัจจุบัน ทานก็ดี ศีลก็ดี ภาวนาก็ดี ต้องทำเสียในปัจจุบันที่เรายังมี
    ชีวิตอยู่ เราต้องการความดี ก็ต้องทำให้เป็นความดีในปัจจุบันนี้ ต้องการความสุข ต้องการความเจริญ ก็ต้องทำให้เป็นไปในปัจจุบันนี้”

    *** พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ ***
    วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
    _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ..

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    …การจะเข้าถึงธรรมจริงๆ
    “ต้องเข้าจากการปฏิบัติ”
    ขั้นต้นก็ต้องเจริญสติ เพื่อให้จิตสงบก่อน
    จิตสงบแล้ว พอฟังเทศน์ฟังธรรมก็จะเข้าใจ
    แล้วก็จะสามารถบรรลุธรรมได้
    .
    ด้วยการเอาสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังนี้
    “ไปทำลายกิเลสตัณหาต่างๆ”
    พอไม่มีกิเลส “ใจของเรา..
    ก็จะบรรลุธรรมขั้นต่างๆ”
    เป็นพระโสดาบัน เป็นพระสกิทาคามี
    เป็นพระอนาคามี พระอรหันต์..
    ไปตามลำดับ.

    …………………………….
    .
    ธรรมะบนเขา (หนังสือสติธรรม หน้า34)
    ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน
    พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
    วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

    .jpg
    .jpg
    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สอน..

    ( การเดินจงกรมและวิธีนั่งสมาธิ )

    “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต”
    ” พระปรมาจารย์ใหญ่สายกรรมฐาน
    องค์ท่านเมตตาสอนว่า “การบำรุงรักษาสิ่ง
    ใด ๆ ในโลก การบำรุงรักษาตนคือใจเป็น
    เยี่ยม จุดที่เยี่ยมยอดของโลกคือใจ ควร
    บำรุงรักษาด้วยดี ได้ใจแล้วคือได้ธรรม เห็น
    ใจตนแล้วคือ เห็นธรรม รู้ใจแล้วคือรู้ธรรมทั้งมวล ถึงใจตนแล้วคือถึงพระนิพพาน ใจนี่แล
    คือสมบัติอันล้นค่า จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมองข้ามไป คนพลาดใจ คือไม่สนใจปฏิบัติต่อใจดวงวิเศษในร่างนี้ แม้จะเกิดสักร้อยชาติ พันชาติก็คือผู้เกิดผิดพลาดนั่นเอง”

    “การนั่งสมาธิภาวนา” คือการทำจิตใจของตนให้ตั้งมั่น ชำระจิตใจของตนให้ผ่องใส ทำใจ
    ให้สงบสบาย หลวงปู่มั่น องค์ท่านกล่าวว่า

    การภาวนา คือ ..!

    “การอบรมใจให้ฉลาดเที่ยงตรงต่อเหตุผล
    อรรถธรรม รู้จักวิธีปฏิบัติต่อตัวเองและสิ่งทั้งหลาย ไม่ให้จิตผาดโผนโลดเต้นแบบไม่มีฝั่งมีฝา ยึดการภาวนาเป็นรั้วกั้น ความคิดฟุ้งของใจให้อยู่ในเหตุผล อันจะเป็นทางแห่งความสงบสุขใจ ที่ยังมิได้รับการอบรมจากการภาวนา”

    • ก่อนอื่นที่เราจะนั่งสมาธิภาวนา ให้หา
    สถานที่อันเป็นมุมสงบ นั่งเข้าที่เอาขาขวาทับขาซ้าย เอามือขวาทับมือซ้าย ตั้งกายให้ตรงดำรงสติให้มั่น ไม่เอียงซ้ายนัก ไม่เอียงขวานัก ไม่ก้มนัก ไม่เงยนัก ทำตัวให้สบาย ๆ ดูท่าการประทับนั่งของพระพุทธรูปเป็นแบบอย่าง”

    “หากไม่สะดวกที่จะนั่งอยู่ขัดสมาธิอยู่กับพื้น
    ก็ให้นั่งบนเก้าอี้หรืออะไรก็ได้ตามแต่สะดวก เราเริ่มฝึกหัดนั่งใหม่ ๆ อาจจะปวดแข้งเจ็บขาบ้างเป็นธรรมดา แต่ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า ให้พยายามอดทนต่อสู้กับเวทนาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น หากสู้ไม่ไหวจริง ๆ ให้สลับสับเปลี่ยนอิริยาบถ ออกไปเดินจงกรมเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวด”

    ” เมื่อนั่งเข้าที่เรียบร้อยแล้วให้กล่าวคำอธิษฐานภาวนา เพื่อเป็นการบูชาคุณพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาเอกของโลก ผู้เป็น
    ครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บูชาคุณ
    พระธรรม บูชาคุณพระสงฆ์ กล่าวตามดังนี้”

    สาธุข้าพเจ้าจะนั่งสมาธิภาวนา
    บูชาคุณพระพุทธเจ้า
    บูชาคุณพระธรรม
    บูชาคุณพระสงฆ์
    บูชาคุณบิดามารดา
    บูชาคุณครูอุปัชฌาย์อาจารย์
    ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลาย
    ขอจงเป็นพลัง
    ปัจจัยแด่พระนิพพานของข้าพเจ้า
    และขอให้ข้าพเจ้ามีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สามารถรู้แจ้งถึงพระนิพพาน เอาชนะกิเลสความไม่ดีทั้งหลายที่อยู่ภายในใจได้ตลอด
    กาลนานเทอญ”

    “ภายหลังจากที่กล่าวคำ” “อธิษฐาน”เสร็จ
    ให้กำหนดคำบริกรรมภาวนาพร้อมกับลมหายใจเข้าว่า “พุท” หายใจออก “โธ” หายใจ
    เข้า “ธัม” หายใจออก “โม” หายใจเข้า “สัง” หายใจออก “โฆ” และให้ระลึกคำบริกรรมภาวนา “พุทโธ ธัมโม สังโฆ” ๓ หน แล้วให้ระลึกเอาคำบริกรรมภาวนาว่า “พุทโธ” แต่
    เพียงคำเดียว โดยตั้งสติไว้ที่ปลายจมูก ลมหายใจเข้า “พุท” ก็กำหนดรู้ ลมหายใจออก “โธ” ก็กำหนดรู้ สติกำหนดอยู่กับคำบริกรรมภาวนา หากจิตคิดแส่ส่ายไปทางอื่น ก็ดึงจิตกลับมาให้อยู่กับคำบริกรรมภาวนานั้น..
    หากยังไม่ได้ผล ให้เร่งคำบริกรรมภาวนา
    เร็ว ๆ “พุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆ”

    ให้หมั่นกระทำบำเพ็ญอยู่เป็นประจำ การทำ
    ครั้งสองครั้งอยากจะให้จิตสงบก็เป็นไปได้ยาก

    ที่ครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสาย..!
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตท่านสอนให้ใช้คำ
    บริกรรมภาวนาบทว่า .. “พุทโธ” นั้น..!
    เพื่อต้องการให้น้อมเอาคุณของพระพุทธเจ้ามาไว้ที่ใจ “ธัมโม” น้อมเอาคุณของพระธรรมเจ้ามาไว้ที่ใจ “สังโฆ” น้อมเอาคุณของพระสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาไว้ที่ใจ ท่านถึงว่า “พระอยู่ที่ใจ” คือมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์อยู่ในใจของเรานั่นเอง

    “เมื่อจะเลิกจากการนั่งสมาธิภาวนา ให้ยกมือประนมขึ้นระหว่างคิ้วตรงศีรษะครั้งหนึ่ง พร้อมกับกล่าวคำว่า “สาธุ” ภายในใจ ต่อจากนั้นตั้งใจแผ่เมตตาให้กับตัวเอง ครั้นเมื่ออธิษฐานเสร็จ ก็ตั้งใจแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้กระทำบำเพ็ญในครั้งนี้ ไปให้กับผู้มีอุปการะคุณ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย กล่าวตามดังนี้”..

    “ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่เกิดจากการนั่งสมาธิภาวนา ข้าพเจ้าขอแผ่ส่วนบุญไปให้แก่บิดามารดา ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้องทั้งหลาย มิตรสหายทั้งหลาย เทวาอารักษ์ทั้งหลาย..
    เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม ยม ยักษ์ ครุฑ คนธรรภ์ กุมภัณฑ์ นาคทั้งหลาย รุกขเทวดา อากาศเทวดา ภุมเทวดา เปรต ผี อสุรกายทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่มีชีวิตอยู่และหามีชีวิตไม่ ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ อย่าได้มีเวรมีภัย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงอยู่เป็นสุขเสมอเถิด ขอจงได้รับส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำบำเพ็ญในครั้งนี้ด้วยเทอญ”

    การเดินจงกรม

    คือการเดินภาวนา เพื่อเป็นอุบายให้สงบใจ
    เดินกลับไปกลับมาพร้อมกับกำหนดคำบริกรรมภาวนาเหมือนวิธีการนั่งสมาธิ คำอธิษฐานก็ใช้แบบเดียวกัน เปลี่ยนแต่ตรงคำว่า “นั่งสมาธิภาวนา” เป็น “เดินจงกรมภาวนา” เวลาจะเดินจงกรม ให้กำหนดทิศทางที่จะเดิน แล้วไปยืนตรงต้นทาง ยกมือประนมขึ้นระหว่างคิ้วกล่าวคำอธิษฐาน ครั้นจบแล้ววางมือลง เอามือขวาทับมือซ้ายวางทาบไว้ใต้สะดือ ทอดตาลงเบื้องต่ำไม่แลซ้ายแลขวา ทำท่าสำรวมกาย ก้าวเดินขาขวาบริกรรมคำภาวนาว่า “พุท” ก้าวเดินขาซ้ายบริกรรมคำภาวนาว่า “โธ” บริกรรมภาวนา “พุทโธ ธัมโม สังโฆ” ๓ หนแล้ว ให้กำหนดเอาคำบริกรรมภาวนาว่า “พุทโธ” แต่เพียงคำเดียว ครั้นพอถึงปลายทางที่เรากำหนดไว้แล้ว หมุนตัวกลับไปทางขวามือ เดินภาวนากลับไปกลับมา การกำหนดคำบริกรรมภาวนานั้น จะกำหนดอยู่ที่เท้าเวลาเดินก็ได้ หรือกำหนดไว้ในใจก็ได้ตามชอบ ไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับแต่ประการใด

    ส่วนการกำหนดทิศทางเดินจงกรมนั้น

    “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” องค์ท่านกล่าวไว้ว่า ทางเดินจงกรมตามที่ท่านกำหนดรู้ไว้ และปฏิบัติตามเรื่อยมานั้นมีสามทิศด้วยกัน คือ
    ตรงไปตามแนวตะวันออก – ตะวันตกหนึ่ง ไปตามแนวทิศตะวันตกเฉียงใต้หนึ่ง และไปตามแนวตะวันออกเฉียงเหนือหนึ่ง การเดินจงกรม
    ก็เดินไปตามแนวทั้งสามที่กำหนดไว้ในแนวใดแนวหนึ่ง”

    “ความสั้นยาวของทางจงกรมแต่ละสายนั้น ท่านว่า ตามแต่ควรสำหรับรายนั้นๆ ไม่ตายตัว กำหนดเอาเองได้ตามสมควร แต่อย่างสั้นท่านว่าไม่ควรให้สั้นกว่าสิบก้าว สำหรับเวลาอยู่ในที่จำเป็นหาทางเดินมิได้ “การเดินไม่พึงเดินไกวแขน ไม่พึงเดินเอามือขัดหลัง ไม่พึงเดินเอามือกอดอก ไม่พึงเดินมองโน้นมองนี้อันไม่เป็นท่าสำรวม”

    การนั่งสมาธิภาวนา หรือการเดินจงกรม..

    “นั้นเราจะทำที่ไหนก็ได้ ที่วัด ที่บ้าน ในที่
    ทำงาน ในร้านอาหาร ในช๊อปปิ้งมอลล์ ทำการทำงานทุกสิ่งทุกอย่าง ทำภาวนาได้ทั้งนั้น มี
    สติระลึกขึ้นมาได้ก็กำหนด” “พุทโธ”
    “ทันทีเลยไม่ต้องรอให้เสียเวล่ำเวลา ก้าวขาขวา “พุท” ก้าวขาซ้าย “โธ” เรียกว่าภาวนาได้ทุกเมื่อไม่มีกาลเวลา จึงสมดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “อกาลิโก” ไม่มีกาล ไม่มีเวลา..
    ไม่มีฤดู ทำได้เสมอ”
    ————— -: —————- :- —————–

    -ภูริทัตโต-ส.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...