ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสำรองธาตุขันธ์พระเจ้าหลีกเคราะห์พิฆาตผูกหุ่นทับเงา(ผ่านสะดวก,เริ่มต้นใหม่,ตายแทนตัว)

    ด้วยวิชาพระเจ้าหลีกเคราะห์นั้น ปกติพ่ออาจารย์ท่านจะใช้สงเคราะห์ให้เฉพาะบุคคล ยามเมื่อมีเคราะห์ร้ายก็ดี มีเรื่องไม่ดีเกิดแก่ตัวก็ดีทั้งฝันร้ายมีนิมิตเหตุร้ายอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี หากได้เครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านทำด้วยวิชาพระเจ้าหลีกเคราะห์นั้นจักพ้นภัยพิบัติ ท่านว่าแม้ภัยใหญ่หลวงก็พ้นได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ท่านเห็นว่าในสมัยนี้ทุกข์,โทษ,ภัยนั้นมีอยู่มากและจรเข้ามาในรูปแบบต่างๆไม่ซ้ำกันท่านจึงเห็นควรที่จะทำตะกรุดพระเจ้าหลีกเคราะห์ไว้ทั้งท่านยังลงวิชาสำคัญอันเป็นวิชาที่ปู่พระอินทร์ได้ให้ไว้เสริมลงไปด้วย เป็นการวาดหุ่นใส่ธาตุขันธ์กำกับลงวิชาเฉพาะเพื่อให้รับกรรมแทนตัวเราทุกสิ่งดุจเป็นหุ่นแทนตัวเราเป็นตัวของเราเอง ท่านทำไว้ในกรณีที่เรื่องบางเรื่องนั้นอยากจะหนีก็ไม่ได้,แม้อยากเบี่ยงก็ไม่พ้นตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องบางอย่างถ้ากฏมันแรงกรรมมันเข้มข้นก็ยากจะหลบเช่นนั้นท่านจึงทำวิชาเสริมไว้ในกรณีที่ยากเกินกว่าจะรับมือ ด้วยผลที่เป็นตัวตายตัวแทนทั้งยังรับกรรมแทนตัวเป็นมหาสะท้อนเคราะห์กรรมให้พ้นตัวนี้ถือได้ว่าทำยากมาก คนที่ดวงชะตาไม่ค่อยดี เสี่ยงโชคก็สูญเปล่าไปบ่อยๆ ค้าขายก็เงียบ ลงทุนทำกิจการก็ทุนหายกำไรหด ทำอะไรก็หาความเจริญก้าวหน้าไม่ได้เต็มไปด้วยเคราะห์หามยามร้ายสามวันดีสี่วันไข้ เจ็บออดๆแอดๆรู้สึกตัวว่าชีวิตมันท้อๆหม่นๆไม่ค่อยสดชื่นแจ่มใสอันเป็นผลที่เกิดขึ้นกับจิตใจยามเราสิ้นเรี่ยวแรงและกำลังความคิด ด้วยโลกิยะชนทั้งหลายยังวนเวียนแหวกว่ายอยู่ในวัฏฏะสงสารพ่ออาจารย์ท่านจึงเห็นควรที่จะดำริการโดยชอบอันจะได้ทำให้ความถูกต้องเหมาะสมเกิดกับชีวิตของผู้ที่มีความฝันมีความพยายามได้พ้นเคราะห์พ้นโศกให้ได้รับความสำเร็จสมปรารถนาได้เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ได้รับโชคลาภจะได้สืบชะตามีวาสนาที่ยั่งยืนต่อไป ท่านจึงได้นำวิชาทั้งสองมาสงเคราะห์คนใช้พร้อมกัน

    แทนตัว
    เรื่องรับเคราะห์แทนตัวหรือเป็นตัวตายตัวแทนของเรานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามันต้องใช้ต้องรับได้ตลอดจะทำเป็นครั้งเป็นคราวแล้วสิ้นกันไปไม่ได้เพราะวิถีชีวิตของมนุษย์นั้นเคราะห์มันเข้ามาได้ตลอดไม่ใช่ว่าก่อนมันจะมามันจะบอกเราล่วงหน้าให้เตรียมตัวได้เสียเมื่อไหร่ เช่นนั้นปู่พระอินทร์ท่านจึงให้วิชานี้ไว้ใช้สงเคราะห์คนโดยเฉพาะ ท่านว่าเป็นวิชาตั้งแต่อดีตใช้กันมาก่อนยุคตั้งกรุงสุโขทัยเสียอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าเปรียบกันง่ายๆพูดกันให้เข้าใจก็เหมือนเป็นธาตุขันธ์สำรองที่ผูกเข้ากับเราเอาไว้ใช้แทนตัวเรา หากเราใช้เครื่องรางธรรมดารับแทนมันยังไม่เฉพาะเจาะจงลงไปในแก่นชีวิตเราเท่ากับเราใช้ตัวเองรับแทนตัวเองนั่นแหละ ### พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ก็เหมือนการทำเล่ห์กลหลอกเคราะห์กรรม,หลอกเจ้ากรรมนายเวร,หลอกแม้กระทั่งเทพเจ้าใช้แทนตัวเรานั่นแหละ มันมีกฏอยู่ง่ายๆว่าเขาจะรับเคราะห์ทุกอย่างไปแทนเราโดยที่ตัวเราไม่เป็นอะไรเลยเสมือนเป็นการผ่องถ่ายสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่เราเจอและต้องเกิดขึ้นกับเราไปลงไว้ที่ตัวตนสำรองของเราแทนเพื่อจัดการคราเคราะห์ทั้งหลายหรือโรคภัยที่หาสาเหตุไม่ได้...
    วิชาของปู่พระอินทร์นี้ถือเป็นวิชาสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พอมันมีเคราะห์ก็รับไปตามกระบวนการกฏแห่งกรรมกันเลย ไม่ใช่ว่าต้องไปต่อรองลดหย่อนอะไรให้เป็นผลต่อเนื่องกันหนักเข้าไป หากแต่เรามีตัวแทนของเรา เป็นตัวแทนของนายก.ที่นายข.เอาไปใช้ไม่ได้ เป็นตัวแทนที่เกิดมาเพื่อรับเคราะห์แทนเราเท่านั้น ท่านว่าปู่พระอินทร์ท่านฉลาดท่านให้ลงวิชาทำเล่ห์กลเอาไว้ทั้งหมดเลยนะนอกจากรับเคราะห์แทนยังให้ลงตราประทับเทพของท่านที่ใช้ดูดให้กำลังเคราะห์มากๆเผื่อจะผ่อนคลายแรงอาฆาตของเจ้ากรรมนายเวรให้บรรเทาไวขึ้นทั้งสลายกำลังเคราะห์กรรมในตัวหุ่นด้วย เพราะท่านบอกว่ามันเป็นสิ่งแปลกปลอมพอมันลงผิดที่(แทนที่จะเป็นสังขารจริงๆของเรา)นี่คือมันลงผิดที่ไปแล้วเป็นกำลังที่ฝ่าฝืนกฏวัฏจักรแล้วจึงไม่สมควรมีอยู่อีกต่อไปท่านจึงถือเป็นสิทธิที่จะสลายมันออกไปได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าดูยังไงๆก็โกงแต่ท่านตั้งใจจะโกงเพื่อลูกหลานของท่านโดยเฉพาะท้ายที่สุดคือตัวเราไม่เป็นอะไรเลยตามผลกระทบของเคราะห์กรรม พูดง่ายๆว่าเป็นอยู่สบายดีเจ้าธาตุขันธ์สำรองก็อยู่สบายดีส่วนตัวเรานั้นก็ได้เริ่มชีวิตใหม่ มีการเริ่มต้นที่ดี
    หากดวงชะตาเราแย่ให้สังเกตุดู ท่านว่าช่วงนี้ป่วยง่ายมั๊ย อารมณ์หงุดหงิดง่ายรึเปล่า รู้สึกร้อนๆไม่สบายทั้งกายและใจหรือไม่ หน้าตาเศร้าหมองอมทุกข์รึเปล่า หรือการงานขัดข้อง,เงินทองรั่วไหล... ท่านว่านี่แหละต้องใช้วิชาหุ่นตัวแทนของปู่พระอินทร์เรียกเคราะห์ออกจากตัว ด้วยเป็นวิชาเทพสงเคราะห์ที่มีใช้กันมาแต่โบราณกาลท่านว่านอกจากรับแทนเราสะเดาะเคราะห์ให้เราแล้วเขายังรักษาเราด้วยเป็นยิ่งกว่าเพื่อนที่สนิทที่สุดของเรานั่นคือตายแทนกันได้ เวลาเรามีเคราะห์ดวงเราตกเขาก็รับไป พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากเพราะปู่พระอินทร์ท่านให้เอากระดาษมาชักยันต์ตามวิชาท่านถึงสี่สิบแปดครั้ง ทำครั้งหนึ่งก็เผายันต์เป่ากำกับหุ่นยันต์หนึ่งทำเช่นนี้ถึงสี่สิบแปดยันต์ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่ายากเพราะกว่าจะได้แต่ละดอกนั้นกินเวลานาน แต่พอทำได้แล้วผู้ใช้นั้นไม่ต้องกังวลสิ่งใดเลย จะสะเดาะเคราะห์หรือเจ็บไข้ไม่สบายต้องอวมงคลทั้งหลายท่านว่าให้ใช้วิชาสงเคราะห์เถิด ก่อนใช้ให้อธิษฐานดีๆท่านว่าเป็นฤทธิ์ทางใจยิ่งใจเราแกร่งใจเราหนักแน่นวิชายิ่งมีฤทธิ์มากเพราะเค้าเชื่อมกับใจของเรา


    วิชาเทพนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการรับเคราะห์แทนตัวสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงดวงตกแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าก็มีคุณเป็นเอนกดุจเป็นพยนต์รูปตัวของเราเลย จะใช้ให้คอยเฝ้ารักษาบุคคลที่เรารักและเป็นห่วงจากใจจริงๆหรือส่งให้ไปเฝ้าไปเข้าฝัน...สุดแล้วแต่จะนำไปใช้ตามปรารถนา เพื่อลดเคราะห์สะเดาะวิบากกรรม เป็นการขอขมากรรมเพราะเราไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับกฏแห่งกรรมเหล่านั้นหากแต่เรารับด้วยตัวตายตัวแทนของเรา พลังชีวิตและกำลังของเราจะถูกต่อให้ยืนยาวขึ้นทั้งด้วยอำนาจแห่งบุญและอโหสิกรรมที่เจ้ากรรมนายเวรท่านผูกไว้คลายตัวลงชีวิตเราก็จะเบาขึ้นดวงชะตาเราก็จะยกให้สูงขึ้นเหนือดวงชะตาเดิม ท่านว่าเสกเก็บไว้ให้หมดเลยเหมือนทำหุ่นพยนต์หากแต่เป็นหุ่นหน้าเธอเอง ท่านว่าพกเอาไว้เถิดเพราะท่านเอาว่านยาและผงคุณวิชาต่างๆมาเสริมจะเกิดเป็นเกิดเมตตา มีอำนาจบารมี,มีสง่าราศี พาให้ผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้ายและอุปสรรคต่างๆให้พ้นผ่านไปด้วยดี ให้แคล้วคลาดหลีกเคราะห์ ชีวิตจะกลับมาสว่าง รุ่งเรืองรุ่งโรจน์อีกครั้งหนึ่ง จะพลิกดวงร้ายให้กลายเป็นดี ทั้งคอยปกปักรักษาคุ้มครองเฝ้าทรัพย์ ดุจผู้เป็นเจ้าของเฝ้าเอาไว้ ท่านว่าวิชาเทพพยนต์ตัวนี้จะเสมือนมีตัวเราอันเป็นกายทิพย์เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง บางทีคนอื่นอาจมองเห็นตัวเราอยู่เฝ้าบ้าน เฝ้ารถหรืออยู่ในที่วางตะกรุดไว้ทั้งๆที่ตัวเราไม่อยู่ก็ได้

    ท่านลงธาตุสี่ ขันธ์ห้า อาการสามสิบสอง อนุโลม ปฏิโลม เรียกสูตรรูปนามตามตำราดั่งวิชาสร้างหุ่นพยนต์อาถรรพ์เวทย์จากตำราวิชามหาธาตุ หากแต่หุ่นวิชาที่ผูกในตะกรุดนั้นผูกด้วยเทพวิชาของปู่พระอินทร์ท่านตั้งใจให้ใช้กับผู้อยู่เหนือตัวเรา(เจ้ากรรมนายเวร,เทวดาที่อคติ)รวมไปถึงกฎแห่งกรรมและผู้มีวิชาอาคมมนต์ดำต่างๆ ท่านว่านั่นแหละเป็นหุ่นพยนต์แทนกายเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ช่วยเราได้รับเคราะห์รับกรรมแทนเราได้ วิชานี้แม้ท่านเองก็ใช้อยู่เป็นประจำด้วยใครทำใครเล่นอะไรมานั้นลงไว้ที่หุ่นรับแทนทั้งหมด ยิ่งใครดวงชะตาแรงๆกรรมมีแรงเชี่ยวมากยากจะหาอะไรมาขัดมาขวาง ท่านว่านั่นแหละหุ่นวิชายิ่งเก็บแรงกรรมยิ่งมีฤทธิ์มากขึ้นๆไปด้วย ท่านว่าฤทธิ์เขาโตได้ไม่ใช่จะอยู่กับที่และคนเราตั้งแต่เกิดจนตายนั้นบอกได้เลยว่าใช้กรรมอย่างไรก็ไม่หมดดังนั้นเขาจึงโตได้เรื่อยๆ มีแต่จะแรงจะทรงฤทธิ์วิชาเพิ่มมากขึ้นไปเป็นลำดับ ด้วยพยนต์วิชานั้นเป็นเทพพยนต์ของเราที่เกิดมาเพื่อตัวเราดังนั้นเราจะใช้อย่างไรก็ได้ เมื่อเขามีฤทธิ์ตามแรงกรรมของเราท่านว่าเราจะให้เขาเรียกทรัพย์เรียกคู่อะไรที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเราไม่ใช่เรื่องของคนอื่นนั่นย่อมใช้เขาได้ทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้กระทั่งปกป้องเราหรือออกไปทำร้ายศัตรูของเราก็ยังทำได้ ***ศัตรูเราเขาจะฝันเสมือนว่าตัวเราเป็นเจ้ากรรมนายเวรตามไปล้างผลาญอยู่เช่นนี้หากแต่ว่าพ่ออาจารย์ท่านไม่แนะนำให้เอาไปใช้ทำร้ายใคร ท่านว่าทุกอย่างจะดีถ้าจบด้วยคำว่าอโหสิกรรมและทำชีวิตตนเองให้ดี

    ทั้งวิชาพระเจ้าหลีกเคราะห์ที่ลงกำกับเสริมไว้นั้นท่านยังตั้งใจผูกขึ้นเพื่อไว้คอยช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนหาที่พึ่งพิงไม่ได้ผู้ที่นำไปบูชาจะช่วยพลิกผันหนุนดวงต่อชะตาให้พ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงกลับจากร้ายให้กลายเป็นดี,ลดเคราะห์,หลีกภัย,ชนะคดีความ,ชนะศัตรูคู่แข่ง,ขับคุณไสยไล่อัปมงคลภูตผีวิญญาณร้ายต่างๆมิให้มาแผ้วพาลใกล้ตัวผู้บูชา ให้บังเกิดแต่โชคลาภโภคทรัพย์ มั่งมีเงินทองไม่ขัดสน ธุรกิจการงานราบรื่นเจริญก้าวหน้าแก้ปีชงดวงชงดวงตก หรือผู้ใดกำลังจะมีโชคมีลาภแต่เหมือนว่ามีอะไรกั้นขวางมาบดมาบังท่านว่าใช้วิชาพระเจ้าหลีกเคราะห์นี่แหละจุดธูปเทียนบูชาตะกรุดจะระเบิดเปิดดวงให้อธิฐานขอสิ่งที่ท่านต้องการอย่าไปขอในสิ่งที่ผิดศีลจะเป็นการช่วยเปิดทางเปิดดวงให้แก่ผู้บูชาให้ดียิ่งขึ้นและค้ำชูหนุนดวงชะตาของผู้บูชามิให้ตกต่ำให้ดวงเราสว่างไสว

    ตะกรุดนี้ท่านเน้นให้ใช้ได้ผลจริงเกิดผลทันทีที่ใช้อธิษฐานใช้ทั้งยังแตกต่างจากหุ่นพยนต์ทั่วไปเพราะเขามีฤทธิ์ตามแรงกรรม มีญาณเทพสังหรณ์ช่วยบอกช่วยเตือนปกป้องคุ้มครองชีวิตของเราโดยเฉพาะได้ดีมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านลงแผ่นตะกั่วจารเต็มคุณวิชาจากนั้นเผายันต์เป่ายันต์ดอกละสีสิบแปดครั้ง ก่อนที่จะนำแผ่นตะกั่วไปแช่ในน้ำว่านพิเศษที่ท่านหุงตามปู่พระอินทร์สั่งด้วยใบตาล,ใบลาน,ใบขนุน,ใบคูณ,ใบพยุง,ใบรัก,ใบจันทร์... จากนั้นจึงม้วนในฤกษ์ยามที่ปู่พระอินทร์ท่านกำหนดให้แล้วจึงนำมาอุดด้านหนึ่งด้วยผงยันต์นิพพานสูตร,ผงยันต์นะร้อยแปด,ผงพรายตานี,ผงพรายตะเคียน,กาฝากรัก,ยม,ขนุน,ผงยาสัก,ผงตะเคียน,ผงว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์,เสน่ห์จันทร์ขาว,เสน่ห์จันทร์แดง,เสน่ห์จันทร์เขียว,เสน่ห์จันทร์หอม,เสน่ห์จันทร์ทอง,ว่านพระฉิม,ว่านพะตะบะ,ว่านพรายแก้ว,ว่านมหานิยม,ว่านแม่ทัพ,ว่านมหาเมฆ,ว่านมหาปราบ,ว่านมรกต,ว่านมหาเสน่ห์,ว่านมหาอุดม,ว่านมหาจักรพรรดิ,ว่านมหากวัก,ว่านรางจืดเถา,ว่านภควัมบดี,ว่านพระยาค่าง,ว่านเฉลิม,ว่านรางเงิน,ว่านรางทอง,ว่านรางนาค,ว่านสิทธิโชค,ว่านแสนนางล้อม,ว่านสามทุ่ง,ว่านปู่โสมเฝ้าทรัพย์,ว่านแสงอาทิตย์,ว่านสบู่เหล็ก,ว่านหอมดำ,ว่านหางเสือ,ว่านพญาหงส์เงิน,ว่านลิ้นกระทิงลาย,ว่านกลิ้งกลางดง,ว่านสบู่เลือด,ว่านท้าวชมพู,ว่านชมพูหนังแห้ง,ว่านมหาลาภ,ว่านมหาโชค,ว่านกวักพระพุทธเจ้าหลวง,ว่านกวักนางพญาใหญ่,ว่านกวักนางพญาเล็ก,ว่านกวักหงสาวดี ว่านกวักนางจันทร์,ว่านกวักโพธิ์เงิน,ว่านกวักทองใบ,ว่านกวักเงินกวักทอง,ว่านทองไหลมา,ว่านเทพรำพึง,ว่านธรรมรักษา,ว่านนางพญาหงษ์ทอง,ว่านนพมาศ,ว่านน้ำเต้าทอง,ว่านปัดตลอด,ว่านปัญจเศวตร,ว่านประกายเพชร,ว่านพญาหัวเสือ,ว่านพญากาเผือก,ว่านเพชรกลับดำ,ว่านเพชรหลีก,ว่านมงคลชัย,ว่านกระทู้เจ็ดแบก,ว่านกำบัง,ว่านกงจักรพระอินทร์,ว่านขมิ้นขาวปัดตลอด....

    วิธีใช้
    ที่ท่านอุดผงเพียงด้านหนึ่งนั้น อีกด้านหนึ่งท่านให้นำกระดาษมาเขียนชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดและไคลจากร่างกายของเราม้วนอุดไว้ปรียบเสมือนเป็นพยนต์รูปของเราใช้รับกรรมแทนเรา เวลาเราจะไปไหนก็ดุจเรามี "เงา" คอยตามตัวเพื่อปกป้องคุ้มครองภัยในรูปแบบต่างๆต่างๆ หากมีกรรม,มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับตัวเราเขาจะเป็นผู้ที่รับเคราะห์หรือผลร้ายจากเหตุไม่คาดคิดแทนเราทั้งสิ้นทั้งยังคอยเสริมดวงเสริมบารมีและยังสามารถบอกโชค บอกลาภ แก่ผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วย


    คาถาบูชา
    โอมปลุกมหาปลุก กูจะปลุกพ่อหุ่นด้วยนะมะพะทะ อะหังนุกา ยะธาพุทโมนะ พุทธะมะอะอุ ทุกขัง อนัตตา สัมปะจิตฉามิ สัพพะโรโควินิมุตโต ขอให้เคราะห์กรรมทั้งหลายจงอย่าได้ตามเราทัน จงหมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย ขอความเป็นอัปมงคลจัญไรทั้งหลายสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายจงถูกล้างหายไปด้วยพยนต์สำรองธาตุขันธ์ด้วยเทอญ (แล้วจึงอธิษฐานตามปรารถนา)


    ตะกรุดสำรองธาตุขันธ์นี้เป็นของสำคัญมากซึ่งตัวพ่ออาจารย์เองท่านยังใช้อยู่เป็นสิ่งที่ท่านต้องติดกายตนเองประจำ ท่านว่าเป็นวิชาเฉพาะที่ปู่พระอินทร์ตั้งใจจะสงเคราะห์และโปรดเฉพาะลูกหลานในสายของท่าน พูดได้เลยว่าถ้านอกสายหรือไม่ใช่ลูกหลานของท่านจะมีเหตุบังตาหรือความคิดบังใจให้ไม่สนใจในตะกรุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียงห้าดอกเท่านั้น

    * ตะกรุดรุ่นนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมดห้าดอก หากแต่ท่านใช้เองด้วยจึงมีให้บูชาเฉพาะเพียงสี่ดอก ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยท่านจะบอกกล่าวปู่พระอินทร์ให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กที่ขาดแคลนปัจจัยไร้โอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสำรองธาตุขันธ์พระเจ้าหลีกเคราะห์พิฆาตผูกหุ่นทับเงา(ผ่านสะดวก,เริ่มต้นใหม่,ตายแทนตัว) บูชา 4,000 บาท

    69499454-2598054553566078-2472455347655147520-n.jpg 69235151-394655841233742-4478574691182706688-n.jpg
    69643894-669126310272652-8134396569446252544-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระองค์อินทร์ผงยาดำกลืนทุกข์เข้าน้ำมันภูติพระเจ้า(หัสนัยน์พันตาท้าวพระยาพันเมีย)

    องค์อินทร์ผงดำ ผงยาดำนี้เป็นผงวิเศษสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างและเสกเก็บไว้อย่างดีซึ่งครั้งหนึ่งนั้นท่านได้แบ่งนำมาทำเป็นมวลสารอุดหลังเหรียญหล่อปู่พญายมราชอันมีประสบการณ์กันอย่างยิ่งยวด
    - ผงยาดำกลืนทุกข์ ความทุกข์อันได้แก่การใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ติดอยู่ในสภาวะที่บีบคั้น หรือสภาพที่ทนได้ยาก รวมไปถึงความไม่สบายทั้งกายและใจต่างๆก็ดี โดยเฉพาะปกิณณกทุกข์ คือทุกข์ต่างๆที่ฉาบฉวยหมุนเวียนเข้ามาไม่ว่างเว้น ทั้งความเสื่อมนานาชนิดไม่ว่าจะเสื่อมลาภ เสื่อมยศ...บรรดามี ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเห็นเป็นสำคัญว่าคนนั้นหนีไม่พ้นจากทุกข์ฉาบฉวยทั้งหลาย เมื่อท่านสร้างพระองค์อินทร์ ท่านจึงนำผงยาดำกลืนทุกข์นั้นมาใช้เป็นมวลสารกดพระ ท่านว่าเวลาห้อยบูชาผงนี้จะเปล่งรัศมีของเขาคลุมทั่วร่างกายคนใช้เอาไว้ ความทุกข์ใดๆก็ดีเขาจะกลืนกินและรับไว้หมด สังเกตง่ายๆหลังจากห้อยบูชา อย่างน้อยความทุกข์ทางใจจะค่อยๆหายไปอย่างน่าฉงน จะรู้สึกคิดบวก มีกำลังใจ รู้สึกสดชื่นอย่างน่าประหลาด ด้วยผงยาดำนี้มันจะกลืนกินความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่าจะทุกข์ฉาบฉวยหรือทุกข์ที่เกิดจากสภาวะสังขารให้เรามีอารมณ์เบิกบานตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีทุกข์ ไม่มีโรค ความโศกหาย ภัยร้ายไม่เกิดขึ้น ชีวิตย่อมมีความสุขสมควรแก่อัตภาพนั่นเอง


    น้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า
    เป็นระยะเวลานานที่พ่ออาจารย์ท่านได้คร่ำครวญเเละพิจารณาเห็นอะไรบางสิ่งบางอย่าง ท่านได้เเต่เฝ้ารอข่าวของการมาถึงในวัตถุอาภรรพ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือน้ำมัน
    น้ำมันนี้ฟังดูอาจจะเล็กน้อย แต่กล่าวได้เลยว่าศาสตร์ของการสร้างน้ำมันนี้เป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนเเละลึกซึ้งที่สุด เมื่อผู้ใดได้บูชาน้ำมันที่สร้างมาตามสูตรโบราณกาลอย่างถูกต้อง จะเห็นผลได้หลากหลายมากที่สุด ซึ่งศาสตร์น้ำมันนี้ก็มีทั้งทางเสน่ห์ เมตตา ชาตรี โชคลาภต่างๆกันไป
    ยกตัวอย่างทางด้านมหาเสน่ห์ก็เช่นน้ำมันพราย ที่ป้ายใครหรือผสมให้ใครกินเเล้วจะซึมเข้าไปในเนื้อในกระดูกผู้นั้นทีเดียว นี่คือความแรงของศาสตร์น้ำมันที่เหนือกว่าเเละเลอเลิศกว่าพร้อมกับใช้งานได้ง่ายกว่าพระเครื่องหรือสีผึ้งธรรมดาทั่่วไปหลายเท่านัก
    กล่าวถึงน้ำมันที่พ่ออาจารย์รอคอยการปรากฏขึ้นนี้ จะเรียกว่าหายสาปสูญไปจากโลกเเล้วก็เป็นได้ เพราะโดนฝังไว้ฝากไว้กับเเม่พระธรณีเป็นเวลาถึง 3 ชั่วอายุคน
    น้ำมันดังกล่าวนี้ เกิดจากผู้สืบทอดอันได้เก็บไว้พิจารณาดีเเล้วเห็นถึงคุณเเละโทษอย่างชัดเจนจึงนำมามอบให้กับพ่ออาจารย์
    น้ำมันนี้เกิดขึ้นก่อนพ.ศ. 2500 นับถอยหลังไป 3 ชั่วอายุคน จะทราบว่าก่อนยุคกึ่งพุทธกาลนั้นเรื่องอาคม อิทธิฤทธิ์ของพวกนี้เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดเจนมากเพราะยังไม่ถึงเวลาเสื่อมถอยตามพุทธบัญญัติ ในช่วงเวลานั้นได้เกิดศาสตร์ประเภทน้ำมันนี้ขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าศาสตร์น้ำมันนั้นมีมายาวนานเเล้ว
    พ่ออาจารย์ท่านอนุญาติให้เล่าเเละเปิดเผยได้บางส่วนคร่าวๆเท่านั้น จึงจะสรุปให้ฟังว่าน้ำมันนี้หุงขึ้นโดยครูหมอทั้ง 4 สาย ซึ่งทั้ง 4 ท่านนี้เเต่ละท่านต่างก็ร่ำเรียนพระเวทย์ฝึกหัดวิทยาคมมาจนเชี่ยวชาญ ครูหมอทั้ง 4 ท่านนี้เป็นฆราวาสเหมือนๆกันเเต่ที่เเน่ๆเลยก็คือเก่งชนิดหาตัวจับยากเเละไม่ยุ่งหรือสุงสิงกับโลกภายนอกเสียเท่าไหร่
    เมื่อถึงเวลาที่สหธรรมิกทั้ง 4 ท่านนี้ได้พบกันเเลกเปลี่ยนความรู้ จึงตัดสินใจที่จะหุงน้ำมันมหาเสน่ห์ชนิดหนึ่งขึ้นมา โดยใช้สรรพศาสตร์บ้านเกิดของตนเองตามที่ได้ร่ำเรียนมา นำมาผสมรวมกันทั้ง 4 ศาสตร์ ซึ่งเเต่ละศาสตร์เเต่ละสายนั้นจะต้องใช้มวลสารเเละวัตถุอาถรรพ์ที่เเตกต่างกันไป
    ศาสตร์ทั้ง 4 สายของครูหมอทั้ง 4 ท่านนั้น เเบ่งเป็นศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
    1. แขก
    2. อิสลาม
    3. พม่า
    4. มอญ
    ซึ่งหากใครเคยรับรู้เเละเล่นของทางเสน่ห์จะทราบว่า ศาสตร์เเห่งมหาเสน่ห์ที่ยอดเเล้วได้เเก่น้ำมันพรายนั้น จะดูเป็นหิ่งห้อยด้อยเเสงไร้คุณค่าไม่มีราคาไปเลยเมื่อมาเทียบอานุภาพกับเสน่ห์สายอิสลาม และเสน่ห์สายแขกพราหมณ์ฮินดู ถึงขนาดที่กล่าวได้ว่าหากเจอเสน่ห์ที่ทำขึ้นจากผู้รู้ศาสตร์วิชาและทำได้จริงจากสองชาตินี้เเล้วไม่ต้องไปหาหมอแก้ที่ไหน นอนรอวันตายได้เลยถึงจะหาย
    เมื่อครูหมอทั้ง 4 ท่านได้ประชุมกันหุงน้ำมันจากของอาถรรพ์ทั้งหลายเเละเสกรวมกันเสร็จเเล้ว ก็ได้นำน้ำมันนี้ เเจกจ่ายให้กับผู้เคารพนับถือ ซึ่งเเรกๆผลของมันก็คือ เป็นภัยคุกคามกับสตรีเพศอย่างเห็นได้ชัด ศิษย์ที่เป็นปุถุชนคนธรรมดาไม่เคยมีภรรยาก็กลับมีเมียอยู่ร่วมกันภายในบ้านหลายคน ที่หนักหน่อยคือเอาดีทางพระศาสนาเป็นพระสงฆ์องค์เจ้าเมื่อได้นำมันไปกลับมีสีกามาติดให้สึกหาลาเพศ
    เมื่อท่านทั้ง 4 พิจารณาเห็นถึงคุณเเละโทษของน้ำมันนั้นเเล้ว จึงได้ร่วมใจกันฝังน้ำมันนี้ฝากไว้กับพระเเม่ธรณีจวบจนกาลเวลาได้ผ่านไป มาถึงยุคหลานของท่านซึ่งเป็นครูโนราห์ได้นำน้ำมันนี้ขึ้นมา ทำให้เป็นที่เเปลกใจแก่ลูกหลานเเละเพื่อนบ้านในระเเวกนั้นว่าทำไมตาแก่ธรรมดาที่ไม่เคยมีอะไร อยู่ดีๆถึงมีสาวอายุ16-17 มาอยู่ด้วยเต็มบ้าน เเละเด็กสาวเหล่านั้นก็หาได้เป็นลูกสาวหลานสาวด้วยเเต่เป็นเมียท่านทั้งหมดตกกว่า 20 คน
    ครูโนราห์ท่านนี้ได้ลองนำน้ำมันนี้ให้ผู้อื่นลองใช้บ้าง ก็ปรากฏผลเช่นเดียวกับบรมครูทั้ง 4 ในอดีตที่ทดลองกัน เขาเอาไปป้ายไปทาผู้หญิงในสถานที่ท่องเที่ยวพอหมดก็จะมาขอใหม่ เรียกได้ว่าคนหน้าตาอัปลักษณ์ได้เมียระดับนางงามเต็มบ้าน ใช้จนไม่รู้จักพอครูท่านจึงเลิกให้น้ำมันเเก่บุคคลผู้นี้ ปรากฏว่าต่อมาคนผู้นี้ก็มีปัญหาในบ้านอันเนื่องมาจากภรรยาทั้งหลายไม่ลงรอยกันเเละตายเพราะภรรยาในที่สุด ท่านจึงลองนำน้ำมันให้พระภิกษุพกดู โดยการเลี่ยมใส่หลอด ปรากฏว่าไม่เป็นอันได้จำวัตรสวดมนต์ยังไม่ครบพรรษาก็มีสาวเล็กสาวใหญ่ตามเข้าออกในกุฏิตลอดเวลาจนได้สึกหาลาเพศในที่สุด
    น้ำมันนี้ครูโนราห์ท่านนี้ซึ่งเป็นผู้สืบทอดทางสายเลือดของครูหมอทั้ง 4 ในส่วนของครูอิสลามได้พิจารณาคุณเเละโทษเเล้วจึงตัดสินใจมอบให้กับพ่ออาจารย์พลพร้อมทั้งบอกคาถากำกับการใช้น้ำมันให้อย่างละเอียด
    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้รับน้ำมันมาเเล้ว ท่านพิจารณาเห็นว่าน้ำมันนี้จะเป็นคุณหนักหนาเเก่ผู้มุ่งหวังความเจริญทางโลกียะ หากใฝ่ไปทางโลกุตระก็เลิกคุยกันได้เลย ท่านกล่าวว่าผู้ที่จะบูชาน้ำมันนี้จากท่านไปจะต้องเป็นคนดี มีสติ รู้จักพอ ไม่มักมากทางกามคุณจนเกินงาม เอาว่าสำรวจจิตใจตัวเองว่าดีเเล้วก็มาบูชา
    ซึ่งวิชาน้ำมันนี้จะอยู่สูงกว่าเเละเเตกต่างจากน้ำมันพรายอย่างเทียบไม่ติด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหนือกว่าน้ำมันพราย น้ำมันภูติ น้ำมันมหาภูติมากนัก และเนื่องจากน้ำมันนี้ไม่มีชื่อเรียกมาเเต่ต้น ท่านจึงเรียกน้ำมันตัวนี้ว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า
    ท่านว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้านี้เป็นน้ำมันที่แปลก คือมีตัวรู้เเละสนองตอบแบบรวดเร็วรุนแรงตามใจผู้ใช้ หากพกไว้กับเนื้อกับตัวจะซึมซาบกลิ่นอายทำให้ผู้ใช้มีสง่าราศีดูหน้าใสขึ้นมีเลือดฝาดมากขึ้น ไม่ใช่น้ำมันฝ่ายต่ำ เเต่สรรพคุณนั้นกลับรุนเเรงยิ่งกว่า ที่สำคัญคือมีครูวิชาทั้ง 4 สายที่เป็นครูเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนเจ้าของน้ำมันทั้ง 4 ท่าน ให้การอุปการะเกื้อกูลเเก่ผู้ถือครองอยู่
    ซึ่งทานได้พิจารณาเเล้วเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการนำไปใช้ไปป้ายไปผสมน้ำให้ใครกิน ท่านจึงจะผสมลงไปในเนื้อพระเพื่อสร้างวัตถุมงคลโดยใช้น้ำมันนี้หนักๆเลยเพื่อสงเคราะห์ศิษย์ที่เเสวงหาของเสน่ห์ที่มีผลรุนเเรงเเต่โบราณกาล จะไม่ใส่หลอดให้เอาไปใช้กันเล่นๆ เพื่อผลดีเเก่ตัวท่านเอง
    * น้ำมันนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปใดๆทั้งสิ้น เพียงเเต่ให้บอกกล่าวให้รู้เฉยๆ เพื่อไม่ให้เสียเเรงครู ของครูหมอทั้ง 4 ที่ตั้งใจจะปกปิดวิชาเหล่านี้ถึงขนาดฝังดินกลบไว้นั่นเอง เมื่อนำมาสร้างพระจึงถือเป็นการเปิดตัวของเเรงในสายน้ำมันที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของที่สุด หากเทียบกับน้ำมันพรายเป็นหิ่งห้อยเเล้ว น้ำมันภูติพระเจ้าก็คือแสงอาทิตย์ดีๆนี่เอง


    แต่เดิมนั้นเคยมีการขอร้องส่วนตัวเข้ามาหลายครั้ง ให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างองค์อมรินทร์หรือพระอินทร์ให้บูชาในกรณีที่ผู้ประสงค์ขอบูชาอยากได้ไว้เป็นของดีประจำตัวของตน ถึงกระนั้นก็ได้รับการปฏิเสธจากท่านมาโดยตลอด โดยท่านให้เหตุผลว่ายังไม่ได้ขอไม่ได้คุยจะไปสร้างรูปท่านได้อย่างไร พ่ออาจารย์ท่านรู้ดีว่าการสร้างพระอินทร์นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆในคติความเชื่อทางฝ่ายพุทธพระอินทร์คือประมุขแห่งเทวสภาซึ่งเป็นศูนย์รวมของสวรรค์ในทุกๆชั้นและยังเป็นราชาเเห่งทวยเทพในพิภพดาวดึงษ์ซึ่งมีความรื่นรมณ์สมบูรณ์สูงสุด พ่ออาจารย์ท่านมักจะเรียกติดปากเวลาอัญเชิญหรือกล่าวถึงว่าพระองค์อินทร์ เป็นมหาเทพผู้ครอบครองวชิราวุธ(สายฟ้า)หนึ่งในศาสตราวุธเทวโลกที่ทรงอานุภาพสูงสุด

    เมื่อท่านได้น้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้ามาไว้ในครอบครอง ท่านก็มีดำริจะนำน้ำมันนั้นมาผสมผงเสน่ห์ทำพระให้คนได้ไว้บูชา เเต่เนื่องจากบูรพาจารย์ทั้ง 4 ที่ได้สรรค์สร้างน้ำมันขึ้นมานั้น ล้วนเป็นคนต่างชาติต่างภาษามีทั้งพุทธ พราหมณ์ อิสลาม การจะทำเเละอัญเชิญครูทั้ง 4 ลงมาช่วยประสิทธิ์ประสาทนั้นจึงเป็นการยากกว่าทุกครั้งเพราะไม่สามารถทำไว้ในรูปเคารพของพระพุทธเจ้าได้ พ่ออาจารย์ท่านจึงเข้ากรรมตรวจสอบและได้สอบถามจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของครูทั้งสี่ท่าน ว่าสมควรจะทำรูปอะไรดี ท่านได้ข้อสรุปว่าให้ทำรูปเคารพซึ่งเปรียบเสมือนรูปเเทนครูบาอาจารย์ไม่ใช่รูปพระ เมื่อผสมน้ำมันไปในเนื้อจะสามารถแสดงอานุภาพได้เต็มที่มากกว่าไม่ลดทอนกำลังกันและกัน

    ท่านจึงเริ่มลงมือแกะสลักเเม่พิมพ์ โดยความตั้งใจของท่านจะทำให้เป็นยอดเครื่องมงคลด้านเสน่ห์จึงทำเป็นมงคลลักษณะห้าเหลี่ยมคล้ายพระขุนแผน เเต่ตรงซุ้มนั้นท่านแกะเป็นลายเถาวัลย์หลง ท่านบอกว่าเรียกว่าซุ้มเขาหลง คนที่บูชาไปแค่ใครมองเห็นเขาก็หลงเเล้ว หลังจากนั้นจึงแกะรูปเทพบุตรนั่งประทานพรไว้เป็นประธาน ประดิษฐานอยู่กลางซุ้ม แต่ก็ไม่ได้หมายใจลงไปว่าจะเชิญเทพพระองค์ใดลงมา เพราะตั้งใจจะให้เป็นศูนย์รวมตัวแทนครูบาอาจารย์ หลังจากนั้นท่านจึงนั่งอธิษฐานจิตเสกบล๊อกของท่านไปแล้วจึงทำวัตรสวดมนต์ปกติ ท่านได้มีนิมิตรถึงพลังงานแห่งดวงจิตหนึ่งที่สื่อสารกับท่านเข้ามา ทีแรกท่านว่าได้ยินเพียงเสียง พอสอบถามและรู้ความเเล้วจึงทราบว่าเป็นทิพย์ญาณขององค์อมรินทร์ ซึ่งท่านได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟังติดๆกันสองวัน พูดซ้ำไปซ้ำมา ว่าพระอินทร์ท่านมีดำริมาแบบนี้

    องค์อมรินทร์ นั่งเสกจะทำพระอะไรอีก

    พ่ออาจารย์ ก็กราบเรียนไปถึงความตั้งใจที่จะทำพระเนื้อผงผสมน้ำมันนั้น

    องค์อมรินทร์ ท่านเสกแบบนี้ พระองค์นี้ถ้าทำสำเร็จแล้ว คนนำไปใช้จะมีแต่ความวุ่นวาย

    พ่ออาจารย์ วุ่นวายอย่างไร

    องค์อมรินทร์ วุ่นวายเพราะโลกีย์วิสัยเเละกามคุณทั้ง5 คนที่เขาได้ไปจะพบจะเจอเรื่องราวเช่นนี้ ตรัสจบท่านก็มีนิมิตรให้พ่ออาจารย์เห็น ว่าคนนำไปใช้จะได้ลาภเกี่ยวกับคู่ครองเเละสัตว์สองเท้า แต่ว่าคนเหล่านั้นจะไม่หยุดเเละไม่พึงใจที่จะหยุดเฉพาะคู่ครองที่ได้มา แต่เขาจะปรารถนาในสตรีที่มีสังคมสูงขึ้นเเละสูงขึ้นไปอีก

    พ่ออาจารย์ ท่านจึงมีดำริว่าเราก็คิดจะให้เป็นเสน่ห์สูงสุดอยู่เเล้ว ต้องการจะให้คนใช้ได้คู่ครองที่ดีเเละสูงส่งกว่าตนเอง ในเมื่อท่านลงมาเเล้วก็แปลว่ามีบุพกรรมร่วมกัน ผมจะขอให้ท่านช่วยผม ผมลังเลว่าจะเชิญเทพองค์ใดมาประดิษฐานแต่เเรก เมื่อท่านมาก็อยากจะขอใช้ให้เป็นรูปท่านไปเสียเลย มาช่วยกันทำกับผมถือว่าสร้างบารมีในโลกมนุษย์นี้อีกโสตหนึ่ง

    องค์อมรินทร์ ท่านจึงรับปากเเละตรัสตอบเอาไว้ว่า ไม่ใช่เพียงแต่จะทำให้เรื่องเสน่ห์เท่านั้นแต่เราจะช่วยลงในทุกๆด้าน


    พ่ออาจารย์ท่านมีความปิติดีใจมาก หลังจากนั้นท่านจึงลบผงเสน่ห์ทั้งปวงขึ้นมาเพิ่ม โดยนำผงช้างประสมโขลงมาเข้ากับน้ำมันช้างย้อยหรือน้ำมันช้างตกมันที่ส่วยเรียกกันว่า(กัวเผาะ) ที่ถือได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่มีอานุภาพรุนเเรงกว่าน้ำมันพราย หลังจากนั้นท่านจึงนำผงเสน่ห์ที่เตรียมไว้ผสมกับว่านเสน่ห์ที่ท่านตากแห้งไว้ดีเเล้ว และนำน้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้าลงไปประสมด้วย ในส่วนของการทำมวลสารนั้นท่านผสมเป็นถ้วยองค์ต่อองค์เลย โดยใช้ผงล้วนๆว่านล้วนๆและน้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้าที่ผสมลงไปต่อพระหนึ่งองค์นั้นก็เป็นปริมาณหนึ่งหลอด โดยที่กลิ่นของน้ำมันช้างย้อย(กัวเผาะ)ซึ่งเหม็นสาบรุนเเรงเมื่อรวมกับน้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้าเสร็จเเล้วจะกลายเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ เนื่องจากเป็นพระเนื้อมวลสารล้วนๆอ่อนตัวประสาน พระจึงอ่อนเเละเเตกหักได้ง่าย เพราะพ่ออาจารย์ไม่ได้ทำแบบผงน้ำมันตามที่พระเกจิทั้งหลายได้สร้าง แต่กลับนำผงมานวดกับน้ำมันเลย พอแห้งก็เติมอีกนวดจนหมาดพอที่จะผสมกดเครื่องมงคลได้แบนั้น

    องค์อินทร์ผงดำที่เข้ากับน้ำมันภูติพระเจ้านั้นเป็นพระกดลองพิมพ์หรือกดนำฤกษ์ ด้วยผงยาแลน้ำมันวิเศษจึงมีส่งผลสูงในทางมายาคติไม่ว่าจะมนุษย์สัตว์หรือแม้เเต่เทวดาในอากาศธาตุเเละมิติอื่นๆก็มีผลโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าเมื่อเกินคำว่าเสน่ห์เเล้วตัวท่านเองเลยไม่อยากทำ ###ท่านตั้งใจจะเก็บพระชุดนี้เอาไว้พลีตำเป็นมวลสารทำอย่างอื่นเพราะเห็นว่าเป็นของเก่าและมีคุณแรงมาก แต่พระองค์อินทร์ท่านบอกให้พ่ออาจารย์ทำไปเถิดท่านจะคุมเอาไว้ให้เอง จะดลบันดาลให้คนที่ดีที่สมควรจะได้ไว้บูชามาประสบพบเจอ คนที่มีใจคิดชั่วมีดำริไปในทางลามกวิตถารจะไม่มีวันได้เห็นเเม้เเต่เศษเงาของพระองค์นี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงตัดสินใจเสกเก็บไว้และเชิญองค์อินทร์มาทำวิชาเรื่อยๆก่อนออกให้บูชา

    ด้านหน้าเครื่องมงคลนั้นท่านโรยผงแร่เทวาประสิทธิ์เอาไว้ ท่านว่าเอาแรงครูและนามอันเป็นมงคลมาใช้ ต่อไปตกถึงมือผู้ใดเทวดาจะได้เข้าช่วยองค์อินทร์จะได้รักษาประสิทธิ์ประสาทให้สมดั่งความคิดความตั้งใจทุกเรื่อง หลังจากนั้นท่านจึงเชิญครูเเละเชิญพระอินทร์ลงมาสถิตย์ในเทวรูปที่สร้างขึ้นนี้ พร้อมกับอาราธนาว่าเอาให้เเรงให้เหมือนกับพระองค์ที่เสวยทิพย์สมบัติอยู่ในสวรรค์ สมบัติทิพย์ของพระองค์นั้นมีมากมายเกินกว่าเจ้าพระยาจักรพรรดิราชทุกยุคทุกสมัยอย่างไรผมขอให้ท่านลงแบบนั้น เรื่องเสน่ห์นี่หายห่วงเพราะมันเกินคำว่าเสน่ห์ไปแล้ว เมื่อเสร็จวาระเเล้วท่านจึงนำมานั่งปรกต่อโดยเชิญครูเจ้าของวิชาน้ำมันทั้ง 4 มาร่วมด้วยช่วยกัน ทำทีละองค์ เสกกันแบบนี้ด้วยความตั้งใจล้วนๆ เนื้อพระจะเห็นผงเห็นคราบว่านเนื้อว่าน คราบน้ำมัน ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์เเบบโบราณที่หาได้ยากขึ้นในปัจจุบัน

    พระผงนี้เมื่อทำเสร็จพ่ออาจารย์ท่านได้นำมาทดสอบพลังก็เป็นที่พอใจของตัวท่านเอง ท่านพูดทั้งวันว่านี่สุดๆแล้วจริงๆ มีนิมิตรตอนเสกเข้ามาตลอดเป็นมนุษย์เเละเทวดาเสพสังวาสกันไม่ขาด พ้นรุ่นนี้ไปคงจะทำพระที่มีแรงครูสูงแบบนี้ไม่ได้อีก ดูเบลอๆไม่สวยแต่คุณภาพนั้น แค่เศษธุลีผง ก็อย่าให้กระเด็นเชียว ใครเดินข้ามเขาจะหลงหัวปักหัวปำต้องเลี่ยมดีๆ(ท่านว่าลองว่าเมตตาเหลือล้ำแล้วก็เอาไปแปลงใช้ได้ทุกเรื่องในชีวิต ขึ้นอยู่กับเจตนาคนใช้ถ้าตัวเองมีเจตนาดีชีวิตออกมาก็เจอแต่เรื่องดีๆ คิดอะไรทำอะไรก็ได้อย่างนั้น) พ่ออาจารย์ท่านตั้งชื่อให้พระผงรุ่นนี้ว่า หัสนัยน์พันตาท้าวพระยาพันเมีย ท่านว่าพระอินทร์มีตาตั้งพันจะได้คอยสอดส่องช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลา หลับตาหนึ่งอีกตาหนึ่งก็ลืมอยู่แบบนั้น คิดจะเอาไปใช้เเล้วก็รับให้ได้เเล้วกัน ถ้าครองตัวครองใจตนเองให้ดี ก็จะไม่เกิดความวุ่นวายใดๆตามมา

    คาถาบูชา
    สหัสสเนตรโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสธายิ อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู(เอาไว้อาราธนาองค์พระ)


    *** องค์อินทร์ผงดำนั้นเป็นพระยุคแรกเก่าเก็บของพ่ออาจารย์ซึ่งท่านสร้างไว้ไม่มาก ท่านเห็นว่ามีคนถามหาปู่พระอินทร์กันมาเยอะท่านจึงอนุเคราะห์นำของเก่าที่ท่านทำไว้ดีแล้วมาออกให้บูชา ท่านว่านี่แหละท่านลงมาทำให้เต็มบารมีเลยรุ่นนี้ แล้วก็ทำก็เสกมานานแล้ว รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระองค์อินทร์ผงยาดำกลืนทุกข์เข้าน้ำมันภูติพระเจ้า(หัสนัยน์พันตาท้าวพระยาพันเมีย) บูชา 900 บาท
    70142916-230615371198794-5269297218556264448-n.jpg
    70455992-1095243593998530-4901924820070957056-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงของขวัญสำเร็จทันใจ(ครูพระสีวลีผงทิพย์ปทุมเกสร,ข้าวก้นบาตรพระพุทธกัสสปะ)

    " มีพระลองพิมพ์อยู่ชุดหนึ่ง ที่ฉันทำให้สำเร็จได้โดยธาตุข้าวก้นบาตรของพระกัสสปะพุทธเจ้าแลของทิพย์ "..... " พระคุณเจ้าสีวลีนั้นท่านย้ำมาเองเลย ท่านกำกับไว้เลยว่าตะกรุดชุดนี้เมื่อนำมากดทำพระแล้วขอให้พ่ออาจารย์ยกถวายท่านเสกไว้อย่างน้อยต้องสองปีขึ้นไป จะไวจะช้ากว่านั้นท่านไม่ยอมเราเลย "

    ด้วยรูปเคารพสำคัญอยู่สิ่งหนึ่งที่พ่ออาจารย์ท่านไม่เคยสร้างเลย เเละผมก็ตอบปฏิเสธผู้ที่มาขอเมตตาให้ท่านทำให้หลายครั้ง นั่นก็คือพระสีวลีพ่ออาจารย์ท่านเคยกล่าวว่าวิชาพระสีวลีนั้น ไม่ใช่ดีเเต่เพียงเรื่องโชคลาภ โภคทรัพย์เงินทองอย่างเดียว เเต่วิชาพระสีวลีที่ท่านเรียนมา หัวใจของพระสีวลีจริงๆนั้น ผู้ที่ใช้เขาจะพบกับคำว่าสบายในสิ่งที่เขาทำ เเละที่มากไปกว่านั้นมันเป็นเมตตามหานิยม เเละก็เป็นเสน่ห์ด้วย ครูเราสอนมาเช่นนี้จริงๆ เพราะตั้งเเต่ก่อนสมัยครูเราท่านก็ทำสีผึ้งพระสีวลีไว้ แต่ไม่ได้ทำไว้หาเงินหรือเสี่ยงโชค ท่านทำไว้ป้ายผู้หญิง ป้ายที่ไหนได้ที่นั่น เพราะท่านถือว่าพระสีวลีนี้คือบุคคลพิเศษ ในรอบหลายพันปีจะมีผู้ที่มีบารมีเต็มมาเกิดเเบบพระสีวลีนี้ยากนัก พระสีวลีนี้เป็นที่รักใคร่ชอบพอของคนทั้งโลกเเม้ว่ามนุษย์หรืออมนุษย์ทุกภพภูมิ ทั้งยังเป็นผู้มีปัญญาเปรื่องปราดฉลาดเฉลียว เเละเหนือกว่านั้นหากพระเป็นเจ้าสีวลีท่านได้ให้พรแก่ผู้ใดแล้ว คำพรนั้นหนักแน่นหนักหนาเหมือนเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นและเป็นไปได้ถ้วนทุกประการ

    พ่ออาจารย์ท่านว่านางกวักเป็นอย่างไร นั่นก็ที่มีฤทธิ์วิเศษได้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพรของพระสีวลี เรื่องพรของพระสีวลีนี้ผมเคยเจอมากับตัวเเล้ว เอาไว้ค่อยเล่าเเล้วกันมันยาวมากๆ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็ได้รับผงวิเศษและของอาถรรพ์ต่างๆมาสะสมไว้มากมาย แต่ท่านก็ยังไม่มีดำริจะทำพระสีวลีซักที จนกระทั่งท่านได้รับนิมิตรหนึ่งซึ่งเป็นมหามงคลอย่างยิ่ง ท่านว่าท่านได้เดินไปท่ามกลางพระภิกษุที่กำลังนั่งพิจารณาบาตรกันอยู่กลุ่มหนึ่ง แต่ละท่านก็ล้วนแต่เป็นครูบาอาจารย์ที่ท่านคุ้นหน้า ยกเว้นองค์ประธานที่นั่งอยู่หน้าสุด อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ตอนท่านนิมิตรนี้ท่านเห็นตัวท่านเองห่มจีวรเเบบพระ และก็มีอาสนะด้านท้ายสุดเว้นว่างไว้ไม่มีผู้ใดนั่ง พ่ออาจารย์ท่านก็เลยตรงมากราบนมัสการท่านก่อน ท่านว่าถึงตรงนี้ท่านสื่อสารกับเราทางจิต เราไม่เห็นปากท่านขยับเลยเเต่เรารู้ว่าท่านพูดเเละบอกอะไร ซึ่งในการสนทนานั้นทำให้พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าพระภิกษุองค์ประธานนั้นคือพระคุณเจ้าสีวลีเถระ ท่านได้มีดำริกับพ่ออาจารย์ว่า เมื่อไหร่คุณจะกลับไปนั่งในที่ของคุณซักที ที่ตรงนั้นที่ว่างอยู่ยังรอคุณอยู่ตลอดนะ (ผมก็มานั่งคิดนะ ดีไม่ดีปลายปีนี้พ่ออาจารย์ท่านคงอาจจะได้บวชให้ครูบาอาจารย์อีกซักหนก็ได้) หลังจากนั้นท่านก็สนทนากันหลายเรื่อง สุดท้าย องค์พระสีวลีท่านจับมือของพ่ออาจารย์ขึ้นมากุมไว้ เเละก็ใช้นิ้วเขียนอะไรบางอย่างไว้กับมือท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านว่านิมิตรนี้ถือเป็นมหามงคล เพราะเราได้เห็นรูปลักษณ์ของพระคุณเจ้าท่านอย่างใกล้ชิด เวลาเชิญเวลาจะทำอะไรทีนี้ก็ไม่ยากแล้วเพราะมีความผูกพันธ์ปรากฏในความจำได้หมายรู้ในสัญญาของเราเเล้ว เราเองก็ปรารถนาจะทำรูปพระสีวลีที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างการทำมาเหมือนกัน เราเชื่อว่าที่ท่านจับมือเรานั้นมันเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันอยู่บ้าง เราก็จะใช้มือคู่นี้ทำรูปเคารพของท่านให้คนที่เรารักทั้งหลายเอาไปบูชา เมื่อมีความคิดเช่นนั้นท่านจึงมาเเกะเเม่พิมพ์ โดยท่านได้กล่าวว่าพระพิมพ์นี้มีให้เอาไว้ใช้นะเน้นการใช้งานสร้างเนื้อสร้างตัว ทุกอย่างในนี้ท่านว่าท่านเสกเเยกเอาไว้ทั้งหมด ท่านเเกะเเม่พิมพ์เป็นพระสีวลีทรงบาตร นั่งอยู่ในกลด มีน้ำเต้าอยู่ 2 ข้างซ้ายขวา ท่านว่าสิ่งต่างๆนั้นมีความหมายเเละพลานุภาพเเตกต่างกันไป
    - กลด กลดนี้ก็เหมือนที่อยู่ของคน กลดของพระวิปัสสนาจารย์ ก็เหมือนมหาประสาทราชวังของพวกเรา ด้วยกลดนี้จะใช้ป้องกันได้ทุกสิ่งเหมือนฉันกางกำเเพงเเก้วไว้ทั้ง 7 ชั้น ไม่มีสิ่งไม่ดีอะไรจะหลุดรอดเข้ามาทำอันตรายเธอได้ ใครไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย เขาก็จะได้โดยบุพกรรมของเขา เพราะในตัวเขามีสื่ออยู่เเล้ว พระเถระท่านอาศัยอยู่ในกลด พึงใจอยู่ในกลดเสียยิ่งกว่าอยู่ประสาทราชวังหรือทิพย์วิมานเทวดาในชั้นฟ้าของเทพองค์ไหน เพราะกลดนี้คือที่อยู่อาศัยอันสำราญอิริยาบท ต่อไปคนที่เขาบูชาเขาก็จะมีพร้อมในที่อยู่อาศัยและจตุปัจจัยทั้ง4เช่นกัน
    - บาตร บาตรนี้คือขุมทรัพย์ ทุกสิ่งที่ปรารถนาล้วนสำเร็จได้มาเเต่บาตรนี้ เพราะเราเดินมนต์พระสีวลีอธิษฐานบาตร นี่คือบาตรของพระสีวลี ไม่มีอะไรเลยในโลกที่เป็นไปไม่ได้ เเม้เป็นไปไม่ได้เทวดาเขาก็จะหามาให้ เมื่อพระสีวลีเปิดบาตรคนทั้งหลายไม่ว่าจะยากลำบากหรือต้องดิ้นรนซักเพียงใดเขาก็ปรารถนาจะใส่บาตรกับท่าน ที่เราลงพระสีวลีอธิษฐานบาตรไปให้ เพื่อให้โชคลาภให้สิ่งที่เธอต้องการ มันวิ่งมาหาเธอเองเเบบง่ายดาย เธอจะได้ไม่ลำบากตะเกียกตะกายวิ่งไปหาพวกมัน มนต์นี้สำคัญนะ เเม้มีปัญหาอุปสรรคอะไรขัดขวางมันก็จะมาหาเธอจนได้ หยุดไว้ไม่ได้เลย เวลาอยากได้อะไรก็ให้เอาหน้าผากของตนจรดที่บาตรนี้แล้วอธิษฐานขอกับพระผู้เป็นเจ้านามว่าพระสีวลีเถิด
    - น้ำเต้า พ่ออาจารย์ท่านลงน้ำเต้าไว้ซ้ายขวา ซึ่งเเต่เเรกเราเห็นเรายังเผลอคิดไปว่าถ้าไม่มีน้ำเต้าคงจะสวยงามมากกว่านี้ ท่านว่าไม่มีไม่ได้ น้ำเต้านี้เราประจุพระมนต์มหาสูบเอาไว้ให้มีพุทธคุณดูดกลืนได้ทุกสิ่ง เหมือนกับหลุมดำที่ดูดไม่มีวันเต็มไม่มีวันอิ่มเเบบนั้น จะได้สูบเอาดูดเอาสิ่งดีงามเข้ามาสู่ชีวิตของตนเอง อันนี้ใช้สูบเอาพลังงานก็ได้นะ เวลาไปสถานที่ธรรมชาติดีๆทั้งหลายเช่นทะเลภูเขาต่างๆ อธิษฐานบอกกล่าวให้เขาสูบเอาพลังงานธรรมชาติก็ได้ และวางทิ้งไว้ซักครู่หนึ่งประมาณ 5 นาที แล้วก็นำกลับมา นี่ไงเราถึงเรียกว่าเเรงเเละเห็นผลไว เพราะเธออธิษฐานอะไรกับบาตรพระสีวลีไป มันจะทำงานพร้อมกับน้ำเต้าที่ลงมหาสูบเอาไว้ น้ำเต้าก็จะสูบสิ่งที่ต้องการเเละปรารถนาเข้ามาในขณะที่บาตรนั้นก็เปิดรองรับอยู่เเล้ว นี่เป็นเคล็ดวิชา ไอ้ที่ไม่ได้ไม่สำเร็จไม่มีทั้งหลายนี่ถือว่าแก้เคล็ดไปทุกอย่างเเล้ว เพราะเราแก้ด้วยอาถรรพ์และวิชา


    มวลสารในส่วนของมวลสารนั้น ท่านใช้สิ่งต่างๆผสมสร้างดังนี้
    ****(ผงนี้มีเฉพาะชุดลองพิมพ์)
    - ธาตุข้าวก้นบาตรพระกัสสปะพุทธเจ้า
    เป็นของสำคัญที่ให้คุณทางโภคทรัพย์ยิ่งใหญ่ซึ่งเทวดาท่านบอกสถานที่ให้พ่ออาจารย์ท่านไปเอามารักษาไว้สมัยธุดงค์ ท่านว่าธาตุนี้ดีทางลาภผลมากแบบเหลือกินเหลือใช้ สมัยก่อนวัดไหนที่โบสถ์สร้างไม่เสร็จไม่คืบหน้า ท่านว่ามาขอยืมธาตุนี้ไปบูชาถวายสักการะสรงน้ำอบน้ำปรุงบอกกล่าวขอบารมีพระพุทธกัสสปะท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าไวทันตาเห็นเสร็จสวยงามกันทั้งนั้นนี่คืออานุภาพธาตุข้าวก้นบาตร ชุดลองพิมพ์นี้ท่านจึงเอาธาตุสำคัญมาทำด้วยรู้ว่าคนที่เขาห้อยนั้นเดือดร้อนทางลาภสักการะจะได้เปลี่ยนคนให้เป็นผู้มีกินมีใช้ไม่อดไม่อยากไม่ยากไม่จน ให้อุดมสมบูรณ์เพิ่มพูนทรัพย์สินตามใจ ท่านว่าธาตุนี้อยู่บ้านไหนลาภสักการะเต็มทั้งหมด มีกินอุดมสมบูรณ์กันทั้งบ้านเต็มไปด้วยความสุขร่ำรวยแบบเต็มบาตรไม่ขาดไม่พร่อง พ่ออาจารย์ท่านพลีธาตุข้าวก้นบาตรตำเป็นผงขออนุญาติพระพุทธกัสสปะให้ช่วยสงเคราะห์ช่วยทำผงนี้ให้อย่างลึกซึ้งเพื่อหวังจะให้ไว้เป็นผงขวัญถุงใช้เรียกโภคทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์สมบัติ ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังว่าองค์พระพุทธกัสสปะนั้นยังได้ให้ความหมายของธาตุข้าวก้นบาตรของท่านเอาไว้ด้วย ว่าเป็นข้าวที่ท่านฉันเหลือ เป็นข้าวที่ท่านเหลือไว้จนมาปรากฏอยู่ในกาลนี้ ด้วยปกตินั้นท่านจะพิจารณาอาหารทุกมื้อที่ท่านฉัน(ภาษาปากเราก็เสกข้าวทุกมื้อทุกคำนั่นแหละ) ข้าวที่ท่านฉันเหลือจึงมีมงคลมากพ่ออาจารย์ท่านว่าเหลือกินเหลือใช้ทุกอย่างไม่ขาดไม่พร่อง ทำอะไรก็มีแต่เหลือเช่นนั้นท่านจึงเจาะจงนำผงธาตุสำคัญนี้มาทำครูพระสีวลีชุดกดลองพิมพ์เพื่อให้เป็นมหาโชคโภคทรัพย์อย่างถึงที่สุด
    - ผงบัวผุด ท่านว่าเป็นดอกบัวที่อยู่ในห้องพระท่าน ท่านว่าไม่รู้ว่ามาได้อย่างไรหรือใครเอามาไว้เพราะห้องพระท่านจะล๊อคกุญแจเสมอ แต่กลับมาปรากฏอยู่ตรงนั้นวางบูชาคุณพระเช่นนี้เอง ท่านได้ตรวจสอบดูจึงแน่ใจว่าดอกบัวนั้นไม่ปกติหากแต่มาจากที่สูง ท่านจึงเก็บบัวชุดนี้ไว้เฉพาะเพื่อตากแห้งและทำผงวิเศษโดยเรียกว่าผงบัวผุด ท่านว่าจะใช้ดอกบัวใดๆในโลกมาทำผงนี้ย่อมไม่มีอานุภาพเช่นของทิพย์ของเทวดาเค้าเอามาให้ ผงบัวผุดนี้ท่านว่าใครได้ใช้ไม่มีตกต่ำ แม้แย่ที่สุดต่ำที่สุดดุจอยู่ในโคลนตมก็ยังผุดพ้นชั้นดินมารับแสงอาทิตย์เป็นบัวที่บริสุทธิ์ไร้ราคีได้ ใครที่ได้ทุกข์หม่นหมองตกอับพ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละผงบัวผุดนี้จำเป็นนัก ใครที่รู้ตัวว่าชีวิตยังจมอยู่ไม่ผุดขึ้นมาซักทีท่านว่าเอาพระพิมพ์นี้ไปใช้ขอแค่มั่นคงในคุณพระรัตนตรัยเรื่องเือดร้อนทุกข์ภัยไข้เจ็บล้วนแต่ไม่ได้ใกล้ตัวเราเลย
    - ผงวิเศษ5ประการของสมเด็จบรมครู คือสมเด็จโต วัดระฆังเป็นมวลสารหลัก อันนี้คือปรมาจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พ่ออาจารย์ท่านว่าหมดห่วง ผงวิเศษ 5 ประการของขรัวโตนี้ ดีครอบคลุมทุกอย่างมีครบทุกทาง
    - ผงวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ ของหลวงพ่อปาน ซึ่งสืบทอดมาถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และพ่ออาจารย์ท่านได้มาในปริมาณที่ไม่มากนัก(แต่ก็ถือว่ามากอยู่ดี) พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้สำคัญนักหลวงพ่อฤาษีท่านย้ำนักหนาว่าให้เก็บไว้ให้ดี ใครมีเอาไปใช้เเละหมั่นทำบุญ มีเเต่รวยเจริญขึ้นทันตาเห็น ซึ่งปกติสมัยหลวงพ่อปานมีชีวิตอยู่ ผงนี้จะใช้อุดรูพระผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆเเต่เพียงนิดเดียวเท่านั้น หาพระของท่านแท้ๆไม่ได้มาเอาองค์นี้ไปใช้เเทนกันได้เลย

    - นวดพระสีวลี ซึ่งเป็นนวดของครูบาอาจารย์ฆราวาสในดงที่ถ่ายทอดวิชาให้พ่ออาจารย์ท่านมีอิทธิคุณแรงกล้าในเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์ มหาเมตตาใหญ่ และมหาเสน่ห์ใหญ่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้มาขวดหนึ่ง นวดนี้มีอายุตก40-50ปี ท่านว่านวดนี้มีพิธีการหุงที่พิเศษเเตกต่างจากสีผึ้งสายเทพ เเละสายพรายทั่วไป มีวิธีการสร้างที่แปลกประหลาดจนเราไม่คิดว่าจะหาใครมาทำได้เป็นคนที่สอง เพราะขนาดตัวเราเองก็ยังทำไม่ได้ ถึงจะเรียนไว้ เเต่อะไรหลายๆอย่างมันหาในยุคนี้ไม่ได้เสียเเล้ว ครั้งนี้เอามาใช้ให้เผยเเพร่ออกไปก็จะเป็นนวดในตำนานที่หมดเเล้วก็ไม่มีการสร้างขึ้นมาอีก
    - ผงหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อันนี้ก็มีประสบการณ์เรื่องเมตตามหาเสน่ห์เป็นที่ยอมรับในวงกว้างสุดๆเหมือนกัน
    - ผงลบพุทธคุณ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านลบผงไว้ในสายวิชาพระสีวลีทั้งหมดทั้งพระสีวลีขอลาภ,พระสีวลีเปิดบาตร,พระสีวลีอุ้มทรัพย์,พระสีวลีเรือนหลวง,พระสีวลีรับทรัพย์,พระสีวลีหาลาภ....


    พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้มวลสารเหล่านี้มากดพิมพ์ ก่อนกดนั้นได้เอามาเสกเเยกอีกครั้งหนึ่ง ท่านว่าเสกจนมีลมหมุนเข้ามาต้องผงจนฟุ้งขึ้นไปและเเมงมุมทุ่มอก จิ้งจกปี้กัน ตรงตามอาถรรพ์ในตำรา ถึงมั่นใจนำออกมาผสมกัน ท่านว่าถ้าเอาเสน่ห์หรือโชคลาภ คนใช้ก็หัวกะไดไม่เเห้ง ซ้ำด้านหลังชุดลองพิมพ์ท่านยังได้ฝังตะกรุดสำคัญไว้ด้วย
    - ตะกรุดสำเร็จทันใจ ตะกรุดดอกนี้ถือว่าสำคัญที่สุดไม่ได้ถ่ายให้ดูพระยันต์ด้านใน พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ด้านหน้า ท่านว่านี่เป็นเเหล่งพลังงานสำคัญขององค์พระเลย เพราะว่าท่านจารอักขระเเบบเดียวกับที่องค์พระสีวลีท่านจับข้อต่อเเขนเขียนลงบนมือท่าน ท่านถือว่าพระสีวลีท่านให้สิทธิ์ในวิชานี้แก่ท่านเเล้วเป็นอักขระที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เมื่อเขียนลงไปเเล้วก็เชิญองค์พระสีวลีให้ท่านมาสำเร็จวิชานี้ตะกรุดนี้ ท่านว่าเป็นมหาสำเร็จ ใครคิดหวังอะไรเป็นสำเร็จทุกเรื่อง คอยหนุนส่งพลังงานความคิดของเรา หนุนส่งอิทธิคุณของมวลสารเเละของวิเศษในองค์พระ ผู้ใดมีตะกรุดนี้ไว้ครอบครองและหมั่นทำบุญ หมั่นบูชาสวดคาถาที่ท่านให้ไว้เป็นประจำ จะทำมาค้าขายดีร่ำรวยเงินทอง เงินทองไหลมาเทมาเองไม่ขาด ### ซ้ำชุดนี้ท่านยังลงวิชาสำคัญล้อมไว้อีกสิบแขนง พ่ออาจารย์ท่านว่าพระคุณเจ้าสีวลีนั้นท่านย้ำมาเองเลย ท่านกำกับไว้เลยว่าตะกรุดชุดนี้เมื่อนำมากดทำพระแล้วขอให้พ่ออาจารย์ยกถวายท่านเสกไว้อย่างน้อยต้องสองปีขึ้นไปและท่านจะมาทำให้จึงจะสำเร็จ(พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรจึงใช้เวลานานขนาดนั้นเพราะโดยปกติจิตของพระอรหันต์นั้นเสกอะไรแค่คาบลมหายใจก็ยอดขลังแล้ว) ท่านว่าจะไวจะช้ากว่านั้นท่านไม่ยอมเราเลยเช่นนี้พระลองพิมพ์ชุดนี้เราจึงเห็นว่าสำคัญมากจริงๆมีอะไรที่ลึกๆที่บอกกันไม่ได้อีกเยอะ เอาว่าที่ฉันออกให้บูชานี้ก็ตั้งใจจะให้คนที่ทำมาหากินไม่คล่องอยากได้สิ่งที่ส่งเสริมอาชีพและชีวิตตัวเองให้ง่ายขึ้น หากินคล่อง หาเงินง่ายเช่นนั้น ใครลำบากก็มาเอาไป


    คาถาบูชาพระของขวัญสำเร็จทันใจ
    ชาตังพุทโธโหติสัมภะโว อะสังวิสุโลปุสะพุภะนะโมพุทธาธาสัทธะวิปิปะสิอุ มะอะอุนะวีอุณาโลมาพุทธะชายะเต นะชาลิติ ชาลิตินะ ลิตินะชา ตินะชาลิ เอหิสมาตะมิพิชะ นะปะโพวิเยปะนะ เอยะ โลตะนะรังโล สีวลีจะมหาเถโร เถรัสสามะหะเตโน อสุรโห ชโรทินนัง มหาลาภัง เม ภวันตุ(ระลึกถึงพระสีวลีเป็นที่สุด)


    พ่ออาจารย์ท่านเสกเเละลงวิชาอาถรรพ์ไว้อย่างเต็มที่ ก่อนจะทำการเจิมเบิกเนตรและอธิษฐานจิตเชิญพระสีวลีเถระให้มารับรู้เเละให้พรเเก่ผู้ศรัทธานำไปบูชาทีละองค์ ก่อนเสกประจุวิชารวมด้านหน้าองค์พระชุดลองพิมพ์จะโรยเเร่เทวาประสิทธิ์ ท่านว่าไม่ต้องการความสวยเเต่ต้องการความขลังเน้นมวลสารศักดิ์สิทธิ์เเละธาตุกายสิทธิ์สำหรับพระของขวัญสำเร็จทันใจนี้ใครต้องการจะใช้จริงๆ ค่อยสั่งจองมาพ่ออาจารย์ท่านว่ามีบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า องค์พระสีวลีตลอดจนครูสมเด็จเเละองค์หลวงพ่อปาน เทพยดาทั้งหลายเต็มบารมีพุทธภูมิ

    *** พระชุดลองพิมพ์นี้ท่านกดไว้ได้ไม่มาก พ่ออาจารย์ว่าจะเจิมเบิกเนตรให้ทีละองค์ทุกองค์อีกครั้ง รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสที่ขาดการสนับสนุนต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงของขวัญสำเร็จทันใจ(ครูพระสีวลีผงทิพย์ปทุมเกสร,ข้าวก้นบาตรพระพุทธกัสสปะ) บูชา 900 บาท

    69664569-1310283145805065-9076694896491888640-n.jpg 69651877-2303659333066497-8167914910836064256-n.jpg
    70415479-1131632680557775-6546368592554754048-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเวทย์สวรรค์มหาโองการปฐมพรหม (ยืมกำลังพระเจ้าดับล้างสิ่งรบกวนสุจริต,ทุจริต,ยอดธาตุ,ยอดคนเข้าน้ำมันพระร่วง)

    เกี่ยวกับตะกรุดวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาที่ทำให้สำเร็จได้ยากที่สุดในสายของครูพรหมสฮัมบดี ด้วยเป็นสิ่งที่ทำขึ้นเพื่อใช้ยืมกำลังเทพยดาต่างๆที่เรามีใจนับถือผูกพันธ์ให้เข้ามาช่วยคลี่คลายวิบัติภัยในชีวิต ### พ่ออาจารย์ท่านว่าการร้องขอ,การรอความเมตตาสงสารนั้นย่อมเทียบกับการยืมกำลังไม่ได้เลย เพราะการยืมกำลังนั้นคือการนำอำนาจของเทพเจ้าองค์นั้นๆมาใช้ การใช้งานก็เหมือนกับใช้เขาไปบัญชาเขาอีกขั้นหนึ่ง เช่นนี้ครูพรหมจึงย้ำว่าวิชานี้สำคัญมากจะให้ตกไปอยู่ในมือคนพาลทุจริตมิได้ การขอยืมกำลังเทพเจ้าให้มาอำนวยประโยชน์ช่วยเหลือเราเวลาติดขัดไร้หนทางเช่นนี้เมื่อใช้แล้วย่อมได้ชื่อว่ามีผู้อุปถัมภ์ทันที ด้วยชีวิตจะไม่ตกต่ำถึงเกิดมาชะตาลิขิตไว้เป็นคนไม่เคยมีโชคดีใดๆเลยแม้กระทั่งในตัวจะมีเสนียดจัญไรแฝงอยู่ตะกรุดก็จะล้างจะดับสิ่งที่ไม่เป็นมงคลทั้งหลายออกไปจากตัว ให้โชคลาภพึงมีพึงได้มาตามวาสนาอย่างไม่ยากเย็น ซ้ำยังหนุนให้แรงบนบานแลอธิษฐานใดๆแสดงผลเร็วไวชั่วพริบตารุนแรงดั่งสายฟ้าฟาด ทั้งยังมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์เสริมคุณวิเศษในวัตถุมงคลใดๆที่เจ้าของครอบครองอยู่ให้มีฤทธานุภาพมีกำลังกล้าแกร่งเป็นทวีคูณ

    พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าตะกรุดนี้คนใช้เล่นได้สองทาง นั่นคือใช้ได้ทั้งทาง "สุจริต" แล "ทุจริต" เลยทีเดียว ท่านว่าขอให้เป็นไปเพื่อความเจริญรุ่งเรืองไม่ว่าจะสุจริตหรือทุจริตย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น ถ้าใคร่ใช้ในทางสุจริตจะให้เป็นมหาอำนาจหรือใช้ในการลงทุนสิ่งต่างๆทำกิจการใหญ่โต ติดตัวเพื่อให้เป็นตบะเดชะ มีชีวิตที่สุกสดใสดุจพระสุริยาทิตย์ขึ้นสูงสุดในเวลากลางวันก็ได้ แม้จะใช้ในทางทุจริตเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของตัวเองเช่นการเสี่ยงโชคหรือการได้มาซึ่งโชคลาภโดยมิชอบ(ไม่ใช่ทำมาหากินตรงๆ) จะให้ชีวิตสุกสว่างดั่งพระจันทร์ทรงกลดยามค่ำคืนเช่นนั้นก็ย่อมได้ ขอให้เป็นไปเพื่ออำนาจวาสนาความเจริญรุ่งเรืองไม่ว่าจะในทางใด...พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าครูพรหมท่านกำชับไว้เราพูดเยอะไม่ได้เพราะมันเป็นดาบสองคม บอกได้แค่ว่าสิ่งไม่ดีอันใดทั้งกลางวันและกลางคืนย่อมไม่เกิดขึ้นเลย ด้วยแรงครูจะช่วยหนุนเราให้สูงขึ้นไม่มีตก ให้ชีวิตสุกสว่างไม่ว่าจะเล่นทางสุจริตหรือทุจริตก็ดี แรงครูนั้นจะช่วยกันแก้สิ่งไม่ดีปัดเป่าความมืดมนออกไปจากชีวิตและจิตวิญญาณของตน *** อุบาทว์อันใดที่หมักหมมตกตะกอนข้ามชาติข้ามภพสะสมอยู่ในจิตวิญญาณส่งผลกับชีวิตเราโดยตรงท่านว่านั่นแหละเขาจะดับล้างออกไปจากตัวเรา ทั้งยังค้ำชูดวงชะตาเราเสริมราศีให้ดีขึ้นไม่ตกต่ำ ในเวลาที่ดวงดีอยู่แล้วจะดันให้ดีขึ้นไปอีก ในเวลาที่ตกก็จะดึงขึ้นไม่ให้ตกที่นั่งลำบาก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะพูดกันเข้าใจง่ายๆเลยก็คือไม่มีวันดวงตกต่อให้ทายชะตาออกมาว่าดวงจะตกหรือดวงจะแตกอย่างไรแต่ชีวิตเราก็ดีขึ้นทางเดียวไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องดวงเหล่านั้นเลยเพราะตัวเรารุ่งเรืองเฟื่องฟูในทางเดียว ทั้งตะกรุดสำคัญนี้หากได้อาราธนาติดตัวเป็นประจำนอกจากจะดับล้างอุบาทว์ทั้งหลายในจิตวิญญาณตนแล้วยังจะช่วยชำระปราณในตัวให้บริสุทธิ์มากขึ้นไปเรื่อยๆด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะรู้และสังเกตุได้ด้วยตัวเองว่าความคิดเราจะกระฉับกระเฉงมากขึ้นเป็นคนปัญญาไวมีปัญญามาก มีประสาทสัมผัสต่างๆไวขึ้น สามารถเห็นนิมิตดีร้ายในกาลภายหน้าได้อย่างแม่นยำไม่บิดเบือน ทั้งคุณครูยังจะป้องสิ่งไม่ดีทั้งหลายแลอุบาทว์จัญไรทั้งปวง ช่วยเราเรียกหาทรัพย์สินเงินทองให้เราเจริญด้วยทรัพย์สมบัตินับคณา ### ดึงดูดเรื่องที่เราอยากให้เกิดสิ่งที่เราปรารถนา คล้ายกับหีบสมบัติที่จะเปิดไว้ให้ชีวิตมีแต่รับอย่างเดียว

    หากจะเจาะจงใช้ทางทำมาหากินโดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ย่อมให้คุณรุนแรงขึ้นไปอีกเพราะปฐมโองการนี้ ครูพรหมท่านให้ลงทั้งลาภะและธนะ คือเรียกทั้งลาภเรียกทั้งทรัพย์ ท่านว่าวิชานี้ต่อให้นั่งอยู่บ้านเฉยๆก็ยังมั่งมีไม่ขัดสนเงินทอง คนที่ประกอบกิจการต่างๆจะมีลูกค้าเดินเข้ามาหาเราเองเหมือนเป็นเสือนอนกิน ท่านว่าต่อให้หนีไกลไปอยู่ในถ้ำอยู่ในเขาก็จะมีคนดั้นด้นขึ้นไปหานำลาภสักการะไปให้มีเอกลาภมาหาถึงตัวเองมิได้ขาด จะนั่งจะนอนจะไปค้าไปแข่งกับใครล้วนกินคนอื่นทั้งสิ้นไม่มีที่ตัวเองจะถูกกิน ท่านว่าของแบบนี้ขอเงินได้เงินขอทองได้ทอง ครูพรหมท่านให้ลงไว้กันคนที่ทำมาหากินลำบาก ไอ้ประเภทว่าคนหาไม่ได้ใช้หามาให้คนอื่นเขาใช้ต่อไปจะไม่มี หลักๆเลยตะกรุดตัวนี้ให้ลองพกดูเวลาเราทำอาชีพทำมาหากินในทางของเรานั่นแหละ จะสังเกตุได้เลยว่าเราหาเงินทองง่ายขึ้น ได้ทรัพย์มาโดยที่ตนไม่เหนื่อยมากแบบเมื่อก่อน จะใช้ทางอุปเท่ห์เล่ห์กล(เสี่ยงดวง)กินใครก็สุดแต่อุปนิสัยแต่ละคน ท่านว่าพกไว้เถอะเรื่องยากทั้งหลายจะกลายกลับเป็นเรื่องง่ายๆ ทำอะไรก็ง่ายๆ ได้มาง่ายๆ สำเร็จง่ายๆเป็นอัศจรรย์แบบนี้

    ปฐมโองการหรือ*** โองการปฐมพรหมสูตรเฉพาะนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าลูกหลานสายพรหมจะรู้กันดี หากครูพรหมท่านโปรดแล้วให้ใช้ให้เข้าถึงวิชานี้แล้ว เรื่องไม่ดีดวงตกปีชงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกเป็นไม่ได้กิน ดวงดาวดวงชะตาจะไม่ใช่สาระสำคัญไม่อาจส่งผลกระทบมาถึงชีวิตเราจริงๆได้เลย ต่อให้ในปัจจุบันต้อยต่ำอย่างไรก็กลายเป็นคนชั้นสูงมีอันจะกินได้ ท่านว่าตะกรุดนี้มีคุณหลายด้านให้นำติดตัวไว้เถิดตั้งกำลังใจดีๆมั่นคงในองค์พรหม ท่านจะปัดเป่าทุกข์ภัยทั้งหลาย เป็นเคราะห์หนักให้กลายเป็นเบากลับจากร้ายเป็นเรื่องดีทั้งขจัดเรื่องที่เข้าขั้นอันตรายออกไปจากชีวิตเรา แม้ตะกรุดดอกนี้อยู่ที่ไหนคุณไสยมนต์ดำฝ่ายต่ำแลอวิชาทั้งหลายจะไม่เข้าใกล้เราเลย เอกลาภสูงสุดของชีวิตจะเกิดขึ้นโดยพลันนั่นคือจะไม่ป่วยด้วยโรคร้ายแรงและจะแก่ตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นตัดหนทางตายก่อนหมดอายุขัยกลายเป็นสัมภเวสีผีเร่ร่อนนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้ได้หลายทางเลี่ยมให้ดีติดตัวไว้ก็มีกินไมีใช้ไม่รู้สิ้นรู้สูญ ติดบ้านไว้เงินก็ไม่ขาดบ้าน คนที่ไม่เคยมีโชคก็จะมีโชค,คนที่ไม่เคยได้รับวาสนาก็จะได้รับวาสนาเห็นโอกาสให้ไขว่คว้าได้ เวลาจะนอนก็ให้เอาตะกรุดนี้ใส่ไว้ใต้หมอน ท่านว่าป้องกันฝันร้ายทำให้ฝันดี หากอยากเห็นนิมิตอะไรให้กำตะกรุดเอ่ยนามครูพรหมไปจนหลับ อยากเห็นลาภลอยก็จะเห็น,อยากเห็นช่องทางทำมาหากินก็จะเห็น,อยากเห็นทางที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นก็จะเห็น ท่านว่าตะกรุดรุ่นนี้เคยมีคนเอาไปทำตามวิธีนี้แหละเขาขอครูพรหมไว้ว่าขัดสนยังไม่เห็นช่องทางชีวิตใดๆเลย อยากขอลาภสักก้อนหนึ่งมาลงทุนต่อชีวิต เขาว่ากำตะกรุดเอ่ยนามครูพรหมจนหลับทุกวัน หลับไปก็เห็นแต่เลขสักพักถูกหวยหลายงวดรวยใหญ่ได้ทุนสมกับที่ตั้งใจ

    การจะลงตะกรุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพรหมท่านกำหนดมาแต่เริ่มเลยว่าให้ใช้อะไรบ้าง ท่านว่าท่านต้องไปหาตะกั่วโกฏมาใช้ ด้วยเป็นของสูงคนธรรมดาเมื่อตายไปไม่มีทางได้อยู่ในโกฏนอกจากเจ้านอกจากขุนนาง เช่นนี้ตะกั่วโกฏจึงเป็นของสูงอย่างแท้จริง ท่านว่าต้องนำตะกั่วโกฏมาหลอมกับตะกั่วอาถรรพ์เพื่อจะทำ"ยอดธาตุ"ที่จะชักนำวาสนา"ยอดคน"ให้สำเร็จได้ให้เป็นยอดของคนอยู่เหนือดวงรุ่งเรืองเกินไปกว่าที่พรหมลิขิต(วาสนาเดิม)จะมีได้ ท่านว่าต้องหลอมรีดและลงอักขระของครูพรหมตามที่ท่านสอน จากนั้นครูพรหมท่านจึงให้นำไปฝังทำอาถรรพ์ไว้ในกระถางธูปที่พ่ออาจารย์ท่านใช้จุดหนึ่งปี ท่านว่าเป็นเคล็ดให้ตะกั่วอาถรรพืนี้สามารถส่งคำขอแลความปรารถนาของคนอาราธนาไปสู่เทพเจ้าได้ครอบคลุมทั้งสิบหกชั้นฟ้าสิบห้าชั้นดินสิบสี่ชั้นบาดาล เมื่อครบปีจึงกู้มาหลอมรีดทำการลงถมตามที่ครูพรหมท่านกำหนด ทำซ้ำไปวนมาอยู่หลายเดือนจนแทบจะครบทุกวิชาในพระเวทย์สวรรค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อให้ได้ชนวนที่เข้มขลังแม้จะยังไม่ทำสิ่งใดแค่นี้ก็ยอดดีแล้ว ท่านว่าครูพรหมท่านต้องการให้ทำให้ดีที่สุดคนใช้จะได้สัมผัสได้,จับต้องได้,รู้เห็นได้ทันตา(ประสบการณ์)แก่ตนเอง และเมื่อได้นำแผ่นชนวนอาถรรพ์นี้ไปรีดลงวิชาด้วยแรงจากการลงถมทำอาถรรพ์ที่ผ่านมาวิชาที่ลงก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์นับประมาณมิได้เป็นพันเป็นหมื่นเท่า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพรหมท่านอยากจะเห็นลูกหลานเจริญรุ่งเรืองในส่วนเดียวไม่ได้รับความตระกำลำบากอย่างใด ให้มั่งมีมั่งคั่งท่านจึงดำริให้พ่ออาจารย์ทำเต็มที่แม้จะเสียเวลานานแต่ทุกอย่างก็คุ้ม พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นหากลองไม่มีอุปสรรคแล้ว โชคลาภก็จะเข้ามาเองะกรุดตัวนี้ได้ชื่อว่าดับล้างไปแล้วนี่คือดับล้างทั้งหมดเลยนะ ถ้าเราคิดว่าอุปสรรคมันเป็นสิ่งรบกวนนี่ก็ล้างไปด้วย ### เราคิดว่าอะไรที่มันรบกวนชีวิตเรามันก็ล้างอย่างนั้นแหละ

    จะช่วยดับล้างเปลี่ยนเราให้กลายเป็นยอดคน ให้ดีกว่าคนอื่น,ได้รับมากกว่าคนอื่น,รวยกว่าคนอื่น ท่านว่าจะได้มากกว่าที่คนปกติควรจะมีจะได้ แค่แผ่นตะกรุดนี้ก็เป็นของค้ำคูณชีวิตในตัวเองอยู่แล้ว ท่านลงเวทย์สวรรค์ไว้สารพัดวิชา ท่านว่าเอาแค่แผ่นตะกรุดที่ส่งไปรีดกลับมานั้นพกไว้ก็เป็นปิยะเมตตาเป็นที่รักแก่ชนทั้งหลาย ทำอะไรอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนเกื้อกูล หาเงินเป็น เก็บเงินได้ไม่หมดหดหาย มีทรัพย์ใช้ไม่ขาดแคลน ติดตัวไว้ก็รักษาเนื้อตัวดับทุกข์ดับเข็ญในร่างกายแลอวัยวะน้อยใหญ่ จะแช่ทำน้ำมนต์ดื่มกินก็เปรียบได้กับยาอายุวัฒนะช่วยให้สุขภาพไม่เลวลงมีแต่กำลังร่างกายแข็งแรง ท่านว่าเก็บไว้ที่ไหนก็ดีงามที่ตรงนั้น เขาจะขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองแก่เรา ขับเคลื่อนเราให้เข้าหากุศลกรรม แค่ธาตุที่ทำแผ่นตะกรุดนี้หากเสกดีๆก็เปลี่ยนชีวิตคนได้มามากแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่แผ่นตะกรุดชุดนี้ท่านเคยแบ่งมาลงนะเศรษฐีตัวเดียวม้วนให้คนลองเอาไปใช้จากคนไม่มีอะไรเลยเดี๋ยวนี้มีพร้อมทั้งบ้านทั้งรถมีครบหมดไม่ต้องผ่อนไม่มีอยู่อย่างเดียวคือไม่มีหนี้ ท่านว่ายอดธาตุนี้เปลี่ยนคนเป็นยอดคนได้ เขามีกำลังดีขนาดนั้น

    ตะกรุดนี้ครูพรหมท่านเมตตาให้ลงไว้ใช้เพื่อบรรเทากรรมวิบากนานาทุกประการ ท่านว่าเจตนาตั้งใจจะให้ลูกหลานมีพลังใจสั่งสมสิ่งดีสร้างคูรงามความดีไม่ท้อถอย ท่านว่าให้ติดตัวไว้เถิดจะดับล้างสิ่งรบกวนบรรเทากรรมวิบากได้ ### หากชีวิตเคยผิดพลาดพลั้งเผลอสิ่งใดไปเพียงปัจจุบันขอให้กลับใจระลึกถึงครูพรหมสฮัมบดีที่ถ่ายทอดโองการปฐมพรหมเพื่อทำตะกรุดนี้ ท่านว่าขอแค่เรากลับตัวกลับใจแล้วอะไรมันก็ดีทั้งนั้น ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้สำเร็จยากนักเพราะครูพรหมท่านกำหนดมาเลยว่าต้องลงจากบนลงล่างหนึ่งวันอย่างไรต้องเลือกวันไหนเริ่มทำก็ตีหนึ่งแล้ว ต้องวนซ้ายไปขวาหนึ่งวันอย่างไร คลุมสี่ทิศให้ทำทิศละวันอย่างไร ลงสำทับอีกหนึ่งวันอย่างไร ท่านว่ากว่าจะจารได้หนึ่งดอกครบเจ็ดวันพอดี ครูท่านให้ทำแม้ตัวเรามาลงเวทย์สวรรค์แบบนี้ก็เสียปราณไปเยอะ พอครบเจ็ดวันม้วนตะกรุดได้แล้วต้องรอเที่ยงคืนพระจันทร์เต็มดวงตรงหัวถึงจะเอามาเสกอีกพันคาบนั่นแหละจึงได้ตะกรุดเปลือยๆมาดอกหนึ่ง ท่านว่าต้องทยอยทำเก็บไว้ไหนจะต้องรอเวลาฟื้นปราณตนเองกว่าจะทำครบหกดอกนั้นยากหนักหนา พอได้ครบหกดอกต้องเอามาเชิญครูพรหมลงเสกตากแสงอาทิตย์แสงจันทร์อีกเจ็ดวันเจ็ดคืนโดยมีข้อแม้ว่าเมื่อทำแล้วห้ามมีฝนตก หากมีฝนตกต้องเริ่มนับ 1 ไปลงจารตะกรุดใหม่ตั้งแต่ต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราอ่านพยากรณ์อากาศช่วงนั้นก็ยังไม่แน่ใจ ต้องถามครูพรหมท่านอย่างเดียวเลยว่าทำได้ช่วงไหน ใช้ฤกษ์ไหนถึงจะแรงกว่าทุกวันเหนือกว่าทุกฤกษ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพรหมท่านให้ฤกษ์มาทำ ท่านว่าคนเอาไปใช้จะข่มได้ทุกคน ในเจ็ดวันนี้ทั้งกลางวันและกลางคืนไม่มีสัตว์ใดๆที่จะล่วงพ้นวันทั้งเจ็ดไปได้ ตราบใดที่อยู่ในวัฏจักรเราก็ข่มเขาได้ทุกคน มีแต่ชนะ มีแต่เราที่เป็นยอดคนเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามันวุ่นวายถึงขนาดนั้นพอทำเสร็จมาก็หายอยากแล้วต่อให้ใครมาแจ้งเราก็ไม่ทำอีกแล้วท่านว่าแค่คิดถึงก็เข็ดไปนานเลย วิชาตำรับครูพรหมนั้นกว่าจะทำให้สำเร็จได้ไม่มีง่ายเลยจริงๆ

    ตะกรุดทุกดอกนั้นพ่ออาจารย์ท่านนำมาอุดด้วยน้ำมันพระร่วงที่จับตัวกันแข็งเป็นก้อน น้ำมันนี้ท่านว่าหลวงพ่อปานท่านก็เคยใช้ เป็นน้ำมันเก่าตั้งแต่ยุคกรุงสุโขทัยนั่นเลยถูกฝังไว้พอตกมาถึงหลวงพ่อปานน้ำมันก็จับตัวแข็งแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนแม้หลวงพ่อปานเองท่านก็ยังพกขวดใส่น้ำมันพระร่วงนี้ไปในที่ต่างๆ ใครจะเชิญท่านไปเป็นประธานที่ไหนไปสร้างวัดตรงไหนไปช่วยเหลืองานศาสนาใดๆก็ดี ท่านก็จะพกขวดใส่น้ำมันนี้ไปด้วยโดยเอาน้ำมันงาเทผสมน้ำมันพระร่วงเก่าที่จับตัวแข็งๆเหนียวๆแล้ว ท่านผสมรอจนตกตะกอนจึงแบ่งน้ำมันใส่ขวดเล็กๆไปตั้งทำอาถรรพ์ไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวัดไหนท่านสร้างก็เจริญรุ่งเรืองเร็วกว่าปกติด้วยอาญาสิทธิ์น้ำมันพระร่วงนี้อยู่ที่ไหนก็เจริญรุ่งเรืองพุ่งแรงอย่างรวดเร็ว ยกจบหัวอธิษฐานสิ่งใดก็ได้ชื่อว่าเป็นวาจาสิทธิ์ดั่งปากพระร่วง ทำอะไรก็สำเร็จโดยง่าย พ่ออาจารย์ท่านได้รับชุดน้ำมันเก่าในสังคโลกกรุสุโขทัยที่จับตัวแข็งมา ท่านว่าเป็นหัวเชื้อน้ำมันพระร่วงแบบที่หลวงพ่อปานท่านเคยใช้ ท่านจึงนำหัวน้ำมันที่แข็งตัวเป็นไขนี้มาอุดหัวอุดท้ายตะกรุด ท่านว่าอุดแค่นี้ก็พอไม่ต้องมาก เฉพาะที่อุดไปนี่ถ้าจะเอาไปขยายทำน้ำมันแบบหลวงพ่อปานก็ทำได้เป็นร้อยๆขวด พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาหัวเชื้อนี่แหละไปใช้กันคนละเล็กละน้อยและรักษากันไว้ให้ดี เพื่อเป็นที่ระลึกเป็นที่มาแห่งความเจริญรุ่งเรืองของตนเอง

    คาถาบูชา
    โอม จตุรมุขายะ วิทมเห หัมษา รุทายะ ธีมหิตันโน พรหมมา ประโจทะยาต พรหมมะเณยะนะมะ

    *** ตะกรุดมหาโองการนี้ท่านทำไว้หกดอกแต่มีแบ่งบูชาไปนานแล้วดอกหนึ่ง และตัวท่านก็ใช้เองดอกหนึ่ง จึงมีให้บูชาสี่ดอก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลลวันเดือนปีเกิดตลอดจนเรื่องขัดข้องและสิ่งรบกวนในชีวิตไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวครูพรหมประสิทธิ์ให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเวทย์สวรรค์มหาโองการปฐมพรหม (ยืมกำลังพระเจ้าดับล้างสิ่งรบกวนสุจริต,ทุจริต,ยอดธาตุ,ยอดคนเข้าน้ำมันพระร่วง) บูชา 4,000 บาท


    70378771-2421268424623319-4514664150319759360-n.jpg
    69886241-2512855328945399-1259590384657367040-n.jpg
    70395585-2440281366259200-988322852992188416-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต(สมใจนึก เผาคำอธิษฐาน)

    เครื่องมงคลในสายบารมีของพระธรรมบดียมราชนั้น ศิษย์ในสายพ่ออาจารย์ท่านจะทราบกันดีว่าท่านทำออกมาให้ใช้กันไม่บ่อย นอกจากนี้ในสายวิชาของท่านยังถือองค์ยมราชเป็นครูสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านมักกล่าวว่าใครที่ใช้เครื่องมงคลในสายยมราชนั้นจะมีตบะน่าเกรงขาม ภูติผีปีศาจไม่อาจเข้ามาระรานเข้าใกล้ คนที่คิดร้ายหรือคิดไม่ดีต่อเราจะมีอันเป็นไปแพ้ภัยตัวเองแม้แต่คนที่คิดอิจฉาริษยาเราหรือจะมาลองดีลองวิชากับเราก็เช่นกัน ทั้งยังอาศัยบารมีขององค์ยมราชนั้นข่มและสะกดอาถรรพ์ได้ทุกชนิด แม้โรคภัยไข้เจ็บก็ยากที่จะเบียดเบียนจะถึงซึ่งความมีชนฒ์อายุยืนนานประสบแต่ความรุ่งเรืองในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ครูยมราชนั้นสำคัญนักแม้ท่านเองก็ยังอาราธนาติดตัวและออกนามท่านเสมอ ท่านว่าเราใช้ป้องกันอาถรรพ์ในตัวศิษย์ทั้งหลายเครื่องมงคลของท่านนั้นท่านจะลงกันอาถรรพ์ไว้เสมอและจะขอบารมีครูยมราชลงประสิทธิ์คลุมให้อีกครั้ง *** อันวิชาในสายครูยมราชนี้ปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ค่อยทำด้วยท่านให้เหตุผลว่าแรงเกินไป แรงมาก อย่างตะกรุดรุ่นนี้ก็เช่นกัน ท่านว่าจารอักขระทีไรไข้ขึ้นทุกที วิชาชุดนี้แรงมากท่านจารไม่ไหวแล้วจึงทำได้เท่าที่จารเก็บไว้ให้นำมาออกบูชาแค่นั้น ด้วยท่านปรารถนาจะให้คนที่มีปัจจัยไม่มากได้บูชาเครื่องมงคลในสายบารมีขององค์ยมราชอย่างแท้จริง

    ...ในอนันตจักรวาลนั้นมีภพย่อยมากมาย แต่ก็ปรากฏภูมิใหญ่ๆทั้งหมดเพียงสามภูมิเท่านั้นหรือที่เราเรียกกันว่าไตรภูมินั่นเอง หากไม่นับรวมพื้นโลกที่เราอาศัยอยู่หรือสวรรค์แล้ว นรกก็นับได้ว่าเป็นดินแดนอันลึกลับและไม่มีใครอยากเฉียดกรายเข้าใกล้มากที่สุด ถึงกระนั้นนรกภูมิก็ไม่ใช่สิ่งที่สัตว์โลกผู้ใดจะหลีกเลี่ยงได้ ด้วยเมื่อถึงกาลกิริยาจำเป็นต้องไปรับคำพิพากษาจากพญามัจจุราชเสียทั้งสิ้น ### มหาพรหมอนาคามีผู้เป็นนายเหนือหัวแห่งนรกภูมิ มีวิมานอันอยู่ในภูมินรกปกครองทวยเทพทั้งหลายที่มาทำหน้าที่ต่างๆในภูมินั้นรวมไปถึงสัตว์นรกทั้งปวง เราจะรู้จักกันดีในนามของยมเทพหรือจะเรียกว่าพระธรรมราชบ้าง แลธรรมเทพก็ดี เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลที่ให้ผลเหนือกรรมลิขิตแลสัมพันธ์กับโชคและดวงชะตานั้น โดยฉันทามติแห่งครูเฒ่าและองค์เทพทั้งหลายไม่ว่าจะทิพย์กายและอสุรกายก็ดี ต่างพร้อมใจกันอนุญาติและอัญเชิญพระธรรมบดียมราชให้มาแผ่บารมีคุ้มเกรงผู้เคารพศรัทธาโดยมติพ่อแม่ครูอาจารย์เหนือหัวพ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้งเครื่องรางในสายวิชาองค์ยมราชอย่างแท้จริงอีกครั้ง

    พระธรรมบดียมราชเจ้าแห่งนรกภูมินั้น เมื่อในสมัยพุทธกาลได้มีโอกาสฟังเทศน์จากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็มีดวงตาเห็นธรรมบรรลุพระโสดาบัน ในกาลต่อมาก็ถึงซึ่งภูมิธรรมชั้นพระอนาคามี เป็นภูมิพรหมสุทธาวาสกล่าวได้ว่ามีทั้งวิมานอยู่ในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมแลเมื่อจะเสด็จออกพิพากษาดวงวิญญาณทั้งหลายก็จะปรากฏองค์อยู่ในวิมานแดนนรกภูมิ พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายๆคนมักจะคิดว่าพญายมท่านน่ากลัว แต่ข้อเท็จจริงแล้วท่านเป็นท้าวมหาพรหมลำดับสูงสุดในรูปพรหม ดังนั้นคนทั้งหลายจึงมักเห็นท่านตามแต่ตะกอนจิตใจจะปรุงแต่ง หากเป็นคนบาปทุจริตก็จะเห็นรูปกายท่านดูน่าสยดสยองแลหวาดกลัว แต่หากตั้งมั่นในธรรมสุจริตก็จะพบกับรูปกายที่สวยงามเกินเทวราชและเหล่าพรหมทั้งหลาย อันท้าวพญายมราชนั้นท่านดำรงตำแหน่งคอยพิพากษาตัดสินดวงวิญญาณในแดนยมโลกอย่างยุติธรรม ประกอบด้วยจิตเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พร้อมกับคณะผู้ช่วยของท่าน ผู้ช่วยของพระยมนอกจากคณะยมฑูตกับนายนิรยบาล สุวัน สุวานแล้วยังมี พระจิตตคุปต์ และพระกาฬไชยศรี เป็นต้น

    ด้วยมติแห่งครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ใดก็ดี ที่จะได้พบ ได้เข้าเฝ้าพระธรรมบดียมราชนั้นล้วนแต่เป็นผู้ตกตายรอการเกิดใหม่ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงถือคติแห่งพระเวทย์ว่าเมื่อเราสร้างเครื่องรางในบารมีของพระยมนี้ แม้ใครสักการะบูชาก็เท่ากับว่าเขาได้พบกับองค์ยมราชแล้ว ชีวิตนั้นถือว่าได้กำเนิดใหม่ ได้เกิดในรูปใหม่ พ้นจากสภาวะเดิมแล้ว หลุดพ้นจากกงล้อกรรมและลิขิตฟ้าที่จองจำพันธนาการไว้ด้วยโซ่ตรวนทั้งหลาย พ้นจากโรคร้ายแลมีอายุยืนนานสืบไป โดยปกติแล้วอานิสงค์ของการบูชานับถือพระยมนั้นเชื่อกันว่าภูติผีปีศาจไม่กล้าระราน คนผู้นั้นจะมีตบะบารมีที่น่าเกรงขาม ผู้ที่คิดร้ายด้วยทุจริตมิชอบอิจฉาตาร้อนจะแพ้ภัยตัวเอง นอกจากนี้หากหมั่นบูชาระลึกถึงพระองค์ท่านเสมอๆ ท่านว่าจะห่างไกลจากความป่วยไข้ มีอายุยืนนาน หากรับราชการหรือทำมาค้าขายด้วยความซื่อตรงก็จะบังเกิดความเจริญมีความสุขในชีวิตยิ่งๆขึ้นไป พ่ออาจารย์ท่านสร้างเครื่องรางอันเป็นยอดวิชาในสายพระธรรมบดียมราชไว้ด้วยประสงค์จะให้ผู้ใช้ถึงซึ่งสวัสดิมงคล นอกจากในส่วนของวิชาแล้วท่านว่ายังจะได้ถือองค์ยมราชท่านเป็นครูที่จะคอยรักษาเราทั้งยังลงโทษทุกสรรพชีวิตอันจะคิดร้ายและจ้องทำลายเราผู้ศรัทธา เมื่อปรารถนาจะขอพรและระลึกถึงองค์ท่านก็จะได้นำตะกรุดจรดหน้าผากของตนแล้วอธิษฐานใจตามปรารถนาพระองค์จะช่วยให้กาลทุกสิ่งที่เดือดร้อนคลี่คลาย พร้อมกับเติมเต็มความสุขให้ถึงพร้อม ท่านว่าอยากจะขออะไรก็ให้คิดให้ดี อย่าไปขออะไรที่ไม่มีวันเกิดขึ้นหรือเป็นไปได้ก็พอ

    ### ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต ชื่อนี้ฟังว่าน่ากลัวนักต่างจากจุดประสงค์และวิธีการใช้ไปไกลลิบ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาของครูยมราชโดยเฉพาะ ท่านว่าผลาญนั้นคือเมื่อจะใช้ต้องจุดไฟเผา ส่วนเพชรฆาตนั้นก็คืออาญาสิทธิ์ลงดาบได้ทันทีไม่ต้องปรึกษาผู้ใดจะทำอะไรก็ไวดั่งใจคิดไร้ผู้ต่อต้าน วิชานี้หากจะเรียกให้ถูกต้องจริงๆแล้วต้องเรียกว่า"ยมราชสมใจนึกเผาคำอธิษฐาน" ด้วยวิธีใช้นั้นท่านให้กลั้นใจเขียนเรื่องที่ตนเองต้องการบอกกล่าวครูยมราชหรือข้อความคำอธิษฐานของตนใส่ไว้ในกระดาษขาว เอาตะกรุดครูยมราชนั้นวางทับไว้ชั่วเวลาธูปไหม้หมดดอก ก่อนจะนำกระดาษนั้นเผาส่งคำอธิษฐานร้องขอแก่ครูยมราช ท่านว่าปัญหาของเราจะคลี่คลายในทันที... หากอยากใช้ให้เห็นผลไวสมดั่งที่ใจหวังท่านว่ามันมีเคล็ดกันอยู่นิดหน่อย นั่นคือ ตอนเขียนคำขอใส่กระดาษขาวนั้นต้องทำใจ ทำจิต ทำความรู้สึกตัวเองให้ว่างเปล่าอย่าไปคิดอะไรว่าต้องได้ ต้องเอา ต้องสำเร็จ ท่านว่าเขียนตอนที่จิตว่างจิตเป็นกลางไม่ปรารถนาสิ่งใดแม้จะเป็นคำขอหรือพรมงคลทั้งหลายที่กำลังเขียนก็ดี ให้ตั้งจิตอยู่ในอุเปกขาวางไว้ให้เป็นกลางเช่นนั้น ### ทั้งให้ทำเมื่อเวลาเที่ยงคืนในวันที่ตรงกับวันเกิดตนเอง(อาทิตย์-เสาร์ที่เป็นวันเกิดตน) และให้ขอได้เพียงครั้งละข้อเท่านั้น ในคำขอนั้นห้ามมิให้ผู้ใดเห็นและไม่ให้ผู้ใดอ่านจนกว่าเราจะเผาส่งสาสน์นี้ถึงครูยมราช ท่านว่าขอไปเถอะอาทิตย์ละครั้ง ให้ขอในสิ่งที่เป็นไปได้ จำไว้ว่าตอนเขียนนั้นให้ทำใจเป็นกลาง ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลงเพียงเท่านั้นสิ่งที่คิดฝันจะได้มาทันใจสมปรารถนา วิชานี้ตามสัญญาของครูยมราชพ่ออาจารย์ท่านว่าพวกเธอรู้มั๊ยวิชานี้ถือว่าเป็นอาญาสิทธิ์ของเจ้านรกเชียวนะ เมื่อเอามาลงเป็นตะกรุดนี่ยังปวดมือไปหมดขนาดท่านอนุญาติให้เราทำแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าเป็นตะกรุดที่ศักดิ์สิทธิ์มากเพราะไม่ว่าจะขอพร ขอความช่วยเหลืออะไร ท่านก็จะประทานพรให้สมความปรารถนา สมกับเหตุการณ์ที่ขอทุกครั้ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ตัวท่านเองก็ลองดูแล้วมันก็แปลกดีเพราะว่าทุกสิ่งนั้นทันใจ ทันความคิด และได้สมดั่งปรารถนา ครูยมราชท่านปรารภว่าวิชานี้ต่อไปจะได้ช่วยคนของท่านอีกมาก พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าเป็นวิชาสำคัญที่ดี เร็ว และแรงจริงๆ อธิษฐานขอได้ครบสมใจนึกท่านจึงเชิญครูยมราชมาอธิษฐานจิตทำให้เรื่อยๆเต็มกำลัง เต็มบารมีในสายครูของท่านนั้นทีเดียว ท่านว่าถ้าคนมีวาสนาต้องกับตะกรุดนี้เขาจะได้ตะกรุดไปอธิษฐาน ขอเพียงหลับตาให้เห็นองค์ยมราชแค่นั้นขอได้หมดเลย(ในกรณีคนที่จิตไว ตาดีมองเห็นได้มีกำลังใจสูงท่านว่าไม่ต้องรอจุดไฟเผาคำขออาทิตย์ละครั้งเลย ถ้ากำลังใจเราดีนี่ส่งถึงท่านได้ตลอดแบบนั้นทีเดียว) ท่านว่าครูยมราชท่านจะช่วยคนของท่านให้นำพาตัวเองให้อยู่รอดไปได้ท่ามกลางสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่ผกผันอย่างรุนแรงในสังคมปัจจุบัน

    ทั้งตะกรุดในสายพระยมนี้พ่ออาจารย์ยังเป่ามนต์โองการพระยมสำทับอีกร้อยแปดพันคาบ(108,000) ตะกรุดนี้จึงมีคุณดีทางสะท้อนย้อนกลับกรรมไปสนองผู้ปองร้ายและคิดร้ายเราในทุกรูปแบบ ดุจดั่งพระยมราชท่านลงโทษคนกระทำผิดคิดชั่วให้ได้รับผลกรรมนั้น นั่นคือการสะท้อนย้อนกลับโดยฉับพลันทันที เรียกได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้บูชาตะกรุดมีผู้ประสงค์ร้ายหรือคิดไม่ดีนั้น อานุภาพของตะกรุดจะสะท้อนผลร้ายกลับไปร้อยเท่าพันทวีเป็นเหตุให้ต้องมาขอขมาเรา หากไม่มาขอขมาแก่เราแล้วก็ไม่สามารถลบล้างได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ผ่านมานั้นเราจะไม่ได้ทำตัวนี้หรือใช้วิชานี้ประสิทธิ์เครื่องมงคลไว้ให้ใครมากนัก เพียงมหาสะท้อนงานศพก็นับได้ว่าแรงและมีกำลังจนคนเอาไปใช้เกิดประสบการณ์ถามหากันว่ามากแล้วแต่ตัวนี้ยังถือได้ว่าแรงกว่านั้น แรงกว่าแม้มนต์พระกาฬสะท้อนกลับอันมีอาถรรพ์จนถึงขั้นวิบัติมีอันเป็นไปต่างๆนานัปการ เมื่อเห็นว่ากำลังสร้างเครื่องมงคลในสายบารมีของยมราชท่านจึงสงเคราะห์ปรารถนาจะให้เป็นที่สุดเรียกว่าดอกเดียวใช้ได้รอบด้านท่านจึงเป่ามนต์โองการพระยมราชไว้ให้คู่กัน ท่านว่าตะกรุดกับวิชานั้นมีความสัมพันธ์กันและจะเสริมส่งซึ่งกันและกัน ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดบอกได้สั้นๆแต่เพียงว่านี่คือวิชาของพระธรรมบดียมราชให้ผู้บูชาระลึกไว้เสมอจะได้ไม่พลั้งเผลอผิดพลาดนำไปใช้ก่อกรรมสร้างเวรใดๆ เอาแค่ให้สะท้อนย้อนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายตามวินิจฉัยแห่งยมเทพนั้นก็พอ

    นอกจากนั้นท่านยังนำผงว่านยาทางเมตตามหานิยมมาเข้ากับผงยมบาลใจอ่อนอุดไว้ในตะกรุด วิชายมบาลใจอ่อนนั้นเมื่อนำมาทำผงใช้กำกับในการสร้างเครื่องรางในสายวิชาพระธรรมบดียมราชนั้น ท่านว่าโดยปกติแล้ววิชานี้แม้ยมบาลผู้รักษากฏเหล็กดำรงค์อยู่ในสุจริตเที่ยงตรงไม่โอนอ่อนผ่อนตามผู้ใด ไม่มีสิ่งใดทำให้ท่านเอนเอียงได้ ก็ยังต้องผ่อนปรนยอมให้กับเรา จึงเป็นที่สุดแห่งวิชามหาเมตตามหาเสน่ห์ที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจลงกำกับทำอาถรรพ์ไว้กับกับตะกรุดอันเป็นตัวแทนสายวิชาของพระยม *** พ่ออาจารย์ท่านว่าพระยมนี้ แตกต่างจากเทพองค์อื่น ด้วยปกติท่านจะสัตย์ซื่อ ใจแข็ง แต่เราใช้คติพระเวทย์และมายาศาสตร์สร้างตะกรุดแทนครูในสายวิชาท่านอุดผงกำกับด้วยวิชาผงยมบาลใจอ่อน นั่นก็เพื่อให้ท่านโอนอ่อนตามใจและให้พรทุกประการดั่งใจผู้บูชาปรารถนา อันพรของพระธรรมบดียมราชนายเหนือหัวแห่งนรกภูมินั้น ถือได้ว่าเป็นพรวิเศษดุจพรของพรหมมหาปัญจสุทธาวาส ด้วยเรากำกับเวทย์ยมบาลใจอ่อนไว้ถ้าไม่ขอสิ่งใดที่หนักปากและยากเกินกว่าจะเป็นไปได้แล้วสิ่งนั้นย่อมสำเร็จโดยพลัน ด้วยพระยมท่านถือสัจจะยิ่งชีพ ไม่ใช่เพียงแต่ยกมือให้พรไปเรื่อย แต่หากให้พรผู้ใดแล้วท่านจะติดตามงานของท่านเสมอจนประสบความสำเร็จ แม้จะต้องแหกกฏเหล็ก ฝืนลิขิตฟ้าแลกฏแห่งกรรมก็ตาม แต่หากพระองค์เผลอให้พรผู้ใดแล้วก็จำต้องช่วยเหลือให้ได้ดั่งในกรณีคืนชีวิตให้พระสัตยวานที่ถึงกาลสิ้นอายุขัยท่านก็ยังมอบชีวิตคืนชีพให้เขาอันจะต้องแหกกฏเหล็กของท่านเช่นนั้นนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านนำผงยมบาลใจอ่อนมาเข้ากับผงยันต์พันคาถา ซึ่งผงนี้เกิดจากการเขียนคาถาพันบท เขียนยันต์พันรูป ซึ่งจะมีอานุภาพดุจฝอยท่วมหลังช้างที่เรียกว่าอธิษฐานใช้ได้ทุกด้าน เสมือนเรามีทรัพย์สินมากมายหลายประการปรารถนาสิ่งใดก็นำไปใช้แลกเปลี่ยนได้ไม่รู้หมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เราทำมาเป็นปีและต้องใช้ความอุตสาหะมาก ให้คิดเอาเองว่าลำพังยันต์หนึ่งนั้นยังมีอุปเท่ห์ใช้ได้นับสิบนับร้อย เช่นนั้นยันต์พัน คาถาพัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เอาว่าที่นำมาใช้เป็นมวลสารก็เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนบูชา เมื่อได้ผงยันต์พันคาถาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านท่านได้เขียนผงยันต์ธงพระฉิมเรียกทรัพย์ ผงมนต์มหาลาภ ผงคาถาเรียกทรัพย์ ผงคาถาเงินแสน ผงคาถาเงินล้าน ผงยันต์มหาโสฬสสะระตะใส่ลงไปอีกด้วย ท่านว่าเอาผงทั้งหมดมาคลุกกับน้ำมันตานีที่ต้องพลีปลีกล้วยตานีมาเคี่ยวกับว่านเจ็ดชนิดในโบสถ์เจ็ดโบสถ์ตอนเที่ยงคืน พ่ออาจารย์ว่าท่านทำเก็บไว้นานก็เพิ่งได้นำมาใช้เพราะสมัยนี้จะไปขออนุญาตินั่งเคี่ยวน้ำมันในโบส์ตอนเที่ยงคืนพระท่านก็จะมองเราไม่ดีไปเสียอีกท่านจึงไม่ทำน้ำมันตัวนี้แล้ว ท่านว่าน้ำมันนี้แรงนะเพราะตอนเคี่ยวเราต้องใช้เตโชกสิณไม่ใช่ใช้ไฟเคี่ยว ต้องเคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดขึ้นฟองนั่นจึงถือว่าสำเร็จ ท่านว่าน้ำมันนี้โดยรวมจะดีทางเมตตามหานิยม แต่ที่แน่ๆทางเสี่ยงโชคลาภลอยก็ได้ไม่หยอกเหมือนกัน ท่านนำผงสำคัญชุดนี้อุดกำกับไว้ในตะกรุดสายครูยมราชโดยเน้นใช้ให้เกิดปิยะเมตตาอย่างถึงที่สุด ท่านว่าโดยแท้จริงแล้วครูยมราชนั้นท่านไม่ได้น่ากลัว ซ้ำท่านยังเมตตาลูกหลานอย่างถึงที่สุดเช่นกัน

    คาถาบูชา
    โอม ยะมะมหาเทวะตา สุเนตตะมหาราชา อันตรายาปิวินัสสันตุ


    ตะกรุดในสายครูยมราชนั้นพ่ออาจารย์ท่านดำริว่าเป็นของมีเจ้าของถือครองกันครบทุกดอก เป็นของเฉพาะกาล เฉพาะวาระที่ท่านพลีกรรมบวงสรวงและใช้เวลาในการสร้างลงจารกปลุกเสกมายาวนาน คนที่ได้บูชานั้นจะเป็นลูกรักของพญายมราช มีบุญบารมีสัมพันธ์กันมาแต่ภพเก่าก่อนในทางใดทางหนึ่ง เมื่อจะได้เกื้อหนุนกันให้สำเร็จกิจแห่งภพ ท่านจะดลบันดาลให้รับรู้แลเกิดความสนใจ พึงใจ ขึ้นมาเอง

    *** ตะกรุดพระยมราชผลาญ..นี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะบอกกล่าวครูยมราชทำการประสิทธิ์ให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนช่วยผู้ประสบอุทกภัยต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต(สมใจนึก เผาคำอธิษฐาน) บูชา 900 บาท

    70188459-943939252619130-1933311869674586112-n.jpg
    70248009-2522316591321819-4649137901320273920-n.jpg
    70042092-524816788286505-3359246092892897280-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา หนุมานมหาพาลีรวมชีพศรีเทพพยนตรา(ผงมหากาฬสุริยกัณฑ์)

    ว่าด้วยลิงครูเนื้อพิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านกดลองพิมพ์ไว้เมื่อสร้างหนุมานศรีเทพพยนตรา ท่านได้มีดำริจะนำผงคุณวิชาพญาพาลีมาเข้ากับผงหนุมานกดเนื้อลองพิมพ์ขึ้นเพื่อให้ลิงครูนั้นมีกำลังอันเป็นข้อดีของทั้งหนุมานและพาลีรวมกันโดยท่านเรียกพระผงลองพิมพ์นี้ว่า...หนุมานมหาพาลีรวมชีพ
    จะกล่าวถึงพาลี...." หนึ่งในวิชาและพระเวทย์ฝ่ายไศวะโบราณที่มีอิทธิคุณแปลกประหลาด สามารถดลบันดาลให้ผู้ครอบครองชนะไร้พ่าย ทำอะไรก็สำเร็จ แต่ทว่าครูบาอาจารย์นั้นเกรงกลัวว่าคุณสมบัติแท้จริงของวิชานี้น่ากลัวเกินไป จึงปิดบังอำพราง ไม่สร้างไปเลยก็มี ถ้าสร้างก็มักจะไม่ทำเต็มวิชา ด้วยเกรงว่าจะก่อภัยอันตรายให้กับศิษย์ทั้งหลายที่ได้ใจครอบครองจนกระทั่งท่านได้สร้างทำผงวิชาพญาพาลีอินทรสังกาศขึ้นมาเพื่อจะสืบทอดเวทย์ฝ่ายไศวะโบราณที่ขาดการสืบต่อไป ด้วยพาลีนั้นชาติพันธุ์เป็นลิงแต่หน่อเนื้อเชื้อวงศ์เป็นอินทรวงศ์ เป็นลิงมีศักดิ์สูงเป็นลูกเจ้าสวรรค์ต่างกับบรรดาลิงทั้งหลายไม่ว่าจะสุครีพ นิลพัตร หรือหนุมาน ซ้ำยังมีฤทธิ์เลิศเป็นเอกอีกด้วย ถึงขนาดพ่ออาจารย์กล่าวไว้ว่า *** พาลีถ้าไม่ตายเสียก่อน ในรามเกียรติ์นั้นพระรามไม่ได้ฉายแสงแน่นอน เพราะใครก็ฆ่าพาลีไม่ได้ ใครสู้ก็แพ้พาลี ขนาดเจ้าทศกัณฐ์ที่พระรามตามล่าทำสงครามจนเรื่องกินระยะเวลายาวนานนั้น เจอพาลีเข้าก็หมดแรง รบกี่ทีก็แพ้ แถมยังโดนพาลีจับไปกระทำการทรมานทรกรรมให้กินข้าวเหลือของนางกำนัลแล้วให้องคตลูกชายเอาทศกัณฐ์ไปลากเล่น(เหมือนจูงหมาเดินเล่น)ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยง หยามเกียรติอสูรวงศ์พรหมถึงปานนั้น...พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงนั้นถ้าว่ากันด้วยฤทธิ์พระรามก็ยังฆ่าพาลีไม่ตาย พาลีตายด้วยมือของตนเอง แม้แต่พระรามแผลงศร ศรพระรามที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธฝ่ายเทพ แผลงที่ไหนทีไรได้เรื่องทุกที พาลีก็ยังคว้าจับมาเล่นได้ไม่ได้สะทกสะท้านในฤทธิ์อำนาจใดๆเลย แต่เพราะระลึกถึงคำสาบานแต่หนหลังได้ว่าตนเองนั้นแย่งเมียน้องคือสุครีพ และเคยถวายสัตย์ต่อพระนารายณ์ไว้ว่าถ้าแย่งจะให้ศรพระนารายณ์ล้างชีวิตก็เลยทำตามคำสัตย์นั้น พระรามนั้นอาลัยในตัวพาลีมากนัก เพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยปรากฏมีผู้ใดที่จะมีฤทธิ์แกล้วกล้าเฉกเช่นพญาวานรผู้นี้ พระรามจึงอยากได้พาลีมาทำราชการกับพระองค์ ได้เอ่ยขอเพียงเลือดของพาลีเสียครึ่งหยดมาล้างคำสัตย์ที่สาปสรรค์ไว้ถึงชีวิตให้แก่ศรพระเป็นเจ้า แต่พาลีก็หายอมไม่เพราะต้องการรักษาคำสัตย์นั้น จึงใช้ศรของพระรามทำการปลิดชีพตัวเอง เมื่อตายไปก็ได้เกิดเป็นเทพเจ้ากลับมาทำลายพิธีบูชาหอกของทศกัณฐ์ที่ทำให้อินทร์พรหมยมยักษ์ทั้งสวรรค์เดือดร้อนอีกครั้งนั่นเองพาลีนั้นพ่ออาจารย์บอกว่ามีความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ในชั้นฤทธิ์นั้นถ้าเปรียบกับชั้นหลานอย่างหนุมานแล้ว ระดับเจ้าผู้ครองนครขีดขินก็มีความสามารถแต่เดิมอยู่แล้วไม่เป็นรองกันแต่อย่างใด เพราะสืบสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เป็นบุตรพระอินทร์เจ้าสวรรค์นั่นเอง แต่สิ่งหนึ่งซึ่งรู้กันไปทั่ว ว่าเป็นความสามารถที่ขี้โกงที่สุดในสามโลก ทำให้กากาศนั้นเก่งเกินกว่าเก่ง เก่งจนแม้แต่พระเป็นเจ้าก็ยังไม่สามารถต่อกรให้มีชัยชนะได้ นั่นคือพรของพระศิวะเจ้าที่ให้กับพาลี กล่าวคือ เวลาสู้กับใครให้กำลังอีกฝ่ายนั้นลดลงเสียครึ่งหนึ่งแล้วกลับมาเพิ่มเป็นกำลังให้พาลี เพราะเช่นนี้พาลีเมื่อสู้กับใครจึงมีฤทธิ์เพิ่มอีกมหาศาล ยิ่งศัตรูเก่งแค่ไหน พาลีก็ยิ่งเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด ซ้ำพระศิวะเป็นเจ้ายังมอบพระขรรค์เพชรของพระองค์ให้เป็นเทพศาสตราคู่กายอีกด้วยในฐานะที่พาลีและสุครีพทั้งสองพี่น้องช่วยกันยกเขาไกรลาสให้ตั้งตรงได้ตามเดิมหากจะกล่าวถึงความเจ้าชู้แล้ว กากาศนั้น เหนือเสียยิ่งกว่าที่เรียกว่าเจ้าชู้ยักษ์อีกหลายขุม เพราะสนมกำนัลนั้นเต็มวังสนุกปานวิมานของบิดาคือพระอินทร์ก็ไม่ปาน แถมไม่พอใจใครก็ไปช่วงชิงเมียเค้ามาได้ดื้อๆไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น เช่นนางมณโฑของทศกัณฐ์ ที่มีลูกกับพาลีเป็นองคต ด้วยทศกัณฐ์นั้นได้รางวัลพระเป็นเจ้าประทานนางมณโฑให้ ยังไม่ทันที่จะได้เชยชมเผลอเหาะข้ามเมืองของพาลี กากาศนั้นพิโรธสุดกำลังกล่าวหาว่าทศกัณฐ์หยามเกียรติกล้าบินข้ามศรีษะตน จึงสั่งสอนต่อรบด้วย เอาทศกัณฐ์มาทรมานและเอาเมียพระราชทานนั้นมาเป็นเมียตนเอง แม้แต่นางดาราที่พระศิวะเจ้าโปรดประทานให้น้องชายคือสุครีพก็ยังตกเป็นของพาลี เรียกว่าถ้าใจรักผู้ใดไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าไหนทั้งนั้น เพราะใครก็สู้ด้วยไม่ได้ รบไปก็แพ้เปล่าๆ "

    พ่ออาจารย์นั้นได้นำผงคุณวิชาพญาพาลีมารวมกับกำลังหนุมานเพื่อสร้างลิงครูสำคัญขึ้น ยิ่งพ่ออาจารย์ท่านทำย้อนอารยธรรมเดิม ท่านว่าหนุมานของท่านนั้นครบรสเป็นทั้งเทพทั้งพยนต์ที่สำคัญเป็นเจ้าแห่งพลัง ความซื่อสัตย์ และจงรักภักดี เป็นการทำหนุมานสายพระเวทย์แบบดั้งเดิมจริงๆ ท่านว่าหนุมานไทยที่ว่าเก่งแล้วก็ยังคนละเรื่องกับอินเดียเพราะนี่คือหนุมานที่เป็นเทพเจ้า ไม่ใช่หนุมานที่เป็นทหารลิง

    จากเทพอมตะในตำนานที่ยังดำรงค์ชีวิต สู่ปฐมบทแห่งเครื่องรางอันเป็นอมตะ ...เมื่อกล่าวถึงหนุมานแล้ว เชื่อได้ว่าย่อมเป็นเครื่องรางหนึ่งในดวงใจของชายชาตรีหลายๆท่าน ด้วยว่ามีดีครบรสใช้ได้ทุกทาง แต่ถึงกระนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็ยังวางเฉย แม้จะมีคนถามหาอยากบูชาหนุมานกันอยู่เรื่อยๆ จนท่านต้องลงตะกรุดให้เขาไปใช้กันแทนและมีประสบการณ์กล่าวขานกันอย่างมากถึงกำลังฤทธิ์และความรู้สึกพิเศษที่เกิดขึ้นในชีวิตอันสัมผัสได้จริงจากการใช้หนุมาน .....พ่ออาจารย์ท่านได้ปรารภว่า " ที่เรายังยั้งไว้ก่อนนั้น เพราะคิดว่าหลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับหนุมานของเรา เพราะหนุมานของเรานั้นไม่ได้เหมือนหนุมานทรงหัวโขนทั่วไป หากแต่เป็นเทพหนุมาน เป็นเจ้าแห่งเผ่าพันธุ์วานร เจ้าแห่งกำลัง อิทธิฤทธิ์ ชัยชนะ เจ้าแห่งความซื่อสัตย์และจงรักภักดี " นอกจากนั้นท่านยังผูกให้เป็นพยนต์อีกด้วย ท่านว่าทำยากมากแตกต่างจากพยนต์ทั่วไป เพราะเป็นพยนต์ที่เกิดจากเทพ มีพลังงานต้นกำเนิดคือเทพหนุมาน เป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่เหนือฟ้าเหนือดิน ดังนั้นพยนต์ต้นกำเนิดเทพหนุมานนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงเป็นพยนต์รูปหนุมานที่สร้างไว้เจาะจงประโยชน์ใหญ่อันจะเกิดขึ้นกับผู้บูชา เพื่อให้ผู้บูชาได้ใช้งานเขาได้ ซึ่งปกติเทพทั่วไปเราต้องขอความเมตตาอ้อนวอนท่าน แต่นี่เป็นพยนต์เทพจึงแตกต่างกัน ความตั้งใจของท่านคือให้เราออกคำสั่งได้ ใช้เขาได้ซึ่งเขาต้องทำตามด้วยความซื่อสัตย์และจงรักภักดี ดุจดั่งว่าศรีรามจันทร์ผู้เป็นเจ้าชีวิตใช้งานหนุมานฉันใดก็ฉันนั้น ร้อยเรื่อง ร้อยงาน ร้อยราชการสงคราม ทุกสิ่งย่อมสำเร็จกิจดั่งใจปรารถนาทุกเรื่อง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพหนุมานสายพระเวทย์โบราณนั้นเป็นศาสตราคู่กายที่สำคัญอย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นอวตารสำคัญของพระศิวะ ซ้ำยังมีครูที่เก่งที่สุดในโลกช่วยกันสอนผลัดกันถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้ ทั้งพระศิวะ พระพาย พระสุริยาทิตย์ ท่านว่าตรงนี้หลายตำนานก็จะกล่าวต่างกันออกไป แต่ขึ้นชื่อว่าครูชั้นดีแล้ว จะมีศิษย์ไม่ได้ความได้อย่างไร เมื่อท่านจะแกะบล๊อคสร้างเทพหนุมานนั้นท่านได้อธิษฐานใจบอกครูพระศิวะเสียก่อนพร้อมทั้งขอรูปนิมิตจากเทพหนุมาน ซึ่งท่านก็ได้รูปนิมิตให้สร้างเป็นรูปหนุมานคุกเข่ายกมือขึ้นวันทาในอิริยาบถพร้อมรับคำสั่งคำบัญชาจากศรีรามจันทร์ผู้เป็นเจ้ามหาชีวิตทุกประการ พ่ออาจารย์ท่านว่าหนุมานถ้าสร้างเป็นพิมพ์นี้แล้วเหมือนเขาบอกแก่เราว่าเค้าพร้อมแล้วนะที่จะช่วย พร้อมรับคำสั่งหรือเรื่องราวร้อยแปดพันประการของเราแล้วนั่นเอง

    ทีนี้ก็จะกล่าวถึงจุดสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า การจะสร้างหนุมานให้สามารถใช้งานเขาได้นั้น จะทำแต่รูปหนุมานขึ้นมาโดดๆไม่ได้ จะต้องมีสิ่งที่บรรจุธาตุพลังงานสำคัญของเจ้านายเขาลงไปด้วยซึ่งก็คือศรีรามจันทร์และพระลักษมันนั่นเอง ดุจว่าเมื่อเราบูชาหนุมานนี้ เราจะบูชาไปพร้อมกับการบูชานายของเขา

    เย ชยนฺติ สทา เสนหนาม มนฺคลย กรนมฺ

    ศรี มโตราม จนฺทรสฺย กริปาโล มรม สวมินิ

    เตศมารโถ สทาวิปร ปรทาตหม ปรยาตนตห

    ทาทามิ วนฺจิต นิตฺยมฺ สรวนา เสารวยมุตตม

    ผู้ภักดีเหล่าใด ผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระรามผู้มีความเมตตาที่สุดของเราทุกๆวันและตลอดเวลา ข้าฯ จะทำให้ความปรารถนาทุกๆอย่างของผู้ภักดีเช่นนั้นให้สำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และประทานความสำเร็จในการกระทำทุกๆอย่างให้แก่พวกเขา


    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณาลงตะกรุดรามจันทร์ผลาญฟ้ากับลักษมันร่างทองปลุกเสกเชิญญาณสองมหาเทพทั้งพระวิษณุนารายณ์และองค์อนันต์นาคราช ให้นิรมาณกายมาสถิตย์ดุจภาคอวตารของรามลักษณ์เช่นนั้นทีเดียว(ในเนื้อลองพิมพ์นั้นท่านลงตะกรุดรวมยันต์ไว้ในดอกเดียว) พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนั้นแล้วหนุมานที่ท่านทำขึ้นนี้แม้นบูชาไปหากจะขออธิษฐานสิ่งใดๆก็จะสำเร็จเสมอใจทุกประการ เพราะเมื่อเราไหว้เราบูชา เท่ากับเราได้บูชานายของเขาไปในตัวแล้วชนิดแยกกันไม่ออก ขาดกันไม่ได้ ที่ใดมีรามที่นั่นย่อมมีหนุมาน ตรงนี้เข้าเงื่อนไขให้เขาพร้อมช่วยเหลือเราอย่างสุดชีวิตและเต็มกำลังเขาแล้วนั่นเอง ทั้งนี้ไม่นับตะกรุดรามจันทร์ผลาญฟ้ากับลักษมันร่างทองซึ่งเป็นวิชาเกื้อหนุนค้ำจุนและเป็นนายที่หนุมานจงรักภักดีทั้งคู่นอกจากนี้ยังมีผงมหากาฬสุริยกัณฑ์ที่พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาเป็นมวลสารตั้งต้นในเนื้อลองพิมพ์ด้วยเน้นเอาให้แรง ให้มีฤทธิ์เกินคำว่าเป็นตัวเป็นตนทีเดียวกับหนุมานศรีเทพพยนตรารุ่นนี้ ด้วยหน้าที่ของหนุมานเหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือการอุทิศชีวิตเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จสมดั่งเป้าหมายผู้เป็นนาย ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญที่สุด เครื่องมงคลเช่นนี้นั้นย่อมไม่ธรรมดา

    นอกจากจะผูกเป็นพยนต์เทพหนุมานแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังกล่าวว่า ที่ท่านสร้างหนุมานนี้เนื่องจากหลายคนใช้ชีวิตกันอยู่ในโชคชะตาเวียนว่ายตายเกิด ได้รับอิทธิพลของดวงดาว พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เรียกว่าดาวบาปเคราะห์ให้ผลแรงกล้าอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ดาวราหูก็ดี เมื่อเสวยอายุบางช่วงก็กินเวลานานหลายปี พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จะให้มาเสียเวลาหลายๆปีเพราะอำนาจดาวบาปเคราะห์นี้ก็ไม่ควรกัน พอดวงนี้เคลื่อนดวงนั้นก็เสวยต่อวนเวียนแบบนี้ไปไม่รู้จบ ตรงนี้ท่านว่าเป็นอำนาจของดาวบาปเคราะห์ที่แม้แต่พระพุทธองค์ก็ยังหยุดไม่ให้แสดงผลไม่ได้ ด้วยสาเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมีกฏก็ย่อมมีสิ่งที่กฏแห่งธรรมชาติยกเว้นเช่นกัน นั่นคือหนุมาน หนุมานนั้นมีบุญคุณกับเทพนพเคราะห์ทั้งหลาย จนพระเสาร์ได้ให้คำสัตย์สัญญาไว้ ว่าจะคอยช่วยเหลือหนุมานและงดเว้นคำสาปตลอดจนพลังวิถีรัศมีแห่งดวงดาวที่จะส่องเข้ากระทบดวงชะตาของผู้บูชาหนุมาน ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าหนุมานสายพระเวทย์ฮินดูนี่แหละที่เป็นดาวข่มแท้จริงกับชะตาชีวิตที่ขึ้นๆลงๆเอาแน่เอานอนไม่ได้ของมนุษย์ ใครที่โดนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกทั้งหลาย ได้ดีก็ไม่ตลอด สามวันดีสีวันไข้ ต้องคอยตามคอยแก้คอยกังวลกับดวงชะตา ทำอะไรก็ไม่มีความสบายใจลุ่มๆดอนๆ ท่านว่าตรงนี้คือสิ่งพิเศษที่กฏเกณฑ์พลังงานของธรรมชาติและวิถีดวงดาวนั้นเกื้อหนุนกัน ตรงนี้คือวาระพิเศษที่จะทำให้มนุษย์ส่วนหนึ่งนั้นพ้นจากอำนาจแห่งดาวบาปเคราะห์และตรงนี้ก็คือศรีหนุมานนั่นเอง

    ทำไมถึงต้องเป็นพยนต์เทพหนุมาน พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เราทั้งหลายลองตรองดูเถิด นึกไปถึงพระราม พระรามในอุดมคติของเราเป็นเอกบุรุษหรือไม่ ท่านเก่งหรือไม่ ถึงแม้จะเก่ง แต่ทุกย่างก้าวของยอดบุรุษผู้นั้น ชีวิตพระรามผู้นั้นก็ต้องมีหนุมาน หนุมานจะคอยช่วยเหลือพระรามทุกๆย่างก้าวของชีวิต คอยขจัดความทุกข์ทั้งมวลออกจากใจของศรีราม คอยทำให้ความปรารถนาของศรีรามจันทร์นั้นสำเร็จลงอย่างสมบูรณ์ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าถ้าจะหาตัวช่วยที่เป็นดุจองครักษ์ชั้นยอด ที่คอยช่วยกำจัดทุกข์ คอยทำให้ความปรารถนาเราสำเร็จ ไม่ทิ้งเราและอยู่กับเราทุกย่างก้าวของชีวิตแล้ว ตรงนี้คือตอบว่าทำไมต้องเป็นพยนต์เทพหนุมาน เพราะคนเรานั้นถึงจะเก่งเทียมฟ้า มีฤทธิ์ดุจดั่งเทพเจ้าแล้วก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะประสบผลสำเร็จ จะอยู่ได้ตัวคนเดียวในโลกโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือ

    พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมว่านยาต่างๆจำนวนมากรวมถึงผงลบถมวิเศษอีกหลายประการ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลย ท่านได้ลบถมผงสายพระเวทย์ของฮินดูขึ้นมาโดยชักยันต์หัวใจเทพเจ้าสำคัญๆต่างๆใส่ลงไปด้วย ไม่ว่าจะพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระแม่ปาราวตี พระแม่ลักษมี พระแม่สุรัสวดี พระพาย พระสุริยาทิตย์ พระจันทร์ พระอินทร์ พระธรณี พระคงคา พระเพลิง พระกุเวร พระยม พระพฤหัสบดี พระกศยปะเทพบิดร พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะหนุมานนี้ ในตัวของเขามีพลังงานของเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายอยู่เนื่องด้วยได้รับการสั่งสอนรวมถึงได้รับพรประการต่างๆจากเทพทั้งหลาย เมื่อท่านจะทำหนุมานนั้น ท่านจึงดำริว่าให้ทำขอไปทีนั้นไม่เอา ถ้าจะทำต้องทำจริงๆ และในกายหนุมานนั้นต้องมีพลังงานของเทพสำคัญทุกองค์แฝงอยู่อย่างแท้จริง นั่นแหละจึงจะได้ชื่อว่ามีฤทธิ์เป็นเอกเหนือฟ้าเหนือดิน ท่านนำผงเทพวิชานั้นมาเข้ากับผงมหากาฬสุริยกัณฑ์ พ่ออาจารย์ท่านว่า ผงวิเศษนี้คือสิ่งที่ท่านตั้งใจลบถมปรุงแต่งขึ้นเพื่อฝากไว้เป็นตำนานอย่างแท้จริง ท่านว่าคนสมัยนี้ส่วนใหญ่จะรู้จักแต่มนต์พระกาฬอันเป็นคาถาสาปแช่ง ในวาระนี้ท่านจึงได้ลบถมผงมหากาฬสุริยกัณฑ์ขึ้นมา ท่านว่าผงนี้ทำยากต้องเข้าว่านยามวลสารที่เผาด้วยไฟจากพระอาทิตย์ ทั้งเวลาทำผงก็ต้องทำตอนพระอาทิตย์ตรงหัวขึ้นสู่จุดสูงสุด มีการทำพิธีนมัสการพระสุริยเทพก่อน ผงที่ได้มานั้นท่านว่ามีฤทธิ์มาก มีความร้อนแรงอย่างถึงที่สุด อยู่ที่ไหนก็สะกดข่มและปราบปรามสิ่งต่างๆได้ทั้งสิ้น ซ้ำยงเป็นทั้งของกัน ของแก้ และของสะท้อนกลับในตัวด้วย ท่านว่าศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนั้นมีอุปเท่ห์วิธีใช้รุนแรงและพิศดารมากมาย แต่ท่านตั้งใจเอาไว้ให้ถือครองกันเพื่อหวังอานิสงค์ในทางกัน แก้ และสะท้อนกลับเพียงเท่านั้น ทั้งสามสิ่งนี้ครอบคลุมและเพียงพอที่จะทำให้ชีวิตมนุษย์นั้นงดงามและดำรงค์อยู่ได้อย่างปรกติสุขปราศจากเรื่องเดือดร้อนใดๆท่านว่าอยากเห็นชีวิตของเขากินดีอยู่ดีอยู่ได้โดยไม่โดนใครเบียดเบียนรังแกไม่ว่าจะภัยจากมนุษย์หรืออมนุษย์ก็ตาม ท่านว่าอย่างอื่นอย่ารู้อย่าทำเลยเป็นบาปกรรมเสียเปล่า ผงนี้สำเร็จได้ด้วยอำนาจพระสุริยาทิตย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวหนุมานนี้เองก็เป็นลูกศิษย์พระอาทิตย์ได้ให้คุรุทักษิณาแก่อาจารย์คือพระสุริยาทิตย์โดยการลงมาช่วยสุครีพผู้เป็นลูกพระอาทิตย์ดูแลบ้านเมืองจนกระทั่งพบพระรามในที่สุด เช่นนี้ท่านจึงใช้ผงนี้ไสร้างหนุมานด้วย ท่านว่าเสมือนเมื่อศิษย์อยู่คู่กับครูของเขาก็จะเหมือนชาติพยัคฆ์ติดเขี้ยวเล็บ เขาจะมีฤทธิ์มากขึ้น

    ทั้งชุดลองพิมพ์นี้ท่านยังได้เข้าผงคุณวิชามหาพาลี,หัวใจพาลีเต็มสูตร,ผงวิชาพาลีรั้งทวีป ท่านว่าต้องลงต้องเดินให้ครบเพื่อจะเสริมการตั้งจิตตั้งรูปพญาพาลี และทำผงเอกคือวิชาพาลีลูบหลังนางแก้วดาราที่เรียกว่าเป็นเสน่ห์เจ้าชู้สุดๆอีกวิชาหนึ่ง ลูบหลังใครได้ร่วมรักหลับนอน ผสมกับผงวิชาลิงสายต่างๆ ซ้ำยังลงผง 18 มงกุฏ อันเป็นลิงเจ้ายอดทหารเอกของพระรามทั้ง 18 ตนท่านว่าจะได้ขานรับกับผงลบวิชานี้ส่งพลังถึงผู้บูชาได้แรงและไวยิ่งนัก และท่านได้นำเศษไม้ เศษงาช้างตกทอดที่เหลือจากการแกะสลักหนุมานของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อันเป็นตำนานเครื่องรางในสายหนุมานมาบดเป็นผงผสมลงไปด้วย ท่านว่าหาหนุมานที่หลวงพ่อสุ่นทำไม่ได้ราคาแพงเกินเอื้อม เอานี่ไปใช้ฤทธิ์ท่านก็อยู่ในนี้ ไม่ต่างกัน วิชามหาพาลีนี้แม้เป็นผงก็ต้องทำให้สำเร็จมีตัวตนก่อนจะเรียกจิตตั้งรูปนาม และนำไปพรมน้ำทิพย์ที่เกิดเองตามธรรมชาติอันมีกำลังฝ่ายเวทย์สูงและปลุกเสกบนยอดดอยเพื่อจะให้มีกำลังธาตุที่เข้มข้นสำเร็จเป็นผงมหาพาลีที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่ สุดท้ายท่านก็ได้เชิญครูพระสยม(พระศิวะ)มามอบพรแก่พญาพาลีเพื่อให้มีฤทธิ์แกล้วกล้าเช่นในวรรณคดีจริงๆ แต่กลายเป็นท่านบอกพรแก่พาลีว่า ถ้าแม้เผชิญหน้าด้วยผู้หนึ่งผู้ใด ให้กำลังเขาถดถอยเสียครึ่งหนึ่งและมาทดแทนให้กับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้ไม่มีสงครามแล้ว จะไปรบกับใคร เอาแบบนี้ดีกว่าใช้ได้หลายทางดี สุดแต่ใจจะคิดประดิษฐ์วิธีใช้กันเลย วิชาพญาพาลีโดดๆนั้นก็มีฤทธิ์มากจนกลายเป็นสายวิชาในตำนานอยู่แล้ว ด้วยพลังแฝงพิเศษ ### แม้อยู่ต่อหน้าใครก็ลดทอนกำลังวาสนาบารมีเค้าเสียครึ่งหนึ่งมาเพิ่มให้ตนเอง เมื่อรวมกับกำลังหนุมานและพญาลิงแล้วยังได้เพิ่มทางสำเร็จ ชนะอุปสรรคด้วย สำเร็จไว ทำอะไรก็ไวดั่งพญาวานร จะเล่นทางเสน่ห์ก็ยอดเสียยิ่งกว่าพระขุนแผน จะเอาผงผีผงพรายมาเทียบนั้นไม่ได้เลย ผงวิชาลิงนี่แหละแรงกว่ามากท่านเมตตาฝากไว้ว่า ลิงอย่างไรก็คือลิงเห็นแบบนี้องค์ๆหนึ่งนั้นมีวิชาลิงอยู่สารพัดเลย เป็นลิงเจ้าทั้งนั้น ถ้าจะขออะไรอย่าลืมให้กล้วยท่านด้วย จะบนอะไรก็เอากล้วยซักหวีน้ำเปล่าซักแก้ว ผลหมากรากไม้ถวายบ้างตามกำลังแล้วแต่เหตุการณ์ที่เราจะบน ลิงนี่ทำอะไรก็สำเร็จไว ขออะไรเขาก็เต็มใจทำให้ พ่ออาจารย์ท่านยังพูดให้คิดว่าไวกว่าพิมพ์พระพิมพ์เทพเจ้าเสียอีก แต่เลี้ยงก็หมั่นพูดคุยบอกกล่าวท่านหน่อย ของที่มีจิตมีญาณรู้สิงสู่แบบนี้ ยิ่งเราพูดยิ่งเราคุยกับเค้าท่านว่ามันยิ่งดีกับตัวเราเอง

    ด้านหลังฝังตะกรุดรามจันทร์ผลาญฟ้าลักษมันร่างทอง ปกติจะเป็นตะกรุดคู่แต่ในชุดลองพิมพ์นั้นท่านว่าลงไว้ด้วยกันเอาอำนาจน้องมาเสริมพี่ให้กลืนกันจะแรงฤทธิ์ยิ่งกว่าฝังดอกเดียวก็แรงลูกโดดเช่นนั้น ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านเชิญบารมีพระนารายณ์อวตารกับพญาอนันตนาคราชแฝงญานแผ่บารมีไว้อย่างแท้จริง รามจันทร์ผลาญฟ้านั้นท่านว่ามีฤทธิ์มากนอกจากกระแสญาณของพระนารายณ์แล้ว ยังมีพลังแฝงด้วยว่าลงหัวใจศรพรหมมาสตร์ไว้ อันพรหมมาสตร์นั้นเป็นศรที่พระพรหมสร้างขึ้น ศรพรหมาสตร์เป็นศัตราวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ ดังนั้นตะกรุดรามจันทร์ผลาญฟ้านี้ท่านจึงลงไว้เพื่อปราบคู่แข่ง สะกดอาถรรพ์ ล้างผลาญศัตรูหมู่มารทั้งหลาย ส่วนลักษมันร่างทองนั้นท่านว่านี่ของจริงด้วยบารมีอนันตนาคราช ตรงนี้ดีเสียยิ่งกว่าพระลักษณ์หน้าทอง ท่านลงให้ไว้เป็นเสน่ห์สะกดรูปสะกดใจคนอย่างถึงที่สุด ท่านว่าถ้าวิชาสายสะกดจิตใจคนหรือพระลักษณ์หน้าทองธรรมดานั้นจะให้ผลดังนี้ “เห็นหน้าแล้วลืมตัวลืมลูกลืมสามีไปเสียสิ้น สบตาแล้วลืมกิน กระทั่งอินทร์ก็ลืมดู” แต่นี่ท่านว่าทำไว้เหนือกว่านั้น ก็ขอบารมีองค์อนันตนาคราชเจ้าแผ่งเผ่าพันธุ์นาคาให้แฝงร่างสัมผัสกายเป็นสิริมงคลกันให้ดี ท่านว่าใช้ทางเสน่ห์ได้แต่บาปกรรมรับกันเอง หากมิใช้ทางเสน่ห์แต่เจาะจงเพียงพกพาอาราธนาแล้วก็จะเป็นสง่าราศีอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าว่าตะกรุดรามจันทร์ผลาญฟ้าลักษมันร่างทองนี้ เป็นธาตุตั้งต้นของพลังงาน เป็นธาตุญาณของเจ้านายศรีหนุมานอย่างแท้จริง เมื่อสร้างหนุมานพยนตราท่านต้องฝังไปด้วยเพื่อความสำเร็จในการบูชาของคนใช้นั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านได้เสกหนุมานศรีเทพพยนตรานี้มายาวนานและทำจนมั่นใจทั้งนำไปเสกบนยอดดอย ในถ้ำ ในป่า(แทนโลกทั้งสามบนดอยที่สูงเหมือนอยู่ในเหมเขาไกรลาสกลางสวรรค์,ในถ้ำดุจอยู่ในพิภพบาดาล,กลางป่าเปรียบกับโลกลี้ลับทั้งหลายในภาคปฐพี) โดยการเสกนั้นท่านว่าจะเกิดเหตุประหลาดและอัศจรรย์ใจท่านทุกครั้ง *** ด้วยท่านลงวิชาทั้งพาลีและหนุมานเอาไว้ลิงครูลองพิมพ์นี้จึงมีกำลังมากเหมือนเทพเจ้าที่แบ่งภาคประสานกันกำเนิดเป็นเทพหนุมานและมหาพาลีรวมชีพ ด้วยหนุมานนี้เก่งทุกด้านทั้งบุ๋นและบู๊ ซ้ำยังเสริมกำลังด้วยวิชาสายธาตุหนุนด้วยธาตุลมเป็นเอก เอาพระพายเข้ามาใช้ เอาพ่อมาหนุนลูก ทำอะไรจะได้สำเร็จ จะได้ว่องไว เหมือนลมที่เข้าไปได้ทุกที่ อยู่ที่ไหนก็ไปถึง ไม่มีที่ไหนที่ปราศจากลม ท่านว่าของที่ทำด้วยธาตุลมนี่เสน่ห์ดีนัก ลิงครูนี้ผู้ใดได้ใช้เวลาเราคิดถึงใครเค้าก็คิดถึงเรากลับ จะทำอะไรก็อธิษฐานฝากบอกพระพายบอกหนุมานไว้ก็ได้ เขาช่วยได้จะสำเร็จไวดั่งมหาวายุพัด ท่านว่าตอนเสกจะมีลิงมาป้วนเปี้ยนในบริเวณที่ท่านเสก บางครั้งก็มีลิงเอามือมาจับองค์พระแต่ไม่ได้ทุบทำลายหรือโยนเล่นและนำไปอันผิดวิสัยของลิงป่า ท่านว่าลิงนั้นก็เป็นสื่อเป็นตัวแทนของเทพหนุมานซึ่งเขายังเป็นอมตะและดำรงค์อยู่จนถึงทุกวันนี้ เทพพยนต์นี้เราก็ทำให้จนดีที่สุดจึงนำมาออกให้บูชา โดยพยนต์นี้ท่านว่าถ้าจะไหว้จะบนจะขออะไร ก็ให้ถวายกล้วย น้ำ นม เนย กับเขาก็พอ(ถ้าไม่บนก็ไม่ต้องถวายพกติดตัวเฉยๆก็แรงแล้ว) ใช้ได้ทุกด้าน

    คาถาบูชา(นึกถึงพระรามเป็นที่สุดเมื่อจะขอพรหนุมาน)
    โอมมะโนจาวัม มารุตาตุละยาเวกัม จิเทนทะริยัม พุทธิมาตัม วาริสะตัม วาตัตตะมาชัม วานะรายุ ธะมุขะยัม ศรีรามทุตัม สาระนัม ประปัทะเย


    *** พระผงลิงครูชุดลองพิมพ์นี้เป็นของสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าสำเร็จด้วยผงของยอดวิชา มีแรงครูสูงมาก มีฤทธิ์เสมอใจเรา และเป็นเทพพยนต์ที่มีกำลังมาก ให้บูชาด้วยความรักความใส่ใจดุจนายควรมีกับบริวารที่เป็นดั่งมิตรที่ดีที่สุดของตนเขาจะยิ่งแรงและเข้าถึงจิตใจเราได้มากและให้คุณแก่เราได้สูงสุด รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจทำการเจิมประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา หนุมานมหาพาลีรวมชีพศรีเทพพยนตรา(ผงมหากาฬสุริยกัณฑ์) บูชา 900 บาท


    70426746-1357751331061111-2954918743525818368-n.jpg 70682429-899288517108461-6756902348896862208-n.jpg
    70388938-946866918987897-6739082276182687744-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงพึ่งบารมีครูปฐมพรหมโยคีสัปตะมหาฤาษี(ตะกรุดสังวาลย์พระอินทร์,หุ่นราวัณแบกภาระ)

    "สัปตะฤาษีที่ได้ชื่อว่าเป็นครูซึ่งเชิญยากที่สุด" ด้วยสัปตะฤาษีหรือมหาฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดตน ซึ่งได้รับการเคารพสูงสุดจากพระผู้เป็นเจ้า(ตรีเทพ)ในฐานะมหาคุรุและมหามุนี และทั้งเจ็ดท่านนั้นยังเปรียบเป็นเสมือนบิดาของวงศ์วานเทพฤาษีผู้ทรงฤทธิ์อาจหาญทั้งหลายในชั้นถัดมา ด้วยชั้นสัปตะมหาฤาษีนั้นมีเดชมากถึงขั้นมอบคำพรและคำสาปแก่พระเป็นเจ้า(ตรีเทพ)ตลอดจนทำให้เหล่าเทวดา,อสูร,ยักษ์,รากษส ทั้งหลายน้อมบูชาต่อคณะท่านอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าครูสัปตะฤาษีนั้นเป็นมานัสบุตร(ลูกอันเกิดแต่มโนความคิดของพระพรหมา)ทั้งเจ็ดตน การสร้างเครื่องมงคลแทนครูสัปตะฤาษีนี้พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำไว้เพื่อแทนครูต้นผู้ให้กำเนิดกลไกสรรพชีวิตในจักรวาลทั้งหมด ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ายอดฤาษีทั้งเจ็ดนั้นได้รับความเคารพยำเกรงจากทุกภพภูมิ จะเรียกว่าหากบูชาท่านเเล้วปรารถนาพรใดก็สามารถบอกกล่าวขอให้ท่านเปิดทางได้ ไม่ว่าอยู่มิติไหนท่านย่อมให้ความเคารพเเละปกปักรักษา พ่ออาจารย์ท่านว่า ดีเกินดี ดีแบบคาดไม่ถึง ใครที่ชะตาต้องอาถรรพ์จะมีวิบัติที่เกิดจากเทวดา,อสูร,หรือภูติผีแม้แต่พระเป็นเจ้าหรือสิ่งที่ทรงอานุภาพอื่นใดก็ดีมีครูสัปตะมหาฤาษีที่เราทำไว้ ต่อให้อาถรรพ์ใดๆไม่กล้าส่งผลต่อชีวิตเราเพราะเกรงใจเเละเคารพในเดชะของยอดฤาษีทั้งเจ็ดนั้น นี่แบบนี้ ที่ว่าดีแบบคาดไม่ถึง

    ด้วยยอดฤาษีทั้งเจ็ดนั้นเป็นที่เคารพเกรงกลัวของเหล่าทวยเทพรวมถึงสรรพชีวิตในกฏแห่งวัฏฏสงสารนี้ ถึงขั้นได้นามว่าฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดตนซึ่งได้รับเกียรติและการเคารพสูงสุดจากพระผู้เป็นเจ้าในฐานะคุรุและมหามุนี ทั้งเจ็ดท่านนั้นได้แก่ 1.โคตม 2.ภัทรวาช 3.วิศวามิตร 4.ชมทัศนี 5.วศิษฐ์ 6.กัศยป และ 7.อัตริ ซึ่งครูทั้งเจ็ดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าก่อนทำการมงคลใดๆก็ดีท่านจะต้องระลึกถึงครูทั้งเจ็ดนี้ก่อนเสมอและยังเชิญท่านมาช่วยมาอำนวยพรเป็นประจำเวลาท่านทำพิธีใดๆ เมื่อท่านตั้งใจจะทำมงคลแทนครูนี้ครูทั้งเจ็ดจึงอนุญาติให้ท่านทำโดยใช้รูปพระกศยปะเทพบิดรเป็นตัวแทนของท่านทั้งหมด ในที่นี้จะกล่าวถึงพระกศยปะเทพบิดรอีกครั้ง นอกจากจะเป็นสัปตะฤาษีท่านยังควบตำแหน่งเป็นพระมหาประชาบดีที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิดมวลมนุษย์เเละเทพเทวะทั้งปวงตลอดจนสร้างกลไกสิ่งมีชีวิตทั้งหมดพระกัศยปะเทพบิดรนั้นในบางตำราก็ว่าเป็นพระบิดาของพระนารายณ์ ในวิษณุปุราณะก็กล่าวว่าเป็นบิดาของมหาฤาษีนารทมุนี ซึ่งพระฤาษีกัศยปะเทพบิดรองค์นี้ยิ่งใหญ่ในตบะฌาณทรงศักดิ์และทรงสิทธิ์เหนือมวลเทพเจ้าทั้งปวงหากแต่ไม่ค่อยมีผู้ใดกล่าวถึงเเละสร้างท่านกันมากนัก พระกัศยปะมหาฤาษี มีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ พระกศป,พระประชาบดี อื่นๆและด้วยเหตุที่เป็นผู้ให้กำเนิดเทพเทวดา,มนุษย์ และสรรพสัตว์ตลอดจนวงศ์อสูรทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น แทตย์,ทานพ,นาค,ครุฑ และปีศาจ ไม่เว้นแม้แต่พระผู้เป็นเจ้า ท่านจึงได้รับการขนานพระนามด้วยเกียรติยศสูงสุดว่าพระเทพบิดร พระองค์มีที่สถิตอยู่ที่เขาเหมกูฎบรรพตเป็นผู้แต่งโศลกต่างๆในคัมภีร์ฤคเวทเป็นอันมากทั้งยังแต่งพระเวทอื่นๆบางตอนด้วย ว่ากันว่าพระกัศยปะองค์นี้ยังเป็นพระอาจารย์ที่สอนศิลปะศาสตร์แก่ 2 ศิษย์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมหาอวตารของพระวิษณุที่เก่งที่สุดในโลก สาเหตุของความเก่งกล้าก็มาจากครูผู้นี้นั่นเองได้แก่ ปรศุราม(รามสูร)และพระรามจันทร์(พระราม) ทั้งในยุคไตรเภทคัมภีร์ในยุคนี้ได้บันทึกถึงกำเนิดพระศิวะเจ้าว่าทรงประสูติจากพระนางสุรภีและพระบิดาก็คือพระกัศยปะเทพบิดรและในคัมภีร์พรหมมานัสก็ยังกล่าวไว้เช่นกันจะเห็นได้ว่าพระมหาฤาษีองค์นี้ไม่ธรรมดาเลยด้วยทั้งพระวิษณุหรือพระศิวะก็ได้มาจุติเป็นลูกของพระองค์ทั้งนั้น พระกัศยปะมีอัครมเหสีชื่อพระอทิติและมีมเหสีฝ่ายซ้าย(องค์รอง)คือนางทิติ แล้วก็มีชายาอีก12องค์บางตำราก็ว่ามี13องค์ นอกจากนั้นยังมีนอกสมรสอีกนับพันล้านนาง ด้วยพระกัศยปะเทพบิดรมีโอรสอยู่มาก เช่น พวกอาทิตย์ทั้ง 8 คือ สุริยาทิตย์,วรุณาทิตย์,มิตราทิตย์,อริยมนาทิตย์,ภคาทิตย์,องศาทิตย์,อินทราทิตย์และธาตราทิตย์ โดยเป็นโอรสที่เกิดกับนางอทิติอัครมเหสี พูดง่ายๆคือพระมหาฤาษีองค์นี้เป็นพ่อของพระอินทร์,พระอาทิตย์,พระวรุณ,พระยม เป็นต้น กล่าวง่ายๆคือลูกของท่านล้วนกุมกลไกต่างๆในมหาจักรวาลไว้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อีกองค์หนึ่งที่สำคัญมากคือพระวามนซึ่งเป็นพระนารายณ์อวตารปางที่ 5 โดยเกิดกับพระนางอทิติเช่นกัน จะเห็นได้ว่าท่านเป็นฤาษีที่อยู่สูงเเละมีความสำคัญมากแม้เเต่พระเป็นเจ้ายังเลือกที่จะเกิดเป็นพระโอรสของท่านเลย นอกจากนั้นท่านยังมีบุตรอีกมากได้แก่
    - ครุฑ นั้นเกิดกับนางวินตา อันว่าครุฑบุตรของพระกศยปะเทพบิดรที่หมายถึงนั้น ไม่ใช่ครุฑธรรมดาสามัญทั่วไป แต่เป็นจอมครุฑพญาสุเรนทรชิตที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์ เป็นครุฑที่ชนะพระอินทร์มีอานุภาพเสมอด้วยพระนารายณ์เป็นเจ้า
    - นาค กับ อรุณ เกิดกับนางกัทรุ พญานาคที่เกิดเป็นโอรสนี้ก็รวมไปถึงองค์อนันตนาคราช บรรพบุรุษแห่งสายนาคพันธุ์ทั้งปวง
    - มารุต(ลมหรือพระพาย) และแทตย์เกิดกับนางทิติ พระมารุตหรือพระพายที่เป็นบิดาของหนุมานก็เป็นบุตรของพระองค์
    - ทานพ เกิดกับนางทนุ
    - ปีศาจ เกิดกับนางโกรธศา
    - อสุรินทรราหู ผู้เป็นใหญ่แห่งอสุรกายภูมิผู้ได้รับขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งมาร ก็เป็นบุตรที่เกิดจากพระกัศยปะเทพบิดรกับนางสิงหิกาด้วย
    ท่านเป็นพระบิดาของเทพเจ้าหลายพระองค์มากจริงๆไม่อาจกล่าวได้หมด จึงทำให้ท่านเป็นประชาบดีที่ได้รับเกียรติให้ใช้พระนามว่าพระเทพบิดรจะเห็นได้ว่าชื่อพระกัศยปะเทพบิดร ก็ได้มาเพราะเหตุที่มีลูกเป็นเทพที่คนรู้จักกันมากมายหลายองค์นี่เอง ซึ่งเเต่ละพระองค์ก็ล้วนมีอำนาจก็ยิ่งใหญ่จนมิอาจจะกล่าวได้ แต่ไม่ว่าลูกจะดีเพียงไหน ..ผู้เป็นพ่อก็ย่อมเป็นผู้ที่ลูกเคารพและเกรงใจมากที่สุดอยู่ดี หากมองดีๆแล้วพระกัศยปะเทพบิดรท่านเป็นผู้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตในรูปแบบต่างๆที่เป็นระบบโครงสร้างของจักรวาลก็ไม่ผิด ด้วยว่าท่านมีตบะที่สั่งสมมานานเป็นเอนกอนันต์กาลทั้งด้วยฐานะประชาบดีแถมเป็นถึงพระเทพบิดรนั้นจึงเป็นที่เคารพเเละยำเกรงต่อทุกสรรพชีวิตเพราะท่านเป็นปฐมบิดาด้วยว่าท่านเป็นถึงบิดาของเหล่าเทพองค์สำคัญมากมายเเละที่สำคัญยังเป็นครูเสน่ห์ชั้นสูงสุดที่ไม่ค่อยมีใครกล้าสร้างเเละกล้าเเตะต้องอีกด้วย เพราะเเรงครูนั้นสูงมากต้องสร้างเเละเชิญได้จริงเท่านั้น


    พระมหาฤาษีผู้ได้รับพระนามยิ่งใหญ่ว่าพระเทพบิดรหรือบรมครูพระเทพบิดรนี้ พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่ามีอวตารของพระองค์ท่านมากมายแต่ไม่มีใครพูดถึงกัน บางที่ก็เรียกจอมภพบ้าง,โลกบิดาบ้าง(บิดาของชนทั้งโลกเช่นนี้ท่านจึงให้ถือรูปพระเทพบิดรไว้เป็นประธานสัปตะฤาษีให้ศิษย์บูชาเสมือนได้กราบไว้บิดาตนเอง) ทั้งการลงมาของท่านก็จะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์แปลกๆไว้เสมอๆ เป็นการเพิ่มกลไกของชาติพันธุ์และระบบวัฏฏสงสารเรียกว่าเป็นองค์พลังแห่งการให้กำเนิดพลังเเห่งชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าพระเทพบิดรคือต้นตอและรากเหง้าแห่งความเจริญทั้งปวงก็ไม่ผิด ซ้ำสตรีที่จะได้เกิดบุตรกับท่านนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้กว่าจะได้พระองค์ท่านนี่ต้องเสียเวลาบำเพ็ญตบะระลึกถึงท่านเป็นพันๆปีถึงจะมีบุตรกับท่านได้ พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระกัศยปะเทพบิดรขึ้นมาอย่างรู้จริง ท่านว่านอกจากจะเป็นยอดบรมครูเสน่ห์สายฮินดูแล้วยังมีอภิสิทธิ์เด็ดขาดในทุกๆเรื่องเนื่องจากเป็นบรมบิดาแห่งทวยเทพทั้งปวงด้วย อยู่ที่ไหนก็เป็นที่รักในทุกที่ ผู้ที่บูชาพระกัศยปะที่พ่ออาจารย์สร้างท่านว่าอย่าได้กลัวภัยอันจะเกิดเเก่ภพภูมิทั้งหลายเลย เพราะลูกๆของท่านที่ครองภพภูมิต่างๆย่อมเกรงใจเเละเคารพท่าน แค่ออกพระนามก็เป็นที่รักต่อสรรพชีวิตโดยรอบเเล้ว เวลาขอพรท่านเเค่ขอให้ลูกๆของท่านทุกองค์รักและเมตตาช่วยเหลือเรา ท่านว่าเท่านี้ไปไหนเทวดาก็ลงมาอภิบาลกันตรงนั้นเเล้ว

    ด้วยครูทั้งเจ็ดนั้นประกอบด้วยความสว่างรุ่งเรือง เป็นผู้ประคับประคองโลกและสรรพสัตว์ทั้งปวงในวัฏจักรนี้ ได้ชื่อว่าคุ้มครองคนจากความทุกข์ให้ความปลอดภัยและช่วยให้คนพ้นจากบาปทั้งมวล มีอำนาจเป็นอิสระไร้ขอบเขตหรืออำนาจใดมาขวางกั้นแม้กระทั่งอำนาจของพระเป็นเจ้า ท่านเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์คือกล่าวอะไรหรือให้พรแก่ใครต้องเป็นไปดั่งปากเหมือนพระผู้เป็นเจ้าทั้ง 3 ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างและขอให้ครูทั้งเจ็ดนี้ช่วยปลดปล่อยผู้ที่เคารพพ้นจากบาปของเขาตามขอบเขตอำนาจอันยิ่งใหญ่ของบรมครูสัปตะมหาฤาษี ท่านว่าให้ใช้อาราธนาไปเรื่อยๆจะเห็นจะรู้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับตัวของเราเอง ด้วยคำพรของครูทั้งเจ็ดก็ถือได้ว่าเป็นยอดแห่งคำอวยพรที่มีศักดิ์และสิทธิ์อันประเสริฐกว่าเทพยดาทั้งหลายด้วยเช่นกัน กล่าวได้ว่าแม้ใครได้สักการะบูชาด้วยใจศรัทธาและอ่อนน้อมถ่อมตน ท่านก็จะดีด้วยอย่างถึงที่สุดแบบเรียกว่าเวลาดีก็จะดีใจหาย ประสิทธิประสาทพรอันจำเป็นต่อเหตุการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตครอบคลุมถ้วนทั่ว ซ้ำยังคุ้มเกรงให้ปัจจามิตรที่คิดร้ายมอดดับถึงคราพินาศราพณาสูร ท่านว่าครูสัปตะมหาฤาษีนี้เวลาเชิญมานั้นหากเป็นเรื่องช่วยคนท่านจะยินดีมาก หากใครมีตาในจะรู้ได้ว่าท่านเมตตากับผู้ศรัทธามากเพียงใดท่านใจดีๆสุดเหมือนคุณปู่คุณตาร่วมสายตระกูลนั้นห่วงใยลูกหลานอันเป็นเชื้อสายของท่านนั่นทีเดียว ด้วยญาณทัศนะของท่านที่พึงรู้ว่ากรรมของสัตว์ใดจะดำเนินไปในรูปแบบใดท่านจะแก้ไขวาระกรรมนั้นให้โลดแล่นและได้ดีเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตครอบคลุมเหตุการณ์ทั้งปัจจุบันแลอนาคต ด้วยครูสัปตะมหาฤาษีนี้ปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำขึ้นเลยเหตุด้วยว่าแรงครูสูงและเมื่อจะทำนั้นจะทำเล่นๆตามแต่อารมณ์มิได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านพูดแบบตรงๆนะ หนนี้เราไม่ได้ทำเอาสวยหรือปราณีตใดๆเลย แต่เราทำแบบโบราณที่เอาขลังและพลังงานศักดิ์สิทธิ์เข้าว่า

    ด้วยท่านใช้เวทย์สวรรค์ลงมนต์กูโบ๊สด้วยวิชาเปิดพลังจักรวาลในผงวิชาที่ท่านเตรียมไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าการเปิดพลังงานจักรวาลและดึงเข้าเครื่องมงคลนี้ จะเป็นแหล่งพลังงานอันอนันต์ตลอดไปให้กับวัตถุธาตุก่อนนำมาขึ้นรูปเป็นสัปตะมหาฤาษี ทำไมต้องเปิดพลังงานจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านว่าการเปิดพลังงานจักรวาลนั้นคือเปิดพลังงานแห่งการเคลื่อนไหว พลังงานที่ให้กำเนิดชีวิต มหาธาตุ และสสารต่างๆ เป็นพลังงานที่จะผลักดันและดำเนินเรื่องราวต่างๆให้เป็นไปในแบบที่ควรจะเป็น พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารตามที่ครูให้หามาเข้ากับผงวิชาที่ท่านลบถมไว้ได้แก่ ดินขุยปู,ดินกลางโบสถ์,ดินกลางฐานพระประธาน,ดินกลางนา,ดินกลางหนอง,ดินรังชันโรงใต้ดิน,ดินหน้าตะโพนผสมเข้ากับผงโองการพินธุฤาษี,ผงหัวใจยอดฤาษี,ผงฤาษีพรหมปราบไตรจักร,ผงฤาษีพรหมเตล็ดไตรจักร,ผงฤาษีแปลงรูป,ผงฤาษีแปลงสาสน์,ผงนารายณ์กลึงจักร,ผงนารายณ์เกลื่อนสมุทร,ผงนารายณ์ตวาดป่าหิมพานต์,ผงนารายณ์ขว้างจักร,ผงนารายณ์ทรงเมือง,ผงนารายณ์พลิกแผ่นดิน,ผงนาราย์ถอดรูป,ผงนารายณ์แปลงรูป,ผงนารายณ์บันลือสีหนาท,ผงเทพนิมิตร,ผงเทพชุมนุม,ผงสะเดาะเคราะห์,ผงมงกุฏพระเจ้า,ผงชฎาพระพรหม,ผงคุ้มดวงชะตา,ผงวิชาเสริมดวง,ผงกำจัดอุปสรรค,ผงต์กันแก้กระทำย่ำยี,ผงมหาจักรพรรดิ์,ผงดับโทสะ,ผงดับทิฐิ,ผงดับโมหะ,ทรายเงินทรายทองกลางถ้ำ,ผงรากรักหันทิศตะวันออก,เครือรัก,เครือหลง,เครือให้,กาฝากรัก,กาฝากมะรุม,กาฝากมะยม,กาฝากกาหลง,ว่านกินเงิน,ว่านกินทอง,ว่านกินกระดาษ,ว่านกินเหล็ก.. ผงต่างๆที่กล่าวมาแต่ละชนิดมีอุปเท่ห์การใช้และวิธีการลบถมที่แตกต่างกันไป ทั้งว่านยาต่างๆบางชนิดก็มีศักดิ์สูง มีชีวิต ต้องเลี้ยงดูตามพิธีกรรมว่านจึงจะให้คุณแก่เจ้าของบางชนิดก็รู้วิธีหากินเองสามารถหาเงินทองและสิริมงคลมาให้เจ้าของได้ ท่านว่าบางอย่างกว่าจะกลายมาเป็นผงว่านนั้นต้องพลีต้องให้เขากินให้อิ่มเลี้ยงสิ่งที่ชอบเสียก่อน

    ด้านหลังท่านฝังของวิเศษไว้
    - ตะกรุดครูลงหัวใจสังวาลพระอินทร์ ตะกรุดชุดพิศดารที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าต่อให้เราตาย ก็ทำไว้ได้ไม่ครบ100เส้นเป็นอมตะวาจาที่พ่ออาจารย์กล่าวถึงตะกรุดชนิดนี้ ครั้งนี้ท่านได้ลงหัวใจวิชาครูไว้เพื่อใช้กับสัปตะมหาฤาษีโดยเฉพาะ ด้วยปกติตะกรุดครูชุดนี้ถือเป็นของที่ทำยากออกยากต้องรองานเทศกาลสำคัญๆซักครั้งหนึ่งพ่ออาจารย์ถึงจะทำมาซักเส้นหนึ่ง(ไม่ใช่ทุกงานเทศกาล) ท่านว่าทำยากลงยากฤกษ์มีน้อยเเต่ตะกรุดที่จะต้องลงให้ครบมีมาก จะไม่ให้มากได้อย่างไรตั้ง26ดอกเข้าไปแบบนั้นพ่ออาจารย์ลงเองกับมือทุกขั้นตอน ตะกรุดนี้ถามว่าทำยากขนาดนั้นเเล้วมันดีอย่างไร พ่ออาจารย์อธิบายไว้ว่าดีครอบจักรวาลเเล้วเเต่จะอธิษฐานใช้เหมือนสังวาลย์แก้วพระอินทร์สังวาลย์เพชรพระอิศวร ให้ใส่พานไว้บูชาคู่บ้านก็ได้ ไปไหนพกพาอาราธนาไปด้วยก็ได้ท่านว่าตะกรุดนี้คุ้มครองเรารวมไปถึงคนรอบข้างได้นับเเสนคนตำราเขาบอกไว้แบบนั้น เเต่ไม่จำเป็นต้องใส่ให้หนักเนื้อหนักตัว นำมาใส่เวลาสวดมนต์ไหว้พระก็ได้ เวลาทำสมาธิสวมเทพสังวาลย์นี้ภาวนาธาตุทั้ง4นะมะพะธะก็ได้กันอาวุธมีดปืนต่างๆ อยู่ที่ไหนเทวดาก็รักษา อะไรที่ไม่เกินกรรมเเก้ได้หมด หยุดเคราะห์ภัยได้ท่านว่าครอบจักรวาล มีไว้จุดไหนภูติผีปีศาจไม่กล้ารังควาญ หากถอดสวมใส่ผู้ที่ถูกคุณถูกของท่านว่าได้ผลนัก ด้วยเป็นตะกรุดที่ทำยากท่านจึงลงชุดหัวใจไว้ฝังยอดฤาษีบรมครูนี้ ท่านว่าคนที่ไม่เคยมีชุดสังวาลย์พระอินทร์ก็ใช้ได้เหมือนกัน
    - หุ่นแบกภาระเทพอสูรราวัณยกเขาไกรลาสพระศิวะบรรทม พ่ออาจารย์ท่านว่าราวัณก็คือทศกัณฐ์นั่นเอง แม้ราวัณจะเป็นเทพอสูรแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกของพระศิวะ เป็นเจ้าแห่งเผ่าพันพ์อสูรมีอำนาจเหนือท้าวเวสสุวรรณผู้เป็นพี่ชายต่างมารดา นอกจากเป็นยักษ์ที่เจ้าชู้มีสนมบริวารมากมายตั้งแต่ใต้บาดาลยันบนสรวงสวรรค์แล้วยังเป็นยักษ์ที่ฆ่าไม่ตายเพราะได้ฝากดวงใจไว้กับฤาษีผู้เป็นอาจารย์อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำหุ่นวิชาขึ้นตามที่ครูพระสยมบัญชาให้ทำเก็บไว้เพื่อให้คนที่มีภาระหนักเป็นพิเศษได้ใช้ ท่านว่าราวัณนั้นสามารถยกเขาไกรลาสพระศิวะบรรทมอันไม่มีใครกล้ายกให้ตั้งตรงได้ แม้ว่าจะเป็นเทพเทวดาหรือทุกสรรพชีวิตก็ยังขยาดในกำลังของของราวัณเมื่อเที่ยงตรงในคุณของพระเป็นเจ้ายามนั้น เวลานั้นคือเวลาที่ราวัณมีฤทธิ์สูงสุดอย่างแท้จริงก่อนที่จะตกลงสู่อหังการครอบงำ..การยกเขาไกรลาสที่ไม่มีใครทำได้ถือว่าได้รับความสำเร็จยิ่งใหญ่มีเกียรติก้องไปทั้งสามภพ ทั้งเสร็จงานยังได้ของสมณาคุณแทนคุณเป็นบำเหน็จความชอบหลังจากลงแรงลงความเหนื่อยอย่างยิ่งใหญ่สูงสุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะกล้าขอนั่นคือได้พระอุมาเป็นรางวัล(ในภายหลังต้องช้อนพระบาททูนหัวกลับมาคืนพระศิวะเปลี่ยนเป็นมณโฑเพราะแค่เข้าใกล้พระอุมาก็ร้อนเหมือนโดนไฟเผา) ครูพระสยมท่านจึงตั้งใจให้สร้างหุ่นตอนราวัณรุ่งเรืองสูงสุดมีฤทธิ์สูงสุดกำลังแบกเขาไกรลาสนี้ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องรางเฉพาะที่จะช่วยให้ผู้ที่มีภาระหนักบนบ่าทั้งหลาย สามารถทำงานยิ่งใหญ่ได้สำเร็จง่ายๆในเวลาไม่ช้านาน แม้งานและภาระนั้นจะหนักดุจเขาไกรลาสที่ทรุดเอียงลงไปแล้วหาใครมากู้เพื่อให้เป็นเกียรติยศสืบไปมิได้ ก็ยังแบกยังชะลอขึ้นให้ตั้งตรงได้ทำให้ปรากฏเกียรติยศก้องกำจายออกไปจากงานที่ได้ลงแรงกระทำทุกสิ่ง ตลอดจนได้บำเหน็จได้รางวัลที่ดีที่สุดของชีวิตจากงานที่ตัวเองได้ทำไว้ ท่านว่าหุ่นแบกภาระนี้มีอาถรรพ์มาก...ให้คุณมาก ยิ่งใครภาระเยอะก็ยิ่งมีเกียรติ ยิ่งใครมีภาระมากก็ยิ่งมีรางวัลมีบำเหน็จชีวิตมากเป็นเงาตามตัว ***ท่านว่าวิชานี้ลองติดตัวไว้เถิดคนที่มีภาระทั้งหลายมากๆจะปลดออกง่ายดุจจับวางทั้งภาระที่ว่าหนักว่าตึงมือเรายังเบาดุจปุยนุ่นยกออกได้ไม่ยากเลย

    คาถาบูชา
    โอม ตะวะเมวะมาตา จะบิตา ตะวะเมวะ ตะวะเมวะพันธุศจะ สะขา ตะวะเมวะ ตะวะเมวะวิทะยา ทรวิณัม ตะวะเมวะ ตะวะเมวะสรวัม มะมะ เทวะ เทวะ ..โอม สะระเวโภย ฤาษีโภย นะมัส


    *** พระผงสัปตะมหาฤาษีนั้นพ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นมาเป็นชุด โดยหนึ่งชุดจะมีสององค์มวลสารเดียวหัน องค์หนึ่งเป็นองค์ครูฝังพิเศษส่วนอีกองค์เป้นองค์ลูกไม่ได้ฝังสิ่งใด ท่านว่าจะแถมให้ไปพร้อมกัน ท่านสร้างไว้ทั้งหมดห้าชุด รายการนี้ท่านว่ามีแรงครูสูงมาก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลตลอดจนเรื่องที่อยากบอกกล่าวครูทั้งเจ็ดเป็นพิเศษไว้ด้วย ท่านจะมนต์บอกกล่าวครูสัปตะมหาฤาษีและเจิมประสิทธิ์แรงครูให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนอาหารกลางวันเด็กขาดโอกาสทางการศึกษาสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงพึ่งบารมีครูปฐมพรหมโยคีสัปตะมหาฤาษี(ตะกรุดสังวาลย์พระอินทร์,หุ่นราวัณแบกภาระ) บูชา 4,000 บาท


    70504673-327138841418551-7019673692221210624-n.jpg 71964482-458957774830062-86515416028938240-n.jpg
    [​IMG]
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อโคตรเจ้าสัวมนต์เศรษฐีกำเนิดทรัพย์ดับภัยอภิสังขาร(ทำลายสิ่งรบกวนลาภสักการะ)

    พระเจ้าสัวชุดนี้พิเศษอย่างไร
    เพราะท่านเน้นแก้ปัญหาการเงิน การงาน การค้า วิบากกรรมหนัก วิกฤตชีวิตการเงิน หนี้สินที่รุมเร้า ทั้งยังรวมไปถึงเรื่องคนไม่รักใคร่ ไม่เมตตา ไม่ซื่อสัตย์ ทำมาหากินไม่ขึ้น... นอกจากนั้นท่านว่าทำพระเจ้าสัวแล้วยังต้องทำให้เก่งมากนั่นคือดับเคราะห์เขาได้ จะสะเดาะเคราะห์วิบากกรรมชีวิต ให้รับโชค เรียกลาภ เปิดดวงโภคทรัพย์ การงานการเงินเพื่อให้โอกาสผู้ห้อยได้อาราธนาสร้างฐานบุญบารมีของตนให้เข้มแข็ง เสริมดวงชะตาราศีให้ผ่องแผ้วทั้งภายนอกภายในให้โชคดีมีโชคลาภทั้งอธิษฐานใช้สะเดาะห์เคราะห์ดับกรรมทั้งปวงด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ เมื่อท่านตั้งใจจะสร้างพระไว้ใช้เองพร้อมกับให้คนที่มีบุญร่วมชาติทั้งหลายได้อาราธนาเอาไว้เปิดวาสนาของตน ท่านจึงได้รับนิมิตจากเสด็จพระใหญ่ให้ทำพระเจ้าสัวที่เน้นใช้งานทางด้านดับทุกข์,ดับภัยทั้งหลายในกายสังขาร ท่านว่าชีวิตนี้ถ้าไม่มีภัยไร้ทุกข์เหตุที่จะทำให้เสียทรัพย์นั้นย่อมไม่เกิดขึ้นเลย เราจึงต้องระงับไว้เสียจากภายใน เพื่อความปลอดภัยอย่างมั่นคงที่สุด
    พระเจ้าสัวนี้ถ้าตกอยู่กับผู้ใดเมื่อดับภัยในอภิสังขารแล้วจะทำให้ก้าวหน้ามหาศาล ทั้งความเป็นอยู่การงานจะเจริญโอฬารเฟื่องฟู เมื่อจะทำพระเจ้าสัวชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เพิ่มเติมชนวนมวลสารตามบัญชาของเสด็จพระใหญ่ โดยท่านได้หาตะกั่วอวนร่างแหร้างที่ทิ้งอยู่ชายหาดและต้องมีปลาเข้ามาติดเพื่อเอาเคล็ดว่าคนใช้แม้อยู่เฉยๆไม่ต้องลงแรงก็มีมาหามาให้ถึงที่ จะดึงดูดดักจับทรัพย์ได้ทั้งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ดี ท่านว่าตะกั่วอวนนี้เป็นอาถรรพ์เบื้องต้นนำมาประสระเป่ามนต์หัวใจเศรษฐีร้อยแปดคาบในราชาฤกษ์ ท่านว่าจะได้เป็นใหญ่เป็นโตมีชีวิตการงานที่มั่นคงเป็นเศรษฐีได้อย่างมั่นคงไร้คู่แข่ง ไร้คู่เปรียบ ทางด้านทำมาหากินนั้นใครก็ชนะเราไม่ได้ ท่านเลือกทำในวันอังคารเพราะถือเป็นวันแข็งเพื่อให้เอาชัยได้ทุกคน ดุจว่าเรานั้นต้องรวยคนเดียวเป็นใหญ่ผู้เดียว ทั้งจะชนะอุปสรรคขัดขวางทุกทิศทาง จากนั้นจึงนำอวนอาถรรพ์ไปหลอมรีดแล้วนำกลับมาลงยันต์อาถรรพ์อีกสี่ชุด

    - กำเนิดทรัพย์ ท่านว่าวิชานี้ปกติจะใช้เรียกความมั่งคั่งเปลี่ยนคนธรรมดาแม้จะเป็นขอทานยากไร้หากรู้จักทำกินยังกลายเป็นเศรษฐีมหาศาลได้ จะทำให้เกิดลาภสักการะมากมายไม่มีวันรู้สูญรู้สิ้น แม้คนที่เคยดวงตกหรือทำมาหากินไม่ขึ้น ลงทุนแล้วขาดทุน หมดเดือนชนเดือนไม่เห็นกำไรเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนพลิกกลับให้วาสนาเงินทองหลั่งไหลทำอะไรก็เห็นกำไร สำเร็จโดยง่าย วิชานี้คือกำเนิดทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอทรัพย์กำเนิดทุกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตาม คนที่มีหนี้จะหมดหนี้ คนโสดจะได้คู่ คนที่อยู่ใต้บัญชาผู้อื่นเจ้านายก็จะรักเมตตา คนที่แสวงหาลาภจะได้ลาภ คนที่ไร้ยศจะได้ยศ คนที่ไร้ตำแหน่งจะได้เลื่อนตำแหน่ง ท่านว่ามันกำเนิดเกิดขึ้นทีละอย่างเป็นวงจรวนไปเช่นนี้
    - หนุนทรัพย์ ท่านว่าหนุนทรัพย์ก็เหมือนหนุนดวง แต่เป็นดวงทางด้านทรัพย์สินเฉพาะเจาะจง เป็นวิชาที่ใช้หนุนทางด้านการเงินโดยเฉพาะ หนุนให้รับโชคก่อนใคร ให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเงินไม่คล่องตัวหรือการงานไม่ราบรื่น ติดขัดเหล่านี้หนุนให้ฝ่าวิกฤติปัญหาต่างๆได้ ท่านว่าหนุนทรัพย์นี้จะชูดวงเราขึ้นเพื่อเรียกลาภโดยเฉพาะ แม้คนที่เงินขาดมือก็หนุนให้เต็มมือหยิบจับอะไรก็กลายเป็นเรื่องเงินๆทองๆไปหมด หนุนโอกาสให้เราได้รับไวขึ้น...
    - เปิดทางรวย วิชานี้ท่านว่าอาศัยอำนาจเทวดาเข้าหนุนให้เทวดารักผีสงสารเจ้าที่เจ้าทางเมตตา อยู่ที่ไหนเขาก็เอ็นดูเปิดทางให้เราให้ลาภให้โชคให้มีกินมีใช้ไม่ขาด แม้คนก็เมตตาอุปถัมภ์ค้ำชูเราให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เปิดทางรวยให้เราเห็นช่องทาง ชี้ทาง นำทางเราไปสู่หนทางแห่งความเจริญรุ่งเรือง
    - ข่มศัตรู วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใส่ไว้เพราะคนใช้เจ้าสัวนั้นถ้าไปเจอคนดีคนที่เขาเก่งกว่าเราแล้วโดนเขาข่มมันก็จะแย่ ด้วยการทำมาหากินต้องเอาชนะคู่แข่งได้ ปราบศัตรูและสะกดข่มเขาได้เพียงแค่เห็นก็เกรงใจหลีกทางให้เรา เห็นเราแล้วก็ไม่อยากสู้ไม่อยากแข่งด้วย ท่านว่าเป็นวิชาสะกดคนให้อยู่ในอำนาจเรา เราพูดอะไรเขาก็เชื่อทำตามเราทุกอย่าง ยิ่งใครที่โดนบ่นโดนด่าว่าอยู่บ่อยๆ หรือใครที่พูดอะไรแล้วไม่มีคนเชื่อเหล่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แก้ทางกัน พอข่มเขาแล้วทำอะไรไปเขาก็เชื่อเรา ฟังเรา ยอมรับเราทั้งสิ้น เปลี่ยนคนที่เคยดุเคยเกลียดเป็นดาวข่มให้อยู่ใต้อำนาจเราเป็นมิตรกับเรา

    พ่ออาจารย์ท่านนำชนวนพิเศษชุดนี้มาเข้ากับชนวนตำรับทำพระเจ้าสัวที่เตรียมไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างพระเจ้าสัวนั้นเป็นเรื่องของเศรษฐี พูดกันง่ายๆก็คือพระที่ทำให้คนเป็นเจ้าสัวหรือเศรษฐีนั่นเอง แล้วพระจะทำให้คนเป็นเศรษฐีได้อย่างไร ตรงนี้ท่านว่ามันมีความหมายโดยนัยน์อยู่ลึกๆเกินกว่าที่คนจะเข้าใจได้ไปมากนัก แต่เมื่อท่านพิจารณาและอาราธนาเสด็จพระใหญ่แล้ว เมื่อพระพุทธเจ้าองค์ปฐมรับอาราธนาสร้างพระเจ้าสัวทั้งที ก็แปลว่าพระนี้ย่อมมีอานุภาพสร้างคนได้ นั่นคือสร้างคนให้เป็นเจ้าสัวได้ พ่ออาจารย์ท่านบอกไว้ตั้งแต่สมัยนั้นเลยว่าเจ้าสัวหล่อโบราณของเรานี้คนรับจะต้องเป็นเจ้าสัวทุกคนนะ แต่จะรวยมาก รวยน้อย ยังไงก็แล้วแต่มันต่างกันอยู่ตรงที่วาสนา แต่เอาว่าต้องรวย พ่ออาจารย์ท่านทำด้วยเจตนาที่ตั้งใจช่วยผู้ศรัทธาให้ลืมตาอ้าปากได้ แต่การสร้างพระเจ้าสัวที่จะใช้เปิดชะตาวาสนาคนนั้น ก็ยากมากเช่นกันเพราะท่านว่าที่เราเรียนมานั้นมันต้องใช้ชนวนอาถรรพ์ตำรับของเราจริงๆ เป็นชนวนที่จะสร้างคน เปลี่ยนคนจากยากจนให้เป็นเศรษฐี
    ท่านดำริว่าการสร้างพระเจ้าสัวนั้น
    จะต้องมีเชื้อ มีชาติ มีสัญญา มีอานุภาพที่เป็นของเจ้าสัวจริงๆ โดยตำราของท่านว่าจะทำของแรงๆที่มีอานุภาพเปลี่ยนคนสร้างคนได้ก็ต้องใช้ตะกั่วพันโกฏิของเจ้าสัวโบราณมาทำ ท่านว่าเรารวบรวมไว้ เอาแค่โกฏิเค้ามาเป็นสื่อเป็นชนวนให้ตรงตามตำราเท่านั้นไม่ได้มีกระดูกหรือมวลสารอาถรรพ์ใดๆ ท่านว่าลำพังโกฏินี่ก็อาถรรพ์มากพอแล้ว กว่าจะเจรจาจนได้มาต้องหาโกฏิใหม่ไปเปลี่ยนให้เค้า ซึ่งเศรษฐีทั้งเก้านี้ท่านว่าได้แก่
    - เศรษฐีคุณพระ เป็นถึงท่านเจ้าคุณมีทรัพย์สินและบริวารมาก คนใช้จะเจริญด้วยยศศักดิ์
    - เศรษฐีที่ดิน เป็นเจ้าของที่ดินมหาศาล คนใช้จะได้มีที่ดินทำกินมีบ้านช่องเป็นของตัวเอง
    - เศรษฐีพ่อค้าทอง เป็นเจ้าของร้านทองชื่อดัง ท่านว่าคนใช้จะได้จับเงินทองไม่ขาดมือทำมาหากินอะไรก็ซื้อง่ายขายคล่อง
    - เศรษฐีสวนส้ม สมัยก่อนใครมีสวนส้มยิ่งทำเป็นกิจการใหญ่โตส่งออกถือว่ารวย ท่านว่าคนใช้นั้นจะได้มีทรัพย์ ทรัพย์ที่มีจะได้ออกดอกออกผล
    - เศรษฐีนายหน้า มีวาสนาได้ด้วยการพูดจาติดต่อประสานงาน ท่านว่าจะได้เปิดและเพิ่มวาสนาคนใช้ให้ติดต่อสื่อสารเจรจางานใดๆก็สำเร็จร่ำรวย
    - เศรษฐีเจ้าปัญญา เป็นชีวิตที่เรียนเก่ง ได้ดีเพราะมีปัญญามาก สอบได้เป็นอันดับแรกของจังหวัด กลายเป็นเศรษฐีเพราะวาสนาบวกกับสติปัญญาที่สูงส่งเกินมนุษย์ ท่านว่าคนใช้จะได้มีปัญญา รู้ทันคำพูดและความคิดฉลาดหลักแหลม
    - เศรษฐีโรงบ่อน เป็นเจ้าของบ่อนพนันท่านว่าคนผู้นี้มีอำนาจ วาสนา บารมีครบถ้วน การจะเป็นเจ้าของบ่อนที่ท้าทายอำนาจรัฐได้ย่อมไม่ธรรมดา ท่านว่าคนใช้จะได้มีบารมีมากเช่นเดียวกัน
    - เศรษฐีเจ้าสำราญ เป็นคนที่ได้ดีเพราะแต่งเมีย เหมือนหนูตกถังข้าวสาร อยู่เฉยๆโชคลาภ ทรัพย์สิน ศฤงคาร ความสุขทุกประการก็มากองอยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องหาต้องลงแรงทำอะไร ท่านว่าคนใช้จะได้สะดวกสบายทำอะไรลื่นไหล ได้ลาภได้ทรัพย์กันง่ายๆ
    - เศรษฐีเหมืองแร่ แร่ธาตุทั้งหลายเป็นทรัพย์ในดินเป็นสิ่งที่เกิดที่งอกเงยตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้มีในดินทุกที่ การเป็นเศรษฐีเป็นเจ้าสัวเพราะทรัพย์สินที่เกิดที่งอกขึ้นเองในที่ดินตนนับว่าเป็นวาสนาแต่เดิม ท่านว่าทำอะไรจะได้งอกเงยและทรัพย์จะเกิดขึ้นได้เอง
    พระเจ้าสัวก็ต้องเกิดจากบารมีอันสั่งสมไว้นับชาติไม่ถ้วนของเหล่าเจ้าสัว จึงจะสำเร็จเป็นเจ้าสัวจริงๆ โดยท่านนำตะกั่วโกฏิเหล่านั้นมาหลอมรีดไล่เอาตะกันออกจนบริสุทธิ์ ก่อนจะนำมาลงถมด้วยยันต์สำคัญต่างๆดังนี้ ดวงประสูติ,ดวงตรัสรู้,ดวงปรินิพพาน,ยันต์พระพุทธเจ้าถอดรูป,ยันต์พระพุทธเจ้าแปลงรูป,ยันต์พระพุทธเจ้าแบ่งภาค,ยันต์พระพุทธเจ้าเปล่งรัศมี,ยันต์พระพุทธคุณ108,ยันต์มหาจักรพรรดิ,ยันต์รัตนมาล,ยันต์มหาปราบ,ยันต์มหาระงับ,ยันต์คู่ชีวิต,ยันต์ตารางเพชร,ยันต์เฉลียวเพชร,ยันต์เกราะเพชร...พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้ถึงจะเป็นพระเจ้าสัวโดยแท้จริง ทั้งองค์พระที่เป็นเจ้าสัว เกิดจากมวลสารที่มีชีวิตและบารมีเก่าของเจ้าสัว ท่านว่าทุกอย่างตั้งแต่ปั้นหุ่นเทียนทำบล้อก เสกชวนวมวลสาร การลงถม เททอง ปลุกเสก เบิกเนตรทุกอย่างทำในฤกษ์มหาเศรษฐีทั้งนั้นไม่ว่าจะเศรษฐีโยค ภูมิปาโลฤกษ์ เทวีฤกษ์ ไม่มีฤกษ์เสียหรืออวมงคลใดๆเลย ท่านว่าฤกษ์นี้สำคัญมาก นั่นก็เพราะจะทำให้เครื่องมงคลที่คนเอาไปถือเอาไปใช้มีปาฏิหาริย์มากตามไปด้วย ยิ่งท่านหล่อด้วยไฟเตโชกสิณพระนั้นจึงมีอิทธิฤทธิ์มากเป็นเงาตามตัว ด้วยเจ้าสัวสำคัญชุดนี้ ท่านฝังตะกรุดชุดพิเศษลงไปด้วย


    ตะกรุดพลิกฟ้าหนุนดวงโคตรเศรษฐีชุดดับภัยอภิสังขาร(ทำลายสิ่งรบกวนลาภสักการะ)
    ### ตะกรุดจิ๋วนี้แต่ละดอกสำคัญอย่างไร ด้วยพ่ออาจารย์ท่านต้องใช้ความเพียรพยายามแลอุตสาหะอย่างยิ่ง ท่านว่าเห็นดอกเล็กๆนี้ทุกดอกล้วนแต่ต้องตีตารางบีบอักขระลงจารทั้งตัวขอมตัวเลขเรียกสูตรคาถากันเต็มสูตรกว่าจะได้ดอกหนึ่งต้องใช้สมาธิสูงมากเพราะอักขระจะวิบัติไปทับกระดูกยันต์ก็ไม่ได้ ทั้งตอนจารก็ต้องภาวนาแต่ละตัวให้จบพอดีกว่าจะได้ซักดอก กว่าจะได้ซักชุดหนึ่งนั้นไม่ง่ายเลย ยากกว่าและเหนื่อยกว่าทำซ้ำยังใช้พลังจิตดอกใหญ่หลายเท่า ต้องรอฤกษ์ยามอย่างดีถ้ามีฤกษ์ก็ทำได้แค่วันละชุด
    ### โคตรเศรษฐีจิ๋วนี้เน้นใช้งานทางดับภัยที่ทำให้ทรัพย์จาง ทรัพย์พร่องไร้วาสนาในทรัพย์สินเงินตรา ท่านว่าดับแม้ภัยที่จะเกิดกับเราทั้งบนบกในน้ำแลในอากาศ ดับภัยทั้งห้าอันจะเบียดเบียนทรัพย์เรา ดับทำลายสิ่งที่รบกวนวาสนาการเงินเรา รบกวนคลังสมบัติของเรามิให้เต็มมิให้เราได้มาซึ่งลาภสักการะโดยเฉพาะ ดับภัยในขันธ์ทั้งห้าอันได้แก่

    - ภัยรบกวนที่เกิดจากรูปขันธ์
    - ภัยรบกวนที่เกิดจากสัญญาขันธ์
    - ภัยรบกวนที่เกิดจากเวทนาขันธ์
    - ภัยรบกวนที่เกิดจากสังขารขันธ์
    - ภัยรบกวนที่เกิดจากวิญญาณขันธ์

    ทุกอย่างที่เป็นภัยและตามราวีรบกวนเราบั่นทอนชะตาสังขารท่านว่าดับทั้งสิ้นด้วยเกี่ยวเนื่องกับขันธ์ทั้งห้า นั่นย่อมหมายความว่าภัยนับแต่อดีตก็จะสงบระงับลงไปด้วย

    ### วิชาตะกรุดพลิกฟ้าหนุนดวงโคตรเศรษฐีมหาคฤหบดี ...ถ้าไม่ถึงกลียุค ไม่มีความจำเป็นอย่าได้สร้าง เป็นคำที่ครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาให้ท่านได้สั่งไว้เป็นการเฉพาะ โดยวิชานี้ท่านให้ใช้ช่วยคนเมื่อถึงคราวเคราะห์เเละได้รับทุกข์ร้อนแสนสาหัสจริงๆ ซึ่งวิชานี้มีดีอยู่สองด้านใหญ่ๆ ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ
    1. โชคลาภโภคทรัพย์แบบบุญหล่นทับ ช่วยดึงดูดสิ่งดีๆเเละเร่งบุญเเละวาสนามาสู่ตัวของเรา
    2. เสน่ห์เมตตาควบคู่กับเงินทอง ท่านว่าตะกรุดนี้อย่าไปแช่น้ำให้ใครกินเพียงแค่พกไว้ก็เป็นเมตตาแล้ว ตราบใดที่โลกนี้ยังมีลมอยู่ มนุษย์ยังต้องหายใจกันอยู่ กระแสลมนั้นพัดไปในทิศใดเขาก็รักเราเมตตาเราในทิศนั้น
    วิชานี้ด้วยต้นกำเนิดและมติเเห่งครูบาอาจารย์ได้สร้างให้ดำรงค์ไว้เพื่อสืบสานช่วยเหลือคน โดยใช้ความเป็นอริยบุคคลและบุญญาธิการอันหาผู้เสมอเหมือนมิได้ ของอัครมหาเศรษฐี 2 ท่าน แห่งพุทธกาล มาเกื้อหนุนดวงชะตาแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งก็คือ

    - ท่านเมณฑกเศรษฐี ซึ่งท่านเมณฑกเศรษฐีนี้ มีบุญญาธิการมากขนาดมีขุมทรัพย์แพะทองคำไว้ในครอบครองนับสิบตัว แต่ละตัวหนักเท่าม้าเท่าโค ประสงค์สิ่งใดก็ใช้ไหมแก้วสารพัดนึก เพียงเเค่นึกก็ดึงออกมาจากปากแพะได้ จะเพชรนิลจินดา ข้าวของเงินทองเสื้อผ้าเเพรพรรณทุกอย่าง ดึงได้ตลอดชีวิตดึงได้ไม่จำกัด ทำให้ท่านร่ำรวยมากเป็นมหาเศรษฐีของพระราชา ใครอยากได้อะไรมาขอท่านก็ดึงออกมาให้ ถามว่า รวยเเค่ไหน ท่านว่า เจ้าสัวสมัยนี้ยังทำแบบท่านไม่ได้ เพราะทรัพย์ท่านใช้ได้ไม่มีวันหมดเเละไม่มีวันพร่องอันเกิดเเต่บุญญาธิการของท่านนั่นเอง
    - ท่านโชติกะเศรษฐี ผู้มีบุญญาธิการมาก ได้ครอบครองสมบัติจักรพรรดิ์ ซ้ำยังใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์เฉกเช่นเทพเจ้า ด้วยของวิเศษคู่บุญบารมีแม้แต่กษัตริย์อย่างพระเจ้าอชาติศัตรูก็ไม่สามารถจะเเย่งชิงทรัพย์สมบัติของท่านไปได้ ใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันพร่อง อาศัยอยู่ในปราสาทแก้วรัตนที่พระอินทร์ลงมาเนรมิตรถวาย มีคู่ครองเป็นนางแก้วในอุตรกุรุทวีป บุญญาธิการของท่านนั้นไม่สามารถไล่เรียงได้หมด
    ครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้นหวงเเหนวิชาเหล่านี้มาก เพราะว่าสามารถบันดาลให้ผู้ใช้สำเร็จได้ไว รวยได้ไวเเบบบุญหล่นทับ ท่านเกรงว่าคนใช้จะขาดสติควบคุมตนเองไม่ได้เเล้วจะลืมตัว พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาเเล้วว่าวิชานี้เหมาะแก่การณ์แก่ยุคสมัยที่จะทำตะกรุดนี้เพราะท่านอยากเห็นลูกหลานมั่นคงร่ำรวยกันถ้วนทุกคน การทำตะกรุดนี้ยุ่งยากในเรื่องของพระคาถาการเดินอักขระบังคับเเบบกลบท ลงมั่วไม่ได้ข้ามตอนไม่ได้ ก่อนหลังต่องแม่น คาถาต้องแม่น เเละที่ยากที่สุดคือการอธิษฐานจิตเสกให้ชีวิตเจริญขึ้นได้ดีร่ำรวยเเบบเดียวกับเมณฑกเศรษฐีและโชติกะเศรษฐี
    วิชานี้เเต่เดิมท่านไม่ทำเเละเวลาทำก็ต้องเลือกคนทำคนให้ ให้เค้าเอาไปใช้งานจริงๆ ให้เค้ามั่นใจจริงๆว่าตนเองจะไม่หลงลืมตัวเมื่อได้ดี ให้เค้าเอาไปสร้างเนื้อสร้างตัวแบบนั้น
    ในการเสกต้องเชิญบารมีของพระสีวลีมหาเถระ ท่านเมณฑกเศรษฐีและท่านโชติกะเศรษฐีมาลงมาโปรดโดยเฉพาะ ให้ท่านทั้งสามสงเคราะห์เอาบารมีท่านเป็นที่พึ่ง ให้ทั้งสามท่านทำให้เป็นคนๆช่วยเป็นคนๆ ถือเป็นตะกรุดที่ใช้ฝืนดวงตัดเคราะห์กรรมเก่าได้อย่างเเท้จริง ซึ่งตะกรุดนี้ทั้งยันต์และอักขระทุกสูตรทุกกลบทจะช่วยเสริมช่วยหนุนเราด้วยโชคลาภบุญพาวาสนาส่ง ให้ได้ดีลืมตาอ้าปากได้ เรื่องเสี่ยงโชคเรื่องลาภลอยเเบบฟลุ๊คๆก็ใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านสรุปให้ฟังว่าอะไรที่เกี่ยวกับชะตาวาสนาของเราใช้ได้ทั้งหมด ทำให้เราได้ดี ถ้าไม่มีคู่ครองก็ให้เจอนางแก้วเจอคู่ครองที่ดี ถ้าชีวิตยังไม่ดีก็ปรับแก้ให้ดีขึ้นไม่ต่ำลง

    ตะกรุดนีัคาถาไม่มี มีแต่วิธีใช้
    วิธีใช้นั้นท่านให้นำตะกรุดจบหัวระลึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่สุด มีพระสีวลี ท่านโชติกะเศรษฐี ท่านเมณฑกเศรษฐี ปรารถนาอะไรจะโชคลาภการงานหรือนางแก้วก็ให้สร้างมโนภาพตั้งความปรารถนาของเราเอาไว้ ขอเอาจากท่านโดยตรงอยากขออะไรขอได้ทุกอย่างอย่าให้ผิดศีลธรรมและเกินวาระกรรมของตนเอง ขอให้ท่านเมณฑกชักลากจากปากแพะทองคำออกมาให้ ขอให้ท่านโชติกะประทานขุมทรัพย์ที่ไม่มีวันพร่องของท่านมาให้เเก่เรา
    ตะกรุดนี้หนุนชีวิตของผู้บูชาอาศัยวิชาของมหาเศรษฐีในตำนานทั้งสองท่านที่ร่ำรวยมาก ให้ผลมาก มาสงเคราะห์ตัวของเราโดยตรง แม้เเต่มหาราชายังอิจฉาปรารถนาจะครอบครองทรัพย์สมบัติของท่านร่ำรวยขนาดไหนก็คิดดูเอาเองเเล้วกัน
    การที่ใช้วิชาเเละเชิญมหาเศรษฐีทั้งสองท่านนี้มาช่วยด้วยกระเเสแห่งวิปัสสนาญาณและความเป็นอริยบุคคลของท่านทั้งสอง เมื่อท่านเหยียบดวงเราช่วยเหลือค้ำชูเราจึงปิดตายหนทางตกต่ำ ทำการงานไม่ขึ้น ให้ผลิดอกออกผลงอกเงยเบบเจาะจงเรียงหัวเรียงตัว พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดนี้เน้นให้ใช้เห็นผลให้ตรงและไว ด้วยท่านเสกคลุกในผงนะปถมังต่างๆที่เน้นทางงอกงามเจริญรุ่งเรืองช่วยเร่งให้ผลิดอกออกผลงอกเงยไวกว่าปกติ เป็นการเสริมอานุภาพของดวงเราของพระยันต์ที่สงเคราะห์ดวงเราให้ทวีสูงขึ้นไปอีก

    การลงตะกรุดนั้นมีความลำบากนับทวีเพราะท่านต้องใช้สมาธิหนักเเละกระเเสจิตมากกว่าปกติเนื่องจากท่านบีบให้เล็กลงที่สุดเพื่อให้ศิษย์ได้บูชากันจริงๆ ท่านว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ท่านก็ทำให้เกิดขึ้นเเล้ว ต่อไปชีวิตคนที่เขาใช้ต่อให้เจอเรื่องยากก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ผ่านไปได้อย่างไม่ขุ่นข้องหมองใจ การลงนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่ท่านทำให้เพราะจิตใจท่านอยู่บนพื้นฐานของความเมตตาเป็นเหตุ เพียงเฉพาะยันต์เเละวิชานั้นก็เป็นเสน่ห์เมตตาแก่ผู้ครอบครองแล้ว ทั้งยังเพิ่มเจตนาและความตั้งใจของท่านผู้สร้างลงไปอีกที่เวลาลง มีเจตนาลงด้วยพื้นฐานแห่งความเมตตาเเละความตั้งใจจริงที่จะทำของดีไว้ให้ได้ใช้กัน จึงถือว่าเป็นคติกลเเละอุปเท่ห์แห่งเมตตาแฝงไว้ในตะกรุดอีกชั้นเพื่อเสริมและรองรับกระเเสจิตเเละความปรารถนาดีจากทิพย์กายที่มาสำเร็จตะกรุดชุดนี้ กล้ากล่าวได้เลยว่ายุคสมัยนี้จะหาครูบาอาจารย์มานั่งลงตะกรุดดอกเล็กๆ จิ๋วๆ เองกับมือให้เต็มสูตรซึ่งจำเป็นต้องใช้ปราณและพลังใจความตั้งใจมากกว่าปกตินั้น แทบจะไม่ต้องหากันเเล้ว

    คาถาบูชาองค์พระ
    นะมามีมามหาลาภา นะสะมานิลาโภ เมตตามามา นะหะปาลิหิโภคัง เมตตาลาโภ นิโสธะยะ


    ### พระเจ้าสัวชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่ทำมาหากินไม่ขึ้น ให้อาราธนาพระแล้วจุดธูปบอกกล่าวกับแม่พระธรณีและครูบาอาจารย์ได้เลย เสด็จพระใหญ่ท่านฝากพระธรณีเอาไว้แล้ว อาศัยเหตุปัจจัยว่าตราบใดที่เรายังเหยียบดิน ทำมาหากินอยู่บนแผ่นดิน อาศัยกำลังแม่พระธรณีเกื้อหนุนชีวิตเราอยู่ ตราบนั้นก็ขอกำลังแม่พระธรณีมาหนุนชะตาให้เราทำมาค้าขึ้นเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองได้ ท่านว่าเจ้าสัวนี้อยู่ที่ไหนทรัพย์สินจะเพิ่มพูนไม่มีวันหมดดุจทรัพย์ในแผ่นดินที่ประมาณค่าไม่ได้เช่นนั้น

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระเจ้าสัวชุดโคตรเศรษฐีนี้ไว้หกองค์ ท่านอาราธนาเองหนึ่งองค์จึงมีให้ร่วมบูชาเพียงห้าองค์ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะสวดบูชาดวงชะตาและมนต์วิชาหนุนดวงให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กที่ขาดโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อโคตรเจ้าสัวมนต์เศรษฐีกำเนิดทรัพย์ดับภัยอภิสังขาร(ทำลายสิ่งรบกวนลาภสักการะ) บูชา 4,000 บาท

    71118941-806388546426178-4249285602932948992-n.jpg 70762857-617129438814268-6826898556201205760-n.jpg
    71276143-2644635708922608-8090465968905519104-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเทพสงครามพระมุรุกันไตรโลกาธิบดีลงถมตะกั่วกรุศรีสวัสดิ์(เทวะเสนา)
    จากเทพเจ้าในอุดมคติ..ที่เหล่านางฟ้าปรารถนาอยากจะได้ครองคู่มากที่สุด

    ด้วยต่อไปนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวาย ชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ทั้งหลายจะลำบากยากแค้น คนที่รวยและได้ดีก็จะดีขึ้นและดีไปเลย คนที่ยังจนก็จะก้มหน้ารับเศษกรรมต่อไป พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นวิกฤติที่จะพึงเกิด พึงมี ต่อไปในเบื้องหน้า จึงได้ปรารถนาที่จะนำศาสตร์และสรรพวิทยาสร้างเครื่องมงคลขึ้นมา จนความปรารถนานั้น เข้าไปในข่ายพระกรุณาญาณแห่งพระศดาศิวะเทพ ท่านจึงมีโองการให้ทำพระรูปของสกันทะบุตร โดยว่าจะเป็นผู้ปราบยุคเข็ญและปลดเปลื้องสิ่งเลวร้ายอย่างแท้จริง เมื่อได้รับโองการแล้วท่านจึงทำโดยมีความตั้งใจอย่างมาก ที่จะเชิญพระองค์ท่านให้ไปอยู่กับผู้มีความศรัทธา ตั้งใจเพื่อให้เขาเหล่านั้นได้ดี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ความจริงแล้วองค์พระขันทกุมารนั้น ไม่ใช่กุมารกุมารีที่ไหน ต้องทำความเข้าใจหน่อย อย่าไปหลู่เกียรติของพระองค์ท่านว่าเป็นเด็ก ที่เรียกท่านว่ากุมารนั้นเพราะดวงพระพักตร์มีลักษณะแข็งกร้าว เฉียบคมหมดจด แต่ก็อ่อนเยาว์ประดุจผู้มีอายุน้อย ที่จริงพระองค์คือเทพเจ้าที่มีฐานะสูงในระดับพระเป็นเจ้าพระองค์หนึ่งของมหาจักรวาล โปรดการเสด็จไปทั่วทั้งพื้นพิภพ(ดุจโพธิสัตว์ท่านทำงานไปทั่วเช่นนี้)เพื่อช่วยเหลือผู้มีจิตศรัทธาที่ตกยากต่างจากเทพองค์อื่นๆ คนไทยเราก็รู้จักพระองค์กันมานานแล้ว แต่ก็เข้าไม่ถึงและทำไม่ถูกจึงมีอันป่นปี้ย่อยยับไป ด้วยองค์พระสกันทะเทวะนี้ แม้คนต่างชาติต่างศาสนาก็ยังนับถือท่าน คนจีนก็ยังไปยกเป็นสกันทะโพธิสัตว์อันมีบารมีสูงส่งเพราะท่านค้ำคูณใครนั้นย่อมสูงส่งขึ้นทุกคน ไม่เพียงเเต่ในอินเดียแม้บรรพบุรุษไทยก็เคารพท่านมานานยิ่งนักหรือจะประเทศต่างๆก็มีตำนานของพระองค์ท่านในรูปแบบที่แตกต่างกันไป พ่ออาจารย์กล่าวว่า รู้จักจตุคามมั๊ย คนไทยพยายามจะสื่อ หาความหมายอ้างกันมั่วไปหมดว่าเป็นองค์นั้นองค์นี้ ว่าเป็นเทวราชโพธิสัตว์บ้าง ว่าเป็นอวโลกิเตศวร ว่าเป็นอะไรมากมายไปหมด แต่ความจริงในส่วนของท้าวจตุคามก็คือองค์พระขันทกุมารนี่แหละ เมื่อสร้างและทำผิดไป ย้ำคิดย้ำทำเชิญผิดสร้างผิดก็ย่อมวิบัติไปตามกฏแห่งโลก พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าขนาดทำผิดยังมีปาฏิหาริย์มากมาย ศาสตร์แห่งพระองค์นี่ถ้าทำถูกไม่ต้องรอที่จะคิดเลย

    พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าพระองค์คือองค์กำลังของมหาจักรวาลเป็นกำลังขององค์พระศิวะเจ้า(ครูพระสยม)กับองค์ปารวตี(แม่ย่าใหญ่) จะกล่าวว่าพระรูปขององค์พระขันทกุมารคือการรวมของพลังอำนาจสูงสุดของจักรวาลทั้งในฝ่ายเทวะและมหาศักติก็ได้ นี่คือข้อเท็จจริง ก็ไม่แปลกใจเลยว่าอย่างไรทำไมถึงมีคนเคารพองค์พระขันทกุมารเป็นเอกเทศน์กันมากมายพอๆกับองค์พระศิวะเจ้า แม้เรื่องใดที่เหล่าเทพเจ้ายังถึงทางตัน หาทางออกไม่ได้ เมื่อถึงมือองค์เทวะเสนาแล้ว ย่อมคลี่คลายทุกสิ่ง องค์พระขันทกุมารนี่พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าแต่เดิมคนเราเชื่อว่ามีถึง 6 พระพักตร์ 12 พระกร แต่งกายงดงามเหมือนกับองค์พระนารายณ์ แต่พระวรกายหมดจดกว่า เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างนั้น ท่านได้ขอพระเมตตาจากองค์พระขันทกุมาร ซึ่งท่านได้โปรดให้พ่ออาจารย์ท่านลบผงมุรุกานทวะขึ้นมา ท่านว่าผงนี้ให้ผสมสร้างจะวิเศษนัก พ้นพลังอำนาจในฝ่ายของเทวะขึ้นไปอีกเพราะรวมอำนาจของฝ่ายมหาศักติไว้ด้วย ซึ่งท่านก็ได้ทำตาม โดยลบผงตามสูตรนี้ครั้งละ 12 รอบ เมื่อทำเสร็จจึงจะถือว่าทำได้คาบหนึ่ง ต้องทำให้ได้ถึง 6 คาบ จึงจะสมบูรณ์ หลังจากนั้นท่านนำมาประสระมหาโลหิต จนทองฟ้ามืดครึ้ม มีลมมหาวาตะพัดโกลาหล บรรยากาศหวาดผวาสั่นไหวเกิดรัศมีเป็นแสงสีขาวอมทองออกมาจากผงนี้จึงสำเร็จ เมื่อสำเร็จแล้ว ท่านให้พ่ออาจารย์ทำถึง 3 ครั้ง ต้องทำไว้ในปริมาณมาก เพราะว่าประสงค์จะให้ใช้ผงอันเป็นสายวิชาของพระองค์ท่านล้วนๆไม่เอาสิ่งอื่นมาเจือปนนอกจากว่านยาบางจำพวก ประกอบเป็นมวลสารขึ้นมา

    ผู้บูชาพระขันทกุมารทุกคนจึงได้รับความคุ้มครองจากพระองค์ พระองค์จะประทานความกล้าหาญชาญชัย ความเป็นผู้นำผู้อื่น ความมีศักดิ์ศรีในสังคม นอกจากพระขันทกุมารจะประทานความคุ้มครองแล้ว ยังประทานกำลังกาย กำลังใจในการกระทำการต่างๆให้ลุล่วง พระองค์ไม่โปรดความอ่อนแอ ขี้ขลาด ลังเลใจ รวมถึงความอิจฉาริษยา ท่านเป็นตัวแทนแห่งความองอาจ คล่องแคล่วว่องไว ความยุติธรรมและการเรียกร้องความถูกต้อง(ดังนั้นชีวิตใครที่โดนให้ร้ายหรือปัจจุบันอยู่บนหนทางที่ยังไม่ใช่ไม่สำเร็จ ยังเดินผิดทางอยู่ควรรีบอาราธนา) ด้วยองค์พระขันทกุมารนั้นมีกำลังมากดั่งเอากำลังของพระศิวะและพระแม่ทุรคามารวมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์สกันทะท่านจะช่วยจัดการปัญหาต่างๆในชีวิตเรารวมถึงเรื่องที่เราไม่ได้รับความยุติธรรม ให้เราพ้นจากการถูกเอาเปรียบกลั่นแกล้ง ด้วยพระองค์ยึดมั่นในเกียรติยศศักดิ์ศรียิ่งกว่าสิ่งใดทำให้กษัตริย์ทั้งหลายนิยมบูชาพระขันทกุมารเช่นนั้น เมื่อพระองค์เป็นเทพผู้อภิบาลดาวนพเคราะห์คือดาวอังคารด้วยแล้ว บางคนก็จะเรียกท่านว่าพระอังคารบ้าง แต่ในหมู่กษัตริย์โบราณทั้งหลายจะรู้กันดีว่าพระองค์คือดาวกษัตริย์สงคราม เป็นเทพที่เหล่ากษัตริย์เกรงกลัวมากที่สุด

    และก็มีข้อแม้สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ ตะกรุดรุ่นนี้ เมื่อผู้ใดได้รับไปพระองค์จะไปช่วยเหลือคุ้มครอง จะทำการณ์กิจใดก็จะมีแต่ชัยชนะแพ้คนอื่นไม่เป็น เป็นเจ้าเหนือเขาเป็นผู้นำเขาทั้งหมด ขจัดความโลเล มีแต่คนรัก คนที่อิจฉาริษยาจะหมดไป ซึ่งพ่ออาจารย์บอกว่านอกจากจุดนี้ สกันทะเทพท่านยังบอกด้วยว่าท่านจะช่วยให้มีจิตใจฮึกเหิม มีกำลังกายและกำลังใจที่เพียบพร้อมไม่อ่อนแรงลง ทุกคำขอ กิจการงานต่างๆต้องสำเร็จลุล่วงอย่างว่องไว จะต้องปรากฏเกียรติยศสูงสุดในกิจที่กระทำอยู่ ซึ่งพระองค์ท่านนั้นโปรดความยุติธรรม ไม่ชอบการคดโกง ใครที่โดนรังแก โดนคนเอาเปรียบโดนใครโกง แบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีเสียหรอกเมื่ออยู่ในความคุ้มครองของพระองค์ท่าน ซึ่งองค์พระขันทกุมารนี้มีแต่ผู้ต้องการเป็นใหญ่ ประสบความสำเร็จในระดับมหาราชาหรือเจ้าผู้ปกครองแคว้นต่างๆมักจะนิยมบูชากัน ท่านก็เลยอยากให้ทุกคนได้ดีและผ่านพ้นเคราะห์ภัยโดยไว จึงขอบารมีพระขันทกุมารมาสงเคราะห์ทำเครื่องมงคล ท่านว่าองค์พระขันทกุมารนี่ใช้ได้ทุกอย่างจะขอพรอะไรก็ย่อมได้สุดแต่ใจ จะเล่นทางเสนห์ก็สุดๆ เพราะว่าพระองค์ท่านมีพระชายาถึง 2 องค์ ซ้ำยังเป็นที่ปรารถนาของเหล่านางฟ้านางสวรรค์มากมายด้วยว่าพระรูปของพระองค์นั้นวิจิตรละลานตายิ่งนัก เมื่อบูชาไว้กับตัวย่อมดึงเอาพระบารมีมาเสริมสิริให้ผู้ที่มีบารมีขององค์พระขันทกุมารแฝงอยู่ดูดีในสายตาผู้อื่นขึ้นทันที
    ตะกรุดนี้ท่านว่าพกไว้เถิด แค่พกหน้าจะผ่องใส ความรู้สึกที่หมองมัวหรือมืดทมึนดั่งมีอะไรมากดทับเราอยู่จะคลายตัวให้เราสดชื่น ทั้งยังแสดงพลังแห่งความเยาว์วัยมีกำลังบริบูรณ์ไม่ได้ชราตามอายุ จะทำให้เรากล้าไม่หวาดหวั่นกับสิ่งใด ทั้งกำลังของตะกรุดหรือองค์พระขันทกุมารนั้นยังปกป้องเราจากการรังควานของเหล่าภูติผีปีศาจทั้งหลายหรือสิ่งที่เบียดเบียนเราทั้งปวงด้วย ท่านจะให้พรเราหกประการสม่ำเสมอตลอดเวลาที่เราอาราธนาตะกรุดนี้อยู่ในคอ ได้แก่

    - ความฉลาด
    - พละกำลัง
    - ความร่ำรวย
    - ชื่อเสียง
    - ความเที่ยงธรรม
    - พลังแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์


    ตะกรุดรุ่นนี้ใครที่ชอบตะกรุดลงถมแผ่นหนาๆรับรองได้เลยว่าสะใจแน่นอน เพราะชุดนี้ท่านสร้างด้วยตะกั่วน้ำนมกรุศรีสวัสดิ์ เนื้อเดียวพุทธคุณแบบเดียวกับพระท่ากระดานเลย ท่านว่าใช้แทนกันได้ ท่านเอาตะกั่วสำคัญนี้มารีดทำการลงถมสร้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้ตะกั่วที่สร้างพระท่านกระดานเท่านั้นเพราะอิทธิคุณเป็นไปในทางเดียวกันเหมาะกับการทำตะกรุดเทพสงครามอย่างแท้จริง ท่านนำมาลงอักขระศักดิ์สิทธิ์ซึ่งท่านเน้นย้ำว่าห้อยตะกรุดนี้ไม่ต่างจากห้อยองค์พระขันทกุมารเลย ต่างกันแค่ท่านอยู่ในรูปตะกรุดซึ่งทำยากกว่าเท่านั้น ซึ่งเมื่อลงตะกรุดนั้นองค์สกันทะเทพได้บอกกับพ่ออาจารย์ว่าให้ใส่กำลังโสฬสลงไปในองค์พระด้วย กำลังตัวอื่นๆนั้นท่านไม่เอา พ่ออาจารย์บอกว่านี่สำคัญมากนะเป็นมหากรุณาโดยแท้ทีเดียว เพราะกำลังอื่นๆแม้แต่กำลังจักรพรรดิกำลังมหาจักรพรรดิก็ดี คนที่ได้ไปจะยิ่งใหญ่มั่งมีเพียงไหน แต่มันก็ต้องสร้างด้วยตัวเองขึ้นมาสร้างจากความลำบาก คนเราเนี่ยชอบคิดเพ้อเจ้อไปเอง พอได้ยินอะไรว่าจักรพรรดิ์หรือมหาจักรพรรดิ์จะรีบขวนขวายมาบูชา เพราะคิดว่าดีที่สุดและยิ่งใหญ่สุดๆแล้ว มันไม่ใช่นะบางครั้งลำบากยากแค้นไปทั้งชีวิตเลย คือว่าเหนื่อย ต้องเหนื่อยก่อนถึงจะสำเร็จ สำเร็จเรื่องหนึ่งก็ต้องเหนื่อยต่อ นี่มันไม่จบ ท่านจึงว่าท่านไม่เอา ท่านให้ใส่กำลังโสฬสเอาไว้โดยประทาน 16 มหาอักขระศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนพลังจักรวาลทั้งในฝ่ายเทวะและมหาศักติให้ ท่านว่ากำลังโสฬสนี่สบาย จะได้ทรัพย์สินหรือทำสิ่งใดก็ได้ ก็สำเร็จ มาแบบฟลุคๆง่ายๆ โชคลาภเข้ามาไม่ขาด หนุนด้วยมหาอักขระ 16 อักษรนี้ จะเปิดบารมีเก่าดึงมาไว้ใช้กับตัว เทวดาทั้ง 16 ห้องสวรรค์ชั้นฟ้าเกื้อหนุน ชะตาชีวิตจะไม่อับจน นี่ถ้าพระองค์ท่านไม่บอกเราก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ท่านว่าต่อให้ลงกำลังใดๆซัก 108 ก็สู้กำลังโสฬสนี่ไม่ได้ ถ้าไม่มีตัวนี้ลำบากกันทั้งชีวิตเลย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ลง 16 อักขระศักดิ์สิทธิ์เท่ากำลังโสฬสลงในตะกรุดลงถมเพื่อเป็นสื่อชักนำกำลังของเทพเจ้ามาสู่ตัวมนุษย์ให้แรงขึ้นและไวขึ้น ซ้ำยังได้ลงตะกรุดตะกั่วด้วยวิชาเฉพาะซึ่งองค์พระขันธกุมารท่านให้ใส่ไว้เสริมลงไปอีก

    องค์พระขันทกุมารนั้นปรากฏพระรูปของท่านและย้ำกับพ่ออาจารย์ว่าท่านถือหอกด้วย ท่านว่าสำคัญนัก "กายนี้คือกายของพ่อเรา หอกนี้คืออำนาจแม่ของเรา จะขาดกันไม่ได้" เพราะหอกคืออำนาจทั้งหมดของฝ่ายมหาศักติ แม่เราแบ่งรูปกายออกมาเพื่อเป็นยอดศาสตราวุธให้กับเรา เช่นนั้นเมื่อลงตะกรุดท่านจะลงครบตามวิชาที่องค์พระขันทกุมารนิมิตบอกท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเทพนิมิตนี้ทำยากเราต้องเชิญท่านมาจับมือเขียนนั่นและถึงทำได้มีกำลังบริบูรณ์ดุจองค์ท่านทำเอง สื่อถึงท่านเองทุกอย่าง ตะกรุดทุกดอกอุดด้วยผงมุรุกานเทวะ ในส่วนของตัวประสานนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ผสมน้ำผึ้งป่าเดือน 5 เข้าไป แต่พิเศษเหนือสิ่งใดเพราะเป็นรังผึ้งที่สร้างอยู่ใต้ดินผิดธรรมชาติ เรียกว่าน้ำผึ้งดำซึ่งมีสีดำสนิท เป็นของหายากมาก ด้วยชาวป่าชาวเขาตั้งใจหามาถวายให้ท่านกิน แต่ท่านเอามาเทเป็นตัวผสานให้หมดเลย ท่านว่าชันโรงใต้ดินดีอย่างไร น้ำผึ้งใต้พระแม่ธรณีนี้หากนำมาเป็นตัวประสานก็ดีดุจเดียวกัน ทั้งกันฟ้า กันภัย กันเคราะห์ กันกระทำย่ำยี แต่เเรงกว่านั้นร้อยเท่า ท่านเก็บไว้เพื่อสร้างเครื่องรางในสายองค์พระขันทกุมารโดยเฉพาะ

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ตั้งแต่เมื่อแรกสร้างพระมุรุกันไตรโลกาธิบดี ท่านทำไว้เพียง 16 ดอกเท่านั้นบังเอิญจบที่กำลังโสฬสพอดีท่านจึงเอาแค่นั้น และเมื่อแรกสร้างนั้นพ่ออาจารย์ท่านเชิญองค์พระขันทกุมารมาประจุญาณ ท่านสวดเสกตะกรุดชุดนี้ไม่ต่ำกว่าสามเดือนจึงเสกเสร็จไม่นับรวมที่อธิษฐานจิตเฉพาะมายาวนานปีนี่อีกจึงเชื่อได้ว่าตะกรุดชุดนี้มีกำลังกล้าแข็งมาก ท่านว่าเหมาะแก่คนที่มีกรรมหนัก ต้องการความสำเร็จมาก ชีวิตไม่อยากแสวงหาเพื่อทำอะไรที่ต้องลงแรงให้เหนื่อยอีกแล้วหรือต้องการเครื่องมงคลที่เป็นศูนย์รวมของพลังในมหาจักรวาลทั้งฝ่ายเทวะและมหาศักติครบถ้วน

    คาถาบูชา
    โอม ตัตตะปุรุสายะวิทัมเห มหาเสนายะธีมะหิ ตันโนสะกันทะปะโจทะยาต โอม สะกันทายะ นะมัส


    * ข้อควรกระทำ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ถือเคล็ดถวายนมโคสดประจำ
    ถวายเสร็จก็ลามาดื่มกิน เพราะองค์มุรุกันนั้นท่านโปรดน้ำนมโคเป็นที่สุด ควรจะหาแก้วเล็กๆซักใบตั้งไว้ถวายนมให้ท่านบอกกล่าวท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งทำทุกวันยิ่งดี หรือจะเอาตะกรุดนี้ตั้งไว้ในชามใหม่ที่สะอาดแล้วนำนมโคสดมาราดสังเวยตะกรุด พ่ออาจารย์ท่านว่าได้กุศลดุจเอาน้ำนมนั้นราดบูชาองค์พระสกันทะเทพทีเดียว น้ำนมนั้นเมื่อราดแล้วก็ยังนำมาดื่มกินต่อได้ ทำแบบนี้ท่านว่ารับรองว่าสนิทและเข้าถึงกันได้ไวมาก ขออะไรก็ไวด้วย

    ### ตะกรุดครูนี้ท่านสร้างไว้น้อยมาก ท่านว่าของที่เกี่ยวข้องกับองค์พระขันทกุมารนั้นมีคู่มีเจ้าของโดยกำหนดจากพระองค์ท่านทุกดอกทุกคน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมเปิดจิตเบิกเนตรองค์พระขันทกุมารให้เพื่อให้เชื่อมต่อและเข้าถึงเราได้โดยสะดวก รายได้ร่วมสมทบทุนโครงการอาหารกลางวันของนักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเทพสงครามพระมุรุกันไตรโลกาธิบดีลงถมตะกั่วกรุศรีสวัสดิ์(เทวะเสนา) บูชา 2,500 บาท


    72139132-2502140463206742-8392722286611791872-n.jpg
    70621378-468030317123386-6616623704782667776-n.jpg
    71170916-738136509992470-6549258585853919232-n.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมพุทธพักตร์สลับ กลับ คลาดเนื้อยาแก้กรรมปัดอุบาทว์(ชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่)

    นับแต่โบราณนั้น...ใบหน้าถือเป็นศรี (ราศี) ที่สำคัญของร่างกาย ชาวไทยเราจึงเชื่อกันว่าการล้างหน้าเป็นการชำระล้างร่างกายส่วนที่สำคัญที่สุด ดังนั้นจึงมีการสวดอาราธนาพระคาถาเวลานำน้ำมาล้างทำความสะอาดใบหน้าและร่างกายเวลาเช้าเพื่อให้ราศีสถิตย์อยู่บนใบหน้า...การสร้างพุทธพักตร์สมเด็จองค์ปฐมนั้น นับว่าเป็นงานยากที่สุดในชีวิตของพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ผิดซึ่งท่านได้เมตตาบอกกล่าวว่า ท่านยังจำสาเหตุที่จะสร้างได้เป็นอย่างดี โดยแรกเริ่มนั้นท่านมีนิมิตถึงหลวงพ่อปานได้พาท่านไปหาเสด็จพระใหญ่ แต่อยู่ดีๆตอนนั้นท่านก็ได้จ้องไปที่พระพุทธพักตร์แล้วมีความรู้สึกว่า หากได้ทำพระพุทธพักตร์ของเสด็จท่านให้ผู้ศรัทธานำไปบูชาแล้ว คงจะเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิตของทุกคนไม่น้อย ท่านว่าเราเพียงระลึกอยู่เท่านี้ แต่เสด็จพระใหญ่กลับเปล่งวาจาว่าสาธุๆออกมาถึงสามครั้งสามหน

    พ่ออาจารย์ท่านหลังจากได้รับพุทธนิมิตแล้วก็ตั้งใจว่าจะทำและจะทำให้อย่างดีที่สุด ท่านว่าท่านไม่เคยทำอะไรที่ยากถึงเพียงนี้เลย เพราะเสด็จพระใหญ่กำหนดให้มาแต่เดิม เมื่อจะสร้างปฐมพุทธพักตร์นั้นพ่ออาจารย์จำต้องลบถมผงวิเศษถึง 227 ชนิด เท่ากับศีลพระ ทั้งอักขระยันต์จากคัมภีร์ปถมังต่างๆ ตำราพระพิชัยสงครามแต่ละสูตร รวมไปถึงวิชาและอักขระยันต์ต่างๆที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับการขัดเกลาและสั่งสอนโดยตรงจากเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านได้ทำการลบถมจนทะลุกระดานชนวนในเวลาหลายปีกว่าจะได้ครบ 227 ชนิด ซึ่งท่านบอกว่านี่ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งตายก็แล้วกัน ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้นพ่ออาจารย์ท่านเมื่อจะผสมผงสร้างพระท่านยังได้นำผงรัตนมาลาที่ท่านเรียกสูตรลบทีละตัวทีละพระคาถาอีก 108 พระคาถา มาใส่ผสมลงไปด้วย ท่านว่าเฉพาะผงที่ใช่ทำพระนี่ก็นับว่าเป็นที่สุดของวิชาอันจะเกิดจะมีขึ้นได้ในโลกนี้แล้ว ท่านได้เมตตานำผงลบถม 227 ชนิดมาผสมกับผงรัตนมาลาทั้ง 108 ท่านว่าหากจะทำอิทธิวัตถุให้มีฤทธิ์อำนาจสูงสุดนั้น ตัววัสดุมวลสารที่นำมาใช้จะต้องผสมกลมกลืนกันทั้งพุทธและไสย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิเศษอีกชนิดหนึ่งมาใช้ผสมนั่นก็คือผงโฮมัมหรือฮวานัมที่ได้จากกองกูณฑ์อัคคีในการบูชาไฟด้วยอาถรรพ์เวทย์ต่อองค์พระสยมภูวญาณของท่านผสมลงไปด้วย ท่านว่าผงนี้ดี ใช้ทางกันตัวได้ทุกสิ่งพกอยู่ที่ไหนยิ่งกว่ากำแพงแก้วเจ็ดชั้นหรือว่าตาข่ายเพชรเสียอีก เป็นสุดยอดของกันตัวแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้ผงวิชาเกราะเพชรหรือวิชาต่างๆก็เทียบกับผงตัวนี้ไม่ได้ ชีวิตใครที่มักมีสิ่งไม่พึงใจ ไม่พึงประสงค์มารบกวน ทั้งที่ตัวเองก็หาทางแก้แล้ว ไปรับยันต์เกราะเพชรมาก็แล้วหรือพกวัตถุเกี่ยวกับยันต์เกราะเพชรก็แล้ว ยังแก้ไม่หาย ท่านว่าผงนี้เอาอยู่ ทุกสิ่งที่ไม่พึงประสงค์นั้นไม่ว่าจะเกิดแต่กรรมลิขิตหรือเป็นไปตามวัฏจักรก็ตาม หากเป็นอัปมงคลแล้วไซร้ย่อมถูกแผดเผาไปให้เป็นจุณมหาวิจุณในพริบตา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสังคมสมัยนี้อันตรายและน่ากลัว อยู่กันยาก สิ่งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านมีโองการหรือดลใจพ่ออาจารย์ท่านอย่างไร เมื่อจะกดพิมพ์ปฐมพุทธพักตร์นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้นำเครื่องยาโบราณที่ท่านประกอบขึ้นเรียกว่ายาแก้กรรมผสมลงไปในเนื้อพระด้วย ซึ่งยานี้ท่านทำจากสมุนไพรและเครื่องยาโบราณล้วนๆนำมาประกอบกับชะมดเชียง ดีหมี เขี้ยวเสือ นอแรด เป็นต้น ซึ่งท่านว่าเป็นยาที่ทำยากมากสูตรเสด็จพระใหญ่ด้วยว่านยาทั้งหลายที่ท่านกำหนดให้ไปกู้มาประกอบยานั้นล้วนหายากทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านได้นำยาแก้กรรมนี้ผสมลงไปในเนื้อพระส่วนนึง ท่านว่ายานี้มีคุณตามชื่อเลย นั่นคือปฐมพุทธพักตร์นี้ใช้ผ่อนหนักเป็นเบาและชะลอกรรมเก่าได้ ขอให้เป็นคนดีหมั่นสร้างความดีอย่าปล่อยโอกาศให้หลุดมือท่านว่าเสด็จท่านจะช่วยเหลือเต็มที่ นอกจากนี้ยาแก้กรรมยังสามารถใช้แก้ได้สารพัด ที่เป็นเครื่องยาอันประกอบด้วยสิ่งอุบาทว์และอัปมงคลต่างๆ ไม่ว่าจะยามนต์ ยาคุณไสย ยาหลง ยารัก ยาแฝด ยาสั่ง ยาประสาท ยาชัง ยาหน่าย ยาตาย ยาพิษ ยาเสน่ห์ ยาต่างๆที่เกิดจากของฝ่ายต่ำและสิ่งอัปมงคลอันเกิดแต่การกระทำมาด้วยวิธีไสยศาสตร์ทั้งหลายนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำร้ายเราไม่ได้เลย ให้พกยาแก้กรรมนี้ไว้ถึงมีอยู่ในร่างกายถึงขั้นเข้าเลือดเนื้อไปแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะขับออกมาทั้งสิ้น นอกจากนั้นปฐมพุทธพักตร์นี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้ทำผงสำคัญห้าอีกชนิดที่เป็นดุจแหล่งพลังงานสำคัญทั้งห้าของปฐมพุทธพักตร์ลบถมโดยเฉพาะผสมลงในเนื้อพิเศษเอาไว้ ผงเหล่านี้ต้องแยกพิธีเสกออกเป็นทั้งหมดห้าวาระด้วยกัน(ท่านทำพร้อมกับตอนทำตะกรุดฝังชุดแรก) ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าผงทั้งห้านี้เป็นของประเสริฐ เป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง อันจะเป็นปัจจัยให้ก่อเกิดพลังงานและสิริมงคลมากมายแก่ผู้บูชา ซึ่งทุกสิ่งนั้นล้วนเป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพ ซึ่งผงทั้งห้านั้นประกอบไปด้วย
    1. ผงหัวใจพุทธะ ท่านลงนะหัวใจพระพุทธเจ้าไว้ พร้อมทั้งประกอบพิธีเสกกำกับด้วยการเชิญเสด็จพระใหญ่และพระพุทธเจ้าทั้งปวงอันได้เคยอุบัติตรัสรู้มาแต่กาลก่อนในอนันต์จักรวาลนี้ มาทำการประสิทธิ์แฝงพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นผงที่ทำยากมากเพราะผงนี้เสมือนสิ่งที่ได้รวมกำลังของสมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าทุกพระองค์ไว้แล้ว ท่านว่าเสกยากจริงๆเพราะตัวเราเองเสกไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ไปเสกต้องให้พระเบื้องบนท่านทำให้ ทุกสิ่งเป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพ
    2. หัวใจธรรมเวทย์ ท่านลงหัวใจสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ไว้เพื่อลบถมเอาผง พร้อมกับขอความเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ชุมนุมพระเวทย์และพระธรรมทั้งหลาย ประจุพลังงานใส่เข้าไปในผงนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันพระสัทธรรมนั้นเป็นพลังงานบริสุทธิ์ กำเนิดมาก่อนตั้งฟ้าตั้งดิน เป็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่ให้กำเนิดสรรพสิ่งต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าปฐมพุทธพักตร์นี้จะได้มีแก่นของพลังงานที่ไม่เหือดแห้ง พร้อมทั้งจะได้ให้กำเนิดสิ่งดีๆแก่ผู้บูชา
    3. หัวใจอรหันต์ ท่านลงหัวใจอรหันต์สาวกอันเป็นหนึ่งในรัตนะที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เป็นสิ่งแทนบูรพาจารย์ผู้อรหันต์ทั้งหลาย ทั้งภิกษุและภิกษุณีทั้งหลาย เป็นกำลังของพระอรหันต์ขีณาสพทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนักเสมอด้วยครูบาอาจารย์ หากมีจิตน้อมระลึกถึงครูพระอรหันต์องค์ใดแล้วย่อมไปถึงกันทั้งหมด
    4. หัวใจพรหมโลก ท่านลงหัวใจท้าวมหาพรหมไว้ พร้อมกับชุมนุมมหาพรหมในปัญจสุทธาวาสมาเสกและลงอาถรรพ์กำกับอีกคำรบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่สุดของวิชาพรหมเพราะสามารถใช้เชื่อมต่อพลังงานและสื่อสารกับองค์มหาพรหมทั้งหลายสุดที่ใจเราจะปรารถนาได้ ซ้ำผู้บูชายังจะได้รัศมีพรหมอาบกาย เป็นสิริมงคลให้ถึงซึ่งความเจริญและสำเร็จในกิจทุกประการ
    5. หัวใจโพธิสัตว์ ท่านลงหัวใจสมเด็จพระศรีอาริย์เมตไตรย์เอาไว้ พร้อมกับชุมนุมมหาโพธิสัตว์ทั้งหมดในพิภพดุสิต และตามภพภูมิต่างๆให้ประจุพลังงานและเชื่อมต่อถึงกันทั้งสิ้นโดยยกเอาสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นประธาน ท่านว่ากำลังของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายนั้นเป็นกำลังที่ดีที่สุดที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยกออกจากกองทุกข์ทั้งหลาย ท่านว่าผงนี้สำคัญนัก มีอะไรเกิดกับตัวเรา เราอธิษฐานอะไร พระโพธิสัตว์องค์ไหนอยู่ใกล้องค์นั้นต้องมาช่วยเราก่อนทันที


    ปฐมพุทธพักตร์ชุดนี้พิเศษอย่างไร
    นอกจากมวลสารสำคัญที่ได้ใส่ไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังเพิ่มมวลสารและเคล็ดลับวิชาอื่นๆเอาไว้ด้วย ได้แก่
    - ยาปัดอุบาทว์ ยานี้ท่านว่าทำยากเพราะนอกจากว่านยาที่จะกู้มาแล้วต้องนำมาลงอักขระตามสูตรเสกว่านยาแล้วจึงบดเป็นผงนำมาเข้ากับผงวิเศษต่างๆที่มีฤทธิ์รุนแรงและเป็นความลับอีกห้าชนิดจึงจะสำเร็จ ยานี้ใช้ปัดได้ทั้งเหตุที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติวิสัยหรือผิดธรรมชาติ ทั้งอัปมงคลเป็นลางไม่ดี ทั้งอาเพศ อุบาทว์ เหตุร้ายที่จะเกิดแบบปัจจุบันทันด่วน รวมไปถึงภัยอันตราย ความทุกข์ร้อนที่จะเป็นต้นตอลุกลามมอดไหม้ต่อไปทั้งกับตนเองและวงศ์ตระกูล พ่ออาจารย์ท่านว่าสรุปสั้นๆคือใช้ล้างอาถรรพ์ร้ายทั้งหลายทั้งปวงอันจะปรากฏมีขึ้นในโลกในชีวิตตนได้ดียิ่งนัก
    - ผงงอกเงยเศรษฐีจับช้าง ผงวิเศษนี้เป็นผงตระกูลเศรษฐีที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมเอง โดยเมื่อจะทำต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญของครูช้างครูปะกำนำมาประกอบพิธี ทั้งหนังช้าง งาช้าง งวงช้าง หูช้าง... หางช้าง โดยแต่ละส่วนนั้นล้วนมีคุณอยู่ในตัวของมันเอง ท่านนำมาทำวิชาก่อนที่จะเผาตำเอาผงลงวิชาเศรษฐีจับช้าง ท่านว่าวิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงชื่อแปลกๆ ผงวิชาเศรษฐีจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มากกำลัง มากบารมี ผงเศรษฐีจับช้างนี้ก็อาศัยกำลังของช้างสำคัญให้เป็นเศรษฐีแบบไม่นึกฝัน ท่านว่าคนที่ถูกเมินเฉย ชีวิตจับแต่งานเล็ก คิดการณ์ใหญ่ ทำสิ่งที่ต้องเติบโตและพัฒนาขึ้นไม่เคยประสบความสำเร็จ ตัวนี้ต้องใช้ผงนี้แก้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยทำให้พวกทำธุรกิจลองใช้กันหลายคน ที่บอกว่ามีแต่งานเล็กๆโครงการที่ไม่ค่อยจะได้กำไรกัน รายไหนรายนั้นกลายเป็นได้จับงานใหญ่โตทั้งสิ้น ท่านว่าผงนี้เหมาะสำหรับคนอยากมีพัฒนาการ ต้องการความสำคัญ อยากรับผิดชอบงานใหญ่จะได้รวยและมั่งมีแบบใหญ่โต ซ้ำวิชาเศรษฐีจับช้างนี้ยังสยบการแข่งขัน ปราบปรามคู่แข่ง กำราบปัจจามิตรคิดร้ายให้มีอันเป็นไปได้อีกด้วย
    - ผงสุริยะมณฑลทรงรถ ผงสำคัญนี้ท่านพบในถ้ำที่พม่าเป็นผงสำคัญคู่กับผงจันทร์ทรงกลด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำไว้โดยฤาษียุคโบราณ เราสอบถามดูได้ความว่าเป็นองค์เดียวกันกับที่คิดประดิษฐ์ยันต์สุริยประภา จันทรประภาให้ใช้กันสืบมานั่นทีเดียว อันผงสุริยะมณฑลทรงรถนั้นท่านว่าเป็นของประเสริฐเลิศเสียกว่าทรัพย์สินจินดามณีใดๆในโลก หาค่ามิได้ หาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก ถึงขนาดว่าแม้แก้วมณีโชติ สมบัติบรมจักรพรรดิ หรือสมบัติพระอินทร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะดีด้านหนุนดวง ซ้ำยังทำให้บุคคลทั่วไปผ่อนคลายอารมณ์ไม่มักโกรธถือโทษเรา ทั้งคนเคารพยำเกรง มีอายุยืนโสตสัมผัสแจ่มใสมิหลงลืมเลือน ทั้งระงับโรคาอาการเจ็บไข้โทษภัยร้ายแรงทุกประการ แม้นได้พบอาราธนากล่าวสืบมาว่าย่อมไม่รู้จักที่จะตกทุกข์ได้ยากนั่นทีเดียว มีค่าดุจได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กระทำสักการะให้ดี
    - ผงจันทร์ทรงกลด เป็นผงสำคัญคู่กับสุริยะมณฑล แต่ผงนี้จะเน้นหนักทางโชคลาภถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีจะกินเทวดายังเอาอาหารมาให้ และผิว่าถิ่นที่อาศัยของเรารอบบริเวณมีสินทรัพย์สมบัติใดย่อมได้ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เราทั้งสิ้น หรือแม้นจะปรารถนาแก้วแหวนเงินทองหรือวัตถุอะไรก็ตาม ให้จัดเครื่องบูชาแก่ผงนี้ดุจบูชาพระสัมมาสมพุทธเจ้า ท่านว่าบำเพ็ญไปเถิดปรารถนาอันใดต้องได้ดั่งใจทุกประการท่านว่าผงนี้สำคัญมากแม้นคนหนียังได้กลับคืน คนรักเอาใจออกห่างยังกลับมาสนใจ เป็นเสน่ห์เมตตาติดกันไม่แยกจาก ดั่งชะตาเปิดรับวาสนาดุจน้ำขึ้นทรัพย์เต็มท้องน้ำ ให้รีบตักรีบโกย ท่านว่าอุปมาไว้แก่ผู้ที่ได้ผงนี้ไปบูชาดุจชีวิตน้ำขึ้นอยู่เช่นนี้เรื่อยไปไม่ลดลงเสื่อมถอยเลย ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นผงสำเร็จของฤาษีแต่โบราณ หากจะทำพระให้แรงและมีฤทธิ์เสมอหรือเกินกว่านั้นสิ่งอื่นย่อมมิอาจแทนกันได้ ผงนี้จึงเหมาะแก่การสร้างพระพุทธพักตร์ที่สุด พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ผงสองชนิดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพระผสมมวลสารนั่นเอง
    - ผงฤาษีสัมฤทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีท่านยื่นใส่มือมาให้ บอกแค่ว่าชื่อผงฤาษีสัมฤทธิ์ ให้เก็บไว้รอคนมีบุญเอาไปใช้ ท่านว่าท่านไม่ได้ถามอะไรมากเพราะถือคำพระอริยะเจ้านั้นเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าสัมฤทธิ์แปลว่ามันดีไปหมด เกิดผลทุกอย่าง สัมฤทธิ์ผลไปหมดทุกอย่าง และผงนี้เป็นผงแต่โบราณที่สร้างโดยฤาษีเช่นกันท่านจึงเรียกว่าฤาษีสัมฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเก็บมานานจนทำพระพุทธพักตร์นี้ ก็เพื่อจะให้คนมีบุญแต่กรรมบังทั้งหลายได้เอาไปอาราธนาใช้ดู ให้ชีวิตเขาสัมฤทธิ์ เป็นประสิทธิ์เกิดมรรคเกิดผลตามแนวทางของอาชีพและวิถีชีวิตที่คาดหวัง ท่านจึงนำมาผสมพร้อมผงทั้งหลาย


    ทำไมจึงเรียกว่าชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่
    ด้วยเมื่อเริ่มสร้างปฐมพุทธพักตร์นั้นท่านย่าสุชาดามเหสีแห่งองค์อินทร์ท่านอยากให้พ่ออาจารย์ทำเผื่อไว้อีกชุดหนึ่งเพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานในสายของท่าน โดยชุดนี้จะเรียกว่าชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่เพราะจะได้ทำรูปท่านฝังเอาไว้ด้วย
    ซึ่งท่านย่าสุชาดานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานเอาใช้ได้ล้านเรื่อง เมื่อจะทำเป็นเครื่องมงคลก็ได้ชื่อว่าของศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านสรรเสริญนักแต่ก็สร้างให้สำเร็จได้ยากด้วยว่าต้องตามหาไม้สักศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อพ้องตรงกับชื่อสวามีของท่านคือพระอินทร์หรือท้าวสักกะที่มีลักษณะตรงตามตำรา อันอุบัติขึ้นในเขตแดนของผู้มีชาติตระกูลสูง และทุกอย่างต้องทำให้สำเร็จภายในวันเดียว ......จำเนียรกาลผ่านไปพ่ออาจารย์ท่านก็ได้พบต้นสักนี้ซึ่งมีลักษณะยืนต้นตายพราย สัณฐานภายในนั้นกลวงโล่งโปร่งตลอดอันเป็นลักษณะของไม้โปร่งฟ้า แลต้องอสนีบาตซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนยอดไหม้แต่ก็หาได้ทำอันตรายอันใดให้เกิดกับไม้นี้ได้เลย.....รวมไปถึงพรรณคุณต่างๆต้องกับตำรา พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาตามตำราทั้งบริเวณที่ขึ้น ตลอดจนต้นไม้โดยรอบที่ฟ้าผ่าไฟไหม้ราบไปหมด จึงได้ทราบจากเจ้าของที่ดินว่าคนที่มาตัดล้วนแต่มีอันเป็นไปทั้งสิ้น ท่านจึงพลีกรรมบวงสรวงบูชาเทพารักษ์ ทั้งยังบอกกล่าวปู่พระอินทร์ เพื่อขอไม้สำคัญนี้มาสร้างมงคลวัตถุ….โดยพ่ออาจารย์ท่านเน้นสร้างให้ตรงตามตำราทุกอย่าง ท่านว่าถือเอาฤกษ์ปีใหม่ไทยซึ่งเป็นพิธีเถลิงศกใหม่ของคนไทย จะได้เป็นเคล็ดเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ จัดพิธีพลีกรรม ตัดไม้ รวมถึงแกะสลัก ทุกอย่างต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียวเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตรงหัว อยู่ในจุดสูงที่สุด รุ่งเรืองและร้อนแรงที่สุด พ้นไปจากนั้นถือว่าใช้ไม่ได้ ดังนั้นองค์พระจึงแกะได้อย่างศิลป์ทั่วไป ขาดความสวยงามและประณีตอยู่บ้างตามกำหนดเวลาที่มีเพียงเล็กน้อยเพราะถือเคล็ดพระเจ้าทันใจ ทำอะไรใช้อะไรจะได้สำเร็จทันใจไม่ทันข้ามวัน
    มหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่คือองค์แม่ย่าสุชาดา ท่านรับว่าใครที่ได้ไปบูชาอาราธนา ให้หมั่นสวดคาถาที่ท่านประทานให้ไว้อาราธนากำกับองค์พระนั้น ให้สวดอยู่เนืองๆ มีอะไรให้บอกกล่าวแก่แม่ย่าใหญ่โดยตรงท่านจะรับเป็นธุระ จะช่วยเหลือบุคคลทั้งหลายนั้นให้เป็นลำดับแรกแม้ผู้ใช้มีศรัทธาอาราธนาเดือดร้อนเมื่อใด หรือจะประสงค์อยากบอกกล่าวขอความช่วยเหลือแม่ย่าผู้เป็นใหญ่เหนือเทพธิดาทั้งหลายในสวรรค์แม้ใครเดือดร้อนไม่ต้องรอบุญทำกรรมแต่ง แม่ย่าใหญ่ท่านรู้ท่านต้องรีบช่วยก่อนเพื่อคลายความร้อนให้กับลูกหลานเช่นนั้น
    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าอันรูปแม่ย่าใหญ่นั้นสำคัญนักเพราะท่านโองการให้สร้างไว้เพื่อลูกหลายในสายแม่ย่าสุชาดาจะได้มีของในสายบารมีท่านไว้ใช้โดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ใช้ได้ล้านเรื่อง เรื่องสารพัดบรรดามีทั้งหลายนับล้าน ล้าน ถ้วนทุกประการทั้งแสนจิตล้านใจบนบอกขอพรได้ไร้ข้อห้าม มีมนต์ปลุกเป็นการทำวิชาเช่นของเฉพาะกาลภายในท่านเป่าอักขระมนต์คาถานับหมื่นแสน เชิญพระเวทย์และพระธรรมตลอดจนเชิญแม่ย่าให้นำสมบัติสวรรค์มาเป็นหลักชัยแก่ผู้บูชา ท่านว่าแม่ย่าได้ปกาศิตบอกไว้ชัดแจ้งเพราะเสกคราวเดียวกับพญาอินทร์ล้านช่องท่านจึงได้ดึงเอาคุณแห่งปาริชาตสวรรค์มาเป้นกำลังในองค์แม่ย่าใหญ่ด้วย ท่านว่าคุณแห่งปาริชาตสวรรค์ปรากฏขึ้นแล้วแก่ตาโลก ผู้ใดได้ไว้ เสมือนมีบุญพบต้นปาริชาตนั้นทีเดียว บอกได้เท่านี้ ก็แม้แต่เทวดาผู้มีเดชอันใหญ่ มีกำลังมาก สามารถเนรมิตสิ่งต่างๆบรรดามีได้ดังใจนึกยังต้องการปาริชาตสวรรค์ นั่นก็เพราะเทวดานั้นจะเนรมิตสิ่งใดก็ได้เพียงตามกำลังบุญวาสนาของตนนั้น หาได้เสมอด้วยปาริชาตสวรรค์ที่มีกำลังมากเกินบุญของเทพยุดาถ้วนทุกตัวตน....


    ชุดมหาอุบาสิกานั้นพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดสลับ กลับ คลาด ฝังเอาไว้
    ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณดอกนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะใช้ให้ตัวเราคลาดแคล้วกับเคราะห์กรรมหลักและเศษกรรมแล้ว ยังต่อต้านอกุศลกรรมในตัวเองอีกด้วย โดยปกติของคนที่อาราธนานั้น ท่านว่าเขาจะรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่าเรื่องเคราะห์หามยามซวยทั้งหลายที่มาเกิดกับตัวเขานั้น จะถูกสลับสับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะมันจะหนีจะย้ายจากตัวเขาไปลงอยู่กับเหล่าคนที่มีกรรมอกุศลร่วมกันแทน เรียกกลายๆว่าให้เขาเป็นตัวตายตัวแทน รับเคราะห์แทนเราก็ได้ เช่นนั้นจึงเรียกได้ว่าสลับ กลับ คลาดทั้งหมด
    - สลับ คือสับเปลี่ยนตัวตน
    - กลับ คือย้อนเจตนาและการกระทำกลับไปให้ผู้ทำ
    - คลาด คือคลาดแคล้วเนื้อตัว ไม่ได้กล้ำกรายให้ต้องทุกข์ โทษ ภัย

    นอกจากจะเปลี่ยนชีวิตให้กลับตาลปัตรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้ต้องทำความเข้าใจไว้ ว่ามันกลับเฉพาะอกุศลกรรมและเคราะห์ภัยรวมไปถึงเศษกรรม หากแต่กุศลกรรมก็ยังเสวยกันไปได้อย่างปกติมิใช่บางเรื่องดีอยู่แล้วจะกลับไปเลวลง ด้วยคนใช้ตะกรุดนี้ถูกลิขิตไว้แล้วให้ต้องพุ่งขึ้น สูงขึ้น ไม่ตกต่ำลงเท่านั้น นอกจากสลับ กลับ คลาดตัวบุคคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายังย้อนกลับทุกความคิดปองร้ายและการกระทำด้วยคุณไสย อวิชชา เจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ให้กลับคืนเข้าหายังผู้กระทำด้วย
    แม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้น มันจะเป็นเช่นนั้นอยู่ร่ำไป วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ไปหยุดยั้งกรรมไม่ให้เกิด แต่มันกลับสับเปลี่ยนให้ตกกับคนที่มีกรรมร่วมกัน ให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นแทนนั่นเอง ท่านจึงอุปมาคุณวิเศษของตะกรุดนี้เสมอดุจว่าเสมือนหาตัวตายตัวแทนทีเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรามารองรับเคราะห์กรรมเรา ย้อนสนองคืนการกระทำให้เขาไปตามเจตนาและชะตาฟ้าที่ควรจะเป็นเช่นนั้น


    เมื่อท่านได้ใช้ไม้ขนุนตายพรายมาลงอาถรรพ์สำคัญให้มีกินมีใช้ไม่รู้สิ้นซ้ำยังหนุนดวงเสริมส่งวาสนาคนใช้แล้ว ท่านก็นำไม้ขนุนตายพรายนั้นมาแกะแม่พิมพ์เป็นปฐมพุทธพักตร์ โดยเศษเนื้อไม้ที่เหลือจากการแกะแม่พิมพ์นั้นท่านก็ได้ผสมลงไปในเนื้อพระด้วย พร้อมกับใช้น้ำผุด คือน้ำทิพย์ที่ผุดขึ้นในเศียรพระเจ้า ในพระพุทธบาท และสถานที่อาถรรพ์สำคัญต่างๆมานวดเนื้อพระตอนท่านผสมสูตรเพื่อจะกดพิมพ์ซึ่งเมื่อท่านได้ทำการกดแม่พิมพ์ออกมาแล้วนั้นก็นับเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งที่องค์พระนั้นแย้มพระโอษฐ์และอ้าปาก พ่ออาจารย์ท่านหัวเราะแล้วกล่าวว่าพระอ้าปากเช่นนี้ยังไม่เคยเห็นจะมีใครทำ ซึ่งเสด็จพระใหญ่นั้นได้นิมิตสื่อใจกับพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้ท่านตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อใดที่พระศาสดาองค์ปฐมนั้นเผยพระโอษฐ์ตรัสพุทธดำรัส เมื่อนั้นพระสัทธรรมเทศนาก็จะออกมาจากพระโอษฐ์นั้น พระสัทธรรมนี้เป็นแสงสว่างที่ใช้ทำลายความมืดได้ทุกสิ่ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เปิดพระโอษฐ์นี้ก็ด้วยเหตุผลสองนัยสำคัญ ประการแรกดั่งที่ได้กล่าวมาแล้ว ชีวิตคนใช้จะเหมือนมีพลังอำนาจแห่งสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ที่ไหลออกมาจากพระโอษฐ์นั้นตลอดเวลาเพื่อค้ำจุนเกื้อหนุนชีวิต เป็นแสงสว่างที่ทำลายความมืดและขจัดอุปสรรคเป็นพลังงานที่จะไหลบ่าออกมาอาบสรรพางค์กายของตนตลอดเวลาไม่รู้เหือดรู้แห้ง กับอีกนัยหนึ่งนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่า ยังดีทางลาภผลไม่รู้สิ้นด้วย คนใช้จะมีลาภเข้ามาตลอดมิขาดมิพร่องเลย ดุจเสด็จท่านนั้นเปิดปากเพื่อโปรดสัตว์กระทำภัตกิจเสวยพระกระยาหาร เมื่อเปิดแล้วต้องอิ่ม ต้องบริบูรณ์ สมบูรณ์ ทุกสิ่งที่เป็นไปเพื่อการดำรงค์ชีพ หน้าที่และภารกิจทั้งหลาย ย่อมเสร็จลงอย่างง่ายดาย ท่านว่าจะพูดกันตามตรงแล้วพระเจ้าเผยพระโอษฐ์นี้ยิ่งกว่าเคล็ดพระเจ้าเปิดบาตรมากนักเป็นมหาลาภใหญ่ถึงที่สุดไม่มีสิ่งใดจะเปรียบจะวัดได้ ท่านว่าปฐมพุทธพักตร์นี้จึงมีแต่ผู้คู่ควรกันและเสด็จพระใหญ่ท่านดลใจไว้แล้วจึงจะเห็นถึงความสำคัญตรงนี้

    คาถาบูชา ตั้ง(นะโม 3 จบ)
    พุทธปฐมัง โลกะวินา ระนาระมัททาติหาระภัง อิติวิทธิ พุทธะนิมิตตัง ทิสวาทิตัง มาเวโส เอติหาเร นะโมพุทธายะ พุทธะปฐมัง กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา ทุกขังอนิจจัง ทุกขังอรหังสุคโต ภควาติ อิติภควาพุทโธโลเก


    ### ปฐมพุทธพักตร์ชุดมหาอุบาสิกานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะกาล เฉพาะลูกหลานที่มีบุญบารมีร่วมกันในสายแม่ย่าสุชาดาซึ่งท่านว่าลูกหลานชุดนี้จะเป็นคนที่ท่านเคยอุปถัมภ์มาหลายภพหลายชาติและจะยังอุปถัมภ์กันต่อไป เมื่อเขาได้พบกับชุดแม่ย่าใหญ่นี้ก็เสมือนกับแม่ได้เจอหน้าลูกเมื่อได้พบกันแล้วเรื่องเดือดร้อนทุกข์ใจ กรรมตัดรอนต่างๆย่อมคลี่คลายด้วยท่านจะกำกับรักษาเราเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม่ย่านี้ท่านเมตตาหนักมากซ้ำยังมีบริวารและทรัพย์สมบัติมากตามวิสัยสตรี เวลาท่านอุปถัมภ์อุ้มชูผู้ใดท่านว่าวิสัยเทพสตรีนี้จะต่างกับเทวดามาก ลองเอาไปอาราธนาดูเถอะบอกได้แค่ว่าท่านทรงฤทธิ์และก็ใจถึงหนักมากพอๆกับฤทธิ์ของท่านทีเดียว เพราะท่านให้ไม่นับดุจแม่ให้ลูกจริงๆ

    *** ปฐมพุทธพักตร์ชุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากให้ได้ใช้กันในครอบครัวและอยากให้คนที่มีปัญหาเดือดร้อนและมีบุญสัมพันธ์กับแม่ย่าได้พึ่งบารมีท่าน เช่นนั้นท่านจึงนำออกให้บูชาด้วยปัจจัยว่าถึงเวลาแล้วองค์แม่ย่าท่านบอกมาแบบนั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลและความประสงค์ที่ปรารถนาบอกกล่าวกับแม่ย่าใหญ่เอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการอธิษฐานจิตให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมพุทธพักตร์สลับ กลับ คลาดเนื้อยาแก้กรรมปัดอุบาทว์(ชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่) บูชา 2,500 บาท


    71186260-1001135943561891-5632268220455976960-n.jpg 71827250-2493464880877101-6633495474487689216-n.jpg
    71499100-1155213864679600-7778893587961348096-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...