กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    #ฝันวันที่ 28-05-2015
    ข้าพเจ้าอยู่สถานที่แห่งนึง มีโบสถ์หลังนึง มีพระสงฆ์องค์นึงนั่งสมาธิอยู่หน้าโบสถ์ มองดีๆๆโอ้วหลวงปู่ดู่นิ ในฝันเลยเอากล้องมาถ่ายรูปหลวงปู่ ปรากฏว่าปรากฏเป็นแสงสีทองอร่ามรอบๆหลวงปู่และมีดวงจิตสีทองลอยวนอยู่ที่ตัวหลวงปู่ดู่ ช่างปิติเสียจริงๆๆ

    549235_959720604048114_6482622610982731174_n.jpg
     
  2. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    โอ้....แม้เป็นความฝัน ก็คือบุญแท้ๆของน้องเอก

    ส่วนตัวผมแม้ได้ยินชื่อลป.ดู่มานาน
    แต่บุญเพิ่งมาถึงเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา
    ...เสียดายเวลาไปตั้งสิบๆปี

    ...แต่ก็ยังดี...และสุดปลื้มปิติ
    ...ที่หลวงปู่ท่านมา
    ...มาช่วงที่ผม "ดวงตก"
    ...ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น

    ขอกราบแทบเท้าลป.ดู่ ณ ที่นี่
    และขอให้บุญรักษาทุกท่าน
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    ไม่ทราบว่า...
    ลูกปัดเก่าคลองท่อมได้ไหม
    พอดึมีเหลืออยู่ไม่กี่เม็ด
    และแก้วจักรพรรดิ(แก้วมณีนพรัตน์)
    ...ที่วัดถ้ำเมืองนะเพิ่งให้มา
    (หลังไปวางที่ต่างๆเพื่อปรับภพภูมิคงมีอีก 2 เม็ด)
    และแก้วอื่นๆเล็กน้อย...ไม่ทราบชื่อ






     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    (ต่อจากเมื่อวาน)
    "ปุจฉาคือ....
    อย่างนี้บุญจะถึงคนที่ไม่มีชื่อไหมเนี่ย (1)
    คนอื่นๆที่มีเคสเหมือนกันเคยทำวิธีไหน (2)"



    วันนั่น...ทางวัดถ้ำเมืองนะได้ส่งหนังสือ
    “ใครจะใหญ่เกินกรรม” มาด้วย 1 เล่ม

    ในหนังสือมีอยู่ตอนหนึ่งที่พูดถึง(หน้า39)
    วิธีการกำหนดจิตถามหลวงปู่และปัญหาที่แก้ไม่ตก
    ประมาณว่า...ถ้าเราเกิดปัญหาอะไรที่คิดไม่ตก
    หรือแก้ไม่ได้ หรือเป็นปัญหาที่มีข้อสรุปหลายทาง
    คนนี้พูดอย่าง-คนนั่นก็พูดอีกอย่าง
    แม้รวมๆแล้ว”ไม่มีอะไรผิด” คือได้ทั้งนั่น

    อย่างเช่นการโอนเงินทำบุญ
    มีความจำเป็นต้องใช้ชื่อคนอื่นโอน
    .....อย่างนี้เป็นต้น

    บางคนก็ว่าปัจจัยเป็นของเรา...
    ...ใบโอนจะเป็นชื่อใครก็ได้
    ...ถือว่าได้บุญแล้ว
    ...ถูกต้องเหมือนกัน(ผมก็คิดเช่นนั่นตลอด)

    แต่ก็มีหลายท่านไม่แน่ใจ(ตอบไม่ได้)
    หรือบ้างตอบว่า...ถ้าเป็นชื่อเราดีกว่า

    จึงเกิดปุจฉามยปัญญาหลังหวยออกครั้งล่าสุด

    ...คืนนั่นก่อนนอน
    ...ปฎิบัติการทดสอบพลังงานเร้นลับได้เริ่มขึ้น
    ...หลังสวดมนต์เสร็จ

    ผมจึงเอาปัญหาคาใจนี้ไปถามลป.ดู่
    (ทำขั้นตอนตามหนังสือ)

    เผื่อท่านมานิมิตตอบเอง หรือตอบมาด้วยวิธีอื่นๆ
    เช่นดลใจให้มีเหตุบางอย่างให้รู้ได้เองว่าควรทำอย่างไร
    หรือจิตรู้เองว่าทำอย่างไรจึงจะถูกต้องเหมาะสม

    หลังถามปัญหาเสร็จ
    ...หลับสบาย...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    แต่มาเกิดขึ้นช่วงใกล้ตี 4
    ขณะหลับเหมือนว่า...
    มีอะไรว๊าบแล่นเข้ามาในสมอง
    ...ไม่น่าจะเป็นความฝัน...ไม่ใช่นิมิต...ไม่ใช่เสียงพูด
    ...แต่เหมือนรับรู้...แบบครึ่งหลับครึ่งตื่น

    รวมๆได้ใจความว่า.......

    ให้นำเงินที่จะทำบุญ
    พนมมือตั้งจิตอธิษฐานภาวนาก่อน
    “ขอให้ปัจจัยที่ร่วมทำบุญ(ชื่อวัด).........ในวันนี้
    ให้ถึงแก่(บิดา มารดาหรือใครก็ได้.................)
    ด้วยอานิสงส์ผลบุญในครั้งนี้ขอให้ข้าพเจ้า(ชื่อ/นามสกล)......
    ....มีความสุขและ(ตามที่ต้องการขอ).......................”


    (หมายเหตุ)
    ตามหนังสือบอกประมาณว่า...
    "....ไม่ต้องเงี่ยหูฟัง
    .....บางครั้งหลวงปู่ไม่ตอบเป็นคำพูด
    .....แต่ตอบมาด้วยวิธีอื่นๆ
    เช่นจะมีเหตุบางอย่างให้รู้ได้เองว่าควรทำอย่างไร
    หรือจิตรู้เองว่าทำอย่างไรจึงจะถูกต้องเหมาะสม"


    (หมายเหตุปิดท้าย)
    โปรคใช้วิจารณญาณในการรับรู้
    ...อาจเป็นคำตอบสำหรับบุคคลที่ถามเท่านั่น
    เพราะเมื่อไม่มั่นใจ....ก็จะได้มั่นใจ(ไม่ต้องคาใจ)


    ...ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
     
  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    เด๋วผมถามคนปั้นให้ครับ
     
  6. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    ช่างบอกถ่ายรูปมาดูครับท่าน 9
     
  7. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    ในฝันผมนั่งเทียบกับหลวงปู่ดู่เลย ใกล้กันระยะประชิด คิดดูนะครับ จะปิติขนาดไหน
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    โมทนา ครับ

    คงเป็นเหมือนภาพที่เอกลงไว้

    ภาพนี่ผมชอบมากเลย(เหมือนมีชีวิต)
    ทั้งรูป และประโยคที่ลป.พูดไว้
    เด่วจะปริ้นวางบนชั้นหรือโต๊ะ

    549235_959720604048114_6482622610982731174_n (1).jpg
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    มีเรื่องเล่าให้ฟัง...
    (เป็นเรื่องธรรมชาติ...ไม่ประหลาดอะไร)
    ...แต่อยากเม้าส์มอยให้ฟัง
    เผื่อมีใครเคยเจอเหตุการณ์นี้(บ่อยๆ)

    เมื่อคืนประมาณ 3 ทุ่ม...อยู่ที่บ้าน
    .
    ...ก่อนหน้าครึ่งชม.ที่ฝนจะตก
    มีลมพัดอ่อนๆประกอบสายฝนที่ตกพร่ำๆ เบาๆ
    ต๊อกแต่ะๆ...ต๊อกแต่ะๆ
    (เหมือนเป็นปลายฝนจากที่อื่น)

    ช่วงเวลานั่นผมได้ยินเสียงหึ่มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    คล้ายเครื่องยนต์เบาๆเป็นเวลา4-5นาที(เบามากๆๆๆๆ)
    ถามเจ๊ ว่าได้ยินไหม...เขาบอก "ไม่"
    (ปกติเจ๊ชอบว่าผมหูตึง...555 ทำไมเป็นซะเอง)
    สักครู่ตามติดมาด้วยฝูงหมาเห่าหอน(ที่นี่เจ๊ได้ยินแล้ว)
    ส่งเสียงเป็นทอดๆเป็นเวลานานพอสมควร
    (ในใจผมคิดว่าน่าจะมีพลังงานอะไรบางอย่าง)
    "หมาเห็น...หมาได้ยิน...แต่คนไม่รู้"
    จากนั่นจู่ๆเกิดฟ้าแลบฟ้าร้องฟ้าผ่า...
    ...เสียงดังสนั่นใกล้ๆบ้าน(สัก10-20 ม.)
    **ถ้าฟ้าร้อง ฟ้าผ่าแค่นี้...ผมคงไม่เล่าให้ฟัง**

    ...แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนี้
    เพราะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ
    ...ที่ทำให้ทุกคนในบ้านหวั่นไหวพอสมควร
    ผมจึงบอกให้ปิดโทรทัศน์และดึงปลั๊กออก
    และอย่าใช้โทรศัพท์(แม้อยู่ในบ้าน)

    เพราะหลังจากฟ้าผ่าลูกแรกเปรี้ยงสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว
    ...เสียงฝูงหมาเห่าหอนเงียบลงสนิท
    (ไม่จบแค่นั่น)...
    ...จากนั่นเสียงฟ้าแลบ-ฟ้าร้องต่อเนื่องไม่หยุด
    และฟ้าผ่าเปรี้ยงๆไม่ต่ำกว่า7-8ครั้ง(ทิ้งช่วง1-2นาที)
    เหตุการณ์ธรรมชาตินี้เกิดขึ้น 15 นาทีได้มั่ง
    ถ้าบอกไม่แปลก...แต่ก็แปลกดีนะ

    ...แม้เป็นเรื่องธรรมชาติ
    แต่ยอมรับว่าในใจหวั่นไหวพอสมควร
    ....เพราะไม่เคยเจอมาก่อนเลย

    "แว่วยินเสียงหึ่มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    เหมือนเสียงเครื่องยนต์เบาๆ...เบามากๆๆๆ
    ... ก่อนที่เสียงฝูงหมาจะเห่าหอนดังเป็นทอดๆ
    ...ตามด้วยฟ้าผ่า..ฟ้าแลบฟ้าร้อง...ต่อเนื่อง 15 นาที"

    ...คาดว่าน่าจะเกิดจากพลังงานบางอย่าง
    ...พลังงานธรรมชาติที่อาจประจวบเหมาะพอดี
    ...หรือพลังงานลี้ลับ(555...แค่ขำขัน)

    หรือขำมากกว่านี้...
    อาจมีจานบินคิดจะแวะมาลงสนามหญ้าข้างๆบ้านที่ติดกัน
    (บางท่านอาจเชื่อเรื่องจานบิน...แต่ผมยังไม่เชื่อ)

    ....ขอจบแค่นี้นะคับ 55555555
     
  10. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    สาธุครับท่าน9 เยี่ยมมากๆเลย
     
  11. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    ผ่ามากเกินปกติเกินไป
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    555...เมื่อวานลืมตอบ

    เด่วไว้รอว่างๆจะถ่ายรูปให้ดู
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    อีกแล้ว...อีกแร้วสส...ติดๆกันเลย2คืน
    เมื่อคืนนอนมีเรื่องประหลาด(แปลกใจ)
    เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง(2ช่วงเวลา)
    ฝัน....ฝันครับ
    (ปกติไม่ค่อยฝันหรือฝันแต่จำไม่ได้)
    (เพราะหลายปีมานี่...ลืมเก่ง)

    ลองอ่านดู...และช่วยคิดตาม
    ...เผื่อมีข้อคิด...ช่วยแนะนำ


    เมื่อคืน 4 ทุ่มหลังสวดมนต์เสร็จ
    (จะสวดมนต์บนเตียงฉบับสั้นๆ)

    เกิดความรู้สึกบางอย่าง...จึงพนมมือขอ
    ขอท่านลป.ดู่(ตามหนังสือเท่าที่จำได้)
    เนื้อหาประมาณว่า....
    "...ตั้งแต่ต้นปีมีอุปสรรค์หลายประการ
    และโชคลาภไม่ค่อยมี(แทบจะไม่มีเลย)
    ขอให้ลป. มาเข้าฝันชี้แนะข้อปฎิบัติด้วยเถิด..."

    ...จากนั่นก็นอนหลับปุ๋ย
    (ปกติเป็นคนหลับง่าย...ไม่เกิน1-2นาที)
    ประมาณว่าเป็นคน "ว่านอนสอนง่าย"

    ...ขณะที่หลับไปได้เดี๋ยวเดียว
    ...ไม่แน่ใจว่ามีอะไรพิเศษมาเยือน...ทันที
    (แต่ไม่น่าจะเป็นหลวงปู่...)
    เพราะท่านคงไม่มาในรูปแบบอย่างนี้)

    ...เกิดอาการกึ่งฝันกึ่งหลับ
    เหมือนตนเองนอนอยู่ในห้องกว้างๆโล่งๆ
    ...ลักษณะกำลังถูกผีอำผีคุกคาม
    จึงพยายามดิ้นสุดฤทธิ์...
    ...ใช้มือปัด...ผลัก...เหวี่ยงสุดแรง
    ...แต่ไม่ได้ดั่งใจ(คือได้บ้าง..ไม่ได้บ้าง)
    ...จึงพูดเสียงดังออกไปว่า...
    "กรูไม่กลัวมรึง..มาสิๆ..เดี๋ยวเหอะๆ...เจอกัน"
    ...วนเวียนอยู่อย่างนี้...สักพักจึงดิ้นหลุด

    พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา......
    มองดูรอบๆยังนอนอยู่คนเดียว
    อีกห้องยังเปิดไฟสว่างอยู่เลย
    แสดงว่า...เพิ่งหลับไปไม่ครึ่งชม.

    ...นอนคิดสักครู่
    เออ...ใครให้มาว่ะ...ผิดคิวหรือป่าว
    จากนั่นหลับปุ๋ยต่อไป

    น่าจะตี 3-4 ฝันอีกแล้ว...ชัดมากๆ
    (ถ้าไม่ชัด คงจำไม่ได้แน่นอน)
    ฝันว่า...อยู่บริเวณพงหญ้าแห่งหนึ่ง
    เห็นไก่ 2-3 ตัวอยู่ที่นั่น
    มีอยู่ตัวนึง สีสันสวยและรูปร่างแปลกดี
    แปลกที่ว่า...คือยืนขาตรงๆ ลำตัวตั้งตรงสูงชะลูด
    (ขออธิบาย
    นอกฝัน...ลักษณะแบบถ้วยรางวัล)

    (ในฝัน)...ผมจึงเดินเข้าไปจับไก่ตัวนี้
    เพื่อจะเอากลับไปที่บ้านตัวเอง...
    ขณะเดียวกัน...ในฝันก็
    คิดว่า
    เออ...รูปร่างไก่ตัวนี้ยืนคล้ายๆองค์สีวลี


    ฝันแค่นี้...ผมก็ตื่น
    นอนทบทวนความฝันแล้วรู้สึกว่า"แปลกดี"
    หรือลป.ดู่ ท่านนิมิตให้ผมฝันเช่นนี้

    ...จากนั่นผมก็หลับปุ๋ยต่อไป

    พอเช้านี้ตื่นขึ้นมา...
    ทบทวนความฝันอีกครั้ง
    ผมคิด...น่าจะได้คำตอบแล้วว่า...
    ...ให้ไปหาองค์พระสีวลีมาบูชาที่บ้าน


    (หรือท่านที่พอรู้...ช่วยชี้แนะก็ยินดีครับ)
    เพราะผมเป็นคนว่า
    นอนสอนง่าย
    ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

     
  14. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    ฝันแปลกอะ
     
  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    ขอย้อนเล่าเรื่องถูกผีอำ 3 ครั้งติดๆ
    ...ที่เกิดขึ้นเมื่อ 20ปี++--

    เพราะหลายคนหรือสายวิทย์บางคนมักเชื่อว่า...
    อาการผีอำเกิดจากลักษณะการนอนที่ผิดท่า
    นอนทับเส้นประสาท เส้นสายบางอย่างของร่างกาย
    หรือเพราะอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับภูตผีวิญญาณเลย
    เรื่องจริงที่เกิดขึ้น...ข้างล่างนี้
    ...อาจทำให้บางคนต้องเปลี่ยนความคิด

    ...เป็นประสบการณ์โดนผีอำที่ไม่ลืมชั่วชีวิต
    (เคยนำมาเล่าที่นี่เมื่อปีที่แล้ว)
    คิดว่าหลายๆคนยังไม่เคยอ่าน
    ...แม้แต่ผมยังไม่สามารถค้นหาเจอ
    เพราะมีเกือบ 4 พัน คคห.
    เช้านี้จึงนำมาเล่าใหม่....
    เล่าให้ฟังสดๆใหม่ๆดีกว่าเนอะ
    (หลงลืมไปบ้าง...ต้องขออภัย)

    ...เมื่อประมาณ 20 ปี ++-- ที่ผ่านมา
    ผมไปนอนพักที่แฟลต ตชด. สงขลา
    ดึกดึ่นคืนนั่นขณะที่นอนหลับสบายๆ...
    ...จู่ๆมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยือน
    ...มาเข้าฝันว่า...คือแขก(อาบัง)
    ...จากนั่นเกิดอาการผีอำ...กึ่งหลับกึ่งฝัน
    ผมจึงพยายามดิ้นสุดฤทธิ์...
    ...ใช้มือปัดป้อง...ผลัก...เท้าถีบสุดแรง
    ...แต่ไม่ได้ดังใจ(คือเหมือนเกือบหลุด แต่ไม่หลุด)
    ...วนเวียนอยู่อย่างนี้...ก็ยังดิ้นไม่หลุด
    ...ยิ่งดิ้น ยิ่งแน่น จนรู้สึกหายใจไม่ออก
    ...ผมจึงท่องคาถาลป.ทวดจากจิตใต้สำนึก
    ...สักพัก...ผีแขกหายไป
    ...อาการผีอำหายไป

    ผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา
    (คงแค้นและนึกสนุก)ผมจึงท้าทายไปว่า...
    "ถ้าแน่จริงมรึงมาอำอีกสิ"
    จากนั่นผมก็นอนหลับไป
    สักครู่...ผีแขกมันมาตามคำท้าจริงๆ

    หลังจากดิ้นหลุดด้วยมนต์คาถาลป.ทวด

    ...พอลืมตา...ผมคงอยากลองดีมั่ง
    จึงท้าทายไปอีกครั้ง
    พอหลับไปแค่อึดใจ...
    ...มันมาอีกแล้ว
    มาครั้งนี้...เล่นงานผมหนักกว่า2ครั้งแรก
    สุดท้ายคาถาลป.ทวดก็ออกมาจากปากตามสัญขาติญาณ
    อาการถูกผีอำก็หายไปปลิดทิ้ง

    พอรู้สีกตัว...ผมชักกลัว
    มองซ้ายมองขวาไปรอบๆ...
    ...มีแต่ความมืด
    ...ไม่เห็นมีอะไรแปลกปลอม
    แต่ในใจก็ขอยอมแพ้...
    "เฮ้ย...เจอของจริงนี่หว่า"

    ไม่รอช้า...ผมจึงรีบพนมมือ
    ...ขอขมาโทษต่อวิญญาณตนนั่น
    หลังจากนั่น...นอนหลับสบายยันสว่าง

    ตื่นขึ้นมา...
    จึงรีบเล่าให้ญาติฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ญาติบอก "นั่นแหละผีแขกจริงๆ"
    เพราะก่อนจะสร้างแฟลต
    มีแขก(อาบัง)อาชีพเลี้ยงวัว
    ...เสียชีวิตที่บริเวณที่ดินตรงนี้

    มิน่า มิน่า...เฮี้ยนดุดัน สุดๆ...ใจจะขาด
    ...สมคำเล่าลือที่ว่าผีแขกดุ(สมัยเด็กๆฝังใจ)
    (จริงๆก็น่าจะเหมือนกัน..ต่างกันแค่เชื้อชาติ)
    ...หรืออาจเป็นเพราะไปท้าทายมัน

    สรุป...ถ้ามาอำแค่ครั้งเดียวจบ...ไม่ว่ากัน
    และคงยังไม่เชื่อว่าถูกผีอำโดยวิญญาณลี้ลับ
    ...แต่นี่ถูกอำ 3 ครั้งติดๆกัน
    ท้าแล้วมา...ท้าแล้วมาอีก
    เข็ดหลาบ...จำไปตลอดชีวิตเลย

    "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"

    ...จึงเป็นความจริงที่ควรจดจำไว้
    ...เพราะผมได้พิสูจน์ไปแล้ว

     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    .....หลายวันก่อน
    ผมได้เอ่ยถึงคำว่า"มยปัญญา" หลายครั้ง
    หลายๆคนรู้ แต่อาจไม่รู้ลึก(รวมทั้งตัวผมด้วย)
    ...ที่รู้เพียงตื้นๆ...ซึ่งพอนำมาใช้อ้างอิงได้
    ...แต่คำนี้มีรายละเอียดที่แยกย่อยออกไปพอสมควร
    ...เช้าวันนี้...วันหยุด
    ผมจึงนำเอาบทความข้างล่างนี้มาให้อ่าน




    ******************************************
    ภาวนามยปัญญา : โดย ประสิทธิ์ พฤกษาจารสิริ
    วันที่ 22 กรกฎาคม 2560 - 12:00 น.
    Facebook
    Twitter
    Google+
    LINE

    0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2-728x410.jpg
    ภาวนามยปัญญา

    การเรียนรู้ในทางพระพุทธศาสนามีอยู่ด้วยกัน 3 ประการคือ 1 สุตมยปัญญา เป็นความรู้จากการฟัง การอ่าน 2 จินตามยปัญญา เป็นความรู้จากการนึก การคิด การค้นคว้าวิจัยต่างๆ 3 ภาวนามยปัญญา เป็นความรู้เกี่ยวกับการสัมผัสทางด้านจิตวิญญาณ เป็นการฝึกสติ ฝึกการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกขณะปฏิบัติสมาธิภาวนา อันจะนำไปสู่ความรู้แจ้งเห็นจริงในทางพระพุทธศาสนา อันเป็นความรู้และประสบการณ์ที่อยู่คนละมิติกับความรู้ข้างต้น

    หากแยกประเภทความรู้ทั้งหลายออกเป็นความรู้ทางโลกกับความรู้ทางธรรม เฉพาะการฟังและการคิดเท่านั้นที่เป็นความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาสติปัญญาเพื่อประโยชน์และความเจริญก้าวหน้าในทางโลก การฟังและการคิดจะช่วยเราในการนำความรู้ไปใช้เพื่อการประกอบอาชีพและทำมาหากินเพื่อสร้างฐานะ สร้างครอบครัวและพัฒนาประเทศชาติ

    ปุถุชนผู้ปรารถนาความมั่งคั่งร่ำรวยจึงต้องขวนขวายศึกษาหาความรู้จากการฟังและการคิด ความรู้ที่ได้จากสุตมยปัญญาและจินตามยปัญญาจึงเพียงพอที่จะช่วยนำพาชีวิตของเขาไปสู่ความสำเร็จในทางโลก โดยบุคคลผู้นั้นไม่จำต้องศึกษาหาความรู้ในทางธรรม ไม่จำต้องแสวงหาประสบการณ์ด้านในของจิตวิญญาณ ไม่จำต้องเรียนรู้การฝึกสติและไม่ต้องปฏิบัติสมาธิภาวนาใดๆ ทั้งสิ้น

    ผู้คนส่วนใหญ่วาดหวังไว้แต่การแสวงหาทรัพย์สินเงินทองและชื่อเสียงเกียรติยศ พวกเขาไม่ใส่ใจในเรื่องการสัมผัสรับรู้ทางจิตวิญญาณ ไม่ต้องการเรียนรู้อารมณ์กรรมฐานและไม่สนใจกับความสงบสุขทางด้านจิตใจจากการปฏิบัติสมาธิภาวนา พวกเขาคิดว่าความรู้เกี่ยวกับสัมมาสติ สัมมาสมาธิในทางพระพุทธศาสนาและประสบการณ์เกี่ยวกับการสัมผัสใกล้ชิดกับดวงจิตนั้น เป็นกิจธุระเฉพาะของพวกนักพรต นักบวชและโยคีเท่านั้น

    ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเข้าใจว่าชีวิตของพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เกี่ยวกับการเจริญสติ เจริญสมาธิ และไม่มีความจำเป็นใดๆ เกี่ยวกับการเรียนรู้ความจริงแท้ของกายสังขารนี้ อันเป็นเพียงซากอสุภะอันเน่าเหม็นที่ต้องฝึกพิจารณาดูด้วยตาใน ไม่อาจดูด้วยตาเนื้อ ทั้งนี้ด้วยวิธีผ่านการปฏิบัติทางวิปัสสนากรรมฐาน

    ความเข้าใจดังกล่าวจึงนับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของชาวพุทธ เพราะชีวิตนี้ไม่ใช่มีแต่เฉพาะเรื่องของโภคทรัพย์และการปรนเปรอความสุขทางกามเท่านั้น อีกทั้งความโลภ โกรธ หลง ยังเป็นเหตุทำให้ปุถุชนทั้งหลายต่างมุ่งหวังแต่การเก็บสะสมเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งร่ำรวยของเขา พวกเขาจึงมองข้ามความมีอยู่จริงของดวงจิตดวงนี้และละเลยต่อความรู้และการสัมผัสด้านในของจิตวิญญาณ พวกเขาไม่ตื่นรู้และไม่ตระหนักในเรื่องของกรรมดีกรรมชั่วและวิบากกรรมทั้งหลายที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ พวกเขาจึงไม่ใส่ใจในเรื่องของสมาธิภาวนา

    ผู้ใฝ่ฝันความร่ำรวยและการมีชื่อเสียงจึงไม่ต้องการเรียนรู้การฝึกสติ ไม่ใส่ใจกับการภาวนา ไม่ปรารถนาที่จะสัมผัสและหยั่งถึงความสุขสงบอย่างแท้จริงที่มีอยู่ภายในลมหายใจ พวกเขาสนใจแต่เรื่องการปรนเปรอความสุขทางกามยิ่งกว่าการฝึกสติและการเรียนรู้อารมณ์กรรมฐาน พวกเขาสนใจแต่เพียงการแสวงหารสแห่งกามคุณยิ่งกว่าการฝึกอานาปานสติและการตามดูลมหายใจเข้าออก อันเป็นความรู้ที่จะนำความสุขสงบและการหนีห่างจากกามคุณทั้งหลายให้แก่ชาวพุทธได้ดีและประเสริฐยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองและเกียรติยศใดๆ ทั้งสิ้น

    ความรู้จากสมาธิภาวนายังช่วยผู้ปฏิบัติได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับภพชาติและการเกิดใหม่ ช่วยผู้ปฏิบัติให้หันเหจิตใจเข้าสู่การปฏิบัติธรรมยิ่งขึ้น ให้ใส่ใจต่อการปฏิบัติทาน ศีล ภาวนามากขึ้น ลำพังแต่การแสวงหาแต่ทรัพย์สินเงินทองมีแต่จะทำให้จิตใจไหลตกต่ำและมีผลกระทบในทางเสียหายต่อจิตวิญญาณ ต่อภพชาติ และการเกิดของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของภพชาติและการเกิดใหม่เป็นเรื่องที่ผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนาทั้งหลายต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

    ความรู้จากการฟังและการคิดล้วนแต่เป็นเรื่องการส่งจิตออกนอก ส่งจิตออกไปสู่เรื่องราวต่างๆ มากมายที่อยู่นอกตัวเรา เป็นเหตุทำให้จิตใจของเราฟุ้งซ่าน วิตก กังวล และเป็นทุกข์ ความรู้ในทางโลกจึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการเรียนรู้การดำรงอยู่ของจิตวิญญาณที่มีอยู่ภายในกายของเราแต่ละคน ความรู้ทางโลกไม่อาจทำให้ชาวพุทธก้าวไปสู่การฝึกจิตฝึกกรรมฐานเพื่อพิจารณาซากอสุภะ

    ที่มีอยู่ในร่างกายของเรา การฝึกกรรมฐานและการได้สัมผัสกับดวงจิตจึงมีผลดีต่อการลดทอนความกำหนัด ลดทอนกามราคะและตัดขาดจากอกุศลมูลทั้งปวงอันได้แก่ความโลภ โกรธ หลงลงได้ในที่สุด
    ความรู้จากภาวนามยปัญญาจึงเป็นการเรียนรู้ในภาคปฏิบัติอันเกี่ยวกับการฝึกความเพียร ฝึกสติ ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตบริสุทธิ์ผ่องใส การปฏิบัติสมาธิภาวนาจึงเป็นเรื่องของการไม่ส่งจิตออกนอก ไม่ส่งจิตออกไปสู่เรื่องราวต่างๆ เหมือนอย่างความรู้จากการฟังและการคิด จิตจะกำหนดรู้อยู่แต่ภายในกายของเรา อยู่แต่ภายในลมหายใจของเรา ให้จิตได้ตามกำหนดรู้ลมหายใจเข้าลมหายใจออก ให้จิตได้ตามกำหนดรู้และพิจารณาความสกปรกเน่าเหม็นของกายนี้


    ภาวนามยปัญญาจึงเป็นการปฏิบัติที่กระทำต่อจิตโดยเฉพาะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น เรื่องของจิตจึงเป็นมิติอีกมิติหนึ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเรื่องของกาย ความรู้และประสบการณ์จากสมาธิภาวนาที่ส่งผ่านเข้าสู่จิตจึงเป็นความรู้ที่หนักแน่น ลุ่มลึกและติดตรึงยาวนานยิ่งกว่าความรู้ที่ส่งผ่านสายตา ผ่านหู หรือผ่านเข้าสู่สมอง

    สิ่งที่จดจำไว้ในสมองจึงมีโอกาสลืมเลือน จางหายและเสื่อมคลายเมื่อกาลเวลาผ่านไป แต่ความรู้ที่ซึมลึกเข้าสู่จิตวิญญาณจะเป็นสิ่งที่ไม่ลืมเลือน ไม่เสื่อมคลายจางหาย แต่จะติดยึดฝังแน่นเข้าสู่สายเลือด ซึมลึกเข้าสู่ธาตุขันธ์ เข้าสู่โครงกระดูกและเจตสิกของผู้นั้นตลอดไป

    ดังเช่นการดูรูปภาพซากศพคนตายที่เผยให้เห็นความน่าเกลียดน่ากลัว แม้จะดูภาพนั้นนานเท่าใดก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ความจำได้และการระลึกรู้ในรูปภาพนั้นจะเสื่อมคลายเลือนหายไป แม้ขณะแรก การระลึกรู้ที่มีต่อรูปภาพนั้นจะช่วยลดทอนความกำหนัดได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป ความกำหนัดและกามราคะนั้นจะเผยอตัวและเผยตนออกมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยการระลึกรู้ในรูปภาพนั้นไม่อาจช่วยทัดทานและดึงรั้งความกำหนัดของเราให้ลดน้อยถอยลงได้

    ลําพังการจดจำและการนึกคิดโดยใช้สมองและรูปภาพจึงเป็นเพียงมิติทางกายที่ไม่อาจมีพลังอำนาจเพียงพอที่จะลดทอนและกำราบความกำหนัดและกามราคะซึ่งไม่ได้มาจากสมอง แต่ฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณอันเป็นสภาวะที่อยู่ในอีกมิติหนึ่งที่แตกต่างจากมิติของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

    การต่อสู้ทัดทานกับความกำหนัดและกามราคะที่ฝังแน่นอยู่ในจิตอันเป็นศัตรูน่าเกรงขามและโหมกระหน่ำโจมตีเราอยู่ทุกขณะจิตนั้น จึงจำเป็นต้องใช้พลังอำนาจที่อยู่ในมิติเดียวกับมิติของจิตวิญญาณเพื่อการควบคุมและลดทอนความกำหนัดและกามราคะนั้น ดังนั้นจึงมีแต่พลังแห่งกรรมฐานที่เกิดจากสมาธิภาวนาที่อยู่ในมิติเดียวกับมิติของจิตวิญญาณเท่านั้นที่มีอำนาจเพียงพอที่จะขัดเกลาจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ได้ จิตที่ได้รับการขัดเกลาจากพลังของสมาธิภาวนาแล้วจะแสดงออกด้วยการลดละและหนีห่างออกจากกามราคะและความกำหนัดทั้งปวงได้

    การตัดขาดจากความกำหนัดด้วยปัญญาแห่งกรรมฐานจึงไม่ใช่เป็นการตัดขาดเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนอย่างการใช้วิธีดูรูปภาพซากศพคนตาย ความรู้แจ้งเห็นจริงที่ได้จากสมาธิภาวนาจะปรับเปลี่ยนระดับภูมิธรรมด้านจิตใจของผู้ปฏิบัติให้สูงขึ้นและประณีตยิ่งขึ้น ความบริสุทธิ์ของดวงจิตที่ได้จากกรรมฐานจะทำให้ผู้ปฏิบัติรู้สึกเบื่อหน่ายต่อราคะตัณหาและกามวิตกทั้งปวง

    สภาวธรรมที่นำไปสู่การลดทอนราคะตัณหาเช่นนี้ไม่ได้เกิดจากการกดข่มหรือบีบรั้งเอาไว้เหมือนอย่างการใช้วิธีดูรูปภาพเพื่อใช้ภาพนั้นไปกดข่มอารมณ์แห่งกาม การกดข่มโดยใช้รูปภาพจึงแตกต่างจากการสร้างดวงจิตที่บริสุทธิ์ขึ้นใหม่จากการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

    จิตวิญญาณที่ปรับเปลี่ยนไปสู่ระดับภูมิธรรมที่สูงขึ้นจากสมาธิภาวนาจะติดตรึงและอยู่กับผู้ปฏิบัติตลอดไป ดวงจิตที่ได้รับการขัดเกลาจากกรรมฐานจะช่วยทำให้ภพชาติของเขาทั้งในภพชาตินี้และภพชาติต่อๆ ไปบริสุทธิ์ สะอาด และสงบยิ่งขึ้น การปฏิบัติสมาธิภาวนาจึงมีความสำคัญต่อชาวพุทธเป็นอย่างมากและมีผลอันประเสริฐยิ่งต่อภพชาติและการเกิดใหม่อันประณีตของชาวพุทธทุกท่าน

    สังคมที่มีแต่การแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นและเอาเปรียบกันอย่างรุนแรงด้วยการใช้ความรู้ที่มาจากสมองจึงมีแต่ทำให้ผู้คนเคร่งเครียด วุ่นวาย ล้มป่วย และหาความสุขสงบในชีวิตไม่ได้เลย นอกจากความรู้ทางโลกแล้ว การปฏิบัติสมาธิภาวนาและการใช้ภูมิธรรมทางจิตจะช่วยให้ชาวพุทธทั้งหลายมีธรรมะในจิตใจสูงขึ้น มีความรักความเมตตาต่อกันยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้สังคมทั้งมวลอยู่กันอย่างร่มเย็น มีแต่ความสันติสุขทั่วกันพร้อมหน้า

    ภาวนามยปัญญาจึงเป็นองค์ความรู้อันสำคัญยิ่งที่ชาวพุทธทั้งหลายไม่อาจละเลยได้

    ประสิทธิ์ พฤกษาจารสิริ

    ขอบคุณที่มา...

    https://www.matichon.co.th/article/news_607195
     
  17. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,770
    พระผงจักรพรรดิ รุ่นพิเศษ ติดพระธาตุข้าวบิณฑ์ มีจำนวนจำกัด

    71337085_2524097580961882_2650016270698676224_n.jpg
     
  18. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    แจ่ม สาธุๆ
     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    อยากชมรูป "พระบูชาสีวลี"

    ไม่ทราบว่าวัดไหน...น่าสนใจ

    ขอบคุณครับ
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    คาถาขอลาภเรียกทรัพย์ "พระสิวลี" โดย หลวงพ่อเกษม เขมโก
    21 มิ.ย. 60 (18:05 น.)ความคิดเห็น 0

    Add @Sanook.com
    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL2hvLzAvdWQvMjMvMTE5Mjg1L2toLmpwZw==.jpg

    ท่านเป็นพระอรหันต์ที่มีบารมีทางด้านโชคลาภ ไม่ว่าท่านจะไปสู่ที่แห่งใด พระสิวลีอิทธิคุณทางมหาสิทธิโชค มหาลาภ บูชาเพื่อการเงินไหลมาเทมา พร้อมรับความร่ำรวย มั่งคั่ง ที่จะเข้ามาอย่างรวดเร็ว เราจึงควรบูชา “พระสีวลี” เป็นประจำ

    2.jpg

    กราบบูชาพระสิวลีแล้วชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เนื่องเพราะพระสิวลี เป็น 1 ใน 80 พระอสีติมหาสาวก หรือศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า พวกเราคุ้นเคยกันดีกับรูปลักษณ์ของพระสิวลีที่เป็นภิกษุ มือขวาถือไม้เท้า มือซ้ายแบกกรด สะพายบาตรบ้าง สะพายย่ามเครื่องอัฐบริขารบ้าง
    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระสิวลีเป็นเอตทัคคะในทางมีลาภมาก เพราะท่านมีบุญบารมีสูง



    k1.jpg


    คาถานี้แต่งโดย หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง การจะขอลาภจากพระสิวลีแบบได้ผลเร็วนั้น เคล็ดลำคัญ ต้องเป็นคนที่ทำทานมาก สละซึ่งประโยชน์ส่วนตัวช่วยเหลือผู้อื่น การสวดนั้นต้องครบ 5 จบในการสวดต่อหนึ่งครั้ง

    คำอธิฐานขอลาภจากพระสีวลี (โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง)

    นโม ๓ จบ

    สีวลี มหาเถรังฺ วันฺทามิหังฺ ( ๓ จบ )

    มหาสีวลีเถโร มหาลาโภ โหติ มหาสีวลีเถโร ลาภังฺ เม เทถะ

    พระคาถาบูชาขอลาภประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน ดังนี้
    วันอาทิตย์ (ให้ภาวนา ๖ จบ)
    ฉิมพะลี จะ มหานามัง สัพพะลาภัง ภะวิสสะติ เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

    วันจันทร์ (ให้ภาวนา ๑๕ จบ)
    ยัง ยัง ปุริโสวา อิตถีวา ทูเรหิวา สะมีเปหิวา เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

    วันอังคาร (ให้ภาวนา ๘ จบ)
    ฉิมพะลี จะมหาเถโร โสะโห ปัจจะยาทิมหิ เชยยะลาโภ มหาลาโภ สัพพะลาภา ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

    วันพุธ (ให้ภาวนา ๑๗ จบ)
    ทิตติตถะภะเวราชา ปิยาจะ คะระตุเม เย สารัตติ นิรันตะรัง สัพพะสุขาวะหา ฯ

    วันพฤหัสบดี (ให้ภาวนา ๑๙ จบ)
    ฉิมพะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ

    วันศุกร์ (ให้ภาวนา ๒๑ จบ)
    ฉิมพะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะรปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง กะโรนตุ เม ลาเภนะ อุตตะโม โหติ สัพพะลาภะ ภะวันตุ สัพพะทาฯ

    วันเสาร์ (ให้ภาวนา ๑๐ จบ)
    ฉิมพะลี จะ มหานามัง อินทาพรหมา จะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ปะสิทธิ เม เถรัสสานุภาเวนะ สะทา สุขี ปิยัง มะมะ ฯ

    การสวดพระคาถาสีวลีระจำวัน ถ้าสวดได้ทุกวันจนครบทั้ง ๗ วันก็ยิ่งดี แต่ถ้าท่านจะขอลาภเป็นพิเศษ อาทิ จะติดต่อการธุรกิจสำคัญๆในวันใดวันหนึ่ง ก็สวด คาถาบูชาพระสีวลี นำก่อนหลังจากนั้นจึงสวด คาถาขอลาภพระสีวลีประจำวัน ตามกำลังวันของวันนั้นๆเวลาไปติดต่อธุรกิจหรือกำลังค้าขายอยู่ให้ภาวนาหัวใจไว้ในใจตลอดเวลาว่า “นะ ชาลีติ ปะสิทธิลาภา” ถ้าจะให้ดีควรเสกน้ำก่อนล้างหน้า หรือสวดก่อนนอนทุกคืน ตามกำลังวัน ให้ตั้งใจอธิฐาน ขอให้เป็นน้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ตามจิตปรารถนา จะเป็นเมตตามหานิยม ทางทำราชการ ดีนัก ค้าขายก็ดี ให้อาราธนานำน้ำมนต์ประพรมของจะขายง่าย ทางลาภต่างๆช่วยให้ราศีที่เศร้าหมองผ่องใสได้ นอกจากนั้น ยังปัดเป่าเคราะห์โศกโรคภัย คุ้มครอง ภยันตรายต่างๆป้องกันศัตรูทั้งปวง



    ขอขอบคุณที่มา...
    https://www.sanook.com/horoscope/119285/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...