"กระทู้จับฉ่าย".. สัพเพเหระ สิ่งละอันพันละน้อย เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย รูปสร้าง, 16 พฤศจิกายน 2018.

  1. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya 2IvignJqplw.png กำลังรู้สึกมหัศจรรย์ที่ สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
    26 นาที · เมืองพัทยา

    ประธานสวนนงนุชพัทยา บินเยือน “ภูฏาน” ให้คำปรึกษาร่วมมือสร้างสวนและปรับปรุงภูมิทัศน์ “ทิมพู”

    นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางไปที่ประเทศภูฏาน ตามคำเชิญ โดยมีนาย เชอริง ต๊อบเกย์ อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศภูฏาน พร้อมด้วยนายเทนซิน Tenzin Dhendup ผู้ดูแลโครงการหลวงประเทศภูฏาน (อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร) ได้ให้การต้อนรับ เนื่องจากทางประเทศภูฏาน ได้มีโครงการจัดสวนขยายความร่วมมือของเมืองหลวงของทิมพู จึงต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับต้นไม้และดอกไม้ เพื่อประดับประดาสวนภูฏานให้มีความสวยงาม พร้อมรับฟังโครงการสวนที่ทาง สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน จะสร้างเป็นสวนดอกไม้ เพื่อเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนในประเทศภูฏาน ได้มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยได้เดินทางชมตามสวนต่าง ๆ ในเมืองหลวงทิมพู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศภูฏาน ตั้งแต่สวนอนุบาล การเพาะพันธุ์

    หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังเมืองฮา ซึ่งมีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองฮา ก่อนจะเดินทางไปพระราชวังกษัตริย์ จิกมี เพื่อขอคำปรึกษาในการจัดสวนในสำนักพระราชวัง โดยได้ปรึกษารวมถึงการออกแบบ แนะนำรูปแบบสวน ในการจัดวางสวนทั้งก้อนหิน ต้นไม้ รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ซึ่งทางผู้บริหารของประเทศภูฏาน ได้รับฟังและชื่นชมสิ่งที่ นายกัมพล ชี้แนะ ซึ่งทางผู้บริหารจึงได้ขอให้นายกัมพล มาช่วยดูแลสวนดังกล่าวให้แล้วเสร็จสวยงามโดยเร็ว

    นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา กล่าวว่า จากที่ได้รับเชิญจากทางหน่วยงานของประเทศภูฏาน ในเรื่องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดสวน การเพาะพันธุ์ต้นไม้ จึงได้นำคณะเดินทางมาที่ประเทศภูฏาน ได้ฟังคำบรรยายรวมถึงการเดินทางไปเมืองต่าง ๆ เพื่อดูพื้นที่การจัดสวน โรงเพาะพันธุ์ ได้แก่ ทิมพูเมืองหลวง , เมืองฮา รวมถึงการขอคำแนะนำในการจัดสวนพระราชวังของกษัตริย์ จิกมี ในเรื่องรูปแบบการออกแบบการจัดวางสวน ต้นไม้ต่าง ๆ ที่จะนำมาปลูก จากที่ให้คำแนะนำแล้วทางคณะของประเทศภูฏาน ได้ขอให้มาช่วยในการจัดสวน ซึ่งทางสวนนงนุชก็ยินดีจะเดินทางมาช่วยการจัดสวนพระราชวังกษัตริย์ จิกมี โดยจะมาดำเนินการจนแล้วเสร็จไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ทางประเทศภูฏาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 10 คน เดินทางไปที่สวน นงนุช พัทยา เพื่อศึกษาฝึกงาน เพิ่มเติมความรู้ ทั้งเรื่องการออกแบบ ดูแลสวน การจัดต้นไม้ ดอกไม้ ในระหว่างวันที่ 9-21 ตุลาคม 62 เพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ที่ประเทศภูฏาน

    72749675_2764736210217600_1939318914013986816_n.png 71842565_2764738056884082_8477873775646343168_n.jpg

    71894989_2764737500217471_4552695269682053120_n.jpg 71947234_2764737146884173_8482250098212864000_n.png

    71960210_2764736646884223_2370236517579751424_n.jpg 72153037_2764737286884159_3326195542161096704_n.jpg

    72305361_2764737853550769_18845826868576256_n.png 72336726_2764737006884187_135193862397231104_n.jpg

    72366428_2764736460217575_9118933752364400640_n.jpg 72477272_2764737690217452_2547859081993912320_n.jpg

    72686176_2764738350217386_5296609783174922240_n.jpg 72736492_2764738660217355_100541632461406208_n.jpg
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2019
  2. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
    1 ชม.

    เตือน! ห้ามถ่ายสำเนาด้านหลังบัตรประชาชน เพราะเสี่ยงถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดี สวมรอยได้ เนื่องหลังบัตรประชาชนจะมี Laser ID เป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ใช้ยืนยันตัวตนควบคู่กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนทั้ง 13 หลัก
    บัตรประชาชน ถ้าไม่จำเป็นอย่าให้ใครเด็ดขาด ถ้ายังต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนให้ถ่ายเพียงด้านหน้าอย่างเดียวเท่านั้น

    #สำเนาบัตรประชาชน #เสี่ยงโจรกรรม
    #สนธิญาณ

    c_oc=AQm72o9n-wMkZs4PQA-FQYcW8dXEwwLYzz05wKkUQAfwh5iMSwlmev5Nn6XuMeF2qmI&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.png
    .
     
  3. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    Thailand Vision
    4 ชม.

    Chinese Embassy in Bangkok เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เตือน นักการเมืองไทยบางคน ที่มีท่าทีสนับสนุนกลุ่มคิดแบ่งแยกฮ่องกง ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง และไร้ความรับผิดชอบ

    โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยให้ความเห็นเกี่ยวกับ "กฎบังคับในเรื่องห้ามสวมหน้ากาก" และสถานการณ์ล่าสุดในฮ่องกง

    เมื่อวันที่ 4 เดือนตุลาคม รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ประกาศ "กฎบังคับในเรื่องห้ามสวมหน้ากาก" โดยอาศัยอำนาจจาก “กฎระเบียบในวาระฉุกเฉิน” มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เดือนตุลาคม กฎบังคับดังกล่าวห้ามผู้ชุมนุมสวมใส่หน้ากาก ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการระบุตัวตนสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ละเมิดถือว่าทำผิดกฎหมาย

    ความรุนแรงในฮ่องกงยืดยาวมาเป็นเวลามากกว่า 4 เดือน วันที่ 1 เดือนตุลาคม กลุ่มคนใช้ความรุนแรงที่สวมหน้ากากได้รวมตัวกันอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่ต่างๆ ของฮ่องกง ปิดกั้นการจราจรในบริเวณกว้าง ทำลายร้านค้า รถไฟใต้ดินและสาธารณูปโภคอื่นๆ อีกทั้งได้จุดไฟเผา โยนระเบิดขวดจำนวนมาก โจมตีสถานที่ราชการและสถานีตำรวจ ทำร้ายเจ้าหน้าตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างบ้าคลั่ง ทำร้ายประชาชนทั่วไปอย่างไม่เลือกหน้า พวกเขาจงใจสร้างเหตุการณ์นองเลือดขึ้นมา ความรุนแรงได้ยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการท้าทายกฎหมายอย่างรุนแรง ทำลายความสงบสุขของสังคมฮ่องกง และเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนทั่วไป

    ในปัจจุบัน ความอันตรายที่ใหญ่ที่สุดที่ฮ่องกงกำลังเผชิญอยู่ก็คือ การใช้ความรุนแรงและการไม่เคารพกฎหมาย ถึงเวลาแล้วที่ต้องยุติความรุนแรงและความวุ่นวายด้วยท่าทีที่ชัดเจนมากขึ้นและวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในสถานการณ์อย่างนี้ รัฐบาลเขตปกครองพิเศษได้บังคับใช้ "กฎบังคับในเรื่องห้ามสวมหน้ากาก" เป็นมาตรการที่ชอบด้วยกฏหมาย ชอบธรรมและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หลายประเทศในโลกก็ได้บังคับใช้กฎหมายห้ามปิดบังใบหน้าเช่นกัน การบังคับใช้กฎบังคับดังกล่าวในฮ่องกง มิได้ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกง รวมทั้งสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมด้วย

    รัฐบาลส่วนกลางของประเทศจีนสนับสนุน แคร์รี หลั่ม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานตุลาการในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดใช้ความรุนแรงทั้งปวง โดยเฉพาะแกนนำกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง ตลอดจนผู้วางแผนและสั่งการที่อยู่เบื้องหลัง

    เป็นที่ต้องชี้ให้ทราบว่า ความผันผวนที่มาจากการต่อต้านการแก้ไขกฎหมายในฮ่องกงได้เปลี่ยนตัวไปอย่างสิ้นเชิง กำลังพัฒนาเป็น "การปฏิวัติสี" โดยได้รับการแทรกแซงจากกลุ่มอิทธิพลภายนอก กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีน ได้ใช้ประชาธิปไตยและเสรีภาพเป็นข้ออ้าง เพื่อทำลายหลักการพื้นฐานของ "หนึ่งประเทศสองระบบ" บ่อนทำลายอธิปไตยและความบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีน ซึ่งฝ่ายจีนคัดค้านอย่างเด็ดขาด

    กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนยังได้สมคบกับกลุ่มอิทธิพลภายนอก เผยแพร่ข่าวลือ บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อวัตถุประสงค์ที่มิอาจเปิดเผยของตน นักการเมืองประเทศไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน ซึ่ง เป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ ฝ่ายจีนหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาฮ่องกง ใช้ความระมัดระวัง ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อมิตรภาพจีน-ไทย
    ---------------------------
    แหล่งข่าว
    https://www.facebook.com/ChineseEmbassyinBangkok/posts/2534063723307084
    ---------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision

    c_oc=AQmg_lYIhgaqiUFvB4WPDeJR-3z5-JOFkFpc5F9uz3WMIRs47j5QmX8NZbsqK7HKgC0&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  4. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    Thailand Vision
    8 ชม.

    วันที่ 8 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวไทยโพสต์รายงานว่า ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

    กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการจัดพิธีบำเพ็ญกุศล และพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

    ในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562 เวลา 07:00 น. พิธีทำบุญตักบาตร ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่เหมาะสม เวลา 08:00 น. พิธีวางพวงมาลา และพิธีถวายบังคม เวลา 19:00 น. พิธีจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

    ----------------
    แหล่งข้อมูล
    https://www.thaipost.net/main/detail/47573
    ---------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision

    c_oc=AQmoPtGLGCwsHHC1gW6Z9_-LwCRwJAo0P4j_seJRWWTburIht44lvdHU6Vi7SBol9L8&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  5. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
    14 ชม.

    สวนนงนุชพัทยา ไม่หวั่นสัญญาณเศรษฐกิจขาลง ยืนหยัดเปิดประตูสวรรค์บนดิน แบ่งปันสุขพี่น้อง 6 จังหวัด 5 เขต กรุงเทพมหานคร เข้าชมสวนฟรีตลอดเดือนพฤศจิกายน 62 พร้อมเปิดตัวไดโนเสาร์ คาคูจาร่า

     
  6. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    วันครบรอบคล้ายวันสวรรคต พระเจ้าอยู่หัวรัชการลที่ 9
    ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป
    Screenshot_2019-10-13 ครบรอบคล้ายวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 - ค้นหาด้วย Google.png

    วันออกพรรษา 2562
    Screenshot_2019-10-13 ออกพรรษา2562 - ค้นหาด้วย Google.png


    งานบั้งไฟพญานาค 2562
    Screenshot_2019-10-13 งานบั้งไฟพญานาค2562 - ค้นหาด้วย Google.png
     
  7. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    Thailand Vision
    1 ชม.

    โรงเรียน เหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร ทรัพย์ส่วนพระองค์

    ผู้ใช้เฟสบุ๊ค Nitipat Bhandhumachinda เผย ความรู้ใหม่เลย เพิ่งรู้ว่าที่เมืองจีนมีโรงเรียนที่นำพระนามของพระองค์ท่านมาตั้งชื่อโรงเรียน (เหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร) เพราะสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จนโรงเรียนพังพินาศ เด็กๆ ไม่สามารถเรียนหนังสือได้ พระองค์จึงมอบพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้สร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ จนเด็กๆ ได้กลับมาเรียนหนังสือกันอีกครั้ง คนที่นั่นจึงนำพระนามมาตั้งชื่อโรงเรียนเพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองประเทศ

    ทั้งนี้ Nitipat Bhandhumachinda โพสต์ภาพและข้อความเล่าที่มา โรงเรียน เหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เครดิตภาพ 1) Facebook พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ 2) เว็บไซต์ โรงเรียนจิตลดา ความว่า

    ตอนผมมาอยู่ที่ลำลูกกาเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น ที่นี่มีแต่ฟ้ากับน้ำและทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา จึงเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดใจมากๆ เมื่อน้องๆ ที่ทำงานผมตื่นเต้นกันยกใหญ่เมื่อมีข่าวว่า "พระเทพจะเสด็จ"

    เมื่อผมถามด้วยความแปลกใจว่า พระองค์ท่านจะเสด็จมาทำไม ก็เลยได้ทราบว่า โรงเรียนที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ซึ่งเป็นแหล่งศึกษาของเด็กที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมในชุมชนแห่งนี้นั้น อยู่ในโครงการ "ด้วยรักและห่วงใย" ของพระองค์ท่าน ที่ทรงเป็นห่วงเรื่องการศึกษาของเด็กยากจน และได้ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ คอยสนับสนุนด้านการเรียน ด้านโภชนาการ อีกทั้งการให้ทุนการศึกษา แก่เยาวชนไทยมากมายหลายโรงเรียนทั่วประเทศ

    แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ คือเมื่อปี พ.ศ. 2551 นั้น เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใน อำเภอเวิ่นชวน มณฑลเสฉวน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีผู้เสียชีวิตร่วมเจ็ดหมื่นคน และบาดเจ็บอีกกว่าสามแสนคน อาคารบ้านเรือนเสียหายย่อยยับ

    เมื่อเรื่องเข้าถึงพระเนตรพระกรรณของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า มีโรงเรียนที่เมืองเหมียนยาง อำเภอเวิ่นชวน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนเด็กนักเรียนที่นั่นไม่สามารถเข้ารับการศึกษาได้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณและความห่วงใยอย่างที่สุด พระองค์ท่านทรงรีบดำเนินการพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อสร้างอาคารโรงเรียนขึ้นใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้นักเรียนที่นั่นได้รับโอกาสกลับเข้ารับการศึกษาโดยเร็วที่สุด

    ในยามที่ประชาชนชาวจีนกำลังได้รับความทุกข์แสนสาหัส ความช่วยเหลือที่พระองค์พระราชทานให้นั้น ก็ไม่ต่างจากน้ำทิพย์ที่ชะโลมหัวใจ ให้ชาวจีนทุกๆ คนที่ได้รับทราบข่าวนี้ ต่างก็ซาบซึ้งและจดจำในความดีที่ เจ้าหญิงแห่งประเทศเล็กๆ นี้มอบมิตรภาพและความจริงใจมาให้โดยทั่วกัน

    ทั้งนี้ พระองค์ท่านได้ทรงดำเนินการอย่างปิดทองหลังพระ ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ใดๆ ให้ครึกโครม ซึ่งแม้แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทราบในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านได้ทรงช่วยเหลือเด็กๆ ชาวจีนในครั้งนั้นเลย

    หากใครได้เดินทางไปเยี่ยมเมืองเหมียนหยาง ก็จะเห็นโรงเรียนชื่อว่า "เหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร" ที่นำพระนามของพระองค์ท่านมาตั้งเป็นชื่อโรงเรียนเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และมิตรภาพของทั้งสองประเทศที่พระองค์ท่านได้ทรงสานสัมพันธ์ไว้ ด้วยความรัก และความจริงใจมาตลอดหลายสิบปี

    ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศนั้น เหนียวแน่นและหยั่งลึก ก็ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    ---------------------

    ทั้งนี้ เหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร เคยปรากฏอยู่ในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจิตรลดา-เหมียนหยาง ณ มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน

    เป็นโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างตัวแทนนักเรียนระดับประถมศึกษา 16 คน และครู 4 คนเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจิตรลดา-เหมียนหยาง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนักเรียนโรงเรียนจิตรลดาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมร่วมกับนักเรียนโรงเรียนเหมียนหยางเซียนเฟิงลู่สิรินธร

    ทั้งนี้ เมื่อปี 2561 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนโรงเรียนเหมียนหยางเซียนเฟิงลู่สิรินธร , ทรงติดตามการดำเนินงานต่างๆ ของโรงเรียน และทอดพระเนตรการแสดงของคณะครูและนักเรียนทั้งสองโรงเรียน โดยผู้จัดการและผู้อำนวยการโรงเรียนจิตรลดานำคณะครูและนักเรียนโรงเรียนจิตรลดาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จนอกจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนักเรียนทั้งสองโรงเรียนแล้ว ผู้บริหารทั้งสองโรงเรียนยังได้ปรึกษาหารือเรื่องโครงการแลกเปลี่ยนครู ซึ่งอาจจะดำเนินการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนออนไลน์ในอนาคตอีกด้วย
    --------------------------------
    แหล่งข้อมูล
    http://www.chitraladaschool.ac.th/view_activity.php…
    https://www.komchadluek.net/news/regional/393150
    ---------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision

    c_oc=AQmDUlp6DN8jB8A_7fnfu5dxE0N7AzrvMxgHx1rkipuH9H542RqVD3gkoimTR0PRXg4&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  8. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    Thailand Vision
    5 ชม.

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน กล่าวว่า “ใครก็ตามที่พยายามจะแยกจีนออกจากส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศจะต้องพบจุดจบด้วยการกลายเป็นซากศพที่แหลกเหลวและกระดูกที่แตกเป็นเสี่ยง”

    และ"และกองกำลังภายนอกที่สนับสนุนความพยายามในการแบ่งแยกประเทศจีน คนจีนมองว่าเป็นความฝันเฟื่อง"

    ถ้อยแถลงนี้ของประธานาธิบดีสี มีขึ้นระหว่างหารือกับนายเค.พี.ชาร์มา โอลิ นายกรัฐมนตรีเนปาล ที่ให้การสนับสนุนการปกป้องอธิปไตยของจีนอย่างเต็มที่ รวมทั้งการสร้างความเป็นปึกแผ่นแก่มณฑลและดินแดนต่างๆของจีน ซึ่งหมายรวมถึงสนับสนุนนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบของจีนด้วย

    ประธานาธิบดีสี เดินทางเยือนกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาลเมื่อวันเสาร์ (12ต.ค.) โดยประธานาธิบดีพิทยา เทวี ภัณทารี ผู้นำหญิงของเนปาล ซึ่งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ ให้การต้อนรับ โดยประธานาธิบดีสี ถือเป็นประธานาธิบดีจีนคนแรกในรอบ 23 ปีที่เยือนเนปาลอย่างเป็นทางการ ต่อจากประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน เมื่อปี 2539

    การเยือนเนปาลครั้งนี้ของผู้นำจีนเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี และเชื่อมการติดต่อระหว่างสองประเทศ ครอบคลุมถึงการขยายแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่มาจากแนวคิดริเริ่มของประธานาธิบดีสี
    --------------------------
    แหล่งข้อมูล
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/850747
    https://www.posttoday.com/world/603477
    ---------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision

    c_oc=AQkX8sWuqMBualKRQWDJZaOb8F9onT9w3zqh-GXrFVfj8ENmZWTdw7v19X0mR6UYDuU&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  9. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    โลกกำลังเข้าสู่ยุคพลังงานแสงอาทิตย์ ต่อไปน้ำมัน ก๊าซ ราคาคงถูกลงและอาจเป็นของไร้ค่าน่ารังเกียจในที่สุด
    ท่านใดที่มีดวงอาทิตย์อยู่บนหัว คงไม่คิดน้อยใจแล้วเน้อ
    ---------------------------------------​
    จาก facebook
    China Xinhua News
    2 ชม.
    แผงเซลล์แสงอาทิตย์จำนวนมากถูกติดตั้งอยู่บนหลังคาบ้านของประชาชนท้องถิ่นอำเภอเจ๋อโจว เมืองจิ้นเฉิง มณฑลส่านซีทางตอนเหนือของจีน

    รัฐบาลท้องถิ่นเมืองจิ้นเฉิงดำเนินการก่อสร้างสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ตามหมู่บ้าน 211 แห่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการบรรเทาปัญหาความยากจน เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ของชาวบ้านด้วยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้

    ชมภาพ https://www.xinhuathai.com/…/ส่านซีผุด-หลังคาเซลล์แ_20191014

    .com%2Fwww.xinhuathai.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2019%2F10%2FXxjpbeE007578_20191013_PEPFN0A001.jpg
    xinhuathai.com
    ส่านซีผุด 'หลังคาเซลล์แสงอาทิตย์' ช่วยชาวบ้านแก้จนด้วยพลังงานสะอาดXinhuaThai | XinhuaThai
    ดอกไม้ (39).jpg

    พลังงานแสงอาทิตย์
    ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป
    Screenshot_2019-10-14 พลังงานแสงอาทิตย์ - ค้นหาด้วย Google.png

    รถพลังแสงอาทิตย์
    ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป
    Screenshot_2019-10-14 รถพลังแสงอาทิตย์ - ค้นหาด้วย Google.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2019
  10. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    ไทยคู่ฟ้า
    1 ชม.

    #ไทยคู่ฟ้าแอดมินขอเตือน❗️...อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่หลอกว่าสามารถทำใบขับขี่ออนไลน์ให้ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ฐาน “ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ” มีโทษ⚠️จำคุก 6 เดือน - 5 ปี ปรับ 1,000 - 10,000 บาท โดยใบขับขี่ที่ถูกต้องนั้นสามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ สำนักงานขนส่งจังหวัด สำนักงานขนส่งสาขา หรือสถานที่อื่นตามที่กรมการขนส่งฯ ประกาศเท่านั้นครับ

    c_oc=AQkJ0maXHO4CnuQhgFWszqVVvoD39Hfad2jXTpL9cU4J7H6_tiZB24IkaTXzZCK5hO0&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  11. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
  12. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    562000010633402.jpg
    --------------------------------------------------------------------
    จาก facebook
    สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
    12 นาที ·
    Y4w0_D7rVefg7_vshpexQERi3jZwLMxWq2zuPpjx6bQ0mUdl6y4loc2_3wBqZvDnKFfn70w7&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    At HeaR
    23 นาที ·
    เปิดคำสั่งตั้ง "พงศ์พร" ที่ปรึกษานายกฯ ด้านพุทธศาสนา

    ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2562 ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการพระพุทธศาสนา ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562นั้น

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว มีรายละเอียด ว่า เพื่อให้การทำนุบำรุง การส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา การพัฒนางานพระพุทธศาสนา การดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติ ตลอดจนการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาบุคลากรในพุทธศาสนา เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เรียบร้อย มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการพระพุทธศาสนา โดยให้มีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้

    1. ศึกษา วิเคราะห์ ให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะ ประสานงาน เร่งรัด และติดตามการดำเนินงานด้านการพระพุทธศาสนา

    2. ปฏิบัติหน้าที่อื่น ตามที่นายกรัฐมนตรี หรือนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มอบหมาย

    3. รายงานความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรค และมาตรการแนวทางในการแก้ไข รวมทั้งผลการปฏิบัติหน้าที่ต่อนายกรัฐมนตรี ผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นระยะ

    ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ให้การสนับสนุนการ ดำเนินงานของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการพระพุทธศาสนา ตามที่ร้องขอ และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการพระพุทธศาสนา โดยให้ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการพระพุทธศาสนา อยู่ในความควบคุม การกำกับ ดูแล ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

    #At_HeaR #ข่าวจริงเข้าหู #ที่ปรึกษานายก #ด้านการพระพุทธศาสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2019
  13. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    43 นาที

    ท่านนายกฯ และภริยา เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้เวลา13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ พระโรงมัตซึโนมะ พระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียวค่ะ

    75279411_414619376125747_8502484492303204352_n.jpg

    ลายไทย1.jpg
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    4 ชม.
    ท่านนายกฯ เข้ารับฟังการบรรยายสรุป การเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ณ ห้องมัทสึชั้น 4 โรงแรมอิมพีเรียล โฮเต็ล โตเกียว

    ทั้งนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ พระชนมพรรษา 59 พรรษา เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ลำดับที่ 126 แห่งราชวงศ์ยามาโตะหรือราชวงศ์ดอกเบญจมาศ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นรัชสมัย "เรวะ" ซึ่งหมายถึงความสงบ ความเป็นระเบียบ ความสามัคคี และความปรองดองอันดีงาม หลังการทรงประกาศสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโต พระราชบิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. แต่การครองสิริราชสมบัติของพระองค์จะถือว่า "สมบูรณ์และเป็นทางการ" ภายหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้

    72778891_414499336137751_1488790717407952896_n.jpg 73016134_414499362804415_340109758566498304_n.jpg 73504771_414499382804413_7505515341863190528_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2019
  14. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
    3 ชม.

    มหาเถรสมาคมชุดใหม่ กับการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา

    ขณะนี้ประเทศไทยได้มีคณะกรรมการมหาเถรสมาคมชุดใหม่ ประกอบด้วยสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน และมีกรรมการมหาเถรสมาคมอีก 20 รูป ซึ่งพระมหากษัตริย์ แต่งตั้งตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี พ.ศ. 2561

    พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2505 ก่อนการแก้ไข ได้กำหนดให้มหาเถรสมาคมประกอบด้วย สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน สมเด็จพระราชาคณะทุกรูปเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และพระราชาคณะซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งไม่เกิน 12 รูป แต่พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2561 กำหนดว่าการแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคมเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์

    พระเถระใหม่ที่ได้เป็นกรรมการมหาเถรสมาคมครั้งแรก มีจำนวนถึง 9 รูป หนึ่งในนั้น คือ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย วัดไตรมิตรวิทยาราม) อยู่ด้วย อย่างไรก็ตามคณะกรรมการดังกล่าวมีสัดส่วนระหว่างธรรมยุติและมหานิกาย ฝ่ายละ 10 รูป เท่ากัน โดยไม่นับสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงเป็นพระสงฆ์ธรรมยุติ และมีข้อสังเกตว่า กรรมมหาเถรสมาคมทั้งหมดสังกัดอยู่ที่วัดในกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น

    กรรมการมหาเถรสมาคมถือเป็นองค์กรสูงสุดของสงฆ์ในประเทศไทย เพราะพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ที่ออกในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดอำนาจให้มีหน้าที่เสมือน ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ (วินัยธร) ของสงฆ์ อำนาจของคณะกรรมการมหาเถรสมาคมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากได้พระที่มีความกระฉับกระเฉง กระตือรือร้นในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบและโครงสร้าง หรือที่เรียกกันว่าปฏิรูปกิจการของพระพุทธศาสนา ให้สอดคล้องกับพระธรรมวินัยก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

    ในฐานะที่เคยร่วมในคณะกรรมการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้เคยหยิบยกประเด็นที่ต้องพิจารณา ดังนี้

    (1) ทรัพย์สมบัติของวัดและของพระ ถือเป็นปัญหารูปธรรม จับต้องได้ และประชาชนทั่วไปก็มองเห็นสภาพฟอนเฟะในปัจจุบัน

    ถึงเวลาจะต้องปฏิรูประบบการบริหารจัดการทรัพย์สินและรายได้ของวัดและของพระ
    โดย “พุทธบริษัท 4” คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพื่อแบ่งเบาภาระ ตัดทอนกิเลส และทำให้เกิดความโปร่งใสสูงสุดต่อพระพุทธศาสนาส่วนรวม

    หลักสำคัญ คือ ทรัพย์สิน เงินทอง รายได้ รวมถึงผลประโยชน์อื่นใดที่ได้มาจากการดำเนินการภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ย่อมตกเป็นของพระพุทธศาสนา หาใช่ทรัพย์สินส่วนบุคคลของผู้ใด ไม่ว่าจะพระสงฆ์รูปไหน ๆ หรือวัดใด ๆ ก็ตาม

    ดร.ปรีชา สุวรรณทัต ได้เขียนบทความมีข้อเสนอแนะในประเด็นนี้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ยืนยันว่าหลักกฎหมายโดยรวมก็มุ่งเช่นนั้น แต่ได้ระบุถึงจุดอ่อนข้อบกพร่องที่เป็นช่องทางหลบเลี่ยงในปัจจุบัน และแนะนำว่า

    “ในส่วนที่จะต้องแก้ไขหรือยกเลิกไปเลย ก็คือ มาตรา 1623 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้บัญญัติว่า “ทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศนั้น เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพ ให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น เว้นไว้แต่พระภิกษุนั้นจะได้จำหน่ายไปในระหว่างชีวิตหรือโดยพินัยกรรม”

    จะเห็นได้ว่า ในมาตรานี้มีช่องว่างในทางกฎหมายที่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ โดยนำทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างที่อยู่ในสมณเพศ เช่น เขาถวายที่ดินให้กับวัด แต่ได้ใส่ชื่อเจ้าอาวาส หรือพระภิกษุรูปหนึ่งในวัดนั้นมีชื่อเป็นเจ้าของ ที่ดินตามโฉนด แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วเขามีศรัทธาที่จะถวายให้กับวัดโดยตรง โดยช่องว่างของกฎหมายดังกล่าว ก่อนที่พระภิกษุจะถึงแก่มรณภาพ หรือถ้าสึกไปก่อน ที่ดินนั้นก็จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้นั้นไปเลย หรืออาจจะหลีกเลี่ยงได้โดยการจำหน่ายจ่ายโอนในระหว่างมีชีวิตให้กับคนอื่น หรือหลีกเลี่ยงโดยการทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้กับบุคคลอื่น เพราะฉะนั้น เมื่อถึงแก่มรณภาพ ทรัพย์สินนั้นก็จะไม่ตกเป็นสมบัติของวัด

    จึงมีความเห็นสอดคล้องกับท่านผู้รู้ ที่ควรจะได้มีการแก้ไขกฎหมายมาตรานี้ให้เป็นไปในหลักการใหม่ว่า “ทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศนั้น ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น ตั้งแต่วันที่ได้ทรัพย์สินนั้นมา” ในกรณีทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ (เช่น แก้วแหวนเงินทอง รถยนต์) ที่มีราคาสูง ก็ควรตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด เช่นเดียวกับอสังหาริมทรัพย์...”

    ปัจจุบันวัดถือเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าอาวาสเป็นตัวแทนของนิติบุคคลที่จะทำนิติสัมพันธ์แต่เพียงผู้เดียว สมควรที่จะพิจารณาให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในลักษณะเป็นคณะกรรมการดูแลทรัพย์สินของวัด จัดทำบัญชีและเปิดเผยบัญชีอย่างโปร่งใส ให้สามารถตรวจสอบจากคณะกรรมการของมหาเถรสมาคมได้เป็นปัจจุบันทันที เนื่องจากปัจจุบันมีระบบเทคโนโลยีสื่อสารสนเทศ ที่สามารถเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้และช่วยกันตรวจสอบ

    การให้เจ้าอาวาสซึ่งส่วนมากชราภาพ เป็นผู้มีอำนาจทำนิติสัมพันธ์แต่เพียงผู้เดียว อาจล่วงรู้ไม่ทันกับผู้ที่จะเข้ามาหาผลประโยชน์จากวัดและพระพุทธศาสนา

    (2) คนที่ตัดสินใจบวชเป็นพระแล้ว จะต้องศึกษาและปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง มิใช่เข้ามาบวชเพียงเพื่อหวังจะประกอบอาชีพ หารายได้ส่วนตัว โดยจะต้องมีการสร้างระบบให้การศึกษากับพระสงฆ์ มีกลไกบังคับให้พระต้องปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด หากพระสงฆ์รูปใดไม่ปฏิบัติก็จะต้องมีระบบตรวจสอบและขจัดออกจากการเป็นพระ

    (3) จัดการกับลัทธิที่มีพฤติกรรมทำพระธรรมวินัยให้วิปริต และการประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย ใช้โลโก้พระพุทธเจ้า ใช้เครื่องแบบพระพุทธศาสนามาแอบอ้าง เลียนแบบ ทำปลอมแปลง แสวงหาผลประโยชน์ บิดเบือนพระธรรมคำสอน มุ่งค้าบุญ
    ควรจะต้องมีคณะกรรมการทำหน้าที่ชำระการปฏิบัติที่ผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัย

    ซึ่งกรณีพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนานั้น มีความจริงแท้อยู่แล้ว ควรให้มีคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณากรณีละเมิดพระธรรมวินัยอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดก็จะต้องถูกลงโทษ คล้ายๆ ศาลรัฐธรรมนูญ ใครบิดเบือนหรือกระทำละเมิดรัฐธรรมนูญก็จะต้องถูกตัดสินว่ามีความผิด ไม่อาจกระทำได้ภายใต้รัฐธรรมนูญ

    (4) พิจารณาระยะห่าง-ระยะชิด ของอาณาจักรกับพุทธจักร ให้อำนาจรัฐและพุทธบริษัท 4 เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปองค์กร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา โดยยึดหลักพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ กฎหมายบ้านเมืองที่จะใช้กับพุทธจักร ก็จะต้องดูแลให้สอดคล้องกับพระธรรมวินัย

    พิจารณากระจายอำนาจของมหาเถรสมาคม ที่มีทั้งอำนาจบริหาร-นิติบัญญัติ-ตุลาการ (วินัยธร) ให้พุทธบริษัท 4 ในท้องถิ่นต่าง ๆ ได้มีส่วนอุปถัมภ์ค้ำชู กำกับดูแลกิจการพระพุทธศาสนา ดังที่พระพุทธเจ้าฝากพระศาสนาไว้กับพุทธบริษัท 4

    (5) ปฏิรูประบบการเรียนรู้ของพุทธศาสนิกชน ให้เข้าใจแก่นธรรมของพระพุทธศาสนา และเตรียมความรู้เท่าทันของพุทธศาสนิกชน ให้ตระหนักว่าสังคมส่วนใหญ่ของโลกนับถือหลายศาสนา เช่น นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับเพื่อนมนุษย์ที่นับถือศาสนาอื่น ๆ อย่างมีสันติภาพและเข้าใจกันและกัน พึงต้องเข้าใจแก่นธรรมของศาสนาอื่น ๆ ด้วย

    การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาทั้งหมดนี้ ต้องอาศัยคณะกรรมการมหาเถรสมาคมร่วมกับพุทธบริษัท 4 ผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็ง เอาจริงเอาจัง ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของวัดและของพระ เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623 ตามที่กล่าวข้างต้น เข้มงวดกวดขันผู้ที่ตัดสินใจบวชเป็นพระต้องศึกษาและปฏิบัติธรรม อีกทั้งจัดการกับลัทธิที่มีพฤติกรรมทำลายพระวินัยให้วิปริตและประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย

    ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
    ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต

    jchRN6U4PHWI7oFOiNxE7UV3kSAg54SujN6dSdlUgXfFAMPcdqOXhfjS9A4cT9vEuJIYV5xl&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2019
  15. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    People's Daily, China
    1 ชม.

    ตำรวจฮ่องกงมีความยับยั้งมากกว่าตำรวจในส่วนอื่นของโลก
    · ดูข้อความเดิม ·ให้คะแนนคำแปลนี้



    จุดสี.jpg
    People's Daily, China
    17 ชม. ·
    เพลิดเพลินไปกับมุมมองแนวตั้งที่งดงามของลิฟต์ท่องเที่ยวกลางแจ้งที่มีคุณภาพสูงสุดในโลกใน zhangjiajie, c china ' s #hunan

    · ดูข้อความเดิม ·ให้คะแนนคำแปลนี้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2019
  16. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2019
  17. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    22 ชม.

    นายกรัฐมนตรีและภริยา เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สมเด็จพระจักรพรรดิและ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นพระราชทานเลี้ยงอย่างเป็นทางการแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น (Kyoen-no-gi: The Court Banquet After the Ceremony of the Enthronement) ณ พระราชวังอิมพีเรียล

    74847894_415350232719328_5075154972971106304_n.jpg 72968068_415350276052657_8401050211018866688_n.jpg

    75252885_415350329385985_3553440771438804992_n.jpg 73416034_415350592719292_2588163239783170048_n.jpg

    73495296_415350382719313_3448102648350244864_n.jpg 74674501_415350536052631_8725519567004106752_n.jpg 72668788_415350422719309_3478076799907266560_n.jpg

    ลายไทย2.jpg
    จาก facebook
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    30 นาที

    วันนี้ (23 ตุลาคม 2562) เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีพบหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ (H.E. Mr. Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในห้วงการเข้าร่วม พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ณ ทำเนียบรับรองของรัฐบาลญี่ปุ่น (State Guesthouse)

    นายกรัฐมนตรี กล่าวในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย แสดงความยินดี เนื่องในโอกาสพระราชพิธี บรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น โดยชื่นชมรัฐบาลญี่ปุ่นที่จัดพระราชพิธีได้อย่างสมพระเกียรติ ปีนี้ถือเป็นปีมหามงคลของทั้งไทยและญี่ปุ่น โดยไทยได้จัดพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำและกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีอาเบะ และการบริหารจัดการภัยพิบัติที่เป็นเลิศของรัฐบาลญี่ปุ่น จะทำให้ญี่ปุ่นจะสามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ไต้ฝุ่นฮากิบิสได้อย่างรวดเร็ว

    ด้านนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของของสมเด็จพระจักรพรรดิ แห่งญี่ปุ่น และหวังว่าจะพบกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 (ASEAN Summit) ในต้นเดือน พฤศจิกายนนี้

    ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือเพื่อผลักดันประเด็นความร่วมมือ ทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริม การลงทุน และการยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการค้าเสรี และความร่วมมือในการพัฒนาประเทศที่สาม รวมทั้งเห็นพ้องจะเร่งผลักดันการเจรจา RCEP ให้สำเร็จ รวมทั้งขยายผลความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น และการเข้าร่วม TPP

    ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความพร้อมของไทย ในการจัดการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือ ลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 11 ในฐานะประธานร่วมกับญี่ปุ่น ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ที่กรุงเทพฯ โดย ไทยมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นในการขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2018 และข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030

    จากนั้นในเวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่น และภริยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยง เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จ พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ณ โรงแรมนิวโอตานิ โตเกียว

    73064938_415475306040154_3256264261877366784_n.jpg 73403913_415475326040152_850666844757950464_n.jpg

    75341140_415475359373482_2072354314826809344_n.jpg 73014242_415475429373475_5129516120633507840_n.jpg
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2019
  18. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    นครปฐม : ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย
    ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป

    Screenshot_2019-10-23 นครปฐม ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย - ค้นหาด้วย Google.png

    สถานที่เที่ยว > https://sites.google.com/site/sthanthitheiyw1234/
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2021
  19. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    วินทร์ เลียววาริณ
    1 ชม.

    ชัค ฟีนีย์ กับภรรยา เฮลกา เช่าอพาร์ตเมนต์เล็กๆที่ ซานฟรานซิสโก เขาไม่มีรถยนต์ ไม่มีข้าวของหรู ไม่มีเครื่องประดับ เขาสวมนาฬิกาพลาสติกคาสิโอเรือนละ 15 เหรียญ

    เขามักเดินทางชั้นประหยัด หิ้วของด้วยถุงพลาสติก กินอาหารง่ายๆไม่แพง ไม่เข้าภัตตาคารหรู ดื่มไวน์ราคาถูกเกือบที่สุดในร้าน

    ดูเผินผ่าน ชายวัยใกล้ 90 ผู้นี้เป็นคนยากจน
    แต่เขาเคยมีทรัพย์สินมากถึงแปดพันล้านดอลลาร์ และละลายมันไปหมดสิ้น
    ชัค ฟีนีย์ บริจาคทรัพย์สินมูลค่าแปดพันล้านดอลลาร์ให้สังคม เพื่อพัฒนาโลกให้ดีขึ้น
    ...............

    ชัค ฟีนีย์ เป็นชาวอเมริกัน เชื้อสายไอริช เติบโตที่ถิ่นคนไอริช ณ อลิซาเบธ เมืองคนงานใน นิวเจอร์ซีย์ เขาภูมิใจรากเหง้าของเขามาก และมีความผูกพันกับแผ่นดินต้นกำเนิด

    ระหว่างสงครามเกาหลี ชัคเป็นเจ้าหน้าที่วิทยุในกองทัพอากาศ เรียนจบมหาวิทยาลัยคอร์แนลด้วยทุนของกองทัพ จบปี 1956 เดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อเรียนต่อ แต่เขาไปทำธุรกิจโดยขายสินค้าให้ทหารเรือที่ไปประจำท่าเรือต่างๆ

    ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1960 ชัคร่วมทุนกับเพื่อนชื่อ รอเบิร์ต มิลเลอร์ ก่อตั้งบริษัท Duty Free Shoppers จำหน่ายเหล้าบรั่นดี ซิการ์ น้ำหอม เพชรพลอย ฯลฯ ที่ฮ่องกง ให้นักท่องเที่ยวในร้านดิวตี-ฟรีของสนามบินต่าง ๆ ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม สี่ปีต่อมา ร้านของพวกเขาขยายไป 27 ประเทศ พนักงานสองร้อยคน

    แม้ว่าความคิดเรื่องร้านดิวตี-ฟรีเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1947 ที่ไอร์แลนด์ แต่ด้วยฝีมือของ ชัค ฟีนีย์ และเพื่อนที่ทำให้มันแพร่หลายไปทั่วโลก

    ในปี 1964 รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดประเทศหลังสงคราม ชาวญี่ปุ่นสามารถท่องโลกได้ ด้วยเงินตรามากมาย นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นโลดแล่นไปทั่วโลก จุดที่นิยมคือฮาวายและฮ่องกง ฟีนีย์จ้างพนักงานสาวชาวญี่ปุ่นและไกด์มาทำงาน กิจการขยายตัวออกไปในวงการอื่น ร้านดิวตี-ฟรีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วสหรัฐฯและเมืองใหญ่ๆทั่วโลก ทำเงินมหาศาล

    ธุรกิจของเขาไปโลดมาก จนนิตยสารฟอร์บส์จัดเขาเป็นคนรวยอันดับที่ 31 ในอเมริกา
    แต่ฟอร์บส์พลาดสองเรื่อง ข้อหนึ่ง เขารวยกว่าตัวเลขที่ฟอร์บส์คำนวณ และ ข้อสอง ความรวยระดับอภิมหาเศรษฐีของเขาอันตรธานไปแล้ว
    ...............

    วันที่ 23 พฤศจิกายน 1984 ชัคกับภรรยาคนแรกและทนายความ บินไปที่นัสซอ เมืองหลวงของบาฮามาส์ ศูนย์กลางการเงินของโลก กระทำเรื่องลับ ที่นั่นเขาเซ็นเอกสารโอนถ่ายทรัพย์สินทั้งหมดของเขา หุ้น 38.75 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจดิวตี-ฟรี ของเขาฯลฯ ไปไว้ในมูลนิธิที่เขาเพิ่งก่อตั้ง คือ Atlantic Philanthropies แล้วกลับบ้าน

    เขาเป็นอภิมหาเศรษฐีแค่ชื่อเท่านั้น ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่เพื่อนของเขา มันเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาและคนล้านๆคนในโลก

    หลังจากนั้น ชัค ฟีนีย์ ก็ดำเนินธุรกิจไปตามเดิม หาเงิน แต่เงินทั้งหมดที่หาได้ถูกมูลนิธิลึกลับนี้นำไปช่วยเหลือคนทั้งโลก ส่วนใหญ่ในเรื่องการศึกษา

    มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตแบบชาวไอริชในอเมริกา ที่สอนให้ประหยัดและช่วยเหลือกัน ชัคเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เรียบง่าย พอเพียง พ่อแม่ช่วยเหลือชาวบ้าน แม่เป็นนางพยาบาล สอนเขาด้วยการกระทำ ช่วยเหลือคนอื่นเสมอ

    เขายังได้รับแรงบันดาลใจจากข้อเขียนของ เดล คาร์เนกี ชื่อ The Gospel of Wealth ที่เขียนว่า “มหาเศรษฐีคือคนดูแลทรัพย์สินให้คนจน”

    เขาเชื่อว่าทางช่วยเหลือทั้งบ้านเกิดเมืองนอนของเขาและโลกคือการศึกษา ตลอดสามสิบปีต่อมา เขาบริจาคเงินมหาศาลเข้าสถาบันศึกษาต่างๆ และขอให้สถาบันไม่เผยชื่อผู้บริจาค มหาวิทยาลัยและองค์กรการกุศลจำนวนมากไม่รู้ว่าเงินมาจากไหน จนบางครั้งเชื่อว่ามันเป็นเงินของพวกมาเฟีย

    เขาให้เงินจำนวนมากแก่มหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังบริจาคไปที่เวียดนาม ออสเตรเลีย คิวบา แอฟริกาใต้
    ...............

    แม้จะส่งเงินทองให้มูลนิธิแทบหมดแล้ว ชัคยังทำงานหาเงินต่อไปอย่างเข้มข้น ขยายธุรกิจดิวตี-ฟรี หาตลาดใหม่ๆ เขารักการหาเงิน แต่ไม่ใช่เพื่อสนองตัณหาการใช้จ่ายของตัวเอง

    ชัคบอกว่า “ผมไม่ได้เกลียดเงิน แต่คุณใช้เงินได้เท่าที่คุณใช้นั่นแหละ”

    มหาเศรษฐีจำนวนมากจ้างนักการตลาดประชาสัมพันธ์ตนเองเมื่อทำเรื่องการกุศลสักอย่าง แต่ต่างจากคนรวยที่บริจาคจำนวนมาก เขาไม่เคยให้ชื่อของเขาปรากฏบนป้ายติดอาคารที่เขาสร้างทั้งหลาย เขาเก็บมันเป็นความลับ

    ทว่าความลับของเขาก็แตกในปี 1997 เมื่อเขาและหุ้นส่วนขายหุ้น ทำให้โลกรู้ว่าทรัพย์สินของเขาเป็นขององค์กรการกุศล

    นิตยสาร Forbes ให้สมญาเขาว่า เจมส์ บอนด์ แห่งการกุศล เพราะเขาเดินทางไปทั่วโลก ปฏิบัติภารกิจลับ อุทิศเงินเพื่อการศึกษา สาธารณสุข สิทธิมนุษยชน

    ในเดือนมีนาคม ปี 2003 เขาก้าวไปอีกขั้น โดยเซ็นมอบยกทรัพย์สินทั้งหมดในชีวิตของตนให้องค์กรการกุศล

    ชัค ฟีนีย์ เชื่อในปรัชญาที่เขาเรียกว่า Giving While Living คนเราควรให้ตอนที่ยังมีชีวิต ไม่ใช่หลังตายไปแล้ว

    เขาอาจเป็นมหาเศรษฐีคนเดียวในโลกที่ให้เงินเพื่อการกุศลออกไปเกือบหมดขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

    เขาบอกคนอื่นว่า อย่ารอจนแก่หรือตายค่อยให้เงินคนอื่น ให้เงินไปตอนที่ยังมีแรง สายสัมพันธ์ และอิทธิพลที่จะสร้างให้มันเกิดขึ้น

    เขาบอกว่า “ถ้าคุณให้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เงินจะทำงานอย่างรวดเร็ว ทุกคนจะเห็นการกระทำและผลลัพธ์ ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่เราเป็น ปัญหาที่เราแก้คือปัญหาที่เราจัดการทำอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้จริงๆ”

    เขาเป็นนักลงทุน มีวิสัยทัศน์และจมูกไวในเรื่องธุรกิจ และเขาก็ใช้วิสัยทัศน์ของนักธุรกิจในการกุศล

    ชัค ฟีนีย์ บอกว่า คนมีเงินมากมีหน้าที่บางอย่างเพื่อสังคม เขาเห็นว่าจุดหมายของความร่ำรวยก็คือการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของมนุษยชาติ

    ภาพลักษณ์ของเขาที่คนอื่นมองคือคนประหยัด แต่ความจริงเขาเป็นคนที่ใช้เงินอย่างฉลาดต่างหาก เขาใช้เงิน ไม่ให้เงินใช้ตัวเขา เขาประหยัดในเรื่องที่สมควรประหยัด แต่ไม่ประหยัดหากมองเห็นว่าสมควร เช่น ครั้งหนึ่งเมื่ออยู่ที่เวียดนาม เขาให้ลูกน้องกลับสหรัฐฯด้วยเครื่องบินคองคอร์ด เพื่อให้ลูกน้องกลับบ้านทันฉลองวันหยุดกับครอบครัว

    ส่วนตัวเขาเอง มักบินชั้นประหยัด เขาบอกว่าบินชั้นหนึ่งหรือชั้นประหยัด ก็ถึงจุดหมายพร้อมกัน

    เช่นเดียวกัน สวมนาฬิกาโรเล็กซ์หรือคาสิโอ ก็บอกเวลาได้เหมือนกัน

    ชัค ฟีนีย์ เป็นแรงบันดาลใจให้มหาเศรษฐีจำนวนมากเดินตามรอย เช่น วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ และ บิล เกตส์ รวมไปถึง อามิต จันทรา มหาเศรษฐีชาวอินเดีย ผู้บริจาคเงินส่วนใหญ่ของตนเพื่อสร้างโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล

    ชัคไม่ต้องการ ‘บีบ’ มหาเศรษฐีคนใดให้ทำตาม หรือตัดสินคนที่ไม่ยอมคืนกำไรให้สังคม แต่เขาบอกว่า ถ้าทำอย่างที่เขาทำ “มันสนุกมาก”

    มันสนุกมากที่บริจาคจนเหลือเงินเพียงสองล้านเหรียญ หรือเท่ากับ 0.001 เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินแปดพันล้านที่เขาเคยครอบครอง

    มีคนถามเขาว่าทำไปทำไม
    เขาตอบว่า “มันเป็นสิ่งถูกต้องที่จะทำ”
    และมันเป็นสิ่งถูกต้องที่ใช้ชีวิตง่าย ๆ พอเพียง
    เพราะ “คุณสามารถสวมกางเกงครั้งละตัว”
    ...............

    จากหนังสือใหม่เรื่อง ความสุขเล็ก ๆ ก็คือความสุข
    โดย วินทร์ เลียววาริณ

    71705767_2445122792430339_6335939581875060736_n.jpg

    แท็ก : ชัก ฟีนีย์/ วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์/ บิล เกตส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2019
  20. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +662
    จาก facebook
    ลุยจีน Shoot2China
    1 ชม.


    ลุ้นว่าที่ไหนและเมื่อไหร่ต่อไป...

    "หัวเว่ยจะเปิดตัว Huawei Academy ขึ้นในประเทศไทย เพื่อเฟ้นหาและส่งเสริมบุคลากรที่มีทักษะด้านไอซีที พร้อมส่งเสริมให้ประเทศเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 และด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างคลาวด์ เอไอ และซูเปอร์คอมพิวติ้ง หัวเว่ยสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลได้ทั้งในส่วนขององค์กรภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ช่วยส่งเสริมนวัตกรรมให้แก่บริษัท Startup และ SME บ่มเพาะให้เกิดอีโคซิสเต็มแห่งนวัตกรรมบนรากฐาน 5G และขับเคลื่อนความสามารถด้านนวัตกรรมของไทยจากระดับรากฐาน ทั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันสร้างอีโคซิสเต็มของภาคอุตสาหกรรมเพื่อสังคมอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออย่างไร้ที่ติในอนาคต"

    com%2Ftechsauce-prod%2Fugc%2Fuploads%2F2019%2F10%2F1200_630_57A9326C-00BB-4CDC-A599-80D2886FE93F.jpg
    techsauce.co
    รองนายกฯ จับมือ Huawei เตรียมเปิดตัว Huawei Academy ปั้น Startup ไทยด้วย 5G
    จุดสี.jpg
    จาก facebook
    Thailand Vision
    5 นาที

    เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายเหริง เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารบริษัทหัวเว่ย ร่วมกันเป็นสักขีพยานการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัทหัวเว่ย และ สำนักสำนักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ที่เมืองเสิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน

    โดย MOU ครอบคลุมความร่วมมือหลายด้านโดยบริษัทหัวเว่ย จะก่อตั้ง Huawei Academy ในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์อบรมบ่มเพาะบุคลากรด้านดิจิทัลและ ICT สำหรับภูมิภาคอาเซียนจะเปิดทำการจริงในเดือนหน้านี้

    ก่อนหน้านี้ สวทช. และสนช.ได้ร่วมกับบริษัทหัวเว่ยประเทศไทย ในการคัดเลือกผู้ประกอบการรุ่นแรกเข้ารับการอบรมที่ไทยและจีนเป็นเวลา 6 วัน รวมทั้งจะได้ลงนาม MOU เพื่อร่วมกันพัฒนา Huawei Academy สำหรับการอบรมกำลังคนด้านดิจิทัลของไทย เพื่อสร้างสังคมนวัตกรรมที่ยั่งยืนร่วมกันในระยะต่อไป
    ---------------------------
    แหล่งข้อมูล
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/851768
    ---------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision

    ZD6loa06A78tNZWxLF7n2Pz4foPU6lNbC4h5yvYkCsaQ-OoEiarp0cClx0jPh5WdRiSCWWR6&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...