นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)

จัดส่งของขวัญปีใหม่ให้เกือบครบแล้วครับ เหลือพรุ่งนี้อีกนิดหน่อย

หากมีผิดพลาดแจ้งมาได้

วิธีใช้ตะกรุดตามฝอยครับ รอที่ปรึกษากับ QC รีวิวกระแสได้

คำเตือน สำหรับการใช้ตะกรุดปิตุ 9 ชั้น ในการวางหินคุ้มบ้าน ควรทำน้ำมนต์ล้างบ้านก่อนนะครับ

ด้วยการใช้ตะกรุดแต่งขันธ์ 5 บอกกล่าวครูบาอาจารย์ทุกท่าน แช่น้ำทำน้ำมนต์ประพรมบ้าน หากมีชั้นบนให้พรมจากบนลงล่าง (ขับไล่) พรมเพดานอะไรด้วยนะครับ จากนั้นค่อยวางหินคุ้มตามวิธี

ตะกรุดนำวางรวมกับพระได้ครับ เพราะมาแนวเดียวกันครับ..

แล้วทุกท่านจะประทับใจ ผมภูมิใจมาก ๆ คุ้มค่าแก่การสร้างและรอคอย และคงมีรุ่นเดียวเท่านั้น เพราะเหนื่อยยากมาก ๆ

รอที่ปรึกษารีวิว จะได้แซวหน่อยว่าแรงสูสีสายเหนือของท่านป่าว 5555 แต่วิธีใช้ ผมมั่นใจในสายที่ผมเรียนมาว่าพิสดารแน่นอน...

 

ตะกรุดปิตุ 9 ชั้น

ได้ลงวิชาหลักมากมายของหลวงปู่โน

1.ปิตุ 9 ชั้น
2. ลูกคะฌาณ
3. การล้างอาถรรพ์จากร่างกาย หรือที่ท่านเรียกตัดฤทธิ์

ซึ่งหลักการเหล่านี้ แต่เดิมมาจากการทำพิธีกรรมรักษาคุณไสยของหมอธรรม

เพราะแต่เดิมหลวงปู่โนก่อนบวช ท่านเป็นหมอธรรมอีสานมาเรียกว่าเกือบชั่วชีวิตท่าน

ซึ่งตามผมเล่าประวัติไป ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สำลี ซึ่งเป็นศิษย์สำเร็จลุน

ต่อมาหลวงปู่สำลี พาหลวงปู่โนไปพบสำเร็จลุน

ซึ่งวิชาทั้งหมดท่านสอนหลวงปู่ประหยัดผู้เป็นบุตรชาย

ผมพบหลวงปู่ประหยัดตอนท่านเป็นฆราวาสก่อนท่านบวช ซึ่งท่านได้รักษาคุณไสยให้ผมด้วย (ตอนนั้นผมโดนหนักมาก ไปหาพระเก่งๆ เรียกว่าเกือบทั่วประเทศไม่หายขาดครับ)

หลังผมหายดี ท่านก็ตามให้ไปยกครูเรียนเองเลย

ต่อมาผมได้พบที่ปรึกษาตามเล่าประวัติไปแล้ว
http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=74729

ซึ่งที่ปรึกษาก็ได้พบหลวงปู่โน ในนิมิตรฝัน โดยมากับครูบาข่ายครับ โดยที่ปรึกษาก็นับถือท่านเช่นกัน เอารูปท่านวางบนโต๊ะหมู่บูชาเลย

สรุป..ตะกรุดนี้สร้างตามที่ผมเคยสอบถามหลวงปู่ประหยัดว่า หากไม่ได้ทำพิธีกรรมเพราะยุคนี้กว่าจะทำทียุ่งยากหากประยุกต์วิชามาเป็นเครื่องรางได้ไหม

ท่านบอกต้องรวมวิชาทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียว

หลังผมเปิดเพจมีดหมอฯ ก็ได้พบสายหลวงปู่โนหลายท่านติดต่อมา และได้พบสหธรรมิกหลวงปู่ประหยัดที่ผมเคยพบตอนท่านสร้างที่พักสงฆ์แรก ๆ แบบมาช่วยกันสร้าง

ซึ่งผมก็ได้สอบถามวิชามาหลายบท

ทำให้รวมวิชาทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวได้ โดยสหธรรมมิกหลวงปู่ประหยัดเป็นผู้จารครับ...แต่... หาผู้เสกสิยุ่งยาก ครั้งเราเสกเองก็ไม่เก่งเท่าครูบาอาจารย์อีก ซึ่งการเสกจากแนวทางที่ปรึกษาต้องสายเดียวกัน

ก็เลยประสบความสำเร็จดังวันนี้นี่เองครับ... ได้ครูบาอาจารย์ที่ ที่ปรึกษายกย่องว่า

"อภิมหาพิสดาร โคตรไร้เทียมทาน..." (ขอปิดนามกันพวกมารไปหาผลประโยชน์กับท่านครับ เดี๋ยวผมจะโดนด่าเอา55)

 

ขอโม้นิด ปกติผมจะไม่โฆษณา แต่ตะกรุดหมดแล้ว โฆษณาได้

ผมได้ลองทำน้ำมนต์อาบเองแล้วครับ เอาน้ำเปล่าเพียวๆ ไม่ผสมหัวเชื้อน้ำมนต์ใด

ตะกรุดดอกเดียว ไม่เอาของอื่นมาปน ลองฤทธิ์

ใช้ขันธ์ 5 ยืมเอาจากพานพระนั่นละครับ คือใส่รวมพระบอกกล่าวครูบาอาจารย์ ปรมาจารย์สำเร็จลุนเป็นสูงสุด

แช่น้ำ อธิษฐานใช้ใจนี่ละครับ ดึงพลัง

แล้วหยิบตะกรุด ออก อาบราด หันหน้าไปทิศตะวันตก อาบในห้องน้ำละครับ เพราะไม่มีพื้นที่ (ดีที่สุดคืออาบให้น้ำลงดิน)

ผลคือ .... ร้องจ๊าก หนาวถึงหัวใจ ตัวสั่นอยู่นานหลายนาที

จำความรู้สึกได้ นี่ละครับ ที่ตามหา เพราะรู้สึกเหมือนน้ำมนต์ที่อาบตอนพิธีใหญ่ที่หลวงปู่ประหยัดอาบให้หลังรักษาเสร็จแล้ว

ผมเองเคยทำน้ำมนต์มามาก ใช้มีดหมอ กริช ก็มาก แต่ก็เทียบกับน้ำมนต์พิธีใหญ่สายหลวงปู่โนไม่ได้เลย

ครั้นจะทำพิธีใหญ่ ก็ยุ่งยาก ตามเล่าไป ต้องอยู่คนเดียว สวดทีเป็น ชม.ลิ้นห้อย ใช้เทียนอีก แต่งขันธ์ 8 ขันธ์ 5 อีก จุกจิกมาก

สรุป นี่คือสิ่งที่ตามหา และย้ำ ไม่มีให้บูชาเพิ่มครับ หวงสุดชีวิต จะเก็บไว้หล่อหนุมาน ดอกนึง (ตอนแรกคิดจะใช้ 2 ดอก ลดแล้วใช้หล่อหนุมานดอกเดียวพอ55)

อีกปัญหา ใช้พานขันธ์ 5 ของพระได้ครับ ไม่ถึงขนาดมาแยกพานแต่ละอย่างผมก็ไม่เน้นจุกจิกขนาดนั้นครับ55

เพิ่มเติม น้ำมนต์นี้ตามหลักวิชาใช้ดับกิเลสมารในใจได้นะครับ... แต่จะบอกว่ากิเลสหายไปก็ไม่ใช่ กลับมาอีกได้ แต่ดับชั่วคราวนะได้ครับ..

กิเลสมารคืออะไร ผู้เรียนวิชาจะทราบดี...คือความร้อนรุ่มแห่งวิชา ใจเราก็มีกิเลสด้วยจะหงุดหงิด ฯลฯ

 

ตะกรุดนี้ใช้รักษา ป้องกันนะครับ ไม่ได้ลงแบบสายครูบาข่ายที่ใช้ปราบคน ปราบมาร

ดังนั้น พกตะกรุดนี้มารยังมาข่มเหงเราได้อยู่ครับ อันนี้ยืนยัน55

ผมเคยถามหลวงปู่ประหยัด มารมาหาเรื่องเรา เราไปเอาคืนมันได้ไหม ใครเก่งกว่า ท่านตอบ

"พวกมารเก่งกว่าเพราะมันทำเราได้ แต่เราทำไรมันไม่ได้ ผิดกฎข้อห้าม 55"

 

สีเนื้อตะกรุดดูแปลกตา เข้มขลังมากเลยนะครับ เพิ่งเคยเห็นตะกรุดสีแบบนี้ แปลกมากๆครับ

 

ทองแดง 99% อบนิ่มครับ เกรดดี

ผมก็พึ่งรู้ทองแดงมีหลายเกรด 55

 

ไม่เคยเห็นทองแดงสีแบบนี้เลยครับ ทุ่มทุนสร้างมากครับ

 

สาธุ

 

การล้างบ้าน แบบเด็ดขาด....

จริง ๆ เรื่องนี้เคยคุยกับที่ปรึกษา....

โดยปกติ ผู้รักษาคุณไสยกันจริง ๆ จะทราบดี อย่างตอนอาบน้ำมนต์ที่บอกให้ไปอาบให้น้ำลงดิน หันไปทิศตะวันตก เพื่อขับออก ทีนี้ คุณไสยอำนาจมืดต่าง ๆ เมื่อโดนล้างก็จะลงพื้นดิน หากอาบในห้องน้ำก็จะตกลงแถวนั้นละครับ

จึงควรให้น้ำซึมลงดินไป

อย่างตอนใช้มีดหมอ กริชปัดคุณไสยที่ติดตามร่างกายเราจะรู้กันว่า ปัดออกมันหายไปไหน หากใช้ตะกรุดกาสะท้อน ก็ส่งกลับไปยังแหล่งที่มา

หากใช้มีด กริชปัด ก็จะตกลงดิน ที่ปรึกษาจะใช้ผ้าขาวรอง แล้วเอาไปเผาไฟ เพราะไฟทำลายได้ทุกสิ่ง

ปัญหาต่อมา ที่มักพบที่อยู่อาศัยผู้โดนคุณไสย แม้เราปัด ล้าง อาบ แต่มักจะมีตกค้าง ที่ปรึกษาใช้คำว่า "ของอาถรรพ์" คือ กริช มีดหมอปัดออกก็จะตกลงพื้นดิน แม้สิ้นฤทธิ์ หรือมีฤทธิ์ค้าง ก็เป็นของไม่ดี

การใช้น้ำมนต์พรมพื้นดิน หรือซอก ตรอกจุดต่าง ๆ ก็แค่ดับฤทธิ์ แต่ หากให้ถึงที่สุด จะใช้สูตรเดียวกัน คือ ใช้ข้าวสารเสก

คือ นำตะกรุดทำน้ำมนต์ปะพรมข้าวสาร (คล้ายใช้ทรายเสก) แล้วซักหว่านให้รอบบ้านไปให้ทั่วทุกมุม ทิ้งไว้ซัก 3 วัน (ทนเดินเหยียบหน่อย) แล้วกวาดไปทิ้งนะครับ

สรรพคุณข้าวสาร จะดูดซับอาถรรพ์

ที่ปรึกษาก็ใช้สูตรนี้ครับ ซัดลงพื้นทิ้งไว้ 3 วันค่อยกวาดออก...

 

เริ่มไปถึงเจ้าของหลายท่านแล้ว

 

ท่าน QC ได้รับแล้วครับ บอกได้แค่ว่า

อภิมหาสุดยอด ด้านป้องกันรักษา แค่สัมผัสพลังยังชำระล้างไปทั่วร่าง เหมือนอาบน้ำมนต์พิธีใหญ่

ผมก็บอก ลองไปทำน้ำมนต์อาบดู สำหรับผม บอกไปแล้ว "นี่ละสิ่งที่ผมตามหา" ครับ

รอที่ปรึกษารีวิว ของถึงท่านแล้วแต่ผู้รับแทนท่านไม่อยู่..

มีตะกรุดนี้ตั้งตัวเป็นเจ้าแห่งน้ำมนต์ได้เลยครับ ด้านรักษานะ

ย้ำ ถ้าโดนหนักๆแบบฝังในร่าง อย่างมีเชื้อปอบยังไม่ใช้อาบแล้วหายนะครับ แต่บรรเทา เป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษา

แต่หากไม่หนักมาก หายแน่นอนแต่ระวังมารทำมาอีกให้ป้องกัน

 

ได้รับเรียบร้อยพร้อม พระที่ระลึก ขอบคุณมากครับ ^^

 

น้ำมันเสน่หขวดเล็กแถมให้ผู้บูชาตะกรุดมหาระงับ กับตะกรุดปิตุ9ชั้นคู่กันนะครับท่านละ 1 ขวด

 

บางท่านอาจสัมผัสตะกรุดแล้วรู้สึกร้อน บางท่านอาจเย็นแล้วแต่ธาตุแต่ละท่านครับ

แต่เชื่อว่า คงเหมือนกริชทิ้งทวน ที่แทบทุกท่านจะรับรู้กันได้เองเลย

การรักษาสายมืดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

การอาบน้ำมนต์เป็นแค่ขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากไม่หนักมากจะเห็นผลแบบปลิดทิ้ง (จากที่พบมาโดยมาก)

แต่หากมีกรรมกันเรื้อรังก็ยาวนานหน่อยครับ แต่ถือว่าดีที่สุดแล้ว เพราะหากมีตะกรุดนี้ก็ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก แค่เปลี่ยนพวงมาลัยพอจบ55

ดีกว่าไปโดนการรักษาแบบหลอกลวงเรียกค่าครูแพง ๆ เปล่า ๆ ครับ

 

ตะกรุดถึงมือที่ปรึกษาแล้ว ผมขอสรุป จากการสอบถามมาดังนี้ครับ....

"แค่จับก็เหมือนไฟช็อต เหมือนฟื้นฟูพลังแบบทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็เหมือนสดชื่นขึ้นมา"

"ท่านใส่คำอธิษฐานเอาไว้ เป็นปัจจัตตังจริง ๆ อยู่ที่ผู้นำไปใช้"

ผมถาม หากนำไปทำน้ำมนต์เอาพรมหิน วางป้องกันบ้านเป็นไงครับ "โอ้โฮ ยิ่งกว่าวัวธนูอีก "

เมื่อถามถึงหลักวิชาต่างๆ ที่จารไป

"การแตกตัวของพลังงานกระจายออกมาไม่มีที่สิ้นสุด เกินบรรยายจริง ๆ "

"แต่ต้องระวัง หากตกไปอยู่ในมือคนไม่ดีจะอันตรายมาก"

เมื่อถามถึง เป็นอย่างไรครับที่คนไม่ดีนำไปใช้ "เขาจะมีวิธีพลิกแพลงการนำไปใช้เอง"

ที่ปรึกษาฝากเตือน "ใครมีตะกรุดนี้อย่าอวดเก่งละกันนะ เพราะของอาจทิ้งเราได้..." เป็นปริศนาธรรมไป

สรุป ที่ปรึกษาบอก พอดีมีเคสสำคัญที่ต้องรักษาคน ท่านบอก ตะกรุดนี้จะได้นำไปใช้แน่นอน...

 

สรุป เป็นไปตามที่ผมบ่นกะท่าน QC

โชคดีตะกรุดนี้ไม่ตกอยู่ในมือของ เสี่ย ว. กับหัวหน้าเซลแมนจอมแสบ เพราะอาจไปใช้รักษาพิษในตัวมันเอง 555 และไปรับจ้างทำน้ำมนต์หลอกคนว่าช่วยคนได้ 555

ท่านใดได้ไป อย่าไปออกต่อให้คนไม่รู้จักนะครับ เก็บไว้รักษาตัวเองกับคนใกล้ชิดดีกว่าครับ 55

 

อีกประเด็นการวางหิน ผมเคยถามคำถามนี้กับหลวงปู่ประหยัด

1. หินที่วางคุ้มบ้านจะป้องกันวิญญาณร้ายทุกชนิด โดยเฉพาะผี แต่หากเป็นผีปู่ย่าตายายที่ไม่คิดร้าย เราสามารถ อธิษฐานก่อนวางหินได้ ว่าป้องกันหรือไม่ป้องกันวิญญาณผีปู่ย่าตายาย ดังนั้นรวมถึงกุมารทอง พราย เราก็อธิษฐานไว้ได้ว่าให้ป้องกันเฉพาะวิญญาณที่คิดร้ายครับ

2. การวางหิน หรือทำเป็นทรายฝังป้องกันที่ก็เช่นกัน เลือกอธิษฐานได้ว่าให้ป้องกัน แต่หาก เรานำเข้ามาเองจะกันไม่ได้นะครับ เช่น มารรู้ว่าเรามีของดีป้องกันบ้าน อาจหลอกคนอื่น ญาติพี่น้องเราให้เอาของผีของร้ายเข้ามา คือถือติดตัวมาจะกันไม่ได้นะครับ...

 

ท่าน QC ได้นำตะกรุดปิตุ9ชั้น อาราธนาทำน้ำมนต์ พรมลูกแก้ว(แทนหิน) วาง 4 ทิศคุ้มห้องแล้วนะครับ และอาบน้ำมนต์แล้ว ผลก็ตามที่คิดครับ 55

รออ่านรีวิวผลการนำไปใช้งานจริงได้ครับ

 

##เป็นปัจจัตตัง##

รีวิวกระแส “ตะกรุดปิตุเก้าชั้น” บทความนี้จะเป็นการเสริมความจากที่ที่ปรึกษาได้ทำการรีวิวมาก่อนหน้านี้แล้วนะครับ แต่สิ่งที่บอกกล่าวไปไม่อาจใส่ได้ทั้งหมด เพราะกระแสตะกรุดคราวนี้มีความอัศจรรย์พันลึกมากมายนัก เป็นหน้าที่ที่ของเจ้าของตะกรุดจักต้องไปหาคำตอบด้วยตัวเองต่อไป

#อ่านกระแส
"แค่จับก็เหมือนไฟช็อต เหมือนฟื้นฟูพลังแบบทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็เหมือนสดชื่นขึ้นมา”

#เสริมความ
กระแสของตะกรุดเมื่อจับครั้งแรกตอนอ่านกระแส จะเหมือนมีพลังงานบางอย่างดีดสะท้อน บางคนอาจมีอาการเหมือนมีพลังงานบางอย่างวิ่งขึ้นหัว อาจทำให้มึนงงได้ ความรู้สึกเช่นนี้ผมเคยได้รับมาตอนสัมผัสกับ “กริชรุ่นแรก” ที่ว่ากันว่าเป็นที่สุดของกริชแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าไม่ต้องพูดกันเยอะ (เจ็บคอ555)


เมื่อสัมผัสกระแสภายในของตะกรุดพบว่า มีกระแสบางอย่างแผ่ออกมาปรับกระแสธาตุในร่างกาย โดยในการสัมผัสของผมแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ
1.แบบการชะล้าง จะเป็นดั่งการล้างกระแสที่ไม่ดีที่อยุ่กับตัวเรา อาจเป็นพลังงานที่ไม่ดี หรือสิ่งต่างๆ ที่ตกค้างให้ออกไป
2.แบบการเพิ่มเสริม เป็นการเสริมกำลังให้กับตัวเรา โดยตอนอ่านกระแสแบบจริงจังผมพบว่าตะกรุดได้เสริมดึงเอาพลังงานทางจิตด้านกสินไฟที่ผมเคยฝึกไว้ให้คืนกลับมาเพิ่มอีก เรียกว่าครบทั้งการลบล้างและการส่งเสริม

#อ่านกระแส
"ท่านใส่คำอธิษฐานเอาไว้ เป็นปัจจัตตังจริง ๆ อยู่ที่ผู้นำไปใช้"
"การแตกตัวของพลังงานกระจายออกมาไม่มีที่สิ้นสุด เกินบรรยายจริงๆ"
.
#เสริมความ
นับว่าเป็นความรู้เฉพาะตนจริงๆ สามารถรับรู้ได้ด้วยจิต ในช่วงที่อ่านกระแสผมเห็นได้ถึงความแตกต่างของกระแสซึ่งมีหลากหลายรูปแบบมากที่วิ่งออกมา เมื่อลองอ่านกระแสด้านปกติจิตก็จะสัมผัสได้แบบนึง แต่พอกำหนดจิตอธิฐานอีกด้านนึงกระแสของตะกรุดก็แปรเปลี่ยนตาม

#อ่านกระแส
ผมถาม หากนำไปทำน้ำมนต์เอาหินพรมบ้านเป็นไงครับ "โอ้โฮ ยิ่งกว่าวัวธนูอีก "

#เสริมความ
ขอแชร์ประสบการณ์ที่ได้ลงมือทดลองทำน้ำมนต์ประพรมหิน แล้วนำไปวางติดไว้รอบบ้าน ครั้งเมื่อกำหนดวางขันธ์ครูบอกกล่าวทำน้ำมนต์แล้ว โดยผมจะกำหนดเวลาการทำน้ำมนต์ด้วยการใช้การจุดกำยานแทบการกำหนดช่วงเวลา เมื่อกำยานหมดแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี (ไม่ได้บอกว่าจะต้องทำแบบนี้นะครับ ผมให้ไว้เป็นแนวทาง สะดวกกำหนดเวลาด้วยความรู้สึกก็ได้ครับไม่มีปัญหา) เมื่อจุดกำยานแล้ว ผมก็ได้นั่งกรรมฐานเมื่ออ่านกระแสจากพานครู พบว่ามีกระแสบางแผ่ออกมาให้รับรู้ได้ว่าเรียบร้อยแล้ว บวกกับกำยานที่หมดแล้ว
.
จึงได้นำลูกแก้วไปวางไว้ที่มุมห้องทั้งสี่ เมื่อติดลูกสุดท้ายแล้ว พบว่ามีกระแสบางอย่างเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ตรงจุดนี้ผมขอไม่บอกว่าเป็นกระแสแบบไหน ให้ผู้บูชาทั้งหลายทำเป็น Workshop ด้วยตัวเองนะครับ สำหรับกระแสที่ผมสัมผัสได้ผมได้ตรวจความเห็นจากผู้รู้แล้วว่าเป็นจริงดังที่สัมผัสได้ ถูกต้องแล้ว

#อ่านกระแส
"แต่ต้องระวัง หากตกไปอยู่ในมือคนไม่ดีจะอันตรายมาก"
เมื่อถามถึง เป็นอย่างไรครับที่คนไม่ดีนำไปใช้ "เขาจะมีวิธีพลิกแพลงการนำไปใช้เอง"
ที่ปรึกษาฝากเตือน "ใครมีตะกรุดนี้อย่าอวดเก่งละกันนะ เพราะของอาจทิ้งเราได้..." เป็นปริศนาธรรมไป
.
#เสริมความ
ในจุดนี้ด้วยกระแสที่สัมผัสมาแล้ว สำหรับผม ไม่ได้กังวลมากนักเพราะว่าด้วยคำอธิฐานจากครูบาอาจารย์ผมเชื่อมั่นว่าท่านได้อธิฐานไว้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว หากวันใดผู้บูชาเกิดจะนำไปใช้ในทางไม่ดี สิ่งดีๆ ทั้งหลายก็จักมลายหายไปเอง เรียกว่า “บารมีไม่ควรคู่ถือครอง”

การย่ามใจว่าตนเก่งก็จะไม่เป็นผลดีนัก เพราะถึงแม้นว่าตะกรุดนี้จะสามารถทำน้ำมนต์ป้องกันและแก้ไขสิ่งไม่ดีต่างๆ ได้ ด้วยตัวเอง (อานุภาพดั่งน้ำมนต์พิธีใหญ่ก็ไม่ปาน) การเก่งมากไปก็เป็นภัยกับตัวเองได้สักวัน ดังนั้นจึงควรไว้ปรับแก้ไขกับตัวเอง ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นก็เพียงพอแล้ว

#ทิ้งท้ายแนวคิด
.
ผมมักจะได้รับคำกล่าวเป็นประจำจากครูบาอาจารย์ว่า ความสำคัญในการใช้วัตถุหรือเครื่องรางทั้งปวงนั้น ไม่ได้อยู่ที่วางเครื่องรางนั้นจะมีอนุภาพมากมายขนาดไหน แต่อยู่ที่ว่ากำลังจิตของเรามีมากขนาดไหนมากกว่า การที่คนบางคนให้ความสำคัญกับเครื่องรางมากไป ก็จะเรียกว่า ถูกเครื่องรางควบคุมจิต ไม่ใช่จิตควบคุมเครื่องราง
.
ทุกสิ่งอย่างล้วนเกิดจากจิต เครื่องรางก็เกิดจากจิตที่สร้างเสกขึ้น ความสำคัญทั้งมวลนี้จึงอยู่ที่การควบคุมจิต การฝึกจิตที่สม่ำเสมอ พัฒนาตนเองในทางธรรมและทางโลกควบคู่กันไป ทางโลกคือวัตถุ ทางธรรมคือจิตใจ รักษาดุลยภาพให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ได้ แล้วคุณจะพบกับความจริงอันน่าเหลือเชื่ออีกมากมายนัก เป็นความรู้อันไร้ขีดจำกัด