เพราะอะไรขันธ์ถึงคิดตลอดเวลา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แค่พลัง, 17 มกราคม 2020.

  1. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ จิตวางเฉยอยู่ รู้เฉยอยู่..

    อารมณ์ไม่แส่ส่ายใดๆ..
     
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    จิต ไม่เที่ยง

    พระสาวกที่ ราชรี ขู่ไว้

    " เดี๋ยวเถอะ พอ จิตมันดับ

    ไม่เที่ยง........

    กิเลสตัวพ่อมันจะมา "

    คุ คุ เจ็บคอ ( จริงๆ ให้ ดู สะดุ้ง
    ..กุปธรรม อกุปธรรม ยกขึ้นมา
    เลย ศาสดา ประทานอนุเคราะห์
    ไว้ให้หมดแล้ว )
     
  3. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ถ้าเปน หลวงพ่อ ชล

    ท่านจะให้ สามเดือน

    ต้องตัดสินตัวเองได้ แต่ไม่สำคัญตน
     
  4. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    _/\_ _/\_ _/\_

    กราบเท้า ลา

    ( * ห้าม นับครั้ง ซาร่าาาาาาาาา!!! )
     
  5. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    ใครมันจะไปนั่งแช่อยู่ในอารมณ์เดียวอยู่ตลอดเวลา
    แล้วก็ว่านี้หละเป็นอารมณ์นิพพาน

    สติรู้ มันก็ตรงๆ สติรู้ นี้หละ
    ไม่ได้ไปทรงอยู่ในอารมณ์อะไรๆ

    รู้เสร็จแล้วก็ผ่านไป รู้เสร็จแล้วก็ผ่านไป

    โดยส่วนตัวหากมีคนมาชี้อะก็ชี้ได้
    แต่ที่ชี้อะมันไม่ตรงกะที่เป็นอยู่อะดิ

    ท่านไปชิมมาแล้วหรือบรมสุขอะ หากยังไม่ได้ชิมอย่าเพิ่งไปชี้

    รสแบบท่านที่เราชิมมานี้มันจะออกแนวนี้นะ

    ออกแนว หงุดหงิดๆ + เผ็ดร้อน

    มันคนละรสกะบรมสุขที่ท่านว่าอะจิ

    13319852_1146068978748047_648011677466814535_n.jpg
     
  6. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ผมเห็นความคิดมันทำงานตลอด ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดขาก ขันธ์ หรือไม่
    แต่ผมน่ะ เห็นเป็นแบบนั้น และก็พอเห็นความคิดคืออาการฟุ้งๆ โดยหลักๆ
    ก็ทำสมถะด้วย มันก็เลยจะแน่นๆ หนักเวลาที่อาการมันฟุ้ง

    กระผมคุยเฉพาะที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้ เท่านั้น
    กระทู้นี้มาไกลมาก
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    555 กระมู้ว์มาไกลถึงร้านส้มตำทีเดียวหึหึ
     
  8. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ให้ สังเกต ไปที่ สภาวะ ระลึกได้ว่า

    อย่างๆนี้ เบา

    อย่างนี้ๆ หนัก แน่น

    แล้ว ถอยออกมาดูห่างๆ อย่าไป
    คว้ามาเปน เรา ของ เรา

    สภาวะ เบา หนัก จะเปน สภาวะ
    ธาตุที่ ละเอียดกว่า สภาวรู้ว่า
    กำลังคิด

    ให้เฝ้น สภาวธาตุ ที่มีความละเอียด
    ปราณีตกว่า ในสมัย ที่ จิตกำลัง
    มนสิการสิกขา หาจำเพาะในสกล
    กายหนาคืบกว้างศอก

    พอเหนว่า จิต มันเฝ้น หาสภาวะ
    ธาตุที่เกิดตามปัจจัย ไม่ได้เกิด
    จากความเจตนา จงใจ ได้ละเอียด
    ขึ้น....( จะเกิด ปิติ ให้รู้ได้ว่า งาน
    ภาวนาเดินอยู่ ลึกๆ เปนบาทฐาน )

    สังเกต อาการ ล่วงส่วน ที่จะไม่ไป
    สาระวน กับ ธาตุที่เกิดจากปัจจัย
    หยาบๆ เช่น สภาวะหลงไปคิด
    สภาสะเบา สภาวะสุขเย็น
    สภาวะหนักแน่นเสวยวิบาก
    เพราะโลภ เจตนาจะปฏิบัติ
    เอาการบรรลุ แทนที่จะเหน
    ( จะค่อยๆ เกิด สังขารุเบกขา
    หรือที่เรียกว่า เจริญปัญาไปเลย
    ยกขึ้นวิปัสสนา เข้ามาเลย )

    เฝ้นสภาวะธาตุ ที่ปรากฏ

    เกิด แล้วก้ ดับ ทั้งสิ้น

    ยกเหน เยธัมมา เหตุปวา
    นิโรโธ ..... ไปเรื่อยๆ จน

    ปัดติโถ ห้ นี่ไง เย ธัมมา

    ไม่ต้องกระโดด ไม่ต้องจ้อง
    หาช่องว่างตรงนั้นเนื้อ ตรงนี้น้ำ
    ขยัยอีกนิดนิโรธ แต่ถ้าตรงนั้นๆ
    บุ้ยใย้ส่งเดช ตรงนั้นนิพพานน้า
    อย่าง คนเมาสังขาร ไล่ตระครุบ
    เงาของจิต รู้ไม่ถึงจิต แม้นแต่
    เม็ดละมุดในกาบหอย


    ปล. เวลาเหน สภาวะหนัก อย่าดิ้นรน
    จะหาทำให้มันหาย น้ำหนักจะเบา
    หรือหนัก ล้วนเปน กระแสวิบาก
    หมดเหตุเจตนาจงใจ โลภในการ
    ปฏิบัติ มันก้จะหายไปเอง แต่ถ้า
    ดิ้นรน ส่วนใหญ่จะหนัก ส่วน
    น้อยจะโดน เบา เอามาหลอกซ้ำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2020
  9. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    เมื่อไหร่ ภาวนา ถูกต้อง

    ความหนัก ความเบา ก้จะมีของ
    มันเรื่อยๆ ตราบใดที่ มิจฉาทิฏฐิ
    ยังลากไปประกอบ มิจฉาสมาธิ
    ( ภาวนามุ่งเอา อามิส เอาธรรมเข้าตัว)

    ถ้าถูกต้อง สมชีวตา...

    สังเกตเลย สัมมาสมาธิ มีรสเปน
    จิตปรกติมนุษย์ ทุกประการ หาก
    เอามา สาธายาย ก้จะได้ องค์
    ประกอบของหนทาง 8 อย่างอัน
    อุดมอยู่ใกล้ ภพมนุษย์ ส่วน
    ภพเบา เทวดา พรหม ถือว่า
    อ้อมไปไกล ทั้งที่ ปัจจุบันเปน
    มนุษย์ก้ดีอยู่แล้ว ภาวนาได้เร็ว
    กว่าเปน เทวดา สุขมากๆ

    เปนพรหม ว่าง เวิ้ง จิตประภัสสร
    ngo บานลาย!


    ปล.ลิง ตะลิงปลิง : จิตที่มีสิกขา
    ปรากฏ กับ จิตปุถุชนขาดการสิกขา
    เปนไฉน?

    หลวงพ่อพุธท่านว่า : จุดนัดพบนัก
    ภาวนาอยู่ที่ ลานเด็กเล่นปฐมฌาณ
    ( ตัดข้อความที่ จำมาผิด คำละ 1คะแนน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2020
  10. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    และ...

    และ ถ้า ภาวนาเปนจริงๆ

    ที่เรียกว่า อินทรียภาวนาชั้นเลิส

    พึงทราบว่า

    จิตนั้นจะมีความ ว่องไว ปราศจาก
    การอาสัย การกดข่ม(วิขัมภะ)
    และไม่มัวหลงใน ตทังคประหาน

    จะอาสัยธรรมหยายๆ แค่ จิตไหล
    ไปคิด เปนสภาวะ ตัวแทน รูปนาม
    เพื่ออาสัย สิกขา มีในจิต หรือ ไม่มี

    จะมี หรือ ไม่มี ล้วน ถึงพร้อมแล้ว
    ด้วยการ รู้ อรรถสาระ "สิกขา"(ธาตุ
    ปราณีตชนิดหนึ่ง)

    พระมหานาม กินเหล้า เคล้า....
    เมาหยำเป เอาแต่ พูดๆๆๆๆ
    มีภาระดูแล นางในเปนพัน
    อีกทั้งบุตรเปนแสนๆ

    พอตกน้ำ คนเขาก้หาว่า พิการ
    ขาเดี้ยง ไรรสชาติความสุข

    พระศาสดาตรัส นั่น สกิทาคา
    อย่าได้ดูเบา จะเสียการณ์


    ปล. สกิ สกึ ...แปลว่า คราเดียว
    ทค ทาคา ไปสู่เทวดา ..........
    one way ticket to heven never
    return to An Orange
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2020
  11. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    มาลองฟัง คำพระกัน ว่าทำไม ท่านจึงว่าอย่างนั้น

    ..............................................................

    ครูบาอาจารย์ของเราท่านย้ำนักย้ำหนา
    ว่า
    เอาสมาธิให้มันได้
    เอาสมาธิให้มันได้

    ทีนี่ การทำสมาธิ ทำอย่างนี่เด้อ
    เอาไปลองทำลองดู ถ้าใครไม่เชื่อก็รับฟังไว้แล้วก็ทำไว้ ลองดู

    วันนี้ก็มีแม่ชีคนนึง ไปถามว่า
    ทำไมจิตใจมันมีแต่ความฟุ้งซ่านมันไม่สงบซักที ว่าอย่างนั่น
    สงสสัยจะไปโดนใครโกหกมาละมั๊ง ว่าจิตมันฟุ้งซ่าน
    มันเป็นอย่างนี่ดอก
    ศีล อบรมสมาธิ ศีลนี่หมายถึงศีลที่บริสุทธิ์
    อย่างต่ำศีล ๕ กาย วาจา บริสุทธิ์ ปราศจากโทษ
    เมื่อมานั่งสมาธิแล้ว จิตก็สงบเป็นสมาธิ

    สมาธิที่มีศีลเป็นเครื่องประกันความปลอดภัย
    มันทำให้เกิดปัญญา
    ทีนี่
    คำว่าปัญญาที่เกิดขึ้นมานี่
    มันไปรู้พระไตรปิฎกจบทั้ง แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์
    อย่างนั่นหรือเปล่า อย่าไปเข้าใจผิดอย่างนั้น

    ปัญญาที่มันเกิดขึ้น ก็คือความคิดที่มันคิดไม่หยุดนั้นเอง
    จะเป็นความคิดอะไรก็ได้ ที่มันคิดไม่หยุด
    เราไม่ได้ตั้งใจคิด มันก็คิดของมันขึ้นมา
    ตั้งใจคิดมันก็คิดของมันขึ้นมา
    เพราะที่เราไปเข้าใจผิด
    ว่า
    ความคิดนั้นคือความฟุ้งซ่าน
    แล้วเราก็อยากจะให้จิตมันหยุดคิด
    เพราะเราติดความสงบ ติดความนิ่งของจิต
    แต่แท้ที่จริง คำภาวนา พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ
    ที่ท่องเอาไว้นั่น ล่ะ
    มันอะไรเสียอีก ก็คือความคิดนั่นแหล่ะ
    มันอะไรเสียอีก ก็คือความคิดนั่นแหล่ะ

    ทีนี่เมื่อภาวนาพุทโธ พุทโธ หัดคิดพุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ
    จนคล่องตัวชำนิชำนาญแล้ว

    สมาธิ มันเกิดเอง

    พอสมาธิมันเกิดขึ้นมานิดหน่อย มันก็ทิ้งพุทโธ ที่มันตั้งใจคิดอยู่นั่น
    แล้วไปคิดอย่างอื่นขึ้นมา
    ความคิดอย่างอื่นนั่นก็คือความคิดเหมือนกันกับพุทโธนั่นแหล่ะ
    เพราะฉะนั้นเมื่อจิตมีความคิดเกิดขึ้นมาเอง ปล่อยให้มันคิดไปเลย ปล่อยให้มันคิดไปแล้วเอาอย่างนี้
    ตั้งใจเอาไว้ ว่า เอา เอา เอาเอา แกจะคิดไปถึงไหนฉันจะตั้งใจดูแก
    คิดไปเหนือ ไปใต้ คิดไปนรก คิดไปสวรรค์ คิดไปบ้านคิดไปช่อง
    คิดไปเที่ยว หาเที่ยวแซ่ เที่ยวสาว คิดไปลักไปขโมยไปจี้ไปปล้น
    ตามมันไป
    ตามมันไป
    รู้มันไป
    มันจะไปถึงไหน
    ที่นี่ ถ้าเราเอาความคิดนั้นเป็นอารมณ์จิต
    กำหนดสติตามรู้ รู้ รู้ รู้ รู้รู้มันไป

    เมื่อ สติสัมปชัญญะ ตัวนี้ มีพลังแก่กล้าขึ้น
    ผลมันจะเกิดขึ้นเป็น สองอย่าง

    ถ้าสติตามทันความคิดทุกขณะจิต
    จิตคิดไปดูไป คิดไปดูไป คิดไปดูไป
    ตัวคิดไม่หยุดนั่นเป็นตัว วิตก
    สติรู้พร้อมในขณะที่ จิตมีความคิด นั่นคือ ตัว วิจาร
    จิตคิดไม่หยุด
    เราก็รู้มันเรื่อยไป ประเดี๋ยว ปีติมันก็บังเกิดขึ้น
    คิดไปดูไป คิดไปดูไป กายก็เบาจิตก็เบา
    หนักๆเข้า กายก็สงบ จิตก็สงบ

    มันสงบอย่างไร มันคิดอยู่ไม่หยุดมันสงบอย่างไร
    เอาคัมภีร์ไหนมาพูด
    มันคิดอยู่มันสงบ เพราะจิตตัวรู้ สติตัวรู้ มันเป็นปกติ
    ไม่มีความยินดี
    ไม่มีความยินร้าย
    ในความคิดนั้น
    คิดแล้วก็ปล่อยวางไป พออารมณ์ กับจิตมันดูดดื่ม ซึมซาบ
    สติที่ไปกำหนดรู้ อยู่ที่ความคิด ที่เกิดดับ เกิดดับ อยู่อย่างนั้น
    อย่างแน่วแน่มั่นคง รู้ทันทุกขณะจิตเขาเรียกอะไร ฮึ .. ???

    จิตตานุปัสนา สติปัฏฐาน ไม่ใช่เหรอ
    ฮึ ..??? ภาวนามาจนประสาทโง่ โง่ไม่เข้าท่า

    ความคิดที่มันคิดอยู่ไม่หยุด สติจะตั้งอยู่ที่ความคิด
    กำหนดรู้ที่ความคิดตลอดไป นี่แหล่ะ ตัวนี่แหล่ะ
    เค้าเรียกว่า ....ธัมมานุปัสนา สติปัฏฐาน ....

    นักปฏิบัติทั้งหลายโง่มานานแล้ว
    เพราะฉะนั้นทำความเข้าใจซะให้ดี

    ท่านอาจารเสาร์ ท่านพูดเป็น คติเตือนใจไว้ว่า ...
    โอ้ เมื่อก่อนนี่จิตข้ามันสงบ สว่างไสว
    แต่เดี๋ยวนี่....มันมีแต่ความคิด มันไม่สงบซักที ...

    นี่อาจารย์ใหญ่ เปิดคัมภีร์เอาไว้อย่างนี้
    ทำไมลูกศิษย์ๆไม่จดจำคำสอนของอาจารย์ เฮ้อ... เพราะฉะนั้น
    เรามาสอนกรรมฐานอยู่นี่ เกือบ ยี่สิบปีหรือ ยี่สิบปี
    หาคนเอาดิบเอาดีไม่ได้
    เพราะไม่เชื่อครูบาอาจารย์

    อาจารย์ใหญ่ท่านว่า
    เวลานี่ จิตข้าไม่สงบมีแต่ความคิด
    พอถามท่าน
    จิตมันเสื่อมหรืออย่างไร...
    เอ้า... ถ้ามันเอาแต่นิ่งสงบอย่างเดียวมันก็ไม่ก้าวหน้าซี่
    .....ท่านว่าอย่างนี่ล่ะ
    .............................................................................
     
  12. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762

    นี่อีก บริบทนึงนะ ว่าทำไมพระท่านจึงว่าอย่างนั้น

    .........................................


    (ต่อจากตอนที่แล้ว)

    จิตที่มันคิดไปนั้น มันคิดเรื่องอะไร
    สาระพัดจิปาถะ ที่จิตมันจะปรุ่งแต่งขึ้นมา
    มันจะมีลักษณะเหมือนๆกันกับเราผูกลิงไว้บนต้นไม้

    มันจะกระโดดไปกิ่งโน้น กระโดดไปกิ่งนี้ บางทีมันก็แยกเขี้ยวยิงฟัน
    มันจะมีลักษณะอย่างนั้น มันไม่เป็นเรื่อง ไม่เป็นราว
    เพราะความคิดอันนี้ จิตมันปรุงแต่งขึ้นมา

    ทีนี้ เมื่อจิตปรุงแต่งขึ้นมา
    ถ้าสติสัมปชัญญะมันรู้พร้อม มันก็สักแต่ว่า คิด
    คิดแล้วปล่อยวาง คิดแล้วปล่อยวาง
    ไม่ได้ยึดอะไรไว้เป็นปัญหา สร้างความเดือนร้อนให้แก่ตัวเอง

    ทีนี้ เมื่อ จิตของท่านผู้ใดเป็นเช่นนี้ อ่ะอื๊มๆ
    ถ้าหากไม่ไปเผลอ คิดว่าจิตฟุ้งซ่าน
    ปล่อยให้มันไปตามธรรมชาติของมัน มันอยากคิดปล่อยให้มันคิดไป
    แต่ว่าเรามีสติกำหนดตามรู้ รู้ รู้ รู้เรื่อยไป

    เอาความคิดนั้นแหล่ะเป็นอารมณ์สิ่งรู้ของจิต เป็นสิ่งระลึกของสติ
    ตอนนี้ สมาธิมันเป็นเองโดยธรรมชาติ ปัญญาก็เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ

    เรากำหนดหมายเอาความดีจากความเป็นเช่นนี้ของจิต
    ด้วยความมี สติ สัมปชัญญะ รู้พร้อม อยู่ที่จิตเพียงอย่างเดียว

    เมื่อจิตไปสุดช่วงมันแล้ว บางทีมันจะหยุดนิ่งปั๊ปลงไป
    บางทีก็รู้สึกแจ่มๆอยู่ภายในจิต บางทีก็สงบละเอียดลงไปถึงขั้น จตุถฌาน
    ไปยับยั้งอยู่ใน จตุถฌาน ตามสมควร แล้วก็ไหวตัวออกมาจากสมาธิขั้นนี้

    พอมาถึง จุดที่มีร่างกาย เกิด วิตก วิจาร ขึ้นมา
    แล้วก็จะพิจารณา อธิบายเหตุการณ์ที่ผ่านมาให้ตัวเองฟัง ช๊อด ช๊อด

    บางทีเค้าอาจจะบอกว่า

    ความคิด เป็นอาหารของจิต
    ความคิด เป็นการบริหารจิตให้เกิดพลังงาน
    ความคิด เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียด
    ความคิด นี่แหล่ะ มันมายั่วยุให้เราเกิดอารมณ์ ยินดี ยินร้าย
    แล้วจิตจะสามารถกำหนดหมาย ความยินดี ความยินร้าย

    ว่า

    ความยินดีคือ กามตัณหา
    ความยินร้ายคือ วิภวตัณหา
    ความยึด คือ ภวตัณหา
    ในเมื่อจิตมี กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา อยู่พร้อม
    ความยินดี ความยินร้ายมันก็บังเกิดขึ้น
    สุข ทุกข์ ก็บังเกิดขึ้น สลับกันไป

    เมื่อผู้มีสติ สัมปชัญญะ มีพลังทางสมาธิ ทาง สติ ปัญญา
    จิตก็สามารถที่จะกำหนดหมาย รู้ สุข ทุกข์ ที่เกิดขึ้น ดับไป อยู่ภายในจิต

    ว่า นี่คือ ทุกอริยสัจที่พระพุทธเจ้ตรัสรู้ แล้วจิตก็จะกำหนดดู
    รู้อยู่ที่จิต สิ่งที่เกิด-ดับ เกิด-ดับ อยู่กับจิต แล้วในที่สุดจะรู้ว่า

    นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด
    นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ
    ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น
    ทุกข์เท่านั้นดับไป

    ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม นี่ทางหนึ่งที่จิตของนักปฏิบัติ จะเป็นไป

    อ่านต่อที่นี่ https://palungjit.org/threads/การปฏิบัติภาวนาจิต-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.522295/
     
  13. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ได้ยินมาว่าถ้ามันอิ่มอารมณ์มันจะฟุ้งซ่านน้อยลง
     
  14. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ได้ยินมาจากไหนรึครับ
     
  15. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    หลวงปู่มั่น ทัตโต
     
  16. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ฝุ้งซ่าน แบบ พี่ไทย จะโดน วิสทธิมรรค
    หลอกเอาแต่โบราณกาล

    ต่อให้ นักภาวนาที่ ภาวนาถูก ก็ใช้ คำว่า
    ฝุ้งซ่าน ในความหมายผิดๆ แบบนั้น

    ทีนี้ บัญญัตผิด มันจะไปขวาง สติ
    ขวางความเพียร ขวางธรรมได้ไหม

    อันนี้ก็ให้ ระลึกมาที่ คนเรา มันต้องเกิด
    เกิดมาแล้ว จะอดนิพพาน ขวางนิพพาน
    หรือเปล่า

    ดังนั้น ความเห็นที่ผิด ไม่ตรง มันก็เป็น
    ส่วนของ ขันธ์ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ....

    "ทุกขสัจจ" ที่ว่าโดยย่อ คือ ส่วนที่เข้า
    ไป "อุปทาน"

    ฟังดีๆ นะฮับ

    หลวงตามหาบัว ท่านประกาศชัดว่า ท่านนั้น น้ำหนึ่ง

    วันหนึ่ง ท่านเดินไปเจอกิ่งไม้หงิกงอ ร่างกาย
    ท่านกระโดดโหยงตัวลอยย ( นึกภาพ น้องๆเสือ
    หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู หันมาเจอ แตงกวา
    วางอยู่ข้างหลัง
    )

    หลวงตากล่าวว่า สติของท่านไม่เคลื่อน สมาธิ
    ของท่านไม่เคลื่อน แม้นแต่นิดเดียว จบกิจ100%

    แต่ถ้า คุงหัวแมวยังใช้ ฝุ้งซ่าน แบบ วิสุทธิมรรค
    รับรอง 100% ทำตนให้ลำบากเปล่า แม้นเพียง
    ขณะจิตเดียวที่..........

    ยิ่ง คุงหัวแมว มี ฉันทะในนิพพาน เข้าเส้น ยิ่ง
    มีจิตกวัดแกว่งกลางอก ไม่ตั้งมั่น ใน รัตนไตร
    โต้งๆ เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2020
  17. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    มาฟัง สารคดี ชุด 150cc กัน...

    ฝุ้งซ่าน เป็น นิวรณ์ ชะปะฮับ

    ทีนี้ คุงหัวแมว ชอบมุขนัย ทาง กิน กิน กิน

    ถามว่า

    นิวรณ์ มีอะไรเป็น อาหาร ตามหลัก 150cc พุทธวจน

    ทุจริต3 ชะป่ะ

    คุงหัวแมว สำคัญเป็น ไฉน .... ความคิด ทุกชนิด
    เป็น ทุจริต เป่า

    เคยคิด รักแม่ ไหม!?

    บักโงบะ คุงหัวแมว รุจักปะ บักโงบะ นี้อะไรๆก็ แม่
    จะขึ้นเขาก็ แม่ จะลงเขาก็ แม่ จะเข้ามากระทู้ก็ แม่
    จะไป พันทิพย์ นี่ไม่รู้ว่า แม่ ไหน รึเปล่า

    ถ้า ความคิด มันเป็น ทุจริต 3 บักโงบะ เอาแต่ร้อง
    แม่ แม่ แม่ น้ำจะแห้ง แผ่นดินจะแล้ง ก็ แม่!!!(โหย
    หวลมาก )

    บักโงบะ นี่ คง อิ่มเลยหละ นิวรณ์เนี่ยะ

    แต่แท้จริงแล้วเปล่าเลย แม่ เป็นเพียง ความคิดที่
    ตั้งไว้ในจิต เป็นเหตใกล้ให้เกิด ".........." นำมาซึ่ง
    ตกน้ำก็ป๋อมแป๋ม ตกไฟก็ไหม้ไหม้ .....................

    ( เอิ่ม ไปละ รู้สึกว่า มันจะท้องว่าง ขึ้นมา จบละกัน )
     
  18. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ยังชั่วแระ ...ต่อ

    บักโงบะ ร้อง แม่ แม่ แม่ แล้ว กระทำไว้ในใจ
    แล้วเกิดอะไรขึ้น หาก คนเรามี ความกตัญญู
    รู้คุณค่า ทุกสรรพสิ่ง ( ทุกอย่าง เป็น แม่ นะครับ
    อีกข้างก็ พ่อ ในเชิงอภิธรรม ก็ น โม ดิน กับ น้ำ)

    พอ มีการกำหนดรู้ ซึ่งคุณ และ โทษ ของทุกสรรพสิ่ง
    เกิดอะไรขึ้น เกิดการ สำรวมอินทรีย์

    จิตที่มี การสำรวมอินทรีย์ คุงหัวแมว เห็นว่า ทุกจริต3
    เกิดหรือเปล่า

    คนคิดดี ทำดี บึ๊ดจั๊มบึ๊ด ...ขอโทษนะ หาก แม่ เข้า
    เส้นเนี่ยะ ลมหายใจ ที่ไหล(น้ำ) รู้ว่าเข้า/ออก(ดิน)
    แล้ว รู้คุณของลมหายใจ และ โทษของลมหายใจ
    ทุกจริต3 จะสบช่องเข้ามาได้ไหม นิวรณ์จะเกิด
    หรือเปล่า ทิฏฐิแทรกได้ไหม( อย่า งง นะ หาย
    ใจแล้วคิดไม่ออก ก็มีแต่ มหานอนตายในวัด
    ของหลวงตาบัว เท่านั้น ที่เป็นแบบนั้น เก่งกว่า
    พระที่เดินจงกรม ภาวนาพุทโธๆ เพื่อไม่คิด )

    นะ ถ้า ยังมีความเข้าใจ ฝุ้งซ่าน แบบ วิสุทธิมรรค
    คุงหัวแมว จะ ยังไม่เข้าใจ เห็นว่า นิวรณ์มันเกิด
    จิตไม่ อึ๊ก สันติ อะไรก็ไม่รู้!!!

    แต่ถ้า เข้าใจ มีความแยบคาย ไม่ต้องอธิบายอะไร
    ขอเพียง มีใจ ระลึกถึง ซึ่งความ ลึกซึ้ง อันเดียรถีย์
    ไม่มีทางชี้ได้ว่า กาลใดควรทำสมาธิ กาลใดควร
    ทำวิปัสสนาวิจัยธรรมะ แค่นี้ ก็พอแล้ว ที่จะ
    "คว่ำสามโลกธาตุ" ณ ปัจจุบัน
     
  19. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ร่างกายซีกซ้าย เป็นของแม่ ซีกขวาเป็นของพ่อ..

    ถ้ารู้จัก กตัญญู อย่านำร่างกาย ไปก่อเวรภัย ให้รู้ จัก สำรวมกาย..

    ในท่านั่งสมาธิ ซีกซ้ายเป็นของแม่ ซีกขวาเป็นของพ่อ..

    พ่อทับแม่ ขวาทับซ้าย..

    เป็นการ ดู "กามราคะ" สัตว์ทั้งหลายมีกาม เป็นเบาะ รอง เกิด..

    เห็นโทษแห่งกามราคะ ก็เห็น ตัวตัณหา

    เห็นตัวตัณหา ก็เห็น คำว่า "สัตว์โลก"

    ทุกสรรพสิ่ง ซ้อนเล้น ปิดบัง "ปัญญา" ไม่ได้..
     
  20. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    สมมติ นะ สมมติ

    สมมติว่า ที่ใช้ มุขนัย อาหาร เพื่อ CSI สืบศพ
    ไปหา ว่า ใครกินอะไร ใครอิ่ม

    แล้ว

    คุงหัวแมว เห็นชัดว่า

    " ไอ้ที่ บริกรรมๆ เพื่อมุ่งจะ สงบ " นั่นแหละ ทุจริต3

    ถามว่า ที่บอกว่า อิ่ม หนะ อิ่มอะไร !?

    ทุกขล้วนๆ เลย

    ปล. ห้ามรีบร้อนตีโพยตีพาย ว่า ครูบาอาจารย์
    หน่าครับ การเรียนธรรม มันมีหลายวิธี บาง
    คนเนี่ยะ อธิบาย เจ้าสาว ในเมืองทางโน้น
    ให้ฟัง มันก็ซื่อบื้อได้แต่ พยักหน้า จะเอา จะเอา

    ก็เลยต้อง คล้องแขน พาไปแบบ ไปเห็น จะ จะ!!

    ส่วน จะมี วาสนา ปฏิภาณ ไหวพริบ คิดได้ว่า
    ตกลง ตรงไหนคือ ความสงบ สงัด อันนี้
    มันสอนกันไม่ได้ ถ้าไม่มี ......พระป่า ก็บอกว่า
    ก็บริกรรมไป ตายไป อย่างน้อยไปสวรรคิ์
    นิพพานไม่ต้องฝัน หาก ความเอะใจ ไม่มี !!!
    (ภาวนา NGO กว่า มหาที่นอนตาย มันช่วยไม่ได้)
     

แชร์หน้านี้

Loading...