เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. saintyom

    saintyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +776
    สวัสดีพี่ ๆ ทุกท่านครับ
    ผมอยากสั่งซื้อสมุนไพรวัดท่าซุง
    ทีแรกว่าจะไปซื้อที่สายลมต้นเดือนหน้าพร้อมถวายสังฆทาน แต่โทรไปถามที่สายลมมาเขาบอกว่าปิดตั้งแต่วันที่ 27 นี้เป็นต้นไปไม่มีกำหนด
    อยากทราบว่าพอจะมีวิธีสั่งยาสมุนไพรทางไปรษณีย์บ้างไหมครับ และต้องทำอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับ
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    โทรไปสั่งซื้อตามเบอร์นี้ครับ 086-444-1128
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    000.jpg
    ประกาศ ของดการถ่ายทอดสด


    ...ตามที่แจ้งไว้ว่าจะมีการถ่ายทอดสด เนื่องในงานพิธีพุทธาภิเษก วันที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 17.00 น. นั้น ของดการถ่ายทอดสดในวันเวลาดังกล่าว

    ส่วนที่ได้ประกาศลงในเว็บไซด์วัดท่าซุง แล้วมีผู้คัดลอกไปบอกต่อๆ กันนั้น ขอย้ำว่าลงแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยท่านเจ้าคุณฯ ยังอยู่

    อีกทั้งก็ไม่ได้เน้นว่า ทางวัดจะทำพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร เพียงแต่เคยได้ยินหลวงพ่อท่านพูดว่า สมัยที่ท่านเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น รอบแรกก็คือภายในพระอุโบสถ

    ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ทางวัดไม่ได้ระบุว่าเป่ายันต์เกราะเพชร แต่แอดมินแนะนำให้ผู้ที่ร่วมพิธีที่อยู่ทางบ้าน ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอท่านได้ เฉพาะที่เป็นวันเสาร์ 5 เท่านั้น เพราะเหตุที่ว่าขณะนี้ญาติโยมกำลังประสบความทุกข์กันมาก อยากจะหาที่พึ่งทางใจจากพิธีกรรมนี้บ้าง

    อีกทั้งสมัยที่ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศลได้ทำพิธีอยู่ภายในพระอุโบสถ อาจารย์สมพงษ์ หลุนประยูร ที่บ้านก๋ง ได้เล่าให้ฟังว่า ตั้งใจอาราธนารับยันต์เกราะเพชรด้วยตนเอง ปรากฏว่ามีอาการคันยิบยับ เหมือนกับสมัยที่หลวงพ่ออยู่

    ลำดับขั้นตอนพิธีการวันเสาร์ห้า สำหรับผู้ที่ทำพิธีอยู่ที่บ้าน

    ...กรณีผู้ที่ไม่สามารถไปร่วมพิธีได้ ขอให้ทุกท่านอาบน้ำชำระกายให้เรียบร้อย จัดเตรียมเครื่องบูชาครูพร้อมแล้ว ให้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ตั้งใจสมาศีล 5 ที่หน้าองค์พระ แล้วน้อมกราบอาราธนาบารมีคุณพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ เทพพรหมทั้งหลาย และครูบาอาจารย์ อันมี หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด

    สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อบูชาครู (ทำพิธีหน้าหิ้งพระ หรือโต๊ะหมู่บูชาพระ)
    - ธูป 5 ดอก
    - เทียน 2 เล่ม
    - ดอกไม้สด
    - เงินบูชาครู (แล้วแต่จะนำเอาไปทำบุญ)

    จุดธูปเทียนบูชาพระแล้ว ว่าอะระหัง สัมมา เป็นต้น กราบพระ 3 ครั้ง จบแล้วให้ตั้งใจสมาทานศีล 5 และสมาทานพระกรรมฐาน ดังนี้

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
    อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจฉามิ

    ...ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เทพพรหมทั้งหลาย อันมีท้าวผกาพรหมและท้าวมหาชมพูเป็นที่สุด

    และครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมา มีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด ขอได้โปรดครอบคลุมกายและจิตของข้าพระพุทธเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ข้าพระพุทธเจ้า และขอให้พ้นจากทุกข์โศกโรคภัย และอันตรายทั้งปวง ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เทอญ

    แล้วหลับตาภาวนาว่า "พุทโธ" ไปเรื่อย ๆ ถ้าใครได้มโนมยิทธิก็จับพระรูปพระโฉมของพระพุทธเจ้า อธิษฐานขอพระพุทธรัศมีเป็นเหมือนตาข่ายของ "ยันต์เกราะเพขร" ให้ครอบคลุมตนเองไว้ตลอดเวลา ประมาณ 30 นาที เป็นอันเสร็จพิธี

    Webmaster
    27 มีนาคม 2563

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=2754




    0001 (21).jpg

    รับยันต์ที่บริษัท

    ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่องานเป่ายันต์เกราะเพชรคราวที่แล้ว ลูกไม่มีโอกาสไปที่วัด ก็เลยนั่งทำงานที่บริษัทไป ใจก็น้อมนึกถึงองค์สมเด็จฯ นึกถึงบารมีหลวงพ่อว่าให้เป่าไปถึงบริษัทด้วย ทุกครั้งที่เคยผ่านมามีอาการของลูกจะดีขึ้น ซู่ซ่าขนลุก แต่คราวนี้เฉย ไม่ทราบว่าหลวงพ่อจะถืออุเบกขาตอนนั้นหรือเปล่าคะ ?

    หลวงพ่อ : เดี๊ยวก่อน ! เขาบอกให้เป่าไปที่บริษัท ก็ติดป้ายหมดสิ ก็ต้องไปขอที่ป้ายนะ (หัวเราะ)

    แต่ความจริงเป่ายันต์เกราะเพชรนะ ท่านบอกว่า ถ้าตั้งใจจริงๆ อยู่ที่ไหน ก็ได้เหมือนกันหมด ถ้าตั้งใจไว้เพื่อรับ แต่บังเอิญเวลาเป่ากำลังทำงานอยู่เผลอไป รับได้เลย

    ผู้ถาม : คือความจริงแกอาจจะได้ แต่เห็นว่าไม่ซู่ซ่า ก็นึกว่าไม่ได้รับ

    หลวงพ่อ : ซู่ซ่าจนชิน ชินเกินไปก็เลยไม่มีความรู้สึก จริงๆนะ ความจริงเป็นอย่างนั้น คือของเก่าเขามีแล้วนี่ สัมผัสใหม่มันก็ไม่มีอาการเกิดขึ้น


    รับยันต์เกราะเพชรที่บ้าน

    ผู้ถาม : นมัสการกราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผม...... เป็นลูกน้องท่านสารวัตร....แนะนำให้ท่านไปเป่ายันต์เมื่อ 25 ส.ค. นี้ท่านเตรียมตัวพร้อมสรรพแล้ว แต่พอถึงเวลาจริง เจ้านายสั่งให้ทำงานอีกอย่างหนึ่งก็เลยไม่ได้ไป แต่ลูกก็แนะนำว่า ไปไม่ได้จริงๆ จำเป็นถึงเวลาก็ทำพิธีอย่างนี้ๆ พอ 4 โมงเย็นปุ๊บแกก็ทำตามทุกอย่าง ปรากฏมีอาการดังต่อไปนี้

    1. ท่านสารวัตรบอกว่า พอจิตสบายปุ๊บมีอาการคันตามเนื้อตามตัว ตามแข้ง ตามขา ลูกอยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่าลักษณะอย่างนี้ ได้รับยันต์เกราะเพชรหรือไม่ครับ ?

    หลวงพ่อ : ใช้ได้เลย มีอาการร้อน มีอาการหนัก มีอาการคัน ใช้ได้ บางทีหนักตรงนี้ ตรงนั้นคันบ้าง บางทีก็ร้อนตรงนั้น เย็นตรงนี้ ใช้ได้

    ผู้ถาม : อย่างนี้ก็แสดงว่า.....

    หลวงพ่อ : เขารับได้

    ผู้ถาม : อยู่ใกล้ไกลก็รับได้

    หลวงพ่อ : รับได้ๆ นี่เขาได้รับเต็มที่นะสมบูรณ์แบบเลย


    เป่ายันต์จิตฟุ้งซ่าน

    ผู้ถาม : เป่ายันต์เกราะเพชรทุกครั้งที่ผมไป รู้สึกว่าขณะที่ภาวนาผมมีอารมณ์เฉยๆแป๊บเดียว จิตใจก็ฟุ้งซ่าน ในขณะที่หลวงพ่อเริ่มทำพิธี ข่มอย่างไร ทำอย่างไรก็จับอารมณ์สมาธิไม่อยู่ ไม่ทราบว่าในขณะนั้นองค์สมเด็จท่านจะสงเคราะห์ เป่ายันต์เกราะเพชรให้หรือเปล่า เพราะว่าจิตฟุ้งซ่านเอาไม่อยู่เลยครับ ?

    หลวงพ่อ : ไม่เป็นไร ท่านทำ เป็นแต่เพียงว่าตั้งใจรับ

    แต่จิตของเราจะคุมให้ดิ่งไม่ได้แน่ เพราะคนทำไร่ทำไถนา ไม่ชินต่อการเจริญกรรมฐาน ใช่ไหม คือไม่มีความจำเป็น เขาถือว่า เอาจิตยอมรับเท่านั้นเอง ไปหรือไม่ไปก็ตาม หรือว่าอยู่ที่บ้านก็ตาม ได้รับ นั่นท่านส่งให้นี่ ไม่ใช่เราไปหยิบ

    หมายความว่า ตั้งใจยอมรับ ใช้ได้แล้ว


    เป่ายันต์เกราะเพชร

    ผู้ถาม : ดิฉันได้ไปเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งสุดท้าย ทุกครั้งที่ลูกไปลูกจะมีอาการปิติ ขนพองสยองเกล้า แต่ว่าครั้งล่าสุดรู้สึกเวียนหัวปวดเมื่อยตามตัว และมีอาการหนัก กลับบ้านกว่าจะหายก็หลายวัน จึงกราบเรียนถามว่า วันนั้นลูกโดนอะไรไปหรือเปล่าจึงเป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ ?

    หลวงพ่อ : อย่างนั้นเป็นอาการของยันต์ที่เข้าถึงตัว หนักมาก เต็มอัตรา

    อาการเต็มอัตรานี่ไม่เหมือนกัน บางคนก็หนัก บางคนก็ร้อน บางคนก็คัน เหมือนกับมดไต่ไรตอม บางคนก็เย็นซู่ซ่า อย่างนั้นถือว่าดีมาก

    ผู้ถาม : ก็น่าแปลกใจ ยังจำภาพเด็กคนนั้นชัดเจนเลยว่า หลังจากคลอดออกมาแล้วยันต์ยังไม่หายเลย

    หลวงพ่อ : เด็กคนนี้ แม่เขาพาไปเมื่อ 2 ปีกว่าแล้วยันต์ยังอยู่ เมื่อเร็วๆ นี้เขาพาไป แกบอกเป็นยันต์สีแดงที่ตัว

    ผู้ถาม : แสดงว่าตอนเป่าหลวพ่อใช้กำลังเต็มอัตราเลย

    หลวงพ่อ : คือเป่าเหมือนกัน ฉันไม่ได้ทำพระท่านทำ ทีนี้การรับ คือพ่อแม่เขาเวลานั้นเขารับดี แล้วก็รักษาได้ดี และก็ทรงตัวลูกนาน

    ยันต์เกราะเพชรเป็นรูปกงจักร

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อคราวไปเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งที่ 11 นั้นปรากฏว่า เด็กที่คลอดออกมาที่แม่ไปร่วมพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรเป็นผู้ชาย ที่บนหัวแทนที่จะเป็นเกราะเพชรกลับเป็นยันต์กงจักร สวยงามเป็นอย่างมาก ขณะนี้ยังติดอยู่ที่ขวัญ

    ขอเรียนถามหลวงพ่อว่า เวลาเป่ายันต์เกราะเพชรติดเฉพาะยันต์เกราะเพชรหรือเป็นรูปอย่างอื่นด้วยครับ ?

    หลวงพ่อ : รูปอะไรก็ได้ ให้เป็นรูปขึ้นมาก็แล้วกัน ให้เหมาะแก่บุคคลนั้น

    เป่ายันต์เห็นสีแสดเป็นดวงๆ

    ผู้ถาม : รายหนึ่งบอกว่า ไปเป่ายันต์เกราะเพชรสักครู่หนึ่ง ลูกก็ร้องจึงลืมตามองดูเห็นคนที่นั่งหัวดำไปหมด แต่ข้างบนหัวมีสีแสดเป็นดวงๆ เต็มไปหมดเลย เจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : เป็นแสง เป็นสี จะเป็นอะไร

    ผู้ถาม : จะเป็นพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ หรือเทวดาครับ ?

    หลวงพ่อ : เวลานั้นเต็มไปหมด มามากกว่าคนที่เราไปนะ ไม่ใช่มาเล็กน้อย ถ้าเป็นสีโดยเฉพาะเป็นฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าคลุมลง

    พระพุทธเจ้าใช้ฉัพพรรณรังสีคลุมคนทั้งหมด และก็ทั้งประเทศด้วย และก็ทุกคนที่อยู่นอกประเทศที่ตั้งใจนึกถึงท่านเวลานั้น ดีนะ


    น้ำมนต์ยันต์เกราะเพชร

    ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เนื่องในงานเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งที่แล้ว ที่หลวงพ่อบอกว่า ใครต้องการน้ำมนต์ ก็เอาขวดน้ำที่นักเรียนขายแล้วมาวางข้างหน้า แล้วอธิษฐานตามใจชอบ

    พออยู่บ้านวันที่ 25 มี.ค. นี้ ก็เอาน้ำมนต์มาพรมบ้าง อาบบ้าง ที่น่าประหลาดก็คือว่า ในขวดอัดแน่นไม่เคยเปิดเลย แต่มีเศษเทียนเหมือนกับที่หยดน้ำมนต์ปรากฏด้วย ลูกมีความประหลาดใจและปลื้มใจพร้อมๆกัน สงสัยว่าเข้าไปอยู่ในขวดได้อย่างไร ขอให้หลวงพ่อช่วยอธิบายด้วยเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ไปถามเทียนเขานะว่าเข้าไปได้ยังไง

    นั่นอำนาจพุทธานุภาพแสดงให้ปรากฏ ดีมาก คนนี้ดีมาก อย่าให้หมดนะน้ำมนต์ จะหมดก็เอาน้ำใส่ขวดเป็นน้ำมนต์ อย่าให้เทียนหายนะ สำหรับพวกค้าขายตอนเช้าๆ มาพรมหน้าร้าน คาถาเงินล้านว่าไปด้วยนะ



    (จาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 290 เดือนพฤษภาคม 2548 หน้า 93-95)

    DSC04817.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2020
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    IMG_20170426_160439.jpg พระคำข้าวติดพระธาตุข้าวบิณฑ์ 2.jpg WP_20140612_034.jpg
    WP_20140612_026..jpg
    IMG_20181124_152424.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2020
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    85603_n.jpg


    ลูกกรอกแมว

    หมากับแมวนี่มันจะไม่ถูกกัน ท่านมีลูกกรอกแมวนะ แมวท่านออกลูกกรอก ท่านก็เอาไปใส่ตู้ไว้เลี้ยง รู้ว่ามันเป็นยังไง ตัวนี้เป็นลาภอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ใช่คนสมัยใหม่เกินไป ไม่ใช่ลูกกรอกคนนะ แมว ท่านก็พูดกับมันรู้เรื่อง เรื่องแมวนี่นะ ทีแรกเราไม่รู้เรื่อง เรานึกว่าท่านวิชชาสาม

    ทีนี้ก็ หลวงพ่อมากรุงเทพฯมานี่น่ะ กลับไปอยู่นู่นก็โยมอาด ไปถึงโยมอาด หลวงพ่อก็บอก โยมอาด แมวกินข้าวดีไหมล่ะ ไม่ค่อยดีค่ะ ข้ารู้แล้วละแกให้ปลาน้อย เขามาฟ้องว่าแกให้ปลาเขาน้อยนี่ มันจะฟ้อง

    แล้วมีแมวอยู่ตัวชื่อไอ้นิล ไอ้นี่มันเคยเป็นยักษ์มาก่อน แมวที่อื่นมันกัดตายหมดเลย โอ้ หมาที่เก่งๆนะ เวลาเจอไอ้นิลก็วิ่งปรี๊ด ไปถึงไอ้นิลนี่มันเบรกๆ (หัวเราะ) หมากลัวแมว ไอ้นิลมันเก่ง

    เวลาทำกุฏิหลวงพ่อนี่ เรียกมันมาหานะ เพราะมันกัดเขาเรื่อยนี่ พระก็จะตีมันน่ะสิ พอหน้ากุฏิหลวงพ่อ เรียกนิล มาพันแข้งพันขา ถ้าห่างกุฏิหลวงพ่อ ไม่มีทางเรียกได้ แมวตัวนี้ยักษ์มาเกิด เป็นยักษ์มาก่อนหรือไงนี่ กัดแมวตายหมด ตัวมันใหญ่ ตอนหลังไปโดนที่อื่นเขากัดตายหรือไงนี่

    (จากคอลัมภ์ "จากคำบอกเล่า" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 174 เดือนกันยายน 2538 หน้า 82)

    IMG_20200322_171000.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2021
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    4444.jpg



    บุคคลผู้ประพฤติถูกแต่อมกิเลส

    นิโครธะปริพาชกทูลถามพระพุทธเจ้าว่า พระองค์ตรัสถึงบุคคลผู้ประพฤติเพื่อ
    การละกิเลสไว้มากมาย อยากจะทราบว่า จะทำอย่างไรให้การปฏิบัตินั้นเข้าถึงความ
    บริสุทธิ์ผ่องใส ครบถ้วนบริบูรณ์

    1. พระพุทธเจ้าตรัสว่า "นิโครธะ ผู้มีการประพฤติปฏิบัติ เพื่อการตัดกิเลสทำถูก ทำตรงตามวิถีทางการละการตัดกิเลส แต่จิตใจยึดมั่น ถือมั่น ดีใจ คิดว่าการปฏิบัติเพียงเท่านี้ดีแล้ว จบแล้ว ไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ ก็เป็นอุปกิเลส คือจิตเข้าไปกอดความชั่วของผู้นั้น"

    2. คนที่ปฏิบัติถูก ปฏิบัติตรงนั้นยึดมั่น ถือมั่น ในปฏิปทานั้น ยกตนข่มผู้อื่นว่า "ฉันดีกว่าเธอนะ" อย่างนี้ก็มีกิเลสท่วมหัว

    3. ผู้ปฏิบัติถูก ผลเกิดจากการปฏิบัติพอสมควร เมื่อมีคนสรรเสริญ ก็ติดในคำสรรเสริญ เขาให้ลาภก็ติดในลาภ อย่างนี้ก็เป็นผู้เข้าไปกอดความสกปรกของกิเลสไว้

    4. ผู้ปฏิบัติถูก ผลของการปฏิบัติมีพอควร เมาในผลของการปฏิบัตินั้น คิดว่า
    เท่านี้พอแล้ว ก็เป็นอันว่าตกอยู่ในหลุมอุจจาระ คืออุปกิเลส

    5. ผู้ปฏิบัติถูก ได้ลาภ ได้รับคำสรรเสริญ ติดในลาภและสรรเสริญ เลยเอาความมีลาภและมีคนสรรเสริญข่มขู่ ยกตนข่มผู้อื่น โดยคิดว่าพวกเธอมีลาภไม่เท่าฉัน
    ฉันรวยกว่า ฉันมีคนเคารพมากกว่านะ อย่างนี้ท่านก็ถือว่า มีความสกปรก คือกิเลส
    เลยหัว เช่นเดียวกันเหมือน กปิลภิกขุ และสุนัขปากเปราะ

    6. ผู้ปฏิบัติถูก มีผลปฏิบัติพอสมควร มีคนเคารพนับถือมาก เขานำลาภสักการะ
    มาถวายมากมาย ลืมสติลืมตัว เลือกรับของอะไรที่ตนชอบ ก็บอกว่าอย่างนี้ใช้ได้ ที่
    ไม่ชอบก็บอกว่า อย่างนี้ผิดวินัย พระพุทธเจ้าห้ามรับ ไม่หวังเจริญศรัทธาตามปกติ
    ท่านก็ตรัสว่า มีอุปกิเลสมาก คือความเลวเหลือล้น

    7. ผู้ปฏิบัติถูก แต่เมาในโภชนะ คือ อาหาร ติดว่าอาหารประเทนี้ควร อาหาร
    ประเภทนี้ไม่ควร เลือกเฉพาะที่ชอบใจ เพราะติดในรสอาหาร ท่านกล่าวว่า ยังสะสม
    ความชั่ว ถืออุปกิเลสไว้มาก

    8. ผู้ปฏิบัติถูก เมื่อได้รับความเคารพนับถือจากพระมหากษัตริย์ หรือข้าราชการ
    ชั้นผู้ใหญ่ เป็นตัน ลืมตัวหลงคิดว่าตนมีศักดิ์รีสูงส่งกว่าคนที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นตัน
    ไม่ได้เข้าไปแสดงความเคารพสักการะ ท่านก็ว่าผู้นั้นเป็นผู้สะสมอารมณ์ชั่ว ถืออุปกิเลส

    9. ผู้ปฏิบัติถูก ริษยาผู้อื่นว่า กินไม่เลือก รับไม่เลือก เพราะท่านเหล่านั้นมีคนเคารพ และได้ลาภสักการะ ก็เกิดอารมณ์ริษยา ท่านว่า เขาเป็นผู้สะสมความชั่ว คืออุปกิเลสไว้มาก

    10. ผู้ปฏิบัติถูก มีผลบ้างเบื้องต้นเห็นท่านอื่นที่ปฏิบัติมีผลดีกว่า มีคนเคารพ
    มาก ก็หาทางโพนทนาด่าว่าเปรียบเปรย (นินทา) ให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือเสียหาย
    ท่านว่า คนเช่นนี้เป็นผู้จอมสะสมความชั่ว คือมีอุปกิเลสมาก

    11. พระองค์ตรัสว่า ผู้ปฏิบัติพื่อละกิเลส นั่งสมาธิ จริยาแสดงว่า ท่านี้ฉันทำสมาธินะ หรือแต่งกายเป็นการแสดงออกให้เข้าใจชัดว่า ฉันเป็นนักปฏิบัติเพื่อตัดกิเลสนะ (ข้อนี้ผู้เขียนคิดว่า ท่านที่นิยมสวมลูกประคำจะเข้าข่ายนี้หรือไม่..) ท่านว่า การแสดงตนอย่างนี้เป็นการโชว์เพื่ออวด ท่านว่ามีอุปกิเลสมาก

    12. และบางพวกชอบอวดว่า "ฉันนิยมปฏิบัติอย่างนี้นะ...." บ้าง บางพวกปกปิดจริยาชั่ว ทำตัวเรียบร้อย ด้วยมรรยาท และบางพวกมักโกรธ ผูกโกรธ คือ อาฆาต บางพวกชอบลบหลู่ ตีเสมอ ริษยา ตระหนี่ โอ้อวด ขับไล่ มีจริยากระด้าง ถือตัวจัด มีความปรารถนาลามก มีอารมณ์เห็นผิด คัดค้านคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า อย่างนี้เป็นตัน ท่านกล่าวว่า เป็นผู้สะสมกิเลส คือความชั่วไว้สูงเลยหัว

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 74 เดือนเมษายน 2530 หน้า 143-144)
     
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    คาถาสมเด็จพระพุทธทีปังกร.jpg

    ด้านบนนี้เป็นคาถาของสมเด็จพระพุทธทีปังกร ท่านป้านิภา คงสุขเคยแจกสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ครับ

    11-14.jpg 856259_801616453185578_1130279314_o.jpg
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    0001 (44).jpg 0001 (46)a.jpg

    เสาร์ขึ้น 5 ค่ำ

    วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2554 ทีวัดท่าซุงมีฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง 2 วัน วันเสาร์กับวันอาทิตย์ ตอน 6 โมงเย็น เสาร์ขึ้น 5 ค่ำมีพิธีพุทธาภิเษกที่ในโบสถ์ คนเต็มบริเวณหมด ข้าพเจ้าเห็นว่าคนเต็มไม่มีที่นั่งเลยชวนแก้ว เอ๋ จี๊ดและอีก 4-5 คนขึ้นไปนั่งบนหน้าประตูโบสถ์ เพื่อจะให้คนอื่นนั่งที่เราแทนได้ มีสวดอิติปิโสฯ พร้อมกันทั้งพระและฆราวาส

    ข้าพเจ้าดูว่าพระที่ท่านมาท่านอยู่แบบไหน เป็นว่า..


    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลอยอยู่บนสุด ถัดลงมาพระปัจเจกพระพุทธเจ้ามีมากกว่าพระพุทธเจ้า ต่ำลงมาเป็นพรหม มีมากกว่าพระปัจเจกพุทธเจ้า ต่ำลงมาหน่อยเทวดานางฟ้ามีมากกว่าพรหม ล่างสุดมีผีมีเทวดานางฟ้าเยอะ นั่งติดๆคนก็มีแน่น พวกสัมภเวสี เปรต อสุรกายก็มี

    ดูไกลๆ แบบพระเจดีย์คือบนเล็กล่างใหญ่แบบเจดีย์ เพิ่งจะเห็นและได้ความรู้วันนั้นเอง วันอื่นๆ ไม่เห็นแบบนั้น เพิ่งจะวันนั้น สวดมนต์เสร็จนั่งสมาธิต่ออีกจึงดูแบบไกลๆ ภาพออกมาแบบเจดีย์ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก คนโบราณท่านทำอะไรมีเหตุมีผล

    เย็นนั้นแสงสว่างมากเป็นทางยาวแบบรุ้งและแบบร่มคันใหญ่ปกคลุมได้ทั้งประเทศ เป็นว่าที่กรุงเทพฯสมเด็จพระสังฆราชและพระผู้ใหญ่ก็มีพิธีสวดมงคลคุ้มครองประเทศชาติด้วย เพราะเป็นวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ ถือว่าเป็นวันสำคัญมากๆ วันช๊อกโลกเพิ่งจะเกิด


    วันช๊อคโลกที่เครื่องบินบินชนตึกเวิลด์เทรดที่นิวยอร์คและเพนตากอนที่วอชิงตัน กำลังห่วงว่าสงครามจะเกิดทั่วโลกเพราะพวกเรียกว่าสงครามศักดิ์สิทธิ์ ไทยเราก็ศักดิ์สิทธิ์ทำพิธีป้องกันภัยแบบของเรา จงช่วยกันไหว้พระสวดมนต์แผ่ส่วนบุญค้มครองป้องกันภัยสงครามให้ไทยรอดพ้นอันตรายด้วย พลังจิตที่ดีมากๆ ช่วยคุ้มครองได้นะ ไทยเราจะปลอดภัยเพราะศาสนาพุทธจะอยู่จนสิ้นอายุศาสนาพุทธ ใครทำเป็นช่วยกันทำให้มากๆ เป็นพิเศษหน่อย แบบที่ว่าทำดีผีคุ้มครอง ขอให้คุ้มครองทั่วไปหมด สำหรับคนดี คนชั่วเป็นไปตามเวรกรรมของเขาเอง เราไม่ยุ่งด้วย คิดเป็นทำเป็นอยู่ในร่องรอยที่ดี บางวัดไม่มีการสอนธรรมะเลย วัดเงียบแต่พระดังตามข่าวหรือหน้าหนังสือพิมพ์ อยากให้ทุกคนช่วยกันเสียสละ เห็นแก่ชาติบ้านเมือง บันเทิงหรือบาร์ผับถ้าไม่จำกัดเขตกำจัดเวลา สังคมจะเสื่อม ศาสนาเสื่อมด้วย

    ถ้าทำจิตสะอาดจะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่นเป็นลักษณะธรรมควบความเป็นจริง รู้ละอะไรได้ ไม่รู้จักวางเฉยจะเดือดร้อน


    บริสุทธิ์ด้วยปัญญายากง่ายอยู่ที่เราเป็นผู้เลือกทำ ทำแต่ความดีง่าย อริยทรัพย์ผลจะติดตามดีตลอด สงบนิ่งแบบรู้ดีรู้ชอบ ให้รู้แจ้งในธรรมะให้มีสติรู้ อาศัยเหตุปัจจัยทำให้หมดสังโยชน์และมีบารมี 10 ครบ มีสัจจะรู้ตามความเป็นจริง เว้นเหตุแห่งทุกข์ ต้องมีศรัทธาก่อนถึงจะทำให้มีความสุข แล้วทำตามบุญมากจะถูกทาง ถ้าบุญน้อยหรือไม่มีบุญจะรู้ผิดทาง ทุกข์กายเข้าใจง่าย ทุกข์ใจเข้าใจยาก ต้องปฏิบัติเองเข้าใจเอง รู้เอง ทำเอง

    เมื่อสมัยก่อนข้าพเจ้านึกว่าผีปั้นคนได้เก่งมาก ไม่เหมือนกัน บุญก็ไม่เท่ากัน เดี๋ยวนี้รู้แล้วว่าเป็นเพราะจากกรรมเวร ธรรมชาติสถานที่ที่ไปเกือบทั่วโลกก็ไม่เหมือนกัน ผีก็ไม่เหมือนกัน คนรูปร่างหน้าตาอวัยวะไม่เหมือนกัน ธรรมชาติมีภูเขา ต้นไม้ แผ่นดิน แม่น้ำ ฯลฯ ไม่เหมือนกันอีก สวยไปแห่งละแบบ ต้องทำได้ฌาน 4 เป็นพระอนาคามีถึงจะเรียกว่านิโรธสมาบัติ ถ้าไม่เป็นอนาคามีขึ้นไป หรือไม่ถึงฌาน 4 เรียกฌานสมาบัติ คิดเองทำเอง คิดเป็นทำเป็น คิดใหม่ทำใหม่ การจัดระเบียบสังคม อดพูดถึงการเมืองไม่ได้ ก็เพราะเราอยู่ในบ้านเมืองด้วย ม.ท. 1 ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์มีชื่อว่า ปุๆ ยิงเป้า บางฉบับเรียกไม้บรทัด ทำตามกฏหมายที่มีอยู่ นายกทักษิณจะทำประเทศชาติไปได้ดีถึงไหน ขอให้ดีจริงๆ ตามที่ประชาชนกำลังชื่นชมกันมาก ขอให้เจริญๆ ยิ่งขึ้นไปเถอะ

    บุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องอภัยนะท่าน ถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่แค้นต้องชำระ กรรมชั่วที่เขาทำไว้ชำระเขาเอง

    ดูน้ำป่าน้ำท่วมทลายบ้านเมืองยับเยินนั่นก็เพราะตัดไม้ รุกขเทวดาอยู่เยอะรู้ว่าผิดยังทำอีก กรุงเทพฯ เราไม่มีใครตัดไม้ใหญ่น้ำเลยไม่ท่วม คิดแบบเด็กๆ ปัญญานิ่ม หลับตานอก ตาในกำหนดดูอยู่กับจิตภายใน รักษาจิตอย่าให้เสื่อม กาลเวลาพิสูจน์คนมีน้ำยาน้ำอดน้ำทนตั้งมั่นขนาดไหน อย่าเป็นม้าตีนต้นๆ ปลายๆ แย่ ทุกอย่างทำได้ด้วยปัญญา

    ทำอะไรย่อหย่อนมักได้ผลน้อย แบบมีบุญน้อยอธิษฐานขอมักจะไม่สำเร็จ

    เมื่อวันศุกร์ขึ้น 4 ค่ำที่ 21 กันยายน ตอนเย็นๆ เดินจงกรมแบบเล่นๆ ที่วัดท่าซุง ไม่ให้ใครรู้ พบกลุ่มหมาให้พรเขา เขาเป็นสัตว์มีบุญมากนะเฝ้าของสงฆ์ จงเอาบุญฉันไปให้หมดแล้วหาทางพ้นเกิดด้วยนะ อย่าเห่าอย่าเสียงดังคน เขามาทำบุญกันทั้งนั้นเดี๋ยวจะเป็นบาป เขานิ่งฟังมีนกเอี้ยงเกาะบนเสาไฟร้องดังไม่เห็นตัว บอกออกมาให้ดูหน่อย เขาออกมาเกาะที่สายไฟ คุยกับนกหน่อยเดินไปที่เขากองทรายหินเยอะแยะ จะซ่อมใต้ถุนศาลาวัด นึกดูวัตถุนี่เปลี่ยนซ่อมแซมให้แข็งแรงต่อไปอีก นึกถึงตัวเองไม่รู้จะเอาอะไรเปลี่ยนซ่อมได้เหมือนใต้ถุนศาลาก็ดี พบพระที่วัดท่าซุง 3 องค์ยืนอยู่ทางขึ้นศาลา 3 ไร่ เลยคุยกันเรื่องการบำรุงซ่อมแซมวัด ว่าวัตถุยังซ่อมเป็นได้ คนนี่ซ่อมไม่ได้ แก่ก็ต้องแก่ เอาอะไรมาเปลี่ยนให้หนุ่มไม่ได้อีก ทนเอา !

    มีพระองค์หนึ่งถามถึงหนังสือเลยบอกวิธีเขียนให้ มีขึ้ผึ้งสีปากหลวงพ่อเอาป้ายปากก่อนถ้าไม่ลืม แล้วเขียน นึกอะไรได้เขียนไป ดีชั่วอย่างที่เห็น

    ขณะที่พระนั่งทำพิธีในโบสถ์ เสาร์ขึ้น 5 ค่ำ นอกโบสถ์ฆราวาสนั่งทำสมาธิกันเต็มหมด ข้าพเจ้าเห็นเป็นแสงขาวใหญ่มากแบบร่มกางกันแดดกันฝนแต่ยอดแหลม ร่มสีขาวใหญ่แบบคลุมทั่วไปหมดเลย ประเทศไทยคงไม่มีภัยอันตรายใดๆ นอกจากเศรษฐกิจตกไปบ้างเท่านั้น ถ้าไม่ขี้เกียจไม่มีทางอดอาหาร วันนี้ตอนเย็นเห็นในทีวีมีการให้นักเรียนนั่งสมาธิกัน ขยันทำบุญเข้าประเทศชาติจะได้พ้นภัย ตัวเราเองจะมีความสุขเด็กวัยรุ่นหันมาทางทำสมาธิกันมากแล้วนะ เห็นแล้วดีใจ ไทยรอดจากภัยสงครามแน่ หมายถึงสงครามอาวุธนะ

    มีสมาธิอะไรๆ ก็ดีหมด เรียนหนังสือ แข่งกีฬา ทำอะไรๆ ก็ต้องมีสติมีสมาธิคุมทั้งนั้น ดูจากนักกีฬาในทีวีเขาจะทำใจสบายๆ ก่อนแสดงเสมอ

    คุมจิตไม่ผิดธรรม อบรมจิตวิปัสสนาอย่าเผลอสติ ถ้าสติไม่ดีเหมือนไฟเป็นทุกข์กัดกินชีวิตให้หายนะ คนบ้ามีสติไหม ดูสิ่งรอบกายแล้วน้อมให้เข้ามาทางธรรมะเข้าไว้ ต่อไปจะชินเอง เก่งต้องหมดทุกข์จริง โง่ไม่เก่งไม่หมดทุกข์จริงต้องเกิดอีก ไม่ทำบาปทำชั่วทั้งปวง ทำความดีให้เป็นคุณ ทำใจให้ผ่องใส ทำสมาธิวิปัสสนาไม่ว่าร้ายไม่เบียดเบียนกัน ถือศีล ทำสมาธิ มีปัญา เห็นแจ้งตามชำระจิตใจให้สะอาด


    (จากบันทึกของชาโดว์ เล่ม 7 หน้า 20-23)



    อ่านเรื่องของป้าเชิญเรื่องนี้แล้วจะทราบว่าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าซุง พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันต์มากมายท่านก็ยังมาสงเคราะห์บรรจุพระพุทธคุณให้เช่นเดียวกับสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่


     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228


    3 จบ 9 จบ ต่างกันอย่างไร


    คุณพุฒิชัยถามว่า "หลวงพ่อครับ เวลาที่ภาวนาคาถาเงินล้าน ที่หลวงพ่อบอกว่า
    ให้บูชา 9 จบ ทีนี้ผมอยากทราบว่า มันแตกต่างกับบูชา 3 จบอย่างไรครับ ?"

    หลวงพ่อตอบว่ายังไง หลวงพ่อตอบว่า

    "ก็มันเหนื่อยไม่เท่ากัน"

    เท่านี้แหละคุณกาหลงและพรรคพวกหัวเราะกิ๊ก บอกคุณพุฒิชัยว่าไม่น่าถามเลย ปัญหาอย่างนี้ก็ถามด้วย

    หลวงพ่อก็โปรดเมตตาตอบให้ใหม่ว่า

    "ที่ให้ภาวนา 9 จบ ในช่วงนั้นขณะภาวนา จิตจะไม่ทรงตัวเสมอกัน ถ้าก่อนถึง 9 จบจุดใดจุดหนึ่ง อาจจะถึงฌานก่อน"

    เท่านี้แหละคุณพุฒิชัยร้อง อ๋อ ผมต้องการแค่นั้นแหละครับ ไม่เฉพาะแต่คุณพุฒิชัยเท่านั้น ข้าพเจ้าเองก็เพิ่งเข้าใจเหมือนกัน จึงนับเป็นคำถามที่ดี


    (จาก ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 63 หน้า 118)
     
  10. Yimnile

    Yimnile สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2020
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +38
    90692663_160745348744162_219660931213295616_n.jpg สวัสดีค่ะพี่วรรณและกัลยาณมิตรทุกท่าน วันนี้ นายมาเล่าประสบการวัตถุมงคล ของหลวงพ่อและการสวดคาถาเงินล้าน
    นายห้อยพระคำข้าว และอื่นๆ สลับกันค่ะ แต่โดยส่วนมากจะเป็นพระคำข้าว และสวดคาถาเงินล้าน 22 จบทุกวัน ตอนตี 4 ที่ตื่นมานั่งสมาธิเสร็จและสวดคาถาเงินล้านต่อ ก่อนนอนก็จะภาวนาด้วยคาถาเงินล้านจนหลับไป ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจน คือ ธุรกิจที่นายทำ เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป สวนกระแสกับยุคโควิด19 ระบาดซึ่งคนตกงานกันมาก รายได้เสริมมีมากยิ่งขึ้น และยังมีลาภทางหวยเล็กน้อยโดยถูกต่อเนื่องราวๆ 5 งวดแล้วค่ะ สาธุในพระพุทธคุณพระเครื่องของหลวงพ่อค่ะ
    และหากท่านใดสนใจ อยากมีรายได้เสริม ทักสอบถามนายมาได้นะคะ
    แอดไลน์ไอดี yimnai หรือ ติดตามที่เพจ http://m.facebook.com/ninemrswow
    เราช่วยคุณมีรายได้จริงค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2020
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    54355.jpg 54356.jpg


    ทรงกุมารทอง

    มีคนถามเรื่องเข้าทรงกุมารทอง

    "กราบนมัสการหลวงพี่ที่เคารพ ผมขออนุญาตเรียนถามหลวงพี่ วันศุกร์ที่ผ่านมาผมไปพบการเข้าทรงที่โรงพยาบาล มีทรงหลวงปู่คล้ายวาจาสิทธิ์ ทรงพ่อปู่ขาว แล้วก็ทรงกุมาร (ไม่มีการจุดรูป) เพียงแต่กล่าวขอ ท่านก็ลง

    ผมขอเรียนถามหลวงพี่เกี่ยวกับกุมารว่าเป็นเทพหรืออย่างไร ทำไมจึงชอบของเล่นและขนมหวาน บอกว่าจะให้โมทนาส่วนกุศลเอาไหม ตอบว่าเอา แต่ถามชื่ออะไรไม่ยอมบอก อย่างนี้จะเป็นจริงไหมครับ ?"

    เรื่องนี้ต้องถามผู้มีความรู้พิเศษนะ หลวงพี่นี่ไม่มีความรู้พิเศษเรื่องพวกนี้เลย

    "เอ..หลวงพ่อเคยปรารภเรื่องกุมารไว้หรือเปล่าหลวงพี่ เรื่องกุมารทองหลวงพ่อเคยปรารกไว้ใช้ไหมครับ"

    เคย แต่จำไม่ได้แล้วล่ะ

    "อ้อ...รอดตัวไปอีกคราวหนึ่ง" (หัวเราะ)

    เรื่องเข้าจ้าวเข้าทรงนี่อย่างหนึ่งนะ มันจริงมันมีปลอมอยู่ในตัวเองแหละ ไม่รู้เราจะจับได้ยังไงเท่านั้นเอง ที่ของจริงเขาก็มี ของปลอมเขาก็มี

    "ของจริงของปลอม นิมนต์ว่าได้เลยครับ"

    สมัยหลวงพ่อมีชีวิตอยู่นี่ เคยมีของปลอมมาที่วัด หลวงพ่อท่านก็ปล่อยเฉย ท่านก็ปล่อยไปเรื่อย เล่นกันสารพัดเลย ของจริงของปลอมนี่ต้องได้ทิพจักขุญาณถึงจะรู้ พวกสัมภเวสีนี่ก็มีโอกาส สัมภเวสี อสุรกาย นี่นะมีโอกาสแทรกได้ แต่ฉันเองก็ไม่ค่อยได้สนใจเลยเรื่องพวกนี้ เพราะพาให้เราต้องวิเคราะห์นี่ มันเสียเวลา ต้องวิเคราะห์ วิเคราะห์ว่า เอ...มันจะใช่ จะจริงจะปลอม ของถูกของผิดอะไรอย่างนี้ มันเสียเวลา


    มีอยู่คราวหนึ่งไปหาท่านเจ้าคุณอ่ำวัด
    โสมนัส ปีนี้ท่านมรณภาพไปแล้ว ท่านปรารถนาพุทธภูมิ เคยเป็นช้างปาลิไลยกะ ลงมาเกิดอยู่ที่วัดโสมนัสนี่ หลวงพี่ก็ไปคุยกับท่าน ท่านก็
    บอกว่าท่านก็ไม่ค่อยเชื่อนะเรื่องผีเรื่องนรกอะไรต่ออะไรพวกนี้นะ

    ทีนี้ท่านก็ไปขุดกระเบื้องจาร ท่านเจ้าคุณอ่ำนี่ท่านชื่อท่านเจ้าคุณราชกวี อยู่วัดโสมนัส ตอนนี้ก็มรณภาพไปแล้ว ท่านเจ้าคุณอ่ำนี่ท่านก็บอกว่าท่านไม่มีทิพจักขุญาณหรอก พอภาวนาไปจับลมปั๊บ เห็นเทวดามาลอยอยู่ข้างหน้าก็พาท่านไปดูที่ราชบุรีนะ ดูแผ่นศิลาจารึก อะไรต่อมิอะไรนี่ทุกอย่าง ท่านก็อ่านออกหมดเลย


    มีอยู่วันหนึ่งท่านก็สงสัย เอ...พระศรี
    อาริย์นี่มีหรือเปล่านะ ท่านก็จุดธูปที่หน้าพระ อยากจะรู้พระศรีอาริย์มีจริงไหม พอจุดธูปนั่งสมาธิปั๊บ เทวดาเหาะมาจากข้างบน มายืนอยู่บน
    หลังคากุฏิ ถือพระขรรค์ยืนลอยอยู่หน้า ท่านเจ้าคุณอ่ำท่านก็บอก เอ๊....ใครนี่ เทวดาท่านก็บอกตะกี้นึกถึงใครล่ะ ท่านเจ้าคุณอ่ำท่านก็นึกไม่ออก เอ...นึกถึงใครว้า เทวดาก็เร้าใหญ่บอกว่าถ้านึกไม่ออกก็ไปละนะ ท่านก็รีบนึกใหญ่เมื่อกี้นึกถึงใครว้า ก็นึกไม่ออก เทวดาก็เหาะไปเลย พอเหาะไปก็ร้อง อ้าว...ตะกี้นึกถึงพระศรีอาริยเมตไตรยนี่ เหาะไปซะแล้ว หนีไปแล้ว

    วันหลังท่านทำใหม่อีก พระศรีอาริยเมตไตรยท่านก็มาหาท่านเจ้าคุณอ่ำ ท่านเจ้าคุณ

    อ่ำก็ขอร้องให้ปราบมนุษย์ที มันคอยจะเข้าทรงเอาท่านมาหากินอยู่เรื่อยเลย บอกเดี่ยวก็พระศรีอาริย์ที่โน่น เดี๋ยวก็พระศรีอาริย์ที่นี่ พาให้คนหากินหลอกลวงกันไปอย่างนี้ไม่ดี พระศรีอาริย์ท่านก็บอกว่า ก็มันเอาชื่อฉันไปหากินได้ก็ดีแล้วนี่ จะให้มันไปเป็นโจรหรือไง ท่านไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยอมให้มันหากิน

    ทีนี้ก็มาคุยกับหลวงพ่อ กลับไปวัดก็ไปเล่าให้หลวงพ่อฟัง ท่านก็บอกว่า พุทธภูมินี่ถ้าถึงปรมัตถบารมีอย่างนี้แล้วนี่ เทวดาและพรหมเขาอุ้มชู คอยจะช่วยเหลืออยู่ ไม่ต้องมีทิพจักขุญาณ ถ้าเขาจะให้เห็นก็เห็น จะช่วยอะไรก็ได้ทั้งนั้น เทวดาเขาอุ้มอยู่แล้วนี่ ทีนี้ก็บอกว่าตอนท่านเจ้าคุณอ่ำจุดธูปน่ะ หลวงพ่อท่านก็บอกว่าเขาไม่อยากให้รู้เขาลองดู ท่าน
    พระศรีอาริย์ท่านลองไม่ให้ท่านเจ้าคุณอ่ำรู้ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก นึกหัวแทบแตกก็นึกไม่ออกนี่ (หัวเราะ) เจออำนาจของพระพุทธเจ้า อำนาจของพระศรีอาริย์ท่าน

    นี่เป็นความรู้เกร็ด เราไม่รู้เรื่อง เราก็เอาอย่างนี้นะ สังเกตดูพระที่ปรารถนาพุทธภูมิเดี๋ยวนี้นะ อย่างหลวงตาจันทร์ วัดป่าชัยรังษีก็ดี อีกมากมาย พุทธภูมิเข้มทั้งนั้น อาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิมก็ใช่ วัดเขาสุกิมนี่พระมีชื่อเสียงที่มีลูกศิษย์ลูกหามาก

    ฉะนั้นไอ้เรื่องเข้าทรงนี่ สนใจกันให้น้อยหน่อย สนใจเรื่องภาวนากันให้มากหน่อย รักษา
    ศีลนี่จะดีที่สุด รักษาศีลภาวนาไว้ สนใจอย่างนั้นถือว่าเป็นรองไป เป็นงานอดิเรก อย่าไปเชื่อปักใจมากมายนัก

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 156 เดือนกุมภาพันธ์ 2537 หน้า 98-99)

    54357.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2020
  12. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,231
    สาธุ
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    0001 (19).jpg

    เรื่อง ต้นโพธ์ที่อินเดีย

    คือ ตันโพธิ์ที่ว่านั้น ถ้าจริงต้องต้นโพธิ์วันนั้น แล้วก็พระแท่น พระแท่นที่นั่งใครเขา
    ทำกันอย่างนั้นล่ะ ถ้าพระพุทธเจ้านั่งจริงๆละเจ็บตูดตายเลย ทำเป็นดอกทำเป็นดวง เป็นโลหะ (หัวเราะ) พระแท่นเวลานั้นใครไปหล่อให้พระพุทธเจ้าเล่า หญ้าคา ก็ทำโกหกทั้งนั้นแหละ แล้วยังไปเชื่อการโกหกกันอีก ไอ้เราไปก็เฉยๆ

    แต่ไอ้แขกมันโกหกเก่งนะโยมนะ ถ้าโกหกต้องยกให้แขกนะ วิธีหลอกลวงมันหนึ่ง
    ในตองอูนะ ไอ้ไทยบ้าๆบอๆ ก็ไปเชื่อส่งเดชนั่นละ ที่พระพุทธจ้าประสูติล่ะ ที่เนปาลน่ะ
    ขุดดินลงไปลึกเท่านั้นน่ะ พื้นแผ่นดินเวลานั้นลึกเท่านั้น อ้าวไอ้เราก็เชื่อ เออ..ก็ดีเหมือนกัน ถ้ามันโกหกได้ผล มันก็ต้องพยายามโกหก ใช่ไหมเล่า พวกมันได้สตางค์น่ะ

    "ผมยังนึก เอ้อ..ไอ้ไทยนี่ ที่สร้างวัดในประเทศไทยนี่ มันต้องสร้างวัดในเมืองแขก แขกไม่นับถือพระพุทธศาสนา ไอ้นี่ต้องถือเป็นโรคอุปาทาน ใช่ไหม"

    คือไปเมืองแขก ถ้าแขกมาไหว้พระพุทธรูป เราก็ต้องดูก่อน ต้องถามก่อนว่าเป็นแขก
    พุทธ หรือแขกฮินดู คือไอ้ศาสนาฮินดูมันพยายามทำลายพระพุทธศาสนา แต่มันทำลายไม่ลง มันก็ทำไง เอาลงหมดไม่ได้ มันต้องเอาสายอื่น ไอ้นักปราชญ์คนหนึ่งมันก็เขียนประวัติขึ้นมา บอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของพระนารายณ์ที่อวตารลงมา เขานับถือพระนารายณ์ มันมาไหว้พระพุทธรูป มันถือว่าไหว้พระนารายณ์ ต้องไปดูกันก่อน

    ถ้าไปเมืองแขกเห็นมีหนุมาน ไอ้พวกเขาละ ต่างคนต่างถือกันคนละศาสนา ถ้าพวก
    ธิเบตแน่นอน พวกธิเบตเคารพมาก แล้วเวลามันมาเจอะพระพุทธคยาละคืบมานะ ไม่เดินเรียกคืบ ลุกขึ้นนอนทาบ ตัวยืด เอาเท้าเลื่อนมาที่มือ ทาบเรื่อยมา เหมือนพวกทากน่ะ

    พวกเราไปถึงที่พุทธคยา เห็นเขามีกระดานอยู่แผ่นหนึ่ง ของเขาน่ะ เขานั่งคืบนอนคืบบนกระดาน เป็นมันเลื่อม แล้วอีกพวกก็เดินตามกำแพง คืบตลอด

    เราก็นึกในใจว่า ถ้ามันจะคืบแบบนี้น่ะ มานั่งทำวิปัสสนาสบายๆ ยังดีกว่าเลย แต่เป็นกำลังใจเขานึกว่าได้บุญ ถ้าบุญประเภทนั้นนะ มันจะไปแค่กามาวจรกับพรหม นี่แกไปได้ แกถือทางกายมากเกินไป คือไม่ถือทางใจ

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 164 เดือนพฤศจิกายน 2537 หน้า 26-27)
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    0001 (2).jpg


    พระพม่า

    เออ...พูดถึงพม่าข้าก็ดีใจนะ พระพม่านี่กอดผู้หญิงก็ได้

    "พระพม่าน่ะหรือคะ"

    อ้าว..กินข้าวได้ตลอดเวลา ทีนี้มันมีปัญหาว่า สู้พระญี่ปุ่นไม่ได้ พระญี่ปุ่นมีเมียได้ (หัวเราะ) คือเดี๋ยวนี้พระพม่าน่ะเขามีสองนิกาย สองนิกายก็หมายความว่า สอง
    พวก พวกหนึ่งอยู่ในเกณฑ์เคร่งครัด อีกพวกหนึ่งอังกฤษมันคงไปปล่อยน่ะ มันทำให้เสื่อม

    วันนั้นเห็นเดินควงแขนกับผู้หญิง ควงแขนกับผู้หญิงได้ เราก็แปลกใจนั่งดู ทีนี้พระพวกนั้น เณรพวกนั้นน่ะ ถ้าจะเข้าดูหนังดูละครโรงไหน ต้องให้เข้าฟรีนะ ถ้าใครไม่ให้เข้าชาวบ้านแอนตี้เลย นี่เขามีพวกหนึ่ง แต่อีกพวกหนึ่งเขาเคร่ง เขามีสองพวก

    สมัยอังกฤษมันครองมันก็ปล่อยให้เสื่อม ถ้าทำแบบนี้จะได้เสื่อม เขาก็เลยไม่เสื่อม ชาวบ้านเห็นควรไปด้วย อ้าว..ชาวบ้านเห็นทำได้ ก็เลยไปกันใหญ พระกินข้าวต้มตี 4 ตี 4 ตีระฆังกินข้าวต้ม พอกินข้าวต้มเสร็จก็ประมาณตี 5 แหละ ก็ทำวัตร พอสว่างดีก็เรียนอภิธรรม 4 โมงเช้าก็บิณฑบาต ความจริงมันบิณฑบาตเวลาไหนก็ได้ กินข้าวต้มตี 4 แล้ว

    ตอนเย็นไปบ้านกะเขา ญาติโยมเขาชงน้ำชามาให้หรือไอ้ปลาชะโดเค็มน่ะ เคล้าให้ดี คลุกๆให้ดี ก่อนจะเอามาให้ พระพม่าก็กินสบาย พระไทยนั่งน้ำลายไหล กินไม่ได้ (หัวเราะ) เสียท่า หลวงพ่อไปตอนนั้นนึกเสียดาย แหม..เรามาบวชที่พม่าดีกว่า (หัวเราะ)

    ไปเห็นพระโกนหัวให้ชี นั่งกอดคอกันบ้าง ล้อกันบ้างเล่นกันบ้าง เอ๊ะ..มันยังไงกันแน่หว่า นึกเอ๊เรามาบวชพม่าก็ดีเหมือนกันนะ เราบวชผิดที่นะ (หัวเราะ) บวชผิดที่นี่หว่า อุปัชชาย์ก็สอนผิดไปอีก

    ตามหลักน่ะเขามุ่งจะทำให้เสื่อม อังกฤษมันจะปล่อยให้เสื่อม บังเอิญไอ้คนมันยังเกาะติด ก็เลยไม่เสื่อม เขาถือว่าไม่เป็นไร ก็คนของเขาเคารพเสียก็หมดเรื่อง ถ้าถามว่าความเป็นพระมีไหม ก็ต้องตอบว่าไม่มี ก็ถือว่าเป็นนักบวชประเภทหนึ่ง จะจัดว่าเป็นภิกษุน่ะไม่ได้ พระเราทำอย่างนั้นไม่ได้ จะถือว่าประเทศไหนเขานิยมแบบไหนน่ะมันไม่ได้ นิยมประเพณีไม่ได้ วินัยต้องเป็นวินัย

    แต่ทำไมเขาจึงไม่ว่ากัน พอเขาบวชเข้ามาแล้วแทนที่จะเรียนวินัย เขาเรียนอภิธรรมเลย ก็เลยไม่ต้องรู้เรื่องกันสิ วินัยไม่เรียนไปเรียนอภิธรรมเลย วินัยก็เลยไม่ต้องรู้เรื่อง ทำยังไงก็ได้

    ชาวบ้านก็เรียนมาอย่างนั้นเหมือนกัน คือข้อห้ามต่างๆก็ไม่มี ขี่เกวียนแต่เสือกมุ่งนิพพาน อะไรๆเป็นอนัตตาหมด เขาบอกนี่น่ะหลุด (หัวเราะ) ดีไหม (หัวเราะ)

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 164 เดือนพฤศจิกายน 2537 หน้า 27-28)
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    รูปภาพกวนอู-ณ-ศาลเจ้ากวนอู-คลองสาน-ธนบุรี.jpg


    เรื่อง กวนอู

    (มืคนๆหนึ่งชื่อคุณแสวง มาเล่าเรื่องว่านั่งกรรมฐาน เจอกุมภกัณฑ์ หลวงพ่อเลยคุยเรื่องกวนอูให้ฟังดังต่อไปนี้)

    การเจริญกรรมฐานนี่มันเป็นขั้นตอน ผมก็เคยดูเรื่องนี้มา แล้วก็ผ่านเหมือนกัน แต่ของผมไม่ใช่กุมภกัณฑ์นะ เจอะกวนอู แกมาเลยนะ แต่งตัวเป็นเจ๊กพร้อมกับเครื่องแบบ
    รบเลย

    คือนอนๆอยู่ ตอนนั้นอยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ขโมยมันมาซุ่มอยู่ในป่าไผ่ แกจะขึ้นหลังกุฏิพระครูวิชาญ เพราะมีพระเก่ามากใช่ไหม ผมไม่หลับ ไม่ใช่หลับตานะ ผมนั่งไฟฟ้ายังเปิดอยู่ มาถึงปั๊บนั่งกราบแบบเจ๊ก แต่งตัวแบบนักรบ ถามใคร ผมกวนอูครับ

    ถามมาทำไม บอกว่าพวกโจรมันมาซุ่มอยู่หลังปาไผ่ 5 คน ถามทำไม มันกลางคืนตอนดึกมันจะใช้ยารม ขึ้นหลังกุฏิพระครูวิชาญ ก็ถามจะทำยังไง เพราะวัดไม่มีอาวุธ วัดไม่มีปืนใชไหม ถามขโมยมีปืนไหม บอกมีทุกคน ฉันก็ถามจะทำยังไง บอกมันจะใช้ยารมก่อน สังเกตตอนดึกลมจะพัดเข้า ใช้ยารมแล้วจะหลับ

    ถามท่านจะทำยังไง บอกเดี่ยวผมจะจัดกองทัพของผมเอง จัดกองทัพเลยหมาท่านนั่นแหละที่จัดเป็นกองทัพ ได้ผลนะวัดปากคลองมะขามเฒ่านานแล้ว หมาเยอะตอนนั้นมีหมาสามฝูง ของหลวงพ่อฝูงหนึ่ง ของพระครูวิชาญฝูงหนึ่ง ลูกศิษย์ครูหงาฝูงหนึ่ง รวมแล้ว 50 กว่า ปกติหมาสามฝูงนี่มันจะเข้ากันไม่ได้ มันอยู่ตามเขตมัน

    พอสามทุ่ม แกบอกเดี๋ยวออกไปผมจะจัดกองทัพ คอยดู มีช่องขึ้นหมานอนเฝ้ามันนำไปเลยสองตัว ฉันก็นั่งดูมันจะเป็นยังไง ช่องโน้นหมาอยู่สองตัว มันมีหัาหกช่อง เฝ้าช่องละสองตัว นอกนั้นอยู่ข้างล่าง ซุ่มอยู่ข้างล่างหมดนะ และมีอยู่สี่หัาตัวเดินล้อม แล้วแม่ทัพใหญ่เขากลับมานอน เดี่ยวมันก็ลุกไปตรวจ มีมุมหนึ่งหลับ เสียงเอ๋ง ถูกกัด แสดงว่าหลับใช่ไหม แกก็เดินตรวจแล้วก็มานอน

    พอถึงตี 1 กว่าๆ มันไม่นอนกัน ไอพวกที่นอนชุ่มใต้ถุนหลับมั่งอะไรมั่ง เขาไม่ว่า
    มีการพักนะ คอยซุ่มตามจุด ฉันก็นั่งดูสังเกตอยู่ ฉันนั่งอยู่ข้างล่าง เดี๋ยวท่านกวนอูท่านก็บอก เดี๋ยวคอยดูนะ มันจะซุ่มขึ้นสูงๆ ซุ่มสามจุด

    พอตีสองเสียงโฮก โฮกนี่มันเข้าถึงกุฏิแล้ว ถ้าเห่าๆไกลมันยังไม่เข้า มันกำลังจะใช้ยาเข้ามารม หมาเงียบหมด เงียบสนิท นึกว่าหมาหลับ ที่ไหนได้ 6 ทุ่มกว่าๆ ก็ตื่นหมดแล้ว ตื่นแล้วเงียบนะ นอนกันสงบเงียบ มองเป๊ง เจ้านายเขาก็นอนสูบยาอยู่ พอเสียงโฮกมันวิ่งไป โอ้โฮ ได้ทั้งปืนได้ทั้งเสื้อ ได้ผ้าขาวม้า ได้ปืนสองกระบอก ได้มีดพกเล่มหนึ่ง ขโมยเข้าไปในป่า มันกัดหน้าแหลกรานเลย

    แกบอกพรุ่งนี้บอกตำรวจ ได้ทั้ง 5 คนได้จริงๆ หมาตั้งสามฝูง ปืนยิงมันกัดเสียปืน
    หล่น แล้วไอ้จะว่าไม่จริงก็ไม่ได้นะ มันเป็นขั้นตอนนะ ของผมไม่มีหนุมาน ไม่มีทศกัณฑ์อะไรกับเขาหรอก

    มันมีอย่างนี้นะ ที่วัดปากคลองเขามีศาลท่านกวนอู ผมไม่รู้ ไปถามพระครูวิชาญ บอกมีท่านกวนอู เออ..ศาลนี่ไงท่านกวนอู ตายห่-นี่เราอยู่ข้างศาล (หัวเราะ) ท่านมาเป็นภาพรบเลย เป็นนักรบ แต่ว่ามันอย่างนี้สิคุณ ไม่ใช่มืดนะ ไฟฟ้ายังสว่าง สองทุ่มเท่านั้นนะ ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ เห็นจะจะ ผมกวนอูครับ

    แล้วต่อมาวันหลังฉันก็เลยนั่งคนเดียว นั่งม้าเล่น นึกถึงท่าน เอ๊ะ ท่านกวนอู วันนั้นท่านมาในภาพนักรบจีนใช่ไหม เลยอยากถามแล้วจริงๆท่านเป็นอะไร มาใหม่เลย ชฎาพราวเลย (หัวเราะ) พวกมีชฎานี่เทวดาไอ้หนู

    ถามว่าท่านเป็นนักรบ เป็นเทวดาได้ยังไง ท่านบอกนักรบก็ทำบุญเป็นนะครับ นี่เสียท่า ใช่ไหม นักรบก็ทำบุญเป็น สมัยโบราณยามว่างก็ทำบุญกันอยู่เรื่อย เรื่องเล็กท่านบอกท่านนึกถึงพระอยู่เรื่อย ของดีที่อกน่ะ พระใช่ไหม

    มันมีลักษณะอย่างที่พระยายมท่านว่านะ ไปดูสมัยญวนแพ้ ที่ดูแล้วคนมันไม่ไปนรก
    พอไปถามท่านบอก ทำไมไม่ดู รู้อะไรก็รู้ได้ทำไมไม่ดูก่อนที่เขาจะรบ เขาไปสวรรค์กัน
    มาก ก่อนเขารบน่ะ ไอ้นักรบขี้ขลาดไปสวรรค์หมด มันปลุกพระ มันนึกถึงพระจะไปยิงเขา นึกถึงพระ พอตายตูมตอนนั้นนึกถึงพระเป็นบุญ พอตายไปสวรรค์ทันทีเลย นี่เห็นไหม


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 164 เดือนพฤศจิกายน 2537 หน้า 24-25)
     
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    61 ปกหลัง มีรูปจานกระเบื้อง.jpg
    63 หน้า 80.jpg

    จานกระเบื้องเคลือบรูปหลวงพ่อ

    สร้างถวายวัดโดยลูกศิษย์ท่านนึง เข้าพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันมาฆบูชาที่ 23 กุมภาพันธ์ 2529 ณ พระอุโบสถ วัดท่าซุง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2020
  17. Chutha

    Chutha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +16,796
    สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะพี่วรรณและสมาชิกทุกท่าน

    ขออาราธนาบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดดลบันดาลให้พี่วรรณและครอบครัว รวมทั้งเพื่อนสมาชิกมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคร้าย โรคระบาด (โดยเฉพาะโควิด 19) และมีความสุขมากๆตลอดปีค่ะ
     
  18. Khamphee

    Khamphee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +16,226
    สวัสดีปีใหม่ไทยครับพี่วรรณ และกัลยาณมิตรทุกท่านครับ FB_IMG_1586742202823.jpg
     
  19. vasan

    vasan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +1,637
    สวัสดีครับ ผมรบกวนสอบถามจำนวนการสร้างพระคําข้าวรุ่นพิเศษ ติดพระบรมสารีริกธาตุ 5 พระองค์ ขอบคุณครับ
     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +225,228
    พระคำข้าวรุ่นพิเศษ 3.jpg

    ทราบแต่เพียงว่าจำนวนสร้างรวมประมาณ 10 ล้านองค์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...