ให้บูชาวัตถุมงคลพ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย techapunyo, 20 มีนาคม 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ตะกรุดต้าน,ลดแรงเสียดทานชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์
    ปิดรายการนี้ครับ
    90605243_210653196697970_715248441470484480_n.jpg
    ตะกรุดตัวนี้ ### ท่านเอาไว้ใช้ต้านและลดแรงเสียดทานของชีวิต ###
    - แรงเสียดทานชีวิต...คือพลังงานที่มองไม่เห็นซึ่งเข้ามาในชีวิตเรา พยายามจะหยุดเราไม่ให้เราเจริญขึ้นได้ ต้านการเติบโต ต่อต้านไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้า ทำให้เราเจริญช้าลง พัฒนาได้ช้าลง คอยหน่วงเราเอาไว้ เมื่อจะทำอะไรจึงต้องออกแรงมากกว่าคนอื่น ใช้กำลัง ใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น ในขณะที่ได้รับผลหรือความสำเร็จน้อยกว่าคนอื่นเช่นกัน เรียกว่าสิ้นเปลืองกำลังอย่างมากในการพัฒนาขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังที่มองไม่เห็นเหล่านี้เราควบคุมมันไม่ได้ และมันก็ส่งผลกระทบโดยตรงสะสมมาโดยตลอดทุกๆวัน ซ้ำยังเสี่ยงที่จะเจอได้อีกเรื่อยๆดุจว่าไปเจอมาก็สะสมไว้ สะสมไว้เพื่อชะลอความสำเร็จ เพื่อทำให้หนทางการก้าวเดินแต่ละก้าวของเรายากลำบากยิ่งขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานเหล่านี้มันเป็นกฏทั่วไปของโลกที่จะโคจรหมุนเวียนถ่ายเทกันไปมา เราไปกำหนดไม่ได้ว่าจะต้องป้องกันได้ทั้งหมดนะ ไม่ให้พบ ไม่ให้เจอแรงเสียดทานต่างๆในชีวิตนั้นเลยแบบนี้ทำไม่ได้ แต่ท่านว่าถ้าไม่ช่วยกันก็จะมีอีกหลายๆคนที่ชีวิตเติบโตได้ช้า พัฒนาไม่ได้ หรือไปถึงทางตันแล้วก้าวต่อไม่ถูก ซ้ำเจอแรงเสียดทาน แรงปะทะต่างๆ ถ้าเบาก็พอแก้ไขได้ทำให้มีชีวิตพอถูๆไถๆไป แต่ถ้าหนักในบางกรณีอาจจะหยุดชีวิตของคนนั้นไว้กับที่ สต๊าฟให้หยุดนิ่งไม่สามารถหาทางออกได้ ท่านว่าเมื่อฝืนบังคับไม่ได้ แต่ในกรณีเดียวกันเสด็จพระใหญ่ท่านว่าสามารถต้านเอาไว้ หรือลดกำลังที่มันจะเข้ามาปะทะกับชีวิตเราลงได้ ที่แรงก็ให้อ่อนลงกึ่งหนึ่ง ที่หนักก็ต้านไว้ใม่ให้ปะทะตัวเรา เช่นนี้ท่านว่ามันคือการริดรอนอำนาจแรงเสียดทานในชีวิตของเรานั่นเอง

    " เราตั้งใจจะทำของดีให้คนเค้าใช้ เราลงด้วยใจ ทำให้เขาเหมือนกับที่เราทำไว้ใช้เอง " วลีสั้นๆของพ่ออาจารย์ที่ได้ใจลูกศิษย์ทุกครั้งที่ท่านเอ่ยกล่าว ด้วยมีเสียงเรียกร้องกันเข้ามามากเนื่องจากตะกรุดลบถมหลายๆชนิดของพ่ออาจารย์นั้น ในบางท่านที่อยากได้ของดีเเต่ทุนทรัพย์มีจำกัดไม่พอที่จะบูชา ดังนั้นท่านจึงตั้งใจจะทำตะกรุดตัวนี้ให้เป็นของประจำตัวลูกศิษย์ทุกคนที่จะต้องมีต้องใช้ก็ว่าได้ แต่บอกไว้ก่อนว่าตะกรุดหนนี้เป็นของสูง ทำยาก ถึงเเม้จะไม่ใช่ตะกรุดลงถมเเต่ก็เป็นตะกรุดชั้นสูงที่ทำยากมากอีกชนิดหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ลงเป็นชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์เฉยๆก็จะกระไรอยู่ ดังนั้นที่ผ่านมาท่านจึงเก็บตัวลงตะกรุดดอกสำคัญนี้ด้วยวิชาของเสด็จพระใหญ่ เพื่อหวังประโยชน์อย่างจริงใจในการที่จะให้ผู้บูชานั้นได้ต้านและลดแรงปะทะร้ายทั้งหลายในชีวิตของตัวเอง

    แต่ก่อนนั้นสาเหตุของการสร้างตะกรุดชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ของพ่ออาจารย์พล ด้วยท่านมักจะปรารภเสมอว่าสมัยนี้บ้านเมืองไม่ปกติ เหตุการณ์ธรรมชาติก็ร้ายเเรง เรื่องที่ไม่สมควรจะเกิดก็มาเกิดเหมือนผีซ้ำด้ามพลอยไม่รู้จักจบจักสิ้น บรรดาคนทั้งหลายต่างก็โหยหาวัตถุมงคลที่เป็นของดีเเละดีที่สุดของท่านนั่นก็คือสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งพ่ออาจารย์ก็ไม่ได้มีความสามารถจะนำมาแจกให้บูชาได้ทุกคนเเละทั่วถึงเเละนับวันพระก็จะยิ่งหมดไป ท่านจึงตั้งใจจะลงตะกรุดสำคัญนี้ไว้ให้ใช้แทนกันโดยจะขอบารมีสมเด็จโตท่านอธิษฐานจิตให้เต็มที่ ทำให้เต็มกำลังเสมอกัน ซึ่งเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้เต็มสูตร เรื่องนี้พ่ออาจารย์ก็บอกว่าความจริงการลงหัวใจไม่กี่ตัวในตะกรุดดอกหนึ่งนั้นเราก็สามารถจะทำได้ เเต่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนถ้าหากไม่เเก่จนสังขารร่างกายไม่ไหวจริงๆเเล้วท่านก็จะทำเต็มที่เต็มสูตรวิชาของท่านเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียถึงครูบาอาจารย์ เสียถึงพระคาถาเเละเสียถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะทำของอะไรก็ไม่รู้ออกไปให้คนเค้าใช้ยึดหน่วงจิตใจ ดังนั้นท่านจึงเก็บตัวลงตะกรุดสำคัญนี้โดยผูกชินบัญชรคาถาให้สัมพันธ์ เชื่อมโยง หนุนส่งกำลังแห่งพระพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ และอานุภาพพระปริตรต่างๆเชื่อมต่อกับธาตุทั้งสี่ของเราโดยตรง เพื่อหนุนส่งและเกื้อกูลเราแบบตรงไปตรงมาอย่างถึงที่สุดตามวิธีที่สมเด็จโตท่านเมตตาให้พ่ออาจารย์ท่านผูกโดยเฉพาะ ทั้งยังเสริมด้วยวิชาต้านและลดแรงปะทะ หรือแรงเสียดทานทั้งหลายที่จะชะลอเราให้ห่างจากความสำเร็จอันเป็นสูตรของเสด็จพระใหญ่ท่านด้วย

    เมื่อท่านมีความคิดจะทำตะกรุดสำคัญสงเคราะห์คน พ่ออาจารย์จึงตั้งใจทำตะกรุดชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ตัวพิเศษเฉพาะกาลนี้ ซึ่งท่านกล่าวว่าเราจะลง,ทำวิชา,เชิญครู จะเสกให้ดีกว่ายันต์จักรพรรดิ์เสียอีกให้คนที่หาเช้ากินค่ำอยากได้พระสมเด็จเเต่หาไม่ได้สามารถเอาไปบูชาเเทนกัน ซึ่งพุทธคุณของตะกรุดนี้ก็มีถึงร้อยแปดพันประการเเบบฝอยท่วมหลังช้าง ถ้ารู้จักใช้เเละใช้เป็นก็ใช้ได้หมดดั่งจินตนาสมใจนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้กว่าจะทำได้เเต่ละดอกไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องผูกเข้ากับธาตุทั้งสี่ในร่างกายม้วนเอาพุทธคุณแห่งชินบัญชรคาถาเข้าหาตัวเราเป็นเกราะแก้วสิริมงคลที่จะปกปักเราตอลดเวลาทั้งยามหลับและยามตื่น ไม่ใช่เล่นปาหี่เขียนๆไปเท่านั้นแบบนี้ท่านไม่ทำ ท่านว่าลงไปก็ต้องเสกต้องอธิษฐานจิตกำหนดอารมณ์ไปพร้อมๆกันด้วย ลงจารตามฤกษ์ได้เต็มที่ก็วันละสอง,สามดอก ดังนั้นกว่าที่จะเปิดให้จองได้ก็ต้องรอเวลาให้อาจารย์ท่านเก็บตัวลงเเละเสกของท่านจนพร้อมด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ล่าช้าและตะกรุดสำคัญนี้นานทีปีหนถึงจะมีให้บูชาซักครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะให้ได้ครบตามองค์คุณที่ท่านต้องการ เนื่องจากตะกรุดนี้เป็นตะกรุดพิเศษที่พ่ออาจารย์จะกราบเรียนเชิญเสด็จพระใหญ่และสมเด็จครู(สมเด็จโต) มาทำวิชาเฉพาะของท่าน ให้มาร่วมประสิทธิ์ในการเสกด้วยทุกครั้งนั่นเอง

    ท่านกล่าวว่าการจะให้ของขวัญคนนั้น ให้ของกินเเป็ปเดียวก็หมด ให้ของใช้พักเดียวก็พัง แต่ถ้าเราให้ของที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นขวัญกำลังใจในชีวิตเค้าเอาไปใช้เกิดมรรคเกิดผลเช่นนี้ย่อมดีกว่า เมื่อมั่นใจเเล้วว่าตัวเองมีดีจะได้ทำตัวให้สมกับมีของดี เเต่ก็อย่าได้อวดดี ให้ตั้งใจทำมาหากิน หมั่นศึกษาธรรมปฏิบัติธรรม เพียงเท่านี้ชีวิตก็ไปได้สวยอีกนานเเล้ว ซ้ำการมีตะกรุดนี้ ท่านจะบังคับให้ผู้ที่รับสวดมนต์ทุกวันเเละต้องท่องพระคาถาชินบัญชรให้ได้ ท่านว่าชินบัญชรคาถานี้จะจำก็ง่าย จะท่องก็ง่ายเป็นที่สุด เมื่อจะใช้ทีก็สวดมนต์ทีกุศลเหล่านี้ย่อมเกิดไม่รู้จบรู้สิ้น(แต่หากการสวดมนต์นั้นเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ท่านก็ให้เป่าหัวใจชินบัญชรไปที่ตะกรุดว่า.."ชินะปัญชะระปะริตตัง ปะชัง มัง รักขันตุ สัพพะทา" เพียงเท่านี้ก็ได้) ท่านว่าการสวดมนต์นั้นแม้ได้ยินผ่านหูก็เหมือนใกล้เกลือกินด่างเอาจริงๆเเล้วจะหาที่เข้าถึงได้สวดไปพร้อมน้อมจิตทำความเข้าใจนั้นเเทบไม่มี ท่านว่าตะกรุดนี้เธอเอาไปบูชานะสมเด็จครูท่านขอให้สวดมนต์กันมากๆ อย่างน้อยก็จะได้รู้จักสวดมนต์ไหว้พระ ได้รู้จักทำจิตให้ดิ่งลงในสมาธิซักชั่วครู่ชั่วขณะเป็นมหากุศลให้เเก่ร่างกายเเละชีวิตของตนเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ฉันทำถวายเสด็จพระใหญ่ท่านจึงถือว่าเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นของสูงสำหรับพุทธศาสนิกชนด้วยเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่เเก่ชีวิตที่จะบูชา ท่านลงไว้ครบทั้งหมดให้ดีทางเมตตามหานิยมเจริญด้วยลาภยศสรรเสริญ ให้ผลชัดเจนในเรื่องทำให้จิตใจผ่องใส,สดชื่น คนที่หน้าตาหมองคล้ำพวกวิตกจริตก็แก้ด้วยวิชานี้ได้ เพราะคนสมัยนี้ชอบปั้นหน้ายักษ์ใส่กันไม่มองหน้ากันหรือมองเเล้วบางทีก็ไม่สบอารมณ์ อาจารย์พ่อจึงตั้งใจเพิ่มในสิ่งนี้ให้เพื่อให้ใช้สำหรับออกไปเข้าสังคมโดยเฉพาะ ท่านว่าถ้าอารมณ์พื้นฐานเราดีอะไรมันก็ดีไปหมด ทั้งยังอธิษฐานบอกกล่าวใช้ได้ตามเเต่จะปรารถนาทุกอย่างทีเดียว นอกจากนี้ตะกรุดยังเปรียบเสมือนเป็นสิ่งเเทนองค์ของสมเด็จโตท่าน ใช้สื่อจิต สื่อใจ บอกกล่าวท่าน ท่านว่ามีตะกรุดดอกนี้ก็เหมือนเชิญสมเด็จโตท่านมาทำให้ เชิญท่านไว้เป็นขวัญชีวิตเรา เวลาเราพกตะกรุดก็เหมือนอาราธนาท่านไปกับเราด้วย เวลาสวดพระคาถาชินบัญชรท่านว่าจะให้ดีก็อย่าลืมสวดคาถาบูชาสมเด็จโตท่านก่อนทำได้เเล้วจะเจริญมากด้วยอานุภาพแห่งพุทธคุณนั้นจะปกปักรักษาชีวิตเราประดุจกำเเพงเเก้วทั้งเจ็ดชั้น ทั้งท่านยังได้ลงเสริมทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม และกำกับด้านดีโชคลาภเป็นพิเศษให้เข้ากับเศรษฐกิจที่ย่ำเเย่ในสมัยนี้ ทั้งยังใช้กันผีกันคุณไสยได้ทุกชนิด ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงเสริมไว้ให้ผู้บูชาเป็นที่รักทั้งกับคนกับผี เนื่องจากการกลั่นเเกล้งจากสิ่งที่มองไม่เห็นเเละไม่รู้ว่าเราจะไปทำอะไรให้ไม่ถูกใจเขาเมื่อไหร่นั้นปัจจุบันมีให้เห็นได้มากขึ้นเรื่อยๆท่านจึงลงกันไว้ให้ ให้เขารักเเละเมตตาเราเเต่เเรก เช่นเจ้าที่ผีบ้านผีเรือนเขาจะได้ช่วยอำนวยโชคลาภสิ่งดีๆไม่ขัดแข้งขัดขาเรา จะทำให้เป็นที่รักเเละเมตตาแก่คนทั้งหลายทั้ง คน,เทวดา,ภูติ,ผี,ปีศาจ เอาว่าสิ่งที่มีชีวิตไม่มีใครกล้าเกลียดเราทั้งยังใช้ป้องกันการกระทำด้วยไม่ว่าจะเป็นลมเพลมพัดปล่อยคุณปล่อยของผีเข้าเจ้าสิงไม่ได้ทำอันตรายแก่เรา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีคุณภาพเกินกว่าเครื่องรางทั้งหลายนัก ดอกเดียวคุ้มได้ทั้งบ้านกันได้ถึงคนที่อยู่ข้างๆท่านทำให้เป็นของขวัญให้ศิษย์ให้ผู้ศรัทธานำไปใช้ นำไปแล้วต้องใช้ต้องบูชาในที่สูง จะห้อยคอก็ได้ ทำพวงกุญแจเหน็บกระเป๋าเสื้อก็ได้ แต่ห้ามห้อยต่ำกว่าเอว *** หากจะไปทำตัวไม่ดีไม่งามที่ไหนท่านว่าให้ถอดออกก่อน เมื่อจะใช้เเช่น้ำทำน้ำมนต์ให้อาราธนาตะกรุดแช่น้ำก็สามารถทำน้ำมนต์ขับล้างคุณไสยได้ทั้ง12ภาษา ปรารถนาอยากอาบน้ำมนต์ก็ไปทำเอาเองจะอาบซักกี่วันหรือทุกวันก็ย่อมได้

    ข้อแม้ง่ายๆเเค่กราบพระสวดพุทธคุณ,ธรรมคุณ,สังฆคุณนึกถึงคุณพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณพระองค์ทรงตรัสรู้สัจธรรมใช้เวลานานนับสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัป ทรงลำบากเเละพากเพียรเพื่อค้นหาสัจธรรมเเละประกาศออกไปเป็นพระศาสนา มีพระสงฆ์พระอริยสาวกมากมายที่เสียสละตัวเองเพื่อพระศาสนานี้ เราระลึกถึงคุณของพระองค์ท่าน ระลึกถึงคุณพระธรรมคำสั่งสอน และพระสาวกเหล่านั้น อัญเชิญพระองค์ให้ประทับฝ่าพระบาทไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของเรา คิดให้ละอองธุลีพระบาทของพระองค์ตกต้องเกล้ากระหม่อมของเราหลังจากนั้นจึงสวดคาถาบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)ต่อด้วยพระคาถาชินบัญชร เพียงเท่านี้หากมีเวลาว่างเเละจิตใจสงบอยู่ก็ให้นั่งทำสมาธิต่อแบบค่อยเป็นค่อยไป เกินกว่านี้ขอไม่กล่าวถึงเเล้วท่านจะรับรู้ได้ถึงสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตท่านเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในส่วนตะกรุดนั้นย่อมมีพุทธคุณเป็นอันมาก แต่ที่เราตั้งข้อปฏิบัติดังนี้ไว้ก็เพราะอยากให้คนใช้สวดมนต์กันบ้าง จะได้ฝึกจิต ฝึกสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่ทำจนเป็นกิจวัตรประจำวัน

    คาถาบูชา(ท่านให้สวดชินบัญชรคาถา ถ้าสวดไม่ได้หรืออยู่ในกรณีเร่งรีบจึงค่อยว่าหัวใจ)
    ชินะปัญชะระปะริตตัง ปะชัง มัง รักขันตุ สัพพะทา

    *** ตะกรุดสำคัญวาระนี้ พ่ออาจารย์ท่านใช้เวลาลงยาวนานมาก และท่านตั้งใจไว้ว่าหลังจากนี้จะไม่ลงตะกรุดชินบัญชรตัวนี้อีก ท่านว่าทำให้ครั้งแรกและก็ครั้งสุดท้าย ทิ้งทวนกันไปเลยว่าต้องดีที่สุด ท่านว่าทำได้ไม่มากท่านอยากให้คนเอาไปใช้ไปสวดมนต์ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง รักใคร มีใครบ้างในครอบครัวก็ให้เขาห้อยบอกให้เขาไหว้คุณสมเด็จโต รู้จักสวดมนต์คิดถึงพระ นึกถึงพระแล้วพระก็จะนึกถึงเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  2. pang2562

    pang2562 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +117
    จองครับ
     
  3. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆ (องคุลีแห่งพรหม,มหาพรหมชี้นิ้วเพชร)
    ปิดรายการนี้ครับ
    90054966_2788411237939640_2126435031189553152_n.jpg
    90436575_907346539723017_3091984142217248768_n.jpg
    เมื่อพูดถึง "นิ้วเพชร" แน่นอนว่าหลายคนที่เล่นเครื่องรางย่อมนึกไปถึงตะกรุดและเครื่องรางประเภทต่างๆ ซึ่งนิ้วเพชรนี้ก็มีด้วยกันหลายตำรับตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านจะแปลงวิธีการสร้างให้เหมาะสมกับยุคสมัย หากแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ จริงๆเลยแบบของแท้ดั้งเดิมอาจารย์ผู้ทำต้องไปหาเอาร่างเด็กที่สิ้นในครรภ์มารดาที่ต้องอาถรรพ์ตามตำรามา ใช้ปากของตัวอาจารย์นั้นกัดนิ้วชี้เด็กมาให้ขาด แล้วเอามาทำพิธีลงรักปิดทอง พวกด้วยครั่งพุทรปลุกเสกแล้วเก็บใส่กระบอกเล็กๆ ต้องเลี้ยงในอู่เหมือนเด็กจริง 7 วัน และให้อยู่ไฟอีก 1 เดือน จากนั้นถึงพกติดตัวได้ ด้วยพิธีกรรมที่ยุ่งยากและใช้เวลานานกว่าจะทำได้วิชานิ้วเพชรนี้จึงถูกดัดแปลงไปอีกหลายส่วนกลายเป็นตะกรุดบ้าง ไม้เท้าบ้างทำให้วิชาจริงๆกลายเป็นตำนานไปนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพูดขึ้นมาถึงนิ้วเพชร ยุคของเราก็ไม่ได้ทำเอาไว้เช่นกัน หากแต่ในสมัยเจ้าปู่ชัยพรหม วิชาต่างๆคนสมัยนั้นเขาทำกันทุกอย่างเต็มที่จริงๆเพื่อให้ได้ที่สุดแห่งเครื่องรางมาเป็นมงคลประจำกาย นิ้วเพชรนี้พ่อปู่เจ้าท่านก็ได้ทำไว้เช่นกันและพ่ออาจารย์ท่านก็ได้นำใช้มาโดยตลอด จนเมื่อท่านสร้างตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลนี้ ด้วยประสงค์ของครูมหาพรหม ท่านว่ามีนิมิตชัดเจนให้ท่านนำนิ้วเพชรที่สืบทอดมาแต่โบราณเก่าก่อน พลีเป็นเครื่องยาอุดตะกรุดไว้

    หากพูดถึงพระพรหม ลำพังแล้วพวกเหรียญพวกรูปหล่อพระพรหมก็ยังพอมีคนสร้างกันบ้าง แต่ในส่วนของวิชาของท้าวมหาพรหมนั้นย่อมแตกต่างกัน เพราะของบางสิ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนเค้าก็เลือกคนรับ บางอย่างย่อมไม่ปรากฏในโลก หรือไม่มีในคัมภีร์ บางชนิดก็ไม่มีผู้สืบทอด ซึ่งครั้งนี้พ่ออาจารย์ก็ได้ทำตะกรุดดอกน้อยๆไว้ หากแต่ตะกรุดนี้อานุภาพกลับไม่น้อยเลย ด้วยใช้ได้หลายทาง หลายแง่มุม ซ้ำกว่าจะทำให้สำเร็จได้พ่ออาจารย์ท่านต้องสละของใช้ส่วนตัวเพื่อพลีลงในเครื่องมงคลนี้ด้วย ท่านว่าตะกรุดนี้แม้มีแค่วิชาก็ไม่สามารถเสกหรือสร้างได้เต็มวิชา ถ้าท่านไม่อาศัยบารมีครูเก่าที่ทำเครื่องมงคลชิ้นพิเศษซึ่งท่านใช้พกพาประจำ นำมาพลีลงเพื่อให้มีคุณเต็มวิชาแล้ว แน่นอนว่าตะกรุดที่ว่านี้ย่อมเกิดขึ้นมิได้เลย หมดเครื่องยาเหล่านี้ต่อไปก็ทำไม่ได้อีกแล้ว

    ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าของนี่ยังไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งรีบตาย ถ้าเกิดมาแล้วไม่ทันเห็นถือว่าพลาด ใครที่เขาพลาดเราเสียดายจริงๆ คิดเสียว่าบาปบังตา อุตส่าห์พากเพียรอุตสาหะจนสำเร็จได้ ไม่ทันใช้นี่น่าตีจริงๆ (ก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงเพราะท่านพูดแบบนี้ คงหมายความได้อย่างเดียวว่าพลาด ..ถือว่าพลาดมาก) ตะกรุดน้อยๆดอกนี้พ่ออาจารย์เสกเก็บไว้นานมาก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจต่อการใช้ชีวิตของคน ประกอบกับหลายคนถามหาของแรงๆ ต้องการอาถรรพ์สูงๆแล้วก็ถามหาครูพรหมสหัมบดี ท่านจึงให้นำวิชาครูพรหมออกมาแก้กันวิกฤติชะตาของคนทั้งหลาย

    หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าครูพรหมของพ่ออาจารย์ท่าน คือท้าวมหาพรหมนามว่า "สหัมบดีพรหม" เป็นอธิบดีใหญ่ปกครองพรหมทั้ง 16 ชั้น ทรงพรหมวิหารธรรม บรรลุอมตธรรมรสขั้นอนาคามีพร้อมด้วยสมาบัติชั้นสูง ด้วยประสบการณ์ต่างๆจากที่ท่านเคยออกให้บูชาองค์มหาพรหมสหัมบดีไป ต่างรู้กันว่าพระพรหมของพ่ออาจารย์ท่านมีอานุภาพหรือให้คุณทางความเจริญ ความก้าวหน้า ทำมาค้าขาย ทำมาหากินเป็นพิเศษ พระพรหมของท่านมีอานุภาพแรงและเร็วเพราะพรหมมีอานุภาพมากกว่าเทวดาหลายพันเท่านัก ยิ่งพรหมของพ่ออาจารย์เป็นพรหมอธิบดีผู้เป็นใหญ่กว่าพรหมทั้งปวง เป็นพรหมที่ตรวจดูดอกบัวประจำกัปตอนกำเนิดมหาจักรวาลเพื่อเตรียมการรับรองการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมไปถึงอัญเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้าแผ่สัจธรรมถึงห้าพระองค์ในภัทรกัปเมื่อเริ่มแรกของการบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ จึงเป็นอธิบดีแห่งพรหมที่มีหน้าที่สำคัญและมีอานุภาพมาก


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพรหมนั้นคือพระผู้ประเสริญ ทรงคุณวิเศษ มีอิทธิฤทธิ์ มีอำนาจและอานุภาพมาก แต่เหนืออื่นใดคือมีเมตตากรุณาเสมอด้วยบิดามารดาเอื้ออาทรณ์แก่บุตร เหมือนพรหมพ่อพรหมแม่ พร้อมทั้งมีบารมีช่วยเหลือเกื้อกูลเราได้สารพัดนึก และการทำวิชาในสายพรหมของพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ใช้การเสกพระพรหมธรรมดาทั่วไป แต่ท่านว่าต้องเชิญองค์พระพรหมมาสถิตย์ หรือจะเรียกว่า "แบ่งภาคญาณพระพรหมให้มาสถิตย์ประจำที่เครื่องมงคลนั้น ๆ" ซึ่งการที่จะเชิญพระพรหมได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับญาณบารมีของผู้ปลุกเสกหรือผู้เชิญด้วย ท่านว่าถ้าเชิญกันไม่เป็นทำไม่ได้ เครื่องมงคลใดๆที่เป็นรูปพรหมก็จะมีแต่เทพบริวารเข้ารักษานั่นเอง

    ในครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาใช้วิชาของครูมหาพรหมลงตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลไว้ ทั้งเสกทำวิชาเชิญบารมีเทพพรหมบรมครูอยู่หลายวาระ ท่านว่าตะกรุดดอกนี้มีติดตัวผู้ใดจะรุ่งเรืองโดยส่วนเดียว ไม่มีวันตกต่ำเลย จะทำอะไรก็มีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด เป็นที่รักและเมตตาแก่คนทั้งโลก * ทุกข์ โศก โรค ภัย อันตรายใดที่เกิดขึ้นกับเรา ท่านว่ามีตะกรุดอยู่ให้อธิษฐานบอกครูพรหมขอฝากไอ้ตัวทุกข์โศกโรคภัยทั้งหลายไว้กับตะกรุด สิ่งอันไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับเรา

    ทั้งตัวตะกรุดยังเป็นยันต์แห่งโชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์ มีอานุภาพสูงส่งทางด้านมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ บันดาลโชคลาภ เงินทองดีนัก ในขณะเดียวกันก็มีอานุภาพทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ควบคู่กันไปอีกด้วย..ท่านว่าเฉพาะตะกรุดก็เป็นของดีพุทธคุณสูง ที่ควรที่มีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเอาดีทางด้านโชคลาภและมหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตัวเดียวกัน โดยปกติอานุภาพของวิชาพรหมทั่วไปจะมีพื้นฐานดังนี้
    1. เป็นเลิศทางเมตตามหานิยมประเสริฐกว่าลงนะเมตตาซักร้อยครั้ง
    2. มหากัน แก้ไขอุปสรรค แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ทุกข์ภัยใด คุณไสย คุณผี หนีไกล อยู่กับตัวเราไม่ได้ ลมเพลมพัด ผีเข้า เจ้าสิง อาถรรพณ์ต่างๆ หายหมด
    3.เปิดทาง เงินทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมาง่ายไม่ติดขัด การงานธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายดี เป็นเศรษฐี มั่งมีทรัพย์ ไม่อดอยาก ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์
    4.เสริมดวงให้ดวงดีอยู่เสมอ แก้ดวงไม่ดี ดวงตก แก้เคราะห์กรรมอันเกิดจากดวงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก กันทุกข์ภัยที่เกิดจากดวงดาว ราศี พระราหูบดบังดวงชะตา และเบญจเพศด้วย

    ท่านว่าที่ผ่านๆมานั้น ชีวิตใครที่มีอุปสรรคขวากหนาม สิ่งไม่ดี ก้าวไม่พ้นความยากความจน ความล้มเหลวสิ้นหวัง ให้เอาวิชาของพระพรหมท่านไปใช้ ท่านว่าจะช่วยส่งสงเคราะห์ให้ความสำเร็จทุกประการง่ายขึ้น สำเร็จเร็ว ก้าวหน้าไว ก้าวผ่านความยากจนล้มเหลวสิ้นหวังทั้งหลายไปได้

    การทำตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ทำผงไว้สองส่วนก่อนนำมาผสมกัน ได้แก่
    - ผงพรหมค้ำดวง ท่านว่าผงนี้พิศดารลงกันเล่นๆไม่ได้เพราะท่านต้องลงดวงแห่งความเจริญรุ่งเรืองผูกเข้ากับชะตาเมือง เวลาเสกต้องตั้งนิมิตเหมือนเสกหน้าพระพรหมค้ำทั้ง 4 ทวีป ท่านว่าใครที่มีผงนี้บูชาเทพพรหมจะคอยให้การอุปถัมภ์ค้ำชู ผู้ที่บูชาผงดวงชะตานี้ต่อไปไม่รู้จักคำว่า"ล้ม" เพราะนี่เป็นผงพรหมค้ำดวงที่ค้ำทั้งสี่ทวีป คนใช้จะมีความเจริญก้าวหน้าพัฒนาอยู่ตลอด ทั้งป้องกันศัตรูและเสนียดจัญไร อันตราย และคนชั่ว ใช้ป้องกันเหตุเภทถัยหมดจดทุกประการ ซ้ำท่านยังอธิษฐานจิตสำเร็จผงให้นำมาซึ่งความอิ่มเอมเปรมใจ สุขกาย สุขใจ ความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูนทรัพย์สิน ให้ผู้บูชามีพละกำลังยิ่งๆขึ้นไป ผงนี้ท่านว่าเธออธิษฐานเอาตามแต่เธอจะปรารถนาเถอะ จะคิดการสิ่งใด ก็ล้วนสำเร็จเลิศเลอ ประเสริฐยิ่งนัก
    - ผงองคุลีพรหม ท่านได้นำนิ้วเพชรที่สืบทอดมาแต่บูรพาจารย์มาทำผงตำรับองคุลีพรหมหรือมหาพรหมชี้นิ้วเพชร ผงนี้ท่านต้องนำนิ้วเพชรที่เป็นผงพลีไว้มาปั้นเป็นแท่งลงเลขยันต์ทำผงและดวงยันต์ ซึ่งมีอานุภาพทางอิทธิฤทธิ์ ทางมหาอำนาจปราบศัตรู ทำให้ศัตรูเกรงกลัว ไม่คิดต่อสู้ มีอานุภาพแรงถึงขั้นฆ่าศัตรูให้ตายโดยไม่ต้องใช้อาวุธ

    ในตะกรุดนั้นท่านต้องอุดผงสองส่วน ส่วนด้านหนึ่งอุดด้วยผงองคุลีพรหม อีกด้านหนึ่งนำผงพรหมค้ำดวงนั้นมาเข้ากับผงช้องหมูป่า เขี้ยวหมูตัน คดพุทธรักษา ซึ่งมีคุณวิเศษทางเมตตา มหาอุด หนุนความสุขความเจริญ แก้ถอดถอนของมนต์ดำ ต่อชะตาให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีโชคลาภ ใช้อธิษฐานรักษาโรคภัยที่เบียดเบียนมนุษย์ ทั้งยังใช้ชี้ถอดถอนคำอธิษฐาน คำสาปแช่งได้

    เมื่อสำเร็จท่านว่าตะกรุดนี้จะมีอานุภาพมากดุจนิ้วเพชรท้าวมหาพรหมที่ใช้ปกาศิตชีวิตสัตว์โลก ทั้งยังใช้ชี้เป็นชี้ตายได้ทั้งสิ้น ท่านได้นำสีแดงมาทาเป็นสัญลักษณ์ไว้อีกด้านหนึ่งเพื่อแยกแยะเวลาใช้
    คำว่า"ชี้ตาย" หมายถึง พลังอำนาจมีเดช มีอำนาจ วาสนาเกิดขึ้นแก่ผู้บูชา ศัตรูพ่ายไปเรียกว่าชี้ตาย
    คำว่า "ชี้เป็น" หมายถึง พลังอำนาจที่ทำให้เกิดเป็นเมตตามหานิยมขั้นสูง เกิดโชคดี มีบารมีแก่ผู้บูชา เรื่องเลวร้ายกลับกลายเป็นดี จึงเรียกว่าชี้เป็น

    ตะกรุดของพ่ออาจารย์นี้ ท่านว่าให้เอาไปใช้เพื่อความเจริญ อย่านำไปใช้ในทางที่ผิด ตะกรุดจะแบ่งเป็นสองด้าน คือ
    - ด้านสีขาว ที่ใช้ชี้ไปทางไหนทางนั้นจะดีจะเจริญรุ่งเรือง
    - ด้านสีแดง ท่านให้ใช้ชี้ไล่เคราะห์กรรมโรคภัยที่มาเบียดเบียน ทั้งยังเอาไว้ชี้ไล่ผี แก้อาถรรพ์ แก้คุณไสย ถูกกระทำย่ำยี ใช้ปลายตะกรุดจี้ไล่ผี ไล่สิ่งไม่ดีออกไป
    *** เวลาเอาตะกรุดไปเลี่ยมพกติดตัว ให้เลี่ยมเอาด้านสีขาวชี้ขึ้นดุจดรรชนีชี้ขึ้นฟ้า สั่งฟ้าไม่ให้ชีวิตตนตกต่ำ ให้มีแต่พุ่งขึ้นเสมอไป ไปไหนให้อาราธนาคุณตะกรุดคุณพระพรหมให้มั่นและเอาด้านสีขาวที่ชี้ขึ้นนี้ชี้ไปทางทิศนั้น ท่านว่ารับรองสะดวก ปลอดภัย สำเร็จ

    วิธีใช้
    เมื่อจะชี้ด้านปลายสีแดง...ในกรณีใดๆตามแต่ที่เห็นสมควร ให้อธิษฐานระลึกถึงพระแม่ธรณีให้มาช่วยกำจัดศัตรูที่เข้ามาเบียดเบียน หากว่าศัตรูผู้รุกรานล่วงล้ำเขตแดนเข้ามา หรือประสงค์ร้ายตั้งใจทำอันตรายแก่เรา ขอให้เขาแพ้ภัย พ่ายแพ้ ให้เจ็บ ให้ตาย หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นานา นอกจากนั้นสามารถชี้กำจัด ขับไล่ภูตผีปีศาจ ข้าศึกศัตรูให้มีอันเป็นไป ทั้งยังเป็นมหาอำนาจข่มนาม

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเอาไว้ให้ครั้งเดียว เพราะสูตรนี้ท่านทำให้ใช้แบบเต็มวิชา เป็นอาถรรพ์ของวิชาดรรชนีองคุลีพรหมชี้นิ้วเพชร ชี้นิ้วสั่งปกาศิตมั่นคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดุจเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา

    คาถาบูชา
    (ท่านว่าเป็นของสำเร็จ คาถาไม่ต้องใช้ ให้ระลึกถึงคุณท้าวมหาพรหมแล้วใช้ได้เลย)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  4. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ตะกรุดจันทร์จรัส(น้ำเพ็ญ)
    ให้บูชา 600 บาท รวมส่งครับ
    90440556_609484859780333_6024322387242123264_n.jpg
    หนึ่งในวิชาที่ทำได้ยาก มีกาล มีวาระทำได้ปีละครั้ง ซึ่งถ้าปีใดท่านสุขภาพไม่พร้อมก็จะไม่ทำ

    วิชานี้เป็นปถมังในสายหลวงปู่ศุข วัดปากครลองมะขามเฒ่าอันลือลั่น พ่ออาจารย์เล่าว่าท่านเรียกสิ่งนี้ว่าตะกรุดน้ำ เพราะหลวงปู่ศุขต้องดำลงไปจารใต้น้ำ ดังนั้นวิชานี้จึงมีกันเฉพาะในเหล่าสานุศิษย์ที่ท่านเมตตาโปรดปรานจริงๆและในหมู่เชื้อพระวงศ์ระดับสูงเท่านั้น เพราะเป็นของกระทำได้ยาก

    พ่ออาจารย์กล่าวว่าท่านเองก็จะทำไว้ให้อีกซักครั้ง เพราะวิชานี้แท้จริงแล้วต้องดำน้ำลงไปจารหัวใจเท่านั้น ท่านว่าเห็นเขาเล่นตลกสุกเอาเผากินกันท่านทำไม่ได้ เพราะผู้สร้างนั้นไม่ได้ดำน้ำจาร แต่เอาง่ายเข้าว่าต่อสายสิญจน์เสกใต้น้ำแทน ทำเช่นนี้ย่อมผิดครู ท่านว่ายังใช้ไม่ได้

    ตะกรุดจันทร์จรัสนี้ดีอย่างไร ด้วยอำนาจพระพุทธคุณ แรงวิชาและแรงครูในองค์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านว่าวิชานี้จะให้ผลทางด้านเมตตาแบบเย็นๆ และช่วยทำให้เกิดโชคลาภโภคทรัพย์ระดับสูง เป็นเมตตาโชคลาภ ท่านว่าไม่ใช่เสน่ห์ไม่ถึงขั้นเสน่ห์เพราะอันนี้ครูท่านให้เอาไว้สำหรับทำมาหากิน

    ถือคติที่ว่าจันทร์จรัสเต็มฟ้านภากาศ น้ำขึ้นสูงเสมอด้วยขอบฟั่งชลธารฉันใด นี่เห็นมั๊ย มองข้างบนก็เต็ม มองข้างล่างก็เต็ม มันเต็มมันบริบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง ตะกรุดนี้จึงเรียกว่าทำให้เธอมีชีวิตที่สมบูรณ์ เติมให้เธอเต็มไม่แหว่งไม่พร่องก็กล่าวได้

    พ่ออาจารย์ถือฤกษ์จันทร์เพ็ญ ได้อาศัยท่าน้ำบริเวณบ้านลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ดำไปประกอบพิธีลงจารตะกรุดให้ต้องตามเคล็ดวิชา โดยท่านจารแผ่นตะกั่วไว้ก่อนแล้ว ดำน้ำลงไปจารหัวใจเพียงเท่านั้น ซึ่งเมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ดำลงไปจารนั้น ก็ปรากฏว่าฟ้าฝนได้ตกลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนกระทั่งท่านจารเสร็จฝนก็หยุดตกพอดีหายสนิทเป็นปลิดทิ้งในช่วงสั้นๆฟ้าก็กระจ่างเหมือนเดิม มีหลายคนถามว่าทำไมฝนตก ท่านตอบให้คิดแต่เพียงว่าเห็นมั๊ยนี่ดีแน่ มันเต็มจนล้นเลยคราวนี้ ฝนก็ตกลงมาทำให้น้ำในตลิ่งงอกเงยเพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่ท่านจะนำตะกรุดนี้ไปเสกพร้อมกับพญาพาลี แต่แยกกันเพราะท่านใส่ตะกรุดไว้ในขันสัมฤทธิ์เสกให้สำเร็จในขันสัมฤทธิ์(ทำอะไรมีแต่สัมฤทธิ์ สำเร็จ)

    ท่านว่าตะกรุดนี้ทำให้คนยุคหลังใช้ ไม่ได้วัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ แต่ก็ตั้งใจทำให้ดีเสมอที่ครูบาอาจารย์ท่านกระทำ เอาบารมีท่านตั้งไว้ข้างหน้าแล้วตัวเราเป็นผู้เดินตามไป ตะกรุดนี้ธาตุน้ำเป็นใหญ่ให้ผลทางด้านเมตตาสูง ท่านกล่าวว่าติดคอไว้ให้ดี อะไรที่สูญหายที่มันไม่มีก็จะงอกเงยเพิ่มพูนขึ้น ดูอย่างของที่หลอวงปู่ศุขท่านทำประไร เห็นมั๊ยศิษย์ท่านยาจกก็กลายเป็นเศรษฐี เศรษฐีก็กลายเป็นคหบดี เป็นตะกรุดสร้างเนื้อสร้างตัวจริงๆ ถ้าไม่บรรจบพร้อมกันด้วยกาลและวาระ วิชาเช่นนี้นะเจ้าเอ๋ย มันลงไม่ได้เลย มันทำได้ในกาลหนึ่งวาระหนึ่งเท่านั้น เพราะครูบาอาจารย์ข้างบนท่านก็ไม่ประสงค์ที่จะให้ทำออกมาเยอะๆเป็นของตลาดเสียด้วย ฟ้าเค้าเลือกเอาไว้แล้วว่าดอกไหนของใคร มีเจ้าของกันทุกคน

    ท่านว่าแล้วแต่จะเอาไปใช้ขอให้ทำมาหากินไม่ว่าจะสุจริตหรือไม่ก็ตาม วิชานี้ใช้ได้หมด เอาไปใช้กันนะทางทำมาหากิน ท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้

    คาถาบูชา(ระลึกถึงหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเป็นที่สุด)
    ตั้งนะโม ๓ จบ อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ
    ปลุกตะกรุดน้ำเพ็ญ ปุญณะจันโท วิธานันตะ วิสุทธิสาวะโก วะโร พุทโธ สัทธัมมะรังสี มุนิโน มัตถะเกสุภัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2020
  5. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    พระขุนแผนแสนนางล้อมรักผงทวิมหาภูติทองคำ(พระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์)
    ปิดรายการนี้ครับ
    90372480_625043848076131_7847528930582986752_n.jpg
    89993836_489405181941104_6359809150385389568_n.jpg
    โดยปกตินั้นพ่ออาจารย์ท่านมักจะเจอปัญหาสำหรับคนใช้ของไม่ขึ้นอยู่บ่อยๆ ซึ่งปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆนั้นก็มาจากเหตุต่างๆทั้งศรัทธาไม่มั่นคง หรือแม้กระทั่งเป็นผู้มีตำหนิในร่างกาย เป็นด้วยเหตุผลกลกรรมประการต่างๆ สำหรับเรื่องเกี่ยวกับมหาเสน่ห์นี้ ท่านจะเป่ามนต์ขุนแผนเปิดโลกให้โดยเฉพาะเจาะจง เพื่อแก้ทางสิ่งต่างๆ ก็ปรากฏว่าสำเร็จถึงขั้นได้เสียทุกรายไป

    สำหรับวิชาขุนแผนเปิดโลกนั้น ก็เป็นวิชาที่ท่านเอามาทำพระพิมพ์เฉพาะของท่านเช่นกัน เรียกว่าทอดสายตาออกไปนับแต่ในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่เคยทีใครทำพระพิมพ์เช่นนี้ เพราะว่าหากจะสำเร็จพระขุนแผนเปิดโลกแล้ว นอกจากจะต้องทรงมนต์ขุนแผนเปิดโลก ในเรื่องของการเสกไม่ใช่ว่าเสกที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่ขุนแผนที่เป็นขุนผีต้องเสกในป่าช้าใช้อาถรรพ์วิญญาณสัมภเวสีเข้าช่วย แต่เป็นของที่จะต้องทำเฉพาะกาล เฉพาะวาระ และเฉพาะสถานที่พิเศษจริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริจะทำเครื่องมงคลให้เป็นที่สุดในตระกูลขุนแผนของท่าน ถึงขนาดที่ว่านำผงวิชาที่ทำไว้ในอดีต อันเป็นผงเสน่ห์ที่ให้คุณรุนแรงออกมาเป็นมวลสารประกอบทีเดียว ท่านได้ตั้งใจแกะพิมพ์ขึ้นเป็นพิเศษให้เป็นเอกลักษณ์ของท่านเอง ตลอดจนแม้เวลาอธิษฐานจิตปลุกเสก ท่านยังใส่วิชา"นะเม"ลงไปด้วยเพื่อแก้ทางคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้นลอดจนเร่งผลทางด้านเมตตา เสน่ห์ โชคลาภความเจริญต่างๆให้บังเกิดขึ้นพร้อมกัน

    โดยท่านได้แกะแม่พิมพ์เช่นพระขุนแผนทรงพรายกุมารหรือพรายใหญ่ของหลวงปู่ทิม แต่เปลี่ยนองค์พระด้านในนั้น เป็นประทับยืนทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์แทนปางนั่งปกติ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าครูบาอาจารย์เราเคยสั่งไว้ ถ้ามีโอกาสให้ทำขุนแผนโดยลงวิชาพระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์ให้ได้ เพราะจะเป็นเสน่ห์ยิ่งกว่าเสน่ห์ใดๆ เหนือกว่าพลังของเทพ ของพราย หรือแม้แต่อำนาจที่จะพึงมีในพระพิมพ์ปกติ

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชาพระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์นั้น เป็นยมกปาฏิหาริย์ ขณะที่ทรงประทับณ.บันได้แก้วอันองค์อมรินทร์เนรมิตรให้เพื่อเสด็จลงจากดาวดึงส์ ตอนนั้นทรงแสดงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์เปิดโลกทั้งสามให้รู้แจ้งมองเห็นซึ่งกันและกันโดยตลอดทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง การกระทำมหาปาฏิหาริย์ท่านกลางหมู่เทพพรหมบรรษัทนั้น พระตถาคตเจ้าทรงมีพระสิริราศีสรรพโสภาคงดงามเลิศล้ำกว่าปกติ ประกอบด้วยพุทธรัศมี สง่า งดงาม และสงบ เกินกว่าเทพเจ้าทั้งหมื่นโลกธาตุ และหมู่มหาพรหมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดจะแสดงความงดงามเช่นนั้นออกมาได้ แม้มนุษย์ เทพทั้งอสงไขยโกฏิ ตลอดจนท้าวมหาพรหมทั้งหลายมีท้าวสหัมบดีเป็นปฐมก็ยังเพ่งพินิจชื่นชมในพระรูปอันเฉิดฉายนั้น แม้กระทั่งพระอรหันต์เองอย่างพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรยังบังเกิดปิติมีความยินดีสุดประมาณ เอ่ยวจีขานกล่าวสรรเสริญสมเด็จพระบรมโลกนาถว่าสง่า สงบ งดงาม อย่างน่าอัศจรรย์เกินกว่าเทพพรหมบรรษัททั้งหลาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียนมาแล้วถ้าไม่ทำก็แล้วไป แต่ถ้าจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด สำหรับพระขุนแผนที่จะเอามหาบารมีเมื่อทรงแสดงโลกวิวรณปาฏิหาริย์มาใช้นั้น จะทำเล่นๆไม่ได้เลย เพราะพระเจ้าทรงมหาปาฏิหาริย์นั้นจะว่าเป็นเสน่ห์ก็เป็นเสน่ห์สูงสุด ถึงกระทั่งทำให้สามโลกตะลึงงันกับรูปโฉมได้ ไม่เว้นแม้เทพบดีทั้งหลาย มหาพรหมทั้งหลายหรือพระอรหันต์ก็ตามที ท่านว่าเปิดโลกก็คือเปิดทั้งหมด เปิดดวง เปิดให้เห็น ให้ดีขึ้นในทุกทาง

    ท่านจึงนำธาตุกายสิทธิ์มาหลอมหล่อเป็นพระขุนแผนพิมพ์พิเศษนี้ พร้อมกับอธิษฐานจิต อธิษฐานธรรมเสกเก็บเอาไว้ในฤกษ์ยามที่ต้องที่ควร นานนับเนื่องสองปี จนท่านมีดำริกับศิษย์ที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศอินเดียให้เป็นธุระพาท่านไปรัฐอุตตรประเทศในบริเวณที่ตั้งเมืองสังกัสสะนครแคว้นปัญจาละ สถานที่อันพระเจ้าได้แสดงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่ตาโลก เพื่อจะทำการปลุกพลังจักรวาล ชุมนุมเทพยดา อธิษฐานจิตเชิญอำนาจพุทธบารมีสำเร็จพระพิมพ์เป็นการเฉพาะในสถานที่ที่เชิงบันได้เงินทองแก้วได้จรดพื้นปฐพี ตามที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้บันทึกไว้ว่ามีเชิงบันไดทั้งสามอยู่แม้ขุดลึกลงไปก็จะลึกลงไปถึงเมืองบาดาลแต่เพียงนั้น จนพระองค์ต้องทำอุโบสถคลุมเชิงบันได้ไว้ ก่อนจะล่มสลายหายไปตามกาลเวลาในชั้นหลัง ท่านเลือกทำเงียบๆ เดินทางแต่ผู้เดียวเพื่อความสงบและสงัดของท่านโดยให้ศิษย์เป็นธุระจัดเตรียมสิ่งต่างๆรอไว้ให้ ทั้งนี้ท่านได้พลีมวลสารสำคัญกลับมาด้วย

    ท่านว่าเสกที่ไหนก็ไม่เหมือนที่นี่ จะให้สำเร็จให้แรงก็ต้องมาทำตรงนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ท่านเดินทางไปเพื่อสำเร็จพระพิมพ์พิเศษของท่านที่มีดำริว่าทั้งชีวิตนี้คงทำได้เพียงครั้งเดียว เมื่อทุกสิ่งสำเร็จแล้วท่านจึงนำพระพิมพ์ที่เสกไว้มาอุดผงและฝังของมงคลด้านหลัง

    โดยท่านนำมวลสารที่พลีกลับมา นำมาบดเป็นผงเข้ากันกับมวลสารที่ท่านทำไว้แล้วเรียกว่าผงมหาหลงใจขาด เป็นผงมีลักษณะสีเทาดำ ซึ่งท่านว่ากว่าจะได้มานั้นท่านทำได้ลำบากยิ่งนัก เพราะต้องเริ่มกันตั้งแต่เลี้ยงว่าน ดูแลว่านแบบพิเศษทีเดียว โดยใช้ตั้งแต่ดอกไม้ทอง เสน่ห์นางล้อม ว่านจันทร์แดง จันทร์ขาว เครือเถาหลง ดอกบัวแฝด และตัวยาอื่นๆ มาเข้ากับผงมหาปถมัง 9 วรรค ตรีนิสิงเห ผงเสริมดวงชะตา นะปัดตลอดและผงวิชามหาเสน่ห์ทั้งหมด นำมานวดกับดินเจ็ดโป่งปั้นเป็นแท่งอีกทีหนึ่ง โดยนวดเข้ากับน้ำตาหญิงสาวพรหมจรรย์ที่ผสมไว้กับน้ำผึ้งเดือนห้าและน้ำค้างกลางหาว ก่อนจะนำมาลงวิชา"นะเม"อันพิศดารของท่าน และนำผงที่ได้ทั้งหมดมาปั้นรวมกันอีกคำรบหนึ่งเป็นรูปตุ๊กตาชายหญิง เสกให้มีจิตใส่ธาตุปรุงวิชา กำกับด้วยจิตตานุภาพให้ตุ๊กตาชายหญิงเคลื่อนเข้าหากันทีละน้อยๆ จนกอดรัดพันตูไม่แยกออกจากกันในที่สุดเป็นเคล็ดที่ว่าไม่ว่าอยู่ทางไหนก็ต้องวิ่งเข้าหาเรา จะชายก็ดี จะหญิงก็ดี ล้วนแต่เต็มใจรักใคร่ชอบพอในตัวเรา แนบสนิทไม่ห่างไกลแยกกันไม่ออกดุจตุ๊กตาคู่นั่นทีเดียวจึงจะถือว่าสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำตุ๊กตานั้นมาบดเป็นผงอีกคำรบหนึ่งเรียกว่าผงมหาหลงใจขาด ท่านว่าที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะมีคุณตามชื่อนั่นเลย คือหลงจนขาดใจนั่นเอง เป็นวิชาทำตุ๊กตาเสน่ห์ที่ท่านประยุกต์มาใช้ทำผงอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าวิชาผูกหุ่นทำตุ๊กตาเสน่ห์เหล่านี้ หากใครทำไม่เป็นก็จะเป็นเดรัจฉานวิชานำไปกระทำกับคนอื่นได้ แต่หากรู้จักทำแล้ววิชาเช่นนี้จะให้เกิดคุณกลายมาเป็นมวลสารที่ทรงพลังเกื้อหนุนค้ำจุนผู้บูชาก็ย่อมได้

    จากนั้น ท่านจึงนำผงที่ได้รับการผสมไว้แล้วมาอุดด้านหลังฝังลงไปด้วยของสำคัญสามสิ่ง
    1. แก้วสารพัดนึก เป็นเพชรเม็ดเล็กๆที่พ่ออาจารย์ได้เคยมอบถวายไว้ให้ครูสายกรรมฐานของท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้ตั้งแต่หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น ตลอดจนหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้เมตตาด้วย และยังเอ่ยปากกำชับว่าเป็นเสียยิ่งกว่าแก้วสารพัดนึกแล้ว ไม่มีอะไรให้เสกลงไปทับได้อีกแล้ว พอแล้ว พอแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าแก้วสารพัดนึก ซึ่งเป็นชุดที่ท่านหวงเป็นพิเศษ ท่านได้เมตตานำมาฝังไว้กับองค์พระด้วย ท่านว่าคนเราเสน่ห์อย่างเดียวก็อยู่ไม่ได้ เวลาจะอธิษฐานอะไรให้จ้องที่เพชรนี้ ท่านว่าบอกกล่าวองค์พระและเทวดาข้างในเถิด ขอได้ทุกเรื่อง จะงาน จะเสี่ยงดวง โชคลาภ หาความเจริญ หาความรัก หาสิ่งที่ไม่สมหวังหรือผิดหวังอะไร แต่นี้ไปจะสมดั่งใจนึกเสมอปากคำว่าสารพัดนึกของพระอรหันต์นั่นทีเดียว
    2. ขวดบรรจุผงทวิมหาภูติทองคำ เป็นผงวิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายกับคนใช้ทั้งสองชนิด คือผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม และผงพรายทองคำของหลวงปู่ชื่น ท่านนำผงเพียวๆเลยทั้งสองชนิดฝังลงกันไปให้เห็นๆ โดยไม่ได้นำผงทั้งสองนี้ไปผสมในมวลสารที่อุดด้านหลังแต่อย่างใด หากแต่เลือกที่จะฝังไว้ ท่านว่าเพราะผงมหาหลงใจขาดนั้นลำพังก็แรงเหลือใจน่าดูอยู่แล้ว ยิ่งผงชุดนี้โดยเฉพาะผงพรายกุมารเป็นผงชุดที่หลวงพ่อสาครท่านย้ำให้เก็บไว้ให้ดี เพราะเป็นผงที่ท่านลองวิชาสมัยเรียนกับหลวงปู่ทิมและนำมาผสมกับผงหัวเชื้อหลวงปู่ทิมไว้ด้วย ท่านว่าผงเช่นนี้ไม่เคยให้ใคร พ่ออาจารย์ว่าคนที่ได้ไปนั่นนับว่ามีบุญอย่างยิ่งทีเดียว ผงมหาภูติทั้งสองนั้นไม่ใช่สัมภเวสีหรือพรายทั่วไป แต่เป็นจิตแห่งมหาภูติกึ่งเทวดามีบารมีมาก จึงบนบอกกล่าวได้แรงและเร็วไม่มีอันตรายหรือรบกวนผู้ใด ไม่บดบังชะตาชีวิต ไม่กินตัว ไม่ซ้ำเติมเวลาเราตกต่ำ มีแต่ช่วยกันเท่าที่จะทำได้ยิ่งกว่าเพื่อนรู้ใจคอยให้คุณเราสถานเดียว ซ้ำด้านบนนั้นพ่ออาจารย์ยังนำว่านยามหาเสน่ห์สูตรหงส์ร่อนมังกรรำของท่านที่ท่านแสวงหาไว้บรรจุไว้ด้วย ท่านว่าวิชานี้ถือว่าแรงมาก แรงกว่าทุกสาย ทุกแขนง ถึงขั้นว่าแก้ไขไม่ได้ทีเดียว จึงได้นำไปบรรจุไว้ในขวดให้บูชา ท่านว่าเพียงแค่พกก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดถึงที่สุดแล้ว
    3. ตะกรุดนะเม วิชาตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านลงจารใส่แผ่นเงินเสริมลงไป นอกจากจะเป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุดแล้วยังเร่งผลเร่งพลังงานของมวลสารเดิมและสิ่งต่างที่อยู่ในองค์พระทั้งหมดให้เร็วและแรง วิชานะเมนี้ท่านว่ายังเป็นวิชาแก้ทางคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้นทั้งหลายด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่กำลังแสวงหา.. คือแสวงหาสิ่งต่างๆทางโลก ไม่ว่าจะความรัก ความมั่นคง โชคลาภ วาสนา คู่อุปถัมภ์ จะลงหลักปักฐาน ทุกสิ่งทุกทาง วิชานะเมนี้ครอบคลุมเรื่องทางโลกเสียทั้งหมด เอาว่าสำเร็จเร็วและแรงตราบใดที่ยังมีความต้องการ ตราบใดที่ยังแสวงหา ยิ่งปรารถนาก็ยิ่งมีผลถึงเพียงนั้น

    จากนั้นท่านจึงนำมาอธิษฐานจิตอีกกว่าขวบปีด้วยวิชาแสนนางล้อม ตลอดจนกำกับวิชาทุกด้านทุกทางใส่ไปจนครบ ท่านว่าทำเต็มที่ มีทุกด้าน ครบรส ขุนแผนของท่านนั้นนอกจากเสน่ห์แล้ว ใช้แล้วโชคลาภมาทุกทาง เงินทองไม่ขาดมือ ท่านว่ากว่าจะสำเร็จได้ต้องนั่งตรวจกันทีละองค์เลย องค์พระนั้นมีวิมานเพชรครอบทุกองค์ มีมหาพรหมจำแลงมารักษาพร้อมบริวารทุกองค์ เรียกว่าองค์นึงนั้นข้างในวิมานอยู่กันแน่นขนัดทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมด 9 องค์ โดยตัวท่านนั้นได้นำไปพกอาราธนาเองหนึ่งองค์ท่านว่าเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพราะพระเช่นนี้แค่คิดจะสร้างก็ไม่ง่ายเลย และท่านถึงกับออกปากว่ารุ่นนี้แรงนัก ถ้าจะเปรียบพลังงานก็เป็นองค์บรมครูทุกองค์เสมอกัน

    คาถาบูชา
    นะโมพุทธายะ นะสุนะโมโล นะเมติสัมภะโว จิเจรุนิจิตตัง เจตสิกกังรูปัง นิพพานัง ตังนิพพุตัง ทะนะมะพะ ปฐวีธาตุทีฆังวา พะกะสะจะชีวังจะตะติ โอมจิตติจิตตัง จิตมนุษย์หญิงชายทั้งหลายทั่วทั้งแผ่นดิน เอหิมานิมามา มีจิตมารักกูทุกผู้ทุกคน อุอะมะเกลื่อนกล่นกันมา อะมะอุรักกูอย่าขาด สัพพะรักกู มหารักกู ภวันตุเม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2020
  6. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ตะกรุดพรายกุมารบรมครูพระเข้านาง(พระนารายณ์ตรึงสวาท)
    ปิดรายการนี้ครับ
    90610202_502169017117587_665859293978820608_n.jpg
    ในอดีตกาล ตำนานพระนารายณ์ทรงถอดรูปเปลี่ยนเพศเป็นอิตถีสตรีนั้น ได้ทำให้อสุรพรหมนนทุกข์ลืมตัว ไม่กลัวฟ้า ลืมสติพิจารณา ลืมชีวิต ทำให้นนทุกข์ที่เห็นเหล่าอัปสรชาวสรรค์ซึ่งมีรูปลักษณ์สวยงามเป็นนิจหลงใหลในความงามได้ถึงขนาดลืมตาย กาลต่อมาพระองค์ก็ได้เสด็จลงสู่โลกมนุษย์พร้อมกับองค์พระสยมเพื่อทรมานนักบวชมิจฉาทิฏฐิและปราบอสูร โดยองค์พระสยมนั้นได้แปลงเป็นโยคีหนุ่มส่วนมหานารายณ์ พระองค์นั้นได้แปลงรูปเป็นภรรยาสาว ว่ากันว่าความงดงามของพระองค์ในครั้งนี้ได้ทำให้เหล่านักบวชนับสิบนับร้อยตบะแตก พากันมาเกี้ยวพาด้วยหลงไปกับความงามของพระผู้เป็นเจ้า ลืมเสียทุกสิ่ง ลืมแม้แต่ว่าพวกตนมีภรรยากันอยู่แล้ว จนทำให้รักมากสืบมาเมื่อเกี้ยวไม่สำเร็จจึงแค้นมากเป็นเงาตามตัวได้ใช้อำนาจแห่งตนออกวาจาสาปแช่งนางแปลงพระนารายณ์ต่างๆบรรดามี แต่ทว่าคำสาปแช่งเหล่านั้นก็ไม่อาจกล้ำกรายพระผู้เป็นเจ้าได้

    กิตติศัพท์ความงามเมื่อกาลที่พระนารายณ์ได้เนรมิตรูปกายพระองค์เป็นอิสตรีนั้น ว่ากันว่างามหนักหนา แม้แต่เหล่าเทวดานางฟ้ายังตกตะลึงสงสัยว่าจะงามซักเพียงใดหนอ และเหนือสิ่งอื่นใดแม้แต่เหล่าพระจักรวาลชนนีหรือพระแม่เจ้าทั้งสามผู้ได้ชื่อว่าเป็นอัครชายาเจ้าโลก และได้รับยกย่องว่างดงามที่สุด ยังสงสัยว่าเมื่อพระศรีหริเนรมิตรูปกายนั้นจะงามซักเพียงใด อยากจะมีโอกาสได้เห็นรูปพระเป็นเจ้าเนรมิตเช่นนั้นบ้าง แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะถามได้แต่เก็บปัญหานี้ไว้ ร้อนจนถึงพระแม่ลักษมีอัครชายาเอง ต้องขอให้พระสวามีของพระนางเนรมิตให้ดูเช่นนั้น กาลต่อมาจึงปรากฏเป็นตำนานสืบไปว่ารูปเนรมิตที่ปรากฏนั้นได้ชื่อว่างดงาม มีเสน่ห์ยั่วยวนชวนให้หลงใหลมากที่สุดในมหาจักรวาล


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างศาสตร์แห่งวิชามหาเสน่ห์ชั้นสูง โดยอาศัยบารมีแห่งพระนารายณ์เป็นเจ้าเพื่อจะสร้างตะกรุดไว้เฉลิมเกียรติของพระองค์ให้เป็นที่สุดในศาสตร์ของความรัก เสน่ห์หลงใหล เป็นเวทย์และพลังขั้นสูง ซึ่งจะต้องอาราธนาพระองค์ให้มาลงพระเวทย์ช่วยกันสร้างตะกรุดขึ้นในวาระพิเศษนี้ด้วย โดยท่านมีดำริว่าจะต้องใช้มวลสารที่ดีที่สุดมาสร้างและอธิษฐานจิต เรียกว่าท่านทำแบบมีอุตสาหะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทีเดียว เนื่องจากตะกรุดนี้มีกรรมวิธียุ่งยากซับซ้อนท่านต้องทำมือทีละดอกกว่าจะได้ดอกหนึ่งนั้นต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะการฉาบทาด้วยว่านยาอาถรรพ์ต่างๆ

    ท่านได้นำแผ่นตะกั่วที่จะใช้จารนั้นมาทำพิธีปะสระโลหิตในวาระแรกก่อน โดยว่าเพื่อให้ตะกรุดนี้เป็นของขลังมีอำนาจแห่งบุญฤทธิ์ไม่มีวันเสื่อม จากนั้นจึงได้นำฤกษ์มงคลที่ส่งผลด้านมหาเสน่ห์กับคนใช้มาทยอยลงจารแผ่นตะกั่วเก็บไว้ ซึ่งตะกรุดนี้จะบรรจุพระยันต์ทั้งหมดสองชนิดคือ
    - พระนารายณ์ถอดรูป สืบสานกระบวนเวทย์วิชาเมื่อครั้งพระเป็นเจ้าได้นิรมาณกายเป็นอิตถีสตรีเพศรูปงามปรากฏแก่ตาโลก เป็นประวัติศาสตร์อันชนทั้งโลกกล่าวขานบอกต่อผ่านยุคสมัย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่า ที่ผ่านมาวิชาพระนารายณ์ถอดรูปนี้เห็นมีแต่คนลงทำเสียอย่างประหนึ่งเล่นสนุก ได้ตัดต่อและทำเสมือนว่าเอาแต่เพียงชื่อวิชามาใช้ไม่ใคร่ลงกันจริง (สอบถามท่านว่าส่วนมากจะลงหัวใจไม่กี่ตัวที่แย่หน่อยคือจารและไม่จารไปเลยก็มี)ซึ่งเมื่อจะทำนั้น จะต้องให้มีอานุภาพทางมหาเสน่ห์สะกดได้ทั่วไตรภพ ชวนให้สัตว์ที่อยู่ใกล้ในรัศมีของพระยันต์นี้มีอานุภาพเคลิบเคลิ้มหลงใหลในตัวของผู้อาราธนา เสมอด้วยเหล่าพระมุนีฤาษีหรืออสูรพรหมนนทุกข์หลงในตัวพระนารายณ์ลืมตัวลืมตายเพียงนั้นทีเดียว ดังนั้นการลงและเสกนั้นจึงต้องเสกแบบเปิดโลกซ้ำต้องอัญเชิญพระศรีหริหรือมหานารายณ์นั้นมาลงพระเวทย์แบบเดียว ชนิดเดียวเช่นที่พระเป็นเจ้าเคยกระทำในกาลก่อน อานุภาพนั้นจะเสมอด้วยการสะกดชั้นสูงยิ่งกว่าพระสังข์ถอดรูปเงาะหรือมนต์ถอดรูปและสะกดโดยทั่วไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่สุดแล้วในทางมายาคติเพราะสำเร็จวิชาด้วยอำนาจแห่งพระนารายณ์ เค้าจะมองเราดุจผู้ดีมีชาติตระกูล เป็นที่สิเน่หา สะกดใจให้ดูเราสวยงามสูงส่ง ไปที่แห่งใดก็ชื่นชมยินดีในรูปร่างเรือนกายถึงปานนั้น
    - ช้างประสมโขลง เป็นที่สุดของกระบวนวิชาสายมหาเสน่ห์ใหญ่ที่มีพละกำลังมากดุจพญาคชสารตกมัน ท่านว่าหลายที่นิยมใช้วิชาอย่างย่อไม่ใคร่ใช้ตัวเต็มที่มีอานุภาพเต็มกันเลย ท่านจึงประสงค์จะทำไว้ให้ซักครั้ง ซึ่งวิชาช้างประสมโขลงตัวนี้ท่านว่าถ้ารักจะเล่นทางเสน่ห์เมตตาแล้วล่ะก็มีอานุภาพดุจพญาเทครัว เรื่องเจ้าชู้ประตูดินนั้นครอบคลุมเสียทั้งหมด แม้อาราธนาบูชาก็จะดึงคู่ครองที่มีฐานะมีชาติตระกูลให้เข้ามาอยู่กินในชีวิตของตน แม้หากไม่ได้มีจริตที่จะใช้ทางเสน่ห์แล้วก็จะเป็นเมตตามหานิยมอย่างที่สุด อยู่ในมหาทิศทั้งสี่ไม่ว่าจะแห่งใดเขาจะนิยมรักใคร่เอ็นดูเรานัก ดุจว่าญาติสนิทฤาเลือดในอกก็ไม่ปาน จะใช้ทางเข้าหาเจ้านายก็ได้ ใช้ให้คนเมตตาสงสารเวลาจะทำงานจะไปทำกิจแห่งใดก็ได้ แม้จะพูดจาสิ่งใดเค้าเชื่อเราหมดเพราะเมตตาเป็นที่สุด ซ้ำคนที่หากินกับเสียงไม่ว่าจะเป็นการพูด การร้องเพลงหรือการแสดงใดๆท่านว่าจะมีคนนิยมชมชอบเป็นพิเศษ ที่สำคัญกว่านั้นเป็นอาถรรพ์ของคุณวิชานี้ แม้จะมีอานุภาพทางเสน่ห์นักหนา แต่ก็ไม่ปิดช่องทางด้านการทำมาหากินเช่นวิชาอื่น พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมาะนักกับกาลและยุคสมัย เพราะคนที่มีวิชาช้างประสมโขลงนั้นจะหากินเจริญรุ่งเรืองและรุดหน้าเร็วกว่าคนอื่นเสียทั้งหมด นี่คือเรื่องแปลก แม้ประกอบการค้าก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ฤาจะว่าถ้าทำงานรับราชการก็จะมีตำแหน่งใหญ่โต แม้เป็นพนักงานทั่วไปก็จะได้เจริญรุ่งเรื่องขึ้นมากกว่าปกติ หรือจะทำเทือกสวนไร่นาท่านว่าอาราธนาทำน้ำมนต์ไว้รดสวนผลผลิตนั้นดียิ่งนัก แม้จะเป็นหนี้สินใดๆก็สามารถหลุดพ้นได้โดยเร็วพลัน อันวิชาช้างประสมโขลงตำรับนี้นั้นมีคุณดุจดวงแก้วกายสิทธิ์ของพระเจ้าจักรพรรดิ เพราะมันวิเศษเสียจนประมาณค่ามิได้เลย อยู่ที่จริตคนใช้ว่าในวันหนึ่งๆนั้นเค้าจะอาราธนาตะกรุดไปทางใด จะใช้ด้านเสน่ห์ มหานิยม การทำมาหากิน ความเจริญก้าวหน้า ท่านว่านี่ก็แล้วแต่เขาด้วยอาถรรพ์วิชานั้นก็เป็นไปได้ทุกสิ่ง

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่าน ได้ลงจารอักขระและภาวนาคาบคาถากำหนดจิตจนเกิดบุพนิมิตแล้วก็ได้ปลุกเสกคุณพระคาถาตามวิชาลงไปจนมั่นใจเสียก่อนแล้วนั้น ลำดับต่อมาท่านจะนำด้ายขาวสาวพรหมจรรย์มาถักทอตะกรุดอีกคำรบหนึ่ง และทำการฉาบทาด้วยน้ำมัน ว่านยา ตลอดจนผงวิเศษ ซึ่งต้องใช้ความอุตสาหะอย่างยิ่งเพราะอาศัยระยะเวลาในการทำนาน กว่าจะแห้งทีละชั้นกว่าจะสำเร็จ ต้องเพียรทำในยามมงคลเท่านั้น ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
    - น้ำตาปลาดุหยง ในวาระแรกท่านจะนำตะกรุดนั้นมาทาด้วยน้ำตาปลาดุหยงหรือที่เรียกว่าน้ำตาปลาพะยูนซึ่งมีพ่อหมอสายใต้ทำวิชามอบให้ท่านมา อันซึ่งน้ำตาปลาดุยงนี้สำหรับผู้รู้จริงจะถือว่ามีอานุภาพมากเสียยิ่งกว่าน้ำมันพรายผีตายห่าตายโหงใดๆ ซ้ำยังมีแต่คุณไม่มีโทษกับผู้ใช้ เป็นที่สุดของศาสตร์มหาเสน่ห์สายใต้ที่หาง่ายแต่เอายาก เมื่อได้มาแล้วก็มีอานุภาพในตัวของมันเอง หากได้นำมากำกับด้วยพระคาถาคุณวิชาอีกคำรบหนึ่งก็จะยิ่งวิเศษมากขึ้นไปเหนือกว่าศาสตร์น้ำมันใดๆทั้งหมด
    - ยาจินดามณี จากนั้นท่านจึงนำยาจินดามณีของหลวงปู่บุญและหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วมาตำเป็นหัวเชื้อผสมกับของหลวงปู่เจือผสมน้ำมันว่านฉาบทาคลุกไว้อีกหนหนึ่งเพื่อให้ตะกรุดนั้นมีคุณดุจแก้วสารพัดนึก สามารถต้านกรรมหนักได้ อธิษฐานสิ่งใดก็สมปรารถนาด้วยอานุภาพวิชาจินดามณี
    - น้ำมันว่านไก่แดง ว่านนี้มีอานุภาพทางเสน่ห์และความเจริญร่ำรวยอย่างยิ่งยวด ซึ่งเป็นว่านที่มีเชื้อสายสืบมาจากทางพม่า ถึงขนาดกับมีคนตั้งตัวเป็นครูบาอาจารย์และโด่งดังได้เพราะรู้จักและใช้ว่านยาชนิดนี้หลายท่าน น้ำมันว่านไก่แดงแท้ๆนั้นไม่ใช่จะมีอานุภาพทางเสน่ห์มหานิยมอย่างเดียวยังใช้ทางด้านโภคทรัพย์ลาภลอย เน้นความเจริญก้าวหน้าและหนุนดวงอีกด้วย ถึงขนาดมีครูอาจารย์นำมาใช้สักเพื่อเสริมดวงชะตาก็มี แต่ของแท้นั้นหาได้ยากและจะให้ดีต้องสำเร็จด้วยวิชาของพม่า ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้รับมานานแล้วไม่เคยนำออกมาใช้เลย จึงได้นำมาฉาบทาที่ตะกรุดอีกชั้นหนึ่งก่อนที่จะพอกผงในลำดับต่อไป
    - ว่านตระกูลเสน่ห์ พ่ออาจารย์ท่านได้นำว่านเสน่ห์ที่มีคุณยิ่งตามตำรากบิลว่านที่ท่านได้ปลูกเเละเลี้ยงดูรดน้ำด้วยมนต์วิชาเอาไว้ กู้ขึ้นมาตามขั้นตอนเฉพาะที่จะทำให้ว่านมีตัวมีฤทธิ์เดชจนท่านนำมาป่นเป็นผง ซึ่งท่านใช้ว่านที่ว่ามีฤทธิ์จัดๆถึงเก้าชนิดเพื่อเน้นความเจริญก้าวหน้าไม่ถอยหลัง ได้แก่ ว่านช้างผสมโขลงหรือว่านพระยาเทครัวมีสรรพคุณรุนแรงถึงกับใช้ประกอบในการทำยาเสน่ห์ทีเดียว สองคือว่านเทพรัญจวนมีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นเลิศ สามคือเครือเขาหลงหรือเครือสาวหลงก็เรียกมีคุณด้านเสน่ห์ลุ่มหลงแม้นำมาใช้ประกอบเป็นเครื่องราง สี่คือว่านดอกทองนิยมว่ามีอานุภาพทางก่อเกิดอารมณ์ทางกามตัณหาอย่างรุนแรง ห้าคือว่านจูงนางเป็นว่านทางเสน่ห์และเมตตามหานิยมมีชื่อเป็นมงคลดุจว่าชักชวนให้คนเข้าหา หกว่านกระแจะจันทร์มีอานุภาพทางเมตตาเป็นเลิศ เจ็ดว่านเสน่ห์จันทร์เป็นราชเสน่ห์เมตตามหานิยมขั้นสูง แปดว่านห้าร้อยนางเป็นเสน่ห์รุนแรงดุจว่ามีคู่ครองหลายคนซ้ำยังใช้ให้คนรักหรือครอบครัวสนิทสนมกลมเกลียวด้วย เก้าว่านสาวหลง ท่านว่ามีคุณตรงตามชื่อ พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงว่านที่บดรวมไว้ทั้งเก้าชนิดนี้มาฉาบทาเคลือบตะกรุดเพื่อให้มีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์สูงสุด
    - สีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้ง สุดยอดสีผึ้งในกระบวนการเครื่องรางว่านยาอาถรรพ์ที่มีวัสดุมวลสารชั้นครูประกอบอาถรรพ์ว่านยาในการสร้างชนิดที่ว่าหาได้ยากนักหนา แม้เพียงหัวเข็มหมุดหากเป็นของแท้ก็มีอานุภาพเป็นที่สุดยิ่งกว่ามหารักมหาหลงใดๆ พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาจุณเจิมที่ตะกรุดพระนารายณ์ตรึงสวาททุกดอกเสียหนหนึ่งก่อน
    - ผงลบวิชาเสน่ห์ เป็นผงที่ท่านลบด้วยวิชาอิทธิเจเสน่ห์กล รวมกับวิชาอื่นๆเช่นนะหน้าพระลอยมา นะหน้าทอง นะร่วมใจ วิชาพระลักษณ์หน้าทอง เทพรำลึก เทพรำพึง เทพจำแลง พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงอย่างเดียวอณูเดียวก็เป็นเสน่ห์เหลือที่จะประมาณแล้ว ท่านว่าวิชาแต่ละชนิดนั้นมีคุณค่าควรเมืองแทบทั้งสิ้น
    - ผงพรายกุมาร พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้พระขุนแผนพรายกุมารที่แตกหักของหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ที่เสกสำเร็จแล้วและแตกหักลงในกาลต่อมาซึ่งพระส่วนนี้สมัยก่อนจะไม่มีคนสนใจ ซึ่งท่านได้รับมาพร้อมกับผงพรายกุมารแต่ท่านได้นำมาเก็บไว้โดยนำมาตำจนเป็นผงละเอียด ท่านว่าเอาไว้เฉยๆก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรแก่ชนหมู่มากเดี๋ยวของดีจะสูญไปเสียเปล่า ด้วยว่าผงนี้มีอานุภาพใหญ่นักเหนือกว่าผงพรายกุมารทั่วไปเพราะได้รับการเสกจากหลวงปู่ทิมเมื่อขึ้นรูปเป็นองค์พระแล้วอีกคำรบหนึ่ง และท่านยังเชิญดวงวิญญาณหลวงปู่ทิมมาเสกอีกเป็นประจำตลอดเวลาที่เก็บรักษาไว้ท่านว่าใช้แทนกันได้กับพระผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมท่านหากใครหาไม่ได้
    * และยังมีผงชนิดหนึ่งที่ท่านให้ปิดบังไว้ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ไม่ใช่ผงพรายหรือผีแน่นอนแต่เป็นผงพระพุทธคุณของเกจิยุคเก่า

    เมื่อท่านได้พอกผงอย่างดีแล้วท่านจึงนำมาเคลือบและตากแดดไว้ โดยใช้การเคลือบหลายครั้งมากเพื่อให้มวลสารแข็งตัวและแห้งสนิท ต้องอาศัยระยะเวลายาวนาน ท่านทำอย่างใจเย็นและอุตสาหะยิ่งนัก ค่อยๆทำไปทีละดอกและเก็บสะสมไว้ เนื่องจากมวลสสารมีจำกัดอย่างยิ่งจึงทำให้ท่านสร้างได้เพียง 9 ดอกเท่านั้น

    คาถาอาราธนา (นึกถึงพระนารายณ์เป็นที่สุด)
    โอมรักเอ๋ยมาประสมโขลง โอมรักเอ๋ยมาประจำหลัก ประจำแปลง ดำแดงขาวผ่องเป็นทองพระไพร แม่มาประจำเนื้อประจำตัวสวาหะ มะอะอุทะกามะนังปะทัง ตถาคะเตภุญชันติ สิวิจะ นิพพานังสังสิอุอะมะ นะโมพุทธายะ นะเมตตา โมกรุณา พุทธรักษา ธาบังเกิด ยะรำลึกถึง สังวิทาปุกะยะปะ ทิมะสังอังขุ อาปามะจุปะ(ท่านว่าถ้าจิตมีสมาธิไม่ต้องใช้คาถาใดๆเพราะเป็นของสำเร็จแล้วให้นึกถึงคุณพระนารายณ์อย่างเดียว แต่ถ้าจิตไม่นิ่งก็ยึดพระคาถาไว้บริกรรมแต่เพียงนั้น)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2021
  7. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ตะกรุดอริยทรัพย์มหาบุรุษสืบสกุลบุญครูเฒ่าต่อชีวิต(เงินเข้า,สร้างคน)
    ปิดรายการนี้ครับ
    91079936_237599570623451_6815514882822111232_n.jpg
    90415702_526966918240136_6003670629704794112_n.jpg
    90884417_636702626881162_3625211654934888448_n.jpg
    ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลายๆสิ่งก็เปลี่ยนไป เช่นเศรษฐกิจในทุกวันนี้ บางคนบอกว่าอยู่ได้ บางคนบอกว่าฟื้นตัว ในขณะที่บางคนเหมือนจรวดพุ่งขึ้นฟ้าบอกกันว่าจะทำอะไรก็อิสระหาเงินคล่องดูง่ายไปหมดยิ่งได้เครื่องมงคลไปยิ่งเจอแต่สิ่งดีๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกส่วนนึงถามเข้ามา เป็นคำถามที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าเมื่อมีคนได้ดี ก็ย่อมมีคนลำบากตามกลไกเศรษฐกิจและสังคมนั่นเอง บางคนบอกว่าหาเงินยาก บางคนบอกรายจ่ายสวนทางกับรายรับ มีทั้งขาดดุลยภาพ การเงินไม่คล่องตัว หลายคนขอคำปรึกษาว่ามีอะไรจะช่วยให้เงินเข้า หาเงินคล่อง รายรับรายจ่ายไม่ขาดดุลย์ มีเงินเหลือเก็บ ทั้งนี้ปัญหาเหล่านี้จากที่ฟังดูแทบจะทุกคนล้วนมีแต่เหตุให้ใช้จ่ายด้วยเรื่องสุดวิสัยทั้งสิ้น เมื่อมีรายจ่ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นหรือจำเป็นให้ใช้จ่ายแทรกเข้ามาหลายๆเรื่องนั่นก็จะทำให้รายรับกับรายจ่ายสวนทางกัน...

    เมื่อมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ พ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณานำตะกรุดอริยทรัพย์มหาบุรุษตำรับเก่าที่จัดสร้างได้ยากซึ่งเป็นวิชาของหลวงปู่เฒ่ายิ้มออกมาให้ได้บูชา ท่านว่าวิชานี้เอาจริงๆนั้นก็แปลกด้วยว่าใจแต่เดิมไม่เคยคิดจะสร้าง แต่กลับฝันเห็นหลวงปู่ยิ้มท่านมาหาเอาพระยันต์มาให้ดูถึงสามครั้ง พ่ออาจารย์ท่านว่าตนเองก็ไม่เคยฝันเช่นนี้แถมฝันเหมือนกันถึงสามครั้งสามหน จนครั้งสุดท้ายนั้นหลวงปู่ท่านเมตตามาในนิมิตบอกให้พ่ออาจารย์ท่านทำวิชาตะกรุดนี้ อย่างน้อยถ้าจะไม่ทำให้ใครเลย ก็ควรทำไว้ใช้เองให้ได้ซักดอก

    ด้วยครูบาอาจารย์ท่านเมตตาเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงเห็นเป็นสำคัญและคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่างไม่เช่นนั้นพระอริยะเจ้าท่านจะไม่ลงมาวุ่นวายเป็นแน่ ท่านจึงได้ลองทำโดยใช้เวลาห้าปีเพื่อทำตะกรุดได้ทั้งหมดสิบหกดอก ท่านว่าแต่แรกเราตั้งใจจะทำใช้คนเดียวนั่นแหละ แต่ตอนทำมันเกิดเห็นภาพคนเดือดร้อนทุกข์ยากไปทั่ว ก็เลยนึกไปถึงหลวงปู่เฒ่าว่าท่านคงอยากจะให้ใช้วิชานี้ไปสงเคราะห์คนมากกว่าเราจะมาสงเคราะห์ตัวเอง จึงขออนุญาติท่านว่าจะทำได้มากสุดเสียเท่าใด ซึ่งทั้งหมดครูก็อนุญาติให้ทำได้สิบหกดอก แต่กว่าจะได้ก็ต้องหมดเวลาไปห้าปีนั่นเพราะฤกษ์ลงฤกษ์เสกมันมีน้อย พ่ออาจารย์ท่านยิ้มแล้วพูดติดตลกอยู่ว่า "เครื่องมงคลสายหลวงปู่ยิ้มนี้ที่จะหยิบมาทำง่ายๆสุกเอาเผากินเป็นไม่มี พิธีการมาก ลายละเอียดมาก ทำยากปานเข็นครกขึ้นเขาทีเดียว"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นตะกรุดสำคัญด้วยองค์หลวงปู่เฒ่ายิ้มนั้น ท่านเป็นพระอาจารย์องค์สำคัญที่เสด็จในกรม(กรมหลวงชุมพร)ท่านเครารพและใช้เวลาปรนนิบัติศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมด้วย แม้ตะกรุดนี้ท่านว่าเอาตามจริงหลวงปู่ท่านบอกเราว่า ท่านก็เคยทำเพียงครั้งเดียว นั่นคือทำให้ศิษย์รักของท่านหรือเสด็จในกรมเอาไปทำตามเคล็ดวิธีการบูชาที่วังนางเลิ้ง จึงนับว่าเป็นของสำคัญมากพ่ออาจารย์ท่านจึงเข้าใจทำไมหลวงปู่ท่านอยากให้เราทำให้ได้ แม้ที่สุดจริงๆแล้วถ้าจะไม่ทำให้ใครเลยก็ควรทำไว้ใช้เสียดอกหนึ่ง เพราะวิชาชุดนี้ให้คุณมากต่างจากวิชาโภคทรัพย์ทั้งหลายนั่นเอง

    ตะกรุดนี้เป็นตะกรุดดอกยาว เพราะท่านทำให้เต็มสูตร ท่านว่าอันพระยันต์นี้มีอานุภาพมากเนื่องจากพื้นฐานจะหนุนดวงชะตาทั้งแก้เคราะห์กรรม กลับร้ายให้กลายเป็นดี ทั้งยังขับไล่เสนียดจัญไรต่างๆ และหากติดกายผู้ใดไว้เชื่อได้ว่าจะไม่มีความอดอยาก ทรัพย์สมบัติจะไหลเข้าไม่มีไหลออก ท่านว่าถ้าเอาตามที่หลวงปู่ยิ้มท่านปกาศิตไว้นั่นคือยาจกจะได้เป็นเศรษฐี ทรัพย์สมบัติทั้งหลายจะไหลเข้ามาดุจสายน้ำเอ่อนองไหลซึมออกมาไม่มีวันจบสิ้น แม้คนขัดสนทำมาหากินลำบากก็จะลืมตาอ้าปากได้ มีทรัพย์สินและโชควาสนาให้กอบโกยไม่รู้หมด

    นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำคาถาเงินล้านมาลงเสริมไว้ ด้วยบทคาถาสำคัญนี้จะช่วยให้ธุรกิจหรือการทำมาหากินใดๆไม่มีสะดุด เป็นไปโดยราบรื่น คล่องตัว หากใจศรัทธามั่นย่อมเป็นโชคลาภขนานเอก ซ้ำยังแก้เคล็ดให้คนใช้ได้จับเงินล้าน ท่านว่าใครอาราธนาดีๆหมั่นทำทานตลอด มติครูบาอาจารย์ว่าจะได้จับเงินล้านในเร็ววัน

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดแล้วท่านยังน้ำมาม้วนและพอกด้วยผงยาพิชัยสมบัติราชาโชค ท่านว่าผงนี้อยู่ที่ใดเสมือนจุดนั้นเป็นคลังสมบัติใช้ดึงดูดเงินทองเสมือนหลุมดำไม่รู้จักอิ่ม ทั้งยังดีในเรื่องเสี่ยงโชค ลาภลอย สุดแต่จะเอาไปใช้กันท่านว่าพูดได้เท่านี้เพราะการพนัน การเสี่ยงโชคหวังลาภลอยมันเป็นสิ่งไม่ดี

    ตะกรุดนี้สำคัญอย่างไร เมื่อเสกเสร็จนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราเห็นนิมิตที่แสดงออกมีทั้งต้นไม้เงินต้นไม้ทองดูสวยงาม แลใบของต้นไม้นั้นก็ล่วงโปรยลงมาตลอดไม่ขาดระยะสักเวลา ท่านว่าเป็นนิมิตดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นด้วยว่าโชคลาภนั้นจะเข้ามาดุจใบไม้ มีลมก็ร่วง ร่วงอยู่ทุกวัน ร่วงอยู่ไม่ขาดสาย อันต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบดกปกหนาเป็นร่มเงาแก่ฝูงชน ก็ต้นไม้เหล่านั้นมีวันใดที่ใบไม่ร่วงหล่นบ้าง พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าคนไม่มีโชคก็จะได้โชค ขาดลาภก็จะได้ลาภสักการะไม่ขาดด้วยโภคทรัพย์เงินตรา ดั่งใบไม้ที่ร่วงหล่นมาจากต้นฉันใดก็ฉันนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราต้องเสกทีละดอกจนมีนิมิตปรากฏเช่นนี้ทุกดอกเป็นเวลาห้าปี ดังนั้นท่านจึงถามเอาว่าจะไม่ยากได้อย่างไร ลำพังลงยันต์อ่านอาคมบริกรรมปลุกเสกใครก็ทำได้ แต่การทำให้สำเร็จนั้น ทุกดอกจะต้องเกิดนิมิตเหมือนกันทั้งสิบหกครั้งคลาดเคลื่อนไม่ได้ เพื่อชีวิตคนนำไปใช้จะได้สัมผัสกับโชคลาภวาสนาดั่งใบไม้ที่รูดมาต้องกายไม่รู้หมด แม้เสกทีละดอกเสร็จจนมีนิมิตดุจเดียวกันแล้วก็ต้องนำมาอ่านมนต์เสกอีกคำรบหนึ่ง

    ตรงนี้สำคัญมาก เพราะพ่ออาจารย์ต้องเสกมนต์กำกับขุมทรัพย์ซึ่งมีถึง 128 พระคาถา ด้วยว่าเป็นมนต์อาถรรพ์ของสำนักพระราชวังโบราณ สมัยขอมเรืองอำนาจที่เอาไว้ทำอาถรรพ์กำกับท้องพระคลังมหาสมบัติ ด้วยสมัยโบราณนั้นขอมเรืองอำนาจมากพอที่จะขยายอำนาจและอารยธรรมปกคลุมไปทั่วดินแดนแถบนี้ ดังนั้นท้องพระคลังมหาสมบัติของเขาจึงรุ่งเรืองมาก ว่ากันว่าแม้ใช้อย่างไรก็ไม่พร่องไม่หมด เป็นท้องพระคลังที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทองคำแลจินดามณีเลิศเลอไปด้วยสมบัติล้ำคานานัปการ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยากก็ตรงนี้เสกตะกรุดนี้เหมือนลงอาถรรพ์ท้องพระคลังโบราณ ยากเพราะมีนิมิตเกิดขึ้นแต่ละครั้งแต่ละอย่างนั้นต่างกันไป อันพระคาถาทั้ง128 นั้น ท่านว่าต้องนั่งเสกด้วยมนต์คาถาละพันจบ จนมีนิมิตศุภมงคลต่างกันครบร้อยยี่สิบแปดอย่างถึงจะใช้ได้ จะเห็นว่าท่านต้องใช้เวลายาวนานมากซึ่งเรื่องนี้ท่านไม่สามารถบอกใครได้ด้วยเป็นความลับและไม่ต้องการสืบทอดให้ใครนั่นเอง

    ดังนั้นตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงทำได้เพียงครั้งเดียวและท่านตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่มีครั้งที่สอง ด้วยว่าขั้นตอนกำหนดกฏเกณฑ์นั้นมันวุ่นวาย และท่านเชื่อว่าเจ้าของที่เชื่อมวาสนาสัมพันธ์กันกับเวทย์วิชานั้น ล้วนแต่มีอยู่ครบถ้วนแล้วไม่มากไปกว่านี้ เพราะวิชาชุดนี้เป็นวิชาที่เป็นตำนานอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้ดูครั้งเดียว สำหรับคนที่ได้ไปเราก็ยินดีด้วย เขาจะได้เจริญรุ่งเรืองตามสมควร เป็นไปด้วยบารมีหลวงปู่เฒ่าท่านเกื้อกูล

    ชีวิตมนุษย์นั้น เพราะไม่เคยมี ไม่เคยได้รับมาก่อน จึงมีความฝัน มีความปรารถนาที่จะครอบครอง มีกำลังใจที่จะเพียรพยายามไปบนหนทางแห่งวาสนาและชะตาของตนนั้น แม้ความตั้งมั่นจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ผู้ที่ไปถึงจุดหมายนั้นก็มีเพียงหยิบมือ พ่ออาจารย์ท่านจึงแนะนำให้บูชาตะกรุดนี้เพื่อใช้คู่กายในการทำความปรารถนาทั้งหลายให้เกิดขึ้นจริง ท่านว่าสรุปแล้วตะกรุดจะมีอานุภาพ ดังนี้ในกรณีที่เราอาราธนาติดตัว
    - เร่งโชคลาภเข้ามาตลอด
    - มีชีวิตที่รุ่งเรือง
    - ทำมาหากินง่ายอย่างเหลือเชื่อ
    - ดีด้านเสี่ยงโชคลาภการพนัน
    - กำราบศัตรูได้ราบคาบ
    - คู่ค้า เหยื่อ เขาจะเดินเข้ามาหาเราด้วยตัวเอง
    - เป็นเมตตามหานิยมให้คนชอบพอ
    - เป็นเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้คนใช้ต่อชีวิต อะไรที่มันพังมันหักกลาง ชีวิตที่ต่อไม่ติดจะได้ฟื้นฟูขึ้นมา สร้างคนให้เป็นคนเต็มภาคภูมิ

    * ข้อควรปฏิบัติ
    - ทำอาถรรพ์นำตะกรุดฝังลงไปในข้าวสาร วิธีนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการแก้เคล็ดอย่างถาวรให้เงินเข้า กันเงินออก เงินพร่อง ซึ่งวิธีใช้ตะกรุดนี้ท่านว่าทำได้โดยไม่ต้องคาดหรือพกติดตัว แค่แก้เคล็ดนี่ได้ก็เหมือนย้อนเกล็ดมังกร เป็นการแก้แบบถาวรให้ตังเข้าไม่มีออกไปตลอดกาล ท่านให้นำชามหรือถังใส่ข้าวสารจนเต็มและต้องพูนเหนือขอบภาชนะมาวางไว้หน้าพระพุทธรูปที่เราบูชาพระรัตนตรัย ท่านว่าข้าวเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ อันตะกรุดนี้เป็นตัวแทนของพระคลังเมื่อได้ฝังลงไปนั่นก็คือท้องพระคลังที่อุดมสมบูรณ์ และข้าวยังพ้องเสียงกับคำว่าเข้า นั่นคืออริยทรัพย์ที่มีข้าวทับถมนั้น หมายถึงทรัพย์ที่แต่นี้สืบไปจะเข้ามาไม่มีวันหมด แม้จะอาราธนาตะกรุดอื่นหมื่นแสนมาฝังลงไปในข้าวก็ไม่เป็นการแก้เคล็ดได้เช่นนี้ อันข้าวที่พูนออกมานั้น แม้นหุงข้าวประกอบกิจครัวเรือน ท่านว่าให้ตักเป็นหัวเชื้อนำไปหุงผสมเพื่อบริโภค ถือเคล็ดรับเอาคุณวิชาเข้าตัว โชคลาภจะได้เกิดแก่ตนและคนในครอบครัว ส่วนข้าวที่เราตักพร่องไปนั้นก็ให้เติมให้เต็มอยู่เนืองๆ
    - การอาราธนาตะกรุดทำน้ำมนต์ ท่านให้แช่ตะกรุดในน้ำและขอบารมีหลวงปู่ยิ้มสำเร็จน้ำมนต์นั้น อันน้ำนี้นำไปรดหน้าประตูบ้านหรือสถานที่ทำงานทั้งซ้ายขวา ท่านว่าสถานที่นั้นจะมีลูกค้ามาก กิจการจะรุ่งเรืองแบบไม่ลืมหูลืมตาทีเดียว แม้ได้อาบกินจะเจริญด้วยสง่าราศี ติดต่อเจรจาว่าความ แสงหาโชคลาภหรือกระทำกิจการงานใดก็ดี ล้วนแต่มือขึ้นมีแต่ได้ไม่ถดถอย


    คาถาบูชา
    สิริโภคานะมาสะโยโอมเทิบเทิบ มหาเทิบเทิบ สารพัดเทิบเทิบ นะมามีมามหาลาภา สวาหะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2021
  8. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    มงคลว่านดอกทองยอดอิสีอรชุนเข้านางสามตัณหา(ยาภารตะสั่งเสน่ห์)
    ปิดรายการนี้ครับ
    90396461_252918512769684_6705802387082182656_n.jpg
    90356527_235172637636093_6922447005713170432_n.jpg
    ศิลปะศาสตร์ตลอดจนวิชาทั้งหลายนั้น ย้อนกลับไปคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหนือกว่าไสยศาสตร์ของขอมที่เรารู้จักและนิยมใช้กันมาตลอดเนื่องจากความเกี่ยวเนื่องทางอารยะธรรมนั้น ก็ยังมีวิชาสายภารตะ หรือไศวะศาสตร์สายฮินดูอยู่ ซึ่งเป็นต้นตำรับอย่างแท้จริงที่พวกขอมโบราณรับเอามาอีก แต่วิชาเหล่านี้นอกจากมีความรุนแรง ชัดเจน รวดเร็วเห็นผลอย่างมากแล้ว แน่นอนว่าหาคนรู้และเรียนได้ยากเช่นกัน ต่างจากวิชาทั่วไปโดยปกติอย่างสิ้นเชิง

    พ่ออาจารย์ท่านได้ปรุงยาภารตะสั่งเสน่ห์ขึ้นมานานนักหนาแล้ว เรียกว่าเป็นวิชาที่ยากและซับซ้อนมากที่สุด เพราะท่านทำแบบเต็มสูตร ท่านว่ายาภารตะสั่งเสน่ห์นี้ไม่ใช่แค่นึกจะทำก็หามวลสารมาผสมนั่งเสกๆเอาหรือใครจะทำก็ทำได้ มันมีวิธีการและขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่านั้น ท่านว่าทุกสิ่งต้องดูมิติของดวงดาว ต้องทำในฤกษ์ในยามที่ดวงดาวมีกำลังส่งผลอย่างเด่นชัด เป็นเรื่องละเอียดอย่างมาก เช่นต้องหามวลสารเมื่อราหูอมจันทร์เท่านั้นทำให้ตอนนั้นถ้าท่านไม่มีความตั้งมั่นจริงๆย่อมไม่สามารถกระทำได้เลย ดีที่ว่ามีราหูอมจันทร์เกิดขึ้นเนืองๆ แล้วยังต้องหุงมวลสารในกำลังพระราหูเพื่อจะเน้นอำนาจจากดาวราหูส่งผลให้มีอานุภาพทางกามราคะ กามตัณหาความลุ่มหลงมัวเมาต่างๆ และนำมาเสกในฤกษ์ที่มีอิทธิพลของดาวศุกร์ เพื่อจะให้แสดงผลในเรื่องการเงินความมั่งคั่งร่ำรวย ความรักชายหญิง เครื่องเพศ กามราคะ ท่านว่าในส่วนของวิชาทุกอย่างเคร่งครัดอย่างมาก หากอธิษฐานจิตเฉยๆเสกอย่างไรก็เสกไม่ขึ้น ไม่มีทางสำเร็จยาภารตะสั่งเสน่ห์นี้ได้ ยานี้ท่านว่ามีความแตกต่างในตัวเองสูงมาก เป็นมนต์สูงสายขาวใช้ได้ไม่เป็นอันตรายกับตัวเองแน่นอน ท่านว่าเราทำให้ไม่เพียงแต่ทำตรงตำรา แต่ยังทำให้เกินตำราอีกด้วยท่านว่าในอดีตนั้นยาสั่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวนัก พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ยังแค่ไสยศาสตร์แบบไทยๆเรานะ แล้วลองย้อนขึ้นไปของเขมรดูสิ จากนั้นก็ย้อนขึ้นไปถึงวิชาแขกฮินดูแดนภารตะอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าแน่นอนวิชาเขมรย่อมแรงอย่างยิ่งแต่หากเทียบกันแล้วก็ยังสู้ของแขกไม่ได้ แรงครูเค้าก็แรงกว่า ท่านว่ายาภารตะสั่งเสน่ห์นี้แรงกว่ายาสั่งที่ปรุงธรรมดาร้อยเท่าพันเท่า เพราะมวลสารนั้นมีตั้งแต่ของสูงชนิดตาเห็นก็ไม่มีปัญญาเอาได้ ของที่ประดิษฐานอยู่กลางฟ้าบ้าง แม้ตัวขี้ผึ้งที่ผสมลงไปนี้ท่านก็ไม่ได้ใช้ขี้ผึ้งธรรมดามาทำ ท่านนำขี้ผึ้งน้ำตานางมัทรีมาทำ ซึ่งมันมีอาถรรพ์สูงมากในตัวเองอยู่แล้วจึงกล่าวได้ว่าเป็นเสน่ห์เหนือมหาเสน่ห์เลยกว่าได้ ท่านว่าขี้ผึ้งน้ำตานางมัทรีนี้แค่นี้ก็ปวดหัวแล้วเพราะไม่ใช่ของที่จะเดินเข้าไปขอวัดไหนก็ได้ แต่เราต้องทำไปถวายเองต้องเสาะหาสิ่งอาถรรพ์มาปั้นเทียนทำสารพัดกว่าจะได้สิ่งที่เรียกว่าน้ำตานางมัทรี ท่านว่าทุกอย่างที่นำมาทำนั้นท่านพยายามจะให้มีอิทธิคุณแฝดอย่างแรงสูงสุดในสายขาวสายเทพเจ้าไม่มีให้ไปยุ่งกับซากศพ กับของต่ำหรือต้องเสกในป่าช้าแต่อย่างใด เพราะว่าจะนำเรื่องไม่ดีที่เรียกว่าซวยมาถึงคนใช้ ทุกอย่างเป็นปริศนาต้องตีต้องคิดขบด้วยปัญหาให้แตกฉานกว่าจะเข้าใจและเตรียมตัวออกไปตามหาได้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ท่านว่าไม่เพียงเท่านี้ แต่ท่านยังนั่งลบผงวิชาเสน่ห์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดทางโซนของเราถึงสิบชนิด เสาะหาว่านยาเฉพาะทางเพื่อนำมาบดทำผงปั้นแท่งดินสอ ก่อนจะลบยันต์กระดานชนวนนวดกับยาภารตะไปด้วย ทั้งวิชาอีหง่างโบราณ พระศรีสะแลงแงง อีเป๋อ ม้าเสพย์นาง หมูเสพย์เสือ ช้างผสมโขลง พญาเขาคำ อิ้นแก้ว วัวกินนมเสือ หนูกินนมแมว ซึ่งแต่ละวิชานั้นพูดได้คำเดียวว่าอย่างแรงแม้ได้ซักตัวหนึ่งก็เป็นยอดคนมีคุณวิเศษในตัวเองอยู่แล้ว แต่นี่รวมกันถึงสิบชนิดท่านว่าถ้าคนจะเอาดีทางโลกไม่สามารถมองข้ามได้เลยทีเดียว ท่านว่าเน้นเอาคุณวิชาทำให้อย่างเต็มที่ พ่ออาจารย์ท่านว่ายานี้เป็นของวิเศษนัก ท่านได้นำมาบรรจุใส่ขวดเล็กๆไว้ ท่านว่ามันมีอำนาจเกินยาสั่งที่คนไทยเข้าใจไปมากโข ด้วยแรงครูแห่งมหาเทพทั้งหลายลงประสิทธิ์แฝงพลังอย่างแรง ท่านว่าถึงขนาดดาวบนฟ้าแม้ปรารถนาก็ต้องได้ ของสูง ของที่ไม่มีปัญญาเอา หมายปองดอกฟ้า คนที่ชาติตระกูลสูงกว่าเราทั้งหลาย เมื่ออยากรักก็ต้องได้รักสมใจเช่นนั้น นอกจากนี้ยังเป็นยาสั่งรวย ยาเปลี่ยนชีวิตด้วย ท่านว่าสั่งฟ้าสั่งรวยได้ตามใจ ถึงขนาดว่าสั่งอะไรได้อย่างนั้น คนไม่มีวาสนาจะไม่พาลพบยาสวรรค์โอสถของพระเจ้าเช่นนี้แน่นอนทีเดียว ท่านว่าวิสัยของเราให้พูดหรืออธิบายคงจะไม่งามให้เอาไปใช้เองเถิด

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาบรรจุไว้ในขวดเล็กๆเพราะยามีน้อย ท่านว่าเชื่อมั๊ย ยานี่แม้นำไปทำพระ ปั้นให้ได้ก้อนกลมๆเป็นมวลสารเท่าปลายเข็มหมุดผสมลงไปในพระหมื่นองค์ พระทั้งหมื่นนั้นก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุด ท่านว่ายานี้เมื่อทำเสร็จ เคยนำไปขอเมตตาพระอาจารย์ฝั้นท่านพิจารณา ท่านเห็นแล้วสีหน้าท่านเปลี่ยนไปเลย ท่านว่าตอนนั้นเราสนใจแต่ทางโลก ทำยาที่จะเปลี่ยนชะตามนุษย์ขึ้นมาจึงได้แต่ส่ายหัวเพราะไม่ใช่วิสัยของท่าน พ่ออาจารย์ว่าเอาตรงๆคือไม่มีใครเขาทำกัน ท่านว่ายานี้ให้คุณมากแล้วก็เป็นอันตรายมาก อันตรายคือท่านกลัวจะมีคนอุตริไปปั้นให้คนกิน ท่านจึงนำมาบรรจุใส่ขวดไว้ฝังในพระอีกชั้นหนึ่ง ท่านว่าเพียงพกอาราธนาเท่านั้นพอ ขอให้ทำเพียงแค่นั้นอย่าใช้ทางอื่นนอกจากพก เพียงเท่านี้ก็แรงเหลือใจแล้ว หมื่นยาเสน่ห์ร้อยยาสั่งก็สู้ยาภาระตะสั่งเสน่ห์นี้ไม่ได้

    หลังจากนั้นพ่ออาจารย์จึงได้แกะแม่พิมพ์ขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยใช้แม่พิมพ์พระผงพรายกุมารพิมพ์เล็กของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่มาเป็นแบบอย่าง แต่ท่านขยายให้ใหญ่ขึ้นพอจะฝังของอาถรรพ์ได้ และปรับเปลี่ยนสิ่งที่สมควรจะเปลี่ยน ท่านว่านี่ไม่ใช่พระ ไม่มีข้อจำกัดของพระ เพราะท่านตั้งใจจะทำให้คนใช้แรงแบบสุดๆไปเลย ท่านจึงปรับจากพิมพ์พระพุทธเจ้า เป็นยอดฤาษีอรชุนบรมครูเสน่ห์อันแรงฤทธิ์แทน ท่านว่าเป็นยอดฤาษีอรชุนองค์นี้แหละที่เป็นแรงครูหนุนอยู่เบื้องหลังของสรรพศาสตร์วิชาการมนต์เสน่ห์ทั้งปวง คนจะใช้ของเสน่ห์ขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่ท่าน พ่ออาจารย์รู้ถึงคุณวิเศษและความแรงอย่างลูกโดดของยอดฤาษีองค์นี้ดีจึงตั้งใจทำเอาไว้ โดยกำหนดให้มีนางสามตัณหาล้อมรอบซ้ายขวาและนอนอยู่เบื้องล่าง

    พ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลว่า ขึ้นชื่อมนุษย์ยังทำงานหล่อเลี้ยงชีวิต ยังมีความคิด มีจิตวิญญาณ มีความทะเยอทะยาน ต้องการจะเอาดีทางโลก อย่างไรเสียก็ไม่หลุดพ้นจากตัณหาทั้งสาม นั่นคือนางทั้งสาม และทั้งนี้นางทั้งสามยังได้ชื่อว่ามีอำนาจเหนือมนุษย์และเทพพรหมโดยตรงอีกด้วย เมื่อได้รับการสนับสนุนจากสามนางนี้แล้วพ่ออาจารย์ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ นางทั้งสามมีชื่อเรียกต่างกันดังนี้ อันได้แก่

    - ตัณหา ซึ่งตัณหาตัวนี้ไม่ได้พูดให้ทะลึ่งหรือมองไปเรื่องกามเท่านั้นแต่พูดโดยรวมคือ ความอยากทั้งหมด คือเราต้องการจะได้ อยากจะมี อยากจะเป็นอย่างไร นี่คืออานุภาพของนางตัณหา หมายถึงให้ได้ ให้สำเร็จกันในสิ่งที่คิดสิ่งที่ทำ

    - ราคะ นางตัณหาองค์ที่สองนี้ก็เช่นกันหากเล่นด้านเสน่ห์เมตตาก็ยังต้องมีราคะ มีความกำหนัด ยินดีในบ่วงกาม พ่ออาจารย์ว่ามันก็เป็นวิสัยปกติของมนุษย์ไม่ใช่พระอริยะเจ้าก็ยังต้องมี อานุภาพของนางตัณหาองค์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในความรัก สุขสมเรื่องคู่ครอง มีชีวิตคู่ที่ดี มีความรักที่บริสุทธิ์

    - อรดี นางตัณหาองค์ที่สาม พ่ออาจารย์บอกว่าลึกซึ้งมาก ใครที่มีความฝัน เดินทางตามหาฝัน เดินไปบนความต้องการและมุุ่งมั่นของตนเอง นี่ต้องใช้อานุภาพของนางอรดีเข้าช่วยเพราะจะได้สมใจปรารถนา ถ้าไปหวังเรื่องเสน่ห์ก็จะออกแนวมีแต่หญิงสาวมากมายมาติดพันเต็มไปหมด แต่ถ้าจะเอาดีทางหน้าที่การงาน สร้างฐานะทำความฝันให้เป็นจริงท่านว่าก็สำเร็จอีกเรื่องหนึ่ง มันอยู่ที่จิตตั้งต้นของผู้บูชาเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านทำครูฤาษีเสน่ห์หรืออิสีอรชุนผู้ทรงพระเวทย์เข้านางตัณหาทั้งสามนั้น เพราะท่านว่าคนใช้ขุนแผนล้วนติดที่รูปลักษณ์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเอาดีทางโลกได้อย่างไร พลังงานมันไปไม่สุด ช่วยเหลือกันไม่ได้เต็มที่ แต่ฤาษีนั้นท่านยังยุ่งเกี่ยวกับกิจทางโลกได้ทุกกิจยิ่งเป็นบรมครูที่ดูแลควบคุมศาสตร์ทางด้านนี้โดยเฉพาะแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง พ่ออาจารย์ท่านว่าการเข้านางของฤาษีอรชุนนั้นท่านสื่อความหมายให้ถึงใจของคนใช้โดยเฉพาะ นั่นคือ การเข้าไปหาให้สำเร็จในทุกกิจทางโลก เติมเต็มทุกสิ่งที่ขาดที่พร่องไป ยิ่งเอายิ่งได้ ยิ่งขาดยิ่งเต็ม ก็แล้วทุกวันนี้มีใครยินดีหรือพอใจในตัวเองบ้าง ก็ทุกคนนั้นแหละล้วนมีสิ่งที่ขาด มีไฟชีวิต มีความฝันปรารถนาที่จะทำทั้งนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำมวลสารเฉพาะทางเรียกว่าไม่สามารถเปิดเผยได้เลยแม้แต่น้อย เป็นมวลสารลับที่ลับที่สุดจริงๆ ประมาณว่ายอดของความลับสูตรของบรมครูเลยทีเดียว แต่เอาว่าแรงแน่ไม่มีของต่ำหรือของอาถรรพ์แต่อย่างใด พอจะบอกได้คร่าวๆแค่เพียง มีพืชพรรณอาถรรพ์ ว่านเก่งมีฤทธิ์มีตัวมีเพชรพญาธรรักษา ตลอดจนผงยาต่าง ท่านเรียกว่ายาสิบหกภาษา หมายถึงยาวิเศษสิบหกชาติพันธุ์เป็นการเรียกให้ครอบคลุมชาติพันธุ์สิ่งมีชีวิตทั้งหมด ท่านว่าผงยาเหล่านี้แรงสะเทือนอารมณ์กันเลยทีเดียว ตลอดจนผงวิเศษต่างๆมาผสมกันโดยเน้นใช้เนื้อว่านดอกทองเป็นหลัก

    ลำพังว่านดอกทองนี้ก็แรงพอดูแล้วท่านว่า ตั้งแต่สมัยโบราณเชื่อกันว่า ถ้าใครได้สัมผัส ได้กลิ่นหอมของว่านชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย จะทำให้ผู้ใช้มีเสน่ห์ น่ารัก น่าคบหามากขึ้นคืออันนี้พูดแบบอ่อนที่สุดแล้วนะเอาว่าเขาอยากจะเข้าหาเราแล้วกัน ความจริงมันรุนแรงกว่านั้นเยอะถึงขั้นเลยเถิดไปไกลทีเดียว เอาแค่อย่างอ่อนๆเพราะท่านว่าไม่สามารถพูดได้เต็มที่ เอาว่าใครเห็นจะรักจะชอบ หากใช้กับคนรัก ไปไหนแล้วจะต้องกลับมาเชยชม กินอยู่หลับนอนอยู่ด้วย ดังนั้นครูบาอาจารย์แต่โบราณจึงนิยมนำมาทำมวลสารพระในตระกูลขุนแผนอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ขุนแผนหลวงปู่ทิมก็ตาม เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และว่านนี้ก็ยังมีหลายตัวหลายตระกูล มีความแรงแตกต่างกันไป พ่ออาจารย์นำว่านดอกทองที่ท่านปลูกและกู้เองทุกตระกูล ซึ่งเป็นว่านที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์ของเพชรพญาธรซึ่งมีอานุภาพมากกว่าว่านดอกทองปกติมาพลีหั่นบดลงเป็นผงเพื่อสร้างพระครั้งนี้

    นอกจากนี้ องค์อีสีอรชุนสามตัณหา นอกจากจะฝังยาภารตะสั่งเสน่ห์แล้วยังฝังสิ่งมงคลสักการะอีกสองชนิดคือ

    - กาลปักษา พญานกแห่งกาลเวลา ผู้อยู่เหนือกาล อยู่เหนือธรรมชาติ สัญลักษณ์แห่งผู้บำเพ็ญพรตอันหมายใจจะช่วยเหลือมนุษย์ให้ได้พบสุขสมหวังในกิจที่ตนต้องการ พ่ออาจารย์ท่านว่ากาลปักษาเป็นบรมครูที่สำคัญนักและยุคนี้ท่านยังมีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์โดยตรง มีหลายสำนักที่บูชาท่านไปเข้าใจว่าเป็นครูกายแก้วบ้าง เป็นนกออกบ้าง เป็นอะไรก็ตามที่ดูหน้าเกลียดน่ากลัวอยู่ไม่น้อยทีเดียวตามจินตนาการของเค้าผิดกับรูปกายที่แท้จริงของท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่ากาลปักษานั้นคือผู้ที่อยู่เหนือกฏของกาลเวลา เป็นพลังอำนาจที่วิเศษโดยแท้จริง เพราะสามารถยุ่งเกี่ยวและแก้ไขสิ่งที่อยู่ในอำนาจของตนเองได้ นั่นคือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่ว่าจะของใครก็ตามที ใครที่บูชากาลปักษานั้น พ่ออาจารย์ว่าแม้จะมีอนาคตที่มืดมัว ย่ำแย่อับเฉาไร้สิ้นหนทางเพียงใดก็ตาม เค้าย่อมแก้ไขเปลี่ยนแลงให้เรายิ่งกว่าพลิกลับพื้นพระธรณี กาลปักษานี้นอกจากจะเข้าไปยุ่งเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ทั้งสามกาลแล้ว ยังมีเสียงที่วิเศษอีกด้วย นั่นคือจะร้องออกมาอย่างใดก็จะเป็นอย่างนั้น จะพลิกคว่ำพื้นปฐพีทำลายนภากาศก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยเพียงแค่ร้องออกมา พ่ออาจารย์ท่านใช้รากรักแดงในแผ่นดินปราสาทขอมอาถรรพ์มาแกะเป็นกาลปักษาขึ้นในรูปกึ่งคนกึ่งนกมีปีกยาวสยายคล้ายดั่งองค์พญาครุฑที่สำคัญท่านทำให้อยู่ในลักษณาการที่กาลปักษากำลังแหงนคอกู่ร้องอยู่ตลอดเวลาด้วย ท่านว่าเสียงของเขามีฤทธิ์ขนาดทำให้จักรวาลสั่นสะเทือนได้นับประสาอะไรกับแค่ร้องให้รวย ให้สำเร็จ อยากสำเร็จสิ่งใดก็อธิษฐานได้เลยเพราะนี่คือกาลปักษากู่ร้องรับสิ่งที่เราคาดหวังตลอดเวลา หรือก่อนทำอะไรก็ตามเมื่อมีนิมิตได้ยินเสียงนกร้องแล้วจงรีบไปทำเถิด วันนั้นย่อมเป็นวันดีทั้งวันอย่างแท้จริง ที่ท่านแกะกาลปักษาให้อยู่ในรูปแบบครุฑนี้นอกจากเขามีลักษณะคล้ายกันแล้วอีกสาเหตุหนึ่งคือเพื่อแฝงอำนาจบารมีองค์ครุฑเข้าไปอีกคำรบหนึ่งด้วย ให้คนใช้เจริญที่สุด ดีที่สุด อยู่สูงที่สุดไม่ร่วงไม่หล่นลงมาด้วยพลังแฝงขององค์ครุฑนี้

    - ตะกรุดมหาเถรตบะแตก พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาอันได้ชื่อว่าเป็นยอดแห่งเสน่ห์ที่แรงที่สุดถึงสี่ชนิดลงไป นั่นคือนางอกแตกแหกอกนาง ยันต์ปาราชิก พระฤาษีตบะแตก พระเจ้าเรียกนางภิกขุนี ท่านว่าสี่ตัวนี้แต่ละตัวล้วนเป็นยอดเสน่ห์ในขั้นที่ว่ารุนแรงทั้งนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเลยเมื่อนำมารวมกันทั้งสี่ชนิด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้อย่าให้พระจับเลย แม้พระก็ทำวิชาเหล่านี้ไม่ได้มันผิดครู ยันต์บางตัวชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแค่พระทำหรือพระจับก็จะวิบัติในสมณะเพศถึงขั้นปาราชิก เนื่องจากวัวเขาอ่อน หรือสตรีเพศจะเข้าหาถึงที่ทำให้ต้องสึกหาออกไป เป็นที่สุดของตะกรุดในสายวิชาทางเสน่ห์อย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้ดีแล้ว อยู่ที่ตัวคนใช้ ของทุกสิ่งลงให้ครบหมดแล้ว จะไปเอาดีทางโลก จะใช้อย่างไรก็พิจารณากันเอง

    คาถาบูชา(ให้ระลึกถึงความปรารถนาที่ต้องการให้สำเร็จบอกกล่าวพ่อปู่อรชุนและกาลปักษา ไม่ใช่รูปพระไม่ต้องขึ้นนะโม)
    โอมกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ตัณหาตันหิ ตันหิตัณหา นะโสหังตัง สะสิสุสะอาวะสะหะ สะสิมังสิอะวิสิเม 3 จบ

    เครื่องมงคลนี้พ่ออาจารย์ว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือสิ่งที่พระเครื่องหรือพุทธวิสัยจะทำได้ เป็นของที่มีแรงครูสูง เนื่องจากเป็นของเฉพาะกาลที่ท่านตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อไว้ใช้ผนึกยาภารตะสั่งเสน่ห์อันสำคัญของท่านอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้เพียง 8 องค์เท่านั้น ท่านว่าคนที่มีวาสนา มีลิขิตให้สัมพันธ์กับกาลปักษานั้นย่อมมี ที่ผ่านมาชื่อของท่านหรือกาลปักษานั้นไม่เป็นที่ปรากฏนักเนื่องจากเพราะหาคนรู้จักท่านไม่ได้และเข้าไม่ถึง ครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยิ่งกว่าเปิดบันทึกตำนาน เพราะเรื่องราวของท่านจะเป็นที่โจษขานกันมากขึ้นในวงกว้างต่อไปอย่างแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2020
  9. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    น้ำมันคุณธรรมฟ้าชำระไอมารเปิดวาสนาพระลักษมีกมลา(ยายพิณเรียกรักกวักทรัพย์)
    ปิดรายการนี้ครับ
    90327680_499194240987586_2772690647025451008_n.jpg
    น้ำมันยายพิณ
    - ว่าด้วยวิชา..เรียกคน,เรียกรัก,เรียกทรัพย์
    เกี่ยวกับน้ำมันนี้หาใช่น้ำมันพรายแต่อย่างใด หากแต่ในทางกลับกันถือเป็นน้ำมันเปิดโลกชั้นเอกที่หาคนทำได้ยาก ด้วยผู้ที่เคยทำไว้นั้นเป็นถึงอดีตหมอหลวงซึ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาเพราะว่าตั้งแต่สูงสุดจนถึงต่ำสุดขอให้เป็นมนุษย์ท่านย่อมยื้อชีวิตช่วยเหลือได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เราเรียกว่าน้ำมันยายพิณนั้นก็เพราะตั้งชื่อเรียกน้ำมันตามชื่อเจ้าของรุ่นสุดท้านยว่ายายพิณ ซึ่งยายท่านเป็นทายาทในรุ่นลูกที่รับมอบน้ำมันต่อมา และท่านก็มีบารมีมาก เมื่อสิ้นชีพลงก็ยังคอยช่วยเหลือคนอยู่เสมอ ...ยามมีชีวิตนั้นยายพิณมีบิดาเป็นหมอในวังจึงมีทรัพย์สมบัติมากตั้งแต่ของที่คนธรรมดาไม่อาจจะมีได้ไม่ว่าจะสร้อยสังวาลย์หรือเครื่องสูงที่เจ้านายเคยใช้และมอบให้กับพ่อของยายเพราะตระกูลยายเป็นตระกูลหมอมาหลายชั่วอายุคน พ่ออาจารย์ท่านว่ายายพิณนั้นเป็นผู้หญิงตัวขาวอ้วนท้วมสูงใหญ่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดเวลา ท่านเป็นคนชอบแจกชอบช่วยเหลือคน เห็นใครเดือดร้อนหรือรู้ว่าใครเดือดร้อนนี่ไม่ได้เลย ใครมาบอกมาพูดก็เอาเงินให้เขาไปทั่ว พวกลูกจีนคนไหนล่องเรือมาตั้งตัวขาดที่ทางไม่มีที่ดินทำกินใครขอที่ดิท่านก็ยกให้เขาไปฟรีๆเพราะบิดาของท่านนั้นมีที่ดินอยู่มาก แม้แต่ใครขอสายสะพายทองคำ สร้อยสังวาล เข็มขัดทองเข็มขัดนาคจะเอาไปเล่นพนันหรือใช้หนี้พนันท่านก็ยกให้เขาไม่มีหวงเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนี่นะพวกคนในชุมชนตั้งแต่นายอำเภอหรือปลัดพวกข้าราชการศาลต่างๆจะมารวมตัวกันที่บ้านยายพิณกันประจำเพราะยายจะเลี้ยงอาหารคนเหล่านี้เสมอทั้งทำแกง ทำขนม ว่ากันว่าท่านเลี้ยงคนไว้มื้อๆหนึ่งต้องล้มวัวล้มควายทำอาหารกันหลายตัว ใจท่านกว้างยิ่งกว่ามหาสมุทรท่านช่วยเหลือคนแบบใครขอก็ให้ทั้งยังหมั่นทำทานการกุศลมิได้ขาดซักวันซึ่งนิสัยเช่นนี้ยากที่จะพบเจอได้ในคนสมัยนั้น เมื่อสิ้นชีพลงคนที่นับถือยายก็ยังเจอยายพิณอยู่ หลายคนที่รู้จักยายเขาว่ายังเห็นยายเดินแจกเงินในตลาดไปทั่ว บางคนยายมาบอกหวยตีไม่ถูกซื้อไม่เป็นงวดต่อไปยายก็มาบอกใหม่ตีหวยก็ถูกทุกคราว ท่านสงเคราะห์คนไม่หยุดด้วยมีบุญมีบารมีอันเกิดจากบุพกรรมได้ทำมาดีแล้วเมื่อสิ้นลงเป็นเทพก็ยังคอยช่วยเหลือคนที่ระลึกถึงท่านอยู่เสมอ
    ....น้ำมันเปิดโลกเรียกรักกวักทรัพย์นี้ เป็นน้ำมันโบราณที่ต้องเคี่ยวทำด้วยวิชาจนใสดั่งตาตั๊กแตนจึงจะสำเร็จ ยายพิณท่านได้มอบไว้ให้กับพ่ออาจารย์ตามที่ท่านขอเพราะท่านรู้ว่าบ้านนี้มีวิชาน้ำมันดีด้วยถูกสร้างขึ้นจากผู้รู้อาคมและสรรพยาซึ่งมีวาสนาบารมีมากระดับหมอในวัง พ่ออาจารย์ท่านว่าสูตรการสร้างนั้นย่อมสิ้นไปกับไฟไม่มีใครรู้จึงทำไม่ได้อีกแต่อาศัยบารมีของผู้สร้างที่เป็นหมอชั้นสูงแถมยังเชี่ยวชาญอาคมมีอำนาจจิตลึกล้ำ น้ำมันนี้ท่านจึงอธิษฐานไปทางต่อชีวิต ยื้อช่วงเวลาและวาสนา เปิดหนทางให้กับผู้ใช้ เมื่อยายท่านนำมามอบให้พ่ออาจารย์จึงเรียกน้ำมันชุดนี้ว่าน้ำมันยายพิณเพราะเมื่อสิ้นยายลงไปแล้ว คุณยายก็ยังมาหาพ่ออาจารย์ท่านอยู่เนืองๆด้วยท่านประสงค์จะสร้างบารมีตามวิสัยของท่าน เมื่อใดที่พ่ออาจารย์ลองเอาน้ำมันให้คนบูชา ยายก็มักจะไปช่วยเขา ไปแจกโชค แจกวาสนาให้เขาตามนิสัยของยาย พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าน้ำมันชุดนี้ดีมากเพราะเป็นน้ำมันเปิดโลก อยากได้อะไรก็เรียกได้ทุกอย่างคนที่มีน้ำมันมีหน้าที่แค่อธิษฐานหรือพกไว้แล้วบอกเอา เมื่อบอกแล้วต้องได้เอา ตั้งแต่คนตั้งใจทำมาหากินจนถึงคนไร้แก่นสาร ขาดหลักฐานไม่มีที่ซุกหัวนอน หรืออยากใช้เส้นสายบารมีของยายให้เจริญในอาชีพ ในราชการ คนที่ขาดความรัก ชีวิตขาดที่พึ่ง ขาดคนช่วยเหลืออุปถัมภ์ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนไม่รู้จะพึ่งใคร ท่านว่าต่อไปก็ให้เอ่ยชื่อยายนึกถึงยาย อยากขอ อยากได้ อยากเรียกอะไร ยายล้วนนำมาให้ได้ทั้งสิ้น ให้คิดเสมอว่ารักท่านเสมือนด้วยญาติผู้ใหญ่ของเราคนหนึ่งเท่านั้นเอง

    นอกจากเร่งลาภแล้ว ทำไมจึงเรียกน้ำมันยายพิณว่าน้ำมัน...เรียก พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นก็เพราะน้ำมันนี้ใช้เรียกได้ทุกอย่างอุปมาเหมือนตัวเราแม้อืดอาดเชื่องช้านอนอยู่เฉยๆก็ยังมีเหยื่อที่ใหญ่กว่าไวกว่ามาติดกับเข้าปากเรา พูดง่ายๆคือเรียกมาหาได้ ได้โดยไม่ต้องออกแรง เพียงแค่นอนคอยอยู่เฉยๆปรารถนาสิ่งใดมันก็จะเข้ามาหาเราเอง ถ้าแรงปรารถนาของเรานั้นแรงมากพอ แม้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งใช้แรงปรารถนาเยอะ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วว่าเรามีความปรารถนาจากใจจริงในเรื่องนั้นๆแค่ไหน ส่วนเรื่องหากินนั้นท่านว่าน้ำมันนี้ให้อาราธนาไปเถอะรับรองว่าหากินเก่ง ไม่ต้องออกแรงมาก ก็ได้กินแล้ว จะได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงมือทำงาน ไม่ต้องลงทุนในกิจการใดกิจการหนึ่ง หรือลงมือทำงานหรือลงทุนแต่เพียงเล็กน้อยก็มีส่วนได้หรือมีรายได้ในกิจการนั้นๆ มีอานุภาพดีเด่นทางด้านโชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกคู่..สารพัดจะเรียก เป็นเมตตา แคล้วคลาด เตือนภัย ถ้าบูชาเข้าบ้านจะทำให้มีโชคลาภ มีเงินทอง มีข้าวของและสิ่งที่เราปรารถนปรารถนาสิ่งใดหากไม่เหลือแก่วิสัยแห่งบุญกุศลที่ได้สร้างเอาไว้แล้วไซร้จะต้องเป็นผลสำเร็จดังใจหวังอย่างแน่นอน หากใครเอาไปใช้เรื่องชู้สาวเมื่อได้แล้วก็สับรางกันเอาเองแต่ท่านว่าเราไม่แนะนำ เอาแค่ให้อธิษฐานขอคู่ครองที่เป็นคู่แท้นั่นก็เกินพอแล้ว

    ท่านปรารถนาให้ยายพิณช่วยหนุนเรื่องโชคลาภค้ำวาสนา เพราะคนส่วนใหญ่ชอบเล่นหวยหวังรวยทางลัดไม่ยอมเดินกันทางตรง แม้กิจการ หน้าที่ การงานก็ตามหากมีทางลัดให้เดินได้ย่อมจะเดินไปทันที ทั้งยังมีนิสัยชอบเสี่ยงโชคอะไรที่เสี่ยงก็ยังทำสร้างความเจ็บช้ำให้กับตนเอง ท่านว่ายกตัวอย่างง่ายๆคนเล่นหวยนี่มักจะเจอบ่อยคือออกเฉียดๆ ซื้อบนออกล่าง ซื้อล่างออกบน ตัวเลขเคลื่อนไปหน้าไปหลังเฉียดไปเฉียดมา พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เสกวิชาสำคัญกำกับน้ำมันไว้อีกชุดหนึ่งสำหรับคนที่ชีวิตชอบเสี่ยงโชคทั้งหลาย หรือคนที่ทำงานมีความเสี่ยง มีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงให้พอกพูนหรือล่มจมได้ตลอดเวลาเช่นกัน ท่านจึงนำน้ำมันยายพิณนั้นเดินธาตุปลุกวิชาเปิดวาสนาให้สถิตย์ในน้ำมัน ท่านว่าน้ำมันนี้แค่พกก็เสมอด้วยเรามีวาสนาคอยค้ำช่วยเหลือเรา ท่านบอกว่าวิชานี้สำคัญนักเพราะใช้เปลี่ยนวาสนาคนกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งแต่ขรัวตาทำให้สีกาบูชาในเวลาต่อมาได้เป็นแม่นมเจ้าฟ้าซึ่งต่อมาได้เป็นกษัตริย์คือเปลี่ยนชาวบ้านธรรมดาให้มีวาสนาได้เป็นแม่นมเทียบเท่าแม่ของกษัตริย์ ทำให้หญิงชาวบ้านได้เป็นเมียท่านพระนาย ทำให้ไพร่ได้เป็นสนมขุนหลวง ทำให้หัวหมื่นได้เป็นพระยา ทำให้ยาจกเป็นพ่อค้าสำเภาได้โชคมีทรัพย์หลายพันตำลึง(เทียบกับค่าเงินสมัยนี้ก็หลายพันล้าน) พ่ออาจารย์ท่านจึงว่านี่เป็นวิชาเปิดโลก เปิดวาสนาอย่างชัดเจน แม้เสกใส่น้ำมันแล้วใครได้ถือไปบูชาชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดี

    นอกจากน้ำมันชุดนี้จะมีสิริมงคลสูงแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังได้นำผงศักดิ์สิทธิ์และวิชาสำคัญของพระแม่ลักษมีบรรจุไว้เสริมอาถรรพ์เป็นกฤติยาคมแฝดพร้อมกันด้วยโดยพระแม่ลักษมีถือว่าเป็นเทพีแห่งความงดงาม ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ ใครที่ทำมาค้าขายหรือประกอบกิจการต่างๆก็สามารถขอพรได้ ท่านเป็นแม่ เป็นเทวีแห่งความงดงาม ความร่ำรวย และความอุดมสมบูรณ์ พระองค์มักประทานแนวทางทำกินทั้งยังจุดประกายความคิดหรือการส่องแสงแห่งภูมิปัญญา ความสำเร็จในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย การประกอบธุรกิจทุกสาขา ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ เงินทอง สมบัติ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ ในคุณสมบัติที่พระนางมีอย่างเปี่ยมล้นคือ ศิริ-ความดีงามและความมั่งคั่งร่ำรวยนั่นเองเป็นกำลังนามธรรมที่สำคัญที่สุดอันจะเปลี่ยนวาสนาวิถีชีวิตและฐานะของมนุษย์ ดั่งที่รู้กันว่าพ่ออาจารย์ท่านมีบุพกรรมร่วมกันกับพระแม่และท่านมักจะทำรูปเคารพพระแม่ให้กับคนที่มีวาสนาจริงๆเท่านั้น แม้จะทำแต่สำหรับผงชุดนี้ท่านก็ยังหวงแหนไว้ท่านเรียกผงนี้ว่าผงดวงตาสวรรค์ของเทวีลักษมี ผงนี้มีคุณมากเมื่อสถิตย์อยู่กับผู้ใด ว่ากันถึงขั้นเมื่อเขาเปิดตาลืมตาขึ้นมาเวลาไหนย่อมได้รับทรัพย์และโชคลาภในเวลานั้นทั้งสิ้น พระแม่จะช่วยชี้นำความสว่าง ดุจเรามีวาสนาเส้นทางโชคลาภโคจรอยู่ในสายตาของพระองค์ เป็นชีวิตที่โดนพระองค์จับจ้องคอยประทานพรกำกับให้เรา ทั้งเพิ่มพูนกำลังสติปัญญาความเฉลียวฉลาดให้ประสบแต่ความสำเร็จในชีวิตทุกๆด้าน มีโชคลาภ ช่วยปรับให้ทุกอย่างทุกเรื่องในชีวิตเราเกิดความสมดุลไม่ว่าจะร่างกาย หน้าที่การงาน หรือชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังถือว่าผงนี้เป็นตัวแทนพระญาณธาตุอากาศของพระแม่ที่จำแลงรูปปรากฏขึ้นมาเป็นสสารอันมีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวแทนของทรัพย์สิน แม้อยู่กับใครจะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวยให้ผู้เป็นเจ้าของ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้จิตวิญญาณ ช่วยกำจัดลางร้าย และยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดรวมทั้งการสูญเสียพลังงานได้อีกด้วย ...ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือใช้ปัดเป่าวังวนของพายุวิบากรรมให้ผ่อนผันลงได้ ใครที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ใครที่เก็บทรัพย์ไม่อยู่มีเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ หาได้เท่าไหร่ก็มีเรื่องต้องจ่ายเกินกว่าที่ได้รับไป ใครที่การเงินย่ำแย่ยุ่งเหยิงเกินเยียวยา ท่านว่าต้องพึ่งบารมีของพระแม่ลักษมีโดยเฉพาะชีวิตถึงจะดีขึ้น หากกำลังประสบวิกฤตปัญหาการเงินหรือมีหนี้สินรุมเร้าอย่างรุนแรง ท้อแท้หมดหนทางแก้ไข ท่านว่าให้พระแม่ท่านสะเดาะเคราะห์ให้เราเสีย ปัญหาการเงินทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างพลิกชีวิต เงินทองที่ไม่เคยมีเก็บมีแต่ชักหน้าไม่ถึงหลังจะเริ่มขังตัวเพิ่มพูนขึ้นในบัญชี ชีวิตจะดีขึ้น มีทางออกให้เห็นหลายด้านดั่งแสงสว่างที่รออยู่ปลายอุโมงค์ ให้พระแม่ท่านพาผ่านพ้นเคราะห์กรรม ใหท่านคุ้มครองเรา เปิดโชควาสนาให้เราตามหน้าที่ของท่าน

    ผงดวงตาสวรรค์ของเทวีลักษมีนี้เป็นผงพลิกดวงชะตา จะเปลี่ยนชีวิต พลิกกรรม เสริมดวงหนุนชะตาราศีให้ไม่มีตกต่ำอับจน ให้ดีได้ สุขได้ พ้นจากกลกรรมหนี้เวรได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ากรรมเก่านั้นแก้ไม่ได้แต่ลดกำลังลงได้ด้วยอำนาจแห่งบุญฤทธิ์และอโหสิกรรมซึ่งเป็นกำลังของพระลักษมีที่จะเปิดทางทรัพย์ให้กับผู้ถือบูชา พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว ดวงชะตาจะยกสูงขึ้น ดีขึ้น ท่านจะพาผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้ายและอุปสรรคต่างๆ ให้หลบเคราะห์หมดภัยพ้นโชคร้ายเปิดดวงรับโชคดีให้มีโชคลาภวาสนา คิดอ่านสิ่งใดจะเจอความสำเร็จสมประสงค์ ทั้งมหาเทวีท่านยังบอกให้พ่ออาจารย์นำสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ชุดพิเศษของท่านสองชุดมาทำวิชาลงไว้เสริมคุณน้ำมันโดยตรงอีกด้วย
    - ตะกรุดคุณธรรมฟ้า ดอกนี้ท่านว่าต้องลงในวันดิวาลีซึ่งพิธีนี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์กำจัดความชั่วร้าย ตะกรุดนี้จึงมีพลังดั่งดวงไฟนับล้านดวงที่ใช้ขับไล่ความมืดมิดออกไป ทั้งยังดึงพลังงานของฟ้าและวิถีดวงดาวมาช่วยชุบอุปถัมภ์ ดุจผืนฟ้ากว้างใหญ่มีคุณธรรมไม่ลำเอียงเลือกเข้าข้างผู้ใดหากคนอื่นมีได้เราก็ต้องมีเช่นกัน ทั้งจุดสำคัญของอำนาจตะกรุดนี้ก็คือการชำระไอลบ ชำระพลังงานในร่างกาย ชำระธาตุให้บริสุทธิ์ พระแม่ท่านกำหนดไว้ให้ทำเป็นตะกรุดแช่ในน้ำมัน เพื่อช่วยให้ผู้บูชาปรับธาตุปรับวาสนาได้ตลอดเวลา และคุณธรรมฟ้านี้เมื่อสถิตย์กับผู้ใดแล้วแม้จะเป็นเทพเจ้ายังนับว่าช่วยเพิ่มพูนตบะและอิทธิฤทธิ์ได้ เมื่อสถิตย์อยู่กับคนนั่นจึงเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เกินคาดเดา พระแม่ท่านว่าปกติวิชานี้จะเอาไว้ลงใส่เทวรูปหรือรูปเคารพให้มีอิทธิฤทธิ์เพื่อที่จะชำระใจคน ชำระสถานที่ให้บริสุทธิ์ ให้คนเหล่านั้นเข้าใกล้พระเป็นเจ้า ดึงเอาไอพลังของสุริยะเทพที่สาดแสงมาปลดปล่อยจิตวิญญาณ หากต้องคำสาปใดๆ หรือแม้แต่โดนสะกด โดนของ โดนการกระทำ ต้องเสนียด ต้องอัปมงคลทั้งหลาย ตะกรุดคุณธรรมฟ้านี้จะคลายพันธนาการที่สะกดไว้ แม้ปราณภูติผีฝ่ายต่ำก็อยู่ไม่ได้จะหนีไปห่างไกลตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการดึงพลังฟ้าให้ทวยเทพสำแดงอิทธิฤทธิ์ เมื่อใส่ในน้ำมันยายพิณและผงดวงตาพระแม่ลักษมีก็จะขับอำนาจพลังงานให้เปิดออกมาเชื่อต่อกับเราโดยตรงชนิดที่ว่ามีคุณเท่าไหร่ก็แสดงออกมาให้หมด
    - แผ่นยันต์มงคลอธิษฐานลักษมีกมลา แผ่นยันต์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพระแม่ให้พันไว้อยู่รอบๆขวด ท่านว่าวิชานี้ทำยากเพราะท่านกำหนดให้ลงจารในวันอุปถัมภ์สามประสานเวลามงคล ทั้งยังต้องนมัสการสิบทิศ จุติเทพทั้งห้า ให้อวยชัย นำมงคล ความราบรื่นโชคลาภ ความปรารถนาดีเป็นมงคลมาสู่ตัวคนอาราธนา นำพาชีวิตเขาไปในทางก่อให้เกิดกุศล ให้ลงจารได้เฉพาะในภูเขา ซึ่งจะเป็นยอดเขาธรรมดาก็ไม่ได้หากแต่ต้องเป็นเขาที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์หนาแน่นดุจเขาพระสุเมรุที่เป็นเสาค้ำสวรรค์เช่นนั้น เพราะยันต์มงคลอธิษฐานนี้เมื่อนำมาพันรอบขวดน้ำมันแล้วเจ้าของได้อาราธนาก็จะค้ำชีวิตคนจากต่ำให้สูง ทั้งยังส่งเสริมให้การงานก้าวหน้า ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรท่านว่าต้องก้าวหน้าทุกอย่างไม่มีถอยหลังลงคลอง ทั้งยังใช้เป็นสื่อมงคลในการส่งพลังคำอธิษฐานของเราไปถึงเทพเจ้าได้และเทพเหล่านั้นต้องรับฟัง พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติวิชานี้จะลงไว้ในเทวรูปที่สำคัญจริงๆเพื่อให้มหาชนสักการะทำการอธิษฐานบูชา แต่นี่พระแม่ท่านเห็นว่าได้นำผงสำคัญอันเป็นสื่อถึงองค์ท่านมาสถิตย์ลงในน้ำมันแล้ว ท่านจึงให้ลงวิชาของท่านกำกับไว้ด้วยเพื่อที่เราจะได้กำขวดน้ำมันนี้แล้วอธิษฐานส่งใจไปถึงท่านได้ หรือแม้แต่จะเขียนคำอธิษฐานวางไว้แล้วนำขวดน้ำมันวางทับก็ได้จะเป็นมหามงคลชัย พ่ออาจารย์ท่านกำชับว่าอยากได้อะไร อยากขออะไรให้กำขวดน้ำมันที่มียันต์อธิษฐานนี้พูดคุยบอกกล่าวกับพระแม่ท่านตอนเที่ยงคืน ท่านว่าเวลานี้ดีขออะไรก็สำเร็จ(แต่ในส่วนของน้ำมันยายพิณนั้นขอได้ตลอดเวลา) ส่งเสริมให้การงานก้าวหน้า

    น้ำมันนี้เมื่อขอพรเสร็จแล้วท่านว่าเพียงอธิษฐานครั้งเดียวก็เสมือนให้พระแม่ลักษมีได้เห็นเราทั้งตัวทะลุปรุโปร่ง ท่านจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ได้ออกไปจากตัวเราให้หมดทั้งดึงดูดโชคลาภให้เข้ามา ใช้ทางขอโชคลาภ ขอพรความรักได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสายเทพนี่จะไวกว่าพระและมีเรื่องติดขัดน้อยกว่า เช่นนั้นท่านจึงเสริมด้วยน้ำมันยายพิณอีกชั้นหนึ่งเพื่อกันไว้ในเรื่องที่แม้แต่เทพชั้นสูงยังช่วยไม่ได้ก็จะได้บอกกล่าวยายพิณให้ท่านเมตตาช่วยเหลือเราอีกแรง ในส่วนของคนที่บูชาพระแม่ลักษมี พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากบนหรือถวายของสิ่งใดเราบอกแค่ว่าท่านโปรดดอกบัว ถ้าได้สีชมพูก็จะดี จะขอเรื่องใดและท่านควบคุมนามธรรมอย่างไรอันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึงเพราะชนทั้งโลกย่อมรู้กันดีอยู่ว่าพระนางนั้นให้คุณมากและเปลี่ยนฐานะคนมามากต่อมากแล้ว

    คาถาบูชา
    โอม ชยะศรี ลักษมี กมลา (นึกถึงพระแม่อธิษฐานขอยามเที่ยงคืน)
    - หากจะอธิษฐานถึงยายพิณให้บอกกล่าวออกนามท่าน ว่ายายพิณจ๋า ช่วยหลานทีเถิดนะจ๊ะ..(อยากขออะไรท่านก็ว่าไป)

    *** น้ำมันชุดนี้เป็นน้ำมันโบราณ ท่านว่าเราจะแบ่งให้แค่ครั้งเดียวเพราะแบ่งไปให้หมดแล้วด้วยน้ำมันมีน้อย หมดชุดนี้ก็ไม่ต้องมาขออีก ใครได้ไปก็ให้บูชาไว้กับตัวหรือจะวางไว้บูชาในเคหะสถานบ้านเรือนก็ได้ และท่านยังกำชับว่านี่ไม่ใช่น้ำมันผี ไม่ใช่น้ำมันพรายอะไร ไม่มีโทษ ไม่ต้องการเครื่องเซ่น มีแค่คุณของเทวดา คุณของคาถา อักขระ วิชา และว่านยาเป็นที่สุด หากใช้แล้วเมื่อได้ผลจะรู้คุณครูบาอาจารย์ก็ให้ทำบุญอุทิศไปถวายให้กับท่านออกนามพระแม่ออกนามยายพิณเช่นนี้ ความรัก ความเจริญก็จะบังเกิดมีแก่เราอยู่ตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2021
  10. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ซุ้มกอยอยศพระเจ้าก่อเกิด,ผงจตุภาคี,พญาอินทร์ล้านช่อง(ภูติกินฝัน)
    ปิดรายการนี้ครับ
    89920579_2580766822170333_2541179793668308992_n.jpg
    90225899_773637769708696_8730085512376745984_n.jpg
    พญาอินทร์ล้านช่อง ใช้ได้ล้านเรื่อง เป็นเครื่องมงคลที่ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านสรรเสริญนัก แต่ก็สร้างให้สำเร็จได้ยากด้วยว่าต้องตามหาไม้สักที่ชื่อพ้องกับพระอินทร์คือท้าวสักกะที่มีลักษณะตรงตามตำรา อันอุบัติขึ้นในเขตแดนของผู้มีชาติตระกูลสูง และทุกอย่างต้องทำให้สำเร็จภายในวันเดียว ......จำเนียรกาลผ่านไปพ่ออาจารย์ท่านก็ได้พบต้นสักนี้ซึ่งมีลักษณะยืนต้นตายพราย สัณฐานภายในนั้นกลวงโล่งโปร่งตลอดอันเป็นลักษณะของไม้โปร่งฟ้า แลต้องอสนีบาตซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนยอดไหม้แต่ก็หาได้ทำอันตรายอันใดให้เกิดกับไม้นี้ได้เลย.....รวมไปถึงพรรณคุณต่างๆต้องกับตำรา พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาตามตำราทั้งบริเวณที่ขึ้น ตลอดจนต้นไม้โดยรอบที่ฟ้าผ่าไฟไหม้ราบไปหมด จึงได้ทราบจากเจ้าของที่ดินว่าคนที่มาตัดล้วนแต่มีอันเป็นไปทั้งสิ้น ท่านจึงพลีกรรมบวงสรวงบูชาเทพารักษ์ ทั้งยังบอกกล่าวปู่พระอินทร์ เพื่อขอไม้สำคัญนี้มาสร้างมงคลวัตถุ

    ….โดยพ่ออาจารย์ท่านเน้นสร้างให้ตรงตามตำราทุกอย่าง ท่านว่าถือเอาฤกษ์ปีใหม่ไทยซึ่งเป็นพิธีเถลิงศกใหม่ของคนไทย จะได้เป็นเคล็ดเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ จัดพิธีพลีกรรม ตัดไม้ รวมถึงแกะสลัก ทุกอย่างต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียวเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตรงหัว อยู่ในจุดสูงที่สุด รุ่งเรืองและร้อนแรงที่สุด พ้นไปจากนั้นถือว่าใช้ไม่ได้ ดังนั้นองค์พระจึงแกะได้อย่างศิลป์ทั่วไป ขาดความสวยงามและประณีตอยู่บ้างตามกำหนดเวลาที่มีเพียงเล็กน้อยเพราะถือเคล็ดพระเจ้าทันใจ ทำอะไรใช้อะไรจะได้สำเร็จทันใจไม่ทันข้ามวัน

    อันพญาอินทร์ล้านช่องนี้ท่านได้จำหลักเป็นรูปต้นปาริชาตหรือกัลปพฤกษ์อันเป็นต้นไม้วิเศษ ด้วยเป็นสมบัติสำคัญของพระอินทร์และดาวดึงส์เทวะโลก ที่สามารถบันดาลได้ทุกสิ่งบรรดามีทั้งนั้นตามความฝันและความปรารถนาคาดหวังของผู้มีบุญได้พบเจอ ทั้งยังฟื้นความทรงจำย้อนภูมิหลังทุกภพชาติในอดีตกาลให้ปรากฏขึ้นได้ ซึ่งต้นไม้วิเศษนี้ล้วนเป็นที่ปรารถนาของมวลอสูรกายที่จะนำไปปลูกในอสูรพิภพด้วยเชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงภพภูมิให้สวยงามและมีความเป็นทิพย์เสมอด้วยดาวดึงส์สวรรค์ เพื่อการครอบครองนั้นย่อมก่อให้เกิดมหาสงครามนับครั้งไม่ถ้วน พ่ออาจารย์ท่านได้จำหลักต้นปาริชาติโดยมีพญาอินทร์หรือท้าวสักกะประทับอยู่บนแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ถัดไปมีแม่ย่าสุชาดาประทับถวายงานด้านล่าง ท่านว่าพญาอินทร์ล้านช่องนี้แม้ผู้ใช้มีศรัทธาอาราธนาเดือดร้อนเมื่อใด หรือจะประสงค์อยากบอกกล่าวขอความช่วยเหลือพระอินทร์ผู้เป็นเจ้าสวรรค์คราใดแท่นนี้ก็จะร้อนดุจเพลิงกาฬผลาญเผา ใครเดือดร้อนไม่ต้องรอบุญทำกรรมแต่งพระอินทร์รู้ท่านต้องรีบช่วยก่อนเพื่อคลายความร้อนจากแท่นบัณฑุกัมพลเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าอันพญาอินทร์ล้านช่องนั้น ก็ใช้ได้ล้านเรื่อง *เรื่องสารพัดบรรดามีทั้งหลายนับล้าน ล้าน ถ้วนทุกประการทั้งแสนจิตล้านใจบนบอกขอพรได้ไร้ข้อห้าม มีมนต์ปลุกเป็นการทำวิชาเช่นของเฉพาะกาลภายในท่านเป่าอักขระมนต์คาถานับหมื่นแสน เชิญพระเวทย์และพระธรรมตลอดจนเชิญเจ้าปู่ แม่ย่าให้นำสมบัติสวรรค์มาเป็นหลักชัยแก่ผู้บูชา ท่านว่าเจ้าปู่แม่ย่าได้ปกาศิตบอกไว้ชัดแจ้ง ว่าคุณแห่งปาริชาตสวรรค์ปรากฏขึ้นแล้วแก่ตาโลก ผู้ใดได้ไว้ เสมือนมีบุญพบต้นปาริชาตนั้นทีเดียว บอกได้เท่านี้ ก็แม้แต่เทวดาผู้มีเดชอันใหญ่ มีกำลังมาก สามารถเนรมิตสิ่งต่างๆบรรดามีได้ดังใจนึกยังต้องการปาริชาตสวรรค์ นั่นก็เพราะเทวดานั้นจะเนรมิตสิ่งใดก็ได้เพียงตามกำลังบุญวาสนาของตนนั้น หาได้เสมอด้วยปาริชาตสวรรค์ที่มีกำลังมากเกินบุญของเทพยุดาถ้วนทุกตัวตน....

    เมื่อท่านสร้างพญาอินทร์ล้านช่องสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านก็นำมาฝังไว้ด้านหลังซุ้มกอยอยศพระเจ้าก่อเกิดทันที ด้วยว่าการทำครั้งนี้ต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าอย่างยาวนาน เริ่มจากนำแผ่นยันต์ที่จารมนต์พระเจ้าก่อเกิดพร้อมด้วยกายสิทธิ์ธาตุต่างๆ มาปลุกเสกด้วยวิชาพระเจ้าก่อเกิดสรรพสิ่ง ก่อนจะเทเป็นพระซุ้มกอที่ท่านแกะพิมพ์องค์พระแก้วปลุกเสกรอไว้ ท่านว่าที่ท่านเลือกพระซุ้มกอนี้เพราะเป็นพระที่ฤาษีสร้าง สำเร็จด้วยเทพพรหมร่วมใจกันจึงมีฤทธิ์ถึงขนาดว่ามีกูไว้ไม่อับจน แม้กาลภายหลังผู้ใดจะพึงสร้างก็ไม่ปรากฏอิทธิคุณเสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านมนต์ปลุกเสกพร้อมเชิญเทพพรหมให้หาสรรพยากายสิทธ์ต่างๆมาร่วมหล่อร่วมเทไปพร้อมกัน ท่านเสกเก็บไว้ด้วยมนต์พระเจ้าก่อเกิดจนมั่นใจ ท่านว่าซุ้มกอที่เราทำนี้ก็เพื่อให้ใช้กันแทนของเก่า คนที่ใช้จะรู้ว่าคำว่ามีกูไว้ไม่อับจนเป็นอย่างไร ซ้ำพระสำคัญนี้ยังสำเร็จด้วยมนต์พระเจ้าก่อเกิด เป็นมหากำเนิด เป็นกำลังแห่งการให้กำเนิด พลังแห่งการเริ่มต้น ความสำเร็จ ซ้ำยังขับเคลื่อนศักยภาพพลังงานชีวิตอย่างแท้จริง

    ทั้งนี้ท่านได้นำผงสำเร็จ อันหมายถึงผงที่ท่านทำและอัญเชิญมาไว้เพื่อรอการผสม อันจะได้อุดและฝังหลังพระซุ้มกอนี้มาเนิ่นนานแล้ว ซึ่งผงวิเศษทั้งสี่ชนิดนั้นประกอบไปด้วย

    - ผงงอกเงยเศรษฐีจับช้าง ผงวิเศษนี้เป็นผงตระกูลเศรษฐีที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมเอง โดยเมื่อจะทำต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญของครูช้างครูปะกำนำมาประกอบพิธี ทั้งหนังช้าง งาช้าง งวงช้าง หูช้าง... หางช้าง โดยแต่ละส่วนนั้นล้วนมีคุณอยู่ในตัวของมันเอง ท่านนำมาทำวิชาก่อนที่จะเผาตำเอาผงลงวิชาเศรษฐีจับช้าง ท่านว่าวิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงชื่อแปลกๆ ผงวิชาเศรษฐีจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มากกำลัง มากบารมี ผงเศรษฐีจับช้างนี้ก็อาศัยกำลังของช้างสำคัญให้เป็นเศรษฐีแบบไม่นึกฝัน ท่านว่าคนที่ถูกเมินเฉย ชีวิตจับแต่งานเล็ก คิดการณ์ใหญ่ ทำสิ่งที่ต้องเติบโตและพัฒนาขึ้นไม่เคยประสบความสำเร็จ ตัวนี้ต้องใช้ผงนี้แก้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยทำให้พวกทำธุรกิจลองใช้กันหลายคน ที่บอกว่ามีแต่งานเล็กๆโครงการที่ไม่ค่อยจะได้กำไรกัน รายไหนรายนั้นกลายเป็นได้จับงานใหญ่โตทั้งสิ้น ท่านว่าผงนี้เหมาะสำหรับคนอยากมีพัฒนาการ ต้องการความสำคัญ อยากรับผิดชอบงานใหญ่จะได้รวยและมั่งมีแบบใหญ่โต ซ้ำวิชาเศรษฐีจับช้างนี้ยังสยบการแข่งขัน ปราบปรามคู่แข่ง กำราบปัจจามิตรคิดร้ายให้มีอันเป็นไปได้อีกด้วย

    - ผงสุริยะมณฑลทรงรถ ผงสำคัญนี้ท่านพบในถ้ำที่พม่าเป็นผงสำคัญคู่กับผงจันทร์ทรงกลด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำไว้โดยฤาษียุคโบราณ เราสอบถามดูได้ความว่าเป็นองค์เดียวกันกับที่คิดประดิษฐ์ยันต์สุริยประภา จันทรประภาให้ใช้กันสืบมานั่นทีเดียว อันผงสุริยะมณฑลทรงรถนั้นท่านว่าเป็นของประเสริฐเลิศเสียกว่าทรัพย์สินจินดามณีใดๆในโลก หาค่ามิได้ หาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก ถึงขนาดว่าแม้แก้วมณีโชติ สมบัติบรมจักรพรรดิ หรือสมบัติพระอินทร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะดีด้านหนุนดวง ซ้ำยังทำให้บุคคลทั่วไปผ่อนคลายอารมณ์ไม่มักโกรธถือโทษเรา ทั้งคนเคารพยำเกรง มีอายุยืนโสตสัมผัสแจ่มใสมิหลงเลือน ทั้งระงับโรคาอาการเจ็บไข้โทษภัยร้ายแรงทุกประการ แม้นได้พบอาราธนากล่าวสืบมาว่าย่อมไม่รู้จักที่จะตกทุกข์ได้ยากนั่นทีเดียว มีค่าดุจได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กระทำสักการะให้ดี

    - ผงจันทร์ทรงกลด เป็นผงสำคัญคู่กับสุริยะมณฑล แต่ผงนี้จะเน้นหนักทางโชคลาภถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีจะกินเทวดายังเอาอาหารมาให้ และผิว่าถิ่นที่อาศัยของเรารอบบริเวณมีสินทรัพย์สมบัติใดย่อมได้ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เราทั้งสิ้น หรือแม้นจะปรารถนาแก้วแหวนเงินทองหรือวัตถุอะไรก็ตาม ให้จัดเครื่องบูชาแก่ผงนี้ดุจบูชาพระสัมมาสมพุทธเจ้า ท่านว่าบำเพ็ญไปเถิดปรารถนาอันใดต้องได้ดั่งใจทุกประการท่านว่าผงนี้สำคัญมากแม้นคนหนียังได้กลับคืน คนรักเอาใจออกห่างยังกลับมาสนใจ เป็นเสน่ห์เมตตาติดกันไม่แยกจาก ดั่งชะตาเปิดรับวาสนาดุจน้ำขึ้นทรัพย์เต็มท้องน้ำ ให้รีบตักรีบโกย ท่านว่าอุปมาไว้แก่ผู้ที่ได้ผงนี้ไปบูชาดุจชีวิตน้ำขึ้นอยู่เช่นนี้เรื่อยไปไม่ลดลงเสื่อมถอยเลย ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นผงสำเร็จของฤาษีแต่โบราณ หากจะทำพระซุ้มกอให้แรงและมีฤทธิ์เสมอหรือเกินกว่านั้นสิ่งอื่นย่อมมิอาจแทนกันได้ ผงนี้จึงเหมาะแก่การสร้างพระซุ้มกอที่สุด พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ผงสองชนิดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพระผสมมวลสารนั่นเอง

    - ผงฤาษีสัมฤทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีท่านยื่นใส่มือมาให้ บอกแค่ว่าชื่อผงฤาษีสัมฤทธิ์ ให้เก็บไว้รอคนมีบุญเอาไปใช้ ท่านว่าท่านไม่ได้ถามอะไรมากเพราะถือคำพระอริยะเจ้านั้นเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าสัมฤทธิ์แปลว่ามันดีไปหมด เกิดผลทุกอย่าง สัมฤทธิ์ผลไปหมดทุกอย่าง และผงนี้เป็นผงแต่โบราณที่สร้างโดยฤาษีเช่นกันท่านจึงเรียกว่าฤาษีสัมฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเก็บมานานจนทำพระซุ้มกอนี้ ก็เพื่อจะให้คนมีบุญแต่กรรมบังทั้งหลายได้เอาไปอาราธนาใช้ดู ให้ชีวิตเขาสัมฤทธิ์ เป็นประสิทธิ์เกิดมรรคเกิดผลตามแนวทางของอาชีพและวิถีชีวิตที่คาดหวัง ท่านจึงนำมาผสมพร้อมผงทั้งหลาย

    ผงทั้งสี่นี้เป็นผงสำเร็จไม่มีสิ่งอื่นใดเจือปน พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าผงจตุภาคี แม้นใครมีก็มีชีวิตในวิถีที่เหนือกว่าผู้อื่นดุจเหยียบย่ำฟ้าดินไม่ตกยากอับจน เป็นของที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ท่านว่าเราไม่ได้กล่าววาจาท้าทายฟ้าดิน แต่ของบางอย่างที่มีค่าถึงขนาดที่สมบัติพระอินทร์ แก้วมณีโชติ หรือสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิยังต่ำชั้นจนไม่กล้าเปรียบ ของเช่นนี้ไม่ใช่ของธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพื่อสร้างพระให้ตรงสายวิชา เฉพาะผงของฤาษีทั้งสามชนิดนี้ ไม่รวมเศรษฐีจับช้างให้เสนอมาช้อนละแสนหรือมากเท่าให้ท่านก็ไม่ให้ใครหรือแม้แต่จะนำออกมา เมื่อท่านสร้างพระซุ้มกอนั้นท่านได้ใช้เคล็ดสำเร็จทันใจนำผงวิเศษจตุภาคีทั้งสี่ล้วนๆมาเข้ากับตัวประสานผสมนวดให้เข้ากัน ก่อนนำมาฝังอุดด้วยพระอินทร์ล้านช่องและตะกรุดสำคัญที่ท่านเรียกว่าลูกอมภูติกินฝัน

    ตะกรุดลูกอม(ภูติกินฝัน)
    ท่านว่าสิ่งนี้ทำไว้ให้เพื่อจะได้ใช้กันตามแต่ใจคิด ตะกรุดลูกอมภูติฝันนั้นคือวิชามหาภูติที่กินความฝันเรา แม้ฝันสิ่งใดก็ย่อมเป็นจริงตามนั้น คิดสิ่งใดก็จะเกิดสิ่งนั้น วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมาก ซ้ำยังมีโทษมหันต์ ให้ใช้ให้ระลึกแต่สิ่งที่ดีเป็นประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้นหากมีความคิดในทางเสื่อมลามกอนาจารให้อาราธนาออกจากคอไปก่อน จะเรียกว่าวิชานี้ทำความฝัน ความตั้งมั่น ตั้งใจของหลายๆคนให้เกิดขึ้นและเป็นจริงก็ได้ ซ้ำยังช่วยเพิ่มลางสังหรณ์โดยภูติฝันมักจะแจ้งเตือนเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆล่วงหน้า ท่านว่าคนใช้มักจะฝันเห็นเหตุที่จะเกิดขึ้นจริงกับตัวเองในอนาคตอันใกล้ นั่นคือเขามาบอกมาเตือนจะได้ระวังและเตรียมรับมือได้ถูกช่องทาง ตะกรุดภูติฝันนี้จึงเป็นวิชาสำคัญมาก ท่านว่าก็มันโกงเขาทั้งหมด ที่ไม่ให้ใส่เวลาความคิดไม่เข้าท่านั้นเพราะจะได้ไม่ติดกรรม ท่านเมตตาฝังไว้ในพระซุ้มกอนี้เพื่อทำวิชาให้สำเร็จสมดั่งใจสารพัดนึก

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระซุ้มกอนี้ไว้ทั้งหมดแปดองค์ จะสังเกตได้ว่าเมื่อท่านสร้างพระพิมพ์ที่เป็นพระพิมพ์สำคัญนั้นคนจะตื่นตัวกันมาก เพราะของสิ่งนั้นย่อมใช้แทนกันได้เสมือนของเก่า กอปรกับถ้าไม่ประจวบเหมาะด้วยกาลและวาระตลอดจนมีมวลสารอันเลิศล้ำตำราจริงๆท่านจะไม่ทำ ซึ่งในวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้เวลาเตรียมการมานานอย่างมาก แต่พอสำเร็จก็หายเหนื่อยทีเดียว

    นั่นเพราะท่านปู่ – ท่านย่า คือองค์พระอินทร์กับแม่ย่าสุชาดา ท่านรับว่าใครที่ได้ไปบูชาอาราธนา ให้หมั่นสวดคาถาที่ท่านประทานให้ไว้อาราธนากำกับองค์พระนั้น ให้สวดอยู่เนืองๆ มีอะไรให้บอกกล่าวแก่ท่านทั้งสองโดยตรง ท่านจะรับเป็นธุระ จะช่วยเหลือบุคคลทั้งหลายนั้นให้เป็นลำดับแรก พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้เป็นความเมตตาของครูบาอาจารย์ ของท่านปู่ – ท่านย่าอย่างถึงที่สุด

    คาถาบูชา
    โอมเชยยะสัมปัตติ มหาเชยยะสัมปัตติ เชยยันติ โอมทุเร ทุเร อะนิอะเทวะระเวนาเถกัปปัณเณ กุลละปุตตัสสะ อินทะเทวินโท กรุณามะยิ อาหะภันเต อินทะกัปปันเน อินทราเทหิ สักกะทิชีวิตา สัพพะทุกขา มุจเจยยะ สวาหะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2021
  11. intrachi

    intrachi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
     
  12. intrachi

    intrachi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    จองครับ
     
  13. intrachi

    intrachi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    จองครับ
     
  14. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    รับทราบการจองครับ
    ธนาคารกรุงเทพ
    เลขบัญชี 5430085364
    ชื่อบัญชี วิชัย ราชพลี
    ขอบคุณมากครับ
     
  15. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    รับทราบการจอง 3 รายการครับ
    1.ตะกรุดต้าน,ลดแรงเสียดทานชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์
    2.ตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆ
    3.มงคลโกญจนาทไอยราวัต(จอมสรวงอินทรามหาจักรพรรดิ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2020
  16. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี (ชุดครูพี่เลี้ยง)
    ให้บูชา 1000 บาท รวมส่งครับ
    91613075_580012365937916_5677084859864973312_n.jpg
    92243824_514846942791573_5129754980944707584_n.jpg
    ตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงนี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ให้ใช้กันโดยเฉพาะซึ่งท่านได้ผูกตะกรุดอาถรรพ์หัวใจครูพี่เลี้ยงกำกับตะโพนไว้ ท่านว่าครูพี่เลี้ยงนั้นเป็นมากกว่าครูทั่วๆไป เพราะนอกจากเป็นครูแล้วยังเป็นพี่เลี้ยงที่ต้องหาเลี้ยงเราด้วย ครูพี่เลี้ยงนั้นจะต้องคอยดูแล ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เราเสมือนว่าเราเป็นดั่งศิษย์ซึ่งเป็นศิษย์พิเศษ เปรียบได้กับพี่น้องร่วมสายโลหิตเช่นนั้น ดังนั้นตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงที่ท่านแยกเสกเก็บไว้จึงมีอาถรรพ์มากเหมาะกับการนำไปห้อยเดี๋ยวๆอาราธนาอย่างที่สุด

    เพราะครูพี่เลี้ยงนั้นจะมีความผูกพันธ์และสนิทสนมกับเรามาก...ลึกซึ้งเกินคำว่าศิษย์กับครูปกติชนิดออกหน้าแทนกันได้ ท่านจะใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์นับพันนับหมื่นปีที่สร้างสมบารมีมาเพื่อทำให้ชีวิตเราเข้ารูปเข้ารอย คอยผลักดันพลังงานให้เกิดขบวนการทางความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เรียกว่าคอยเกื้อกูลกันอย่างจริงใจ เช่นนั้นจึงเป็นยอดแห่งครูที่จะช่วยศิษย์ทุกสายอย่างแท้จริง เพราะตะโพนของพ่ออาจารย์นั้นท่านลงไว้หลายสายทำได้หลายอย่าง

    พ่ออาจารย์ท่านว่า ครูพี่เลี้ยงของฉันเขาจะมุ่งแค่ผลสำเร็จอย่างเดียวนะ ต้องบอกพวกเธอเอาไว้ก่อน ที่บอกว่าผลสำเร็จนั้นคือผลในชีวิตศิษย์น้อยๆของท่าน ท่านจะคอยเสริมพลังดึงเราเข้าสู่เส้นทางที่สมควร ทั้งเพิ่มพลังจิตพลังใจ ฝึกเราให้เข้มแข็ง ทำให้เราเห็นแนวทางลู่ทางที่ถูกปิดอยู่ ถ้าคนไหนตกอยู่ในปัญหาชีวิตตะเกียกตะกายไม่พ้นท่านก็จะไปแก้ไขให้ เพราะงานท่านคือครูพี่เลี้ยงเป็นครูที่ลงมาคลุกคลีกับเรา เพื่อสร้างคนให้เป็นคนได้อย่างแท้จริง ท่านจะเกื้อกูลเราไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะเข้มแข็ง ใช้ชีวิตยืนอย่างมั่นคงได้โดยที่ไม่มีท่านนั่นแหละ ท่านจึงจะกลับไปชื่นชมความสำเร็จของศิษย์ท่านอยู่เงียบๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องห่วงท่านจะคอยดูอยู่เสมอไม่ไปไหนไกล นี่คืออาถรรพ์ของแรงครูซึ่งท่านเรียกว่าครูพี่เลี้ยงหรือครูฝึก,ครูหัด

    ครูผู้เป็นกัลยาณมิตรโดยแท้จริงซึ่ง...จะต่อหัวต่อตีนเราไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนเปลืองเวลามาเยอะไหว้ครูมาก็มาก แต่ขาดครูสอนครูหัดนี่ทั้งชีวิตก็ทำอะไรไม่ได้ ของบางอย่างนั้นมีแรงครูก็จริง แต่ไม่มีความเอื้ออาทรณ์หรือแรงหนุนของครูพูดง่ายๆคือไม่เข้าถึงใจครู ท่านว่าพูดแบบนี้คงเข้าใจง่ายกว่า เช่นนั้นคำเพียงคำเดียวระหว่างครูกับครูพี่เลี้ยง พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงจะเป็นครูเหมือนกันแต่ความผูกพันธ์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

    ตะโพนชัยชุดนี้เป็นชุดครูพี่เลี้ยงที่ท่านอธิษฐานจิตเชิญครูมาเต็มบารมี ทั้งยังหนุนแรงครูขอเชิญครูให้มาเหยียบหัวช่วยศิษย์ดุจเป็นกัลยาณมิตร เป็นครูพี่เลี้ยงที่ต้องเลี้ยงต้องดูเราไปทั้งชีวิตไม่ทิ้งขว้าง ไม่ใช่ครูที่เสพย์แต่กลิ่นไปธูปควันเทียนรอการกราบไหว้บูชาหรือคำบนบานของใคร ท่านว่าครูพี่เลี้ยงของฉันมีเกียรติมากกว่านั้น ใครจะห้อยตะโพนชุดนี้ไม่ต้องเปลืองวาจาบนใดๆ เพียงแต่บอกกล่าวถึงอาชีพและความเดือดร้อนของชีวิตในปัจจุบันให้ครูทราบเท่านั้นพอ ส่วนหน้าที่ครูพี่เลี้ยงจะขีดเส้นชีวิตเธออย่างไรนั้นไม่นานจะได้เห็นกันเอง

    ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี
    ตะโพนครูใหญ่อินทรเภรี(พระประโคนธรรพ์) คือวิชาทำกลองของพระอินทร์อันเป็นวิชาที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย ด้วยกลองนี้ดังขึ้นเมื่อไหร่แม้เทวดาทั้งหลายยังต้องหยุดนิ่งทิ้งกิจทุกการกระทำเพื่อสดับสำเนียงอินทรเภรีนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่การสร้างกลองไก่กาใดๆทั้งสิ้นหากแต่เป็นกลองที่มีศักดิ์สูงที่สุดในเทวโลกก็ว่าได้ ด้วยกลองอินทรเภรีนั้นต้องเชิญจิตแห่งท้าวเวสสุวัณและท้าวอาฬาวกยักษ์มาช่วยกันแบกแลรักษาอินทรเภรีไว้ เช่นนั้นกลองนี้จึงมีอานุภาพของสองมหายักษ์ที่ใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและภัยพิบัตินาๆออกจากตัวเราได้(ท่านว่าอย่าว่าแต่คนเลยแม้บ้านเมืองก็ยังแก้ไขได้)ชีวิตผู้ใดตกอยู่ในภัยพิบัติหาความก้าวหน้าไม่ได้แค่พกอินทรเภรีไว้ก็แก้อาถรรพ์ได้ทั้งสิ้น

    ซ้ำผู้ใดได้อธิษฐานกับกลองนี้ประดุจได้บอกกล่าวส่งตรงคำพูดถึงพระอินทร์เจ้าสวรรค์เปล่งวาจาดั่งเสียงอสนิบาตได้ยินทั่วฟ้าดิน...เช่นนั้นวิชาสร้างอินทรเภรีนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงหวงแหนอย่างมากเพราะเป็นกลองที่มีแรงครูสูงสุด ท่านอุปมาดั่งว่าคนใช้ยิ่งเจ็บ(รับกรรมมามาก)ยิ่งดี..ยิ่งตียิ่งดัง

    ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาทำตะโพนครูใหญ่เสริมอาถรรพ์สอดรับกันเข้าไปด้วย ตะโพนนี้สำคัญนักเจ็บไข้ได้ทุกข์ต้องร้องบอกกล่าวครูตะโพน และที่ผ่านมาตะโพนท่านต้องพิจารณาคนให้ทุกครั้งใครจะเอาไปเล่นทางชู้สาวท่านไม่ให้เลยเพราะท่านว่าเสน่ห์ร้ายยิ่งกว่าน้ำมันพรายเสียอีก(ส่วนมากคนใช้ตะโพนชุดนี้จะเอาไปเลี่ยมทองห้อยแทนขุนแผน เขาว่ากันว่าต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมถอด)

    ด้วยตะโพนของท่านนั้นมีแรงครูสูงมากจนไม่มีสิ่งใดมาถอดถอนหรือแก้ไขผู้ต้องอาถรรพ์ตะโพนได้ ทั้งยังสำทับว่าตะโพนฉันยิ่งตียิ่งดังอุปมากับชีวิตเราก็เหมือนตะโพนยิ่งมีคนตีคนคิดร้ายมากเท่าไหร่เรายิ่งดังยิ่งได้ยิ่งดีเจริญมากขึ้นไปเรื่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านแกะตะโพนจากไม้มะกรูดที่คั่นกลางเท้าตะโพนใบเก่าที่ผ่านการไหว้ครูใช้เป็นประธานในการบรรเลงเสกเป่าคาถาอาคมมานับร้อยปี ท่านว่ามีอาถรรพ์ในการใช้ป้องกันภัยอันตรายและข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น

    ทั้งยังใช้กำกับชีวิตคนได้(ใครที่ควบคุมชีวิตตนเองไม่ได้ ชีวิตไม่เดินไปตามที่คิดให้ใช้ตะโพนครู)ดั่งตะโพนหน้าทับกำกับเครื่องดนตรีทั้งหลาย ท่านว่าก่อนทำนี่ต้องนำสังข์ไปเทน้ำทิพย์มนต์ล้างหน้าตะโพนเสียก่อนจึงทำพิธีบอกกล่าวแรงครูพลีกรรมมาทำได้

    ทั้งกลองตะโพนตำรับพ่ออาจารย์นั้นยังได้ชื่อว่านำความสำเร็จทุกด้านที่ใจประสงค์ส่งตรงถึงคนใช้ด้วย เพราะตะโพนนั้นเป็นกลองใบแรกที่พระคเณศยกขึ้นตี จึงเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้แทนตัวพระคเณศด้วยเสมอมา รูปตะโพนนี้จึงเป็นดั่งตัวแทนบรมครูหลายสายวิชาของท่านอย่างแท้จริง

    ด้วยครูตะโพนนั้นทรงอาถรรพ์ชั้นครูเป็นที่เคารพยำเกรงอย่างยิ่ง เป็นดั่งราชาของเครื่องดนตรีทั้งทั้งหลายทั้งยังใช้แทนองค์พระประคนธรรพ์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าในบางตำราก็บอกว่าเป็นองค์เดียวกับพรหมฤาษีนารท เช่นนี้จึงยกไว้ว่าเป็นมหาประชาบดีหัวหน้าฤาษีและคนธรรพ์ทั้งปวง

    เพราะรูปตะโพนนี้มีอาถรรพ์ดั่งเป็นรูปของพระประคนธรรพ์นี้เองจึงถือเสมอว่าใช้แทนองค์ท่านได้เลยและต้องยกไว้ในที่สูงเสมอมีพลังที่จะนำมาซึ่งอำนาจลึกลับแห่งชัยชนะ มีอำนาจดั่งราชา มีบารมีเด็ดขาดเหนือผู้ใด ข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น ทั้งยังกันอัปมงคลเสนียดจัญไรผีเข้าเจ้าสิงด้วยแรงครูชั้นสูง ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จปราศจากอุปสรรคเครื่องกีดขวาง ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลคนหลงรักนิยมยินดี ดึงหัวใจคนให้น้อมต่ำโอนอ่อน ขออะไรใครเขาก็ให้โดยดี มีคนหนุนมีคนยกคนส่งเสริมไม่ขาดตอน ทำชื่อเสียงเราให้ระบือไปไกลทั่วเมืองแมนแดนสวรรค์ แม้เทพยดาผู้มเหศักขเทวราชก็หยุดอาถรรพ์แห่งครูตะโพนมิได้

    คาถาบูชา
    ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ทุติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ตะติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ..ขอครูพี่เลี้ยงจงบันดาลดลด้วยสรรพสิทธิ์วิทยา ให้พระครูพี่เลี้ยงจงสถาพรกรรมสิทธิ์แก่ข้าในกาลบัดนี้เทอญ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2020
  17. techapunyo

    techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    พระผงสมพรปาก(แกขอฉันให้)องค์ต้นธาตุต้นธรรม (บรรเทาอุปฆาตกรรมและอกาลมรณะ)
    ให้บูชา 2000 บาท
    90476349_207949233605802_4458583314931908608_n.jpg
    89832050_723153551790473_9170376426799497216_n.jpg
    ในวาระสังคมในปัจจุบันนั้นหลายคนประสบพบเคราะห์กรรมที่เข้ามาริดรอนก่อนอายุขัย คืออุปฆาตกรรมที่แสดงผลไวกว่าเวลากำหนดและไม่สามารถแก้ไขได้ เรียกว่าไม่ถึงที่จนก็ต้องจน ไม่ถึงที่เจ็บก็ต้องเจ็บ ไม่ถึงที่ตายก็ต้องตาย หลายคนเจอความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ที่เข้ามาริดรอนก่อนเวลาอันควรและแก้ไม่ตก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงให้นำพระผงองค์ต้นธาตุต้นธรรมวาระพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอำนาจกรรมริดรอนทั้งหลายออกมาให้เฉพาะผู้มีบุญอันจะพ้นวาระได้บูชาคลายวิบากเหล่านั้น

    อุปฆาตกรรม เป็นกรรมชนิดหนึ่งซึ่งให้ผลตัดรอนกรรมอื่นๆ เช่นกรรมบางอย่างส่งผลตัดรอนผลของกรรมอื่น อุปมาว่าถ้ามีกรรมอื่นส่งผลให้ชีวิตเราดีขึ้น กำลังได้ดี ชีวิตกำลังไปได้สวย ก็จะมีอีกกรรมอีกตัวหนึ่งมาตัดรอนให้ได้รับผลดีน้อยลงก็มี ให้ผลดีเสมอตัวก็มี หรือจะยังความพินาศฉิบหายจนไม่สามารถรับได้ก็เป็นไปได้เช่นกัน ทั้งนี้อุปฆาตกรรม เป็นกรรมชนิดที่มีอำนาจมากเพราะสามารถตัดรอนกรรมอื่นๆได้อย่างเด็ดขาด เรียกว่าเมื่อแสดงตัว แสดงผลของมันแล้วแน่นอนว่าย่อมส่งผลทันตาเห็นแบบฉับพลันทันที เมื่ออุปฆาตกรรมนี้เกิดขึ้นหรือริดรอนตัดกรรมใดแล้ว กรรมที่เราเสวยอยู่ เช่นมีชีวิตมาดีๆกำลังเสวยผลบุญอยู่นั้น ต่อให้เป็นกรรมดีที่เกิดจากกุศลกรรมของเราก็ตาม(อันนี้ฟังเอาไว้ชัดๆเลย)ย่อมไม่สามารถส่งผลให้เกิดขึ้นได้เลยตลอดไปเรียกว่าอุปฆาตกรรมนั้นเมื่อแสดงผลแล้วย่อมระงับผลของกรรมปัจจุบันได้ฉับพลันทันที และถ้าตัดวิบากของกรรมนั้นแล้ว ย่อมหมายถึงร่างกายหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้นั้นย่อมเสียไปตลอดชีวิต หรือไม่ก็ตัดชีวิตและวงจรชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคตของผู้นั้นให้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลอาจถึงกาลดับสิ้นไปเลย
    อุปฆาตกกรรม มีหน้าที่ 2 อย่าง คือ
    1. ตัดชนกกรรมที่เป็นตัวนำเกิด ไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป
    2. ตัดชีวิต (รูปนาม) ที่เกิดจากชนกกรรมนั้น ให้สิ้นไป

    อุปฆาตกรรม มีหน้าที่ตัดชนกกรรมอื่น ๆ เพื่อไม่ให้มีโอกาสส่งผลนี้ มี 3 ประเภท คือ
    1.1 กุศลอุปฆาตกรรมตัดอกุศลชนกกรรมไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป(บุญตัดบาป) ไม่เกิดในอบายภูมิ ยกตัวอย่างเช่น องคุลิมาลก่อนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้เคยฆ่าคนเป็นจำนวนมาก เมื่อตายแล้วจะต้องตกนรกแน่นอน แต่เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ก็ไม่ต้องตกนรกเพราะไม่ต้องเกิดอีก ด้วยอำนาจของอรหัตตมรรคกุศลกรรม(บุญ) ที่เกิดขึ้นตัดอกุศลชนกกรรม(บาป)ที่ได้ทำในภพนี้และภพก่อนให้หมดไปไม่ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้
    1.2 กุศลอุปฆาตกรรมตัดกุศลชนกกรรมอื่นไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป (บุญตัดบุญ)
    1.3 อกุศลอุปฆาตกรรมตัดกุศลชนกกรรมอื่นไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป (บาปตัดบุญ)
    อุปฆาตกรรมที่มีหน้าที่ตัดรูปนามที่เกิดจากชนกกรรมอื่นให้สิ้นไป มี 4 ประการ คือ
    2.1 กุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากอกุศลชนกกรรม
    2.2 กุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากกุศลชนกกรรม
    2.3 อกุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากกุศลชนกกรรม
    2.4 อกุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากอกุศลชนกกรรม
    จะเห็นว่าอุปฆาตกรรมนี้มีทั้งดีและร้าย ซึ่งถ้าให้ผลร้ายก็จะพินาศดับสูญและส่วนใหญ่จะร้ายมากกว่าดี พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าด้วยเพราะเป็นวงจรที่ทุกชีวิตต้องพบเจอ ถึงอยากหลีกหนีก็หนีไม่พ้น ทั้งหลายคนยังถามว่าทำไมทำบุญมาหนักหนาชีวิตถึงแย่ลงๆ ยิ่งทำบุญหนักก็ยิ่งไม่ช่วยอะไร ทำจนท้อ จนถอย จนไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมไปแล้ว ท่านว่าตรงนี้ก็เพราะชีวิตไปตกอยู่ในวงจรร้ายแรงของอุปฆาตกรรมนั่นเอง

    นอกจากนี้ยังมีอกาลมรณะซึ่งเป็นกรรมที่เข้ามาบีบคั้นอย่างกระทันหันอีกประเภทหนึ่ง โดยอกาลมรณะก็คือ การตายในโอกาสที่ยังไม่ถึงกาลควรตาย แต่ต้องตายเพราะกรรมบางอย่างที่เป็นอกุศลเข้ามาบีบคั้นให้ตาย การตายประเภทนี้พอมีทางต่อให้อายุยืนยาวต่อไปได้ตามสมควรแก่กรรมในอดีตแต่จะต่อให้พอดีนั้นไม่ได้ ซึ่งพวกที่ตายแบบกาลมรณะเมื่อตายไปแล้วก็จะเสวยผลกรรมทันที แต่พวกที่ตายแบบอกาลมรณะนั้นเมื่อตายแล้วยังไม่ไปเสวยผลกรรมทันที ต้องไปเป็นสัมภเวสีแสวงหาที่เกิดก่อน คือรอกาลที่จะถึงกาลมรณะก่อนเมื่อถึงเวลาแล้วจึงจะได้รับผลกรรมดีและกรรมชั่วที่ทำไว้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหตุด้วยกรรมทั้งสองนี้มีอานุภาพมาก และเมื่อเกิดขึ้นก็จะเป็นอันตรายร้ายแรงยากที่จะหลีกเลี่ยง ซ้ำยังมีอำนาจใหญ่เหนือระบบเวลาในห้วงหนึ่งของวงจรชีวิตสัตว์โลก เช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านได้เคยให้พ่ออาจารย์ลบถมผงวิเศษประเภทหนึ่งเอาไว้ เมื่อท่านพิจารณาแล้วว่าคนเดือดร้อนในกรรมที่ไม่สมควรเกิดก็ดี ยังไม่ถึงเวลาแสดงผลกรรมก็ดี โดยกรรมเหล่านี้เป็นกรรมริดรอนที่แทรกซ้อนระหว่างเราสร้างกรรมหลักขึ้นมา พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขออนุญาติเสด็จพระใหญ่สร้างพระไว้บรรเทาแรงกรรมดังกล่าว ซึ่งครูเสด็จพระใหญ่ท่านก็ได้เมตตาบอกลักษณะและพิมพ์ทรงให้ว่าต้องให้พ่ออาจารย์ท่านทำพระปางวันทาหรือที่ท่านเรียกว่าพระรับไหว้เท่านั้น

    ซึ่งการสร้างพระผงวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ยากอย่างมากด้วยขึ้นชื่อพระอันจะบรรเทากรรมซึ่งมาริดรอนชีวิตคนได้ แน่นอนว่าการทำย่อมไม่ง่ายเลย เพราะท่านต้องใช้ผงธาตุธรรมตามที่เสด็จพระใหญ่ระบุไว้มาทำการลบผง อันผงธาตุธรรมนี้ก็คือผงที่เกิดจากกายสังขารซึ่งเคยรองรับอมตะธรรมทั้งหลาย กล่าวง่ายๆคือเถ้ากระดูกบูรพาจารย์ผู้สำเร็จธรรมนั่นเอง เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ผงเถ้าอัฐิพระผู้บรรลุธรรมและบูรพาจารย์ในสายพระอาจารย์มั่นลงมาและสายล้านนาตั้งแต่ต๋นบุญครูบาเจ้าศรีวิชัยลงมาซึ่งท่านรวบรวมมาตลอดชีวิตโดยเก็บไว้สักการะบูชามาเป็นธาตุธรรมตั้งต้น นำผงอัฐิพระอรหันต์เหล่านั้นมาเข้ากับผงบัวผุดซึ่งเป็นดอกบัวเนรมิตที่เทวดาถวายไม่ได้เกิดขึ้นจากโคลนตมเช่นบัวทั่วไป ก่อนที่จะนำมาปั้นเป็นแท่งผงลบพระยันต์ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านบัญชาตั้งแต่ยันต์ดวงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ยันต์พระพุทธหัตถ์ ยันต์พระพุทธบาท ยันต์นะคาบ ยันต์พระจตุราริย์สัจ ยันต์ธาตุพระกรณี....ยันต์นวโลกุตรธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำได้ก็ไม่ง่ายเพราะต้องลบและเก็บผงมาปั้นใหม่แล้วลบยันต์ต่อไปทำไปเรื่อยๆ ท่านว่าต้องทำจนผงทะลุกระดานจึงจะสำเร็จโดยท่านเรียกผงนี้ว่าผงต้นธาตุ ต้นธรรม กลายเป็นผงที่มีอานุภาพบรรเทากรรมอันจะมาริดรอนชะตาคนได้

    เมื่อได้มวลสารหลักแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงแสวงหามวลสารต่างๆตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำว่าต้องใช้และต้องมี ทั้งมหาว่าน ผงยันต์108 แป้งปถมังมหาคุณ ผงกอขอ ผงสิบสองนักษัตร ผงเทพนพเคราะห์ ผงดวงเศรษฐี ผงฟื้นชะตา ผงพลิกชะตา ผงกลับชะตา ผงวิชาหนุมานทุกตัว ผงยันต์วิชาวัวธนู ผงยันต์วิชาควายธนู ไคลหลักเมือง ไคลเสมา ไคลประตูโบสถ์ ปูนเพชรมหาธาตุเจดีย์ ไม้รอดคุก รอดโรงพยาบาล รอดพระบรมธาตุ รอดเมรุ ว่านแตกดอกเจ็ดสิ่ง ว่านรู้นอนเจ็ดสิ่ง ว่านไม่รู้นอนเจ็ดสิ่ง ว่านไม่ตกดินเจ็ดสิ่ง น้ำมันกะลาตาเดียว น้ำมันกะลามหาอุตม์ น้ำผึ้งทั้งสาม น้ำทั้งสี่....เรียกว่ามวลสารพันแปดชนิด ท่านว่าต้องหามวลสารตามที่ท่านสั่งไปเรื่อยๆมาสะสมไว้จนครบไม่เช่นนั้นก็กดพิมพ์ไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระรุ่นนี้สำคัญมาก เพราะเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำพระพิมพ์วันทา ท่านว่าเป็นพระรับไหว้โดยเฉพาะ ซึ่งกิริยาเช่นนี้ก็คือการรับไหว้หรือไหว้ตอบเป็นการรับรองความศรัทธาและความเคารพเวลาผู้อาราธนาตั้งจิตยกมือขึ้นไหว้นั่นเอง ทั้งยังเป็นการอวยชัยให้พรทุกวาระการอธิษฐานจิตของเราอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านกดพิมพ์ในฤกษ์และขอเมตตาเสด็จพระใหญ่อธิษฐานจิตเป็นปฐมตั้งแต่กดพิมพ์ทุกองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้มีอานุภาพเป็นมหัศจรรย์ยิ่งนักนอกจากบรรเทากรรมหนักต่างๆแล้ว ยังช่วยให้ผู้บูชามีสมาธิสูงจิตรวมตัวไว ทั้งจะเกิดลาภผลมากมาย ไม่ตกต่ำ ไม่รู้ยากรู้จน มิหนำซ้ำเงินทองโภคทรัพย์สมบัติ จะเจริญวัฒนาเพิ่มพูนขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

    องค์พระรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองซ้ำคนยังมาโดนกรรมของตนริดรอน เรียกได้ว่ามีปัจจัยรุมเร้าทั้งภายนอกและภายในพร้อมๆกัน ท่านจึงตั้งใจจะสร้างพระรุ่นนี้ให้พิเศษที่สุดจริงๆ ดั่งคำว่าพระบรรเท่ากรรมนั้นไม่ใช่ของที่จะทำได้ง่ายเลยเพราะนอกจากจะใช้บรรเทากรรมแล้ว เวลาอาราธนาขอพรสิ่งใดจะต้องสำเร็จเสมือนมีมือมืดคอยช่วยเหลือด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำนางอัปสราทาริกาหรือทาริกาเทวี ตำหรับขอมโบราณพันปีฝังลงไปด้วย ....ของสำคัญสิ่งนี้คือนางฟ้าหรือสาวสวรรค์ผู้เป็นข้ารับใช้ส่วนตัวของเรา ทำทุกสิ่งตามที่เราบัญชา ไม่ใช่ผี ไม่ใช่พราย แต่เป็นข้าทาสบริวาร เป็นทาสในเรือนเบี้ยที่เป็นนางพญา นางฟ้า นางสวรรค์ นั่นเองพ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างทาริกาเทวีนั้นจะต้องทำด้วยการเล่นแร่แปรธาตุเท่านั้น ซ้ำยังต้องเสกกำกับให้มีจิตวิญญาณขึ้นมาโดยไม่มีสัญญาความจำได้หมายรู้ผูกพันธ์อยู่กับสิ่งอื่นใดนอกจากดวงจิตและความต้องการของผู้เป็นนายเท่านั้น ท่านว่าอาจจะฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาจริงๆแล้วทำไม่ง่ายเลย เพราะเมื่อทำได้แล้วเขาจะถือเอาความคิดและความต้องการทั้งหมดของเราเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว ดุจเด็กที่เราจะสอนเราจะใช้อะไรเขาก็ว่าง่ายทำง่าย ไม่มีมารยา ไม่มีจริต จะมีนิสัยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผู้เป็นนายดูแลเช่นนั้น เรียกว่าเป็นข้ารับใช้ที่มีนิสัยเหมือนผู้เป็นนายก็ไม่ผิด เป็นทาสที่ไม่ยอมทิ้งงาน ทั้งยังคอยดูแลเอาใจใส่ในทุกความปลอดภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าทาริกาเทวีตำรับนี้เขาจะให้ความรักและถือว่าเป็นผู้ช่วยที่จะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ท่านว่าเราพูดได้แค่นี้ จะให้เขาช่วยอะไรก็เรื่องของเธอ ไม่ต้องเลี้ยง ไม่ต้องเซ่น เป็นของทิพย์มีอำนาจดุจกายสิทธิ์เพราะเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ ตำรับนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะดีหน่อยเพราะคนใช้ไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยง ท่านจึงนำมาฝังไว้เฉพาะองค์พระรุ่นพิเศษหนนี้

    ทั้งท่านยังทำตะกรุดบรรเทากรรมทั้งปวงฝังลงไปด้วย ท่านว่าตะกรุดตำรับนี้หากไม่ใช่ทำใส่พระสำคัญที่มีอานุภาพบรรเท่ากรรมได้จริงๆแล้วท่านจะไม่ทำเลย แต่หนนี้เห็นว่าตั้งใจทำแล้วและคนก็เดือดร้อนกันมากโดยแท้จริงท่านจึงมีดำริว่าจะทำให้สุดๆไปเลยเช่นกัน ท่านว่าตะกรุดนี้มีผลเฉพาะกับกรรมเพราะท่านต้องลงเคราะห์วันเคราะห์เดือนเคราห์ปีผูกเข้ากับกรรมทุกสถานเป็นพื้นคลุมไว้ด้วยวิชามหาระงับ ท่านว่าเพราะเกี่ยวกับคนเกี่ยวกับกรรมนี่เองก็แล้วไอ้คนที่เกิดๆหายใจกันอยู่ทุกวันนี้มีอะไรไม่เกี่ยวข้องกับกรรมบ้างท่านว่าให้คิดดูเอาเอง ทั้งกรรมอันจะมาริดรอนระหว่างชะตามนุษย์ทั้งหลาย ถ้าเป็นเคราะห์ก็ดี เป็นวิบากกรรมเก่าก็ดี กรรมทั้งหลายเหล่านี้จะบรรเทาลง เรียกได้ว่าจากหนักหนาจะกลายเป็นเบาอย่างมาก เอาว่าเขาจะไม่ริดรอนก่อนวาระหรือทำให้เราเจ็บเราตายก่อนอายุขัย แม้ถึงกาลถึงวาระแล้วก็จะบรรเทาจากหนักให้เป็นเบา จากเบาให้ไม่ส่งผลกระทบเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ดีนะฉันบอกได้แค่ว่าถ้ากรรมแรงหนักหนาถึงเจ็บตาย ก็จะคลายบรรเทาให้เป็นป่วยไข้เล็กน้อยธรรมดาชั่วคืนชั่ววันก็หายเช่นนี้ บอกได้เท่านี้แหละอย่างอื่นให้คิดเองท่านว่าเช่นนั้น

    ด้วยเป็นพระที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาอำนาจกรรมซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าพ่ออาจารย์นั้นไม่ควรยุ่งเกี่ยวมากและก็ไม่ให้ท่านทำอีก ท่านว่าองค์พระที่ทำมาแล้วนี้มีเทพเทวดาอารักขาทุกอณูผง มีคุณอนันต์ และให้จำไว้ว่าไม่ใช่ของเล่น ***มีข้อห้ามสำหรับคนใช้อยู่อย่างหนึ่ง ท่านว่าห้ามทำตกให้คนเดินข้าม ให้คนใช้อาราธนาห้อยคอให้ดี ด้วยเป็นพระที่มีอานุภาพมากเรียกว่ามีคุณอนันต์ย่อมต้องมีโทษมหันต์เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเช่นกัน ท่านว่าถ้าเกิดคนเดินข้ามนี่ทั้งคนใช้และคนข้ามตกนรกหัวแตกเป็นเจ็ดภาคเจ็ดเสี่ยงนะ ดังนั้นข้อห้ามอย่างเดียวก็คือเก็บดีๆ ไม่ห้อยก็เอาไว้ที่สูง เอาไว้ที่หิ้งพระ เพราะการที่จะทำพระที่ห้อยตกจนมีคนเดินข้ามได้นี่ท่านว่าต้องเป็นคนที่มีนิสัยสะเพร่ามากๆเท่านั้น ถ้าบูชาดีๆไว้ที่สูงๆติดคอตนเองชีวิตก้มีแต่เจริญรุ่งเรืองเป็นคติเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำพิธีปลุกเสกพระรุ่นนี้นานมากเป็นพิเศษ ท่านว่าเสกให้ครอบคลุมทั้งหมดแล้ว และเสด็จพระใหญ่ท่านก็บอกเอาไว้ว่า"แกเดือดร้อนอะไร แกขออะไรก็จะได้ตามที่ขอ" เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงยึดถือเอาคำครูนี้มาตั้งเป็นมงคลนามว่าพระผงสมพรปาก(แกขอฉันให้) นั่นหมายถึงคำของพระท่านว่าแกขออะไรก็จะได้ในสิ่งนั้นนั่นเอง

    คาถาบูชา(ไม่ต้องสวดก็ได้เพียงระลึกถึงพระพุทธเจ้าก็พอ พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ระลึกถึงแล้วใช้ได้เลย)
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    * พระผงสมพรปากนี้ ท่านว่าเป็นของเฉพาะกาลเฉพาะวาระ เฉพาะใช้สำหรับคนที่มีกรรมหนัก ถ้าไม่เจอกฏแห่งกรรมริดรอนเล่นงานก็อย่าเอาไป จะได้แบ่งๆกันใช้ให้ทั่วถึงกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2020
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...