นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)

โดยปกติ ปรอทเชื่อว่าหลายท่านย่อมรู้จักกันดีนะครับ โดยเฉพาะผม เพราะแต่ก่อนชอบสะสมเบี้ยแก้มาก เรียกว่าที่ไหนดีไปเอามาหมดครับ

ได้มีโอกาสพูดคุยโดยอาศัยบารมีครูบาอาจารย์ที่สร้างตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดปัญญาญาณ ที่ผมไปถวายหรมานนั่นละครับ ท่านพาไปคุยด้วยถึงได้ความรู้มากมาย

พูดง่ายๆ อาศัยเส้นสายท่าน จนได้คุยกับครูบาอาจารย์ที่เก่งในด้านสร้างเบี้ยแก้จนโด่งดัง คือเบี้ยท่านสวยงามมากและดีมากสืบสายมาจากครูบาอาจารย์สายตรงด้านการสร้างเบี้ยแก้เลย

เบี้ยแก้ที่สะสมมาผมได้ออกทำบุญตอนสร้างพระกริ่งไปหมดเลยครับ

สิ่งสำคัญได้เข้าใจหลักการ ความรู้มากมาย จนมาสัมผัสถึงธาตุกายสิทธิ์อื่นๆ นี่ละครับ เช่นหยาดน้ำฟ้า เหล็กเปียก...

 

ปรอท เรารู้จักกันดีสมัยเด็ก ๆ ผมเคยได้มีโอกาสเล่นด้วย เรียกว่าเรียนวิทย์มาย่อมรู้จัก

ทีนี้ในด้านของขลังเราเอาใช้เป็นส่วนประกอบมากมาย

โดยปกติผมทราบพื้น ๆ ว่ามีปรอทจากธรรมชาติและปรอทวิทยาศาสตร์ แต่บางท่านก็ว่าปรอทวิทยาศาสตร์ได้มาจากการขุดปิโตเลียม ซึ่งมีอานุภาพเช่นกัน

ทีนี้ ผมเองได้มีโอกาสคุยกับครูบาอาจารย์ท่านนึงหลายปีแล้ว โดยอาศัยบารมีหลวงตาท่านนึง

คือตอนแรกผมเห็นว่าเบี้ยแก้ท่านสวยดีแปลกดีมาก เลยถามหลวงตาที่สอนกรรมฐานผม (เป็นผู้สร้างตะกรุดหลายรุ่นละครับ) ว่ารู้จักไหมท่านว่ารู้จักดี เลยให้นำทางพาไปหา

ผลคือ พอไปถึงปุ๊ป หลวงพ่อท่านนี้ตกใจ รีบมากราบหลวงตาท่านเลย ผมว่า "อ้าวรู้จักกันเหรอครับ"55

สรุป เลยอาศัยเส้นสายได้คุยสอบถาม และได้บูชามาหลายครั้ง (ของท่านดังมากต้องจอง ผมอาศัยลัดคิวได้มา แต่ก็ให้บูชาแค่ครั้งละ 1 ลูก เลยไปหลายรอบหน่อย

เลยสอบถามท่านเรื่องปรอทที่ใช้ ร่ำลือกันมา

โดยสรุปความว่า ปรอทที่นำมาสร้างเบี้ยแก้ ของขลัง จริง ๆ ปรอทวิทย์ก็ใช้ได้แต่ท่านบอกให้ดีต้องดักธรรมชาติมี

1.ปรอทใต้ดิน ก็ตามร่ำลือกันใช้ไข่เน่าดักนั่นละครับ กว่าจะได้ก็นิด ๆ หน่อย ๆ เรียกว่า ทุบไข่เน่ามา ก็เป็นเศษ ๆ กว่าจะรวมกันพอได้มาใส่เบี้ยแก้ ยากกกมากดักกันจนมึน

2. ปรอทอากาศ ท่านว่าเคยลองทำ แปลกมาก คือเจาะรู เอาไข่เน่าไว้ตามต้นไม้ พอทุบมาก็มีปรอทมาจริงๆ ผมถามแจ่มไหม ท่านว่า "เฮี้ยนดี"

แต่ตามที่ฟังมา ได้น้อยครับ จะมาทำเบี้ยแก้มาก ๆ นี่หมดสิทธิ์ จึงต้องอาศัยปรอทวิทย์มาทำกัน กิโลนึง น่าจะ 6-7 พันได้ แต่กิโลนึงน้อยนะครับ เพราะปรอทหนักพอควร

จวบจนครูบาอาจารย์เก่งกล้าสามารถเรียกปรอทจากในดินได้นั่นละครับ ถึงจะเป็นระดับสุดยอดจริง ๆ ...

 

หยาดน้ำฟ้า....

ในภาพ ผมไปอัญเชิญมาเองนะครับ หลายปีก่อนตอนไปอัญเชิญธาตุกายสิทธิ์

ซึ่งที่ปรึกษาตรวจสอบแล้วแจ่มจริงของแท้ และหลวงปู่เหิรก็ตรวจสอบแล้วด้วย

ย้อนความว่า ธาตุกายสิทธิ์ก็มีความขลังหลายระดับ ไม่นับของปลอมนะครับ55

อันว่ามีทั้งจริงปนไม่จริง ก็ผสมกันก็มี ตามยุคแห่งการหลอกลวง

ของจริงก็มีความขลังหลาย ๆ ปัจจัย โชคดีของผมแจ่มหมด

ในภาพ ผมยังสงสัยคือปรอทอากาศไหมแต่ก็ ตอบไม่ได้

แต่เป็นของแท้ คือ เทียนชัยก็ปกติ พอทำพิธีเสร็จธาตุกายสิทธิ์มา ก็ไปเก็บ

หยาดน้ำฟ้าต้องไปยอดเขาเรียกว่าปีนเขากันเกือบสลบครับ เหนื่อยแทบขาดใจ

จนถึงถ้ำยอดเขาสูง พอทำพิธีเสร็จก็ไปดูเทียนชัยมีหยาดน้ำฟ้าจริง ๆ

เขาจะซึมลงในเทียนต้องอาศัยบิไส้เทียนออกมาก็ได้ตามภาพในถุงซิบเก็บมา

หยาดน้ำฟ้าตามการสอบถามเป็นธาตุกายสิทธิ์ชั้นสูง ปกติจะใส่หลอดบูชากันมีประสบการณ์มากมาย เรียกว่าเทพรักษาระดับสูง

จนครูบาไชยมานำเป็นส่วนประกอบการสร้างปรอทสำเร็จของท่านละครับ...

ในภาพเป็นของรักของหวงผมเลย...

 

เหล็กเปียก

เหล็กเปียกที่ผมเคยได้ยินมาและเคยเห็นชัด ๆ ก็ที่พิพิธภัณฑ์พระธาตุพนมนะครับ

ได้ยินว่าเขานำหุ้มยอดพระธาตุกันฟ้าผ่า ทีนี้ในแร่ธาตุจริง ๆ ก่อนถลุงก็มีในมวลสารหลายรุ่นแล้ว อย่างฝังหลังพระรอดปราบพิภพ ก็จะแวว ๆ วูบวาบ

ทีนี้ในแร่ที่นำมาใช้ส่วนใหญ่ก็จะผสมสร้างพระกัน ผมเคยเห็นของจริงจะคล้ายๆ ตะกั่วหรือเงินยวง

ในภาพ เป็นแร่ที่อัญเชิญมาเลย ซึ่งหลวงปู่เหิรตรวจสอบแล้วท่านว่าดีทุกด้าน

ประเด็นจะเยิ้มๆ เปียก ๆ มีน้ำไหลออกคล้ายๆ ปรอท

 

อยากทราบว่าเหล็กเปียก ต่างจากเหล็กไหลหรือเหมือนกัน เพราะผมได้ยินแต่เหล็กไหล ส่วนเหล็กเปียกพึ่งได้ยิน

 

เหล็กไหล ถ้าว่าภาษาง่าย ๆ ก็คือธาตุกายสิทธิ์ที่เคลื่อนย้ายไปมาได้ก็เลยเรียกเหล็กไหล

เหล็กเปียก ก็สภาพที่ผมได้มาก็จะเหลว ๆ เปียก ๆ น้ำเยิ้ม เลยได้ชื่อว่าเหล็กเปียก ทีนี้ครูบาอาจารย์จัดให้อยู่ในตระกูลธาตุกายสิทธิ์ชนิดเดียวกับเหล็กไหล

เหล็กไหลมีหลายชนิดนะครับที่พบมา

เหล็กเปียกมีความเชื่อว่าดับธาตุไฟ ดับพิษร้อนจึงนิยมนำมาบรรจุยอดเจดีย์กันฟ้าผ่า กันภัยพิบัติได้ ซึ่งผมเคยพบมาจะมีลักษณะแข็งคล้ายตะกั่วแล้ว ซึ่งจะมาจากแร่ที่พบกัน ซึ่งเข้าใจว่าถลุงหรือแปรรูปแล้วครับ

 

ในภาพ คือพระอาจารย์ผู้สอนกรรมฐานท่านแรกให้ผมครับ และเป็นผู้พาผมไปเสาะหาเบี้ยแก้หลาย ๆ ที่

วันนี้พึ่งโทรสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง โดยท่านเล่าว่า ตอนท่านพาผมไปหาพระอาจารย์ท่านนึงที่เล่าไปว่าเจนจบในหลักวิชาเรื่องเบี้ยแก้มาก ๆ

เรียกว่าเบี้ยแก้สายท่านคัดมาทุกตัวฟัน 32 ซี่ตามตำราหมดเลย

แน่นอน ต้องใช้วิธีซื้อมาหลายร้อยตัวแล้วมานั่งคัดฟันเบี้ยให้ครบ 32 ซี่ถึงใช้ได้

โดยเหตุที่ต้องการเป็นเคล็ดว่า เพื่อเวลาเสกเรียกอาการ 32 ให้เบี้ยมีชีวิตจิตใจได้



ลองนับฟันเบี้ยดูครับ55

 

โดยสรุป หลักวิชาที่สร้างโดยเบี้ย มี 2 อย่างคือ

1.เบี้ยกัน ถือหลักกันดีกว่าแก้

2. เบี้ยแก้ ซึ่งหลายท่านรู้จักกันดี

ทีนี้ หากว่าโดยหลักการจริง ๆ เบี้ยกันก็คือป้องกัน เบี้ยแก้ก็คือแก้ไข

ในเครื่องรางสะท้านแผ่นดินเราย่อมรู้จักเบี้ยแก้ ดังคำว่า เบี้ยแก้กันของวัดนายโรง

โดยผมเองตะก่อนก็คิดแค่ว่าเบี้ยแก้ แค่ไว้กันคุณไสย ทำน้ำมนต์ขับคุณไสย

หรือสั่นเตือนภัย หรือใช้พกเวลาไข้เพื่อดูดพิษ

ซึ่งใบฝอยจากการบูชาเบี้ยแก้จะบอกไว้เช่นนั้น

แต่โดยหลักการถามครูบาอาจารย์มาแล้ว มีมากกว่าที่คิด อยู่ที่การประยุกต์จากการลงวิชาอีกทีครับ...

โดยสรุป หลังผมเถียงกะหลวงตาว่าที่พบมายังไม่เด็ดดวงถูกใจจึงคิดวิเคราะห์ให้ได้ตามแบบโบราณจริงๆ .. ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หนักใจต่อไป...55

 

จากสูตรการสร้างปรอทสำเร็จของท่านปรมาจารย์จึงได้รวมมวลสารกรอกเบี้ย

1.หยาดน้ำฟ้า ชุดนี้เป็นของผมเองได้มาตอนอัญเชิญธาตุกายสิทธิ์ และพึ่งทราบว่าครูบาไชยท่านได้นำเป็นส่วนผสมสร้างปรอทสำเร็จด้วย

2.ปรอทกายสิทธิ์ ได้รับความเมตตามาโดยครูบาอาจารย์ที่มอบให้ท่านอัญเชิญมาเอง ตามตำราต้องหนัก 1 บาทใส่เบี้ย 1 ตัว โดยปรอทนี้ต้องพัฒนาธาตุจนมีชีวิตจึงสามารถอัญเชิญมาได้

3.เหล็กเปียกโดยใช้เฉพาะส่วนที่เหลวจนเหมือนปรอท

นำมาผสมรวมกัน เพื่อให้เฮี้ยน แรง...

 

ดังที่เล่าไป ผมรับฟังมาอีกทีนะครับ เพราะผมไม่ได้เป็นผู้สร้างและไม่คิดจะเรียนด้วย55 ขี้เกียจครับ

จึงได้แต่เล่าสู่ตามรับฟังมา

ทีนี้ เรื่องปวดหัวของเบี้ยแก้คืออุดด้วยชันนะโรงตามตำรา

ชันนะโรงผมเคยดูรายการนึงจึงรู้ว่าเขาขุดกันใต้ดิน ต้องทำพิธีบอกกล่าวจะเหลว ๆ ข้น ๆ เหนียว ๆ

ปัญหาเวลาเราไปเลี่ยมพลาสติกจะโดนความร้อนจนละลาย และปัญหาที่ปวดหัวที่สุดคือห้ามโดนความร้อน บางท่านเผลอไว้ในรถยุ่งเลย ปรอทแตกออกมาก็มี

ยุคปัจจุบันอาจง่ายหน่อยตรงมีการสั่งทำกรอบเงินหุ้ม แต่ก็นั่นละครับถ้าร้อนมาก ๆ ปรอทอาจแตกได้เช่นกัน



ในภาพ หลวงตาท่านบอกว่า นอกจากใช้ชันนะโรงแล้วต้องผสมใบไม่รู้นอน 7 ชนิดด้วยเพื่อความขลัง ซึ่งผมก็ได้สละมวลสารสีดำ ๆ ไปผสมอีกทีให้เฮี้ยนแรงขึ้น

 

จากภาพขันครูตอนสร้างตะกรุดพญาจักรวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4

จะเห็นว่า เบี้ยนั้นคือ 1 ในองค์ประกอบของขันครูตามตำรา

โดยหลักวิชาของปู่ฤาษีวาโย ได้กล่าวถึงการสร้างวิชาเบี้ยกันไว้ดังนี้เอง

โดยท่านได้มอบคาถาหลักวิชาต่างๆ ในการสร้างเบี้ยกัน

เพื่อใช้ป้องกันได้ทุกสรรพสิ่งให้เสมือนว่าคุ้มครองดูแลขันครู

ขันครูย่อมเป็นสิ่งสำคัญมากในการเล่าเรียนวิชา

เบี้ย คือตัวแทนของเงินตรา...

 

ปรอทกายสิทธิ์

จริงๆ เรื่องของปรอทกายสิทธิ์มีเล่ากันมามาก

ที่ซื้อหากันในท้องตลาดมักซื้อกับร้านขายยา กิโลละเกือบหมื่น ว่ากันว่าเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่แล้ว พบในการขุดเจาะปิโตเลียม

คือผมรับฟังมาจากครูบาอาจารย์ เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในธรรมชาติแล้วมักชอบอยู่ตามที่แหล่งน้ำเน่า แต่จะกระจัดกระจายไป จึงหาวิธีรวบรวมเช่นใช่ไข่เน่าเจาะรูนิด ๆ ไปฝังตามดินแหล่งเน่าเหม็น แล้วไปทุบออกซึ่งในแต่ละลูกจะได้น้อยมากแล้วแต่ รวบรวมมา

หากปรอทดักในอากาศก็ นำไข่เน่าไปวางไว้ตามต้นไม้หรือวางตามเสา

ในสายพระเหนือโลก จะมีวิธีหาที่พิสดารกว่านั้น เช่นใช้ไห ไปฝังตามจุดที่ตรวจสอบทางจิตว่าแร่ปรอทมีมาก แล้วเรียกอัญเชิญด้วยพลังจิต เปิดฝาไหมามีปรอทเต็มเลย (เหมือนมายากล แต่นั่นละครับ โลกแห่งกายสิทธิ์ย่อมเหมือนมายากล)

บางที่มีคลิปการดักมาให้เห็นเลย ถามว่าในส่วนผู้บริโภคเราไม่ได้ไปเห็นกะตาไม่ได้ไปทดสอบจับผิดเองย่อมเชื่อยาก เหมือนเชิญธาตุกายสิทธิ์ที่ผมไปร่วมมาเอง เป็นเจ้าภาพเองละครับ ผมยกโทรศัพท์ถ่ายเอง กดถ่ายไม่ติด 2 รอบ พอรอบ 3 ถ่ายติดก็ดันมือลั่นลบเฉย

สุดท้ายใช้วิธีขอตรวจกระแสเอาง่ายดี

สรุปว่า เมื่อได้รับมาจากครูบาอาจารย์และเป็นผู้บริโภคดีที่สุด ตรวจกระแสว่าแจ่ม ชอบก็บูชาไว้นั่นละครับ55

 

วันนี้วันพญาวัน ทางเหนือถือว่าเป็นใหญ่กว่าวันทั้งปวง

ปีที่แล้วเป็นวันเสกปิดชุดมหายันต์พลิกฟ้าที่เป็นตำนานไปแล้วนะครับ

ฮอตฮิตขนาดผมเองเหลือแต่ตะกรุดดอกเดียว พระผงเจ้าสัวไม่เหลือเลย

และดีจนต้องยอมรับ



ผมไหว้บูชาทุกวันครับ

วันพญาวันวันนี้ ตามประเพณีจะมีการเลี้ยงครู ขอบารมีครูบาอาจารย์ปราบมาร...

และมีการปลุกเสกตะแหลว ฯพร้อมวัตถุมงคลอื่น ๆ เพราะอาศัยกำลังของพญาวัน

 

โดยสรุป วัตถุดิบสร้างเบี้ยแก้ที่ถูกต้องตามสูตรโบราณที่ทำได้ยากที่สุดต้อง...

1.คัดหอยเบี้ยที่ฟัน 32 ซี่ตามตำราเพื่อเวลาเสกจะได้เรียกอาการ 32 ให้เบี้ยมีชีวิตได้ แน่นอนหวังอานุภาพที่เบี้ยคือสัญลักษณ์ของเงินตรา ซึ่งไม่ใช่หาง่ายๆ นะครับ สั่งมาหลายร้อยตัวกว่าจะนั่งนับฟันได้มึนเลย ได้ซัก 10 กว่าตัวก็หรูแล้ว ไม่แปลกใจสมัยโบราณเบี้ยในเครื่องรางสะท้านแผ่นดินถึงไม่ผลิตมามาก 55




2. ปรอทที่บรรจุเป็นปรอทอัญเชิญด้วยหลักวิชา ซึ่งใช้ทำปรอทสำเร็จโดยครูบาอาจารย์ผู้ปิดนามมอบให้มา โดยท่านเห็นด้วยที่จะผสมหยาดน้ำฟ้า และเหล็กเปียกอัญเชิญ เพราะตรวจสอบอานุภาพมาแล้ว... ซึ่งแน่นอนมีไม่มาก เก็บไว้ใช้ในงานอื่นด้วย

3. ชันนะโรงใต้ดินผสมใบไม่รู้นอนมาปิดจนพอกหนา เพื่อหาวิธีรักษาสภาพเบี้ยต่อไป เพราะตอนนี้เจอความร้อน แดดเมืองไทยมีสิทธิ์เละได้

ค่อยว่ากัน ผู้ที่ทำก็ร่ำเรียนมาตามหลักวิชา (ไม่ใช่ผม) ผมไปถามก็ไม่ยอมบอกเคล็ด 55 ก็ไม่เป็นไรเป็นผู้บริโภคดีที่สุด...

 

ตรงกะที่ปรึกษาคิดไว้ แต่ ๆ จะมีเรื่องอื่นตามมานั่นละครับเราต้องไม่ประมาทครับ

ผมก็อยากเที่ยวแล้ว เดินห้างแล้วตัดผมด้วย 55

 

แค่เริ่มต้นครับ...

 

สร้าง 16 ตัวบุบไป 1เหลือ 15 ตัว



สวรรค์ลิขิตจริงๆ

 

รายละเอียด พลัง วิชา ขั้นตอนต้องรอหลังเสกนะครับ เพราะลุ้นมากว่าจะแรงเหมือนของโบราณ. ที่อยู่ในชุดเครื่องรางสะท้านแผ่นดินได้ไหม

แจ้งท่านแล้วเสกให้เดินได้เลยนะครับ. ผมเคยได้ยินพรรคพวกเล่า เขาเห็นกะตา การปลุกเบี้ยจนเดินได้ แบบค่อยๆไต่บนมือ....

 

เบี้ยแก้กายสิทธิ์สรรพกัน

ปฐมบทการเสก วันพญาวัน วันที่ถือว่าเป็นใหญ่กว่าวันทั้งหลาย

เบี้ยแก้กายสิทธิ์สรรพกัน เป็นการรวมหลักแห่ง 3 วิชา

1.เบี้ยแก้ สร้างโดยผู้สืบทอดวิชาการทำเบี้ยแก้มาโดยถูกต้อง หลวงตาท่านแนะนำให้เอง

2. เบี้ยกัน โดยจารตามหลักวิชาครูบาข่ายที่สืบจากปู่ฤาษีวาโย โดยท่านว่าในสายเหนือพบวิชานี้น้อยมาก

3. ปรอทสำเร็จ ซึ่งผสมรวมธาตุกายสิทธิ์หลายอย่าง

ย้ำ ผมรอให้เสกเสร็จสิ้นครับ รอตรวจอีกที เพราะท่านบอกเจอบุบไป 1 ตัวเสียดายมาก ผมจะเก็บไว้เอง

พรุ่งนี้ วันปากปี หรือวันมหาสิทธิโชค 3 เสือจะรวมพลังมาเสกกันอีก

 

เมื่อวานนี้คือวันพญาวัน และตรงกับวันพฤหัสบดี วันครูด้วย

ในทางเหนือ ถือกันว่าวันพญาวันเป็นใหญ่กว่าวันทั้งปวง คือดีที่สุดในรอบปี

ดังวันก่อนที่พูดถึงวันเสาร์ 5 ซึ่งครูบากล่าวว่าทางเหนือไม่ได้สนใจฤกษ์นี้

วันพญาวัน เมื่อวานมีการเลี้ยงครู พูดง่ายๆ เป็นวันที่ดวงจิตครูบาอาจารย์ลงมากันครบเซ็ต

เบี้ย 16 ตัวในภาพ ยังจารไม่หมดนะครับเพราะเวลามีจำกัด

ผลคือพอครูบาไชย ได้รับไปท่านครูเข้าเลย

ที่ปรึกษาเล่า "อยากรู้ว่าท่านเสกยังไง เพราะรอยจารก็เล็ก ผลคือท่านเรียกปรอทกัน ครูบากล่าวว่า ปรอทเขาดีมากทำไมกูไม่ได้อย่างนี้บ้าง"

ผมคิดในใจ อ้าวปรอทได้มาจากท่านแต่เพิ่มหยาดน้ำฟ้า เหล็กเปียกเข้าไป ปรากฎว่าแจ่มเกินคาดแฮะ

ที่ปรึกษาบอก "เห็นชัดเจนท่านเรียกปรอท ปรอทวิ่งเต้นไปทั่วพานได้ยินกะหู แล้วท่านลงคาถามากมายที่พึ่งเคยได้เห็น ถ้าเป็นครูบาข่ายลงไม่ได้เห็นหรอก"

ครูบาไชยกล่าวว่า "ปรอทเขาดีจริง ๆ พลังดีมาก ทั้งกันและแก้"