แสงสว่างสีขาว ตอนนั่งสมาธิ

เวลาที่นั่งสมาธิไปสักพักแล้วมีแสงสว่างจ้าขึ้นมาในภาพที่มืดๆ แบบว๊าปขึ้นมาเลย ไม่ได้คิดหรือพยายามให้มันเกิด นี่เป็นเพราะอะไรครับ แล้วอาการแบบนี้เรียกว่าอะไร ภาพประมาณนี้ครับ https://prnt.sc/sf3802 แต่ว่าจะไม่มีบริเวณขอบๆนะ เป็นแสงขาวแบบวงกลมตรงกลางนั้นทั้งหมด อารมณ์ประมาณอยู่ในที่มืดๆแล้วอยู่ดีๆมีคนไปเปิดไฟอะครับ ประมาณนั้นเลย

จริงๆผมผ่านอาการนี้มาบ่อยแล้ว แต่ไม่ได้ไปสนใจอะไรมัน ตอนนี้อยากรู้เลยมาตั้งคำถามครับ

 

เอาเป็นว่าผมอยากรู้ว่ามันคืออะไรครับ ขอโทษที่ใช้ภาษาแบบนั้น

Edit ละครับ

 

เกร็ดธรรม
หลวงปู่พุธ ฐานิโย
วัดป่าสาละวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

......................................................

มีอีกปัญหาหนึ่งของผู้ที่ทำกรรมฐานนั้น
จะมีแสงเหมือนกัน เหมือนไฟฟ้า..ไฟฟ้าสถิตย์ออกจากเสื้อผ้าและผ้าห่มนั้น
เกิดเนื่องมาจากสาเหตุอะไร…


ผู้ทำกรรมฐานเมื่อบริกรรมภาวนาเมื่อจิตสงบลงไปเป็นสมาธิ
ถ้าสมาธิอันนั้นประกอบด้วย วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
หรือยังไม่พร้อมก็ตาม แสงยิบ..ยิบ..ยิบ..ยิบ
จะบังเกิดขึ้น ปรากฏในสายตาของท่านผู้นั้น อันนี้เป็นวิสัยของผู้มีใจอ่อน

แต่สำหรับบางท่านไม่เป็นอย่างนั้น
เมื่อจิตสงบลงไปจริงๆ แล้ว จึงเกิดความสว่างไสวขึ้น
หรือบางท่าน ความสว่างไสวหรือแสงอย่างนั้น ไม่มีเลย

แต่เมื่อจิตสงบลงไปแล้วรู้สึก มีความแจ่มๆ
กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายในจิต
อันนี้ซึ่งแล้วแต่อุปนิสัยของผู้ใด..จะเป็นไปเช่นนั้น

แต่ขอยืนยันว่าสมาธิที่มีพลังงานอย่างเต็มที่
จะต้องมีความสว่างเป็นเครื่องหมาย
หมายถึง สมาธิขั้นสมถะกรรมฐาน ขั้นฌาน
ถ้าสมาธิเดินฌานอย่างแท้จริงต้องมีความสว่างไสว

ถ้าสมาธิเดินขั้นวิปัสสนามีความคิดเกิดขึ้น ดับไปอยู่ตลอดเวลา
และสติเฝ้าดูเหตุการณ์ตลอดเวลา ความสว่างไสวอย่างว่านั้น
จะมีบ้างไม่มีบ้างแล้วแต่จังหวะของจิต
มีแต่ฌานหนึ่งและความรู้ธรรมอยู่ตลอดเวลา
อันนี้เป็นลักษณะของสมาธิที่เดินขั้นวิปัสสนา..
...........................................



เครดิต เพื่อนสมาชิก พลูโตจัง

 

อันนี้แชร์ ประสบการณ์ ถ้าจะลองดู ก็ลอง เอา วิธี ไปลองดูครับ
อาจจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ได้ผลยังไง มาแชร์ด้วยแล้วกันครับ พอดีเหลือบไปเห็น ห้องข้างบน
เลยมาลงโพสนี้ละกันครับ

https://palungjit.org/threads/ส่วนหนึ่ง-ของการลอง-เนสัชชิก.329857/

 

ไม่ได้กวนนะครับ..
แต่ขอให้พิจารณาดี ๆ

อยากรู้เพื่อ..?
ถ้ารู้แล้วยังไงต่อ..?
ถ้าไม่รู้แล้วยังไง..?
ทุกข์มั้ย..?
แต่ถ้ารู้แล้ว.. จะเอาไปทำประโยชน์ อะไรกับใครยังไงต่อ..?
(ลองถามตอบกับตัวเองอย่างนี้ดูก่อนนะครับ .. ว่ายังไง)

ขอให้ท่านเลิกสนใจในสิ่งนี้ไปก่อน.. อย่ามัวมาเสียเวลาค้นหาคำตอบอยู่เลยนะครับ

*** ขอย้ำว่าไม่ได้กวนนะครับ **

ขอให้ทิ้งความอยากรู้.. ความลังเล.. สงสัยนี้เอาไว้ก่อน..

เมื่อท่านก้าวข้ามผ่าน(สิ่งล่อตาล่อใจ)ตรงนี้ไปแล้ว..
สิ่งที่ท่านเคยสงสัย.. ท่านก็จะกลับมารู้ด้วยตนเอง นะครับ

ยังมีของที่ดีกว่านี้ ที่รออยู่ข้างหน้าอีก .. (เร่งเพียรเข้านะ ครับ)


อย่าเชื่อล่ะ..

 

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ

 

ลองฟังอันนี้ดูนะ เผื่อจะตรงกับที่ถามมา..

พอดีว่าเปิดยูทูป เทศนาธรรมบทนี้ก็เด้งขึ้นมา..

 

เล่าให้ฟังเล่นๆ เพื่อนึกสนุก
อนาคตจะเจอแบบที่เล่า
ทั่วไป หรือเผื่ออยากจะลอง
ทดสอบสมาธิตัวเองเล่นๆ

แสงแบบสว่างจร้าขึ้นมาเลย
ในสายวิชาเดินธาตุโบราณก็มีฝึกกันอยู่


แสงแบบนี้หลักสังเกตุคือ แม้ว่าเราจะเหมือนคิดได้
ตอนนั้นแต่แสงก็ยังอยู่(ไม่เหมือนแบบอื่นๆที่พอคิดแล้วจะหลุดจากกิริยานั้นทันที)

แต่ถ้าหลับตาฝึกในช่วงต้นมันจะเห็นแสงไม่ชัดเท่าลืมตานะ แต่หลับตาเกิดง่ายกว่า

สเตปกิริยานะ
๑ แรกๆเห็นสว่างจร้ามาเลย เรียกว่า
ห้อง มืดๆนี่สว่างเลย ! แต่เราจะไม่เห็นขอบ

๒ ต่อมา ถ้าเราไม่สนใจ ! จะเริ่มเห็นต้นกำเนิดแสง
แต่ก็ยังไม่มีขอบ

๓ ต่อมาไม่สนใจอีก แสงจะค่อยๆ หายไป
เหมือนไฟแบบปรับแสงได้

๔ นั่งต่อไปไม่สนใจอะไร แสงจะกลับมาอีกครั้ง
แบบค่อยสว่างขึ้น เหมือนระบบไฟซีนอนแท้
พวกไหสนามฟุตบอลสีขาว หรือเหมือนไฟแบบปรับแสงได้

ถึงกิริยาใน ข้อ ๔ แสดงว่าเข้าสมาธิระดับสูง
เทียบได้กับอรูปฯ แต่ว่าไม่ได้กำลังจิต
กำลังสมาธิอะไรนะ

เพราะจิตมันทำงานโดยใช้แสงนำเพื่อข้ามไประดับสมาธิสูง โดยขาดการสร้างภาพ เพื่อปั่น หมุน ย่อ หรือเล่นกับภาพมาก่อน


ยกเว้นจะไปต่อ ทางสายวิชาเดินธาตุโบราณ

เค้าจะเอา กำลังตรงนี้ มาตั้ง ธาตุ ๔ ธาตุ
กลางอากาศ นึกถึงวงกลม ซ้าย ธาตุน้ำ บน(ธาตุดิน) ขวา(ไฟ) ล่าง(ลม)

แล้วปั้นทั้งสี่ธาตุให้มันรวมกัน
(ตรงปั่นวนซ้ายเท่านั้น ปั่นขวาจะขยายใหญ่ซึ่งมันทำง่ายไม่มีประโยชน์)

ปั้นด้วยการใช้หน้าอกบังคับมันให้หมุนรวมกัน
(หน้าฝากบังคับ เป็นเดินธาตุในดง เพียงธาตุเดียว เหนือสะดือบังคับ ๑๐ ธาตุ เป็นเดินธาตุสายอดีตพระสังฆราช)




จากนั้น ดึงเข้ามายังต่ำแหน่ง ร่างกายที่ใช้บังคับ
ก็จะเริ่มเข้าสู่ พื้นฐานวิชาเดินธาตุสายนั้นๆได้เอง

ย้ำว่า เล่าให้ฟังเล่นๆ

 

โดยปกติเห็นแค่ 1-3 ครับ ไปแล้วไปลับ ไม่กลับมาเป็นอีก

 

แล้วคิดเห็นประการใด ต่อ ครับ...?

 

เข้าฌานอีกก็เจออีกแหละครับ ไม่ได้คิดอะไร ก็ปล่อยมันผ่านไปเฉยๆครับ เพราะมันไม่ใช่เป้าหมายเรา มันก็เป็นแค่แสงที่เกิดขึ้นแป๊ปนึงแค่นั้นเองครับ เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าจิตเราสงบระดับนึง

 

ซ้ำอีกรอบครับ..

 

คุณยังไม่ได้พิจารณาสังขารหรือวิปัสสนาจึงไม่น่าใช่วิปัสนูกิเลส เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า นิมิตครับ มันจะเกิดขึ้นได้ในขั้นทำสมถะกรรมฐาน

ลักษณะของนิมิตมันจะสัมพันธ์กับรูป แสง สี เสียง กลิ่น รส สัมผัส หรือ กามคุณห้า บางคนอาจเห็นเป็นแสงสว่าง แสงสีต่างๆ บางคนอาจได้ยินเสียงแปลกๆ เสียงดังบางคนอาจได้กลิ่นเหม็นหรือหอม บางคนอาจถึงขั้นเห็นนางฟ้า นางไม้ กึ่งเปลือยมายั่วยวน เอาหน้าอกมาถูไถก็มีครับ

ที่มันเห็นนิมิตได้ก็เพราะว่าจิตมันกำลังเปลี่ยน จากกามาวจรจิตหรือจิตที่ยังข้องอยู่ในกามคุณห้าของมนุษย์ไปเป็นขั้นอุปจารจิต ผมเรียกง่ายๆว่าจิตเทพหรือจิตทิพย์ จิตประเภทนี้จะสามารถสัมผัสโลกทิพย์หรือมิติที่สุขุมละเอียดได้ครับ

วิธีการจัดการกับนิมิตคือต้องดูที่ประโยชน์และโทษของมัน ถ้ามีประโยชน์ก็รักษานิมิตนั่นไว้ ถ้าไม่มีประโยชน์ก็อย่าไปใส่ใจมันครับ บางคนมีบุญเก่ามาแต่ชาติก่อนทำสมาธิแล้วได้อสุภนิมิตคือ เห็นภาพซากศพในแบบต่างๆซ้ำๆกันทุกครั้ง เห็นแล้วก็สลดสังเวชเบื่อหน่าย นี่เรียกว่าอยู่ในขั้นสกิทาคาหรืออนาคามิมรรคแล้วครับ

 

ต๊อดดดดดดด !!!

อ้าว คณะกรรมการ กด x ทั้งสามท่าน นี่มันเกิดอะไรขึ้น !?

กรรมการท่านที่หนึ่ง เผยิกหน้าให้คนที่สอง

กรรมการคนที่สอง ส่ายหน้าอย่าผิดหวัง พูดอะไรไม่ออก

กรรมการคนที่สาม สั่นสู้ ส่งเสียงกระซิบไปบอกโฆษก
ผ่านไมค์แดงว่า

" นี่ๆ ได้ยินแล้วเหยียบเลยนะ สกิฯ อนาฯ หากได้แล้ว
ไม่มีเรื่อง กลับมาเกิดเป็น มนุษย์ เพื่อภาวนาต่อ "

 

ขณิกสมาธิ ครับ ไม่มีอะไร

 

ไม่เชื่อนะครับ อรหันต์ไม่ตกนารกก็ไม่เชื่อ
พระอริยะบุคคลเป็นแล้วต้องเมตตาโปรตสัตว์ ไปได้หมด ทั้งนรกสวรรค์ ไปเองเลยนรกอะ

 

อ่านรกจ๋าขอห่วงอย่างห่างๆนะ55

 

เจริญเมตตานะ พระอริยะเป็นแล้วเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ไม่มาเกิด ไม่โปรดสัตว์..ใจต่ำเท่าปุถุชน บางที่อาจจะต่ำเท่า.....คิดเอง
คิดถึงกลักความเป็นจริง หัดวางตำราเสียแต่เนิ่นๆ ถือไว้มันหนัก มือไม่ไปว่างไปทำอะไร
แม้แต่จะยกมือไหว้ พระ.ฃแท้ที่มาโปรด เต็มหมด
ไม่เขื่อ.....
ก็ยกตำราบังหน้าไว้เลยนะ