**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5934

    เหรียญท้าวเวสสุวรรณ(ยักษ์ใหญ่) วัดเจดีย์สถานปี 2519 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

    ประสบการณ์เรื่องภูติผีปีศาจเรื่องโภคทรัพย์เป็นที่ยอมรับ

    จัดสร้างโดย พระอาจารย์ เกษม เกตุธัมโม เกิจอาจารย์ผู้ทริงวิยาคม ในช่วงที่เป็นฆาราวาสท่าน เคยฝากตัวเป็นศิษย์หลายสำนักเช่นเข้าอ้อ และ เกจิดังๆมากมาย ทั้งสักยันต์ ดูโหราศาสตร์ อักขระขอม อักขระล้านนา จนสุดท้ายท่านฝากตัวและอยู่เป็นศิษย์ หลวงปู่คำปัน วัดสันโป่ง และย้ายมาอยู่วัดเจดีย์สถานกับครูบาสิงห์คำศิษย์เอกหลวงปู่คำปัน และในปี2519 หลวงปู่คำปันท่านใด้สร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกท่านมีพิธีใหญ่ปลุกเสกทั้งคืนสมัยนั้น มีการสวดภานยักษ์ มีข้อสังเกตุว่าด้วยเหตุที่พระอาจารย์เกษมท่านเป็นคนนครศรีธรรมราช ที่นิยมบูชาองค์เทพต่างๆมากมาย รวมทั้งท้าวเวสสุวรรณด้วย พระอาจารย์เกษม ดูแลออกแบบเองอักขระเป็นแบบขอม แกะแบบโดยสุดยอดช่างฝีมือสมัยนั้นคืออาจารย์ เกษม มงคลเจริญ สร้างน้อยมากไม่เกิน3000เหรียญ เป็นเหรียญทองแดงรมดำ

    เหรียญท้าวเวสสุวรรณ วัดเจดีย์สถานสร้างตั้งแต่ ปี2519 พระอาจารย์เกษม ท่านก็ได้ปลุกเสกไปเรื่อยๆ เวลาท่านได้รับกิจนิมนต์ไปร่วมพิธิพุทธาภิเษกในที่ต่างๆ ท่านก็จะนำเหรียญรุ่นนี้ไปเข้าพิธีด้วยเสมอ. และในวันที่ 9 กพ 2520 ทางวัดสันโป่ง ได้มีการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของ ครูบาคำปัน สุภัทรโธ
    พิธีปลุกเสกได้จัดทำในวิหาร ต่อหน้าองค์พระประธานในพระอุโบสถ ในวันพุธแรม 6 ค่ำ ตรงกับวันที่ 9 กพ 2520 เวลา 14.39 น. เริ่มพิธีพราหมณ์ประกาศโองการบวงสรวงเทพยาดาฟ้าดิน อัณเชิญครู อาจารย์ รวมทั้งพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเป็นอาจารย์สายวิปัสนาของครูบาคำปัน จากนั้น พระเถระชั้นผู้ใหญ่ 9 รูป เจริญพุทธมนต์ เวลา18.19 น. ได้ฤกษ์จุดเทียนชัย เริ่มพิธีพุทธาภิเศก อธิษฐานจิต สวดอรรถคาถาธรรมจักรกัปปวัตนสูตร และสวดภาณยักษ์ โดยคณะสงฆ์จากวัดวังสรรพรส จันบุรี จบแล้ว พระพิธีธรรมคณะ วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ สวดพุทธาภิเศกต่อจนเสร็จพิธี

    มีพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกมากมายอาทิเช่น
    -หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    -หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    -หลวงปู่คำปัน วัดสันโป่ง
    -หลวงพ่อเจิม วัดวันยาวล่าง
    -หลวงพ่อศรีนวล วัดเกวียนหัก
    -หลวงพ่อคำปัน วัดหม้อคำตวง
    -ครูบาสม วัดโป่งกว๋าว
    -พระครูญาณภิรัต วัดป่าเจริญธรรม
    -พระอาจราย์ประเดิม วัดเพลงวิปัสสนา
    -พระอาจารย์ธีระ วัดพระธาตุสบฝาง เป็นต้น

    จัดได้ว่าเป็น เหรียญดี พิธีใหญ่พิธีหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ สมัยนั้น ท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ เป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย, มั่งคั่ง, รักษาทรัพย์สมบัติของเทวโลกและเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูติผีปีศาจทั้งปวง คณาจารย์ และเจตนาผู้สร้าง + ประสบการณ์ที่เล่าขานไม่รู้จบ เป็นเหรียญที่มีประสปการณมากเหรียญหนึ่ง เช่น ตชด ค่ายดารารัศมี อ.แม่ริมในยุทธภูมิร่มเกล้า ผีเข้าเจอเหรียญท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้องอยู่ไม่ได้ถึงกับต้องออกทุกราย เป็นเหรียญมหาอำนาจในตัว เป็นเหรียญที่มีค่านิยม ตอนนี้กลายเป็นเหรียญหลักของจังหวัดเชียงใหม่

    สวยเเชมป์เดิมๆ


    ราคา 25500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    uj.jpg o.jpg pou.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5935

    รูปหล่อรุ่นแรกหลวงปู่ครูบาอินตา ครูบาอินตา วัดห้วยไซ ปี 2539 กรรมการก้นอุดจีวร

    "หลวงปู่ครูบาอินตา วัดห้วยไซ"
    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)
    วัดห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
    อัตโนประวัติของหลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ วัดห้วยไซ ท่านเกิดเมื่อวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ ปี มะเส็ง(งูเล็ก) ตรงกับ วันเสาร์ ที่ ๖ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๔๘ ณ บ้านห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน มีนามเดิมว่า อินตา นามสกุล ปาลี เป็นบุตรของ นายก๋อง นางก๋ำ นามสกุล ปาลี เป็นคนที่มีเชื้อสายยอง มารดาของท่านเสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเด็กไม่รู้ความ ท่านจึงได้รับการเลี้ยงดูจากบิดาจนอายุท่านได้ ๙ ขวบ จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์วัด(ขะโยม)ที่วัดห้วยไซเพื่อจะได้รับการศึกษาเล่า เรียน ในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนเช่นปัจจุบัน เด็กชายอินตา จึงได้เรียนภาษาพื้นเมืองตามแบบสมัยนิยม และได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรขณะอายุได้ ๑๓ ปี พ.ศ.๒๔๖๑ ณ วัดห้วยไซ โดยมีพระภิกษุพุธเป็นผู้บวชให้ หลังจากบรรพชาเป็นสามเณรแล้วจึงได้ไปศึกษาภาษาไทยกลางเพิ่มเติมที่สำนักวัด สันก้างปลา(วัดทรายมูลในปัจจุบัน) อำเภอสันกำแพง โดยมีพระครูอินทนนท์ เจ้าอาวาส (ท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่เก่งกล้ามากได้ปรมัติสูญสตาอรรถพยัญชนะทรงอภิ ญาชั้นสูง)เป็นอาจารย์ผู้สอนให้ ด้วยความเป็นผู้ไผ่เรียนท่านยังมีความสนใจเรื่องของภาษาอื่นๆด้วยเช่น อักษรขอมโบราณ ภาษาอังกฤษ และจีนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยนั้น เมื่อพออายุครบบวชจึงได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดห้วยไซ พ.ศ.๒๔๖๙ โดยมีครูบาอินทจักร วัดป่าลาน เป็นพระอุปัชฌาย์(เป็นศิษย์ครูบาหลวงวัดฝายหิน จบสตาปรมัติรู้ภาษานกกาได้ เจนจบ 9 มัด) พระอธิการชื่น สันกอแงะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “อินฺทปัญฺโญภิกขุ”
    หลัง จากอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วจึงได้ตั้งใจที่จะศึกษาพระธรรมวินัยและสรรพวิชา ตามจริตวิสัยที่ชอบศึกษาหาความรู้อันเป็นทุนเดิมของท่าน ทำให้ท่านเป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนในเรื่องของวิชาพลังจิตที่สูงมากตลอด ถึงในวิชาอาคมแขนงต่างๆ ประกอบกับการปฏิบัติสมถะวิปัสสนาธุระควบคู่กันไประหว่างปีพ.ศ.๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยท่านได้มาเป็นประธานในการบูรณะพระธาตุดอยห้างบาตร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดห้วยไซมากนัก หลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้ไปร่วมในการบุญครั้งนั้นด้วยและได้พบกับครูบาศรี วิชัยและถือโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ หลังจากนั้นขณะที่ครูบาศรีวิชัยท่านเป็นประธานในการสร้างทางขึ้นดอยสุ เทพหลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้มีโอกาสไปร่วมในการสร้างทางด้วยเช่นกัน เมื่อครูบาศรีวิชัยมรณภาพไปหลังเสร็จสิ้นงานพระราชทานเพลิงศพ ผ้าขาวดวงต๋า ได้นำอัฐิธาตุของครูบาศรีวิชัยมาบรรจุและสร้างกู่อัฐิขึ้นที่บนดอยง้ม เขตติดต่อระหว่างอำเภอสันกำแพงกับอำเภอบ้านธิ หลวงปู่ครูบาอินตาท่านก็ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนร่วมในการนำสร้างด้วย ที่วัดห้วยไซเองท่านถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญที่มีส่วนร่วมกับอดีตเจ้าอาวาส ของวัดห้วยไซองค์ก่อนๆในการนำสร้างถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด โดยเฉพาะสมัยของพระครูดวงดี จนกระทั้งครูบาดวงดีท่านมรณภาพไป หลวงปู่ครูบาอินตาท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยไซ เมื่อพ.ศ.๒๕๑๙ และได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็น พระครูถาวรวัยวุฒิ เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๖ ระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นได้ได้ฝากผลงานทางด้านพระพุทธศาสนาและ สาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ พัฒนาถาวรวัตถุสิ่งก่อสร้างต่างๆของวัดห้วยไซจนเป็นที่เจริญรุ่งเรือง สาธารณะประโยชน์เช่นโรงเรียน สถานีอนามัย โรงพยาบาล ห้องสมุด ที่อ่านหนังสือพิมพ์ ตลอดจนฌาปนกิจสถานประจำหมูบ้าน นอกจากนั้นท่านยังทำนุบำรุงพระศาสนาไปยังวัดวาอารามต่างๆที่มาของความเมตตา อนุเคราะห์จากท่าน เช่น ถาวรวัตถุต่างที่วัดเปาสามขา วัดวังธาน อำเภอแม่ออน วัดโป่งช้างคต อำสันเภอกำแพง วัดเวียงแห่ง อำเภอเวียงแห่ง จังหวัดเชียงใหม่ วัดศรีชัยชุม บ้านห้วยไซเหนือ
    พระพุทธรูปยืนวัด ศรีดอนชัย อำเภอบ้านธิ ประธานสร้างตึกสงฆ์อาพาสโรงพยาบาลบ้านธิ และผลงานชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้ศิษย์ได้สารงานต่อคือพระวิหารของวัดห้วยไซ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพด้วยชราภาพ เมื่อวันที่ ๒๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๕ สิริรวมอายุได้ ๙๘ ปี ๗๗ พรรษา พระเถระที่หลวงปู่ครูบาอินตาท่านสนิทสนมไปมาหาสู่กันเป็นประจำก็มี ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ครูบาธรรมชัย วัดประตูป่า ครูบาสิริ วัดปากกองสารภี(ครูบาผีกลัว)ครูบาแก้ว สันกำแพงครูบาดวงทิพย์ วัดสันคะยอม(เป็นพระที่ครูบาพรหมาจักรนับถือมากๆ) ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาหล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ครูบาดวงจันทร์ วัดป่าเส้า ครูบาน้อย วัดบ้านปง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม ครูบาอินตา วัดวังทอง สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลังจากศิษยานุศิษย์ได้เก็บรักษาสรีระของหลวงปู่ครูบาอินตาไว้เป็นเวลาหลาย ปีแต่รางของท่านก็มิได้มีการเน่าเปื่อยแต่อย่างใด เมื่อก่อสร้างวิหารแล้วเสร็จจึงได้ของไฟพระราชทานและประกอบพิธีพระราชทาน เพลิงศพ เมื่อวันที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐
    สำหรับวัตถุมงคล ของหลวงปู่ครูบาอินตา ท่านได้สร้างขึ้นในยุคแรกๆก็จะมีเพียงยันต์และตระกุดเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหา ไว้ใช้ป้องกันตัวอิทธิวัตถุมงคลต่างๆก็มีประสิทธิผลจนเป็นที่ลำลือ
    หลวงปู่ครูบาอินตา อินทปัญโญ เอกองค์พระอาจารย์ที่ให้ดวงกรรมฐานกับครูบากฤษดา ตั้งแต่เป็นสามเณร ที่ท่านสามารถปราบความคิดที่อยากรู้อยากเห็น ซุกซนโลดเเล่นแก่นแก้วสามารถดักทางความคิดจิตของครูบากฤษดา ได้ทั้งหมดตั้งแต่เป็นสามเณรร่ำเรียนอยู่ในสำนักวัดห้วยไซใต้ ถือว่าเป็นพระอาจารย์องค์แรกครับ และก็มีครูบาชัยวงค์ได้ไปกราบคารวะสนทนาเป็นบางครั้งคราว และมีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ครูบากฤษดาเทิดเหนือหัวคือหลวงปู่พิสดู ธัมมจารี เป็นที่สุดครับ
    #กรรมการตัดจริงหายากสวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้ครับ


    ราคา 2900 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    yh[[.jpg jop.jpg oo.jpg t[.jpg Clip_15.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5935

    พระปิดตาราชินีหลวงพ่อบัวเกตุ วัดแม่ปางแม่ฮ่องสอน + วัดช่องลม ชลบรี ปี 36


    พระครูวิบูลย์ธรรมกิจ หรือ หลวงพ่อบัวเกตุ ปทุมสิโร สถานะเดิม ชื่อบัวเกตุ นามสกุล กิจสุภาพศิริกุล เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี แรม ๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีจอ ตรงกับวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๗ บิดาชื่อนายตงหริ่น แซ่สิ มารดาชื่อ เปีย แสงศรี เกิดที่ บ้านสวน ต.นาเกลือ.บางละมุง จ.ชลบุรี บรรพชาอุปสมบท ณ วัดช่องลม ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันจันทร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เวลา๑๑.๐๕ น. โดยมีพระเทพกวี (จั่น วิจญฺจโล) ท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติเคร่งครัด ตามหลักพระธรรมวินัย ไม่ยอมก้าวล่วงแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นพระสงฆ์ที่กราบไหว้ได้สนิทใจ ท่านพระอาจารย์บัวเกตุ หรือพระครูวิบูลธรรมกิจ ท่านเป็นพระสายวัดเทพศิรินทราวาส และเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบ ตามรอยท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ) ซึ่งเป็นพระบูรพาจารย์ของท่าน ซึ่งประชาชนในภาคตะวันออก และทางภาคเหนือ เคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก..ท่านเป็นพระในสายของสมเด็จวัดเขาบางทราย ซึ่งเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันกับท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ยันต์ที่ท่านใช้ก็เป็นยันต์น้ำเต้า.
    พระปิดตารุ่นนี้หลวงพ่อบัวเกตุ สร้างปี 2536 ถวายราชินีเมื่อครั้งเยี่ยมหลวงพ่อ ปี 37 เมื่อคราวตามเสด็จไปแม่ฮ่องสอน


    บูชาแล้วครับ

    dsd.jpg Clip_4.jpg ff.jpg tt.jpg iio.jpg y8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5936

    เหรียญรุ่นแรกพระครูอดุลธรรมญาณ (ครูบาศรี) วัดร่องไฮ จ.พะเยา ปี 2519


    เหรียญดังเมืองพะเยาหายากมาก


    คุณ j999 บูชาแล้วครับ

    ed.jpg fdi.jpg gfi.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2020
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5937

    เหรียญเม็ดกระดุมครูบาอินสม สุมโน วัดทุ่งน้อย สวยเลี่ยมเดิม

    สวยเลี่ยมเดิมจากวัด พุทธคุณแคล้วคลาดคงกระพัน กันผี ครบเครื่องเล็กพริกขี้หนู ตัวผมเองใช้ติดตัวตลอด พระดีน่าใช้


    ราคา 1250 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    de.jpg iko.jpg ry.jpg 9.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5938

    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ครูบาบุญทา สุวณฺโณ วัดสันป่าเหียง ต.มะเขื่อแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูนปี.๒๕๒๗


    ( เจ้าตำหรับ ตะกรุด นาคคอคำ อันเลืองลือ ) ท่านเป็นผู้ถ่ายทอดวิชานาคคอคำให้หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ วัดป่าตึง อีกหนึ่งพระเกจิฯคณาจารย์สายล้านนา ที่ เพียบพร้อม ด้วยพลังจิต อภิญญาอาคม เพียงแต่ ท่านเป็น พระสงฆ์ ที่ ไม่แสดงตน สมถะ เรียบง่าย ไม่โอ้อวด พูดน้อย แต่ พระสงฆ์ รุ่นราว คราวเดียวกัน จะทราบถึง กิตติศัพท์ ใน จริยาวัตร การปฏิบัติ ใน ปฎิปทา ท่าน

    เหรียญดังเมืองลำพูน


    บูชาแล้วครับ

    IMG_0385.JPG IMG_0386.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2020
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5939

    พระรอดหลัง อ รุ่นแรกครูบาอินทร วัดสันป่ายางหลวง


    พระดีประสบการณ์ สูง ใช้แทนพระรอดลำพูนของเก่าได้เลยครับ


    คุณ มรรคเวทย์ บูชาแล้วครับ

    IMG_0391.JPG IMG_0392.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2020
  8. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบพระคุณครับ
     
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5940

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระประทานเล็ก ยุคต้น

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล

    พิมพ์พระประทานเล็กเนื้อหาจัดจ้านเก่าแห้งดูง่ายมากครับ


    ราคา 2650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    yho.jpg u.jpg r.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5941

    กริ่งรุ่นแรกครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง เนื้อผสมทองระฆัง ตอก 3 โค๊ต


    พระกริ่งรุ่นแรก ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน พศ.2523 เนื้อโลหะมีส่วนผสมทองระฆังของลพ.พรหม วัดช่องแค ซึ่งชนวนทองระฆังนี้ได้มาจากคุณหมอสมสุข คงอุไร แห่งคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก ซึ่งได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของเกจิที่มีวิชาความรู้เข้มขลังหลายรูป และยังดำเนินการสร้างพระถวายให้พระเกจิอาจารย์จนได้รับความนิยมหลายรุ่น โดยเฉพาะพระชุดเนื้อผสมทองระฆังของลพ.พรหม วัดช่องแค ที่ราคาค่านิยมสูง สำหรับพระกริ่งของครูบาขันแก้วเป็นพระกริ่งรุ่นแรกรุ่นเดียวของท่าน สร้างจำนวนน้อยมากประมาณ 300 องค์ เททองแบบโบราณ ด้านหลังพระกริ่งตอกโค๊ต ซึ่งเป็นโค๊ตประจำตัวของคุณหมอสมสุข คงอุไร “พระสภาพสวยเดิม
    ตอก3โค๊ตแบบนี้ชัดเจน หายากมากครับ


    บูชาแล้วครับครับ

    oi.jpg Clip_8.jpg uo.jpg h.jpg ppp.jpg ggf;.jpg g.jpg
    Clip_8.jpg Clip_26.jpg

    หลวงปู่ขันแก้ว เป็นเพื่อนรักของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลช่วยงานศพอยู่ทุกคืนน่าจะนิมนต์มาท่านมาร่วมด้วย จะเคยปลุกเสกหรือไม่เคยปลุกเสกไม่สำคัญ คณะกรรมการวัดก็เลยนิมนต์ หลวงปู่ครูบาขันแก้ว มาร่วมพิธีด้วยแสดงความมหัศจรรย์นั่งเคี้ยวเมี่ยงในงานพุทธาภิเษก
    พิธีปลุกเสกได้เริ่มในตอนกลางคืนวันที่ 18 ก.พ. 2520 เวลา19.50น หลวงปู่ขันแก้ว ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาพระประธาน หลวงปู่อีก3 องค์คือ หลวงปู่อินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ท่านเจ้าคุณญาณ วัดมหาวัน หลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย นั่งหลับตาแผ่อำนาจจิตปลุกเสก แต่หลวงปู่ขันแก้วกับนั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงอยู่เบิกตากว้างมองดูเฉยๆๆ ชาวบ้านวัดวังมุ่ยเริ่มมีปฎิกริยาพึมพำพูดกันว่าใครหนอนิมนต์ตุ๊เจ้าที่ปลุกเสกไม่เป็นมาร่วมพีธี ทำเอาเจ้าคณะตำบลประตูป่าเข้ามาพูดกับคุณพ่อสมสุขว่า โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา พวกที่ชมและชาวบ้านในพีธีบ่นว่าไปเอาพระที่ไหนมา ดูซินั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย คุณพ่อบอกว่าผมนิมนต์มาเองขอให้รอดูประเดี๋ยว
    คุณพ่อยังนึกอยู่ว่านั่งเบิกตาอย่างนี้เคยเห็นที่ไหน หลวงปู่ขันแก้วนั่งลืมตาอยู่เกือบ15 นาที่ ประกายตากร้าวแข็ง ส่วนองค์อื่นท่านนั่งหลับตาตามความถนัดของท่าน ส่งกระแสจิตออกมาปลุกเสก หลวงปู่ขันแก้ว ปลุกเสกด้วย เมตตาเจโตวิมุติ หลวงปู่เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยนั่งห้อยเท้า ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้า ขณะนั้นช่างภาพก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น ทันที่ที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้านัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กระพริบ ช่างภาพอีกหลายคนก็เข้าไปถ่ายแสงไฟสว่างจ้าแต่นัยต์ตาของหลวงปู่ก็อยู่อย่างปกติคือลืมตาอย่างนั้นไม่กระพริบเลย หลังจากนั้นช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็เข้าไปถ่ายซึ่งไฟแฟล็ชแรงกว่ามากก็เข้าไปถ่ายผลปรากฎ ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบเป็นเวลานาน คนธรรมดาไม่สามารถทำได้อย่างแน่ เปิดภูมิปัญญาโลกุตระด้วยมหากริยาจิต

    คุณพ่อเข้าใจทันที ที่นึกว่าเคยเห็นที่ไหนก็นึกออกว่าเคยเห็น หลวงปู่พรหม ถาวโร แห่งวัดช่องแค ท่านปลุกเสก พระแสงแฟล็ช ถ่ายรูปไม่ทำให้ นัยน์ตา ท่านกระพริบและท่านก็นั่งลืมตาปลุกเสกความจริงแล้วหลวงปู่ขันแก้วไม่ได้มีเจตนาจะแสดงอภินิหารหรืออวดเป็นเพียงการนั่งปลุกเสกของผู้สำเร็จอานาปานสติกรรมฐาน คือสมาธิแบบลืมตาและนั่งหายใจออก หายใจเข้าจนได้ดวงตาเห็นธรรมและใจหมดอาสวะกิเลสเป็นแบบสมาธิที่ถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานแสดงในอานาปาสติสูตรจากหนังสืองานพระศพของหลวงปู่ขันแก้วที่คุณพ่อสมสุขเขียนเอาไว้ ขอบคุณที่มาของข้อมูลจาก www.ratsameepormpotigo.blogspot.com

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2021
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5942

    เหรียญตานใช้ตานแทน ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    ปี 35 เนื้อเงิน ผิวกระจก

    จัดสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในพิธีสำคัญ เป็นพิธีชำระหนี้เจ้ากรรมนายเวร ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร (ตานใช้ตานแทน) เน้นทางการต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล
    ปลุกเสกในพิธีชำระหนี้สงฆ์ตานใช้ตานแทน ปี 2535
    มีเกจิคณาจารย์ ร่วมปลุกเสกดังนี้
    1 . หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    2 . หลวงปู่ดาบส สุมโณ สำนักสงฆ์ไผ่มรกต เชียงราย
    3 . ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ ลำพูน
    4 . หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    5 . หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    6 . ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    7 . ครูบาน้อย วัดบ้านปง
    8 . ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    อักขระ ยันต์ด้านหลังของเหรียญทำน้ำมนต์ตาน ใช้ตานแทนนี้ เป็นอักขระยันต์พระโมคคัลลานะ เป็นเหรียญที่อยู่คู่กับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง มีอานุภาพ คลายกฏแห่งกรรมเช่นเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง พระดีน่าใช้ สวยเดิมๆ ราคาเบา ๆ "ต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล"
    #เนื้อเงินจัดสร้างน้อยมากผิวสวยใสเดิมๆครับ

    #รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ


    ราคา 14500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_4.jpg Clip_6.jpg Clip_7.jpg Clip_15.jpg Clip_16.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5943

    มีดหมอครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ออก แก่งสร้อย ปี 2539 สวยเเชมป์


    จัดสร้างโดยท่านพระป่านิกร ชัยเสนโน วัดพระบรมธาตุแก่งสร้อย ได้ขอเมตตาหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จัดสร้างมีหมอรุ่นแรก ในปี 2539 เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนบูรณะโบสถ์ของวัดแก่งสร้อย จำนวน 300 เล่ม หลวงปู่ท่านเมตตาออกแบบ ลงคาถา หัวใจเเม่ธรณี ธรณีสารช้างเผือก เป็นภาษาล้านนา ลงในใบมี ว่า ริติติมุมุธรณีติติ มอบหมายให้ช่างขันชัย โสภักต์ ร้านดาบทุ่งเกวียนลำปาง เป็นช่างผู้จัดทำ หลวงปู่เมตตาอธิฐานจิตออกให้บูชา ในงานกฐินวัดแก่งสร้อย ในปี 2539

    คาถาเสกมีดของครูบาวงค์ ท่านใช้คาถาหัวใจท้าวมหาราช และหัวใจธรณีสารช้างเผือก มีอุปเทห์การใช้คือ หัวใจท้าวมหาราช ป้องกันภูตผีปีศาจคุณไสย์ อมนุษย์ร้าย ส่วนธรณีสารช้างเผือก นั้น ป้องกัน อุบาด เสนียญจัณไร ภัยทั้งหลาย วิธีที่จะปลุกเสกธรณีสารช้างเผือก ต้องเสกคาถาใส่เทียนสีผึ้งแท้ จำนวน 3 เล่มให้เทวดาบริวาลของท่านมาคุมศาตรามหาราชทุกด้าม ให้มีผลเป็นกรณีพิเศษ เป็นที่รักของมนุษย์ เทพ เทวดา เป็นมหาลาภ มหาอำนาจ กันภูตผีปีศาจ เสนียญจัญไร คุณไสย์ ภัยทั้งหลาย



    เป็นมีดหมดรุ่นแรกของหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ จัดสรา้งเพียง 300เล่มเท่านั้น สวยเดิมไม่ผ่านการใช้ครับ ท่านที่ชอบเก็บของสวยไม่ควรพลาดครับ


    บูชาแล้วครับ

    f.jpg gf.jpg Clip_2.jpg Clip_3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2021
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่5944

    ม้าเสพนาง ครูบาบุดดา วัดหนองบัวคำ ฝังตะกรุด 5 ดอก


    หลวงปู่ครูบาบุดดา วัดหนองวัวคำ จ.ลำพูน ท่านเป็นศิษย์ของ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ต้นตำรับ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองเหนือ ท่านเป็นศิษย์ของ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ต้นตำรับตำนาน วิชา "ม้าเสพนาง" จึงขอสืบทอดให้ขลังเหมือนของครู จอบม้าคู่นาง เป็นเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้พกบูชา ทำจากผงปัถมัง ผงมหาเสน่ห์ ผู้ใดพกแล้ว จะทำให้ตนเองดูดีมีเสน่ห์ ชายใดเห็นเป็นต้องเข้าหา หญิงใดเห็นก็อยากพูดคุยด้วย เพื่อนฝูงรักใคร่จนไม่อยากจากไปไหน มีข้อแม้ว่าอย่าด่า อย่าพูดจาหยาบคาย คนจะยิ่งรักยิ่งหลง
    จอบม้าคู่นาง (จอบ เกือกม้า ใช้เร็ว ผลไว ถากได้ ถางได้ ฟันดี)
    เป็นเรื่อง Talk of the town ยุคนี้ไปแล้วสำหรับ "ม้าคู่นาง" เสกมีฤทธิ์ที่สุด ต้องของครูบาบุดดา เพราะท่านสืบทอดมาจากครูบาวัง วัดบ้านเด่น สร้างกี่รุ่นก็มีประสบการณ์ มีอานุภาพทางเมตตา มหาเสน่ห์ อย่างโดดเด่น ต่อไปในภายหน้าจะหาม้าคู่นางอย่างหลวงปู่ไม่ได้อีก
    ล่าสุด หลวงปู่ได้สร้างม้าคู่นาง เป็นลอยองค์รูปทรงจอบเป็นตัวครั้งแรก หลวงปู่ครูบาท่านบอกเองว่า "ยะจะนี้ แหม ยากนัก สูงกว่ารูปภาพ ผ้ายันต์ ขึ้นมาหน่อย เพราะต้องขึ้นมโนภาพ ตั้งอารมณ์ให้รัก เมตตา เสน่ห์หา แผ่ไปทั่วจักรวาล ครอบคลุมโลกธาตุทั้งหมดถึงจะได้"
    เหตุที่หลวงปู่ตั้งใจสร้างเป็นรูปทรงจอบแบบเดียวกับที่ใช้ขุดดิน ถางหญ้า เพราะให้ม้าฯ เครื่องรางมหาเสน่ห์ชั้นยอดนี้ ไปถากถางใจของเพศเดียวกัน และเพศตรงข้าม ซึ่งตั้งใจอธิษฐานเอาเองเฉพาะตัว
    ม้าคู่นางรุ่นนี้พิเศษมาก เพราะท่านค้นหามวลสารหลายสิบปี เป็นมวลสารชั้นยอดทั้งนั้น อาทิ ขี้ผึ้งร้างรัง (เคล็ดลับรักไม่ร้างลา) ตานีตายทั้งกลม อย่าตกใจ หลวงปู่ให้เอา ต้นกล้วยตานีที่กำลังออกปลี หรืออกลูก ๙ ตำบล (แรงรักไม่มีวันเลิกรา) กะลาแฝด ว่านไก่ดำไก่แดง ดอกตะไคร้ ว่านช้างผสมโขลง ว่านจูงนาง ว่านนางกวัก ดอกกาฝากรัก กาฝากมะยม กาฝากคูณ กาฝากรักซ้อน รากรักซ้อนรังนกสาริกาตายคารัง ไม้ไก่กุ๊ก ว่านจูงนางสาวหลง เสน่ห์จันทร์ นางล้อม พรานหลง เครือเถาวัลย์หลง ว่านห้าร้อยนางดอกทอง สาริกาลิ้นทอง มหาโชคมหาลาภ ว่านนางตาม ว่านนะหน้าทอง ว่านเสน่หฦขุนแผน น้ำมันช้างตกมัน น้ำมันพญาเทครัว ไข่มุกทะเล ทรายเงินทรายทอง
    ลักษณะเกือกม้ามีดีตรงที่ตอนใช้ เดินไปไหนไม่มีอุปสรรค มีเสียงดังกังวาน เราผกม้าคู่นางองค์นี้ไป เข้าที่ไหนก็ใช้ได้ ไม่เสื่อม มีชื่อเสียงยศศักดิ์ฟุ้งกระจายไปหมด ฝังตะกรุดที่ลงหัวใจ "นา หัตวา" คนรักทั่วเรือน และโรยผงครกแตก บ้านแม่ม่าย (เคล็ดว่า ได้เงินได้ทอง ได้กิน จนครกแตก มีเข้ามาจนล้น) ฝังเม็ดมะกล่ำตาแดง (มีสีดำ แดง กินกัน) ตำราเหนือ บอกว่า แทนพระอาทิตย์ (สีแดง) ให้ความร้อนแรง ให้พลัง ให้ความอบอุ่น ให้ความสุข และสีดำ แทนพระราหู เกื้อหนุนดวงให้สดใสดีอยู่เสมอ ไม่ให้ดวงตก
    ใครมีไว้บูชา หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น เกิดเมตตารักใคร่ จะโดดเด่นในเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ สมหวังในเรื่องความรัก ชีวิตครอบครัวมีความสุข ความเจริญ เดินทางไปแห่งหนตำบลใด จะมีคนให้ความอนุเคราะห์อุ้มชู ไม่อดอยากยากไร้ มีคนอยากคุยอยากรู้จักด้วย มีเสน่ห์ดีนักแล ของดีสร้างน้อย .
    หลวงปู่ครูบาบุดดา วัดหนองวัวคำ จ.ลำพูน ท่านเป็นศิษย์ของ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ต้นตำรับ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองเหนือ ท่านเป็นศิษย์ของ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ต้นตำรับตำนาน วิชา "ม้าเสพนาง" จึงขอสืบทอดให้ขลังเหมือนของครู จอบม้าคู่นาง เป็นเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้พกบูชา ทำจากผงปัถมัง ผงมหาเสน่ห์ ผู้ใดพกแล้ว จะทำให้ตนเองดูดีมีเสน่ห์ ชายใดเห็นเป็นต้องเข้าหา หญิงใดเห็นก็อยากพูดคุยด้วย เพื่อนฝูงรักใคร่จนไม่อยากจากไปไหน มีข้อแม้ว่าอย่าด่า อย่าพูดจาหยาบคาย คนจะยิ่งรักยิ่งหลง
    จอบม้าคู่นาง (จอบ เกือกม้า ใช้เร็ว ผลไว ถากได้ ถางได้ ฟันดี)
    เป็นเรื่อง Talk of the town ยุคนี้ไปแล้วสำหรับ "ม้าคู่นาง" เสกมีฤทธิ์ที่สุด ต้องของครูบาบุดดา เพราะท่านสืบทอดมาจากครูบาวัง วัดบ้านเด่น สร้างกี่รุ่นก็มีประสบการณ์ มีอานุภาพทางเมตตา มหาเสน่ห์ อย่างโดดเด่น ต่อไปในภายหน้าจะหาม้าคู่นางอย่างหลวงปู่ไม่ได้อีก
    ล่าสุด หลวงปู่ได้สร้างม้าคู่นาง เป็นลอยองค์รูปทรงจอบเป็นตัวครั้งแรก หลวงปู่ครูบาท่านบอกเองว่า "ยะจะนี้ แหม ยากนัก สูงกว่ารูปภาพ ผ้ายันต์ ขึ้นมาหน่อย เพราะต้องขึ้นมโนภาพ ตั้งอารมณ์ให้รัก เมตตา เสน่ห์หา แผ่ไปทั่วจักรวาล ครอบคลุมโลกธาตุทั้งหมดถึงจะได้"
    เหตุที่หลวงปู่ตั้งใจสร้างเป็นรูปทรงจอบแบบเดียวกับที่ใช้ขุดดิน ถางหญ้า เพราะให้ม้าฯ เครื่องรางมหาเสน่ห์ชั้นยอดนี้ ไปถากถางใจของเพศเดียวกัน และเพศตรงข้าม ซึ่งตั้งใจอธิษฐานเอาเองเฉพาะตัว
    ม้าคู่นางรุ่นนี้พิเศษมาก เพราะท่านค้นหามวลสารหลายสิบปี เป็นมวลสารชั้นยอดทั้งนั้น อาทิ ขี้ผึ้งร้างรัง (เคล็ดลับรักไม่ร้างลา) ตานีตายทั้งกลม อย่าตกใจ หลวงปู่ให้เอา ต้นกล้วยตานีที่กำลังออกปลี หรืออกลูก ๙ ตำบล (แรงรักไม่มีวันเลิกรา) กะลาแฝด ว่านไก่ดำไก่แดง ดอกตะไคร้ ว่านช้างผสมโขลง ว่านจูงนาง ว่านนางกวัก ดอกกาฝากรัก กาฝากมะยม กาฝากคูณ กาฝากรักซ้อน รากรักซ้อนรังนกสาริกาตายคารัง ไม้ไก่กุ๊ก ว่านจูงนางสาวหลง เสน่ห์จันทร์ นางล้อม พรานหลง เครือเถาวัลย์หลง ว่านห้าร้อยนางดอกทอง สาริกาลิ้นทอง มหาโชคมหาลาภ ว่านนางตาม ว่านนะหน้าทอง ว่านเสน่หฦขุนแผน น้ำมันช้างตกมัน น้ำมันพญาเทครัว ไข่มุกทะเล ทรายเงินทรายทอง
    ลักษณะเกือกม้ามีดีตรงที่ตอนใช้ เดินไปไหนไม่มีอุปสรรค มีเสียงดังกังวาน เราผกม้าคู่นางองค์นี้ไป เข้าที่ไหนก็ใช้ได้ ไม่เสื่อม มีชื่อเสียงยศศักดิ์ฟุ้งกระจายไปหมด ฝังตะกรุดที่ลงหัวใจ "นา หัตวา" คนรักทั่วเรือน และโรยผงครกแตก บ้านแม่ม่าย (เคล็ดว่า ได้เงินได้ทอง ได้กิน จนครกแตก มีเข้ามาจนล้น) ฝังเม็ดมะกล่ำตาแดง (มีสีดำ แดง กินกัน) ตำราเหนือ บอกว่า แทนพระอาทิตย์ (สีแดง) ให้ความร้อนแรง ให้พลัง ให้ความอบอุ่น ให้ความสุข และสีดำ แทนพระราหู เกื้อหนุนดวงให้สดใสดีอยู่เสมอ ไม่ให้ดวงตก
    ใครมีไว้บูชา หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น เกิดเมตตารักใคร่ จะโดดเด่นในเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ สมหวังในเรื่องความรัก ชีวิตครอบครัวมีความสุข ความเจริญ เดินทางไปแห่งหนตำบลใด จะมีคนให้ความอนุเคราะห์อุ้มชู ไม่อดอยากยากไร้ มีคนอยากคุยอยากรู้จักด้วย มีเสน่ห์ดีนักแล ของดีสร้างน้อย .


    ท่านสืบทอดวิชาของครูบาอาจารย์รุ่นเก่าสร้างไว้ได้อย่างเข้มขลังยิ่งนัก ครูบาบุดดาอายุ92ปี ท่านเป็นศิษย์ของ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จึงสืบทอดวิชาม้าเสพนางของได้ขลังเหมือนของครู แม้รูปลักษณ์ภายนอกอาจแลดูพิสดารแต่เพราะเป็นวิชามหาเสน่ห์ด้านนี้โดยเฉพาะ พกได้ทั้งหญิงและชาย หรือเพศตรงข้าม เป็นเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้พกบูชา ทำจากผงปัถมัง ผงมหาเสน่ห์ ผู้ใดพกแล้ว จะทำให้ตนเองดูดีมีเสน่ห์ ชายใดเห็นเป็นต้องเข้าหา หญิงใดเห็นก็อยาก พูดคุยด้วย เพื่อนฝูงรักใคร่จนไม่อยากจากไปไหน มีข้อแม้ว่าอย่าด่า อย่าพูดจาหยาบคาย คนจะยิ่งรักยิ่งหลง ครูบาบุดดา ท่านเคยทำผ้ายันต์แล้ว ขลังขนาดแรงมากอย่าให้ตกถึงมือหนุ่มคนไหนเลย เป็นได้ควงผู้หญิงสาวสวยทุกรายไป "วิชาม้าคู่นาง" เป็นวิชาใช้สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ เนื่องจากทางให้ผลทางเสน่ห์รุนแรงมาก ผู้ชายจะไปเที่ยวหาสาว หากได้พกติดตัวไปด้วยต้องได้พบรัก ใครตามหาเครื่องรางที่แรงด้วย เรื่องคู่รัก...เรื่องจีบสาว...ไม่ควรพลาด ผู้ใช้ควรใช้อย่างมีศีลธรรม นำไปใช้ในทางที่ดี กับผู้ที่ยังไม่มีเจ้าของ เลี้ยงดู และดูแลเขาด้วยความรัก


    สวยแชมป์ เดิม ๆ นาน ๆ เจอสักองค์ครับ เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ พร้อมใช้

    บูชาแล้วครับ

    xfs.jpg Clip_4.jpg op.jpg ik.jpg i.jpg ttr.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2021
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5945

    พระกริ่งรุ่นแรกหลวงพ่อดาบส สุมโน เนื้อโลหะออกวัดดอยขุมเงิน ลำพูน หลวงพ่อท่านเมตตาจารก้นทุก ตอดโค๊ต

    บูชาแล้วครับ

    ff.jpg kk.jpg jj.jpg ffd.jpg Clip_5.jpg Clip_6.jpg Clip_7.jpg

    องค์“หลวงพ่อดาบส สุมโน ” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์” เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง” ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘ ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท” ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว ้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๓๔ สิริอายุได้ ๗๖ ปี “หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่านจึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2021
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5946

    เหรียญสุริยุปราคา ครูบาสร้อย.วัดมงคลศีรีเขต จ.ตาก
    เนื้อฝาบาตร สวย ๆ


    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_0467.JPG IMG_0468.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5946

    เหรียญรุ่รแรกครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ปี 2507
    บล็อก จ จุดนิยม

    สวยหลักหมื่น สภาพใช้ ราคาเบา ๆ ครับ


    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_0469.JPG IMG_0470.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  18. chu2563

    chu2563 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +51
    จองครับ
     
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบพระคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Clip_10.jpg
      Clip_10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.9 KB
      เปิดดู:
      42
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5947

    ล๊อกเก็ตฉากทองครูบาบุญปั๋นวัดร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้างพร้อมพระกริ่งเศรษฐีล้มลุกปี 2544 จำนวนสร้าง 194 องค์


    ด้านหลังอุดผงเศรษฐีล้มลุก,ข้าวก้นบาตร,ตะกรุด,พลอยพระธาตุ,เม็ดพระธาตุ,จีวรและเส้นเกศา
    เป็นล๊อคเก็ตอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของครูบาบุญปั๋นครับ

    คุณ j999 บูชาแล้วครับ


    [p.jpg oi.jpg ].jpg ][][.jpg Clip_3.jpg Clip_8.jpg Clip_6.jpg Clip_5.jpg Clip_7.jpg

    เจ้าตำราวิชาเทียนเศรษฐีล้มลุกอันโด่งดัง...
    วิชา"เศรษฐีล้มลุก"นี้ ถือว่าเป็นวิชาคู่บุญบารมีครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้มก็ว่าได้ มีอานุภาพส่งเสริม"แก้ดวง หนุนดวง" และ"ส่งเสริมโชคลาภ"ให้บังเกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผู้ใดมีบูชาไว้ ไม่มีจน เป็นเศรษฐี ไม่มีวันล้ม
    ครูบาบุญปั๋น ธรรมปัญโญ วัดร้องขุ้ม พระอริยะบุคคลผู้มรณภาพแล้วอัฐิกลายเป็นพระธาตุ และเป็นผู้เชี่ยวชาญ ยันต์เทียนเศรษฐีล้มลุก ในอดีตตอนที่ท่านยังทรงสังขารอยู่เมื่อมีลูกศิษย์มาขอให้ท่านทำเทียนให้ ท่านจะทำเทียนโดยด้านในเป็นใส้เทียนสายสินจ์ห่อด้วย ยันกระดาษสา (ยันต์เศรษฐีล้มลุก) หุ้มด้วยขี้ผึ้งแท้ๆ ทำทีละขั้นตอนแบบแฮนด์เมด ตามวิธีของท่านแล้วลงชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิด ของผู้มาบูชาเทียนแล้วจึงนำไปจุด ปรากฏผลเป็นที่เรื่องลือไปทั่ว เด่นทางด้านโชคลาภ หนุนดวง กลับดวงดุจดังเศรษฐีที่ล้มแล้วกลับลุกมารวยใหม่ได้ เทียนใช้แล้วหมดไป ท่านจึงดำริทำพระกริ่งขึ้นมาเพื่อทดแทนเทียน ผู้นำไปบูชาเกิดประสบการณ์ดีๆทั่วหน้า โดยเฉพาะด้านธุรกิจ โชคลาภ การงาน หนุนดวง
    ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม สันป่าตอง เชียงใหม่ เป็นพระอริยะสงฆ์รูปสำคัญของเชียงใหม่ ศีลาจริยวัตรงดงาม มีเมตตาสูงมาก
    ……………………………………………………………ฃ
    ประวัติ หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม เชียงใหม่ ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ เกิดในตระกูล “ปัญญานุสงส์” โยมบิดาชื่อพ่ออุ้ยหม่อมจันทร์แก้ว ปัญญานุสงส์ โยมมารดาชื่อแม่อุ้ยหม่อนสมนา ปัญญานุสงส์ พระคุณท่านถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2451 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 9 เหนือ จุลศักราช 1270 ตัววอกฉนำกัมโพชขอมพิไสย ไทภาษาว่าปีเปิกสัน ณ บ้านแม หมู่ที่ 8 ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน จำนวน 7 ท่านคือ 1. พระครูคำอ้าย ชยวุฑ์โฒ อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมชัย อดีตเจ้าคณะตำบลบ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 2. พ่ออุ้ยน้อยใจ๋ ปัญญานุสงส์ 3. พ่ออุ้ยหนานคำ ปัญญานุสงส์ 4. พ่ออุ้ยก้อนแก้ว ปัญญานุสงส์ 5. แม่อุ้ยก๋องคำ ปัญญานุสงส์ 6. แม่อุ้ยดวงดี ปัญญานุสงส์ 7. ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ บรรดาพี่น้องทั้งหมดได้ถึงแก่มรภาพ และถึงแก่กรรมไปแล้วทุกท่าน ปฐมวัยแห่งชีวิต พ่ออุ้ยหม่อมจันทร์แก้ว แม่อุ้ยหม่อนสมนา ปัญญานุสงส์ ชาติภูมิท่านเป็นคนบ้านแมโดยกำเนิด จึงมีอาชีพในทางเกษตรกรรมดำเนินชีวิตด้วยการทำไร่ไถนาเลี้ยงดูบุตรธิดา ตามประสาของชาวบ้านโดยทั่วไป เมื่อครั้งยังเยาว์วัยอยู่นั้นท่านครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ได้ใช่ชีวิตเฉกเช่นชาวบ้านทั่วไป ส่วนใหญ่ก็ช่วยโยมบิดามารดาทำไร่ไถนา ในช่วงนี้ท่านครูบาคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ ผู้เป็นพี่ชายคนโต และพ่ออุ้ยน้อยใจ๋ ปัญญานุสงส์ พ่ออุ้ยหนานคำ พี่ชายคนรองทั้งสองได้เข้าไปเป็นเด็กวัด และได้รับการบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสามเณรก่อนหน้านั้นแล้ว ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ดำเนินชีวิตในเพศฆราวาสได้ไม่นาน ก็มาพิจารณาเล็งเห็นยังบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความทุกข์ยากลำบาก ต้องต่อสู้กับความยากจน บางครั้งต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อนำมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนเอง ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้พระคุณท่านมีใจน้อมไปในทางบรรพชา เพื่อจะศึกษาเล่าเรียนเพียรปฏิบัติธรรม ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ จึงได้นำเอาความนี้ไปเรียนให้โยมบิดาทราบ โดยมบิดาจึงได้ปรึกษากับโดยมมารดา ต่างก็มีความเห็นเป็นเอกาสมานฉันท์จึงได้พร้อมใจจัดพานข้าวตอกดอกไม้ นำเอาเด็กชายบุญปั๋น ไปฝากเรียนกับท่านครูบาเจ้าอาวาสวัดธรรมชัย บรรพชา เมื่อเด็กชายบุญปั๋น ในฐานะขะโยมเด็กวัดแห่งวัดธรรมชัยบ้านแม ได้รับการศึกษาอบรมอักขระวิธี ท่องจำบททำวัตรสวดมนต์และฝึกแสดงพระธรรมเทศนาแบบพื้นเมืองล้านนาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง พระสงฆ์ทุกท่านที่เป็นครูบาอาจารย์ต่างลงความเห็นว่าเด็กชายบุญปั๋น มีภูมิความรู้พอที่จะบรรพชาได้ และได้ตกลงจัดงานบรรพชาเด็กชายบุญปั๋น ยกฐานะขึ้นเป็นสามเณร ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 13 ปี โดยมีท่านครูบาเจ้าสุริยะ สุริโย เจ้าอธิการวัดร้องขุ้ม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันอังคารที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ตรงกับวันแรม 3 เดือน 5 เหนือ เมื่อบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ได้ตั้งใจเล่าเรียนวิชาความรู้ในทางพระพุทธศาสนาเต็มกำลั Clip_3.jpg งความสามารถ อำนาจแห่งโรคภัยจึงจำใจลาสิกขาบท แต่อุปสรรคของการศึกษาและปฏิบัติธรรมก็ปรากฏขึ้นเมื่ออายุได้ 19 ปี จากอาการที่ท่านเล่าให้ฟังสันนิษฐานว่าท่านอาพาธด้วยโรคหัวใจ โยมบิดาและญาติผู้ใหญ่ พร้อมด้วยครุบาอาจารย์ได้นำท่านไปรับการรักษาจามสถานพยาบาลต่างๆทั้งแบบแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน ก็ปรากฏว่าอาการไม่ทุเลาเบาบางเลย กลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งอายุได้ 24 ปี แม้จะมีอายุครบแล้วก็ยังไม่ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ต่อมาในการณ์นั้นปรากฏว่ามีนักบุญท่านหนึ่ง คนทั้งหลายเรียกกันว่า พระฤาษี ท่านได้เดินธุดงค์มาโปรดคณะศรัทธาญาติโยมที่บ้านกาด ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ คุณวิเศษของพระฤาษีตนนี้คือท่านสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด โยมบิดาจึงตัดสินใจพาท่านไปขอรับการรักษาจากพระฤาษี สามเณรบุญปั๋นจึงได้ลาสิกขาบทจากสามเณรออกไปเป็นชั่วคราว เมื่ออายุได้ 24 ปี แต่ได้สมาทานศีลนุ่งขาวห่มขาวขอบวชเป็นชีผ้าขาว และได้รับการรักษาตัวจากพระฤาษีเป็นเวลา 1 ปี จนกระทั่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆหายไปหมดสิ้น จากนั้นท่านได้ติดตามพระฤาษีไปโปรดเมตตารักษาคนตามสถานที่ต่างๆ เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ตลอดเวลาที่ลาสิกขาบทออกไปเพื่อรักษาตัวนั้น นายน้อยผ้าขาวบุญปั๋นได้คิดอยู่เสมอว่าหากอาการอาพาธหายแล้วก็จะกลับมาบวชอีกครั้ง จึงขออนุญาตพระฤาษีเดินทางกลับมายังวัดธรรมชัยบ้านแมและได้กราบเรียนเรื่องนี้แด่ท่านครูบาคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ แจ้งความประสงค์ที่จะขอกลับเข้ามาอุปสมบทอีกครั้ง ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา อุปสมบท กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อท่านครูบาคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ และคณะศรัทธาทราบถึงกุศลเจตนา แล้วก็ได้จัดให้เป็นไปตามความประสงค์ของท่าน ดังนั้นนายน้อยผ้าขาวบุญปั๋น จึงได้รับการอุปสมบทอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 25 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2477 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ขณะมีอายุได้ 26 ปี ณ พัทธสีมาโรงอุโบสถวัดร้องขุ้ม ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ โดยมี เจ้าอธิการอุนใจ๋ ญาโณ (ครูบาญาณะ) เจ้าอาวาสวัดท่าโป่ง เจ้าคณะตำบลบ้านแม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบุญมา เมโธ (ครูบาเมธา) อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดวนารามน้ำบ่อหลวง เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการเตชา เตชกโร (ครูบาเตชา หรือท่านครูบาหนิ้ว) เจ้าอาวาสวัดจอมแจ้ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “ธมฺมปญฺโญ” แปลว่า ผู้มีปัญญารู้ธรรม ศึกษาและปฏิบัติธรรม เมื่ออุปสมบทแล้วพระบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ก็ได้ตั้งใจศกึษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตามแนวทางแห่งพระพุทธศาสนามาด้วยดีโดยตลอด และได้รับการศึกษาอบรมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ประกอบไปด้วย พระครูคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ เจ้าอธิการอุ่นใจ๋ ญาณ พระครูบุญมา เมโธ ครูบาโสภา โสภโณ และพระสุธรรมยานเถร เจ้าอาวาสวัดวนารามน้ำบ่อหลวง คนทั่วไปเรียกท่านว่า “ครูบาเจ้าอิทจักรรักษา” ปัจฉิมวัยแห่งชีวิต เมื่อท่านครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ มีพรรษายุกาลมากขึ้น ก็มีศรัทธาสาธุชนที่เคารพเลื่อมใสท่านมากขึ้น มีผู้คนเดินทางมานมัสการขอพรและอาราธนาท่านไปกิจนิมนต์ต่างๆโดยตลอด ในปี 2538 ท่านได้เกิดอุบัติเหตุหกล้มลงตรงที่บันไดกุฏิ ทำให้กระดูกเองและกระดูกสันหลังของท่านแตกทำให้การเดินและการเคลื่อนไหวเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้อุปกรณ์เสริมช่วยในการเดิน และก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งในปี 2545 ระบบการทำงานของหัวใจของท่านครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ เป็นไปไม่ปรกติ และได้มรณภาพละสังขารเมื่อวันที่ 16 มกราคม2545 พระราชทานเพลิงปี 2548​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2020

แชร์หน้านี้

Loading...