**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบพระคุณครับ
     
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    พระแก้วมรกตหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ขนาด 9 นิ้ว

    พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (หรือ วัดพระแก้ว) ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
    พระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหยกอ่อนเนไฟรต์สีเขียวดังมรกต เป็นพระพุทธรูปสกุลศิลปะก่อนเชียงแสนถึงศิลปะเชียงแสน หลักฐานที่ตรงกันระบุว่าพบครั้งแรก ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์วัดป่าญะ หรือวัดพระแก้ว ตำบลเวียง เมืองเชียงราย
    ในปี พ.ศ. 1977 ฟ้าได้ผ่าลงองค์พระเจดีย์จนพังทลายลง จึงพบพระพุทธรูปพอกปูนลงรักปิดทอง จึงได้นำไปไว้ในวิหาร ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิกเกิดกระเทาะออก เห็นเป็นเนื้อมรกต จึงกระเทาะปูนออกทั้งองค์ เห็นเป็นเนื้อหยกสีมรกตทั้งองค์

    หลังจากนั้น พระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งเชียงใหม่ทราบข่าวการค้นพบพระพุทธรูปนี้ จึงเชิญมาประดิษฐานที่เชียงใหม่ แต่ช้างทรงพระแก้วมรกตกลับไม่เดินทางไปยังเชียงใหม่ แต่ไปทางลำปางหากช้างนั้นมีพระแก้วมรกตอยู่บนหลังช้าง เชียงใหม่เห็นว่าลำปางก็อยู่ในอาณาจักรล้านนาจึงนำไปไว้ที่วัดพระแก้วดอนเต้า ถึงสมัยพระเจ้าติโลกราช ได้เชิญพระแก้วมรกตมายังเชียงใหม่ สร้างปราสาทประดิษฐานไว้แต่ถูกฟ้าผ่าหลายครั้ง ครั้นเมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาแห่งล้านช้างซึ่งเป็นญาติกับราชวงศ์ล้านนามาครองเมืองเชียงใหม่ เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาเสด็จกลับหลวงพระบาง ก็เชิญพระแก้วมรกตไปด้วยพร้อมกับพระพุทธสิหิงค์ ทางเชียงใหม่ขอคืนก็ได้แต่พระพุทธสิหิงค์ เมื่อล้านช้างย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ก็เชิญพระแก้วมรกตลงมาด้วย ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวง พระองค์ได้ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกต และพระบาง มาจากอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ (ลาว) ในครั้งนั้นประดิษฐานไว้ที่วัดอรุณราชวราราม ต่อมาเมื่อสิ้นรัชสมัยของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังขึ้น เมื่อมีการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีในปี 2325
    เมื่อเสร็จสิ้นการสร้างพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามแล้ว จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากโรงพระแก้วในวัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) มาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม "พระแก้วมรกต” หรือ "พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวไทย ประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามอย่างที่เราทราบกันในปัจจุบัน


    ds.jpg uj.jpg yt.jpg y.jpg hjg.jpg uu.jpg u[.jpg Clip_5.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5948

    พระแก้วมรกตหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    ปี 2518 ขนาดหน้าตัก 3 นิ้ว ฐาน4.5 นิ้ว เนื้อเรซิ่น

    พระแก้วมรกตถือว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคูเมือง ของเมืองไทย
    เชื่อกันว่า บูชาแล้ว จะพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข ครับ
    สร้างน้อยหายากมากครับ



    ราคา 5900 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    sda.jpg lk.jpg fsfs.jpg jh.jpg klk.jpg ki.jpg Clip_4.jpg


    พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (หรือ วัดพระแก้ว) ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
    พระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหยกอ่อนเนไฟรต์สีเขียวดังมรกต เป็นพระพุทธรูปสกุลศิลปะก่อนเชียงแสนถึงศิลปะเชียงแสน หลักฐานที่ตรงกันระบุว่าพบครั้งแรก ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์วัดป่าญะ หรือวัดพระแก้ว ตำบลเวียง เมืองเชียงราย
    ในปี พ.ศ. 1977 ฟ้าได้ผ่าลงองค์พระเจดีย์จนพังทลายลง จึงพบพระพุทธรูปพอกปูนลงรักปิดทอง จึงได้นำไปไว้ในวิหาร ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิกเกิดกระเทาะออก เห็นเป็นเนื้อมรกต จึงกระเทาะปูนออกทั้งองค์ เห็นเป็นเนื้อหยกสีมรกตทั้งองค์

    หลังจากนั้น พระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งเชียงใหม่ทราบข่าวการค้นพบพระพุทธรูปนี้ จึงเชิญมาประดิษฐานที่เชียงใหม่ แต่ช้างทรงพระแก้วมรกตกลับไม่เดินทางไปยังเชียงใหม่ แต่ไปทางลำปางหากช้างนั้นมีพระแก้วมรกตอยู่บนหลังช้าง เชียงใหม่เห็นว่าลำปางก็อยู่ในอาณาจักรล้านนาจึงนำไปไว้ที่วัดพระแก้วดอนเต้า ถึงสมัยพระเจ้าติโลกราช ได้เชิญพระแก้วมรกตมายังเชียงใหม่ สร้างปราสาทประดิษฐานไว้แต่ถูกฟ้าผ่าหลายครั้ง ครั้นเมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาแห่งล้านช้างซึ่งเป็นญาติกับราชวงศ์ล้านนามาครองเมืองเชียงใหม่ เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาเสด็จกลับหลวงพระบาง ก็เชิญพระแก้วมรกตไปด้วยพร้อมกับพระพุทธสิหิงค์ ทางเชียงใหม่ขอคืนก็ได้แต่พระพุทธสิหิงค์ เมื่อล้านช้างย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ก็เชิญพระแก้วมรกตลงมาด้วย ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวง พระองค์ได้ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกต และพระบาง มาจากอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ (ลาว) ในครั้งนั้นประดิษฐานไว้ที่วัดอรุณราชวราราม ต่อมาเมื่อสิ้นรัชสมัยของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังขึ้น เมื่อมีการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีในปี 2325
    เมื่อเสร็จสิ้นการสร้างพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามแล้ว จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากโรงพระแก้วในวัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) มาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม "พระแก้วมรกต” หรือ "พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวไทย ประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามอย่างที่เราทราบกันในปัจจุบัน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5949

    สมเด็จครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ฝังพลอยสวยกล่องเดิม


    มวลสารผงหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค เพิ่มผงพุทธคุณแก้วสามดวงครูบาชุ่ม ครูบาขันแก้ว น้ำมนต์5วัด วัดช่องแค วัดน้ำบ่อหลวง วัดพระพุทธบาทตากผ้า วัดวังมุย วัดสันพระเจ้าแดง ผงไม้งิ้วดำ -พลอยเสกหลวงพ่อพรหม+ครูบาขันแก้ว คุณหมอสมสุข คงอุไร ท่านได้นำไปให้ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปลุกเสก ในวันที่ 13 ตุลาคม 2523 ก่อนจะนำมาให้ครูบาขันแก้ว ปลุกเสกตลอด ก่อนนำพระสมเด็จทั้งหมดออกมาทำบุญในงานทอดผ้ากฐินในปี 2524 #ใช้เเทนสมเด็จหลวงพ่อพรหมได้เลย


    บูชาแล้วครับ

    hl.jpg Clip_3.jpg jj.jpg nb.jpg n.jpg Clip_13.jpg

    ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ถือเป็นพระเกจิล้านนาอีกท่านหนึ่งที่เป็นทั้งนักพัฒนา นักเทศน์ และยังมีฝีมือทางด้านศิลปะ ขณะครูบาขันแก้ว พรรษาที่ ๘ อายุ ๓๐ ปีตรงกับพ.ศ. ๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาจาริกธุดงค์มาบูรณะพระเจดีย์ และพระวิหารที่ “ดอยห้างบาตร” ครูบาศรีวิชัยได้เห็นฝีมือความสามารถทางช่างและอินทรีย์ที่ผ่องใสจากการปฏิบัติธรรม จึงได้มอบหมายให้ดูแลการบูรณะพระเจดีย์และพระวิหารแทน ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะได้จาริกธุดงค์ต่อไป ได้ให้พรครูบาขันแก้ว อุตตโม ว่า
    “ให้ตุ๊น้องจงปฏิบัติธรรมจนไม่หวั่น ไหวในโลกธรรม ๘”
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้วอุตตโม) อดีตเจ้าอาวาส วัดสันป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) เกิดเมื่อวันอังคาร ที่ ๑๔ พ.ย.๒๔๔๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๑๒ (เดือนยี่เหนือ) ปีกุนที่ ต.ห้วยยาบ อ.เมือง จ.ลำพูน มีนามเดิมว่า ขันแก้ว นามสกุล อิกำเหนิด บิดาชื่อ นายอินตา อิกำเหนิด มารดาชื่อ นางสม อิกำเหนิด ท่านครูบามีพี่น้องเกิดท้องเดียวกัน ๕ คน เป็นน้องหญิง ๓ คน น้องชาย ๑ คน คือ
    ๑. พระครูอุดมขันติธรรม(ครูบาขันแก้ว อุตตโม)
    ๒. ด.ญ.อุ่น อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเยาว์)
    ๓. นางบัวเขียว อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    ๔. นายก๋อง อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมแต่มีบุตรหลานสืบสกุลอยู่ในปัจจุบันนี้)
    ๕. นางทา อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    โยมปู่ครูบาขันแก้ว ได้อพยพครอบครัวมาจาก ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูนมาอยู่ ต.ห้วยไซก่อน แล้วจึงได้อพยพย้ายครอบครัวลงมาอยู่ที่ ต.ห้วยยาบ ตั้งรกรากใกล้กับวัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) ซึ่งเป็นวัดร้าง และได้เป็นหัวหน้าบูรณะ ซ่อมแซมก่อสร้างจนเป็นวัดขึ้นมาตราบจนทุกวันนี้
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว อุตตโม) ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี ณ วัดป่ายาง อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดต้นปิน ต.บ้านธิ อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระอธิการแก้ว (ครูบาอินทจักโก) วัดป่าลานเป็นพระอุปัชณาย์ ได้ฉายาว่า “อุตตโม” พรรษาที่ ๔ อายุได้ ๒๕ ปี ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ จ.ลำพูนให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่ายาง เมื่อพ.ศ.๒๔๖๘
    พรรษาที่ ๖ อายุได้ ๒๗ ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยยาบและเป็นผู้รักษาการเจ้าคณะตำบลบ้านธิอีกตำแหน่ง ปกครองดูแลวัดทั้ง ๒ ตำบลถึง ๖๘ วัด พรรษาที่ ๓๒ อายุได้ ๕๓ ปี ได้รับสมณศักดิ์พระครูชั้นประทวนและในพรรษานี้ได้ไปบำเพ็ญมหากุศล มหาวิบากญาณรัมปยุต ๑๓ และมหากิริยาจิตเข้า “อภิสัญญาณโรธ”กับครูบาชุ่มโพธิโก ณ “ดอยห้างบาตร” เมื่อบำเพ็ญทุกข์กิริยาเพื่อให้เกิด “วิปัสสนาญาณ” ได้ “ธรรมจักษุ” (ดวงตาเห็นธรรม) ๗ วัน ๗ คืน ใน ๔ อิริยาบถ พรรษาที่ ๔๙ อายุได้ ๗๐ ปี ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอุดมขันติธรรม”
    ในปีพ.ศ.๒๕๒๑ และปีพ.ศ.๒๕๒๓ ครูบาขันแก้วได้เมตตาต่อคณะศิษย์วัดมีพรหมโพธิโก แสดงมหากิริยาจิต กำหนด “สุขวิปัสสก” ด้วยโสมนัสสหคตังญาณ สมปยุตตัง อสังขาริกัง ให้เกิด ”ปัญญาวิมุตติ” ได้”ธรรมจักษ์” ประหารกิเลสด้วย “สมุทจเฉทประหาร” และกำหนดมหากิริยาจิตแสดง “นิพพานัสส รจังฉิกิริยา” (การทำให้แจ้งในพระนิพพาน) ด้วยอารมณ์การได้ “มงกฎพระเจ้า” ดวงตาของครูบาขันแก้ว อุตตโม ได้เปลี่ยนสีจากสีเนื้อลูกลำไย เป็น “สีฟ้าเข้มทั้งดวงตา” แสดงถึงกิริยาของผู้หมดกิเลสเป็นการเปิดภูมิปัญญาในโลกุตรภูมิ เบื้องต้นและโลกุตระภูมิสูงสุด พระเมตตาคุณที่ได้แสดงมหากิริยาจิตในการโปรดสัตว์ทั้งสองครั้งนี้ ยากที่จะลืมเลือนได้
    หลวงปู่ขันแก้ว เป็นเพื่อนรักของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลช่วยงานศพอยู่ทุกคืนน่าจะนิมนต์มาท่านมาร่วมด้วย จะเคยปลุกเสกหรือไม่เคยปลุกเสกไม่สำคัญ คณะกรรมการวัดก็เลยนิมนต์ หลวงปู่ครูบาขันแก้ว มาร่วมพิธีด้วยแสดงความมหัศจรรย์นั่งเคี้ยวเมี่ยงในงานพุทธาภิเษก
    พิธีปลุกเสกได้เริ่มในตอนกลางคืนวันที่ 18 ก.พ. 2520 เวลา19.50น หลวงปู่ขันแก้ว ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาพระประธาน หลวงปู่อีก3 องค์คือ หลวงปู่อินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ท่านเจ้าคุณญาณ วัดมหาวัน หลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย นั่งหลับตาแผ่อำนาจจิตปลุกเสก แต่หลวงปู่ขันแก้วกับนั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงอยู่เบิกตากว้างมองดูเฉยๆๆ ชาวบ้านวัดวังมุ่ยเริ่มมีปฎิกริยาพึมพำพูดกันว่าใครหนอนิมนต์ตุ๊เจ้าที่ปลุกเสกไม่เป็นมาร่วมพีธี ทำเอาเจ้าคณะตำบลประตูป่าเข้ามาพูดกับคุณพ่อสมสุขว่า โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา พวกที่ชมและชาวบ้านในพีธีบ่นว่าไปเอาพระที่ไหนมา ดูซินั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย คุณพ่อบอกว่าผมนิมนต์มาเองขอให้รอดูประเดี๋ยว
    คุณพ่อยังนึกอยู่ว่านั่งเบิกตาอย่างนี้เคยเห็นที่ไหน หลวงปู่ขันแก้วนั่งลืมตาอยู่เกือบ15 นาที่ ประกายตากร้าวแข็ง ส่วนองค์อื่นท่านนั่งหลับตาตามความถนัดของท่าน ส่งกระแสจิตออกมาปลุกเสก หลวงปู่ขันแก้ว ปลุกเสกด้วย เมตตาเจโตวิมุติ หลวงปู่เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยนั่งห้อยเท้า ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้า ขณะนั้นช่างภาพก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น ทันที่ที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้านัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กระพริบ ช่างภาพอีกหลายคนก็เข้าไปถ่ายแสงไฟสว่างจ้าแต่นัยต์ตาของหลวงปู่ก็อยู่อย่างปกติคือลืมตาอย่างนั้นไม่กระพริบเลย หลังจากนั้นช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็เข้าไปถ่ายซึ่งไฟแฟล็ชแรงกว่ามากก็เข้าไปถ่ายผลปรากฎ ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบเป็นเวลานาน คนธรรมดาไม่สามารถทำได้อย่างแน่ เปิดภูมิปัญญาโลกุตระด้วยมหากริยาจิต
    คุณพ่อเข้าใจทันที ที่นึกว่าเคยเห็นที่ไหนก็นึกออกว่าเคยเห็น หลวงปู่พรหม ถาวโร แห่งวัดช่องแค ท่านปลุกเสก พระแสงแฟล็ช ถ่ายรูปไม่ทำให้ นัยน์ตา ท่านกระพริบและท่านก็นั่งลืมตาปลุกเสกความจริงแล้วหลวงปู่ขันแก้วไม่ได้มีเจตนาจะแสดงอภินิหารหรืออวดเป็นเพียงการนั่งปลุกเสกของผู้สำเร็จอานาปานสติกรรมฐาน คือสมาธิแบบลืมตาและนั่งหายใจออก หายใจเข้าจนได้ดวงตาเห็นธรรมและใจหมดอาสวะกิเลสเป็นแบบสมาธิที่ถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานแสดงในอานาปาสติสูตรจากหนังสืองานพระศพของหลวงปู่ขันแก้วที่คุณพ่อสมสุข
    พระอริยะสงฆ์ผู้ที่จารึกว่า พระผู้อุดมด้วยวิชชา และวิมุตฺติ มีไว้บูชาติดตัว ติดบ้านร่มเย็นเป็นสุข กันภัยที่จะเกิดขึ้นทั้งปวงครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5950

    พระเหนือพรหม ครูบาชัยวงศ์ ปี 37 เนื้อผงจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ครูบาชัยวงศ์เมตตาอธิษฐานจิต


    พระเหนือพรหม ปี 37 เนื้อผงจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

    ครูบาชัยวงศาอธิษฐานจิต

    พระเหนือพรหม หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน พระเหนือพรหม ปี 37 หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน รุ่นนี้พระอาจารย์สุทิน (ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก) สร้างให้ครูบาชัยยวงศ์ษา อธิษฐานจิตปลุกเสก โดยใช้ผงของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นมวลสารหลัก
    พระดีน่าใช้มากๆ สวย ๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    IMG_0606.JPG IMG_0607.JPG
    fjB8OmUMbOlp9linKt1kaSNXBJu-hvRppcT5_3qMCKne&_nc_ohc=njEorex6_n4AX99N9xM&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2020
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5951

    พระเหนือพรหม หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ เชียงใหม่ ฝังตะกรุดเม็ดพระธาตุ หลังจาร พิมพ์ใหญ่
    พระผงกรรมฐานจักรพรรดิ มีพระธรรมธาตุเสด็จ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พระเหนือพรหม เป็นพระผงยุคแรกของท่าน ราวๆ ปี 35-39 โดยได้นำมวลสารผงมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ กับมวลสารของหลวงตาที่ได้สะสมไว้นำมากดเป็นองค์พระ ตามวิธีที่ท่านได้ศึกษามาจาก หลวงปู่ดู่ พระผงกรรมฐานจักรพรรดิของหลวงตาจะมีพระธรรมธาตุเส

    ฝังตะกรุดเม็ดพระธาตุ หลังจาร พิมพ์ใหญ่

    ราคา 700 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_0567.JPG IMG_0568.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5952

    พระเหนือพรหม หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ เชียงใหม่ ฝังตะกรุดเม็ดพระธาตุ หลังจาร พิมพ์เล็ก

    พระผงกรรมฐานจักรพรรดิ มีพระธรรมธาตุเสด็จ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พระเหนือพรหม เป็นพระผงยุคแรกของท่าน ราวๆ ปี 35-39 โดยได้นำมวลสารผงมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ กับมวลสารของหลวงตาที่ได้สะสมไว้นำมากดเป็นองค์พระ ตามวิธีที่ท่านได้ศึกษามาจาก หลวงปู่ดู่ พระผงกรรมฐานจักรพรรดิของหลวงตาจะมีพระธรรมธาตุเสด็จ

    ฝังตะกรุดเม็ดพระธาตุ หลังจาร พิมพ์เล็ก

    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_0613.JPG IMG_0614.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2020
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5953

    พระผงกรรมฐานจักรพรรดิรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ เชียงใหม่ ฝังตะกรุดเม็ดพระธาตุ หลังจารติดเส้นเกศาพ่อเเม่ครูบาอาจารย์


    พระผงมีพระธรรมธาตุเสด็จ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พระเหนือพรหม เป็นพระผงยุคแรกของท่าน ราวๆ ปี 35-39 โดยได้นำมวลสารผงมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ กับมวลสารของหลวงตาที่ได้สะสมไว้นำมากดเป็นองค์พระ ตามวิธีที่ท่านได้ศึกษามาจาก หลวงปู่ดู่ พระผงกรรมฐานจักรพรรดิของหลวงตา

    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_0609.JPG IMG_0611.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2020
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5954

    พระผงกรรมฐานจักรพรรดิ ปาง ประสูติ ตรัสรู้ นิพาน หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ เชียงใหม่ ฝังตะกรุดเม็ดพระธาตุ จาร


    พระผงมีพระธรรมธาตุเสด็จ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พระเหนือพรหม เป็นพระผงยุคแรกของท่าน ราวๆ ปี 35-39 โดยได้นำมวลสารผงมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ กับมวลสารของหลวงตาที่ได้สะสมไว้นำมากดเป็นองค์พระ ตามวิธีที่ท่านได้ศึกษามาจาก หลวงปู่ดู่ พระผงกรรมฐานจักรพรรดิของหลวงตา


    ราคา 750 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_0564.JPG IMG_0566.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2020
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5955

    เหรียญรุ่น3ห่วงครูบาสิงห์แก้ว (ครูบาผีกลัว) วัดปากกอง


    รุ่น 3 หมดห่วง ครูบาปากกอง เนื้อทองแดงรมมันปู มีชนิดเดียว หน้าตรง ครึ่งองค์ รุ่นฉลองอายุครบ ๘๖ ปี ศิษย์สร้างถวายหลวงพ่อ จำนวน ๖๐๐๐ เหรียญ ครูบาปากกองปลุกเสกเดี่ยวทุกคืนทุกวัน ตั้งแต่วันพุธที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๓ จนถึง ๑๕ เมษายน ๒๕๓๔ (วันพญาวัน) ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๕ เหรียญรุ่น ๓ ครูบาท่านชราภาพมากแล้ว ตั้งใจเสกทิ้งทวน เสกจนหมดพุงที่ร่ำเรียนวิชาอาคมขลังมา เหรียญรุ่น ๓ ไม่มีห่วงถือว่าเป็นรุ่นสุดท้ายจริงๆ เหรียญนี้ล้วนมีประสบการณ์มากมายนักในเรื่องกัน ผี ไล่ผีและปราบผีฉมังนัก นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงเรื่องการป้องกันคุณไสย ใช้แก้คุณไสย ใช้ห้อยคอ พกติดตัว ติดบ้านเรือน หรือไว้ติดรถ เวลาเดินทางไปไหนจะรู้สึกอุ่นใจ


    สวยเดิมๆเลี่ยมพลาสติดพร้อมใช้ครับ

    ราคา 2450 บาท สนใจสอบได้ครับ 086-1936900

    olpp.jpg kki.jpg po.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2020
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5956

    เหรียญรุ่นแรกครูบาสิงห์แก้ว (ครูบาผีกลัว) วัดปากกอง บล็อก Sขีด


    เหรียญหลักยอดนิยมของเมืองเหนือ ท่านโด่งดังมากเรื่องปราบผี จนเป็นที่ขนานนามที่ว่า ครูบาผีกลัว แห่งสารภีวัตถุมงคลของท่านพุทธคุณเด่นใช้เรื่องกันผีได้ดีมาก ครับ
    พิธีปลุกเสกที่วัดพระธาตุดอยสุเทพในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลอง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2515 โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ทรงเป็นประธาน โดยนิมนต์สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ 108 รูป ร่วมนั่งปรกปลุกเสก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร, หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท, หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่, หลวงพ่อเกษม เขมโก จังหวัดลำปาง, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม, ครูบาคำแสน อินทจักรโก วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่, ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จังหวัดเชียงใหม่, ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุ่ย จังหวัดลำพูน, พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และอาจารย์ชุม ไชยคีรี เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส เป็นต้น นับเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ แถมมีพระเกจิอาจารย์ดังทั้งภาคเหนือ, ภาคกลาง, ภาคใต้ รวมพลังปลุกเสกกันอย่างเข้มขลัง ครับ


    บูชาแล้วครับ

    p.jpg f.jpg g.jpg ujj.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5957

    เหรียญเณรรุ่นแรก พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดบ้านด้ายธรรมประสิทธื์ ปี 2519 ตอนท่านอายุได้ 11 ปี บล็อกนิยม ประคำเกิน สภาพสวยมากครับ


    เหรียญหลักยอดนิยมของท่านครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสังวโร


    ราคา 35500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ff.jpg ii.jpg i.jpg Clip_3.jpg

    Clip_6.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2020
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5958

    ตะกรุดยันต์หนังกาสะท้อนหลวงปู่ครูบาอินตา วัดห้วยไซ.


    จัดเป็นเครื่องรางสายเหนือ ที่ได้รับความนิยมมานาน เชื่อกันว่า มีอิทธิคุณช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายและไม่ดีต่างๆ ให้สะท้อนกลับออกไป ไม่สามารถส่งผลร้ายแก่ผู้ที่พกบูชาติดตัวได้ ทั้งนี้เรามักจะออกเสียง "ก่า" เป็น "กา" จนกลายเป็น "ตะกรุดกาสะท้อน"

    ยันต์ก่าสะท้อนเป็นยันต์ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้นิยมยันต์ล้านนาทั้งหลาย คำว่า “ก่า” เป็นภาษาล้านนา แปลว่า ป้องกัน, ไม่ให้เกิดขึ้น คุณวิเศษของยันต์ก่าสะท้อนนั้น สามารถป้องกันอันตรายต่างๆ ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น มนต์ดำ คุณไสย คุณผี คุณคน ที่กระทำย่ำยีมาใส่เรานั้น ตะกรุดนี้จะสะท้อนสิ่งเหล่านั้นกลับไปยังผู้ทำของทำคุณไสยใส่เราได้ตามกฎแห่งกรรม

    อย่างไรก็ตาม ยันต์ก่าสะท้อนมีหลายชนิดหลายแบบแตกต่างกันไป เช่น ยันต์ก่าสะท้อนที่ทำจากหนังลูกวัวเกิดแล้วตายคาอวัยวะเพศ ส่วนมากจะหุ้มหรือพอกยันต์ด้วยครั่ง ยันต์ก่าสะท้อนชนิดนี้สามารถป้องกันอันตรายได้หมด เป็นมหาอุด ปืนยิงไม่ออก หลวงปู่ครูบาเจ้าชุ่ม วัดวังมุย เคยสร้างไว้ ตอนนี้หายากมากแล้ว

    ในส่วนของยันต์ก่าสะท้อนที่ใช้ครั่งพอกนี้ มีคุณวิเศษมากหลายประการ ที่ใช้ครั่งพอกเพราะว่า หากมีผู้ใดประสงค์ร้ายกับเรา ทำคุณไสยใส่เรา ครั่งที่พอกยันต์ก่าสะท้อนจะแตก หากเรานำครั่งที่แตกนั้นไปเผาไฟ ของที่ผู้ประสงค์ร้ายทำใส่เราจะสะท้อนกลับไปหาตัวผู้นั้นเอง นี่คือที่มาของคำว่า ก่าสะท้อน คือทั้งป้องกัน และสะท้อนนั่นเอง

    #ดอกนี้สวยทองแดงพันหนัง ครบสูตรตามตำราทุกอย่างของท่านครูบาอินตา

    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)พระเกจิผู้ทรงวิยาคมเเห่งเมืองลำพูนพระอาจารย์ของท่านครูบากฤษดาวัดสันพระเจ้าแดง

    เจ้าตำหรับตะกรุดยันต์จืน(ตะกั่ว)หน้าแหนบลบเจ็ดครั้งอันโด่งดัง เป็นตำราโบราณของท่านครูบาอินตาได้สืบทอดมาจากอาจารย์ ใช้ตะกั่วโบราณคนล้านนาเรื่องจืนได้จากพระกรุเก่าหรือตะกั่วจืนหน้าแหนบแผ่นตะกั่วที่ติดหลังแก้วอังวะ(แผ่นเเก้วจืนประดับโบราณ) นำมาหลอมแล้วนำมาตีเป็นแผ่นจารยันต์ลงไปทำแบบนี้จนครบตามตำรา 7 ครั้ง

    พุทธคุณลูกศิษย์ทุกท่านต่างทราบกันเป็นอย่างดีเป็นที่กล่าวขาน ไว้เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา และแจกทหารกล้า พุทธคุณ ข่ามคงกระพัน (เหนียว)และ กันภูตผีปีศาจทั้งหลาย

    โด่งดังมากจนท่านครูบาชุ่ม โพธิโก แห่งวัดวังมุ่ยเจ้าของตำราตะกรุดหนังควายตายท้องกลม ได้ทราบกิตติคุณถึงตะกรุดจืนหน้าแหนบของครูบาอินตาแห่งวัดห้วยไซ ครูบาชุ่ม ท่านได้เดินเท้าจากวัดวังมุย มาถึงวัดห้วยไซ อ บ้านธิ เพื่อมาขอแลกเปลี่ยนวิชากับท่านครูบาครูบาอินตา ทั้งครูบาทั้ง 2 ท่านจึงได้เเลกเปลี่ยนวิชากันครูบาชุ่มนั้นท่านให้ตำรา ตะกรุดหนังควาย ให้กับครูบาอินตา ส่วนครูบาอินตาให้ได้มอบวิชาตะกรุดจืนหน้าแหนบแก่ครูบาชุ่ม จนกลายเป็นตานาน2 จอมขมังเวทย์เเห่งเมืองลำพูนครับ

    #ดอกนี้ครับแตกเห็นทองพันหนังยุคแรกดูง่ายครับ

    ราคา 3500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    uu.jpg u.jpg v.jpg iip0.jpg ol.jpg o.jpg

    Clip_34.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2020
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5959

    เหรียญรุ่นแรกครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง ปี 18 เนื้อทองแดง


    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ธมมชยโย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่ พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่กราบไหว้ของชาวเหนือ ท่านเป็นศิษย์ท่านหนึ่งของครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก ,หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล , หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก , หลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง ,ครูบาชัยวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม ,และ หลวงพ่อท่านมหาวีระ ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ,และท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลายอีกมากรูปทั่วล้านนา
    ครูบาท่านนั้นสำเร็จวิชาชั้นสูง สำเร็จฌาณสมาบัติชั้นสูง มีสมาธิจิตแรงกล้า ขนาดท่านมหาวีระ วัดท่าซุงนั้นกล่าวยกย่อง วัตถุมงคลของท่านนั้นดีเด่นสารพัด
    #สรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย พระดีน่าใช้
    1 ในอริยสงฆ์ของเมืองเหนือศิษย์สายครูบาเจ้าศรีวิชัย เหรียญรุ่นแรกของท่านมีประสบการณ์เป็นที่นิยมมากครับ


    คุณ j999 บูชาแล้วครับ

    tgf.jpg cx.jpg ik[.jpg Clip_5.jpg Clip_6.jpg Clip_7.jpg Clip_8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2020
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5960

    พระผงรุ่นแรกครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปี 2515 พิมพ์พระพุทธ


    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)

    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ครูบาพรหมา” หรือบ้างก็เรียก “ครูบาพรหมจักร” ท่านเปรียบดั่ง “เจ้าคุณนรแห่งล้านนา” ด้วยความมั่นคงในพระวินัย จริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม เมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมแม้สักนิด อีกทั้งยังมีจิตที่ทรงฤทธิ์ ถึงขนาดเหยียบหินให้เป็นรอยเท้าได้ ถึงขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไท ยังต้องนัดขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนาผู้มีฤทธิ์ยอดยิ่งอีกต่างหากด้วย

    ประวัติ
    วัยเด็ก
    ท่านมีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร กำเนิดวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของ นายเป็งกับนางบัวถา พิมสาร มีพี่น้องร่วมกัน 13 คนท่านครูบาพรหมมาได้เรียนหนังสืออักษรลานนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียน

    บรรพชาและอุปสมบท
    ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลา 15.00 น. ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง มีเจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้หมั่นศึกษาเล่าเรียน ปฎบัติธรรม และประพฤติในศีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด

    ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดเดิมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2461 เจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฮอน โพธิโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สม สุวินโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมจักโก” กระทั่งพรรษาที่ 4 ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปีพ.ศ.2491 ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป

    ละสังขาร
    ครูบาเจ้าพรหมาได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 06.00 น.อายุ 87 ปี 67 พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมาด้วยพระองค์เอง หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมาได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี

    คำสอน
    ครูบาพรหมาท่านได้แสดงธรรมโอวาทไว้มากมาย

    “การทำบาปหรือการทำบุญ จะทำในที่ลับหรือในที่แจ้ง หรือใครไม่รู้ไม่เห็น ก็ตัวของเรา ใจของเรารู้เห็นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าที่ลับไม่มีในโลกนี้ แม้ว่าจะลับตาลับหูคนอื่น แต่เราก็รู้ เราก็เห็นคนเดียว”

    “ทุกๆคน จึงควรรีบขวนขวาย ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้านในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ความเฉลียวฉลาดความสามารถ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามวามดีให้ยิ่งๆกว่าเด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย”

    “คนเราทุกคนมีความปรารถนาดี ปรารถนาหาความสุข ความปรารถนาหาที่ผึ่งในวัฏฏะสงสาร ท่านเปรียบเหมือนเราที่ตกอยู่ในกลางทะเลอันเวิ้งว้างกว้างไกลทุกคนก็มีความใฝ่ฝันหาที่ผึ่ง เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงไปยังฝั่งเบื้องหน้า”

    คำไหว้บูชาพระธาตุของครูบาพรหมา พรหมจักโก
    อะหัง วันทามิ พรหมจักกะธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส ฯ

    จัดเป็นพระผงออกพร้อมรูปเหมือนรุ่นแรกของท่านครูบาพรหมา งสวยเดิมๆครับ ไม่ผ่านการใช้หายากมากครับ


    ราคา 2950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    tr.jpg dd.jpg d.jpg Clip_13.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5961

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระประทาน ยุคต้น
    เลี่ยมเงินพร้อมใช้


    พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล

    พิมพ์พระประทานเล็กเนื้อหาจัดจ้านเก่าแห้งดูง่ายมากครับ


    ราคา 5500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    olpi.jpg jo.jpg l.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5962

    พระรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยรุ่นอัฐิหลังย่น สวยเลี่ยมเก่า

    หรือที่เรียกกันทั่วๆ ไปว่า พระครูบาหลังย่น เป็นพระเครื่องเนื้อดินเผาผสมเถ้าอัฐิครูบาเจ้าฯ อัฐิ ในที่นี้น่าจะหมายถึงขี้เถ้ามากกว่าส่วนที่เป็นกระดูก คนล้านนาเรียกว่า เถ้าเฝ่าหรือดินเฝ่า เถ้าเฝ่าหรืออัฐิที่ใช้เป็นมวลสารสร้างพระเครื่องรุ่นนี้ได้จากบริเวณที่ตั้งเมรุชั่วคราวในงานพระราชทานเพลิงศพครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา ณ วัดจามเทวี ลำพูน เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ผสมกับเศษพระสกุลลำพูนป่นและมวลสารอื่นๆ

    องค์นี้เนื้อหา ดูง่าย สวยเดิมๆ


    ราคา 1350 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-193900

    gg.jpg h.jpg ik.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2020
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5963

    ลูกอมปิดตามหาอุดครูบาผัด วัดศรีดอนมูล ปิดทอง กรรมการ


    ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล พระอริยะสงฆ์แห่งเชียงใหม่ ศพท่านเผาไม่ไหม้
    ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์และพระสุปัฎิปันโนที่มีลูกศิษย์เคารพศรัทธาท่านเป็น จำนวนมาก พระเวทย์คาถาอคมของท่านขลังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคราวประชุมเพลิงโดยการสร้างนกหัสดีลิงค์ตามคติโบราณล้านนาความร้อนจาก เปลวไฟนับร้อยนับพันองศาหาได้ระคายทำอันตรายกายสังขารท่านแม้แต่น้อย...จนใน ที่สุดครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล ศิษย์เอกของท่านต้องนำน้ำขมิ้นส้มป่อยมาทำการพิธีคลายอาคมพระเวทย์ของท่านครูบาผัด พิธีการส่งท่านสู่สรวงสวรรค์โดยมีนกหัสดีลิงค์เป็นพาหนะจึงสำเร็จลง ได้....วัตถุมงคลที่โด่งดังและมีประสบการณ์ของท่านครูบาผัดของคือตะกรุดกาสะท้อนและลูกอมราหูมหาอุตม์ โดยทั่วไปที่เห็นมีตะกรุดอยู่ด้านนอกจะเป็นลูกอมแบบธรรมดาส่วนลูกอมราหูที่มีตะกรุดที่ฝังและติดอยู่กับลูกอมทุกลูกนี้คือตะกรุด"มหาอำนาจ"เรียกว่าครบเครื่องทั้งด้านหนุนดวงชะตา กลับร้ายกลายเป็นดี เป็นมหาอุด มหาอำนาจ กันคุณไสย ชงักนัก.

    ลูกอมปิดตามหาอุด ยอดลูกอมราหูมหาอุตม์ มหาอำนาจ วาสนา ค้ำชะตา


    บูชาแล้วครับ

    ikk.jpg y.jpg io.jpg hgf.jpg Clip_6.jpg Clip_7.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2020
  20. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...