เสียงธรรมพูด ใครเคยเจอมาบ้าง

ลุงแมวก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เสียงธรรมที่
มาเตือนมาแนะนำการปฏิยัตินั้น
มันดังมาจากภายนอก ได้ยินผ่านหู
หรือแค่ดังอยู่ภายในใจได้ยินคนเดียว
กระทบใจคนเดียว
ถึงได้ถามคนที่มีประสบการณ์ เหย็ง ๆ
อยู่นี่แหล่ะคับ
แต่คงคนละอย่างกับเกิดจิตสังหรณ์

 

ขอนุญาติ โยนผ้าขาวขึ้นเวที !! (ยังไม่ทันโยน )

เป๊ง!! กรรมการข้างเวที ลั่นละฆัง
สั่งพักการชก

เฮ้ย!! เป้าต้องแม่นๆ อสังขตธาตุ
"ธาตุที่ วิญญาณ เข้าไปตั้งไม่ได้ "

ผัสสะ เสียงเข้าหู
นิทาน เสียงกระซิบภายนอก
นามรูป เสียงกระซิบภายใน
วิญญาณ ออกไปถามก่อน

เวทนา มะใช่อย่างงั้น เป็นอย่างงี้

อะไรพวกนี้ คือ บ่อกสิณวิญญาณ

เขวี้ยงหมัดยัดแหม่มโลด อย่าไปไล่ตามมัน

หาที่ๆ วิญญาณ อาศัยตั้งขึ้นไม่ได้ !!

เป๊ง !!!!

อึ๊ดชึ๊ อึ๊ดชึ๊ อึ๊ดชึ๊ นักมวยน๊อก

พี่เลี้ยงหนีไปปู้นแล้ว มะเกี่ยว นะฮับ

 

มีตอนที่บวชนะ มีช่วงขี้เกียจทำวัตรเช้า และรู้สึกปวดหลังมากวันนั้น
จู่ๆ ผมได้ยินภิกษุท่านนั้นมาบอกว่า หากไม่รีบ เวลาตาย
เวทนาจะมากกว่านี้อีก ผมจำไม่ลืมเลยครับ ผมก็มานั่งจำวัตรเช้าปวดๆ
และก็ไม่ทรมารเท่าไร จิตมันจับแต่ประโยคที่ได้ยิน

 

อันเดียวกันครับ

ปัญญาทางธรรมจะรู้แล้วปล่อยวางทันที เป้นปัญญาสัมมาทิฐิ

ถ้ารู้แล้วยึด เป้นปัญญามิจฉาทิฐิ เข่นยึดแล้วสร้างความสงสัยไม่คลายแห
จะตามหาคำตอบ
นี่อะไรนะ บลาๆแบบนี่อ่ะฮับ

มันอันเดียวกันละฮับ
ออกจากจิต ล้วนๆ

แต่ถ้าเป็น พวกกายทิพย์บอก
มันจะเหมือน
คนเราพูดกันนี่ละครับ

ถ้าเป้นเจโตปริญาญาณ
มันจะอีกอย่างนึงมีสองเสต้บ
เสต้บ รู้พร้อม จะไม่เป็นกรรม
เสต็บที่เป้นกรรมคือแสดงโชว์

 

วัตรเช้าวัดเย็น นี่ ท่าพื้นฐานของวรยุทธเลยครับ

ถ้าพื้นฐานไม่มี ฝึก วิทยายุทธ์ได้ยากยิ่งนัก
เด็กน้อย
เด้กใหญ่สมัยนี้ขี้เกียจกันมาก

ภิกษุ ที่ทรง วินัย ล้วน ไม่ขาดพื้นฐาน ก่อนจะมาที่กระบวนท่า

ครูบาอาจารย์ สมัยก่อนท่านเน้นมาก

ถ้าวรยุทธ มันคือ ท่า ม้า ยืนแยก ย่อขา ยื่นมือ ผนึกปราน

 

ขี้เกียจเพราะปวดหลังครับ นั่งนานทุกวัน เป็นกระดูกทับเส้นประสาท พอเอาจิตไปจับไว้ที่อื่นมันทุเลา เดียวนี้เอามันมาภาวนาแล้วครับ

 

เสียงที่ปลอดภัยทางธรรม
๑ เสียงที่ออกจากแกนกลางกระโหลก
มาเป็นประโยค แต่เราจะรู้สึกว่าเป็นพยางค์เดียว
๒ เสียงที่ออกจากกลางจิตบริเวณลิ้นปี่

ถ้าประเภท ได้ยินภายนอกชัดทางด้านขวา
ไม่ว่ามุมขนานหู มุมสูงเยื้องไปด้านหน้า
หรือ ข้างๆแดนกลางกระโหลกขวา แม้ว่าจะระดับดีแต่ยังไม่ใช่นะครับ แค่ทัก แค่เตือนหรือ แค่ใช้โชคเท่านั้น

มาด้านซ้ายทั้งหมดคือต้องการบุญ
ประมานนี้ครับ

 

ละเอียดซะจนสงสัยว่า แกล้งกันอะป่าวเนี่ย

 

ปาตี้หมดเปลือก55

 

ลต.บอกว่าให้มีสติ"สังเกตุ"ที่ผุ้รุ้ ปรุงแต่ง พากษ์ สิ่งที่ถูกรุ้ อารมณ์ที่ถูกรุ้นั้น.....แต่ควรให้ค่ามันมั้ย? หรือควรจะไม่ให้ค่า?เมื่อเห็นธรรมกระซิบที่ผุ้รุ้เข้าไปปรุงกับมัน(อวิชชา) ก้อให้สักแต่ว่ารุ้ สักแต่ว่าเห็น ไม่เข้าไปเป็น ไม่หวังหรือคาดหมายอะไร

ลองพิจารณาดูค่ะ

 

ชอบก็รู้ว่าชอบ ถ้ารู้ไม่ทันจิตก็ไหลไปตามธัมมารมณ์เรียบร้อย..

เสร็จพระยามาร ยังเที่ยวมาสอนใครต่อใคร..

 

ใช่ครับ ผมฝึกแบบนี้ละครับ ไปเรื่อยๆ
เวลาเห็นหวยจะได้แม่นๆ รู้ทัน ยินดี ยินร้าย
จิตจะพ้นจากการเป็นขี้ข้า เป็นอิสระด้วยตัวเองไม่ตามไปรับคำสั่ง แบ๊ะๆ อ่าฮับ

เรื่องเก่าๆ เล่า ให้กันฟัง พอหอมปากหอมคอฮับ

 

55 โดนหงายเงิบ
เลยยังงี้

 

เงิบ งาบ ก๊าบ ก๊าบ..

55555555

 

ร้านชาบู เจ๊งยังลุง..

มัวมาเฝ้าเว็บ ลูกค้ารอนานจนเบื่อ..

55555555

 

ลุงแมว ท่านโชคดี มี วาสนา เลี้ยงอาชีพชอบ

 

555 โดนอีกดอก ไม่ต้องใบ้หวย เอิ๊อก

 

ได้ยินแต่เสียงกิเลสพูด ประเภท " เดี๋ยวค่อยลุก นอนต่อก่อน" " ไปกินเหล้ากับเพื่อนดีกว่า" " ไอ้นั่นมันก็โกง นังนี่ก็โกงเหมือนกัน ข้อยสิเป็นแกะดำติ โกงดีบ่น้อ "

แบบนั่นแหละครับเสียงของกิเลส เท่ห์ไหม?

 

แล้ว ที่เห็นเสียงกิเลสนี่

เหนฝ่ายดับ ประจักษ์นิโรโธ
อ้าว! มรรคเจริญนี่หว่า (น้อมไป
สงบ สงัด สลัด สลัด สลัด <--- )

หรือ เหนกิเลสเกิด แต่แล้ว
หมดแฮง อะต้อแต้ ป้อแป้ๆ

จะอี้จะอู้ ให้เคลียร อีกนิด บ่จ้าง

 

ปุปุชน กับ คนมีกระติก ต่างกันตรงไหน

ปุปุชน ขาดการสดับ แผ่สองสลึง
แล้วบอกว่าเหน รถตุ๊กๆ

ปุปุชน หมั่นสดับ เหนกิเลสกำลัง
ชักเย้อกับ เหตุผล เปนคราวๆ
ลูบหน้าปะตะมูก วิปัสสนาอ่อนๆ

ปุปุชนหมั่นสดับ เหนกิเลสลากลับ
ย้อมไม่ติดจิต เสียงกระซิบเกิด นิมิต
เกิด ความฝุ้งธรรมเกิด ความปักเชื่อ
ก้เกิด ให้เอามากำหรดรู้ อุปกิเลสเกิด
แน่สำหรับคน วิปัส!!เปน

พอฉลาด เหน อุปกิเลสฝ่ายดับย้อม
ไม่ติดจิต ยิ่งเหน ยิ่งเกิดอุปกิเลสแน่
จนไม่ทิ้ง บริกรรม และก้ไม่ติดนิ่ง

กายเบาในจิตรู้ จิตเบาในกายรู้
รู้ให้มากๆ เหาะๆได้ เหาะเลย

แต่มาจงใจเหาะ ป.ร.ช. สีลฆร่ฯด่าง
ก้ช่วยม่ายล่าย พระว่า ปิดทั้งชาติ
แม้นลาออกไปแล้วอัตโนมัติ

สุดท้าย

ต่างกันนิดเดียว แค่ นิ่งเปนใบ้ เท่านั้น