วิธีปล่อยสัญญา สังขาร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชมทรัพย์, 3 มิถุนายน 2020.

  1. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    จริงคับ แนะนำคุณชมทรัพย์
    หาเหตุของอารมณ์
    หาเหตุของความคิดคับ
    เห็นภายนอกเห็นภายใน
    ที่ท่านเล่าปังกับท่านปราบแนะนำ
    มีประโยชน์มากคับ
     
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    อสอง

    การเห็น จิตเป็นตัวทุกข์ ขันธ์เป็นภาระ จิตเป็นภาระ

    พระบางท่าน อนุเคราะห์ไว้ว่า

    จริงๆ การเห็น จิตเป็นทุกข์ จิตเป็นภาระ จะเป็น
    ภูมิธรรมของ "อรหัตถผล"

    ดังนั้น

    ในแง่ของ พระเสขะ การเห็นจิตเป็นทุกข์ จิตเป็น
    ภาระนั้น จะต้องมีการเห็น มีการแหวก อาสวะ
    เข้าไปเห็น และ รู้ชัด

    เพียงแต่ว่า เห็นแล้วก็จะถูก เวทนาบางเหล่า
    หรือ "กรรมมาประชุมกัน ( เป็น ผัสสะชา )"
    ตามวาสนา(กุศลธรรม) และ ผลอกุศลธรรม
    ไปจนกว่า จะถึง กาละ(มรณะ)

    จึงอุปมา แหวกจอกแหน แล้วถูกปิดการเห็น

    เลยเรียกว่า เห็นจิตเป็นทุกข์ รู้ชัดจิตเป็นภาระ
    เป็นในลักษณะ "ญาณทัสนะ"

    ในปฏิสัมภิทามรรค จึง แนะว่า ควรกำหนดรู้
    ยิ่ง ในสภาพ ชรา และ มรณะ ที่ดับลงด้วย
    ( วาสนาใช้แล้วหมดไป กาละมรณะก็จะ
    ใกล้เข้ามา ) ถ้า กำหนดรู้ถูก งานจะเดิน
    หาก กำหนดรู้ผิด จะเกิด ความประมาท
    อ้าง สมมติสัจจ เป็นข้อเท็จจริง ผลัดวันประกันพรุ่ง
     
  3. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    เห็นจิตเป็นจิต ทุกข์เป็นทุกข์ ต่างอันต่างอยู่ เป็นไปได้ไหม
     
  4. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ได้คับ เหมือนดอกบัวกับก้านบัวคับ
     
  5. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    โดย ปรติ สาวก จะเห็นได้อย่างนั้น

    เพราะ จะละนิสัยไม่หมด ทำให้ยังเหลือ "มน" อีก 1 ดวง

    ใช้คำว่า "มน" แทน "จิต" เพราะ ยังมีการเคลื่อน
    แต่เป็น อาสวะ ที่ไม่เป็น อกุศล แต่จะเป็น นิสัย
    บางประการ ที่มีมาหลาย อสงไข

    เช่น พระสารีบุตร จะยังมี "มน" เป็น ปัจจัยในการเห็น
    ท้องร่อง เป็นต้อง เขย่ง/กระโดดข้าม แทนที่จะ ก้าวข้าม
    ไปปรกติ

    หรือ พระบางองค์สมัยพุทธกาล ชอบโอ่ความสามารถ
    ตนที่มีเหนือกว่า อรหันต์อีกองค์ แบบนี้ก็มี ( บุพกรรม
    เคยเป็น ทาสใกล้ชิดพระศาสดามาเป็นพิเศษ คล้าย
    พระฉันนะ )

    ด้วยเหตุนี้ พระอรหันตสาวก ด้วยกัน จะไม่สามารถ
    ตัดสิน ความสิ้นกิเลสของกันและกันได้ แต่จะสามารถ
    พิจารณาได้ว่า มีธรรม เป็นธรรม จาก คำสอน(พูด)
    ที่เป็น ภาษิตได้

    ดังนั้น

    พระศาสดาจึงตรัส ให้ นักภาวนามุ่งโจทก์ตนเป็นใหญ่
    เพราะ ถ้าไปโจทก์ผู้อื่น อาจจะเป็นเหตุให้ "ขุดตน"
    (ทำให้ หยุดความเจริญ ณ เท่าที่มีเวลานั้น )


    กล่าวอีกนัยหนึ่ง

    หากเป็น พระเสขะ "อรหัตถมรรค" ลงมา จะยังติด
    อาการสำคัญว่า "จิต" นำนิพพานมาให้ ทำให้ยัง
    ฉวยจิต หวงแหนจิต ห้ามไม่ได้

    ดัดจริตก็ไม่ได้(จะพูดว่า ตนทิ้งจิต ทั้งๆที่ มีญาณ
    ทัศนะเห็น จิตไม่ใช่ของแท้ แล้วก้ตาม )
     
  6. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ของพระอรหันต์

    พูด ง่ายๆ ว่า พระอรหันต์ ที่ยังไม่ปรินิพพาน ขันธ์ 5 ก็ยัง มีอยู่ปกติ

    ยังทำหน้าที่ ตามปกติ ต่างแต่ การสำคัญตน ในที่ใดๆ ไม่มีเลย

    ในความเป็นจริง จะมี ใครรู้มั้ย ว่า พระอรหันต์อยู่ที่ไหน หากไม่ใช่พระอหันต์ด้วยกัน

    เพราะความสำคัญตน ในที่ใดๆ ไม่ปรากฎ ปุถุชน จะไปหา จิตพระอรหันต์ได้ที่ไหน




    ตัวทุกข์ที่เกิดขึ้น ตัวทุกข์ที่ดับไป
    มีอยู่โดยปกติ เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริง อุปาทานขันธ์ จึงเกิดทุกข์

    จิตจะเป็นจิต ตัวทุกข์จะเป็นตัวทุกข์ หากรู้ตามความเป็นจริง อุปาทานย่อมไม่เกิดขึ้น

    เหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัว
     
  7. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ฝาก รบกวน ลวกเพ่ ชมซับ พินา ฮับ

    คำสอน สาวก กับ คำสอน พระศาสดา ต่างกันตรงไหน

    ต่างกันตรงที่

    จุดประสงค์ การร้อยคำ

    พระศาสดา เวลาจะร้อยคำ หรือ บัญญัติ จะมุ่งกล่าวให้เป็น มรรค
    ทำให้ ทุกรูปนาม ที่มีความเพียร ก็จะ เข้าถึงได้หมด

    ต่างจาก คำสอนสาวก ที่ (มักจะโดนหลอก) ให้ มุ่งบัญญัติ วัดผล
    ( ซึ่งจะหลอกท่านได้เป็นปรกติ ความที่ "มน" ยังเหลือ หนึ่งดวง
    นั่นเอง เปน ปัจจัย )

    ยกตัวอย่าง มีคนไปถาม

    นิพพาน เป็น อนัตตา หรือ อัตตา

    ในพระสูตร ก็มี ข้อความว่า "นิพพานเป็น อนัตตา"

    แต่หากไป จี้ๆ พระสาวก มากๆเข้า

    "นิพพาน เป็น นิพพาน"
     
  8. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    จิตหลายดวง จิตผสมอารมณ์ จิตเดียว จิต ทั้งหมดเป็นสมมุติ
    วิมุติ ไม่มีดวง
    สำคัญ คือ กำหนดรู้ตามที่มันเป็น ตามความเป็นจริงเช่นนั้น อย่างนั้นใช่หรือ
     
  9. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    อย่างอื่น โยนทิ้งไปก่อนก็ได้ครับ

    เอาแค่นี้พอ

    " สำคัญ คือ กำหนดรู้ตามที่มันเป็น ตามความเป็นจริง "
     
  10. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    แหม เหมือนจะถาม

    แต่อะไรแบบนี้ หากเป็น พระป่าท่านได้ยินละก้อ....

    1221621449.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2020
  11. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    ผู้รู้ รู้ธรรมตามเป็นจริง เหมือนกันไหม
     
  12. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เดิน ตามรอยโค เหมือนกันทั้งนั้นครับ

    มีรอยเดียวที่ทำไว้ให้ เห็น รอยเหมือนกัน ก็ต้องบอก นี่ รอยอันเดียวกัน
     
  13. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    กรณี จิตเดียว เคยอ่าน อุปมาของ
    พระนาคเสน ก็ อะอื้ม.....

    แต่ เมื่อวาน ชะบุญได้เห็น บทนิเทศ

    ได้ให้ข้อสังเกต ตรงการ

    จุติ มรณะ ปฏิสนธิ

    โดยชี้เป็น

    อดีต ปัจจุบัน อนาคต

    แล้วก็แนะให้สังเกตว่า สมมติว่า
    อนาคตเป็น ท้าวสักกะ ท้าวมหา
    พรหมทรงฤทธิ์

    พอไปเกิดแล้ว จะมา ห้ามการ
    มรณะ หรือ จุติ ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย

    ตายแล้ว ก็ ตายเลย แม้นจะมี
    อิทธิฤทธิมากแค่ไหน ก็ไป ยุ่ง
    หรือ กลับไป ปรุง(ผสมอารมณ์)
    เพื่อให้เป็น คนๆเดิมมีสมบัติ
    ลูกเมีย ดังก่อนตลอดไป ไม่ได้

    ดังนั้น อุปทานว่าด้วย จิตเป็นตน
    มีตนเป็นจิต บัณฑิตย่อม รู้ได้ ด้วย
    เหตุอย่างนี้ๆ

    ( คือ ถ้าจิตเป็นตน มีดวงเดียวแบบ
    ปูเสฉวน พอไปเกิดใหม่เป็น ท้าว
    สักกะ ฯลฯ ก็ต้อง กลับมา ปลุกชีวิตมุนษย์
    ที่เป็นตนก่อนหน้าได้ เพื่ออยู่กับ
    ลูกเมียเดิมตลอดไป )

    หาก บัณฑิตพึงเข้าใจ บทนิเทศน์ ก็
    ย่นย่อ ชีวิต มาที่ การหายใจแต่ละขณะ
    ก็จัดว่า เป็นคนละดวง กันแล้ว ไม่เกียว
    กันเลย ( เช่น ลมหายใจออกสุดท้าย
    จะไป ห้ามลมหายใจเข้าว่า อย่าสูดไสยาไน
    ไม่ได้ ต่อให้มี ฤทธิ์แค่ไหน เขียดเรียกพี่ อยู่ดี )

    [๔๙] คำว่า นักปราชญ์ทั้งหลายได้กล่าวชีวิตนี้ว่า
    เป็นของน้อย มีความว่า ชีวิตได้แก่ อายุ ความตั้ง
    อยู่ ความดำเนินไป ความให้อัตภาพดำเนินไป
    ความเคลื่อนไหว ความเป็นไป ความเลี้ยง ความ
    เป็นอยู่ ชีวิตินทรีย์. ก็ชีวิตน้อยโดยเหตุ ๒ ประการ
    คือ

    ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อย ๑
    ชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อย ๑.

    ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยเป็นอย่างไร?
    ชีวิตเป็นอยู่แล้วในขณะจิตเป็นอดีต ย่อมไม่
    เป็นอยู่ จักไม่เป็นอยู่. ชีวิตจักเป็นอยู่ ในขณะจิต
    เป็นอนาคต ย่อมไม่เป็นอยู่ ไม่เป็นอยู่แล้ว.
    ชีวิตย่อมเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นปัจจุบัน ไม่เป็น
    อยู่แล้ว จักไม่เป็นอยู่. สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาค
    ตรัสว่า

    ชีวิต อัตภาพ สุขและทุกข์ทั้งมวล เป็นธรรม
    ประกอบกันเสมอด้วยจิตดวงเดียว ขณะย่อม
    เป็นไปพลัน เทวดาเหล่าใดย่อมตั้งอยู่ตลอด
    แปดหมื่นสี่พันกัป เทวดาเหล่านั้น ย่อมไม่เป็น
    ผู้ประกอบด้วยจิตสองดวงดำรงอยู่เลย ขันธ์
    เหล่าใดของสัตว์ผู้ตายหรือของสัตว์ที่เป็น
    อยู่ในโลก
    นี้ดับแล้ว ขันธ์เหล่านั้นทั้งปวงเทียว
    เป็นเช่นเดียวกันดับไปแล้ว มิได้สืบเนื่องกัน
    ขันธ์เหล่าใด แตกไปแล้วในอดีตเป็นลำดับ
    และขันธ์เหล่าใดแตกไปแล้วในอนาคตเป็น
    ลำดับ ความแปลกกันแห่งขันธ์ทั้งหลาย
    ที่ดับไปในปัจจุบันกับด้วยขันธ์เหล่านั้น
    ย่อมมิได้มีในลักษณะสัตว์ไม่เกิดแล้วด้วย
    อนาคตขันธ์ ย่อมเป็นอยู่ด้วยปัจจุบันขันธ์
    สัตว์โลกตายแล้วเพราะความแตกแห่งจิต
    นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ ขันธ์ทั้งหลาย
    แปรไปโดยฉันทะ ย่อมเป็นไป ดุจน้ำไหล
    ไปตามที่ลุ่ม ฉะนั้น

    ย่อมเป็นไปตามวาระ อันไม่ขาดสายเพราะ
    อายตนะ ๖ เป็นปัจจัย ขันธ์ ทั้งหลายแตก
    แล้ว มิได้ถึงความตั้งอยู่ กองขันธ์มิได้มีใน
    อนาคต ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแล้วย่อมตั้งอยู่
    เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาด ตั้งอยู่บนปลาย
    เหล็กแหลม ฉะนั้น

    ก็ความแตกแห่งธรรมขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแล้วนั้น
    สกัดอยู่ข้างหน้าแห่งสัตว์เหล่านั้น ขันธ์ทั้ง
    หลายมีความทำลายเป็นปกติ มิได้รวมกับขันธ์
    ที่เกิดก่อน ย่อมตั้งอยู่ ขันธ์ทั้งหลายมาโดย
    ไม่ปรากฏแตกแล้วก็ไปสู่ที่ไม่ปรากฏ ย่อม
    เกิดขึ้นและเสื่อมไป เหมือนสายฟ้าแลบใน
    อากาศ ฉะนั้น.

    ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยอย่างนี้.
    ชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อยอย่างไร?
    ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจออก ชีวิตเนื่องด้วยลม
    หายใจเข้า ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจออกและ
    ลมหายใจเข้า ชีวิตเนื่องด้วยมหาภูตรูป
    ชีวิตเนื่องด้วยไออุ่น ชีวิตเนื่องด้วยอาหารที่
    กลืนกิน ชีวิตเนื่องด้วยวิญญาณ. กรัชกายอัน
    เป็นที่ตั้งแห่งลมหายใจออกและลมหายใจเข้า
    เหล่านี้ก็ดี อวิชชา สังขาร ตัณหา อุปาทาน
    และภพอันเป็นเหตุเดิม แห่งลมหายใจออก
    และลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดี ปัจจัยทั้งหลาย
    ก็ดี ตัณหาอันเป็นแดนเกิดก่อนก็ดี รูปธรรม
    และอรูปธรรมที่เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจออก
    และลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดีอรูปธรรมที่ประกอบ
    กันแห่งลมหายใจออกและลมหายใจเข้าเหล่านี้
    ก็ดี ขันธ์ที่เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจออกและ
    ลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดี ตัณหาอันประกอบกัน
    ก็ดีก็มีกำลังทราม ธรรมเหล่านี้มี


    กำลังทรามเป็นนิตย์ต่อกันและกัน มิได้ตั้งมั่นต่อ
    กันและกัน ย่อมยังกันและกันให้ตกไป เพราะ
    ความต้านทานมิได้มีแก่กันและกัน ธรรมเหล่านี้
    จึงไม่ดำรงกันและกันไว้ได้ ธรรมใดให้ธรรม
    เหล่านี้เกิดแล้ว ธรรมนั้นมิได้มี ก็แต่ธรรมอย่าง
    หนึ่งมิได้เสื่อมไปเพราะธรรมอย่างหนึ่ง ก็ขันธ์
    เหล่านี้แตกไปเสื่อมไปโดยอาการทั้งปวง ขันธ์
    เหล่านี้อันเหตุปัจจัยมีในก่อนให้เกิดแล้ว แม้เหตุ
    ปัจจัยอันเกิดก่อนเหล่าใด เหตุปัจจัยเหล่านั้นก็
    ตายไปแล้วในก่อน ขันธ์ที่เกิดก่อนก็ดี ขันธ์ที่
    เกิดภายหลังก็ดี มิได้เห็นกันและกันในกาล
    ไหนๆ ฉะนั้น ชีวิตจึงชื่อว่าเป็นของน้อยเพราะ
    มีกิจน้อยอย่างนี้.

    ปล. แถมในบทนิเทศน์ ยังชี้อีกว่า นอกจาก
    จะไม่ใช่ ดวงเดียวกันแล้ว ในแต่ละ ดวง(ขณะ/กาล)
    ก็ยัง เป็นเหตุบีบคั้นกันและกันให้ "ตั้งอยู่ไม่ได้"
    อีกต่างหาก เช่น ลมหายใจเข้าในอนาคต ย่อม
    ทำลายลมหายใจออกในปัจจุลัน ให้ จบลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2020
  14. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ถ้า เอาตาม นัยย สมัยใหม่ใช้ จะไม่เหมือนกัน

    นิยม ใช้คำว่า ผู้รู้ แค่ อาการมนสิการ

    พอ มนสิการได้ และไม่ติดอุปกิเลส ก็จะเป็น รู้ตามจริง

    กรณี มิจฉาทิฏฐิ ไม่ขอเอ่ยถึง.....
     
  15. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เหมือนกันคับ จะมากหรือน้อย
    ขึ้นอยู่กับปัญญาที่เข้าถึงคับ
    ปัญญาถึงไหนก็รู้เท่าที่ปัญญาไปถึงคับ
     
  16. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ใช่คับ
     
  17. Pngtree

    Pngtree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ถ้ากำหนดรู้เฉยๆ เป็นปัจจุบันธรรม = จิตแท้ๆ

    ถ้ามีอารมณ์พอใจ เสียใจ สุข ทุกข์ โน่นนี่นั่นร่วมเข้ามา =(เจตสิก)กิเลส คืออวิชชา =หลง
    แยกง่ายๆ แค่นี้เอง

    เหมือนเขาถามเราว่า สบายดีไหม เราก็ตอบเฉยๆ จิตเรามันก็มีความสมดุลย์ ไม่ไปทางสุขหรือทุกข์ ....การเฉยๆ นี่แหล่ะตัวจิตจริงๆ

    รู้ตามทวาร6หรือรู้ที่ผู้รู้ตรงๆ ก็รู้จริงทั้งนั้น แต่ต่างที่รู้กิเลสแบบหยาบกับละเอียด
     
  18. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    วันนี้อารมณ์ดีไหมคับ
    เมื่อวานดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย
     
  19. Moonlight...

    Moonlight... ...

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +147
    ชื่นชมน้ิองหวีจริงๆ เป็นหญิงสนใจธรรมมะ แล้วรู้มากด้วย ก็หวังว่า คงไม่ใช่อวตารของใครบางคนนะ เพราะมันน่าเสียดาย....
     
  20. Moonlight...

    Moonlight... ...

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +147
    :D
    วันลิเวอร์พูลManchester Unitedหงส์แดง
     

แชร์หน้านี้

Loading...