วิธีปล่อยสัญญา สังขาร

อยากจีบสาวเป็นมั้ง55วาสนาหาคุยกะประตูดีกว่า

 

แก๊สที่ว่าไวไฟ
ยังช้ากว่าใจ ที่ติดไฟกิเลสคับ

 

พอใจ ไม่พอใจ คือ อารมณ์
คือ สุขทุกข์ที่เกิดขึ้น ถ้าจิตเป็นกลางต่ออารณ์ ถ้าปฏิบัติได้จริงเอาแค่นี้ พ้นทุกข์ได้เลยไม๊ครับ

 

พ้นทุกข์ชั่วคราวคับไม่ถาวร
หากต้องการถาวรแม้แต่กลางก็ไม่เอาคับ

 

ผมไม่ได้มีด้านเดียวคับ
ผมยังมีอีกด้านที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นคับ

 

ไปเที่ยวถ้ำมา

สติคุมจิต จิตคุมอารมณ์
ถ้าฝึกสติมาดี
จิตก็เป็นกลาง

เวลาจิตเสวยอารมณ์
ก็จะเห็นความดีใจ เสียใจ ปรากฏตัวออกมา

ภาษาธรรม กำจัดอภิชาและโทมนัสออกเสียได้
ก็จะเห็นการทำงานของจิตชัดเจน

เห็นจิตทำงานก็เห็นกิเลสทำงาน..
ส่วนการถอดถอนกิเลสต้องใช้ปัญญา
ตามอุบายธรรมที่พระศาสดาสอน
เช่นพิจารณากายฯลฯ..

 

ใช้การเดินจงกรมช่วยก็ได้เหมือนกัน เป็นการดูกายล้วน เป็นจัดการกิเลสให้อ่อนกำลังได้เช่นกัน เดินจงกรมแล้วมานั่ง คนๆนั้นจะได้เปรียบมาก แต่ถ้าเจริญด้วยการดูกายได้ตลอด ใช้กายานุปัสสนาได้คล่อง คนนั้นจะได้เปรียบมากกว่า เดินแล้วมานั่งเสียอีก

 

น้องชม ต้องหัดตอบคำถามของตัวเองบ้างนะ

 

ผมไม่ชอบกิเลส และอุปปาทานคับ เข็ดและกลัวแล้ว

 

จิตของปุถุชน ไม่สามารถเป็นกลางได้ ไม่ต้องพยายามให้เป็นกลางหรอก
มันจะไปกดข่ม ให้ดูการแปรปรวมของจิต คอยดูแลจิตโดยการปล่อยวางให้เขา
ทำงานอย่างอิสระ

 

พอรู้ มันกะเล็กลงมากๆๆๆ พยายามเข้าสภาวะ

 

อะไรเล็กหรือโซ

 

โซ่พันธะหรือเปล่าที่หายไป

 

ภาษาไทยกด1 บาลีกด2 ภาษาใจไม่ต้องกด

 

มีอารมก้ยังดีคับ

 

ไปนอนล่ะ โลโซ

 

แน่นอนฐานไหน กะได้ ถึงกันหมด เวทนานุปัสนา

มั้นก้แทง เข้า สี่ฐานเหมือนกัน

ส่วน อารัมมนู ที่เรียกว่าฌานฤษี เพราะฤษีเขาทำได้เยอะ

เป้นฌานนึง ที่อยู่ในโลก เป้น
ของกลางๆ


ศาสนาไหนก้ทำได้ เพียงแต่ว่า ฤษี เขาทำได้มากกว่า ศาสนาอื่นๆ เลยเป้นที่มาการยกตัวอย่างเรียกฌานฤษี

จะมีคุณและโทษ อยู่ที่ผู้ใช้

เพราะฌานชนิดนี้ เป้นบาทฐานของอิทธิฤทธิ์

เมื่อจิต ได้ฌานชนิดนี้
จิตจะอ่อนควรแก่การงาน

อยู่ที่ว่าจะน้อมไปทางไหน

น้อมไปทางอิทธิฤทธิ์ ก้ไปฝึก อภิญญา12345ข้อ

จะน้อมไปเพื่อละอาสวะ
ก้ไปฝึกอภิญาข้อที่6 ฝึกสติเป็นไปเพื่อสัมมาสมาธิ

 

อีกอย่างนึง

จิตได้ฌานฤษี
อย่าไปเข้าใจ ว่าได้ฌานแล้วจะมีริด เลยนะคราบบ
มันต้องน้อมไปฝึกอีก จนเป็นวสี5

แต่ถ้า ริดสีดวงอะ ได้แน่นอน ไม่ต้องน้อมไปฝึก

นั่งนานไปหน่อย