องค์เทพมีจริงหรือไม่ที่ว่าแฝงอยู่ในตัวคน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nailart, 22 เมษายน 2008.

  1. nailart

    nailart สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +17
    มีคนทักว่ามีองค์เทพแฝงอยู่ในตัวจะพิสูจน์ได้อย่างไรค่ะ จำเป็นจะต้องไปรับขันธ์หรือไม่ ผู้ใดมีประสบการณ์โปรดแนะนำด้วยค่ะ
     
  2. realing

    realing สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +0
    จิตใจ
     
  3. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    เราก็เคยถูกทักเช่นกัน แต่ ที่เราสัมผัสได้หมายถึง เทวดารักษาตัวค่ะ ไม่เคยไปรับขันธ์ที่ไหน มาเองค่ะ แค่เราทำจิตให้สงบ ทำดี ความดีจะรักษาคุ้มครองเรา และที่สำคัญคือ ไม่ควร ยึดติด ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนี้ เพราะเป็นอนิจจัง พึงทำจิตให้สงบ สวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาให้ตนเอง และ เทวดา สัมภเวสีต่างๆ อย่างที่เคยทำมา แล้ว อะไรๆจะดีขึ้น

    อนึ่ง อะไรก็ตามที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ใจเราหวั่นไหวทั้งที่ดีและไม่ดี ให้ฝึกกรรมฐาน หรือนั่งสมาธิให้จิตมั่นคง แล้วจะรู้เองว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่เที่ยง เป็นสิ่งที่มีจริง เกิดขึ้นจริง ตั้งอยู่จริง แล้ว....ดับไป นั่นหมายถึง จะไม่มีอยุ่ตลอด ไม่ได้วิเศษที่จะทำให้หลุดพ้น แต่จะเป็นการทำให้เราลุ่มหลง

    มีคนทักว่ามีองค์ก็ดีนะค่ะ จะได้รุ้ว่า มีพระคุ้มครองค่ะ

    ขอให้พระธรรมรักษานะค่ะ
     
  4. varakorn

    varakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2005
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +435
    ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
     
  5. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    เรื่องนี้ เราเคยกล่าวมาหลายคราว และครั้งนี้ขอให้ลองพิจารณาความท่านผู้หนึ่ง เป็นผู้มีประสบการณ์ ได้กล่าวไว้

    http://palungjit.org/showthread.php?t=123813&page=3


    รับขันธ์ (ขัน) ครูดีไหม?

    <O:p</O:p

    ระยะหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีมากมายหลายคนต่างได้ยินคำว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 เมษายน 2008
  6. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    หลายท่านคงแอบค้อนควักผู้เขียนหลายตลบ อีตาบ้านี่ตอบกวนประสาทแฮะ...แต่ภูเตศวรยังมีข้ออรรถาธิบายอีกครับ โปรดใจเย็น ๆ

    จากประสบการณ์ที่ภูเตศวรพบเห็นพิธีกรรมรับขันครูมาไม่น้อย ทำให้คิดได้เป็นสองแง่<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ประการแรก คือ
     
  7. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ไม่ดีเพราะ รับขันธ์ไปแล้วมัวแต่นั่งอ้อนวอน หรือไม่ก็อหังการ์ว่ามีเทวดาคุ้มครอง ภารกิจทั้งหลายที่พึงกระทำก็ไม่ทำ ท้ายสุดชีวิตครอบครัวก็ล่มสลาย

    ...ก็เลยกลายเป็น ขันครู ทำลายล้างชีวิตไปเสียอีก...<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในส่วนความเห็นของผู้เขียนเองนั้น ถือว่าการรับขันธ์ (ขัน) ครูเป็นเรื่องของ
     
  8. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ร่างทรงขันธ์ห้า

    ปัญหาโดยทั่วไปก็คือ...
    ทพมีจริงหรือ...?
    ร่างทรงมีจริงไหม...?
    มีคนทักว่า มีองค์ในต้องไปรับขันธ์ครู แต่ไม่แน่ใจ ควรรับดีหรือไม่ดี?

    <O:p</O:pปัญหาแรกที่ว่า เทพ หรือเทวดามีจริงหรือ? ต้องขอตอบด้วยน้ำเสียงและลายมืออันหนักแน่นเลยละครับว่า
     
  9. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    สี่ประการที่กล่าวมาข้างต้น คือหลักการใหญ่ ๆ ที่ใช้สังเกตว่าร่างทรงที่คุณพบเห็นนั้นเป็นร่างทรงแท้จริงหรือไม่ แต่ก็ใช่ว่าในสี่ประการนั้น จะเป็นตัวพิสูจน์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เพราะถ้าผู้แอบอ้างเป็นผู้มีปัญญาฉลาดเฉลียว ก็สามารถปรุงแต่งขึ้นมาได้เหมือนกัน

    ข้อสำคัญที่สุด... คือก่อนที่คุณจะไปพบร่างทรงเพื่อขอความช่วยเหลือ ต้องบอกกับตัวเองว่า เราเป็นผู้มีสติ...เป็นผู้มีปัญญาในการพิจารณาทุกสิ่งอันด้วยเหตุและผล

    ร่างทรงและเทวดาที่ลงประทับจะจริงหรือไม่จริง ก็ไม่สำคัญเท่าใดนัก เพราะทั้งร่างและเทวดาต่างก็ยังอยู่ใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น...

    ...อย่าเชื่อ!ว่าเทวดาจะล้างเคราะห์ล้างกรรมให้คุณได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อย่าเชื่อ! ว่าการเสียเงินเสียทองมากมายแล้วจะทำการตัดเคราะห์ตัดกรรมได้ ถ้าเทวดาที่ไหนพูดอย่างนี้ ถือว่าไม่จริง!

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อย่าเชื่อ! ว่าการรับขันธ์ครู บูชาด้วยการยอมเสียเงินเป็นพันเป็นหมื่น แล้วเทวดาจะมาอยู่ดูแลตัวคุณ อวยสุขให้คุณมีทรัพย์สินเงินทองขึ้นมาได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ถ้าร่างทรงนั้น สามารถรับพระญาณของเทพเจ้าได้จริง สิ่งที่คุณจะพึ่งพาได้มีอยู่สองประการเท่านั้น... คือ...<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.คำทำนายทายทัก เพราะเทวดาบางท่านมีกระแสญาณสามารถหยั่งรู้อดีต-อนาคตได้พอสมควร ที่ใช้คำว่าพอสมควร เพราะอำนาจของเทวดาก็มีอยู่ในขีดจำกัดตามบารมีของตนที่สะสมมาเท่านั้น บางครั้งทำได้แต่ใกล้เคียง ไม่ใช่เป็นเทวดาแล้วจะรู้ไปเสียทั้งหมด

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2.ถ้าเทวดาลงประทับจริงสามารถให้ข้อคิด-ข้อธรรม ให้เราเอามาใช้แก้ไขความทุกข์ได้บ้างในชีวิต แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น คุณก็ต้องเอาปัญญาของคุณพิจารณาด้วย เพราะเทวดาก็ใช่ว่าทุกองค์จะอยู่ในสัมมาทิฐิเสียทั้งหมดไป บางองค์ยังเป็นพวกมิจฉาลัทธิอยู่ก็มี<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สิ่งที่ผู้เขียนแนะนำเกี่ยวกับการพิจารณา
     
  10. ภัทรปฏิมาพร

    ภัทรปฏิมาพร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    (smile) ขันธ์ในตัวเรามีตั้ง ๕ ขันธ์แล้ว ยังหนักไม่พอหรือ..เอาเป็นว่าถ้าจะไปรับขันอย่างอื่น เช่น ขันขัน ,ขำขัน ,ไก่ขัน น่าจะพอรับได้ แต่ขืนไปรับขันธ์เพิ่มอีก..คิดว่าอย่าไปรับดีกว่านะ เพราะเดรัจฉานที่คอยเเจกขันธ์ ทุกวันนี้มีเยอะมาก..พอเเจกขันธ์เสร็จเขาก็จะมานั่ง..ขันเราเล่น..เท่านั้นเอง

    ไม่มีใครที่จะให้เราพึ่งได้สนิทใจเท่า "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์"หรอก..สาธุ

    หมายเหตุ
    เท่าที่ได้รับฟังสุปฏิปันโนท่าน ได้กรุณาอรรถาธิบายเรื่องขันธ์ ท่านห้ามให้เรามายึด มาเกาะในขันธ์นี้ ท่านให้ปลด ให้ปล่อย ในเบญจขันธ์เสียจักเป็นสุขยิ่งนักแล
     
  11. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    เขือกในกรรม ดีที่สุด
     
  12. jerajajen

    jerajajen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +267
    มันไม่ได้เลวร้ายอย่างนั้นหรอก ไม่มีเทวดาที่ใหนทำร้ายมนุษย์ ถ้าเทวดาทำร้ายมนุษย์ก์ผิดวิสัยท์ของเทวดา จริงมะครับ ผมไม่ใช่นักเขียนแต่มีประสบการณ์ตั้งแต่5 ขวบและได้ใช้เหตุผลมาวิเคราะห์จึงเข้าใจว่าคนมีองค์คืออะไร

    การที่เทวดามาอยู่กับมนุษย์นั้นต้องมีเหตุให้มา
    1มีกรรมพัวพันกันมา
    2อาจเป็นเรากำลังดวงตก หรือไม่ก็ตกถึงตายแต่เทวดาเห็นว่าเรานั้นยังคงมีบุญพอที่จะอยู่ต่อนะจึงได้มาอยู่ครองร่างไปก่อนเพื่อให้ทำความดีเมื่อเราทำความดีสิ่งที่เทวดาได้รับไปด้วยก็คือบุญ กุศลตัวเราก็ย่อมได้อยู่แล้ว
    บางคนพอรับขันธ์5 มาแล้วก็บอกว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ก็เพราะดวงเราตกมากจึงต้องรับจากหนักจึงเป็นเบาก็เลยโทษเทวดาไปต่างๆนาๆ การรับขันธ์ไม่ใช่การเอาเทวดามาใส่ตัว เทวดามาก่อนแล้ว จึงทำพิธีรับเพื่อเปิดช่องเปิดทางเฉยๆ ยินดี ด้วยใจครับ
    การรับขันธ์ไม่จำเป็นต้องเป็นร่างทรงกันทุกคนไป ก็คงจะเป็นบางคนเท่านั้น แล้วแต่คนครับเพราะแต่ละคนอาจจะมีความผูกพันธ์กันต่างๆกันไปครับ

    บางคนรับไปก็ปกติ บางคนรับไปก็ทำตัวดีขึ้นจากคนเลวเป็นคนดีอย่างนี้ดีม่ะครับ บางคนรวยอยู่ก็รวยตามปกติ
    คนทุกคนมีขึ้นก็มีลงเป็นธรรมดาครับ

    ตัวอย่าง คุณแม่ของผม ป่วยแล้วป่วยๆอีก อ๊วกแล้ว อ๊วกอีก
    มีคนทักมาก็ทำตาม ก็หายไปเลยครับจากที่เคยป่วยมาเป็นแรมปีไม่เคยสุงสิงเรื่องนี้แต่ปัจจุบันแม่ผมก็ต้องกลายมาเป็นร่างทรงนะครับท่ามกลางความต่อต้านของพี่น้อง จากคนไม่เคยรู้เรื่องอะไรแบบนี้ ก็เป็นไปได้โดยไม่ต้องไปเรียนอะไรที่ใหน เทวดาทำเองหมดครับ แล้วคุณว่าเพราะอะไรแม่ผมจึงต้องมาเป็นอย่างนี้ถ้าไม่ถูกเลือกมาโดยตรงจากเบื่องบน บางคนอยากจะให้เทวดาเข้าร่างด้วยซ้ำแต่ก็ไม่เข้าเพราะเข้าไม่ได้ ถ้าไม่มีอดีตพัวพันไม่มีทางทำไรได้ครับ

    จุดประสงค์สำคัญ ใจสำคัญ
    รับเพื่อศรัทธา ทำดี ตอบแทนคุณ ผ่อนหนักเป็นเบาผมเห็นด้วย
    รับมาเพื่อต้องการรวย อย่าหวังนะครับ
    ปาฎิหารย์เกิดขึ้นได้จากความตั้งใจ และ แรงอธิฐาน

    เลือกตำหนักที่สะอาดนิดนึง เชื่อถือได้ ก็สำคัญ

    ลองคิดดูนะครับ ทุกอย่างต้องมองเป็นกลาง คนที่ไม่ชอบเรื่องนี้ก็มองไปอีกทาง บางคนเจอไม่ดีมาก็เหมาไปหมด เทวดาดีอยู่แล้วแต่คนทำไม่ดีต่างหากครับ

    ขอบคุณครับ 0851250960 ถ้าสงสัยก็คุยได้ครับผมยินดีเพราะว่าคนโดนกล่อมประสาทกันเยอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2008
  13. จีนทาร่อน

    จีนทาร่อน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +2
    มันเป็นเรื่องหลอกลวงคับ อย่าไปเชื่อคับ คิดแบบง่ายไม่ต้องอ้างสิ่งใดคิดโดยใช้ความเป็นคนที่มีสติอยางเรานี้แหละคับว่า ลองคิดดูนะคับว่าถ้าหากเราเองเป็นเทพแล้วจะทำอะไรในตัวคนท่านก็อยู่ในที่ หรือในภพภูมิของท่านที่ควรอยุ่เทพที่ไหนเขาจะมาสิง ในตัวคนไม่มีหรอกคับ มันเป็นการหลอกกันที่น่าตลกมากๆ คิดหรือว่าตัวตนหรือ จิตใจคนนั้นสะอาดพอเท่าที่จะเป็นที่สถิตขององค์เทพได้ ถ้าถึงขั้นนั้นคุณคงตายไปพ้นเรื่องบนโลกนี้แล้วหละไม่มาให้คนหลอกลวงเอาง่ายๆ แบบนี้หรอก ทุก อย่างมันเป็นเรื่องของความเชื่อ และจิตใจ การมีสติ เชื่อ ในสิ่งที่ควรเชื่อ เป็นดีที่สุด และที่สำคัญอย่าลืมเชื่อในตังเอง เชื่อว่าตนทำความดีได้ ด้วยตัวของตัวเองไม่ต้องพึ่งพาสิ่งใด คนทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันหมดเพราะว่าสามารถเป็นคนดีได้เท่ากัน จิตวิญาณทุกดวงที่มาถือกำเนิดในสภาวะของมนุษย์ที่จำเป็นต้องอาศัยสติสัมปะชัญญะในการดำรงณ์ชีวิตที่เหมือนกันย่อมถือว่าไม่มีใครเหนือกว่าใคร ทุกคน ทุกชิวิต ทุกจิตวิญญาณย่อมมีเหตุผลในความแตกต่าง
     
  14. jerajajen

    jerajajen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +267
    เทวดาไม่ว่าจะอยู่ชั้นใหนก็ตามแต่สิ่งหนึ่งที่เทวดาจะหยุดทำไม่ได้คือ การสร้างสมบุญบารมีต่อไปเพื่อนำไปสู่พบภูมิที่ดีกว่าและดีที่สุดจนถึง นิพพาน

    นี้ก็อาจเหตุผลนึงที่ทำให้ เทวดามาประทับทรงเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ มาชี้แนะต่างๆ มาเป้นตัวเสริม เช่น

    นาย ดำ ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เทวดาจะลงมาช่วยนาย ดำ อย่างไร คำตอบคือ ไม่ได้มารักษามะเร็ง เจ็บป่วยทางกายต้องให้แพทย์รักษา แต่ เทวดาจะช่วยเสริมการรักษา เช่น อาจช่วยให้นายดำ มีกำลังที่จะรักษา ไม่แพ้ยา หรือ ผลข้างเคียง ความทุกข์ทรมานน้อยลง หรืออะไรแบบนี้ครับ

    ทุกอย่างเป้น ปัจจัตตัง ตัวตนเท่านั้นที่จะรู้ครับ เพราะแต่ละคนมีสัมผัสไม่เหมือนกัน
     
  15. แม่จิ๊บโจ้

    แม่จิ๊บโจ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +314
    ขออนุโมทนาในความรู้จากทุกท่านค่ะ เป็นความรู้ที่หลากหลายดีค่ะ
     
  16. table

    table เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +730
    จากใจผู้ที่รับขันธ์มาแล้ว .... และรู้เรื่องนี้ พอประมาณ ... จากประสบการณ์ตัวเอง

    เทพมีจริงไหม เทวดามีจริงไหม ถ้าใครตอบว่าไม่จริง ผู้นั้น ถือว่าขัดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า

    การที่เทวดาหรือเทพลงมาช่วยคนนั้น มันเป็นยุคสมัยของท่านที่จะลงมาช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนา ทำให้มนุษย์เชื่อว่า สวรรค และนรกยังมีจริงอยู่ ไม่ให้มนุษย์ นำหลักของวิทยาศาสตร์มาเป็นความเชื่ออย่างเดียว ที่ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเหลวใหลมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นพิสูจน์ไม่ได้แน่นอน

    การรับขันธ์นั้น ที่บอกว่า เรามีขันธ์ห้า แล้ว จะเพิ่มขันธ์อีก ให้มันหนักทำไม
    อันนี้ผมขอค้าน ว่า รับขันธ์ไม่ได้หมายความว่า เราเพิ่มร่างกายที่เป็นทุกข์อะไรเลย มันก็เป็นเรื่องแค่ หาที่ตั้งขันธ์ให้ดี และสวดมนต์ปฏิบัติธรรมให้มากขึ้น ( การรับขันธ์ที่เป็นแบบเพิ่มภาระ จากเดิม ที่เรามีขันธ์ 5 มารับใหม่เป็นอีก 5 เท่ากับมีขันธ์ 10 เลย อันนี้ ขอบอกว่า น่าที่จะนำมาใช้ในการที่คนเราหาเรื่องแต่งงาน มองไม่เห็นทุกข์แห่งการครองเรือน แต่งแล้ว ต้องรับผิดชอบภรรยา = + 5 มีลูก 2 คน = + อีก 10 กลายเป็น เราต้องรับผิดชอบขันธ์ 20 เลย )
    เพราะฉะนั้นการรับขันธ์ ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยาก หรือเพิ่มภาระอะไรมากมายเลย แต่ .............. ต้องดูความจำเป็นว่า เทพท่านปรารถนาไหม ที่จะให้เรารับ
    เพราะเทพบางองค์มาคุ้มครองมนุษย์ เพราะเคยเป็นลูกหลาน บริวาร มาก่อนในอดีตชาติ และท่านเห็นว่าเรายัง ไม่พ้นปากเหยี่ยวปากกา ไม่พ้นนรก และยังมีความลำบากในการทำมาหากิน ซึ่งยุคสมัยนี้ ก็ทำมาหากินยากแสนเข็นจริง ๆ ...

    ดังนั้นท่านจึงอยากมาช่วยเหลือเราให้ทำมาหากินคล่องขึ้น แต่ต้องมีข้อแม้คือ การให้เราปฏิบัติ สวดมนต์ไหว้ พระ ทำบุญใส่บาตร เป็นประจำ ชีวิตจะได้ดีขึ้น ท่านก็จะช่วยเราได้มากขึ้น ไม่ใช่ให้ท่านช่วยเราอย่างเดียว เราต้องช่วยตัวเองก่อนด้วย และถ้าเราทำให้ถึงจุดหนึ่งแล้ว เรามีเรื่องเดือดร้อนเราสามารถสอบ

    ถามสือจิตกับท่านได้ ..... โดยไม่ต้องทรง ... นั่นคือมโนมยิทธิ

    และที่สำคัญ การไปเลือกสถานที่ที่จะทำขันธ์ให้เรานั้น ควรพิจารณาให้ดี อย่าง มาก ๆ และ ดีจริง ๆ ๆ ก่อน เพราะ หลอกลวง ก็มาก ไม่เก่งจริงก็มี หรือ บารมีต่ำกว่า เทพที่มาคุ้มครองเราอีกก็มี ก็ไม่ควรจะทำขันธ์ให้เรา

    แต่ทีเห็นมานั้น ถ้าร่างมีกรรมหนัก ป่วยมาก จนมาก ลำบากมาก ท่านก็จะสั่งให้รับขันธ์ เพราะ ขันธ์ 5 หรือขันธ์ 9 คือ ประกาศิต ที่ประกาศให้เทพทั้งหลายได้รับรู้ว่า มนุษย์ ผู้นี้ จะอยู่ภายใต้การปกครองของเรา ซึ่งเป็นเทพที่จะมาช่วยเหลือเขา และ เทพองค์อื่นจะมาทำอันตรายไม่ได้ ต้องบอกกล่าวท่านก่อนเพราะท่านมีสิทธ์ในมนุษย์ผู้นี้ ( เปรียบเสมือน คนในการปกครอง )
     
  17. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    เราก็พอมีประสบการณ์บ้างแต่ก็ไม่ได้รับขันธ์
    อีกทั้งก็ไม่ได้เป็นร่างทรงแบบที่มี
    แต่เป็นแบบให้ท่านอาศัยสวดมนต์ด้วยภาษาของท่านเอง
    คือหลังจากเราสวดมนต์เสร็จก็ให้ท่านสวดบ้าง
    ทุกวันนี้ใส่บาตรทำบุญทำทานปล่อยนกปล่อยปลาอยู่เป็นประจำ
    แถมหัดฝึกสมาธิด้วยแต่ก็ยังสื่อไม่ได้มากนัก
    แต่พอรู้ว่าถ้าเป็นเทพเทวดาจริงองค์ที่เป็นบุญญฤทธิ์จะสื่อมาแบบเย็น
    แต่แบบมีฤทธิ์จะร้อนและรู้สึกได้มากแบบว่าตัวชา
    แถมออกท่าทางได้ในกรณีที่เคยเห็นแต่เป็นท่าของเขาอย่างกวนอู
    แต่ที่เคยเห็นในโทรทัศน์ที่เต้นกันเป็นวักเป็นเวรนั้นยังไม่เคย
    เพราะที่ผ่านมาเคยออกท่าก็แค่ยกมือชูขึ้นบ้างยกมือพนมไหว้บ้าง
    ซึ่งไม่เคยมีลีลาที่เกินไปเลยกับแหงนหน้าส่ายหัวบ้างแบบที่ลีลาเหลือกินนั้นยังไม่เคยมาปรากฏแก่เรา
    บางครั้งจึงคิดว่าถ้าจิตปรุงแต่งเข้าไปด้วยน่าจะมีท่าที่โอเวอร์แน่นอน
    แต่เราเชื่อว่าท่านมีจริงแท้แน่นอนแต่แล้วแต่ว่าใครจะมีอะไรมารักษา
    เคยเห็นเพื่อนไปรับขันธ์เราก็ถามเขาแล้วเขาบอกเองว่าไม่ได้เป็นเทวดา
    แต่เป็นเจ้าป่าเจ้าเขาวาสนาเพื่อนเราน่าจะได้ผู้รักษาเป็นเทวดาแต่ไปรับจากเจ้าป่าเจ้าเขา
    ตัวร่างเองก็ไม่ใช่จะมีศีลธรรมนักแต่คนจะศรัทธาก็ห้ามเขาไม่ได้อาจเป็นกรรมที่ต้องเสียทรัพย์ขันธ์ละ2,000บาทองค์ละ2,000บาทมีมากกว่า1ก็คูณเข้าไปเพื่อนเราคนนี้เขามีศรัทธาจริตมากเลยต้องปล่อยเขาไปเรื่องตำหนักทรงนี้เชื่อว่าที่จริงก็มีแต่น่าจะน้อยกว่าหลอก แล้วก็เป็นเทวดาจริงยิ่งน้อย
     
  18. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    อย่าไปเชื่อเลยครับเรื่องรับขวัญ ไปๆมาๆเค้าจะสะกดทั้งคนทั้งเทพเอา หึๆ
    ความดีของเราก็มี เชื่อในสิ่งนั้นเถอะครับ
     
  19. punchalearn

    punchalearn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    ของดีอ่ะครับ ไม่ต้องไปหาเดี๋ยวมาเองครับ
     
  20. เอก999

    เอก999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +143
    ผมมีเทพคุ้มครองอยู่ 6 องค์ เชื่อไหม
    ผมเองยังไม่เชื่อเลยครับ แต่ก็ไม่ประมาทโดยการหมั่นทำบุญทำทาน
    เจริญภาวนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...