ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    The Sustainable Brand
    กรณีศึกษา โมเดลธุรกิจพลังงานยั่งยืน ในแบบฉบับ ปตท.สผ.

    เมื่อพูดถึงหุ้นในฝั่งพลังงาน หนึ่งในหุ้นเด่นที่เข้าสู่ตลาดมาแล้วกว่า 27 ปี ก็คือ PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (จำกัด) มหาชน

    หากว่า ปตท. เป็นธุรกิจกลางถึงปลายน้ำ ซึ่งจัดหา ขนส่ง และจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
    ปตท.สผ. ก็คือธุรกิจต้นน้ำ ซึ่งทำหน้าที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งในและต่างประเทศ

    จุดเริ่มต้นของ ปตท.สผ. น่าสนใจไม่น้อย

    35 ปีที่แล้ว การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเป็นเรื่องใหม่ที่ท้าทายสำหรับคนไทย เพราะทั้งยาก ทั้งเสี่ยง ทั้งลงทุนสูง และเราไม่มีความรู้และประสบการณ์มากนัก จากวันแรกบริษัทนี้มีพนักงานไม่กี่สิบคน จนเมื่อเวลาผ่านไป ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 4,000 ชีวิต และมีถึง 40 โครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมใน 15 ประเทศ

    โดยแรกเริ่มนั้น ปตท.สผ.ทำธุรกิจด้วยวิธี “ร่วมทุน” กับบริษัทน้ำมันต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย
    เรียนรู้ทุกกระบวนการ ทั้งการสำรวจ พัฒนา จนกระทั่งผลิตปิโตรเลียมเองได้

    จนมาถึง “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญเมื่อทางรัฐบาลมองเห็นถึงความจำเป็นในอนาคต
    เลยอนุญาตให้ ปตท.สผ. ซื้อสัมปทานโครงการบงกช ในอ่าวไทย คืนจากบริษัทน้ำมันต่างชาติ

    จากนั้น ปตท.สผ. ก็เรียนรู้การสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม จนกระทั่งกลายเป็นผู้ดำเนินการแหล่งก๊าซธรรมชาติด้วยตัวเองเป็น “ครั้งแรก” ในปี 2541
    แถมยังสามารถทำได้ดีเทียบเท่ากับบริษัทน้ำมันต่างชาติ

    ทำให้ ปตท.สผ. ตัดสินใจยกระดับธุรกิจ และการทำงานของตัวเอง
    เป็นบริษัทที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งในอ่าวไทยและต่างประเทศอีกหลายโครงการ
    โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน
    จากนั้นก็ค่อยๆ ขยายธุรกิจ อย่างมั่นคง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา ปตท.สผ. ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายครั้ง
    เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกต้องเผชิญกับความผันผวนที่เกิดจากสงครามราคา

    แล้วเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ปตท.สผ. จะปรับตัวอย่างไร?

    คำตอบอยู่ในแผน 5 ปี ซึ่งก็คือกลยุทธ์การดำเนินงาน Expand & Execute เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Energy Partner of Choice ที่เชื่อว่าการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการเติบโต มีความสำคัญมากกว่าการแข่งขัน

    Expand คือ ให้ความสำคัญกับการขยายการลงทุนในพื้นที่ที่เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในตะวันออกกลางจะร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ

    Execute คือ เน้นการเพิ่มปริมาณการผลิตและการสร้างมูลค่าของโครงการปัจจุบัน รวมถึงการเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมโดยเร่งรัดกิจกรรมในโครงการซึ่งอยู่ในระยะสำรวจ

    เพื่อรักษาอัตราส่วนปริมาณสำรองปิโตรเลียมต่อการผลิต (R/P Ratio) ที่ 7 ปี

    นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดต้นทุนธุรกิจในหลายๆ ส่วน
    จนปัจจุบัน ปตท.สผ. มีโครงสร้างต้นทุนทางธุรกิจที่ต่ำกว่าหลายๆ บริษัท ในอุตสาหกรรมนี้

    ปตท.สผ. ยังมีการปรับแผนการลงทุน
    ด้วยการลดสัดส่วนในการลงทุนโครงการเล็กๆ ที่ไม่ได้สร้างรายได้มากนัก
    พร้อมกับไปเพิ่มปริมาณการผลิตจากโครงการหลักให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

    และแผนที่น่าสนใจอีกอย่างคือการลงทุนในธุรกิจใหม่ซึ่ง ปตท.สผ. ได้ตั้ง บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือเออาร์วี เพื่อให้บริการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ และตั้งเป้าว่าธุรกิจนี้จะสร้างผลกำไรได้ร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิของ ปตท.สผ. ในอีก 10 ปีข้างหน้า
    และยังเล็งจะทำธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานอีกหลายอย่าง เช่น ธุรกิจไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน

    รู้หรือไม่ว่า สินค้าที่สร้างรายได้หลักของ ปตท.สผ. ไม่ใช่น้ำมันดิบ
    แต่เป็นก๊าซธรรมชาติ ที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของรายได้ทั้งหมด
    โดยดีลส่วนใหญ่ จะเป็นการกำหนดปริมาณซื้อขั้นต่ำไว้ตามสัญญาระยะยาวล่วงหน้าไว้แล้ว
    ผลดีก็คือ ความผันผวนของราคาขายจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก

    ความยืดหยุ่นในการปรับตัวนี้ทำให้ผลการดำเนินงานของ ปตท.สผ. มีความสม่ำเสมอ

    ปี 2017 รายได้ 153,198 ล้านบาท กำไร 20,579 ล้านบาท
    ปี 2018 รายได้ 176,687 ล้านบาท กำไร 36,206 ล้านบาท
    ปี 2019 รายได้ 198,822 ล้านบาท กำไร 48,803 ล้านบาท
    3 ไตรมาสแรกของ ปี 2020 รายได้ 128,369 ล้านบาท กำไร 20,137 ล้านบาท
    อย่างไรก็ตามผลประกอบการเหล่านี้ จะไม่ใช่ตัวเลขที่สมบูรณ์แบบเลย
    หากสังคมและสิ่งแวดล้อมไม่ได้ถูกพัฒนาให้เติบโตไปพร้อมๆ กับธุรกิจ

    ซึ่งต้องบอกว่า นับวันเรื่องนี้ได้ยกระดับความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
    จนกลายเป็นหนึ่งในตัวแปรการตัดสินใจของ นักลงทุน, พันธมิตรธุรกิจ,
    รัฐบาลของแต่ละประเทศ ที่จะตัดสินใจร่วมลงทุนกับทางบริษัท

    แล้ว ปตท.สผ.มีนโยบายเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?

    แนวคิดหลักๆ ของ ปตท.สผ. ก็คือการใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยหลักคือ
    ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าลดให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ภายในปี 2573
    ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดของเหลือทิ้ง ใช้ซํ้า นำกลับมาหมุนเวียนใช้ประโยชน์ใหม่
    อนุรักษ์และฟื้นฟูดูแลทรัพยากรธรรมชาติ นิเวศทางทะเลอย่างเป็นรูปธรรม และพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน

    อ่านมาถึงตรงนี้เราคงน่าจะพอเข้าใจคำว่า บริษัทยั่งยืน มีแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไร
    คงไม่ใช่ แค่การปรับตัวขององค์กรในวันที่โลกหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม
    คงไม่ใช่ แค่การสร้างรายได้และกำไรที่เติบโตต่อเนื่องทุกๆ ปี
    และคงไม่ใช่ แค่การพัฒนาดูแลสิ่งแวดล้อมให้สวยงาม

    เพราะทุกอย่าง มันต้องเดินไปพร้อมๆ กันหมด
    เหมือนอย่างที่ ปตท.สผ. ใช้แนวคิดในการทำธุรกิจมาตลอด 35 ปี

    จนกลายเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่การเป็น
    Sustainable Brand ที่สมบูรณ์...

    References
    -https://www.pttep.com/th/Sustainabledevelopment/Environment/Overviewandexpectations.aspx
    -https://www.pttep.com/35Thpttepanniversary/index.html
    -https://www.pttep.com/th/Aboutpttep/Visionmissionandcorporatevalue.aspx
    -รายงานประจำปี 2562

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปิดตำนานมหากาพย์ “วอร์เตอร์ฟรอนด์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์” โครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู 53 ชั้น ริมอ่าวพัทยา หลังก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ขออนุญาต และถูกระงับก่อสร้างไป โดยทางเมืองพัทยา จะเร่งหาเอกชนที่เชี่ยวชาญมาทำการรื้อถอน ก่อนจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับเจ้าของโครงการตามกฎหมาย #ข่าวช่องวัน

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #ข่าวด่วน!! ผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นมีอาการเริ่มหนักเพิ่มขึ้นมากสุดเป็นประวัติการณ์!!

    กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นเผยว่าล่าสุดมีผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วกว่า 331 คนทั่วประเทศที่มีอาการร้ายแรงมากและจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในห้อง ICU เพิ่มมากขึ้นอย่างเท่าตัว

    เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ตัวเลขของผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นมาอย่างเท่าตัวด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับใครที่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นอาจจะต้องระวังตัวเองให้มากขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่จะเกิดขึ้นกับตนเองเมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีผู้คนจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลขอร้องให้ประชาชนทุกคนโปรดหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่พบปะผู้คนจำนวนมากด้วย

    อ้างอิง : https://www3.nhk.or.jp/

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #บทความเรื่องญี่ปุ่น

    "ญี่ปุ่นกับโอนิงิริ เมนูที่อยู่คู่มา 2,000 ปี"

    เมื่อพูดถึงอาหารญี่ปุ่น สิ่งแรกๆที่ผมจะนึกขึ้นมาก็คือเจ้าข้าวปั้นห่อสาหร่าย "โอนิงิริ" (おにぎり) นี่ละ เรียกว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เปรียบเทียบกับของไทยก็คงจะเป็น... "ข้าวเหนียวหมูฝอย" คุณเห็นด้วยไหม?

    ทั้งสองเมนูนี้มีลักษณะที่คล้ายกันก็คือ สามารถปรุงแต่งเครื่องได้สารพัด อีกทั้งยังพกพาได้สะดวกอีกด้วย แต่ความสะดวกจริงๆผมก็คงจะมอบให้ "โอนิงิริ" เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ที่อำนวยความสะดวกในเรื่องของการพกไปมาที่มากกว่า (ภาพบรรจุภัณฑ์ข้าวเหนียวหมูฝอยในหัวของผมคือ กล่องโฟม ถ้าถือเอียงซ้ายอาจจะหกได้ ใช่ไหม...)

    เข้าเรื่องเลย ประวัติโอนิงิริ แบบฉบับสั้นรวบรัดตัดจบ

    .

    จากหลักฐานทางโบราณคดี โอนิงิริถือกำเนิดมาตั้ง 2,000 ปีแล้วนะ นักโบราณคดีคนหนึ่งพบเศษซากข้าวปั้นที่ปัจจุบันกลายเป็นก้อนถ่าน ซึ่งเหตุผลที่รู้ว่ามันเป็นข้าวปั้นก็เพราะว่า พบรอยนิ้วที่มาจากการบีบข้าว หรือการปั้นข้าว หรือการทำข้าวปั้นนั่นเอง!

    .

    ทางประวัติศาสตร์ การกินโอนิงิริเริ่มขึ้นในยุคเฮอัน (ค.ศ.794-1185) แต่ในตอนนั้นมันถูกเรียกว่า "ทงจิกิ" (頓食) มีรูปร่างเป็นทรงไข่ เป็นเมนูที่เสริฟให้ "ชิโมซูคาเอะ" (下仕え) บุคคลผู้ที่ทำงานเล็กๆน้อยๆในศาล (มีแต่ข้าว)

    .

    ยุคของการห่อสาหร่าย เริ่มในสมัยเอโดะ ยุคเก็นโรกุ (ค.ศ.1688-1704) ในสมัยนี้ชาวญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงสาหร่ายได้ง่ายขึ้น เรื่องกินๆก็ไม่เข้าใครออกใคร ชาวญี่ปุ่นเอาสาหร่ายมาห่อข้าวปั้นกิน ช่วยเพิ่มรสชาติ และช่วยไม่ให้ข้าวเหนียวเลอะมือด้วย!

    .

    โอนิงิริยังถูกเรียกอีก 2 ชื่อด้วยกัน ได้แก่ "โอมูซูบิ" (おむすび) และ "นิงิริเมชิ" (握り飯) แบ่งเรียกตามภูมิภาค หรือตามภาษาถิ่นนั้นๆ แต่จริงๆแล้วชื่อ "โอนิกิริ" ก็เป็นที่เข้าใจกันทั่วญี่ปุ่นนี่ล่ะ แต่ในเขตรอบๆภูมิภาคคันโต ลากยาวไปถึงภูมิภาคโทไคโด ชาวญี่ปุ่นจะเรียก "โอมูซูบิ" ซะมากกว่า ถึงแม้ว่าในโตเกียวและคานากาว่าจะเรียกว่า "โอนิงิริ" แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อที่ต่างกัน เหตุผลก็เพราะรูปร่างที่ต่างกันด้วย!

    .

    โอมูซูบิ จะบีบข้าวเป็นรูปภูเขา (สามเหลี่ยม) เปรียบดั่งสัญลักษณ์ของพระเจ้า เพื่อรับพลังจากพระเจ้า ตามทฤษฎีมีแค่เพียงโอมูซูบิเท่านั้นที่เป็นข้าวปั้นรูปสามเหลี่ยม

    โอนิงิริ มาจากคำว่า "นิงิริเมชิ" หรือ "นิงิรุ" ที่แปลว่า บีบ ซึ่งมันก็หมายความว่า โอนิงิริจะเป็นรูปทรงใดก็ได้ แค่ต้องผ่านการบีบให้เป็นรูปร่างเท่านั้นเอง

    .

    อ้างอิง: Iromegane

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #ล้มทั้งยืน บริษัทท่องเที่ยวญี่ปุ่นเตรียมล้มอีกครั้งหลังรัฐบาลยกเลิกเงินช่วยการท่องเที่ยว!!

    รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจตัดเมืองท่องเที่ยวอย่าง "ฮอกไกโด" และ "โอซาก้า" ออกจากโครงการโกทูทาเวล หรือก็คือโครงการช่วยออกเงินค่าไปท่องเที่ยวเหมือนที่ประเทศไทยทำอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ โดยเหตุผลที่ต้องยกเลิกนั้นก็คือไวรัสโควิด-19 เริ่มกลับมาระบาดอย่างหนักในญี่ปุ่นโดยมีผู้ติดเชื้อรายวันเป็น 1,000++ ราย

    ทางญี่ปุ่นเลยต้องออกมาตราการป้องกันไม่ให้คนออกเดินทางไปท่องเที่ยวเนื่องจากจะเป็นการแพร่กระจายไวรัสชั้นดี รวมถึงยังมีมาตราการที่กำลังพิจารณาอีกว่าจะทำการลดเวลาเปิด-ปิดร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าในโตเกียวอีกครั้งด้วยเพื่อยับยั้งให้คนออกมาใช้จ่ายและบริการนอกสถานที่น้อยมากขึ้น

    ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงทำให้นาย อิโนอูเอะ คันจิ ประธานของบริษัทท่องเที่ยวกล่าวว่า "การปิดโครงการนี้จะทำให้ธุรกิจของตนต้องพบกับวิกฤตการขาดทุนอย่างมหาศาล"

    อ้างอิง : https://www3.nhk.or.jp/

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผลสำรวจขุดค้นโครงกระดูกวาฬดึกดำบรรพ์อายุ 2,000 – 6,000 ปี พบกระดูกสันหลังสมบูรณ์ 19 ชิ้น
    .
    เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะได้ลงพื้นที่ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามการสำรวจขุดค้นโครงกระดูกวาฬ หลังได้รับแจ้งการค้นพบเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา
    .
    การสำรวจขุดค้นซากวาฬตามหลักวิชาการในพื้นที่ดำเนินการโดยกรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานในพื้นที่โดยผลการสำรวจขุดค้นเพิ่มเติม พบว่าชิ้นส่วนกระดูกวาฬสะสมตัวอยู่ในตะกอนดินเหนียวทะเลโบราณ
    .
    ซากดึกดำบรรพ์วาฬที่พบมีการเปลี่ยนสภาพจากการแทนที่ของแร่ธาตุอื่นยังไม่สมบูรณ์ ส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้างเปราะบาง ดังนั้นจึงเร่งทำการสำรวจขุดค้น ตั้งแต่วันที่ 9 – 15 พฤศจิกายน 2563 พบมีกระดูกวาฬอีกหลายชิ้นที่เรียงตัวต่อเนื่อง และขุดค้นได้มากกว่า 50%
    .
    ประกอบไปด้วย กระดูกสันหลังที่สมบูรณ์ 19 ชิ้น กระดูกซี่โครงข้างละ 5 ชิ้น สะบักไหล่และแขน (ครีบ) ด้านซ้าย
    .
    การสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 พบชิ้นส่วนกระดูกวาฬเพิ่มเติมมากกว่า 80% ได้แก่ กระดูกสันหลังส่วนลำตัวถึงส่วนคอ กระดูกซี่โครง และกะโหลกพร้อมขากรรไกรสภาพสมบูรณ์
    หลังจากนี้จะนำตัวอย่างไปอนุรักษ์ในห้องปฏิบัติการและเตรียมศึกษาวิจัยเพื่อระบุสายพันธุ์ต่อไป
    .
    นอกจากโครงกระดูกวาฬ คณะสำรวจยังพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในบริเวณโดยรอบ อาทิ ฟันฉลาม ฟันกระเบน เปลือกหอย ปูทะเล เพรียงทะเล และเศษไม้ และได้นำตัวอย่าง เปลือกหอย ซากพืช และกระดูกวาฬ ส่งวิเคราะห์หาอายุด้วยวิธีศึกษาธาตุคาร์บอน-14 (C-14) คาดว่าจะทราบผลประมาณอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้จากการพบโครงกระดูกวาฬบนแผ่นดินซึ่งห่างจากขายฝั่งทะเลปัจจุบันประมาณ 12 กิโลเมตร ในครั้งนี้ เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการรุกของน้ำทะเลเข้ามาในแผ่นดินเมื่อหลายพันปีก่อน
    .
    อีกทั้งสามารถศึกษาประวัติและวิวัฒนาการของวาฬและสัตว์ทะเลในอดีต และได้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพจากการพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ร่วมกับวาฬ นอกจากนี้ผลที่ได้จากการสำรวจด้วยวิธีการเจาะสำรวจศึกษาชั้นตะกอนดินและเทียบสัมพันธ์ ยังช่วยในการแปลความหมายถึงสภาพแวดล้อมในอดีต และหาขอบเขตชายทะเลโบราณในพื้นที่ตำบลอำแพงนี้อีกด้วย
    .
    นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า โครงกระดูกวาฬที่พบอายุประมาณ 2,000 – 6,000 ปี จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้นลักษณะกระดูกที่พบมีลักษณะเดียวกับที่พบในวาฬบรูด้า
    .
    ลักษณะซากกระดูกเริ่มมีการแทนที่ด้วยแร่ธาตุแล้วบางส่วน จึงนับว่าเป็นกึ่งซากดึกดำบรรพ์ (Subfossil) ที่จะต้องตรวจสอบโดยละเอียดด้วยวิธีศึกษาธาตุคาร์บอน-14 อีกครั้ง
    .
    สำหรับชนิดพันธุ์ของซากวาฬดังกล่าว ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้นำทีมนักวิชาการพิสูจน์อัตลักษณ์เบื้องต้น พบว่า ลักษณะกระดูกที่พบมีลักษณะเดียวกับที่พบในวาฬบรูด้า
    .
    จุดที่พบห่างจากชายฝั่งทะเลปัจจุบันประมาณ 12 กิโลเมตร จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการรุกของน้ำทะเลเข้ามาในแผ่นดินเมื่อหลายพันปีก่อน อีกทั้งสามารถศึกษาประวัติและวิวัฒนาการของวาฬและสัตว์ทะเลในอดีต และได้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพจากการพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ที่มีมานับพันปี

    #ซากวาฬบรูด้า

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 25, 2020 ยังปลดอีก! ไอบีเอ็มสั่งปลดพนักงาน 10,000 คนใน 6 ประเทศทั่วยุโรป

    อินเตอร์เนชั่นแนล บิสสิเนส แมชชีน คอร์ปอเรชั่น หรือที่รู้จักกันดีว่า ไอบีเอ็ม ยักษ์ธุรกิจบริการซอฟท์แวร์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ประกาศปลดพนักงานจำนวนมากถึง 10,000 คนในทวีปยุโรป หรือราว 20% ของพนักงานทั้งหมด โดยกลุ่มพนักงานที่จะต้องตกงานจำนวนมากจะอยู่ในประเทศเยอรมนี และสหราชอาณาจักร ตามด้วยมีพนักงานอีกจำนวนหนึ่งที่ตกงานในประเทศอิตาลี โปแลนด์ สโลวาเกีย และเบลเยียม หลังจากพบว่า ธุรกิจบริการดังกล่าวซบเซาอย่างมาก

    การประกาศปลดพนักงานในครั้งนี้ของไอบีเอ็ม เป็นการประกาศที่ชัดเจน หลังจากไอบีเอ็มเคยส่งสัญญาณการปรับลดต้นทุนกับหน่วยธุรกิจในภูมิภาคยุโรปในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ไอบีเอ็ม เปิดเผยว่า บริษัทยังคงรักษาการลงทุนที่สำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาความชำนาญและการฝึกอบรมสำหรับพนักงานที่เหลืออยู่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าไอบีเอ็ม

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจหลักของไอบีเอ็ม ได้แก่ ธุรกิจบริการไอที ที่เกี่ยวข้องกับการให้การบริการปฏิบัติงานรายวันกับลูกค้า เช่น การจัดการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า บริการสนับสนุนงานไอทีแบบดั้งเดิม ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การแข่งขันที่รุนแรง และความต้องการของกลุ่มลูกค้า

    ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไอบีเอ็มประกาศแผนการแยกธุรกิจ และมุ่งเน้นความสำคัญเกี่ยวกับหน่วยธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และบริการจัดการข้อมูลด้วยระบบ Cloud แบบไฮบริดจ์

    #ไอบีเอ็ม #ปลดพนักงาน #ตกงาน #ยุโรป #misterban

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 26, 2020 ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุกว่า 60.7 ล้านคน ยอดตายโควิด-19 ทั่วโลกกว่า 1.42 ล้านคน The Covid-19 infected globally toll surpassed 60.7 million

    เวลา 7.55 น.รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 60,700,380 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 13,135,658 ราย อินเดีย 9,266,697 ราย บราซิล 6,166,898 ราย ฝรั่งเศส 2,170,097 ราย รัสเซีย 2,162,503 ราย สเปน 1,622,632 ราย ยูเค 1,557,007 ราย อิตาลี 1,490,874 ราย อาเจนติน่า 1,390,388 ราย และโคลอมเบีย 1,270,991 ราย

    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,425,828 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 268,198 ราย บราซิล 170,799 ราย อินเดีย 135,261 ราย เม็กซิโก 102,739 ราย สหราชอาณาจักร 55,533 ราย อิตาลี 52,028 ราย ฝรั่งเศส 50,618 ราย อิหร่าน 46,207 ราย สเปน 44,037 ราย และเปรู 35,727 ราย

    ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 511,836 ราย(16,225) ฟิลิปปินส์ 422,915 ราย(8,215) เมียนมา 83,566 ราย(1,810) มาเลเซีย 59,817 ราย(345) สิงคโปร์ 58,190 ราย(28) ไทย 3,926 ราย(60) เวียดนาม 1,321 ราย(35) กัมพูชา 307 ราย บรูไน 150 ราย(3) และสปป.ลาว 39 ราย

    #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โควิด19 #covid19 #Misterban #btimes

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 26 , 2020 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 16 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,942 ราย ยอดเสียชีวิต 60 ราย
    .
    โดยขณะนี้มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 94 ราย รักษาหายแล้ว 3,788 ราย เสียชีวิต 60 ราย
    .
    โดยผู้ป่วยรายใหม่ 16 ราย อยู่ในพื้นที่ State Quarantine
    .
    ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine จากสหรัฐอเมริกา 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย คูเวต 2 ราย กาตาร์ 1 ราย สวีเดน 1 ราย ตุรกี 9 ราย และสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย
    .
    #ศบค #Covid19 #ไวรัส #Misterban

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 26, 2020 กิมจิช็อค ยอดติดโควิด-19 พุ่งหนักกว่า 580 คน สูงรอบ 8 เดือน
    .
    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติ เกาหลีใต้ หรือ KCDC เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในเกาหลีใต้ ทวีความรุนแรงอย่างน่ากังวล โดยในวันนี้ 26 พฤศจิกายน พบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา พุ่งสูงถึง 583 ราย ไม่เพียงทำสถิติติดเพิ่มรายวันสูงสุดในรอบ 8 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมเป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-29 จำนวน 518 ราย แต่ยังทำสถิติสูงมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในระยะที่ 2 ที่ 441 ราย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมอีกด้วย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา เพิ่มขึ้น 2 ราย รวมจำนวนสะสมเป็น 515 ราย
    .
    สำหรับจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ทั้งหมด 583 ราย ส่งผลให้จำนวนติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 32,318 ราย อยู่อันดับที่ 94 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 583 ราย พบว่าเป็นการติดเชื้อภายในประเทศเกาหลีใต้สูงถึง 553 ราย หรือราว 95% ของจำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมทั้งหมด ด้านอัตราการติดเชื้อรายวันในเกาหลีใต้อยู่ในระดับสูงเฉลี่ยเกินกว่าวันละ 100 ราย นับตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนเป็นต้นมา โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 18-22 พฤศจิกายน พบจำนวนผู้ติดโรคระบาดดังกล่าวเกินกว่าวันละ 300 ราย
    .
    สาเหตุการระบาดในระลอกที่ 3 ที่เพิ่มสูงขึ้น มาจากฤดูหนาวที่เริ่มต้นในเกาหลีใต้ ซึ่งอุณหภูมิที่หนาวเย็น เป็นปัจจัยหนึ่งในการเอื้อต่อการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การติดระบาดในการรวมตัวกันของประชาชนตามที่สาธารณะ การวมตัวกันในที่ส่วนตัว โรงพยาบาล และค่ายทหาร กระทรวงสาธารณสุข เกาหลีใต้ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ต้องการควบคุมและลดสถานการณ์การติดเชื้อในระยะที่ 3 ให้ลดลงมากที่สุด ก่อนที่จะถึงวันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม ซึ่งเป็นสอบของสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ
    .
    ทางการเกาหลีใต้ ประกาศเพิ่มระดับความเข้มข้นในการรักษาระยะห่างทางสังคมในกรุงโซล เช่น ปรับเพิ่มระดับมาตรการการรักษาระยะห่างขึ้นมาเป็นระดับ 2 จากทั้งหมด 5 ระดับ เนื่องจากกรุงโซลเป็นพื้นที่พบการระบาดมากที่สุดในขณะนี้
    .
    ทั้งนี้ เมื่อเวลา 8.00 น. (ตามเวลาไทย) ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ต่อไป สาเหตุจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ยังคงเผชิญกับภาวะการระบาดของโรคโควิด-19
    .
    #เกาหลีใต้ #กิมจิ #โควิด19 #misterban

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 26, 2020 ตามบินไทย สายการบินแห่งชาติฟิลิปปินส์ขอศาลคุ้มครอง เข้าภาวะปรับโครงสร้างหนี้พุ่งกว่า 30,000 ล้านบาท
    .
    สายการบินฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ ประกาศร้องต่อศาลเพื่อขอให้พิทักษ์ทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อเป้าหมายในการยื่นเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้ธุรกิจการบินเกิดมีภาระหนี้สินสะสมราว 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 31,000 ล้านบาท
    .
    ฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ ต้องประกาศปลดพนักงานจำนวนมากถึง 2,700 คน หรือราว 33% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อเป็นไปตามแผนการปรับลดค่าใช้จ่ายควบคู่กับการยื่นเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้ สายการบินดังกล่าวได้ตัดสินใจนำเครื่องบินจำนวน 20 ลำจากจำนวนฝูงบินที่ทำการเช่า มาเปิดให้บริการบิน เพื่อหารายได้มาบรรเทาภาวะหนี้สินที่เกิดสะสมเป็นจำนวนมาก
    .
    บริษัท ฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ส โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินดังกล่าว เปิดเผยผลประกอบการ 9 เดือน หรือตั้งแต่มกราคมถึงกันยายนที่ผ่านไป พบว่า มีผลดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 29,000 ล้านเหรียญเปโซฟิลิปปินส์ หรือประมาณ 18,963 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนพุ่งทะยาน 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่มีผลขาดทุน 8,400 ล้านเหรียญเปโซฟิลิปปินส์
    .
    #ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ #ศาล #คุ้มครอง #Misterban

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 26 , 2020 ยังไม่ยุบช่อง!! GMM 25 หยุดดำเนินกิจการสิ้นปีนี้ หลังประสบภาวะขาดทุน เหลือพนักงานเพียง 50 คนได้ไปต่อ ส่วนช่องจะให้บริษัทในเครือแกรมมี่เช่าเวลา ให้ทีมข่าวช่องวันผลิตรายการแทน
    .
    รายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์ GMM 25 ระบุว่า บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด เตรียมที่จะหยุดดำเนินกิจการในวันที่ 31 ธ.ค. 2563 เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน ส่งผลทำให้พนักงานประมาณ 190 คน โดยเฉพาะฝ่ายข่าว GMM 25 ต้องพ้นสภาพ โดยมีพนักงานประมาณ 50 คน ที่จะย้ายไปทำงานต่อกับบริษัทในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ส่วนพนักงานประจำที่เหลือ จะได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานทุกประการ
    .
    สำหรับสถานีโทรทัศน์ GMM 25 นับจากนี้จะมีไว้สำหรับให้บริษัทในเครือเช่าเวลาของสถานี เพื่อผลิตรายการต่างๆ ส่วนรายการข่าวจะมีทีมข่าวช่องวันมาผลิตแทน โดยรายการข่าวของจีเอ็มเอ็ม 25 จะออกอากาศวันสุดท้ายถึง 31 ธ.ค. 2563
    .
    ด้านเฟซบุ๊กที่ใช้นามว่า Preeya luck ระบุว่า สำหรับเรื่องนี้ก็ยอมรับว่าส่งผลกระทบทางด้านจิตใจพอสมควร เพราะทีมงานทุกคนก็ เป็นน้องๆ ที่ชวนกันมาจากที่เก่าบ้าง หรือชวนๆ กันมาเพิ่มเป็นทอดๆ แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้างระหว่างการทำงาน แต่พูดได้เลยว่าทีมงานที่เราเลือกมาตั้งใจ ทุ่มเท และสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างดีเยี่ยม ดังจะเห็นได้จากเรตติ้งก่อนมาหลักหมื่นก็พุ่งทะยานไปเป็นหลักหลายแสนในเวลาอันรวดเร็ว
    .
    แต่เมื่อในท้ายที่สุดจะต้องแยกย้ายกันไป ก็ต้องยืดอกยอมรับ มันเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมจริงๆ สำหรับคนที่คอยเอาใจช่วย คอยถามไถ่แนะนำงานใหม่ให้ก็ขอกราบขอบคุณมา ณ ที่นี้
    .
    โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด ในปี 2562 มีรายได้รวม 823.13 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 350.30 ล้านบาท เทียบกับปี 2561 มีรายได้รวม 858.02 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 413.22 ล้านบาท ขณะที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ในปี 2562 มีรายได้รวม 220.74 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44.74 ล้านบาท เทียบกับปี 2561 มีรายได้รวม 328.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 194.22 ล้านบาท
    .
    #GMM25 #แกรมมี่ #ขาดทุน #ยุบฝ่ายข่าว #Misterban

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สุดระทึก! นักเคลื่อนไหวต่อต้านโลกาภิวัตน์” ขับรถพุ่งชนประตูทำเนียบ “แมร์เคิล”
    .
    .
    .
    .รอยเตอร์/เอเอฟพี – ตำรวจเยอรมันแถลงวันนี้(25 พ.ย)ว่า สามารถจับกุมนักเคลื่อนไหวเยอรมันต่อต้านโลกาภิวัฒน์ที่ขับรถที่มีข้อความด้านข้างตัวรถไม่ยอมรับในการเมืองสนับสนุนแนวความคิดนี้พุ่งเข้าชนประตูหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล โฆษกรัฐบาลยืนยัน ผู้นำเยอรมันและคณะครม.ไม่ได้รับบาดเจ็บในเหตุที่เกิดขึ้น
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(25 พ.ย)ว่า ภาพข่าวจากที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นว่า ตำรวจเยอรมันกำลังอยู่ในระหว่างการตรวงจสอบรถคันที่ก่อเหตุซึ่งมีข้อความ “หยุดการเมืองโลกาภิวัตน์” ที่อยู่ด้านขวาของตัวรถ และอีกข้อความในอีกด้านคือ “คุณมันพวกแชมป์นักฆ่าเด็กๆและผู้สูงอายุ”
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า รถที่ก่อเหตุเป็นรถยนต์โฟลค์สวาเกนสีเขียวที่ผู้ขับซึ่งดูเหมือนจงใจต้องการก่อเหตุเพื่อประท้วงได้เคยก่อเหตุมาแล้วก่อนหน้าตามรายงานของสื่อเยอรมันว่า เคยก่อเหตุขับพุ่งชนด่านตรวจความมั่นคงในปี 2014 โดยในเวลานั้นเป็นการก่อเหตุเพื่อประท้วงต่อต้านภาวะโลกร้อน
    .
    ทั้งนี้ดูเหมือนตัวรถที่พุ่งชนประตูหน้าทำเนียบของนายกรัฐมนตรีเยอรมัน นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ไม่มีความเสียหายมากนัก โดยทางตำรวจแถลงว่า สามารถจับกุมตัวคนขับไว้ได้ โดยรอยเตอร์กล่าวว่า คนขับเป็นชายในวัยกลางคนถูกจับให้นั่งอยู่ในรถวีลแชร์และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำ.ตัวออกไป
    .
    ตำรวจกรุงเบอร์ลินแถลงผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ในระหว่างนี้ทางเรากำลังตั้งสมมุติฐานว่าคนขับตั้งใจพุ่งชนหรือไม่” และเสริมต่อว่า “เขาอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจในเวลานี้”
    .
    ล่าสุดตำรวจกรุงเบอร์ลินชี้ว่า คนขับที่ก่อเหตุอาจมีปัญหาทางจิตแต่ในเวลานี้ยังคงถูกตำรวจสอบปากคำและยังคงไม่ทราบแรงจูงใจก่อเหตุ
    .
    ขณะที่โฆษกรัฐบาลเยอรมันแถลงว่า “นายกรัฐมนตรีเยอรมัน และสมาชิกรัฐบาลคนอื่นๆและเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังนั่งทำงานในทำเนียบนายกฯไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด” และเสริมต่อว่า เหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    .
    รอยเตอร์ชี้ว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าในช่วงเกิดเหตุแมร์เคิลอยู่ด้านในสำนักงานทำเนียบหรือไม่ และในท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการเคลื่อนย้ายรถที่ก่อเหตุออกไป
    .
    ทั้งนี้กรุงเบอร์ลินเป็นฐานของกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายที่ต่อต้านความเคลื่อนไหวโลกาภิวัตน์ ที่มีเป้าหมายเพื่อหยุดโปรเจกต์พัฒนาโดยบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ระดับโลก
    .
    วันพุธ(25)แมร์เคิลมีกำหนดประชุมกับผู้นำรัฐต่างๆในประเทศถึงการขยายมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการอื่นๆสำหรับการรับมือวิกฤตโควิด-19
    .
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เด็กจีนอายุ 2 ขวบตกจากหน้าต่างชั้น 13

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) แถลงเมื่อวันอังคาร (24 พ.ย.) ว่าสายการบินทั่วโลกอาจประสบภาวะขาดทุนสูงถึง 157,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้และปีหน้า พร้อมปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาระบาดรุนแรงระลอก 2 และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดใหญ่ๆ
    .
    เมื่อเดือน มิ.ย. IATA ได้คาดการณ์มูลค่าความสูญเสียของธุรกิจการบินประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงระยะ 2 ปีนี้ ทว่าล่าสุดทางองค์กรได้ปรับคาดการณ์ว่ายอดขาดทุนเฉพาะปีนี้จะสูงถึง 118,500 ล้านดอลลาร์ และอีกราวๆ 38,700 ล้านดอลลาร์ในปี 2021
    .
    ภาพรวมที่น่ากังวลนี้เน้นย้ำถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมการบินโลกยังคงต้องเผชิญ แม้จะเริ่มมีข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มแจกจ่ายแก่ประชากรทั่วโลกไปตลอดช่วงปีหน้า
    .
    “ผลกระทบเชิงบวกที่จะมีต่อเศรษฐกิจและการจราจรทางอากาศจะยังไม่ปรากฏชัดจนกว่าจะถึงช่วงกลางปี 2021” อเล็กซองเดรอ เดอ จูนิแอค ผู้อำนวยการ IATA ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
    .
    IATA คาดการณ์ว่า จำนวนผู้โดยสารเครื่องบินจะลดลงเหลือเพียง 1,800 ล้านคนในปีนี้ จากสถิติ 4,500 พันล้านคนในปี 2019 และน่าจะฟื้นตัวเพียงบางส่วนเป็น 2,800 ล้านคนในปีหน้า ขณะที่รายได้จากการรับผู้โดยสารในปี 2020 คาดว่าจะลดลง 69% เหลือเพียง 191,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    “และนี่คือสภาวะช็อคครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการบินในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2” ไบรอัน เพียร์ซ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ IATA ระบุ
    .
    ตัวเลขคาดการณ์เหล่านี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าประเทศต่างๆ จะเริ่มเปิดพรมแดนอย่างมีนัยสำคัญในช่วงกลางปี 2021 ตลอดจนมีการตรวจเชื้ออย่างแพร่หลายและวัคซีนต้านโควิด-19 ถูกนำมาใช้งานจริง
    .
    IATA ยังเน้นย้ำให้รัฐบาลทั่วโลกหันมาใช้วิธีตรวจคัดกรองประชากรอย่างกว้างขวาง แทนที่จะใช้มาตรการกักกันโรคซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง
    .
    “หลายประเทศเริ่มหันมาฟังเรามากขึ้น” เดอ จูนิแอค ระบุ โดยอ้างถึงโครงการตรวจคัดกรองประชากรที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส, เยอรมนี, อังกฤษ, สหรัฐฯ และสิงคโปร์
    .
    แม้รัฐบาลและสายการบินของบางประเทศ เช่น แควนตัส จะออกมาประกาศแผนบังคับให้ผู้โดยสารเที่ยวบินระยะไกลต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเดินทาง แต่ เดอ จูนิแอค ชี้ว่ามาตรการลักษณะนี้ไม่สามารถปฏิบัติจริงได้ในทุกๆ ที่
    .
    “มันจะทำให้ผู้โดยสารบางคนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนไม่สามารถเดินทางได้” เขากล่าว “ดังนั้น การตรวจหาเชื้ออย่างเป็นระบบจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่เอื้อต่อการเปิดพรมแดนมากยิ่งกว่าวัคซีน”
    .
    ธุรกิจขนส่งทางอากาศ (air cargo) ถือเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่ยังมีแนวโน้มค่อนข้างสดใสในยุคโควิด โดย IATA คาดการณ์ว่ารายได้จากการขนส่งทางอากาศทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 15% เป็น 117,700 ล้านดอลลาร์ แม้ปริมาณสินค้าจะลดลง 11.6% เหลือเพียง 54.2 ล้านตันก็ตาม
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 26 ,2020 ‘ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์’ เปิดตัวเลขความคุ้มค่าการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว – สีน้ำเงิน พร้อมผลประโยชน์ที่รัฐได้รับ
    .
    ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าฯกทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กถึงบทความ ใครได้ใครเสีย? ขยายสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว – สีน้ำเงิน
    .
    โดยรถไฟฟ้าสายสีเขียวถูกทักท้วงการขยายสัมปทานจากกระทรวงคมนาคม แต่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้รับการขยายสัมปทานไปแล้วเมื่อกว่า 3 ปีที่ผ่านมา มาดูกันว่าประชาชนและรัฐได้-เสียอย่างไรจากการขยายสัมปทานรถไฟฟ้า
    .
    รถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีเส้นทางสายหลักประกอบด้วยช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน กทม.ได้ให้สัมปทานแก่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (มหาชน) หรือบีทีเอส เป็นเวลา 30 ปี จากปี 2542 – 2572 โดยบีทีเอสเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 53,000 ล้านบาท
    .
    สำหรับเส้นทางส่วนต่อขยายประกอบด้วยช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ช่วงอ่อนนุช-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต กทม.ลงทุนงานโยธา และบีทีเอสลงทุนขบวนรถ ติดตั้งระบบสื่อสาร อาณัติสัญญาณ และระบบตั๋ว
    .
    ขณะนี้ กทม.โดยกระทรวงมหาดไทยได้เสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบการขยายสัมปทานให้บีทีเอสออกไปอีก 30 ปี จากปี 2572-2602 โดยบีทีเอสจะต้องรับผิดชอบการเดินรถทั้งเส้นทางสายหลักและส่วนต่อขยาย แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมได้ทักท้วงการขยายสัมปทานให้บีทีเอสในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เป็นเหตุให้ประเด็นนี้กลายเป็นข้อกังขาของคนทั่วไปว่าทำไมการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวจึงเป็นเรื่องยาก แต่การขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจึงผ่านฉลุยไปแล้วเมื่อปี 2560
    .
    รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีเส้นทางสายหลักคือช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ รฟม.ให้สัมปทานแก่บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็มเป็นเวลา 25 ปี จากปี 2547-2572 เส้นทางนี้ใช้เงินลงทุนทั้งหมด 115,812 ล้านบาท โดย รฟม.ลงทุนงานโยธาเป็นเงิน 91,249 ล้านบาท และบีอีเอ็มลงทุนขบวนรถ ติดตั้งระบบสื่อสาร อาณัติสัญญาณ และระบบตั๋ว เป็นเงิน 24,563 ล้านบาท
    .
    สำหรับเส้นทางส่วนต่อขยายประกอบด้วยช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-ท่าพระ-บางแค เป็นการลงทุนรูปแบบเดียวกันกับเส้นทางสายหลัก กล่าวคือ รฟม.ลงทุนงานโยธา และบีอีเอ็มลงทุนงานเครื่องกลและไฟฟ้า
    .
    รฟม.ได้ขยายสัมปทานให้บีอีเอ็มออกไปอีก 21 ปี จากปี 2572-2593 โดยบีอีเอ็มจะต้องเป็นผู้เดินรถทั้งเส้นทางสายหลักและส่วนต่อขยาย มีการลงนามในสัญญาขยายสัมปทานไปแล้วเมื่อปี 2560
    .
    การขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน ประชาชนและรัฐได้เสียอย่างไร?
    .
    1. ระยะเวลาขยาย
    กทม.ต้องการขยายสัมปทานให้บีทีเอสเป็นเวลา 30 ปี จากปี 2572-2602 ส่วน รฟม.ได้ขยายสัมปทานให้บีอีเอ็ม 21 ปี จากปี 2572-2593 เหตุที่ กทม.ต้องขยายให้นานกว่าการขยายของ รฟม. เป็นเพราะบีทีเอสลงทุนมากกว่าบีอีเอ็มทั้งเส้นทางสายหลักและส่วนต่อขยาย
    .
    2. ค่าโดยสารสูงสุด/กม.
    รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีค่าโดยสารสูงสุด 65 บาท ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้ไกลที่สุด (ต่อเดียว) 55 กิโลเมตร ดังนั้น ค่าโดยสารสูงสุดต่อกิโลเมตรเท่ากับ 1.18 บาท ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้ไกลที่สุด 26 กิโลเมตร ดังนั้น ค่าโดยสารสูงสุดต่อกิโลเมตรเท่ากับ 1.62 บาท หรือแพงกว่าค่าโดยสารสูงสุดของสายสีเขียว 44 สตางค์/กิโลเมตร
    .
    3. แบ่งรายได้ให้รัฐ
    กรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว บีทีเอสจะต้องแบ่งรายได้จากค่าโดยสารให้ กทม.ตลอด 30 ปี รวมเป็นเงินกว่า 200,000 ล้านบาท และหากบีทีเอสได้ผลตอบแทนการลงทุนเกิน 9.6% จะต้องแบ่งรายได้ให้ กทม.เพิ่มเติมอีกตามอัตราที่กำหนดในสัญญา
    .
    ส่วนกรณีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บีอีเอ็มไม่ต้องแบ่งรายได้จากค่าโดยสารให้ รฟม.ถ้าได้ผลตอบแทนไม่เกิน 9.75% แต่ถ้าได้ผลตอบแทนเกิน 9.75% จะต้องแบ่งรายได้ให้ รฟม.ตามอัตราที่กำหนดในสัญญา
    .
    โดยสรุป บีทีเอสจะต้องแบ่งรายได้ให้รัฐมากกว่าบีอีเอ็ม
    .
    4. ชำระเงินแทนรัฐ
    กรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) บีทีเอสจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้แทน กทม.ในช่วงปี 2562-2572 เป็นเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท และจะต้องแบกรับภาระขาดทุนจากการเดินรถ (ส่วนต่อขยาย) ในช่วงปีดังกล่าวเป็นเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท รวมเงินที่บีทีเอสจะต้องจ่ายแทน กทม.ประมาณ 28,000 ล้านบาท ส่วนกรณีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บีอีเอ็มไม่มีภาระรับผิดชอบจ่ายเงินแทน รฟม.ใดๆ ทั้งสิ้น
    .
    5. ผลตอบแทนการลงทุน
    หากเงื่อนไขการขยายสัมปทานเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ดังกล่าวแล้วข้างต้น บีทีเอสจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนไม่เกิน 9.6% เพราะถ้าเกินจะต้องแบ่งให้ กทม. ส่วนบีอีเอ็มจะได้รับไม่เกิน 9.75% เพราะถ้าเกินจะต้องแบ่งให้ รฟม.
    .
    โดยสรุป บีทีเอสได้ผลตอบแทนน้อยกว่าบีอีเอ็ม
    .
    เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ อย่างนี้แล้ว กระทรวงคมนาคมจะว่าอย่างไร?
    .
    #BTS #BEM #รถไฟฟ้า #สายสีเขียว #สายสีน้ำเงิน #Misterban

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ปรับซะให้เข็ด!!! กรมการขนส่งทางบก เตือน การดัดแปลงไฟหน้า-ไฟท้ายรถให้เป็นแสงสีฟ้าหรือสีอื่นหรือทำให้มีความสว่างจ้ามากจนเกินไปเป็นอันตรายรบกวนสายตาผู้ใช้รถใช้ถนน มีความผิดตามกฎหมาย ขอให้เจ้าของรถแก้ไขให้ถูกต้องเพื่อมีส่วนร่วมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

    โดยเรื่องนี้ นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 กรณีได้รับความเดือดร้อนจากรถที่มีการดัดแปลงไฟหน้า-ไฟท้ายรถให้เป็นแสงสีฟ้าหรือสีอื่นหรือทำให้มีความสว่างจ้ามากเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากแสงไฟลักษณะดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนน สะท้อนเข้ากระจกมองข้างและกระจกมองหลังของผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหน้า หรือส่องเข้าตาผู้ขับขี่ที่ขับสวนทางมา ทำให้สายตาพร่ามัว และการแก้ไขไฟท้ายเป็นแสงสีฟ้าหรือสีอื่นยังส่งผลรบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถที่ขับตามหลังมา ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อการบาดเจ็บที่รุนแรงและเสียชีวิตได้

    ** การกระทำดังกล่าวยังเป็นความผิดตามกฎหมายดังนี้ รถส่วนบุคคล รถแท็กซี่ มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ฐานใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้องตามที่กำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ฐานเพิ่มเติมสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท โดยได้สั่งการสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งเข้มงวดตรวจสภาพรถให้เป็นตามที่กำหนด และขอความร่วมมือสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) หากพบว่า อุปกรณ์ส่องสว่างของรถที่เข้ารับบริการไม่ถูกต้องตามกฎหมายต้องแจ้งเจ้าของรถแก้ไขให้ถูกต้อง พร้อมให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบรถทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง หากพบการแก้ไขดัดแปลงไฟหน้า-ไฟท้ายรถ ดำเนินการตามกฎหมายทันที.

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์วัย 60 ปีเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย >> bit.ly/3l6afjN

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว รายงานค่าครองชีพทั่วโลก ประจำปี 2020 จากการสำรวจใน 133 เมืองทั่วโลก ของ The Economist พบว่า 'ซูริก-ปารีส-ฮ่องกง' ครองแชมป์เมืองค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ปี 2020 ส่วนเมืองอื่นๆ ที่ติดอยู่ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ 4) สิงคโปร์ (สาธารณรัฐสิงคโปร์) 5) เทลอาวีฟ (อิสราเอล) และ โอซาก้า (ญี่ปุ่น)

    กรุงเทพมหานคร (ไทย) ติดอันดับ 46 เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ปี 2020 โดยตกลงมา 20 อันดับจากปีที่แล้ว และกลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพถูกลงมากที่สุดอันดับ 4 ร่วมกับมอสโก (รัสเซีย)

    ** การจัดอันดับของ The Economist มาจากการสำรวจทั้งหมด 133 เมืองทั่วโลก ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีการเปรียบเทียบค่าครองชีพจากราคาสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันรวม 138 รายการ ใช้ราคาสินค้าในนิวยอร์กเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอันดับโดยรวมเป็นผลมาจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ราคาสินค้าและบริการพุ่งสูงขึ้น

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว นวดไทยคือเริ่ด!!!! กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยผลวิจัย 'นวดไทย' สามารถลดระดับความวิตกกังวล ความซึมเศร้า ลดอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดได้ ร่วมกับ การรับประทานอาหารรสขมและการทำสมาธิบำบัด

    โดยเรื่องนี้ นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผู้ช่วยอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า ผลการศึกษาวิจัย การนวดไทยต่อระดับความวิตกกังวล ความซึมเศร้า และอาการปวดของผู้ป่วยกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดที่มารับบริการ ณ คลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ พบว่า หลังจากการได้รับการนวดไทยจำนวน 3 ครั้ง มีผลทำให้ระดับคะแนนความวิตกกังวล ความซึมเศร้า และระดับความปวดกล้ามเนื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า การนวดไทยสามารถบรรเทาโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า และลดความปวดกล้ามเนื้อได้จริง

    ** "นอกจากการนวดไทยจะช่วยบรรเทาบรรเทาความวิตกกังวลความซึมเศร้าและลดความปวดกล้ามเนื้อได้แล้ว การทำสมาธิบำบัดหรือการออกกำลังกายก็จะช่วยในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน สำหรับการออกกำลังกายด้วยท่า ฤๅษีดัดตน ก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยบรรเทาอาการความวิตกกังวล ความซึมเศร้าได้" นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวทิ้งท้าย.

     

แชร์หน้านี้

Loading...