ใครทราบวิธีพบใจ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 30 ธันวาคม 2020.

  1. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    เอวัง!!!
     
  2. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ใช่ค่ะ ยังพร่องอยู่มาก จึงยังหยุดไม่ได้ หนทางยังอีกยาวไกล มีอะไรให้พิสูจน์ตามรู้อีกนับไม่ถ้วน ถ้าปัญญาเต็มเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคงจะรู้ด้วยใจว่าจบกิจแล้ว
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เป็นลักษณะของการหลงความคิด ไม่ทันความคิด ท่านบอกเองตอนที่สวดอย่างดื่มด่ำไปถึงบทที่ 14 พระพุทธเจ้าตรัสกับพระสุภูติว่า ปรัชญาปารมิตานั้นโดยความจริงแล้วก็ไม่มีสภาวะแห่งปรัชญาปารมิตาเลย เป็นเพียงสักแต่ชื่อเรียกปรัชญาปารมิตาเท่านั้น

    (ตรงนี้คงจะเป็นลักษณะปัญญาอบรมสมาธิกรายๆ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเอาสัญญาไหนเป็นตัวตั้ง เช่น ของเถรวาทเรา ก็จะเป็นพวกสัญญา 10 เป็นต้นครับ)

    ทันใดนั้นท่านก็เหมือนไร้ตัวตนไม่มีชีวิตหยุดนิ่งงันอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียว ไม่ขยับ ท่านตกอยู่ในภาวะไม่รู้สึกตัวไม่มีความรู้สึกนึกคิด เห็นแต่แสงสว่างเจิดจ้า ทุกอย่างบนโลก ภูเขา แม่น้ำ แผ่นดินหายไปหมด มีแต่แสงสว่าง ไม่มีความคิดใดๆในจิตใจไปชั่วขณะ

    ถ้าว่ามีแสงวาบเจิดจ้าก็ต้องว่ามีเรื่องของสมาธิเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ ทีนี้ปรากฏการณ์จะไปแนวไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้สัญญาอะไรเป็นตัวนำทางสร้างสมาธิ สัญญาตัวนั้นแหละสำคัญครับ อย่างท่านที่มาทางอสุภะสัญญา นิมิตท่านก็จะไปแนวๆอสุภะ เป็นต้นครับ

    นี่แค่เบื้องต้นเองนะครับ คือเป็นการกำราบทิฏฐิตรงข้ามออกไปชั่วคราว เพื่อให้ใจไม่สุดโต่งไปข้างโน้น แต่ตอนนี้มันกำลังจะมาสุดโต่งในข้างนี้แทนแล้ว เห็นไหมครับ ตามที่ท่านเขียนโศลกธรรมขึ้นมาว่า

    ไม่มีสายลม ไม่มีไฟ ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำ ไม่มีเทพเจ้า ไม่มีภูตผี ไม่มีคน ไม่มีท่าน ไม่มีฉัน ไม่มีพระสงฆ์ ไม่มีพระธรรม ไม่มีพระพุทธ อาณาจักรแห่งธรรมที่มีทุกสิ่งไม่มีแม้แต่สิ่งเดียว

    ตรงนี้คือไม่ทันนิมิตแล้วหลงฟุ้งปรุงแต่งเลยเถิดไปแล้ว (ถ้าแบบคุณหมูก็คือตรงกับอาการที่ไปเห็นไตรลักษณ์นั่นแหละครับ สัญญานำทางเข้ามาเป็นคนละตัวกันเฉยๆ)

    ท่านคงยังไม่เข้าใจในเรื่องความเป็นกลางว่า การปฏิบัตินั้นจะต้องให้อยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นกลาง ปราศจากอคติความลำเอียง ความคิดความเชื่อใดๆ ต้องหมั่นรู้ทัน วางๆไปก่อน อย่าพึ่งเอามาคิด พูดง่ายๆก็คือต้องมีมัชฌิมาปฏิปทานั่นเอง

    อันนี้ใจมันฟูมันแฟบ จิตเกิดอุปาทานการยึดแล้วท่านก็ไม่รู้ตัวเลย ยึดในนิมิตแล้วจมไปกับความคิดแบบไม่รู้ตัว ทุกข์ที่แท้จริงกลับไม่เห็น ไปหลงเชื่อสังขารมันหลอกเอา

    ทางที่ถูกคือ ท่านต้องกลับมาฝึกรู้เท่าทันความหลงสังขารแทน บ่อยๆ ต่อไป ถ้าพละมันมีกำลังมากขึ้น มันจะค่อยๆชัดเจนในความจริงมากขึ้นๆเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2021
  4. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612


    ชื่อตอน ตั้งได้ ถูกธรรมตรงธรรมดี..
     
  5. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ถ้าจิตมันเกิดอุปาทานทางใดทางหนึ่งขึ้นมา ไม่ว่าจะยึดทางดีหรือทางไม่ดี แล้วเราไม่รู้ตัว หรือเราไม่เห็นถึงต้นขั้วมันก็จะเป็นแบบนั้นแหละครับ มันเป็นด้วยอำนาจของตัณหาทั้งนั้น ทำให้เผลอจะสุดโต่งไปข้างใดข้างหนึ่งเสมอ ถ้ารู้ทันก็สงบลงแบบคนรู้จักพิษสงของไฟแล้ว มันก็ทำได้อยู่แค่นั้น เป็นปัญญาอบรมสมาธิไปเรื่อย
     
  6. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ดีมากเลยครับที่คุณทีบูนถอดคำพูดออกมา
    ผมไม่ใช่พระท่าน(ในคลิป)จึงไม่รู้
    จิตตอนนั้นที่เกิดจริง
    ของพระ(ในคลิป)ท่านเป็นยังไง
    ผมไม่ได้ไปรับรองท่านนะครับ
    แค่จะลองวิเคราะห์

    แต่จากที่ถอดมา
    การที่ท่านเห็นว่าไม่มี ภูเขา แม่น้ำ แผ่นดิน
    ชั่วขณะนึง
    ส่วนนี้เป็นการเห็นอนัตตา
    เป็นปัญญาเห็นความว่างในทุกสรรพสิ่ง

    ถ้าลองกลับไปดู
    แบบลพ.เยื้อน ท่านก็เห็นโบสถ์สลายไป
    หรือเอาแบบคนที่เขาเคยบรรยายไว้ในนี้
    ตอนถอยจิตออกมา
    เขาก็เห็น สิ่งของรอบตัวว่าง และสลาย
    ผมว่ามันแปลกที่เขาหลายคนจะเห็นคล้ายๆกัน
    ลองวิเคราะห์ดูครับ

    อีกอย่างในฌานสมาธิ
    มันจะไม่เห็นสิ่งเหล่านี้
    ผมก็เป็นคนทำสมาธิ พอรู้ว่า
    ในสมาธิเป็นแบบไหนครับ
    ปัญญาเห็นแบบนี้ ที่ว่า
    ว่างแบบไม่มี ตัวตนคนสัตว์
    มันต่างจากว่างในฌาน

    ในฌานนั้นมีแค่ความว่าง นิ่ง
    สติชัด แต่ในนั้นแทบไม่มีความคิด
    ผมจึงคิดว่าไม่น่าใช่ในสมาธิครับ

    และลองดูสาเหต
    ุที่พระในคลิปท่านเกิดตอนนั้นขึ้น
    ท่านสวดมนต์และดื่มด่ำในบทสวด
    ถ้าผมจะลองเข้าข้างพระ(ในคลิป)
    จิตท่านคงเป็นสมาธิ จิตตั้งมั่นจากการสวด
    และคำว่า >ดื่มด่ำ< นั้น
    จิตอาจเป็นการพิจารณาตามคำสวดไปเรื่อยๆ
    และเห็นแจ้งความว่างที่เป็นอนัตตา
    ของทุกสรรพสิ่ง ก็เป็นได้ครับ

    การบรรลุธรรม
    ไม่ได้มาจากการปฎิบัติเพียงอย่างเดียว
    การบรรลุธรรมจากการสาธยายธรรม
    แบบพระ(ในคลิป) ก็เป็นไปได้ครับ
    ยังมีการฟังแล้วบรรลุ
    แสดงธรรมอยู่แล้วบรรลุ
    และการไคร่ครวญธรรมแล้วบรรลุ
    ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้อีกครับ

    อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวผม
    ผมไม่ได้ไปรับรองพระท่าน(ในคลิป)
    เพราะในคลิปสั้นมากเกี่ยวกับที่ท่านอธิบายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2021
  7. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ที่ท่านว่าไม่มีพระพุทธ พระธรรมฯ เพราะท่านไม่ได้ผ่านการเห็นอริยสัจนั่นแหละครับ ถ้าจะว่าเป็นอนัตตสัญญาก็อนัตตสัญญาครับ สัญญาไม่เที่ยง ยึดไม่ได้ทั้งนั้น ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
     
  8. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ตอนที่เห็นแจ้งไตรลักษณ์
    มันจะเห็นเเค่ความว่าง ของทุกๆอย่างครับ
    เป็นปัญญารวบยอด เห็นของใดใด
    ในทุกสรรพสิ่งเป็นของว่าง ไม่มีเว้นสิ่งใดครับ
    แต่ขึ้นอยู่กับตอนนั้นแล้ว
    ว่าแต่ละคนจะมีสัญญานึกถึงสิ่งของใด
    หรือเห็นสิ่งของใดเป็นของว่างบ้าง
    แต่ปัญญาจะสรุป ว่าใดๆในทุกสรรพสิ่ง
    มีสภาพเหมือนกันนี้ครับ
    พระ(ในคลิป)จึงบรรยายบอกว่า
    แม่น้ำ ภูเขา หรือแม้แต่พระพุทธ พระธรรม
    ผมว่าถ้าพระไม่เกิดปัญญา
    ก็คงไม่กล้าบอกแบบนี้มั้งครับ
    เพราะใดๆในทุกสรรพสิ่ง ไม่เว้นสิ่งใดครับ
     
  9. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    อย่าดูแคลน นิกายเซน..

    เซน = ฌาน

    การบรรลุแบบฉับพลัน มีมากในนิกายเซน..

    พระมหาสังฆปรินายกองค์แรกของนิกายเซน ก็ พระมหากัสสปะ องค์ที่สอง ก็ พระอานนท์..
     
  10. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    การปฏิบัติแบบฟังเสียงจนถึงขั้นฟังเสียงจากความสงัด ก็คือ การทำสมาธิ ให้จิตจดจ่ออยู่กับเสียงนั้นๆ ใช้การตามรู้เสียงที่ได้ยินไปเรื่อยๆจนถึงความดับ..

    หากตามรู้เสียงถึงขั้นเสียงดับได้ จะเกิดอาการ หูดับ ตาดับ จิตรวมลงภายใน..

    เป็นอีกเส้นทางของสายสมถะยานิก..

    นักปฏิบัติที่มีอินทรีย์กล้า จะไม่ปิดรูเหี้ยให้เหลือรูเดียว แต่ จะใช้รู้เหี้ยรูใดรูหนึ่งในหกรู เพื่อตามรู้ เพื่อเป็นเครื่องรู้ เป็นเครื่องระลึก..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2021
  11. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    การสาธยายแบบดื่มด่ำ ตรงนี้เป็นสมาธิ ตรงนี้เป็นปีติ ตรงนี้เป็นสุข ตรงนี้เป็นมนสิการ ตรงนี้เป็นจิตอ่อนควรแก่การงาน..

    ดื่มด่ำ เป็นระดับ เป็นขั้น เป็นตอน..
     
  12. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    สมัยก่อน โศลกที่เขียน เขียนจากสภาวะที่ตนประสบ เขียนจากการเห็นด้วยปัญญาญาณ..
     
  13. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ไม่ต่างจาก หลวงพ่อพุธ ฐานิโย..
     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    มันเป็นปฏิกริยาระหว่างทางนั่นแหละครับ ปรากฏความรู้ความเข้าใจโน่นนี่นั่นขึ้นมา อย่างผมสมัยก่อน อยู่ๆความรู้สึกทั้งหมดก็ดับไปหายวับเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้ายังมีสติดีรู้สึกตัวตามปกติ แค่เห็นว่าตัวเองกำลังเริ่มหลงปรุงแต่ง ก็เลยรีบดับคือหยุดคิด แต่ทุกทีมันจะยังรู้ตัวอยู่ แต่คราวนั้นมันหายวับไปหมดแม้กระทั่งความรู้สึกตัวก็หายไปด้วย แค่เสี้ยววินาทีแล้วสติสัมปชัญญะก็กลับมา

    แล้วก็เลยได้ปัญญาว่า เราเห็นแต่ข้างนอก สิ่งภายนอกเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา เราไม่เคยเห็นว่าไอ้ตัวเราที่คอยไปคิดจัดการตัดสินโน่นนี่นั่นว่าเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา แท้จริงแล้วตัวเราผู้คิดผู้นึกเองก็ไม่พ้นสภาวะที่เป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา เราไม่เคยหันมาทำความรู้จักกับตัวเราเองผู้คิดนึกนี้เลยไง มันเป็นภูมิปัญญาระหว่างทางเฉยๆ

    บางทีจิตมันภาวนาของมันเองต่อจากที่เราภาวนาๆอยู่ก็มี แล้วมันก็หลุดออกไป แยกความเป็นสมมุติ วิมุติ แยกประเพณีที่เขาถือปฏิบัติๆกัน พวกสมาธิฌานญาณอะไร เห็นหลุดออกไปอีกมุมหนึ่งที่พ้นการกระทำใดๆหรือการปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง มันแยกเห็นความต่างของสมมุติกับวิมุติออกไปแบบนั้น

    บางทีสงสัยว่าอารมณ์มันเกิดขึ้นมาได้ยังไงก็ดูจนเห็นว่ามาจากการจำลมหายใจตัวเองได้ ว่าเคยหายใจแบบนี้ด้วยอารมณ์แบบไหน พอหายใจหนักเบาเท่ากันแบบนั้นอีก ก็ไปดึงเอาสัญญาอารมณ์นั้นมา

    บางทีก็ทวนอารมณ์ปัจจุบันไปเห็นเรื่องราวในอดีตตอนเด็กๆที่เป็นที่มาของอารมณ์หรือปมในใจในปัจจุบัน ทำให้นึกถึงพวกนักสะกดจิต พวกสายเข็มทิศฯ ว่าเขาทำยังไงกัน นี่ปัญญาอบรมสมาธิทั้งนั้นครับ ผมว่าถ้าเป็นแนวเจโตวิมุติ ความรู้ก็คงจะออกไปในแนวๆอิทธิวิธี มีฤทธิ์ทางใจ ทำโน่นทำนี่ได้ เก่ง มีพลังจิต ก็จะไปออกรูปนั้น แท้จริงนัยก็คือปัญญาอบรมสมาธิทั้งนั้น เพียงแต่รู้ไปคนละแบบเฉยๆ

    ตอนเห็นแรกๆเราก็เอ๊อะอ๊ะแตกตื่น ยินดียินร้าย พอบ่อยเข้าๆ โน่นนี่นั่นเจอมาเยอะๆเข้า ใจมันเริ่มรู้ทันความโลดโผนแล้ว มันก็ไม่อะไรกับอะไร ใจมันก็เริ่มคลายๆความยึด เริ่มวาง นี่เป็นทางสายกลางเข้ามาๆเองเห็นไหม

    จะว่ามันเป็นอารมณ์ของวิปัสสนาญาณก็อาจจะได้นะ แต่มันเป็นปฏิกิริยาระหว่างทางเฉยๆครับ ให้จำไว้เลยว่ามันต้องผ่านการเห็นอริยสัจตามความเป็นจริงเข้ามา ไม่งั้นนะ พระพุทธก็ไม่มี พระธรรมก็ไม่มี บางคนพูดไปถึงการตรัสรู้ก็ไม่มี พ่อแม่ไม่มี (ทิฏฐิ 62) บางคนว่าตัวเองกลายเป็นพระพุทธเจ้าเสียเอง ว่าไปนั่น แล้วพวกนี้แหละอันตราย หลงติดในสภาวะทางนามธรรมครึ่งๆกลางๆ รู้ไม่จริง แล้วก็เอาไปสอนต่อ เอาไปบันทึก อ้างว่าเป็นคำสอนพุทธ ศาสนาพุทธเลยจะอันตรธานไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แบบนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2021
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    รู้สึกแบบที่ปวีกล่าวตอนท้ายนี้
    เป็นที่มาของการฝึกสติด้วยการ
    ยกมือสร้างจังหวะ เคลื่อนไหว
    14 จังหวะสูตร ลพ.เทียน วัดสนามใน
    คับ
     
  16. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    รู้ๆๆๆๆ

    รู้อะไร

    "นาม" เป็นชื่อเรียก ธาตุทุกชนิดที่ ไม่ใช่รูป ( ตึ่ง โป๊ะ )

    สิ่งใดเป็น "นาม" จะมี คุณสมบัติคือ "รู้สภาวะได้"

    สัญญา รู้สภาวะได้ แต่จะสร้าง "การหมาย"
    เวทนา รู้สภาวะได้ แต่จะสร้าง สุ ทุ อทุอซูชิ
    วิญญานัม รู้สภาวะได้ แต่จะสร้าง รู้ไม่ซื่อ มีการเสวย หรือ ครอง หรือ ยึดสิ่งนั้นๆ

    นิพพาน เป็นนาม รู้สภาวะได้ แต่ไม่เป็น ปัจจัยให้เกิดสิ่งใดๆ
    นิพพาน เป็นนาม รู้สภาวะได้ แต่ไม่เป็น ปัจจัยให้เกิดสิ่งใดๆ
    นิพพาน เป็นนาม รู้สภาวะได้ แต่ไม่เป็น ปัจจัยให้เกิดสิ่งใดๆ

    พูดซั่นๆ รู้ซื่อๆ รู้หยุดลงที่รู้ รู้สักแต่ว่ารู้ รู้โดยที่ไม่รู้อะไร
    เผลอแล้วรู้ ก็เรียก

    เกิดชั่วฟ้าแล๊บ

    แต่ ไม่หวลกลับยังโลกอีก เกิน3เดือน ควรพยากรณ์ตน แต่ไม่สำคัญตน

    ปล : อนุญาต ให้ ทำท่า สุเมธดาบษ เดินสามก้าว หมอบราบพื้น
    เป็น พันๆ กิโลเมตร เพื่อ ปลูกสัทธา ไม่ว่ากัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2021
  17. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2021
  18. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    สูตรของ ลพ.เทียนค่ะลุง ธาตุรู้จะวูบวาบ วูบวาบตามด้วยค่ะ
     
  19. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    สังเกตุอาการแล้วเข้าไปรู้สึกอารมณ์
    ใช่ไหมครับคุณบีมปวี
     
  20. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    อาการที่เราตามรู้ แล้วเห็นมันหายวับไป
    ผมเรียกมันว่า การเห็นเกิดดับ
    แต่เพราะกำลังสมาธิมากขึ้น
    อาการที่หายวับนั้น เหมือนชัดมากในจิต
    เหมือนสิ่งหนึ่งปรากฎตรงหน้า
    แล้วดับวับไปแบบไร้ร่องรอย
    เป็นการที่จิตได้เห็นความเป็นอนัตตา
    ซึ่งยังไม่ใช่การเห็นแจ้ง
    แต่การเห็นไปแบบนั้น ถูกต้องแล้วครับ
    เห็นแบบนั้น จนกว่าจะเห็นแจ้งขึ้นมา

    ข้อสังเกตุการถ้าแจ้งไตรลักษณ์
    ช่วงเวลานั้นเกิดนั้น จะไม่คุยกับตัวเองเรื่อง
    ทุกข์ภายนอก ทุกข์ภายใน
    อย่างคุณทีบูนยกตัวอย่าง
    มันจะเห็นแค่สภาพ
    ของความเป็นไตรลักษณ์
    แบบจังจัง
    เพียงอย่างเดียว
    เหมือนผมเคยเปรียบ การไปเหยียบดวงจันทร์
    ก็จะหายสงสัยว่า
    ดวงจันทร์จริงๆเป็นแบบไหน
    ต่างจาก
    การเห็นดวงจันทร์บนพื้นโลก
    เช่นเดียวกับการเห็นแจ้งไตรลักษณ์ครับ

    ส่วนการเห็นอริยสัจ
    ก็คือการเห็นไตรลักษณ์นั้น
    เพราะได้เห็นทุกข์โดยสภาพของมัน
    จิตจะรู้ทันทีถึงความที่เคยหลง
    เข้าไปยึดสิ่งนี้
    ตรงนี้จะเกิดช่วงหลัง
    จากการเห็นแจ้งไตรลักษณ์แล้ว
    เหมือนคนที่รำพึงรำพันกับตัวเอง
    แบบธรรมดาที่สุด
    ถึงความโง่ที่หลงเข้าไปยึดทุกสิ่งทุกอย่าง
    มันจะไม่มีศัพท์แสงอะไรพูดกับตัวเองมากมาย
    เกิดปัญญาตามมาหลังจากเห็นแจ้งไตรลักษณ์

    เห็นทุกข์ คือ สภาพทุกข์ในทุกสิ่ง
    ที่สุดของสภาพไตรลักษณ์คือความว่างเปล่าของอนัตตา
    และเห็นเหตุ คือ การหลงไปยึดเข้าแบบโง่ๆ
    จึงเกิดทุกข์
    และเห็นทางออก คือ การทำให้สิ้นความยึดนั้น
    >>แต่จิตตอนนั้นไม่ได้มาพูดแบบนี้นะ
    เป็นเพียงผมอธิบายขยายให้เท่านั้นครับ

    ผมดูแล้ว การเห็นแจ้งไตรลักษณ์
    จะเป็นสิ่งที่จินตนาการกัน ไปไม่ถูกครับ
    มันต่างจากปัญญาที่เราวิเคราะห์วิจัยธรรม

    ผมลองเปรียบ
    เหมือนคนที่ไม่เคยนั่งสมาธิ
    พอได้อ่านอาการที่เกิดขึ้นในฌาน
    ก็จินตนาการไปไม่ถูก
    แต่พอได้ลองนั่งสมาธิถึงฌาน
    จะพบเจออาการแบบเดียวกัน
    เช่นเดียวกับการเห็นแจ้งไตรลักษณ์
    ถ้ายังไม่เคยเกิดขึ้น
    ผมว่ายากที่จิตนาการ ถึงสิ่งนั้นได้ยากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...