ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 9 ธันวาคม 2018.

  1. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ผมเลือกกอง3วันนี้หวังว่าผีเด็กจะไม่สกดจิตผมอีก
     
  2. BENATO

    BENATO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,582
    ค่าพลัง:
    +1,917
    รายนั้น..

    คงจะอำลา วงการ นักแสดงบันเทิง..

    แล้ว หันหน้า เข้าสู่..วงการ..

    ผู้กำกับ.. ตัวจริง แล้ว.. กะมัง..?

    ;);)
     
  3. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ฆาตกร:)
     
  4. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ตาม นั้น เลย..
     
  5. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    กอง 2ด้วยคนครับ
     
  6. เพลงพรายพิญ

    เพลงพรายพิญ The Myth 2077

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +1,996
    อรุณสวัสดิ์ :D
     
  7. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ดีด้วยจร้า
     
  8. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
     
  9. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    อรุณสวัสดิ์
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    xTNTbj8F9s9gDNgPDXlL17Wvq-f8g-1hpnhV1McNfX5I0uty55TOOQRiafoT9O1WPIEII6OIpiKPzuXcpDoOnq-0-Xw5D2LQ.jpg
    [​IMG]

    หนังเกาหลีเรื่องนี้ ต้้งชื่อได้ถึงใจพระเดชพระคุณจริงๆหนอ...อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2021
  11. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ส่วน มาร คง บอก ว่า..

    "ตวัดลิ้นให้เทพหมอบ"

    :):)
     
  12. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    หัว หมู่ เปา เป็น ไง มั่ง ลุง เษม:)

    โดนฝ่ามือแม่กลางงานแต่งไปหนึ่งดอก:)
     
  13. เพลงพรายพิญ

    เพลงพรายพิญ The Myth 2077

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +1,996
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สุขหรือทุกข์ อยู่ที่ใจ ไปยึดถือ

    201509071805.jpg

    สุขหรือทุกข์ อยู่ที่ใจ มิใช่หรือ

    ถ้าใจถือ ก็เป็นทุกข์ ไม่สุขสม

    ถ้าไม่ถือ ก็เป็นสุข ไม่ทุกข์ตรม

    เราอยากได้ ความสุข หรือทุกข์เอย
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    xV7MGMHZcpMUaldnO3kBzwYCN39n3WGd73yGiZmUb_xPkBDe_WRfBLsPNfNgZlc41Dv2yAWjXgXqX315gq4Y_FvEXhvz14Po.jpg

    มารหัวเราะ 5555555
    เทพหัวเราะ อิอิ
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมียสองต้องห้าม เมียสามไม่ดี จึงจำใจต้องมีเมียสี่


    เมียสองต้องห้าม - ทศพล หิมพานต์

    เรื่องทางโลกก็เป็นทุกข์ แบบนี้แหละครับ หลวงพี่
     
  17. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    กรรมในอดีตชาติเรื่องชู้สาว?
    เมื่อไรจะใช้หมดล่ะทีนี้ ชาตินี้ยิ่งไม่ค่อยจีบใครอยู่

    โสดยาว

    .... ฟังคำทำนายแล้วมาบ่น ....
     
  18. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พุทธะหรือมาร มองให้ทะลุ มันก็คือสิ่งเดียวกัน

    03ZSn9FLxfDgnknBA_7UPuMYh9BqUCy84xFe1Z2bSQGViXJtD1b6R8V7a_EGw5Sc4axX0dS5KebWshHnOcKnWroFlB_-Tk6E.jpg

    #กิเลสคือโพธิ
    #พุทธะหรือมารคือสิ่งเดียวกัน


    หากคุณเข้าใจ"อิทัปปัจจยตา"คุณจะเข้าใจ การทำงานของจักรวาล

    ทรายเม็ดหนึ่งที่ติดรองเท้ามาได้ ก็เพราะมันมีเหตุปัจจัย

    ทำให้มันอยู่ในรองเท้าคุณ และมันเป็นอย่างนั้นเอง

    เช่นเดียวกัน ทุกปรมาณู อนุภาค ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัย

    ที่หมุนเวียนเกาะเกี่ยวจาก"ที่ว่าง"จนกลายเป็นตัวตน

    แม้ความว่างก็ยังเกิดจาก อิทัปปัจจยตา

    รวมทั้งอวัยวะทุกส่วนที่เกิดมาเป็น เรา เขา สัตว์ บุคคล

    ในด้านจิตใจ ความคิด เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

    ล้วนเป็นเหตุเป็นผลต่อเนื่องมาทั้งสิ้น

    จักรวาลนี้จึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ และไม่มีอะไรเป็นเหตุบังเอิญเลย

    ความมีหรือไม่มี ก็เกิดจากเหตุปัจจัย

    แต่.....อริยะบุคคลมองทะลุความไร้สาระของ

    ความมี และความไม่มี!!!

    ทางเดินจึงไม่สุดโต่งหรือเอียงไปทาง

    "อัตถิตาและนัตถิตา" เพราะแท้ที่จริง...

    ไม่มีความแตกต่างระหว่าง ความมีกับความไม่มี

    ดังนั้น ผู้กระทำกรรม ผู้รับผลแห่งกรรม ความสิ้นไปแห่งกรรม

    ทั้งกรรมเก่า กรรมใหม่ และการกลับมาเกิดใหม่(อัตตาตัวตน)

    จึงไม่มี สำหรับผู้เดินทางสายกลางนี้

    เพราะมองเห็นธรรมชาติล้วนๆที่หมุนกลิ้ง ปรุงแต่งกันไป

    **แค่ขณะต่อขณะตามเหตุปัจจัย

    อริยะบุคคลจึงใช้สมมุติถูกต้องตามหน้าที่ที่ควรเป็นไป

    แต่ใจ..มิได้ปฎิเสธ และมิได้กอดรัด

    จนร่วงหล่นต่อการให้ค่าที่เรียกว่าทวิภาวะ

    เพราะหากเข้าใจธรรมชาติจริงแท้

    พุทธะหรือมาร มองให้ทะลุ มันก็คือสิ่งเดียวกัน

    อาม่า (นิด)

    ที่มา https://sites.google.com/a/sapit.ac.th/metteya/xam-a-nid/003
     
  20. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    อย่าให้ที่มาเป็นคำพูดของคนอื่น หรือ สิ่งอื่น สิ ลุง..

    ให้ความรู้ทั้งหมดเกิดขึ้นจากภายในจิตใจตน สิ ลุง..

    ถ้าเอาความรู้คนอื่นมาเผยแผ่ อย่าง นี้..

    ลุงก็ไม่พ้น วนเวียน เกิด ตาย ในวัฏฏะ เป็นว่าเล่น..

    นะ ลุง นะ..

    ด้วยความปรารถนาดีจาก.. "ฐานธมฺโมภิกขุ"
     
  21. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    อย่าติดหล่อ แต่ เอาตัวไม่รอด นะ ลุง นะ..

    อย่าติดคำพูดเท่ห์ๆ แต่ เป็นคนไม่มีปัญญา นะ ลุง นะ..
     
  22. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    mit-student-testing-webcam.jpg

    สาธุ สาธุ สาธุ

    หลวงพี่ สั่งสอนผู้อื่น เท่ากับ หลวงพี่ กำลังสั่งสอนตนเอง
     
  23. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อันตรายจากความคิดแบ่งขั้ว ‘ทวิภาวะ’

    911-jpg.jpg

    ศีลธรรมและสันติภาพจะกลับมามีจริงได้หรือไม่? อันตรายจากความคิดแบ่งขั้ว : วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยพระไพศาล วิสาโล

    “ความสงบสุขไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จากการกำจัดคนที่ก่อความรุนแรง" รากเหง้าประการหนึ่งของความโกรธ ความเกลียด ก็คือความคิดแบบ ‘ทวิภาวะ’

    ทวิภาวะ คือการมองเป็นขั้ว มองเป็นฝักเป็นฝ่าย เป็นขาวเป็นดำ เป็นพวกเราเป็นพวกเขา ไม่ใช่แค่มอง แต่ยังมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายที่เห็นต่างด้วย

    ตัวอย่างความคิดแบบทวิภาวะที่ชัดเจนมาก คือคำพูดของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช หลังจากเกิดเหตุการณ์ ๑๑ กันยาว่า “ถ้าคุณไม่เป็นพวกเราก็เป็นศัตรูของเรา" เมื่อมองแบบแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีเรา มีเขา ก็เกิดความคิดว่า พวกกูดี พวกมึงเลว นี่เป็นความคิดสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงในบ้านเมืองและในโลก

    ความคิดว่า สีเราดี สีอื่นเลว นี่เป็นความคิดแบบทวิภาวะ ความคิดว่าศาสนาของเราดี ศาสนาของคนอื่นเลว นี่ก็เป็นความคิดแบบทวิภาวะ ความคิดว่าคนดีกับคนชั่ว อยู่คนละพวก ความดีกับความชั่วแยกกัน นี่ก็เป็นความคิดแบบทวิภาวะ รวมทั้งความคิดว่า สั้นกับยาว นั้นเป็นคนละขั้ว อยู่แยกกัน แต่พุทธศาสนาไม่ได้มองอย่างนั้น

    พุทธศาสนามองอย่างไร?

    หลวงพ่อชา สุภัทโท เคยสอนศิษย์ โดยนำกิ่งไม้มากิ่งหนึ่ง แล้วถามว่า กิ่งไม้นี้สั้นหรือยาว แล้วท่านก็บอกต่อว่า ถ้าคุณต้องการกิ่งที่ยาวกว่านี้ กิ่งที่ผมถือมันก็สั้น ถ้าคุณต้องการกิ่งที่สั้นกว่านี้ กิ่งที่ผมถือมันก็ยาว

    แปลว่าสั้นและยาวนั้นอยู่ในกิ่งเดียวกัน นี่คือความเข้าใจที่ไปพ้นทวิภาวะ พุทธศาสนามองแบบนี้ ไม่ได้มองอะไรเป็นขั้วที่แยกขาดจากกัน

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ความตายอยู่ในชีวิต ความแก่อยู่ในความหนุ่มสาว โรคอยู่ในความไม่มีโรค”

    คนเรามักคิดว่า เกิดกับตายอยู่กันคนละขั้ว เหมือนกับกิ่งไม้ ที่แยกเป็นโคนกับปลาย แต่ไม่ใช่ นั่นเป็นความคิดแบบสามัญ เป็นความคิดแบบสมมติ ที่เหนือกว่านั้น คือความจริงที่ว่า เกิดกับตายอยู่ด้วยกัน ขณะที่เรามีชีวิตอยู่นี้ ก็มีความตายเกิดขึ้นทุกขณะ มีเซลล์ในร่างกายเราตาย ๕๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ ล้านเซลล์ ทุกวันที่เราหายใจ ขณะที่เราสุขภาพดี โรคก็ปรากฏในตัวเรา เพียงแต่ยังไม่แสดงตัวจนเราล้มป่วยเท่านั้น เช่นเดียวกับความชราก็อยู่ในความหนุ่มสาว หนุ่มสาวทุกคนล้วนแก่เมื่อเทียบกับเด็ก นี่เป็นการมองโลกแบบอยู่เหนือทวิภาวะ

    ในทำนองเดียวกันคนดีกับคนชั่ว ไม่ได้แยกกัน เพราะในคนคนหนึ่ง มีทั้งความดีและความชั่วอยู่ด้วยกัน แต่เรามักจะมองว่า คนดีกับคนชั่วแยกกัน ความดีกับความชั่วก็แยกกัน ความคิดแบบนี้ทำให้แบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย ถ้าใครคิดไม่เหมือนเราก็ชั่ว ถ้าคิดเหมือนเราก็ดี ตรงนี้แหละที่นำไปสู่ความคิดที่คับแคบ นำไปสู่การมองซึ่งกันและกันเป็นปฏิปักษ์ นำไปสู่ความโกรธ ความเกลียด และในที่สุดก็นำไปสู่ความรุนแรง

    ความคิดแบบทวิภาวะเป็นความคิดแบบฝรั่งก็ว่าได้ เกิดจากการที่มนุษย์เราแยกขาดออกจากธรรมชาติ เราก็เลยไม่ปรานีปราศรัยกับธรรมชาติ เห็นธรรมชาติเป็นศัตรูหรือสิ่งที่ต้องตักตวงเอาเปรียบ แต่ถ้าเราตระหนักว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และธรรมชาติก็มีอยู่ในตัวเรา ดินน้ำลมไฟในธรรมชาติประกอบเป็นตัวเรา และเราก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราจะเคารพธรรมชาติมากกว่านี้

    มีคำสอนธิเบตให้ข้อคิดที่ดีมาก คือเปรียบจิตเราเหมือนอากาศในแก้วน้ำ ส่วนธรรมชาติเหมือนกับอากาศข้างนอกแก้ว ความจริงแล้วอากาศในแก้วกับนอกแก้ว ก็เหมือนกัน เป็นอันเดียวกัน เพียงแต่มีแก้วขวางกั้น แก้วที่ขวางกั้น เปรียบได้กับอวิชชา ที่ทำให้เราเห็นว่า อากาศนอกแก้ว กับอากาศในแก้วแยกจากกัน คนละอย่างกัน

    การปฏิบัติธรรมก็คือ การทำให้อวิชชาหมดไป เปรียบเหมือนกับการทำให้แก้วหายไป ทำให้อากาศข้างนอกกับข้างในแก้ว กลับคืนมาเป็นหนึ่งเดียวกัน ธิเบตเรียกว่า ลูกกับแม่มาพบกัน การปฏิบัติธรรม ถึงที่สุดคือการเห็นความจริงว่า มันไม่มีเส้นแบ่งระหว่างเรากับธรรมชาติ ธรรมชาติภายนอกกับธรรมชาติภายในเป็นหนึ่งเดียวกัน

    ท่านอาจารย์พุทธทาสให้ความสำคัญมากกับการปฏิบัติเพื่อไปให้พ้นความคิดแบบทวิภาวะ กล่าวคือถ้าเราไปไม่พ้นความคิดแบบนี้ เราจะมองเห็นกันและกันเป็นศัตรูได้ง่าย และทำให้เกิดความโกรธ ความเกลียด และนำไปสู่ความรุนแรง

    ทั้งหมดนี้มีความสำคัญอย่างไร?

    หากต้องการ ให้สันติสุขกลับคืนมา อยากให้ศีลธรรมกลับมา เราต้องทำให้ความโกรธ ความเกลียดลดน้อยลง เบาบางลง เพราะมันคือรากเหง้าของความรุนแรง รากเหง้าของการเบียดเบียน รากเหง้าของความไม่มีศีลธรรม

    ความสงบสุขไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จากการกำจัดคนที่ก่อความรุนแรง ถ้าคิดว่ากำจัดคนเหล่านั้นแล้วบ้านเมืองจะสงบสุข กำจัดผู้ร้ายแล้วความสงบสุขจะกลับคืนมา แต่ไม่จัดการกับตัณหา มานะ ทิฐิ เราก็หนีความรุนแรงไม่พ้น หนีการเอาเปรียบเบียดเบียนกันไม่พ้น

    ความรุนแรงเกิดขึ้นจาก ๓ ก. คือ เกลียด โกรธ และกลัว การจะกำจัดความรุนแรงให้หมดไป หรือเบาบางลง เราไม่สามารถทำได้ด้วยการกำจัดตัวบุคคล แต่ต้องจัดการที่ความโกรธ ความเกลียด และความกลัว ถ้าเราไม่กำจัดความโกรธ ความเกลียด ความกลัว แต่ยังทำให้มันเกิดขึ้นทั้งในจิตใจของเราและในสังคม ความรุนแรงก็จะเกิดขึ้นไม่มีสิ้นสุด

    แต่เราจะจัดการกับความโกรธ ความเกลียด และความกลัวได้อย่างไร?

    ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ถ้าเราต้องการให้ศีลธรรมกลับมา ต้องการให้ผู้คนมีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ไม่มีการทำร้ายกัน ต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา สิ่งที่เราทำได้ประการแรกคือ ไม่ส่งเสริมความโกรธ ความเกลียดให้แพร่กระจายไปมากกว่านี้ อย่ากระพือความโกรธ ความเกลียดให้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ นี่คือสิ่งที่เราทำได้อย่างง่ายๆ เหมือนกับการที่เราไม่ทำชั่ว ไม่ผิดศีล ก็ช่วยสังคมได้มาก แต่ถึงแม้เราจะไม่ผิดศีล เราถือศีลห้าครบ แต่ถ้าเราส่งเสริมความโกรธ ความเกลียดให้กระพือ ก็สร้างปัญหาได้เหมือนกัน ทุกวันนี้การพูดหรือเขียนให้เกิดความรู้สึกโกรธเกลียดต่อกัน เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก

    ตอนนี้ทุกคนเหมือนมีไม้ขีดไฟอยู่ในมือ ส่วนบรรยากาศที่อยู่รอบตัวก็เหมือนกับอบอวลไปด้วยน้ำมัน ถ้าทุกคนจุดไม้ขีดแล้วโยนลงไป ก็สามารถทำให้บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยน้ำมันนี้ลุกเป็นไฟได้

    สิ่งที่เราควรทำอย่างแรกคือ เราไม่จุดไม้ขีด คือไม่กระพือความโกรธ ความเกลียด ไม่ว่าจะเป็นทางเฟซบุ๊ก ทางไลน์ หรือจากการพูดจาสนทนากัน

    เดี๋ยวนี้ เฟซบุ๊ก ไลน์ เป็นแหล่งแพร่เชื้อความโกรธ ความเกลียดที่สำคัญมาก หลายคนพอเปิดเฟซบุ๊กแล้วก็เริ่มติด พอติดแล้ว ความโกรธ ความเกลียดก็ซึมเข้ามาในจิตใจ พอเชื้อความโกรธความเกลียดแพร่เข้ามา เกิดอะไรขึ้นกับใจของเรา เกิดความรุ่มร้อน เกิดความทุกข์

    หากไม่อยากกระพือความโกรธ ความเกลียด เราต้องพยายามทำให้ความโกรธ ความเกลียด ไม่ครองใจเราก่อน เพราะตราบใดที่ความโกรธ ความเกลียด ครองใจเรา มันก็อยากกระพือต่อ ไม่ต่างจากเชื้อโรคหรือไวรัส เมื่อมันอยู่ในตัวเรา มันจะขยายและเพิ่มทวีตรีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ ในเซลล์ของเรา จนกระทั่งเซลล์เหล่านั้นระเบิดออก เพื่อไวรัสจะได้แพร่กระจายหนักขึ้น ความโกรธ ความเกลียดก็เช่นกัน เมื่อมันเกิดขึ้นในใจ มันจะลุกลามจนอัดแน่นใจใจ อยากจะระเบิดออกไป เพื่อแพร่กระจายให้กว้างไกล ให้คนอื่นติดเชื้อเดียวกับเรา ถ้าเราไม่อยากมีส่วนในการกระพือความโกรธ ความเกลียด เราต้องรักษาใจอย่าให้มันครองใจเรา

    โกรธเกลียดได้ แต่ให้รู้ทัน จะบอกว่า อย่าโกรธ อย่าเกลียด เป็นการเรียกร้องมากเกินไป แต่ว่าสิ่งที่เราทำได้คือ เมื่อความโกรธ ความเกลียดเกิดขึ้น อย่าให้มันครองใจเราต้องรู้ทัน จะรู้ทันด้วยสติ หรือรู้ทันด้วยปัญญา ก็ได้ทั้งนั้น


    ที่มา https://www.komchadluek.net/news/knowledge/220136
     
  24. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    นึกว่าคุยกับคนดี ที่แท้อาตมาก็คุยกับคนบ้า..

    บ้าภัยพิบัติ บ้าเตือนโน่นเตือนนี่ ไม่เห็นเกิดจริงซักทีซักเรื่อง:)
     
  25. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ทำไมลุงไม่ขำ อิอิ อีกล่ะ..

    หรือว่า กลายเป็นมารซะแล้ว:)

    เจ็บ จาก ตัวอักษร ที่กระทบผัสสะ จิตมารเลยแสดงตัวเหรอลุง:)
     
  26. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    หากว่ายังไม่มีคู่แล้วไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรในเรื่องคู่
    ผมว่าวิบากก็คงไกล้หมดละ

    จากที่ฟังหลวงพ่อฤษีลิงดำมา
    ยิ่งมีตัณหามากยิ่งขาดเสน่ห์
    ยิ่งลดตัณหาได้มากยิ่งมีเสน่ห์


    คนมีเสน่ห์จะมีความหอม
    เป็นธรรมชาติ
    ในแบบตัวเอง

    a8761a6d36d006824bfbc06a44e7bebd.jpg

    861702356f1446b505fe31ed97a10182.jpg

     

แชร์หน้านี้

Loading...