ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

อูย ต้องรอให้คนมาช่วย
ทั้งหมดทั้งมวลไม่ใช่เพื่อไปสรรเสริญพระพุทธเจ้า แต่ให้มาดูใจตนเอง ฝึกปฎิบัติให้พ้นทุกข์ สวดมนต์เป็นแค่สมถะยาทา กี่ปีๆ ก้อเลยไม่ไปไหน ย่ำอยู่กับที่

 

มีเหตุผลอยู่นะแต่กะช่างเถอะดีกว่าโกยขี้เข้าตัว55

 

การบูชาพระพุทธเจ้าที่ดีที่สุด คือ ปฏิบัติบูชาครับ

 

ไม่มีอัตตาเหลือก้อวางจิตอวิชชาได้โน่นแหล่ะ มีแต่อรหันต์

คือคุณแค่โสดา

อีกอย่างจิตคุณกำลังยึดความไม่ยึด ยึดตัวสภาวะตัวนี้อยู่ แต่คุณไม่เอ่ะใจ

 

เพ่เก่งกรู เขาหล่อทั้งหน้านอก ทั้งหน้าในนะเว้ยเห้ย

ร่อน เอ็งเสือเหลืองมะช่ายหรา เห้นผลัดกับจูบอยู่หลายโพส ฮา

 

อย่างที่ผมบอกไปนั่นหละครับ ว่า "ความเป็นตนยังมี เเต่ไม่มีตน" ปริศนาธรรมนิดหน่อย เเต่ผู้ปฏิบัติจริงจะเข้าใจได้อยู่ครับ

 

ไม่พอใจเหรอคับ ผมไม่กล่าวลอยนะครับ นี่ไงหลักฐาน

 

อย่ามโนแบบนั้นที่ไม่มีแฟน
ถามใจเธอดูปากแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะเอา55

 

ทำมะดา ของน๊าก ปาติบาดโง่ๆ ก็จะคิดแบบน้านแหล่ะเจ้าคร่ะ

พอปฏิบัติ ได้ขึ้นมาหน่อยก็จะรู้จักพลิก สมถะ ทำให้หายโง่ได้

 

มันมีตนทั้งนั้นแหล่ะ คุณหลงแล้ว

จิตมันยึดความไม่ยึด ก้อโดนกิเลสเล่นงานต่ออยู่
ถ้าไม่โดน ไม่มาตั้งทู้หรอก จิตเขาก้อเฉยๆ มองว่าก้อเป็นสภาวะตัวนึง ผ่านมาผ่านไป

คุณคงต้องใช้เวลากว่าจะทำความเข้าใจที่อีชั้นพูด

 

พี่ยังปฎิบัติไม่หายโง่หรอก ยังเต็มสูบเหมือนเดิม
บ่องตง ความคิดไม่ได้เรื่อง

 

ทำไมถึงได้คิดว่าผมไม่พอใจหละครับ?
ถ้าคุณไปย้อนดูจากที่ผมคุย จะเข้าใจเองครับว่าผมเป็นคนที่พูดลักษณะไหน ยังไง

เเล้วตรงไหนครับ หลักฐาน?

 

แบ่ง ความโง่เอาไปใช้หน่อยปะราย

 

ความมีตนเป็นอัตตา ไม่ได้มีอยู่ในที่ไหนเลยนะครับ
ธรรมทั้งปวงล้วนเเล้วเเต่เป็นอนัตตา
เเต่ถ้าจิตยังวางจิตไม่ได้ ความเป็นตนก็ยังมีครับ จึงกล่าวว่า ความเป็นตนยังมี เเต่ไม่มีตน

 

เก็บเอาใช้ไว้สวดส่งพลังรักษา..? เหอะ...อิอิ

 

งั้นก็ ไม่ต้องแบ่งนะนึกว่ามีน้อย มีเยอะ บานเรยกร๊ากๆ

 

อาการธรรมที่ใครเห็นไม่ตรงคุณ คุณไล่ไปหมดเลย
พระโสดาบันนะผมจะบอกให้ ใครพูดถูก พูดผิดท่านฟังนิ่งๆ แต่จะเอาไหมก็อีกเรื่อง
ซึ่งแตกต่างจากคุณสิ้นเชิง อืมอารมณ์เหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่หายไปสักพักนะ

 

ถ้าต้องอธิบายไปถึง การสิ้นความเป็นตน คือพระอรหันต์ ผมคงไม่อธิบายครับ เพราะภูมิธรรมไม่ได้ถึงขนาดนั้น

 

ถึง ท่านพิโคโร่ สีเขียวเดี๋ยวนี้เก่ง แล้วนะคับ อันนี้ชมจริงๆ

 

นั่นมันคุณสมบัติของปัญญาตัวนี้

พอคุณพ้นออกมาจากสภาวะนั้น กิเลสความยึดเขาจะทำงานทันที สติยังไม่ทันกัน กิเลสจะยึดผลงานตัวนี้เป็นอัตตาอีกที

ก้อคุณบอกฝึกวิปัสสนา จะต้องรักษาอารมณ์จิต ไม่อยู่ทั้งความยึด และไม่ยึด ต้องดูเขาเฉยๆ จะผ่านตัวนี้ไปได้

แต่เอาเถอะไม่เข้าใจก้อตามใจ