...ทำไม อ่านหนังสือเท่าไร ไม่เคยได้ดี...

ก้อยอ่านแล้วหลายครั้ง อ่านเป็น 4-5 รอบ ฟิตกว่าเพื่อนซึ่งอ่านแค่ 1-2 รอบ แต่ทำไม คะแนนออกมา ได้น้อยกว่าเพื่อนทุกครั้ง (น้อยที่สุดในกลุ่ม) มันเป็นเพราะอะไร ไม่มีสมาธิหรือ เป็นเพราะผลกรรมอะไรหรือเปล่า??? ตอนนี้กลุ้มมากๆเลยค่ะ... ใครก็ได้ช่วยที

 

มันขึ้นอยู่กับสมาธิครับ

ลองนั่งสมาธิก่อนอ่านหนังสือก่อนสิครับ

แล้วพยายามจับใจความ โดยขีดเส้น

แล้วทำความเข้าใจกับไอ้ตรงที่ขีดเส้น จะพอช่วยได้มาก

 

สมาธิสำคัญมากครับ ถ้าไม่มีสมาธิอ่านไปก็ได้แต่คำว่าอ่าน แต่คำว่าจำมันไม่มี
ผมมีวิธีง่ายๆทำให้มีสมาธิตอนอ่านหนังสือ
1.อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่นที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงหรือสิ่งเร้าใจทำให้สมาธิเสีย
2.ควรทำอะไรที่ติดค้างก่อนที่จะอ่านหนังสือ เช่นอยากเล่นเกมส์ก็เล่นให้หายอยากแล้วมาจดจ่อที่หนังสือเป็นต้น
3.เมื่ออ่านแรกๆสมาธิอาจจะหลุดเผลอคิดโน่นคิดนี่บ่อยๆ ก็ให้พยายามดึงจิตให้กลับมาที่เดิม นานๆไป ก็จะทำให้อยู่ในสมาธิได้นานขึ้น

ควรโน๊ตย่อในเนื้อหาสำคัญแยกเป็นหัวข้อใหญ่ๆ แล้วนำมาอ่านซ้ำๆ จะทำให้จำได้ดีขึ้นมาก

ไม่ทราบว่าจะได้ผลกับคนอื่นหรือปล่าว แต่กับผมมันได้ผลดีเยี่ยมครับ

 

สำหรับดิฉันแล้ว อ่านอยู่อย่างนั้นอ่านด้วยความอยากรู้ อ่านด้วยความสงสัย แล้วสมาธิก็จะเกิด สมาธิที่เกิด จะทำให้เราไม่วอกแว็กเลย ที่สำคัญคือเมื่อเราสงสัยหรือไม่เข้าใจตรงไหนแล้วให้ข้ามไปก่อน ไปอ่านและทำความเข้าใจตัวอื่นก่อน แต่กรณีเนื้อหามีความสัมพันธ์เป็นลูกโซ่แล้ว ก็ต้อง พยายามทำความเข้าใจให้ได้ ถามคนที่อยู่ข้างๆ ถามทั้งที่เขาไม่รู้ก็ได้ กลนี้มันเป็นวิธี ปลุกจิตใต้สำนึกให้ยึดติดกับคำถามสิ่งที่เราสนในอยู่ค่ะ จนเรานอน แล้วคุณก็จะฝันเห็นวิธีทำ วิธีแก้ปัญหา คำตอบ บางทีก็เป็นข้อสอบไปเลย

ดิฉันเรียนเอกคอมพิวเตอร์ ก็จะเจอกับโค้ดที่ไม่เข้าใจบ่อย ๆ แล้วก็จะทำได้เป็นประจำ เพื่อนมักถามว่ารู้ได้ไง ดิฉันก็ตอบไปว่า ฝันเอา!!!

 

...เมื่อก่อนตอนที่เรียนอยู่...หนังสือที่ไม่อยากอ่านแต่จำเป็นต้องอ่านผมใช้วิธีอ่านไปเขียนไป เขียนโดยลอกข้อความที่อยู่ในหนังสือนั้นแหละ เขียนไปโดยไม่สนใจว่าเขียนอะไร เขียนไปคุยไปด้วย เขียนไปร้องเพลงไปอีกตั้งหาก การลอกโดยไม่คิดอะไรมันง่ายดีครับ แต่ไม่น่าเชื่อเนื้อหามันประทับเข้าสมองไปเองโดยไม่รู้ตัว แล้วก็ไม่รู้สึกว่าเบื่อด้วย ผลออกมาผมลอกเนื้อหาวิชาฟีแบคคอนโทรน ไปสอมรีมกระดาษ อีกวิชาที่รู้สึกเบื่อมากคือเพาเวอร์ซิสเต็มก็ใช้วิธีนี้อีก ทุกวันนนี้ผ่านมาแล้วเกือบเจ็ดปีแล้ว เรื่องแซทบัทวายบัทยังฝังแน่นอยู่เลยครับ อีกตัวอย่างนึงวิชาเพาเวอร์อี ไอ้พฤติกรรมของโหลดยังจำได้แม่น ก็มาจากวิธีนี้อีกครับ วิธีนี้เค้าแนะนำมาอีกที ลองแล้วใช้ได้ผล เลยเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง ยังไงก็ขออวยพรให้เรียนจบตามวันเวลาที่ตั้งใจไว้ครับ...
ขอบคุณครับ

 

ค่ะ สำหรับก้อย ก้อยว่า ก้อยสมาธิไม่ค่อยมี แต่ก้อยก็ทำทุกอย่างนะ ทั้งขีดเส้นทั้งโน้ตย่อ แต่อาจจะเป็นเพราะก้อยเครียดเกินไปมั้ง ถ้าอ่านแบบสบายๆทำได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น จะได้ผลดี---> วิธีนี้ก้อยใช้ตอนสอบเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ที่ผ่านมาค่ะ ปรากฏว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น อ่านแทบเป็นแทบตาย แต่คะแนนที่ได้ นิดเดียว...

 

ต้องดูผลที่เกิดจากการอ่านด้วยครับว่าเข้าใจและจำได้หรือเปล่า ไม่ใช่เพียงแค่อ่านให้มากๆเข้าไว้ ต้องมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าเราอ่านเพื่ออะไร เช่น อ่านเพื่อทำความเข้าใจหรืออ่านเพื่อคิดที่จะจำ และประเด็นที่เราต้องการจากสิ่งที่เราอ่านนั้นอยู่ที่ไหนเมื่ออ่านแล้วก็หาจุดนั้นให้พบ ฯลฯ
ปล.การปฏิบัติธรรมก็เช่นเดียวกันครับ บางคนปฏิบัติวิธีเดียวกันแต่ได้ผลแตกต่างกัน บางคนปฏิบัติมากมีความเพียรสูงแต่ได้รับผลน้อย แต่บางคนปฏิบัติสบายๆแต่กลับได้ผลมาก จุดนี้อยู่ที่กำลังของ สติ สมาธิ และปัญญาในการใส่ใจกับเรื่องนั้นๆครับ (ถ้าคนที่เข้าใจเคล็ดลับจุดนี้ถ้ายิ่งทำมากมีความเพียรมากก็จะยิ่งได้รับอานิสงส์อย่างประมาณไม่ได้เลยล่ะครับ)

 

เครียดไปแน่ๆเลย

 

เนี่ย วันนี้เพิ่งสอบเสร็จ อยากจะบอกว่า "อำนาจพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง" เพราะเมื่อก่อน ก้อยก็ทำข้อสอบไม่ค่อยได้ ก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ตกmean ตลอด แต่เมื่อกี๊เพิ่งสอบ อยากจะบอกว่า รู้สึกโล่งอยากบอกไม่ถูก รู้สึกทำได้ มั่นใจ แล้วยิ่งกว่านั้น มันมีสอบ Lab ดูกล้องหาเชื้อมาลาเรีย ซึ่งมัน "แล้วแต่ดวง" เลย เพราะบางคนก็อาจจะได้สไลด์ที่มันดูยาก ก้อยก็อธิษฐานแล้วอธิษฐานอีก ว่าขอให้ได้สไลด์ที่ดูง่ายๆ เพราะตัวเองเป็นคนดู Lab ไม่ค่อยเป็น จะเปิ่น เฉิ่ม... ปรากฏว่า ได้สไลด์ที่เฮงมากๆๆๆ ดูแล้วรู้เลยว่าเป็นเชื้ออะไร ก้อยเขียนคำตอบไปแล้ว ในขณะที่90%ของห้อง กำลังหาเชื้ออยู่ พูดแล้วขนลุกเลย อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง บุญกุศลช่วยเราได้ ...ขนาดก้อยเคยล่วงเกินท่านหลายครั้ง ท่านยังช่วยก้อยเลย...ก้อยต้องไปไหว้พระเยอะๆซะแล้ว
[b-wai]

 

ครับ ข้างบนมีข้อมูลที่น่าจะพอเพียงแล้วไม่รู้จะเสริมอะไรอีก แค่อยากจะมองต่างมุมในฐานะคนเคยผ่านมาก่อนว่า...
1.เรียนจบภายในระยะเวลาที่กำหนดก็น่าจะดีใจแล้ว
2.เกรดเฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า 2.5 ก็นับว่าเพียงพอแล้ว
3.หลังจากจบแล้ว วิชาการในขณะเรียนทั้งหมด ประมาณ 50-70 % จะลืมหมด ยืนยันว่าจริงครับ บางคน 80 % เลย
4.วิชาการอย่างเดียวก็ไม่ได้ทำให้เราสมบูรณ์ อย่าลืมเรียน วิชาชีวิตด้วย....

 

ขอบคุณเช่นกันครับ ได้ความรู้ดีจะเอาไปลองทำตามดูมั่ง

 

ความรู้ที่ได้เรียนได้ฟังได้อ่านมา ถ้าไม่ได้ใช้บ่อยๆเข้าก็ลืมได้เป็นธรรมดา (สํญญา ไม่เที่ยง) แต่ความเข้าใจที่เราเคยมีในวิชานั้นๆ ประกอบกับการที่เคยฝึกฝน เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คิดวิเคราะห์ ฝึกสังเคราะห์ ลองทำดู ลองผิด ลองถูก ตัดสินใจ แยกแยะประเด็น แก้ปัญหา เหล่านี้คือปัญญาบารมีติดตัวครับ เพราะความสามารถเหล่านี้ต่างหากที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ต่อการประสพความสำเร็จในชีวิต ทั้งทางโลกทางธรรม มากกว่าความรู้ที่ได้ร่ำ่เรียนมา

การเรียนในวิชาต่างๆย่อมเป็นการฝึกปัญญา ฝึกความเพียร ฝึกความอดทน ฝึกความมีวินัย ฝึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่ อันเป็นธรรมพื้นฐานสำคัญที่ครับ