ติดตามสถานะการณ์

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้โลกเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติถี่มาก ล่าสุดคือน้ำท่วมครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 1,000 ปีที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ทำให้เมืองทั้งเมืองถูกน้ำท่วมจนกลายเป็นเหมือนทะเลและยังมีกระแสน้ำที่รุนแรงจนน่าตกใจ
.
แต่เหตุการณ์ที่เจิ้งโจวยังไม่ได้รับการยืนยันว่า มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก แต่ที่คอนเฟิร์มได้ในระดับหนึ่งคือน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ยุโรปที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมาซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มแม่น้ำหลายแห่ง โดยเริ่มจากสหราชอาณาจักรและต่อเนื่องมาในยุโรปตอนเหนือและตอนกลาง
.
อุทกภัยที่ถล่มยุโรปตอนนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 205 ราย แบ่งเป็น เยอรมนี 166 รายใน เบลเยียม 36 ราย อิตาลี 1 ราย ออสเตรีย1 ราย และโรมาเนียอีก 1 ราย แต่ที่เยอรมนีเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานรุนแรงมากเป็นพิเศษ ในขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทยของเบลเยียมบอกว่าเป็น "ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่ประเทศของเราเคยพบมา"
.
ในช่วงที่เกิดอุทกภัย นักวิทยาศาสตร์ นักเคลื่อนไหว และนักข่าวต่างก็เน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากในสภาพอากาศสุดขั้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝนตกหนักที่บ่อยครั้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จนเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ของโลกก็ว่าได้ เพราะจากยุโรปก็เกิดขึ้นที่อินเดียและตามด้วยจีนในเวลาไล่เลี่ยกัน
.
กรณีของน้ำท่วมใหญ่ที่ยุโรป นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า เพราะกระแสลมเจ็ตสตรีม (Jet stream) แปรปรวนมากขึ้นทำให้สภาพอากาศผิดปกติมากขึ้น เฮย์ลีย์ ฟาวเลอร์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลในอังกฤษและไค คอร์นฮูเบอร์แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐอเมริกาชี้ว่า เจ็ตสตรีมที่ชะลอตัวลงอาจเป็นสาเหตุของน้ำท่วมในยุโรป
.
สเตฟาน ราห์มสตอร์ฟ แห่งมหาวิทยาลัยพอทสดัมในเยอรมนีเตือนว่า การสูญเสียน้ำแข็งอาร์กติกมากไปกว่านี้อาจส่งผลให้กระแสลมเจ็ตสตรีมอ่อนแอลงและก่อให้เกิดสภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้นโดยกล่าวว่า "เราไม่ควรเล่นกับระบบภูมิอากาศที่ละเอียดอ่อนนี้" นี่คือคำเตือนว่า เราต้องจริงจังกับปัญหาโลกร้อนกันได้แล้วก่อนจะสายไป"
.
ดีเทอร์ เกอร์เทน นักวิจัยจากสถาบันพอทสดัมเพื่อการวิจัยผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในเยอรมนีระบุว่า ขนาดของน้ำท่วมและเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วอื่น ๆ เกินกว่าการคาดการณ์จากแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน โดยสังเกตว่า ความถี่และความรุนแรงของสภาพอากาศที่รุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันอาจบ่งชี้ว่า ได้ผ่านจุดเปลี่ยนของสภาพอากาศโลก หรือ tipping point แล้ว
.
อันโตนิโอ นาวาร์รา นักอุตุนิยมวิทยาที่มหาวิทยาลัยโบโลญญาและประธานมูลนิธิ Euro-Mediterranean Center ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจนระหว่างการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศกับความถี่และความรุนแรงของน้ำท่วม คลื่นความร้อน และภัยแล้ง
.
เมื่อพูดถึงภัยแล้ง ขณะที่หลายพื้นที่กำลังเจอกับน้ำฝนมากผิดปกติ แต่ประเทศมาดากัสการ์กำลังเจอกับภัยแล้งและความอดอยาก ในตอนนี้คอนเฟิร์มได้ด้วยว่า ความอดอยากที่เกิดในมาดากัสการ์ถือเป็นภัยอดอยากเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่มีสาเหตุมาจากภาวะโลกร้อนเพียงอย่างเดียว
.
นิตยสาร Time รายงานว่า ในอดีตความอดอยากเป็นผลมาจากความล้มเหลวของพืชผล ภัยพิบัติ หรือศัตรูพืชบุกรุกหรือความขัดแย้งจากน้ำมือมนุษย์ แต่มาดากัสการ์ไม่ได้เผชิญปัญหาเหล่านี้เลย แต่ก็เกิดภัยอดอยากขึ้น ทำให้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่ภัยอดอยากที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบจัง ๆ
.
ภัยแล้งและความอดอยากเกิดจากความแปรปรวนของสภาพอากาศที่คาดเดาได้ยากขึ้น ส่งผลต่อการเพาะปลูกมากขึ้นเรื่อย ๆ โครงการอาหารโลก (WFP) เตือนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ผู้คน 1.14 ล้านคนมีความเสี่ยงด้านอาหาร และอีก 400,000 คนกำลังเผชิญความอดอยาก ผู้คนต้องกินกระบองเพชรดิบ ใบไม้ในป่า และตั๊กแตน ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสุดท้ายแล้ว
.
WFP เตือนว่าจำนวนประชาชนที่เผชิญกับความไม่มั่นคงด้านอาหารในระดับภัยพิบัติระยะที่ 5 จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในเดือนตุลาคม เดวิด บีสลีย์ กรรมการบริหาร WFP บอกว่า “นี่ไม่ใช่เพราะสงครามหรือความขัดแย้ง แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”
.
ข้ามมาที่รัสเซีย หัวหน้าไอเซน นิโคเลฟ ผู้บริหารสาธารณรัฐซาฮาหรือที่รู้จักในชื่อ "ยากูเตีย" กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ Yakutia 24 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังไฟป่าขนาดใหญ่ที่ลุกไหม้ทั่วไซบีเรียตอนเหนือ
.
“เห็นได้ชัดว่า มีเหตุผลเพียงข้อเดียวคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก” นิโคเลฟกล่าวโดยสำนักข่าว RIA Novosti ที่ดำเนินการโดยรัฐเป็นผู้รายงาน “เราสามารถเห็นได้ว่า ยากูเตียร้อนขึ้นทุกปีอย่างไร เรากำลังอยู่ในฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดและแห้งแล้งที่สุดในประวัติศาสตร์ของการเก็บสถิติอุตุนิยมวิทยาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19”
.
นิโคเลฟบอกว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมิถุนายนในภูมิภาคนี้สูงกว่า 20 องศาเซลเซียส สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตประมาณ 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่ร้อนผิดปกติมาพร้อมกับความแห้งแล้งเป็นประวัติการณ์ โดยมีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าปกติ 16 เท่า ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคกล่าวว่า ปัจจัยทั้งสองที่รวมกันได้ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเพลิงไหม้
.
ยากูเตียซึ่งเป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดและหนาวที่สุดของรัสเซียอยู่ภายใต้ภาวะฉุกเฉินเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน เนื่องจากไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็วครอบคลุมพื้นที่หลายแสนเฮกตาร์ ควันรุนแรงจากไฟป่านับร้อยที่โหมกระหน่ำทั่วทั้งภูมิภาคและปกคลุมเมืองหลายสิบแห่ง รวมทั้งยาคุตสค์ ทำให้ทางการออกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน
.
สถานการณ์ในภาพรวมที่เกิดขึ้นนี้ตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากสรุปว่ามันคือ "ภาวะโลกรวน" และมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศสุดขั้วซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนั่นเอง

ข้อมูลจาก
• Aryn Baker (July 20, 2021). "Climate, Not Conflict. Madagascar's Famine is the First in Modern History to be Solely Caused by Global Warming". Time
• The Moscow Times. (July 20, 2021) "Climate Change Is ‘Main Cause’ of Siberia’s Wildfires, Regional Head Says". The Moscow Times.
• Fountain, Henry; Schwartz, John (16 July 2021). "'It Is All Connected': Extreme Weather in the Age of Climate Change". The New York Times.
• Jonathan Watts. (16 July 2021). "Climate scientists shocked by scale of floods in Germany". The Guardian.
ภาพ - Christophe Licoppe- wikipedia

 

Jul 25, 2021 ด่วน! ไทยติดเชื้อรายใหม่ 15,335 ราย มากสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และมากเป็นอันดับ 11 ของโลก เสียชีวิต 129 ราย เตรียมแซงซาอุดีอาระเบียในวันอังคาร 27 นี้

วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งทะยานถึง 15,335 ราย ไม่เพียงทำสถิติติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ แต่ยังทำสถิติเป็นวันที่ 9 ที่ไทยติดเชื้อรายวันเกินกว่า 10,000 ราย สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อ 15,335 รายนั้น ซึ่งพุ่งทะยานถึง 1,075 รายจากเมื่อวานนี้(23) ส่งผลจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเป็น 497,302 ราย ขยับเพิ่มขึ้น 2 อันดับโลก โดยแซงประเทศกรีซ และเอกวาดอร์ ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 47 ของโลก

สำหรับสถิติเดิมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน 9,635 ราย ในวันนั้นนับเป็นสถิติติดรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นครั้งแรกที่เกินกว่า 9,000 ราย

สำหรับจำนวนติดเชื้อ 15,335 ราย ประกอบด้วย ยอดติดรายวัน 14,694 ราย หรือ 96% ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายวันในเรือนจำมี 641 ราย หรือ 4% ของจำนวนติดรายวันทั้งหมด และติดจากต่างประเทศจำนวน 19 ราย

ส่วนยอดเสียชีวิตโควิด-19 รายใหม่จำนวน 129 ราย ยอดเสียชีวิตรายใหม่ดังกล่าวเพิ่มขึ้น 10 รายจากเมื่อวานนี้(24) ที่สำคัญ ทำสถิติยอดเสียชีวิตรายวันมากเป็นลำดับที่ 2 รองจากสถิติเสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 141 รายเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 และยังเป็นครั้งที่ 6 ที่มีผู้เสียชีวิตเกินวันละ 100 รายขึ้นไป ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 4,059 ราย ทำสถิติเป็นวันแรกที่เมืองไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมแตะหลัก 4,000 ราย

ขณะนี้ 25 กรกฎาคม 2564 ไทยซึ่งอยู่ในอันดับที่ 47 ของโลก มีผู้ติดเชื้อสะสมห่างจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 46 จำนวน 19,647 ราย ประเทศไทยจะขยับขึ้นแซงประเทศซาอุดีอาระเบียมาอยู่อันดับที่ 46 ของโลกภายในวันอังคารที่ 27 กรกฎาคมเป็นอย่างช้า

#โควิดวันนี้ #โควิด19 #โควิด19เราต้องรอด #กรุงเทพ #ศบค #BTimes

 

Jul 25, 2021 นิวไฮแซงไทย! มาเลเซียติดโควิด-19 กว่า 15,000 คน มากสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ทำสถิติฉีดวัคซีนเกิน 5 แสนโดสใน 1 วัน ยันฉีดวัคซีนกว่า 46% ในวัยผู้ใหญ่แล้ว

กระทรวงสาธารณสุข มาเลเซีย เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดในมาเลเซียเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ 24 กรกฎาคม 2564 พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 15,902 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศมาเลเซียเป็นต้นมา นอกจากนี้ยังสร้างสถิติติดเชื้อรายวันมากกว่าวันละ 10,000 รายเป็นวันที่ 12 ติดต่อกันด้วย ส่งผลให้ยอดรวมติดสะสมเป็น 996,393 ราย อยู่อันดับที่ 31 ของโลก และเป็นอันดับที่ 3 ในอาเซียน ด้านผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 184 ราย ส่งผลต่อยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 7,902 ราย อยู่อันดับ 3 ของอาเซียน

สำหรับพื้นที่ที่พบการระบาดสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา คือรัฐสลังงอร์ ซี่งกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของมาเลเซีย มีจำนวนติดเชื้อรายใหม่ 7,351 ราย ตามด้วยกัวลาลัมเปอร์ 2,406 ราย เคดาห์ 867 ราย และยะโฮร์ 804 ราย

ผู้อำนวยการสาธารณสุข มาเลเซีย นายนัวร์ ฮิแชม อับดุลลาห์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เกี่ยวข้องกับสายพันธ์ใหม่มี 199 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ ในจำนวนนี้พบว่าติดสายพันธ์ุเดลต้า หรืออินเดียจำนวน 106 ราย จนถึงวันนี้ มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งสายพันธ์น่ากังวล หรือ VOC เช่นสายพันธ์ุเดลต้า และสายพันธ์ุน่าสนใจ หรือ VOI รวมกันทั้งสิ้น 429 ราย แบ่งเป็นสายพันธ์น่ากังวลจำนวน 409 ราย และสายพันธ์ุน่าสนใจจำนวน 20 ราย

ผู้อำนวยการสาธารณสุข มาเลเซีย กล่าวต่อไปว่า เชื้อสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย สามารถติดเชื้อได้ภายใน 15 วินาที และยังสามารถติดกันได้ในอากาศ ที่สำคัญในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า มาเลเซียจะเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน ด้านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข มาเลเซีย กล่าวว่า จะเริ่มเปิดให้ประชาชชาวมาเลเซียที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เดินทางไปฉีดตามศูนย์ฉีดวัคซีนในลักษณะ Walk In สาเหตุจากมีประชาชนกลุ่มอายุ 60 ปีจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นทุกวันในมาเลเซีย แต่รัฐบาลมาเลเซียมีแนวคิดจะผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างให้เฉพาะบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสเท่านั้น

ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียประกาศมาตรการปิดล็อกประเทศมาเป็นครั้งที่ 3 ในปัจจุบันนี้ โดยครั้งที่ 3 ประกาศเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับการฉีดวัคซีนนั้น มาเลเซียยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวหน้าในการฉีดวัคซีนมากที่สุดประเทศหนึ่งในกลุ่มอาเซียน เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม มาเลเซียฉีดวัคซีนทั้งประเทศได้มากถึง 507,050 โดส ทำสถิติฉีดวัคซีนรายวันมากที่สุดเป็นครั้งแรก ในจำนวนดังกล่าว แบ่งเป็นฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 355,977 โดส และฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 171,073 โดส

ทั้งนี้ ข้อมูลเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า มีประชากรชาวมาเลเซียวัยผู้ใหญ่ 11,222,398 คนได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส คิดเป็น 34.4% และรับครบ 2 โดสแล้วมีจำนวน 5,120,000 คน หรือราว 16% ของประชากรทั้งหมด วัคซีนที่มาเลเซียใช้ฉีดให้ประชาชนทั่วไป ได้แก่ ซิโนแวค ไฟเซอร์ และแอสตร้าเซเนก้า

#มาเลเซีย #กัวลาลัมเปอร์ #โควิด19 #อาเซียน #BTimes

 

Jul 25, 2021 นิวไฮลาว! สปป.ลาวพบยอดติดโควิด-19 รายใหม่พุ่งเกือบ 280 มากสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ทั้งหมดกลับจากไทย

กระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 พบว่ามีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 278 ราย ไม่เพียงทำสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเป็นต้นมา แต่ที่สำคัญ ยังเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่มีผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 200 รายขึ้นไป ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเป็น 4,620 ราย ขณะนี้ สปป.ลาว อยู่อันดับที่ 178 ของโลก และอยู่อันดับที่ 10 ของอาเซียน ขณะที่ไม่พบจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ ส่งผลยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 5 ราย เป็นอันดับที่ 10 ในอาเซียน

สาเหตุสำคัญของการกลับมาระบาดครั้งใหม่นับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าแรงงานชาวลาวเดินทางกลับจากประเทศไทยซึ่งติดโรคระบาดโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 24 กรกฎาคมนั้น เป็นแรงงานชาวลาวทั้ง 278 รายติดโรคระบาดโควิด-19 และกลับมาจากฝั่งไทย โดยตรวจพบที่สะหวันนะเขต 198 ราย โดยทั้งหมดแรงงานชาวสปป.ลาวที่เดินทางกลับจากประเทศไทย จำปาสัก 53 ราย สาละวัน 9 ราย คำม่วน 5 ราย และนครหลวงเวียงจันทน์ 4 ราย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว เปิดเผยว่า จำนวนประชาชนชาวสปป.ลาวที่เดินทางกลับจากประเทศ จะมีถึง 15% ที่ติดโรคระบาดโควิด-19 จากประเทศไทย ที่สำคัญในกลุ่มผู้ติดเชื้อ 15% ดังกล่าวยังพบว่ามีถึง 85% ติดโรคระบาดโควิด-19 สายพันธ์ุเดลต้า หรืออินเดีย

#สปปลาว #ลาว #โควิด19 #อาเซียน #โควิด19 #BTimes

 

-----
Jul 25, 2021 จองแต่ฟาวล์! ร.พ.อินทรารัตน์คืนมัดจำวัคซีนโมเดอร์นา ชี้แจงต้องแบ่งสภากาชาดไทย 1 ล้านโดส ที่เหลือ ร.พ.เอกชนต้องมาเกลี่ยกันเอง 3.9 ล้านโดส

เมื่องานนี้ 24 กรกฎาคม 2564 โรงพยาบาลอินทรารัตน์ประกาศคืนเงินค่ามัดจำวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นาให้กับประชาชนที่จองและชำระเงินครบถ้วนมาก่อนหน้านี้ สาเหตุจาโรงพยาบาลอินทรารัตน์ได้รับการจัดสรรควัคซีนจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไม่ครบตามจำนวนที่สั่งจองไป ซึ่งโรงพยาบาลจะคืนค่ามัดจำให้ภายใน 15 วันทำการ หลังจากได้รับหลักฐานครบถ้วยแล้ว และขอภัยทุกท่านเป็นอย่างสูง

หลังจากนั้น ผู้ใช้เฟสบุ๊กหลายหนึ่งในเพจเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลอินทรารัตน์พิมพ์ข้อความเข้าไปดังนี้ “ทำไมไม่ประกาศในเพจว่ามีการยกเลิกการจองวัคซีนทั้งๆที่เสียเงินไปแล้วคะ แค่คืนเงินแล้วยังไงคะ คนที่จองคือโดนลอยแพ โดนขโมยวัคซีนไป ถ้าไม่มีการวางแผนตกลงก่อนจะเปิดให้จองให้เขาเสียเงินกันทำไมคะ เรื่องแบบนี้ทำไมไม่เอามาประกาศบ้างคะ”

จากนั้น โรงพยาบาลอินทรารัตน์ได้ตอบคำถามด้วยการอธิบายสาเหตุ เหตุผลต่างๆ พร้อมกล่าวขออภัยเป็นอย่างสูง มีดังนี้

“ขอชี้แจงนะคะ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงด้วยค่ะ เนื่องจากทางรพ.ได้รับการจัดสรรวัคซีน Moderna มาน้อยกว่าจำนวนที่สั่งจองไปกับทางองค์การเภสัชกรรม การจัดสรรวัคซีน Moderna นี้ ทางรพไม่มีสิทธิ์โต้แย้งใดๆ เนื่องจากเป็นมติของสมาคมรพเอกชน ซึ่งมีหลายรพ.ที่โดนตัดโคต้าไป และได้รับจัดสรรมาน้อยกว่าจำนวนที่สั่งจองไปเช่นกันน่ะค่ะ

ทางรพ.สั่งจองไป 20,000 โด้ส พอสำหรับทุกท่านแต่ได้รับจัดสรรมาเพียง 13,140โด้ส จากทางสมาคมรพเอกชน-ซึ่งเป็นคนตัดสินว่าแต่ละโรงพยาบาลจะได้รับจำนวนวัคซีนเท่าไหร่-(มี 277 รพที่เข้าร่วม ทุกรพที่มียอดจองเกิน 10,000 โดส โดนตัดจำนวนวัคซีนที่จะได้ลดลงทุกโรงค่ะ)

ดังนั้นทางรพ.จึงมีความจำเป็นที่ต้องคืนค่ามัดจำให้กับลูกค้าบางท่านด้วยนะคะ โดยได้แจ้งท่านที่โดนตัดสิทธิ์(ดูตามลำดับการโอนเงิน) ไปทางe-mail แล้ว เพื่อให้กรอกและส่งข้อมูลในการรับเงินคืน ซึ่งทางรพจะรีบดำเนินการคืนเงินให้เร็วที่สุดค่ะ ทางรพขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อีกครั้ง และขอขอบพระคุณที่เข้าใจนะคะ”

“เนื่องจากตอนแรกมียอดจองไป 9.2 ล้านโด้ส แต่ทางองค์การเภสัชแจ้งว่า จะสามารถนำเข้าวัคซีนมาเดือนตค.ได้เพียง 4.9 ล้านโด้ส โดยต้องแบ่งให้ทางสภากาชาดไป 1 ล้านโด้ส เหลือ 3.9 ล้านโด้สมาแบ่งกันในรพ.เอกชน( 277 รพ) ทางสมาคมรพเอกชนจึงมีความจำเป็นที่ต้องตัดโคต้าของทุกรพ.ที่มียอดจองเกิน 10,000 โดสให้ได้จำนวนลดลงค่ะ

ทางรพ.พยายามคุยกับเครือที่ได้จัดสรรจำนวนมากเพื่อขอซื้อวัคซีนมาให้ในส่วนที่โดนตัดไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ทางรพ.จึงขออภัยเป็นอย่างสูงที่ต้องดำเนินการคืนเงินให้กับท่านนะคะ (ข้อความเรื่องกรณีไม่ได้รับจัดสรรตามจำนวนที่จองนี้ แล้วจะมีการคืนเงิน ได้มีเขียนอยู่ในเงื่อนไขการจองตั้งแต่แรกแล้วนะคะ)

ทางรพ.ได้ส่ง e-mail แจ้งท่านที่ไม่ได้รับสิทธิ์ไปทาง e-mail เพื่อกรอกข้อมูลในการคืนเงิน(ตามที่ได้แจ้งไว้ในเงื่อนไขกรณีทางรพได้รับจัดสรรวัคซีนมาน้อยกว่าที่จองไปตั้งแต่เริ่มเปิดจองวัคซีน)ไปแล้วนะคะ=>หากท่านจองมาก่อน 30/6 ยังได้รับสิทธิ์อยู่ค่ะ หากโอนมาวันที่ 30/6 ไปแล้ว & ไม่แน่ใจ( เนื่องจากขึ้นอยู่กับเวลาที่โอนเงินด้วย) สามารถแจ้งชื่อและวัน/เวลาโอนเงินมาได้เพื่อตรวจสอบให้ได้นะคะ ขอบพระคุณค่ะ

หากท่านมีความประสงค์จะให้ทางรพ.ช่วยเหลือ สามารถแจ้งมาได้นะคะ เมื่อวัคซีนมาถึง อาจมีบางท่านที่ได้รับสิทธิ์ไปแต่ได้ไปฉีดวัคซีนของภาครัฐไปแล้ว ดังนั้นอาจมีวัคซีนเหลือได้ค่ะ ถึงจะไม่สามารถรับประกันได้แต่ทางรพจะพยายามช่วยเท่าที่จะทำได้นะคะ สิ่งที่เกิดขึ้นทางรพก็ไม่อยากให้เกิดจึ้นหรอกนะคะ แต่ทางรพก็ไม่สามารถไปขัดมติของสมาคมรพเอกชนได้ค่ะ จึงขออภัยเป็นอย่างสูงมาอีกครั้งด้วยนะคะ”

 

Jul 24, 2021 จัดให้! สภากาชาดไทยแจงมี 38 จังหวัดจองซื้อวัคซีนโมเดอร์นาโดสละ 1,100 บาท อบจ.ทั้ง 38 จังหวัดต้องฉีด 5 กลุ่มฟรี

วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 สภากาชาดไทย ประกาศหนังสือชี้แจงการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ยี่ห้อโมเดอร์นาผ่านองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. มีดังนี้

สภากาชาดไทยสรุปมีองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. ทั้งหมด 38 จังหวัด ยืนยันจองซื้อวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 โมเดอร์นา โดยจะต้องชำระเงิน 1,100 บาทต่อโดสให้กับสภากาชาดไทยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อที่สภากาชาดไทยจะนำเงินทั้งหมดที่ได้รับไปซื้อวัคซีนโมเดอร์นา หลังจากนั้น สภากาชาดไทยจะได้ทยอยจัดส่งวัคซีนโมเดอร์นาให้กับอบจ.ทั้ง 38 จังหวัดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

สำหรับ 5 กลุ่มเป้าหมายที่สภากาชาดไทยกำหนดให้ทำการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ได้แก่
1.คนป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์ คนพิการ ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19

2.ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19

3.บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลในที่ทุรกันดาร

4.เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำศูนย์เด็กเล็ก ครูผู้สอนหนังสือในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์ ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19

5.บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสกับประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนของอบจ. ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และบุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบกฎหมาย

ทั้งนี้ อบจ.ที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นาต้องทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามกลุ่มเป้าหมายฟรีเท่านั้น

#สภากาชาดไทย #กาชาด #อบจ #องค์การบริหารส่วนจังหวัด #วัคซีน #โมเดอร์นา #วัคซีนโควิด19 #BTimes

 

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. 64 ติดเชื้อรวม 15,335 ราย จำแนกเป็น

ติดเชื้อใหม่ 14,694 ราย
ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 641 ราย
ผู้ป่วยสะสม 468,439 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 6,904 ราย
หายป่วยสะสม 307,267 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
เสียชีวิต 129 ราย

#โควิด #โควิด19 #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ปาร์ตีริมสระโรงแรมในเกาะยอ สงขลา มีวัยรุ่นติดโควิดแล้วอย่างน้อย 5 คน หวั่นเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ในพื้นที่สีแดงเข้ม

#โควิด #โควิด19 #สงขลา #Mono29News #Mono29 #ข่าวโมโน29

 

โค้ชเช เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เคยกล่าวว่า "ผมมีความตั้งใจว่า ไม่อยากเป็นเพียงแค่โค้ชจากเกาหลีใต้ ที่พาทีมชาติไทยไปสู่เหรียญรางวัล แต่อยากพานักกีฬาและทีมชาติไทย ไปถึงจุดหมายคว้าเหรียญทองโอลิมปิกให้ได้ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง"

"ไม่ว่าผมเป็นคนเกาหลีหรือคนไทย ผมรักเมืองไทยเหมือนเดิม” โค้ชเช เช ยอง ซอก

- ภาพ โค้ชเช กับ ''น้องเทนนิส - พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” มือ 1 ของโลกรุ่น 49 กก.หญิง เมื่อครั้งคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2018

 

The Straits Times เปิดเผยว่า Hartal Doktor Kontrak (HDK) กลุ่มแพทย์สัญญาจ้างในมาเลเซียกำลังไม่พอใจการบริหารของรัฐบาล โดยแพทย์จบใหม่ (junior doctors) ราว 20,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคลากรด่านหน้าในการต่อสู้กับโควิด-19 นัดหยุดงานประท้วงในวันจันทร์หน้า (26 ก.ค.) และบางส่วนตัดสินใจลาออก
.
แพทย์จบใหม่ถูกส่งไปยังศูนย์บำบัดและโรงพยาบาลเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ต้องทำงานเป็นระยะเวลานานมากขึ้นโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่ม ตลอดจนถูกห้ามให้รับงานในศูนย์ฉีดวัคซีนของเอกชน ซึ่งพวกเขามองว่าไม่ได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการเท่าที่ควรจะได้ และยังไม่รับการบรรจุเป็นพนักงานของรัฐ
.
รายงานข่าวเปิดเผยจดหมายซึ่งเชื่อว่าได้ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุขในมาเลเซียเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมาระบุว่า "แพทย์ในมาเลเซียตกลงเข้าร่วมการประท้วงครั้งนี้เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจในวิธีการบริหารของรัฐบาล"
.
ทั้งนี้ มาเลเซียมีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมากกว่า 140,000 คน โดยมีผู้ป่วยในห้องไอซียูเกือบ 1,000 คน ขณะที่มีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 10,000 คนต่อวันและผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คนต่อวัน
.
ขณะที่แพทย์มองว่าระบบสาธารณสุขของมาเลเซียกำลังจะล่มสลายเพราะขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และเตียงรองรับผู้ป่วย
.
ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาแพทย์จบใหม่ในมาเลเซียเคยประท้วงในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งโดยจัดแคมเปญ "Black Monday" พร้อมแต่งกายด้วยชุดสีดำเพื่อแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับกฎระเบียบในการจ้างงานที่มีมาตั้งแต่ปี 2016
.
เงื่อนไขดังกล่าวส่งผลให้พวกเขาต้องเป็นแพทย์สัญญาจ้างและไม่ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานของรัฐซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ต่ำกว่า นอกจากนี้พวกเขาต้องทำงานในระบบสาธารณสุขของรัฐเป็นเวลา 4 ปีครึ่งจึงจะสามารถไปทำงานในภาคเอกชน
.
สถานการณ์เริ่มตึงเครียดนับตั้งแต่เกิดการประท้วงโดยมีแพทย์จบใหม่หลายคนตัดสินใจลาออกเนื่องจากภาวะหมดไฟในการทำงานท่ามกลางอัตราการเข้ารับการรักษาด้วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.posttoday.com/world/658791
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

สิงคโปร์พบคนติด Covid-19 ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีสัดส่วน 75% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่มีอาการ
.
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ข้อมูลของทางการสิงคโปร์ชี้ว่า คนติด Covid-19 ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีสัดส่วน 75% ของผู้ป่วยทั้งหมดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่คนกลุ่มนี้ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยเท่านั้น
.
จากตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,096 คนในสิงคโปร์ในรอบ 28 วันที่ผ่านมา 484 คน หรือ 44% เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ 30% ยังฉีดไม่ครบโดส และมีเพียง 25% ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
.
สิงคโปร์มีผู้ป่วย 7 รายที่มีอาการหนักและต้องการออกซิเจน โดยทั้ง 7 คนนี้ 6 คนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และอีก 1 คนได้รับวัคซีนเข็มเดียว
.
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เผยว่า มีหลักฐานยืนยันอย่างต่อเนื่องว่าวัคซีนช่วยป้องกันอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อ และพบว่าชาวสิงคโปร์ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วที่ติดเชื้อไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย
.
ด้านผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า การติดเชื้อในผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ได้หมายความว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ
.
Teo Yik Ying คณะบดีคณะสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) เผยว่า “ยิ่งชาวสิงคโปร์ได้รับวัคซีนมากขึ้น เราจะยิ่งเห็นการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบสัดส่วนนี้กับสัดส่วนคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เพราะหากทุกคนในสิงคโปร์ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ผู้ติดเชื้อก็จะมีแต่คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว เพราะไม่เหลือคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนแล้ว”
.
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Reuters พบว่า สิงคโปร์ฉีดวัคซีนให้ประชาชนครอบคลุมเกือบ 75% ของประชากรทั้งหมด 5.7 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีประชากรครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
.
และในขณะที่หลายประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรจำนวนมากแล้วเตรียมที่จะอยู่กับ Covid-19 โดยถือว่าเป็นโรคประจำถิ่น แต่สิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการป้องกันการเสียชีวิตและการป่วยหนักด้วยการฉีดวัคซีน
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.posttoday.com/world/658850
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีมีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 24-25 ก.ค.พื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ได้มีการนัดหมายรวมตัวผ่านโซเชียล 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
.
1. เมื่อวันที่ 24 ก.ค. "กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า" นำโดย นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นัดหมายที่แยกราชประสงค์ เวลา 16.00 น. ทำกิจกรรมหล่อเทียนทำบุญประเทศ
.
2. เมื่อวันที่ 25 ก.ค. "กลุ่มฮาเลย์ Sportster.inc" นัดหมายที่หน้าร้านแมคโดนัล ถนนราชดำเนินกลาง เวลา 13.00 น. แล้วเคลื่อนขบวนไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ทำกิจกรรมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก โดยคาดว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมหลายคน
.
การชุมนุมดังกล่าวเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 ขอเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้งดเว้น หรือยกเลิกกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นเขตควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (มาตราการควบคุมโรค), พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันกรุงเทพฯและปริมณฑล มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 6,185 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 79 ราย อาจเป็นการช้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
.
สำหรับการดำเนินคดีกับ "กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า" ชุมนุมเมื่อวันที่ 22 ก.ค. เวลา 13.30-18.40 น. ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ถนนสีลมและสวนลุมพินี และเมื่อวันที่ 23 ก.ค. เวลา 15.00-18.55 น. ที่ห้าแยกลาดพร้าว ขณะนี้ บช.น.ได้สั่งการให้ สน.ทุ่งมหาเมฆ สน.ลุมพินี และ สน.พหลโยธิน รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างในขณะเกิดเหตุ และพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดอีกประมาณ 30 ราย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/crime/detail/9640000072608
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

SHORT NEWS: ยอดป่วยวันนี้นิวไฮ 15,335 ตายเพิ่ม 129 ราย
.
วันนี้ (25 กรกฎาคม) ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์โควิด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 15,335 ราย แบ่งเป็น ติดเชื้อใหม่ 14,694 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 641 ราย มีผู้ป่วยสะสม 468,439 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) เสียชีวิตเพิ่ม 129 ราย
.
ทั้งนี้ เวลา 12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จะแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

 

PHOTO JOURNAL: ‘BUCK MOON IN NYC’
.
พระจันทร์ครึ่งวงกลมลอยเด่นอยู่เหนือท้องฟ้า เมื่อวานที่ผ่านมา เป็นฉากหลังให้กับเทพีเสรีภาพในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อนที่วันใหม่จะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า - Gary Hershorn / Getty Images
.
IG: www.instagram.com/thestandardth.ig
#TheStandardNews

 

คึกคัก! ไต้ฝุ่นยีนฟ้าเพิ่งพัดเฉียด ภาคเหนือไต้หวันได้รับอานิสงส์ เขื่อนสือเหมินน้ำล้นต้องปล่อยทิ้งครั้งแรกในรอบ 2 ปี เนพาร์ตัก ไต้ฝุ่นลูกที่ 8 ก่อตัวต่อ มุ่งหน้าเข้าญี่ปุ่น

 

อินเดีย : เทือกเขา กษรา
รัฐมหาราษฏระ น้ำตกเกิดขึ้นมากมาย จากฝนที่ตกหนักมากติดต่อกันหลายวันจันถึงปัจจุบัน

 

คาดว่า ไต้ฝุ่น ‘ยินฟ้า’ จะพัดขึ้นฝั่งเจ้อเจียง ไม่บ่ายวันอาทิตย์ ก็เช้าวันจันทร์
.
1/ พายุไต้ฝุ่น ‘ยินฟ้า In-fa’ กำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่จีน คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งตะวันออกของประเทศที่มณฑลเจ้อเจียงในช่วงบ่ายวันอาทิตย์หรือไม่ก็เช้าวันจันทร์ พายุจะทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนัก
.
2/ สำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของมณฑลเจ้อเจียงยกระดับคำเตือนเป็น ‘ระดับสูงสุด ลำดับ 2’ แล้ว มีประกาศให้งดเดินเรือออกจากฝั่ง เตรียมเคลื่อนย้ายประชาชนในพื้นที่เสี่ยง อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
.
3/ ส่วนมณฑลฝูเจี้ยนที่อยู่ใกล้เคียงกับมณฑลเจ้อเจียงก็ออกประกาศเตือนในลักษณะเดียวกัน
.
4/ ขณะที่ทางตอนกลางของจีน คือที่มณฑลเหอหนาน ยังคงบอบช้ำจากสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่โดยเฉพาะที่เมืองเจิ้งโจว มีผู้เสียชีวิต 56 ราย ในจำนวนนี้ 12 รายเสียชีวิตในระบบรถไฟใต้ดิน การกู้ภัยและระบายน้ำจากอุโมงค์ถนนในเมืองเจิ้งโจวยังคงดำเนินต่อไป
.
5/ เมืองเจิ้งโจว เป็นเมืองเอกของมณฑลเหอหนาน ศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและขนส่ง อุทกภัยครั้งใหญ่ ฝนตกหนักสุดในรอบ 1,000 ปี ปริมาณน้ำฝน 1 วัน เกือบเท่าทั้งปี ประชาชนได้รับผลกระทบ 7.5 ล้านคน บ้านเรือนเสียหาย 3,800 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3.6 ล้านไร่ คิดเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจประเมินไว้ที่ 7 หมื่นล้านบาท
.
ขอบคุณ ภาพและข้อมูล จาก...Typhoon In-fa set to bring more heavy rains to China days after Henan floods | www.scmp.com/news/china/science/article/3142141/typhoon-fa-set-bring-more-heavy-rains-china-days-after-henan
.

 

วิกฤติ

ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์
มติชน 25/6/64

ช่วงโควิดนี้ถ้าพูดคำว่าวิกฤตคนไทยทุกคนคงสามารถพรรณา หรือบรรยายความวิกฤติในทุกบริบทในทุกด้านได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน

ที่นำเรียนตรงนี้คงจะเป็นแง่มุมอีกด้านหนึ่งในฐานะที่เป็นหมอทาอายุรศาสตร์และทางระบบสมองและประสาท ที่ยังคงปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาล

ในระยะเวลาที่ผ่านมา ก่อนโควิด หมอทุกคนต้องผ่านประสบการณ์ที่ต้องอธิบายและคุยกับครอบครัวของผู้ป่วยว่า ขณะนี้ถึงระยะที่ไม่สามารถที่จะย้อนกลับ และฝืนให้การรักษาต่อไม่ได้
รวมอีกทั้งในกรณีที่มีภาวะทางสมองซึ่งถึงแม้ให้การรักษาอย่างเต็มที่หรือร่วมกับการผ่าตัดก็ตามแม้ว่าจะยังคงมีชีวิตอยู่แต่ยังคงต้องติดอยู่กับเครื่องช่วยชีวิตหรืออยู่ในสภาพเจ้าชายหรือเจ้าหญิงนิทรา และต้องได้รับการดูแลจากครอบครัวไปจนกว่าจะจากไปในที่สุด

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ในชีวิตของพวกเราและทำให้ต้องมีความระมัดระวังและประเมินสภาพในขณะนั้นให้ถี่ถ้วนที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ โดยที่มีความเห็นของเพื่อนร่วมงานอื่นๆด้วย

แต่ในยุคโควิด สถานการณ์คับขันเหล่านี้ เกิดขึ้นในโรงพยาบาลแทบทุกแห่งตลอดเวลาทุกชั่วโมง ทุกวัน และมีปัจจัยอย่างอื่นที่เข้ามาเป็นตัวตัดสินอีก ทั้งนี้ได้แก่จำนวนเตียง จำนวน ความพร้อมของเครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตและที่สำคัญคือ บุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ได้มีเพียงคุณพยาบาล แต่ต้องรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความสะอาด ของสถานที่และการบำรุงรักษาเครื่องมือ เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินและหน่วยกู้ชีพต่างๆ

จำนวนของผู้ป่วยโควิดที่เรียกว่าสีแดงและแดงวิกฤตมีจำนวนล้นหลาม และในระดับความรุนแรงเช่นนี้ ไม่ใช่มีปอดบวม หายใจลำบากอย่างเดียว แต่พร้อมกันนั้นจะกระทบระบบอวัยวะที่สำคัญอิ่นๆ เช่นหัวใจ ไต สมอง ทั้งนี้อาจจะเป็นผลโดยตรงของโควิดหรือเป็นผลกระทบติดตามต่อเนื่องจากการที่เกิดภาวะช็อกและอวัยวะล้มเหลวตามเป็นลูกโซ่
และจากการที่โควิดเองก่อให้เกิดความเสียหายไม่ใช่จากตัวไวรัสเองแต่ก่อให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง จำเป็นต้องให้ยาต้านการอักเสบ ซึ่งแต่ละชนิดมีส่วนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและมีการติดเชื้อในโรงพยาบาลตามกันมาไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือเชื้อราก็ตาม

ในสภาพของปอดล้มเหลวแม้มีเครื่องให้ออกซิเจนในอัตราการไหลสูงที่รู้จักกันในชื่อ ไฮโฟล เพื่อช่วยชีวิตและลดอัตราการใส่ท่อช่วยหายใจที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเต็มรูปแบบ แต่จะมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ และเกิดการทะลักล้นของผู้ป่วยในลักษณะนี้ ที่ต้องรอใส่ท่อ และในระหว่างนั้นระบบอวัยวะอื่นๆก็เริ่มมีปัญหามากขึ้น

ในเรื่องของทางสมอง โควิดมีผลกระทบสมอง อาจจะเป็นอาการเดี่ยวตั้งแต่ต้นแต่ไม่ได้พบมากนัก ทั้งนี้โดยที่อาการทางสมองจะพบเป็นตัวร่วมในผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการหนัก และหนักมากและแม้จนกระทั่งเมื่อทำการรักษาจนเรียกว่าหาย นั่นก็คือไม่มีไวรัสแล้ว และระบบอวัยวะต่างๆเช่น ปอด หัวใจ ตับ ไตคงที่ แต่กลับมีอาการทางสมองที่ไม่สงบและยังดำเนินไปเรื่อยๆ ทั้งในรูปของไม่ฟื้นคืนสติ หรือ ฟื้นแต่ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ รวมทั้งอาจแทรกเป็นระยะด้วยอาการสับสนโวยวายและมีการเคลื่อนไหวของคอ แขนขาหน้าและลำตัวผิดปกติ

สิ่งที่บุคลากรต้องเผชิญคือจะทำอย่างไรเมื่อถึงจุดนั้นที่ ไฮโฟล เอาไม่อยู่แต่สอดท่อไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์การหายใจที่ร่วมกับการสอดท่อ หรือระบบการหายใจยังพอประทังได้แต่ระบบสมองเสียหายรุนแรงเกินเยียวยาได้

สิ่งต่างๆเหล่านี้ นำมาถึงการที่ต้องเลือกว่า ใครที่จะยังสามารถทุ่มเททรัพยากรที่มีอยู่จำกัดและสู้ต่อไปอีกและใครที่ไม่มีโอกาสหรือมีโอกาสน้อยมากและถ้าสู้ต่อจะยืดเยื้อติดเตียงละยังคงครองเตียงต่อไปอีกเป็นเวลานานและอาจจะเป็นการเสียโอกาสสำหรับคนที่ควรที่จะได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆและสามารถกลับมามีชีวิตอย่างปกติได้เต็มร้อยหรือเกือบเต็มร้อย

เชื่อว่าไม่มีใครอยากติดโรคเกิดโรคและมีความทรมานสาหัส และไม่มีใครอยากที่จะต้องตัดสินใจว่าจะหยุดการรักษาไว้แค่นั้นและเพียงแต่ให้ยานอนหลับหรือมอร์ฟีน เพื่อให้คนป่วยสบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระยะสุดท้ายนั้น

สิ่งเหล่านี้ จะหลอกหลอนพวกเราไปอีกนานเท่านาน และน่าจะเป็นบทเรียนประเทศในการเตรียมพร้อมรับมือป้องกันให้ดีที่สุดในทุกด้านเพื่อที่จะไม่ให้ประสบในสภาพการเช่นนี้อีก

 

รายงานสำคัญจากประเทศจีน การเริ่มของ เดลต้า มาจากหนึ่งคน
และทำการพิสูจน์ว่า ระยะเวลาจากที่ติดเชื้อจนกระทั่งถึงการแสดงอาการจะอยู่ในช่วงสามถึงห้าวันโดยเฉลี่ยที่ 3.7 วัน และที่สำคัญก็คือในวันแรกที่มีอาการปรากฏปริมาณไวรัสมีจำนวนสูงมากทำให้สามารถแพร่กระจายได้มากตั้งแต่วันแรก

https://virological.org/t/viral-inf...ak-caused-by-the-delta-sars-cov-2-variant/724

 

#ดราม่าสนั่นคองเกรซ
#สหรัฐเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนงานวิจัยพัฒนาไวรัสในจีน

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเจอพายุการระบาดระลอกใหม่ ที่มีแนวโน้มจะใหญ่กว่าเก่าของเชื้อไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ Delta จากอินเดีย ที่เริ่มมีข่าวว่าวัคซีนที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ ก็อาจจะเอาไม่อยู่?

แต่ที่ในสภาคองเกรซของสหรัฐอเมริกาก็มีการอภิปรายเดือดไม่แพ้กัน ที่เกี่ยวข้องด็อกเตอร์ แอนโธนี ฟาวซี ที่ปรึกษาหน่วยเฉพาะกิจ Covid-19 และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้ และ โรคระบาดแห่งชาติ ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนเงินให้กับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น ในการพัฒนา เปลี่ยนแปลงสภาพให้เชื้อไวรัส เพื่อศึกษากลไกในการข้ามสายพันธุ์ จากเชื้อไวรัสของจากสัตว์ สู่การติดต่อในมนุษย์

ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น เป็นเป้าหมายที่สหรัฐใช้โจมตีจีนว่า เป็นต้นกำเนิดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในขณะนี้

ทีมที่เปิดประเด็นอภิปรายก็คือ วุฒิสมาชิก แรนด์ พอล จากพรรครีพับลิกัน ได้ยกเอกสารอ้างอิงจากงานวิจัยที่ได้ทำร่วมกันระหว่าง นักวิจัยของสถาบันจีน ที่ทำร่วมกับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of North Carolina ของสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาในปี 2015 และ 2017 ที่เขียนถึงความคืบหน้าในการศึกษากลไกของเชื้อไวรัส

ซึ่งในงานวิจัยทั้ง 2 ฉบับ ไม่ได้พูดตรงๆว่าเป็นการพัฒนาสายพันธุ์ไวรัส แต่พูดถึงโปรเจคงานวิจัยที่ชื่อว่า "Gain-of-Function Research"

โดย BBC ได้ให้คำอธิบายของกระบวนการที่เรียกว่า Gain-of-Function ว่า เป็นการศึกษากลไกบางอย่างที่กระตุ้นให้สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งสามารถพัฒนาความสามารถใหม่ขึ้นมา เช่น การพัฒนาสายพันธุ์พืชที่ทนแล้งได้ดีขึ้น หรือ การเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของยุง ที่ทำให้พวกมันเป็นพาหะโรคสู่มนุษย์ได้น้อยลง ซึ่งกลไกที่ว่านี้ อาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ หรือสร้างขึ้นภายในห้องแล็บทดลอง

และนั่นก็รวมถึงการศึกษาศักยภาพในการพัฒนาของไวรัส ที่สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ และประสิทธิภาพในการแพร่ระบาด ซึ่งจากเอกสารวิจัยทั้ง 2 ฉบับที่วุฒิสมาชิก รีพับลิกันได้ยกขึ้นมาอ้างเป็นหลักฐานก็ระบุตรงกันว่า มีเชื้อไวรัสชนิดใหม่จากการทดลองนี้

ซึ่งถ้ามองในแง่ดี การเข้าใจถึงกลไกของเชื้อไวรัสก็จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ และตัดวงจรการแพร่ระบาดได้ดีขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาวัคซีน และยาต้านนั่นเอง

แต่ถ้าเกิดเชื้อไวรัสพวกนี้มันไม่ได้ถูกต่อยอดไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ หรือทีมวิจัยควบคุมความปลอดภัยไม่ดีพอ แทนที่เราจะก้าวไปข้างหน้า กลับต้องมาสะกดคำว่า "หายนะ" กันใหม่อย่างทุกวันนี้

ว่าแต่ด็อกเตอร์ แอนโธนี ฟาวซี กับสถาบันวิจัยโรคระบาดของสหรัฐเอาเงินไปสนับสนุนสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นที่ตอนไหน?

ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่สหรัฐได้จัดตั้งหน่วยงานไม่แสวงหากำไรแห่งหนึ่งชื่อว่า EcoHealth Alliance

EcoHealth Alliace หรือ EHA ทำหน้าที่ศึกษาและป้องกันการเกิดโรคระบาด และจะประสานงานเตือนภัยเมื่อพบการระบาดที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นการระบาดระดับโลก ซึ่งหน่วยงาน EHA นี้ได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลางผ่านทางสถาบันวิจัยโรคระบาดที่ด็อกเตอร์ ฟาวซี ดูแลอยู่ คิดเป็นงบประมาณ 3.2 - 3.75 ล้าน เหรียญตั้งแต่ปี 2015 ในสมัยของ บารัค โอบาม่า ที่จะมีการรีวิวงบให้ใหม่ทุกๆ 5 ปี

โดยมีรายงานว่า EHA ได้เจียดงบส่วนหนึ่งไปให้สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในค้างคาว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะทางสถาบันอู่ฮั่นมีทีมที่เก็บตัวอย่างไวรัสโคโรน่าในค้างคาวมากที่สุดแล้ว กว่า 15,000 ชนิด

แต่ทั้งนี้ ผู้อำนวยการของ EHA ก็บอกว่า เงินสนับสนุนงานวิจัยที่ให้กับทางอู่ฮั่นก็ไม่ได้มากอะไร แค่ราวๆ 76,000 ดอลลาร์ต่อปีเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการพัฒนาไวรัส ที่เรียกว่า
Gain-of-Function Research ตามที่เป็นข่าวดังอยู่ในตอนนี้

แล้วงบที่สนับสนุนสถาบันวิจัยอู่ฮั่นก็โดนตัดไปแล้ว เมื่อ โดนัลด์ ทรัมพ์ เข้ามา โดยแกสั่งให้ตรวจสอบว่ามีหน่วยงานรัฐไหน ที่เกี่ยวข้อง หรือใช้งบสนับสนุนหน่วยงานของจีน แล้วหวยก็มาลงที่ EHA และ ศูนย์วิจัยไวรัสอู่ฮั่น แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า ท่านเสี่ยทรัมพ์ แกตัดทุกอย่างที่เป็นโครงการของโอบาม่าอยู่แล้ว

ต่อมา ทีมการเมืองจากฟากรีพับลิกัน ที่พยายามหาช่องเล่นงาน ด็อกเตอร์แอนโธนี ฟาวซี อยู่แล้ว ก็ไปพบหลักฐานเป็นงานวิจัยที่สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น ได้ทำร่วมกับ University of North Carolina เรื่องการวิจัยกลไกในการพัฒนาไวรัสนี่เอง ที่เป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับที่สถาบันอู่ฮั่นได้งบจาก EHA ที่ได้ผ่านมาทางสถาบันวิจัยโรคระบาด ที่ด็อกเตอร์ฟาวซีนั่งเป็นผู้อำนวยการอยู่

โดยทางวุฒิสมาชิก แรนด์ พอลได้จี้ประเด็นว่า ด็อกเตอร์ฟาวซีเคยปฏิเสธเสียงแข็งว่า หน่วยงานของเขาไม่เคยให้เงินสนับสนุนงานวิจัยพัฒนาไวรัสที่เมืองจีน แล้วนี่อะไร? โกหกต่อหน้าสภาคองเกรซมีโทษหนักนะหมอ?

ฝ่ายด็อกเตอร์ฟาวซี ก็โต้ตอบว่า พวกคุณอ่านอะไรอยู่ รู้เรื่องกับเขาหรือเปล่า แค่อ้างอิงงานวิชาการไม่กี่ชิ้น ก็มาพูดเป็นตุ เป็นตะ ว่าผมอนุมัติงบจากภาษีชาวอเมริกันไปช่วยพัฒนาไวรัสที่จีน ไวรัสในโลกก็มีหลายชนิด และผลงานวิจัยก็ออกมาว่า ไม่สามารถสรุปผลกลไกของการเพิ่มประสิทธิภาพของไวรัสได้ แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนไวรัสโคโรนาที่ระบาดจากสัตว์สู่มนุษย์เลย

แล้วต่างฝ่าย ต่างก็เถียงกันหน้าดำ หน้าแดง แบบไม่มีใครฟังใคร จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้ และยังหลงประเด็นสำคัญว่า สถาบันจากสหรัฐ และจีน ที่ได้ร่วมมือวิจัยไวรัสในครั้งนั้น มีเป้าหมายเพื่อต้องการมองหาอะไร?

และทำให้ความจริงเรื่องต้นกำเนิดของไวรัส ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป ทั้งผู้ถูกกล่าวหาอย่างจีน ที่คลุมเครือในหลายๆเรื่อง และล่าสุดยังปฏิเสธที่จะให้ทีมงานสืบสวนเคส ต้นกำเนิด Covid -19 ดำเนินงานต่อในเฟส 2

หรือผู้กล่าวหาอย่างสหรัฐ ที่ออกโรงรำมาตั้งแต่สมัย โดนัลด์ ทรัมพ์ ว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าต้นกำเนิด Covid-19 มาจากห้องแล็บในอู่ฮั่น แต่ก็ไม่เปิดออกมาเสียที จนหลายคนสงสัยว่าหากมีการเปิดเผยเอกสารที่มีจริง อาจเป็นการขว้างงูไม่พ้นคอ เจอตอเพิ่มในบ้านตัวเองก็เป็นได้

แหล่งข้อมูล

https://www.bbc.com/news/57932699

https://www.npr.org/sections/goatsa...ing-a-research-project-on-bats-and-coronaviru

https://www.cbsnews.com/news/gop-pr...-funding-research-chinese-lab-before-pandemic

https://www.politico.com/news/2020/04/27/trump-cuts-research-bat-human-virus-china-213076

https://www.statnews.com/2020/08/27...ths-after-uproar-over-political-interference/

https://en.m.wikipedia.org/wiki/EcoHealth_Alliance