สวด ภาวนา ในชีวิตประจำวัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 11 มีนาคม 2016.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ความจำไม่ดี
    ถาม : ......(เรื่องสติ)......
    ตอบ : ความจำไม่ดีไม่แน่ว่าจะขาดสติ แต่ขณะเดียวกันจะเรียกว่าขาดสติก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเพราะสมาธิน้อยไปหน่อย ถ้าสมาธิน้อยไปหน่อยความจำจะไม่ค่อยดี แต่ว่าอย่าให้มีกรรมแบบท่านจุลปันถก ท่านเองนั้นแค่ "อิติปิโส ภควา" สวด ๓ เดือนไม่จบ ในอดีตเคยทำกรรมไว้ไปหัวเราะเยาะพระที่ท่านสวดปาฏิโมกข์ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเป็นเรื่องของผลกรรมต่างหากออกไป
    แต่ทั่ว ๆ ไปที่ความจำไม่ดีถ้าไม่ใช่ประสาทร่างกาย มักเกิดจากสมาธิน้อยไปหน่อย ตั้งใจทำสมาธิให้ทรงตัวความจำจะดีไปเอง
    ถาม : แล้วจะแก้อย่างไร ?
    ตอบ : ไม่ต้องแก้หรอกให้คอมพิวเตอร์จำแทน สมัยนี้ถึงเวลาก็ค้นข้อมูลเอา สงสารเด็กสมัยนี้ ถ้าคอมพิวเตอร์พังจะไม่เหลืออะไรในสมองเลย ปัจจุบันที่สมาธิสั้น เพราะไม่ชอบใจก็กดรีโมตเปลี่ยนช่อง หน่วยความจำเขาเลยกระจัดกระจายไม่ต่อเนื่อง สมาธิจึงสั้นไปด้วย สังเกตดูเด็กสมัยนี้คุยกับเราเรื่องนี้ ถามเรา ตอบยังไม่ทันจะจบเรื่องเลย เขาไปอีกเรื่องแล้ว เป็นแบบนั้น กระโดดไปกระโดดมา
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
     
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    AJgvDU8hAqgMh1hs8SWZPaKLF5YBi_CwSWitnyUDTRW&_nc_ohc=NNmnJaVU0xQAX_tECRi&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ถ้าใครปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง พัฒนาตัวเอง
    การพัฒนาสติปัฏฐาน ฝึกจิตใจ เป็นหลักสำคัญเลย
    เพราะใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน
    ถ้าเราฝึกจิตใจให้ดีแล้วนี่
    ทุกอย่างก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
    ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า..
    ชนเหล่าใดใคร่ศึกษาในสติปัฏฐาน 4
    ชนเหล่านั้นจะเป็นผู้เลิศผู้ประเสริฐในโลก
    การฝึกสติปัฏฐาน 4 สามารถยกระดับจิตใจ
    สิ่งนี้มันส่งผลในทุก ๆ เรื่องในชีวิตของเราเลย
    ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิตต่าง ๆ
    ..................
    ธรรมบรรยาย
    โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
    mE1tMVb3uw95AirA-V3INkMRNLlBPnKLhktXvyB38CW&_nc_ohc=J1WXiQPrsrgAX9KsIIu&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    #การตั้งจิตก่อนนอน
    อานนท์ ! ถ้าเมื่อภิกษุนั้น ... จิตน้อมไปเพื่อ การนอน,
    เธอก็ นอนด้วยการตั้งใจว่า
    “บาปอกุศลธรรมทั้งหลาย กล่าวคือ อภิชฌา
    และโทมนัส จักไม่ไหลไปตามเราผู้นอนอยู่ ด้วยอาการ
    อย่างนี้” ดังนี้ :
    ในกรณีอย่างนี้
    ภิกษุนั้น ชื่อว่า เป็นผู้มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
    ในกรณีแห่งการนอนนั้น.
    อุปริ. ม. ๑๔/๒๓๘/๓๔๘.
    ปล.
    อภิชฌา คือ ความยินดี (โลภะ)
    โทมนัส คือ ความยินร้าย (โทสะ)
     
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    "แกจำไว้นะ แกเข้าข้างในได้เมื่อไร แกสบายเมื่อนั้น!??"
    ในการปรารภธรรมของหลวงปู่นั้น ท่านไม่ค่อยได้ใช้ศัพท์แสงอะไร ท่านจะมีสำนวนที่ฟังเข้าใจง่าย ๆ แต่จะไปเข้าใจชั้นลึกอีกทีก็ต้องอาศัยภาคปฏิบัติ
    ดังเช่นครั้งหนึ่ง ท่านสอนสตรีชาวบ้านคนหนึ่งที่มาปฏิบัติภาวนากับท่านอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแน่นอนเธอไม่เคยศึกษาปริยัติหรือรู้ศัพท์แสงหรือคำบาลี ดังนั้น หลวงปู่จึงเลือกใช้คำที่ชาวบ้านอย่างเธอจะเข้าใจได้ โดยท่านกล่าวสอนว่า
    "แกจำไว้นะ แกเข้าข้างในได้เมื่อไร แกสบายเมื่อนั้น"
    เธอเล่าให้ฟังว่า กว่าเธอจะลึกซึ้งกับคำนี้ได้ ก็ล่วงมาจนหลวงปู่ละสังขารไปแล้ว เพราะกว่าเธอจะปฏิบัติภาวนาจนรู้จักชัดว่า "การเข้าข้างใน" เป็นอย่างไร เป็นเหตุให้มีความสุขอย่างไร ในขณะเดียวกันก็เป็นเกราะป้องกันทุกข์ได้อย่างไรนั้น ก็ต้องอาศัยความพากเพียรปฏิบัติสม่ำเสมอเรื่อยมานับสิบ ๆ ปี
    ยิ่งมาได้ยินได้ฟังคำพระพุทธวจนะที่ว่า "วิหารธรรม" ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่เข้ากันได้เหลือเกินกับ "การเข้าข้างใน" ของหลวงปู่
    ที่แท้หลวงปู่ก็สอนให้เธอรู้จักสร้างบ้านข้างในและรู้จักหนทางเข้าไปอยู่ ไม่ให้ต้องทุกข์ยากตากแดดจนตัวไหม้เกรียม หรือต้องตากฝนจนตัวเปียกปอนเป็นไข้ ฯลฯ
    เธอเล่าไปพลางน้ำตาไหลมาเอง เพราะระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่ที่เธอไม่อาจพรรณนาได้หมดสิ้น
    มาบัดนี้ เธอรู้แต่ว่า หากทุกข์ภัยใดมา เธอก็มีบ้านข้างในที่พร้อมจะให้ความอบอุ่นและปลอดภัยแก่เธอ เธอตระหนักว่าก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ เธอมีหน้าที่ต้องทำบ้านของเธอ บ้านที่หลวงปู่พาให้สร้างขึ้นนี้ให้แข็งแรงขึ้น ๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งกระทบที่ต้องเผชิญในอนาคตไม่ว่าความเจ็บ ความตาย ฯลฯ มันจะหนักหนาสาหัจสากรรจ์เกินบ้านภายในหลังนี้จะรับมือไหวหรือไม่ หรือเธอยังจะมีแรงมีความชำนาญในการเข้าบ้านหลังนี้ได้ดีเพียงใดในสถานการณ์เช่นนั้น ...บ้านที่ต้องสร้างด้วยสมาธิธรรมและปัญญาธรรม
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    ต้องขอขอบพระคุณข้อมูลจากแหล่งที่มาและร่วมโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนร่วมเผยแผ่ธรรมะ ขอให้บุญรักษา
    บารมีหลวงปู่คุ้มครองทุกท่านสาธุ

    ?temp_hash=c33c17c4e7f8c4f3de69e1598d830bc8.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ถาม..... เมื่อมีกรรมกำลังตามเราอยู่ เราจะรู้ได้อย่างไร?
    หลวงตา.... จะอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด มีลางบอกเหตุ ให้พิจารณาชีวิตประจำวันย้อนหลังไปให้ดีๆ จะรู้นะ จะมีลาง ถ้าเราภาวนาอยู่จิตสบายๆ คือการยับยั้งสิ่งไม่ดีไม่ให้เกิด หลวงพ่อท่านว่า หนักจะเป็นเบา เบาจะหาย เข้าใจนะ ให้พิจารณาอดีตมาที่ปัจจุบัน เพื่อแก้อนาคตไง
    (พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)
    Question ..... When karma is following us How do we know?
    Luang Ta .... will be in a bad mood, irritability, there are omens, consider the daily life, go back carefully, will know. There will be omen if we pray in a relaxed mind. Is to stop bad things from occurring Reverend Father Than Heavy, light, light, will disappear. Understand, consider the past to the present. To fix the future .................... (Luang Ta Ma)
    問題.....當業力跟隨我們時 我們怎麼知道
    Luang Ta ....會心情不好,煩躁不安,需要考慮一個預兆,將日常生活倒退考慮,就會知道,如果我們以輕鬆的心態祈禱,就會有預兆。 是為了阻止壞事的發生 比神父 沉重的,輕的,輕的將消失,了解過去,直到現在。 為了未來..........................(黃大媽)
    質問.....カルマが私たちをフォローしているとき どうやって知るの?
    ルアンタ....は機嫌が悪い、いらいらする、前兆があり、日常生活を考慮し、慎重に戻って、知っているだろう。 悪いことが起こらないようにすることです 牧師の父 重い、軽い、軽い、消えます。理解して、過去から現在までを考えてください。 将来を修正するには....................(Luang Ta Ma)
    Fråga ..... När karma följer oss Hur vet vi?
    Luang Ta .... kommer att vara i dåligt humör, irritabilitet, det finns omens, överväga det dagliga livet, gå tillbaka försiktigt, kommer att veta. Det kommer att vara omen om vi ber i ett avslappnat sinne. Är att stoppa dåliga saker från att inträffa Pastor än Tungt, lätt, lätt, kommer att försvinna. Förstå, tänk på det förflutna till nutid. För att fixa framtiden .................... (Luang Ta Ma)
    Вопрос ..... Когда за нами следит карма Откуда мы знаем?
    Луанг Та ... будет в плохом настроении, раздражительности, есть предзнаменования, подумайте о повседневной жизни, вернитесь осторожно, узнаете. Будет предзнаменование, если мы будем молиться в расслабленном уме. Чтобы остановить плохие вещи от возникновения Преподобный отец чем Тяжелое, легкое, легкое исчезнет. Поймите, рассмотрите прошлое и настоящее. Чтобы исправить будущее .................... (Луанг Та Ма)
    t6CcxNEVd3i083wEjHxFSRMrHuSqV0kp8Z5kCSqWx5l&_nc_ohc=CDyzpUBeFw0AX8p4Jt-&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     
  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยนี้มีอาชีพบางอย่างที่เราก็นึกไม่ถึง ก็คือการไปเที่ยวแล้วมาทำรีวิวสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก เอาไปลงอินเตอร์เน็ตแล้วก็รับเงิน เท่ากับว่าได้เที่ยวไปเรื่อย ๆ มีคนจ้างให้เที่ยว...ว่าอย่างนั้น
    .
    คราวนี้ในส่วนที่จะพูดก็คือเรื่องการกิน ส่วนใหญ่แล้วจะไปอยู่ในลักษณะที่ว่า เลือกสถานที่มีอาหารอร่อย ราคาไม่แพงได้ยิ่งดี ซึ่งในส่วนนี้แต่เดิมเรามีแต่รายการแนะนำอาหารอย่างเดียว ก็คือรายการเชลล์ชวนชิม ของหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ วัตน์ ตัวนี้ วัตนะ ที่แปลว่า หมุนวน ไม่ใช่ วัฒนะ ที่แปลว่าเจริญ
    .
    หลังจากนั้นก็มีคนเลียนแบบ ก็คือ แม่ช้อยนางรำ ก็เลยทำให้มีหลายคนที่ไปเลือกกินตามที่เขาแนะนำ ถ้าร้านอาหาร ร้านขนม ไม่ได้โด่งดังจนเป็นที่ได้รับการแนะนำจากคนจำนวนมาก หลายคนก็ไม่เข้าเลย ไม่เลือกไม่กินอาหารของร้านนั้น
    .
    ก็เลยไปนึกถึงที่อรรถกถาท่านขยายความ ในส่วนที่พระพุทธเจ้าตรัสถึงบุคคลที่ประกอบด้วยอวิชชาแล้วหลุดพ้นไม่ได้ อรรถกถาขยายความว่า “มีบุคคลจำพวกหนึ่ง เมื่อถึงเวลาไปเกิดเป็นสัตว์ มีหญ้าเป็นอาหาร มีคูถเป็นอาหาร” คูถก็คือขี้นั่นแหละ “เพราะเขาทั้งหลายเหล่านั้น ติดในรสอาหารในขณะที่เป็นมนุษย์” ฟังแล้วสยองเหมือนกันนะ คนติดในรสอาหาร บางคนทำไม่ถูกใจก็โกรธ
    .
    แต่สมัยนี้คนยึดติดในรสอาหารก็น้อยแล้ว เหตุที่น้อยเพราะเห็นว่าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวนุ่งน้อยห่มน้อยมาขายแทน...! หนุ่มขายทุเรียนก็ต้องถอดเสื้อโชว์กล้ามล่ำบึ้ก แสดงว่าไม่ได้ติดในรสอาหาร ค่อนข้างจะปลอดภัย ไม่รู้ว่าไปติดอะไรแทน...! ถึงเวลาแม่ค้าส้มตำก็มีรายการตำไปเด้งไป มีคนแนะนำแล้วหนุ่ม ๆ ก็แห่กันไปเพียบ"
    .
    "อาตมาโชคดีที่เกิดมาไม่เคยกินอะไรแล้วติดใจจนต้องไปกินซ้ำ แต่เวลาเจออาหารที่ไหนคิดว่าอร่อย อร่อยในที่นี้ก็คือไม่ใช่หวานเป็นขนม ยังคงเป็นรสดั้งเดิมแบบโบราณ ก็แนะนำให้คนแวะกินเหมือนกัน
    .
    สมัยนี้น่าเบื่อมาก ตอนที่เรียนปริญญาโทอยู่ ได้ต้อนรับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเว้ ถามเขาว่าอาหารไทยเป็นอย่างไรบ้าง ? “กินไม่ได้เลย หวานมาก” แสดงว่าอาหารไทยของเรามีชื่อมาก...ใช่ไหม ? กินไม่ได้เลย ก็ถามว่าแล้วกินอะไรบ้าง ? “กินได้แต่ส้มตำ เพราะว่ามีหลายรสหน่อย ไม่ใช่หวานอย่างเดียว”
    .
    ไม่รู้ใครที่ไปพูดว่าอาหารรสหวานเป็นอาหารชาววัง เล่นเอาชาววังเสียหายหลายล้าน อาหารในวังของเขาสารพัดรสชาติ โดยเฉพาะอาหารไทยเรามีของหวานหลังอาหารอยู่แล้ว ดังนั้น...มีอาหารไทยไม่กี่ประเภทเท่านั้นที่ติดไปทางรสหวาน อย่างพวกแกงบอน แกงหมูชะมวงพวกนั้น ถ้าอย่างอื่นนี่รับรองว่าห่างไกลรสหวานหลายกิโลเมตรเลย
    .
    ปัจจุบันพวกเราก็ติดรสหวานเสียจนชิน ไม่มีการต่อว่าแม่ค้าเลย แม่ชีที่วัดท่าขนุนก็เคยทำอาหารรสหวาน จนอาตมาต้องสั่งให้เอาน้ำตาลออกจากครัวไปเลย ปัจจุบันนี้ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย ที่อนาถที่สุดก็คือแกงส้มแล้วหวาน มาได้อย่างไร ? แกงส้มต้องเปรี้ยวนำ เผ็ดตาม แล้วถึงจะเค็ม อันนี้เอาหวานนำ ส้มแปลว่าเปรี้ยว ไม่ได้แปลว่าหวาน"
    .
    "บ้านใครที่ทำอาหารติดรสหวาน จงโวยแม่ครัวหรือแม่บ้านได้แล้ว บอกว่าจะเป็นเบาหวานกันทั้งประเทศแล้ว ประเทศอื่น ๆ เขาบริโภคน้ำตาลกันเฉลี่ยวันละ ๔-๖ ช้อนชา ไทยเราเจ๋งมาก ๘-๑๒ ช้อนชา มากกว่าเขา ๒-๓ เท่าเลย
    .
    เรื่องของการบริโภคของหวานมาก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนสมัยนี้ใจร้อนใจเร็ว ทะเลาะเบาะแว้งกันมาก เพราะอย่างสมัยอาตมาเด็ก ๆ ถ้าจะให้หมาดุเขาจะให้กินข้าวเหนียวคลุกน้ำตาล เพราะว่าเวลาความหวานเข้าไป ทำให้เลือดลมพลุ่งพล่าน แล้วหมาก็จะหงุดหงิดไล่กัดกระจาย คราวนี้คนเราบริโภคหวานมากไป ก็เลยทะเลาะกันง่าย ขับรถปาดหน้ากันหน่อยหนึ่ง ก็ลงไปไล่ยิงไล่ฟันกันกลางถนน"
    ...
    เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน
    ๒๕๖๐
     
  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    " ถ้าเราอารมณ์สบาย ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ของเราก็สบาย ถ้าเราไม่สบาย ธาตุก็ไม่สบาย "
    " การฟอกธาตุก็ให้ฝึกที่จิต โดยการสวดมนต์ภาวนา รักษาศีล ฟอกธาตุไปเรื่อยๆ "
    (พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)
    c_oc=AQlW2E-5PtZdsp1Gew0eICXi8GXwSim1DjEQFUY-VcC7kMO5MUvuEV1ku4P0BHm9d4Y&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    #ไม่มีเวลานั่งสมาธิ
    โยม : ครูบาครับ ทุกวันนี้ทำงานไม่มีเวลานั่งสมาธิเลย ได้แต่ฝึกสติเวลามีรถตัดหน้า โกรธขึ้นมาก็รับรู้แล้วอภัย ตัดความโกรธไปฝึกแบบนี้ในชีวิตประจำวันได้ไหมครับ
    ครูบา : นั่นก็คือการปฏิบัติธรรมแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องมานั่งหลับตาหรอก พระสกิทาคามี ก็ยังมีลูกเมียได้ ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้นะ
    โยม : สาธุ

    fxd_ce-ubjlx2mxz646f8u05i5m7a95xc4rpn5aa-_nc_ohc-sag8gepaitoax8tlwbv-_nc_ht-scontent-fbkk2-8-jpg.jpg
     
  10. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ประโยชน์ของการสวดมนต์
    (ถอดมาจากคลิบบรรยายของหลวงตาม้าเพื่อให้สาธุชนผู้สนใจในการสวดมนต์ ได้อ่านและได้ทราบถึงอานิสงส์และประโยชน์ โดยทั่วกัน)
    ..ผลมันเกิดที่ใจมันออกที่ธาตุ ทรงอารมณ์ให้ดี ท่านใช้เวลาปีเดียวหน้าตาจะผ่องใส เพราะอารมณ์ดี โรคที่ใหนจะไปกิน โรคที่กินคือโรคเป็นทุกข์ ถ้าจิตใจมีความสุข กระแสสุขสวดไปนี้นะท่านว่า จะเอาอายุกี่ปีก็ได้ท่านว่า อธิษฐานเอา ไปที่ใหนเป็นประโยชน์ไม่ใช่ไปแล้วเป็นโทษ ชีวิตนี้มันสั้นไม่ใช่ยาวอะไร
    ท่านบอกถ้าสร้างบารมี พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ถ้าเกิดร้อยปีท่านเกิดถี่ บางชาติต้องใช้ขันติอย่างมากเลยท่านว่า เอ็งลองดูชาตินี้ข้าอายุยี่สิบสาม ยี่สิบสี่ ยี่สิบห้า ข้าอธิษฐานอยู่กุฏิอยู่วัด ไม่ลงไม่ไปไหนตลอดชีวิต ข้านั่งอยู่อย่างนี้ ห้าสิบหกสิบปี (สมัยก่อนอยู่กับท่านท่านนั่งมาห้าสิบกว่าปีแล้ว) ทำอะไรมันต้องอดทนท่านว่า
    บุญมันได้ทุกลมหายใจเข้าออก ไอ้ที่มันช้าๆกันเพราะมันไม่เข้าใจ มันไปทำกรรมฐานแบบบังคับตัวเอง มันไม่ได้ทำใจให้สบาย ถ้าเอ็งเดือดร้อนจิตวุ่นวาย เอ็งนั่งอย่างไงงง..มันก็ไม่สงบท่านว่า ถ้าอารมณ์เอ็งดีนั่งไปซิ แป๊บเดียวก็สงบนิ่ง เหมือนนอนกลางคืนถ้าอารมณ์ไม่ดี คิดโน่นคิดนี่มันก็ไม่หลับเป็นทุกข์ ก่ายหน้าผากก็แล้วมันนอนไม่หลับ เพราะมันคิดโน่นคิดนี่ บทสวดมีประโยชน์ท่านว่า สวดให้หลับ มีประโยชน์อย่างไร
    พอสวดหลับไปไม่นาน ในความฝันมันไม่มีทุกข์ มันไปฟังพระเทศน์บ้าง ไปสวดส่งวิญญาณบ้าง ไปทำบุญมั่ง ฝันเห็นพระมั่ง ฝันเห็นวัดมั่ง ฝันดีๆทั้งนั้น ไม่มีหรอกที่ฝันร้ายๆเหมือนก่อน นี่คือกลางคืน พอตื่นขึ้นก็สวดอีกถ้าไม่ลุก ตอนกลางวันอีก กระแสของพุทธ ธรรมะ สังฆะ กระแสจักรพรรดิมันอยู่ในโลกนี้ท่านว่า กระแสจิตเราอยู่ในกระแสความดีท่านว่า มันเป็นสายใยอยู่ท่านว่า ไปที่ใหนเราก็ปลอดภัย โรคกรรมก็จะไม่เกิด เพราะกระแสมันอยู่ที่พลังงานพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
    บทนี่มันเป็นบทบุญฤทธิและอิทธิฤทธิท่านว่า ลองคิดดูนะ ถ้ากระแสสวดไปเรื่อยๆ กระแสกรรมจะเข้าได้ที่ใหน เทวดาแถวๆบ้านเราที่เราอยู่ เขาก็ได้ประโยชน์จากเรา ได้ความสุขจากเรา คิดดูซิว่า เขาจะทำอะไรเขาจะดูแลเรามั้ย มีใครจะทำอันตรายเราได้มั้ย ไม่มี คนที่จะมาคิดทำอันตรายเรายังมีอันเป็นไปเลย อย่าว่าแต่ทำเลย นี่คือประโยชน์ ที่พูดนี่เป็นประโยชน์ส่วนน้อยนะ
    ประโยชน์มากที่สุดทิพย์อำนาจ อำนาจแห่งความเป็นทิพย์สามารถแยกอาทิสมานกายได้มากมายไม่มีประมาณ บทนี้ไตรสรณคมน์ กับจักรพรรดิท่านว่า เพียงแต่นึกก็จะแยกได้เลยท่านว่า กระแสกายกระแสจิตจะออกมา คนอยู่ใกล้ๆจะมีความรู้สึกเลยท่านว่า ไม่ใช่ไปที่ใหนวงแตกที่นั้นนะ มันจะเป็นพุทธพรหมปัญญโญ เหมือนฉายของท่านนะท่านว่า พุทธ แปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พรหมปัญโญ ผู้มีปัญญาอย่างพรหม เอ็งไปแปลเอง ท่านว่า
    นี้คือประโยชน์ เอ็งจะไม่เกิดมันง่าย ต้องให้จิตมีบุญ จิตมีความสบาย จะสร้างบารมีมันก็ง่าย เอ็งไม่ต้องรีบไปไหน ให้ดูจังหวะ เวลาสถานที่ และโอกาส ให้พิจารณา เมื่อก่อนท่านสอน ท่านสอนเยอะนะ บางวันก็จำไม่ได้ บางวันก็จำได้ นี่คือประโยชน์ในการสวดมนต์นะ บางคนก็ไม่เข้าใจการสวดมนต์ ว่าสวดไปทำไม ไม่เข้าใจ สวดมนต์นี่สมัยก่อน ตื่นขึ้นก็สวดมนต์แล้วแล้ว คนมาว่าเราก็ไม่ได้ยินนะ มัวแต่สวดมนต์อยู่ มันไม่ได้ยิน มันเลยไปไม่ได้ยิน มันแว่วๆ ไม่ได้ยิน นี่คือประโยชน์
    อยู่ว่างๆให้สวดมนต์ท่านว่า มัวแต่ไปคุยกัน รู้หรือเปล่าคุยกันบางอย่าง มันไม่ได้เรื่องได้ราว ถ้าคุยธรรมะก็พอว่า เดี่ยวเลยไปทางโลกมั่ง เลยอะไรไปมันมั่วไปหมด มันไม่มีประโยชน์ ยิ่งมาอยู่ที่วัดมันไม่ต้องทำงานอะไรสบายเลย บุญล้วนๆเลย ตื่นขึ้นก็ได้แล้ว จนกว่าจะหลับ ถ้าทำอย่างหลวงตาว่า อย่างหลวงพ่อท่านว่า แป๊บเดียวท่านบอก ไม่นาน พอจะเข้าใจเรื่องพลังงานงาน
    พลังงานไม่ได้สูญหายไปจากโลกท่านว่า สิ่งที่เรากระทำสิ่งที่เราพูด กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มันเป็นลูกอยู่ท่านว่า มันเป็นพลังงานอยู่ มันก็ไปตามจิต ภาพอยู่ที่ตรงที่กระทำ จิตก็นึกได้อยู่ คือกระแสของความจำ จำภาพที่ตัวเองทำ ทุกคนจำได้ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน มันจะเรื่อยๆไปอนาคต มีประโยชน์มาก ถ้าใครจะสวดก็สวด ที่นี่ไม่มีข้อวัตรนะ ไม่เคยบอกว่าต้องมาสวดนะ ใครจะสวดก็สวด ใครไม่สวดก็ไม่ว่าอะไร ถ้าไม่เข้าใจก็มาถามได้ว่า สวดไปทำไม
    อยากให้สวดดูว่าสักสิบปีนี้ ว่าจิตจะมีอำนาจตามที่พูดมั้ย มันจะมีทิพยอำนาจมั้ย อำนาจทางจิตหนะ อำนาจของความเป็นทิพย์ จิตมันเป็นทิพย์ แต่ต้องอาศัยธาตุกับจิตสะสมพลังงาน ธาตุมันสะสมไม่ได้ท่านบอก มันสะสมที่จิต แต่ต้องอาศัยธาตุตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ตายแล้วทำไม่ได้เพราะไม่มีธาตุ เพราะงั้นภพภูมิเขาเวลาเราอธิษฐานไว้นี้นะ เขาจ้องไว้ตลอดเวลา เราทำอะไรนึกอะไรเขาจะมาโมทนาหมด กระแสเขามารับทันที
    ประโยชน์มากถ้าทำได้ก็โมทนาสาธุ ดีกว่าหายใจทิ้ง บางวันคิดไม่ได้เรื่องได้ราว เผลอๆทำไม่ได้เรื่องได้ราว จริงๆแล้วฝึก 5 ปีนี้รู้เลยนะ นั่งอยู่ใกล้ๆใครนี้รู้เลยนะ ถ้าฝึกจริงๆนะ ใช้เวลา 5 ปี ถ้านั่งไกลเขาจะรับกระแสได้เลย นั่งใกล้ๆรับกระแสได้ทันที ถ้าเราสัพเพไปแล้วเรานึกไปเขาจะรับกระแสได้ทันทีเลย มีประโยชน์มาก..
    JbMP3DhXMee3Nx726o5gUoAfPjMpOJgsFsHvK7mk7g0&_nc_ohc=FSePSkcrIHwAX_LEEZ1&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    “เกินพอดี”
    อย่างเช่นว่าในระยะนี้เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาด ท่านทั้งหลายก็พยายามเสาะหาสิ่งต่าง ๆ ที่จะมาป้องกัน มารักษาตนเอง เขาบอกว่ากระชายดี ท่านทั้งหลายก็ตะเกียกตะกายไปหา จนกระชายขึ้นราคาไปหลายเท่า เขาบอกว่าฟ้าทะลายโจรดี ท่านทั้งหลายก็เสาะหาฟ้าทะลายโจรจนขาดตลาด เขาบอกว่าขิงก็ได้ หัวหอมก็ได้ พริกไทยก็ได้ ท่านทั้งหลายก็ทำเอาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ขาดจากครัวเรือนไปเลย..!
    สิ่งที่ท่านทั้งหลายได้ทำนี้เรียกว่า "เกินพอดี" เพราะว่าในเรื่องของกระชายนั้น เห็นหลายท่านทำแล้ว อาตมภาพก็ใจหาย ก็คือปั่นแล้วกินสดๆ เป็นแก้วใหญ่ๆ
    ท่านทั้งหลายรู้หรือไม่ว่ากระชายมีอานุภาพอย่างไรบ้าง ?
    ประการแรก….
    มีความเป็นกรด ถ้าใครเป็นโรคกระเพาะอยู่ กินลงไปแบบนั้นก็ได้ปวดท้องดิ้นกันไปเลย..!
    ประการที่สอง….
    กระชายเป็นยาธาตุร้อน กินลงไปแล้วจะร้อนอยู่ข้างใน ก็จะทำให้เสียงแหบเสียงแห้ง ไฟราคะกำเริบ..!
    และที่แน่ ๆ #โบราณท่านไม่ได้ให้กินกระชายสด เราจะเห็นว่าโบราณกินกระชายโดยการทำเป็นอาหารบ้าง ต้มเป็นยาบ้าง ในเมื่อเราไปกินสดโดยที่ไม่รู้ว่ากระชายสดนั้นมีความเป็นพิษมากกว่า ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าไม่ตาย สภาพร่างกายก็คงจะชำรุดทรุดโทรมไปมาก.....
    # ส่วนฟ้าทะลายโจรนั้นเป็นยาเย็น โบราณใช้ในการลดไข้ โดยเฉพาะไข้กาฬต่างๆ ในเมื่อเขาบอกว่าฟ้าทะลายโจรดี ท่านทั้งหลายก็ตั้งหน้าตั้งตากินเข้าไป พอร่างกายเย็นเกิน คราวนี้โรคภัยไข้เจ็บยิ่งเกิดง่าย ร้อนเกินไปยังรักษาง่าย ก็คือเอายาเย็นเข้าไปรักษา แต่เย็นเกินไปนี่หมอจีนยอมแพ้ทุกคน เพราะว่ารักษายากที่สุด เนื่องจากความเย็นนั้นต้องสะสมไปเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แล้วถึงจะก่อให้เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา กว่าจะแก้ก็สายเกินไปเสียแล้ว..!
    #อีกหลายท่านก็กินทั้งกระชายและฟ้าทะลายโจร ชนิดตะบี้ตะบันกินแทนข้าวไปเลย..! ท่านรู้หรือไม่ว่าตัวหนึ่งเป็นยาร้อน อีกตัวหนึ่งเป็นยาเย็น ?....
    #เมื่อถึงเวลาเข้าไปอยู่ในร่างกายของเราก็ไปหักล้างกันเอง เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกกระจาย..! หญ้าแพรกคือร่างกายของเรา กลายเป็นว่าสิ่งที่ท่านทำเกินทางสายกลางไปเมื่อไร ก็ก่อให้เกิดโทษ ร่างกายของเราแข็งแรงอยู่ดี ๆ ก็เจ็บไข้ได้ป่วยเพราะฤทธิ์ยาเข้าไปหักล้างกันอยู่ข้างใน
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ด.ร..
    ((พระอาจารย์ เล็ก สุธมฺมปญฺโญ))
    วัดท่าขนุน กาญจนบุรี
    วันท่ี 24 กค.2564
    Do5hoHuCG4qkP145ViXdZU_od-Bt-hQQqpg9WESoNH9&_nc_ohc=wn5HrBRjFDEAX98UN17&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  12. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    มีครั้งหนึ่งหลวงพ่อท่านอ่านวิชาการทางโลก
    เมื่อเจ้าของหนังสือได้เรียนถามว่า
    "หลวงพ่ออ่านเรื่องอะไร"
    หลวงพ่อ "ข้าอ่านไปอย่างนั้นแหละ ข้าถามหลวงปู่ทวดว่า อ่านแล้วจะได้อะไร ท่านตอบข้าว่า อ่านยังไงก็ไม่พ้นทุกข์ ที่ท่านทำอยู่นั้นคือ ทางพ้นทุกข์ นั่นคือการปฏิบัตินั่นเอง"
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    bMq7iC7eq6hkyT-cd4l5FnkM&_nc_ohc=8zNXdf--rQMAX_onYEK&tn=32SMgKculfo9F24p&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
    9wHFnKaNcmcgvuXPpxCnC4sFjCAHEvDQ9oWhP_BW23pB&_nc_ohc=kxp5MyjrTJsAX9-CJS3&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  13. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    "พ่อชื่อธนเสฏฐะ จำไว้ให้ดีนะลูก"
    ระหว่างที่ทุ่มเทสรรพกำลังพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน เพื่ออัญเชิญพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงิน ซึ่งหล่อจากเม็ดเงิน ๖๐๐ กิโลกรัมเข้าที่ประทับ พระองค์ท่านก็เมตตาบอกพระนามให้ทราบ...
    พระรูปพระโฉมของพระองค์ท่าน ปรากฏสว่างไสวไปทั้งท้องฟ้า ประหนึ่งพระจันทร์วันเพ็ญที่ประกอบด้วยรัศมีทรงกลด รุ่งเรืองสดใสยากที่จะหาสิ่งใดเปรียบปาน..!

    SwxAmWZZpWMQKGOzzAKmQWzY2Qk7sKLZDEF6pUNcTNK&_nc_ohc=vaqtQa-5vaMAX9cuyAD&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     
  14. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ในแต่ละวันเนี่ย วันคืนล่วงเลยไปเรากำลังทำอะไรอยู่
    เราไม่รู้หรอกว่า.. เราจะมีโอกาสกี่วัน กี่เดือน กี่ปี
    แต่ปัจจุบันเรายังมีโอกาสอยู่
    รักษาโอกาสของตนเองให้ดี
    ทำในทุก ๆ วันให้มีคุณค่า
    เจริญสมณธรรม
    เพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่งพระนิพพาน
    เมื่อปัจจุบันเราทำดีแล้วเนี่ย
    อนาคตมันก็ดีเป็นเรื่องธรรมชาติ
    อนาคต ก็คือ ผลของปัจจุบัน
    โควตาของการเกิดมาเป็นมนุษย์ มันน้อยมาก
    ให้เราเห็นความสำคัญตรงนี้ว่า
    เราได้มีโอกาสเกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์
    ได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนา
    อย่าปล่อยโอกาสตรงนี้ให้หลุดลอยไป
    เพราะว่าโอกาส ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดกาล
    โอกาสกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ยาก
    เพราะฉะนั้น... #โอกาสที่สำคัญที่สุดก็คือปัจจุบันธรรม
    ก็ตั้งใจปฏิบัติให้ดี
    ...................
    ธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
    มูลนิธิเดินจิต
    qNz38sU2QYI1OnPsGPwTAVd61dBEg1OQ9fUASWZnx2Sd&_nc_ohc=c5jgnMOPVcwAX8OnDhG&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     
  15. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    "นึกถึงความดี"
    "ทำในสิ่งที่เป็นบุญขอให้จำไว้ จิตนึกถึงอยู่เสมอเป็นอนุสสติ ถ้าทอดกฐินทอดผ้าป่าเป็นจาคานุสสติกรรมฐาน นึกถึงพระธรรมเป็นธัมมานุสสติกรรมฐาน นึกถึงพระสงฆ์เป็นสังฆานุสสติกรรมฐาน นึกถึงศีลที่เคยรักษาเป็นสีลานุสสติกรรมฐาน นึกถึงความตายเป็นมรณานุสสติกรรมฐาน แล้วก็ทางที่ดีควรจะนึกถึงนิพพานเป็นอารมณ์ ที่เรียกว่า อุปสมานุสสติกรรมฐาน อันนี้ไม่ควรทิ้ง"
    พระราชพรหมยาน,ธัมมวิโมกข์ (2524),16,96
    facebook : นิตยสารธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง
    #สมัครสมาชิกนิตยสารธัมมวิโมกข์ได้ที่ ID line : thammavimok
    (ภาพนี้ หลวงพ่อถ่ายรูปหมู่กับลูก ๆ)
    xOV-eoO0knH3mF2tnp4wkvDljO6XgHgifZlf30XqTAs&_nc_ohc=cay2PUbl43AAX___hF1&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  16. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    +++ กรรมทำให้เครียดปวดหัว +++
    ใครป่วยไข้ให้ไปปล่อยสัตว์เป็น แล้วก็วิบากกรรมอีกอย่างหนึ่ง #ปวดหัวเป็นไมเกรน จาก
    • กรรมฆ่าสัตว์ ทุบหัวสัตว์
    • กรรมด่าพระด่าเจ้า
    • กรรมด่าพ่อด่าแม่ เถียงพ่อเถียงแม่
    นี่เป็นวิบากกรรม ไปกราบขอขมาให้เรียบร้อย
    #พ่อแม่เป็นบุคคลที่ควรยกย่องสรรเสริญ ท่านไม่ได้ถูกทุกอย่าง แต่ท่านเป็น #บุคคลที่ควรละเว้นจากคำพูดร้าย ๆ นะโยมนะ #เรามาได้เพราะมีท่าน
    บางครั้งท่านไม่ถูก บางทีท่านอายุมากแล้ว อาจจะหลงลืมไปบ้าง พูดจาไม่เข้าใจเราบ้าง เราไปเจอท่านหงุดหงิด มันโมโห ก็เถียงกับพ่อกับแม่
    เราเงียบเถอะนะ นึกเสียว่า #คำทุกคำของท่านเป็นคำให้พร ให้เรารวย ๆ อย่างนี้นะ ไม่ต้องเถียง
    โยมทำอย่างนี้ไปสักเดือนหนึ่ง
    • ชีวิตใครมีปัญหาอยู่
    • ปวดหัวมึนหัว
    • เครียดเรื่องการเรื่องงาน
    #หายหมด #สมองปรุโปร่งเลย ไม่อย่างนั้น แก่ตัวไปเป็นอัลไซเมอร์
    ถ้าทิ้งพ่อทิ้งแม่ พอโยมแก่ตัวไป ก็โดนทิ้งเหมือนกัน ไม่ต้องไปเรียกร้องหาใคร เพราะเคยทิ้งเขาก่อน ต้องทำใจ
    พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปญฺญาคโม
    เมตตาแนะนำไว้เมื่อวันที่ ๙ ก.ค. ๒๕๕๙
    XPVvC9jnGZ9xz_i6tIYIkX4&_nc_ohc=Wg3F1-QA3DgAX-qXRyM&tn=32SMgKculfo9F24p&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
     
  17. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    "ของดีที่แท้จริง ที่หลวงปู่ดู่ ทิ้งไว้ให้ พระคาถามหาจักรพรรดิ"


    พระคาถาบทนี้มีอานุภาพสูงมาก ผู้ใช้ต้องทำให้มีจิตใจสูงตามไปด้วย

    ดังเช่นเรื่องที่เคยเล่า หลวงปู่ดู่ ทำตะกรุดจักรพรรดิ ให้คนใช้ แล้วใช้ไม่ได้ผล ท่านจึงตอกกลับไปว่า ของที่ให้ไปเป็นของสูง แต่เอ็งไม่ทำตัวเองให้สูงตามด้วย พระจักรพรรดิที่ไหนเขาฆ่าสัตว์ กินเหล้า ละ พูดเสร็จท่านก็โยนตะกรุดทิ้งน้ำ


    "คาถา บทนี้เป็นของดี หมั่นท่องไว้ทุกวัน ปกติเขาไม่ให้กันหรอกเพราะเขากลัวลูกศิษย์จะดีกว่าอาจารย์ แต่ข้าไม่เคยกลัวและไม่ปิดบัง ท่องให้ดีนะอีกหน่อยจะรวย เพราะมีการกล่าวถึงพระสิวลีผู้เป็นเลิศทางลาภไว้ด้วย อาบไปเสกไปก็ได้ กินข้าวก็ได้ ดีทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามาบอกพวกแก ข้าทดลองมาแล้วทั้งนั้น เมื่อดีแล้วจึงมาบอก
    ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ศรัทธาและหมั่นฝึกฝนปฏิบัติ คนเราอยู่ดีๆจะให้รวยได้อย่างไร ต้องปฏิบัติเสียก่อน ดูอย่างข้าเมื่อก่อนต้องไปยืมเงินเขามาซื้อธูปเทียนใบชามาเลี้ยงแขก เดี๋ยวนี้ของกินของใช้มีใช้เกลื่อนกลาดไป เรามาพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น แกว่าจริงไหมของดีของอร่อยกินก็ไม่ได้ ฟันไม่มี"

    หลวงพ่อหัวเราะ และยังเสริมอีกว่า

    "คนเราต้องทำให้ดีเมื่อดีแล้วจึงรวย แล้วจะได้ไม่ซวย พระจะดีต้องหมดอยาก
    ถ้ายังอยากอยู่ก็ไม่ใช่พระดี"



    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”


    ---------------------------------------------------------------------------


    “พระคาถามหาจักรพรรดิ” เป็นพระคาถาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก“ชมพูปติสูตร” ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิพญา ชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา
    พระผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์แก้วที่แผ่กิ่งก้านใบบุญบารมีมอบความร่มเย็นเป็นสุข ให้แก่ลูกศิษย์ทั่วทุกชนชั้นอย่างไม่มีประมาณตามแนวทางแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งพระคาถานี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่เมตตาช่วย เหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ
    ฉะนั้นเมื่อเราปรับภพภูมิ ให้ผีเปรต หรือ ผู้ได้รับทุกขเวทนาให้เขา พ้นทุกข์แล้ว พอเขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้นเช่นเทวดา เขาก็จะมาช่วยเรา และเรายังได้บุญกุศลจากการช่วยเขาให้พ้นจากบ่วงกรรมด้วย
    #คาถานี้จึงเป็นของสูง #ผู้สวดจึงควรจิตใจให้สูงตามด้วย เช่น รักษาศีล 5 ให้เคร่งครัด เพราะมีการเชิญพระเข้าตัวด้วย คล้ายๆ ชินบัญชร ถ้าเหล้ายาไม่เคยว่างเว้น อย่างนี้ไม่แนะนำให้สวด เพราะเป็นของสูง


    Ij6-TLtMqGvPTEGQ3x6W5ccc&_nc_ohc=u1BVTFqyptUAX_4YLbX&tn=32SMgKculfo9F24p&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     
  18. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    " หลวงปู่ดู่ไม่ได้สอนให้ทนนั่งสมาธิ หลวงปู่ให้ใช้อิริยาบถที่สบายๆ ในการบันทึกพลังงาน ไม่ได้สอนให้ทนในร่างกาย ให้เราฝึกที่จิตเน้นตรงนี้ จะทำอะไรก็เน้นที่อารมณ์ต้องสบาย "
    (พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)
    IvCspZqmjf4p6hl8wISLlOR&_nc_ohc=q4NoylZW2GcAX_54Vwi&tn=32SMgKculfo9F24p&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ใช้ให้เป็น

    พระสุทิน อายุวัฒโก ( หลวงพี่จ่า ) เมื่อครั้นท่านยังเป็นฆราวาส ได้มากราบนมัสการหลวงปู่ดู่ ตั้งเเต่พ.ศ. ๒๕๐๙ โดยมีทหารที่เป็นลูกน้องเป็นผู้ชักชวน ซึ่งสมัยก่อนวัดสะเเกโดยทางเรือหลังจากกราบนมัสการหลวงปู่ดู่เเล้วทหารที่พามาพูดนำว่า" วันนี้ผมพาลูกพี่มาหาหลวงปู่เขาจะมาขอพระหลวงปู่ลูกพี่เขาอยากได้ " ความจริงเเล้วคือการอุปโลกน์ขึ้นเองหลวงปู่ตอบว่าข้าไม่มีพระอะไรจะให้ถ้าอยากจะได้ต้องฝึกวิธีใช้ให้เป็นเสียก่อนเหมือนอย่างข้าให้ควายเเก่ไป เเกไม่มีเชือกสะพายจูงไปมันจะเอาไปลำบาก "
    จากนั้นท่านให้พระ ๑ องค์ เป็นรูปหลวงปู่ทวด ( เหยียบน้ำทะเลจืด ) เเล้วจึงให้เขาไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นกุศโลบายของหลวงปู่ ที่ต้องการให้ปฏิบัติเเล้วจึงรู้อานุภาพของพระเครื่อง เพราะท่านเคยบอกเสมอว่า " ของดีต้องใช้ให้เป็น จึงจะรู้ว่าเป็นของดี " เพราะในปจุบันที่รู้กันว่าเจ้าของคุ้มครองพระ โดยการนำไปฝากไว้ที่ธนาคารไม่ได้นำมาใช้ ทำให้อาจารย์ศุภรัตน์นึกถึงคำพูดของ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่กล่าวว่า ทำบุญให้เป็นใช้บุญให้เป็นโดยเฉพาะการภาวนา นั้นถือเป็นการทำกุศลสูงสุดในพระพุทธศาสนา หลวงปู่ดู่เคยบอกกับอาจารย์ศุภรัตน์ถึงพระที่ท่านอธิษฐานจิตว่า
    " ข้าว่าของข้าไม่เป็นรองในเเผ่นดิน อยู่ที่คนนำไปใช้ว่าถึงหรือเปล่า ถ้าถึงจริงๆ เเล้วก็ไปนิพพานได้ "
    คำกล่าวของหลวงพ่อมีความหมายอย่างยิ่ง คือ เปลี่ยนจิตจากศรัทธาจนเป็นอจลศรัทธา นั้นเอง
    _oc=AQk6fkjQJNWlpUTu27HmJPdY3lcK4JVQFxxQgqyZdw86QwgIUFSQAP-6dLDmWzO6kSk&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    https://web.facebook.com/groups/578421352265490/user/100005219172557/
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...