ชนบท168 ศูนย์รวมวัตถุมงคล พระป่ากรรมฐานและพระบ้านเกจิขลัง

พระผงสมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน จ.นครราชสีมา รุ่นพิเศษพิมพ์ใหญ่ ปิดรายการครับ

สมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน มีพุทธคุณเป็นที่เลื่องลือมานาน มีประสบการณ์มากมายจากผู้บูชาจนถึงขนาดตั้งเนื้อตั้งตัวกันได้ ยกตัวอย่างประสบการณ์มาบางส่วนที่มีผู้เล่า​

องค์สมเด็จนางพญางิ้วดำ​

" นางพญางิ้วดำ แม้ไม่ใช่คำใหม่สำหรับผมแต่กับของจริงก็ยังไม่เคยได้เห็นสักที ได้ยินแต่เขาเล่ามาตลอดอายุขัย จนวันหนึ่งในปี พ.ศ. 2543 เพื่อนสนิทที่สุดของผมคนหนึ่ง ขออนุญาตเอ่ยนามเลยว่า คุณภิญโญ เขียนสุวรรณ ได้ประสบมรสุมชีวิตลูกใหญ่ที่สุดอย่างไม่เคยเจอมาก่อน ผมไม่เคยเห็นเขาทุกข์ขนาดนี้ ไม่เคยได้ยินคนเก่งที่สู้ชีวิตมาตลอดวัยจะพูดว่า "อยากตาย"

ไม่ต้องเล่าให้ผมฟังหรอกว่าเรื่องคืออะไร แต่คำว่าอยากตายนั่นก็หมายถึงเรื่องต้องไม่ใช่เล็กน้อยจนพอจะแบกไหว ผมเองก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเพราะแต่ละเรื่องคือสิ่งที่ผมก็สุดปัญญา โดยเฉพาะหนี้ที่มีเกือบ 3 แสนบาท

เขาเฝ้าอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระสงฆ์ที่เชื่อถือศรัทธามาตลอด 2 ปี ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จนวันหนึ่งเกิดคิดเบื่อชีวิตสุด ๆ จึงนั่งรถเรื่อยเปื่อยไปลงหมอชิตและต่อรถไปโคราชโดยลำพัง ถึงโคราชก็เกือบสี่ทุ่ม จึงเข้าไปกราบย่าโมแล้วแวะนอนโรงแรมจิ้งหรีดละแวกนั้นคืนละ 150 บาท
ตีสี่กว่าของวันอาทิตย์ก็ลุกขึ้นไปถามหาวัดใหม่บ้านดอนที่ท่ารถ ปรากฏว่าต้องนั่งรถโดยสารย้อนออกจากเมืองเพราะวัดอยู่นอกเมืองห่างไป 13 กิโลเมตร พอได้รถสองแถวใหญ่ก็นั่งย้อนกลับมาจนพบวัดสมใจ

ภิญโญเข้าไปที่ตำหนักสมเด็จนางพญางิ้วดำคนเดียว สภาพที่เงียบเชียบไม่มีใครจึงเป็นโอกาสที่เขาจะได้ระบายความทุกข์ทั้งหลายให้ท่านฟัง จุดธูปเล่าไปร้องไห้ไปเหมือนท่านมีชีวิต เป็นพ่อเป็นแม่ที่มานั่งฟังความทุกข์อันแสนสาหัสของลูก เมื่อสบายใจขึ้นมาบ้างก็บอกท่านว่าถ้าโชคดีมีลาภแก้สถานการณ์เลวร้ายนี้ลงได้ จะขอมาเปลี่ยนผ้าม่านและดอกไม้ให้สวยสดสมฐานะของท่าน แล้วกราบลานางพญางิ้วดำกลับชลบุรี

วัดใหม่บ้านดอน ตำหนักสมเด็จนางพญางิ้วดำ​

คืนวันอังคาร ภิญโญฝันเห็นชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดขาวสะอาดมายืนเรียกตะโกนถามว่า
"ซื้อหวยหรือยัง ?"
ในฝันอันลางเลือนเขาได้ตอบชายลึกลับคนนั้นไปว่า "ยัง" ชายชุด ขาวจึงว่าให้ไปดูทะเบียนรถกระบะ ของเพื่อนที่ทำงานพร้อมบอกชื่อให้เสร็จสรรพ
ครั้นตื่นไปทำงานก็นึกถึงเรื่องนี้ได้ จึงไปถามไถ่กับเพื่อนจนได้เลขทะเบียนมา แล้วซื้อไปตรง ๆ สองเจ้า เจ้าละ 300 บาท ตกบ่ายหวยก็ออก เพื่อนที่ฟังการออกสลากวิ่งเข้ามาเขย่าแขน รายงานและล่ำละลักว่า เขาถูกหวย เจ้าตัวยังไม่เชื่อหู กระทั่งเจ้ามือมาจ่ายในตอนเย็นเจ้าละ135,000 บาทนั่นแหละเขาถึงเชื่อและดีใจจนเนื้อเต้น

ภาพจากผู้ปฏิบัติบูชาองค์สมเด็จนางพญางิ้วดำตั้งแต่ปี๓๕​

แต่นั้นมาพวกเราจึงได้รู้จักสมเด็จนางพญางิ้วดำจากเพื่อนคนนี้ เพื่อนที่มิได้แนะนำให้รู้จักท่าน ด้วยวาจา หากใช้ชีวิตของตนเป็นเดิมพันทีเดียว ภิญโญสั่งตัดผ้าม่านที่ชลบุรีและสั่งทำดอกบัวประดิษฐ์อย่างสวยงาม พร้อมเหมารถพาพวกเราทุกคนขึ้นไปกราบท่านหลายหน นับแต่นั้นพวกเราก็เป็นขาประจำของวัดใหม่บ้านดอนเลยทีเดียว ทุก ๆ ปีต้องจัดบายศรีและเครื่องสักการะขึ้นไปถวายท่าน ถ้าผ่านไปแถวโคราชก็ต้องแวะกราบก่อนเสมอ "

 

สมเด็จคะแนน เนื้อว่าน ฝังพลอย หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปิดรายการครับ

รุ่นนี้เนื้อนี้จัดเป็นพระยุคต้นๆของท่านครับ มวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย ประสบการณ์โชคลาภ เมตตา ค้าขาย ไปไกลถึงต่างแดน

 

เหรียญปรกไพรีพินาศ รุ่นแรก หลวงปู่มีชัย กามฉินโท ถ้ำกระแซง จ.ยะลา ปี2548 ปิดรายการครับ

เหรียญปรกมะขามไพรีพินาศรุ่นแรกสร้างแจกจังหวัดชายแดนใต้ครับ แล้วประสบการณ์ต่างๆ ก็ตามมาจากทุกๆ ที่ จนเป็นที่มาของชื่อ " ปรกกันปืน " นี่คือประสบการณ์ล้วนๆ ในอดีต กระสุนปืนหามิได้ถูกตัวผู้ที่มีเหรียญหลวงปู่มีชัย

 

เหรียญเม็ดแตงเต็มองค์80ปี เนื้อฝาบาตร หลวงพ่อสงัด วัดสันติคีรีเขต จ.ชลบุรี ให้บูชาเหรียญละ150บ.(มี3เหรียญ)

ปิด1เหรียญครับ

เรื่องราวบางส่วนจากเวปพลังจิตครับ
พระสมเด็จยุคเก่าต้องสมเด็จโต....แต่สมเด็จยุคใหม่ ต้อง..กู...โว้ย...(ผมได้ยินท่านพูดมากับหู)
เรื่องนี้ไม่ถือเป็นการอวดอุตะริ หรือผิดศีล และไม่อาบัติ แต่ประการใด เพราะท่าน พูดคุยกับลูกศิษย์ท่านซึ่งก็คือตัวผู้เขียนเอง...(หลวงพ่อท่านก็ชอบเรือ ชอบน้ำ เหมือนกับสมเด็จโต) และท่านพูดจาไพเราะมาก ๆ สำรวมกิริยามารายาทเป็นที่สุด เอาเป็นว่าผู้หญิงสมัยโบราณอาย เทียบไม่ติด มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ตัวผู้เขียนเอง ได้นั่งบีบนวดท่าน ตามปกติ อยู่ก็มีญาติโยม มาจากไหนก็ไม่รู้ มาถึงก็ ก้มลงกราบท่านด้วยความศรัทธา ก็ถือเป็นเรื่องปรกติ ที่เราพึ่งปฏิบัติ แต่เหตุการณ์ที่ผมประทับใจมาก ๆคือ หลวงพ่อท่านรีบขอโทษ ญาติโยมท่านนั้นก่อนที่จะกราบหลวงพ่อครบสามครั้ง...เราต้องขอโทษโยมด้วยนะ ที่เรานั่งไม่เรียบร้อย ไม่สุภาพ เพราะอาตมาภาพ กำลังให้ลูกศิษย์ นวดให้อยู่....อึ้งไปเลยเรา...

ท่านสร้างพระ ปั้มพระสมเด็จ ลูกศิษย์ท่านมากราบ มาเยี่ยม ท่านก็แจกเลย ยังหมาด ๆ บางองค์ยังไม่กลับ ด้านเลย (หากไม่กลับด้านผึ่งลม องค์พระจะโก่ง แอ่น ) ทำไปแจกไปเลย นะโม ตัสสะกันตรงนั้นเลย ....เพี้ยง ดีแล้วลูก..เอาติดตัวไว้เวลาไปไหนมาไหน...

ใช้ลูกศิษย์ ไปเปิดประตูเจดีย์ ล็อค ๓ ชั้น เปิดประตูเข้าไป เจอหลวงพ่อนั่งอยู่ด้านในเฉยเลย แนะบ่นอีก ไอ้มึงมันชักช้า...แน่ะ...!!!!!

ลูกศิษย์(พระ) กวาดลานวัด (หน้าโบสถ์ อยู่เห็นหลวงพ่อเดินมาผ่านหน้าไปไม่เกิน ๑๐ เมตร แต่ดูท่าทางท่านเร่งรีบ เราก็กลัวท่านจะบ่นว่ากวาดช้าจะมืดแล้ว...ก็รีบกวาด เสี้ยววินาทีเดียวก้มหน้าและก็เงยหน้าขึ้นมา หลวงพ่อไปอยูตรงทางเข้าเจดีย์แล้ว...แว็บ !!! ไกลกันมาก ... โบล์ นักวิ่ง ๑๐๐ เมตรแชมป์โลก ยังไม่เร็วปานนี้... ป๊าด....เร็วปานวอก....!!!!!....

ลูกศิษย์รุ่นใหญ่ เคยแอบดูหลวงพ่อท่านกราบพระ ในกุฏิ ยุคแรกๆ หลังคาสังกะสี ประมาณนั้น ตกใจแทบช็อค โองน้ำในกุฏิหลวงพ่อหมุนได้เป็นลูกข่าง....

อปพร.โดนคนเมายาบ้ายิงที่เกาะลอย ศรีราชา ปี พ.ศ.๑๕๕๒ สร้อยขาดเสียก่อน เลยไม่ระคายเคืองผิว(เขาบอกว่าเป็นสมเด็จรุ่นแรก จะเป็นสมเด็จพิมพ์ใหญ่ หรือว่าพิมพ์คะแนน ไม่ทราบได้ แต่น่าจะเป็นสมเด็จรุ่นแรก)

ลูกศิษย์ขับ รถ ฟอร์จูนเนอร์ ไปโคราช ไปด้วยความเร็ว ๑๓๐ กม./ชม. ยางหน้าขวาแตก ข้ามเลนส์ไปชนกับรถที่สวนมาอีกคัน ถามว่าความเร็วสุดท้ายเท่าไหร่ ก็ให้เอาความเร็วของรถทั้งสองคันมารวมกัน ประมาณเอากลมๆ แค่ ๒๐๐ กม./ชม. แค่นี้ก็ไม่ได้กลับมาคุยกันแล้ว สภาพรถนั้นเหรอ ประกันไม่ซ่อมรถให้เลย....แต่เปลี่ยนรถคันใหม่ให้โดยเจ้าของจ่ายเงินส่วนต่างอีกนิดหน่อย (แต่ก็ขายซากรถได้) คนขับไม่เป็นอะไร ไม่ได้แขวนขึ้นคอนะ แต่แขวนอยู่ที่หน้ารถ(เหรียญเสมาปี ๒๕๓๘ )

อีกท่านหนึ่ง พ่อผู้เขียนเองอยู่จันทบุรี ขับรถตัหน้าสองแถวใหญ่ (แถวๆมะขาม) รถประจำทาง รถคุณพ่อผมยางแตก ทั้ง ๔ เส้น กระเด็นข้ามเลนส์ไปไกลมาก น้องชายโทรมาหาตกใจร้องให้เลย ผมก็เลยถามกลับไปว่า พ่อแขวนพระที่ให้ไปเปล่า น้องชายบอกไม่ได้แขวน แต่ห้อยไว้หน้ารถ ผมก็เสียว ๆ (คืนนั้นผมนั่งสมาธิ อยู่ก็เหมือนมีเงาดำๆมาด้านหลัง แล้วก็ตบหัวผมอยู่ ๒ ครั้ง คืนนั้นผมเป็นห่วงมาก(ผมอยู่กับคุณแม่และพี่สาวมาตั้งแต่เด็ก ๆ คุณพ่อก็ตามภาษาผู้ชาย มีภรรยาใหม่ไปเรื่อย ๆ ๑ ปี กลับบ้านครั้งเดียว คือสงกรานต์) ก็เลยแผ่เมตตาให้ท่านเพียงคนเดียว เจ้ากรรมนายเวรไม่ต้อง) รถกระเด็นขึ้นไปข้างบนแผงทุเรียนริมทางข้างถนน เคเบิ้ล ทีวี เมืองจันท รายงานว่าเสียชีวิต แต่พ่อผมแค่สลบ ฟื้นมาหนีคุณหมอกลับบ้านเลยซะอย่างนั้น คุณพ่อผมก็ไม่ชอบแขวนพระแต่บวชเรียนกับหลวงพ่อท่านตอนนั้นยังอยู่ที่วัดบางหอยอยู่เลย แต่คุณพ่อห้อยไว้ที่หน้ารถเช่นกัน...ฟื้นมาได้ถามหา พระหลวงพ่อก่อนเลย....(เหรียญเสมา ปี ๓๘ )

อีกเหตุการณ์ ผู้เขียนกำลังนวดหลวงพ่ออยู่ตามปรกติ จูก็มีลูกศิษย์ท่านมากราบ หลวงพ่อ เปล่าหัวให้ลูกชายหน่อยครับ ช่วงนี้ดวงมันไม่ค่อยดี ไปโดนรุมฟัน มาหลวงพ่อถามว่าแล้วเป็นอะไรมากไหม น่าอรรจรรย์ใจ ไอ้หมอนี่ไม่เป็นอะไรเลย แต่คงเสียขวัญมาก ๆ ยังอีกหลายเหตุการณ์ ที่ยังเป็นปริศนาอยู่ แต่เมื่อยและ.....

ลูกศิษย์ ท่าน ก็มีตั้งแต่ชาวบ้าน รากหญ้า พ่อค้า ประชาชน ...ตลอดไปจนเจ้านายในพระราชวัง จนถึง เจ้าคณะ ท่านเจ้าคุณ... ตอนนี้ท่านไปปลุกเสกพระที่ไหน คล้ายราวกับว่าท่านเป็นเหมือนดารา เพราะพระที่ร่วมพิธีปลุกเสก ส่วนใหญ่ จะให้กราบนิมนต์ท่านเปล่าศรีษะให้....จะด้วยพรรษาอ่อนกว่า หรือว่าศรัทธา ก็มิอาจทราบได้....(แต่เป็นพระเอกเลยว่ากันอย่างนั้น)....

เหรียญสภาพไม่ผ่านการใช้ สวยเดิมทุกเหรียญครับ

 

ที่อยู่นายพิสิษฐ์ จำรัสเจริญวานิช
ห้องยา รพ อุทัยธานี 56ม.2ถรักการดี ต อุทัยใหม่อ.เมือง จ.อุทัยธานี 61000

 

รูปหล่อรุ่นปลอดภัย หลวงปู่เจ็ก วัดระนาม จ.สิงห์บุรี ปิดรายการครับ

พระครูอินทคณานุสิชฌน์ หรือหลวงปู่เจ็ก (หลวงพ่อเจ็ก) อาจารสุโภ อดีตเจ้าอาวาสวัดระนาม หมู่ ๖ บ้านระนาม ตำบลชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวจังหวัดสิงห์บุรีและจังหวัดใก้ลเคียงให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ท่านเปี่ยมไปด้วยความเมตตากับญาติโยมทุกๆ คนที่ไปหาท่านไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใดให้ความเมตตาเท่ากันหมด

หลวงปู่เจ็ก เป็นพระอริยสงฆ์ที่ทรงอภิญญาสูงมาก ท่านอายุยืน ท่านมรณภาพนับอายุได้ร้อยกว่าปี และมีเมตตาเป็นปกติ ไม่ชอบความวุ่นวาย มีความเป็นอยู่เรียบง่าย สมถะเป็นที่สุด วันทั้งวันถ้าไม่มีกิจอะไรท่านจะนั่งภาวนาตลอด เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนทั่วประเทศ ฌานสมาบัติของท่านนั้นเยี่ยมยอดมากๆ หลายท่านเจอกับตนเอง เช่น ก่อนไปตั้งใจจะไปหาท่าน เพื่อให้ท่านสงเคราะห์เรื่องต่างๆ พอไปเห็นหน้าท่าน ท่านสามารถบอกได้หมดว่าต้องการให้ท่านสงเคราะห์เรื่องอะไร ทั้งๆ ยังไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย

อย่างไรก็ตามเมื่อครั้งที่หลวงปู่เจ็กมีชีวิตอยู่มักมีผู้นิยมไปกราบไหว้ขอพร และยากได้ยินคำที่หลวงปู่เจ็กพูดว่า "ขอให้โชคดีนะโยม กลับบ้านให้มีเงินทองใช้มากมาย แต่อย่าลืมทำบุญนะ" ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับพรจากหลวงปู่ไปเมื่อกลับมากราบหลวงปู่อีกครั้งกลับกลายเป็นคนมีฐานะดีกว่าที่มากราบหลวงปู่ครั้งแรก เรื่อวาจาสิทธิ์นี้เป็นที่กล่าวขานของคนจังหวัดสิงห์บุรีและใกล้เคียงมาถึงทุกวันนี้

พระเครื่องและวัตถุมงคลขอหลวงปู่เจ็กขึ้นชื่อว่าพุทธคุณสูงมากๆ โดดเด่น ด้านแคล้วคลาด มหาอุด เมตตา โชคลาภยิ่งนัก

 

สมเด็จเนื้อว่านผสมเกศาฝังตะกรุด3K หลวงพ่อถม ทีฆายุโก วัดเนินมหาเชษฐ์ จ.สุพรรณบุรี ปิดรายการครับ

กล่าวถึงวัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาวิชาอาคม ศิษย์ที่สืบทอดวิชาโดยตรงทั้งสองท่านรวมถึงท่านอาจารย์มหาโพธิ์ วัดคลองมอญแล้วน่าปลื้มใจที่แม้เวลาที่หลวงปู่ศุขยังดำรงเบญจขันธ์อยู่จะห่างจากเราเกือบร้อยปีแล้วก็ตามยังมีผู้ที่กล่าวถึงและระลึกนับถือท่านจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้จะกล่าวถึงลูกศิษย์ที่ไปเรียนวิชากับท่านโดยตรงและมีศิษย์ที่สืบทอดวิชาสายนี้เหมือนกันถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังเมื่อคิดได้อย่างนี้ก็สุขใจ วันหน้าหากมีเรื่องดี ๆ ที่น่าสนใจก็จะนำมาเล่าให้ฟังกันอีก ขอเริ่มเลยนะครับ

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ อ.สามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เรียนวิชากับหลวงปู่ศุข วัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่าโดยตรงซึ่งมีหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ฝากฝังไปพิจารณาแล้วจังหวัดสุพรรณฯ กับชัยนาทดูตามแผนที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ประกอบกับวิชาอาคมของหลวงปู่ศุขสมัยนั้นกระเดื่องดังไม่ธรรมดาย่อมต้องมีผู้ไปขอเป็นศิษย์เพื่อขอเรียนวิชาจากท่านมากพอควรเลยทีเดียวและการที่หลวงพ่อมุ่ยไปฝากตัวเป็นศิษย์มีผู้ยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงและรู้กันทั้งนั้นรวมทั้งในประวัติของท่านที่มีผู้เขียนถึงภายหลังก็มีผู้ยืนยันเรื่องนี้อยู่มากมีการกล่าวกันว่าท่านไปเรียนวิชากับหลวงปู่ศุขโดยไปกับหลวงพ่ออิ่มอาจารย์ท่านโดยพูดกันว่าหลวงพ่อมุ่ยได้วิชามาเล่มครึ่งส่วนหลวงพ่ออิ่มได้มาครึ่งเล่มเนื่องจากหลวงพ่ออิ่มอาวุโสความจำสู้พระหนุ่มไม่ได้จากเรื่องราวดังกล่านี้ยืนยันว่าท่านเรียนวิชามาจริง รวมทั้งมีผู้กล่าวกันว่าหลวงพ่อมุ่ยปลุกเสกพระและเครื่องรางของขลังต่างๆ เคลื่อนไหวได้กระโดดได้นี้จริงมีผู้รับรองและเห็นด้วยตาตนเองและมีชีวิตอยู่เล่าเรื่องให้ฟังมากพอประมาณทั้งอำเภอสามชุก ลูกศิษย์ท่านที่เก่งและน่านับถือสร้างวัตถุมงคลได้เข้มขลังพระบางอย่างเช่นสมเด็จเนื้อผสมว่านฝังตะกรุดสามกษัตริย์ก็มีสร้างคล้ายกับของอาจารย์ของท่านแต่รูปแบบและพิมพ์ทรงแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน รวมทั้งปลุกเสกพระและวัตถุมงคลได้ขึ้นและสามารถคัดออกมาได้ว่าวัตถุมงคลดังกล่าวเขียนยันต์ครบถ้วนหรือไม่ขณะท่านปลุกเสกท่านจะหยิบออกทันทีท่านว่าอันนี้ปลุกไม่ขึ้น คำว่า "ขึ้น"ของท่านขอยกตัวอย่างรูปหล่อเหมือนรุ่นแรกที่เรียกว่ากระโดดบาตร เป็นตัวอย่างได้อย่างดี

ท่านที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้คือหลวงพ่อถม ฑีฆายุโก วัดเนินมหาเชษฐ์อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี วัตถุมงคลของท่านเชื่อได้ว่าดีทุกอย่างเหรียญรุ่นแรกเนื้อทองแดงรมดำ ออกวัดทับกระดาษเขาวัง ซึ่งเป็นวัดแรกที่ท่านจำพรรษามีประสบการณ์มากมายจนต้องสร้างเสริมเป็นเนื้อทองแดงกะไหล่ทองอีกครั้ง วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกเช่น แหวนนิ้ว รูปหล่อเหมือนห้อยคอและขนาดบูชา พระสมเด็จเนื้องผงผสมว่านฝังตะกรุดสามกษัตริย์และไม่ฝังตะกรุด ท่านปลุกเสกอย่างตั้งใจและปลุกเสกเพียงลำพัง ไม่เคยนำไปเข้าพุทธาภิเษกที่ใดท่านทำของท่านเองเหรียญบางรุ่นท่านปลุกเสกทั้งเสาร์ห้าและห้าเสาร์หลายครั้ง ที่นำมาแนะนำนี้เห็นว่าท่านเก่งมากเรียนวิชามาจากหลวงน้าคือหลวงพ่อมุ่ยโดยตรงและไม่เคยเรียนกับใครอีก จะนับว่าท่านเป็นศิษย์สายวัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่าก็ไม่ผิดนัก

 

พระพุทโธน้อย หลังเจดีย์ศรีเวียงชัย ครูบาชัยวงศ์ฯ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน ปิดรายการครับ

 

ขอจองครับ

 

สมเด็จนะฤาชา หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม ปิดรายการครับ

หลวงพ่อสำเนียงท่านเป็นบุตรของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กับหม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียง จะถือกำเนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพร เป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ 2 เดือน เสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ย โดยให้นายเอม อยู่สถาพร ซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล

"เข้าพิธี 25ศตวรรษ ปี 2500" ​

พระผงสมเด็จนะฤาชา หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม จังหวัดนครปฐม จัดสร้างประมาณปี พ.ศ. 2496 - 2500 การจัดสร้างสมเด็จนะฤาชาของท่านนั้น ท่านสร้างพระพุทธนะฤาชา โดยสร้างขึ้น 2 พิมพ์ คือ พิมพ์สี่เหลี่ยม กับพิมพ์สามเหลี่ยมยอดมน ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธเจ้าที่เป็นพุทธศิลป์อย่างเดียวกัน ด้านหลังประทับยันต์จมลึก ตัว “นะฤาชา” เหมือนกันทุกองค์

ส่วนเนื้อมีลักษณะเป็นดินเผา มีทั้งสีดำ และแดง สร้างจากใบลานจารึกอักษรสันสกฤต, ผงใบลานพระศรีมหาโพธิ, ผงอิทธิเจ, ผงปัทมัง, ผงพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ, ผงอิติปิโสตรึงไตรภพ, ผงรัตนมาลา, ผงมงกุฏพระพุทธเจ้า, ผงเกราะเพชร, ผงมหานิยมใหญ่, ผงพระฉิมพลี, ผงอิติปิโสแปดทิศ, ผงพระเจ้าเปิดโลก, ผงพระยาม้า, ผงเกสรดอกบัวหลวง, ผงเกสรดอกไม้ร้อยแปดชนิด, ผงยาอายุวัฒนะ, ผงผลไม้นานาชนิด, ผงผ้ากาสาวพัสตร์เนื้อบริสุทธิ์, ผงนิล, ผงพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต), ผงทำพระรอดเชียงใหม่, ผงพระเครื่องกรุพระแท่นดงรัง, ผงธูปในอุโบสถ วัดบ้านแหลม, ผงธูปพระร่วงโรจนฤทธิ์พระปฐมเจดีย์, ผงพระกรุวัดไก่เตี้ย, ผงดินป่าลุมพินีที่พระพุทธเจ้าประสูติ, ผงดินพุทธคยา, ผงดินพาราณสี, ผงดินตำบลสาลวัน แขวงเมืองกุสินารา, ผงดินใจกลางวัดต่าง ๆ 99 แห่ง, ผงดินกลางใจไร่ 99 แห่ง, ผงดินกลางใจสวน 99 แห่ง, ผงดินวัดไทรตั้ง ปีนัง, ผงดินมหาสมุทรแปซิฟิคที่เกาะเวกค์, ผงดินวัดเมยี ญี่ปุ่น, ผงดินซานฟรานซิสโก, ผงดินกรุงวอชิงตัน, ผงดินเมืองเดมเลอร์, ผงดินเกาะฮอโนลูลู, ผงดินเมืองเซนต์หลุยส์, ผงดินเมืองชิคาโก, ผงดินเมือง ดีทรอยส์, ผงดินกรุงลอนดอน, ผงดินกรุงปารีส, ผงดินกรุงโรม, ผงดินประเทศกัมพูชา, ผงดินพม่า, ผงดินอาหรับ, ผงดินจอมปลวก, ผงดินโป่ง, ผงดินท่า, ผงดินป่า, ผงดินเขา, ผงทรายปาโจ นราธิวาส, ผงทรายขาว สงขลา, ผงทรายขาว ท่าหิน, ผงทรายชะอำ, ผงทรายสระแก้ว ลพบุรี, ผงอิฐ ยอดเขาสารพัดดี, ผงอิฐพระวิหาร พนมวัน, ผงอิฐวัดดอนเจดีย์, ผงอิฐพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย, ผงอิฐพระสมุทรเจดีย์ น้ำพุเย็น อ.ฝาง, น้ำพุร้อน อ.ศรีราชา, น้ำตกแม่กลาง, น้ำตก ผาเลียบ, น้ำตกปาโจ, น้ำพระพุทธมนต์หล่อพระกริ่งพระชัยวัฒน์ วัดพระเชตุพน, น้ำพระพุทธมนต์ในรอยพระพุทธบาทเขาสารพัดดี น้ำพระพุทธมนต์ในรอยพระพุทธมนต์พิธพุทธาภิเษกต่าง ๆ น้ำพระพุทธมนต์สรงพระธาตุจอมทอง, น้ำพระพุทธมนต์พระโมคคัลลาน์ สารีบุตร, แก้วแกลบ, ข้าวเหนียวดำ, หัวเผือกมันกลอย, ลิ้นทะเล, แร่พลวง, เศษเหล็กในพระวิหารวัดพระธาตุ อำเภอสรรค์, เม็ดพระศรีมหาโพธิจากพุทธคยา อินเดีย ฯลฯ

พระพุทธสมเด็จนะฤาชานี้ มีการปลุกเสกอยู่ 2 วาระ ครั้งแรกนั้นได้รับการปลุกสกเมื่อตอนจัดสร้างเสร็จโดยหลวงพ่อสำเนียงเป็นประธานในพิธี ครั้งที่สองหลวงพ่อสำเนียงท่านได้นำสมเด็จ "นะฤาชา"ไปฝากพิธี 25 พุทธศตวรรษ ปี 2500 โดยมียอดเกจิอาจารย์แห่งยุคร่วมปลุกเสกดังนี้ หลวง พ่อสด วัดปากน้ำ,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก,หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา,หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ,หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ,หลวงพ่อลี วัดอโศการาม,หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง,หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง,หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้,หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย,หลวงพ่อถิร วัดป่าเลย์ไลยก์,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว,หลวงพ่อนาค วัดระฆัง,หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ,หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ ฯลฯ

 

พระสมเด็จ72ปี หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร ปิดรายการครับ

ประสบการณ์บางส่วนจากเวปพลังจิต​

ครับผมจะเล่าให้นะครับ และขออนุญาตพี่อาร์ท สกลนคร เจ้าของประสปการณ์ในนำข้อความส่วนตัวที่พี่อาร์ท สกลนคร เคยเล่าให้ผมฟังนำมาเผยแพร่ เพื่อให้คนที่นับถือและมีพระของหลวงปู่บุญหนา ภูมิใจครับ
เล่าละกันนะครับ ข้อความข้างล่างนี้เป็นข้อความที่พี่อาร์ท สกลนคร แกพูดคุยกับผมผ่านข้อความส่วนตัว ในเวปไซท์แห่งหนึ่งนะครับ

ถ้าประสบการณืที่ได้พบหรือได้ฟังมาก็มีเยอะครับแต่ส่วนตัวกับคนใกล้ชิดก็คือผมกับน้องสาวของผมเองประมาณปี 43 คือน้องสาวได้ขับรถจะกลับบ้านประมาณสี่ทุ่มแล้วเกิดอุบัติเหตุโดยที่รถนั้นกระโดดข้ามเลนมาอีกฝั่งนึงโดยใช้หลังคาวิ่งแทนล้อแล้วก็ไปฟาดกับเสาไฟฟ้าจนทำให้รถเกิดเป็นรูปตัว v สรุปคือเละครับแต่น้องสาวของผมไม่เป็นอะไรเลย แม้แต่รอยช้ำ มีเรื่องตลกก็คือหลังจากที่ออกจากรถแล้ว น้องสาวของผมได้โทรไปบอกคุณพ่อว่ารถลงข้างทาง พ่อก็เลยโทรไปบอกลูกน้องที่กรมทางหลวงให้เอารถลากของกรมไปลาก แต่พอซักพักลูกน้องก็โทรมาบอกว่า เจ้านายครับนี่รถไม่ได้ลงข้างทางนะครับ อันนี้รถคว่ำเลยครับ คุณพ่อก็เลยออกมาดู ก็ยังงงว่าน้องสาวของผมรอดมาได้ยังไง คนแถวนั้นก็เลยมาถามว่าห้อยพระอะไร คุณพ่อก็เลยบอกหลวงปู่บุญหนารุ่นแรก ซึ่งตอนนั้นเชื่อมั้ยว่า ผมเอาเหรียญรุ่นแรกเนื้อทองแดงไปแจกตามบ้านเพื่อนๆที่สนิทกัน เค๊ายังถามเลยว่าหลวงปู่ไหน วัดไหน อยู่ที่ไหนอยู่เลยครับ ไม่มีคนรู้จักครับ

ละก็อีกเรื่องนึงที่ อ.พรรณานิคม มีเด็กนักเรียนบ้านอยู่แถววัดนั่นหละ ก็นั่งรถสองแถวกลับบ้านแต่พอลงรถก็ข้ามถนนตรงข้างหน้ารถ ซึ่งตอนนั้นถนนแถวพรรณานิคมยังเป็นสองเลน พอดีมีรถหกล้อมาพอดีก็เลยถูกรถหกล้อทับ ไม่เป็นอะไรเลยแต่คนทั้งรถเห็นว่าเป็นหลวงปู่บุญหนาคร่อมตัวเจ้าเด็กคนนี้อยู่ครับ เค๊าก็กรูกันมาดูพระที่ห้อยคอ สรุปคือเป็นเหรียญรุ่นแรก

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับตัวผมก็คือตอนที่ทำงานอยู่สะพานไทย-ลาว จ.มุกดาหาร ตอนที่เครนถล่ม วันที่ 22 ก.ค.48 วันนั้นเป็นวันเข้าพรรษาพอดี ฝั่งลาวไม่ทำงานเพราะเค๊าถือก็มีแต่ฝั่งไทยทำงานเพราะพวกญี่ปุ่นไม่เชื่อ ต้องการจะเร่งงาน ผมก็ติดโผวิศวกรที่จะขึ้นไปบนเครนพอดี วันนั้นฝนตกทั้งวัน มาหยุดเอาตอน 4 โมงเย็น พวกผมก็ขึ้นไปเช็คอุปกรณ์เตรียมตัวจะลองเดินเครน ตอนนั้นรู้สึกว่าลืมตลับเมตรกับเครื่องคิดเลขก็เลยชวนน้องรุ่นน้องอีกคนนึงลงมาด้วยกัน พอลงมาได้ซักประมาณ 10 นาที ได้ยินเสียงดังบึ้ม ซึ่งดังมากๆ ก็เลยพากันออกไป สรุปเครนถล่มครับ พังยับ วิศวกรตาย 11 คน เจ็บอีก 20 กว่าๆ ส่วนผม 2 คนรอด ตอนนั้นคุณพ่อ(นายช่างสาธร)เป็น ผอ.แขวงการทางมุกดาหารพอดี แกรีบขับรถจากสกลนครมาที่เกิดเหตุหลังจากที่ได้รับแจ้งจากลูกน้องเลยเพราะโทรหาผมไม่ติด ซึ่งตอนนั้นน่าจะเป็นตอนที่ผมไปช่วยกันพาคนงานที่ติดบนเครนลงมา พอคุณพ่อเจอผมท่านบอกอย่าลืมกลับบ้านไปกราบหลวงปู่ด้วยล่ะเพราะซึ่งพระที่ผมห้อยคอตลอดก็คือหลวงปู่บุญหนานี่หละครับ

ส่วนด้านเมตตา โชคลาภก็มีเยอะครับ คือตอนที่ผมไปบวชเรียนอยู่กับท่านที่วัดนั้นจะมีญาติโยมมากราบท่านกันทุกวัน โดยเฉพาะวันที่ 1 กับวันที่ 16 (วันหวยออก) จะเยอะมากเป็นพิเศษ ท่านพูดอะไรไป ชาวบ้านก็จะเอาไปตีเป็นเลข ถูกกันถ้วนหน้า อย่างโรงแรมของผมที่สกลนครนี่ก็ตั้งรูปท่านไว้ก็มีแขกมาพักทุกวันไม่เคยขาดเลยครับ มีอีกทีนึงตอนนั้นท่านรับกิจนิมนต์ไป กทม. ตอนบ่ายมีลูกศิษย์ที่เป็นทหารประมาณ 10 กว่าคนจะมากราบท่านที่กุฏิ คือทุกวันท่านจะลงมาตอนบ่ายสอง เค๊าก็มานั่งรอกัน กุฏิที่ผมอยู่จะอยู่ตรงข้ามกับกุฏิของหลวงปู่ ผมก็เดินไปบอกว่าหลวงปู่ไม่อยู่ เค๊ามาเถียงผมว่าไม่อยู่ได้ยังไงก็ได้ยินเสียงท่านเดินอยู่ข้างบนอยู่ เค๊าบอก ผมก็เลยบอกว่า ก็ดูที่กุญแจสิเพราะกุญแจล็อคอยู่ข้างนอก ถ้าหลวงปู่อยู่ ท่านจะไม่เคยล็อคกุญแจ พวกเค๊าพากัน งงใหญ่เลยครับ มีเยอะครับประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่บุญหนา เท่าที่ผมเล่าให้ฟังนี่คือที่ประสบมากับตัวเองและครอบครัวครับ

 

พระพุทธกาญจนพรสยามภูมิ ฝังโค้ดทองแดงตัวอุ พิธีใหญ่ ปี2539 ปิดรายการครับ

พระพุทธกาญจนพรสยามภูมิ พระพุทธรูปประจำวันประสูติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างในวโรกาสทรงครองสิริราชย์สมบัติ ๕๐ปี

ชนวนมวลสารที่สุดยอด
ทรงพระราชทาน ปี ๒๕๓๙ เป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ ๙ ใต้ฐานมีตราสัญลักษณ์ ภปร. ด้านหลังมีตราสัญลักษณ์พิธีกาญจนาภิเษก ฝังตราอุนาโลม เนื้อทองแดง สุดยอดพิธีใหญ่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นองค์ประธาน เททองและพุทธาภิเษก ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)

ผงพุทธคุณและโลหะชนวนศักดิ์สิทธินำมาประกอบพิธีดังนี้
๑.โลหะชนวนผลมงคลได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒.ชนวนโลหะสร้างพระ ภปร.เมื่อพ.ศ.๒๕๐๙ ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระญาณสังวร
๓.พระเกศาสมเด็จพระญาณสังวร
๔.ทองคำเปลวปิดหลวงพ่อวัดบ้านแหลม, หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร, พระพรหมเอราวัณ ,หลวงพ่อโสธร
๕.แผ่นโลหะ เงิน ทอง นาก ตะกั่ว ลงยันต์อักขระ โดย ลป.เหรียญ วรลาโภ, ลป.หลอด,ลพ.คูณ,พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป,ลพ.พุธ,ลพ.จำเนียร,ลป.แปลง,ลพ.อั้น อภิปโล,ลพ.พวง,ลพ.แพ
๖.เกศาหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
๗.ดินเขาใหญ่สถานที่ศักดิ์
๘.ชานหมากครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ พ่อท่านคลิ้ง วัดศรีสุวรรณ จ.ตรัง
๙.ผงชนวนสร้างพระเครื่องลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
๑๐.ผงบูชาวัดพระศรีอุมาเทวี(วัดแขก)กรุงเทพ
๑๑.ผงปูนขาวและเศษผงมลคล ที่สร้างสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี กรุบางขุนพรหม กรุงเทพ
๑๒.โลหะชนวน สร้างเง๊กเซียนฮ่องเต้(พระอิศวรเทวราชเจ้า)
๑๓.แผ่น เงิน ทอง นาก ลงยันต์อธิษฐานจิต แผ่เมตตา ได้รับจากศรีลังกา
๑๔.มวลสารศักดิ์ จากวัดกัลยาณี,วัดมหินทเล ดอกไม้บูชาพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ประเทศศรีลังกา
๑๕.ดอกไม้บูชา พระแก้มมรกด,หลวงพ่อโต,หลวงปู่มั่น,หลวงปู่ขาว,หลวงปู่เทศก์,พระสยามเทวาธิ ราช,หลวงพ่อทวด,พระสังกัจจายน์,ฮก ลก ซิ่ว,สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระปิยมหาราช,สมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช,หลวงพ่อวัดไร่ขิง
๑๖.ผงว่านชนวนโลหะ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
๑๗.ผงศักดิ์สิทธิ์ว่าน ๑๐๘ ชนิด เกสร ๑๐๘ ชนิดและผงอิทเจ ๑๐๘ ชนิด
๑๘.ผงว่านที่ใช้สร้างหลวงพ่อทวด วัดช้างให้
๑๙.ผงธูปบูชาจากพระพุทธมงคลมิ่งเมือง, ผงธูปศษลหลังเมือง ชุมพร, ผงธูปหน้าหลวงพ่อทวด
๒๐.เถ้าธูปเทียมบูชา อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี,พระธาตุหริภุญชัย วัดอภิสิทธิ์
๒๑.มวลสารบริสุทธิ์ จากใต้ทะเลลึก 10,000ฟุต
๒๒.ผงพระพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์จากวัดประจำรัชกาลต่างๆจากพระพุทธรูป พระประธานอุโบสถที่มีชื่อเป็นมงคลต่างๆเช่น โต เงิน ทอง คำ มั่น คง มี ดี

​

 

พระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชค ภ.ป.ร. เนื้อผง ปี 2549 พิธีมหาพุทธาภิเษก 4 วาระ มีหมายเลขกำกับทุกองค์ ปิดรายการครับ

ประวัติการจัดสร้าง
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จำลองพระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชค (ภ.ป.ร.) ที่ได้จัดสร้างทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นพระประธานในอุโบสถ วัดไทยลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลมาจัดสร้างเป็นพระพุทธรูปประจำสำนักงาน ณ บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และพระเครื่องสักการะเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้มีโอกาสบูชาเป็นวัตถุมงคลพระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชคจัดสร้างถูกต้องตามพุทธลักษณะทุกประการ และสืบทอดวิธีการตามขั้นตอนพุทธประเพณีอย่างเคร่งครัด และด้วยนโยบายในการช่วยเหลือสังคมและเพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงได้มอบพระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชค ภ.ป.ร. เนื้อผง จำนวน 150,000 องค์ ให้กับสภากาชาดไทยเพื่อมอบให้ผู้มีจิตกุศลศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบช่วยเหลือในกิจกรรมสาธารณกุศลของสภากาชาดไทยในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย แก่พี่น้องประชาชนผู้ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนทั่วประเทศ

สำหรับมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้จัดทำพระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชค ภ.ป.ร. ได้จากแดนพุทธภูมิทั้ง 4 แห่ง ใบโพธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ และมวลสารจากวัดในประเทศศรีลังกา ผงจตุคามรามเทพปี 2530 ดินกากยายักษ์ ผงเหล็กน้ำพี้ ผงมงคลสยามประเทศ ผงจิตรลดา ผงพุทธคุณ 108 วัดทั่วประเทศ ผ้ายันต์สงครามเกาหลี เวียดนาม จากวัดสุทัศน์เทพวราราม ผงอิทธิเจ วัดอินทรวิหาร พระจีวรสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และเส้นพระเกศาจากสมเด็จพระราชาคณะทั้ง 9 ผลหยกจากหยกชิ้นที่แกะสลักเป็นองค์พระประธาน ณ วัดไทยลุมพินี

ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลในการจัดสร้าง คณะกรรมการฯ ได้จัดทำพิธี 5 ครั้ง
ครั้งที่ 1 พิธีปลุกเสกอธิษฐานจิตมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ที่สังเวชนียสถาน ทั้ง 4 แห่ง และพระศรีมหาโพธิ์ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 17-20 สิงหาคม 2547 โดยได้นิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่จากพระอารามหลวงเดินทางไปประกอบพิธี
ครั้งที่ 2 พิธีอธิษฐานจิตมวลสาร จาก 4 แดนพุทธภูมิ โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2547
ครั้งที่ 3 พิธีพลีรัตนชาติหยก ณ สหภาพพม่า เมื่อวันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2549 โดยพระเทพภาวนาวิกรม วัดไตรมิตรวิทยาราม พระเทพรัตนสุธี วัดปทุมคงคา พระราชรัตนาภรณ์ วัดอินทรวิหาร
ครั้งที่ 4 พิธีพุทธาภิเษกกดพิมพ์ ปฐมฤกษ์ (เสาร์ 5) โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นองค์ประธาน
และครั้งที่ 5 พิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน สมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร องค์ประธานฝ่ายบรรพชิตจุดเทียนชัย สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม องค์ดับเทียนชัย และอธิฐานจิตปลุกเสก ร่วมกับพระเกจิอาจารย์นำโดยพระเทพภาวนาวิกรม วัดไตรมิตรวิทยาราม
รายนามพระเกจิอาจารย์ 9 รูป นั่งปรกปลุกเสก
1. เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรวิทยาราม
2. หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
3. หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
4. หลวงพ่อพูล วัดบ้านแพน อยุธยา
5. หลวงพ่อแย้ม วัดอัญญิการาม นครปฐม
6. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา
7. หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา
8. หลวงพ่อขา วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา
9. หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว นครสวรรค์
สิ่งที่พิเศษสุดได้รับพระบรมราชานุญาตให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ประดิษฐานที่ผ้าทิพย์และด้านหลังพิมพ์พระผง อีกด้วย

 

จองพระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชค ภ.ป.ร. เนื้อผง ปี 2549 ครับ

 

พระผงไม้เท้าหลวงปู่มั่น หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล กทม. ปิดรายการครับ

พระสวยเดิมในกล่อง จัดสร้างเมื่อ ปี๒๕๔๑ มีส่วนผสมของผงไม้เท้าพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่หลวงพ่อวิริยังค์ท่านเก็บไว้ น่าบูชาครับรุ่นนี้ เป็นศิริมงคล อุปเท่ห์ ไว้ค้ำคูณ ผู้บูชา ไม่ให้ตกต่ำ

สำหรับท่านที่ช่วงนี้ดวงตก อะไรๆไม่ค่อยดี ลองเอาไปบูชาขึ้นคอดูครับ อาจจะดีขึ้น

 

พระผงหลวงพ่อโต วัดช้างใหญ่ จ.อยุธยา ผสมผงหลวงปู่ดู่ ปิดรายการครับ

พระจัดสร้างโดยใช้สูตรเดียวกับวัดสะแกครับ ผสมผงของหลวงปู่ดู่ ได้เนื้อออกมาเหมือนของหลวงปู่ดู่มากๆ อีกทั้งยังมีส่วนผสมผงพุทธคุณของครูบาอาจารย์ทั่วประเทศมากกว่า๑๐๘ท่าน

ได้รับการปลุกเสกอธิษฐานจิตโดยหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน และพระเกจิชื่อดังอีกมาก รวมทั้งอ.ศุภรัตน์ แสงจันทร์ด้วย สายหลวงปู่ดู่ไม่ควรพลาดครับ พระดีราคาเบาๆ

 

ขอจองครับ

 

พระผงหนึ่งศตวรรษ หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี ปิดรายการครับ

พระอาจารย์สมชาย เขมะสะระโน วัดกลางชูศรีเจริญสุข ได้ติดตามหลวงปู่บุดดา ไปธุระทางภาคเหนือ โดยมีลูกศิษย์ที่ติดตามรถตู้หลวงปู่ไปด้วยประมาณสิบกว่าคัน พอเข้าถึงเขตจังหวัดลำปาง ลูกศิษย์ท่านหนึ่งได้เอ่ยปากถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ครับไม่แวะนมัสการหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่สุสานไตรลักษ์เหรอครับ..? หลวงปู่ท่านได้ตอบขึ้นมาทันทีเลยว่า ไม่ต้องหรอกคุยกันทางจิตเรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่ติดตามหลวงปู่พอได้ยินเช่นนั้นถึงกับนิ่งไปเลย พระอริยสงฆ์ท่านจิตบริสุทธิ์ และ แก่กล้าไม่แปลกเลยที่ท่านจะคุยทางจิตนั้นสามารถทำได้ง่ายมาก

หลวงปู่บุดดา ท่านเป็นพระผู้อาวุโสและมีความสามารถแตกฉานในพระธรรมวินัยมากที่สุดองค์หนึ่ง

แต่เดิมนั้นท่านไม่เคยศึกษา ทางด้านพระธรรมวินัยมาก่อนเลย ครั้นเมื่อได้ออกบําเพ็ญเพียรจิตภาวนาในป่าและภูเขา สติปัญญาที่ได้ถูกกลั่นกรองอบรมมาดีแล้วนี้ เป็นเครื่องชี้บอกอัน ที่เกิดจากปัญญาภายในอย่างน่าอัศจรรย์

หลวงปู่บุดดา ถาวโร ท่าน เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่แตกฉานใน ทางธรรมได้อย่างน่าอัศจรรย์กล่าวคือ

“ท่านจะตอบปัญหาธรรมะ จากบุคคลที่เข้ากราบเรียนถามอย่างจะแจ้งชัดเจน และได้อ้างอิง ถึงข้อพุทธบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎกหน้านั้น บทนั้นเลยทีเดียวทั้ง ๆ ที่ท่านเองก็ไม่เคยศึกษาหา ความรู้ในการนี้มาก่อน และการตอบปัญหาธรรม ก็จัดอยู่ในขั้นสูงทั้งสิ้น แม้ว่า มีท่านผู้ปฏิบัติธรรม จะเรียนถามหลวงปู่ท่าน ท่านจะพูดหลักปฏิบัติที่เกิดจากธรรมะภายในใจอย่างชัดแจ้ง

“ภูมิธรรมปัญญาได้บังเกิดกับท่านนี้ เป็นที่บ่งชัดว่า ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบในขั้นสูงองค์หนึ่งในประเทศไทย ความเมตตาสงเคราะห์แก่บุคคลทุกเพศทุกวัยนั้นเสมอเหมือนกันทุกคน ไม่มีการแบ่งชั้นหรือยกเว้นแก่ผู้ใด

หลวงปู่บุดดา ถาวโร ท่านเป็นพระอัจฉริยอรหันตเจ้าที่ทรงอธิคุณที่น่าอัศจรรย์อย่างลึกซึ้งยิ่ง เกินกว่าที่ใครทั่วไปจักคาดคิด โดยนอกจากท่านจะได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดเมื่อบวชได้เพียง 4 พรรษา ซึ่งนับได้ว่ารวดเร็ว เป็นขิปปาภิญญาอรหันต์ได้แล้ว หลวงปู่บุดดายังเป็นที่ " ยอมรับ และ ยกย่อง " ของพระสุปฏิปันโน เถรานุเถระ ทุกสาย ทั้งธรรมยุติและมหานิกาย ไม่ได้จำกัดแต่เพียงในสายใดสายหนึ่ง สมดังที่หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร พระอรหันต์แห่งสำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
ได้เคยกล่าวยกย่องสรรเสริญไว้ว่า" หลวงปู่บุดดานี้ ยอดเยี่ยมที่หนึ่งเลย แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน............................!
“ แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน” ก็คือการที่หลวงปู่บุดดาท่าน “สำเร็จอรหัต” ล่วงหน้าไปก่อนพระผู้ได้ชื่อว่าเป็น “พระอริยอรหันต์” ในชั้นหลังหลายๆ องค์จะได้สำเร็จธรรมนานนักหนาแล้วนั่นเอง... และอัจฉริยคุณอันยอดยิ่งของ “หลวงปู่บุดดา ถาวโร” ก็ยังได้จุดประกายแก่ผู้มี “นัยน์ตาถึง” จนมองทะลุถึงอธิคุณพิเศษที่ได้บรรลุธรรมแต่เยาว์พรรษาแห่งพระคุณท่านได้อย่างแจ่มแจ้ง ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในทางธรรมอย่างสำคัญ จนเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ได้เจริญในบวรพระพุทธศาสนาเป็น “พระอริยะ” ชั้นสุดยอดและมีเกียรติคุณเลื่องลือไกลที่สุดในยุคนี้

 

จองครับ