ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลังจากที่รัฐบาลจีนคัดค้านที่ไต้หวันสมัครเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก CPTPP ที่จีนเพิ่งยื่นใบสมัครก่อนหน้านี้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ล่าสุดวันนี้ มีรายงานจากทางการไต้หวัน เผยว่า ได้เครื่องบินรบของจีน 24 ลำ รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สามารถบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลำ บินเข้าเขตป้องกันภัยทางอากาศ
    .
    จีนยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กันยายน เพื่อขอเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุม และก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ที่มีสมาชิก 11 ประเทศ แต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันได้ยื่นสมัครขอเข้าร่วมกลุ่มความร่วมมือนี้ด้วย
    .
    โดน จอห์น เติ้ง หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าของไต้หวัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงไทเปเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาคาดว่า จีนจะคัดค้านเหมือนเช่นที่เป็นมาตลอดเมื่อไต้หวันพยายามเข้าร่วมในองค์กรระหว่างประเทศ ฉะนั้น หากจีนได้เข้าร่วมก่อน การขอเป็นสมาชิกของไต้หวันก็ค่อนข้างเสี่ยงทีเดียว
    .
    เติ้งอ้างว่า การตัดสินใจยื่นใบสมัครของไต้หวันไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการยื่นใบสมัครของจีน จีนแผ่นดินใหญ่มีความคิดเห็นอย่างไรเป็นเรื่องของพวกเขา
    .
    ด้านรัฐบาลจีน ซึ่งยืนกรานว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของ จีนเดียว กล่าวว่า ไต้หวันไม่ควรได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมด้วย เราคัดค้านอย่างหนักแน่นที่ประเทศใด ๆ จะแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน และคัดค้านอย่างหนักแน่นที่ภูมิภาคไต้หวันเข้าร่วมสนธิสัญญาหรือองค์การที่เป็นทางการ จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว
    .
    ต่อมาในวันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ไต้หวันว่า เครื่องบินของจีน 24 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่ 18 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำ บินเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน
    .
    ซึ่งเขตดังกล่าวอยู่นอกดินแดน หรือน่านฟ้าอาณาเขตของไต้หวัน และในทางหลักการยังถือเป็นน่านฟ้าสากล แต่ไต้หวันกำหนดเขตนี้ขึ้นเอง เพื่อเฝ้าตรวจ และควบคุมอากาศยานของต่างชาติด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    จีนส่งอากาศยานทางทหารรุกล้ำเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันบ่อยครั้ง เพื่อแสดงความไม่พอใจ แต่การรุกล้ำเมื่อวันพฤหัสบดีถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน.
    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4295423

    https://asia.nikkei.com/Politics/Taiwan-reports-major-Chinese-air-incursion-after-CPTPP-bid

    https://www.thaipost.net/main/detail/117686
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    วันนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุมือปืนบุกกราดยิงในร้านขายของชำ โครเกอร์ เมืองคอลลิเออร์วิลล์ ใกล้กับเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ มีผู้บาดเจ็บ 12 ราย ในขณะที่คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นการยิงตัวเองเสียชีวิต
    .
    โดยผู้บัญชาการตำรวจคอลเลียร์วิลล์กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้านโครเกอร์ในคอลเลียร์วิลล์ และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่กองกำลังร่วม ซึ่งรวมถึงทีมสวาท ได้เข้าให้ความช่วยเหลืออพยพลูกจ้างและลูกค้าออกจากอาคารที่เกิดเหตุ และว่า สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ และหน่วยงานอื่น ๆ กำลังสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว
    .
    ทั้งนี้ เหตุกราดยิง และความรุนแรงจากปืนเป็นปัญหาใหญ่ในสหรัฐ เนื่องจากการแพร่หลายของอาวุธปืนขนาดเล็ก และกฎหมายควบคุมปืนที่ไม่เข้มงวด

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.nytimes.com/live/2021/09/23/us/shooting-collierville-kroger-tennessee

    https://abcnews.go.com/US/shooting-reported-kroger-grocery-store-memphis-police/story?id=80195376

    https://www.naewna.com/inter/604370
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    วันนี้ มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เตรียมเสนอแนวทางผ่อนคลายมาตรการกิจการ กิจกรรมต่างๆ ต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. จะเป็นประธานการประชุม ในวันที่ 27 ก.ย.นี้
    .
    โดยจะเสนอให้พิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน หรือถึงวันที่ 30 พ.ย. และจะเสนอให้เลื่อนการเปิดพื้นที่ Sandbox ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้เตรียมจะให้ 5 จังหวัดเป็นพื้นที่นำร่อง จากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะเปิดในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ขยับไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.
    .
    นอกจากนี้ จะเสนอให้ผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมที่ถูกสั่งปิดเพิ่มขึ้น 10 ประเภท ได้แก่
    ...

    1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และวัยก่อนเรียน

    2.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดเอกชน ห้องสมุดชุมชน

    3.พิพิธภัณฑ์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน

    4.ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หอศิลป์

    5.กีฬาในร่ม ในห้องที่มีระบบปรับอากาศ ฟิตเนส
    6.ร้านทำเล็บ

    7.ร้านสัก

    8. ร้านนวด สปา เพื่อสุขภาพ

    9.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์

    10.การเล่นดนตรีในร้านอาหาร
    ...
    โดยผู้ประกอบการต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงระบบหมุนเวียนอากาศ และจัดสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการ COVID-Free Setting ก่อนเปิดบริการ
    .
    ในส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สถานที่กลุ่มกีฬากลางแจ้ง ที่ร่มโล่งมีอากาศถ่ายเทสะดวก การซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทยทุกประเภท และร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด ให้เฉพาะที่จำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค และขยายเวลาเปิดให้บริการไม่เกินเวลา 21.00 น. จากเดิมที่เปิดบริการได้ถึง 20.00 น.
    .
    ขณะเดียวกัน จะเสนอให้พิจารณาให้ปรับเวลาออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิว จากเดิม 21.00 น. ถึง 04.00 น.ของรุ่งขึ้น ขยับเป็นเวลา 22.00 น.ถึง เวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และจะเสนอปรับลดระยะเวลาในการกักตัวในสถานที่กักกันของรัฐ
    .
    โดยให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยในทุกช่องทางที่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์มาแล้วอย่างน้อย 14 วัน ให้กักตัวอย่างน้อย 7 วัน และต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง ครั้งแรก วันที่ 0-1 ครั้งสอง วันที่ 6-7 ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศซึ่งโดยสารมาทางเครื่องบิน และไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ให้กักตัวอย่างน้อย 10 วัน และต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง
    .
    ครั้งแรก วันที่ 0-1 ครั้งสอง วันที่ 8-9 ขณะที่ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทางช่องทางบก และไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ให้กักตัวอย่างน้อย 14 วัน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 0-1 ครั้งสองวันที่ 12-13 ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค.
    .
    สำหรับการเข้าพักที่โรงแรมกักตัวทางเลือกหรือ Alternative Quarantine (AQ) อนุญาตให้ทำกิจกรรมออกกำลังกายกลางแจ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน สั่งซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอก และประชุมสำหรับนักธุรกิจระยะสั้นได้ ส่วนสถานกักกันของรัฐ หรือ State Quarantine (SQ) และ การกักกันผู้เดินทางในสถานที่เอกเทศ
    .
    ซึ่งดำเนินการโดยองค์กร หรือหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนหรือ Organizational Quarantine (OQ) อนุญาตให้ทำกิจกรรมออกกำลังกายกลางแจ้ง สั่งซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอกได้
    .
    ที่ประชุม ศปก.ศบค.ยังจะเสนอให้พิจารณาแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อยมาก หรือ พื้นที่สีฟ้า โดยกำหนดรูปแบบการท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับลักษณะและความพร้อมของพื้นที่สีฟ้า คือการจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งจังหวัด
    .
    รวมถึงการจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้ง อำเภอ ตำบล หรือหมู่บ้าน ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมของพื้นที่ นอกจากนี้ ยังต้องดูเรื่องการจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ เฉพาะสถานที่ เฉพาะพื้นที่หรือระหว่างสถานที่ ระหว่างสถานที่หรือระหว่างพื้นที่ โดยระบบการเดินจะต้องเป็นแบบ Bubble and Seal ที่เรียกว่า Sealed Route
    .
    ทั้งนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค.เห็นว่า การพิจารณาผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมครั้งนี้ จะต้องตอบโจทย์เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กับการควบคุมโรคอย่างเหมาะสม โดยต้องมีแผนเตรียมการและทรัพยากรรองรับสถานการณ์ ทางด้านการจัดการด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาดรวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.thaipost.net/main/detail/117715

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อเริ่มฉีดเข็ม AstraZeneca เป็นเข็มที่ 3 สำหรับผู้ที่ฉีด Sinovac ครบ 2 เข็ม
    .
    วันนี้ (24 กันยายน) ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีรถไฟกลางบางซื่อ เป็นวันแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หรือบูสเตอร์ โดยใช้วัคซีน AstraZeneca ฉีดให้กับผู้ที่เคยรับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้มีระดับเพียงพอสำหรับการป้องกันโรคโควิด
    .
    สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ จะใช้ฐานข้อมูลเดิมสำหรับส่ง SMS ให้ผู้รับบริการเพื่อนัดหมายวันเวลาฉีดวัคซีนล่วงหน้าและผู้รับบริการสามารถตรวจสอบวันเวลานัดด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน ‘Vaccine บางซื่อ’ เมื่อเดินทางมาที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เข้าประตู 1, 2, 3, 4 แสดง SMS หรือ แอปฯ Vaccine บางซื่อ ต่อเจ้าหน้าที่โดยจะได้รับแบบคัดกรอง และสามารถไปที่จุดฉีดวัคซีนได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ และขอให้มารับวัคซีนตรงตามวันและเวลานัด โดยจะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนในเวลา 09.00-18.00 น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุดจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงต่อไป
    .
    ส่วนผู้ที่เคยฉีดวัคซีนที่จุดอื่นๆ หากประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สามารถติดตามรายละเอียดและสอบถามได้จากจุดเดิมที่เคยฉีดเข็มแรกและเข็ม 2 มาก่อนหน้านี้
    .
    เรื่อง: THE STANDARD
    ภาพ: ฐานิส สุดโต
    .
    อ่านต่อได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #TheStandardPhoto #ฐานิสสุดโต

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: รมว.กลาโหมญี่ปุ่นปรามจีนอย่าล้ำเส้น กรณีหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก
    .
    ญี่ปุ่นกำลังวาดเส้นรอบหมู่เกาะเซ็งกากุ (Senkaku) หรือที่จีนเรียกว่าหมู่เกาะเตียวหยู (Diaoyu) เพื่อกำหนดวงล้อม (Island Chain) ไม่ให้จีนรุกล้ำ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดจากทางฝั่งญี่ปุ่น เพื่อปกป้องหมู่เกาะที่สองชาติมหาอำนาจที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ต่างอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
    .
    โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ CNN โดยกล่าวถึงหมู่เกาะพิพาทดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในทะเลจีนตะวันออกว่า หมู่เกาะเซ็งกากุเป็นดินแดนของญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย และญี่ปุ่นจะปกป้องดินแดนส่วนนี้ด้วยการตอบโต้การคุกคามใดๆ ของจีนอย่างเท่าเทียมกัน
    .
    ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ขยายกองกำลังป้องกันตนเอง โดยเพิ่มเครื่องบินขับไล่ F-35 ที่ล้ำสมัย และเปลี่ยนเรือรบเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการสร้างเรือพิฆาต เรือดำน้ำ และขีปนาวุธใหม่ แต่ถึงกระนั้น งบประมาณรายจ่ายด้านการทหารของญี่ปุ่นยังน้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับการใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน
    .
    “เพื่อต่อต้านการดำเนินการของจีนต่อหมู่เกาะเซ็งกากุและพื้นที่อื่นๆ ในทะเลจีนตะวันออก…เราต้องแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นกำลังปกป้องดินแดนของเราอย่างเด็ดเดี่ยว ด้วยจำนวนเรือยามชายฝั่งของญี่ปุ่นที่มากกว่าของจีน” รมว.กลาโหมญี่ปุ่นกล่าว “ญี่ปุ่นไม่มีข้อพิพาทเรื่องดินแดนที่เกี่ยวข้องกับหมู่เกาะเซ็งกากุกับประเทศอื่นๆ” เขากล่าวเสริม
    .
    หมู่เกาะพิพาทที่ไม่มีคนอาศัยอยู่แห่งนี้อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 1,900 กิโลเมตร แต่อยู่ห่างจากเซี่ยงไฮ้เพียง 1 ใน 3 ของระยะทางดังกล่าว ความตึงเครียดเหนือหมู่เกาะพิพาทนี้คุกรุ่นมานานหลายปีแล้ว ย้อนไปเมื่อปี 2012 สถานการณ์ตึงเครียดเกี่ยวกับหมู่เกาะแห่งนี้พุ่งถึงจุดเดือด ปลุกความรู้สึกชาตินิยมให้เกิดขึ้นในหมู่ชาวจีน เป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงตามที่สาธารณะในหลายเมืองของจีน รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นถูกทำลายเสียหาย ร้านค้าและร้านอาหารญี่ปุ่นถูกบุกรุกทำลาย เช่นเดียวกับสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่ง
    .
    สถานการณ์ตึงเครียดไม่ได้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนเท่านั้น แต่ยังทวีความรุนแรงในระดับรัฐบาลด้วย โดยรัฐบาลจีนมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างแข็งกร้าวเช่นกัน
    .
    “หมู่เกาะเตียวหยูเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตของจีน และเป็นสิทธิ์โดยธรรมชาติ (Inherent Right) ของเราที่จะดำเนินการลาดตระเวนและบังคับใช้กฎหมายในน่านน้ำเหล่านี้” กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวในแถลงการณ์เมื่อปีที่แล้ว
    .
    จีนสนับสนุนการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะพิพาทด้วยการส่งเรือลาดตระเวน และออกกฎหมายใหม่ที่เปิดทางให้หน่วยยามชายฝั่งมีอำนาจมากขึ้น
    .
    รายงานของทางการญี่ปุ่นระบุว่า เรือของหน่วยยามฝั่งของจีนได้รุกล้ำเข้าไปยังน่านน้ำของญี่ปุ่น หรือภายใน 12 ไมล์ทะเลจากแผ่นดินญี่ปุ่น รวมทั้งหมด 88 ครั้ง ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ในเขตต่อเนื่อง (Contiguous Zone) หรือเขตที่ต่อออกไปอีก 12 ไมล์ทะเลจากทะเลอาณาเขต พบการบุกรุกของจีน 851 ครั้ง
    .
    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของจีนคือการนำกำลังของตนเข้าประจำการในและรอบๆ พื้นที่ช่วงชิง (Contested Area) และใช้กฎหมายและอำนาจของปักกิ่งเหนือพื้นที่เหล่านั้น
    .
    “การแสดงสิทธิ์ของรัฐชายฝั่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการยืนยันอำนาจอธิปไตย” อเลสซิโอ ปาตาลาโน อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามและยุทธศาสตร์ ที่ King’s College ในลอนดอนกล่าว “มีการกระทำที่ท้าทายส่วนสำคัญของดินแดนอธิปไตยของญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง การกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วและไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้”
    .
    ภาพ: JIJI PRESS JAPAN OUT JIJI PRESS / AFP
    .
    อ้างอิง:
    https://edition.cnn.com/2021/09/15/...-kishi-china-interview-intl-hnk-ml/index.html
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: WHO เตือนระบบสาธารณสุขอัฟกานิสถาน ‘ใกล้ล่มสลาย’ หลังขาดเงินช่วยเหลือจากนานาชาติ
    .
    ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกหรือ WHO พร้อมด้วย ดร.อาห์เหม็ด อัล-มันดารี ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกของ WHO ออกแถลงการณ์ เตือนว่าระบบสาธารณสุขของอัฟกานิสถานกำลัง ‘ใกล้เข้าสู่ภาวะล่มสลาย’ หลังจากที่ขาดแคลนเงินสนับสนุนจากนานาชาติ ทำให้สถานพยาบาลต่างๆ ประสบปัญหาในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงาน
    .
    แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันพุธ (22 กันยายน) ที่ผ่านมา หลัง ดร.ทีโดรส พร้อมด้วย ดร.อาห์เหม็ด และทีมเจ้าหน้าที่ของ WHO ได้เดินทางไปเยือนกรุงคาบูล เพื่อพบปะผู้นำของกลุ่มตาลีบันและเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลและสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในอัฟกานิสถาน
    .
    โดยที่ผ่านมา อัฟกานิสถานพึ่งพาความช่วยเหลือจากเงินบริจาคของนานาชาติเป็นจำนวนมาก แต่การถอนทหารของสหรัฐฯ และการเข้ายึดอำนาจของกลุ่มตาลีบัน ส่งผลให้ผู้บริจาคจำนวนมากระงับการช่วยเหลือ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็สั่งอายัดทรัพย์สินทางการเงินของอัฟกานิสถาน
    .
    ปัจจุบัน สถานพยาบาลในอัฟกานิสถาน ราว 2 ใน 3 จากทั้งหมด 2,309 แห่ง เป็นส่วนหนึ่งในโครงการแซฮัตมันดี (Sehatmandi) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาระบบสาธารณสุขขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20,000 ล้านบาท จากผู้บริจาคนานาชาติหลายราย ซึ่งรวมถึงธนาคารโลก สหภาพยุโรป และหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ
    .
    แต่เนื่องจากเงินบริจาคทั้งหมด ถูกส่งมอบผ่านกระทรวงสาธารณสุขในรัฐบาลพลเรือนอัฟกานิสถานที่ถูกโค่นล้มไป ทำให้เมื่อกลุ่มตาลีบันเข้ายึดอำนาจ กลุ่มผู้บริจาคจึงถอนการสนับสนุนโครงการ
    .
    “การตัดการสนับสนุนเงินบริจาคสำหรับโครงการด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่าง แซฮัตมันดี ส่งผลให้สถานพยาบาลหลายพันแห่ง ไม่มีงบประมาณสำหรับค่าเวชภัณฑ์และเงินเดือนสำหรับพนักงาน” ดร.ทีโดรส ระบุในแถลงการณ์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ก่อนที่อัฟกานิสถานจะเผชิญกับภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม
    .
    ทั้งนี้ WHO ยังระบุว่าโรงพยาบาลที่รักษาโรคโควิดในอัฟกานิสถาน จำนวน 9 แห่ง จาก 37 แห่ง หรือกว่า 1 ใน 4 ของทั้งประเทศ ได้ปิดตัวลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การตรวจและติดตามผู้สัมผัสเชื้อ รวมถึงอัตราการให้วัคซีนแก่ประชาชนอัฟกันก็ลดลงอย่างมาก โดย WHO เผยว่ามีประชากรอัฟกันเพียงประมาณ 2.2 ล้านคน หรือราว 6% ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการรับมือวิกฤตโควิดในอัฟกานิสถาน โดยตอนนี้สถานการณ์ระบาดเริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง จากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา
    .
    ภาพ: Photo by Haroon Sabawoon/Anadolu Agency/Getty Images
    .
    อ้างอิง:
    https://www.cnbc.com/2021/09/24/afghanistans-health-care-system-is-on-the-brink-of-collapse-who.html
    https://www.nytimes.com/2021/09/22/world/asia/afghanistan-covid-hospitals.html
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #โควิด19 #COVID19 #โควิด19วันนี้

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สถานการณ์โควิดในไทย (24 กันยายน 2564)
    .
    วันนี้ (24 กันยายน) สถานการณ์โควิดในประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 12,697 ราย แบ่งเป็น
    ติดเชื้อจากต่างประเทศ 11 ราย
    ติดเชื้อภายในประเทศ 12,516 ราย
    มาจากเรือนจำ 170 ราย
    .
    ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 1,537,310 ราย แต่หากนับผู้ป่วยสะสมของการระบาดระลอกเดือนเมษายน รวมทั้งสิ้น 1,508,447 ราย โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564
    .
    สำหรับผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 13,540 ราย มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 1,393,902 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ 127,392 ราย อาการหนัก 3,377 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 743 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 132 ราย เสียชีวิตสะสม 16,016 ราย
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #โควิด19 #COVID19 #โควิด19วันนี้ #วัคซีนโควิด19

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: อนุทิน ยันไม่มีใครดึงเรื่องรับบริจาควัคซีนจากสหรัฐฯ แจงเป็นไปตามขั้นตอน ขอให้เชื่อ สธ. ชี้ที่ผ่านมาทำได้ดีมาตลอด
    .
    วันนี้ (24 กันยายน) ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีรถไฟกลางบางซื่อ กรุงเทพมหานคร อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อสงสัยเรื่องการบริจาควัคซีนโควิดจากสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าเรื่องนี้ไม่มีใครดึงเรื่องให้ช้าอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน ตอนนี้ต้องการให้คนทำงาน คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ ได้ปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาก็ทำได้ดีมาตลอด ก็ควรให้ได้ทำงานอย่างสบายใจ
    .
    อนุทินกล่าวต่อไปอีกว่า การประสานเรื่องบริจาควัคซีนมีขั้นตอนต้องปฏิบัติ ไทยต้องรอให้ผู้บริจาคติดต่อแจ้งความจำนงมาที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รับทราบ และทาง สธ. จะเป็นคนพิจารณารับเงื่อนไขไปจนถึงขั้นการรับบริจาค ทุกอย่างหากมาตามขั้นตอนใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ทางผู้บริจาคมีเจตนาดี ประเทศไทยก็มีเจตนาดี ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่อยากให้ไปขยายความ ตอนนี้ข่าวสารมีมากมาย หากไม่รู้จะเชื่อใครให้เชื่อ สธ. เราเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องการจัดหาวัคซีน การรับบริจาคครั้งที่แล้ว เมื่อทางนั้นส่ง Diplomatic Note มา ก็ใช้เวลาเพียง 3 สัปดาห์ วัคซีนก็มาถึงเลย เรื่องแบบนี้ใช้เวลาไม่นาน
    .
    “อย่าลืมว่าเราเป็นผู้รับ ก็ต้องรอให้มีการเสนอเข้ามาก่อน ที่บอกว่าเราช้า ไม่ยอมคอนเฟิร์มนั้น ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์มากพอและรู้ว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร เราเคยรับบริจาคจากสหรัฐฯ มาแล้ว 1 ครั้ง เคยรับการช่วยเหลือจากอังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน กระบวนการไม่ต่างกัน ถ้ามีเอกสารแสดงความจำนงในการบริจาคมา ไทยก็พิจารณาและเร่งดำเนินการทันที อันที่จริงไม่ควรพูดเรื่องนี้มาก เพราะเกรงว่าจะไปกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” อนุทินกล่าว
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: ประยุทธ์เตรียมลงพื้นที่สุโขทัย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและผลกระทบ เตรียมเยียวยาให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน
    .
    วันนี้ (24 กันยายน) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย ที่ได้รับผลกระทบจากอ่างเก็บน้ำแม่ม่อมล้นอ่าง จากฝนตกหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งรับฟังการเตรียมพื้นที่รับน้ำแก้มลิงบริเวณแม่น้ำยมฝั่งซ้าย
    .
    นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จะพบปะประชาชนและมอบปัจจัยทางการเกษตรให้แก่ผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่ ในวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายนนี้ โดยจะประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ ณ โรงแรม สุโขทัย เฮอริเทจ รีสอร์ท จากนั้นจะพบปะให้กำลังใจประชาชนพร้อมมอบปัจจัยทางเกษตรให้แก่ผู้แทนเกษตรกร เพื่อนำไปมอบต่อให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกการเกษตร เสร็จแล้ว พล.อ. ประยุทธ์ และคณะจะเดินทางโดยรถยนต์เพื่อสำรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในวันเดียวกัน
    .
    ธนกรกล่าวว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารน้ำด้วยตนเอง เพิ่มเติมจากที่หน่วยงานต่างๆ ได้รายงาน ซึ่งในการลงพื้นที่ทุกครั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จะร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรค ร่วมทั้งจะหาโอกาสพบปะกับพูดคุยกับ ส.ส. ในพื้นที่ ประชาชน เกษตรกร เพราะต้องการทราบถึงความต้องการจากเสียงสะท้อนของประชาชนโดยตรง เพื่อนำมาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ตรงจุด โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป
    .
    เรื่อง: THE STANDARD
    ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #TheStandardNews #TheStandardPhoto #ชาติกล้าสำเนียงแจ่ม

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: ที่ปรึกษา CDC สหรัฐฯ มีมติแนะฉีดวัคซีน Pfizer เข็ม 3 สำหรับผู้สูงอายุ แต่ไม่หนุนฉีดกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และอาชีพเสี่ยงติดเชื้อ
    .
    คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน (Advisory Committee on Immunization Practices: ACIP) ซึ่งเป็นคณะที่ปรึกษาหลักด้านวัคซีนของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดหรือ CDC ของสหรัฐฯ มีมติแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 หรือเข็มกระตุ้นจาก Pfizer-BioNTech แก่กลุ่มผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป พร้อมด้วยผู้พักอาศัยในสถานดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ รวมถึงประชาชนในกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการป่วยรุนแรง
    .
    มติดังกล่าวมีขึ้นภายหลังการโหวตต่อเนื่อง 4 ครั้ง ในการประชุมของ ACIP เรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้นจาก Pfizer ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายหลังจากนี้ ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการ CDC จะประกาศเป็นข้อแนะนำอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเดินหน้าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ชาวอเมริกันตามข้อแนะนำ
    .
    ซึ่งนอกจากนี้ คณะที่ปรึกษาของ CDC ยังแนะนำให้ฉีดเข็ม 3 สำหรับประชาชนกลุ่มอายุ 18-64 ปีที่มีโรคประจำตัวด้วย เนื่องจากประชาชนในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเป็นกลุ่มแรกๆ ตั้งแต่เดือนธันวาคมและมกราคมที่ผ่านมา
    .
    อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุมก็มีข้อขัดแย้งเรื่องการเสนอให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชากรสหรัฐฯ ในวงกว้าง ซึ่งครอบคลุมถึงกลุ่มอาชีพที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์แนวหน้า เจ้าหน้าที่สถานดูแลคนชรา เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ครู และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่จำเป็นต่างๆ
    .
    แต่ที่ประชุมของ ACIP ลงมติด้วยคะแนน 9 ต่อ 6 เสียง ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ทำให้เกิดการตั้งคำถามจากผู้เชี่ยวชาญบางรายซึ่งมองว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจเป็นความผิดพลาด เนื่องจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม
    .
    ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (Food and Drug Administration: FDA) ได้ประกาศอนุมัติการฉีดวัคซีนเข็ม 3 จาก Pfizer ให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่ออาการป่วยรุนแรง รวมถึงกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และอาชีพที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่ต้องได้รับวัคซีน Pfizer ครบ 2 โดสมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน ขณะที่ข้อมูลจาก Pfizer แสดงให้เห็นว่าระดับภูมิคุ้มกันของผู้ที่ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 มาแล้วจะค่อยๆ ลดลงหลังผ่านมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง
    .
    ภาพ: Photo Illustration by Pavlo Gonchar/SOPA Images/LightRocket via Getty Images
    .
    อ้างอิง:
    https://www.nytimes.com/2021/09/23/health/covid-boosters-vaccine-cdc.html
    https://www.cnbc.com/2021/09/23/cov...endorses-third-pfizer-doses-for-millions.html
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #TheStandardNews

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เปิดฉีดวัคซีน Walk-in 1 ล้านโดสทั่วประเทศ ถวายเป็นพระราชกุศลในวันมหิดล
    .
    วันนี้ (24 กันยายน) กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิดให้ได้ 1 ล้านโดส เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันมหิดล ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขเคยฉีดวัคซีนได้สูงสุด ทำสถิติที่วันละ 920,000 โดสต่อวัน
    .
    โดยในจุดฉีดวัคซีนทั่วประเทศทั้งในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาล จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนแบบ Walk-in แต่จะกำหนดจำนวนและเวลาตามแต่ละสถานที่ที่สามารถรองรับได้ โดยผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดการเปิดให้ฉีดวัคซีนแต่ละสถานที่อีกครั้ง ซึ่งที่จุดฉีดวัคซีน Central WestGate มี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยด้วย
    .
    สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนในไทยนั้น ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนรวมทั้งหมด นับแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 22 กันยายน รวม 46,669,535 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 29,741,889 ราย เข็มที่ 2 16,303,999 ราย และเข็มที่ 3 623,637 ราย และมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนภายในกลางเดือนตุลาคมนี้ที่ 50 ล้านโดส เพื่อเปิดประเทศ และ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564
    .
    ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #วันมหิดล #TheStandardPhoto #TheStandardNews #ชาติกล้าสำเนียงแจ่ม
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: แมลงทอดเลิฟเวอร์อาจถูกใจสิ่งนี้ บริษัทอาหารอิสราเอลทำเยลลี่จากตั๊กแตนที่เต็มไปด้วยประโยชน์จากโปรตีน
    .
    แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะแนะนำให้มนุษย์เริ่มกินแมลงเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ใช่ว่าเจ้าสัตว์ 6 ขานี่จะน่าอภิรมย์สำหรับทุกคน บริษัทอาหารสัญชาติอิสราเอลจึงหาทางออกด้วยการทำเยลลี่รสชาติต่างๆ ที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากตั๊กแตน แทนที่จะเป็นถั่วเหลือง หรือเจลาติน
    .
    Dror Tamir ประธาน Hargol บริษัทเทคโนโลยีอาหารของอิสราเอลเปิดตัว ‘เยลลี่สีน้ำตาล’ ที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากตั๊กแตนชนิดหนึ่ง Tamir กล่าวว่า “ตั๊กแตนมีรสชาติเหมือนถั่วพีแคน เห็ด กาแฟ และช็อกโกแลต แต่เราได้เพิ่มรสชาติต่างๆ เช่น ส้มและสตรอเบอร์รี่ใส่เข้าไปด้วย”
    .
    แมลงเป็นอาหารที่ชุมชนพื้นเมืองหลายๆ ภูมิภาคทั้งแอฟริกา เอเชีย อเมริกากลาง และตะวันออกกลางคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับกลุ่มยุโรป และอเมริกาเหนือ แมลงยังเป็นอาหารที่พวกเขาเลือกที่จะหลีกเลี่ยงอยู่ ซึ่ง Tamir ต้องการจะเปลี่ยนความคิดนั้นได้
    .
    บริษัทของ Tamir กำลังวางแผนที่จะทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากแมลงเพิ่มเติม ซึ่งนอกจากเยลลี่แล้ว ยังมีธัญพืชอัดแท่ง เบอร์เกอร์ และฟาลาเฟลด้วย เขาเชื่อว่าแมลงจะกลายเป็นอาหารหลักของมนุษย์ในอนาคต หลังผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ภายในปี ค.ศ.2050 ประชากรโลกอาจมีมากถึง 9.8 พันล้านคน และด้วยประชากรที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้การทำฟาร์มอาหารแบบเดิมๆ ไม่เพียงพออีกต่อไป
    .
    การเปลี่ยนไปกินโปรตีนจากแมลงยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการเลี้ยงวัว แกะ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ประกอบกับโปรตีนจากแมลงบางชนิด เช่น จิ้งหรีด หรือหนอนบดแช่แข็ง มีราคาถูก เลี้ยงง่าย มีไขมันต่ำ และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับอาการแพ้ของผู้คนหากกินแมลงเข้าไป ซึ่ง Tamir เองก็มองว่านี่เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญ
    .
    แต่ขณะเดียวกับ เขาก็มองว่าประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพก็เพียงพอแล้วที่จะนำแมลงมาสู่อุตสาหกรรมอาหาร บริษัทของเขาทำฟาร์มตั๊กแตนในโรงงานที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ “เราสามารถเพาะพันธุ์ตั๊กแตนได้ 400 ล้านตัวต่อปี” Tamir กล่าว และเสริมว่าแมลงใช้เติบโตเพียง 29 วันเท่านั้น และเมื่อเทียบกับการผลิตเนื้อวัว การทำฟาร์มตั๊กแตนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 99% ใช้น้ำน้อยกว่า 1,000 เท่า และใช้ที่ดินในการเลี้ยงน้อยลง 1,500 เท่า
    .
    ไม่เพียงแต่บริษัทของ Tamir เท่านั้นที่สนใจนำแมลงมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร บริษัท Ynsec ของฝรั่งเศสก็ผลิตผงโปรตีนที่ทำจากหนอนนก ซึ่งสัตว์ชนิดนี้ก็ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของธัญพืชอัดแท่ง และเบอร์เกอร์บางยี่ห้อมาแล้ว
    .
    Antoine Hubert ผู้บริหารสูงสุดของ Ynsec กล่าวว่าโปรตีนดังกล่าว “มาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง” และ “เป็นทางเลือกที่ผ่านกรรมวิธีต่างๆ น้อยกว่า” นอกจากนี้ การศึกษาล่าสุดจากมหาวิทยาลัยมาสทริชต์ยังแสดงให้เห็นว่าโปรตีนจากแมลงมีประโยชน์พอๆ กับโปรตีนจากนมอีกด้วย
    .
    .
    อ้างอิงจาก
    https://www.bbc.com/news/business-5...qlIzGCZodEJYzkr20x7VStkdDtmuKr6ynBE2oBMtY-iKQ

    https://www.theweek.co.uk/news/world-news/954216/edible-grasshopper-sweets-launched-in-israel

    #Brief #TheMATTER

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: มนุษย์อาจมาถึงอเมริกาเร็วกว่าที่เคยคาดไว้ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบฟอสซิลรอยเท้าในนิวเม็กซิโก ซึ่งมีอายุอย่างน้อย 23,000 ปี
    .
    ทวีปอเมริกาทั้งเหนือและใต้ เป็นทวีปสุดท้ายที่มีมนุษย์อพยพย้ายถิ่นเข้ามาอยู่อาศัย โดยนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า น่าจะอยู่ในช่วงปลายยุคน้ำแข็ง หรือ 13,000-16,000 ปีก่อน อย่างไรก็ดี เพิ่งมีการค้นพบฟอสซิลรอยเท้ามนุษย์อายุ 23,000 ปีบนแผ่นดินอเมริกา ซึ่งอาจท้าทายสมมติฐานแรกว่า มนุษย์อาจมาถึงอเมริกาเร็วกว่าที่เราคิด
    .
    ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบอร์นมัธ ค้นพบรอยเท้ากว่า 61 รอย บริเวณทูลาโรซาเบซิน ในอุทยานแห่งชาติไวท์แซนด์ส มลรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐฯ โดยหลังจากที่พวกเขาตรวจมันด้วยเทคนิคการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีพบว่า มันมีอายุอย่างน้อย 23,000 ถึง 26,000 ปี
    .
    รอยเท้าส่วนใหญ่เป็นรอยเท้าของเด็กและวัยรุ่น อายุ 9-14 ปี โดยฟอสซิลเหล่านี้เผยให้เห็นว่า มนุษย์อาจเดินทางมาถึงอเมริกาเร็วกว่าที่ทุกคนเคยคาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากแต่เดิม นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า มนุษย์จากเอเชียน่าจะอพยพมายังอเมริกา ผ่านทางเบรินเจีย ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินที่เคยเชื่อมสองทวีปเข้าด้วยกันเมื่อราว 13,000 ถึง 16,000 ปีก่อน ซึ่งตรงกับช่วงท้ายๆ ของยุคน้ำแข็ง
    .
    รอยเท้าทั้งหมดได้รับการยืนยันว่าเป็นของจริง อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตตร์ไม่พบเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆ ในบริเวณที่มีการค้นพบรอยเท้าเลย ทั้งนี้ ยังมีการค้นพบเครื่องมือหิน ที่ถูกทำขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ อายุราว 30,000 ปี บริเวณถ้ำชิคีวิท ในซาคาเทคัส แถบอเมริกากลาง อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า พวกเขาต้องทำการสืบค้นอีกมาก ในการทำความเข้าใจหลักฐานใหม่ๆ เหล่านี้
    .
    นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า มันน่าจะเป็นรอยเท้าในช่วงที่มนุษย์ยุคก่อน กำลังออกล่าสัตว์ อย่างเช่น แมมมอธ สลอธยักษ์ หมาป่าโลกันต์ ไปจนกระทั่งนกต่างๆ โดยจากการคาดการณ์ มนุษย์ในยุคโบราณต้องเดินกว่าวันละหมื่นก้าว เพื่อล่าสัตว์และได้พวกมันกลับมาเป็นอาหารของพวกเขา และด้วยรอยเท้าวันละหลายหมื่นรอย จึงมีบางรอยเท้าที่ยังคงหลงเหลือมาให้เราค้นพบได้ในปัจจุบัน
    .
    บริเวณที่ค้นพบฟอสซิลรอยเท้า แถบไวท์แซนด์ส ของนิวเม็กซิโกในตอนนี้ กลายเป็นพื้นที่ทะเลทรายไปหมดแล้ว แต่จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า แต่เดิมในบริเวณดังกล่าวนั้น เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำมาก่อน โดยรอยเท้าเหล่านี้น่าจะถูกฝังตัวลงในโคลน ก่อนที่มันจะถูกกาลเวลาหยุดสภาพมันเอาไว้ และกลายเป็นฟอสซิลที่เพิ่งถูกค้นพบในครั้งนี้
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://edition.cnn.com/2021/09/23/americas/footprints-humans-arrive-in-north-america-scn/index.html

    https://www.nytimes.com/2021/09/23/...NMdHZmcMwdMrh6y81gfiEzkJVVtyH9fj7Zq12kwuWWIc8

    https://www.nbcnews.com/science/sci...humans-north-america-21000-years-ago-rcna2169

    #Brief #TheMATTER

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: งานวิจัยพบ หญิงตั้งครรภ์ที่ฉีดวัคซีน mRNA สามารถส่งต่อภูมิคุ้มกัน COVID-19 ให้ลูกได้
    .
    ผู้หญิงท้องควรฉีดวัคซีนแบบไหนถึงจะดีกับลูกที่สุด? งานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ระบุว่า ผู้หญิงท้องที่ได้รับวัคซีน mRNA จะส่งต่อภูมิคุ้มกัน COVID-19 ในระดับสูงไปให้ลูกที่เกิดมาด้วย
    .
    ทีมวิจัยจากโรงเรียนแพทย์ NYU Grossman School of Medicine ในสหรัฐฯ ได้ตรวจระดับภูมิคุ้มกันของทารก 36 คนที่คลอดจากแม่ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาแล้ว และพบว่าเด็กทารกทั้งหมด 36 คน มีภูมิคุ้มกัน COVID-19 ติดตัวมาด้วย
    .
    พวกเขายังพบว่า การที่แม่ฉีดวัคซีน mRNA ครบโดสในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ ทำให้ทารกที่คลอดออกมามีระดับภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ซึ่งภูมิคุ้มกันเหล่านี้จะช่วยปกป้องเด็กแรกเกิดจาก COVID-19 ในช่วงแรกๆ ของการมีชีวิตได้
    .
    ดร.แอชลีย์ โรแมน (Ashley Roman) ผู้ร่วมศึกษา และผู้อำนวยการแผนกเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ของ NYU Langone กล่าวว่า การศึกษานี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนระหว่างตั้งครรภ์ เพราะวัคซีนไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องแม่เท่านั้น แต่ยังช่วงปกป้องลูกจากการเจ็บป่วยที่รุนแรงจากการติดเชื้อได้ด้วย”
    .
    “ถ้าทารกเกิดมาพร้อมกับภูมิคุ้นกัน COVID-19 มันจะช่วยปกป้องพวกเขาในช่วงเดือนแรกๆ ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเขาอ่อนแอมากที่สุด” โรมันกล่าว
    .
    ดร.เจนนิเฟอร์ ไลท์เตอร์ (Jennifer Lighter) ผู้ร่วมศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็กที่ NYU Langone บอกว่า แม้นี่จะเป็นการศึกษาในกลุ่มเล็กๆ แต่ก็น่าจะเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่กระตุ้นในผู้หญิงตั้งครรภ์ออกมาฉีดวัคซีนกันมากขึ้น
    .
    ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Obstetrics & Gynecology – Maternal Fetal Medicine ออกมายืนยันแล้วว่า วัคซีน mRNA ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นาไม่เพิ่มความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนในหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อทารกในครรภ์ด้วย
    .
    แต่อย่างที่กล่าวไป นี่ยังเป็นการศึกษาที่มีกลุ่มทดลองขนาดเล็ก ทีมวิจัยจึงวางแผนที่จะขยายกลุ่มการศึกษาให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมถึงการศึกษาเรื่องการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้เด็กแรกเกิด ขณะที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ เองก็กำลังทำโครงการศึกษา MOMI-VAX เพื่อตรวจว่าภูมิคุ้มกัน COVID-19 จะอยู่นานแค่ไหนในผู้ที่ได้รับวัคซีนระหว่างตั้งครรภ์ รวมถึงจะมีการประเมินการถ่ายโอนภูมิคุ้มกันของวัคซีนจากแม่สู่ลูกทั้งทางน้ำนมและทางรกด้วย
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://www.usnews.com/news/health-...get-covid-vaccine-pass-antibodies-to-newborns

    https://www.straitstimes.com/world/...o2I2SPO8gGo4OxgPpcXpxkKutESMUWWTI8jgtxOl84fIg

    #Brief #TheMATTER

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BUSINESS : จุดยืนของแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญ และสร้างกระแสโซเชียลได้ทรงพลัง สรุปรายงานสำรวจตลาด Gen Z จาก McCANN
    .
    “ครีเอทีฟ มีไหวพริบ กระตือรือร้น และพยายามสร้างอิมแพ็ก” คือคำนิยามที่รีเสิร์ช 'Truth About Gen Z' จาก McCANN World Group นิยามกลุ่มคนเจเนอเรชัน Z - กลุ่มคนที่มีพลังอยากเปลี่ยนแปลงโลก และมีความเฉพาะตัวจนถึงขนาดที่รีเสิร์ชบอกว่า คนเจเนอเรชันอื่นทำได้เพียงพยายามทำความเข้าใจพวกเขาเท่านั้น อย่าไปเปลี่ยนแปลงพวกเขาเลย
    .�
    แน่นอนว่าในอนาคตพวกเขาจะกลายเป็นกลุ่มคนที่มีพลังขับเคลื่อนสังคม และเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของตลาด รีเสิร์ชของ McCANN ชิ้นนี้สรุปความเป็น Gen Z ให้ได้ทำความเข้าใจ ว่าพวกเขามีความคิด และพฤติกรรมอย่างไรบ้าง และถ้าแบรนด์อยากจะจับคนกลุ่มนี้ ต้องทำอย่างไร
    �.
    [ พวกเขาคือ Culture Maker ]
    �.
    Gen Z คือกลุ่มที่มี และสร้างวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง พวกเขาสามารถสร้างกระแสบนโซเชียลมีเดียได้อย่างทรงพลัง และสร้างกลุ่มของตัวเอง (ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มของนักเขียนเพลงอินดี้ ที่มีกลุ่มคนฟังของตัวเอง และลอนช์ผ่าน TikTok โดยไม่ต้องพึ่งค่ายยักษ์)
    .�
    70% ของ Gen Z ทั่วโลกยอมรับว่า วิธีการค้นหาไอเดียครีเอทีฟที่ดีที่สุด คือการรวมกลุ่มกันของกลุ่มคนที่หลากหลายทั้งมุมมองและความคิด และ 59% ของ Gen Z มองว่าผู้คนควรมีเสรีในการแสดงออกไม่ว่าพวกเขาจะเลือกสิ่งไหนก็ตาม - พวกเขามีพื้นที่ให้ความแตกต่างเสมอ
    .�
    คัลเจอร์ของพวกเขาคือเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพราะมันเติบโตขึ้นทุกวันในฐานะค่านิยมร่วมและแนวคิดใหม่ แบรนด์ควรที่จะโอบรับความเป็น Gen Z ไม่ว่าจะในเรื่องของความเปิดกว้าง ความครีเอทีฟ ความเป็นตัวของตัวเอง และช่วยสร้างเครื่องมือให้พวกเขาได้สร้างวัฒนธรรมของพวกเขาให้เป็นจริง
    �.
    แน่นอนว่า Gen Z ไม่มองว่าความเป็นสถาบัน ธรรมเนียม ความเป็นแบรนด์ หรือความลักชัวรี คือสิ่งที่พอดีกับเป้าหมายที่พวกเขามองหาอีกต่อไป พวกเขาแฮปปี้มากกว่าที่จะสร้างทางเลือกของตัวเอง และแฮปปี้กับแบรนด์ที่สร้างสรรค์ สนุก และสร้างการมีส่วนร่วม
    .�
    สำหรับประเทศไทย แม้ว่าจะยอมรับความหลากหลายและชูประเด็นความหลากหลายในการแสดงความเห็น แต่ Gen Z ไทยยอมรับว่าไม่สบายใจเหมือนกันที่ต้องอยู่ร่วมกับคนเห็นต่าง โดย 58% มองว่าคนควรมีเสรีภาพในการแสดงออก

    โดย 83% ของ Gen Z ในประเทศไทยเชื่อว่า พวกเขามีส่วนในการสร้างสังคม และชุมชนที่ตัวเองอาศัยอยู่
    �.
    [ การเชื่อมโยงผู้คนผ่านสมาร์ทโฟน มีใจความสำคัญอย่างยิ่ง ]
    �.
    โดย 75% ของ Gen Z ในประเทศไทยบอกว่า สมาร์ทโฟนสำคัญกับพวกเขามากๆ ถ้าไม่มีมือถือ พวกเขาจะรู้สึกไม่สบายใจ ขณะที่ 54% ของ Gen Z ไทยมองว่าประโยชน์ของโซเชียลมีเดีย คือการที่พวกเขาได้แสดงความเห็นของตัวเอง และโซเชียลมีเดียยังเปลี่ยนวิถีการสื่อสารของ Gen Z ไทยไปอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม 72% ของ Gen Z ไทยพยายามลดการใช้งานมือถือเพราะรู้สึกกดดันที่ต้องอยู่ติดมือถือตลอดเวลา
    �.
    เพราะเป็นเจเนอเรชันที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี พวกเขาสื่อสารอย่างไร้ขีดจำกัด ทว่า 66% ของ Gen Z ทั่วโลกบอกว่า พวกเขาเชื่อมต่อกับผู้คนแต่ยังรู้สึกโดดเดี่ยว พวกเขาโดดเดี่ยวแม้จะอยู่ท่ามกลางเพื่อนและครอบครัว
    .�
    พวกเขาให้ความสำคัญและยอมรับกับเรื่อง ความวิตกกังวล (anxiety) และ ซึมเศร้า (depression) และพวกเขาเปิดกว้างกับวิธีการแก้ปัญหาทางจิตใจ ซึ่งเปิดโอกาสของแบรนด์ต่างๆ ในการช่วยซัพพอร์ตคนกลุ่มนี้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต (well-being) ของพวกเขา ผ่านสินค้าและบริการ
    .�
    [ จุดยืนของแบรนด์ คือเรื่องสำคัญที่ Gen Z ตัดสินใจจะซื้อ ]
    �.
    จะเห็นได้ว่า Gen Z นี่แหละที่สร้างกระแส สร้าง # ให้แบรนด์ต่างๆ ทั้งแง่บวกและลบบนโซเชียลมีเดีย เมื่อแบรนด์ทำดี พวกเขาชื่นชม เมื่อแบรนด์เงียบ พวกเขารวมตัวกันส่งเสียงเรียกร้องให้ออกมาสนับสนุนหรือแสดงจุดยืน
    �.
    สิ่งที่ Gen Z ไทยต้องการจากแบรนด์คือ 30% ความจริงใจ, 27% ความรับผิดชอบ, 25% ความคิดสร้างสรรค์, 22% ความเที่ยงธรรม
    .�
    โดย 73% ของ Gen Z ไทยบอกว่า พวกเขาเต็มใจจ่ายให้แบรนด์ที่ออกมาสนับสนุนในประเด็นที่พวกเขากำลังเคลื่อนไหวและให้ความสำคัญ ซึ่งนี้ถือเป็นโจทย์สำคัญก็ว่าได้ สำหรับหลายๆ แบรนด์ที่ยังอยู่ระหว่างความเป็น traditional และ online
    .�
    ขณะที่ 74% ของ Gen Z ทั่วโลก เชื่อว่า คนรุ่นพวกเขามีพลังในการเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติของแบรนด์ให้ดีขึ้น จากพลังการเคลื่อนไหวของพวกเขา

    พวกเขาจึงเป็นกลุ่มคนที่ต้องการความเท่ ความสร้างสรรค์ แต่ก็ต้องการปกป้องและขับเคลื่อนสิ่งที่ดีให้กับโลกใบนี้ พวกเขาพร้อมเสมอที่จะส่งเสียงบอกว่าแบรนด์ควรอะไร โดยมีเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญ
    �.
    *รีเสิร์ชฉบับนี้สำรวจ Gen Z 32,000 คน จาก 26 ตลาดทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
    �.
    อ้างอิง
    https://truthaboutgenz.mccannworldgroup.com/p/1
    https://brandinside.asia/gen-z-mccann/
    .
    Content by Narisara Suepaisal
    .
    #Brief #business #TheMATTER

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: ศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินให้เด็กชายวัย 12 ขวบชนะคดี หลังเขาอยากฉีดวัคซีนเอง โดยไม่ต้องให้พ่อตัดสินใจแทน
    .
    หลายคนกำลังถกเถียงว่า เด็กที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน ควรได้รับอนุญาตของผู้ปกครองเสียก่อนหรือไม่ แต่ถ้าเด็กคนนั้นอยากฉีดวัคซีนด้วยความคิดของตัวเองล่ะ? ทั้งนี้ ศาลเนเธอร์แลนด์เพิ่งตัดสินให้เด็กชายวัย 12 ขวบ สามารถฉีดวัคซีนได้ด้วยความต้องการของตัวเอง
    .
    ศาลในจังหวัดโกรนิงเงินของเนเธอแลนด์ ตัดสินให้เด็กชายวัย 12 ขวบ สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน COVID-19 ด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้ เพื่อที่จะทำให้เด็กชายสามารถเข้าพบผู้เป็นย่าของเขา ที่กำลังจะเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง แทนที่จะรอการตัดสินใจว่าเขาจะได้ฉีดวัคซีนหรือไม่จากผู้เป็นพ่อ
    .
    ศาลพิเคราะห์เห็นว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อ ซึ่งอาจทำให้ผู้เป็นย่าของเขา ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม ติดเชื้อและล้มป่วยลงหนักกว่าเดิมได้ อย่างไรก็ดี เนเธอร์แลนด์อนุญาตให้เด็กอายุ 12-17 ปี สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ แต่เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อนเท่านั้น
    .
    ผู้พิพากษายังมองอีกว่า เด็กชายควรได้รับการฉีดวัคซีนตามความต้องการของเขาเอง โดยศาลให้น้ำหนักความสมัครใจส่วนตัวของเด็ก มากกว่าความวิตกกังวลของผู้เป็นพ่อ เอกสารในชั้นศาลยังระบุอีกว่า เด็กชายต้องการใช้เวลากับย่าของเขาให้ได้มากที่สุด เนื่องจากย่าของเขากำลังป่วยด้วยมะเร็งปอด “ในระยะสุดท้ายของชีวิตเธอ”
    .
    ในทางตรงกันข้าม พ่อของเด็กชายพยายามโต้แย้งว่า วัคซีนยังคงอยู่ในระยะการทดสอบ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบสืบพันธุ์ของเด็กชายในอนาคต อย่างไรก็ดี ศาลไม่รับฟังคำโต้แย้งดังกล่าว เนื่องจากเป็นคำโต้แย้งที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเป็นความจริง นอกจากนี้ ผู้เป็นพ่อยังระบุกับศาลว่า เด็กที่ติดเชื้อ COVID-19 จะป่วยด้วยอาการไม่หนัก และโอกาสการติดเชื้อก็ต่ำด้วย แต่คำกล่าวอ้างก็ยังไม่สามารถมาหักล้างความต้องการของเด็กได้
    .
    ผู้เป็นแม่ของเด็กชาย ให้การสนับสนุนลูกชายสำหรับการฟ้องร้องคดีนี้ต่อศาล โดยพ่อและแม่ของเด็กชายได้หย่ากันแล้ว ในขณะที่เขาทั้งสองไม่สามารถตัดสินใจได้ ศาลจึงยึดการตัดสินใจและความสมัครใจของเด็กชาย ในการเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วยตนเองเป็นสำคัญ
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://www.bbc.com/news/world-europe-58669918

    https://www.washingtonpost.com/worl...112554-1c70-11ec-bea8-308ea134594f_story.html

    #Brief #TheMATTER

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    24.09.21

    สัตวแพทย์ ปฏิเสธผู้ที่ต้องการฆ่าสัตว์ที่มีสุขภาพดี เพียงเพราะพวกมันไม่เป็นที่ต้องการของเจ้าของอีกต่อไป

    1.สัตวแพทย์ Bernt Lande ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ Karmsund ที่ Karmøy, Rogaland กล่าวว่า โรงพยาบาลได้รับคำถามเช่นนี้บ่อยครั้งตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโคโรนา - แต่เราปฏิเสธ ผู้ที่ต้องการฆ่าสัตว์ที่มีสุขภาพดี

    2. Lande กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดเมื่อปี 2020 ชาวนอร์เวย์ ต้องการสัตว์เลี้ยงในบ้านมากขึ้น นอกเหนือจากแมวจะเป็นที่นิยมแล้ว สุนัข ก็ยังเป็นที่นิยมด้วย

    3.แต่เมื่อเวลาผ่านไป ลูกแมว-ลูกสุนัขตัวเล็กๆ เติบโตขึ้นเป็น แมว - สุนัข เต็มวัย ทำให้หลายคนไม่สามารถเลี้ยงพวกมันได้อีกต่อไป Lande สังเกตเห็นว่า มีคนเสียใจกับเรื่องนี้มากขึ้น และหลายคนพา แมว-สุนัข ที่โตแล้วและมีสุขภาพดีมาให้โรงพยาบาลสัตว์ฆ่า

    - Lunde กล่าวว่า ตัวเขาเองไม่สามารถทำได้ แมว และ สุนัขก็มีหัวใจ พวกมันมีสุขภาพดีไม่สมควรถูกฆ่า เขาได้ขอให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นติดต่อ Dyrebeskyttelsen หรือ หาทางอื่นเอาเอง

    4.นอกจากนี้ Lunde ยังรับเลี้ยง เพื่อนสี่ขาหลายตัว ที่เจ้าของนำมาให้ฆ่าทิ้งเอาไว้เองโดยพวกมันอาศัยอยู่ที่ โรงพยาบาลสัตว์ Karmsund นอกจากนั้น เขายังรับเลี้ยงแมวพันธุ์ Muskat ที่เจ้าของนำมันมาเพื่อให้ฆ่าทิ้งอีกด้วย

    5.สมาคมสัตวแพทย์แห่งนอร์เวย์ เชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่ต้องฆ่าสัตว์ที่มีสุขภาพดี ทั้งสำหรับ เจ้าของและสำหรับ สัตวแพทย์ แต่มันขึ้นอยู่กับ สัตวแพทย์แต่ละคนที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้

    - ตามกฎหมาย สัตว์เลี้ยงถูกกำหนดให้เป็นกรรมสิทธิของเจ้าของ และเจ้าของมีสิทธิ์กำจัดสัตว์เลี้ยงของตนเอง

    6.ทางด้าน Dyrebeskyttelsen Norge Haugaland ชื่นชมการกระทำของ Lunde แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะมีงานมากขึ้นเนื่องจากการปฏิเสธของ Lunde ก็ตาม

    เพิ่มเติม : มีรูปภาพหมอ Lande ที่ถ่ายคู่กับสัตว์ที่เขารับเลี้ยงเพิ่มเติมอยู่ในข่าวต้นฉบับ หน้าตาคุณหมอดูใจดีมากค่ะ❤️
    ...............

    ✨E-book 12 ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุดประจำปี 2020
    https://www.flipsnack.com/norwaynewsth/2020.html

    อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk

    #norway #รายงานข่าวประจำวัน #นอร์เวย์ #ข่าว #วัคซีน #โคโรนา #โควิด19 #Coronavirus #ไวรัส
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์

    ข่าวต้นฉบับ NRK :
    https://www.nrk.no/rogaland/flere-vil-avlive-friske-dyr-_-denne-dyrlegen-nekter-1.15641817

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัฐบาล #จีน ส่งนักบัญชี นักกฎหมาย เข้าตรวจสอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ #เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป พร้อมรับมือความวุ่นวายหากยักษ์อสังหาฯ ต้องล้มละลาย ข่าวลือแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ ส่งหุ้นดีดกลับ 32%
    #Evergrande หรือ เหิงต้า #恒大 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่เบอร์ 2 ของจีนที่กำลังประสบปัญหาหนี้ท่วมอาจต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ เว็บไซต์ asiamarkets อ้างว่า รัฐบาลจีนอาจแยกกิจการของเอเวอร์แกรนด์ออกเป็น 3 ส่วน และเข้าถือหุ้นใหญ่เพื่อลดความผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และประชาชนผู้ซื้อโครงการและตราสารหนี้บริษัท รวมทั้งคู่ค้าทางธุรกิจจำนวนมาก
    .
    ข่าวดังกล่าวทำให้เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) ราคาหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ ไชน่า ที่ร่วงหนักต่อเนื่อง ดีดตัวกลับขึ้นมาสูงที่สุด 32% ในช่วงเวลาหนึ่ง สูงสุดในรอบ 12 ปี ส่วนหุ้นของบริษัทรถยนต์เอเวอร์แกรนด์ ก็เพิ่มขึ้นราว 21% และหุ้นของ Evergrande Property เพิ่มขึ้นราว 18%

    แต่หลังจากนั้น นักลงทุนต่างฉวยจังหวะเทขายหุ้นออกมา จนหุ้นในเครือทั้งหมดปรับฐานลงมา และในวันนี้ก็ยังลดลงต่อเนื่อง แต่ก็ยังอยู่เหนือราคาต่ำสุดในช่วงที่บริษัทเผชิญข่าวร้าย
    .
    ด้านหนังสือพิมพ์ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ไม่สามารถพูดได้ว่ารัฐบาลจีน “อุ้ม” บริษัทเอกชนแห่งนี้ โดยเอเวอร์แกรนด์อาจต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟู ก่อนที่รัฐบาลจีนจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทที่แยกกิจการออกมาแล้ว
    .
    ในรายงานข่าวยังอ้างอิงคำสั่งของรัฐบาลจีนที่ให้ทางการท้องถิ่นต่าง ๆ เตรียมความพร้อมรับมือเหตุวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของประชาชนและผู้ลงทุน รวมทั้งคนงานก่อสร้างและพนักงานของทางบริษัทที่มีอยู่ทั่วประเทศจีนกว่า 200 เมือง ที่อาจต้องตกงานครั้งใหญ่
    .
    ในคำสั่งระบุว่า หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถสะสางปัญหาของตัวเองได้ รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ จึงจะเข้ามาควบคุมในขั้นสุดท้าย
    .
    แหล่งข่าวระบุว่า ทางการจีนได้ระดมนักบัญชีและนักกฎหมายเข้าตรวจสอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเอเวอร์แกรนด์ในท้องถิ่นต่างๆ และเจรจากับคู่ค้าและผู้เกี่ยวข้องหากรัฐต้องเข้าควบกิจการของเอเวอร์แกรนด์ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญนี้จะหามาตรการรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจ ขณะที่ทางการท้องถิ่นต่าง ๆ จะดูแลความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุอารมณ์ของประชาชน.

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1632478159195.jpg

    (Sep 24) ดูชัดๆเงื่อนไข ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ แจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ! พาส่องดูงื่อนไขมาตรการช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ แจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เพื่อให้เข้าใจเงื่อนไข รายละเอียดต่างๆ ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการรัฐจริงในเร็วๆนี้ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

    สานต่อช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ แจกเงิน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

    ช่วงที่เงินในกระเป๋าผู้คนแห้งกรอบจากผลกระทบโควิด-19 รัฐบาลก็พยายามช่วยเหลือเรื่องการลดค่าครองชีพให้ประชาชนผ่านมาตรการการช่วยเหลือต่างๆมากมาย บางโครงการก็มีการต่ออายุไปถึงปี2565 บางโครงการมีการปัดฝุ่น แก้ไขเงื่อนไขใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับความเป็นไปได้ หนึ่งในนั้น คือการช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ แจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

    โดยเมื่อเร็วๆ นี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ไฟเขียวมาตรการช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ แจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เพื่อต่อลมหายใจประชาชนในวันที่ลำบากมาก ๆ จากผลกระทบโควิด-19 วันนี้ #สปริงนิวส์ ได้รวบรวมควันหลงมาตรการช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ แจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ แบบเข้าใจง่ายๆมาฝาก เผื่อใครจะได้ดูไว้เป็นข้อมูลว่าว่าต้องเข้าเกณฑ์แบบไหน รัฐถึงจะช่วยเหลือ ตามรายละเอียดดังนี้

    -ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ ตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 – ก.ย. 2565

    -ใช้ไฟไม่เกิน 50 หน่วย ติดกัน 3 เดือน ให้ใช้ไฟฟรี

    -ใช้ไฟเกิน 50 หน่วย ให้ใช้สิทธิวงเงิน 315 บาท /ครัวเรือน/ เดือน

    -หากใช้เกินที่กำหนด ต้องจ่ายเองทั้งหมด

    -ช่วยค่าน้ำ วงเงิน 100 บาท /ครัวเรือน/ เดือน

    -หากใช้น้ำไม่เกิน 315 บาท รัฐจ่ายให้ 100 บาท ที่เหลือจ่ายเอง

    -หากใช้น้ำเกิน 315 บาท ต้องจ่ายเองทั้งหมด

    -ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน รายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี ได้รับเงิน 200 บาท /คน/เดือน

    -รายได้ไม่ถึง 3หมื่นบาท /ปี ได้รับเงิน 300 บาท /คน/เดือน

    -ช่วยค่าเดินทาง ขสมก. บขส. รถไฟฟ้า รถไฟ ระบบ e –Ticket อย่างละ 500 บาท /คน/เดือน

    -ให้เบี้ยคนพิการ 1,000 บาท /คน/เดือน

    Source: Springnews
    https://www.springnews.co.th/news/816154
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    (Sep 24) ภาษี e-Service ผลต่อผู้ใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศ : การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศ (VAT for Electronic Service: VES) เป็นหนึ่งในรูปแบบการจัดเก็บภาษีในโลกของเศรษฐกิจดิจิทัล (Taxation of the Digital Economy) โดยที่ผ่านมา หลายประเทศได้มีการออกกฎหมายการจัดเก็บภาษีจากผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มจากต่างประเทศในหลากหลายรูปแบบและครอบคลุมแต่ละธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างกัน

    ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีนี้ตามหลักการเพื่อสร้างความเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ และช่วยให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ด้วยความจำเป็นที่ต้องพึ่งพาดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการทั้งผู้ประกอบการธุรกิจและผู้บริโภคในที่สุดแล้วคงได้รับผลกระทบจากการส่งผ่านต้นทุนและราคา ซึ่งจะแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมในแต่ละธุรกิจ

    ภาษี e-Service จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่ให้บริการในไทย มีผลบังคับใช้วันที่ 1 กันยายน 2564
    เมื่อประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่โลกของเศรษฐกิจยุคดิจิทัล จากเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งในภาคธุรกิจและแม้กระทั่งกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย การทำสัญญาทางธุรกิจ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งในและระหว่างประเทศเกิดขึ้นมากมาย และมีแนวโน้มที่จะเข้ามาทดแทนการทำธุรกรรมในวิถีเดิมๆ ทำให้ทางการต้องหาวิธีการประเมินภาษีและออกแบบนโยบายภาษีที่เหมาะสม สำหรับประเทศไทยเลือกใช้รูปแบบภาษีผู้บริโภค (Consumer Taxes) ซึ่งเป็นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

    โดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ.2564 (การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-Service)) ได้มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา กฎหมายดังกล่าว เป็นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการในประเทศไทยที่เดิมไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม มีรายได้ปีละ 1.8 ล้านบาทขึ้นไป ในอัตราภาษี VAT ของไทยอยู่ที่ 7% ของราคาค่าบริการ และจากการประเมินของทางการคาดว่า การจัดเก็บภาษีนี้จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2565

    โดยครอบคลุมในกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ 1. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มประเภทสมัครสมาชิก เช่น บริการสตรีมมิ่งด้านบันเทิง (Streaming Media Service) เช่น หนัง เพลง หรือคลิปวิดีโอ เป็นต้น 2. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มประเภทโฆษณาออนไลน์ 3. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งไม่มีแอปพลิเคชั่นเป็นของตนเอง และแบบ P2P เช่น ให้บริการจัดส่งอาหาร เกมส์ออนไลน์ แอปพลิคชั่นต่างๆ 4. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเป็นการเก็บ VAT จากรายได้จากการให้ใช้แพลตฟอร์มในการขาย และ 5. แพลตฟอร์มให้บริการรูปแบบเอเยนต์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มจากต่างประเทศนี้ ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มยื่นแบบแสดงรายการและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือน ภายใต้ระบบ Pay-Only (ห้ามหักภาษีซื้อ) โดยไม่ต้องจัดทำใบกำกับภาษีและรายงานภาษี

    ในช่วง 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2567 การใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มจากต่างประเทศของผู้บริโภคในไทยคาดอาจจะมีมูลค่าขยับขึ้นสู่ 1 แสนล้านบาท
    ปัจจุบัน การใช้บริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ จะมีค่าใช้จ่ายด้านบริการเกิดขึ้นทั้งในรูปแบบค่าบริการที่เป็นแบบสมัครสมาชิก ค่าธรรมเนียมบริการ ค่าโฆษณาบนแพลตฟอร์ม ค่าการตลาด ค่าบริการจากค่าขายสินค้าและบริการ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ที่เกิดขึ้นผู้ใช้บริการในประเทศต้องชำระให้กับผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงก่อนการระบาดโควิด-19 มูลค่าที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศในกลุ่มกิจกรรมที่ทางการจะมีจัดเก็บภาษี เบื้องต้นน่าจะอยู่ที่ประมาณกว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนนี้ที่เกิดขึ้นทางผู้ให้บริการต่างชาติจะต้องประเมินเพื่อนำส่งภาษีให้กับทางการไทย

    การใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ภาคธุรกิจต่างๆ ต่างจำเป็นต้องปรับตัวเข้าหาช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม ในการเป็นช่องทางการขายและประชาสัมพันธ์สินค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการระบาดของโควิด-19 ธุรกิจต้องพึ่งพาดิจิทัลแพตฟอร์มค่อนข้างมาก กอปรกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่คุ้นชินกับเทคโนโลยีและการใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของประชาชนบางกลุ่มแล้ว อย่างการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ การซื้อสินค้าและบริการต่างๆ มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก

    และเมื่อสถานการณ์การระบาดของโควิดดีขึ้น และกิจกรรมเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้ปกติมากขึ้น การใช้บริการเพื่อการท่องเที่ยวก็คาดว่าจะกลับมาเป็นตัวผลักดันมูลค่าการใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศหลังจากที่เบาบางไปในช่วงโควิด ในขณะที่กิจกรรมอื่นๆ น่าจะยังคงเติบโตต่อแต่ในอัตราที่ชะลอลง ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 2567 การใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศในกลุ่มกิจกรรมดังกล่าวคาดว่าอาจจะมีมูลค่าขยับเข้าสู่ 1 แสนล้านบาท หรืออัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) อยู่ที่ประมาณ 10-15% ต่อปี

    ความซับซ้อนในบริบทธุรกิจ ทำให้การส่งผ่านภาระภาษีของผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศมายังผู้ใช้บริการอาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ
    การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศ มีเจตนาเพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการของไทยและผู้ประกอบการต่างชาติ แต่ในอีกมุมมองหนึ่งการจัดเก็บภาษีก็จะส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่ของธุรกิจในมิติต่างกัน โดยแม้ดูเหมือนว่า ผลที่เกิดขึ้น น่าจะกระทบต่อผู้ใช้บริการมากกว่าผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศ เนื่องจากผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ระดับ Global Company และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเหล่านี้จะครองส่วนแบ่งการตลาดที่สูง ทำให้อำนาจต่อรองสูง ขณะเดียวกันผู้ให้บริการบางรายยังเผชิญกับความท้าทายในการสร้างผลกำไร อีกทั้งธุรกิจการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่สูง ทำให้ผู้ให้บริการต้องลงทุนและพัฒนารายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ การแบกรับต้นทุนจึงเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มอาจจะมีการส่งผ่านต้นทุนมายังผู้ใช้บริการ

    อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ประเด็นการส่งผ่านต้นทุนภาษีมาให้ผู้ใช้บริการ เป็นเรื่องที่มีซับซ้อนกว่านั้น โดยเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศอาจจะพิจารณา แต่โดยรวมแล้วก็คงจะไม่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ เพราะการจัดเก็บภาษีนี้เป็นการขยายขอบเขตให้ครอบคลุมมายังผู้เล่นในระบบที่แต่เดิมไม่อยู่ในกลไกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากที่มีผู้เล่นรายอื่นในธุรกิจที่อยู่ในระบบอยู่ก่อนแล้ว ขณะเดียวกัน ทิศทางและสภาวะแวดล้อมการดำเนินธุรกิจก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างประเทศแต่ละรายในธุรกิจต่างๆ คงจำเป็นต้องประเมินทุกปัจจัยเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น บทบาทหรืออำนาจต่อรองของตนในตลาดเป็นอย่างไร อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์ของตนมากน้อยแค่ไหน การแข่งขันและราคามีผลต่อแนวโน้มของฐานลูกค้าของตนเพียงใด ตลอดจนยุทธศาสตร์ของธุรกิจที่วางแผนไว้ในช่วงข้างหน้าเป็นอย่างไร เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศจำเป็นต้องประเมินก่อนที่จะตัดสินใจ มิฉะนั้นอาจจะสูญเสียความสามารถในการทำกำไรและความสามารถในการแข่งขันไปให้กับผู้เล่นอื่นๆ ได้ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อในอนาคต การพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจมีผลให้แนวโน้มการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนโฉมไปได้อีกมากจากปัจจุบัน

    กระนั้น หากพิจารณาขอบข่ายประเภทธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ภายใต้บริบทตลาดและเทคโนโลยีในปัจจุบัน อาจพอประเมินเบื้องต้นได้ว่า ในที่สุดแล้ว ผู้ใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจและผู้บริโภค อาจจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านรูปแบบต่างๆ ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

    o กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มเพื่อเป็นช่องทางการขายสินค้าหรือบริการ และประชาสัมพันธ์สินค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งปกติผู้ใช้บริการจะชำระค่าใช้จ่ายในรูปแบบค่าธรรมเนียม หรือค่าการตลาด ทั้งนี้ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มอาจจะผลักภาระบางส่วนมายังผู้ใช้บริการผ่านค่าธรรมเนียมที่ปรับขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่มีมาร์จิ้นต่ำ และอยู่ในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การปรับราคาทำได้อย่างจำกัด น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก หากเกิดการส่งผ่านต้นทุนทางภาษีมายังผู้ใช้บริการ อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซ และกลุ่มบันเทิง เป็นต้น

    o กลุ่มพัฒนาคอนเทนท์อาจจะได้รับผลกระทบในส่วนของรายได้ที่ลดลง สำหรับกลุ่มนี้จะเป็นผู้พัฒนาคอนเทนท์อย่างวิดีโอ เพลงหรือหนัง และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่นำไปวางจำหน่าย หรือให้บริการฟรีบนแพลตฟอร์มจะได้รับรายได้ในส่วนของโฆษณา หรือยอดจำนวนผู้ชมตามที่แต่ละแพลตฟอร์มกำหนด ซึ่งก็อาจจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎเกณฑ์การคิดรายได้ตอบแทน หรืออาจจะมีการหักภาษีเกิดขึ้นในอนาคต

    Source: การเงินธนาคารออนไลน์
    https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/kreseach-e-service-09092021
     

แชร์หน้านี้

Loading...