ไม่มีอะไร ที่ไม่เป็นเรื่องธรรมดา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 12 กันยายน 2020.

  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    #ความหวัง
    ชีวิตของคนเรานั้น
    ถ้าไม่ตั้งความหวังไว้มากเกินไป
    ความผิดหวังก็จะมีไม่มากนัก
    ถ้าตั้งความหวังไว้สูงมาก
    เมื่อผิดหวังก็จะเจ็บมาก (เหมือนตกจากที่สูง)
    โดยเฉพาะความหวังที่เราคาดว่า
    จะได้จากคนอื่น อาจทำให้เราผิดหวังได้เสมอ
    เช่น จากลูก สามี ภรรยา เพื่อนฝูง ลูกน้อง นายงาน เป็นต้น
    สำหรับความหวังที่เรามีต่อผู้อื่นนั้น
    ขอให้นึกในใจเสมอว่า
    จะหาใครเหมาะใจที่ไหนเล่า
    ตัวเราเองยังไม่เหมาะใจเราหนา
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    รู้ล่วงหน้าเสียก่อนไม่ร้อนใจ
    (อุทานธรรมของพระศาสนโสภณ – แจ่ม จตฺตสลฺโล)
    แต่มนุษย์เราก็อดหวังไม่ได้
    ความหวังสัมพันธ์อยู่กับชีวิต
    เหมือนดอกไม้ติดอยู่กับก้าน
    อย่างไรก็ตาม ความหวังนั่นเอง
    ทำให้เราล้มเหลวบ้าง รุ่งโรจน์บ้าง
    เราไม่เคยล้มเหลวในสิ่งที่เราไม่หวังหรือไม่ปรารถนา
    ทำนองเดียวกับเราไม่ค่อยน้อยใจกับคนที่เราไม่ได้รัก

    #คติชีวิต- เพื่อสิ่งที่เติบโตและเข้มแข็ง
    #เพจอาจารย์วศิน อินทสระ
    #ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ
    ภาพ : วัดโคกกฐิน" จ.นครศรีธรรมราช
    Unseen Tour Thailand
    qiKup5js4UHRwH68pVd3bHg7rK8B9GnpkyWXPxsdK43&_nc_ohc=7xRIrrwecLAAX80SKVj&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
     
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ๑๖ ส.ค. ๒๕๒๐

    อยู่อย่างสงบในยามทุกข์
    ใช้ชีวิตให้มีประโยชน์มากขึ้นในยามสุข
    นั่นคือวิถีของคนดี
    การมองคนในแง่ดีเป็นความดีอย่างหนึ่ง
    เป็นการให้เกียรติเขาและฝึกฝนตนเอง
    ให้เป็นคนใจกว้างไม่เห็นแก่ตัว
    เพราะธรรมดาคนส่วนมาก
    มักมองตนเองในแง่ดี
    และมองคนอื่นในแง่ร้าย
    ถ้าเราลองมองในแง่ที่ตรงกันข้าม
    กับที่คนส่วนมากเป็นกันอยู่
    ก็จะประเสริฐกว่า
    นั่นคือ คอยจับผิดตนเอง
    แต่มองคนอื่นในแง่ดี
    เท่าที่จะพอให้มองเห็นได้
    ทั้งนี้เพื่อความสบายใจของเราเองด้วย
    ...
    #อนุทินทรรศนะชีวิต
    #ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ
    #เพจอาจารย์วศิน อินทสระ


    -1O4PRZbn556yB_1SUi-Vpzu0I7bsL5_VwGcW85oTHE&_nc_ohc=e4vmeepnbQcAX9v93yZ&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    เมื่อเราไม่ต้องการอะไร
    สิ่งที่ได้มา
    แม้เล็กน้อย ก็เหมือนมาก
    แต่เมื่อเราต้องการมาก
    สิ่งที่ได้มา แม้จะมากเหลือเกิน
    ก็ปรากฏแก่เราว่า
    น้อยไปเสียหมดทุกอย่าง
    เรายิ่งมักน้อยเท่าใด
    ความสงบสุขทางใจ
    จะยิ่งเพิ่มพูนมากเท่านั้น
    อ. วศิน อินทสระ
    0n86yWlQ9rc0_ce_1sqTkeqSnMugro_W1SZqaZVmczy&_nc_ohc=nYMoPUQcRt0AX8wAXHk&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    #อาสวะตั้งอยู่ไม่ได้
    พระพุทธภาษิต
    สทา ชาครมานานํ อโหรตฺตานุสิกฺขินํ
    นิพฺพานํ อธิมุตฺตานํ อตฺถํ คจฺฉนฺติ อาสวา ฯ
    คำแปล
    อาสวะทั้งหลาย
    ของท่านผู้ตื่นอยู่ทุกเมื่อ
    ผู้ศึกษาทั้งกลางวันและกลางคืน
    ผู้น้อมไปในพระนิพพาน
    ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้
    ================
    #วรรค๑๗ ##ว่าด้วยความโกรธ (โกรธวรรค)
    #พระพุทธภาษิต (จากคัมภีร์ธรรมบท)
    #เพจอาจารย์วศิน อินทสระ


    GSkQYlzq0SQx584PFGxIQAohhjn4lV6GmO&_nc_ohc=ws0G_sLejrYAX8Lv64r&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg
     
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    คนที่ต้องเป็นมิจฉาทิฏฐิไปก็เพราะอาศัยเหตุ ๒ อย่าง คือ
    ได้ยินได้ฟังจากคนอื่น (ปรโตโฆสะ)
    และไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้รอบคอบ (อโยนิโสมนสิการ)
    จึงเชื่อตามเห็นตามแล้วดิ่งลงไปในปลักของความเห็นผิด
    จึงพูดผิด ดำเนินชีวิตและพยายามไปในทางที่ผิด
    ส่วนคนที่เป็นสัมมาทิฏฐิก็เพราะ
    ได้ยินได้ฟังจากผู้อื่นในทางที่ถูกต้อง
    และใช้ปัญญาพิจารณาโดยรอบคอบ (โยนิโสมนสิการ)
    จึงเชื่อตาม เห็นตาม ดิ่งลงไปในความเห็นถูก
    คิดถูก พูดถูก ทำถูก พยายามในทางที่ถูก
    เลี้ยงชีพในทางที่ถูกที่ดี ดำเนินชีวิตถูก
    ดังนั้นการให้คำสอนที่ผิด
    จึงเหมือนการโปรยยาพิษลงในจิตใจคน
    ยาพิษจริงเสียอีกกินทีเดียวแล้วตายหนเดียว
    ก็เป็นอันพ้นภัยจากยาพิษนั้น
    แต่ยาพิษคือความเห็นผิด หลงในลัทธิที่ผิดนั้น
    เสพแล้วทำให้ก่อกรรมทำเข็ญทั้งแต่ตน
    และผู้อื่นไปตลอดชีวิต
    ยังเป็นปัจจัยให้เสพความเห็นผิดอันนั้น
    ติดตัวไปในชาติหน้า ชาติต่อๆ ไปอีก
    ต้องระกำลำบากหมกไหม้ในอบาย
    ทุคติวินิบาตไม่รู้กี่พันกี่หมื่นกี่แสนชาติ
    ส่วนการให้คำสอนอันถูกต้องแก่บุคคลนั้น
    เหมือนการให้ประทีปประจำตนแก่เขา
    ไว้เป็นแสงสว่างส่องทางดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูก
    นำชีวิตไปสู่ความสุขความเจริญ
    เมื่อยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสงสารวัฏ
    ก็เป็นผู้ไม่ตกต่ำ ย่อมได้คติดี เป็นสุคติ
    เมื่อบารมีแก่กล้าแล้วย่อมปลดเปลื้องกิเลสได้โดยสิ้นเชิง
    บรรลุความเย็นสนิทที่เรียกว่านิพพาน
    ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอันเป็นความทุกข์อีกต่อไป
    ด้วยเหตุนี้แหละพระพุทธองค์จึงตรัสว่า
    ธรรมทานย่อมชนะทานทั้งปวง
    รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวง
    ความสิ้นตัณหาชนะทุกข์ทั้งปวง

    #บนเส้นทางสีขาว
    #ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ
    #เพจอาจารย์วศิน อินทสระ
     
  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    มีเรื่องเป็นอันมากในตำราทางพุทธศาสนา
    ที่กล่าวถึงผู้ที่เคยทำบาปกรรมมามาก
    ตอนหลังกลับใจมาทำความดีและยึดมั่นอยู่กับความดี
    แม้ชั่วระยะเวลาไม่นานนัก ก็ทำให้ไปสุคติได้
    ถ้าได้คุณธรรมขั้นสูง
    เป็นอริยบุคคลตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปด้วยแล้ว
    ก็เป็นการปิดกั้นอบายภูมิได้หมด
    ไม่ว่าเขาจะทำกรรมชั่วมาอย่างไร
    นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    เป็นอันล้างบัญชีไปเลย ไม่ต้องพูดถึง
    ได้บรรลุเป็นโสดาบันแล้ว
    ที่เคยทำความชั่วมาเท่าไหร่ๆ
    เรื่องที่จะไปอบายภูมิไปนรก เปรต อสุรกาย
    สัตว์เดรัจฉาน ไม่มีทางจะอีกแล้ว
    จตูหปาเยหิ จวิปปมุตโต ท่านเป็นผู้พ้นแล้วจากอบาย ๔
    พระโสดาบันบางจำพวกที่มีปัญญาแก่กล้า
    เกิดอีกชาติเดียวเรียกว่า เอกพีชี
    ที่มีปัญญาน้อยลงมา เกิดอีก ๒ – ๓ ชาติ เรียกว่า โกลังโกละ
    แปลว่าจากตระกูลสู่ตระกูล
    แล้วที่มีปัญญาน้อยที่สุดเกิดอีกอย่างมาก ๗ ชาติ
    เรียกว่า สัตตักขัตตุปรมะ
    อย่างมากเพียง ๗ ชาติ ไม่ถือเอาภพที่ ๘ คือไม่เกิดในชาติที่ ๘
    ถ้าใครได้เป็นโสดาบันแล้วสบายไป ๗ ชาติ
    เป็นอย่างน้อยก่อนที่จะนิพพานโดยสิ้นเชิง
    คือไม่เกิดอีก สบายไป ๗ ชาติ
    ตลอดเวลาที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ ๗ ชาติ ก็สบายตลอด
    เป็นสุคติตลอด คิดดูแล้วก็น่าเป็น เรียกว่าเป็นนิยตคตีโก
    เป็นผู้มีคติที่แน่นอน
    แต่ปุถุชนที่ทำดีเท่าไหร่ๆ ทำบุญเท่าไหร่ๆ
    ทำกุศลเท่าไหร่ก็ตาม ถ้ายังไม่บรรลุโสดาปัตติผล
    คติยังไม่แน่นอน บางชาติอาจไปเป็นกษัตริย์
    บางชาติอาจไปตกนรก บางชาติอาจไปตกอบายภูมิบ้าง
    บางชาติไปเป็นเทวดา มันก็สลับกันไป
    พระพุทธเจ้าจึงตรัสกับลูกชายอนาถบิณฑิกเศรษฐี
    ที่พ่อจ้างให้ไปฟังธรรม จ้างไปจ้างมา
    ในที่สุดก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล
    พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    “การได้เป็นโสดาบันนั้นประเสริฐกว่า
    ความเป็นเอกราชในแผ่นดิน
    ประเสริฐกว่าการไปสวรรค์
    ประเสริฐกว่าความเป็นจักรพรรดิ”
    เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่แน่นอน
    =================
    #วิธีสร้างความดีและความมีเงื่อนไขของกรรม
    #เพจอาจารย์วศิน อินทสระ
    #ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ
    tw4qxdfOItJwkkNWwpK1aWX0LLWc6Wo02&_nc_ohc=oOqyKX4oxIQAX_TGoYt&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg
     
  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ผู้ไม่หวังดีต่อเราย่อมปรารถนาสิ่งต่อไปนี้ต่อเราคือ
    ๑. ขอให้มีผิวพรรณเศร้าหมอง
    อย่าให้มีผิวพรรณดี
    ๒. ขอให้อยู่เป็นทุกข์ อย่าให้อยู่เป็นสุขเลย
    ๓. ขออย่าให้มีความเจริญรุ่งเรืองเลย
    ขอให้มีแต่ความเสื่อม
    ๔. ขออย่าให้มีโภคทรัพย์เลย
    ๕. ขออย่ามียศเลย
    ๖. ขออย่ามีเพื่อนเลย
    ๗. เมื่อสิ้นชีพแล้ว
    ขอให้ไปสู่ทุคติ อย่าได้ไปดี

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    ความปรารถนาของผู้เป็นศัตรู
    ผู้ไม่หวังดีเหล่านี้
    อันผู้มักโกรธได้ทำแล้วแก่ตนเอง
    เท่ากับทำตนให้เป็นศัตรูของตน
    เป็นศัตรูที่เกิดขึ้นภายในตนแล้ว ทำลายตนเอง

    อ.วศิน อินทสระ
    เพจอาจารย์วศิน อินทสระ


    ?temp_hash=ce79b8305449e84edfa457c50c45ce29.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    #ใจสำคัญที่สุด
    ใจของมนุษย์เป็นสิ่งประเสริฐที่สุด
    มีค่าที่สุดเท่าที่มนุษย์มีอยู่
    เพราะเป็นสิ่งชี้โชคชะตาของมนุษย์
    บุคคลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ใจของเขาเป็น
    คนที่โชคดีที่สุด
    คือคนที่สามารถทำใจให้เป็นสุขได้ทุกวัน
    และความสงบอันแท้จริงแห่งจิตใจนั้น
    มาจากการยอมรับสิ่งอันร้ายแรงที่สุด
    ซึ่งเกิดในชีวิตของเรา
    โปรดจำไว้ว่า
    ถ้าใจร้าย ความร้ายก็ตามมา
    ถ้าใจดี ความดีก็ตามมา
    ===============
    #ทางชีวิตเพื่อชีวิตที่สงบสุขและร่มเย็น
    #เพจอาจารย์วศิน อินทสระ
    #ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ
    wMUZ6baKK6eT672XxHxE2lzZLH0YLoNCwn&_nc_ohc=XrH5IyeFq0cAX8X83A3&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-5.jpg
     
  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    พระเจ้ามิลินท์เป็นปราชญ์ผู้ทรงความรู้
    ในการตอบของพระนาคเสนเถระแต่ละครั้ง
    พระเจ้ามิลินท์ ท่านก็พอจะเข้าใจคำตอบดีอยู่
    แต่ด้วยรักในรสพระธรรม ท่านก็ขอให้พระนาคเสน
    อุปมาอุปไมย เปรียบเทียบให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
    เพราะประสงค์ฟังธรรมที่ไพเราะ แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
    ก็นับเป็นบุญวาสนาของเราชาวพุทธรุ่นหลัง 1f64f.png
    จึงได้รับอรรถรสแห่งธรรมที่ซาบซึ้ง งดงาม
    แม้ว่า เราจะฟังแล้วฟังอีก สองสามอุปมาแล้ว
    ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจชัดเจนอยู่ดี สาธุ
    #ธรรมที่เป็นเอกภาพแล้วย่อมแยกไม่ได้
    จากข้อถามของพระเจ้ามิลินท์ที่ว่า
    ธรรมทั้งหลายที่เป็นเอกภาพแล้ว
    คือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว (Unity)
    จะแยกบัญญัติให้ต่างกันได้หรือไม่ว่า
    นี่คือผัสสะ นี่คือเวทนา สัญญา
    เจตนา วิญญาณ วิตก วิจาร
    ..
    พระนาคเสนตอบว่า ไม่ได้
    เหมือนเครื่องแกงที่ผสมกันหมดแล้ว
    รสของมันปรากฏตามลักษณะของมัน
    แต่จะแยกออกมาไม่ได้
    .....
    คำเปรียบเทียบของพระนาคเสนเรื่องนี้
    เหมาะสมมาก
    คือเมื่อเครื่องแกงผสมกับน้ำแกงแล้ว
    เมื่อเราตักออกมาช้อนหนึ่งชิมดู
    ย่อมมีเครื่องแกงทุกอย่างผสมอยู่
    จะแยกออกหาได้ไม่
    แต่เราพอบอกได้ว่า
    ความเผ็ดเป็นรสของพริก
    ความเค็มเป็นรสของเกลือ
    ความเปรี้ยวเป็นรสของน้ำส้มหรือมะนาว
    และความหวานเป็นรสของน้ำตาล เป็นต้น
    ........
    น้ำถ้วยหนึ่งที่ผสมด้วยเกลือ
    น้ำตาล มะนาว เป็นต้น
    ก็ทำนองเดียวกัน
    เมื่อเราดื่มก็ดื่มเข้าไปพร้อมๆ กัน
    แยกดื่มไม่ได้ ฉันใด
    ธรรมที่เป็นเอกภาพแล้ว ก็ฉันนั้น
    ธรรมมีผัสสะเป็นต้นนั้นเป็นเจตสิก
    ย่อมเกิดกับจิต วิญญาณเป็นจิต
    เจตสิกย่อมเกิดและดับ
    พร้อมกับจิตอยู่เสมอ
    ..
    อีกอย่างหนึ่ง
    ท่านพระนาคเสนนำเอาเกลือ
    และน้ำหนักของเกลือมาเปรียบเทียบ
    คือเราไม่อาจแยกเกลือ
    ออกจากน้ำหนักของเกลือได้
    มีเกลืออยู่ที่ใด
    ย่อมมีน้ำหนักของเกลืออยู่ที่นั้น
    ..
    แต่บุคคลไม่อาจชั่งเกลือได้
    ชั่งได้แต่น้ำหนักของเกลือ
    ข้อนี้น่าคิดอยู่
    ...
    ขอให้พิจารณาต่อไปดังนี้
    ที่ว่าไม่อาจชั่งเกลือ ได้นั้น
    น่าจะหมายถึงคุณสมบัติ
    คือความเค็ม
    ความเค็มเป็นคุณสมบัติของเกลือ
    สิ่งอื่น ๆ ที่มีรสเค็ม
    ก็เพราะมีคุณสมบัติของเกลืออยู่
    ทำนองเดียวกับความหวาน
    ที่เป็นคุณสมบัติของน้ำตาล
    เราอาจชั่งน้ำหนักของวัตถุที่หวานได้
    ..
    แต่เราชั่งน้ำหนักความหวานไม่ได้
    เราชั่งน้ำหนักของสิ่งที่งาม
    (Beautiful things) ได้
    ..
    แต่เราชั่งน้ำหนักของความงาม (Beauty) ไม่ได้
    อนึ่ง ความงามเป็นสิ่งที่เราเห็นไม่ได้
    เราเห็นได้แต่วัตถุที่งามเท่านั้น
    .....
    อธิบายมิลินทปัญหา
    ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ
    เพจอาจารย์วศิน อินทสระ
    2JSP_vsyg0PmgJUmouNTB3eWV8VmxPoDX&_nc_ohc=KuRhJIbs9N0AX-gAj3d&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk29-2.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...