เรื่องเด่น พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย rachotp, 12 ตุลาคม 2022.

  1. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,218
    กระทู้เรื่องเด่น:
    251
    ค่าพลัง:
    +23,891
    15.jpg

    การที่มีคณะแพทย์อยู่ในขบวนเสด็จนี้ ทำให้ทรงช่วยชีวิตราษฎรไว้ได้หลายชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม เมื่อครั้งที่เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพ.ศ. ๒๕๑๓ แพทย์ได้ตรวจพบว่าชาวบ้านผู้หนึ่งป่วยหนักเนื่องจากไส้ติ่งแตก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจตระเวนชายแดนรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที

    ศาสตราจารย์นายแพทย์ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี หนึ่งในคณะแพทย์ผู้ตามเสด็จฯ เล่าความประทับใจครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานในชนบทห่างไกลนี้ ไว้ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ ว่า....

    "... ผมอยากให้คุณเห็นกับตา พ่ออุ้มลูกตัวเล็กมาดักรอกราบพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ให้ลูกของเขาที่ปากแหว่งมาแต่กำเนิดได้รับการผ่าตัดจนเป็นปกติ เขาร้องไห้ปลื้มใจที่ลูกเขาหายปากแหว่งโดยเอาลูกกราบพระบาทแล้วเขาก็กราบบังคมทูลอย่างซื่อๆ ว่า...


    "... ผมพาลูกมาขอบใจที่พ่อช่วยรักษาให้มันหาย....."


    14.jpg

    ที่มาจาก : หนังสือร้อยเรื่องในรอยจำ

    สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ น้อมศิระกรานต์ กราบแทบพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ _/\_


    Credit: ขอขอบคุณที่มาจาก Facebook ราชบัลลังก์จักรีวงค์
     
  2. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,218
    กระทู้เรื่องเด่น:
    251
    ค่าพลัง:
    +23,891
    ความรักที่มีต่อประชาชน

    16.jpg

    การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรทุกภูมิภาคพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับทราบถึงความจริงหลายประการ ทั้งสภาพภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่ของราษฎร วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละท้องถิ่นที่สำคัญ คือได้ทรงประจักษ์ในความจงรักภักดีที่แสดงออกอย่างจริงใจจากประชาชน ที่มีต่อล้นเกล้าทั้งสองพระองค์

    ดังเช่นที่หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ปราโมชได้บันทึกไว้ว่า...

    "... ปะรำกลางสนามหน้าศาลากลางของทุกจังหวัดนั้น แม้จะมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีแล้ว ปะรำเหล่านั้นมักจะไม่พอแก่จำนวนราษฎรเรือนหมื่นเรือนแสนที่มาเฝ้าฯด้วยความจงรักภักดีทุกที่ไป..."

    มีบางจุดของการเสด็จฯผ่านไป มีคุณยายคนหนึ่งปูผ้ารอไว้ให้ทรงประทับรอยพระยุคลบาท ปรากฏว่าเสด็จฯ เลยไปแล้ว คุณยายจึงร้องทูลว่า...

    "... บักหล่ามาทางนี้ มาเหยียบผ้าให้ยายหน่อย...."

    14.jpg


    ทรงแย้มพระโอษฐ์แล้วเสด็จไปประทับรอยพระบาทให้ คุณยายพับผ้าขึ้นจบหน้าผาก แล้วหันไปยิ้มกับคนข้างๆ พลางรำพึงว่า...

    ".. ว่าง่ายแท้ น่ารัก..."

    ที่มาจาก : หนังสือ Hello The People's King

    สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ น้อมศิระกรานต์ กราบแทบพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ _/|\_


    Credit: ขอขอบคุณที่มาจาก Facebook กลุ่มเด็กวัดป่า ฯ มดงาน



     
  3. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,218
    กระทู้เรื่องเด่น:
    251
    ค่าพลัง:
    +23,891
    จะกริ้วมากถ้าพวกเราหลับ

    17.jpg

    กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเคยรับสั่งว่า...

    "..ทูลกระหม่อมพ่อทรงรับสั่งว่า การเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ซึ่งใช้น้ำมันจ่ายด้วยภาษีอากรของราษฏรก็เรียกว่าเป็นอภิสิทธิ์แล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องทุ่มเทให้มากที่สุดเพื่อประชาชน จะนั่งฟังเสียงหึ่งของเครื่องยนต์แล้วงีบหลับนั้น ไม่ได้..."


    ทั้งนี้เวลาเสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะทรงงานเอกสารไปด้วยเสมอ

    18.jpg

    ที่มาจาก : หนังสือกลางใจราษฎร์

    สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ น้อมศิระกรานต์ กราบแทบพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ _/\_


    Credit: ขอขอบคุณที่มาจาก Facebook น้ำเงินเข้ม


    2.PNG

    Credit: ขอขอบคุณที่มาจาก Website http://www.ictforall.org/Articles/HS1A_with_UH1N.pdf “เฮลิคอปเตอร์สีฟ้า”
     
  4. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,218
    กระทู้เรื่องเด่น:
    251
    ค่าพลัง:
    +23,891
    14.jpg
    2.png

     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,638
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ท่านใดหนอที่มีสิทธิสั่งแม่ทัพให้เอา Helicopter ไปส่งเราที่บ้านจากหัวหินถึงฝั่งธน

    Sadhuka.jpg
     
  6. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647

    ♥♥♥♥♥♥♥♥♥

    ♥♥♥♥♥♥♥♥♥

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2022
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,638
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    แล้วใครล่ะ...จะไม่รัก

    **ขอขอบคุณ Ok Nation Blog ทั้งข้อมูลและรูปภาพทั้งหมดที่เห็นนี้ **

    1. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45 น.

    1.jpg


    2. นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับบลิวสจ๊วต วิตมอร์ ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์

    2.jpg


    3. พระนาม "ภูมิพล" ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7

    3.jpg


    4. พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช

    4.jpg


    5. พระองค์ทรงมีชื่อเล่นว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก

    5.jpg


    6. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า 'H.H Bhummibol Mahidol' หมายเลขประจำตัว 449

    6.jpg


    7. ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือ สมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า 'แม่'

    7.jpg


    8. สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง

    8(1).jpg


    9.แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม

    9.jpg


    10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต

    10.jpg


    11. สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า 'บ๊อบบี้'

    11.jpg


    12. ทรงฉลองพระเนตร (แว่นสายตา) ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระองค์ต้องลุกขึ้นบ่อยๆ

    12.jpg


    13. สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2 ทีพอแล้ว

    13.jpg



    14. ระหว่างประทับอยู่ สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่าเสมอ

    14.jpg


    15. ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก 'การให้' โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า 'กระป๋องคนจน' เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก 'เก็บภาษี' หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน

    15.jpg



    16. ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า 'ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน'

    16.jpg



    17. กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา

    17.jpg



    18. ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง

    18.jpg



    19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก 'การเล่น' สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไรต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐา ซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง

    19.jpg



    20. สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์

    20.jpg
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,638
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    (cont.)
    21.ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ หีบเพลง (แอกคอร์เดียน)

    21.jpg



    22.ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้

    22.jpg



    23.ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส

    23.jpg



    24.ทรงพระราชนิพนธ์พลงครั้งแรก เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ 'แสงเทียน' จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง



    24.jpg


    25.ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรงเกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง 'เราสู้'

    25.jpg



    26. รู้ไหม...? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่ 5


    26.jpg



    27. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย
    27.jpg



    28. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง 'นายอินทร์' และ 'ติโต' ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์ แต่ 'พระมหาชนก' ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

    28.jpg



    29. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น'กีฬาซีเกมส์') ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510

    29.jpg



    30. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน

    30.jpg



    31. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ 'กังหันชัยพัฒนา' เมื่อปี 2536

    31.jpg



    32. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์,ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว


    32.jpg



    33. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง


    33.jpg



    34. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร


    34.jpg



    35. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่า'น่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง


    35.jpg



    36. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริ กิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ข้อความในสมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท


    36.jpg



    37. หลังอภิเษกสมรส ทรง'ฮันนีมูน'ที่หัวหิน


    37.jpg



    38. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน


    38.jpg



    39. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช


    39.jpg



    40. ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพงหรือต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น


    40.jpg



    41. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา


    41.jpg



    42. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ


    42.jpg



    43. หลอดยาสีพระทนต์ ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม


    43.jpg



    44. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ เมื่อถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง


    44.jpg



    45. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบนมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ


    45.jpg



    46. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ


    46.jpg



    47.ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน


    47.jpg



    48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรท่ามกลางสายฝน

    48.jpg



    49. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน


    49.jpg



    50. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้


    50.jpg
    :- https://www.doisaengdham.org/บทความแนะนำ/แล้วใครล่ะจะไม่รัก.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...