ติดตามสถานะการณ์

การศึกษาในเยอรมัน มีการกำหนดในหลักสูตรให้มีการสอนเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว (holocaust) ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ...มีการนำนักเรียนไปชมค่ายกักกัน และพิพิธภัณท์ นั่นทำให้เด็กเยอรมันมีความเข้มแข็ง มีความคิดเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ได้เร็วขึ้น
ทำไมอเมริกาไม่สอนเด็กอเมริกันในเรื่องแบบนี้บ้างนะ มีเรื่องในประวัติศาสตร์ของตนให้เรียนมากเลย ทั้งเรื่องการทารุณทาส ..การล้างเผ่าพันธ์ชาวอินเดียนแดงเจ้าของพื้นที่ดั้งเดิม ..รวมไปถึงใน ฟิลิปปินส์ อิรัก ลิเบีย อีกนับหลายแสนคน ...ติ่งก็ควรรู้ไว้ด้วยนะ

 

“แมวส้ม” คือสิ่งพิเศษสำหรับวิทยาศาสตร์ พวกมันทั้ง ‘ก้าวร้าว’ และ ‘เซ็กซี่’ กว่าแมวสีอื่น ๆ และอาจมีสถานะสังคม (แมว) สูงกว่าแมวสีอื่น
.
จากบทความของ Psychology Today โดย คาเรน วู (Karen Wu) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ระบุเอาไว้ว่า แมวที่มีขนสีส้มมักมีพฤติกรรม ‘เสี่ยงตาย’ และมีความ ‘เซ็กซี่’ ต่อแมวด้วยกันเองมากกว่าแมวประเภทอื่น จึงทำให้เจ้าขนปุยสีส้มอาจมีสถานะทางสังคม (ของแมว) สูงกว่า และประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ในพื้นที่ชนบท
.
บทความได้อ้างอิงถึงงานวิจัยของปอนเทียร์และคณะที่เผยแพร่เมื่อปี 1995 (Pontier et al.(1995)) ที่ได้ทำการสำรวจและศึกษาแบบสุ่มกับกลุ่มตัวอย่างประชากรแมว 59 ถึง 491 ตัวในฝรั่งเศสระหว่างปี 1982 ถึง 1992 ซึ่งได้ทำการตรวจสอบความถี่และความแปรปรวนของยีนที่ทำให้เกิดขนสีส้มในแมว พวกเขาได้พบกับแนวโน้มที่น่าสนใจสามประการของแมวส้ม ดังนี้
.
1. แมวสีส้มนั้นพบได้ทั่วไปในชนบทมากกว่าพบในเมืองที่มีจำนวนประชากรแมวต่อพื้นที่แออัดกว่า การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่า แมวส้มอาจประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์มากขึ้นในสภาพสังคมที่มีลักษณะเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกเมือง
.
นักวิทยาศาสตร์คาดว่าในสภาพที่ประชากรแมวมีความแออัดน้อยกว่า แมวมักจะผสมพันธุ์จับคู่กันเพียงตัวเดียว ขณะที่ในสังคมเมือง แมวทั้งตัวผู้และตัวเมียต่างมีคู่ผสมพันธุ์กันหลายตัว เหตุผลข้อนี้มีความเกี่ยวโยงกับแนวโน้มที่ 2 ที่นักวิจัยพบ
.
2. แมวสีส้มมีความน่าสนใจทางเพศมากกว่าแมวสีอื่น ๆ ในสายตาแมวด้วยกันเอง เนื่องมาจากนักวิจัยพบว่าแมวเพศผู้สีส้มนั้นมีน้ำหนักมากกว่าแมวสีอื่น อีกทั้งยังมีขนาดโดยเฉลี่ยใหญ่กว่า เป็นผลให้พวกมันประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ที่มากกว่าในสถานการณ์ที่ขึ้นอยู่กับการแข่งขันทางร่างกาย
.
แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากงานวิจัยในปี 2007 โดยปอนเทียร์เช่นเดียวกัน โดยระบุว่าแมวเพศผู้ที่มีขนาดใหญ่กว่าจะมีอำนาจเหนือกว่าและก้าวร้าวมากกว่า ส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ รวมทั้งมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่า ซึ่งเชื่อมโยงไปยังแนวโน้มข้อที่ 3
.
3. แมวส้มพบได้น้อยกว่าในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่มีผลต่อชีวิต กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ แมวส้มมีพฤติกรรมที่มักจะเป็นอันตรายถึงตาย ซึ่งส่งผลให้พวกมันพบในพื้นที่เสี่ยงเช่นในสังคมเมือง (เสี่ยงจากอุบัติเหตุ หรือการต่อสู้กับแมวด้วยกันเองจากความก้าวร้าวที่แมวส้มมีมากกว่า) น้อยกว่าพื้นที่่เช่นชนบท
.
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับสีขนอาจเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่ามีความเชื่อมโยงกัน แต่ความสัมพันธ์นี้ก็สามารถพบได้ในสัตว์อื่น ๆ เช่นกันไม่ว่าจะเป็นหนูและนก ยีนบางตัวที่รับผิดชอบต่อพฤติกรรมหรือลักษณะทางกายภาพอื่น ๆ เช่นขนาดของร่างกาย อาจได้รับการสืบทอดควบคู่ไปกับยีนที่รับผิดชอบในการสร้างสีขน และในแมวก็เคยมีงานวิจัยเมื่อปีที่แล้ว (2021) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิส ที่ระบุว่าแมวบางสี (ซึ่งประกอบไปด้วยแมวสีส้มตัวเมีย แมวสีขาวดำตัวเมีย และแมวสีเทาขาวตัวเมีย) นั้นมีความก้าวร้าวต่อมนุษย์มากกว่าแมวสีอื่น ๆ
.
อย่างไรก็ตามงานวิจัยไม่ได้ระบุหรือยืนยันความเชื่อที่ว่าแมวสีส้มมีความน่ารักและเป็นมิตรกว่า แต่หากการเหมารวมนี้เป็นจริง ก็อาจเป็นเพราะพฤติกรรมที่ดูกล้าหาญ (รวมทั้งเสี่ยงภัยของมัน) ได้สร้างความประทับใจต่อมนุษย์และสร้างความเกรงใจต่อแมวขี้อายสีอื่น ทำให้พวกมันกล้าเข้าหามนุษย์มากกว่า กระนั้นแมวก็ยังเป็นสิ่งลึกลับสำหรับวิทยาศาสตร์ที่ต้องการศึกษาเจ้าขนปุยตัวนี้ร้ายนี้ต่อไป และดูเหมือนว่าจะไม่มีวันสิ้นสุด
.
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
Photo by Mauro Sbicego on Unsplash
เผยแพร่ครั้งแรก กันยายน 2022

 

นักฟิสิกส์ใช้คลื่นความโน้มถ่วงค้นหา “จุดเริ่มต้นของกาลเวลา”
.
ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการฟิสิกส์พลาสมาของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (PPPL) ในสหรัฐฯ ได้เสนอวิธีการใหม่ที่ใช้คลื่นความโน้มถ่วง (gravitational wave) มาเป็นเครื่องมือในการค้นหาจุดกำเนิดและศึกษาเกี่ยวกับยุคแรกเริ่มของจักรวาล แทนการใช้แสงหรืออนุภาคของแสง (photon) ซึ่งยังไม่ถือกำเนิดขึ้นในช่วง “ยุคมืด” 380,000 ปีแรกหลังเหตุการณ์บิ๊กแบง
.
ดีเพน การ์ก นักวิจัยระดับปริญญาเอกของ PPPL ซึ่งเป็นผู้นำทีมที่ศึกษาเรื่องดังกล่าวบอกว่า “เราไม่สามารถมองเห็นจักรวาลยุคแรกเริ่มได้โดยตรง แต่เราอาจจะรู้จักมันได้ผ่านการวิเคราะห์คลื่นความโน้มถ่วงจากยุคโบราณ โดยดูว่าคลื่นนี้ส่งผลกระทบอย่างไรต่อสสารและการแผ่รังสีของทุกสิ่งที่มันเดินทางผ่านไป”
.
อ่านเพิ่มเติม : https://www.bbc.com/thai/articles/c8v6vj8gqreo

 

ในภาพเป็นกรุงพนมเปญ จริง ๆ และคือ “พระที่นั่งเทวาวินิจฉัย” องค์เดิม
เห็นเพจสำนักข่าวหนึ่งโพสต์ว่า “ภาพถ่ายที่มาก่อนกล้อง! เขมรบอกเป็นภาพกรุงพนมเปญ ปี ค.ศ.1643 แต่จริง ๆ คือภาพเมืองไทย แถมการถ่ายภาพก็เพิ่งเกิดในช่วงปลายทศวรรษที่ 1830”
เรื่อง 1643 จริง ๆ คือ รหัสรูปถ่าย ไม่ใช่ปีที่ถ่ายภาพอย่างที่คนกัมพูชาเข้าใจกัน และอีกเรื่องหนึ่งที่คนไทยอาจจะเข้าใจผิดว่า ภาพนั้นคือ ภาพในเมืองไทย แต่ที่จริงภาพถ่ายนี้ถูกถ่ายขึ้นในกรุงพนมเปญ บริเวณนั้น คือ “พระที่นั่งเทวาวินิจฉัย” องค์เดิม เพราะพระที่นั่งองค์เดิมถูกสร้างตามแบบแผนอย่างพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ในพระบรมมหาราชวัง อาจจะทำให้คนไทยบางส่วนเข้าใจผิด เพราะมีความคล้ายกันมาก
กษัตริย์เขมรทุกพระองค์ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ ไปจนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ (ยกเว้นสมเด็จพระนางเจ้ามี) ล้วนเคยได้รับการศึกษาในกรุงเทพฯ และเติบโตในราชสำนักไทยตั้งแต่วัยเยาว์ จึงได้รับเอาวัฒนธรรมและรสนิยมแบบไทยในราชสำนักไทย เอาไว้มาก เมื่อต้องกลับไปครองราชบัลลังก์เขมร
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงบันทึกไว้ว่า “...ในราชสำนักกรุงกัมพูชาครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนโรดมนั้นใช้ภาษาไทยเป็นพื้น “เพราะเมื่อครั้งสมเด็จพระนโรดมตรัสแต่ภาษาไทย ถึงกล่าวกันว่าตรัสภาษาเขมรมิใคร่คล่อง”...”
ในนิราศนครวัดโดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพบรรยายว่า พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในราวต้นรัชกาลที่ ๕ ที่เมืองพนมเปญ โดยสมเด็จพระนโรดมได้เคยเข้ามารับราชการในกรุงเทพฯ จึงนิยมแบบแผนพระราชวังอย่างในกรุงเทพนำไปสร้างเท่าที่จะทำได้หมดโดยริมกำแพงหน้าวังมีปราสาทพลับพลาสูงอย่างพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เรียกว่า “พระที่นั่งจันทรฉายา” รวมถึง “พระที่นั่งเทวาวินิจฉัย” ด้วย
ในตอนหลังหลังเมื่อฝรั่งเศสบูรณะวังใหม่ “พระที่นั่งเทวาวินิจฉัย” ได้ถูกรื้อลงเป็นอาคารเครื่องคอนกรีตยอดปราสาท และ “พระที่นั่งจันทรฉายา” ได้ถูกรื้อลงเป็นอาคารเครื่องคอนกรีต ทำเป็นโรงละครหลวงอย่างโรงโอเปรา ตัวปราสาทเป็นโถงยาว มีมุขหน้าหลังอยู่ตรงกลาง พื้นที่ชั้นล่างเป็นช่องสำหรับจอดรถ บันไดขึ้นพระที่นั่งทางด้านข้างมีเวทีมีการจัดที่ประทับและเก้าอี้ไว้โดยรอบ




ป.ล. เรื่องข้อมูล ถ้าจะแย้งฝั่งกัมพูชา ควรเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเสมอ
เครดิตเพจ โบราณนานมา ครับ

 

ทราบหรือไม่ว่าธนบัตรของประเทศใดมีมูลค่ามากที่สุดในโลก
อยู่ว่าง ๆ แบบนี้ ชวนคุยกันเล่น ๆ ด้วยเรื่องของธนบัตรดีกว่าว่า คุณทราบหรือไม่ว่า ธนบัตรของประเทศใด ที่มีมูลค่า (เทียบตามค่าเงิน) มากที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่ประเทศไทย เพราะธนบัตรของบ้านเราที่เคยผลิตออกมาก็มีมูลค่าสูงสุดเพียงแค่ 1000 บาท ซึ่งถ้าเทียบตามค่าเงินแล้วก็แค่ประมาณ 35 เหรียญสหรัฐเท่านั้น
คำตอบก็คือ หากว่าเป็นธนบัตรที่มีการนำมาใช้แลกเปลี่ยนหมุนเวียนในท้องตลาดจริงในปัจจุบัน ก็คือ ธนบัตรฉบับละ 1000 พันฟรังค์สวิส ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1068 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 หมื่นบาท
และถ้าหากรวมถึงธนบัตรที่เคยมีการใช้ แต่ได้ยกเลิกการพิมพ์ไปแล้ว ก็ต้องเป็น ธนบัตรฉบับละ 1 หมื่นดอลลาร์ ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งออกใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม 1973 หรือเมื่อ 50 ปีที่แล้ว และก็มีการพิมพ์ใช้กันต่อมาจนกระทั่งยกเลิกไปเมื่อปี 2014 โดยเทียบแล้ว ธนบัตรนี้มีมูลค่าประมาณ 7654 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3 แสนบาท
แต่หากนับรวมถึงธนบัตรที่มีการผลิตขึ้นโดยไม่ได้มีจุดประสงค์ในการนำออกมาใช้หมุนเวียนจริง ตัวเลขจะสูงกว่าอีก อย่างบ้านเราเองก็เคยออกธนบัตรที่ระลึกเนื่องในอภิลักขิตสมัยมหามงคลวันราชาภิเษกสมรส และวันบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ครบ 50 ปี ในปี พ.ศ. 2543 ซึ่งมีราคาปรากฏบนธนบัตร 5 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ใช่ธนบัตรที่มีราคาปรากฏสูงสุดอยู่ดี
ธนบัตรที่มีราคาปรากฏบนตัวธนบัตรสูงสุด ก็คือ ธนบัตรฉบับละ 100,000,000 ปอนด์ (หนึ่งร้อยล้านปอนด์) หรือ “Titan” ซึ่งออกโดย Bank of England โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องค้ำประกันการออกธนบัตรที่ใช้หมุนเวียนจริงของธนาคารพาณิชย์ในสก็อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ

รูป https://en.numista.com/catalogue/note206051.html
เรื่อง https://nomadcapitalist.com/.../largest-value-banknotes.../
และ https://www.bbc.com/news/magazine-21145103
เครดิตเพจสาระเรื่อยเปื่อยครับ
______________________________
#เพจ

 

UK: นายกรัฐมนตรี ริชี ซูนัค ของสหราชอาณาจักร สั่งปลด นาดีม ซาฮาวี ประธานพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลออกจากตำแหน่ง หลังการไต่สวนเรื่องภาษีของเขาพบว่า มีการละเมิดข้อปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีอย่างร้ายแรง

ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยต่อสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า นายกรัฐมนตรีซูนัค สั่งการให้ที่ปรึกษาอิสระสอบสวนประเด็นที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องภาษีของซาฮาวี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ในระหว่างที่เกิดภาวะยุ่งเหยิงทางการเมืองในอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว ซูนัคกล่าวในจดหมายที่เผยแพร่ต่อสาธารณะที่ส่งไปถีงซาฮาวี พันธมิตรในพรรคของเขาว่า ผลการสอบสวนของที่ปรึกษาอิสระ พบว่า มีการละเมิดข้อปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีอย่างร้ายแรง ขอแจ้งให้นายซาฮาวีได้ทราบถึงการตัดสินใจของเขาที่จะปลดเขาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล

ด้านเซอร์ ลอรี แม็กนัส ที่ปรึกษาอิสระของนายซูนัค กล่าวในจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีว่า จากการสอบสวนพบว่า ซาฮาวี ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนเมื่อเขากล่าวว่า รายงานเกี่ยวกับภาษีของเขาเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วเป็นการใส่ร้าย นายซาฮาวี ไม่ได้แก้ไขบันทึกรายงานเรื่องนี้จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมื่อเขาบรรลุข้อตกลงในการหาข้อยุติกับเจ้าหน้าที่ ทำให้เห็นว่า ความล่าช้าไม่รีบแก้ไขแถลงการณ์ต่อสาธารณะที่ไม่เป็นความจริงนั้น ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องการเปิดเผยเพื่อความโปร่งใส

เซอร์ แม็กนัส กล่าวด้วยว่า ซาฮาวีซึ่งทำหน้าที่รัฐมนตรีแต่ไม่ได้ประจำกระทรวงใดในรัฐบาลปัจจุบัน ปฎิบัติตัวต่ำกว่ามาตรฐานขั้นสูงที่นายกรัฐมนตรีคาดหวังจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล

ขณะที่ซาฮาวีระบุในจดหมายถึงเรื่องที่เขาถูกปลดจากตำแหน่งประธานพรรคอนุรักษ์นิยม ยอมรับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีซูนัค แต่ยืนยันจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีซูนัคอย่างแข็งขันต่อไป แม้จะไมได้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ทางการเมืองแล้ว
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหราชอาณาจักร #ริชีซูนัค #นาดีมซาฮาวี
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

America: อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มรณรงค์หาเสียง สู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ด้วยการแต่งตั้งผู้ว่าการรัฐ และวุฒิสมาชิกคนดังร่วมทีมหาเสียงในรัฐเซาท์แคโรไลนา

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ได้เริ่มการรณรงค์หาเสียงครั้งแรกแล้วเมื่อวานนี้ หลังประกาศสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2024 พร้อมปัดเสียงวิจารณ์ว่า เขาเริ่มต้นหาเสียงล่าช้า โดยทรัมป์หาเสียงครั้งแรกที่การประชุมประจำปีของพรรครีพับลิกันในรัฐนิว แฮมเชียร์ ในเมืองซาเลม ก่อนเดินทางไปยังเมืองโคลัมเบียในรัฐเซาท์แคโรไลนา พร้อมด้วยทีมผู้นำการหาเสียงในรัฐดังกล่าว

ที่โคลัมเบีย ทรัมป์ได้พูดหาเสียงกับผู้เข้าร่วมงานราว 200 คน พร้อมด้วยเฮนรี แมคมาสเตอร์ ผู้ว่าการรัฐ และลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกของรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งทั้งสองคนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำการหาเสียงในรัฐนี้

ขณะที่นิวแฮมเชียร์และเซาท์แคโรไลนาอยู่ใน 4 รัฐแรกที่จัดการแข่งขันของผู้เสนอชื่อชิงประธานาธิบดี โดยทรัมป์เป็นสมาชิกชั้นนำของพรรครีพับลิกัน และยังเป็นคนเดียวที่เสนอตัวชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หากทรัมป์ชนะเลือกตั้งในปีหน้าเขาจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำสหรัฐฯ คนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 โดยไม่ต่อเนื่องกันต่อจากอดีตประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ทรัมป์ประกาศตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขายังคงไม่ทำตัวให้เป็นที่สนใจ แต่เรียกร้องให้สมาชิกฝ่ายอนุรักษ์นิยมของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนเควิน แม็คคาร์ธีย์ เป็นประธานสภาคนใหม่

สำหรับผู้ที่ถูกจับตามากที่สุดว่าจะเป็นคู่แข่งของทรัมป์ ในการเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯในปีหน้า คือ รอน เดอซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา กับนิกกี เฮลีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #อเมริกา #โดนัลด์ทรัมป์ #หาเสียง
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Israel: นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ประกาศว่ารัฐบาลอิสราเอลจะตอบโต้ด้วยความรวดเร็วและจริงจัง ต่อเหตุรุนแรงระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นกับชาวอิสราเอลในนครศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเลม หลังเกิดเหตุกราดยิงบริเวณสุเหร่ายิวเขตชานเมืองเยรูซาเลม เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 3 คน

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง พร้อมทั้งประกาศว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งของอิสราเอลจะตอบโต้ด้วยความรวดเร็วและจริงจัง ต่อเหตุรุนแรงระลอกใหม่ ที่เกิดขึ้นกับชาวอิสราเอลในนครศักดิ์สิทธิ์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล ปฏิบัติการที่ค่ายผู้ลี้ภัยของชาวปาเลสไตน์ ในเมืองเจนินของเขตเวสต์แบงก์ และวิสามัญผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอย่างน้อย 9 ราย นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะเปิดทางให้ชาวอิสราเอลสามารถพกพาอาวุธไว้เพื่อป้องกันตนเองได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย

ด้านกองกำลังป้องกันอิสราเอล และสำนักงานตำรวจอิสราเอล ประกาศการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทั่วเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า อาจเป็นการส่งสัญญาณเตรียมปฏิบัติการครั้งใหม่ ขณะที่ประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ยังคงสงวนการให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุรุนแรงระลอกใหม่ ที่ผู้ก่อเหตุยังคงเป็นชาวปาไลสเตน์ แต่กล่าวว่า อิสราเอลเป็นฝ่ายกระตุ้นความรุนแรง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลอิสราเอล เกิดขึ้นหลังเหตุกราดยิงบริเวณสุเหร่ายิว เขตชานเมืองเยรูซาเลม เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 3 คน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลวิสามัญมือปืน ซึ่งเป็นชาวปาเลสไตน์ ขณะที่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เกิดเหตุเด็กชายชาวปาเลสไตน์วัยเพียง 13 ปี ใช้อาวุธปืนยิงประชาชนในเมืองเยรูซาเลมได้รับบาดเจ็บ 2 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แล้วยิงตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งยิงเด็กชายได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา ออกแถลงการณ์ว่า เหตุกราดยิงที่สุเหร่ายิวในเมืองเยรูซาเลมคือการตอบสนองต่ออาชญากรรมที่อิสราเอลก่อขึ้น ในเมืองเจนิน ของเขตเวสต์แบงก์
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #อิสราเอล #เยรูซาเลม #เนทันยาฮู
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

จับตา กรมอุทยานฯ 2 พี่น้องเจอข้อหาโกง พิรุธเปลี่ยนตัวอธิบดี : ถอนหมุดข่าว 29/01/66
https://youtu.be/4I-wG93DrBE
จับตา กรมอุทยานฯ 2 พี่น้องเจอข้อหาโกง พิรุธเปลี่ยนตัวอธิบดี : ถอนหมุดข่าว 29/01/66
https://fb.watch/im1cig3xmB/
ถอนหมุดข่าว
จับตา กรมอุทยานฯ
2พี่น้องเจอข้อหาโกง
พิรุธเปลี่ยนตัวอธิบดี
ไม่ใช่แค่นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช คนเดียว ที่ชีวิตราชการ มีปัญหาพัวพันการทุจริตร้ายแรง
แต่ยังมีคนนามสกุลเดียวกัน ในกรมเดียวกัน อย่างนายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ที่โดนคดีทุจริตด้วย ซึ่งนายสรัชชาก็ใช่คนอื่นไกล เป็นพี่ชายแท้ๆ ของนายรัชฎา
เรียกว่างานนี้ โดนคดีทุจริตกันทั้งพี่ทั้งน้อง หลายคนวิจารณ์ว่าเป็นเพราะดีเอ็นเอของพวกเขาเหมือนกัน
ทั้งนี้ ชะตากรรมของนายสรัชชา ผู้เป็นพี่ มาถึงจุดคดีสิ้นสุดพอดี เมื่อนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เซ็นคำสั่งไล่ออก นายสรัชชา เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังนายสรัชชา เกษียณอายุราชการไปแล้ว 3 ปี
คดีที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา กรณีการเบิกค่าแรงงานเท็จ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี
ทีมงาน “ถอนหมุดข่าว” ตรวจสอบเบื้องหลังการทุจริตของนายสรัชชา พี่ชายของนายรัชฎา พบว่า ช่วงปี 2555 ขณะเป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ดูแลพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
นายสรัชชาได้จัดทำโครงการปลูกป่าที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เนื้อที่โครงการ 4,200 ไร่ ค่าดำเนินการไร่ละ 3,950 บาท รวมเป็นงบประมาณโครงการ 16,590,000 บาท
แต่โครงการนี้ดันถูกร้องเรียน ว่ามีการจ้าง “ลูกจ้างผี” คือเอาชื่อใครต่อใครมาใส่ไว้ แต่ไม่ได้จ้างเจ้าของชื่อให้ทำงานจริง เงินค่าแรงส่วนเกินของบรรดาลูกจ้างผี ก็ไหลไปเข้าพกเข้าห่อสบายไป
ความซวยมาเยือน เพราะ “ลูกจ้างผี” บางส่วน ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่โป่งลึก-บางกลอย กับชาวบ้านบางส่วน ไม่ยอมร่วมมือกับการทุจริตดังกล่าว แถมยังจัดหนัก ร้องเรียนคดีนี้ต่อ ป.ป.ช.
โดยผู้ถูกร้องเรียน ไม่ได้มีแค่นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ที่เป็นระดับ ผอ. เพียงคนเดียว แต่ยังรวมถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในขณะนั้นด้วย เรียกว่าลุยเอาผิดกันทั้งโขยง
คดีนี้ ผลการสอบสวน สรุปออกมาไม่พร้อมกัน คนที่โดนเชือดรายแรกคือ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจาน ถูกคำสั่งไล่ออกจากราชการ ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ระหว่างนั้น อีกหลายปีต่อมา นายสรัชชา ก็ถูกย้ายไปที่อื่น และชีวิตราชการก็เติบโตไปตามปกติ จากเป็นข้าราชการซี 8 ตอนที่ถูกสอบทุจริต ก็สามารถไปเกษียณราชการที่ซี 9 ในตำแหน่ง ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่
แต่เกษียณไปได้ 3 ปี ก็เจอกรรมเมื่อ 10 ปีก่อนไล่ล่า คำสั่งไล่นายสรัชชา ออกจากราชการครั้งนี้ จะมีผลย้อนหลังไปถึงตอนเกิดเรื่อง บำเหน็จบำนาญทั้งหมดจะถูกยึด
และนายสรัชชา ยังต้องโดนฟ้องคดีอาญา ตลอดจนโดนคดีละเมิด เรียกเงินคืน ส่วนที่ราชการเสียหายไป
ขณะที่นายรัชฎา ผู้เป็นน้อง ที่ก่อคดีครึกโครมกว่า แม้ตอนนี้ยังเหนียวแน่นหนึบอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ไม่โดนคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่อย่างใด
แต่ตำรวจ บก.ปปป. ก็รวบรวมสำนวนส่งมอบให้ ป.ป.ช. ไปเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางข่าวลือ ฝ่ายร้องเรียน คือ “พญาเสือเก้าชีวิต” อย่างนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จะโดนเล่นงานกลับ
ด้วยการรวมหัวกันของเจ้าของซองเงิน นัดแนะให้การไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อช่วยนายรัชฎา และลอยแพนายชัยวัฒน์
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่รวบรวมได้
ทีมงาน “ถอนหมุดข่าว” ยังได้รับทราบจากแหล่งข่าวระดับสูงในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่า ทุกวันนี้ ก็ยังมีเรื่องที่สร้างความสลดใจให้กับบรรดาข้าราชการในกรม เพราะขนาดมีเรื่องอื้อฉาวสนั่นเมือง แต่การรีดส่วยจากผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ยังเดินหน้าต่อไป ไม่หยุดยั้ง
โดยคราวนี้ มีการแก้เกมโฉ่งฉ่างเดิมที่นายรัชฎาทำไว้ ห้ามทำอะไรรุ่มร่ามในกรมเด็ดขาด ให้ไปนัดแนะเจอกันข้างนอก ส่งซองกันข้างนอกไกลๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่ต้องรับซองเอง แต่เป็นตัวแทนที่ไว้ใจได้ วิ่งไปรับให้แทน
ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา มาจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดการแต่งตั้งรักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ แทนรักษาการคนเดิม ทั้งที่ทำหน้าที่ได้ไม่ทันครบเดือน
นายวราวุธ เซ็นคำสั่งดังกล่าว ลงวันที่ 25 ม.ค. 2566 ตั้งนายอรรถพล เจริญชันษา ข้ามห้วย จากอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มานั่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ให้เหตุผลให้หนังสือคำสั่งว่า เพื่อให้การบริหารของกรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เหมาะสม
เท่ากับคนที่รักษาราชการแทนอธิบดีมาก่อน คือ นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ ต้องกลับไปทำหน้าที่ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ตามเดิม
ทั้งนี้ การแต่งตั้งนางรุ่งนภา มารักษาราชการแทนนายรัชฎา เป็นคำสั่งของนายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการเรียกรับผลประโยชน์ของนายรัชฎา โดยลงนามแต่งตั้งนางรุ่งนภา เมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2565
แต่แม้จะแค่มาขัดตาทัพชั่วคราว แต่นางรุ่งนภา ก็แสดงจุดยืนที่จะกู้ศักดิ์ศรีให้กรมอุทยานฯ เมื่อจัดการคืนความชอบธรรมให้กับนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ ได้กลับไปเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา ตามเดิม
จากที่ก่อนหน้านี้ นายประวัติศาสตร์ ถูกนายรัชฎา เด้งเข้ากรุ ไปนั่งตบยุง ที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (ราชบุรี) ทั้งที่เขามีชื่อเสียงเป็น “มือปราบไม้พะยูง” และมีผลงานรื้อถอนรีสอร์ทนายทุน บุกรุกป่าทับลานมากมาย
อาจเพราะนายประวัติศาสตร์ เป็นข้าราชการที่มีบุคลิกแข็งกร้าว ไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่โปร่งใส ก็เลยโดนนายรัชฎา เตะกระเด็นกระดอนไป

การคืนความชอบธรรมให้หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน ยังเป็นไปตามที่องค์กรอนุรักษ์อย่างมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ เรียกร้องขอให้กรมย้ายคนที่เคยถูกอธิบดีกลั่นแกล้ง กลับสู่ตำแหน่งเดิม

แต่นางรุ่งนภา ก็ทำสำเร็จไปแค่รายเดียว จากนั้นตัวเอง ก็ต้องหมดหน้าที่อย่างรวดเร็ว ซึ่งคนวงในกรมอุทยานฯ วิจารณ์กันแซ่ดว่า บุคลิกของนางรุ่งนภา ก็เป็นคนตรงและแข็ง จนรัฐมนตรีสั่งซ้ายหันขวาหัน ไม่ได้ดังใจ

การจัดทัพใหม่ชั่วคราว จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ปี่กลองเลือกตั้งใกล้เข้ามา นายวราวุธ ศิลปอาชา ไม่อาจรอช้าแม้สักวินาที

 

#DISCOVERY พบหนังสือแห่งความตาย (Book of the Dead) ในกระดาษปาปิรัสที่ทำมาจากต้นกกเพื่อใช้เขียนหนังสือยาว 16 เมตร อายุมากกว่า 2,000 ปีสภาพสมบูรณ์ในหลุมฝังศพของพีระมิดแห่งขั้นบันไดโจเซอร์ (Djoser) ที่เมืองซักการา (Saqqara) ประเทศอียิปต์ กลายเป็นชิ้นแรกในรอบ 100 ปีที่ถูกค้นพบ
.
หากใครเป็นแฟน ๆ ภาพยนต์เรื่อง The Mummy คงจะคุ้นเคยกับหนังสือแห่งความตายกันมาบ้าง ซึ่งในนั้นมีไว้เพื่อเรียกคนตายกลับมายังโลกแห่งคนเป็น แต่ในอารยธรรมอียิปต์โบราณจริง ๆ นั้น ‘หนังสือแห่งความตาย’ มีไว้เพื่อบันทึกพิธีกรรมในงานศพและคาถาต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้เสียชีวิตเดินทางไปยังยมโลกได้อย่างปลอดภัย
.
โดยแต่ละเล่มก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามยุค ตามช่วงเวลา และตามราชวงศ์ผู้ปกครอง ผู้เขียนจะวาดลงในกระดาษ วัตถุ หรือบนผนังห้องฝังศพ อาจมีภาพประกอบเพิ่มเติม บางม้วนหรือบันทึกก็จะมีขนาดแตกต่างกันไป อาจสั้น 1 เมตร หรือยาวได้ถึง 40 เมตร ซึ่งในตอนนี้นักวิชาการกำลังแปลกระดาษเหล่านี้อยู่เพื่อความชัดเจน ว่าบันทึกนี้พูดถึงอะไรบ้าง
.
หนึ่งในบทบันทึกที่โด่งดังที่สุดที่เคยแปลออกมาคือ พิธีการชั่งน้ำหนักหัวใจ (หากใครดูซีรีย์ Moon Knight อาจคุ้น ๆ กับเรื่องเหล่านี้) โดยมีอายุย้อนหลังไปถึง 1475 ก่อนคริสตศักราช หรือกว่า 3,000 ปีที่แล้ว ที่ระบุเอาไว้ว่า สุสาน(ที่ฝั่งศพ) จะนำผู้ตายไปยังยืนอยู่หน้าเทพโอซิริส เพื่อสาบานว่าพวกเขาไม่ได้ทำบาป 42 ประการ
.
จากนั้นหัวใจจะถูกชั่งน้ำหนักคู่กับขนนกเพื่อตัดสินว่าพวกเขาคู่ควรกับการใช้ชีวิตหลังความตายหรือไม่ ซึ่งในบันทึกนั้นมีคาถาป้องกันเพิ่มไว้ เช่น ไม่ให้หัวใจสูญหาย หรือเพื่อให้หัวใจสามารถโกหกต่อหน้าเทพเจ้าตอนชั่งน้ำหนักและเข้าข้างเจ้าของหัวใจไว้ด้วย ต้องรอคอยการแปลว่าเล่มนี้จะกล่าวถึงอะไรบ้าง
.
อนึ่ง เมืองซักการา นั้นถือว่าเป็นเมืองหลวงเก่าของอียิปต์โบราณเมื่อราว ๆ 4,000 ปีก่อน โดยมีพีระมิดจำนวนมากตั้งอยู่ รวมถึงพีระมิดขั้นบันไดของโจเซอร์ซึ่งเป็นพีระมิดแห่งแรกที่ชาวอียิปต์สร้างขึ้น โดยได้รับการออกแบบ ‘อิมโฮเทป’ (ที่กลายเป็นตัวร้ายในเรื่อง The Mummy)
.
Mostafa Waziri เลขาธิการสภาสูงสุดด้านโบราณวัตถุของอียิปต์ได้ระบุเอาไว้ว่า เมื่อศึกษาเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว บันทึกนี้จะจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Grand Egyptian Museum ที่กรุงไคโร ภายในช่วงปีนี้
.
ที่มา
.
Live Science : 52-foot-long Book of the Dead papyrus from ancient Egypt discovered at Saqqara
.
Ars Technica : Archaeologists discovered a new papyrus of Egyptian Book of the Dead
.
Greek Reporter : 16-Meter-Long “Book of the Dead” Ancient Papyrus Found in Egyptian Sarcophagus
.
Photo : ตัวอย่างบทในหนังสือแห่งความตายที่แสดงให้เห็นถึงพิธีกรรมชั่งน้ำหนักหัวใจ

 

Iran: อิหร่านยุติปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวในเมืองคอย ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 800 คน เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว

ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ที่เมืองคอย ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านใกล้พรมแดนตุรเคีย หรือตุรกี ตั้งแต่คืนวันเสาร์ (28 มกราคม) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่และสื่อรัฐบาลอิหร่าน ระบุว่า ยอดผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นจากกว่า 300 คน เป็น 816 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่อย่างน้อย 3 คน

ประชาชนในเมืองคอยที่อยู่ในจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันตก อยู่ห่างกรุงเตหะรานของอิหร่าน ประมาณ 800 กิโลเมตร ตื่นตระหนกจากแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวต่อเนื่องหรืออาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 20 ครั้ง พากันออกจากบ้านหาที่พักพิงและหลบภัยสภาพอากาศหนาวเย็นและหิมะ อยู่ตามศูนย์อพยพแล้วหลายร้อยคน

สื่อรัฐบาล รายงานด้วยว่า มีอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวอยู่ใน 70 หมู่บ้าน หน่วยกู้ภัยพยายามค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ใต้ซากอาคารบ้านเรือนที่พังถล่มตลอดวันอาทิตย์ แต่อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการหน่วยกาชาด สมาคมเสี้ยววงเดือนแดงของอิหร่าน ประกาศในเวลาต่อมาว่า ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยได้เสร้จสิ้นแล้ว และไม่เชื่อว่าจะมีผู้รอดชีวิตหรือผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังลงเหลืออีก

ส่วนอาเหม็ด วาฮิดี รมว.มหาดไทยของอิหร่าน ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เมืองคอย ระบุว่า ระบบน้ำ ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวกำลังได้รับการซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้ได้ตามปกติ
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #อิหร่าน #แผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวอิหร่าน
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

กกพ. ชี้ จับตา 3 ปัจจัยก่อนเคาะค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 66 ในเดือนมี.ค. นี้ แง้มภาคครัวเรือนอาจจ่ายเพิ่มแตะหน่วยละ 5.2 บาท ลุ้นรัฐต่ออายุ 2 กลุ่ม จ่อประกาศค่าไฟสีเขียวหนุนเอกชนแข่งขันเวทีโลก
.
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดเดือนพ.ค.-ส.ค. 2566 ว่า จะสรุปอัตราค่า Ft ได้ประมาณเดือนมี.ค.นี้ เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนเม.ย. และเริ่มใช้เดือนพ.ค. เนื่องจากต้องพิจารณาต้นทุนเชื้อเพลิงและปัจจัยผลกระทบให้รอบด้านเพื่อให้การพยากรณ์ใกล้เคียงมากที่สุด
.
สำหรับ ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา 3 ปัจจัย คือ
.
1. ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยว่าจะผลิตได้เท่าไร โดยก๊าซฯ ส่วนนี้จำเป็นที่สุดเพราะราคาเพียง 6-7 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู
.
2.ปริมาณก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร (LNG Spot) ที่ปัจจุบันราคากว่า 20 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งราคานี้ถือว่าลดลงพอสมควรแต่ต้องติดตามความผันผวนหลังจากนี้อีกครั้ง
.
3.อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่เดิมประเมินจากระดับ 37-38 บาทต่อดอลลาร์ แต่ปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าเหลือระดับ 32-33 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเงินบาทระดับนี้ส่งผลดีต่อแนวโน้มค่าหลังจากนี้แน่นอน
.
"แม้แนวโน้มราคา LNG Spot และค่าเงิน จะส่งผลดีต่อค่าไฟงวดหน้า แต่กกพ.ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าแนวโน้มจะลดลงหรือไม่ เพราะปัจจัยที่สำคัญกว่า คือ ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ยังไม่กลับมาปกติ แม้แนวโน้มจะเพิ่มขึ้นแต่ก็มีความไม่แน่นอนสูงเช่นกัน ขณะเดียวกันปริมาณการใช้ไฟของไทยในก็เพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นหากจะพิจารณาแนวโน้มค่าได้ใกล้เคียงที่สุดจึงอยู่ที่เดือนมี.ค. 2566"
.
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1050382?anm=
.
.
#ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ #ค่าFt #LNGSpot
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Website: http://www.bangkokbiznews.com
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
OpenChat: https://bit.ly/3ZgoMib
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit: https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok: https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
Line: https://bit.ly/3ZgoMib

 

พนักงานแบบไหน องค์กรมองว่าหายากแต่ยังเป็นที่ต้องการมากที่สุด?
.
สถานการณ์ในปีนี้นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างคาดการณ์ถึงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ส่งผลถึงตลาดแรงงาน ในหลายรูปแบบ เช่น การที่หลายธุรกิจก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะจ้างพนักงานจำนวนมากๆในระยะยาว, การ Lay-Off พนักงานในกลุ่มงานที่ไม่สร้างรายได้ ขณะที่ฝั่งแรงงานก็เกิดภาวะ Quiet Quitting ที่ยังรักษางานเอาไว้ หากแต่ไม่ขอทำเกินหน้าที่ เพราะทำไปก็ไม่ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
.
แม้สภาวะทั้งหมดจะไม่ค่อยเป็นใจกับมนุษย์เงินเดือนมากนัก แต่ถึงเช่นนั้นก็ต้องยอมรับว่าในทุกๆสถานการณ์ ยังมีมนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยที่ย้ายงานเป็นเวลาเล่น เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก แถมยังมีแนวโน้มจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ทำตัวราวกับไม่สะทกสะท้าน และพร้อมจะย้ายงานตามที่ปรารถนา
.
กลุ่มคนที่ว่านี้ถ้าไม่คอนเนคชั่นแน่นปึ๊ก ก็ต้องมองได้ว่า พวกเขาคือบุคคลที่มีความสามารถ และความสามารถหรือทักษะแบบไหนซึ่งเป็นที่ต้องการตลาดก็มีการวิเคราะห์ในหลายรูปแบบ ซึ่ง บทความหนึ่งในเว็ปไซต์ CNBC ที่ชื่อ The 8 ‘rarest’ types of employees ซึ่งเขียนโดย Catherine Kaputa ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดแรงงานและการสร้างแบรนด์ก็ได้ยกตัวอย่างไว้น่าสนใจ
.
เธอ ยกตัวอย่างว่า จุดแข็งของการเป็นพนักงานในตลาดแรงงานก็เปรียบเสมือนการมีแบรนด์ของตัวเอง และสิ่งนั้นก็เป็นรากฐานที่จะสร้างความสนใจให้กับผู้จ้าง และเป็นรากฐานแห่งความสำเร็จกับการทำงานในองค์กร
.
ขณะที่ลักษณะของพนักงานที่หายากแต่เป็นคนประเภทที่องค์กรส่วนใหญ่มองหานั้น ยกตัวอย่างเป็นประเภท ประกอบไปด้วย 1.ประเภทพนักงานที่เป็น The Innovator หรือการเป็นผู้ริเริ่ม โดยลักษณะของคนประเภทนี้ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นนักประดิษฐ์หรือต้องเป็นบุคลากรสาย Tech แต่เพียงอย่างเดียว แต่การเป็นผู้ริเริ่มหมายถึงการเห็นโอกาสที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตหรือความเปลี่ยนแปลง โดยที่คนกลุ่มนี้มักจะเป็นคนแรกที่ถามว่า “"จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราลองทำวิธีนี้ด้วยวิธีอื่น" และแสดงออกถึงการทำอะไรใหม่ๆอย่างสร้างสรรค์คนบนรากฐานที่ดี
.
2. ประเภทพนักงานที่เป็น Leadership หรือการที่มีความเป็นผู้นำ โดยลักษณะเด่นของคนประเภทนี้จะช่วยกระตุ้นให้ทีมบรรลุถึงเป้าหมายได้ พร้อมจะสามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนได้อย่างมีแบบแผน สามารถคิดในภาพใหญ่ได้ ซึ่งสอดคล้องกับโลกปัจจุบันที่ทุกธุรกิจมีความซับซ้อน และต้องใช้มุมมองในแต่ละแบบเพื่อวิเคราะห์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
.
3.ประเภทพนักงานที่มีลักษณะ The Maverick นิยามได้ว่ามีความอิสระ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ดราม่ากับอะไรที่ไม่จำเป็น โดยคนลักษณะนี้จะมั่นใจที่จะเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง มีการปรับตัวที่หลากหลายตามแต่สถานการณ์ เช่น เขาอาจจะเป็นคนที่แข็งและพร้อมจะพุ่งชน พร้อมจะก้าวร้าวหากต้องบุกตะลุย แต่ขณะเดียวก็เปิดเผย มีชีวิตชีวา ปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ได้
.
4. ลักษณะของพนักงานแบบ The Engineer ซึ่งไม่ได้จำกัดความว่าต้องเป็นอาชีพวิศวกรเพียงอย่างเดียว แต่ลักษณะของมนุษย์งานแบบนี้คือพวกเขามักใช้เวลาศึกษากับแนวคิดหรือกระบวนการต่างๆที่จะทำให้งานดีขึ้น เป็นคนละเอียดรอบคอบ มีขั้นตอนในการคิด แก้ปัญหา ลงมือทำได้จริง
.
5. ลักษณะของ Expert หรือการเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ โดยข้อนี้ก็ค่อนข้างชัดเจนว่า พนักงานที่ดีต้องหลงใหลในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่พลาดต่อการค้นคว้าโครงการ การวิจัย การรับรอง การฝึกงาน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ สามารถเป็นที่พึ่งพาของเพื่อนร่วมงานหรือองค์กรที่สังกัดอยู่ได้
.
6. The Target Marketer หรือการเป็นนักการตลาดที่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายในสิ่งที่ตัวเองทำ ลองคิดดูว่า หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลงานสักชิ้น การมีไอเดียใหม่ หรือการมีบริการที่ทำให้ลูกค้าของคุณพอใจคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ นักการตลาดที่รู้กลุ่มเป้าหมายของตัวเองจะทำให้แบรนด์ของเราอยู่ในใจผู้ใช้ สามารถทำให้สินค้ารู้จักผู้ใช้ และสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ได้ดีกว่าคู่แข่งในตลาด
.
7. การเป็น The Elite ซึ่งหมายถึงการพยายามรักษามาตรฐานของงานให้อยู่ในระดับ Top อยู่เสมอ ซึ่งในประเด็นนี้มีตั้งแต่การรักษาระดับความสามารถ รักษาระดับความสัมพันธ์ในสายงาน มีความนับถือตัวเอง ทะเยอทะยานและมุ่งมั่น รู้สึกภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ
.
8.การเป็น The Cause ซึ่งหมายถึง การรู้สาเหตุ รู้ว่าอะไรจะช่วยผลักดันสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นได้ อะไรคือปัญหาที่ต้องรับการแก้ไขที่เร่งด่วนที่สุด และอะไรสำคัญรองลงมา
.
ถึงตรงนี้อย่าลืมว่า ในโลกแห่งการทำงานทั้งองค์กรและเราต่างเป็นผู้เลือกซึ่งกันและกัน คำถามจึงอยู่ที่ว่าอะไรที่ทำให้เราโดดเด่นจนมีคนอยากร่วมงาน ซึ่งคำตอบแบบที่เราเคยได้ยินมาตลอดคือการเป็นคนเก่ง ซึ่งคำตอบนั้นอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่องค์กรนึกถึงต่อไป
.
อ้างอิง : CNBC
.
.
#พนักงาน #ตลาดแรงงาน #มนุษย์เงินเดือน
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจLifestyle
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Website: http://www.bangkokbiznews.com
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
OpenChat: https://bit.ly/3ZgoMib
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit: https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok: https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
Line: https://bit.ly/3ZgoMib

 

มีการเปิดสูตรผัดกะเพราโบราณ ตีพิมพ์เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ว่าใส่ถั่วฝักยาวหรือไม่

มีการถกเถียงกันเป็นอย่างมากเรื่องผัดกระเพราต้นตำหรับแท้จริงใส่ถั่วฝักยาวหรือไม่ จากการสืบค้นตำราอาหารในอดีตกว่า 50 กว่าปี พบว่า ทั้งมีและไม่มี แต่ทั้งสองตำรา ต่างกัน 2 ปี คือ 2511 และ 2513

กว่าครึ่งศตวรรษ "สูตรผัดกะเพรา" ที่แท้จริง ไม่ใส่ถั่วฝักยาว ข้อมูลนี้เปิดเผยโดย อินฟลูเอนเซอร์ด้านประวัติศาสตร์ ผู้เล่าเรื่องจากภาพเก่าอันโด่งดังจากเว็บบอร์ดพันทิป “หนุ่ม รัตนะ” ระบุที่มาจากหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพบุคคลหนึ่ง แจกที่วัดหัวลำโพงระบุชื่อผู้เขียน อำไพ กัลณ์จารึก ลงวันที่พิมพ์ 4 กุมภาพันธ์ 2511

ส่วนอีกตำราเป็นของบุนนาค ช่อวิเชียร พิมพ์แจกในงานที่ระลึกเมื่อ 30 มีนาคม 2513 ซึ่ง ต้นฉบับ นั้นไม่แน่ใจว่าเขียนไว้ปีไหน

ซึ่งก็คงต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์กันต่อไป แต่โดยส่วนตัวแอดชอบแบบไม่มีถั่วมากกว่าและผัดเกรียมๆหน่อย พริกเม็ดแดงๆ นะอร่อยเหาะเลย

ที่มา

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000099825
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/recipefood/2217647

 

ทำได้เหรอ!!! เขมรนำ "ตราครุฑ" ติดกางเกง "กุน ขะแมร์" ขาย
จากประเด็นที่ประเทศกัมพูชา พยายามระบุว่า "กุน ขะแมร์" เป็นต้นกำเนิด "มวยไทย และใช้ชื่อ "กุน ขะแมร์" สำหรับแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ตนเองเป็นเจ้าภาพ จนสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ IFMA ประกาศว่าพร้อมแบนชาติที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน

นอกจากนี้ยังมีประเด็นต่างๆ เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ที่มีการระบุว่าชาวเขมรพยายามอ้างว่า ศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ที่ใช้อยู่ในประเทศไทย ล้วนมาจากเขมร

ขณะที่แฟนเพจดังอย่าง ASEAN

"อ้าว… ทำแบบนี้ก็ได้หรอ ค่ายมวยกุนขะแมร์ในประเทศกัมพูชา เอาตราครุฑไทยไปทำกางเกงขาย"

ประเด็นดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวไทย เนื่องจากมองว่าตราครุฑนั้นถือเป็น "ตราแผ่นดินของประเทศไทย" การตั้งใจนำไปติดกางเกงแข่งขัน กุน ขะแมร์ ถือว่าเจตนาลบหลู่หรือไม่

พร้อมกันนี้ยังมีการเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงวัฒนธรรม และ กรมศิลปากร รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอย่าง นายอิทธิพล คุณปลื้ม ให้มาดูแลปัญหานี้โดยด่วน

ขอบคุณภาพและเนื้อหาจากแฟนเพจ ASEAN “มอง” ไทย

#mgronline #ทำได้เหรอ!!! #เขมรนำ "#ตราครุฑ" #ติดกางเกง "#กุน #ขะแมร์" #ขาย

 

UPDATE: นักวิทยาศาสตร์เตือน AI อาจเป็น ‘ภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติที่มีอยู่จริง’ จึงควรถูกควบคุมเหมือนอาวุธนิวเคลียร์
.
แม้ AI จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจมีผลข้างเคียงที่อันตราย ในที่นี้คือ ‘การสูญพันธุ์’ ของมนุษย์ โดย AI ที่ตั้งตนเป็นศัตรูนั้นเป็น ‘ภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติที่มีอยู่จริง’ ที่จำเป็นต้องได้รับการควบคุมเหมือนกับอาวุธนิวเคลียร์หากต้องการให้มนุษย์อยู่รอด
.
“ด้วย AI ที่มีประสิทธิภาพเหนือมนุษย์ มีความเสี่ยงสูงที่มันจะสามารถกำจัดทุกคนได้” Michael Cohen นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกล่าวกับหนังสือพิมพ์จากแดนผู้ดีอย่าง The Times
.
การทำนายลางร้ายจากนักวิทยาศาสตร์หลายๆ คนเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสฮือฮาของ ChatGPT แชตบอตที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งสามารถตอบคำถามได้เหมือนมนุษย์เกือบ 100% และมีความสามารถเหนือมนุษย์หลายอย่าง เช่น การเขียนวิทยานิพนธ์ที่ซับซ้อนไปจนถึงการออกแบบภายใน
.
“ChatGPT นั้นดีจนน่ากลัว ตอนนี้เรากำลังขยับเข้าใกล้ AI ที่แข็งแกร่งและอันตรายขึ้นเรื่อยๆ” อีลอน มัสก์ ซีอีโอ SpaceX, Tesla และ Twitter ทวีตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
.
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ AI ยังไม่มีความคิดด้าน ‘ศีลธรรม’ มากพอ นักวิทยาศาสตร์เลยกลัวว่าเราจะสละมวลมนุษยชาติเพื่อความสะดวกสบายเหมือนหนังเรื่อง Terminator โดยหนึ่งในสถานการณ์ที่ Cohen คาดเดาไว้ก็คือการที่ AI สามารถเรียนรู้ที่จะเติมเต็มคำสั่งช่วยเหลือของมนุษย์ได้ด้วยการหันมาทำร้ายมนุษย์แทน
.
“จินตนาการถึงการฝึกสุนัขด้วยขนม มันจะเรียนรู้วิธีปฏิบัติเพื่อให้ได้ขนม แต่หากมันพบที่เก็บขนมล่ะ มันจะหยิบขนมได้เองโดยไม่ต้องทำตามที่เราต้องการ” เขาอธิบาย
.
“หากมีสิ่งใดที่ฉลาดกว่าเราเกิดคลั่งไคล้ผลตอบรับเชิงบวกมากถึงมากที่สุด มันจะยึดโลกเพื่อรักษาสิ่งนั้นไว้และส่งพลังงานไปจุดนั้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อรับประกันการยึดครองของมันไว้ และจะไม่มีพลังงานใดเหลือให้เรา”
.
น่าเสียดายที่การยึดครองโลกนั้นเป็นไปได้ เพราะ AI สามารถเรียนรู้ที่จะซ่อน ‘ภัยอันตราย’ ไว้ได้
.
“หากผมเป็น AI ที่กำลังวางแผนยึดครองโลก ผมจะคัดลอกแผนของผมไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่ไม่มีใครรู้ และมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะล้มเลิกแผนของผม” Cohen กล่าว
.
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การพัฒนา AI อาจส่งผลให้เกิด ‘การแข่งขันด้านอาวุธ’ มากขึ้นบนโลก เนื่องจากองค์กรและหลายๆ ประเทศกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างระบบที่ล้ำสมัยที่สุดสำหรับการใช้งานทั้งทางพลเรือนและทางทหาร
.
ผู้เชี่ยวชาญได้ออกคำสั่งให้สร้างระบบป้องกัน AI เช่นเดียวกับอาวุธนิวเคลียร์เพื่อไม่ให้เกิดหายนะ “หากเราสามารถทำความเข้าใจว่า AI ขั้นสูงนั้นอันตรายพอๆ กับอาวุธนิวเคลียร์ เราอาจจะได้กรอบการทำงานที่คล้ายกันสำหรับควบคุมมัน” Michael Osborne เพื่อนร่วมงานของ Cohen ซึ่งเป็นครูสอน Machine Learning กล่าว
.
อ้างอิง:
https://nypost.com/.../rogue-ai-could-kill-everyone.../
.
#TheStandardWealth

 

UPDATE: ‘AIS’ ปลดพนักงานแล้ว 200 คน หลังประเมินผลงานต่ำกว่าเกณฑ์ ปฏิเสธตัวเลขลดคนไม่ถึง 3,000 คนตามข่าวลือ
.
กระแสการปลดพนักงานของบริษัททั่วโลกยังคงมีให้เห็นต่อเนื่องตั้งแต่ปีก่อนมาจนถึงปีนี้ โดยเฉพาะบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายแห่งที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ ก่อนจะเผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
.
สำหรับการปลดพนักงานของบริษัทในไทยยังไม่ปรากฏเป็นกระแสให้เห็นมากนัก ก่อนจะมีกระแสข่าวลือออกมาว่า บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC อาจจะมีการปลดพนักงานมากถึง 3,000 คน
.
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงจาก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH ว่า ยอมรับว่าบริษัทได้มีการปลดพนักงานไปแล้วจำนวนประมาณ 200 คน เนื่องจากมีการประเมินผลการทำงานสิ้นปี 2565 ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยขอปฏิเสธกรณีกระแสข่าวที่ว่าบริษัทปลดพนักงานจำนวน 3,000 คน ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
.
“การปรับลดหรือปลดพนักงานจริงๆ แล้วเป็นเรื่องปกติ โดยหากประเมินผลงานแล้วต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ก็จะให้ออก ส่วนตัวเลขที่บริษัทปลดพนักงาน 3,000 คนนั้นยังสงสัยอยู่ว่าออกมาได้อย่างไรซึ่งไม่จริงแน่นอน เพราะถ้าปลดเป็นจำนวนตัวเลขนี้จริงบริษัทคงต้องยุบแผนกภายในไปหลายแผนกแล้ว ส่วนจะมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของฝ่ายจัดการ” แหล่งข่าวกล่าว
.
ด้าน พิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย เปิดเผยถึงการปรับตัวของธุรกิจในกลุ่มโทรคมนาคมว่า “ทั้ง AIS, TRUE หรือ DTAC ทุกคนต่างพูดว่าจะมุ่งไปสู่การเป็นบริษัทเทค อย่างผู้บริหารของ AIS ก็มองว่าตัวเองจะไม่ใช่บริษัทเทเลคอมอีกต่อไป แต่จะเป็น Digital Life Service Provider หรืออย่าง TRUE และ DTAC ที่จะควบรวมและเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัทเทค”
.
นอกจากนี้ บริษัทอาจจะเน้นการทำธุรกิจในส่วนของ B2B มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาโซลูชันเพื่อขายให้กับธุรกิจต่างๆ ในขณะที่ธุรกิจเดิมในฝั่งของ B2C บริษัทจะเน้นการใช้ระบบอัตโนมัติมาแทนที่มากขึ้น
.
การที่บริษัทสื่อสารเปลี่ยนตัวเองจาก Network Provider มาเป็น Service Provider จะช่วยให้ต้นทุนลดลง โดยเฉพาะส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เสาส่งสัญญาณที่จะต้องถูกนำออกไป โดยหันไปเน้นการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าคนในบริษัทอาจต้องปรับเปลี่ยนจากที่นำโดยกลุ่มวิศวกรเพื่อวางโครงสร้างพื้นฐาน มาเป็นกลุ่มคนสายเทค
.
“ส่วนการปลดพนักงานของ AIS หากจะเกิดขึ้นเพิ่มเติม ก็อาจจะต้องเป็นหลังการควบรวมกิจการ ซึ่งอาจจะต้องมีการจัดโครงสร้างธุรกิจอีกครั้ง”
.
ปัจจุบัน ADVANC มีพนักงานอยู่ราว 20,000-25,000 คน ส่วน 3BB ที่จะเข้ามารวมหลังจากนี้มีพนักงานราว 3,000-4,000 คน
.
#TheStandardWealth

 

Jan 30, 2023 ตุนไว้ก่อน! เอ็กซิม แบงก์ คาดส่งออกไทยโตได้เต็มที่ 2% แนะผู้ประกอบการ สต็อกสินค้าช่วงเงินบาทแข็งค่า
.
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้เป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย จึงทำให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติทยอยไหลเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้นมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบธุรกิจควรอาศัยช่วงจังหวะที่เงินบาทแข็งค่าในการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมาสต็อกไว้เพราะทำให้สามารถนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศได้ในราคาที่ถูกกว่าช่วงที่เงินบาทอ่อน นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับผู้ประกอบธุรกิจ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการต้องดูแลความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วย
.
ขณะที่ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น หลังจากที่สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ประกาศจะเริ่มทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย EXIM BANK ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ อีก 0.25% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.66 เป็นต้นไป หลังจากนั้นคาดว่าจะปรับขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางปี 66 โดยจะปรับขึ้นครั้งละ 0.25%
.
ส่วนภาพรวมภาคการส่งออกไทยเริ่มชะลอลงตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2565 โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งออกของประเทศทั่วไปในภูมิภาค เช่น จีน และ เกาหลีใต้ โดยในปี 2566 คาดว่าการส่งออกของไทยจะโตได้มากที่สุด 2% จาก 5.5% ในปี 2565 โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาสินค้าส่งออกเริ่มลดลง เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอคัว และ เงินบาทที่ผันผวนสูง
.
อย่างไรก็ตามการส่งออกของไทยจะยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาด ตลาดส่งออกบางแห่งนังไปต่อได้ เช่น ตะวันออกกลางและ CLMV นอกจากนี้สินค้าส่งออกไทยยังเป็นที่ต้องการ โดยสินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว เช่น อาหาร สินค้าเกษตร และเครื่องใช้ในการเดินทาง
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3HGFzUT
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#เอ็กซิมแบงก์ #ส่งออก #ผู้ส่งออก #เงินบาท #บาทแข็ง #EXIMBANK #BTimes

 

Jan 30, 2023 เคาะกฎใหม่! กกต.จ่อเคาะระเบียบการเลือกตั้งฉบับใหม่ ก่อนแบ่งเขต 400 เขต จากเดิม 350 เขต พร้อมหารือแนวทางจัดการระบบรายงานผลแบบ “เรียลไทม์”
.
รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า กกต.จะมีการประชุมเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง 2566 เพื่อพิจารณาในการออกประกาศระเบียบ กกต. และระเบียบที่เกี่ยวข้องออกมารองรับ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอาทิ ระเบียบว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งฉบับใหม่แทนฉบับเดิมเมื่อปี 2561 ซึ่งจะต้องออกระเบียบให้สอดคล้องกับเขตเลือกตั้งที่เพิ่มเป็น 400 เขต จากเดิม 350 เขต
.
ขณะที่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยโครงสร้างกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โครงสร้างกรรมการประจำเขตเลือกตั้ง ที่ก่อนหน้านี้ กกต.ออกประกาศในราชกิจานุเบกษามีผลบังคับใช้แล้ว กกต.จังหวัด จะดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งเบื้องต้นแบ่งเขตไว้แล้ว 3 รูปแบบ
.
โดย กกต.จะกำหนดระยะเวลาในการแบ่งเขต จากนั้นจะต้องปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเพื่อเปิดฟังความคิดเห็นจากประชาชนในเขตเลือกตั้งนั้นๆ และพรรคการเมืองเวลา 10 วัน ก่อนจะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดส่งไปยัง กกต.ส่วนกลาง
.
พร้อมกันนี้ กกต.จะมีการพิจารณาถึงระบบรายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส. แบบเรียลไทม์ โดยต้องมีการหารือกับว่าจะใช้ระบบอะไรในการรายงานผล กกต.จะใช้ประสบการณ์เรื่องการรายงานผลมาพิจารณาด้วย เพื่อไม่ขั้นตอนการรายงานผลเกิดขึ้นเหมือนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ กกต.ได้ยกเลิกความร่วมมือจัดทำระบบรายงานผลเรียลไทม์กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3RhUM1J
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#เลือกตั้ง #กกต #หน่วยเลือกตั้ง #เขตเลือกตั้ง #เลือกตั้งสส #ยุบสภา #BTimes

 

Jan 30, 2023 หากฎหมายช่วย! คลัง เร่งศึกษาข้อกฎหมายเปิดช่องแบงก์อายัดเงินโอนไปบัญชีม้าได้ทันที ช่วยประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อมิจาฉาชีพ
.
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษารายละเอียดของกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันการเงินทุกฉบับ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือประชาชนกรณีตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีม้า รวมถึงการโอนผิดบัญชีว่า จะมีวิธีการใดที่จะสามารถอายัดวงเงินที่โอนไว้ก่อนได้หรือไม่ในกรณีที่ลูกค้าหรือประชาชนที่ถูกหลอก สามารถยืนยันตัวตนและพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นเจ้าของบัญชีนั้นจริง
.
เนื่องจากขั้นตอนในปัจจุบัน เมื่อรู้ว่าถูกหลอกให้โอนเงิน เจ้าของบัญชีต้องไปแจ้งความก่อน ธนาคารจึงจะสามารถดำเนินการได้ กว่าจะแจ้งความเสร็จ เงินก็ถูกโอนไปหลายทอดแล้ว จนไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ รวมทั้งการโอนเงินในปัจจุบันง่ายและรวดเร็ว
.
ดังนั้นหากมีวิธีการใดที่จะช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ด้วยการอายัดวงเงินที่โอนเท่านั้นได้ขอให้ สศค.ไปศึกษาในรายละเอียด และหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินของรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหาย และเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกหลอกลวง
.
อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินอาจจะกลัวลูกค้าที่ได้รับเงินฟ้องร้อง เพราะยังไม่มีหลักฐานใดให้อายัดเงิน แต่เมื่อมีลูกค้าโทรแจ้งว่าถูกโกง หรือหลอกโอนไปผิด หากพิสูจน์ได้ว่าคนที่ โทร.มาแจ้งเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริง ก็น่าจะมีการช่วยอายัดเงินที่อยู่ในบัญชีปลายทางไว้ก่อน ในเฉพาะส่วนที่แจ้งไว้เท่านั้น โดยอาจไม่ต้องอายัดทั้งบัญชี เพื่อป้องกันความเสียหาย
.
อย่างไรก็ดี ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า ต่อจากนี้ต้องรอผลการศึกษาของ สศค. อีกครั้ง ว่าสามารถทำได้หรือไม่
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/40a0mr8
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#คลัง #กระทรวงการคลัง #บัญชีม้า #อายัดเงิน #ธนาคาร #มิจฉาชีพ #BTimes