ทฤษฎีสัมพันธภาพและกลศาสตร์ควอนตัม สู่การเดินทางของจิต การมองเห็นวิญญาน และกาลเวลา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย gotodido, 6 พฤษภาคม 2008.

  1. gotodido

    gotodido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +147
    ถามว่า รู้ Higgs boson แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น และความเสี่ยงของการทดลองมีอะไรบ้างในความน่าจะเป็น

    ผลดีที่จะเกิดจากทดลองครั้งนี้
    1. เราอาจจะได้เห็นการเคลื่อนของอนุภาคที่เร็วกว่าความเร็วแสงเนื่องมาจากการชนกันที่ความเร็วแสง อาจจะพัฒนาต่อไปเรื่องไทม์มาชีน และการเดินทางสำรวจกาแลคซี่

    2. เราได้รู้ต้นกำเนิดของสะสารทุกอย่าง และสังเคราะห์ขึ้นมาได้เอง การสร้างสิ่งมีชีวิตจากสิ่งไม่มีชีวิต เช่นพลังงาน มีเค้าโครงมากขึ้น พัฒนาต่อถึงเรื่องอายุของมนุษย์ปัจจุบัน(กับอวัยวะเทียม)

    3. ไขปริศนา ต่างๆเช่นเรื่องวัตถุมืด ปรากฏการที่ยังอธิบายไม่ได้

    4. แหล่งพลังงานใหม่ ที่ได้จากสภาวะควาร์ก-กลูออน ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าประมาณ 175 MeV (ประมาณ 2 ล้านล้านเคลวิน!) -ถ้าย่อไอ้เครื่อง LHC ที่ยาว27กิโลเมตร สูงเท่าตึก7ชั้นให้เล็กลงกว่านี้ได้ - ใช้เงิน กะเวลาสร้างน้อยกว่านี้

    สรุป เกิดการพัฒนาของวิทยาศาสตร์ทุกแขนง


    มาดูความเสี่ยงของการทดลองมีอะไรบ้างในความน่าจะเป็นกันบ้างครับที่นักวิทยาศาสตร์กลัวๆกัน

    1.แบล็คโฮลขนาดเล็กขึ้นมาทำลายล้างโลก

    หลุมดำ ตามฟิสิกส์แบ่งเป็นแบบนี้ครับ

    a. หลุมดำยักษ์หรือหลุมดำมวลยิ่งยวด(Supermassive black holes) หลุมดำจำพวกนี้จะมีมวลมากมายมหาศาล อาจมีมวลมากนับเป็นหลายพันล้านเท่าของดวงอาทิตย์ ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในใจกลางของกาแล็กซีขนาดใหญ่ ๆ

    b.หลุมดำที่เกิดจากวิวัฒนาการของดวงดาวหรือหลุมดำที่เกิดจากดาวฤกษ์ตายแล้ว(Stellar black holes) ดาวฤกษ์ที่มวลมาก ๆ ถึงคราวหมดอายุไข จะเกิดการระเบิดเป็น ซูเปอร์โนวา หากหลังการระเบิดยังหลงเหลือมวลสารที่ใจกลางของดาวมากกว่า 3 เท่าของดวงอาทิตย์ มวลใจกลางดาวนั้นจะยุบตัวต่อลงเป็นหลุมดำ ตรงนี้มีมากมายในจักรวาล

    c. หลุมดำจิ๋ว (Mini black holes)หลุมดำพวกนี้ มีขนาดราว 10-15 เมตรเป็นหลุมดำที่มีมวลเพียงไม่กี่ร้อยล้านตัน มีขนาดเล็กเพียงขนาดของอะตอมเท่านั้น เกิดขึ้นหลังจากเกิดบิ๊กแบงได้ไม่นาน หลุมดำชนิดนี้จะมีอายุสั้นและจะสลายตัวด้วยการระเบิด ปลดปล่อยรังสีแกมมาออกมา หลุมดำชนิดนี้เป็นหลุมดำในทางทฤษฎี : อันนี้ล่ะที่จะเกิดที่การทดลองของ cern กับเครื่อง LHC


    2.เปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลกให้เหลือข้างเดียว

    3.มีผลให้โลกเอียง ตรงนี้ผมเคยได้อ่านกระทู้ในเวบนี้ว่า ภาคใต้จะจมทะเลในอีกไม่กี่เดือนซึ่งเป็นเพียงคำทำนาย อาจจะเกิดจากการทดลองครั้งนี้ครับ

    แล้วยังมีอีกหลายเรื่องเช่นเดียวกับประโยนช์ที่มีเยอะมาก ในทางทฤษฎี
    การทดลองครั้งนี้ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าการทดลองนี้ปลอดภัย100%

    วอลเตอร์ แอล.วากเนอร์ (Walter L.Wagner) ผู้อาศัยอยู่ในมลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา และศึกษาวิจัยฟิสิกส์และรังสีคอสมิกที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กเลย์ (University of California, Berkeley) ทั้งยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยนอร์เธิร์นแคลิฟอร์เนียในซาคราเมนโต (University of Northern California in Sacramento) และลูอิส ซานโช (Luis Sancho) ซึ่งระบุว่าทำวิจัยเกี่ยวกับทฤษฎีเวลาและอาศัยอยู่ในสเปน ได้ยื่นคำร้องให้ศาลระงับการทดลองไปเมื่อวันที่ 21 มี.ค.51 ที่ผ่านมา และจะมีการไต่สวนในวันที่ 16 มิ.ย.51

    เครื่องLHC ใช้เวลา 14 ปีและลงทุนไปกว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 256 000 ล้านบาท คิดว่าไม่น่าล้มได้ง่ายๆ -แต่ทำไมเพิ่งมาฟ้องเอาตอนนี้ 13-14ปีที่แล้วสองคนนั้นทำไรอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2008
  2. montri_p

    montri_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +467
    พวกคุณเป็นคนเก่งกันครับ อยากให้คนหลายๆ คนได้อ่านถึงจะไม่เข้าใจในส่วนมากก็ตาม แต่อยากให้คิดตามกันว่าเราที่เป็นอยู่นี้เป็นแค่จุดๆ เดียวเล็กๆ เท่านั้น มีเรื่องอะไรให้รู้ให้หาอีกมากในบทความนี้ เพราะยังไงวิทยาศาสตร์ในยุคของมนุษย์ไม่ว่าจะอีกกี่ล้านชาติก็ไม่น่าจะสามารถทัน วิทยาศาสตร์ของพุทธศาสนาครับ ก็ให้พึงระลึกของผู้ได้อ่านว่า คำสอนของพุทธไม่ใช่ความไม่รู้ ไม่ใช่ความโง่เขลา โบราณ คร่ำครึ แต่เป็นต้นตำหรับแห่งวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์ยังไม่สามารถค้นหาถึงได้ด้วยหลักทฤษฎีที่มนุษย์ตั้งขึ้นมา การเกิดมาในชาติหนึ่งก็ควรจะหาความรู้เพื่อทำให้เกิดสิ่งดีแก่เพื่อนมนุษย์ สัตว์ และโลกใบนี้ดีกว่าครับ
    คนสมัยนี้ไม่คิดมองว่าตัวเราเองมันเล็กมากขนาดใหน ถ้าเปรียบกับเนื้อหาที่เราได้อ่านในกระทู้นี้ ในปัจุบันนี้มนุษย์มองว่าเรามีเรา เราเป็นใหญ่ต้องให้ตัวเองมีความสุขอย่างเดียว จึงเกิดความเห็นแก่ตัว เอาเปรียบกัน ทำร้ายกัน จิตใจต่ำลงไปทุกวัน
    ก็ขอโทษครับที่นอกเรื่อง โพสไม่เกี่ยวกับโพสข้างต้น แต่ถ้าได้คิดจะรู้ เพราะถ้าได้รู้อะไรมากๆ กว้างๆ เราจะเห็นว่ามันใกล้ตัวเราที่สุดครับ
    ชอบเนื้อหาของกระทู้มากครับก็ขอขอบคุณผู้มีความรู้มีปัญญาทั้งหลายมาโพสถามตอบกันครับ
     
  3. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    :d
     
  4. สุริยันจันทรา

    สุริยันจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +4,588
    อนุโมทนาครับ
    พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์คู่กันจนแยกไม่ออก
     
  5. chuang205

    chuang205 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +708
    อือ...อา....มึนนนนน.....แต่หนุกดี จะติดตามอ่านนะครับพ้ม
     
  6. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    พุทธจะออกแนวปลงๆ นะครับ

    แต่่วิทยาศาสตร์สู้ทุกอย่างเลย

    พุทธจะเน้นเรื่องการแพทย์มากกว่านะครับ

    คืออะไรก็ได้ที่พ้นทุกข์
     
  7. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ใครที่ถอดจิตไปสำรวจจักวาล
    บอกผมหน่อย มีดาวแปลกๆที่มีสิ่งมีชีวิตบ้างไหม
    แล้วแวะไปดูดาวเทียมให้หน่อย
    ผมอยากรู้ มีฝุ่นเกาะดาวเทียมบ้างไหม
     
  8. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    โอ้ น่าจะมีอะคับ เพราะเน็ตผมหลุดบ่อย เอามากเลย คับ อิอิ :555:
     
  9. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    ขอ ถามอะไรหน่อยเกี่ยวกับ อวกาศ และเวลา อะครับ

    ที่บอกว่าโลกเรามันหมุน ดาวหมุน จักรวาลหมุน โตครจักรวาลก็หมุน

    แล้วทำไมเราอยู่บนโลกจังรู้สึกว่ามัน คงที่เป็น นิ่ง ละครับ ทำไมไม่เซซัด

    ไปตามแรงหมุนของการโจร อะครับ

    ขอร้องว่าอย่าตอบว่าให้หลับตาหมุนตัว นะครับ คือผม เคยทดสอบแล้ว

    ถ้าใครตอบผมได้ กรุณาส่งเข้า PM ด้วยน๊า
     
  10. เดินทาง

    เดินทาง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +38
    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแรงดึงดูดหรือเปล่าครับ เลยไม่โดนเหวี่ยงหลุดออกไปจากโลก
    หรือไม่ก็อาจเป็นเหมือนตอนนั่งรถด้วยความเร็วคงที่ ไม่เบรคไม่เร่ง แล้วจะรู้สึก
    สงสัยเหมือนตอนเด็กๆว่า ทำไมพื้นดินกับต้นไม้มันวิ่งได้(smile)

    ส่วนเรื่องเวลาตามความคิดป๋ม มันไม่มีอ่า เขากำหนดอ้างอิงไว้เทียบเคียงแค่นั้น
    มีแต่ตอนนี้ อ้าวกลายเป็นอดีตไปแล้ว(cry) มันจะยืดจะหดจะเพี้ยนเบี่ยงเบนไปแค่ไหนก็ไม่รู้
    อย่างที่เขาบอกว่า "เวลา​เป็น​แค่คำ​หลอก​ ​เวลา​เป็น​แค่คำ​หลอก​ ​ก็มี​แต่​เข็มหมุนวนเรื่อยไป"
    [​IMG]
     
  11. bunlert

    bunlert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +820
    น่าสนใจครับ มนุษย์เรากำลังค้นคว้า สิ่งที่ไม่รู้ อีกหน่อยคงได้ออกไปนอกโลก เป็นว่าเล่น เหมือนในหนังสตาร์วอ นะครับ

    ธรรมะ = ธรรมชาติ
     
  12. ปีศาจร้าย

    ปีศาจร้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,240
    เวลาไม่สำคัญ....ชีวิตสำคัญกว่า
     
  13. พล1207

    พล1207 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +9
    ผมชอบกระทู้นี้ จังนะครับ อ่านแล้วได้ทัศน ที่ดีมาก ขอบคุณที่ให้เป็นวิทยทาน ผมทราบแค่จากข่าวถึงการทดลองใต้ดินที่สวิต แต่ท่าน แยกแยกเป็นเป็นประเด็นได้น่าสนใจ และระเบียบความคิดดีมากครับ ขอบคุณ จริง ๆ
     
  14. adubis

    adubis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +81
    ผมคิดว่าที่เราไม่รู้สึกเเรงหมุนเพราะเราเป็นเเค่ ตัวเล็กๆ เล็ฏกระจิดเดียวยืนอยุบนโลกอันกว้างใหญ่เราเลยไม่รุสึกหมุน
     
  15. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,439
    ค่าพลัง:
    +1,770
    คงต้องใช้เวลาอ่านหลายวันอะครับ อ่าผ่านๆเข้าใจดีครับ
     
  16. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,439
    ค่าพลัง:
    +1,770
    กลัวว่าถ้าผมแสดงความเห็นกลัวจะยาวอ่านก่อนดีกว่าครับ
     
  17. จื่อหลิง

    จื่อหลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +698
    สุดยอดครับได้ความรู้เยอะเลยครับ
     
  18. ปรารถนาโพธิญาณ

    ปรารถนาโพธิญาณ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    กว้างขวาง ลึกซึ้งคำภีรภาพมากครับ ...
    เกินจินตนาการ แต่ก็ได้ความรู้มากครับ...
     
  19. ปรารถนาโพธิญาณ

    ปรารถนาโพธิญาณ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    อยากฟังเรื่องที่ พระโมคลานะ กลับจักรวาลเราไม่ถูกจนต้องอาศัย พระรัศมีจากพระพุทธเจ้าในจักรวาลอื่น ช่วยนำทางครับ (ได้ยินมาแบบไม่ชัดเจนนัก หากใครจะกรุณา ส่งมาทางเมล์ หรือตอบกระทู้ก็ได้นะครับ : sdesigns.w@gmail.com )
     
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    อ้างอิง: http://palungjit.org/showthread.php?t=150516

    ...เอกภพแรกสุดเกิดมาจากศูนย์

    จากการที่รู้ว่าเอกภพสามารถให้กำเนิดเอกภพใหม่ได้ช่วยให้ความรู้เกี่ยว กำเนิด ของเอกภพของเราก้าวหน้าขึ้นขึ้นไปอย่างมาก แต่ถ้าคิดให้ดีก็จะ เห็นว่าในคำอธิบายข้างต้นไม่ได้บอกว่าเอกภพแม่แรกสุดมาจากไหน บอกแต่ว่าเอกภพแม่นี้ให้กำเนิดเอกภพลูก หลาน เพื่อที่จะเข้าใจถึงกำเนิดของ เอกภพอย่างถ่องแท้ เราจะต้องสามารถเข้าใจและอธิบายได้ว่าเอกภพแม่เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทฤษฎีล่าสุดยังอธิบายจุดนี้ไม่ได้เช่นนั้นหรือ ปัจจุบันนัก ทฤษฎีระดับโลก เช่น ฮอว์คิง และวิเลนเคนกำลังศึกษาเพื่อหาคำตอบต่อปัญหานี้อยู่ และคนทั่วโลกให้ความสนใจกับฮอว์คิงขณะนี้ก็เพราะต้องการรู้ คำตอบเร็วๆ นั่นเอง ในการศึกษาของฮอว์คิงนั้น เขาได้ใช้คณิตศาสตร์ชั้นสูงกับฟังก์ชันคลื่น (wave function) ของอวกาศซึ่งเข้าใจยากมากสำหรับ คนธรรมดา เพราะฉะนั้นในที่นี้จะอธิบายถึงแนวทางการศึกษาของวิเลนเคนซึ่งเข้าใจได้ค่อน ข้างง่ายกว่า ที่จริงความคิดของสองคนแทบจะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าเข้าใจความคิดของวิเลนเคนได้ก็แสดงว่าก็เข้าใจความคิดของฮอว์ คิงแล้วเช่นกัน วิเลนเคนได้ใช้ทฤษฎี ลอดอุโมงค์ ของอนุภาคพื้นฐาน อธิบายว่าเอกภพแรกสุดเกิดมาจากศูนย์ เอกภพแรกสุดเกิดมาจากปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์

    ก่อนที่จะอธิบายทฤษฎีของวิเลนเคน ขอเน้นทฤษฎีที่บอกว่าเอกภพแรกเกิดมาจากศูนย์ นั่นเป็นทฤษฎีที่จะสามารถอธิบาย กำเนิดของเอกภพได้ สมบูรณ์ที่สุด เพราะในแง่ของปรัชญาศาสตร์แล้วถ้าเอกภพแรกไม่ได้เกิดมาจากศูนย์ ก็จะมีคำถามต่อได้ว่า แล้วก่อนหน้านั้นมันมีอะไร ซึ่งจะถามไปได้ อย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเอง แล้วปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์ของวิเลนเคนคืออะไร เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับคำๆ นี้ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับในระดับอนุภาค พื้นฐานนั้นปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สุดอย่างหนึ่ง เราจะเข้าใจปรากฏการณ์นี้ได้ดังนี้ สมมติมีลูกบอลวางอยู่ตรงหุบเขาระหว่างยอด เขาสองลูก ตามปกติจะให้ลูกบอลออกจากหุบเขานี้ได้จะต้องโยนหรือยกลูกบอลข้ามยอดเขาถึงจะ ทำได้ แต่ปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์ บอกเราว่า ลูกบอลสามารถ ลอด (อุโมงค์) ใต้ยอดเขาออกมาข้างนอกได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเลยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเป็น ประจำกับอนุภาคพื้นฐานต่างๆ แม้แต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น นาฬิกาควอตซ์ ทรานซิสเตอร์ ฯลฯ ซึ่งก็คือการประยุกต์ใช้ปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์ของอิเล็กตรอนให้เป็น ประโยชน์นั่นเอง วิเลนเคนบอกว่า เอกภพเริ่มเกิดด้วยปรากฏการณ์นี้เช่นกัน นั่นก็คือเอกภพแม่แรกสุดเกิดมาจากศูนย์ ด้วยปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์ มี เกิดจาก ศูนย์ ได้อย่างไร

    ตามทฤษฎีขนาดของเอกภพตอนแรกที่เกิดจากศูนย์ด้วยปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์นั้นมี ขนาดประมาณ 10 (ยกกำลัง 32) เซนติเมตร ซึ่งเป็น ขนาดที่เล็กยิ่งกว่าอนุภาคพื้นฐานมากมาย วิเลนเคนบอกว่าในโลกระดับเล็กขนาดนั้นไม่แปลกเลยที่จะเกิดปรากฏการณ์ลอด อุโมงค์ แต่ก็ยังคงเป็นที่ น่าสงสัยอยู่ดีว่าการที่เอกภพเกิดจากศูนย์นั้นเป็นไปได้อย่างไร ตามคำอธิบายข้างต้นของปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์จะเห็นว่าก่อนลอดนั้นมีลูกบอล อยู่ที่ หุบเขาอยู่แล้วจะบอกว่าสภาพเป็นศูนย์ได้อย่างไร เพื่อที่จะเข้าใจจุดนี้เราต้องเข้าใจคำว่าศูนย์ ของวิเลนเคนให้ดี ศูนย์ ตามทฤษฎีของวิเลนเคน

    ศูนย์ ที่วิเลนเคนบอกก็คือไม่มีเอกภพ นั่นก็คือไม่มีทั้งเวลา (กาล) และอวกาศ แต่ถึงจะไม่มีทั้งกาลและอวกาศก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรเลย นี่เป็นจุดที่เข้าใจยากจุดหนึ่ง ก็เพราะว่าปกติเราจะไม่เรียกสภาพที่ไม่มีอะไรว่าศูนย์ แต่ทางทฤษฎีของอนุภาคพื้นฐานจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ตัวอย่าง ต่อไปนี้อาจช่วยให้เข้าใจได้ดีขึ้น ที่ศูนย์วิจัย Fermi ของ อเมริกาและ CERN ของยุโรป (ที่สวิส) จะมีเครื่องเร่งอนุภาคที่ใช้ในการทดลองเกี่ยวกับ อนุภาคพื้นฐาน สิ่งหนึ่งที่นักวิจัยทำกันอยู่คือการรวมพลังงานขนาดมหึมาเข้าสู่จุดหนึ่งใน อวกาศ (สุญญากาศ) ซึ่งผลที่เกิดขึ้นก็คือจะเกิดอนุภาคขึ้นใน อวกาศที่แต่เดิมไม่มีอะไรเลย อนุภาคเหล่านี้ก็คือโปรตอนและแอนติโปรตอน อิเล็กตรอนและแอนติอิเล็กตรอน ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ ก็เพราะอวกาศที่เราคิด ว่าไม่มีอะไรเลยนั้นเมื่อมองในระดับที่เล็กมากๆ และในเวลาที่สั้นมากๆ จะมีการเกิดและสลายตัวของอนุภาคอยู่ตลอดเวลา ถ้าเรารวมพลังขนาดสูงเข้าที่ จุดในอวกาศ อนุภาคที่เกิดขึ้นที่นั่นจะปรากฏตัวออกมาให้เห็นได้ นั่นก็คือ ถึงจะมองไม่เห็น แต่ในสุญญากาศนั้นจะไม่ใช่อวกาศที่ไม่มีอะไรแต่จะมีการเกิด และสลายตัวของอนุภาคอยู่ตลอดเวลา เอกภพเกิดขึ้นจากสภาพ ศูนย์ หรือเอกภพสมมติ

    วิเลนเคนบอกว่าการเกิดของเอกภพก็สามารถคิดได้ในทำนองเดียวกัน นั่นก็คือสภาพศูนย์นั้นมีเอกภพสมมติอยู่ระหว่างยอดเขาสองลูกในหุบเขา (ซึ่งนักฟิสิกส์เรียกสภาพนี้ว่า Super space) ในสภาพนี้จะการเกิดและสลายตัวของเอกภพอยู่ตลอดเวลา เกิดแล้วก็สลาย สลายแล้วก็เกิด จะเปลี่ยน แปลงไปมาตามกฎของความไม่แน่นอน ซึ่งทางฟิสิกส์จะเรียกสภาพนี้ว่าไม่มีสถานะที่เสถียร และวิเลนเคนนิยามว่านี่คือสภาพศูนย์นั่นเอง และเอกภพของ เรานั้นก็เกิดมาจากปรากฎการณ์ลอดอุโมงค์ของเอกภพสมมติอันใดอันหนึ่งนั่นเอง --- The End ---

    ที่มาข้อมูล:http://www.doodaw.com/article/index.php?topic=universe<!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...