การไม่ระบุศาสนาในบัตรประชาชนมีแต่ในประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์เท่านั้น

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เครือข่ายภาค ปชช.จี้รัฐใส่สถานะนับถือศาสนาในบัตร ปชช.เหมือนเดิม</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤษภาคม 2551 15:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> รัฐบาลทำเรื่องไม่เลิก! องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เตรียมยื่นหนังสือถึง​

 

อย่าว่าแต่ในบัตรประชาชนเลย แม้แต่ในทะเบียนบ้านแบบใหม่ก็ไม่ระบุศานาเช่นกัน หมดความภูมิใจไปตั้งเยอะที่ไม่ได้ประกาศในเอกสารของทางราชการว่า นับถือศาสนาพุทธ

ไม่รู้ว่าฯพณฯท่านเล่นอะไรกันอยู่ สงสัยเล่นบทบาททำลายศาสนาทางอ้อม เพราะหากไม่มีลงในเอกสารทางราชการก็คงไม่สามารถประกาศกับชาวโลกได้ว่าประเทศไทยเป็นผู้นำทางศาสนาพุทธของโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ สุดแสนอนาถใจจริงๆ

 

หันมาดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีกว่า เพราะตอนนี้ค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นมาก มัวแต่ทำเรื่องไม่เข้าท่า ระอาหนอ พอเถอะหนอ

 

อย่าคิดมากเลยครับ พุทธ คริสต์ อิสลาม มันอยู่ที่ใจเรา

ถ้าในบัตรบอกพุทธ สวดมนต์อรหัง สัมมา ฯ เพื่อกราบพระรัตนตรัย

ยังไม่ได้ เราจะยังภูมิใจอยู่หรือเปล่า

 

ขนาดระบุยังปลอมกันได้เลยครับ

 

ขอบคุณข่าวสารสาระครับ

ตรงบัตรจะระบุหรือไม่ระบุ มันก็ต้องวิเคราะห์ดูว่ามีประโยชน์กับประชาชนหรือไม่

แต่ที่อยากจะให้ทำคือ ระบุที่มันใหญ่ว่านั้นคือ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ

 

อนุโมทนาสาธุ

เมื่อมีโอกาสเกิด เท่ากับ ได้มีโอกาสที่จะพัฒนา และสร้างความดี

โอกาสที่จะแก้ตัว ทำให้ดีขึ้น แล อนุโมทนา สาธุ

 

ที่เมืองนอกช่วงประมาณ 80-90 ปีที่ผ่านมาได้มีผู้นำทางจิตวิญญาณเกิดขึ้นมากมายรวมถึงสื่อที่มีวิวัฒนาการสูงขึ้นจนศาสตร์ทางจิตวิญญาณต่างๆทางโลกแถบตะวันออกได้เผยแผ่เข้าไปในซีกโลกตะวันตก ทำให้ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนมากในประเทศทางแถบยุโรบ อเมริกา เองนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นและเยาวชนทั้งหลาย เริ่มหันมาสนใจกับคำสอนของผู้นำทางจิตวิญญาณรวมถึงศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณทางแถบซีกโลกตะวันออกเหล่านั้น เช่น ท่านไสบาบา โยคีโยคานันทะ องค์ดาไลลามะ ศาสนาพุทธ เซน เต๋า ตันตระ วัชรยาน กฤษณมูรติ ฯลฯ รวมไปถึงนักพลังจิตและนักศึกษาเกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณ เรื่องสมาธิ ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมามากมาย

ทำให้เกิดกระแสการหันมาสนใจปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิกันมากขึ้น แต่ก็มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่หันไปนับถือศาสนาหรือศาสตร์อื่นอย่างจริงจัง โดยส่วนใหญ่จะยังคงนับถือศาสนาคริสต์อยู่เพียงแต่นำเอาหลักการปฏิบัติของศาสตร์ทางจิตวิญญาณต่างๆของซีกโลกตะวันออกทั้งหลายนั้นมาปฏิบัติ โดยกลายเป็นการบูรณาการหรือกลายเป็นการผสมผสานกลมกลืนกันไปในที่สุด...........

ผมว่าคนไทยก็ลองคิดกันดูเองว่าแม้แต่คนต่างชาติเองเขาก็ยังมีความสนใจหันมาปฏิบัติศึกษาในศาสตร์ทางศาสนาพุทธ รวมถึงจิตวิญญาณต่างๆอย่างจริงจัง แสดงว่าเขาเห็นความสำคัญและมองเห็นถึงคุณค่าของสิ่งเหล่านี้ขนาดไหน แม้บางคนอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นอย่างจริงจัง โดยชาวต่างชาติเขาจะเน้นที่การปฏิบัติมากกว่าการศึกษา แล้วประเทศไทยที่ชาวต่างชาติยกย่องกันว่าเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา เนื่องจากศานาพุทธมาเจริญเติบโตและฝังรากลึกอยู่ในประเทศไทยนี้เป็นเวลายาวนาน ส่วนที่อินเดียที่เป็นต้นกำเนิดเองก็มีเหตุที่ทำให้ศาสนาพุทธต้องเสื่อมไปเพราะเหตุบางประการ แล้วคนไทยเองจะไม่มองเห็นถึงคุณค่านี้เลยเชียวหรือครับ

ปล.สงสัยอย่างหนึ่งคือถ้าเรื่องนี้เป็นมติของ ครม.จริง แล้วที่ท่านนายกฯ บอกว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำไมจึงบอกว่าจะนำเอาเรื่องที่จะระบุว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติรวมเข้าไปด้วย ซึ่งดูแล้วมาขัดแย้งกับมติ ครม. ในกระทู้นี้เลยนะครับ ผมจึงสงสัยว่าการคิดที่จะออกกฎหมายอะไรนั้นเอาอะไรเป็นมาตรฐาน ทำไปเพื่ออะไร หรือแม้แต่ใน ครม. เองก็มีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ ต่างกลุ่มต่างทำงาน ไม่ได้ประสานสอดคล้องกันหรืออย่างไร จึงได้มีมติ ครม. ที่จะออกกฎหมายที่มีเป้าหมายมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกมาเช่นนี้ได้...........

 

ในเหรียญมรณะ หรือด๊อกแทรก ที่ติดตัวทหารไปรบแนวหน้า เขายังระบุ ว่านับถือศาสนาใด

 

ขนาดอยากจะให้พุทธศาสนาเป็นศานาประจำชาติยังไม่ได้ ก็ยังหยวน ๆ

แต่นี่ ในบัตรประชาชนยังไม่ให้ระบุศาสนา ประจำ

ศาสนาอื่น จะเหนือกว่าศาสนาพุทธหรือ

ประเทศไทย จะเป็นเหมือน อินเดีย เนปาล แล้วหรือที่จะสูญ.....

 

ที่ ด็อก แทค ระบุศาสนา ควร แล้ว เพราะ่ว่า ถ้าเกิดเสียชีวิต ยังสามารถ ทำพิธีที่ถูกต้องให้ศพได้

แต่ เรื่อง ระบุ หรือ ไม่ระบุศาสนา ลง ไป ใน เอกสาร

ไม่ใช่ ประเด็น ที่ ควร นำ มา ถก ใน ช่วงที่บ้าน เมือง ยัง มี ปัญหา สำคัญกว่า อยู่

การนับถือ ไม่ใช่ การ มีเอกสารระบุว่า นับถือ

การไม่ระบุลงไป ผมเห็นว่า เป็นการดีกว่า เพาะว่า มันเป็น สิทธิส่วนบุคคล

ผู้อื่นไม่สามารถมาล่วงละเมิดได้

แต่ มัน ไร้ สาระ ชิปเลยครับ

รู้กันอยู่แก่ใจ

การสร้างภาพ มัน ไม่ ใช่ ทาง แก้ ปัญหา

รู้ อยู่ แก่ ใจ มัน เป็น ยัง ไง มัน ก็ เป็น ไป อย่าง นั้น

วัย ไหน ควร ศึก ษา ธรรม แบบ ไหน (เพื่อ อะ ไร)

ที่ ผม ไม่ ยก ขึ้น มา ว่า ทาง ตรง ควร ให้ คน ปฏิบัติ เพื่อ หลุด พ้น

เพราะว่า สัตว์เกิดมา กรรมที่เนื่องมาด้วยนั้น ไม่เหมือนกัน

ขนาดสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จฯ ยังต้องเลือกโปรดเลยว่าควรไปโปรดบุคคลใดดี

อย่าบังคับใคร ให้มีคววามเชื่อเหมือนเรา

แต่ เรา ควร เสนอ ความ เชื่อ ของเรา ให้ เขา ได้ รับรู้

เขา จะ เชื่อ หรือ ไม่ เรา ไม่มี สิทธิ์ บังคับเขา มัน ขึ้น อยู่ กับ เขา เอง

 

สาธุๆ

สงสัยเราคงจะเป็นพ่อแม่เห็นแก่ตัว อะไรที่ว่าดีแล้ว ใช้แล้วได้ผล เป็นจริงแล้ว ก็อยากเก็บไว้ให้ลูกหลาน จะได้ไม่ต้องเริ่มนับที่ศูนย์ เดินซ้ำรอยเก่ากับร่ำไป

อาจจะฝืนสมมุติบัญญัติ แต่ก็ขอแสดงสัญลักษณ์ไว้ ว่าเราได้เกิดมาพบเจอพระพุทธศาสนาแล้ว เจอทางรอดแล้ว หากผู้ใดเจอแล้วยังด่อยศรัธา ก็เปรียบเสมือนยังมีชื่อในทะเบียนบ้าน อย่างไรซะ ก็ยังได้ประโยชน์ของการมีบ้าน
ในอนาคตการก็จะได้ถึงประโยชน์หากมีศรัธาพอ

คนแก่บนตามเรื่องตามราวนะจ๊ะ

 

อืม เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องศึกษาผลกระทบ มีการวิจัยด้วยนะครับ
การระบุในบัตรก็ดี แต่ทหารที่ประจำชายแดนภาคใต้ สายสืบ หรือแม้แต่ข่าวที่มุสลิมหัวรุนแรงยิงคนขับรถตู้ระหว่างทางไปยะลา ยิงตายเรียบรอดมา 1 คน ซึ่งเป็นคนขับ ซึ่งโชคดีคนขับที่รอดเป็นพุทธแต่เค้าพูดภาษาญาวี(ภาษาแขก)ได้ โจรใต้จะเข้ามายิง เข้าพูดภาษาแขก พวกโจรที่เข้ามายิงเห็นเป็นพวกมุสลิมเหมือนกันเลยรอด แต่ถ้าระบุศาสนาในบัตรประชาชนแล้ว ละก็คราวนี้อาจจะใช้วิธีจี้ทั้งขบวนให้ลงจากรถมาให้หมด แล้วเอาบัตรประชาชนมาดู (ดูง่าย) ใครเป็นพุทธ ยิงทิ้ง ใครเป็นมุสลิมปล่อยไป

** มีดีมีเสีย ระบุศาสนาในบัตรประชาชน อาจเป็นตัวแบ่งแยกคนในสังคมไทยได้ง่ายกว่าไม่มี ควรทำวิจัย ก่อนตัดสินใจ และนิสัยคนไทยก็เปลี่ยนบ่อย ช่วงที่อารายธรรมตะวันตกเข้ามา คริสต์เข้ามาก็อยากแต่งงานแบบคริสต์ ไปนับถือคริสต์ พอหายช่วงบูมก็กลับมานับถือพุทธ อะไรแบบนี้ เกิดช่วงทำบัตร บอกอยากนับถือคริสต์ ใส่ลงในบัตรเป็นคริสต์ ผ่านไป 3 เดือน เบื่อแล้ว อยากนับถือพุทธ อย่างงี้มันก็แป่ว หรือพวกเยาวชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นพุทธ นับถือพุทธ แต่สภาพแวดล้อมแถวนั้นชักจูง เพื่อนชวน แฟชั่น ชายแดนภาคใต้ไปทำบัตรประชาชน แต่ให้ระบุเป็นมุสลิมก็มี อย่างนึงอาจว่าปลอดภัย อีกอย่างอาจว่าเข้ากับคนในพื้นที่ได้ ซักพักก็จะกลมกลืม หันไปนับถือมุสลิมไปกันหมด ก็เป็นได้

 

เพราะว่าในฝ่ายรัฐบาลมีแต่อดีตคอมมิวนิสต์ทั้งนั้น

 

แรงไป..ประเทศคอมมิวนิสต์คงไม่มีพระนอนห้องแอร์ นั่งรถเบนซ์ ห่มจีวรผ้าไหมต่างหาก
คนเราจะนับถือศาสนาใดๆก็ได้ มันเป็นสิทธิ์บุคคลของเขา ในสหรัฐอเมริกาเข้าก็ห้ามนําศาสนา
มาสอนในโรงเรียนเนื่องจากมีนักเรียนหลายเชื้อชาติหลายศาสนาเรียนรวมด้วย..ใครจะไปโบสถ์
ไปวัดในวันอาทิตย์ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
อเมริกาไม่มีการลงศาสนาที่นับถือลงในหนังสือเดินทาง หรือในบัตรใดๆทั้งสิ้น
สมมุติว่าเขาลงในหนังสือเดินทางว่าคุณนับถือศาสนายูดายห์ หรือเป็นยิวแล้วเกิดเครื่องบินลํา
ที่คุณนั่งโดนผู้ก่อการร้ายอาหรับจี้..จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณก็ลองคิดเอาแล้วกัน
จะต้องมีศาสนาเดียวเป็นศาสนาประจำชาติหลุดออกมาจากปากของคนที่เรียกตัวเองว่า..พระ..
หลวงพี่..ท่านช่างยึดมั่นถือมั่นจัง..หัดปลงเถอะครับ
ท่านเที่ยวสอนคนอื่นแต่ท่านอย่าลืมสอนตัวเอง..ใดๆในโลกนะล้วนแล้วแต่อนิจังครับ..

 

คราวที่แล้วก็เอาตราครุฑออกทีละ ไม่รู้ว่าคิดได้ไงรัฐบาลนี้ เจ้าของประเทศ

 

เมื่อก่อนก็มีระบุอยู่ชัดเจนดีแล้ว แล้วใครนะที่คิดอุตริเอาออกไปเสีย... มันน่านัก...

สำหรับท่านที่เป็นห่วงเรื่องที่ว่าถ้าระบุแล้วกลัวว่าจะทำให้เกิดความแตกแยกนั้น อันนี้คิดได้ไงอะ... ไม่ต้องห่วงหรอกครับตรงนี้ ก่อนหน้านี้มาโนมนานก็มีการระบุไว้ชัดเจนไม่เห็นจะมีความแตกแยกอะไรเลย ...ก็เพิ่งจะมาแตกแยกเอาตอนที่เอาออกไปนี่แหละครับ เพราะฉะนั้นคงไว้เหมือนเดิมดีที่สุด

 

สิ่งที่งดงามดีอยู่แล้ว ก็ช่วยกันพิทักษ์รักษากันไว้เถิดครับ

 

ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประชาธิปไตยครับแต่บัตรประชาชนไม่มีการระบุศาสนาเลย รวมทั้งถ้าเราดูในพาสปอร์ตก็จะเห็นว่าไม่มีการระบุศาสนาครับ ผมไม่ได้จะให้เราทำตามใคร แต่มีความเห็นว่าถ้าเราเป็นคนไทย เป็นประชาชนที่อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ก็ไม่ควรเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นเหตุแบ่งแยกกัน
เคยดูหนังเรื่อง Hotel Rwanda มั้ยครับ ลองหาดูนะครับดีมากๆ มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประเทศ Rwanda ในทวีปแอฟริกา เรื่องคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ของคนในชาติเดียวกัน หน้าตาเหมือนกันเลยครับ คือผิวดำทุกคน แต่เค้าเป็นคนละเผ่ากัน แล้วเค้ารู้ได้ไงว่าใครเผ่าไหนก็เพราะบัตรประชาชนนี่หละครับ ที่ระบุเผ่า
นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆที่ผมไม่อยากให้คนในชาติมีความแตกต่างกัน ขอเพียงเป็นคนไทยด้วยกันก็พอ เรื่องความแตกต่างขัดแย้งก็จะหมดไป อย่าลืมครับศาสนาไม่ได้ขัดแย้ง คนเองต่างหากที่หาทางมาขัดแย้งกันเอง ประเทศเรานับถือได้ทุกศาสนาครับ เราก็ทำหน้าที่ของเรา เราเป็นพุทธศาสนิกชนก็ทำเต็มที่เผยแผ่ศาสนาของพระพุทธองค์อย่างเต็มที่ ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่างเค้า เราทำหน้าที่ของเราครับ

สาธุอนุโมทนากับทุกท่านที่ตั้งใจพัฒนาชาติและศาสนาครับผม