ผู้อยู่เบื้องหลังการสำเร็จอรหันต์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย matakalee, 5 มิถุนายน 2008.

  1. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +4,559
    สาธุ สุดธุ

    เอาเป็นว่า ถ้าถูกกับจริตใคร แล้วมีบุญสืบๆกันมา (สร้างบารมีร่วมกันมา) จะสายใหน ภาวนาอย่างไรหากอารมณ์ ไม่พ้นจากสมถะกรรมฐานทั้ง 40 วิปัสสนากรรมฐานทั้ง 73 แล้ว อย่างไงก็มีผลเป็นอันเดียวกันทั้งนั้นเอง

    อนุโทนาทุกท่านเน้อ " ขอพระธรรมคุ้มครองผู้ประพฤธรรม "

    เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ
    ครั้งหนึ่งมีผู้มาซักถามหลวงปู่มั่น อันมีข้อส่งสัยในข้ออรรถข้อธรรม คิดว่าจะเป็รอย่างโน้นเป็นอย่างนี้ หลวงปู่มั่นจึงตวาดไปว่า ธรรมนะ มีไว้ให้ปฏิบัติจึงจะรู้ มัวแต่สงสัยไม่ปฏิบัติแล้วจะเอาตัวรู้มาจากไหน มัวแต่สงสัยแล้วเมื่อไรจะได้เห็นธรรม หลังจากนั้นหากมีการสงสัยโดยไม่ปฏิบัติแล้วจะไม่มีใครกล้าไปถามท่านอีกเลย

    สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  2. นิพันธะ

    นิพันธะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +90
    การบรรลุธรรมมีแนวทางปฏิบัติหลายแนวทาง สุดท้ายก็ถึงที่หมายเดียวกัน หมดสมมุติบัญญัติ ใครทำใครได้ ใครจะทำอย่างไรเดินทางไหน ไม่เห็นจะต้องมาถกกันทำไม ปฏิบัติไปด้วยความมั่นใจ อย่าไปตำหนิติติงใคร ช้าเร็วบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมัวแต่ถกในเรื่องความเห็นส่วนตัวไม่ตรงกัน ศาสนาพุทธจะพาลเสื่อม เพราะความรำคาญของพุทธมามะกะนี่แหละจ้า
     
  3. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    อนุโมทนา สาธุกับผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านครับ
    ............................................................................................
    บุคคลผู้ใดปฏิบัติธรรมด้วยความตั้งใจ บุคคลผู้นั้นย่อมเข้าถึงธรรมได้ด้วยความตั้งมั่นนั้นแล
     
  4. อรวี จุฑากรณ์

    อรวี จุฑากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +188
    ขออนุโมทนาสาธุ กับความรู้ดีดีที่นำมาให้เราชาวเวปพลังจิต

    *******************************************************
    สุขกาย สุขใจ รักษาตน ให้พ้น จากทุกข์ภัย ทั้งสิ้นเทอญ สาธุ

    (one-eye)
     
  5. ก๋าแล

    ก๋าแล สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
    ยังมี......อีกมากในโลกนี้ที่เราๆ.....ท่านๆ....ยังไม่รู้....แม้แต่กายใจของตัวเอง....ตามดูตามรู้ให้ทัน......มันมีแต่จะเสื่อม.....ไปทุกวันๆ......ควรเร่งเพียรเผากิเลส.....แล้วทุกอย่างจะกระจ่างเอง.....โมธนาด้วยกายใจ.....น้อมนำไปสู่พระนิพาน
     
  6. จรัล

    จรัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +405
    หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านไม่มีทิฐิครับก็จริงอย่างที่พูด ให้ท่านไปปฏิบัติตามแนวทางของวัดมหาธาตุท่านก็ไป และท่านก็ยังรับรองด้วยว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องด้วย แต่ท่านก็ไม่เคยได้พูดด้วยว่าแนวทางปฏิบัติตามแบบของท่านผิด และเมื่อท่านกลับวัดแล้วท่านก็ยังสอนวิชาธรรมกายเหมือนเดิม ตัวกระผมเองเป็นปุถุชนคนธรรมดา แต่เท่าที่ศึกษาเท่าที่รู้ก็ไม่เคยคิดว่าวิธีการปฏิบัติของสำนักไหนผิด คือคิดว่าถูกทั้งนั้น ใครศรัทธาใครสะดวกที่ไหนก็ไปที่นั่น ที่สำคัญทุกสำนักปฏิบัติมีจุดมุ่งหมายและเจตนาเดียวกัน กระผมไม่เคยสงสัยในวิธีการปฏิบัติของสำนักใดสายไหน แต่ที่สงสัยคือทำไมผู้ที่ได้ขื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความรู้จึงไม่ยอมที่จะสามัคคีกัน ทำไมจึงไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน ทำไมจึงคิดที่จะจ้องล้างผลาญทำลายกัน( กราบขออภัย )มันผิดหลักของผู้ที่ปฏิบัติธรรมที่พยายามจะไม่ยึดติดในทุกๆสิ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรทั้งนั้น สามัคคีกันไม่ได้เพราะยึดติดในต้วกูวิธีการของกู ก็ต่างคนต่างปฏิบัติไปในแนวทางที่ตัวเองเห็นว่าถูกไปซิครับ จะมาโจมตีเกทับบลัฟแหลกกันทำไม ทำแบบนี้แตกสามัคคีกันเองแบบนี้ไอ้ศาสนาอื่นที่มันจ้องจะทำลายศาสนาเราก็นั่งกระดิกอวัยวะที่ใช้ใส่รองเท้าสบายไป ท่านผู้เจริญทั้งหลาย อย่าทะเลาะกันเลยครับ
     
  7. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    สาธุ ดีจังครับ นี่เป็นการมองด้วยมุมมองที่ใช้สามัญสำนึกธรรมดาที่สุด
    มองแบบง่ายๆที่สุด เป็นความจริงพื้นๆ

    แต่ ไม่ต้องเกรงว่าจะทะเลาะกันครับ เห็นแต่ละท่านที่มาตอบ

    ก็เป็นผู้ทรงภูมิ ทรงธรรม กันทั้งนั้น


    หลวงปู่สด ท่านถูกกล่าวหา และลอบทำร้ายทั้งกาย วาจา ใจ ถูกลอบยิงก็มี มาตั้งแต่ท่านยังทรงกายเนื้อแล้ว

    ตอนนี้ เหล่าลูกหลาน จะโดนบ้าง ก็ยังน้อยกว่าท่าน แต่ก็ยังอาศัยธรรมมาปกป้อง ชี้แจงข้อเท็จจริงกันครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    [MUSIC]http://www.dhammakaya.org/wmp.asx[/MUSIC]
     
  9. สังวรคุณ

    สังวรคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +766
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่มีความสงสัยว่าผู้ที่ชื่อว่าปฏิบัติได้ทำไมจึงมีการกระทำ คำพูด ที่มองว่าไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน อันนี้มันหมายถึงคนที่ปฏิบัติได้ยังไม่ถึง ยังมีมานะกิเลสหนาแน่นอยู่มาก ย่อมมีการเบียดเบียนกล่าวหาผู้ที่ปฏิบัติไม่เหมือนข้อปฏิบัติของตน เมื่อมีการพาดพิงที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง ก็มีผู้เข้ามาอธิบาย ด้วยเหตุด้วยผลด้วยอรรถด้วยธรรมทั้งนั้น จึงเป็นการทำความเข้าใจกันมากกว่าครับสำหรับกระทู้นี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องบลัฟกัน ทะเลาะกัน หรือ แตกสามัคคีกันเลยครับ ผมเห็นว่าธรรมะต้องเสวนากันในลักษณะในกระทู้นี้นี่แหละครับ เจริญปัญญาดี ไม่มีจิตที่เป็นอกุศล มีแต่เอาเหตุเอาผลมาทำความเข้าใจกัน
    ผมคิดว่านักปฏิบัติที่ไม่ยึดติดเฉพาะคำสอนของอาจารย์ตน แนวทางที่ตนชอบอย่างเดียว โดยไม่ลืมหูลืมตา ย่อมจะรู้ว่า การปฏิบัติเพื่อเข้าถึงมรรคถึงผลนั้น พระพุทธองค์ทรงวางไว้ตามอัธยาศัยของแต่ละหมู่แต่ละคณะซึ่งบำเพ็ญบาระมีมาไม่เหมือนกัน วิธีปฏิบัติก็ต่างๆกันไป แต่ผลก็คือ กำจัดอาสะวะกิเลสให้หมดไปสิ้นไปเหมือนกัน พระพุทธองค์จึงทรงสอนไว้หลายนัย ตามอุปนิสัยของสัตว์ อันนี้เป็นปกติที่ต่างก็เข้าใจได้ไม่ยาก แต่บังเอิญมีอยู่ช่วงหนื่ง ที่มีปัญหา มีคนถกขึ้นมาว่า ที่มีปฏิบัติในประเทศไทยอยู่นี้ผิดหมด จึงจำเป็นต้องนำเอาวิธีปฏิบัติจากประเทศพม่ามาเผยแพร่ และมีแนวคิดที่จะกำจัดสิ่งที่เห็นว่าผิดให้หมดไปจากประเทศไทย นี่แหละครับ ที่ทำให้มีปัญหา เพราะฉะนั้น เราเป็นผู้มาศึกษาแนวทางปฏิบัติในภายหลัง จึงจำเป็นต้องศึกษาด้วยความรอบคอบ ถ่องแท้เสียก่อน อย่าเชื่อแบบตามๆกันมาว่า ของเรานี่แหละถูก ที่เหลือนอกนั้นไม่ใช่ ไม่สามารถ สำเร็จถึงขั้นอรหันต์ได้ มันต้องวิปัสสนาแบบเราสถานเดียวเท่านั้น แบบอื่นไม่สามารถจะเข้าถึงธรรมเป็นเครื่องหลุดพ้นได้ อันนี้ไม่น่าจะเป็นผลดีสำหรับผู้ที่ปราถนาดีต่อตนเอง หวังปฏิบัติตนให้พ้นทุกข์ เพราะถ้าเราเชื่อตามอย่างที่ว่า แล้วเราไปปรามาสโบราณจารย์ ที่ท่านทรงคุณธรรม อย่างเช่นหลวงพ่อสด พระอาจารย์มั่น ฯลฯแล้ว ไม่เป็นผลดีต่อชีวิตของเราแน่ๆ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ด้วยความปราถนาดีคิดว่าคงพอจะคุยกันเข้าใจ จึงได้มาร่วมคุยในกระทู้นี้ นับถือ นับถือ ทุกๆท่านในกระทู้นี้อีกครั้งด้วยใจ
     
  10. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ....ที่มาของหลวงปู่สด...ยากที่ใครจะรู้


    [​IMG]

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ดวงแก้วบรมพุทธจักรดวงที่ 6 ผู้สำเร็จธรรม ในฝ่ายบุญภาคปราบล้วนทั้งลับและเปิดเผย ถอยพืด (แบ่งธาตุธรรม) ลงจุติสมัยศาสนาพระพุทธโคดม เป็นพระมหามุนี พระสหายของพระอชิตะ (องค์พระศรีอาริย์ในอนาคต)


    ตั้งปรารถนาจิตว่า "ข้าพเจ้าจะเป็นทนายแก้ต่างให้ศาสนาพระโคดม" เมื่อสิ้นภพชาติของพระมหามุนี ไปจุติรอคอยช่วยงานขององค์พระเมตไตรยอยู่ยังดุสิตเทวโลก ได้รับโองการลงจุติยังโลกมนุษย์เพื่อดับทุกข์เข็ญในยุคก่อนกึ่งพุทธกาล

    งานที่ได้รับมอบหมายก็คือ
    1. ประกาศวิชชาธรรมกาย ซึ่งเป็นพระสัทธรรม ดั้งเดิมของพระบรมศาสดาทั้งส่วนของ
    พระอริยสาวก และส่วนของพระโพธิสัตว์
    2. แก้ไขภัยพิบัติต่าง ๆ ของโลก และของสัตว์โลก
    3. รักษาสืบทอดอายุพระศาสนา ปลดเปลื้องสัตว์โลก ให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม บ่วงมาร
    และวัฏสงสาร

    **********************************************************

    ในส่วนมรรคผลนิพพาน แห่ง อริยะสาวก ในตัววิชชาธรรมกายก็มีอยู่

    คือ สติปัฏฐาน4 ,อริยสัจจสี่,นิวรณ์5,อายตนะ 12,ปฏิจจสมุปปบาท 12
    ธาตุ 18 ฯลฯ พึงเจริญตามกำลังเถิด เป็นวิชชา 3 ,ไปจนถึงอภิญญา 6

    ----------------------

    ในส่วนการบำเพ็ญโพธิสัตว์บารมีก็มีอยู่ เป็นวิชชาเพื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า บารมีแก่ๆแบบต้นนิพพานนั้นมีอยู่

    -----------------------------------

    เลือกตามอัธยาศัยเทอญ สาธุชน

    <!-- / message --><!-- attachments -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]

    </FIELDSET>
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
     
  11. matakalee

    matakalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +367
    โมทนาสาธุ ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป การทำความเห็นให้ตรง ตรงต่อธรรม อัธยาศัยถ้อยทีถ้อยอาศัย แสดงภูมิธรรรมของผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
     
  12. theliger

    theliger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +219
    การปฏิบัติธรรมก็ต้องปฏิบัติให้ถูกตามจริตของผู้ปฏิบัติเอง ตามบุญบารมีแต่ชาติปางก่อนว่าเราเคยอยู่วงบุญของอาจารย์ท่านใดมา ถ้าเรารู้หลักวิชา สายไหนก็เหมือนกันหมด

    อุปมาเหมือน เป้าหมายอยู่กรุงเทพ จริตเปรียบเหมือนบ้านเกิด ถ้าเราจะเข้าให้ถึงกรุงเทพก็ต้องดูว่าบ้านเราอยู่ไหนจะเดินทางยังไงถึงจะเข้ากรุงเทพได้สะดวก ไม่ว่าจะมาตามถนนสายเอเซีย หรือสายมิตรภาพ ฯลฯ ก็ล้วนแต่เข้าถึงกรุงเทพได้ทั้งสิ้น
    ขนาดเดินทางผิดเส้นทางไปบ้างยังสามารถกลับเข้ากรุงเทพได้ด้วยทางสายต่าง ๆ ที่มีคนชี้แนะบอกมา

    ขอเพียงให้เราพยายามเดินทางอย่าง ก็สามารถเข้าถึงกันได้ทุกคน

    ขอเป็นกำลังใจให้กับนักปฏิบัติทุกสายครับ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2008
  13. toottoo

    toottoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +3,254
    ขอบคุณสำหรับข้อมูล
    และทุกความเห็น
    อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง
    คนที่อ้างว่าของตนดีโง้นดีงี้
    แต่ต้องมาอาศัยคนอื่นรับรองเป็นไง
    ไปงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
    มีของสำนักที่อยู่แถวท่าพระจันท์
    มี profile คนที่มาปฏิบัติ
    รูปแรกเป็นหลวงปู่วัดปากน้ำ
    พร้อมคำนิยมหราเลย
    ที่แท้เป็นงี้นี่เอง
    ส่วนที่ชื่อเนาว์อะไรนั่น
    เป็นนักสร้างพระ
    และก็แต่งนิยายขายพระตัวเอง
    จะไปสนทำไมครับ
    ตัวเองไม่มีดีอะไร
    เอาแต่คำคนอื่นมาแต่งประกอบนิยายขายพระ
    คนแบบนี้ไม่มีราคาหรอก ไม่ต้องสน
     
  14. สวนะ

    สวนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +201
    ขออนุโมทนากับผู้เจริญในธรรมทุกท่านค่ะ..จะสายไหน ..แนวปฏิบัติเช่นไร..
    ขอให้เข้าสู่มรรค และผลเดียวกันเป็นพอค่ะ..
    ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ทั้งด้วยกาย วาจา ใจ ..สาธุ ..สาธุ..สาธุ
     
  15. Takbkk

    Takbkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +144
    สาธุ สำหรับความรู้ทั้งหลายทั้งปวงในวันนี้ อ่านแล้วต้องคิดตาม ตามหาเหตุและผล จึงจะได้ผล
     
  16. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    เหนื่อยนะครับ พูดกันไปเรื่อย ชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้น ถึงทางออกหรือทางตัน เดี๋ยวก็รู้กันเอง เพราะทางออกมีทางเดียวครับ ใครตันก็วนมาหาทางเดิม "ทางออกทางเดียวนั่นแหละนะครับ"
     
  17. Hades

    Hades เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +199
    มีสำนักวิปัสนาสำนักหนึ่ง ชอบอ้างว่าหลวงพ่อสด ไปเรียนวิปัสนาเมื่อปี 2498
    แล้วหลวงพ่อสดก็เลิกวิชชาธรรมกาย พร้อมทั้งมอบรูปและลายเซ็นรับรองไว้ด้วย
    แต่ผมได้ฟังเสียงหลวงพ่อสดเทศน์เรื่องโอวาทปาฏิโมกข์ แล้วพบว่า ปี 2499 หลวงพ่อสดยังสอนวิชชาธรมกายอยู่เลย เชิญรับฟังได้

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.338214/[/MUSIC]

    ใครพูดจริง ใครโกหก ใช้ปัญญาพิจารณาเอาเอง

    แต่ผมตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหลวงพ่อสดเลิกวิชชาธรรมกายจริง
    ทำไมไม่ออกมาบอกตอนท่านยังมีชีวิตอยู่
    มาพูดทำไมตอนท่านมรณภาพแล้วตั้งหลายปี
    หรือเพราะคนตายเถียงไม่ได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,518
    ค่าพลัง:
    +27,187
    เพราะกิเลสหมดกายธรรม(อาทิสมานกาย)จึงใสละเอียด
    เป็นการควบคุมกำลังใจในวิปัสสนาญาณ เพื่อให้กายในใส
    แล้วใช้ทิพพจักขุในกสิณสว่างเต็มระดับตรวจสอบ
    ว่าใสทั่วสะอาดดีหรือยัง
    ใสแล้วก็ไม่ใช่ว่าเข้าถึงผล
    ต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ
    ใช้ทิพพจักขุญาณทำให้เช็คได้ง่าย เห็นเป็นรูปธรรม
    โดยปกติทั่วไปเรียกว่าทรงอารมณ์
    พอเข้าใจป่าวจ๊ะ ชอบแบบยากก็พอจะเล่าแบบยากได้ [​IMG]
     
  19. วฺสธโร

    วฺสธโร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +59
    ขอโทษนะครับนี่เปนกระทู้ล่อเป้ารึป่าวครับ
    เคยเหนมีการถกเถียงกันหลายรอบแร้ว.......
    แล้วบุคคนที่ถูกนำมาอ้างผู้นั้นก็ยังโพสต์กระทู้ที่มีเนื้อหาพาดพิงหลวงพ่ออยู่ในเวบของเขาเอง(08/06/2551)
    ช่างประจวบเหมาะเสียเหลือเกินครับ.......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2008
  20. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    [​IMG]ยิ่งรู้จัก ยิ่งเคารพรักท่าน (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)[​IMG]

    ก่อนที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านจะมรณภาพประมาณ 5 ปี ท่านได้เรียกประชุมคณะศิษย์ทั้งในและนอกวัดเป็นกรณีพิเศษที่ศาลาการเปรียญ เพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่าท่านจะถึงกาลมรณภาพในอีก 5 ปีข้างหน้า กิจการใดที่ท่านได้ดำเนินไว้แล้วขอให้ช่วยกันทำกิจการนั้นๆ อย่าทอดทิ้ง ท่านบอกว่าต่อไปวัดปากน้ำจะเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้วแต่ก็มีโอกาสช่วยวัดได้มากกว่ายังมีชีวิตอยู่ มีลูกศิษย์หลายคนได้อาราธนาขอมิให้ท่านมรณภาพ ท่านตอบว่าไม่ได้อีก 5 ปี ท่านจะไม่อยู่แน่ๆแล้ว

    [​IMG]ตั้งโรงครัว[​IMG]

    หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านปกครองทุกคนที่อยู่ในวัดไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ศิษย์วัดแบบพ่อปกครองลูก ท่านยึดหลักธรรมพรหมวิหาร 4 เป็นข้อปฏิบัติ ความเป็นผู้มีเมตตาธรรมของท่านนั้น เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ศิษยานุศิษย์มาตั้งแต่สมัยที่ท่านอยู่วัดพระเชตุพนฯ บางวันท่านออกบิณฑบาตได้อาหารเพียงเล็กน้อย บางวันก็ไม่ได้อาหารเลย วันหนึ่งท่านได้อาหารมาเพียงทัพพีเดียวกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูก ขณะที่กำลังจะฉันอาหารนั้น ท่านเหลือบไปเห็นสุนัขแม่ลูกอ่อนผอมโซ อดอยากมาเดินป้วนเปี้ยน ท่านบังเกิดความเมตตาสงสารจึงยอมสละอาหารมื้อนั้นให้เป็นทาน ท่านจึงตั้งปณิธานไว้ว่าถ้ามีกำลังและโอกาสท่านจะตั้งโรงครัวเลี้ยงพระภิกษุ สามเณร เป็นทานแก่ผู้อดอยากยากจนให้ได้ และท่านก็ทำได้สำเร็จ เป็นพระองค์แรกที่สามารถเลี้ยงดูพระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ศิษย์วัดตลอดจนผู้มาปฏิบัติธรรมได้ทุกวัน นับเป็นจำนวนพันก็เลี้ยงได้ แม้เมื่อมรณภาพไปแล้วจนถึงปัจจุบัน

    "พวกเอ็งคอยดูนะ แม้เมื่อหลวงพ่อตายไปแล้ว ก็จะเลี้ยงดูให้พวกเอ็งได้อิ่มหนำสำราญ ไม่ต้องกลัว ขอเพียงให้ทุกคนตั้งใจศีกษาเล่าเรียน ตั้งใจปฏิบัติกันให้จริงจัง"

    [​IMG]รักพระพุทธศาสนา[​IMG]

    เมื่อแรกบวชหลวงพ่อท่านก็ตั้งใจอุทิศชีวิตเพื่อพระศาสนา ตั้งใจเป็นพระแท้ ฝึกฝนทั้งปริยัติและปฏิบัติ เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำท่านก็พากเพียรให้การศึกษาทั้งทางปริยัติและปฏิบัติแก่พระภิกษุ สามเณรในวัดปากน้ำ จนสามารถสอบนักธรรมและบาลีสนามหลวงได้นับร้อยรูปและมีจำนวนมากที่มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี นอกจากนี้ท่านยังมีส่วนสำคัญในกรสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ และมหาวิทยาลัยสงฆ์ ซึ่งถือเป็นคุณูปการแก่การคณะสงฆ์อย่างใหญ่หลวง

    [​IMG]รักการปฏิบัติธรรม[​IMG]

    หลวงพ่อท่านใช้เวลาในชีวิตสมณะอย่างทรงคุณค่ายิ่ง นับแต่วันแรกที่บวช ท่านได้ปฏิบัติธรรมทุกวันตลอดมา เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกายแล้ว ท่านก็ทุ่มเทสละชีวิตให้กับการศึกษาค้นคว้าและเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ต่อมา เมื่อตั้งโรงงานทำวิชชา มีผู้มาปฏิบัติธรรมกันทั้ง 24 ชั่วโมง ท่านก็ควบคุมการปฏิบัติธรรมด้วยตนเองตลอด มีเวลาพักผ่อนน้อยนิด แม้ยามอาพาธท่านก็ยังคงดูแลควบคุมการปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ สามเณร และแม่ชี หลวงพ่อท่านตั้งใจปฏิบัติจริงๆ ท่านต้องการให้ผู้มาปฏิบัติรู้เห็นจริงๆ ท่านบอกว่าการได้ธรรมกายนั้นไม่ง่ายนัก แต่ไม่ใช่ว่าจะยากจนเกินไปถ้าปฏิบัติตามที่ท่านสอนอย่าให้ผิด จะผิดแม้เท่าเส้นผมก็ไม่ได้ ถ้าใครปฏิบัติตามที่ท่านสอนแล้วไม่ได้ ท่านท้าทายให้มาตัดศรีษะท่านทีเดียว

    [​IMG]มีความกตัญญูกตเวที[​IMG]

    หลวงพ่อท่านเป็นผู้เลิศด้วยความกตัญญูกตเวทิตา ใครอนุเคราะห์ท่านก่อน ท่านไม่เคยลืมบุญคุณและพยายามหาทางตอบแทน เช่นอุบาสิกานวม แม่ค้าขายข้าวแกง ที่เคยจัดภัตตาหารเพลมาถวายท่านเป็นประจำสมัยที่ท่านอยู่วัดพระเชตุพนฯ ต่อมาชราและทุพพลภาพไม่มีคนดูแล หลวงพ่อท่านรับมาอุปการะ ในส่วนของโยมมารดา ก่อนมาบวชท่านได้ตั้งใจหมั่นเพียรทำงานหาเงินไว้ให้โยมมารดาจนมากพอที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ต่อมาเมื่อโยมมารดาอายุมากขึ้น ท่านก็รับมาอยู่ที่วัดปากน้ำ สร้างที่อยู่อาศัยให้และเลี้ยงดูตลอดชีวิต นอกจากนี้เมื่อสมเด็จพระวันรัต (เผื่อน ติสสทัตตมหาเถระ) ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นชอบให้หลวงพ่อมาเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำได้เกิดอาพาธขึ้น หลวงพ่อสนองพระเดชพระคุณโดยจัดภัตตาหารและรังนกจากวัดปากน้ำไปถวายทุกวัน โดยตั้งงบประมาณไว้วันละ 40 บาท พอได้เวลา 4.00 น. ท่านก็ให้คนลงเรือจ้างนำภัตตาหารไปถึงวัดพระเชตุพน ก็เช้าพอดี แล้วต้องรายงานผลให้ท่านทราบ

    [​IMG]มีความเมตตา กรุณา[​IMG]

    ในสมัยนั้นมีผู้คนเป็นจำนวนมากเดินทางมาขอพึ่งบารมีท่าน เวลารับแขก ท่านจะถามทุกคนด้วยความเป็นห่วงใยเสมอว่า มาจากไหน มาอย่างไร มากับใคร ถ้าท่านทราบว่าผู้นี้ยากจนมาก มีเงินมาเพียงค่าเดินทางไม่มีเงินซื้ออาหารกิน ท่านจะบอกให้ไปกินอาหารโรงครัว ถ้าผู้ใดไม่มีที่นอนหมอนมุ้ง ท่านก็จะสั่งให้ไวยาวัจกรจัดหาเครื่องนอนและที่พักให้ เมื่อท่านรักษาโรคหายหรือทุเลาเบาบางลงแล้ว ท่านจะสั่งให้ไวยาวัจกรจัดการเรื่องค่าเดินทางกลับให้ด้วย หลวงพ่อท่านมีความเมตตากรุณาเป็นนิสัย ใครมีเรื่องเดือดร้อนอะไรมา เช่นคราวหนึ่งมีคนแก่มาเรียนกัมมัฏฐาน เอาปลาแห้งตัวหนึ่งมาถวายท่าน บอกว่ามีเท่านั้นเองเพราะเป็นคนยากจน หลวงพ่อหัวเราะชอบใจพูดว่า "เออให้มันได้อย่างนี้ซีน่า นี่แหละเขาเรียกว่ารวยแล้ว มีเท่าไหร่ถวายหมด เมื่อครั้งพระพุทธเจ้า นางปุณณทาสีถวายแป้งจี่ทำด้วยรำแก่พระพุทธเจ้า ต่อมากลายเป็นคนมั่งมี ปลาแห้งของเราตัวหนึ่งราคาสูงกว่ารำมากมายนัก เป็นกุศลมากแล้วที่นำมาให้" ต่อมาชายคนนี้ขอร้องให้หลวงพ่อบวชให้ เพราะไม่มีอัฐบริขารจะบวช หลวงพ่อก็จัดการบวชให้สมปรารถนา

    [​IMG]เป็นครูที่ดี[​IMG]

    หลวงพ่อท่านมิได้เป็นเพียงนักปฏิบัติเท่านั้น ท่านยังเป็นนักเทศน์ที่สามารถแสดงธรรมได้อย่างมีอรรถรส ในวันอาทิตย์และวันธรรมสวนะท่านจะลงแสดงธรรมในพระอุโบสถเป็นประจำมิได้ขาด พระธรรมเทศนาของท่านทุกเรื่องค้นคว้ามาจากพระไตรปิฎก มีที่มาชัดเจน ท่านจะสอนให้ผู้ฟังธรรมจากท่านเลื่อมใสในการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา โดยยกชาดก และเรื่องจากธรรมบทเป็นอุธาหรณ์ ผู้ฟังได้รับความรู้ความเข้าใจอย่างละเอียดลึกซึ้ง และได้รับความสนุกสนานด้วย แนวการแสดงในเบี้องต้นแต่ละกัณฑ์ๆ ก็จะระวังบาลีมิให้คลาดเคลื่อน และแปลเป็นข้อๆ ไปก่อน แล้วจึงขยายความขึ้นเป็นแนวปฏิบัติ เวลาสอนปฏิบัติธรรม ท่านต้องการให้ลูกศิษย์มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี ท่านมีวิธีการสอนที่เข้าใจง่าย มีอุปกรณ์การสอนครบครันและมีหนังสือแจกให้ลูกศิษย์ด้วย ท่านเคยพูดเสมอว่า คนที่มีการศึกษาดีจะได้อะไรก็ดีกว่าปราณีตกว่าผู้อื่น คนมีวิชาเท่ากับได้สมบัติจักรพรรดิกินใช้ไม่หมด

    [​IMG]เป็นคนจริง[​IMG]

    ก่อนเดินทางออกจากวัดสองพี่น้องไปจำพรรษาอยู่ที่วัดพระเชตุพน ท่านได้ตั้งคำภีร์ใบลานมหาสติปัฏฐานลานยาวไว้ที่วัดสองพี่น้องผูกหนึ่งตั้งใจไว้ว่าจะต้องแปลคัมภีร์ผูกนี้ให้ออก ถ้ายังแปลไม่ออกก็จะยังไม่หยุดเรียน ท่านก็เรียนจนแปลคัมภีร์ผูกนี้ออกจริงๆจึงหยุดเรียน เมื่อมาอยู่วัดปากน้ำแล้ว ท่านเคยพูดกับสมเด็จป๋า เมื่อครั้งยังไม่ได้เป็นพระสังฆราชไว้ไม่น้อยกว่า 20 ปีว่า จะสร้างโรงเรียนขนาด 3 ชั้น จุนักเรียนได้ 1000 คน 2 ชั้นล่าง ให้เรียนปริยัติ ชั้นที่ 3 จะให้เรียนปฏิบัติธรรม ต่อมาโรงเรียนพระปริยัติธรรมก็เกิดขึ้นในวัดปากน้ำจริงๆ เป็นตึก 3 ชั้น พร้อมด้วยเครื่องประดับตกแต่งอย่างดีและทันสมัยดังที่ท่านได้ดำริไว้

    [​IMG]เคร่งครัดพระธรรมวินัย[​IMG]

    ท่านเคร่งครัดพระธรรมวินัย เป็นตัวอย่างที่ดีแก่พระภิกษุทั้งหลาย เวลาอาพาธท่านก็มิได้ละเลยพระธรรมวินัย ยังรักษาศีลอย่างเคร่งครัดและปฏิบัติกิจภาวนาด้วย ครั้งหนึ่งมีคนเห็นว่าหลวงพ่อท่านอาพาธหนักฉันภัตตาหารได้น้อย จึงสั่งให้แม่ครัวต้มข้าวให้เปื่อย บดให้ละเอียดกรองด้วยผ้าขาวใส่กระติกน้ำร้อนมา เพราะต้องการให้หลวงพ่อเข้าใจว่าเป็นน้ำร้อนธรรมดา แต่พอนำไปถวาย หลวงพ่อท่านไม่ยอมฉัน

    [​IMG]รักการศึกษา[​IMG]

    หลวงพ่อท่านเห็นคุณค่าของการศึกษา ท่านสอนให้ลูกศิษย์รักการศึกษา ให้ตั้งใจเรียนหนังสือ จะเรียนทางโลกก็ได้ ทางธรรมก็ได้ ท่านเปิดโอกาสให้ทุกคน ท่านบอกว่า "คนที่มีการศึกษาดีจะได้อะไรก็ดีกว่าประณีตกว่าผู้อื่น คนมีวิชาเท่ากับได้สมบัติจักรพรรดิ กินใช้ได้ไม่หมด" ถ้าใครไม่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ท่านจะกล่าวว่า "อ้ายโลกก็เหลว อ้ายธรรมก็แหลกเป็นแบกบอน เหลือแต่กิน นอน เที่ยว สามอันเท่านั้นเอย" คือทางโลกก็ไม่ดี ทางธรรมก็ไม่ดี

    [​IMG]ประหยัด[​IMG]

    เมื่อมีคนถวายผ้าไตรจีวรใหม่ ท่านมักนำไปแจกพระภิกษุ สามเณร ตัวท่านเองใช้แต่ของเก่า พอเก่ามากๆ ท่านก็ซ่อมแซมใช้ต่อไป ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านให้แม่ชีเอาอังสะหลายๆตัวที่ไม่ค่อยได้ใช้มาเย็บต่อกันเป็นจีวร แต่เนื่องจากอังสะและตัวมีสีไม่เหมือนกัน ดังนั้นจีวรที่เย็บขึ้นมาจึงมีหลายสี ท่านเอาไปแจกพระเณรรูปอื่นๆ ก็ไม่มีใครรับ ท่านเลยใช้เอง ต่อมามีศิษย์ผู้หนึ่งทนดูไม่ได้ เลยขอจีวรผืนนี้ไปบูชา

    ส่วนฆราวาสนั้นท่านก็สอนให้กินอยู่พอควรแก่อัตภาพ ท่านสอนให้ทำต้มยำน้ำ วิธีการต้มยำน้ำของท่านคือ นำปลามาต้มยำ ปกติการปรุงต้มยำนั้น ถ้าปลาสดเนื้อหวานจะขาว ไม่เหม็นคาว มีรสหวานจากเนื้อปลาแล้วปรุงน้ำให้มีรสเปรี้ยวเค็มเผ็ดตามใจชอบ เวลารับประทานให้รับประทานแต่น้ำ เนื้อปลาเก็บไว้ก่อน เมื่อน้ำหมดแล้วก็ผสมใหม่เติมน้ำอีก ปรุงรสใหม่ แล้วก็รับประทานแต่น้ำจนหมดแล้วเติมน้ำลงไปอีก ทำดังนี้เรื่อยไปจนน้ำจืด คือหมดรสหวานของเนื้อปลา ท่านให้เอาเนื้อปลานั้นไปปรุงอาหารอื่นอีกต่อไป เช่นผสมน้ำพริกปลาร้า ทำให้ได้ปริมาณน้ำพริกมากขึ้น น้ำพริกอร่อยขึ้น ท่านพูดอยู่เสมอว่า คนฉลาดกินเพื่ออยู่ แต่คนโง่อยู่เพื่อกิน วิธีการทำต้มยำน้ำของหลวงพ่อผู้ใดจะ
    นำไปปฏิบัติก็เชิญเลย ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

    [​IMG]รู้คุณค่าของสิ่งของ[​IMG]

    หลวงพ่อท่านเป็นคนละเอียดลออ รู้ค่าของสิ่งของทุกอย่าง แม้แต่ของเล็กๆน้อยๆ เช่น เวลาท่านเดินไปฉันภัตตาหารที่โรงครัว ถ้าท่านเห็นข้าวสารที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรทุกเรือมาถวายตกอยู่แม้เพียงเล็กน้อย ท่านจะเรียกเด็กมาเก็บ ท่านเห็นว่าข้าวสารที่หล่นอยู่แม้เพียงเล็กน้อย ถ้านำมารวมกันเข้าหลายๆครั้งก็เป็นจำนวนมากพอที่จะนำไปหุงได้ เวลาล้างจาน ท่านก็บอกว่า ให้ค่อยๆรินน้ำออก เศษอาหารที่อยู่ก้นๆ นำไปให้หมูให้หมากินได้

    [​IMG]รักการปฏิสันถาร[​IMG]

    หลวงพ่อท่านมีปิยวาจา ไม่พูดให้ผู้ใดกระทบกระเทือนจิตใจ ไม่ว่าใครมีเรื่องเดือดร้อนมาปรึกษาท่าน ท่านก็จะรับฟังและให้คำแนะนำที่มีประโยชน์แก่ทุกคน ท่านสั่งสอนศิษย์ไม่ให้พูดแบบมีเหล็กใน คือไม่ให้ใช้วาจาทิ่มแทงใจผู้อื่น ให้พูดจาปฏิสันถารต้อนรับอย่างดี ท่านบอกว่า "เขาจะได้นำมงคลมาให้ แต่ถ้าเราปฏิสันถารไม่ดี เขาก็จะนำมงคลกลับไปและทิ้งอัปมงคลไว้ให้"

    [​IMG]ความสามัคคี[​IMG]

    หลวงพ่อท่านย้ำอยู่เสมอว่า การทำสิ่งใดให้พร้อมเพรียงกัน ได้ชื่อว่าความเลื่อมใสในหมู่ ท่านอธิบายว่า ความเลื่อมใสในหมู่มีแก่คณะบุคคลใด บุคคลนั้นได้ชื่อว่าเป็นคนไม่ยากจน เป็นคนมั่งมีทีเดียว อยู่ในลัทธิใดต้องไม่รังเกียจเดียดฉันท์ ต้องเอาใจใส่แนะนำตักเตือนซึ่งกันและกัน ไปก็ไปในหมู่เดียวกันพวกเดียวกัน หลวงพ่อท่านสอนเสมอว่า การปฏิบัติให้พร้อมเพรียงกันในหมู่คณะทำให้เป็นสุข ไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งการวิวาท การแตกความสามัคคี หมู่คณะก็เจริญไม่เกิดปัญหา ถ้ามีปัญหาใดๆเกิดขึ้นก็สามารถแก้ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดีเพราะมีสามัคคีธรรม

    แม้แต่การโกนผมของพระภิกษุ สามเณรและแม่ชี ท่านก็ต้องการให้โกนผมพร้อมเพรียงเหมือนกันหมดทุกคนในวันเดียวกัน ถ้าผู้ใดไม่โกนผมท่านจะพูดว่า แม้แต่หัวมันยังไม่สามัคคีแล้วใจจะสามัคคีได้อย่างไร หลวงพ่อท่านมักจะชักนิทานเรื่องนกกระจาบแตกฝูงมาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ ท่านไม่ต้องการให้พระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกาในวัดเป็นอย่างนกกระจาบแตกฝูง ท่านต้องการให้เป็นนกสามัคคี

    เมื่อหลวงพ่อล่วงลับไปแล้ว ผู้เคารพรักหลวงพ่อวัดปากน้ำทุกคนควรจะมีความสามัคคีพร้อมเพรียงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีน้ำใจกันร่วมแรงกันที่จะรักษาสมบัติหลวงพ่อที่ได้สร้างสมไว้อันยิ่งใหญ่นี้ให้ดำรงไว้ครับ <!--MsgEdited=37-->
     

แชร์หน้านี้

Loading...